telwada ทำไมจึงคิดว่าตัวเองเป็น พระศรีอารย์ ?

พระศรีอริยะฯจะเกิดขึ้นเมื่อพุทธะศาสนาหมดนามไปเรียบร้อย พุดง่ายก็คือ หลังจากปี พ.ศ.5000ครับ

 

มองดูเงาหัวตัวคุณเอาไว้เถอะว่า มันยังมีอยู่หรือเปล่า ระวังเงาหัวจะหาย เพราะหัวสมองอย่างคุณไม่รู้จักคิดตามหลักตรรกวิทยา ไม่สมควรอยู่เป็นมนุษย์อีกแล้วนะคุณ
กรรมอะไรจะมาตามทันข้าพเจ้าไม่มีดอกขอรับ
มีแต่กรรมดีเท่านั้นที่ตามมาทันข้าพเจ้าอยู่ทุกวี่ทุกวัน
กรรมทีมนุษย์บางกลุ่มบางคน บางพวก มันกลั่นแกล้งข้าพเจ้า ก็จะสนองพวกมันทุกคนทันตาเห็น ไม่ด้วย ดิน ก็ด้วย ลม ไม่ด้วย ลม ก็ด้วยไฟ ไม่ด้วยไฟ ก็ด้วยน้ำ
อย่าคิดว่ามาทำร้ายข้าพเจ้าเพียงคนเดียว แล้วข้าพเจ้าจะไม่เหมาเอาหมด เพราะข้าพเจ้าถือว่า
ถ้าพวกมนุษย์ใจชั่วบางกลุ่มบางพวก มันจะทำร้ายข้าพเจ้า มันก็ย่อมไม่ใช้คนมากมาทำร้าย มันก็ใช้เพียงคนคนเดียวนั่นแหละมาทำร้าย ทำคนเดียว แต่กรรมชั่วมันจะตกถึงทุกคน ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

จากที่รู้มา เป็นดังนี้

คุณรวิพันธุ์ กองทรงวิศิษฐ์ ถ้าคุณเป็นพระศรีฯ และได้อวตารมาจริง ทำไมคุณไม่ช่วยบ้านช่วยเมือง ปล่อยให้ภาคใต้เป็นแดนแห่งมิคสัญญีทำไม คุณทราบบ้างหรือเปล่าว่าที่บ้านเมืองและทางภาคใต้เป็นเช่นนี้ " มันคือกรรม " กรรมที่ทหารและตำรวจไปจับพระองค์หนึ่ง พระองค์นี้ เทพ พรหมเชิญลงมาจุติยังโลกมนุษย์ เพื่อช่วยเหลือพระศาสนาและบ้านเมืองในกึ่งพุทธกาลที่จะเกิดกุลียุค คือในปี 32-33 มีโครงการอีสานเขียว ทหารและตำรวจไปจับท่านในขณะที่ท่านไปบำเพ็ญอยู่บนยอดเขา แล้วกล่าวหาว่าท่านเป็นพระค้าไม้เถื่อน เมื่อตำรวจเอาท่านมาโรงพัก จึงทำการซ้อมท่าน (ภาษาชาวบ้านเรียกว่า " กระทืบ " ทั้งที่ยังคาผ้าเหลืองอยู่ นี่คือสาเหตุที่ บ้านเมืองต้องเดือดร้อนทุกวันนี้ เมื่อตำรวจและทหารปกครองอย่างไม่เป็นธรรม ไปเบียดเบียนท่านก่อน ท่านจึงเรียกเอาอำนาจและสิทธิแห่งการปกครองต่างๆ กลับคืน ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นอวตารจริง คุณต้องแก้ไขตรงจุดนี้ได้ ให้บ้านเมืองร่มเย็นดังเก่าก่อน คือคืนอำนาจในการปกครองให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปเพื่อปราบยุคเข็ญและผู้ก่อการร้ายต่างๆ ถ้าแก้ไขไม่ได้ ให้คุณหยุดแอบอ้างเสีย ทำให้ผู้อื่นสับสนเปล่าๆ อำนาจสิทธิต่างๆ นั้น มันมาจากบุญบารมีที่เขาสร้างของเขามา ไม่ใช่ว่าจะพูดเอาเองหรือตั้งขึ้นมาเอง

 

ชอบอะตอบดี มากๆๆ555+++ เป็นสีกัปตันก้อเท่ห์นะ

 

เห็นด้วยน้องจ๋องแจ๋ง เราต้องออกมาพิทักษ์ความจริงป๋า เท... เชิญพิสูจน์มาคะ อิช้านจะรอดู คนดีเค้าไม่พูดคำหยาบ...เค้าพูดคำละเอียด อิอิ

 

ตอบดีจังคะชื่นชมๆๆ

 

จะให้คนมารับทำไมค่ะคุณลุง ลุงก้อเหาะไปสิ จิ๊บๆๆเองเชียงใหม่ -กทม หรือเชียงรายนะไม่แน่ใจ จะใหคนอื่นมารบ แม่ไม่ปลื้ม...จบ!!!

 

ผมคิดว่า พระศรีอาริย์ตัวจริง ท่านคงจะไม่ประกาศตัวหรอก ท่านคงจะเก็บทุกอย่างไว้จนกว่าท่านคิดว่าจะถึงเวลาอันสมควร ในการที่จะทำอะไร ส่วนการที่คุณ telwada ให้เหตุผลที่ว่า เพื่อนทหารของเขาเห็นแสงที่ออกจากตัวนั้น ผมคิดว่า ใครที่มีบุญจริงๆ อยู่ในขั้นใดขั้นหนึ่ง ก็จะสามารถมีตรงนั้นได้เหมือนกันหมดทุกคน (และคุณ telwada เอง ก็อาจจะถึงขั้นนั้น) (ขั้นที่มีแสงออกจากตัวน่ะ) พระศรีอาริย์ตัวจริง ผมคิดว่า ท่านจะรู้ตัวเอง ว่าท่านคือใคร และสมควรทำอะไร อะไรไม่สมควรทำ หรืออาจจะเป็นอีกเหตุผลนึง ในการที่เราจะถูกมารดลใจ ถูกครอบงำอะไรทำนองนี้ ให้คิดให้เข้าใจไปเองว่าเราคือบุคคลสำคัญ ให้มาปั่นป่วนผู้คนไปเสียเปล่าๆ
ก็ไม่รู้เหมือนกันซินะ แต่ที่แต่มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากเลย (เรื่องเกี่ยวกับจิตๆเนี่ย รวมทั้งความรู้ทั้งหลาย ที่ท่านทั้งหลายตั้งกระทู้ขึ้นมา) และที่ผมเสนอไปเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น นะครับ(คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้) ไม่ได้มีหลักการหรือประสบการณ์ใดๆเลย ที่จะมาฟันธงตัดสินคนอื่นว่าไม่ใช่อย่างนั้นไม่ใช่อย่างนี้ ว่าเป็นอย่านั้นเป็นอย่างนี้ เพราะผมก็เป็นแค่เด็กคนนึง แต่ผมคิดว่า ตัวจริงเขาคงไม่เผยตัวหรอก

ท่านคงจะคิดว่าการประกาศตัวเองว่า "ข้าคือใคร" เป็นสิ่งที่ไร้สาระมากๆ

 

ผมว่าพระศรีอาริเขาอาจอยู่บนชั่นดุสิตก็ได้นะครับ

 

อยากให้คุณtelwada ช่วยเล่า เรื่องพระอชิตะเถระ ตั้งแต่ท่านเกิด จนถึง ท่านมรณะภาพ หน่อยครับ เพราะพระอชิตะเถระ คือพระศรีอาริยเมตไตรในอนาคต ถ้าคุณtelwada เป็นพระศรีอารย์ จริง ก็ ต้องเกิดเปนพระอชิตะเถระด้วย แต่ในพระไตรปิฏกอธฺบายไว้เพียงคร่าวๆเท่านั้น

 

telwada เขาฝึกมากจนเกิดภาพหลอนหนะครับ เขาไม่รู้ตัวเองครับ
อย่าไปถือสาเลย แล้วที่อ้าวสรรพคุณตัวเอง
เอาพยานหรือรูปถ่ายมายันซักอันยังไม่มี

อย่าไปว่าคนจิตไม่ปรกติเลยครับ
ชีวิตเขาก็ได้แค่นี้แหล่ะ

 

ท่านที่มีบุญบารมีมากขนาดพระศรีอารียเมตไตรคงจะไม่มาเกิดยุคไฮเทคกิเลสเยอะแบบนี้เรา ๆ นี้หรอกนะครับ ท่านบำเพ็ญบารมีสั่งสมบารมีมามากมายสุดที่จะนับได้ บารมีมากขนาดนั้นจะมาบนโลกตอนนี้อีกทำไม ท่านรอเวลาอยู่บนชั้นดุษิต ส่วนลักษญะพิเศษที่คุณได้รู้ได้เห็นคุณทำได้ มีท่านที่ทรงคุณทำได้เยะแยะไป


...ท่านตรัสว่า "แก้วที่มีน้ำเต็มย่อมไม่ส่งเสียงดัง"

 

คนอย่าง telwada นี้น่ะหรือคือพระศรีอาริย์ เป็นไปได้เร้อ ก็แค่การควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้ไฟโทสะกำเริบก็ยังทำม่ายด้าย
เราเคยได้ฟังกันมาแต่ว่าพระชินสีห์นั้นท่านทรงเป็นครูที่ยิ่งกว่าครู ไม่ว่าใครพระพุทธองค์ก็หาวิธีมาสอนมาโปรดสัตว์ได้ แล้วนี่อะไรฟะ อะไรนิดหน่อยมานก็ระวังหัวเอาไว้เถอะ ระวังอย่างงั้นอย่างงี้เถอะ เฮอะ เนี่ยเหรอ คนที่จะมาโปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์
เอ็งเป็นได้อย่างมากก็สีอานล่ะฟะ ไอ่telwada

 

ผมเชื่อพระพุทธเจ้าครับท่านทำนายว่าพระศรีอริย อย่างไรก็เชื่อตามนั้นครับผม
ตามพระไตรปิฎก ครับ

 

หลงในตนเองมากไปไหมคนเราปฏิบัติถึงฌานย่อมทำให้เห็นถึงอภิญญาได้ท่านจะมาอ้างตนนั้นผิดไปแล้วองค์สัมมาสัมพุทะเจ้าท่านยังไม่เคยเอ่ยตนไม่แสดงว่าท่านเหนือนคนอื่นหรือมีปาฏิหารอันใดไม่ได้หลงว่าเราเป็นผู้ที่เหนือนอยู่ผู้อื่นและถ้าเป็นพระศรีอารจริงท่านคงต้องใจภาวนาไม่มาเถียงกะคนอื่นว่าท่านเป็นพระผู้ช่วยให้รอดดอกระวังนะท่านบาปนั้นติดตัว

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมเช่นนั้นแล
ไม่มีสัตว์โลกตัวใดผู้ใดหลีกนี้ได้นอกจากอาริยะและพระพุทธองค์ในแต่ละสมัย
ปฏิบัติก็เพียงพอแล้วอย่าได้มาด่าทอกันเลย
ควรปล่อยให้กระทู้นี้เป็นไปตามกรรมเถิดถ้าเราไม่ตอบโต้
เค้าก็จะเลิกเอง

 

ก็นาย telwada นั้นมันธรรมดาเสียที่ไหนล่ะ อวดอ้างต่างๆนาๆว่าตัวเองคือพระศรีฯ
ลำพังแกค่การที่มีคนเห็นรัศมีออกมาจากตัวนั่นน่ะ เชื่อถือได้แค่ไหนกันเชียว
เพื่อนทหารที่เห็นรัศมีน่ะ 1.เมาเรอะปล่าว 2.ง่วงนอนจนเบลอรึปล่าว 3.ตาฝาดรึเปล่า 4.คนที่เห็นน่ะมีภูมิรู้ภูมิธรรมเป็นพระอริยบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งรึปล่าว
telwadaตอบมาเด่ะ

 

ผมว่าคุณ telwada ดูหนังมากไปหน่อยแล้วไหมครับ...พักผ่อนให้มาก ๆ อย่าไปคิดอะไรให้จิตมันวุ่นวายอะไรเลยครับ....ผมเองก็เคยคิดเหมือนกันเคยฝันว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษเหนือกว่ามนุษย์ทั้งหลาย...เป็น..นักรบผู้พิทักษ์สวรรค์...แต่ตอนนี้ผมขอเป็นคนดี ดีกว่า...จะใช้ชีวิตมนุษย์ให้มีคุณค่าโดยมีศีลธรรม ตั้งมั่นความดีเอาไว้ คอยช่วยเหลือผู้อื่น และอภัยต่อผู้อื่น คุณ telwada อย่าไปคิดอะไรให้คนอื่นได้มองว่าตัวเราไร้สติไร้เหตุผลดีกว่า....เป็นห่วงครับ...

 

เขาจะคิดแล้วไม่คิด มันเกี่ยวรัยกับพวกคุณนิ เฮ้อ...ไม่เข้าจัยอารัยเลย มีความคิดยังดีกว่าไม่มีความคิด คอยจ้องจับผิดคนอื่น ....

 

"เป็นใครไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเขาทำอะไร"
"ไม่มีการให้ใดประเสริฐกว่าการให้อภัยอีกแล้ว"
หากก่อกรรมใดไว้ย่อมต้องได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน