+++Premium พระเครื่องราคาพิเศษ(ปิดกระทู้ชั่วคราว)

ผมขอบูชารายการที่ 782 พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก ครูบาสม โอภาโส วัดศาลาโป่งกว๋าว
บูชา 650 บาท<!-- google_ad_section_end -->

 

[=dekdelta2;3971470]



ประสบการณ์วัตถุมงคลรุ่นต่างๆ เช่นในรูป เป็นชาวบ้านศรีดอนตัน ผู้ศรัทธาหลวงปู่และมีวัตถุมงคลของหลวงปู่บูชาไว้ในรถ ขณะเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดรถได้เกิดเสียหลักพลิกคว่ำ 3 ตลบเพราะถนนลื่นเนื่องมาจากฝนตก เป็นเหตุให้ผู้เป็นพ่อกระเด็นออกนอกรถส่วนภรรยาและลูกติดอยู่ในรถ แต่ด้วยบารมีของหลวงปู่ก็ได้ปกป้องคุ้มครองมิให้ได้รับอันตรายแต่อย่างใด...



ประมวลภาพวัตถุมงคลรุ่นต่างๆของหลวงปู่ พร้อมรายละเอียดการจัดสร้างทุกรุ่น...



คาถาบทสำคัญๆ ที่หลวงปู่ท่านหวงแหนและมักจะใช้เป็นประจำ



หลวงปู่ครูบาคำ เกศาเป็นพระธาตุตั้งแต่ทรงขันธ์ ศิษย์หลวงปู่ดู่นั่งสมาธิไปเจอแสงสว่าง ขนาดศิษย์สายกองทุนหลวงพ่อปาน กองทุนคุณพระ ศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง ศิษย์สายหลวงปู่ดู่ร่วมกันทำพระกริ่งให้หลวงปู่ครับ พวกนี้เค้ามีกำลังมโนยิทธิคงเห็นอะไรดีๆครับ

ให้บูชา 350 บาท
ที่วัดหมดมา 3 ปีแล้วครับ ตอนนั้นออกให้บูชา 199 บาท พอมีประสบการณ์นี่ หมดเรียบเลย[/QUOTE]

จองครับ

 

รายการที่ 783 โปรโมชันหลวงปู่หมุน มีแค่ 30 ชุด

เห็นกระทู้เพื่อนบ้าน มีโปรโมชันกันเป็นแถว เลยจัดบ้างนะครับ

ชุดสุดคุ้ม 999 บาท (ขอค่าจัดส่ง EMS 50 บาทต่อครั้ง ผมได้กำไรร้อยนิดๆเองครับ)

1. เหรียญหมุนเงินหมุนทอง บล็อคเหรียญหนา(นิยม) สวยๆแชมป์แบบไม่มีการสัมผัสอากาศเลย
เหรียญรุ่นนี้ถือเป็นเหรียญรุ่นสองของหลวงปู่หมุน

2. พระผงยันต์ดวงเศรษฐี ประสบการณ์มากมายครับ สภาพเฉลี่ยถือว่าสวย บางองค์จะมีคราบที่เกิดจากการเก็บเก่าในลัง ถ้าเป็นคนอื่นจะเขียนว่าคราบพระธาตุเสด็จครับ

3. พระผงรูปเหมือนนั่งตั่งรุ่นแรก สวยแชมป์ทุกองค์

พระเหล่านี้เป็นการจัดสร้างรุ่นแรกๆเลยเข้าพิธีหลายครั้ง ไม่จำเป็นต้องไปหาชุดเหล็กน้ำพี้ รวยทันใจแพงๆเลยครับ
ทั้งหมดนี้ให้บูชา 999 บาทเท่านั้น
พิเศษ บูชา 3 ชุด ขึ้นไป แถมพระปิดตาหลวงปู่หมุนวัดซับลำใยปี 2543 อีก 1 องค์

โดยลองดูๆในทุกเว็บ จะเห็นเหรียญหมุนเงินหมุนทองที่ 550-650 บาท
พระผงดวงเศรษฐี จะมีราคาอยู่ที่ 350-450 บาท
พระผงนั่งตั่งรุ่นแรก จะมีราคาที่ 200-350 บาท

อันนี้เอาราคาทุกอันมาหั่นรวมกันเลยครับ หลวงปู่หมุนต้องรีบเก็บกันแล้วนะครับ กลางปีหน้า 999 บาท อาจจะได้เหรียญหมุนเงินหมุนทองบล็อคหนาไม่ถึง 1 เหรียญ
ข่าวแว่วๆมาแล้วครับ

 

รายการโปรโมชันหลวงปู่หมุนชุดนี้ ณ วันนี้ถือว่าราคาเบากว่าเจ้าอื่นๆ พอสมควรครับ

แต่ช่วงนี้งานบุญเยอะเสียด้วยครับ

 

อยากได้แต่เหรียญหมุนเงินหมุนทองครับ

 

รายการที่ 781 เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ศรี วัดหน้าพระลาน<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ตะกรุดต่อยอด หลวงปู่ศรี ปริสุทโธ วัดหน้าพระลาน
พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงปู่ศรี ปริสุทโธ" วัดหน้าพระลาน ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ปัจจุบันสิริอายุ 81 ปี เป็นที่รู้กันในหมู่ลูกศิษย์ลูกหา ท่านมากด้วยพลังจิตอาคมขลัง เคร่งคัดในพระธรรมวินัย มีบารมีธรรมเมตตาสูง
ตามประวัติท่านเกิดที่ลพบุรี บวชที่ลพบุรี ศึกษาตักศิลาวัดเขาวงกต สายหลวงพ่อเภา โดยมี หลวงพ่อสุต วัดปฐมพานิช เป็นพี่เลี้ยง ตอนอยู่ลพบุรีไปเรียนวิชาสายหลวงพ่อก๋ง วัดเขาสมอคอน ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครสืบทอดแล้ว


หลวงปู่ศรี สร้างพระอะไรก็ขลังเพราะท่านปลุกเสกทำจริงๆ อย่างหนุมานและตะกรุดต่อยอดนี้ ท่านปิดกุฏิปลุกเสกเป็นเดือนๆ กลางคืนเห็นเป็นลูกไฟในกุฏิท่านสว่างเหมือนครอบพระอาทิตย์ไว้ ไม่หลับไม่นอน 7 คืนเจริญพุทธคุณก็มีมาแล้ว บารมีหลวงปู่ศรีมีมากเจนจบรู้จริงเมตตาแรงผลแห่งความพากเพียร ทำให้ท่านศึกษาสรรพวิชาสิ่งใด จะประสบกับความสำเร็จ เป็นที่ยอมรับนับถือของสาธุชนทั่วไป

โดยเฉพาะบารมีด้านเมตตามหานิยมและเรื่องพหูสูตรเรื่องฤกษ์ยามมงคล หลวงปู่ศรีทำอะไรก็ขลังเพราะสร้างแล้วเหนือเขา มีความเชี่ยวชาญอย่างพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า ที่หาในสมัยใหม่อย่างนี้ไม่ง่ายๆ เลย ในเรื่อง "ตะกรุดต่อยอด" หลวงปู่ศรีสร้างตะกรุดที่สืบตำรามาสมัยตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 จากหลวงปู่ก๋ง วัดเขาสมอคอน เป็นตะกรุดตำรับโบราณที่มีอานุภาพเกี่ยวกับความเจริญงอกงาม ความสำเร็จและก้าวหน้า ครูบาอาจารย์ที่สอนมาบอกว่า "ถ้าตะกรุดนี้ตกอยู่ที่ไหนจะเจริญเติบโตยิ่งใหญ่ที่นั้น" มีอุปเท่ห์การใช้ว่า บ้านขุนนางท้าวพญาจะมียศถาบรรดาศักดิ์เติบโตยิ่งใหญ่ มีบ่าวไพรบริวารแพร่ขยายไปมาก เจ้าภาษีนายอากรจะได้บ่อนเบี้ยสินไหมหลายทะนาน พ่อค้านายสำเภาจะได้ผืนธุลีดินเป็นกำไรมากขนัด ทำเรือกสวนไร่นาสาโทจะได้งามการผลิดอกออกผลดียิ่งนัก

หลวงปู่ศรี ทำตะกรุดนี้มอบให้กับท่านที่ใจบุญไปมากก็กลับมาบอกว่าเห็นผล วิชาตะกรุดนี้เคยส่งผลทางด้านเมตตา ถึงขนาดว่าที่ศาลามีคนมาทำบุญฟังเทศน้อย พอลงวิชาตะกรุดนี้แล้วมากันจนแน่นศาลาก็เคยมีมาแล้ว การแห่งพระศาสนาจะสร้างวิหาร สร้างโบสถ์ ก็ไม่นานเลยสำเร็จ คนมาช่วยเยอะแยะ วิหารหลวงพ่อองค์ดำเป็น 10 ล้านก็สร้างได้ใน 3 ปี ก็วิชาตะกรุดต่อยอดนี้ ถึงตะกรุดนี้จะทำให้เกิดความเจริญ ก้าวหน้ามาก ผลหมากรากไม้ผลิดอกออกผล เก็บเงินได้ทองมากแต่อย่าประมาทเกินไป คนใช้ตะกรุดนี้จะดีจริงๆ อย่างที่ว่าตำราหลวงพ่อก๋งบอก ก็ต้องให้มีความตั้งใจจริงใจทำมาหากินด้วยแล้วอย่าลืมทำบุญทำทานเป็นกิจวัตรคราวนี้ดีแน่
สร้างด้วยเนื้อตะกั่วถักเชือกลงรักปิดทอง ขนาด 2 นิ้ว สร้างจำนวน 1,599
แหล่งข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด


เหรียญรุ่นแรกของท่านเป็นพิมพ์พระพุทธ สร้างตั้งแต่ปี 2513 ให้บูชา 400 บาท<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
ขอจองครับ

 

รายการที่ 778 เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->
พระครูสุวรรณศีลาธิคุณ หรือหลวงพ่อพูน ฐิตสีโล มีนามเดิมว่า ทองพูน นามสกุล สัญญะโสภี ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๕ (แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีวอก) โยมบิดาชื่อแบน โยมมารดาชื่อสมบุญ สัญญะโสภี ณ บ้านสามกอ หมู่ ๑ ตำบลสามกอ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อพูนหรือเด็กชายทองพูนในขณะนั้นได้รับการศึกษาเบื้องต้นจากโรงเรียนศรีรัตนานุกูล หรือปัจจุบันนี้คือโรงเรียนวัดบ้านแพน ?ศรีรัตนานุกูล? จนกระทั่งจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ จึงได้ออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง จนกระทั่งอายุได้ ๑๔ ปี จึงได้ติดตามหลวงปู่คำปัน พระธุดงค์มาจากจังหวัดลำพูน ขึ้นไปเมืองเหนือเป็นเวลา ๑ ปี จึงได้กลับมายังบ้านเกิดโดยสำเร็จวิชาด้านโหราศาสตร์กลับมา เมื่ออายุเพียง ๑๕ ปี ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๒ นายทองพูนจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบ้านแพน จากคำชวนของหลวงพ่อวาสน์ เจ้าอาวาสวัดบ้านแพนในขณะนั้น เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๙๒ โดยมี พระปลัดแจ่ม วัดโพธิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งในปีนั้นเองสามเณรทองพูนก็สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี และ หลังจากบรรพชาเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยได้ ๓ ปี สามเณรทองพูนจึงได้อุปสมบท เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ปีมะโรง โดยมีพระครูปริยัติคุณูปการณ์ (วาสน์) วัดบ้านแพน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูเกษมคณาภิบาล (หลวงพ่อมี) วัดมารวิชัย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวิบูลย์ธรรมศาสน์ (หลวงพ่อสังวาลย์)วัดกระโดงทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ สำเร็จเป็นพระภิกษุสงฆ์เวลา ๐๘.๐๐ น. ได้รับนามฉายาว่า ?ฐิตสีโล? จากนั้นจึงได้ตั้งใจสอบนักธรรมชั้นโทและ ชั้นเอกได้สำเร็จภายใน ๒

การศึกษาพุทธาคม

ในด้านพระเวทย์วิทยาคมหลวงพ่อพูนท่านได้สนใจและได้ศึกษาในเรื่องพุทธเวทย์มหามนต์ซึ่งเป็นศาสตร์
แห่ง ?พุทธ? มาตั้งแต่อายุ ๑๔ ปี โดยในเวลานั้นได้ติดตามหลวงปู่คำปัน พระธุดงค์ที่มาจากภาคเหนือขึ้นไปอาศัยอยู่ภาคเหนือเป็นเวลา ๑ ปี จึงได้กลับมาบ้านเกิดพร้อมทั้งตำราการดูดวงที่ถือได้ว่าแม่นยำอย่างหาใครเปรียบได้ยาก ไม่เพียงแค่นั้นหลวงพ่อพูนท่านยังได้ฝึกเรียนกรรมฐานกับอาจารย์พริ้งฆราวาสจอมขมังเวทย์ในย่าน
บ้านแพน และได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำน้ำมนต์มาจากอาจารย์พริ้งจนจบหลักสูตรวิชา จึงเป็นเหตุให้น้ำพระพุทธมนต์ที่หลวงพ่อพูนทำขึ้นมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก สามารถใช้ขับไล่ภูตผี ปีศาจ เสนียดจัญไรได้อย่างชะงัด
นอกจากอาจารย์พริ้งแล้วหลวงพ่อพูนยังได้ร่ำเรียนวิชามาจากอาจารย์ลพ เกตุบุตร ซึ่งเป็นพี่ชายของหลวงพ่อวาสน์พระอุปัชฌาย์ของท่าน และเป็นศิษย์เอกของอาจารย์จาบแห่งตำบลสำเภาล่ม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยหลวงพ่อพูนได้รับการถ่ายทอดวิชาการลงยันต์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นยันต์ที่หลวงพ่อมักใช้จารลงในแผ่นยันต์หรือแหวนอยู่เสมอ ๆ สำหรับครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์นั้น หลวงพ่อพูนได้ศึกษาวิชามาจากหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ที่เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่าน จนมีความเชี่ยวชาญด้านพระเวทย์เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายวิชาพระคาถาชินบัญชรอันลือลั่นของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่แม้ว่าหลวงพ่อมีจะมีความเชี่ยวชาญในพระคาถานี้อย่างหาผู้ใดเทียบได้ยาก เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ยังชมหลวงพ่อพูนว่า ?มีความเชี่ยวชาญพระคาถาชินบัญชรมากกว่าท่าน?
งานการปกครองคณะสงฆ์ในปัจจุบัน

หลังจากที่หลวงพ่อพูนบวชได้เพียง ๔ พรรษา คือ ในพ.ศ. ๒๔๙๙ ก็ได้รับการมอบหมายจากหลวงพ่อวาสน์พระอุปัชฌาย์ของท่าน และเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านแพนในขณะนั้น ให้หลวงพ่อเป็นพระกรรมวาจาจารย์
คือเป็นพระคู่สวดประจำวัดบ้านแพน นอกจากนี้ยังมีหน้าที่สำคัญ ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อวาสน์
เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน คือ พ.ศ. ๒๔๙๙ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบ้านแพน พ.ศ. ๒๕๑๓ ได้รับการมอบหมายให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดบ้านแพน วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๗
เนื่องจากหลวงพ่อ พระครูปริยัติคุณูปการณ์ (วาสน์) ท่านชราภาพมาก ท่านมีอายุถึง ๘๕ ปี ท่านจึงได้รับการยกฐานะเป็นเจ้าอาวาส
และเจ้าคณะตำบลกิตติมศักดิ์ หลวงพ่อพูนท่านจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านแพน
ต่อจากหลวงพ่อวาสน์ มาจนถึงปัจจุบันนี้ ภายหลังจากที่หลวงพ่อพูนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส
วัดบ้านแพน ท่านได้ปกครองดูแลวัดและทำการก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะและถาวรวัตถุต่าง ๆ
ภายในวัดบ้านแพนให้เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด จนในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๓ หลวงพ่อจึงได้รับพระมหากรุณาฯจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแต่งตั้งสมณศักด
ิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท (จร.ชท.) ในราชทินนามที่ ?พระครูสุวรรณศีลาธิคุณ?
วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ มีหน้าที่เป็นประธานและรับผิดชอบในการบรรพชาอุปสมบท และมีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๐๖) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอน พระอุปัชฌาย์
สำหรับงานและภาระหน้าที่ในการปกครองคณะสงฆ์อำเภอเสนานั้น ท่านได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ๆ
ดังนี้ คือ วันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุวรรณาราม
เจ้าคณะภาค ๒ในขณะนั้น ให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอเสนา พ.ศ. ๒๕๔๓ ในปีนี้หลวงพ่อพระครูเสนาคณานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอเสนาในขณะนั้นท่านได้ลาออกจากตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงมอบหมายให้หลวงพ่อเป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเสนา และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเสนา ในวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
และในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ หลวงพ่อได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้า ฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์
เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก (จอ.ชอ.)


สำหรับงานในหน้าที่ในเขตการปกครองคณะสงฆ์อำเภอเสนาในปัจจุบันนี้ หลวงพ่อต้องรับภาระหน้าที่ดูแลวัดจำนวน ๓๓ วัด โดยแบ่งการปกครองเป็น ๖ ตำบล มีพระภิกษุในพรรษา ๔๑๑ รูป นอกพรรษา ๓๓๗ รูป มีพระครูสัญญาบัตร ๑๘ รูป พระอุปัชฌาย์ ๑๐ รูป พระทรงปาฏิโมกข์ ๓๘ รูป พระมหาเปรียญธรรม ๗ รูป มีการประชุมคณะสงฆ์ ทุก ๆ ๒ เดือน คือ ประชุมในวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน คี่


ให้บูชา 800 บาท พื้นที่เล่นกันเป็นพัน<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
ขอจองครับ

 

รายการที่ 784 เหรียญ 9 สมเด็จ วัดพระศรีมหาธาตุ หลวงพ่อมุ่ย ดอนไร่ รวมปลุกเสก

<TABLE class=gray id=showItemDetail cellSpacing=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>เหรียญ ๙ สมเด็จ จัดสร้างโดยพระครูศรีรัตนาภิรักษ์ หรือ หลวงพ่อโพธิ์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

เมื่อ ปีพุทธศักราช ๒๕๑๑ ปัจจุบัน เป็นเวลา ๔๐ ปีมาแล้ว จึงนับว่าเป็นเหรียญเก่าเหรียญหนึ่งที่น่าใช้ น่าสะสมมาก
เหตุที่ชื่อ ๙ สมเด็จ เพราะ เป็นการสร้างและปลุกเสกหมู่โดยสุดยอดพระเกจิอาจารย์ ๙ อันดับแรก ของเมืองสุพรรณบุรี ในยุคสมัยนั้น อันมี

๑. สมเด็จพระสังฆราช ป๋า วัดพระเชตุพล
๒. หลวงพ่อเปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ
๓. หลวงปู่โต๊ะ วัดลาดตาล
๔. หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร
๕. หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
๖. หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
๗. หลวงพ่ออ๊อด วัดศาลาขาว
๘. หลวงพ่อสม วัดดอนบุบผาราม
๙. หลวงปู่โพธิ์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

พิธีพุทธาภิเษก ๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๑ ณ.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

ขอบคุณข้อมูลจาก

9 สมเด็จสุพรรณ หลังยุทธหัตถี หลวงพ่อมุ่ย ร่วมปลุกเสก - เด็กถาปัดมงคลแผ่นดิน

ให้บูชา 400 บาท พร้อมเลี่ยมแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

รายการที่ 785 พระผงรุ่นแรก ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล พิเศษมีเกศา


ให้บูชา 300 บาท เห็นเกศาชัดๆเลยครับ น่าจะมี

การนำมาติดเพิ่มเติม

องค์นี้เผาไม่ไหม้ไฟ อังคารแปรสภาพเป็นพระ

ธาตุ



37 ปีก่อน วัดฟ้าหลั่งเคยร้าง แต่เดี๋ยวนี้เป็นวัดใหญ่ เคยเป็นป่า บัดนี้เป็นเมือง
สมัยนั้นถนนเชียงใหม่-จอมทอง เป็นแค่ทางเกวียน แต่วันนี้คือไฮเวย์ชั้นดี <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->และ วัดฟ้าหลั่งที่เคยอยู่ริมทางเกวียนก็มีอันต้องมาอยู่ริมทางหลวงที่ผิวแอสฟัลต์ของมัน<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->กลบรอยเกวียนเก่าๆ ไว้ข้างล่างอย่างมิดชิด
เสียงออดแอดของเพลาเกวียนหายไป เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์กำลังสูงเข้ามาแทน
นี่เป็นอนิจจังที่เห็นกันได้ทุกคน รวมทั้งพระหนุ่ม ๆ องค์หนึ่งซึ่งเข้ามาอยู่ที่นี่<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ในสมัยปี 2500 กว่าก็เห็น และท่านยังเห็นความเปลี่ยนแปลงอีกมากมายหลายอย่างที่<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->เกิดขึ้นกับวัดฟ้าหลั่ง และมันก็รวมถึงเห็นสังขารของท่านที่ตรากตรำหรือตากกาลเวลา<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->มาจนปัจจุบัน
หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วันนี้มีอายุได้ 80 กว่าปี ท่านมาที่นี่ตั้งแต่สมัยของวัด<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ฟ้าหลั่งยังร้างอยู่กลางป่า จนกระทั่งวัดฟ้าหลั่งเป็นวัดมหึมา และอยู่กลางเมือง
เชียงใหม่ทุกวันนี้แทบจะไม่มีครูบาอาจารย์ดำรงอยู่ นับแต่สายกัมมัฏฐาน<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ศิษย์พระอาจารย์มั่นดับขันธ์ไป เชียงใหม่ก็ดูเหงาถนัดตา แต่ต้องไม่ลืมว่าเชียงใหม่แท้ ๆ <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ก็มีสายเลือดข้นเข้มแห่งสายครูบาศรีวิชัยอยู่
ถ้าลืมสายนั้นไม่ลง ก็คงคิดไม่ถึงสายนี้
ครูบาอภิชัยขาวปี หรือครูบาพรหมจักร ก็ทำได้แค่ระลึกถึงยามกราบไหว้บูชา <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->เพราะท่านลาโลกไปนานแล้ว ที่ยังอยู่ให้พึ่งบารมีท่านได้นั้นวันนี้ทุกท่านก็เรืองรองผ่องใส<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->เป็นดาวพ้นเมฆกันหมดแล้ว
ครูบาดวงดี สุภทฺโพ วัดท่าจำปี คือสุปฏิปันโนภิกขุ อันได้รับคำพยากรณ์<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ทำนายจากครูบาศรีวิชัยมาก่อน
“ให้เอาเด็กคนนี้ไปเข้าวัดเข้าวา ต่อไปภายหน้าจะได้พึ่งพาไหว้สามัน”
ครูบาหน้อย วัดบ้านปง ก็คือกำลังหนึ่งในการสร้างถนนสู่ดอยสุเทพ หรือครู<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->บาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง ก็คือศิษย์อีกคนแห่งครูบาศรีวิชัยที่ยังมีชีวิตอยู่
ท่านเหล่านี้สืบสายแห่งครูบาศรีวิชัยเอาไว้ได้จนวันนี้
เชียงใหม่ไม่นับว่าเหงาถ้าหากนึกถึงทุกท่าน ทั้งที่กล่าวนามและยังไม่<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ถูกกล่าวนามเอาไว้ ทุกท่านมีคุณธรรมควรค่าแก่การกราบไหว้อย่างสนิทมือ
มีพระเครื่องดีที่ใครผ่านไปแถวนั้นควรแวะบูชาเอาไว้เป็นสมบัติประจำสร้อย<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->คอ หรือหิ้งบูชาอยู่ที่วัดฟ้าหลั่ง
พระผงเกศาของหลวงปู่ครูบาอิน อินโท รุ่นแรก สร้างไว้หลายปี แต่ยังมี<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->เหลืออยู่กับวัดจำนวนหนึ่ง บอกได้ว่าเหลือไม่มากนัก ถ้าเป็นนักสะสม ขมีขมันไปก่อนคง<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ไม่พลาด พระผงรุ่นนี้ผสมเส้นเกศาหลวงปู่ครูบาอินอย่างไม่ต้องประหยัด ไม่เหมือนพระ<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->บางรุ่นบางอาจารย์โม้ว่าใส่เส้นเกศา แต่ส่องกล้องหาไม่เจอ หรือแทบไม่เจอ
พระผงเกศารุ่นแรกของครูบาอินนี้ถือเป็นพระเด่นของวัดฟ้าหลั่ง ควบคู่กับรูป<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->เหมือนลอยองค์รุ่นแรกเนื้อทองเหลือง ซึ่งสร้างไว้พร้อมกัน และรูปเหมือนก็ยังมีเหลืออยู่<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->เช่นเดียวกัน
รูปเหมือนลอยองค์ วัดให้บูชาองค์ละ 99 บาท
พระผงเกศารุ่นแรก องค์ละ 59 บาท
น่าจะสามารถติดต่อทางไปรษณีย์ได้ ลองๆสอบถามทางจดหมายไปที่วัดฟ้า<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->หลั่งก็จะเข้าใจ
เลยไปถึงอำเภอจอมทองเลี้ยวเข้าวัดพระธาตุจอมทอง ก็มีพระเครื่องน่าสนใจ<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->อีกรุ่นหนึ่งคือพระผงมณฑปพระธาตุจอมทองสร้างจากผงปูนรักและทองเก่าที่ได้ลอก<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ออกจากองค์มณฑปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุทัษชิณโมลี (ท้ายทอย) ในวิหาร<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->พระธาตุจอมทอง คราวบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้
พระชุดนี้เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระสิงห์ ซึ่งมีสมเด็จพระสังฆราชพระองค์<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ปัจจุบันเป็นองค์ประธานการอธิษฐานจิต
พระผงมณฑปพระธาตุจอมทอง ติดต่อบูชาทางไปรษณีย์ได้ เพราะว่าทางวัด<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->มีความยินดีที่จะอำนวยความสะดวกให้ โดยจดหมายบูชาทางไปรษณีย์และจ่าหน้าดังนี้
นายหมื่น วงศ์แปง พนักงานบัญชี วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160 ธนาณัติหรือตั๋วแลกเงินไปรษณีย์ สั่งจ่าย ป.ณ.จอมทองในนาม นายหมื่น <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->วงศ์แปง
พระผงมณฑปพระธาตุจอมทอง ราคาองค์ละ 40 บาท บวกค่าจัดส่งอีก 20 <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->บาท หรือสะดวกจะไปบูชาที่วัดด้วยตนเองก็สามารถทำได้
เส้นทางสายเชียงใหม่-จอมทอง ถ้าหากไปด้วยตนเองแล้วเป็นอันว่าได้แวะ<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->กราบครบทุกองค์ ถ้าออกจากเชียงใหม่ จะถึงวัดท่าจำปีกราบครูบาดวงดีได้ก่อน ถัดไป<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->อีกไม่ไกลคือวัดฟ้าหลั่ง กราบครูบาอิน และไปจนถึงตัวอำเภอพระธาตุจอมทอง เข้าวัด<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->พระธาตุศรีจอมทองนมัสการพระธาตุที่นั่น
เรียกว่าทัวร์หลวงปู่ก็ได้
อีกสายหนึ่งคือ เชียงใหม่-ฝาง ในเขตอำเภอแม่แตง มีทางเลี้ยวขวาไปเขื่อน<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->แม่งัด ซึ่งเส้นทางนี้ก็มีครูบาให้กราบ 2 องค์ คือ ครูบาหน้อย วัดบ้านปง และครูบาเทือง <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->วัดบ้านเด่น ทั้ง 2 วัด อยู่ไม่ไกลจากกัน วัดบ้านปงถึงก่อน วัดบ้านเด่นถึงทีหลัง กลับออกมาจากครูบาหน้อยและครูบาเทือง ถัดจากปากทางบนถนนใหญ่ไป<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->นิดหน่อย เลี้ยวขวาเข้าวัดป่าบ้านปง กราบพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ศิษย์สาย<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->กัมมัฏฐานที่ยังอยู่ที่นั่น
ใครที่เคยฝันใฝ่ อยากเห็นพระอาจารย์เปลี่ยนมีพระเครื่องแจก และอยากจะ<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ได้ของท่าน ให้เอ่ยปากขอก็จะได้สมใจ พระเครื่องของท่านที่มีแจกเป็นพระผงใบโพธิ์รูป<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->พระพุทธเจ้า ศิษย์สร้างถวายท่านในโอกาสฉลองอายุครบ 60 ปี เป็นพระเครื่องดีที่น่า<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ไปขอท่านไว้ พระอาจารย์เปลี่ยน เป็นพระที่มีความแกล้วกล้าทางกสิณไฟอีกรูปหนึ่ง ใน<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->การถ่ายภาพของท่าน มักมีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นบ่อย
แต่การเข้าพบท่านนั้นต้องใช้ความอดทน ท่านกำหนดเวลาให้พบได้หลังบ่าย <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->2 โมงเท่านั้น เวลาอื่นจะเข้าพบต้องมีธุระจำเป็นจริงๆ <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->นี่ผมเกือบลืมครูบาอีกองค์หนึ่งไป
ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล


ออกไปจากเชียงใหม่ บนเส้นทางสายลำปาง ประมาณ 10-11 กิโลเมตร วัด<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--> ศรีดอนมูลอยู่ซ้ายมือ ถ้าใครไปเชียงใหม่ให้แวะไปที่วัดด้วย บางทีพระผงรูปเหมือน<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->พิมพ์ทรงคล้ายหลวงพ่อทวด หลังเตารีด อาจจะยังมีเหลืออยู่ ที่ผมไม่ยืนยันว่าเหลือหรือ<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ไม่เหลือ เนื่องจากว่าผมไม่อาจแวะเข้าวัดศรีดอนมูลได้ จึงไม่ทราบแน่ชัด (ค้นพระมา<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc--><!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ถ่ายภาพไม่พบ)
พระผงรุ่นนี้ผมได้เห็นการทดลองยิงกับตาตนเองมาแล้ว
คนยิงคือช่างทองสงวน แซ่ตั้ง นิวาสถานอยู่อำเภอวารินฯ จ.อุบลฯ นี่เอง
ผลคือยิงด้วยปืนลูกโม่ .32 ไม่ออก
พระผงรุ่นนี้ นับว่ายอดเยี่ยมไม่น้อยกว่าของใคร ควรค่าแก่การเก็บเอาไว้<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->

พระผงรุ่นนี้ นับว่ายอดเยี่ยมไม่น้อยกว่าของใคร ควรค่าแก่การเก็บเอาไว้<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ประจำตัว เที่ยวเชียงใหม่วันนี้ มีพระดีให้กราบ และพระเครื่องดีให้บูชาอีกไม่น้อย
นี่ยังไม่นับวัดพระสิงห์ ซึ่งมีพระเครื่องชุดครูบาศรีวิชัย ที่หลวงปู่เกษม เขมโก <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->
<!--fonto:Tahoma--><!--/fonto--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->ปลุกเสกให้
แค่นี้เชียงใหม่ก็หายเหงาไปแล้ว...


งานเขียนของคุณอำพล เจน ในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ เก่าขนาดไหนตั้งแต่หวงปู่ครูบาอินอายุ 80 กว่า ตอนที่ท่านละสังขารก็ 101 ปีแล้วครับ


ครึ่งแสนเผาครูบาผัด ฮือฮา!ร่างไม่ไหม้

Share<SCRIPT src="http://static.ak.fbcdn.net/connect.php/js/FB.Share" type=text/javascript></SCRIPT>

​

ศิษยานุศิษย์กว่าครึ่งแสนร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ "ครูบาผัด" เกจิอาจารย์ล้านนา ต้นตำรับตะกรุดกาสะท้อน ฮือฮารอบๆวัดฝนตกหนักแต่บริเวณพิธีลมพัดเย็นสบายไม่มีฝนแม้แต่เม็ดเดียว ขณะที่ช่วงเผาศพทั้งปราสาทและโลงต่างไหม้ไฟหมด ทว่าสังขารครูบาผัดกลับไม่ไหม้ไฟ "ครูบาน้อย" ศิษย์เอกต้องนั่งอธิษฐานจิตล้างอาคมพระอาจารย์ จากนั้นไฟจึงเผาสรีระครูบาผัดจนหมดเป็นที่อัศจรรย์แก่ลูกศิษย์จนต้องก้มกราบ พร้อมกับเปล่ง "สาธุ" ดังกระหึ่ม
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 30 มี.ค. ที่เมรุชั่วคราวบริเวณลานอเนกประสงค์เจดีย์ 9 คณาจารย์ วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มีพิธีพระราชทานเพลิงศพพระครูพิศิษฏ์สังฆการ หรือครูบาผัด ผุสฺสิตธมฺโม เกจิอาจารย์ชื่อดังล้านนา เจ้าตำรับตะกรุดกาสะท้อน โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ประธานฝ่ายฆราวาส เป็นผู้อัญเชิญผ้าไตรพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 5 ผืน และอัญเชิญไฟหลวงพระราชทานเข้าประกอบพิธี ฝ่ายสงฆ์มีพระเทพวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาผัดครั้งนี้มีประชาชนและศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศมาร่วมพิธีกว่าครึ่งแสนคน ทำให้บริเวณเมรุชั่วคราวพื้นที่กว่า 30 ไร่แคบลงไปถนัดตา โดยช่วงทำพิธีเพื่ออัญเชิญผ้าไตรพระราชทานและไฟหลวงพระราชทานนั้น เกิดลมพายุพัดตลอดเวลา ขณะเดียวกันรอบๆ วัดศรีดอนมูลเกิดพายุและฝนตกอย่างหนัก แต่บริเวณพิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาผัดกลับไม่มีฝนมีแต่ลมพัดสร้างความเย็นสบายแก่ผู้มาร่วมพิธีเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ทุกคนต่างยกมือท่วมหัวสาธุ เพราะเชื่อว่าเป็นบุญญาบารมีของครูผาผัด
หลังเสร็จพิธีอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานและไฟหลวงพระราชทานแล้ว พระสงฆ์ ประชาชนและศิษยานุศิษย์ร่วมกันวางดอกไม้จันทน์ จากนั้นพระราชทานเพลิงโดยใช้พลุและดอกไม้ไฟนานาชนิดตามประเพณีแบบโบราณเพื่อเผาทั้งปราสาทนกหัสดีลิงค์ โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลชมภู คอยดูแลไม่ให้เพลิงลุกลามจำนวน 5 คัน
ทั้งนี้ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ปราสาทนกหัสดีลิงค์และลามไหม้โลงศพแก้วบรรจุสังขารครูบาผัดจนเป็นจุณไปในพริบตา ปรากฏว่าสรีระของครูบาผัดที่นอนสงบอยู่ในโลงแก้วกลับไม่ไหม้ไฟทั้งที่เปลวเพลิงลุกโหมรุนแรงตลอดเวลา ประชาชนและศิษยานุศิษย์ที่เฝ้าดูต่างฮือฮาและพากันก้มลงกราบพร้อมกับเปล่งคำว่า "สาธุ" ดังกระหึ่ม กระทั่งไฟได้ไหม้ปราสาทนกหัสดีลิงค์และโลง ศพจนหมดแล้วแต่กลับเหลือสรีระของครูบาผัดนอนทอดยาวบนกองเพลิงไม่ได้ไหม้ไฟไปด้วย
จากนั้นคณะกรรมการวัดและศิษยานุศิษย์จึงร้องขอให้พระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชปัญโญ ศิษย์เอกครูบาผัด นั่งอธิษฐานจิตเพื่อล้างอาคมในตัวครูบาผัดให้หมดสิ้นไปเพื่อไฟพระราชทานจะได้ไหม้ส่งดวงวิญญาณไปสู่สัมปรายภพ เมื่อครูบาน้อยนั่งจิตอธิษฐานเพลิงก็ค่อยๆไหม้สรีระครูบาผัดไปเรื่อยๆ จนหมดเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ผู้อยู่ร่วมงานหลายหมื่นคน
นายภัทร กองคำ คณะกรรมการวัดศรีดอนมูล เปิดเผยว่า สาเหตุที่สรีระของครูบาผัดไม่ไหม้ไฟนั้น น่าเชื่อว่าเป็นเพราะวิชาอาคมในตัวของครูบาผัดยังล้างออกไปไม่หมด ตอนที่ครูบาผัดมรณภาพทางครูบาน้อย ศิษย์เอกก็ได้นำน้ำสมป่อยล้างวิชาอาคมออกจากตัวครูบาผัดแล้วครั้งหนึ่ง คาดว่ายังคงมีวิชาอาคมบางส่วนยังล้างไม่ออก โดยเฉพาะวิชาตะกรุดกาสะท้อนที่แรงกล้าติดตัวท่าน

<TABLE width=500><TBODY><TR><TD>
</TD></TR><TR><TD>

อัฐิธาตุของครูบาผัด แปรสภาพตกผลึกขาวใส คล้ายหยก
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
​

ให้บูชา 300 บาทครับ เห็นเกศาชัดๆ <!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->

 

รายการที่ 786 ขุนแผนทรงพลทาทองหลังพญาวานร หลวงปู่หมุน วัดซับำใยสามัคคี

ขุนแผนทรงพลทาทองหลังฝั่งตะกรุด3ดอก+เม็ดแตงหนุมาน ​

ขุนแผนทรงพลด้านหลังพญาวานรตอกโค้ดแบบนี้หาไม่ค่อยพบครับด้านหลังฝังพลอยเสกพร้อมตะกรุด3กษัตริย์และสิ่งมงคลสูงสุดนั้นก็คือเกศาหลวงปู่หมุน มวลสารที่นำมาทำนั้นประกอบไปด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆกาฝากมะยม,กาฝากมะรุม,กาฝากต้นรัก,พลูร่มใจ,ใบพิศวาท,ไม้แหย่แย้,เสน่ห์จันทร์หอม,เสน่ห์นางกวัก,ช้างผสมโขลง,เถาวัลย์หลงเป็นต้นและรวมผงพุทธคุณเกจิอาจารย์ต่างๆอีก135องค์ที่พระอาจารย์ตั้วได้รวบรวมไว้ พุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม,ค้าขาย,คุ้มตัวได้ที่สำคัญมีสิ่งมงคลสูงสุดนั่นก็คือเกศาหลวงปู่หมุนรวมอยู่ด้วยครับเปรียบเสมือนมีท่านอยู่กับผู้ที่ห้อยไปทุกที่อุ่นใจได้ครับ....แค่เกศาก็สุดคุ้มแล้วครับ​

ขุนแผนทรงพลด้านหลังพญาวานรสร้างโดยพระอาจารย์ตั้วแห่งวัดซับลำใยผู้ซึ่งเป็นศิษย์เอกเพียงรูปเดียวเท่านั้นที่หลวงปู่หมุนครอบครูรับเป็นศิษย์ด้วยทองคำหนัก40บาทแต่ในตอนนั้นพระอาจารย์ตั้วหาทองคำได้เพียง10บาทเท่านั้นเนื่องจากทางวัดซับลำใยไม่ค่อยมีสตางค์เท่าไรนักจึงครอบครูด้วยทองคำเพียงเท่านั้นแล้วก็เอาทองคำจำนวนนี้มาหลอมทำพระชุดมหาสมปรารถนาและพระอาจารย์ตั้วก็เป็นศิษย์เพียงท่านเดียวเท่านั้นที่หลวงปู่หมุนท่านเรียกลูกชาย...เพราะฉะนั้นเรื่องการอธิฐานจิตเสกให้ของวัดซับลำใยนั้นหายห่วงหลวงปู่หมุนท่านเสกให้เต็มกำลังอย่างแน่นอน...​

พุทธคุณดีทางด้านเมตตา โชคลาภครับ แค่เม็ดแตงนี้ ก็เห็นเอามาให้บูชาล่าสุดที่ 500 บาทเข้าไปแล้ว ผมดูๆราคาในเว็บช่วงนี้อยู่ที่ 1000-1400 ครับ ตอนนี้​

แบ่งให้ 3 องค์ ที่ 900 บาทเท่านั้น เลือก 1-2-3 ครับ ​

เหลือองค์ที่ 2 ครับ

 

รายการที่ 787 ขุนแผนทรงพลทาทองหลังพญาวานร ฝังพลอย

องค์นี้ไม่ฝังตะกรุด แต่เป็นพลอยแทน ให้บูชา 900 เท่ากัน มีองค์เดียวครับ

ออกปี 2543 ของมีน้อยมากๆครับ

สวยแท้มีหน้ามีตาทุกองค์

 

ขอจอง รายการที่ 786 องค์แรกครับ

 

จองรายการที่ 786
องค์ที่ 3 ครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

จองรายการที่ 784 และ 785 ด้วยครับ

 

รายการที่ 787 ขุนแผนทรงพลทาทองหลังพญาวานร ฝังพลอย<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->องค์นี้ไม่ฝังตะกรุด แต่เป็นพลอยแทน ให้บูชา 900 เท่ากัน มีองค์เดียวครับ

ออกปี 2543 ของมีน้อยมากๆครับ

สวยแท้มีหน้ามีตาทุกองค์<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>
จองครับ

 

โอนเงินเรียบร้อยครับ ที่อยู่ใน pm ขอบคุณครับ

 

รับทราบการจองของทุกท่านครับ วันนี้ผมส่งไปที่ คุณ ธเนศ พรชัย จาตุรนต์ อนันต์ มนู กฤตภาส ชยพล เรียบร้อยแล้วครับ ลืมไป หนึ่งคน
สำหรับสมาชิกพรีเมียมท่านอื่นๆที่มาอ่านกระทู้ ให้ข้อเตือนใจนิดนึง เกี่ยวกับการแพ็คพัศดุนะครับ ว่าควรจะติดเทปกาวให้แน่นหนา อาจเซ็นกำกับลงไปด้วย เพราะผมส่งพระให้คุณ namo ข้างในมีหลายองค์ หายเกือบหมด ข้างกล่องมีรอยฉีกครับ จึงเตือนทุกท่านให้ระวังให้ดี
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
ถ้ามีน้ำมูก ไอ ส่วนใหญ่จะเป็นไวรัสครับ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาและไม่มียาด้วย ให้ดูแลตัวเองดีๆห็พอ แต่ถ้าไข้สูง ไม่ไอ คอแดงมากให้ระวังแบคทีเรีย มีโอกาสเป็นแค่ประมาณ 20 % อันนี้ต้องกินยาปฏิชีวนะ เพราะอาจพัฒนาเป็นโรคลิ้นหัวใจได้ครับ

 

รายการที่ 786 พระผงอายุยืน เนื้อพิเศษแก่ชานหมาก หลวงปู่สี ฉันทสิริ

ให้บูชาองค์ละ 600 บาทครับ เชิญเลือก มีสี่องค์ อันนี้นับเนื้อรองจากพระผงอายุยืนมีเกศา,จีวรครับ

พระของหลวงปู่สีมีพุทธคุณดี เพราะท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เทพโลกอุดร และสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
สหธรรมิกกับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

อาจารย์ของ หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่แหวน หลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ หลวงปู่บุดดา หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ฯลฯ

ขนาดเรียกว่า พระผงของลูกศิษย์ยังแซงอาจารย์เลยครับ

หลวงปู่แหวนเคยบอกว่า

ฮาเสก 3 เดือน บ่เท่าหลวงปู่สีเอามือกวนสามที ฮายังบ่เคยแตะต้องพระเลย

เป็นคำรับรองที่เข้าใจแจ่มแจ้งเลยครับ