คลังเรื่องเด่น
-
การปฏิบัติกรรมฐานคืออะไร :: หลวงพ่อชา สุภัทโท
บางคนคิดว่า การปฏิบัติกรรมฐานคือ
การเดินจงกรมและนั่งสมาธิเท่านั้น
แต่หลวงพ่อเน้นว่าการปฏิบัติอยู่ที่สติมากกว่าที่อิริยาบถ
อย่างที่ท่านเทศน์ในตอนหนึ่งว่า
“ไม่ใช่เดินเพียร นั่งเพียร แต่รู้เพียร”
คือ ฝึกให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อมทุกอิริยาบถ
ไม่ใช่เฉพาะเวลานั่งสมาธิ หรือเดินจงกรมเท่านั้นเคล็ดลับของท่านก็คือ
ปฏิบัติเรื่อยไปอย่างสม่ำเสมอ
ไม่เคร่งเกินไป แต่ก็ไม่หย่อน
ให้พอดีแก่การขัดเกลากิเลส
จึงจะเรียกว่า เป็นสัมมาปฏิปทา เพราะว่า
“การทำความเพียร ไม่ได้ขีดขั้น
จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน ได้ทั้งหมดนั้น
แม้กวาดลานวัดอยู่ก็บรรลุธรรมะได้
แม้แต่เพียงมองเห็นแสงพยับแดดเท่านั้น ก็บรรลุธรรมะได้
จะต้องมีสติพร้อมอยู่เสมอ
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
เพราะมันมีโอกาสที่จะบรรลุธรรมอยู่ตลอดเวลา
อยู่ทุกสถานที่ เมื่อเราตั้งใจพิจารณาอยู่”
นี่คือปฏิปทาในการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ใช่ทำเป็นเวลา แต่ต้องทำตลอดเวลา
อย่างที่หลวงพ่อท่านเรียกว่า “สติจำกาล”
ปฏิปทาที่ไม่ติดต่อสม่ำเสมอนั้นหลวงพ่อเปรียบเทียบว่า
“เหมือนหยดน้ำที่ไม่ต่อเนื่องกัน”
การฝึกสติของเราก็เช่นเดียวกัน
นาน ๆ นึกขึ้นได้ก็ตั้งสติเสียทีหนึ่ง... -
อธิษฐานบารมี จะทำให้เข้าถึงจุดหมายของความดีได้รวดเร็ว
... " การบำเพ็ญบารมีใด ๆ หรือสร้างความดีใด ๆ เราจะตั้งมโนปณิธาน ความปรารถนาหรือไม่ก็ตาม ถ้าความดีมากครั้งเข้า ในที่สุดความชั่วก็สลายตัวไป เราก็เข้าถึงพระนิพพานตามเจตนา หรือ ไม่เจตนาเราก็จะต้องเข้าถึง ในเมื่อความชั่วถูกตัด เป็นสมุจเฉทปหาน.
.. แต่ทว่า ถ้าปราศจาก "อธิษฐานบารมี" กว่าจะเข้าถึงจุดหมายปลายทาง ก็รู้สึกว่ามันเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือไม่ค่อยจะตรงนัก.
.. ฉะนั้น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงแนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัท ให้มี "อธิษฐานบารมี".
.. ในการที่ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ตั้งใจกล่าววาจาว่า : "อิมาหัง ภควา อัตตะ ภาวัง ตุมหากัง ปริจจะชามิ" แปลเป็นใจความว่า : ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.
.. นี่ก็หมายความว่า เราจะเอาชีวิตของเราเข้าแลกกับความดี ที่องค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงแนะนำไว้ อย่างนี้.
.. อาศัยเจตนา และความตั้งใจ จัดว่าเป็นอธิษฐานบารมี บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายจะเข้าถึงความดี ด้วยความรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง..."
( จากหนังสือ "รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ" เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๑๖ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี )... -
การกลับมาอีกครั้งของหลวงพ่อบามิยันในอัฟกานิสถาน
ขอบคุณYoutubeและเจ้าของช่องค่ะ -
หนีนรก เสียงธรรมเทศนาโดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ยอดคนฟังไปแล้วเกือบ 15 ล้านครั้ง
เสียงธรรมเทศนา เรื่อง หนีนรก โดย พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
ยอดคนฟังไปแล้วเกือบ 15 ล้านครั้ง
อ้างอิงจากเสียงธรรม
เว็บปรับปรุงใหม่ สะดวกขึ้น
-เสียงธรรมสามารถฟังได้ทันทีหรือโหลดเก็บไว้ฟังได้ ได้ทั้งทางมือถือและ PC
-ฟังในเมือถือ Android ปิดหน้าจอ เสียงก็ยังฟังได้
-อัพโหลดกดทีเดียวได้ 24 files สะดวกกว่าเมื่อก่อน
- เวลา upload file mp3 ระบบจะใส่ player ให้ทันที
01.หนีนรก-ตัดสังโยชน์ 3
02.หนีนรก-เล่าเรื่องมัฏฐกุณฑลีเทพบุตร
03.หนีนรก-เล่าเรื่องพระนางมัลลิกาเทวี
04.หนีนรก-เล่าเรื่องนางปติปูชิกา
05.หนีนรก-เล่าเรื่องโฆษกเทพบุตร
06.หนีนรก-เล่าเรื่องพระติสสะ
07.หนีนรก-พุทธานุสติกรรมฐาน
08.หนีนรก-อานิสงส์ของการนึกถึงพระพุทธเจ้าบ่อยๆ
09.หนีนรก-พุทธานุสติ
10.หนีนรก-พุทธานุสติ@16 ธันวาคม 2528
11.หนีนรก-ศึล 5 กรรมบท 10 ข้อ 1-ไม่ฆ่าสัตว์, ไม่ทรมานสัตว์
12.หนีนรก-ศึล 5 กรรมบท 10 ข้อ 1-ไม่ฆ่าสัตว์, ไม่ทรมานสัตว์@16 ธันวาคม 2528
13.หนีนรก-ศึล 5 กรรมบท 10 ข้อ 1-ไม่ฆ่าสัตว์, ไม่ทรมานสัตว์@18 ธันวาคม 2528
14.หนีนรก-ศีล 5 กรรมบท 10 ข้อ 2-ไม่ลักทรัพย์
15.หนีนรก-ศีล 5 กรรมบท 10 ข้อ... -
วิธีฝึกจิตให้มีพลัง พระธรรมเจติยาจารย์(วิริยังค์ สิรินธโร)
วิธีฝึกจิตให้มีพลัง
ต่อไปนี้ขอให้ท่านทั้งหลายตั้งใจที่จะทำความสงบกันต่อไป ในเบื้องต้นนี้อาตมาจะเป็นผู้นำ ทุกๆ คนให้ว่าตาม
ข้าพเจ้า ระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ จงมาดลบันดาล ให้ใจของข้าพเจ้า จงรวมลงเป็นสมาธิ พุทโธ ธัมโม สังโฆ (3ครั้ง) พุทโธ พุทโธ พุทโธ
นี่ก็ให้นึกไว้ในใจ นั่งขัดสมาส ขาขวาทับขาซ้าย มือขวาหงายทับมือซ้าย วางไว้บนตัก หลับตา นึกพุทโธในใจ กำหนดใจของเราไว้ที่ใจ การทำสมาธิ ต้องการความเป็นหนึ่ง ความเป็นหนึ่งเป็นต้นเหตุของการที่จะให้เกิดพลังจิต พลังจิตนั้นก็คือ กระแสธรรม ทำอย่างไรพลังจิตของเราจะเกิดขึ้นได้
การทำจิตให้เป็นหนึ่ง คือการที่จะทำจิตนี้ให้เกิดพลังจิต พลังจิตนี้ ที่จะเป็นกำลังที่จะทำวิปัสสนาต่อไปในกาลข้างหน้า แต่การที่จะเป็นหนึ่งได้นั้น ต้องอาศัยคำบริกรรม คำบริกรรมนั้น อย่างที่เราบริกรรมว่าพุทโธๆ เป็นคำบริกรรม ผู้ที่นึกพุทโธได้แล้ว ถือว่าจิตนั้น เริ่มที่จะเข้าเป็นหนึ่ง เมื่อจิตเป็นหนึ่งได้แล้ว พุทโธก็ไม่ต้องนึก
เมื่อเราไม่นึกพุทโธ แต่ว่าจิตของเราเป็นหนึ่งได้ ก็ถือว่าจิตของเราได้เลื่อนไปอีกขั้นนึง... -
สมาธิในพระพุทธศาสนา (พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร (หนังสือ)
สมาธิในพระพุทธศาสนา
พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศ
ด้านล่างคือหนังสือ (eBook)
http://palungjit.org/attachments/สม...4/?temp_hash=9e3892239aa61048d6cf8e3019ac6811 -
ฮือฮากันทั้งโลกโซเชียล เมื่อฝรั่งสวดมนต์บทธัมมจักฯได้คล่องปาก
ฮือฮากันทั้งโลกโซเชียล เมื่อฝรั่งสวดมนต์บทธัมมจักฯได้คล่องปาก
#โลกโซเชียลฮือฮา! #ฝรั่งสวดธัมจักกัปปวัตตสูตรได้คล่อง
ส่วนตัวเจ้าของ ได้พูดว่า "ผมชอบ สวดธัมมจักกัปปวัตตสูตร แล้วมีความสุข ผมสวดทุกวันครับ หลวงพ่อบอก สวดได้ทุกที่ เพราะพระอยู่ที่ใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและ"
อนุโมทนาบุญอย่างยิ่ง ได้เห็นชาวต่างชาติสนใจศึกษาธรรมะ กฎแห่งกรรม บุญกับบาปโทษมีจริง
Cr.Meditation Sydney Corner
ขอบคุณภาพวีดีโอ -
เหตุที่ทำให้พระสีวลีมีลาภมาก - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
เหตุที่ทำให้พระสีวลีมีลาภมาก
ถาม : ...........
ตอบ : ลักษณะการทำบุญปิดท้ายจะมีลาภมากแบบพระสีวลี ลูกศิษย์หลวงพ่อรุ่นเก่าๆ จะรู้ดี ทำบุญปิดท้ายไปเรื่อย ปิดไม่รู้จักจบ คนโน้นปิดคนนี้ก็ปิดต่อไปเรื่อย เพราะว่าพระสีวลีท่านทำบุญปิดท้ายรายการบุญใหญ่ของเขา ท่านจึงมีลาภมาก
เนื่องจากว่าสมัยนั้นท่านเกิดเป็นคนจน มีอาชีพตัดฟืนอยู่ในป่า ตอนนั้นระหว่างชาวบ้านกับพระราชาเขาแข่งกันอยู่ แข่งกันทำความดีถือว่าน่าสรรเสริญ ชาวบ้านกับพระราชาเขาแข่งกันทำบุญ ลักษณะว่าใครทำบุญถวายพระพุทธเจ้าได้ดีกว่ากัน พอถึงเวลาพระราชาท่านก็จัดโน่นจัดนี่มาให้ดีกว่าชาวบ้าน ทีนี้กำลังของพระราชาเองถ้าไม่เกณฑ์ชาวบ้านนี่จะเอาดีก็คงจะไม่เท่าไร ชาวบ้านพอสู้ได้เพราะคนเยอะกว่าก็ช่วยกันสรรหามา
จนกระทั่งถึงครั้งสุดท้ายชาวบ้านเขากะจะเกทับให้พระราชาไม่มีโอกาสกระดิก ทำบุญครั้งนี้จะหาของทุกอย่างที่พึงจะถวายพระมาให้ครบ ปรากฏว่าพอหามาแล้วขาดน้ำผึ้งสดจากรวงอย่างเดียว น้ำผึ้งเก่ามีแล้ว อยากจะได้ที่คั้นสดๆ ถวายพระเลย บรรดาที่เป็นหัวหน้าท่านก็ประกาศให้ลูกน้องนำเงินคนละ ๑ พันกหาปณะไปยืนรอที่ประตูเมืองทั้ง ๔ ทิศ ใครมีรวงผึ้งสดมาให้ขอซื้อจากเขา... -
"เสียงสวดมนต์และเจริญเมตตาทำให้รู้สึกมีแต่ความสุขสงบ" จนเทพนาคาต้องมากราบชมบารมีหลวงปู่ชอบที่ถ้ำแม่ริม
"เสียงสวดมนต์และเจริญเมตตาทำให้รู้สึกมีแต่ความสุขสงบ" จนเทพนาคาต้องมากราบชมบารมีหลวงปู่ชอบที่ถ้ำแม่ริม
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า “มีอยู่ครั้งหนึ่งอาตมาได้เคยเดินท่องธุดงค์ ไปกับหลวงปู่ชอบ ฐานสโม และหลวงปู่ขาว อนาลโย กับพระหนุ่มติดตามอีกรูปหนึ่ง ได้ชวนกันไปหาวิเวกตามป่าเขาและถ้ำในเขตอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ช่วงนั้นสงครามโลกครั้งที่ ๒ เพิ่งจะยุติ สงบลงใหม่ๆได้พากันธุดงค์ไปจนพบสถานที่เหมาะสมบนเขาสูงลูกหนึ่งที่นั่นอากาศดี สงบ เงียบ ไม่มีอะไรรบกวน ชาวบ้านก็เอื้อเฟื้อ ศรัทธาดี ส่วนใหญ่เป็นพวกชาวแม้ว ก็ได้ทำการอบรมชี้แนะให้พวกชาวแม้วรู้จักทำบุญกับพระในพระพุทธศาสนา จนพวกนั้นเกิดความเลื่อมใส
เสียงสวดมนต์และเจริญเมตตานั้นทำให้รู้สึกเย็นอกเย็นใจ มีแต่ความสุขสงบ วันนี้ข้าพเจ้าอดรนทนไม่ได้ จึงมาขอกราบชมบารมีของพวกท่านสักครั้ง
ตกกลางคืนก็จะมีพวกกายทิพย์ คือ เทวดานี่แหละ มากราบคารวะขอฟังธรรมกันมากหลวงปู่ชอบท่านมีตาดี จิตดี พวกนั้นจึงพากันมามากก็สงเคราะห์ไปเท่าที่สมควร
วันหนึ่งขณะที่อาตมากับหลงปู่ชอบกำลังเดินจงกรม ภาวนาอยู่... -
เหลือเชื่อ!! "วิชาเด็ด หลวงปู่ศุข" สอนเสด็จเตี่ย ขี่มะพร้าวแทนเรือ แถมแล่นได้เร็วยิ่งกว่าเรือจริง !
เหลือเชื่อ!! "วิชาเด็ด หลวงปู่ศุข" สอนเสด็จเตี่ย ขี่มะพร้าวแทนเรือ แถมแล่นได้เร็วยิ่งกว่าเรือจริง !
◎ กรมหลวงชุมพรฯ ทรงใช้มะพร้าวขี่แทนเรือ ◎
เรื่องนี้เป็นวิชาหนึ่งซึ่งกรมหลวงชุมพรฯ ได้เรียนจากหลวงพ่อศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อเรียนเสร็จแล้วจึงได้ทดลองทำที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยเหตุที่กระทำในตอนกลางวันจึงมีผู้ยืนดูอยู่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ รวมทั้งผู้เล่าซึ่งกำลังบวชเป็นพระอยู่
เรื่องนี้ผู้เล่าคือนายเนตร แพ่งกลิ่น อายุ ๘๕ ปี ( เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕ ) บ้านใต้วัดพิกุลงาม ตำบลธรรมามูล อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ผู้เล่าบวชอยู่กับหลวงพ่อศุขที่วัดปากคลองวัดมะขามเฒ่า ๗ พรรษา ทำหน้าที่ “เลขานุการ” ของหลวงพ่อศุขสืบแทนพระพี่ชายที่สึกไป เคยร่วมไปที่วังกรมหลวงชุมพรฯ กับหลวงพ่อศุข รวม ๖ ครั้ง ผู้เล่า ๆ ให้ฟังเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม พศ. ๒๕๒๒ และได้สอบถามเพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้ความดังต่อไปนี้
วันหนึ่งเวลาเช้า พระเนตรออกบิณฑบาตไปทางทิศใต้ของวัดปากคลองมะขามเฒ่า มีพระบิณฑบาตทั้งหมด ๒๙ องค์... -
ตำราน้ำมนต์กันเสนียด พระราชนิพนธ์ในพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตำราน้ำมนต์กันเสนียด พระราชนิพนธ์ในพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จากสมุดคัดลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ
ประวัติของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ว่าเกี่ยวข้องกับพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างไร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงประทานอวยพรเป็นภาษาบาลีคาถาดังจะอธิบายต่อไปนี้
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ขัติยพิศาลสุรบดีบรมราชินีศรีพัชรินทรภราดร สโมสรอเนกนิติปรีชา มหาสุมันตยานุวัตรวิบูลย์ ไพรัชราชกิจจาดุลย์สุนทรปฏิญาณ นิรุกติญาณวิทยาคณาทิศาสตร์ โหรกลานุวาทนานาปกรณ์ เกียรติกำจรจิรกาล บริบูรณ์คุณสารสมบัติ สุจริตสมาจารย์วัตรมัทวเมตตาชวาธยาศรัย ศรีรัตนไตรสรณธาดา กัลยาณธรรมมิกนาถบพิตร ทรงพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ประสูติในพระบรมมหาราชวัง เมื่อ ณ วันเสาร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๐๑
___________แลเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระนามนั้น พระราชทานพระพรด้วยคาถาพระราชนิพนธ์ดังต่อไปนี้
เทวญฺญตโรทยวํโส__________อิติ เสฏฺฐาภิเธญฺยโต
นามํ โหตุ กุมารสฺส__________อมสฺเสว ปิยสฺส เม... -
สุดยอด! พระคาถาอัญเชิญญาณบารมี "หลวงปู่สรวง" ไว้ป้องกันภัย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ...สาธุ!!
สุดยอด! พระคาถาอัญเชิญญาณบารมี "หลวงปู่สรวง" ไว้ป้องกันภัย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ...สาธุ!!
พระอาจารย์บุญช่วยเมตตาให้พระคาถาเชิญญาณบารมีหลวงปู่สรวง และอนุญาตให้เผยแพร่ได้ คาถานี้ท่านเล่าว่าต้องขึ้นไปบนเขากุเลนจากนั้นอาจารย์จันตึ๊บจึงบอกคาถาให้ เนื้อความคาถามีดังนี้
๑ ท่องนะโม ๓ จบ
๒ อิลิเมี๊ยะอ็องสรวงสัมปันโน อิติปิโส นะโมพุทเธียเยีย อิสวาสุติมหาบันดาลสัจจัง อิริกิเป
๓ ให้หมั่นภาวนา คาถา "อะกรึงกะ" คำนี้กันภัยได้ ท่องประจำให้เกิดญาณหยั่งรู้ว่าภัยจะมาเมื่อไหร่ หลงหลีกป้องกันได้ทุกประการ
๔ ท่องภาวนาคำว่า "บายตึ๊กเจีย" ทำให้ร่มเย็นเป็นสุข มีเงินมีทองไม่ขาด
หลวงพ่อบุญช่วยท่านเล่าว่า ทั้ง ๔ ท่านคือ หลวงปู่สรวงหรือลูกตาเบ๊าะ หลวงปู่สะเดิงหรือดาบสจันตึบ หลวงปู่รชรัตน์ หลวงปู่พระองค์พลึง เป็นผู้สำเร็จธาตุ ๔ ดินน้ำลมไฟ เป็นผู้เหนือโลก แต่บำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ โปรดผู้หวังดีต่อพระศาสนา
ท่านจะอยู่จะตายสุดแท้แต่ท่านและทุกท่านสำเร็จวิชาตายคืน คือตายแล้วทิ้งร่างก็ได้ประกอบร่างใหม่เอา หรือเอาดวงจิตไปไว้ที่ร่างไหนๆก็ตามสะดวก ศาสตร์นี้คือสุดยอดของวิญญาณศาสตร์ที่แต่โบราณผู้สำเร็จมีน้อย... -
เรื่องใดที่ควรแก้ไขก่อนเพื่อให้เข้าถึงความเจริญ ?
คนเรานั้นมีความเข้าใจ และสติปัญญาต่างกันอย่างไรก็ตามการจะเข้าถึงความเจริญก้าวหน้าของชีวิตคือ การเดินรอยตามอริยมรรคมีองค์ 8 นั้น "ความเห็นผิด" หรือ มิจฉาทิฐิเป็นเรื่องแรกที่ต้องแก้ไข
หากเราไม่แก้ไขเรื่องนี้ก่อนเสียแล้ว ทำอะไรก็จะผิดไปทั้งหมด คือเข้าใจผิดแต่ต้นก็ย่อมทำผิดแต่ต้น เหมือนคนจะเดินทางไปภาคเหนือ แต่กลับเข้าใจว่าทิศใต้คือทิศเหนือ เดินอย่างไรก็คงไม่มีวันถึง
มีเจ้านครเสตัพยะผู้หนึ่ง นามว่า "ปายาสิ" หรือพระเจ้าปายาสิธิราช มีความเห็นผิดอันเป็นภัยร้ายกาจต่อพระศาสนาและระบบศีลธรรมจรรยา คือ พระองค์เชื่อว่า นรกสวรรค์ไม่มีจริง บุญบาปไม่มี ชาติก่อนชาติหน้าไม่มี
ปายาสิธิราชเป็นกษัตริย์นักพูด มีวาทะคารมคมคาย จึงสามารถหักล้างทฤษฎีของสมณพราหมณ์ได้เป็นจำนวนมาก พระเถระอรหันต์หลายต่อหลายรูป ท่านก็หมดกิเลสไปเท่านั้นแต่ไม่มีปฏิภาณปัญญาจะไปโต้ตอบกับเธอได้ จึงถอยห่างออกไป
พระกุมารกัสสปะ เป็นผู้เดียวที่มีความสามารถในการไขปัญหาได้ และท่านเป็นพระอรหันต์ จึงจำต้องไปโต้วาทะกับปายาสิราชันย์ ใช้เหตุใช้ผลอธิบายประกอบอุปมาอุปไมย ในประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ของปายาสิธิราช
เจ้าปายาสิเชื่อว่านรกไม่มี... -
แม่ชีอรหันต์ คุณย่าชี นารี การุณ อายุ 123 ปี อัฐิคุณย่าแปรสภาพเป็นพระธาตุทันทีหลังจากประชุมเพลิงเสร็จ
คุณย่าชีนารี การุณ อายุ 123 ปี แม่ชีอรหันต์
คุณย่าชีนารีได้สมรสกับนายวันดี ซึ่งมีลูกด้วยกัน 6 คน เป็นหญิง 4 ชาย 2 พอคุณย่าชีนารีอายุครบ 40 ปี ก็มีอารมณ์อยากจะบวชโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนหน้านั้นท่านได้พบองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ
องค์หลวงปู่มั่นได้เดินธุดงค์ไปพักอยู่ใกล้บ้านๆและได้สอบถามถึงครอบครัวแล้วท่านก็จากไป
คุณย่าจึงขออนุญาตนายวันดีออกบวช นายวันดีให้ข้อแม้ว่าคุณย่าต้องหาภรรยาให้ซัก 3 คน เมื่อถึงวันบวชนายวันดีก็อนุญาตให้ออกบวช หลวงปู่มั่นท่านทราบด้วยญาณจึงส่งพระมา 3 รูป
คือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงพ่อสมบูรณ์ ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก พร้อมด้วยบริขารมาทำการบวชให้ คุณย่าหลังจากบวชชีแล้ว ได้อยู่ปฏิบัติกับหลวงปู่มั่น โดยท่านให้อุบาย ให้คุณย่าภาวนา นะโมและพุทโธ
ท่านภาวนาท่านเห็นอดีตชาติขององค์ท่านเองว่าเคยเกิดเป็นชาวรัฐเซีย ไต้หวัน กษัตริย์ ทหาร แต่ไม่เคยเกิดเป็น 3 อย่างคือ เสือ ไส้เดือน กิ้งกือ
หลังจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ นิพพาน ได้มีการจัดงานประชุมเพลิงที่วัดป่าสุทธาวาส
คุณย่าเล่าให้ฟังว่าในงานประชุมเพลิงมีเทพธิดามาร่วมถวายเพลิง 30,000 องค์ ท้าวมหาพรหม 6 องค์ เทพบุตรมา 2... -
พุทธภูมิต้องขยันเกิด ( พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน )
พุทธภูมิต้องขยันเกิด
ถาม : อย่างเวลาพวกพุทธภูมิตายจากสภาพความเป็นมนุษย์ ถ้าไม่ลงนรก ขึ้นไปบนสวรรค์เขาว่าจะเป็นพรหมเทวดา แล้วเขาจะมีเวลา.....หมายความว่าช่วงระยะเวลาหรือจะมีคนมาเตือนว่าให้ลงมาเกิดอีกหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ก็ต้องดูด้วยนะ ว่าของเราเองมีเพื่อนฝูงที่รักกันขนาดนั้นหรือเปล่า ? ถ้าหากว่าไม่มีเขาก็ไม่มาเรียกเตือนคุณหรอก คุณอยากสร้างบารมีคุณก็ตะเกียกตะกายของคุณเองก็แล้วกัน
ถาม : แล้วลงมาจุติได้ตลอดเวลาหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านจะขยันเกิด ในเมื่อท่านจะขยันเกิดนี่ส่วนใหญ่ท่านจะไม่อยู่นานหรอก มันเสียเวลาสร้างบารมีของท่าน
ถาม : สามารถลงมาเกิดได้เลย ?
ตอบ : กำลังของคุณสูง ต้นทุนของคุณมี คุณจะซื้อตั๋วใส่กระเป๋าไปเพื่อจะเดินทางเมื่อไหร่ก็ได้คนมีตังค์น่ะ
บางส่วนจาก…
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนกันยายน ๒๕๔๔ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
-----------------------------------------------------------------------------
https://www.facebook.com/ชมรมรักษ์ธรรม-chomromrakdham-134565886589151/ -
ปรมัตถธรรม เมื่อเข้าใจธรรมะปรมัตถ์นี้เมื่อไร จิตนั้นก็ถือว่าสูงแล้ว บุคคลผู้นั้นจะเป็นบุคคลที่ไม่มีการตกต่ำ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร
ปรมัตถธรรม
ญาณทัศนะ นอกจากที่ว่าจะมีความหยั่งรู้แล้ว ก็ยังมีความเห็น
คือนอกจากจะรู้แล้วก็เห็นด้วย หลับตาลงไปเห็นสัจธรรมไปเลย
ในที่สุดท้ายคือ ปฏิปทาญาณะ ผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ทำด้วย รู้ด้วย เห็นด้วย ทั้ง ๓ ประการเกิดขึ้นพร้อมกัน
อย่างนี้เรียกว่า "วิสุทธิ ๗ ประการ"อันเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึงผู้นั้น ได้ดำเนินวิปัสสนาเป็นผลสำเร็จขึ้นแล้ว ในเรื่องของสมถะก็ดี ในเรื่องของวิปัสสนาก็ดีในเรื่องของ วิสุทธิ ๗ ประการก็ดี
ทั้งหมดนี้จะไปรวมกันกลับกลายเป็น "องค์แห่งการตรัสรู้"
องค์แห่งการตรัสรู้นั้นมีอยู่ ๗ ประการ คือ โพชฌงค์ ๗
โพชฌงค์ คือ องค์แห่งการตรัสรู้ นับไปตั้งแต่ โพชฌงค์ คือ สติโพชฌงค์ สติโพชฌงค์ปีติโพชฌงค์ ปัสสัทธิโพชฌงค์ วิริยโพชฌงค์ ไปจนกระทั่งถึง อุเบกขาโพชฌงค์ โพชฌงค์ คือ องค์แห่งการตรัสรู้นั้น ต้องมีสติเรียกว่าความมั่นคงแห่งสติ
ความมั่นคงแห่งสตินั้น สติจะต้องกำหนดอยู่ในอนิจจัง ในทุกขัง ในอนัตตา คือ สตินั้นจะกำหนดอยู่ในไตรลักษณ์ตลอดเวลา
เมื่อสติกำหนดอยู่ในไตรลักษณ์ตลอดเวลา ก็เป็นองค์แห่งการตรัสรู้
อันนี้เรียกว่าเป็นองค์แห่งการตรัสรู้ องค์แห่งการตรัสรู้นั้น คือการ ภาวิโต พหุลีกโต... -
พระพุทธพยากรณ์ที่ภูกระดึง : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
พระพุทธพยากรณ์ที่ภูกระดึง
วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๒๓
หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า เราเกิดบนภูกระดึงแห่งนี้มา ๓ วาระแล้ว ในสมัยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "พระโกนาคม" เราเกิดบนภูกระดึงแห่งนี้ มีเนื้อที่ ๔ หมื่นไร่เศษ มีสภาพเป็นเกาะกลางทะเล ท่านปู่ และท่านย่าอินทิรา เป็นกษัตริย์ปกครองดินแดนนี้ มีลูกชายต่อมาได้เป็นพระราชาแทนพระราชบิดา สำหรับพระราชาองค์นี้ปรารถนาพระโพธิญาณอยู่ มีน้องชายเป็นพระเจ้าอนุราช มีนามว่า พระเจ้าวชิระราชา ชื่อเล่นว่า เจ้าชายตุ่ม(พลตรีศรีพันธ์ แดง วิชชุพันธ์) เพราะตอนเด็กอ้วน โตแล้วไม่อ้วน
ในสมัยนี้เอง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโกนาคม เสด็จมาโปรดบนภูกระดึง มาประทับที่พระราชวังซึ่งทำด้วยไม้ธรรมดาๆ ไม่ใหญ่โตนัก เป็นสถานที่รับรองสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เวลานั้นประชาชนมีศีล ๕ กันเป็นส่วนมาก องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงเทศน์โปรดให้ฟัง...ถึงตอนไหน ภาพก็ปรากฎแก่ผู้ฟังด้วยอำนาจพุทธานุภาพ
⛤⛤พระองค์ตรัสว่า "...ตอนพวกเราเป็นเทวดามีรูปร่างอย่างไร มีวิมาน ทิพยสมบัติเป็นประการใด ก็มีภาพในตอนที่เราเป็นทวดาปรากฏทันที เราเคยเกิดเป็นพรหมแล้วกี่ชาติ แต่ละชาติมีรูปร่างอย่างไร มีวิมาน... -
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เล่าถึงความน่าอัศจรรย์เรื่องสวดมนต์ที่พม่า
พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ได้เล่าถึงเรื่องการสวดมนต์ ไหว้พระให้พระเณรฟังว่า
" การสวดมนต์ไหว้พระนั้น ถึงแม้ว่าเราจะออกเสียงหรือไม่ออกเสียงก็ตาม พวกเทพเจ้าเหล่าเทวดาเขามีหูทิพย์ตาทิพย์ เขาก็จะได้ยินเสียงที่เราสวดมนต์ไหว้พระด้วยพระสูตรต่างๆ"
เมื่อเขาได้ยิน เขาก็จะเกิดความปีติยินดีในการสวดมนต์ไหว้พระกับเรา เขาก็จะพากันมาร่วมอนุโมทนาบุญกับเราด้วย ถ้าจิตเราสงบลงไปบ้างสักเล็กน้อย เราก็จะได้ยินเสียงที่เขามาอนุโมทนากับเรา เสียงที่เขาเปล่งสาธุการนั้นมันดังปานฟ้าสิถล่มทลายลงมาทับดิน "
หลวงปู่ ได้เล่าเรื่องที่ท่านเที่ยววิเวกในเมืองพม่า ดังนี้
" ครั้งหนึ่ง เราพักจำพรรษาที่บ้านยางแดง ประเทศพม่า วัด ที่เราอยู่นั้นมันมีศาลาอยู่เพียงหลังเดียว และศาลานี้ก็มีเสาอยู่ตรงกลางต้นเดียว เราให้เขากั้นห้องเป็นสองห้อง ห้องหนึ่งเราเอาไว้พัก อีกห้องหนึ่งเราก็เอาไว้นอน ตรงกลางศาลา จะมีแท่นบูชาพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอยู่หนึ่งองค์ สูงประมาณศอกหนึ่ง พระพุทธรูปองค์นี้แกะสลักจากไม้สัก
ในแต่ละวันเราก็อาศัยสวดมนต์ไหว้พระอยู่หน้าพระประธานองค์นี้แหละ
คืนนั้น เรากำลังไหว้พระสวดมนต์อยู่ดีๆ... -
"อ่อนโยน เมตตา คือ มนต์ขลัง"
ความเมตตากรุณา อย่างหาที่สุดไม่ได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช นั้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนตลอดมา ทรงเปี่ยมด้วยน้ำพระทัยอันเมตตาสูงสุด
พระองค์ไม่เคยรีรอที่จะช่วยเหลือประชาชนเวลาที่ตกทุกข์ได้ยาก นอกจากนั้นพระองค์ยังมีความอ่อนน้อมถ่อมพระองค์เป็นอย่างมาก ครั้งหนึ่งพระองค์ได้เสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของพระองค์ตามปกติที่ต่างจังหวัด
ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย พอพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาทแล้วก็เอามือมา จับพระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่า
"ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวงรัชกาลที่9"
แล้วก็พูดว่ายายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรง เฉย ๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร
แต่พวกข้าราชบริภารก็ มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่ แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิง ชราคนนั้น ก็ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหวเพราะ พระองค์ทรงตรัสว่า
"เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิ ถึงจะถูก"... -
บุญใหญ่จริงๆ ขอเชิญร่วมบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุท่าอุเทนศักดิ์สิทธิ์คู่สองแผ่นดินอายุกว่า 105 ปี
ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยและทั่วโลก ร่วมเป็นเจ้าภาพบูรณปฏิสังขรณ์ “พระธาตุท่าอุเทน” พระพุทธสาริกธาตุเจดีย์ ริมฝั่งแม่น้ำโขง สัญลักษณ์แห่งแรงศรัทธาของสองแผ่นดิน ไทย~ลาว อายุกว่า 105 ปี
#สร้างโดย “พระอาจารย์สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน” พระอริยะผู้สำเร็จสี่ธาตุ พระสุปฏิปันโนที่คนไทยและลาวมีความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง กว่า 105 ปีแล้วที่พระธาตุท่าอุเทน ประดิษฐานตระหง่านริมแม่น้ำโขง คู่คนไทยลาว อันผ่านร้อน ฝน หนาว จึงทำให้องค์พระธาตุเสื่อมโทรมตามกาลเวลา
"หลวงปู่สีทัตถ์" สร้างพระธาตุท่าอุเทน ด้วยหินแก้วนางฝาน"ธาตุกายสิทธิ์"!! ว่ากันว่าผู้มีบารมีเท่านั้นที่ทำได้!!!!
การสร้าง “พระธาตุท่าอุเทน” นั้น หลวงปู่สีทัตถ์ท่านมีความสามารถสร้างเหมือนพระธาตุพนมสมัยก่อนได้ทั้งๆ ที่ฐานรองรับก็เพียงขุดหลุมแล้วใส่หินนางเรียง หรือหินแก้วนางฝาน เป็นฐานรองรับพระธาตุซึ่งยังไม่ทรุดแต่ประการใด และมีอายุยาวนานมากว่า ๑๐๐ ปีแล้ว
นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์มิใช่น้อยที่คนในสมัยนี้คงไม่มีบารมีก่อสร้างได้เช่นท่าน เพราะการนำเอาหินแก้วนางฝานหรือแก้วนางเรียง... -
เรื่องจริง เศรษฐีเกิดเป็นลูกขอทาน
(ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต)
เรื่องจริงที่เกิดขึ้นเป็นเวลา ๓๐ กว่าปีแล้ว ตั้งแต่อาตมา
อยู่วัดพรหมบุรีโน้น
มีเศรษฐีบ้านหนึ่ง สองสามีภรรยามีลูก ๕ คน มีนา ๓,๐๐๐ กว่าไร่
มีข้าวของเยอะ สอนลูกนักสอนลูกหนาว่า ขอทานมาอย่าให้มันนะ
ตาดี หูดี เท้าดี มือดี อย่าไปให้มันกิน
บาตรก็ไม่อยากใส่ ขี้เหนียว ขี้ตืด ขี้ตัน สอนลูกหลานตลอดมาว่า
อย่าไปให้มันกินนะ อย่าไปใส่บาตรมัน เสียเงินเสียทอง เสียข้าว
เสียของ เสียเวลาเหลือเกิน
เราประกอบอาชีพการงาน ก็เหลือกินเหลือใช้ ไม่ต้องไปทำบุญ
ไม่ต้องไปทำทาน สอนลูกอย่างนี้ตลอดมา ถ้าขอทานเข้าบ้าน
ไล่แห่ไปเลย ถ้าพระมาเรี่ยไรก็ไล่แห่ไป หาว่าเสือเหลืองเข้ามา
เปลืองเวลา ขอทานเข้าตามตรอก ออกตามประตู ก็บอกว่า
บ้านนี้ไม่ทำบุญ ไล่ไปเลย ทำนองนี้เป็นต้น เดี๋ยวนี้ยังมีตระกูล
หลานอยู่
เล่าให้โยมฟัง เป็นเรื่องทรงจำใจดีกำหนดจดจำไว้ ขี้เหนียว
อำนาจของโลภะ ต้องเป็นเปรตแน่นอน ขอทานมาไล่ พระมาบิณฑบาตก็ไม่สนใจ ไม่อยากจะใส่บาตรแต่ประการใด
และสอนลูกทุกวัน อย่าไปทำบุญ อย่าไปทำทาน ขอทานมา
ไล่แห่มันไป พวกขี้เกียจหากิน ขี้เกียจประกอบอาชีพการงาน
ในเวลากาลต่อมา เศรษฐี... -
หลวงปู่หมุน ศักดิ์สิทธิ์ทั้งร่าง!!! แม้แต่เส้นเกศายังตัดไม่ขาด ต้องรอคำสั่งจากเบื้องบน...สาธุ อมตะเถระ 5 แผ่นดิน!
หลวงปู่หมุน ศักดิ์สิทธิ์ทั้งร่าง!!! แม้แต่เส้นเกศายังตัดไม่ขาด ต้องรอคำสั่งจากเบื้องบน...สาธุ อมตะเถระ 5 แผ่นดิน!
หลวงปู่หมุนเพชรน้ำหนึ่งแห่งวิถีพุทธะ อมตะมหาเถระ ๕ แผ่นดิน
ในปัจจุบันครูบาอาจารย์ที่มีกฤติยาคมและวัตรปฏิบัติอันเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใส มีปรากฏอยู่ไม่ขาดสายในสยามประเทศของเรา ดินแดนอันได้ชื่อว่าอยู่ในร่มเงาแห่งพุทธศาสนา ครูบาอาจารย์หลายท่านในไทยเปรียบดังเพชรเม็ดงาม ซึ่งเป็นที่พึ่งอันร่มเย็นทั้งกายใจกับสาธุชนทั้งหลายเนิ่นนานมาหลายต่อหลายชั่วอายุคน
หนึ่งในครูบาอาจารย์ผู้ทรงตบะบารมี และมีจริยวัตรอันงดงาม ซึ่งเป็น นั้น ได้แก่ พระปรมาจารย์ อมตะเถระ ๕ แผ่นดิน “หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล” ปัจจุบันพระเครื่องและเครื่องรางของขลังของท่านได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และแม้ว่าทท่านจะละสังขารไปหลายปีแล้วก็ตาม ปัจจุบันก็ยังมีลูกศิษย์ลูกหาที่หน้าใหม่ๆ ที่หันมาศรัทธา กราบไหว้ มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่ทันได้พานพบกับหลวงปู่เลยในชีวิต แต่ความศรัทธานั้น เป็นสิ่งเชื่อมต่อครูบาอาจารย์อย่างดียิ่ง เมื่อศรัทธาขอบารมีหลวงปู่แล้ว... -
"หลวงปู่ชอบ ฐานสโม" อริยสงฆ์ที่กล่าวขานว่าเป็นอรหันต์ เมตตาเล่าเรื่องขณะเข้าญาณแล้วระลึกชาติ
"หลวงปู่ชอบ ฐานสโม" อริยสงฆ์ที่กล่าวขานว่าเป็นอรหันต์ เมตตาเล่าเรื่องขณะเข้าญาณแล้วระลึกชาติ
สำหรับญาณการระลึกรู้อดีตชาติที่ศิษย์ผู้ใกล้ชิด ผู้ใฝ่ในการปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ได้เคยขอโอกาสกราบเรียนถาม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม แล้วท่านก็ยอมเล่าให้ฟังบ้าง
โดยท่านเล่าว่า ท่านไม่ได้ระลึกชาติได้มากมายอะไร เหมือนดังที่สมเด็จพระพุทธองค์ทรงระลึกได้อเนกชาติหาประมาณมิได้นั้น เพราะท่านทรงมหาสติ มหาปัญญา มหาบารมี สำหรับท่านนี้ เท่าที่ระลึกได้
1.ท่านไม่เคยเป็นกษัตริย์ มักจะเป็นแต่คนทุกข์ยากเสียมากกว่า เช่นเคยเกิดเป็นพ่อค้าขายผ้าชาติลาว ออกเดินทางมากับพ่อเชียงหมุน (อุปัฏฐากคนหนึ่งในชาตินี้) ข้ามแม่น้ำโขงมาฝั่งนี้ มาทานผ้าขาวหนึ่งวา และเงินเป็นมูลค่าประมาณเท่ากับ ๕๐ สตางค์ ในปัจจุบันนี้ บูชาถวายพระธาตุพนม พร้อมทั้งอธิษฐานขอให้ได้บวช ได้พ้นทุกข์ ท่านเล่าว่า ท่านเคยมาสร้างพระธาตุพนมด้วย สมัยพระมหากัสสปเถรเจ้า พระธาตุพนมนี้สร้างก่อนพระปฐมเจดีย์
2.ท่านเคยเกิดเป็นคนยางอยู่ในป่า เคยเกิดเป็นทหารพม่า มารบกับไทย ยังไม่ทันฆ่าคนไทย ก็ตายเสียก่อน เคยเกิดอยู่เมืองปัน พม่า... -
เจอเพศตรงข้ามที่รู้สึกว่ามีแรงดึงดูดมหาศาล
ถาม : เจอเพศตรงข้ามที่รู้สึกว่ามีแรงดึงดูดมหาศาล อยากเจอหน้า อยากอยู่ใกล้ เหมือนกับว่าเขาเป็นเจ้าหนี้เรา เราควรจะใช้กรรมให้เขาเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามวาระหรือไม่ หรือไม่ควรสนใจเลย ?
ตอบ : หนีสุดชีวิต ไม่รู้ไม่เห็นได้เป็นดีที่สุด พ้นวาระกรรมก็จะหมดแรงดึงดูดไปเอง ขืนไปใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ กว่าจะหมดก็ทั้งชาตินี้และอีกหลายชาติ..!
คำสอนพระคุณหลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
สิงหาคม ๒๕๕๗
-------------------------------------------
เครดิต -
ประสบการณ์เจอกับตัว หลวงพ่อกล่อม วัดขนอน พุทธคุณจำจนตาย
ออกตัวก่อนว่าผมเพิ่งไปอ่านเจอเรื่องนี้มาจากเวปพันทิป อ่านแล้วประทับใจมาก ประทับใจจนต้องรีบไปประมูลวัตถุมงคลหลวงพ่อกล่อมมาบูชาทันที(รอปิดประมูลอยู่) ถึงจะไม่ทันท่านเสก (รวมถึงวัตถุมงคลในเรื่องนี้ด้วยที่ไม่ทันท่าน) แต่เชื่อขนมกินได้แน่นอน ลองอ่านดูครับ ...........
ประสบการณ์เจอกับตัว พุทธคุณ " หลวงพ่อกล่อม " จำจนตาย
29/01/2560 เอาล่ะ เริ่มเรื่องแนะนำตัว ชื่อไม่บอกแล้วกัน ไม่สำคัญอะไร 555 เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนั้นผมอายุประมาณ 7-8 ขวบ ถ้าจำไม่ผิด ผมอาศัยอยู่กับพี่ชาย เค้าทำงานสีลม งานกลางคืนอ่านะ ผมอยู่คนเดียวในห้องเช่า แคบๆ ย่านธนบุรี ผมไม่ได้เรียนหนังสือหรอกตอนนั้น พี่ชายไม่มีเงินส่งให้เรียน ไปทำงานประมาณ 4-5 โมงเย็น กลับก็โน่น เช้า ดีๆหน่อยก็ ตี 3-5 พี่ชายจะทิ้งเงินไว้วันละ 30-40 บาท ซื้อข้าวกินรอพี่กลับมา ก็กินพร้อมกันอีกรอบ แล้วก็มาช่วงหลังๆ พี่ผมเที่ยวหนักมาก
กลับมาโน่น 10-12 เช้า ผมก็หิว เงินก็ไม่มีต้องรอพี่มา ถ้าคนที่เคยหิวจนเข้าถึงรสชาติของชีวิต จะเข้าใจความรู้สึกผมตอนนั้น พี่ผมเริ่มเหลวไหล เที่ยว ค้างค่าเช่าห้อง พักหลังไม่กลับห้องเลย 3-4 วัน ไม่ก็อาทิตย์ ผมหิวมาก นึกภาพ... -
..อย่าไปคนเดียว ให้ไปกับพระ ๔ องค์
“เวลาไปไหน..อย่าไปคนเดียว ให้ไปกับพระ ๔ องค์”
.."ทรงตรัสว่า..ลูกศิษย์ท่านฤๅษีนั้นส่วนใหญ่
ล้วนเป็นลูก - หลานของท่าน..มาก่อนทั้งสิ้น.
และส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคทั้งสิ้น"
*********************
กรรมฐานทั้งหลาย..มาแต่เหตุ
นี่คือคำย่อของ..อริยสัจ ๔ ซึ่งเป็น..ตัวปัญญา
หรือวิปัสสนาสูงสุด..ในพุทธศาสนา
และมีแต่พุทธศาสนาเท่านั้น ศาสนาอื่น ๆ ไม่มี
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์
ต่างก็บรรลุเป็นพระพุทธเจ้า..ด้วยอริยสัจ ๔ ทั้งสิ้น
ที่ยกจุดนี้มา..ก็เพราะปัจจุบันนี้
มีพระพุทธเจ้า..มาแสนกว่าองค์แล้ว
แต่เพราะเหตุใด..
พระพุทธเจ้าองค์แรก (พระพุทธสิขีทศพล)
หรือเรียกย่อ ๆ ว่าสมเด็จองค์ปฐม
จึงมาสอนพวกเรา.ซึ่งหัวดื้อ
หัวรั้นขี้เกียจทุกคน
มีคำสอนตอนหนึ่ง..
ที่พระองค์ ตรัสว่า..
เวลาไปไหน..อย่าไปคนเดียว ให้ไปกับพระ ๔ องค์
องค์ที่ ๑ คือ ตถาคตหรือสมเด็จองค์ปฐม
ให้ครอบคลุมร่างกายเธอไว้
องค์ที่ ๒ คือ สมเด็จองค์ปัจจุบัน
เพราะพวกเธอต้องการเป็นสาวกของท่าน ให้เอาไว้ที่ศีรษะ
องค์ที่ ๓ คือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคให้เอาไว้ที่หน้าอก
องค์ที่ ๔ คือ ท่านฤๅษี(หลวงพ่อ)ให้เอาไว้ที่ฐานเหนือสะดือ... -
พระพุทธเจ้าท่านได้เคยทำกรรมอะไรไว้บ้างในอดีตและรับผลกรรมอย่างไร
พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ด้วยพระองค์เองในคัมภีร์อปทานตอนที่ว่าด้วย ปุพพกัมปิโลติ พุทธาปทาน ข้อ ๓๙๒ ถึงกรรมเก่าที่พระองค์ทรงกระทำมาแล้วในอดีต ๑๔ ข้อ ๑๔ ข้อนั้นมีดังนี้
๑. เราเห็นภิกษุผู้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตรรูปหนึ่งแล้ว ได้ถวายผ้าเก่า เราปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าครั้งแรก เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าในกาลนั้น ผลของกรรมคือการถวายผ้าเก่า ย่อมอำนวยผลให้เป็นพระพุทธเจ้า กรรมเก่าข้อแรกนี้เป็นกุศลกรรม
๒. ในกาลก่อน เราเป็นนายโคบาลต้อนโคไปเลี้ยง เห็นแม่โคกำลังดื่มน้ำขุ่นมัวจึงห้ามมัน ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้ แม้เราจะกระหายน้ำก็ไม่ได้ดื่มน้ำตามปรารถนา
๓. ในชาติอื่นแต่กาลก่อน เราเป็นนักเลงชื่อปุนาลิ บางแห่งเป็นมุนาลิ ได้กล่าวตู่พระปัจเจกพุทธเจ้าชื่อว่าสุรภี ผู้ไม่ประทุษร้ายตอบ ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราท่องเที่ยวอยู่ในนรกเป็นเวลานาน ได้เสวยทุขเวทนาแสนสาหัสหลายพันปีเป็นอันมาก ด้วยกรรมอันเหลือนั้นในภพหลังสุด เราจึงได้รับคำกล่าวตู่ เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกา
๔. เพราะการกล่าวตู่พระเถระนามว่านันทะ สาวกของพระพุทธเจ้าผู้ครอบงำอันตรายทั้งปวง... -
การไม่เมตตาผู้อื่น เป็นการไม่เมตตาตนด้วย สมเด็จพระญาณสังวรฯ
การไม่เมตตาผู้อื่น เป็นการไม่เมตตาตนด้วย
ศีลเกิดแต่เมตตา เมตตาเกิดกับศีล ทั้งสองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ศีลของผู้ใดบกพร่อง เมตตาของผู้นั้นก็บกพร่องด้วย บกพร่องทั้งเมตตาตนเอง และบกพร่องทั้งเมตตาผู้อื่น อันเมตตาตนเองกับเมตตาผู้อื่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แยกจากกันไม่ได้
การไม่เมตตาผู้อื่น ก็เป็นการไม่เมตตาตนไปพร้อมกัน พึงคิดถึงสัจจะประการหนึ่งที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ คือ “ทำดีจักได้ดี ทำชั่วจักได้ชั่ว ผู้ใดทำกรรมใดไว้ จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น”
เมื่อเบียดเบียนเขา เราเองนั่นก็จะต้องได้รับผลนั้น เมื่อไม่เมตตาเขา เราเองนั่นก็จะต้องได้รับผลนั้น
“เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก” มีพระพุทธศาสนสุภาษิตแสดงไว้เช่นนี้ เมื่อเมตตาเป็นเหตุให้มีศีล ศีลเกิดแต่เมตตา เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก ก็คือศีลเป็นเครื่องค้ำจุนโลกเข่นกัน
โลกมิได้หมายถึงเพียงดาวดวงหนึ่งดังเป็นที่เข้าใจกันอยู่ แต่โลกหมายถึงตนเอง หมายถึงเขาอื่นทั้งหลายทั้งปวง ผู้มีเมตตา หรือผู้มีศีลจึงเป็นผู้ค้ำจุนตนเอง และค้ำจุนผู้อื่นทั้งหลาย
: การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก... -
เรื่องเล่าของ ผู้เห็นความตายล่วงหน้า
เรื่องเล่าของ ผู้เห็นความตายล่วงหน้า
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ไม่มีใครรู้ว่าความตายจะมาถึงเราวันไหน แต่เห็นทีคำกล่าวนี้อาจใช้ไม่ได้กับทุกคน…โดยเฉพาะกับ ผู้เห็นความตายล่วงหน้า
ทฤษฎีที่น่าสนใจข้อหนึ่งบอกไว้ว่าหากเป็นเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากก็จะมีคนที่มองเห็นความตายล่วงหน้ามากขึ้นตามไปด้วย
ประมาณ 2 - 3 วันก่อนที่เอบราแฮม ลิงคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา จะถึงแก่อสัญกรรม เขาได้เล่าให้คนใกล้ชิดฟังว่า
“เมื่อสิบวันก่อนผมเลิกงานดึกมากเพราะต้องรอส่งแขกคนสำคัญก่อน พอขึ้นนอนบนเตียงได้ไม่นาน ผมก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ไม่นานผมก็เริ่มฝัน... -
ทรงสนพระทัยแม้ในหลักธรรมขั้นสูง! พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศตรัสถามหลวงพ่อพุธเรื่องความต่างระหว่าง "การบริกรรม" กับ "การภาวนา"?
ทรงสนพระทัยแม้ในหลักธรรมขั้นสูง! พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศตรัสถามหลวงพ่อพุธเรื่องความต่างระหว่าง "การบริกรรม" กับ "การภาวนา"?
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย (พระราชสังวรญาณ) เป็นลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโลซึ่งถือว่าเป็นพระอาจารย์และสหธรรมิก (สหายธรรม) ของหลวงปู่มั่น อีกทั้งยังได้ปฏิบัติธรรมร่วมกับพระอาจารย์ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นท่านอื่นๆในสมัยนั้นอีกด้วย
พระราชปุจฉาวิสัชนาธรรมระหว่าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ กับ หลวงพ่อพุธ ฐานิโยณ วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.๙) : คำว่า "ภาวนา" และ "บริกรรม" ต่างกันอย่างไรขอรับ คือ เคยฟังพระเถระผู้ใหญ่ บอกว่า การภาวนานี้ไม่ว่าอยู่ที่ไหน แม้ไม่อยู่ในสมาธิ แม้ทำอะไรก็สามารถทำได้อยู่ได้ตลอดเวลา ใช่ไหมขอรับ ?
หลวงพ่อพุธ : ใช่แล้ว คำว่า "ภาวนา" กับ "บริกรรม" มีต่างกัน ภาวนา หมายถึง การอบรมคุณงามความดีให้เกิดขึ้น เป็นสมบัติของผู้อบรม เช่น อบรมใจให้มีความเลื่อมใส ในการบำเพ็ญภาวนา ก็ได้ชื่อว่า ภาวนา แต่บริกรรมนั้น หมายถึง จิตของผู้ปฏิบัตินึกอยู่ใน คำใดคำหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น พุทโธ เป็นต้น...
หน้า 395 ของ 412