คลังเรื่องเด่น
-
ความรู้ที่ ไม่มีธรรม มันเป็นความรู้ “ ก ฎ ห ม อ ย ” ความรู้ที่ มีธรรม ก็เป็น กฎหมาย
ความรู้ที่ ไม่มีธรรม มันเป็นความรู้ “ ก ฎ ห ม อ ย ”
ความรู้ที่ มีธรรม ก็เป็น กฎหมาย
ความเรียนรู้สูงต่ำขนาดไหนไม่เกิดประโยชน์ถ้าไม่มีธรรมเข้าบังคับบัญชา คนนั้นจะเสียคน
เห็นไหมมันจะทำโลกให้ล่มจมอยู่เวลานี้ มีแต่คนที่ทะนงตนว่าเรียนสูงๆ ทั้งนั้นแหละ แต่กิเลสมันต่ำมันลากลงมาหามัน แล้วมันก็ขึ้นเหยียบกิเลสเลยสูงกว่าความรู้ไปเสีย แล้วพาความรู้นั้นไปทำสิ่งเสียหายโดยไม่คิดไม่คำนึง มิหนำซ้ำยังทะนงตนว่ารู้ ว่าหลักนักปราชญ์ฉลาดแหลมคม เรียนกฎหมงกฎหมายก็ว่ารู้ยิ่งกว่าโลกเขา แต่ “ ก ฎ ห ม อ ย “ มันติดอยู่นั้นไม่ได้ดู มันเอา “ ก ฎ ห ม อ ย “ ออกไปใช้เผาโลกไปหมด เห็นไหมนั่น ความรู้ที่ไม่มีธรรมมันเป็นความรู้ “ ก ฎ ห ม อ ย “ ความรู้ที่มีธรรมก็เป็น กฎหมาย กฎตายตัว กฎปกครองโลก คือกฎหมายออกมาจากศีลธรรม มาเป็น กฎหมาย ข้อบังคับที่ถูกต้องดีงามให้ส่วนรวมปฏิบัติอยู่ใต้อำนาจของ กฎหมาย จะมีความเสมอภาคกัน มีความสงบร่มเย็น
กฎหมาย ออกมาจากศีลธรรม มาเป็น กฎหมาย ข้อบังคับที่ถูกต้องดีงามให้ส่วนรวมปฏิบัติอยู่ใต้อำนาจของ กฎหมาย จะมีความเสมอภาคกัน มีความสงบร่มเย็น
หน้าที่การบ้านการเมืองก็ทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น... -
"พระป่า กับ พระราชา"
ศาลาหลังนี้ ในหลวงท่านก็ขึ้นมาสนทนาธรรมกับสมเด็จพระสังฆราช(สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก) (เจริญ สุวฑฺฒโน) เมื่อปี ๒๕๒๖
สมเด็จพระสังฆราชฯท่านชอบปฏิบัติในป่าในเขา เมื่อก่อนไม่มีวัดญาณฯ ท่านก็จะไปปฏิบัติทางภาคอีสาน ไปอยู่กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เช่น หลวงตามหาบัว พระอาจารย์ฝั้น พระอาจารย์วัน ท่านชอบไปวัดป่า ไปภาวนา แล้วพอท่านมาสร้างวัดญาณฯ ก็มีพระปฏิบัติมาสร้างกระต๊อบถวายให้ท่านอยู่บนเขานี้ ท่านก็ชอบ กระต๊อบเล็กๆไม่ใหญ่
เวลาที่ท่านมาทำภาระกิจที่วัดญาณฯ ตกตอนเย็นตอนค่ำท่านก็จะขึ้นมาปฏิบัติพักค้างแรมบนเขา ในหลวงท่านก็เคยมาเฝ้ามาสนทนาธรรม ท่านก็มารับเสด็จฯที่บนศาลาหลังนี้ ในหลวงท่านก็เลยดำริอนุญาตให้พระอยู่อาศัยบนนี้ได้ เพราะทรงประกาศเขตป่านี้ให้เป็นเขตอุทยาน เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามกฏหมายนี้เขาไม่ให้ใครขึ้นมาอยู่ ไม่ให้ใครมาใช้ประโยชน์ แต่เนื่องจากพระมาอยู่ก่อนที่จะประกาศเขต ท่านก็เลยอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
แล้วท่านเองก็เคยดำริว่า ท่านอยากจะสละราชสมบัติแล้วมาบวชอยู่บนเขานี้ ตอนที่ท่านครบอายุ๖๐ แต่เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองมันมีเรื่องราวอยู่เรื่อยๆ... -
ทำนิพพานให้แจ้งต้องใช้ ความเพียรเช่นเดียวกับทุกเรื่องในโลกนี้
ทำนิพพานให้แจ้งต้องใช้ ความเพียรเช่นเดียวกับทุกเรื่องในโลกนี้
อันว่าความสำเร็จทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมใช้เวลา ใช้ความเพียรในการปฏิบัติทั้งสิ้น เป็นการสั่งสมบ่มเพาะ กว่าจะสำเร็จในแต่ละขั้นตอนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ดังนั้นไม่ว่าเรากำลังเผชิญสิ่งใดอยู่ก็ตามขอให้ระลึกถึง "ความเพียร" เอาไว้ พระพุทธองค์เองกว่าจะประสบความสำเร็จในการออกบวชต้องใช้เวลา 6 ปี ผ่านสองอาจารย์ ผ่านการทรมานตัวเอง และผ่านช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายแห่งชีวิตมาจึงได้สำเร็จมรรคผล
การกระทำสิ่งใดก็ตามเพื่อความสำเร็จที่แท้จึงต้องมีการปฏิบัติสร้างกันไปเป็นลำดับขั้น
"ดูก่อน ภิกษุ ทั้งหลาย. เราย่อมไม่กล่าวการประสบความ
พอใจในอรหัตตผล ด้วยการกระทำอันดับแรกเพียง
อันดับเดียว.
ภิกษุ ทั้งหลาย. ก็แต่ว่า การประสบความพอใจในอรหัตตผล
ย่อมมีได้เพราะการศึกษาโดยลำดับ เพราะการกระทำโดยลำดับ เพราะการปฏิบัติโดยลำดับ.
ภิกษุ ทั้งหลาย.ก็การประสบความพอใจในอรหัตตผล
ย่อมมีได้เพราะการศึกษาโดยลำดับ เพราะการกระทำโดยลำดับ
เพราะการปฏิบัติโดยลำดับนั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ทั้งหลาย. บุรุษบุคคลในกรณีนี้ :
เป็นผู้มีสัทธา เกิดขึ้นแล้ว ย่อม... -
ชีวิตคนเราตั่งแต่เกิดเป็นเด็กทารก จน สิ้นวาระตายจากโลกเหมือน"สมบัติน้ำแข็ง"
ชีวิตคนเราตั่งแต่เกิดเป็นเด็กทารก จน สิ้นวาระตายจากโลกเหมือน"สมบัติน้ำแข็ง" สมดังหลวงปู่ดู่บอก เป็นเช่นไรพิจารณาดู#ปริศนาธรรม
มีโอวาทของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ที่ท่านเคยบอกว่า "ที่แกทำ ๆ ไปน่ะ มันสูญเปล่า ชีวิตจะมีค่าก็ตอนไหว้พระ สวดมนต์ ภาวนาเท่านั้น" บางคนคงแย้งท่านในใจว่า มันสูญเปล่าที่ไหนกัน เราทำงาน ทำกิจกรรมต่าง ๆ เราก็ได้ผลงาน ได้เงินได้ทองมาเลี้ยงชีวิตตัวเรา แถมยังเอาไปสงเคราะห์ญาติได้อีก
มาถึงตอนนี้ เมื่อเราอายุมากขึ้นประสบการณ์ชีวิต ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ๆ ว่า ที่ทำ ๆ ไป ไม่ว่าจะดูซับซ้อน วิจิตรเพียงใด มันก็แค่ "หาอยู่ หากิน" เลี้ยงอัตภาพร่างกายเท่านั้น อย่างมากก็เพิ่มความภาคภูมิใจในผลงาน พอหมดลมแล้วก็หมดกัน เอาติดตัวไปไม่ได้ ไม่เหมือนอย่างกิจกรรมการภาวนาเพื่อพัฒนายกระดับจิตใจ มันกินลึกและเอาติดตัวข้ามภพข้ามชาติไปได้ สมบัติทางโลก ๆ จะมากมายและวิจิตรประณีตขนาดไหน มันก็เป็นแค่ "สมบัติน้ำแข็ง" อยู่ดี เพราะมันจะค่อย ๆ ละลาย เรากำมันไว้ได้แค่ชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น
ติดตามข่าวเพิ่มที่ :“หลวงปู่ดู่”เน้นเรื่องการทำบุญโดยการ สวดมนต์ ภาวนา รักษาศีล ให้ทานทำให้ครบ... -
บุญเดย์!! เคล็ดลับ "อยู่กับบุญ" ของหลวงปู่ดู่ ... รู้แล้วทำเลย! ได้บุญ 24 ชั่วโมง!!
บุญเดย์!! เคล็ดลับ "อยู่กับบุญ" ของหลวงปู่ดู่ ... รู้แล้วทำเลย! ได้บุญ 24 ชั่วโมง!!
เทคนิคอยู่กับบุญของหลวงปู่ดู่
ตื่นเช้ามา ขณะล้างหน้าหรือดื่มน้ำให้ว่า "พุทธัง สรณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ, สังฆัง สรณัง คัจฉามิ"
ก่อนจะกินข้าวก็ให้นึกถวายข้าวพระพุทธ (นับเป็นอนุสติอย่างหนึ่ง)
ออกจากบ้านเห็นคนอื่นเขาทำความดี เช่นว่า ใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน บอกข่าวงานบุญต่าง ๆ ก็ให้นึกอนุโมทนากับเขา
เดินผ่านไปเห็นดอกไม้ที่ใส่กระจาดวางขายอยู่หรือดอกบัวในสระข้างทางก็ให้นึกอธิฐานถวายเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า "พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ" และต้องไม่ลืมอุทิศบุญให้แม่ค้าขายดอกไม้หรือรุกขเทวดาที่ดูแลสระบัวนั้นด้วย
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
ตอนเย็นนั่งรถกลับบ้านเห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า "โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา" (เป็นการบูชาระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ก่อเกิดอานิสงส์แห่งบุญในดวงจิต)
เวลาไปที่ไหนเห็นข่าวคนตาย คนเจ็บ คนป่วย คนที่กำลังมีความทุกข์ก็ดี ผ่านจุดที่คนตายบ่อย ๆ เห็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิก็ดี ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า บารมีรวมของครูบาอาจารย์... -
ก่อนหลับตาคืนนี้ เอาบุญเสียหน่อย! หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนทำบารมีง่ายๆก่อนนอน ทำทุกคืนอานิสงส์สูงอย่างคาดไม่ถึง
ก่อนหลับตาคืนนี้ เอาบุญเสียหน่อย! หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนทำบารมีง่ายๆก่อนนอน ทำทุกคืนอานิสงส์สูงอย่างคาดไม่ถึง
วิธีทำบุญให้เป็นฌานแบบง่ายๆก่อนหลับและหลังจากตื่นนอนใหม่ๆ
ก่อนจะหลับทำบุญเสียหน่อย ตั้งใจเอาเงินใส่ในภาชนะนั้นเก็บไว้ คิดว่าเราจะถวายพระเป็นค่าภัตตาหารก็ได้ เป็นวิหารทานก็ได้ เป็นธรรมทานก็ได้ หรือสร้างพระพุทธรูปก็ได้ตามใจชอบ แต่ก่อนที่จะใส่ถ้าว่าคาถาวิระทะโยเป็นก็ว่าไป ถ้าไม่ว่าก็นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ หรือพระปัจจเจกพุทธเจ้า ถือว่าเวลานั้นจิตของท่านเป็นพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ เป็นอนุสสติใหญ่ การคิดว่าจะเอาสตางค์ใส่ในบาตรหรือใส่ในกระป๋อง คิดว่าจะใส่ อันนี้เป็นจาคานุสสติกรรมฐาน เป็นทาน การใส่อย่างนั้นเป็น “ทานบารมี”
บรรดาท่านพุทธบริษัท การทำเพียงแค่นี้ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททำทุกวันอย่างนี้ อาตมาขอยืนยันว่าทุกคนนี่ลงนรกไม่ได้ ถ้าเรามีการเริ่มต้นอย่างนี้ หากว่าญาติโยมจะถามว่าทุกคนต้องการไปนิพพาน ทำจิตถ้าเป็นฌานอย่างนี้พื้นฐานใหญ่ ถ้าหากว่านอนหลับตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ ถ้าเราหวังนิพพาน สำหรับท่านที่ได้มโนมยิทธิ อย่าลืมพุ่งใจตรงไปนิพพานทันที... -
คือพระปรีชาโดยแท้!! เมื่อพระสหายจากแดนไกลชักชวนให้ในหลวง ร.9 นับถือคริสต์ ... แต่พระองค์กลับแสดง "พระราชปฏิภาณ" จนทำให้ผู้ชวนหันมาสนใจพุทธ!!
คือพระปรีชาโดยแท้!! เมื่อพระสหายจากแดนไกลชักชวนให้ในหลวง ร.9 นับถือคริสต์ ... แต่พระองค์กลับแสดง "พระราชปฏิภาณ" จนทำให้ผู้ชวนหันมาสนใจพุทธ!!
ครั้งหนึ่ง "กษัตริย์โบดวงแห่งเบลเยียม" ได้เสด็จฯ มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยพระบรมราชินี และระหว่างที่ประทับอยู่ในพระนครในฐานะเป็นราชอาคันตุกะนั้นก็ได้ทรงชักนำ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙" ให้เปลี่ยนศาสนาไปนับถือศาสนาคริสต์อย่างพระองค์อยู่หลายครั้ง
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสถามถึงเหตุผลที่ทรงชักชวน กษัตริย์โบดวงจึงกราบทูลว่า
"พระองค์ทรงมีความรักใคร่ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรามาก ไม่อยากจะพลัดพรากเหินห่างจากกันเลย แต่จะเป็นเช่นนั้นได้ก็ต่อเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนับถือศาสนาคริสต์ด้วยกันเท่านั้น เพราะศาสนาคริสต์สอนว่า คริสต์ศาสนิกชนเมื่อสิ้นชีพแล้วจะได้ไปอยู่ใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้าชั่วนิรันดร"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้ปฏิเสธคำทูลโดยตรง แต่ทรงมีพระราชดำรัสตอบว่า
"พระพุทธศาสนาก็เชิดชูสัจจะ คือความจริง สอนให้ผู้นับถือเข้าถึงความจริง... -
6 เม.ย. วันจักรี เทิดปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี กับที่มา"จักร" และ "ตรี" ศาสตราวุธแห่งมหาเทพวิษณุ ความหมายอันศักดิ์สิทธิ์ในตราประจำราชวงศ์
6 เม.ย. วันจักรี เทิดปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี กับที่มา"จักร" และ "ตรี" ศาสตราวุธแห่งมหาเทพวิษณุ ความหมายอันศักดิ์สิทธิ์ในตราประจำราชวงศ์
วันจักรี หมายถึง วันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ปฐมบรมราชวงศ์จักรี เสด็จกรีฑาทัพถึงพระมหานครทรงรับอัญเชิญขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ดำรงราชอาณาจักรสยามประเทศ อีกทั้ง ทรงสร้างกรุงเทพมหานครขึ้นเป็นเมืองหลวงของไทย มาจนถึงทุกวันนี้
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว ในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๕) จึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูปของพระเจ้าอยู่หัวทั้ง ๔ พระองค์ (ร.๑ – ร.๔) เพื่อประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริย์องค์ต่อๆ มา พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้ถวายบังคมสักการะ โดยเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เป็นธรรมเนียมปีละครั้ง และได้โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และมีการย้ายที่หลายครั้ง เช่น พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ปราสาท และ พระที่นั่งศิวาลัยปราสาท เป็นต้น
ในสมัยรัชกาลที่ ๖ นั้น โปรดให้ย้ายพระบรมรูปทั้ง ๔ ( ร.๑ – ร.๔ ) มาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม... -
"พระพุทธภูมิ" (หลวงปู่จันศรี จนฺททีโป)
"พระพุทธภูมิ"
.. บุคคลใดปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ..
- พึงบำเพ็ญ พุทธการกธรรม ๑๐ ประการ (ทศบารมี) ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์
๑. การเสียสละทรัพย์ เพื่อบำเพ็ญทศบารมี จัดเป็นบารมีขั้นต้น
๒. การเสียสละอวัยวะ เพื่อบำเพ็ญทศบารมี จัดเป็นบารมีขั้นกลาง (อุปบารมี)
๓. การเสียสละชีวิต เพื่อบำเพ็ญทศบารมี จัดเป็นบารมีขั้นสูง (ปรมัตถบารมี)
- พึงประกอบด้วยอัชฌาชัย ๖ ประการ ..
๑. การเห็นโทษในความโลภ อยู่โดยปกติ
๒. การเห็นโทษในความโกรธ อยู่โดยปกติ
๓. การเห็นโทษในความหลง อยู่โดยปกติ
๔. การเห็นโทษในความคลุกคลี อยู่โดยปกติ
๕. การเห็นโทษในการครองเรือน อยู่โดยปกติ
๖. การเห็นโทษในภพและคติทั้งปวง อยู่โดยปกติ
ข้อความจารึก ณ พระบรมธาตุธรรมเจดีย์
วัดโพธิสมภรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี -
ปาฏิหาริย์พระบรมธาตุที่ยอดเขาพระพุทธบาท : หลวงพ่อปาน
เมื่อเวลาใกล้ค่ำ คณะห้าธุดงค์มีหลวงพ่อปานเป็นประมุข ต่างก็หาที่ปักกลดตามที่ตนเห็น สมควร เมื่อปักกลดเสร็จ ทำวัตรสวดมนต์ตามระเบียบของพระที่เดินไปหาที่ตายเพราะอยู่วัดสบายกว่า ท่านเดินไปกันอย่างชนิดไม่ทราบว่าอาหารมื้อหน้าหรือมื้อนี้จะมีที่ไหน ไม่มีใครสนใจเรื่องอาหาร เพราะคิดว่าตายเดี๋ยวนี้ไปนิพพานเดี๋ยวนี้ ไปนิพพานดีกว่าอยู่เป็นพระกินข้าว เมื่ออารมณ์ทุกท่านเป็นอย่างนี้ นอกจากหลวงพ่อปานท่านปรารถนาพระโพธิญานอย่างเดียว แต่ท่านก็มีชั้นดุสิตเป็นที่ไปเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว สมัยก่อนท่านสอนไปนิพพานช้า ไม่ใช่โตแล้วเรียนลัด แต่ท่านหวังผลแน่นอน ถ้ามีอารมณ์ถึงสวรรค์ชั้นกามาวจร ท่านก็สอนให้ไปชั้นที่ตัวมีวาสนาถึงเป็นประจำเพื่ออารมณ์จะได้ผูกพัน เมื่อตายอารมณ์จะแจ่มใส มีที่ไปแน่นอน หรือท่านองค์ใดไปพรหมตามกำลังฌานได้ ท่านก็ไปของท่านเป็นประจำ พวกที่เบื่อสวรรค์กามาวจรหรือพรหม มีอารมณ์ถึงพระนิพพาน ถ้าได้มโนมยิทธิต่างก็ไปนอนนิพพานเป็นปกติ ตอนนี้พวกนักธรรมอาจจะสงสัยว่านิพพานนี่สูญนี่เจ้าประคุณ ไปนอนกันได้อย่างไร เอาอย่างนี้นะขอตอบแบบนักเทศน์ก่อน เพราะนักธรรมเป็นพวกนักเทศน์... -
เคล็ดในการทำบุญ ปล่อยสัตว์ หรือต่อชีวิตสัตว์ การสะเดาะเคราะห์ที่กลายเป็นบุญใหญ่ได้ หากรู้เคล็ด!
เคล็ดในการทำบุญ ปล่อยสัตว์ หรือต่อชีวิตสัตว์
การสะเดาะเคราะห์ที่กลายเป็นบุญใหญ่ได้ หากรู้เคล็ด!
วิธีนี้นิยมกันมากตั้งแต่ครั้งโบราณกาล แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หลายคนทำแล้วไม่เห็นผล หรือไม่ได้บุญมากตามที่ปรารถนา เพราะขาดเคล็ดลับสำคัญ ซึ่งจะมาเผยแพร่ให้ทราบ
ในการปล่อยสัตว์หรือต่อชีวิตสัตว์นั้น หลายคนเรียกว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์ซึ่งก็แล้วแต่จิตจะพาไป แต่ในความเป็นจริงก็คือ เป็นการทำบุญใหญ่เป็นการช่วยต่อชีวิต ต่อโชคชะตา ให้เวลากับสัตว์ที่กำลังจะถึงที่ตายให้ได้มีชีวิตอีกครั้ง
และเคล็ดสำคัญก็คือ ก่อนที่จะปล่อยสัตว์นั้น เมื่อได้ซื้อมาหรือ เจอ ณ ที่ใดก็ตามให้นำไปถวายกับพระสงฆ์เสียก่อน เพื่อเพิ่มบุญให้มากขึ้น
เหตุเพราะว่า พระสงฆ์ที่รับนั้นมีความบริสุทธิ์และมีศีลมากกว่าเรา ท่านย่อมมีบุญมากกว่าเรา ยิ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญมากแล้ว บุญนั้นจะเพิ่มเป็นหลายเท่า
จากนั้นก็ขอทำการผาติกรรมชำระหนี้สงฆ์ หรือขอซื้อคืนมาจากท่าน แต่ที่สำคัญต้องจำไว้ให้มั่นก็คือ ต้องใช้ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากับที่ซื้อสัตว์นั้นมา ถ้าจำนวนเงินที่ชำระหนี้สงฆ์มากกว่าก็จะเป็นการสร้างบุญเพิ่ม... -
คาถาจักรพรรดิ พลานุภาพ พุทธคุณครอบจักรวาล แผ่เมตตา ปรับภพภูมิส่งวิญญาณไปสู่สุขคติได้
คาถาจักรพรรดิ
พลานุภาพ พุทธคุณครอบจักรวาล
แผ่เมตตา ปรับภพภูมิส่งวิญญาณไปสู่สุขคติได้
การปรับภพภูมิส่งวิญญาณนั้น เป็นวิชาชั้นสูงของครูบาอาจารย์ตั้งแต่โบราณกาล และได้รับการถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์มาโดยตลอดโดยจะเลือกผู้ที่มีบุญเชื่อมกัน โดยเฉพาะหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา ที่ท่านได้รับสืบทอดมาและได้สั่งสอนลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก โดยที่ท่านได้สร้างพระผงพระจักรพรรดิและมีคาถาพระจักรพรรดิเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับภพภูมิ
พระจักรพรรดินั้น เป็นพระปางหนึ่งของพระพุทธเจ้า ที่ครั้งหนึ่งพระองค์ทรงเนรมิตพระรูปของพระองค์ดังพระจักรพรรดิที่ใหญ่กว่ากษัตริย์ทั้งปวงเพื่อปราบมาร ที่เรารู้จักกันดี ในพระพุทธรูปปางทรงเครื่อง ที่รู้จักกันดีก็คือ พระประธานที่หน้าวัดพระเมรุ จ.อยุธยา
ส่วนคาถาพระจักรพรรดิ นั้นเป็นคาถาที่รวมพุทธคุณครอบจักรวาล ที่มีพลานุภาพมาก ในเรื่องต่างๆ จากร้ายให้กลับกลายมาเป็นดี จากที่ดีอยู่แล้วก็จะยิ่งทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
พระผงพระจักรพรรดิและคาถาพระจักรพรรดิเป็นของสูง ผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์สามารถที่จะสวดนำไปแผ่เมตตาให้ดวงจิตวิญญาณทั้งหลายที่อยู่รอบๆ ตัวเรา เพื่อปรับภพภูมิต่างๆ ให้เขาสูงขึ้น... -
หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ถอนคุณไสย ให้แขกฮินดูด้วยยันต์ทอพุทโธ
หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ถอนคุณไสย
ให้แขกฮินดูด้วยยันต์ทอพุทโธ
หลวงพ่อเหล่ง เขมชาโต ศิษย์วัดบางนมโค
ได้บันทึกไว้ว่ามีแขกฮินดุคนหนึ่งมาจากอินเดีย
เรียนวิชาไสยศาสตร์มาทางไศวนิกาย
มาพร้อมลูกสาวมาเปิดบ้านทำวิชาคุณไสย
แถวบ้านแพน วิชาแกเก่งมาก ทำให้ใครๆ
ก็มักไปหาแก ด้วยความที่แกเก่งมาก
ในเวลาเพียงสามเดือนก็ดังไปทั่วอำเภอเสนา
มีชาวบ้านมาถามถึงวิชาพวกนี้ หลวงปู่ปาน
ท่านบอกว่าของแบบนี้เวลาทำคนอื่นไม่รู้สึก
บาปกรรมอะไร เมื่อใดโดนเองจะรู้ว่าการโดน
คุณไสย มันทำให้เดือดร้อนเท่าใด
ต่อมาคนที่โดนแขกฮินดูคนนี้ทำคุณไสย
ไปหาผู้มีวิชาแก้ได้ คุณไสยไม่โดนตัวแก
แต่ไปโดนลูกสาวแก ปวดหัวและอาการ
คุ้มดีคุ้มร้าย แกพยามแก้อย่างไรก็ไม่บรรเทาเลย
พอดีมีคนไทยบอกว่า หลวงพ่อปานท่านแก้ไขได้
แกรีบอุ้มลูกสาวแกมาที่วัด เข้าไปพนมมือ
เรียกท่านว่า บาบา ช่วยลูกสาวฉันด้วย
บาบาจะเอาเท่าไหร่ ฉันยอมจ่ายเลย มันเป็นมาก
คล้ายบ้าเลย แขกฮินดูวิงวอน
หลวงปู่ปานท่านมองดูเด็กผุ้หญิงที่โดน แล้วก็ตอบว่า
ฉันไม่เอาสินจ้างใดๆ บังไหว้พระพุทธเจ้าก่อนฉันจะ
รักษาให้ด้วยอำนาจพระพุทธเจ้า เจ้าแขกฮินดู
เลยถามว่า ภควานพุทธ รักษาได้เหรอบาบา... -
"หลวงปู่มั่น..บรรลุธรรม"
"หลวงปู่มั่น..บรรลุธรรม"
..หลวงปู่ชอบท่านพักภาวนาอยู่กับองค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ ถ้ำดอกคำ บ้านสหกรณ์ ตำบลน้ำแพร่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่..
มีเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญ ถึงเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องของท่านโดยตรง แต่หลวงปู่ชอบท่านเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์วันองค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บรรลุ “ ธรรมธาตุ ” สำเร็จมรรคผลเป็น “ พระอรหันต์ ” ในพระพุทธศาสนา..
คืนนั้นเวลาประมาณตีสามกว่า หลวงปู่ชอบท่านนั่งภาวนาอยู่ที่พักของท่าน จิตท่านในเวลานั้นสว่างไสว ใสงามมาก แต่แล้วจู่ๆความสว่างไสวของจิต เกิดดับวูบลงไป อย่างกะทันหัน พร้อมกับมีเสียงกึกก้องกัมปนาท สะเทือนเลื่อนลั่น ไปทั่วขุนเขา..
ท่านเปรียบเทียบว่าเสียงนี้ไม่ต่างอะไรกับระเบิดปรมาณูมาระเบิดอยู่ข้างๆตัวเรา จนท่านเกิดอาการสั่นไหวในจิต คล้ายกับผืนแผ่นพสุธา จะแตกสลายกลายเป็นจุล..
อาการเหล่านี้เกิดขึ้นภายในจิตของท่านเท่านั้น แต่สิ่งต่างๆที่อยู่ภายนอก ก็เป็นปรกติทุกอย่าง ตั้งแต่ท่านภาวนามาก็ไม่เคยประสบพบเจอ กับอาการแบบนี้ของจิต ท่านจึงพิจารณาดูภายในว่า เกิดอะไรขึ้นกับจิตของตน พิจารณาดูจิตก็ไม่เห็นผิดปรกติตรงไหน..... -
หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนไว้...ถ้าเจอผีแปลว่ากำลังมีบุญ ! เจอเมื่อไหร่ให้นึกอุทิศได้เลย ไม่ต้องรอ...
หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนไว้...ถ้าเจอผีแปลว่ากำลังมีบุญ ! เจอเมื่อไหร่ให้นึกอุทิศได้เลย ไม่ต้องรอ...
ผีมาขอส่วนบุญที่โรงพยาบาล
โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
"..อาตมาเข้าไปพักรักษาตัวในตึกแห่งหนึ่งในโรงพยาบาล นอนพักตอนกลางวัน พอเคลิ้มหลับก็เหมือนมีคนมานอนด้วยมีความสัมผัสว่าเป็นเนื้อคน ปรากฏว่าเป็นผู้ชายต่อมาวันรุ่งขึ้นก็มานั่งคุยด้วย ก็เลยถามว่า
"เมื่อวานนี้มาใช่ไหม"
ตอบว่า "ใช่ครับ"
ถามว่า "ทำไมมาทำแบบนี้ ถ้าคนอื่นเขาอยู่ไม่ได้นะนี่ฉันไม่เป็นไร"
เขาบอกว่า "ผมตายที่เตียงนี้ครับ"
ก็ถามว่า "ทำไมมายุ่งที่นี่ ฉันจะนอน"
เขาบอกว่า "เขามาเพื่อให้ทราบและมีความประสงค์อยากขอความช่วยเหลือ"
ก็เลยบอกว่า "ทีหลังจะขอความช่วยเหลือใคร ก็บอกเขาตรง ๆ ประการแรก ก่อนที่จะเข้ามา ทำให้เขาไม่กลัวก่อน อย่างฉันนี่ทำอย่างไรก็ไม่กลัวแน่ มีทางเดียวฉันกลัวตัวฉันเอง"
เขาถามว่า "กลัวแบบไหน"
ตอบว่า "กลัวว่าฉันโมโหจับสองขาแกฟาดน่ะสิ"
บอกว่า "อย่าเพิ่งครับ ๆ" แล้วนั่งยอง ๆ เลยบอก
"เอาไป ๆ อยากได้ก็ให้โมทนา" เขาโมทนาแล้วก็หายไป การที่เขาเข้าไปอย่างนั้นคนที่อยู่ในนั้นต้องมีบุญทีนี้เขาจะบอกก็ไม่ได้ยิน... -
๖ เมษายน วันจักรี..แวะไหว้ศาลหลังเมืองกรุงเทพ!!! เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว สร้างมาเพื่อปกป้องบ้านเมืองและประชาชน สาธุยาวๆ...
๖ เมษายน วันจักรี..แวะไหว้ศาลหลังเมืองกรุงเทพ!!! เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว สร้างมาเพื่อปกป้องบ้านเมืองและประชาชน สาธุยาวๆ...
5 จุดสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใน ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร หรือบ้างก็เรียกว่า ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง, หลักเมือง เป็นอีกหนึ่งจุด ที่ประชาชนคนไทย มาสักการะกัน การไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ ก็เพื่ออธิษฐานขอพระ เสริมหลักชัยให้ชีวิตนั่นเอง ตัวศาลหลักเมือง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระแก้ว เดินข้ามฝั่งก็ถึง
ลำดับขั้นตอนการสักการะ ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
จุดที่ 1 หอพระพุทธรูป
จุดที่ 2 องค์พระหลักเมืองจำลอง
จุดที่ 3 องค์พระหลักเมืององค์จริง
จุดที่ 4 หอเทพารักษ์ทั้ง 5
จุดที่ 5 เติมน้ำมันพระประจำวันเกิด และสะเดาะเคราะห์
ศาลหลักเมือง กรุงเทพฯ (Bangkok City Pillar Shrine)
เป็นศาลที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 พร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ร.1 ได้โปรดเกล้าให้กระทำพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 6 ขึ้น 10 ค่ำ ตรงกับวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 เวลา 6.45 นาฬิกา... -
สิ่งที่หาได้ยากในโลก 5 ประการ
สิ่งที่หาได้ยากในโลก 5 ประการ
สิ่งที่หายากนั้นหมายถึง สิ่งที่มีคุณค่า คุณประโยชน์เอนกอนันต์ สิ่งที่ซื้อหาไม่ได้ด้วยเงินทอง เพราะหากมีแค่เงินใครที่มีเงินพอก็เข้าไปซื้อไปหาเอาได้
พระพุทธเจ้าทรงตรัสแก่เจ้าลิจฉวีทั้งหลายเมื่อครั้งได้เข้าเฝ้าฟังธรรมว่า สิ่งที่หาได้ยากในโลกนี้คือ รัตน 5 ประการ
"ดูก่อน เจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ความปรากฏขึ้นแห่งรัตนะ ๕ ประการ หาได้ยากในโลก. ๕ ประการ อย่างไรเล่า ?
(๑) ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ
(๒) บุคคลผู้แสดงธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว
(๓) บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว อันผู้อื่นแสดงแล้ว
(๔) บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว อันผู้อื่นแสดงแล้ว ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
(๕) กตัญญูกตเวทีบุคคล
ดูก่อนเจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ความปรากฏขึ้นแห่งรัตนะ ๕ ประการนี้แล หาได้ยากในโลก.
พุทธวจนะในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แปลความอีกทีว่า
นอกจากพระพุทธองค์ผู้ประเสริฐซึ่งในกัปหนึ่งๆ อันแสนนานจะปรากฎขึ้นแล้ว บุคคลผู้ที่มีคุณธรรมได้แก่
1. ความกตัญญู
2. ผู้ที่ใฝ่ศึกษาจนเข้าใจในธรรมของพระพุทธองค์
3. ผู้ที่ปฏิบัติธรรมตามที่พระพุทธองค์สอนไว้ดีแล้ว
4.... -
"โรคของใจ" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
"โรคของใจ"
" ..โรคเกิดจากใจ "จิตใจไม่ปกติ เกิดความหวั่นไหว เกิดความโลภ ความโกรธ เกิดความเกลียด ความรัก ความชัง" เรียกว่าโรคของใจ
โรคของใจนี้แหละ "พระพุทธเจ้าสอนให้พากันรักษา ด้วยธรรมโอสถ" ปฐมพยาบาลขั้นแรกก็คือ "ปล่อยทิ้งเสีย อย่าให้เป็นอารมณ์ อย่าคิดถึงเรื่องนั้น" ทำใจให้สงบนิ่งอยู่ในที่เดียว"หากมันไม่อยู่ ก็ให้นึกเอา "พุทโธ" มาไว้เป็นอารมณ์" นี่เรียกว่า ปฐมพยาบาล .. "
เทสโกวาท
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
เมื่อสิ้น ๕,๐๐๐ ปี จะมี “พุทธันดร” ขึ้นมาแทรก
ผู้ถาม "กระผมได้ยินมาว่าเมื่อครบ ๕,๐๐๐ ปีแล้ว ก็จะมีศาสนาของ พระศรีอาริยเมตไตรย สืบต่อจากศาสนานี้ใช่ไหมครับ"
หลวงพ่อ "หมายความว่า เมื่อสิ้นศาสนา ๕,๐๐๐ ปีแล้วใช่ไหม แล้วพระศรีอาริยเมตไตรยจึงมาตรัส
ผู้ถาม "ใช่ครับ"
หลวงพ่อ "ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณ ถ้าศาสนานี้ครบ ๕,๐๐๐ ปีแล้ว พระศรีอาริยเมตไตรยยังไม่มาตรัส จะต้องว่างจากพระพุทธศาสนาไปหนึ่งพุทธันดรก่อน แต่ว่าในช่วงที่ว่างพระพุทธเจ้านี่ก็จะมี พระปัจเจกพุทธเจ้า ขึ้นมาแทน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้านี่ ต่ำกว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือว่าพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาแล้วก็ทรงสอนคนตั้งแต่อันดับต้นให้รู้จักการให้ทาน ให้รู้จักการรักศีล ให้รู้จักการเจริญภาวนาให้รู้จักการครองเรือนให้อยู่เป็นสุข และให้รู้จักการปฏิบัติตนให้เข้าถึงกามาวจรสวรรค์ ให้เข้าพรหมโลก ให้เข้าถึงพระนิพพาน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้าไม่เช่นนั้น ท่านตรัสแล้วท่านก็เฉยๆ หากว่าจะสงเคราะห์กันก็สงเคราะห์ในขั้นต้น คือ ทานกับศีล ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ทีนี้เมื่อเวลากาลล่วงไปหนึ่งพุทธันดร อาตมาตอบไม่ได้นะว่ากี่ปี ถ้าจะให้รู้กันจริงๆ คุณก็จงอย่าตายนะ อยู่ไปจนกว่าพระศรีอาริย์จะมา... -
....เมตตาพาตกเหว...
....เมตตาพาตกเหว...
....การอยากชวนคนมาวัด มาปฏิบัติให้มาก ๆ
โดยลืมดูพื้นฐานจิตใจของบุคคลที่กำลังจะชวน
ว่าเขามีความสนใจมากน้อยเพียงใด หลวงปู่ท่าน
บอกว่า ให้ระวังให้ดีจะเป็นบาป
เปรียบเสมือนกับการจุดไฟไว้ตรงกลางระหว่าง
คน ๒ คนถ้าเราเอาธรรมะไปชวนเขา เขาไม่เห็นด้วย
ปรามาสธรรมนี้ซึ่งเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า ก็เท่ากับ
เราเป็นคนก่อแล้วเขาเป็นคนจุดไฟ บาปทั้งคู่ เรียกว่า
เมตตาพาตกเหว
หลวงปู่ได้ยกอุทาหรณ์ สอนต่อว่า
เหมือนกับมีชายคนหนึ่งตกอยู่ในเหวลึก
มีผู้จะมาช่วยคนที่หนึ่งมีเมตตาจะมาช่วย
เอาเชือกดึงขึ้นจากเหวดึงไม่ไหวจึงตกลงไป
ในเหวเหมือนกัน
คนที่สองมีกรุณามาช่วยดึงอีก ก็ตกลงเหวอีก
คนที่สามมีมุทิตามาช่วยดึงอีกก็พลาดตกเหว
อีกเช่นกันคนที่สี่สุดท้ายเป็นผู้มีอุเบกขาธรรม
เห็นว่าเหวนี้ลึกเกินกว่ากำลังของตนที่จะช่วย
ก็มิได้ทำประการใดทั้ง ๆ ที่จิตใจก็มีเมตตาธรรม
ที่จะช่วยเหลืออยู่ คนสุดท้ายนี้จึงรอดชีวิตจากการตกเหวตามเพราะ อุเบกขาธรรมนี้แล....
...หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ...
...Ramet Tanawangsri... -
พระอาจารย์เล็กสอนเรื่อง "จิตตก"
พระอาจารย์สอนเรื่อง "จิตตก"
สิ่งที่นักปฏิบัติหน้าใหม่ (หรือเก่าด้วย) กลัวกันเป็นนักหนาคือ การ “จิตตก”
มันเป็นอาการที่กำลังใจซึ่งทรงไว้ในด้านดี เกิดพลาดท่าพลาดทาง
เลี้ยวกลับไปหาความเลวเก่า ๆ เอาดื้อ ๆ บางคนตั้งหลักไม่ทัน ทำใจให้ยอมรับไม่ได้
เกิดฟุ้งซ่านคิดมาก แทบจะฆ่าตัวตายประชดชีวิตไปเลยก็มี...!
ความจริงอาการ “จิตตก” หรือ “กำลังใจตก” หรือ “สมาธิตก” เป็นของธรรมดาที่ผู้ปฏิบัติทุกคนต้องเจออยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องเสียอกเสียใจอะไร ก่อนนี้เราทำความเลวอยู่ มาตอนนี้หันมาทำความเลวใหม่ เพราะหลงกลพญามารที่มาล่อลวง ก็ไม่ได้ขาดทุนอะไรเลย เพราะเรามาจากที่ต่ำ การย้อนกลับที่ต่ำคือเท่าทุน มิหนำซ้ำยังกำไรประสบการณ์อีกต่างหาก...!
เมื่อรู้ตัวก็ตั้งหน้าทำดีใหม่ ระวังไว้ว่าคราวก่อนเราพลาดตรงไหน ถึงเวลาอย่าให้พลาดอีก...แต่ก็นั่นแหละ เล่ห์เหลี่ยมของมารนั้นยากที่เราจะระวังป้องกัน ปิดจุดนี้มันตีจุดนั้น ตั้งป้อมรับจุดนั้น มันเข้าตีจุดโน้น...วนเวียนไปไม่รู้จบ จนกว่าเราจะประกอบไปด้วยสติสัมปชัญญะสมบูรณ์พร้อมนั่นแหละ...มารจึงหลอกไม่ได้...
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๓๓
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ที่มา : เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม... -
มงคลชีวิตวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องรู้
มงคลชีวิตวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องรู้
5 การสั่งสมบุญไว้ในปางก่อน
คือผู้มีบุญอันทำไว้ก่อนย่อมได้รับสิ่งที่พึงประสงค์ในสมบัติทุกอย่าง ทั้งมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ สูงสุดกระทั่งนิพพานสมบัติ ความเป็นผู้มีบุญอันทำไว้ในกาลก่อนเป็นการจัดสิ่งแวดล้อมภายในให้ดี หมายถึง การสร้างสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นภายในตัวเองในปัจจุบันชาติ ไม่จำเป็นต้องน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไมในชาตินี้จึงไม่โชคดีมีบุญ มีสุขสบายเหมือนคนอื่น
ซึ่งความดีนั้นจะเป็นฐานรองรับและต่อเติมการพัฒนากายและใจของตนให้ก้าวไปสู่ความสุขที่สูงขึ้นไป คนที่ไม่เคยสั่งสมความดีเลยย่อมไม่ได้รับในสิ่งที่ดีงาม แม้จะดิ้นรนตะเกียกตะกายก็ไม่ได้ แต่คนที่หมั่นสร้างความดีไว้ไม่ต้องตะเกียกตะกายบุญนั้นก็หล่นทับใส่เอง
ทำไมเหล่าพระอสีตีมหาสาวกผู้เป้นเลิศในด้านต่างๆ ทั้งหลายนั้น ทำไมจึงได้เกิดมาพบพระพุทธเจ้า ก็เพราะบุญที่ได้ทำไว้ในกาลก่อนทั้งสิ้น
ทุกรูปต่างได้อธิษฐานไว้ขอให้ได้ดำรงตำแหน่งผู้เป็นเลิศในด้านต่างๆ จึงได้สร้างบุญสั่งสมมาเรื่อยๆ
พอในชาติสุดท้าย บุญที่สะสมมานั้นก็ส่งผลให้นำไปพบกับพระพุทธองค์ ไม่วาจะทั้งพระอัญญาโกณทัญญะ อธิษฐานขอให้บรรลุธรรมเป็นคนแรก... -
"เล่าเรื่องพระสีวลี" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"เล่าเรื่องพระสีวลี"
" .. ในสมัยพระพุทธเจ้า "องค์นี้เป็นที่หนึ่ง (พระสีวลี) ท่านจึงยกเอตทัคคะ คือเลิศในทางความมีอดิเรกลาภ" เครื่องสักการะบูชา จตุไทยทานมีมากนะองค์นี้ นี่พระสีวลี องค์หนึ่งเลิศทางหนึ่ง ๆ
อย่าง "พระสารีบุตรเลิศทางปัญญา ฝนตกเจ็ดวันเจ็ดคืน พระสารีบุตรนับได้ทุกเม็ด สามารถนับได้" องค์อื่นนับไม่ได้ แต่พระสารีบุตรสามารถนับได้ นี่อัตโนมัติ เขาเรียกว่าคอมพิวเตอร์ แต่ว่าคอมพิวเตอร์ของธรรมไม่ได้เหมือนโลก ละเอียดไปกว่านั้น แม้เช่นนั้นยังถูกตำหนิจากพระพุทธเจ้า "ไอ้ความรู้ของเธอขี้ปะติ๋ว เราตถาคต ฝนตกตั้งกัปตั้งกัลป์นับได้หมด" นั่นล่ะธรรมชาติที่รู้จริง ๆ อย่างนั้น ไม่ผิดไม่พลาด นั่นล่ะ พระญาณหยั่งทราบ ทางนี้เขาเรียกคอมพิวเตอร์ นี่คอมพิวเตอร์ของธรรมเป็นอย่างนี้
คอมพิวเตอร์ของพระพุทธเจ้าใช้มากับพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ กับบรรดาสาวกผู้มีความเชี่ยวชาญทางไหนก็เป็นคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น ประจำองค์ท่านเป็นประจำอย่างงั้น ทางเราปัจจุบันเขาเรียกคอมพิวเตอร์หรืออะไร คอมพิวเตอร์ของธรรมเป็นอย่างนั้นคิดดูซิฝนตกตั้งกัปตั้งกัลป์นับได้หมดทุกเม็ด ตกมากขนาดไหนนับได้หมดไม่เคลื่อนคลาด... -
"ผู่ผู่อ่อง"ตำนานบรมครูผู้วิเศษแห่งเมืองมอญ ชาวพม่าให้ความเคารพเทียบ คนไทยเคารพ "หลวงปู่เทพโลกอุดร"
"ผู่ผู่อ่อง"ตำนานบรมครูผู้วิเศษแห่งเมืองมอญ ชาวพม่าให้ความเคารพเทียบ คนไทยเคารพ "หลวงปู่เทพโลกอุดร"
ผู่ผู่อ่องตำนานผู้วิเศษแห่งเมืองมอญ
ถ้าในเมืองไทยรู้จักตำนานเรื่องราวของ “หลวงปู่โลกอุดร” เป็นอย่างดีแล้ว ในเมืองพม่า มอญและไทยใหญ่เขาก็มีตำนานผู้วิเศษคล้ายๆกับเรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดรในบ้าน เราเหมือนกัน แต่ทางเขาคือ “ผู่ผู่อ่อง” บุคคลท่านนี้เป็นผู้วิเศษที่มีชีวิตเป็นอมตะ เหาะเหิรเดินอากาศได้ ปรากฏตัวมาหลายยุคหลายสมัย ผู่ผู่อ่องเป็นบุคคลที่บุเรงนองนับถือมาก ครั้งหนึ่งผุ่ผู่อ่องแสดงฤทธิ์เหาะขึ้นไปบนยอดเจดีย์ชะเวดากอง จารอักขระยันต์ “สะตะปะวะ” เอาไว้กันภัยพิบัติทั้งปวง
ตามประวัติเล่าไว้ว่าผู่ผู่อ่อง ออกปฏิบัติบำเพ็ญพรตคราวแรกบรรพชาเป็นพระภิกษุ ต่อมาเห็นว่ามีข้อศีลสิกขามากทำให้เกิดความกังวลจึงลาสิกขาออกมา แล้วออกบวชเป็นผ้าขาว บำเพ็ญตนเป็นนักพรตฝ่ายฤๅษีชีไพร ธุดงค์รอนแรมไปเรื่อยจนพบ “ยอดเขาโป๊ปป้า” ภูเขา เขานี้อยู่ระหว่างเส้นทางจาก “พุกาม” จะไป “มันฑะเลย์” จะมียอดภูเขาไฟอยู่ยอดหนึ่ง เป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับทำพวกพรรค์นี้มาก
“ภูเขาโป๊ปป้า”... -
คำสอนสมเด็จโต การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยหลักธรรมง่าย ๆให้พ่อแม่ของเจ้า
คำสอนสมเด็จโต เจ้าจงจำไว้ว่า การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า
การให้ธรรมะพ่อแม่ เป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด
ลูกเอ๋ย...ยามที่พ่อแม่ของเจ้ามีอายุมากขึ้น ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ความแข็งแรงของร่างกายที่เคยมีก็ลดลง ใจน้อย โกรธง่าย ความจำก็เสื่อม ขี้หลงขี้ลืม จิตใจก็หมดความสุขสดชื่น ถึงแม้พวกเจ้าจะคอยเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุขได้เต็มที่ เพราะพวกเจ้าทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าช่วยท่านให้ได้รับความสุขเพียงการให้กินอยู่หลับนอน อันเป็นความสุขทางกายเท่านั้น แต่จิตใจของท่าน หาได้ร่าเริงสดชื่นผ่องใสไม่ เจ้าจงจำไว้ว่า การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า พาท่านไปทำบุญทำทาน สอนท่านให้รู้จักการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ธรรมะจะอยู่ในจิตใจของพ่อแม่เจ้าทุกภพทุกชาติ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด เจ้าจงจำไว้นะลูกเอ๋ย
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)... -
เป็นพระอรหันต์ได้ก็เพราะวัดรอยเท้าของพระพุทธเจ้า - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
+++ เป็นพระอรหันต์ได้ก็เพราะวัดรอยเท้าของพระพุทธเจ้า +++
หลวงพ่อเล็กกล่าวกับลูกศิษย์ว่า ”จำไว้ อะไรก็ตามมันจะยากก็แค่ครั้งแรกนั่นแหละ ถ้าหากว่าไม่กล้าลองแล้วคุณจะทำได้ยังไง อะไรก็ตามที่ผมสั่งให้คุณทำน่ะ ผมดูแล้วว่าคุณทำได้ เพียงแต่จะกล้าหรือไม่ก็เท่านั้นเอง หากว่าผมเห็นว่าคุณทำไม่ได้ ผมไม่ให้คุณทำหรอก คนเป็นครูบาอาจารย์น่ะ ไม่มีวันส่งศิษย์ไปหาที่ตายหรอก (แต่ก็เสี่ยงตายเหมียนกัลลนะคร้าบบ) #สมัยก่อนที่ผมอยู่กับหลวงพ่อท่าน #ถ้าหากว่าสิ่งใดที่หลวงพ่อท่านบอกว่าทำแล้วดี #ผมทำแบบถวายชีวิต เพราะถ้าหากว่าผิดหรือไม่เป็นประโยชน์จริงๆ ท่านคงไม่บอกให้ทำหรอก #แต่ถ้าหากสิ่งใดที่หลวงพ่อบอกให้หยุดหรืองดเว้นเสีย #ผมก็รับปฏิบัติยันตายเหมือนกัน สมัยนั้นหลวงพ่อท่านเล่าว่า คาถาบทไหนดี ปฏิบัติแล้วมีผลเป็นยังไง ผมเอามาทำหมด #จนพระที่วัดบางองค์ถึงกับบอกว่า #พระเล็กจะไปวัดรอยเท้าของหลวงพ่อ เพราะอะไรก็ตามที่หลวงพ่อบอกว่าดี ผมทำหมด #จนวันหนึ่งเป็นวันลงอุโบสถ #หลวงพ่อท่านก็นั่งเป็นประธาน พระที่วัดก็มารวมตัวกันหมด พอหลวงพ่อท่านเห็นหน้าผมท่านก็ถามขึ้นมาทันทีเลยว่า
พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี : ”นี่!เล็ก... -
พระดีหรือไม่ให้ดูที่ ~ ศีล๕, พรหมวิหาร ๔, อคติ ๔ -หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
☆☆☆☆☆
พระดีหรือไม่ให้ดูที่ ~ ศีล๕, พรหมวิหาร ๔, อคติ ๔
☆☆☆☆☆
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าพระองค์นี้ดี องค์นี้ไม่ดี คะ?
หลวงพ่อ : อยากรู้ว่า พระองค์ไหนดี
ก็ไปถามท่าน.."ท่านคะ ท่านเป็นพระดีหรือเปล่า.?"
ท่านบอก : "ดี"
ใช้ได้เลย!!!
ผู้ถาม : หัวเราะ
▪หลวงพ่อ : เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ
☆ อันดับแรก เราก็ดูศีล ๕ ก่อนซิ ถ้าศีล ๕ ไม่มี ศีล ๒๒๗ มันก็ไม่มี.. นอกจากศีล ๕ ครบถ้วนแล้ว
☆ ก็ต้องทรง "พรหมวิหาร ๔"
เมตตา 》ความรัก
กรุณา 》 ความสงสาร
มุทิตา 》 อิจฉาริษยาใครไหม
อุเบกขา 》 คนอื่นเพลี่ยงพล้ำ ซ้ำเติมเขาไหม
☆ แล้วอีกประการหนึ่ง "อคติ"
ฉันทาคติ 》 ลำเอียงเพราะความรัก
โทสาคติ 》 ลำเอียงเพราะความโกรธ
โมหาคติ 》 ลำเอียงเพราะความหลง
ภยาคติ 》 ลำเอียงเพราะความกลัว
ก็ดูว่า "อคติ ๔" มีหรือเปล่า.. ถ้ามี ก็ใช้ไม่ได้อีก
พระนี่ ก่อนจะเข้ามาบวช พระพุทธเจ้า ท่านให้ฝึก
"ศีล สมาธิ ปัญญา" ก่อน
ไม่ใช่สักแต่ว่า : "ผมจะบวชครับ" ให้บวชเลย
อันนี้ ใช้ไม่ได้ เขาจะต้องให้อยู่
"ติตถิยะปริวาส" ก่อน ๓ เดือน
ถ้า ๓ เดือนไม่ดี ให้อยู่ต่ออีก ๓ เดือน
ถ้า ๓ เดือน ๓ ครั้ง เอาดีไม่ได้... -
ฝึกลืมอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลาย - หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
☆☆☆☆☆
ฝึกลืมอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลาย
☆☆☆☆☆
▪ต่อไปนี้ผมก็จะขอพูดถึงวิธีที่จะปฏิบัติในยามปกติ
เราพยายามลืมเสียให้หมด ลืมว่า
● คนนั้นเขาว่าเรา
● คนนั้นเขาด่าเรา
● คนนั้นเขาเกลียดเรา
○ คนนี้เขารักเรา
○ คนนั้นเขาสรรเสริญเรา
◇◇◇ อารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ใน โลกธรรมลืมมันเสีย ◇◇◇
》 มันจะมีลาภหรือไม่มีลาภก็ช่างมัน
》 ลาภมีแล้วมันจะหมดไปก็ช่างมัน
》 ยศถาบรรดาศักดิ์เขาจะให้หรือไม่ให้ก็ช่างมัน
◇◇◇ ลืมมัน อารมณ์อย่างนี้ลืมมัน ◇◇◇
》 เมื่อได้ยศมาแล้ว เขาจะเรียกคืนไปก็ช่างมันหรือว่า
》 การสรรเสริญนินทาจะมาจากทางไหนก็ช่างมัน
》 ความสุขความทุกข์จากอารมณ์ทางกายทางใจ
◇◇◇ ไม่มีความสำคัญสำหรับเรา เราลืมโลกธรรม ๘ ประการเสียจงพยายามลืม ฝึกลืม อย่าสนใจ ◇◇◇
● แล้วก็ลืมคำปรามาสทั้งหลาย
● ลืมอารมณ์ของความชั่วที่คิดว่าผู้ใหญ่ไม่ดี
● ลำเอียงรักคนนั้นมาก รักคนนี้มาก
● คนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี
● คนนั้นพูดไม่ถูกใจเรา
○ คนนี้เอาใจเรา
◇◇◇ ลืมมันเสีย ◇◇◇
เพราะว่านั่นเป็นอารมณ์แห่งความเลว และอารมณ์ของนิวรณ์ ๕ ตอนนี้นิวรณ์ ๕ ยังกวนใจอยู่
¤ กามฉันทะ รูปสวย...
หน้า 383 ของ 412