คลังเรื่องเด่น
-
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน มีดชัยยะปฐวี ของดีของครูบาชัยยะวงศาเป็นมหาลาภ มหาอำนาจ กันภูตผีปีศาจ
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน มีดชัยยะปฐวี ของดีของครูบาชัยยะวงศาเป็นมหาลาภ มหาอำนาจ กันภูตผีปีศาจ
มีดหมอครูบาชัยวงค์รุ่นแรก วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จัดสร้างโดยคุณขันชัย โสภักต์ ช่างมีดจากลำปาง ได้จัดสร้างมีดหมอถวายหลวงปู่ โดยใบมีดได้ตอกคาถาชัยยะปฐวี ริตติ ริตติ มิตติ จุตติธรณี ปริตตะ สมุหะติ สมุหะตา สมุหะเสมา สมุหะนัยยะ ชนะภัยทั้งปวง ใช้ป้องกันอันตราย คุณไสย มนต์ดำ ใช้ทำนำมนต์ลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ทันท่านปลูกเสกอธิฐานจิตใน วันที่ 15 เมษายน 2534
คาถาเสกมีดของครูบาวงค์ ท่านใช้คาถาหัวใจท้าวมหาราช และหัวใจธรณีสารช้างเผือก มีอุปเทห์การใช้คือ หัวใจท้าวมหาราช ป้องกันภูตผีปีศาจคุณไสย์ อมนุษย์ร้าย ส่วนธรณีสารช้างเผือก นั้น ป้องกัน อุบาด เสนียญจัณไร ภัยทั้งหลาย วิธีที่จะปลุกเสกธรณีสารช้างเผือก ต้องเสกคาถาใส่เทียนสีผึ้งแท้ จำนวน 3 เล่มให้เทวดาบริวาลของท่านมาคุมศาตรามหาราชทุกด้าม ให้มีผลเป็นกรณีพิเศษ เป็นที่รักของมนุษย์ เทพ เทวดา เป็นมหาลาภ มหาอำนาจ กันภูตผีปีศาจ เสนียญจัญไร คุณไสย์ ภัยทั้งหลาย
ออกแบบได้สวยงาม ขนาดพอเหมาะสำหรับพกพาติดตัว หรือเก็บไว้บูชาในบ้านเรือน
คาถามีดหมอ
โอม ปัตโต... -
หลวงพ่อช่วยตำรวจปราบเสือปล้น
หลวงพ่อช่วยตำรวจปราบเสือปล้น
ภาพประกอบทาง Internet
หลวงพ่อท่านมีชีวิตอยู่ถามอะไรไม่มีอะไรที่เป็นที่ข้องใจ เพราะท่านสงสัยมามากกว่าเราร้อยเท่า ท่านค้นคว้ามาเยอะ ไอ้เราสงสงสัยไม่เท่าท่านหรอก เดิมหลวงพ่อเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆใช่ไหม สมัยก่อนจะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง สมัยท่านเป็นเด็กรุ่นๆ อย่างเรายังไม่กล้าเท่าท่านหรอก เด็กรุ่นๆวัยรุ่นนี่นะเขาบอกว่า ท่านไปเลี้ยงควาย ทีนี้คนเก่าๆเขาสักกันใช่ไหม สักตามตัวนี่
" ลุงๆ สักทำไมไอ้นี่นะ "
" สักไว้เหนียว ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก "
พอเผลอๆท่านก็ฟันเบ้งเลย ฟันด้วยขวานนะ โอ..เข้าหรือเปล่าท่านไม่เล่าหรอก อย่างเราจะไปกล้าลองหรือน่ะ บอกว่าเหนียวฟันเลย ฟันด้วยขวาน แหม...ขวานนี่หนักกว่าดาบนะ ถึงไม่เข้าก็เลี้ยงไม่โตเลยล่ะ
" แสดงว่าหลวงพ่อนี่ตอนวัยรุ่นนี่น่าดูเหมือนกัน คงจะเฮี้ยนน่าดูเหมือนกันนะ "
ก็คุยว่าอย่างนั้นนี่ คุยว่าเหนียวนี่ เดี๊ยวจะเล่าเรื่องใจถึงไปยิงเสือโดดให้ฟัง
เสือโดดนี่เขาว่ามันเหนียว มันเป็นเจ้าพ่อสมัยโบราณ ถ้าเรียกเจ้าพ่อ หมายถึงเสือปล้น เรียกว่าไปหมู่บ้านไหนตำบลไหนนี่ คนก็ต้องนั่งราบหมด แล้วลูกน้องพกปืนสองกระบอก... -
"หลวงปู่มั่นกับนาคราช"
"หลวงปู่มั่นกับนาคราช"
" .. เมื่อครั้งอยู่เชียงใหม่ ท่านพระอาจารย์(หลวงปู่มั่นฯ) จำพรรษาอยู่บนเขากับชาวมูเซอ มีพระมหาทองสุกเป็นเพื่อน ใกล้ที่พักเป็นลำธาร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี อาศัยน้ำนั้นใช้อุปโภคบริโภค
มึนาคราชตนหนึ่งชื่อว่า "สุวรรณนาคราช" อาศัยอยู่ลำธารนั้น พร้อมด้วยบริวาร "นาคราชตนนี้เคยเป็นน้องชายท่านพระอาจารย์มั่นหลายภพหลายชาติ" ด้วยความสับสนแห่งภพจึงมาเกิดเป็นนาคราช เขารักเคารพและให้การอารักขาเป็นอย่างดี เวลาเดินจรงกรมจะมาอารักขาตลอด จนกว่าจะเลิกเดิน
หลายวันต่อมา นาคนั้นหายไป เกิดฝนไม่ตกร้อนอบอ้าว ข้าวไร่เริ่มขาดน้ำไม่งอกงาม เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นประมาณ ๑๕ -๑๖ วัน จึงได้เห็นหน้านาคนั้น
- ท่านพระอาจารย์ถามว่า "หายไปไหน"
- นาคราชตอบ "ไปขัดตาทัพอยู่ปากทาง(ลำธาร) ลงสู่แม่น้ำปิง"
- ท่านพระอาจารย์ "ทำไม"
- นาคราช "มีนาคอันธพาลตนหนึ่ง อาศัยอยู่แถวนั้นจะเข้ามา เลยไม่มีโอกาศแต่งฝน มัวแต่ไปขัดตาทัพอยู่"
- ท่านพระอาจารย์ "ให้เขาเข้ามาเป็นไร เพราะเป็นนาคเหมือนกัน"
- นาคราช "ไม่ได้ เข้ามาแล้ว มารังแกข่มเหงเบียดเบียนบริวาร"
- ท่านพระอาจารย์ "เป็นไปได้หรือ"
- นาคราช... -
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน มีดหมอ (มีดอาคมประจำกาย)
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน มีดหมอ (มีดอาคมประจำกาย)
จากพจนานุกรม มีดหมอ น. มีดลงคาถาอาคมใช้ไล่ผี. มีดขนาดกลาง ใบมีดรูปร่างคล้ายมีดเหน็บ แต่โคนมีดมีชายแหลมโค้งออจากคมเล็กน้อย ใช้สำหรับประกอบในพิธีทางไสยศาสตร์.
จากข้อสันนิษฐาน คำว่า “มีดหมอ” คำว่า หมอ ในที่นี้อาจจะมาจากคำว่า “หมอผี” ซึ่งในบรรดาหมอไสยศาสตร์ ทั้งหมอผีจะมีมีดที่ใช้ในการประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ แต่เดิมคงจะเรียกกันว่า “มีดหมอผี” แต่เกิดการตัดเอาคำว่าผี หรือคำอื่นเพื่อให้สะดวกแก่การเรียกขานจากคำว่า “มีดหมอผี” จึงกลายมาเป็น “มีดหมอ” หรืออีกในหนึ่งที่มีดหมอหมายถึงตัวแทนครู “มีดครูหมอ” แต่คำว่าครูเป็นอุปสรรคในการออกเสียง จึงถูกลดลงเหลือสองพยางค์ว่า “มีดหมอ” ส่วนอีกคำสันนิษฐานหนึ่งมากจากคำว่า “มีดพระพุทธคีเนศร์” หรือที่รู้กันในนาม “มีดพระ” ที่พระเกจิอาจารย์ท่านต่างๆได้เมตตาสร้างไว้ เพื่อใช้ในการป้องกันตัวจากอันตราย ขับไล่ภูตผี ขับไล่เสนียดจัญไร เมื่อมีคนป่วยไข้จากภูตผีและเสนียดจัญไร หมอผีจะใช้มีดในการรักษาขับไล่ผี ดังนั้นจึงถูกเรียกว่า “มีดหมอ” เพราะใช้รักษานั้นเอง
ส่วนทางล้านนา มีดหมอ จะถูกเรียกว่า “มีดครู”... -
พระเอกดัง "ริชาร์ด เกียร์" ท่องบทสวดมนต์สำเนียงเป๊ะ! |
อดีตพระเอกหนุ่ม ผู้มีบุญวาสนา
ขอบคุณที่มา
BRIGHT TV -
พระอรหันต์มีวันจะสิ้นสูญจากโลกนี้หรือไม่? พุทธองค์เคยตัรสตอบไว้เช่นไร หลวงตาบัวเคยเทศน์บอกไว้กว่า ๕๐ปีมาแล้ว!!!
พระอรหันต์มีวันจะสิ้นสูญจากโลกนี้หรือไม่? พุทธองค์เคยตัรสตอบไว้เช่นไร หลวงตาบัวเคยเทศน์บอกไว้กว่า ๕๐ปีมาแล้ว!!!
จวนวาระสุดท้ายก็มีผู้มาทูลถามว่า เมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว นานประมาณเท่าไรพระอรหันต์จะสิ้นสูญจากโลก มรรคผลนิพพานจะยังมีอยู่ในโลกนานประมาณเท่าไร พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ก็หลักพระธรรมวินัย ตถาคตมิได้แสดงให้ผิดจากเหตุผลอันเป็นฐานที่เกิดขึ้นแห่งมรรค ผล นิพพาน พอผู้ปฏิบัติตามจะผิดหวังในกาลที่ล่วงไปแล้วแห่งเรา แต่เราแสดงเพื่อมรรค ผล นิพพานทั้งนั้น เหตุใดจึงต้องมาถามอย่างนั้น ผู้ใดมีความสนใจใคร่ต่อการปฏิบัติธรรมที่เราแสดงไว้ชอบแล้ว ผู้นั้นจะได้รับความเป็นธรรมอยู่ตลอดกาล ทั้งที่ตถาคตยังมีชีวิตอยู่ และตถาคตนิพพานไปแล้ว เพราะสวากขาตธรรมไม่นิยมกาล สถานที่ บุคคล แต่เป็นอกาลิโกอยู่ตลอดกาล ถ้ายังมีผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมอยู่ตราบใด พระอรหันต์จะไม่สูญสิ้นจากโลกอยู่ตราบนั้น
ฉะนั้นจึงไม่ควรสงสัยในสิ่งที่ไม่น่าสงสัย แต่ควรสงสัยในตัวเอง ว่าเวลานี้เรามีความขยันหมั่นเพียรตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้าสอนหรือไม่เท่านั้น เป็นสิ่งที่ควรสนใจในตัวเอง ถ้าเป็นผู้เกียจคร้านหมดศรัทธาต่อพระสัทธรรม... -
เสียชีวิตแล้วจะไปไหน?! ปริศนาชีวิต 49 วันหลังจากการ "เสียชีวิต"
เสียชีวิตแล้วจะไปไหน?! ปริศนาชีวิต 49 วันหลังจากการ "เสียชีวิต"
มนุษย์และสัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย เพราะการ ‘ตาย’ หมายถึงสภาพร่างกายที่ไม่สามารถให้บริการแก่ จิตวิญญาณ ใช้งานต่อไปได้อีก “วิญญาณ” ยังคงอยู่ ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้วทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้นไป สุคติหรือลงสู่นรกภูมิ
1. ตอนตายใหม่ๆ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้ บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ 2. ตอนตายใหม่ๆ ถ้าหากหน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว 3. ตอนตายใหม่ๆ ถ้าหากร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไป เกิด เป็นสัตว์ 4 ชนิด
สังเกตได้จาก ตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท
– ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่) – หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตายหู... -
สุดประหลาด ยังหาคำตอบไม่ได้ !!! ทะเลสาปที่กว้างใหญ่ อยู่ๆก็หายไปอย่างลึกลับ...คนทั้งโลกตั้งคำถามสงสัย แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ !?!
สุดประหลาด ยังหาคำตอบไม่ได้ !!! ทะเลสาปที่กว้างใหญ่ อยู่ๆก็หายไปอย่างลึกลับ...คนทั้งโลกตั้งคำถามสงสัย แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ !?!
นี่เป็นเหตุการณ์สุดลี้ลับที่เกิดขึ้นที่ประเทศชิลี ในเดือนพฤษภาคม ปี 2007 เกิดเหตุการณ์สุดแปลกประหลาด เมื่อน้ำในทะเลสาบขนาดใหญ่ในปาตาโกเนีย ได้อันตรธารหายอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้เพียงหลุมลึกขนาด 30 เมตร รวมทั้งซากน้ำแข็งและดินแห้งๆ และมันจะไม่น่าแปลกใจเลย ถ้ามันเป็นเพียงแค่ทะเลสาปเล็กๆ แต่นี่มันเป็นทะเลสาปที่กว้างขนาด 5 ไมล์ แม้ว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปี แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้ว่า น้ำพวกนั้นได้หายไปอย่างไร มีเพียงสมมุติฐานเดิมๆจากกลุ่มผู้ชื่นชอบ UFO ว่ามันน่าจะถูกยานต่างดาวลักลอบสูบหายไป ทะเลสาบนี้ตั้งอยู่ในปาตาโกเนีย ประเทศชิลี ครั้งสุดท้ายที่นักธรณีวิทยาเห็นมัน คือในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2007 และก็ไม่มีพบอะไรที่ดูผิดปรกติ หรือพบว่ามันจะมีปรากฏแปลกที่เกี่ยวข้องกับทะเลสาบแห่งนี้เลย
มันจะเป็นไปได้ไหมที่น้ำจะเหือดหายไปภายในเวลาเพียงแค่ 2 เดือน ซึ่งตามปรกติของวิธีการตามธรรมชาติ น้ำก็อาจจะแค่เหือดแห้งไปตามภูมิอากาศ... -
ประสบการณ์หลวงปู่โลกอุดรและคำวินิจฉัยจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
“พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ” นั้น เป็นที่รู้กันดีในวงนักปฏิบัติและพระอริยเจ้าด้วยกันว่า ท่านเป็นพระแม้เป็นพระวิมุตติบริสุทธิ์และยังทรงคุณธรรมพิเศษทางด้านมโนยิทธิ อภิญญาสมาบัติอีกด้วย มีปกติสนทนาติดต่อกับสิ่งลึกลับที่พวกเราคนปุถุชนสามัญธรรมดาไม่มีตารู้เห็นไม่อาจสัมผัสได้ แต่สำหรับหลวงพ่อฤๅษีลิงดำนั้นท่านกลับสามารถพูดคุยสนทนาได้ปกติ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำนั้นท่านมีความสามารถทางเห็นผีเห็นวิญญาณมาแต่เล็ก เมื่อโตขึ้นครบบวชก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ “หลวงพ่อปาน” เพราะนิสัยซน อยากรู้อยากเห็น กล้าไม่กลัวใคร หลวงพ่อปานจึงเรียกท่านว่า “ลิง” และเหตุที่ท่านมีผิวคล้ำ หลวงพ่อปานจึงเรียกท่านว่า “ลิงดำ”
พระอริยเจ้าหลายท่านที่รับรองคุณวิเศษและความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เช่นหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา หลวงปู่บุดดา ถาว โร วัดกลางชูศรี สิงห์บุรี ครู บาชัยวงศ์ษา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดพระบาทวังมุย จ.ลำพูน ครูบาธรรมชัย จ.ลำพูน หลวงปู่มหาอำพัน วัดเทพสิรินทร์ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่... -
หลวงพ่อทาวัดพะเนียงแตก เกจิดังยุคโบราณ!!ผู้สยบเหล่านักเลงดัง "เหนียวไม่เป็นสองรองใคร" มีคาถามาบอก ดีในทุกๆด้าน!!
หลวงพ่อทาวัดพะเนียงแตก เกจิดังยุคโบราณ!!ผู้สยบเหล่านักเลงดัง "เหนียวไม่เป็นสองรองใคร" มีคาถามาบอก ดีในทุกๆด้าน!!
หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม
เกิด ประมาณปี 2397
บรรพชา อายุ 15 ปี ประมาณปี 2394 ณ วัดโพธาราม
อุปสมบท ณ วัดบ้านฆ้อง (วัดฆ้อง)
มรณภาพ ปี 2463
รวมสิริอายุ 84 ปี
หลวงพ่อทา พระคณาจารย์ยุคเก่าเมืองพระเจดีย์ใหญ่ ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากในอดีต บรรดานักเลงและเสือร้ายทั้งหลายทั่วเมืองต่างเกรงกลัวบารมีของท่าน เวลามีงานประจำปีของวัดพะเนียงแตก มีประชาชนมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก กลับไม่ต้องใช้ตำรวจมารักษาความปลอดภัยและก็ไม่มีเรื่องนักเลงตีกันในวัดเกิดขึ้นเลย หลวงพ่อมีนามว่า ทา เกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๗๙ ณ. ตำบลบ่อผักกูด อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ท่านเป็นบุตรชายคนโตในจำนวนพี่น้อง๔ คน น้องชายของท่านทั้งหมดอีกสามคนบวชเป็นพระภิกษุเช่นเดียวกับท่าน
ท่านบรรพชาเมื่ออายุ ๑๕ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๓๙๔ ณ.วัดโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และอุปสมบทเมื่ออายุ ๓๖ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๔๑๕ ณ. พัทธสีมาวัดบ้านฆ้อง หลังจากท่านอุปสมบท... -
“จะทำอย่างไร จึงจะพ้นจากการนับชาติไม่จบสิ้น” หลวงปู่ขาว!!! ท่านเมตตาอธิบายข้อสงสัยนี้ไว้จนหมดสิ้น มาดูกัน
“จะทำอย่างไร จึงจะพ้นจากการนับชาติไม่จบสิ้น” หลวงปู่ขาว!!! ท่านเมตตาอธิบายข้อสงสัยนี้ไว้จนหมดสิ้น มาดูกัน
ครั้งหนึ่งมีลูกศิษย์ท่านหนึ่งองหลวงปู่ขาว อนาลโยได้สงสัยในเรื่องของชาติภพ การเกิดใหม่ในชาติหน้า เลยสงสัยว่า ทำไงถึงจะได้ไม่เกิดในภพใหม่ หรืออีกความหมายก็คือ “การนิพพาน” ในพุทธศาสนานั้นเอง จึงได้ถามหลวงปู่ขาว อนาลโยว่า
ถาม.....จะทำอย่างไร จึงจะพ้นจากการนับชาติไม่จบสิ้นเล่าปู่
หลวงปู่ขาว ตอบ..... ก็ต้องทำความดี มีการบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ซึ่งเป็นเหมือนดาบอันคมกล้าตัดกิเลส ตัณหา ตัดภพ ตัดชาติ ให้เบาบางและสั้นเข้ามา
เมื่อบำเพ็ญอยู่โดยสม่ำเสมอ ไม่ลดละปล่อยวาง ความดีเหล่านี้ย่อมจะมีกำลังกล้าขึ้นโดยลำดับและตัดกิเลสตัดภพชาติให้สั้นเข้ามาจนถึงภพชาติปัจจุบันและรู้เท่าทันพร้อมทั้งตัดกิเลสอันเป็นเชื้อแห่งภพที่ฝังอยู่ภายในใจให้ขาดกระเด็นออกเป็นผุยผลไม่มีชิ้นต่อกันกับใจอีกเลย แล้วภพชาติจะเรียกโคตรแซ่ที่ไหนจะมาพาให้เกิดแก่เจ็บตายเพื่อหาบกองทุกข์น้อยใหญ่อีกต่อไปเล่า ถ้าลงใจได้บริสุทธิ์ล้วนๆ แล้ว เมื่อใจได้ถึงขั้นนี้แล้ว กิเลสอย่างไรก็เรียกไม่กลับแน่นอน
ปู่กับกิเลส... -
ถ้าไม่ดีจริง คงไม่มอบให้โอรสเสด็จเตี่ยแน่นอน "พระคาถาพุทธ นะฤาชา" หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ดีจริงสารพัด ๑๐๘ ประการ..
ถ้าไม่ดีจริง คงไม่มอบให้โอรสเสด็จเตี่ยแน่นอน "พระคาถาพุทธ นะฤาชา" หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ดีจริงสารพัด ๑๐๘ ประการ..
◾พระคาถาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
◾
พระคาถาพุทธ นะฤาชา
ให้ตั้งนะโม ๓ จบ
นะฤาชา กุติยะ ปัญจะลือ โสภะกัญจะ สะวะรัง วะรังฤามะหันตา นะมามิหัง
กรีนิ อักขรานิ ชาตานิ อุณาโลนาถัง เพชรตังโหติ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ สัตถุโน พุทโธ. (จบ)
พระคาถานี้ใช้ภาวนา เป็นเมตตามหานิยม ก็ได้ ใช้ทางคงกระพัน ก็ได้ กันภูติผีปีศาจก็ได้ เป็นทั้งมหาอำนาจ ก็ได้ ใช้ได้ ๑๐๘ประการ แล้วแต่อธิษฐานเอา
พระคาถานี้หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้ถ่ายทอดให้ "หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร" ซึ่งหลวงพ่อเป็นโอรส ของพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตุอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย ซึ่งเป็นรู้จักและเคารพนับถือกันมาช้านาน....
ขอขอบคุณ ที่มา เรื่องเล่าชาวสยาม
เรียบเรียงโดย
ศักดิ์ศรี บุญรังศรี : สำนักข่าวทีนิวส์
-----------------------
http://www.tnews.co.th/contents/319557 -
"ความเมตตาของหลวงปู่ขาว" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
.
"ความเมตตาของหลวงปู่ขาว"
" .. ในพรรษาแรกนั้น มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ หลวงปู่ขาว ได้เล่าให้ลูกศิษย์ฟัง ดังนี้ :-
วันหนึ่ง "ขณะที่ท่านบำเพ็ญภาวนาอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่ ได้เหลือบเห็นกวางตัวหนึ่งกำลังคุ้ยดินกินปลวกอยู่" ซึ่งบริเวณนั้น มีจอมปลวกใหญ่ใกล้ ๆ กับที่หลวงปู่ภาวนา
ขณะนั้น "มีนายพรานคนหนึ่งแอบซุ่มอยู่ ได้ยิงกระสุนใส่กวางหลายนัด" แม้จะเป็นระยะใกล้ ๆ ไม่น่าพลาด "แต่กระสุนไม่ถูกตัวกวางแม้แต่นัดเดียว" ทำให้กวางหลุดรอดไปได้
พรานเหลือบเห็นหลวงปู่อยู่แถวนั้น จึงเอ่ยถามหลวงปู่ว่า "เป็นเพราะอะไรจึงยิงกวางไม่ถูก" หลวงปู่ตอบว่า "ท่านเพียงแต่ ส่งกระแสเมตตาให้กวางตัวนั้น" เหมือนกับที่ท่านทำอยู่ตามปกติเท่านั้น .. "
หนังสือบูรพาจารย์
หลวงปู่ขาว อนาลโย -
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง ดาวอังคาร ,ดาวพุธ ดาวพฤหัส ดาวศุกร์ ดาวเสาร์
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง ดาวอังคาร
Buddhism Channel :-
Published on Dec 14, 2016
นิทาน จุไรท่องเที่ยวดวงดาว -
ที่มาของมงคลชีวิต๓๘ประการและอรรถาธิบาย (ฉบับเจ้าคุณอุบาลี วัดบรมนิวาส)
รวมธรรมะครูบาอาจารย์ ตอน ที่มาของมงคลชีวิต ๓๘ ประการ
กาลเมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีที่ผ่านมา ณ ชมพูทวีป มหาชนและคนทั้งหลายผู้อาศัยอยู่ในโลกใบนี้ ต่างคนต่างก็มีความปริวิตกหวาดกลัวต่อความทุกข์ยากเดือดร้อนจากภัยที่จักเป็นอันตรายแก่ตน และคนทั้งทรัพย์สินในครอบครัว ด้วยอาศัยอำนาจแห่งความกลัวนี้ ชนทั้งหลายได้พากันขวนขวายแสวงหาที่พึ่งพาอาศัย ที่ตนเชื่อว่าประเสริฐและทรงอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจักได้ช่วยคุ้มครองปกปักรักษาชีวิตและทรัพย์สินของตนๆ ให้อยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงที่จักอุบัติขึ้น
บางขณะก็ใช้ที่พึ่งนั้น ให้ช่วยปัดเป่ารักษาอาการเจ็บไข้และโรคร้ายทั้งปวง บางทีก็ใช้ให้ที่พึ่งนั้นดลบันดาลให้พืชผลทางการเกษตรของตนเจริญงอกงาม หรือไม่ก็ใช้ที่พึ่งนั้นช่วยปกป้องภัยภิบัติ อันจักพึงมีแก่พืชผลทางการเกษตรทรัพย์สินและชีวิตของตน ซึ่งบางครั้งก็ดูเหมือนว่าที่พึ่งเหล่านั้นได้ดลบันดาลให้สำเร็จประโยชน์ตามที่ขอได้จริง
แต่ก็บ่อยครั้ง หรือหลายครั้งที่ที่พึ่งเหล่านั้นมิได้ช่วยให้สำเร็จประโยชน์ตามที่ขอได้เลย แถมยังเป็นตัวทำลายชีวิตทรัพย์สินของผู้เคารพยอมรับบูชาเสียอีก... -
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน ดาบเหล็กน้ำพี้ ดาบใช้ดับอาถรรพ์ทั้งปวง
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน ดาบเหล็กน้ำพี้ ดาบใช้ดับอาถรรพ์ทั้งปวง
เหล็กน้ำพี้จัดเป็นธาตุที่มีเตโชธาตุในตัวสูงอย่างยิ่งรัศมีของเหล็กน้ำพี้ จึงเป็นที่เกรงกลังของบรรดาภูตผีปีศาจทั้งหลายด้วยความร้อนแรงแห่งเตโชธาตุภายใน บุคคลที่มีลุฌานสมาธิได้ตาในจากการนั่งกรรมฐาน จะแลเห็นรัศมีของเหล็กน้ำพี้เป็นสีแดงสด บ่งบอกอำจาจทางการคุ้มครองชั้นสูง และอำนาจจากเตโชธาตุ ที่ส่งผลในทางตบะเดชะ สนับสนุนดวงชะตาชีวิตให้เป็นเจ้าคนนายคน และอำนาจจากเตโชธาตุนี้เองที่ยังเป็นตัวล้างอาถรรพณ์ทั้งปวงจากคุณไสยมนต์ดำ
เตโช ธาตุ คือ ธาตุไฟ ครูบาอาจารย์ต่างกล่าวว่า ธาตุไฟในโลกนี้มีอำนาจในทางสร้างมายาอย่างหนึ่ง และสามารถทำลายอาถรรพณ์จากเวทย์มนต์ พลังจิตทุกชนิด ล้างอาถรรพณ์ได้ด้วยธาตุไฟแถมยังเป็นสิ่งที่ให้พลังแก่ชีวิตเราด้วย ดังนั้นพลังงานนี้จะทำให้ร่างกายของผู้ที่ได้รับเกิดความแข็งแรงกระชุ่ม กระชวย หากทำการรับพลังงานจากแร่เหล็กน้ำพี้เสมอๆ จะทำให้แก่ช้า และยังได้ความคงกระพันด้วย บางท่านสื่อพลังเหล็กน้ำพี้ไปนานวันจะเกิดตบะเดชะ เส้นผมจะกลายเป็นสีเหล็กหรือสีทองแดง... -
อัตโนนาโถ......โดยครูบาชัยยะวงศา
อัตโนนาโถ
อนึ่ง ลูกเราไม่ใหญ่เราบ่ตายมันก็ว่า
แม้ว่าลูกใหญ่มา
เขาจะไปช่วยรักษา ศีล ภาวนา ก็หาบ่ได้
แม้นว่า ข้าวของสมบัติทั้งมวล ในที่สุดก็ตกเป็นของแผ่นดินเปล่า
คือว่าใครตายก็ละไว้ บ่เอาตามไปได้สักอย่างสักอัน
เหตุนั้นบ่ควรที่เราจะห่วง มันบ่เป็นแก่นเป็นสาร
ถึงเมื่อเราตายไป ใครก็บ่ไปช่วยส่งนี้แล
สมควรผู้มีปัญญา ควรขวนขวายกระทำบุญ ให้ได้เป็นที่พึ่งแก่ตนเสียบ้าง
อัตโนนาโถ
ตัวให้เอาตัวเป็นที่พึ่ง อย่าเอาคนอื่นเป็นที่พึ่ง
ตายบ่ไปด้วยกัน
พระบัญชา กตปุญโญ(หนานบัญชา ขจรเกียติสกุล) ผู้ถอดเทด -
ของดีแต่โบราณ!! "ตะปูสังฆวานร" ธาตุกายสิทธิ์ของพญาวานร อานุภาพในการป้องกันภูตผี คุณไสยต่างๆ สิ่งอัปมงคลทั้งหลาย !!!
ของดีแต่โบราณ!! "ตะปูสังฆวานร" ธาตุกายสิทธิ์ของพญาวานร อานุภาพในการป้องกันภูตผี คุณไสยต่างๆ สิ่งอัปมงคลทั้งหลาย !!!
แท่งเหล็กเก่าคร่ำคร่า ที่เห็นในรูป ลักษณะคล้ายตะปูเก่า นั้น เป็นของดีแต่โบราณมาแล้วครับ เรียกกันว่า ตะปูสังฆวานร ตะปูสังขวานร นั้น นับเป็นวัตถุมีดีในตัวเครื่องรางกันภูตผี ในอดีตเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคาแก่กล้า เมื่อต้องการจะทำหารสร้างมีดหมอ หรืออาวุธใดๆ ที่ใช้ในการป้องกันภูตผีปีศาจ หรือคุณไสยต่างๆ สิ่งที่จะขาดมิได้เลยก็คือตะปูสังขวานรครับ เนื่องจากมีอานุภาพในการป้องกันภูตผี คุณไสยต่างๆ สิ่งอัปมงคลทั้งหลาย ได้ผลชัดเจน
ตะปูสังฆวานร เกิดจากพญาวานรตนหนึ่งซึ่งลงมาจุติเกิดในภพภูมิของมนุษย์ แล้วเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังมิวายที่จะติดใจหลงไหลในฤทธิ์อำนาจของตนเองที่ติดตัวมาตั้งแต่ อดีตชาติ เมื่อเข้ามาบวชเรียนแล้ว พญาวานรก็ยังชอบที่จะใช้ฤทธิ์ใช้อำนาจที่มีอยู่เดิม ในการเหาะเหิรเดินอากาศเพื่อที่จะไปเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุ(สีขาวนวล) ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศธาตุ ซึ่งมิได้ถูกเทพ-เทวาอัญเชิญไปเป็นฐานพระเกตุแก้ว จุฬามณี (ฐานของพระเกตุแก้วจุฬามณีเป็นวัชรธาตุ)... -
อาถรรพ์ วันพระ!! "ผีเปรต" มักออกมาขอส่วนบุญ แต่บางคนอยากเจอ อยากเห็น!! ยังโชคดี แค่"สลบ" แต่ก็บ้ามามากแล้ว อย่าลองเด็ดขาด
อาถรรพ์ วันพระ!! "ผีเปรต" มักออกมาขอส่วนบุญ แต่บางคนอยากเจอ อยากเห็น!! ยังโชคดี แค่"สลบ" แต่ก็บ้ามามากแล้ว อย่าลองเด็ดขาด
ผีเปรต คืนวันพระ
“คืนวันพระเริ่ม”
เมื่อ พ.ศ. 2530 หนูได้ไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการเป็นงานเย็บผ้า และช่วงกลางคืนจะมีโอทีให้ทำและเป็นธรรมดาที่หนูชอบให้คนเล่าเรื่องผีให้ฟัง ซึ่งหนูก็ถามพี่เอกว่า เคยเห็นผีไหมถ้าเคยเห็นก็ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมพี่เอก ก็เล่าให้ฟังแต่พวกเราไม่ค่อยเชื่อว่าผีมีจริงหรือไม่ พี่เอกก็แนะนำว่าถ้าอยากเจอ เปรตให้ไปที่วัดชมนิมิตในคืนวันพระเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงตี 3 ซึ่งคนที่ฟังพี่เอก เล่ามี 3 คน มี จันทร์ ต้อย และหนู พี่เอกบอกว่าถ้าไปถึงวัดแล้วให้ก้มลงมองลอด ใต้ขาตัวเองแล้วจะเห็นเปรต
“นอนแน่นิ่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์”
พอถึงวันพระหนูกับเพื่อนก็ได้ไปที่วัดชมนิมิต พอไปถึงรู้สึกว่ามันเงียบ อากาศเย็น ลืมบอกไปว่า ต้องอยู่คนเดียว หนูก็พูดกับจันทร์และต้อยว่าเรามาด้วย กัน 3 คน แต่จันทร์ เป็นผู้ชายให้จันทร์เป็นคนลงมือดีกว่านะ เรามารอจันทร์อยู่ข้าง วินมอเตอร์ไซค์ประมาณสัก10 นาทีได้ ก็ได้ยินเสียงคนร้องขึ้นมา ซึ่งเราก็จำได้ว่า... -
"ทุกข์ เพราะความอยาก" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
"ทุกข์ เพราะความอยาก"
" .. ความทุกข์มันเกิดจากความอยาก ความใคร่ "ภวตัณหา ความอยากได้ อยากเป็น อยากมี" อยากกอบโกยเอา อยากได้มาเป็นของตัว อยากเป็นเศรษฐีคหบดี อยากเป็นราชามหากษัตริย์ "เรียกว่าภว ความอยากเป็นอยากมี"
"ความไม่พอใจเหมือนอย่างความแก่หง่อมแห่งชีวิต" ความเปลี่ยนแปลงแห่งชีวิต ความมีหนังหดเหี่ยวเป็นเกลียว ผมหงอกฟันหัก อันนี้ไม่พอใจ เสียใจ "อยากให้มันเป็นหนุ่มตึงอยู่เหมือนเก่า" ผมหงอกมันก็เอายาดำ ๆ มาย้อม แล้วมันก็ป่งขึ้นอีก(เกิดขึ้นใหม่) มันก็ขายหน้าล่ะ มันก็ดำอยู่ปลายนั่น โคน ๆ มันก็ขาว มันก็ขายหน้าอีก แล้วก็ไม่พอใจ "นี่เรียกว่า วิภวตัณหา" ตัณหาสามอย่างนี้แหละเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ .. "
"อนาลโยวาท"
หลวงปู่ขาว อนาลโย -
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน " ดาบสรีกัญไชย " พระเวทย์สูงสุดแห่งแผ่นดินล้านนา
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน " ดาบสรีกัญไชย " พระเวทย์สูงสุดแห่งแผ่นดินล้านนา
สรีกัญไชย” คำนี้ เขียนตามอักษรธรรมล้านนา ออกเสียงว่า “สะ-หลี๋-กั๋น-ไจ” บางแห่งใช้ “สรีกัญชัย” ก็มี หมายถึงดาบวิเศษของพระโพธิสัตว์ ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในนามของดาบศักดิ์สิทธิ์ ที่ครูบาอาจารย์พระเถระสังฆเจ้า ได้เมตตาสร้างไว้เป็นเครื่องรางทรงพุทธานุภาพ ปกป้องคุ้มครองบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่ได้มีไว้สักการบูชา กล่าวได้ว่าเป็นที่สุดแห่งศาสตร์พระเวทย์ล้านนา เป็นวิชาชั้นสูงของภาคเหนือก็ว่าได้
ดาบชื่อนี้ เป็น ๑ ใน ๕ อย่างของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ล้านนา มีรูปลักษณ์ต่างกันออกไป เช่น เป็นดาบยาววาก็มี เป็นดังมีดน้อยก็มี หรือมีด้ามยาวอย่างง้าว ที่ใช้เป็นเครื่องเทียมยศพระพุทธรูป ปักเรียงกับละแอบังสูรย์ ทั้งหมดต่างเรียกขานว่า ดาบสรีกัญไชย และหากจะเทียบศักดิ์แห่งดาบนี้ คงทำนองเดียวกับพระแสงขรรค์ชัยศรีของภาคกลาง รูปแบบดาบโดยละเอียดเป็นอย่างไร เนื้อเหล็กเป็นอย่างไร ในเอกสารล้านนาไม่ได้พรรณนาไว้ รู้แต่ว่าเป็นของวิเศษคู่บุญพระโพธิสัตว์
หากจะพูดถึงที่มาที่ไปของดาบสรีกัญไชย คงต้องนับย้อนไปถึงตำนานความเชื่อตามโบราณกาล... -
หลวงพ่อทำตะกรุดใต้น้ำ
เรื่องเล่าจากหมวดตระกูลเรื่องนี้นำมาจากธัมมวิโมกข์ฉบับเดือนธันวาคม 2556
ลองอ่านกันดูครับโดยเฉพาะเรื่องหลวงพ่อเดินลงไปทำตะกรุดใต้น้ำ
เรื่อง หลวงพ่อทำตะกรุดใต้น้ำ
ในบรรดาลูกศิษย์รุ่นแรกๆของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เริ่มตั้งแต่ก่อร่างสร้างวัดกันมา ร.ต.ต. ตระกูล เปาริก เป็นหนึ่งในผู้ที่มีโอกาสได้รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อคนหนึ่ง ได้รู้ได้เห็นปฏิปทาของหลวงพ่อมาอย่างต่อเนื่อง
หมวดตระกูลเคยเล่าประสบการณ์หลายเรื่องให้ฟังกัน ซึ่งพวกเรามัวแต่ชะล่าใจว่าอยู่ใกล้ๆ เลยไม่ทันได้ถ่ายทำไว้ มาตื่นตัวอีกทีก็เมื่อหมวดตระกูลป่วยและจากพวกเราไปแล้ว เลยต้องบันทึกข้อมูลเผื่อให้คนรุ่นหลังไว้
เรื่องแรก ระหว่างปี 2514-2518 ปีไหนจำไม่ได้ แต่จำได้ว่าปีนั้นน้ำท่วมวัด ในช่วงนั้นโบสถ์ใหม่ยังไม่ใด้สร้าง ต้องใช้แพโบสถ์น้ำในการทำสังฆกรรม ตำแหน่งของแพโบสถ์น้ำก็ประมาณแพปลาในแม่น้ำสะแกกรังหน้าวัดในปัจจุบันนี้
มีอยู่วันหนึ่งหลวงพ่อเดินถือแผ่นทองแดงปึกหนึ่ง กะคร่าวๆประมาณ 10 แผ่น เดินไปแพโบสถ์น้ำ (ระหว่างนั้นยังไม่ได้สร้างหอฉัน) หมวดตระกูลก็เดินตามไป ที่แพจะมีกระดานเป็นสะพานทอดข้ามอยู่... -
ตำนานอันลึกลับ "พระอุ้มหมา แม่ชีอุ้มแมว" สิ่งน่าสะพึงกลัวที่มาพร้อมความตาย อย่างไม่คาดคิด!!
หลอนกันสุดๆ.. ตำนานอันลึกลับ "พระอุ้มหมา แม่ชีอุ้มแมว" สิ่งน่าสะพึงกลัวที่มาพร้อมความตาย อย่างไม่คาดคิด!!
คุณเชื่อเรื่อง ปอบ หรือไม่ เคยมีคนเล่ากันมาเกี่ยวกับ พระอุ้มสุนัข แม่ชีอุ้มแมว หรือไม่ เรื่องนี้ลือกันมานานแล้วว่า จะมีพระอุ้มสุนัขสีดำ และแม่ชีอุ้มแมวสีดำ เดินคู่กันและจะเดินไปเรื่อยๆตามบ้านต่างๆ แล้วก็จะร้องเรียกหรือเคาะประตูบ้านคน ถ้าใครขานรับหรือสบตาผู้นั้นก็จะตาย ในทันที
หรือหากใครเคยมีผู้คุยกับพระและชีคู่นี้ ก็ต้องตายไป พอนำศพไปชันสูตรปรากฏว่าอวัยวะข้างในนั้นไม่มีเหลือเลย หายไปอย่างไรร่องรอย คนเลยเชื่อกันมา พระอุ้มสุนัข แม่ชีอุ้มแมว นั้นคือ ปอบ
ปอบ มีต้นกำเนิดมาจากผู้ที่มีวิชา ไสยศาสตร์ มนต์ดำจนแก่กล้า สามารถใช้อำนาจอันเข้มขลังจากเวทมนตร์คาถาไปกระทำร้ายหรือทำลาย ชีวิตผู้อื่นได้ เช่น ทำ เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝังรอยเสกหนังควาย เสกตะปูเข้าท้อง หรือใช้มนตราบังคับวิญญาณ ภูตผีไปเข้าสิง วิชาไสยศาสตร์เหล่านี้มีข้อห้าม ข้อปฏิบัติกำกับอยู่ด้วย ผู้ที่มีวิชาอาคมทาง ไสยศาสตร์ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงระบุว่า เป็นเดียรฉานวิชา จะต้องระวังไม่ให้ละเมิดข้อห้าม ข้อปฏิบัติโดยเด็ดขาด
หากกระทำผิดข้อห้าม... -
กราบสาธุ!! หลวงตา”วัยกว่า70ปี เก็บดอกพิกุลที่ร่วงขายทำเงินเข้าวัดปีละหลายแสนบาท ซึ่งหลวงตาทำมานานกว่า10ปี!!
กราบสาธุ!! หลวงตา”วัยกว่า70ปี เก็บดอกพิกุลที่ร่วงขายทำเงินเข้าวัดปีละหลายแสนบาท ซึ่งหลวงตาทำมานานกว่า10ปี!!
หลายคนคิดว่าดอกพิกุลที่เราได้ยินในวรรณคดี อาจไม่มีค่า ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ใครจะไปรู้ละว่า มันสามารถสร้างรายได้มากถึงปีละแสนบาทเลยทีเดียว!! เช่นเดียวกับหลวงตาวัยกว่า70ปีซึ่งเป็นพระลูก วัดไลย์ ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เก็บดอกพิกุลที่มีอยู่ในวัดจำนวนมากส่งขายสร้างรายได้เข้าวัดปีละหลายแสนบาท
โดยทั้งนี้ดอกพิกุลถือเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดลพบุรี และที่วัดไลย์ ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี มีต้นพิกุลอยู่ภายในวัดเป็นจำนวนมากกว่า500ต้น ทั้งต้นเล็กและต้นใหญ่ ซึ่งในทุกเช้าหลวงตาเทิม วัยกว่า70ปี พระลูกวัดของวัดไลย์ ออกบิณฑบาตรแล้ว ก็จะนำญาติโยมในวัดอีก 2-3คน ออกเก็บกวาดดอกพิกุลที่ล่วงลงมาจากต้นกองอยู่กับพื้นดินและพื้นปูนของบริเวณวัด เพื่อเป็นการทำความสะอาดลานวัด และรวบรวมดอกพิกุลที่ล่วงมาคัดแยกออกจากใบ ออกจากก้าน เพราะทั้งหมดขายได้หมดแต่ราคาจะแตกต่างกัน
ทั้งนี้หลวงตาเทิมได้กล่าวอีกว่า การคัดแยกดอกพิกุลก็เพื่อให้เหลือแต่ดอกพิกุล นำมาตากแดดให้แห้ง... -
"วิธีละกรรม ชำระบาป" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
"วิธีละกรรม ชำระบาป"
" .. การภาวนา คือการสำรวมใจ "นี่แหละเป็นการละบาปบำเพ็ญบุญ นี่เป็นวิธีตัดลัดใกล้ที่สุดในการที่จะละชั่วทำดี" เห็นชัดภายในใจของตนเลย ใจที่เรายังไม่ได้อบรมภาวนา คือไม่ได้นั่งสมาธิ จิตจะต้องยุ่งส่งส่ายวุ่นวายไปหาอารมณ์ที่ชั่วที่ดี โดยมากมักเป็นไปในทางที่ไม่ดี
เมื่อเรามานั่งภาวนนาทำสมาธิสำรวมอยู่ในทางที่ดี "นั้นเรียกว่า ละชั่ว นี่แหละเป็นการชำระกรรม" คือว่า "ล้างบาปด้วยวิธีนี้ ล้างความชั่วด้วยวิธีนี้ จนกระทั่งเราล้างชำระจนหมดจด" ใจมันแน่วแน่อยู่ในอารมณ์อันเดียว เป็นสมาธิถึงอัปนายิ่งดี แล้วจะไม่มีอะไรเลยในขณะนั้น "นั้นเรียกว่ากรรมหมดจด" ความชั่วที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ละขณะนั้นเลย
ถ้าหากเราหัดอยู่อย่างนี้อยู่ตลอดเวลา ความชั่วก็หมดไป ๆ เวลามันออกมาอีก เมื่อมาอยู่ธรรมดา ๆ ก็จะไม่ยอมทำความชั่วนั้นต่อไป "วิธีละกรรมชำระบาปอย่างง่ายที่สุดด้วยการภาวนา" เหตุนั้นจึงควรหมั่นทำบ่อย ๆ จนกว่ามันจะหมดสิ้นไป .. "
"ถามตอบต่างประเทศ ๖"
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
Buddhism Channel :-
Published on Dec 14, 2016
นิทาน จุไรท่องเที่ยวดวงดาว -
ความรู้ของจิตพิสดารมาก
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๑
ความรู้ของจิตพิสดารมาก
จิตเป็นของละเอียดมาก รู้สึกจะมีความละเอียดเหนือสิ่งใด ๆ จนไม่ปรากฏร่องรอยที่ไปและมา แม้จะท่องเที่ยวอยู่ได้ทั้งวันทั้งคืน ร่องรอยของจิตที่พอจะยึดได้ว่าเป็นอย่างนั้น ๆ เหมือนด้านวัตถุนี้ไม่มี ท่านเปรียบไว้เหมือนกับนกบินบนอากาศ ไม่มีร่องรอยทั้งนั้น อีกตอนหนึ่งเปรียบถึงท่านผู้บริสุทธิ์ที่ได้พรากจากร่างนี้ไปแล้ว ไม่มีร่องรอยว่าจะไปเกิดหรือไปตั้งอยู่ในสถานที่ใดอย่างนี้อีกเหมือนกัน แม้จิตจะยังมีสมมุติอยู่ภายในตัวที่เรียกว่ากฎแห่งกรรมก็ตาม แต่จิตก็ไปตามธรรมชาติของจิตที่มีความละเอียดประจำตัวอยู่แล้ว แม้จะไปสู่สถานที่ใดหรือไปเกิดในที่ใด ๆ การไปของจิตนั้นก็ไม่มีใครสามารถจะทราบได้ นอกจากท่านผู้มีญาณซึ่งควรจะรู้ได้เท่านั้น
ตามธรรมชาติของจิตแล้วมีความละเอียดประจำตนอยู่เสมอเช่นนี้ จึงยากที่จะพิสูจน์ให้ทราบได้ การปฏิบัติบำเพ็ญมีการภาวนาเป็นต้น นี้แลท่านว่าเป็นทางพิสูจน์เรื่องความ"รู้"คือใจของตัวเอง และความเคลื่อนไหวของใจว่าจะกระเพื่อมไปสู่วัตถุหรืออารมณ์ใด... -
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง ดาวหลุมดำ (3 ชม.)
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง ดาวหลุมดำ(3Hr.)
Buddhism Channel :-
Published on Dec 15, 2016
นิทาน จุไรท่องเที่ยวดวงดาว -
นาซา เก็บความลับเงียบ !!! แสงสะท้อนปริศนาจากโลก ที่หาคำตอบไม่ได้กว่า 10 ปี !?! วันนี้มีคำตอบแล้ว...
นาซา เก็บความลับเงียบ !!! แสงสะท้อนปริศนาจากโลก ที่หาคำตอบไม่ได้กว่า 10 ปี !?! วันนี้มีคำตอบแล้ว...
ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน ปี 2015 จนถึงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว กล้องโทรทรรศน์กำลังสูงขององค์การนาซา บนดาวเทียมสำรวจสภาพชั้น บรรยากาศ Deep Space Climate Observatory หรือดิสคัฟเวอร์ สามารถจับภาพแสงสะท้อนปริศนาจากโลกรวมกัน 866 ครั้ง
นายอเล็กซานเดอร์ มาร์ชัค นักวิทยาศาสตร์ประจำโครงการดิสคัฟเวอร์ที่ศูนย์ Goddard Space Flight ของนาซา บอกว่า จริงๆ แล้ว ตัวเขาและนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง สังเกตพบแสงปริศนาดังกล่าวในบริเวณที่เป็นมหาสมุทร ตั้งแต่ปี 1993 ซึ่งก็อาจจะอธิบายได้ไม่ยากว่าเป็นการสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์ของผืนน้ำ แต่นักวิทยศาสตร์ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบแสงสะท้อนที่ว่านี้ในบริเวณที่เป็นแผ่นดินเช่นกัน หรือหากเป็นแสงสะท้อนจากแหล่งน้ำหรือทะเลสาบ แสงที่ว่าก็มีขนาดใหญ่เกินไป
แต่ในที่สุด นักวิทยาศาสตร์ของนาซา ก็ไขปริศนาของแสงสะท้อนนี้ได้แล้วค่ะ โดยพบว่าที่มาของแสงสะท้อนนี้ เป็นการสะท้อนของแสงอาทิตย์กับผลึกน้ำแข็งในกลุ่มเมฆเซอร์รัส (Cirrus) ซึ่งมีลักษณะเป็นริ้วๆ ลอยอยู่ในระดับสูง... -
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน พระขรรค์ เทพศาสตราใช้ปราบสิ่งชั่วร้าย ภัยอันตราย ทั้งปวง ดีนักแล
เล่าขานตำนานไสยเวทย์ไทย ตอน พระขรรค์ เทพศาสตราใช้ปราปสิ่งชั่วร้าย ภัยอันตราย ทั้งปวง ดีนักแล
พระขรรค์ คือ อาวุธปลายแหลม คลายมีด แต่มีสองคม และเรียวตรงกลาง คณาจารย์ท่าน ได้แยกแขนงมาจากมีดหมอ หรือเทพศาสตรา ใช้สำหรับการปราบภูติผีปีศาจ และคุ้มกันอันตราย วัตถุประสงค์ในการสร้างก็ดุจเดียวกันคือ "มีดหมอ" นั่นเอง
สืบสวนตำนานการสร้างพระขรรค์ ตามตำราไชยสงคราม ถือว่า เป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางประเภท “ศาสดาวุธ” เลยก็ว่าได้ ในอดีตแม้แต่หลวงปู่ศุขวัดปากคว้างมะขามเฒ่า ยังเคยสร้างถวายแก่เสด็จในกรมหลวงชุมพรอุดมศักดิ์ ซึ่งพระองค์ ใช้เป็นเครื่องรางประจำพระองค์ นั้นคือ พระขรรค์โสฬส เป็นอาวุธที่แม้แต่ท่านขุนพันยังให้ความสนใจ ซึ่งในประวัติ เชื่อกันว่า สร้างขึ้นเพียง 7 เล่มเท่านั้น แสดงให้เห็นว่า การสร้างพระขรรค์ในสมัยโบราณกาล ไม่ใช่จะสร้างกันได้ง่ายๆ มิใช่จะไปสั่งมีดที่ทำสำเร็จตามท้องตลาด แล้วนำมาปลุกเสกกันหลายๆวาระ แล้วจะมาเรียกกันว่า เทพศาสตรา อย่างพระขรรค์ก็คงจะไม่ได้ เพราะพระขรรค์ถือว่าเป็น อาวุธคู่บารมีแห่งพระมหากษัตรย์จะมาทำกันแบบสุกเอาเผากิน เห็นทีจะไม่ควร...
หน้า 373 ของ 412