คลังเรื่องเด่น
-
“หลวงพ่อสุ่น” สอน “หลวงพ่อปาน” ฝึกสมาธิขั้นต้น ด้วยวิชา “สะเดาะกุญแจ”
เมื่อครั้งที่หลวงพ่อปานได้บวชเรียนใหม่ๆ หลวงพ่อสุ่นก็เรียกเข้าไป หลวงพ่อปานก็เข้าไปกราบ หลวงพ่อสุ่นก็เอามือลูบหัวบอกว่า
“ปานเอ๊ย อยู่กับพ่อนะ จะได้ดีนะ นับตั้งแต่นี้ต่อไปเป็นลูกของพ่อ เอาล่ะ”
ท่านหันไปบอกพ่อของท่าน “เอ็งน่ะกลับไปบ้านได้แล้ว ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องห่วงไอ้เจ้าปาน มันเป็นลูกของข้าแล้ว”
“แล้วแกไม่ต้องห่วง เจ้าปานของข้ามันไม่สึก แล้วต่อไปน่ะข้ามีอะไรข้าจะถ่ายทอดให้มันทั้งหมด ไอ้นี่ข้ามองมาตั้งแต่เล็กแล้ว ตั้งแต่ ๔-๕ ขวบข้าก็มองๆ มา นึกว่าถ้าเจ้าปานนี่มันบวชก่อนข้าตายแล้ว ข้าจะต้องเอามาไว้ วิชาความรู้ของข้านี่ถ่ายทอดใครไม่ได้ ไม่มีใครรับเอาไปได้หมด ข้ามองมานานแล้วว่าเจ้าปานมันรับของข้าได้”
ท่านบอกว่า พอฟังเท่านั้นแหละ ปลื้มใจบอกไม่ถูก คิดไม่ถึงว่าท่านจะเป็นคนที่หลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอต้องการตัว เพราะเวลานั้นหลวงพ่อสุ่นมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ในสมัยนั้นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็มี หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล, หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ, หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน แล้วก็หลวงพ่อแสง วัดพะเนียงแตก จังหวัดนครปฐม ชื่อก้องเมือง พระ ๔-๕ องค์นี้ชื่อก้องเมืองขนาดหนัก... -
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน ภิกษุสองสหายผู้เป็นปฏิบัติ และ ปริยัติ
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน ภิกษุสองสหายผู้เป็นปฏิบัติ และ ปริยัติ
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่พระเชตวันกรุงสาวัตถี ได้ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 19 และพระคาถาที่ 20 โดยปรารภภิกษุสองสหาย
ครั้งหนึ่งมีภิกษุสองรูปเป็นสหายกันจากตระกูลคฤหบดีในกรุงสาวัตถี ในภิกษุสองรูปนี้รูปหนึ่งศึกษาเล่าเรียนพระไตรปิฏกจนมีความเชี่ยวชาญสามารถท่องจำความในพระคัมภีร์ต่างๆได้มากมาย ท่านรูปนี้ยังได้สอนพระภิกษุอื่นอีกเป็นจำนวน 500 รูป และยังได้เป็นผู้แนะนำภิกษุอื่นๆอีก 18 กลุ่มด้วยกัน ส่วนภิกษุอีกรูปหนึ่งนั้นมีความขยันหมั่นเพียรตามแนวทางของวิปัสสนากัมมัฏฐานจนได้บรรลุพระอรหัตตผลพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา
ครั้งหนึ่งเมื่อพระภิกษุรูปที่สองนี้มาเฝ้าพระศาสดาที่วัดพระเชตวัน พระภิกษุทั้งสองรูปนี้ก็ได้มาพบกัน พระภิกษุรูปที่เชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกไม่ทราบว่าพระภิกษุอีกรูปหนึ่งได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว จึงดูหมิ่นพระภิกษุรูปที่เป็นพระอรหันต์โดยคิดว่าท่านเป็นพระภิกษุชรารู้เรื่องคัมภีร์ต่างๆแต่เพียงเล็กน้อย ไม่ความรู้เรื่องนิกายต่างๆสักนิกาย หรือไม่มีความรู้เรื่องในปิฎกใดปิฎกหนึ่งในพระไตรปิฎก... -
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน คาถาพญาไก่เถื่อนยอดคาถาสำเร็จทั้งปวง
.
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน คาถาพญาไก่เถื่อนยอดคาถาสำเร็จทั้งปวง
พระเถราวุฒาจารย์ ครูบารุ่งเรือง ได้สอนพระคาถา แก่ สมเด็จพระสังฆราชสุก กล่าวว่าเป็นคาถานํา พระคาถาทั้งปวง ใช้ในทางสําเร็จประโยชน์ ผู้ใช้พระคาถานี้ ต้องมีสมาธิจิตเป็นเอกัคตาจิตชั้นสูง ถึงเมตตาเจโตวิมุตติ จึงจะใช้พระคาถานี้ได้
เพราะเป็นพระคาถา ปลดปล่อยสัตว์ และปลดปล่อยจิตตัวเอง
พระอริยเถราจารย์ครูบารุ่งเรือง ท่านเห็นธรรมอะไร ในพระคาถา พระยาไก่เถื่อนบ้าง พระอาจารย์สุกนั้นทรงใกล้ชิดกับไก่ป่า มาแต่ยังทรงพระเยาว์ และทรงเรียนรู้ พระคัมภีร์มิลินท์ปัญหา มาแล้ว พระองค์ท่านจึงทราบธรรม ที่เกียวกับไก่ป่าอย่างมากมาย
ทรงกล่าวกับพระอริยเถราจารย์ว่า
ไก่ป่านี้ปราศเปรียว คอยหนีคน หนีภัยอย่างเดียว เหมือนกับจิตของคน ไก่ป่าเชื่องคนยากเหมือนจิตของคนเรา ซึ่งเชื่องต่ออารมณ์ยากมากเหมือนกัน ไก่ป่าแม้เสกข้าวด้วยเมตตาให้กิน แรกๆมันก็ไม่กล้าเข้ามาหาคน นานๆเข้าจึงจะกล้าเข้ามาหาคน เหมือนจิตคนเราก็ชอบท่องเทียว ไปไก :040:ลตามธรรมารมณ์ต่าง ฝึกตั้งจิตเป็นสมาธิแรกๆนั้น จิตมักจะอยู่พักเดียวก็เตลิดไป ต่อๆนาน จิตชินกับอารมณ์ดีเเล้ว จึงจะเชื่องและ... -
เหตุที่ทำให้อายุยืน-อายุสั้น ควรรู้ไว้ก่อนจะสาย
คนทั่วไปต้องการให้มีอายุยืนไม่ต้องการให้อายุสั้น ข้อนี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงเหตุให้อายุสั้นและอายุยืนไว้ ดังนี้
เหตุที่ทำให้อายุสั้น คือ
๑.สร้างความทุกข์กายทุกข์ใจ แก่ตนเอง
๒.ไม่รู้จักพอในการแสวงหาความสุข
๓.กินของย่อยยากและแสลงต่อสุขภาพ
๔.เสียความประพฤติ ชอบฆ่าสัตว์ เป็นต้น
๖.ชอบเที่ยวไปในที่ไม่ควร (ปัญ.อัง.)
ถ้าทำอย่างนี้อายุสั้นแน่ และทรงแสดงเหตุทำให้อายุยืน คือ
๑.ทำความสงบกายใจ แก่ตน
๒.รู้จักประมาณในการหาความสุข
๓.กินของย่อยง่ายมีประโยชน์
๔.มีความประพฤติดี มีศีล ไม่ชอบการฆ่าสัตว์
๕.มีเพื่อนดีคอยแนะนำตักเตือน
ถ้าปฏิบัติได้ดังนี้ก็มีหวังอายุจะยืน แต่ที่ทงแสดงนี้หมายถึงเหตุทั่วไป ถ้าเป็นเรื่องของกรรมเก่าแต่ปางก่อนแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ที่มา ๑ใน๘๔,๐๐๐ -
บุญพระกรรมฐาน : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
เมื่อปี ๒๕๐๔ อาตมาไปเทศน์ที่ อ.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท มีตาอะไรหรือ อีตานี่เมื่อก่อนมาอยู่กรุงเทพฯ ขึ้นไปแกก็มาเฝ้าอยู่ตลอด ถ้ายังไม่กลับเพียงใดแกก็ยังไม่กลับบ้าน ให้ลูกสาวเอาข้าวต้มมาถวายเช้า ตอนเพลเอาข้าวสวยมาถวาย ตัวแกเองต้องมาอยู่ตลอดเวลา
พอแกตายไปแล้ว ลูกสาวก็มาหาที่กรุงเทพฯ บอกว่าอยากจะทำศพพ่อและบวชน้องชายในวันเดียวกัน อยากจะให้หลวงน้าเป็นประธาน ก็เลยบอกว่า
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าเป็นประธานก็ได้ แต่ว่าถ้างานเอ็งจะมีบาปแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้นะ แม้แต่ไข่ลูกหนึ่งก็ห้ามทุบ ถึงเขาบอกว่าไข่ไม่มีตัวก็ไม่ได้ ใจมันไม่สบาย
ประการที่ ๒ เวลาจัดงานศพ ควรตั้งคนรับรองแขกให้แทนตัวเอง ใจจะได้ไม่กังวล เวลาพระให้ศีลต้องรับศีลให้จบและตั้งใจรับศีลด้วยความเคารพ เวลาพระสวดก็ต้องตั้งใจฟังพระสวดจนจบด้วยความเคารพ เวลาถวายทานก็เหมือนกันให้ตั้งใจถวายทานด้วยความเคารพ เวลาพระเทศน์ฟังเทศน์ด้วยความเคารพและอย่าให้มีสุรายาเมาเข้ามาเจือปน
ประการที่ ๓ มหรสพอย่ามีแม้แต่ปี่พาทย์ จงอย่ามีปี่พาทย์กลองยาว มันกินเหล้ากัน
แกก็เอาตามนั้นจริง ๆ งานเรียบร้อย ตอนเช้าบวชน้องชาย ตอนสายก็ชักศพขึ้นศาลา ตอนเพลเลี้ยงพระตั้ง ๓๐... -
ด้วยความสงสัยหลวงปู่มั่นไม่ลงมาร่วมฉันข้าวที่ละหลายวัน จนหลวงปู่ตื้อต้องแอบไปพิสูจน์จึงรู้ความจริงจนต้องร้องว่าสาธุ
หลวงปู่ตื้อแอบดูหลวงปู่มั่นเหาะไปบิณฑบาต
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ หลวงปู่มั่น พักภาวนาที่ ถ้ำเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ท่านอยู่ในถ้ำข้างบน บรรดาพระศิษย์ก็กระจายอยู่ที่ต่ำลงมา และออกไปอยู่ในสถานที่ใกล้เคียง อยู่ตามถ้ำผาปล่อง ถ้ำปากเปียง อยู่กระจายกันออกไป ทำตูบ(กระต๊อบ) ใครตูบมัน หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ ตูบใครก็ตูบมัน ท่านไม่ได้อยู่ในถ้ำรวมกัน
ที่ ถ้ำเชียงดาว หลวงปู่มั่น ท่านอยู่ข้างบน แล้วงมาฉันข้างล่าง ๔ วันท่านจะลงมาฉันข้างล่างรวมกับลูกศิษย์ทีหนึ่ง ๔ วันจึงจะลงมาร่วมฉันครั้งหนึ่ง
ที่นี้ หลวงปู่ตื้อ ท่านไม่เชื่อว่า หลวงปู่มั่น ท่านอดข้าว ในระหว่าง ๔ วัน ไม่ฉันข้าว ไม่ลงมาร่วมฉันเลย ไม่ลงมาติดต่อกันเป็นวันที่ ๕ แล้ว
หลวงปู่ตื้อ ท่านก็เลยแอบขึ้นไปตั้งแต่ตี ๔ โน่น ไปดูหลวงปู่มั่น คลานขึ้นไปในถ้ำ ไปนอนลี้ (แอบ) อยู่ หมอบลี้อยู่
เมื่อสว่างมา หลวงปู่ตื้อท่านก็เห็นหลวงปู่มั่นคลุมผ้าจีวร คล้องบาตร จากนั้นท่านก็เข้าฌานแล้วเหาะลอยข้ามหัวหลวงปู่ตื้อ ออกไปบิณฑบาตที่เชียงใหม่ หลวงปู่ตื้อแอบเห็นอยู่ ๒ วัน แล้วท่านก็ไม่ต้องขึ้นไปดูอีก... -
เฉลยที่มาของ "ไม้เท้าคู่กาย" ของหลวงปู่โง่น อันลึกลับ ได้จาก "ท้าวหิรัญพนาสูร" มอบให้! เพราะบารมีของหลวงปู่โง่นแท้ๆ ศักดิ์สิทธิ์มาก!!..สาธุ
จากหนังสือ เรื่องราวที่หลวงปู่โง่นบันทึกไว้ด้วยตัวของท่านเอง ถึง รอยกรรมตำนานพระสุพรรณกัลยา ที่ก่อนหน้านั้นไม่มีใครรู้จัก หลวงปู่เลย แล้วท่านได้ ถูกแรงกรรม ดลบันดาลใจให้ท่าน ไปอยู่เมืองพม่า และได้สัมผัส ดวงวิญญาณของ พระสุพรรณกัลยา แบบไม่ได้ตั้งใจ หลวงปู่ท่านได้ ปลดปล่อย พันธนาการแห่งอาคมหมอผีพม่า ที่ได้กักขัง ดวงวิญญาณพระสุพรรณกัลยา ตั้งแต่ เสด็จสวรรคต ก่อนที่พระนเรศวรเจ้า ท่านจะกอบกู้กรุงศรีอยุธยาครั้งนั้น ซึ่งระหว่างเดินทางท่านได้พบกับ อทิสมารกาย ชื่อ หิรัญพนาสูร ที่อยู่ในป่าแถบด่านเจดีย์สามองค์ .........เนื้อความมีว่า ...
เวลาอัสดงของวันนั้น เรากำลังเดินจงกรม อยู่ด้วยความสงบ เดินไปเดินมาอย่างช้า ได้ยินแต่เสียงวิหค นกกามาส่งเสียงเจื้อยแจ้ว หาที่นอนตามธรรมชาติของมัน ในขณะนั้นเอง เราเห็นนายพรานป่า ที่น่าสะพรึงกลัว เพราะบนหัว แกโพกผ้าสีแดง มือทั้งสองถือปืนยาว แบกปืนโบราณ ใช้เหล็กนกนับหิน คงเป็นปืนที่ใช้ล่าเนื้อ สะพายย่ามใบใหญ่ ด้านหลังมีมีดเล่มใหญ่ ใส่ฝัก ออกปากทักคำเดียวว่า พระคุณท่าน
แล้วแกก็คุกเข่า เอาปืนวางไว้ข้างๆ ถอดมีดอีโต้ ออกมาจากเอวข้างหลัง... -
มีอยู่จริง ไม่ใช่แค่ตำนาน!? "เมืองหนองหาร" ที่ถูกพญานาคถล่ม จนจมลงใต้บาดาล! และนี่คือภาพปัจจุบัน มนต์ขลังยังคงอยู่!!
หากพูดถึงเรื่องราว "พญานาคถล่มเมือง" หลายคนคงจะสงสัยไม่น้อยว่าเรื่องราวเหล่านี้มีจริงหรือไม่? หรือเป็นแค่ฉากเพื่อเพิ่มอรรถรสในละครเท่านั้น! ซึ่งวันนี้ Tsood.com มีเรื่องราวของ "เมืองหนองหาร" มาเล่าสู่กันฟัง ที่ว่ากันว่าเป็นตำนานพญานาคถล่มเมืองของจริง!? โดยตามตำนานปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้จมลงอยู่ใต้บาดาล "หนองหาร" หนองน้ำน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน ซึ่งตั้งอยู่ที่อ.เมืองสกลนคร อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร
โดยมูลเหตุที่ทำให้เกิด "หนองหาร" นั้นเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับวรรณคดีพื้นบ้านอีสาน "ผ่าแดงนางไอ่" ตำนานรักลึกซึ้งของหนึ่งหญิงสองชาย เมื่อฝ่ายหนึ่งพลาดรักและถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ก็กลายเป็นสงครามทำให้บ้านเมืองถล่มทลาย กลายเป็นหนองน้ำใหญ่
"เมืองสุวรรณโคมคำ" หรือเอกธีตา อยู่ทางทิศใต้ของเมืองหนองแส มีพระยาขอมเป็นผู้ปกครอง มีธิดาสาวสวยคนหนึ่งชื่อ "นางไอ่คำ" ซึ่งเป็นสตรีที่มีสิริโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปยังนครต่างๆ ทั้งโลกมนุษย์และบาดาล ต่างมีชายหนุ่มหมายปองจะได้อภิเษกกับนางมากมาย
โดยในจำนวนผู้ที่มาหลงรักนางไอ่คำ คือ "ท้าวผาแดง" กษัตริย์เมืองผาโพง และ "ท้าวภังคี"... -
วิธีแก้ดวงไม่ดี : หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
ใครว่าดวงดีดวงไม่ดี จะไปแก้ดวงกันได้อย่างไรนอกจากปฏิบัติดีเท่านั้น วิธีแก้ดวงไม่ดีเอาอย่างนี้ซิ ให้ไหว้พระสวดมนต์ เริ่มต้นด้วย อะระหัง.. สวากขาโต.. สุปะฏิปันโน จบแล้วก็ นะโม ๓ จบ สวดอิติปิโส..สวากขาโต.. สุปะฏิปันโน จบแล้วแผ่เมตตาพรหมวิหาร
มาอธิษฐานจิตขอบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจงช่วยดลบันดาลให้ดวงข้าพเจ้าดีขึ้น
แล้วก็สำรวมจิต สวดเฉพาะบทอิติปิโสบทเดียว
สวดให้ได้เท่าอายุตัวเอง หรือจะชักลูกปะคำสวดให้มันได้ ๑๐๘ จบ ยิ่งดี
ทีแรกเราสวด ๓ บทต่อเนื่องกันไปก่อน พออธิษฐานจิตแล้วเราสวดเฉพาะบทอิติปิโสบทเดียว สวดทุกวันๆ เอาบทนี้แหละแทนบทภาวนาเลย ทีนี้พอสวดไปๆ
ถ้าเราสวดทุกวัน สวดหนัก ๆ เข้า เราจะมีอาการกายเบาจิตเบา กายสงบจิตสงบ บางทีจิตวูบไปนิ่งสว่าง... หยุดสวดมนต์ปล่อยให้มันหยุดอยู่อย่างนั้น ไม่ต้องสวดอีก จิตหยุดนิ่ง ...สว่าง รู้ ตื่น เบิกบาน
อิติปิโสนี่เป็นพุทธคุณ พรรณนาคุณของพระพุทธเจ้า เมื่อเราสวดไม่หยุด จิตเราถึงพุทธคุณแล้ว นิ่ง สว่าง รู้ ตื่น เบิกบาน คุณของพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นที่จิตของเราแล้ว เราหยุดสวดทันที กำหนดรู้อยู่เฉย ๆ ทำใจเฉย ๆ อยู่... -
อธิษฐานเรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆ
อธิษฐานเรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆ
ในการภาวนานั้นมีอยู่กรณีหนึ่งที่แม้ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหนก็ตามแต่ก็ไม่สามารถบรรลุธรรมขั้นสูงสุดได้นั่นเพราะ " ติดอธิษฐาน "
ขอเท้าความก่อนว่าเรื่องการติดอธิษฐานนี้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลหลายคน แต่จะขอยกตัวอย่างเรื่องนางวิสาขา นางวิสาขานั้นเป็นผู้มี " บารมีทางธรรม " มา ตามประวัตินั้นนางบรรลุเป็นอริยบุคคลระดับโสดาบันตั้งแต่อายุ 7 ปี แต่ต่อมาทั้งชีวิตของนางก็ไม่สามารถบรรลุธรรมขั้นสูงกว่านั้นได้ เพราะนางติดอธิษฐานมาแต่อดีตว่าจะขอเป็นผู้อุปัฏฐากพระพุทธเจ้าในภัทรกัปป์นี้ให้ครบ 5 พระองค์ก่อน (จบที่พระศรีอาริยเมตไตร) จากอธิษฐานดังกล่าวทำให้นางไม่สามารถบรรลุอรหันตผลได้ตราบใดที่นางยังอุปัฏฐากพระพุทธเจ้าไม่ครบ 5 พระองค์ตามที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้
ท่านว่ายทวนน้ำเองก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับการติดอธิษฐานจากในอดีต ท่านเล่าให้ฟังว่าวันหนึ่งท่านระลึกได้ว่าในอดีตนานมาแล้วท่านเคยอธิษฐานที่ศาลาร้างแห่งหนึ่งว่า " จะขอช่วยให้สัตว์โลกทั้งหลายพ้นทุกข์ก่อน ตัวเองไม่พ้นทุกข์ไม่เป็นไร " ซึ่งเป็นการอธิษฐานแนวโพธิสัตว์ เมื่อท่านรู้สาเหตุที่การภาวนาไม่ก้าวหน้าแล้วท่านถอนอธิษฐานนั้นเสีย... -
เรื่องขันธ์ ๕ มันเป็นแผนกหนึ่ง หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ
ถ้าเราพิจารณาดูตามเป็นจริงแล้ว ขันธ์ ๕ ไม่ใช่กิเลส ไม่ใช่ตัณหา ไม่ใช่บุญ ไม่ใช่บาป
พูดกันง่ายๆ ว่าผมมันมีกิเลสไหม ขนมีกิเลสไหม หนังมีกิเลสไหม มันรักใคร มันชังใคร
ท่านจึงว่า "เป็นอัพยากตธรรม " เป็นธรรมที่ปราศจากจิต ปราศจากวิญญาณไม่รู้อะไร เป็นอัพยากตธรรม
เพราะฉะนั้นพระ " โสดาบัน " ท่านล่ะสังโยชน์ตัวนี้ได้
หมายความว่า วัฏฏะไม่มีในขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ ไม่ใช่ตัววัฏฏะมีอยู่ในกรรม
กรรมกิเลส โทสะ โมหะ โลภ โกรธ หลง นี่ท่านล่ะอย่างหยาบได้
บาปบุญคุณโทษสังขารมันไม่มีในกรรมกิเลสนี้ ความเศร้าหมองอันนี้
เพราะฉะนั้น พระโสดาบันท่านจึงเชื่อต่อกรรมและผลของกรรม
กรรมก็หมายถึง ความเจตนานั่นเอง มีกรรมในใจของเรา เป็นอนุสัยนอนอยู่นี่
อ้า! กิเลส ละความชั่วได้โดยเด็ดขาดแล้ว ท่านจึงมีศีล ๕ บริสุทธิ์เป็นบริสุทธิศีล
ถ้าเป็นฆราวาสก็ไม่สามารถทำบาปทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง
มีหิริโอตตัปปะ ความละอายและความเกรงกลัวต่อบาป ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง
ที่แจ้งไม่ทำบาป ไม่สามารถทำบาปด้วยกายด้วยวาจา
ที่ลับไม่สั่งสมบาปที่กรรมกิเลสไว้ที่ใจให้มีกำลังขึ้น มีแต่กำลังละเท่านั้น "
หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ
เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ. -
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน ธัมมิกอุบาสกผู้มี พระมาหา เทวดามารับเวลาตาย
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน ธัมมิกอุบาสกผู้มี พระมาหา เทวดามารับ
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่วัดพระเชตวันในกรุงสาวัตถี ได้ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 16 โดยปรารภอุบาสกชื่อธรรมิกะ
ครั้งหนึ่งในกรุงสาวัตถีมีอุบาสกคนหนึ่งชื่อธรรมิกะ เป็นผู้ใจบุญใจกุศลชอบทำบุญให้ทาน เขาจะถวายทานแก่ภิกษุสงฆ์อย่างสม่ำเสมอทุกวัน และในโอกาสสำคัญต่างๆ เขาเป็นหัวหน้าของอุบาสกอีกจำนวน 500 คนซึ่งอยู่ในนครสาวัตถีนี้ เขามีบุตร 7 คน และธิดา 7 คน และบุตรธิดาทุกคนก็เหมือนกับบิดาคือเป็นผู้มีใจบุญใจกุศลชอบถวายทาน อยู่มาวันหนึ่งธรรมิกอุบาสกเกิดป่วยหนักมีอาการใกล้จะตาย เขาได้ขอร้องบุตรธิดาให้ส่งคนไปนิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระสูตรศักดิ์สิทธิ์ขณะที่เขานอนอยู่บนเตียงขณะใกล้จะตาย ขณะที่พระภิกษุสงฆ์กำลังสวดมหาสติปัฏฐานสูตรอยู่นั้น ก็มีรถที่ประดับตกแต่งงดงามมากจำนวน 6 คันจากสวรรค์ชั้นต่างๆมาจอดรอเขาเพื่อเชิญให้เขาไปอยู่ในสวรรค์ในชั้นต่างๆ ธรรมิกอุบาสกได้บอกรถเหล่านั้นให้รอก่อนสักครู่อย่าได้เพิ่งมาเพราะจะรบกวนขัดจังหวะการสวดพระสติปัฏฐานสูตรของพระภิกษุสงฆ์... -
ตำรวจหนังเหนียวและเคล็ดลับของเสือ -เรื่องเล่าจากตา
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่ตาผมเคยเล่าให้ฟังในตอนที่ผมได้เคยอ่านหนังสือที่ชื่อ " ขุนพันธ์ มือปราบสี่แผ่นดิน "
แล้วผมก็ได้ถามตาถึงในสมัยอดีตยุคของขุนพันธ์นั้นมีพวกตำรวจที่มีวิชาหนังเหนียวอะไรแบบนี้อยู่จริงมั้ย ?
ตาของผมท่านก็บอกว่าไอ้ว่ามีมันก็มีอยู่หรอกแต่มันไม่เหมือนกับในหนังในละครหรอกนะที่ว่าเวลาพอโดนฟันโดนยิงแล้วจะยืนนิ่งไร้ความรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอ้พวกหนังเหนียวนั้นคือแค่เวลาโดนยิงแล้วไม่ทะลุเนื้อหนังแต่ก็จุกและเจ็บรวมถึงอาจมีรอยช้ำรอยเขียวเกิดขึ้นตามแรงอัดของปืนนั้นๆ ไม่ต้องพูดถึงลูกซองที่แรงอัดหนักๆขนาดนั้น ต่อให้หนังเหนียวถ้าโดนลูกซองเป่าเข้าเต็มๆก็กระเด็นและจุกจนสลบไปก็มี
ตาผมเล่าต่อว่า ตำรวจที่ว่ามีวิชามีของดีในยุคสมัยก่อนนั้นมีจริง !! เพราะยุคสมัยนั้นมันคือยุคเสือยุคโจรถ้าไม่แน่จริงก็ตายอย่างเดียวน่ะตำรวจ ฉะนั้นตำรวจจึงมักตระเวนเสาะหาของดีมาติดตัว บ้างก็ลงทุนไปสักยันต์ตามร่างกายกันเลยทีเดียว
แต่ก็ใช่ว่ารอดเสมอไป ตำรวจบางคนถึงแม้จะมีตะกรุดจากวัดดัง หรือ... -
ผู้นำที่ดีที่เห็นแล้วไม่เปลี่ยนช่อง พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่างไร
คุณสมบัติของบุคคลผู้จะเป็นผู้นำ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้มากมาย เป็นต้นว่า
๑.เป็นผู้อดทนต่อความลำบากกายใจ ต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์ เป็นต้น
๒.ตื่นตัวทันโลก เตรียมตัวไม่ประมาท
๓.ขยันทำงาน
๔.จำแนกเหตุการณ์ได้ถูกต้อง แบ่งงาน แบ่งบุคคลสำหรับงานได้เหมาะสม
๕.มีความกรุณา
๖.สอดส่อง ตรวจตรา ติดตามงาน (ฉัก.อัง.)
อีกข้อหนึ่ง
๑.สามารถในการค้นหาปัญหา
๒.สามารถในการแก้ปัญหาต่างๆ (จตุ.อัง.)
และ
๑.สงเคราะห์ประชาชน
๒.สร้างมิตรภาพกับผู้อื่น
๓.รู้จักพูด
๔.ใจกว้าง
๕.เป็นผู้นำเขา (ปาฏิ.ที)
และ
๑.องอาจ ฉลาด
๒.คงแก่เรียน
๓.เอาธุระหน้าที่ดี
๔.มีหลักธรรมประจำใจ
๕.เป็นคนมีใจอันประเสริฐ
๖.เป็นสัตตบุรษ
๗.เป็นคนมีปัญญา ความคิดอ่านดี (ธ.ขุ.)
ประเทศใดได้ผู้นำอย่างนี้ ประเทศนั้นย่อมมีความสุข ความเจริญ มีความก้าวหน้าอย่างแน่นอน
จากหนังสือ ๑ใน๘๔,๐๐๐ -
ชวนขนลุก! จริงหรือนี่..ที่มิสแกรนด์กาฬสินธุ์ ล้มบนเวทีถึง2 ครั้ง เพราะอาถรรพ์ชุด "นางฟ้าหยาด" โศกนาฏกรรมความรักของสาวงามเมื่อกว่าพันปีก่อน!!
ชวนขนลุก! จริงหรือนี่..ที่มิสแกรนด์กาฬสินธุ์ ล้มบนเวทีถึง2 ครั้ง เพราะอาถรรพ์ชุด "นางฟ้าหยาด" โศกนาฏกรรมความรักของสาวงามเมื่อกว่าพันปีก่อน!!
ต้องบอกว่าสร้างกระแสฮือฮาทั่วแผ่นดินไทย สำหรับรอบชุดประจำชาติยอดเยี่ยม จากเวทีมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ Miss Grand Thailand 2017 จัดไปอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาที่ ฮอลล์ 100 ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา
สาวงามจาก 77 จังหวัดสวยเด่นจริงในชุดหลากสไตล์ ที่ดึงอัตลักษณ์ของจังหวัดตัวเองออกมา แต่ที่เรียกเสียงฮือฮามากที่สุด ก็ต้องยกให้"บีบี วันวิสา อิสระพายัพ " มิสแกรนด์กาฬสินธุ์ ในชุดเทวีมณีฟ้าหยาด Ta We Ma Ne Fah Yard ที่ออกมา ก็พลาดล้มถึง 2 ครั้ง 2 ครา จนทำให้หน้านางด้านหน้าหลุด ทำเอาคนดูแตกตื่นตกใจ ทีมงานต้องเข้ามาช่วยกันประคอง แต่ถึงกระนั้นด้วยสปริตเธอก็ลุกขึ้นมาเดินเฉิดฉายดั่้งต้องมนต์สะกด ทั้งนี้กองประกวดมิสแกรนด์กาฬสินธุ์ เผยว่า น่าจะเป็นเพราะพระนางฟ้าหยาดต้องการให้ชุดไม่มีหน้านาง เพื่อให้ชุดดูเด่นขึ้น ถึงทำให้น้อง ล้ม 2 ครั้ง จนหน้านางหลุด
มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่องความลึกลับจากนางฟ้าหยาดหรือเปล่า โดยคุณ Jaruvat Chanposri... -
เรื่องจริงที่ไม่เคยรู้มาก่อน สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต แปลงร่างเป็นพญานาค บันทึกของหลวงพ่อจรัญ
เรื่องจริงที่ไม่เคยรู้มาก่อน สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต แปลงร่างเป็นพญานาค บันทึกของหลวงพ่อจรัญ
เรื่องเล่าผ่านกาลเวลา :-
Published on Jul 11, 2017
บันทึกเรื่องจริง สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต แปลงร่างเป็นพญานาค ของหลวงพ่อจรัญ -
ยอดวิวทะลุร้อยล้าน !! ชาวเน็ตแห่ชมฝรั่งแต่งเพลง "พระพุทธเจ้า" เพลงป๊อปอิตาลี ได้แนวคิดจาก "สุญญตกรรม" สอนหลักธรรมะ
ยอดวิวทะลุร้อยล้าน !! ชาวเน็ตแห่ชมฝรั่งแต่งเพลง "พระพุทธเจ้า" เพลงป๊อปอิตาลี ได้แนวคิดจาก "สุญญตกรรม" สอนหลักธรรมะ
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร แชร์คลิปเพลงOccidentali’s Karma ของ Francesco Gabbani นักร้องเพลงป๊อปอิตาลี โดยแปลว่า Westerner’s Karma หรือกรรมของฝรั่ง ซึ่งกลายเป็นเพลงดังในยุโรป ได้แต่งเกี่ยวกับแนวคิดสุญญตธรรม ในเนื้อร้องมีพูดถึง พระพุทธเจ้า นิพพาน และบทสวดมนต์ทางพระพุทธศาสนา แย้งกับความคิดบริโภคนิยมของตะวันตก จนมียอดวิวท่วมท้นในโลกออนไลน์
ในทางพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้รู้จัก สุญญตา คือความว่าง มุ่งถึงความว่างกิเลส และว่างทุกข์ซึ่งเกิดจากกิเลส ว่างบาปอกุศลทุจริต ก็เป็นการว่างจากความทุกข์เพราะเกิดจากบาปอกุศลทุจริต ในการปฏิบัติธรรมะนั้นต้องการผลคือความว่างกิเลส ว่างบาปอกุศลทุจริต และว่างความทุกข์ที่เกิดเพราะกิเลส และบาปอกุศลทุจริตต่างๆ เพราะฉะนั้นจึงต้องเข้าใจความว่าง ดังที่กล่าวมานี้
ติดตามชมเพลง Occidentali’s Karma ได้ที่
ที่มาจาก : เรื่องเล่าเช้านี้
เรียบเรียงโดย
เสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ : สำนักข่าวทีนิวส์... -
เป็นที่ประจักษ์!! ภารกิจสำคัญของพระไทย "พระอาจารย์อารยวังโส" มุ่งมั่นเผยแผ่พุทธศาสนาแก่ชาวโลก จนได้รับคำยกย่องจาก"พระสังฆราชา"แห่งศรีลังกา!!
พระอาจารย์อารยวังโส คือ “พระภิกษุไทยที่ชาวพุทธในอินเดียเคารพนับถือ” เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูพุทธศาสนาในประเทศอินเดียอย่างแข็งขัน ขนาดได้รับการยกย่องว่าเป็น “Guruji” (กูรูยี) หรือ “ผู้ที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งพุทธศาสนาลงบนแผ่นดินอินเดีย” เลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะได้รับการยกย่องจากชาวอินเดียแล้ว สำหรับประเทศแห่งพุทธศาสนา อย่างศรีลังกาเอง ซึ่งไทยได้สานสัมพันธ์ทางพุทธศาสนากับศรีลังกามาตลอด นั่นให้ความยกย่อง พระอาจารย์อารยวังโส เช่นกัน
โดยสมเด็จพระสังฆราชามหานายก พุทธศาสนาเถรวาทนิกายแห่งสยามอุบาลีวงศ์ ได้กล่าวคำอนุโมทนาแก่พระอาจารย์อารยวังโส ดังนี้
คำอนุโมทนา โดยสมเด็จพระสังฆราชามหานายก พุทธศาสนาเถรวาทนิกายแห่งสยามอุบาลีวงศ์ ศรีลังกา
ลงวันที่ 27 มีนาคม 2556 ณ วัดพระเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี้ ศรีลังกา
บ่ายวันที่ 27 มีนาคม พุทธศักราช 2556 สมเด็จพระสังฆราชมหานายก พุทธศาสนาเถรวาทนิกายแห่งสยามอุบาลีวงศ์ ศรีลังกา ทรงประทานพระอนุญาตให้พระอาจารย์อารยวังโส และคณะศิษย์ศรัทธาจากเมืองไทย ได้เข้าเฝ้าที่พระตำหนัก ณ วัดพระเขี้ยวแก้ว (The Temple of the Sacred Tooth... -
ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!
ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!
เรื่อง "ศาสนาเซน คือ กิ่งก้านพุทธศาสนาส่วนปลาย"
(คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
เรา (หลวงตามหาบัว)ก็เคยพูดแล้วว่าเซนนี้ออกจากพุทธ คือเซนนี่ผู้พิจารณาทางด้านปัญญา จิตใจผ่านได้ด้วยพิจารณาทางด้านปัญญา ทีนี้พวกที่มาตามหลังก็เลยเอาเรื่องปัญญานี้มาเป็นศาสนาเซนเสียเลย ไม่ได้คำนึงถึงว่าผู้หลุดพ้นมาจากแง่ไหน ๆ ของพุทธศาสนา ความจริงเป็นกิ่งก้านของพุทธศาสนาตอนปลาย คือตอนละเอียดเกี่ยวกับวิปัสสนา แล้วก็เลยเอานี้เป็นศาสนาเลย ใครมาปฏิบัติตามศาสนาเซนต้องใช้ปัญญาๆ แล้วผิดไปเลย อันนี้ผิดเข้าใจเหรอ พิสูจน์ดังที่ว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้นี้ ศีล สมาธิ ปัญญา
ศีลเป็นเครื่องอบรมจิตใจให้อบอุ่นไม่เดือดร้อนวุ่นวาย เพราะเหตุที่ว่าตนทำศีลให้ด่างพร้อยหรือขาดทะลุไป จิตก็ไม่เป็นกังวลเพราะจิตของเราบริสุทธิ์ เวลาเข้าสมาธิจิตก็รวมได้ง่าย เพราะมันไม่วอกแวกไปหาสิ่งระแคะระคายที่เจ้าของทำศีลด่างพร้อย
นี้พิจารณาทางสมาธิ พอจิตเป็นสมาธิจิตมีกำลังเต็มเหนี่ยว เรียกว่า จิตในสมาธินี้เป็นจิตที่พอกับอารมณ์ทั้งหลาย... -
บทบาทไทยในฐานะศูนย์กลางพุทธศาสนาอาเซียน
ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านพระพุทธศาสนา มีพระสงฆ์หลายประเทศในแถบอาเซียนเข้ามาศึกษาความรู้ จนกลายเป็นพื้นที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ โดยพระหลายรูปก็พร้อมที่จะนำความรู้กลับไปพัฒนาบ้านเกิด
กว่า 6 ปีที่พระเย็น โบว และพระสงฆ์ชาวกัมพูชา จำพรรษาที่วัดป่าอดุลยาราม จ.ขอนแก่น เพื่อประกอบกิจตามพระธรรมวินัย ควบคู่กับการศึกษาในระดับปริญาตรี และปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.วิทยาเขตขอนแก่น)
การทบทวนบทเรียนวิชาต่าง ๆ ให้กับพระรุ่นน้อง รวมทั้้งสอนภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เป็นอีกหน้าที่ของพระเย็น โบว ในฐานะพระรุ่นพี่ ที่อยากให้พระรุ่นน้องประสบผลสำเร็จในการศึกษา และท่านยังตั้งใจว่าหากเรียนจบ ก็จะกลับไปเป็นครูที่บ้านเกิด
การช่วยเหลือซึ่งกันและกันของกลุ่มพระสงฆ์ทั้งจากกัมพูชา ลาว เวียดนาม และบังคลาเทศ ซึ่งมาเรียนที่ มจร.ขอนแก่น ทำให้เกิดเครือข่ายพระสงฆ์อาเซียน ร่วมกันทำงานส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาของพระภิกษุสามเณร
พระตู้เหวียน ตรัน นักวิชาการศึกษา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการทำงานของเครือข่ายพระสงฆ์อาเซียน... -
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน จุนทสูกริกะคนฆ่าหมูที่ตกนรกทั้งเป็น
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน จุนทสูกริกะคนฆ่าหมูที่ตกนรกทั้งเป็น
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่พระเวฬุวันในกรุงราชคฤห์ ได้ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 15 โดยปรารภนายจุนทะคนชำแหละสุกร
ครั้งหนึ่งในหมู่บ้านแห่งหนึ่งไม่ไกลจากวัดพระเวฬุวัน มีชายชำแหละเนื้อสุกรผู้หนึ่งมีจิตใจโหดร้ายทารุณมาก ชื่อว่านายจุนทะ นายจุนทะคนนี้เป็นผู้ชำแหละสุกรมาเป็นเวลานานถึง 55 ปี เขาไม่เคยทำบุญให้ทานแม้แต่ครั้งเดียว ก่อนจะตายนายจุนทะมีความเจ็บปวดทุรนทุรายลงคลานส่งเสียงร้องเหมือนเสียงสุกรอยู่เป็นเวลานานถึงเจ็ดวัน เป็นความทุกข์ก่อนตายที่มีลักษณะคล้ายกับตกนรก พอถึงวันที่ 7 นายจุนทะก็สิ้นชีวิตและได้ไปเกิดในนรกขุมอเวจี ดังนั้นคนที่ทำชั่วก็มักจะต้องเดือดร้อนเพราะกรรมชั่วที่ตนเองทำไว้ เขาจะเดือดร้อนทั้งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และเมื่อตายไปในโลกหน้า
เกี่ยวกับเรื่องนี้พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 15 นี้ว่า
อิธ โสจติ เปจฺจ โสจติ
ปาปการี อุภยตฺถ โสจติ
โส โสจติ โส วิหญฺญติ
ทิสวา กมฺมกิลิฏฺฐมตฺตโนฯ
คนทำชั่วย่อมเศร้าโศกในโลกทั้งสอง
คือ เศร้าโสกในโลกนี้ และเศร้าโศกในโลกหน้า
เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมเดือดร้อน... -
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน พระนันทะเถระผู้ที่สำเร็จพระอรหันต์ด้วยการจ้างให้ปฏิบัติธรรม
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่วัดพระเชตวันในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภพระนันทเถระพระญาติของพระศาสดา ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 13 และพระคาถาที่ 14 นี้
ครั้งหนึ่งเมื่อพระศาสดาประทับที่วัดพระเวฬุวันในกรุงราชคฤห์ พระเจ้าสุทโธทนะพระราชบิดาได้ส่งทูตหลายคณะมาทูลเชิญพระศาสดาเสด็จไปกรุงกบิลพัสดุ์ ในที่สุดพระพุทธองค์จึงได้เสด็จไปพร้อมด้วยพระอรหันต์จำนวน 20000 รูป ในวันแรกที่เสด็จถึงกรุงกบิลพัสดุ์พระองค์ได้ตรัสเวสสันดรชาดกให้พระญาติได้ฟัง ในวันที่ 2 ได้เสด็จเข้าไปในเมืองและได้ตรัสพระคาถาที่เริ่มบาทแรกว่า “อุตฺติฏเฐ นปฺปมชฺเชยฺย” ซึ่งแปลว่า “บุคคลพึงขยัน ไม่พึงประมาท” ซึ่งเมื่อพระราชบิดาทรงสดับแล้วได้บรรลุพระโสดาปัตติผล และเมื่อเสด็จเข้าไปไปพระราชวังได้ตรัสพระคาถาซึ่งมีความในบาทแรกว่า “ธมฺมํ จเร สุจริตํ” ซึ่งแปลว่า “บุคคลพึงประพฤติธรรมที่สุจริต” ในที่สุดแห่งพระธรรมเทศนาพระราชบิดาได้บรรลุพระสกทาคามิผล หลังจากเสวยภัตตาหารแล้วได้ตรัสจันทกินนรีชาดกซึ่งเกี่ยวโยงกับคุณธรรมของพระมารดาของราหุล(พระนางยโสธรา หรือพิมพา)
พอถึงวันที่ 3... -
"จำวัด"ผิดกันกับ"นอน" อย่างไร? หลวงปู่มั่นได้เมตตาแยกแยะทั้ง๒คำนี้ไว้ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ขาว
"จำวัด"ผิดกันกับ"นอน" อย่างไร? หลวงปู่มั่นได้เมตตาแยกแยะทั้ง๒คำนี้ไว้ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ขาว
หลวงปู่ขาว เล่าถึงคำสอนของ หลวงปู่มั่นเกี่ยวกับการหลับนอนของพระ ต่อไปดังนี้
ท่านควรขบคิดคำว่า จำวัด กับคำว่า นอน ซึ่งเป็นคำทั่วๆ ไป เทียบกันดูจะเห็นว่าผิดกันและมีความหมายต่างกันอยู่มาก
ระหว่างคำว่า จำวัดของศากยบุตร กับคำว่า นอนของคนและสัตว์ทั่วไป
ดังนั้นความรู้สึกของพระผู้เป็นศากยบุตรที่จะปลงใจจำวัดแต่ละครั้ง จึงควรมีความสำคัญติดตัวในขณะนั้นและเวลาอื่นๆ
จึงจะสมชื่อว่า ผู้ประคองสติ
ผู้มีปัญญา คิดอ่านไตร่ตรองในทุกกรณี ไม่สักว่าคิด สักว่าพูด สักว่าทำ สักว่านอน สักว่าตื่น สักว่าฉัน สักว่าเดิน สักว่านั่ง
สัก เป็นอาการปล่อยตัวเกินเพศเกินภูมิของศากยบุตรที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
ในวงปฏิบัติ
โดยมากมักเข้าใจกันว่า
พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายนิพพานไปแล้ว สาปสูญไปแล้ว ไม่มีความหมายอะไรเกี่ยวกับท่านและตนเองเสียแล้ว ก็พระธรรมอันเป็นฝ่ายเหตุที่สอนกันให้ปฏิบัติอยู่เวลานี้ เป็นธรรมของท่านผู้ใดขุดค้นขึ้นมาให้ได้เห็นและได้ปฏิบัติตามเล่า?
ความจริง พุทธะ และ สังฆะ ก็คือ ดวงใจบริสุทธิ์ที่พ้นวิสัยแห่งความตาย... -
ทำไมถึงดวงซวย พระพุทธเจ้าบอกว่าอย่างไร
ทำไมอยู่ ๆ เราก็เกิดความซวยขึ้นมา ทั้งๆที่เราเข้าวัดทำบุญก็บ่อย พระพุทธเจ้าบอกเลยนะว่า "เธอคบคนดีหรือเปล่า"
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนคือคนดี คนไหนคือคนชั่ว
ลักษณะคนดี คุณลักษณะของคนดี พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ๗ ประการ ดังนี้
๑.รู้เหตุ
๒.รู้ผล
๓.รู้จักตนและหน้าที่ของตน
๔.รู้จักประมาณในการต่าง ๆ เช่น พูด การเงิน การนอน เป็นต้น
๕.รู้จักใช้การเวลาให้ถูกต้องแก่ภาวะนั้น ๆ
๖.รู้จักสังคม เช่น สังคมนี้เป็นอย่างนี้ สังคมนั้นเป็นอย่างนั้น ต้องทำอย่างนั้น ๆ เพื่อเข้ากับเขาได้ ถ้าเป็นสังคมคนชั่วก็ไม่เกี่ยวข้องเป็นต้น
๗.รู้จักบุคคลว่า คนนี้ควรคบ คนนั้นไม่ควรคบ คนนี้เป็นเทพ คนนั้นเป็นสัตว์ เป็นต้น
เรียกว่าสัปปุริสธรรม (สัต.อัง.)
นี่เรียกคุณลักษณะของคนดี
ลักษณะคนชั่ว พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้มาก เช่น เป็นคนชั่ว เพราะคิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่ว (ติก.อัง) แล้วยังมีที่ร้ายแรง เช่น
๑.ฆ่าผู้หญิงได้
๒.ชอบเป็นชู้เขา
๓.ประทุษร้ายมิตร
๔.ฆ่าพระได้
๕.ตระหนี่เห็นแก่ตัวจัด (ชา.ขุ.)
แล้วนอกจากนี้มีคนที่ไม่ควรจะคบด้วย
๑.ชอบพูดปด
๒.เย่อหยิ่ง
๓.พูดมาก
๔.ขี้โอ่อวดตัว
๕.ยกตนเอง
๖.มีใจไม่มั่นคง (ฉัก.อัง.)... -
"พระครูบาบุญชุ่ม" เกจิดังแห่งล้านนา จำพรรษาในถ้ำ ปิดวาจา 3 เดือน เผยเคยไม่พูดเลย 3 ปี 3เดือน สาธุยกมือท่วมหัว!!
พระแท้! "พระครูบาบุญชุ่ม" เกจิดังแห่งล้านนา จำพรรษาในถ้ำ ปิดวาจา 3 เดือน เผยเคยไม่พูดเลย 3 ปี 3เดือน สาธุยกมือท่วมหัว!!
พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน เกจิดังที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศทั้ง ไทย ลาว พม่า จีน และ ประเทศภูฏาน ได้เดินทางไปจำพรรษาในถ้ำเมืองแกส อ.เมืองสาด รัฐฉาน ประเทศเมียนมา และปิดวาจา 3 เดือน
ลูกศิษย์พระครูบาบุญชุ่ม กล่าวว่า พระครูบาบุญชุ่ม ปัจจุบัน อายุ 53 ปี ได้บวชเรียนตามปฏิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่วัยเยาว์
โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา พระครูบาบุญชุ่มได้เดินทางไปที่ เมืองสาด รัฐฉาน เพื่อจะเข้าปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ตลอดพรรษา ที่ถ้ำเมืองแกส ซึ่งเป็นถ้ำอยู่ห่างจากเมืองสาด ประมาณ 5 กิโลเมตร บริเวณก่อนเข้าถ้ำจะมีพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าวเดินทางมารอกราบพระครูบาบุญชุ่ม เป็นจำนวนมาก ซึ่งพระครูบุญบาบุญชุ่ม ได้นำสวดมนต์พร้อมทั้งให้พร สร้างความอิ่มเอมใจให้กับพุทธศาสนิกชนอย่างทั่วหน้า
ทั้งนี้ ตลอดพรรษา 3 เดือน ที่พระครูบาบุญชุ่มปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ท่านจะไม่พูดอะไรเลย เมื่อหลายปีก่อนท่านเคยเข้าปฏิบัติธรรมในถ้ำแห่งหนึ่ง ที่ลำปาง... -
เสียงธรรม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่องเร่งรัดการปฏิบัติ - มองให้เห็นความทุกข์
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่องเร่งรัดการปฏิบัติ - มองให้เห็นความทุกข์
FungKhorKid :- Published on Jul 10, 2017 -
“ห้ามส่งเสียงดังรบกวนในวัด” เพราะอาจจะกลายเป็นการทำ “กรรม” ที่หนักหนาสาหัสมาก !!
“ห้ามส่งเสียงดังรบกวนในวัด” เพราะอาจจะกลายเป็นการทำ “กรรม” ที่หนักหนาสาหัสมาก !!
เรื่อง “กรรมขัดขวางการภาวนา หนักหนาสาหัสมาก”
แม้กัปนี้พระพุทธเจ้าผ่านไปได้พระองค์ที่สี่แล้ว ด้วยเหตุแห่งกรรมนั้น ยังไม่ได้ขึ้นมาจากนรกเลย
(ปกิณกธรรม หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)
ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์หลวงปู่ผู้สนใจธรรมปฏิบัติกำลังนั่งภาวนาเงียบอยู่ ไม่ห่างจากท่านเท่าใดนัก บังเอิญมีแขกมาหาศิษย์ผู้นั้นแต่ไม่เห็น ก็มีศิษย์อีกท่านหนึ่งเดินเรียกชื่อท่าน “ผู้กำลังภาวนาอยู่” ด้วยเสียงอันดัง และเมื่อเดินมาเห็นศิษย์ผู้นั้นกำลังภาวนาอยู่ ก็จับแขนดึงขึ้นมาทั้งที่กำลังนั่งภาวนาเมื่อผู้นั้นห่างไปแล้ว หลวงปู่ท่านจึงเปรยขึ้นมาว่า
“ในพุทธกาลครั้งก่อน มีพระอรหันต์องค์หนึ่งกำลังเข้านิโรธสมาบัติ ได้มี “นกแสกตัวหนึ่ง” บินโฉบผ่านหน้าท่านพร้อมกับร้อง “แซก” ท่านว่า นกแสกตัวนั้นเมื่อตายแล้วได้ไปอยู่ในนรก แม้กัปนี้พระพุทธเจ้าผ่านไปได้พระองค์ที่สี่แล้ว นกแสกตัวนั้นยังไม่ได้ขึ้นมาจากนรกเลย”
หมายเหตุ : คติธรรมที่กล่าวมานี้ จึงเชื่อมโยงไปถึงเรื่องของ “ป้ายเตือนในวัด” ที่ติดเตือนไว้ว่า ห้ามส่งเสียงดังรบกวน ที่นี่เป็นวัด ต้องการความสงบสงัด... -
โยนเงินสี่หมื่นลงข้างทาง.. "หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน" ช่วยชีวิตหนุ่มคิดสั้น จะผูกคอตายได้ทันพอดี เอาเงินไปไถ่บ้าน ก่อนโดนยึด..ท่านรู้ได้ไง?
หลวงปู่สรวง ช่วยคนคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย
คุณบุญเลิศเล่าว่าลูกศิษย์เมืองจันทบุรีชื่อคุณนก มารับเอาตัวหลวงปู่สรวงไปพักที่บ้านของเธอ ใกล้ชายแดนเขมร คลับคล้ายว่าอยู่ในเขตคลองลึก จำชื่อหมู่บ้านไม่ได้
โดยรับเอาตัวหลวงตาไปก่อนหวยออกไม่กี่วัน
คือมีแผนจะเอาหวยจากหลวงตานั่นเอง
หลวงปู่ ก็ได้ให้หวยจนคุณนกและชาวบ้านถูกกันถ้วนทุกคน
หลังถูกหวยแล้ว คุณนกยังคงรั้งตัวหลวงปู่ไว้ไม่ปล่อยให้กลับ ตั้งใจให้อยู่บอกหวยงวดต่อไปอีกงวด ทั้งยังขัดกระแสต้องการให้หลวงปู่อยู่ต่อไปจากชาวบ้านไม่ได้
งวดต่อมาหลวงปู่ให้หวยถูกอีก
คนรวยหวยมากกว่างวดที่แล้ว หลายคนที่เชื่อมั่นทุ่มแทงได้เงินมากมายกันทั้งหมู่บ้าน
คุณนกทำท่าจะรั้งตัวหลวงปู่ไว้อีก ไม่ยอมให้หนีกลับศรีสะเกษ
ร้อนถึงคุณบุญเลิศซึ่งพักอยู่บ้านในเมืองอุบล
“ผมฝันครับ ฝันว่าหลวงปู่ มาหา บอกให้ช่วยไปรับที อยากกลับแล้ว..เรื่องฝันเห็นหลวงปู่ มาบอกให้ไปรับ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก คือก่อนหน้านั้นก็ฝันมาหลายหน
ทุกหนก็เป็นเรื่องจริงๆคือหลวงปู่ ต้องการให้ไปรับ จึงรีบขับรถออกจากบ้านไปเมืองจันทน์ทันที”
พอไปถึงหลวงปู่ วิ่งมาหาที่ประตู แสดงอาการดีใจ จะขึ้นรถกลับ... -
มโนมยิทธิแบบจีน - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
+++ มโนมยิทธิแบบจีน +++
ถาม : (มโนมยิทธิเต็มกำลัง)
ตอบ : นั่นเป็นแบบจีนแท้ ๆ คนจีนทำมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว อาตมาดูมาตั้งแต่เด็ก ถึงเวลาคนตายไปไหน เขาให้ไปถาม เขาจะกำชับให้คนไปดูเลยว่า ถ้าเห็นแม่น้ำอย่าข้ามนะ ถ้าข้ามจะตายไปด้วย ตำรานี้จีนแคะเขาเรียก "ล็อกซ้ำกู๊" ลงไปดูในนรก
ถ้าลูกศิษย์มองไม่เห็น อาจารย์ก็จะจุดกระดาษเงินกระดาษทองตรงหน้า ก็คือลักษณะที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านปรับมาเป็นการเอาไฟส่อง ผมมั่นใจเลยว่าท่านอาจารย์สุขเรียนมาจากคนจีน อาตมาดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ เวลาเริ่มไปดูคนตาย เขาจะสั่นแรงมาก ตบจนกระทั่งขาเขียวหมด ตอนแรกก็สงสัยว่าไปดูกันได้จริง ๆ หรือวะ ? แล้วสงสัยมากขึ้นไปอีกว่าทำไมลงไปได้แต่นรก ?
ถาม : มีผีพาไปดูบาดาล เจอบ้านคนอยู่อีกฝั่งของน้ำ กำลังจะข้ามแม่น้ำ มีเสียงเรียกห้ามไว้ก่อน ?
ตอบ : ข้ามไม่ได้ นั่นเป็นเขตคนตาย พวกที่เล่นอย่างนี้มาเขาสั่งกันนักสั่งกันหนาว่าเจอน้ำอย่าข้ามเด็ดขาด ญาติคนไหนมาชวนก็ห้ามข้าม จะน้ำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นน้ำนี่อย่าข้าม จะเป็นสะพาน จะเป็นเรือ หรือเป็นแม่น้ำ สระน้ำ ก็ห้ามข้าม เขาเล่นกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอมาฝึกมโนมยิทธิ... -
มมร จัดงานสมัชชาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด"การขับเคลื่อนพลังบวร สู่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน"
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยร่วมกับองค์กรภาครัฐและเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ จัดงานสมัชชาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ภายใต้โครงการประเพณีวันสำคัญของชาติและศาสนา วันอาสาฬหบูชา ประจำปี 2560 เมื่อวันศุกร์ที่ ๗ กรกฏาคม ๒๕๖๐ ณ ห้องคอนเวนชั่น โรงแรมรามาการ์เด้นท์ โดยพระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอในการร่วมกันแก้ไขปัญหาวิกฤติของพระพุทธศาสนาให้ฟื้นคืนกลับมาในจิตใจของพุทธศาสนิกชนไทย และกำหนดแนวทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาร่วมกันของหน่วยงาน องค์กร รวมไปถึงผู้มีส่วนร่วมทั้งภาครัฐและเอกชน ภายใต้แนวคิด “การขับเคลื่อนพลังบวร สู่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน”
พระพรหมเมธี ประธานในพิธี
พระพรหมเมธี ประธานในพิธีกล่าวสัมโมทนียกถาว่า วันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรก จนมีพระรัตนตรัยครบองค์ 3...
หน้า 363 ของ 414