Almine ผู้เป็นอมตะ และเป็น "Ascended Master" และ "คู่มือการเลื่อนระดับขึ้น" จากเธอ

นี่ก็อีกหละครับ..เห็นไหมว่าด้วยความที่เรามี "ข้อมูลในฐานข้อมูลของเรา" ไม่เพียงพอ
เราก็เลยคิดและเข้าใจไปว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันมีอยู่เป็นอยู่
มันมีแค่ที่เรารู้อยู่นี้เท่านั้น

อันที่จริง ผมก็ไม่อยากจะมาตอบโต้อะไรคุณหรอกนะครับ
เพราะไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม หรือว่าคุณจะได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ก็ตาม
นั่นมันก็ชีวิตของคุณ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ เพราะยังไงๆผมก็ไม่ได้ไม่เสียอะไรกับคุณอยู่แล้ว

แต่ที่อยากจะขอตอบไว้อีกซักโพสต์หนึ่ง ก็เพื่อที่จะชี้ให้เห็นในจุดที่คุณมองข้ามเท่านั้นเองหนะนะครับ
รวมถึง คนอื่นๆที่คล้ายๆกับคุณด้วยนะ ผมจะพูดรวมๆ ให้ลองเก็บไปคิดดู

ถ้าคุณกล้าอ่านมาถึงบันทัดนี้แล้ว ก็ขอให้กล้าอ่านต่อไปอีกหน่อย
หายใจเข้าลึกๆ อย่าทำหน้าขมวด และอย่าเพิ่งลมออกหูนะครับ ใจเย็นๆ เปิดใจสักนิด

เพราะอาการแบบนี้ ผมก็เป็น เวลาที่ผมไปโพสต์อะไรด่าใครเขาเอาไว้
ผมก็จะกลับมาแอบดูว่าเขาจะด่ากลับมาหรือไม่ ในใจลึกๆผมก็จะกลัวว่าเขาจะด่าแรงๆแล้วรับไม่ได้เหมือนกัน
จนบางที พอผมเห็นข้อความที่เขาโพสต์ตอบกลับมาแล้ว
ผมก็จะรีบกวาดสายตาอ่านผ่านไปให้เร็วที่สุด เพราะกลัวว่าเขาจะด่าเจ็บๆแสบๆ
แล้วรับไม่ได้ หรือโกรธจนควันออกหู อะไรแบบนั้นหนะครับ

ทั้งๆที่พอมาคิดดูดีๆแล้ว มันก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอะไรเลย
ที่เราไปด่าเขาไว้ หรือไปแสดงกิริยาวาจาอย่างที่คุณเที่ยวทำไปทั่วอยู่นี่เอาไว้
ถ้าคนอื่นเขาจะตอกกลับมาให้หงายหลังบ้างเป็นครั้งคราว..มันก็เป็นเรื่องธรรมด้า ธรรมดา

เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดคิดของเราเองแต่อย่างใดเลย
มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติเท่านั้นเอง แค่เรากล้าทำก็ต้องกล้ารับ และสู้หน้ากับมันเท่านั้นเอง

ทุกๆคนคงรู้จักและเคยได้ยินคำๆนี้ดีนะครับ คือคำว่า "ความรู้เท่าหางอึ่ง"
และทุกคนก็คงจะเคยได้ยินคำนี้ด้วยใช่ไหมครับ คือคำว่า
"ยิ่งรู้มาก ก้ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้อะไรเลย" หลายๆคนก็คงกำลังเป็นอยู่ใช่ไหมครับ

ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ที่เป็นคนที่มี "ความรู้เท่าหางอึ่ง แต่ชูหางยังกะแมงป่อง" หนะ
ผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งหละที่เคยเป็นแบบนี้อย่างหนัก เถียงหัวชนฝาเลยทีเดียว
และตอนนี้ก็คิดว่าก้ยังคงเป็นอยู่ แม้ว่าระดับความรุนแรงจะน้อยลงไปบ้างแล้วก็ตาม
แต่ก็ยังรู้ว่าตัวเองยังมีอยู่แน่ๆ เพราะตราบใดที่ยังไม่บรรลุอรหันต์แล้ว
คงไม่กล้าบอกว่ามันหมดสิ้นไปแล้วหรอกนะครับ

ช่วงที่ผมเป็นหนักๆ ผมก็ไม่ฟังใครเลยเหมือนกันแหละ ผมจะรู้สึกว่าคนที่คิดต่างจากผม
พวกนั้นเขาช่าง "ไร้สมอง ไร้สติปัญญา" ซะเหลือเกิน และก็จะรู้สึกเหยียดหยามเขามากๆเลย
อย่างที่คุณ Stefa กำลังรู้สึกอยู่นี่แหละ

ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว ผมลืมหันกลับมามองดูตัวเอง ว่าเป็นเพราะความรู้พื้นฐาน
เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ที่เขาพูดให้ฟังหนะ เราไม่มีต่างหากหละ เราถึงไม่อาจเชื่อมต่อข้อมูลความรู้
ที่เรามีอยู่เดิมนั้น ให้เข้ากับข้อมูลใหม่นั้นได้ เราถึงไม่เข้าใจ เราถึงรับไม่ได้

แต่พอผมเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ผมเถียงไม่ออก เพราะจำนนด้วยหลักฐานหลายๆเรื่องเข้า
มันก้ทำให้ผมหงายท้องไปหลายๆครั้งเหมือนกัน อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
ทั้งรู้สึกอาย และรู้สึกละอายใจ ที่เราอุตส่าหลงคิดว่าเรานี่เจ็งสุดแล้ว
เที่ยวไปท้า เที่ยวไปด่า เที่ยวไปกระแนะกระแหนว่าเขาโง่อย่างงั้นอย่างงี้มาตลอด
แต่พอวันหนึ่งเราได้รู้เองแล้ว รู้สึกผิด จนอยากจะเอาหัวโขกเสาตายด้วยซ้ำไป

จนมีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ผมไม่กล้าใช้คำว่า "มีปัญญา" กับตัวเองอีกเลย ผมเลยเริ่มหันมาใช้คำว่า
"อาจจะ" บ่อยขึ้น คือมันอาจจะเป็นไปได้ก็ได้ แค่เราไม่รู้ หรือยังไม่รู้เท่านั้นเอง
หรือมันอาจจะมีอยู่จริงก็ได้ แค่เรายังไม่ได้ไปรู้ไปเห็น หรือค้นพบมันเท่านั้นเอง อะไรแบบนั้นหนะครับ

เพราะฉะนั้น จากนั้นเป็นต้นมา ผมก็เลยเปิดใจมากขึ้นๆ ศึกษาเรื่องราวอะไร ก็ได้หมด
ไม่รู้สึกอึกอัดขัดเคืองมากนัก เพราะตระหนักอยู่ว่า "สิ่งที่เราเองยังไม่รู้ ยังมีอยู่อีกมากมายนัก"
และเพราะประจักษ์ด้วยตัวเองแล้วว่า

"ยิ่งเรียนรู้และศึกษามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้สึกว่า เราแทบไม่รู้อะไรเลย"

เพราะจักรวาลกว้างใหญ่ไพศาลนัก เรานี่เป็นซะยิ่งกว่าฝุ่นผงละอองธุลีซะอีก


ตัวอย่างหนึ่งที่ผมจะชี้ให้คุณดูนะครับ ก็คือ "ข้อความในพระไตรปิฎกเองนั่นแหละ"
แต่จากเล่มไหนบทไหนผมก็ไม่แน่ใจนัก คลับคล้ายคลับคราว่า จะเป็น "มหาปรินิพพานสูตร" หรือเปล่านะ
เพราะผมเคยอ่านมานานแล้ว ตอนนั้นอ่านไปก็ร้องไห้ไป

"อานนท์! ผู้อบรมอิทธิบาท 4 มาอย่างดีแล้ว ทำจนแคล่วคล่องแล้วอย่างเรานี้
ถ้าปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ถึง 1 กัลป์ (คือ ๔,๓๒๐,๐๐๐,๐๐๐ ปีมนุษย์,
ไม่ใช่ 120 ปีแบบที่สมมุติสงฆ์มั่วตีความ) ก็สามารถจะมีชีวิตอยู่ได้ "

ข้อความข้างบนนี้ผมยกมาจากเวปนี้นะครับ เคล็ดลับอายุยืนและไม่เจ็บป่วยจากพระไตรปิฎก
ผมไม่ได้พูดเองนะ แต่ผมเห็นด้วยกับเขา เพราะว่าพระพุทธเจ้าคงไม่พูดออกมา เพื่อสกิดใจให้พระอานนท์
อาราธนาให้พระองค์มีชีวิตอยู่ต่อไปแค่ 120 เท่านั้นหรอก ผมไม่คิดว่าพระองค์จะกระจอกงอกง่อยแบบนั้นเด็ดขาด

ผมขอถามคุณว่า คุณเคยรู้ข้อความในพระไตรปิฎกที่ว่านี้ไหม และถ้าข้อความนี้มัมมีเค้าความจริงอยู่บ้างหละ
คุณจะว่าอย่างไร?

จริงอยู่ Almine เธอปฏิบัติในแบบของเธอ แต่คุณรู้ได้ยังไงว่ามันจะไม่ได้ผลเหมือนกัน
เพียงเพราะชื่อของวิธีปฏิบัติมันต่างกันเท่านั้นหรือ ที่มันจะไม่ได้ผลเหมือนกัน
เพราะว่า จริงๆแล้ว เธออาจจะปฏิบัติครบ และ เกินกว่าหลักอิทธิบาท 4 นี้ก็ได้

และที่สำคัญ คุณจะรู้ว่าเธอปฏิบัติแนวไหน ดีหรือไม่ อย่างไร ได้อย่างไร
เพราะว่าผมยังไม่ได้แปลและโพสต์ให้คุณอ่านเลย ผมเพิ่งเริ่มโพสต์จั่วหัวมาเท่านั้นเอง
คุณก็มาใส่ฉับๆแล้ว..เห็นไหม..คุณเห็นอะไรในตัวคุณเอง อย่างที่คนอื่นๆเขามองเห็นไหม?

และคุณเคยรู้เรื่องตำนานของ "พระอุปคุต" ไหม? ที่เล่าว่าตอนนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่เลย
ท่านจำพรรษาอยู่ที่สะดือทะเลด้วยซ้ำไป แต่ท่านก็ไม่ได้หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวหรอกนะครับ
เพียงแต่ท่านไม่แก่เพิ่ม และยังไม่ตายเท่านั้นเอง

แล้วคุณเคยได้ยินเรื่องราวของ "หลวงปู่เทพโลกอุดร" ไหมครับ นั่นท่านก็ยังอยู่เหมือนกัน
เพราะว่าทั้งสองรูปที่ยกตัวอย่างมานี้ ท่านมีปณิธานจะค้ำจุนพระศาสนาให้ครบ 5000 ปีหนะครับ

ยังมีเรื่องเล่าในพุทธศาสนาเราอีกมาก ที่เกี่ยวกับการมีอายุยืนยาวเป็นพันๆปีแบบนี้
แม้ว่าเราจะไม่ใช้คำว่า "เป็นอมตะ" เหมือนฝรั่งก็ตาม

เพราะว่าอย่างที่ผมบอกแล้วไงครับ ว่าผมแปลมาจากคำว่า Immortal แล้วคุณก็ไปติดกับคำๆนั้น
แล้วต่อให้เขาตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ แล้วไง? ก็เขาไม่ได้เป็นนักบวชในศาสนาพุทธ
คุณจะไปปรับอาบัติ แล้วจับเขาสึก ในข้อหาอวดอุตริมนุษยธรรมอย่างนั้นหรือ?
เขาจะอวดอะไรก็ได้ เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นนักบวชในศาสนาเรา..


และประเด็นสุดท้ายที่ผมอยากจะกระทุ้งให้คุณเก็บเอาไปคิดก็คือ เรื่องทั้งหมดนี้
ทำไมคุณไม่รอคอยพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองหละครับ..ก็อีกไม่กี่ปีแล้วนี่ คุณยังไม่รีบตายไปไหนไม่ใช่หรือ?
ความหมายของผมคือ..

"เพราะตอนนี้กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น กำลังเกิดขึ้นกับมนุษย์และโลกอยู่"
ซึ่งโลกจะเข้าสู่ระดับความสั่นสะเทือนของพลังงานใหม่ ในปลายปี 2012 นี้
ดังนั้น ใครก็ตาม ที่เลือกโดยสมัครใจไว้แล้ว ในระดับจิตวิญญาณ
ว่าจะร่วมในกระบวนการนี้กับโลก ก็จะได้เลื่อนระดับขึ้น และเป็น "อมตะ"
อย่าง Almine นั่นแหละ"

หมายความว่า ถ้า "คุณ" ได้เลือกเอาไว้ในระดับจิตวิญญาณแล้วว่าคุณจะเลื่อนระดับขึ้น
คุณเองนั่นแหละ ไม่ใช่ใครอื่น ที่จะได้ลิ้มรสของการที่ร่างกายจะไม่แก่ และไม่ตายเหมือนในตอนนี้ ด้วยตัวเอง

เพราะฉะนั้น จงอยู่เพื่อพิสูจน์ จงอ่านข้อมูลให้มากๆ อย่าฟังไม่ได้สรรพแล้วจับมาเถียงคอเป็นเอ็น
อย่าอยู่แต่ในกะลาครอบของตัวเอง เปิดกะลาใบนั้นออกมาสู่โลกกว้าง แล้วคุณจะรู้ว่า
..อื้อหือ..ที่ผ่านมานี่ อยากจะเอาหัวชนเสาตายจริงๆเลย

เพราะวันหนึ่งเราจะรู้ตัวเองว่า เรานี่โง่นัก แต่ก็อวดฉลาดเหลือเกิน จนเราเองยังรับตัวเองไม่ได้เลย!

ผมพูดจริงๆ เพราะว่าผมเป็นมาแล้ว และทุกๆวันนี้ก้ยังเป็นอยู่เรื่อยๆ เป็นพักๆ
จนไม่อยากแสดงความคิดเห็นอะไรให้ใครเลย เพราะรู้อยู่ว่า ตราบใดที่ยังไม่อรหันต์หละก็
กิเลส มันก็ยังบดบังและแทรกแซง "ความคิด" "คำพูด" และ "การกระทำ" ของเราเองอยู่เสมอนั่นแหละ
ไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้น ทางที่ดีเราควรจะเจียมตัว ควรจะเปิดใจให้กว้างเอาไว้

แต่ก็อย่างว่านะแหละครับ ผมจะไม่แปลกใจอะไรเลย ถ้าคุณอ่านมาถึงบันทัดนี้อย่างตั้งใจแล้ว
คุณจะยังไม่ get อะไรเลย เพราะผมก็เคยเป็นอีกนั่นแหละ คือว่า ในตอนนั้น ในช่วงนั้น
ทำยังไงมันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำยังไงใครก็เปลี่ยนความคิดเราไม่ได้อยู่ดี เพราะว่า
เหมือนกับว่า มันยังไม่ถึงเวลาของเรายังไงก็ไม่รู้ มันเลยต้องโดนบทเรียนและบททดสอบหนักๆอีกหลายๆบทซะก่อน

แต่ก็ไม่แน่หรอกนะครับ บางคน ถึงแม้จะโดนมากี่บทแล้วก็ตาม แต่เพราะว่าไม่เอาสติปัญญาไปจับดูมัน
มันก็แค่ผ่านไปเฉยๆ โดยไม่เกิดพัฒนาการอะไรขึ้นมาเลย

อย่างคุณ Stefa นี่ โดนแบนไม่ได้ผุดได้เกิดไปกี่รอบแล้วหละ ก็ยังเหมือนเดิม ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ
คุณ Stefa เริ่มเข้าเวปพลังจิตนี้รุ่นราวคราวเดียวกับผมโน่นกระมัง ก็ยังเหมือนเดิมอยู่
เคยตระเวนด่าเขาไปทั่วยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ ดูเหมือนว่าในสายตาเขาแล้ว
คนอื่นจะผิดไปหมด เขาถูกของเขาอยู่คนเดียวอย่างนั้นแหละ

ลองคิดดูใหม่ดีๆนะครับ ว่า มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่คนอื่นๆเขาจะผิดไปหมดทุกเรื่องเลย
ถูกก็แต่เราคนเดียวเท่านั้นแหละ หรือว่าปัญญามันไม่ใช่อยู่ที่คนอื่น หรือว่ามันอยู่ที่เราเองมากกว่า

อย่ารอให้ถึงวันที่เขาตอกปิดฝาโลงให้เลยนะครับ เพราะถ้าถึงวันนั้นแล้ว มันก็คงจะสายเกินไปแล้วหละ
เริ่มหันกลับมาพินิจพิเคราะห์หาข้อบกพร่องของตัวเราเองเพื่อปรับปรุงแก้ไขมันได้แล้ว
อย่าเที่ยวส่งใจออกนอก ไปจับผิดคนโน้นที คนนี้ที อยู่เลยนะครับ เวลาเร่งเข้ามาทุกขณะนี้
อย่าใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ต่อไปเลย หัดฟังเสียงจากภายในที่เรียกร้องให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างเถอะ

กุญแจมันอยู่ที่คำว่า "เริ่มยอมรับว่าตัวเองก็ยังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขอยู่" นั่นแหละ ประตูแห่งพัฒนาการก็จะเริ่มเปิดออก

...........................................................

กราบขออภัยท่านที่ถูกพาดพิงทุกๆท่าน และ ท่านอื่นๆด้วยนะครับ ถ้ารู้สึกว่าผมพูดรุนแรงไปหน่อย
เพราะมันเป็นความตั้งใจของผมเอง ที่จะให้เป็นแบบนี้เองหละครับ

เพราะว่า.."ยารักษาโรค..มันก็มักจะมีรสขมแบบนี้เสมอแหละครับ"

ขอให้ทุกๆท่านเจริญทั้งทางโลก และ ทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆนะครับ

ชยุต

 

รักเพื่อนๆทุกคนนะคะ
การที่ได้มีโอกาสได้รักทุกคน เป็นความยิ่งใหญ่มากๆเลย
เพราะเหมือนกับเราได้ให้โอกาสในการที่เราจะรักตัวเองเพิ่มขึ้นๆ
โดยไม่มีที่สิ้นสุด
เพราะเราคือหนึ่งเดียวกันค่ะ (เชื่อเถอะค่ะ พวกเราคือหนึ่งเดียวกันนั่นเอง)

 

อ่านข้อความของคุณชยุตแล้ว ก็ได้แต่อมยิ้ม สู้ๆค่ะ อิอิ..(เข้าใจความรู้สึกค่ะ เพราะเคยเป็น)

 

คนนี้ก็เหมือนกัน น่าจับใส่ขวดโหลซ่ะเลยย ฮ่า ฮ่า น่ารักได้ตลอดเวลา

 

ร่ายซะยาว........โห !!
ไม่พ้น ท่านมีอารมณ์ จี๊ด อยู่ดี

ข้อความของท่าน แสดงให้เห็น อารมณ์ ที่ต้องการเอาคืน แบบ จัดหนัก
แต่ ไม่ใช้คำหยาบคาย เดี๋ยวเสียภาพพจน์ .... อิ อิ




เอาล่ะ......

ถ้า อีกหน่อย มีข่าว ป้า อมตะของท่าน ตาย ...... จะว่าไง

ถ้า ปี 2012 ไม่มีเหตุการณ์โลกแตก แค่มีภัยธรรมชาติตามปรกติ ไม่มีใครเลื่อนระดับอะไรทั้งนั้น แค่อายุเพิ่มขึ้นไปอีกปี ตามปรกติของ มนุษย์ ....ท่านจะว่ายังไง


................

ข้อมูลของท่าน ผมก็อ่านมาหลายกระทู้นะ อ่านสนุกๆ

แต่อะไรที่มัน ผิดไปจาก สามัญสำนึกของมนุษย์ ( ป้า-โบท็อกซ์-อมตะ)
อะไรเนี่ย เห็นแล้ว เซ็งจริงๆ เลยต้องออกมาค้าน

เรื่องอะไรแบบนี้เนี่ย ไม่ต้องใช้ปัญญาระดับสูง หรอก ชาวบ้านเห็นก็ว่า โม้แล้ว....


ผมไม่เอา พุทธมาอ้าง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวเองละนะ ไม่เอาศาสนามาหากิน หรือใช้ในทางมิชอบ

เอาศาสนา พุทธ มาสนับสนุนเรื่องราวนอกเหนือ พุทธ( ป้า-โบท็อกซ์) แบบนี้ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะ ไม่ควร

ไม่เคยเห็นพระ สงฆ์วัดไหน สอนธรรม เพื่อให้คนเป็นอมตะ
ไม่เคนเห็น หลักธรรม ทางพุทธศาสนาข้อไหน สอนให้ คนมุ่งสู่อมตะ

....... ล้วน มุ่งสู่ นิพพาน ทั้งสิ้น......


ท่านไปหยิบ ยก เรื่อง เล่า พระอะไรของท่านเป็น อมตะ มาขยาย เพื่อประโยชน์ ในการอ้างอิง ให้น้ำหนักกับข้อมูล ของท่าน



แต่ ความเชื่อ อะไรแบบนี้ที่ท่านพยายาม กระทำอยู่ หากท่านเห็นสมควร
และท่านมีความสุข ที่จะทำต่อไป ท่านก็ทำต่อไป

หากวันหนึ่ง ท่านเห็นว่า มันไม่ถูกไม่เหมาะสม ท่านก็เลิกซะ


.........
ที่ผมต้องออกมาค้านของท่าน เพื่อให้ ผู้ที่เข้ามาอ่าน มีข้อมูล อีกด้านไว้ฉุกคิด ด้วยสติอันควรมี มิให้หลงไหล ไปกับข้อมูลด้านเดียว ซึ่งเป็นข้อมูลที่ ไม่อาจพิสูจน์ได้ให้ปรากฎชัด .................







อิ อิ จี๊ด อีกแล้ว อะดิ 5 5 5!!

 

พลังงานเก่า จัดหนัก อิอิ (ขอจี้ดด้วยคนนะ)

 

อะไรเอ่ย สูงแล้วอ่อน ถามคุณ Numtrn อิอิ

 

ตอบสนุกๆ พักเที่ยง


ต้นหญ้า
ต้นไผ่
เหล็กเส้น เอามาตั้งแนวดิ่ง
ท่อ PVC เอามาตั้งแนวดิ่ง


ปัญญามนุษย์ ก็อ่อนได้ ยิ่งสูงอายุยิ่งอ่อนสมองเสื่อม- เป็นโรคอัลไซเมอร์


อ่อนแบบไหน อ่ะ ถ้าพิจารณาด้วย physical properties
วัตถุใดๆ มันก็ สูงแล้ว อ่อน ทั้งนั้น

 

ขอบคุณ คุณชยุต มากที่จำ Stefa ได้
ไม่มีคนแปลเก่งๆอย่างคุณ ชยุต ก็คงไม่มีใครได้อ่าน ข้อความเหล่านี้
Stefa ไม่เคยด่าใคร ปกติมักใช้ข้อความที่สุภาพโพสต์ ด้วยวิจารณญาณที่มีเหตุมีผล
สำหรับ stefa ที่คุณชยุตว่า แล้วก็โดนแบนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดนี่ เป็นใครก็ไม่รู้ซึ่ง มาเลียนแบบ แอบอ้าง แล้วก็วิ่งเร่ไปทุกห้อง แค่นี้แหละ ที่ขอชี้แจงให้ทราบความจริง

สำหรับเรื่อง fake หรือไม่นี่ อีกไม่นานคงได้รับการพิสูจน์ความจริงกัน

 

สเตฟา อยู่เชียงใหม่ ใช่มั้ย? ดีแหล่ะ วันไหนไปเชียงใหม่ จะโทรฯหา รักนะ จุ๊บๆ. (พูดจริงนะ ไม่ไดู้พูดเล่น).. ส่วนเรื่องบางเรื่อง เข้าใจผิดกันได้ครับ อย่าใส่ใจ ปล่อยไปๆ เป็นกำลังใจให้จ๊ะ

 

ความเป็นอมตะ มันอยู่ที่เราจะมองจากจุดไหนมากกว่านะครับ
ต่างมิติฯ เองเขาก็ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้เยอะเหมือนกัน

ที่แน่ๆเราเราทุกคนก็มีจิตวิญญาณที่เป็นอมตะกันอยู่แล้ว
ถ้าเราอยู่ในมิติที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำ...ความอมตะมันก็ลดน้อยลง
ถ้าคุณอยู่ในมิติที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูง....ความอมตะก็เพิ่มสูงขึ้น
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขความหนาแน่นและกฎเกณฑ์ของแต่ละมิติหรือภพภูมิด้วย

และก็ยังมีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของทางเลือกเสรีด้วย
บางคนเลือกที่จะกลับชาติมาเกิด....ผ่านหลายๆภพชาติ
บางคนเลือกที่จะมาเกิดด้วยภาระกิจสำคัญที่ยาวนานกว่าคนปกติก็มี

แม้กระทั่งเรื่องจุดสิ้นสุดของความเป็นอมตะ มันก็มีอีก
เมื่อใดที่มีการผสมผสานกันของระดับจิตวิญญาณครั้งใหญ่เกิดขึ้น
ถึงเวลานั้น ก็จะไม่มีบุคลิภาพใดๆหลงเหลืออยู่อีกต่อไป...

ทั้งหมดนั่น ก็อาจเป็นสิ่งที่เรายังไม่เคยคิดถึงมันเลยก็ได้
เป็นความหลายหลายที่เป็นอนันต์ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในจักรวาลแห่งนี้
และมันก็ไม่มีอะไรที่ผิดหรือถูกอย่างแท้จริงในโลกมายานี้เลยครับ

คุณชยตแปลต่อไปเถอะครับ
ยังมีอีกหลายๆคนที่สนใจและเค้ารออ่านอยู่น่ะครับ....

 

ผมเองก็รู้สึกไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันแหละครับ
ว่า Stefa มีกี่ Stefa กันแน่ ถ้าผมเข้าใจผิดไป
นึกว่าเป็น Stefa นี้ก็ขออภัยด้วยนะครับ

แต่คุณนิ่งยิ่งกว่าที่ผมคิดอีกนะเนี่ย..เยี่ยมครับ



ส่วนท่านที่ยังไม่เคยอ่านกระทู้ผมแบบจริงๆจังๆเลย
จนเข้าใจผิดไปว่า ข้อความเกี่ยวกับปี 2012
คือวันโลกแตกนั้น..ผมก็หมดอะไรจะพูดแล้วหละครับ

เพราะว่า นั่นหนะแสดงถึงการไม่เคยอ่านเลยจริงๆ

ไม่มีข้อความไหนเลย ที่ผมโพสต์มาเกือบๆจะ 1000 ข้อความอยู่แล้วนี่
ผมบอกว่า มันคือวันสิ้นโลก หรือ วันโลกแตก

ในทางตรงข้าม พวกผมจะเอาข้อความจากต่างมิติมาบอกอยู่เสมอว่า
มันไม่ใช่วันโลกแตก แต่มันคือวันสิ้นยุค และคือยุคพลังงานใหม่
ยุคที่ระดับจิตสำนึกของมนุษย์และโลกจะเลื่อนระดับขึ้น

พวกผมออกมาอธิบายแบบนี้ อธิบายแล้ว อธิบายอีก
และออกจะต่อต้านพวกกระแสวันสิ้นโลกซะด้วยซ้ำไป

แต่ก็..พอเถอะนะครับ..ผมคงไม่คุยกับคุณอีกแล้ว
เพราะอย่างที่ผมว่าหนะแหละครับ ผมก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อนแล้ว
ในช่วงนี้ ไม่มีใครอธิบายอะไรให้คุณเข้าใจได้หรอก
เพราะว่ายังไงๆคุณก็จะไม่ get ไม่รับ และไม่ยอมเข้าใจอะไรทั้งสิ้นอยู่ดี

เพราะมันอาจจะยังไม่ถึงเวลาของคุณก็ได้
ขอเอาใจช่วยให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้โดยไวนะครับ
ดังนั้น พูดมากไปก็รั้งแต่จะทำให้กระทู้นี้เลอะเทอะไปกันใหญ่เท่านั้นเอง

แต่ผมเดาว่านะ ข้อความที่ผมแสดงความคิดเห็นไปแล้วนั้นหนะ
มีคนอื่นๆได้ประโยชน์อยู่นะครับ..

..ก็ขออนุโมทนากับท่านที่ได้ประโยชน์ด้วยนะครับ..

............................................................

 

การเดินทางจากจุดตั้งต้นไปยังจุดเป้าหมายหนึ่งๆ จะไปกี่ทางก็ได้ อาจจะมีอยู่หลายวิธี จะเดินสะดวกของใครของมันก็แล้วแต่จะใช้ให้เหมาะสมกับตนเอง ทุกความคิดเห็น ทุกข้อมูล ล้วนมีประโยชน์ "เรายังไม่รู้อะไรอีกมากมายนัก" ขอบคุณทุกๆ ความหวังดี

 

เป็น ความคิดที่ ดี ท่าน


เห็นต่าง แต่อยู่ร่วมกันได้



เรื่องอะไรแบบนี้ มันต้องมองหลายๆด้าน มองความเป็นไปได้หลายๆมุม


ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมา จะดีไหม ??

ก็คงดีสำหรับบางคน ที่อยากมีกายเนื้ออยู่นานๆ ทำอะไรดีๆ เป็นประโยชน์กับโลกต่อไป


แต่บางคนอาจ ขอตายดีกว่า แบบคนธรรมดา



แต่ว่านะ หากเป็น อมตะ กันมากๆ แต่พื้นที่ของโลก และทรัพยากร ธรรมชาติ เท่าเดิม เด็กเกิดใหม่+ผู้ใหญ่ไม่ยอมตาย

สมดุลของโลก จะเปลี่ยนไป อะไรแบบนี้ คนแก่ จึงต้องตายไปตามธรรมชาติ



ท่านมีเรื่องอะไรสนุกๆ ผมก็ตามอ่าน กระทู้ท่านอื่นๆ ก็เห็นด้วยบ้าง แย้งบ้าง บางท่านผมจัดหนัก ยังมีอีกหลายคนที่ สามารถเข้ามาร่วมจัดหนัก กับกระทู้ สุดเพี้ยนต่างๆ เพียงแค่เรียกไป.......


ใจร่มๆท่าน ตั้งกระทู้ สนุกๆ จิตเบิกบาน อยู่กันไม่นาน เดี่ยวก็ตายจากกัน ตามธรรมชาติ

 

เรื่องของเหตุผล นอกจากถูกผิด แล้วก็มีควรไม่ควร
และท้ายที่สุดก็คือ ทำ.(อย่างนี้) . แล้วได้อะไร

โดยตลอดมาสำหรับแฟนคลับกระทู้คุณชยุต คุณมี๊ดและทีมแปลเรื่องราวต่างมิติ
เรามักได้บรรยากาศที่ดี ความรู้สึกที่ดี ความรัก กำลังใจ
ที่หลายๆคนส่งมอบให้กันและกันจนอบอวลไปด้วยสิ่งดีๆซะเป็นส่วนใหญ่
การอ่านหรือการอยู่ใกล้ชิดกับแหล่งที่ช่วยยกระดับจิตใจ มันก็ยกระดับ
จิตใจได้ง่ายขึ้น จิตใจมันก็ต้องการสัปปายะอยู่ หลายๆคนจึงมักจะเอ่ย
ว่า เข้ามาอ่านเพื่อซึมซับแสงสว่าง ตัวเองก็รู้สึกอย่างนี้อยู่ตลอดค่ะ

มันมีหนังเก่าอยู่เรื่องนึง ที่พระเอกต้องสู้กับผู้ร้ายที่ตัวโตน่ากลัวและใส่
หน้ากากเหล็กสุดโหด พระเอกเกือบเอาตัวไม่รอด แต่พอหน้ากากเหล็ก
หลุดออกในขณะการต่อสู้ พระเอกที่เงื้อมือเต็มที่เพื่อที่จะซํดเจ้ายักษ์ก็ต้อง
ทิ้งมือลงข้างตัว หมดใจที่จะตีมันซะด้วยซ้ำ เมื่อเห็นว่าคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน
เบื้องหลังการแสดงตัวตนของเจ้ายักษ์ที่ซัดใครๆล้มไปเป็นสิบอย่างไม่เมตตา
มันแค่ไร้เดียงสา .. มันก็น่ารักดีนะคะ catt12

 

อิอิ

ตอบเกือบถูกและ เข้าใจว่าคุณใช้สมองซีกซ้ายในการหาคำตอบตอนพักเที่ยงนะครับ คำตอบของคุณก็ถูกนะ ถ้าคิดในแบบของคุณ

แต่ถ้าคิดแบบเรา ด้วยสมองซีกฝา 555 จะตอบว่า ปัญญายิ่งสูง ตัวจะยิ่งอ่อน

เมื่อปัญญามากขึ้น รู้อะไรมากขึ้น จะยิ่งอ่อนน้อมถ่อมตน อีโก้ จะยิ่งลดลง (หรือว่ามากขึ้น ชัก มึน และ) อิอิ

 

_วู้..วันนี้กระทู้มีสีสรรดีจัง..สีดำก็เป็นอีกสีหนึ่งในสีนะจ่ะ..ถึงไม่ชอบแต่มันก็มีตามธรรมชาติ..และมันก็มีอยู่แล้วขอเพียงยอมรับมันให้ได้..มันก็จะเป็นแค่สีสรร..ที่สวยงามได้เหมือนกัน..ว่าจะไม่โพสแล้วเชียวกัวโดนแบน..๕๕๕

 

จากใจคนที่ติดตามกระทู้คุณชยุตมาตลอดนะคะ เข้าใจสิ่งที่คุณชยุตพูดแล้วก็สิ่งที่คุณ Numtrn เขียนนะ ระดับความเข้าใจมันก็มีมิติต่างๆกัน เวลานี้คิดอีกอย่าง เวลาหน้าอาจจะเปลี่ยนก็ได้ ไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้ แต่สิ่งที่สำคัญคือเราควรเปิดใจกว้างเอาไว้
หรือบางทีอาจจะเป็นสไตล์การเรียนรู้ของแต่ละคนมั้งคะ? บางคนอาจจะพายเรือไปถึงฝั่ง
บางคนชอบนั่งเครื่องบิน แต่สุดท้ายแล้วเป้าหมายก็อย่างเดียวกัน

อ่านที่คุณชยุตเขียนแล้วอมยิ้ม เพราะเราก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาเหมือนกัน 555+
ความเข้าใจ เป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆเลยเน้อ (deejai)

 

อื่ม เหมือนแนวคิดชาว ญี่ปุ่น นะ

ก้มหัวไว้ก่อน


ปัญญาสูง นี้ต้องมี คุณธรรมกำกับควบคู่ไปด้วยหรือเปล่า

ปัญญาประดุจดังอาวุทธ


หากไร้คุณธรรม แล้วนั้น ผู้มีปัญญาสูง จะอวดอีโก้ หรือ ไม่อวดอีโก้ ก็ตาม หรือแม้แต่แสดงความอ่อนน้อมถ้อมตนด้วยมีนัยยะแห่งความไม่ชอบ แฝงเร้น ล้วนเป็นบุคคลอันตรายทั้งสิ้น

 

ขอบคุณ คุณNumtrn ที่ทำให้ผมรู้ว่าตัวผมสามารถปล่อยวางและใจเยนขึ้นเยอะ ไม่ได้หมายถึงว่าผมคล้อยตามคุณนะ เพราะผมได้ความรู้จากบทความของคุณ"ชยุต"และทีมงานผู้แปลทุกท่านต่างหากครับ ช่วยให้เข้าใจว่าเราไม่ควรปล่อยพลังด้านลบออกมาจากตัวเอง ถ้าเปนเมื่อก่อนคงหงุดหงิดที่คอยแต่พยายายามเอาชนะกัน "มันก็คงไม่จบสิ้น ถ้าไม่รู้จักปล่อยวาง"
​