เพื่อการกุศล *★.• ใกล้หมดแล้ว !!! พญาลิ้นทอง ยอดแห่งมนต์เสน่ห์เขมรโบราณ สายวิชา "กรูเปรี๊ยะออง" ♡* อ.โอม •.★*

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Amata_club, 4 สิงหาคม 2010.

  1. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +3,172
    อนุโมทนาสาธุครับ กับสิ่งดีๆๆที่เกิดขึ้น..

    ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติปฏิติธรรม
     
  2. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +3,172

    ติดตามมานานแล้ว...

    ขอร่วมประมูลเพื่อสมทบทุนสร้างวิหารทานที่ 1,515 ค่ะ[/QUOTE]

    อนุโมทนาครับ คุณ Nufon ไกล้ๆๆ 21.30 อย่าไปไหนนะครับ เข้ามาติดตามอย่างไกล้ชิด ...
    ขุนแผนเลือกเจ้าของครับ..ไม่ใช่เจ้าของเลื่อกขุนแผน ...
    ช่วงนี้เนตผม หลุดเป็นว่าเล่น เลย ....
    แถ้มเพี้ยนอีกต่างหาก
     
  3. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    มาแว้ว
    ...

    ไปถึงไหนกันแล้วน้อ....
     
  4. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +3,172
    เปิดประมูลขุนแผนองค์รุ่น 2 (รุ่นสามป่าช้า) ท่านอาจารย์แทน
    เพื่องานบุญสร้างพระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ จ.สุรินทร์

    ประมูลวันที่ 24/02/11 เวลา 21.30 น.


    คุณ Nufon ร่วมประมูลสูงสุดในขณะนี้ 1,515 บาท

    เงินทำบุญทั้งหมดทำบุญสร้างโบสถ์พระธาตุ วัดโพธิ์ศรีธาตุ

    [​IMG] [​IMG]

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    องค์นี้...คือ..ขุนแผนรุ่น 2 ของท่าน อ.แทน ครับ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะสร้างประมาณปี 40 เรียกกันว่า รุ่นสามป่าช้า ครับ เป็นเนื้อสีผึ้งผสมว่าน (แก่สีผึ้ง) เนื้อจะนิ่มมาก ถ้าเอาไปเลี่ยมพลาสติกละก็เสียรูปแน่นอนครับ

    ลักษณะ ด้าหน้า เป็นรูปขุนแผนโอบนางทั้งสองข้าง นั่งบนแท่น ในซุ้มลายกนก ใต้ฐานเป็นรูปแม่เป๋อ (แต่ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องจริง เค้าจะเรียกว่า อีเป๋อ ครับ)

    ด้าน หลัง เป็นรูปแม่เป๋อนั่งบนแท่น ในซุ้มลายกนก ที่ใต้แท่นฝังตะกรุดทองแดง 1 ดอก เป็นตะกรุดหัวใจมนุษย์ (มหาเสน่ห์เหนือใจคนทั้งหลาย)
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:

    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ขุนแผนรุ้นนี้ผมเป็นคนสร้างเองครับ... ต้องบอกว่าสร้างขึ้นเพราะความอยากของตัวเองจริงๆครับ...เพราะสมัยนั้น เรื่องพ่องั่ง แม่เป๋อ นี่ดังมาก เอาเป็นว่า ถ้าอาจารย์ท่านใดสร้างออกมาเป็นขายได้ทั้งนั้นครับ ส่วนจะใช้ได้ผล หรือไม่ได้ผลนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    ตัวผมเอง ก็สนใจเรื่องพ่องั่ง แม่เป๋อ นี้พอสมควร เพราะเคยรู้ เคยได้ยินเรื่องความขลัง ความพิศดารของเครื่องรางประเภทนี้มามากพอควร พอรู้ว่าสำนักไหนสร้างออกมาเป็นต้องตามไปบูชามาหมด แต่สุดท้ายก็เงียบ ​

    แต่ พอมีโอกาสได้คุยกับท่าน อ.แทน ก็เลยรู้ว่าท่าน ก็ทำก็เสกได้เหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจว่า ทำเองแล้วให้ท่านเสกให้ดีกว่า ชัวร์ทั้งมวลสารเพราะหามาเอง ชัวร์ทั้งผู้เสก เพราะเป็นครูบาอาจารย์ของเราเอง

    นี่แหละครับก็เลยเป็นที่มาของขุนแผนรุ่นนี้...​
    </td></tr></tbody></table>
    อ้างอิง:

    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ตอน นั้น...ใจก็ชอบขุนแผนอยู่ด้วยเหมือนกัน ก็เลย ทำออกมาเป็นรูปขุนแผนโอบนาง แล้วใส่แม่เป๋อเข้าไปด้วยทั้งด้านหน้าด้านหลัง เมื่อทำบล็อกเสร็จ (ทำเอง) ทีนี้ก็เริ่มออกหามวลสารครับ...โดยมุ่ง เน้นที่ว่านทางมหาเสน่ห์มหานิยมเป็นหลัก เช่น ว่านดอกทองทั้ง 16 ชนิด อันนี้ขาดไม่ได้เลย ว่านสาวหลง จูงนาง ช้างผสมโขลง มหาอุดม มหาจังงัง ห้าร้อยนาง สาริกาลิ้นทอง โจรกลับใจ ขุนแผนสะกดทัพ เครือเขาหลงทั้งสองชนิด สาวหลงที่เป็นแบบเส้นทั้งสองชนิด พญาว่าน มหาจักรพรรดิ์ ไพลปลุกเสก ขมิ้นขาวเสน่ห์ เณรแก้ว อ้ายงัด อีเป๋อ และอีกหลายสิบชนิด... ส่วนที่เป็นกาฝาก ก็มี กาฝากดอกรัก กาฝากมะยม กาฝากขนุน กาฝากมะรุม กาฝากต้นคูณ กาฝากต้นประดู่ กาฝากต้าสัก กาฝากมะขาม กาฝากพุทรา


    ประเถทของกายสิทธิ์ ก็มี ผงเหล็กทรหด ที่งอกขึ้นจากดิน ดินจอมปลวกเจ็ดจอม ผงรังต่อ ดินขุยอุดรูปู

    และที่สำคัญจนเป็นที่มาของชื่อรุ่นก็คือ..สีผึ้ง.....ครับ....

    หาวววววว.....โอว..ดึกละ...วันนี้ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ... ​


    แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อที่หลังนะครับ...ราตรีสวัสดิ์...
    อนุโมทนา...สาธุครับ...​
    </td></tr></tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    เมื่อคืนก่อน...ค้างเรื่องขุนแผน รุ่น2 ไว้...คืนนี้มาต่อเลยนะครับ... สาเหตุ ที่สร้างเป็นเนื้อสีผึ้ง ก็เพราะว่า ท่าน อ.แทน ท่านเก่ง ท่านดังเรื่องสีผึ้งครับ เอาเป็นว่า ถ้าเป็นเรื่องของเสน่ห์เมตตามหานิยม ของท่านแล้วล่ะก็ ต้องยกให้สีผึ้งนี่แหละครับ ท่านหุงท่านทำออกมาเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ เอาแค่ว่ามีคนรู้ว่าท่านหุงสีผึ้งเท่านั้นแหละครับ แป๊บเดียวหมด เพราะงั้น เวลาที่ผมไปเยี่ยมไปหาท่าน ผมก็จะซื้อขี้ผึ้งแท้ไปให้ท่านอยู่บ่อยๆ และก็มีโอกาสได้ไปหุงสีผึ้งกับท่านบ่อยเหมือนกัน และถ้าไปตอนช่วงที่ท่านปลุกเสกเร็จแล้ว ท่านก็จะแบ่งสีผึ้งให้มาแทบทุกครั้ง มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ภาชนะที่หามาใส่ได้ แต่ส่วนใหญ่ท่านก็จะให้มาเป็นขวดโหลโอวัลตินเลยทีเดียว...
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    มาต่อเรื่องขุนแผนกันนะครับ.... พอตอนที่คิดจะทำขุนแผน รุ่น2 นี้ก็เลยตั้งใจว่า เมื่อท่านเก่งเรื่องสีผึ้ง ก็ต้องเอาสีผึ้งท่านผสมในขุนแผนด้วย ผมจึงคัดเอาสีผึ้งสามรุ่นแรกที่ผมได้มาจากท่านมาผสมในขุนแผนรุ่นนี้ ถึงแม้สีผึ้งทั้งสามรุ่นนี้จะไม่ใช่รุ่นแรกของท่าน อ.แทน แต่ก็เป็นรุ่นแรกที่ผมได้จากท่าน โดยที่ท่านเป็นผู้ให้เองโดยไม่ได้ขอ และขอกระซิบดังๆครับว่า สีผึ้งแต่ละรุ่นที่ท่านให้มานั้น ประสบการณ์เพียบ ทุกด้านครับ...
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ต่อเลยนะครับ...

    สีผึ้งสามรุ่นที่นำมาผสมทำขุนแผน รุ่น2 นี้ เป็นสามรุ่นแรกๆที่ได้จากท่าน อ.แทน (แต่ไม่ใช่รุ่นแรกของท่าน)

    อย่าง สีผึ้งอันแรกที่ได้จากท่านเลยก็เมื่อปี38 ตอนนั้นบวชเณร(โข่ง)ไปกับท่าน ท่านพาไปเที่ยวที่อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ไปอยู่วัดของลูกศิษย์ท่าน อ้อลืมบอก ตอนนั้นท่านยังบวชเป็นพระอยู่ครับ จริงๆแล้วที่นี่เป็นแค่ที่พักสงค์ มีแค่ศาลาหลังเดียว ทางเจ้าอาวาสก็เลยมานิมนต์ท่าน อ.แทนไปอยู่เพื่อจะได้ช่วยสร้างวัด บริเวณที่พักสงค์นี้ก็เป็นป่าช้าเก่า วันที่ผมไปถึง เค้าก็เพิ่งเผาศพกำนันไปหมาดๆ พอตกกลางคืนล่ะแหม พี่หมาเค้าพากันสามัคคีหอนกันจังเลย

    อยู่ ไปได้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง ทางเจ้าอาวาส ก็ขอให้ท่าน อ.แทนหุงสีผึ้งให้ โดยทางเจ้าอาวาส ได้เตรียมของต่างๆไว้พร้อมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ขี้ผึ้ง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันจันทร์ และว่านทางมหาเสน่ห์มหานิยมต่างๆ เพราะเจ้าอาวาสท่านนี้ก็เป็นหมอสมุนไพรเหมือนกัน เลยรู้เรื่องว่านยาดีทีเดียว

    เท่าที่ผมจำได้น่าจะมี ว่านดอกทอง ว่านสาริกาลิ้นทอง ต้นรักซ้อนมีทั้งกิ่ง ก้าน ใบ และกาฝากอีกหลายชนิด

    ท่าน อ.แทนก็เลยพาไปหุงในป่าช้า ตรงที่เขาเพิ่งเผาศพกำนันนั่นแหละครับ ท่านใช้กะลามะพร้าวที่ใช้ล้างหน้าศพมาทำเป็นก้อนเส้า ใช้เศษถ่าน(สามก้อน)ที่เหลือจากการเผาศพมาเป็นเชื้อไฟ ใช้เทียนสามเล่มในการก่อไฟหุงสีผึ้ง

    เดี๋ยวมาต่อนะครับ...
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ต่อครับ... พอทุกอย่างพร้อม เที่ยงคืนเป๊ง..ท่านก็ทำพิธีหุงสีผึ้ง วันนั้นไปกันหกคน มีพระสอง เณรสอง ผ้าขาวหนึ่ง และโยมหนึ่ง ตอนที่ยังไม่หุง จั๊กจั่นเรไรก็ร้องกันระงมไปหมด แต่พอท่านจุดธูปเทียนบอกกล่าวครูบาอาจารย์เท่าแหละครับ เงียบทั้งป่า แต่อันนี้ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่อีตอนที่ท่านบอบกับเจ้าป่าช้า และกำนันที่เพิ่งเผาไปให้มาช่วยหุงนี่สิครับ เล่นเอาพี่หมาหอนกันจ้าละหวั่นเลย หอนแบบล้อมป่า หมาเป็นสิบๆตัว ไม่รู้ไปนัดกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พากันมายืนล้อมรอบนอกเขตป่า แล้วก็พากันตั้งหน้าตั้งตาหอนกันร่วมชั่วโมงที่หุงสีผึ้ง

    พอ ท่านบอกกล่าวเรียกเจ้าป่าช้ากับกำนันเสร็จปั๊บ ท่านก็จุดเทียนสามเล่มที่จะใช้เป็นเทียนหุงแล้วนำไปวางเป็นสามมุมโดยให้ปลาย เทียนจิ้มเข้าหากัน
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ตอน นั้นทุกคนก็ตั้งใจดูท่านแหละครับ เพราะไม่มีใครคิดจะออกไปไหน เกรงใจพี่หมาที่เค้าหอนอยู่ พอท่านเอาปลายเทียนตั้งจิ้มรวมกัน ที่เปลวไฟก็ดูใหญ่ขึ้นนิดหน่อย ในใจผมยังคิดเลยว่า ไฟแค่นี้มันจะหุงสีผึ้งได้ยังไง เพราะที่ใช้ ก็เป็นเทียนเล่มเล็กขนาดความยาวเท่านิ้วก้อยเอง

    ซักพักเหมือนท่านรู้ว่าผมคิดอะไอ ท่าน อ.แทน ท่านก็พูดขึ้นมาว่า "ไหน..ดูสิว่าเก่งแค่ไหน.." แล้วท่านก็ชี้นิ้วไปที่เปลวไฟ
    ตะลึงครับ...อยู่ๆเปลวไฟที่ดูไม่ใหญ่ ไม่สูงมาก ก็ ลุกขึ้นแล้วพุ่งปิ๊ดขึ้นมาเหมือนเปลวไฟจากหัวเครื่องเชื่อมแก๊ส เปลวไฟสีออกน้ำเงินพุ่งสูงขึ้นมาเกือบสอกได้ ตอนนี้ ทุกคนตะลึง เงียบกันหมด แล้ว ท่าน อ.แทน ก็พูดทำลายความเงียบขึ้นว่า "เออๆ...มันเก่งเว้ย..เข้าท่าๆ..ไปช่วยหาของดีมาใส่ให้หน่อยเด้อ.." พอพูดจบเปลวไฟที่พุ่งขึ้นมาสูงๆนั้นก็ลดลงไปเป็นเปลวไฟปกติเหมือนเดิม และก็แปลกอีกอย่าง ก็คือ เจ้าเปลวไปน้อยๆที่เห็นนี่ กลับหุงสีผึ้งได้จริงๆ...
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    มาต่อเรื่องสีผึ้งที่ใช้เป็นมวลสารในขุนแผน รุ่น2 กันต่อนะครับ...

    หลัง จากหุงสีผึ้งเสร็จท่านก็นำมาปลุกเสกต่ออีก3วันแล้วจึงเอาให้เจ้าอาวาสวัด นั้นไป ก่อนให้ท่านก็เรียกให้ผมไปตักแบ่งสีผึ้งนั้นไว้ และบอกกับผมว่า "เก็บไว้ดีๆนะ..อย่าไปใช้มักง่าย..ทางที่ดีแค่ใส่ตลับไว้ แล้วอธิษฐานใช้เอาก็พอ..ไม่ต้องไปเปิดใช้.."

    แม้สมัยนั้น(ปี38)ผมยังไม่ค่อยสนใจเรื่องมหาเสน่ห์ซักเท่าไหร่ แต่ ก็ทำตามที่ท่านบอกก็คือ แบ่งเอาสีผึ้งรุ่นนี้มาใส่กรอบแสตนเลสห้อยคอติดตัวตลอดครับ รุ่นนี้ดีมาก ขนาดตอนนั้นผมยังไม่ค่อยสนใจเรื่องทางเสน่ห์ แต่ว่าตั้งแต่ที่ห้อยสีผึ้งรุ่นนี้ มีสาวน้อยสาวใหญ่เข้ามาใกล้เยอะแยะไปหมด อาศัยว่าตอนนั้นมุ่งแต่จะปฏิบัติอย่างเดียวเลยรอดมาได้ ไม่งั้นป่านนี้คงไม่ได้มาทางนี้ซะแล้วล่ะมั๊งครับ...

    อันนี้แค่เฉพาะสีผึ้งหม้อแรกที่ผสมในขุนแผนรุ่นนี้นะครับ..ยังเหลืออีกสองหม้อเด็ดๆเหมือนกันครับ...
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    มาถึงสีผึ้งหม้อ(รุ่น)ที่สองที่ท่าน อ.แทนให้ผมมาครับ...ท่านให้ผมมาตอนปี39 ช่วงนั้นผมเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพแล้ว แต่ถ้ามีเวลาว่าง ผมก็จะไปอยู่ที่วัดโพธิ์ศรีธาตุนีแหละครับ ไปบวชพราหมณ์บ้าง บวชเถรบ้าง(โกนหัวนุ่งขาว) หรือบวชเณร(โข่ง)บ้าง เรียกว่าเดือนสองเดือนไปทีก็ได้ บางทีก็อยู่5วันบ้าง 7วันบ้าง 10วันบ้าง แล้วแต่โอกาส

    ครั้งนี้ผมก็ไปอีกกะว่าไปอยู่ซักสิบวัน ถ้าโชคดีได้ไปเที่ยวกับท่าน อ.แทนก็ยิ่งดี(ได้ประสบการณ์ดีๆแปลกๆเยอะ) พอไปถึงก็ไม่ทันท่านซะแล้ว เพราะมีลูกศิษย์จากมุกดาหารเหมารถมารับท่านไปก่อนหน้าที่ผมจะไปหถึงแค่วัน เดียว(เสียดายมากๆ)

    แต่ก่อนไป ท่าน ก็ได้ฝากสีผึ้งไว้กับหลวงตาสาร และกำชับไว้ว่า "ถ้าโอมาวัด..ก็ให้เอาสีผึ้งนี้ให้โอด้วยเด้อ.." พอผมไปถึงหลวงตาสารก็เรียกผมให้ไปเอาสีผึ้งนี้เลย พอผมได้มา ผมก็ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตลอด

    คืน นั้นผมนอนดึกครับ ทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย กว่าจะนอนก็เกือบตีสามแล้ว ต้องบอกก่อนว่า ที่วัดนี้ ท่านให้อยู่แค่กุฏิละคน เป็นกุฏิหลังเล็กๆ พอดีอยู่ได้คนเดียว แต่ละกุฏิก็อยู่ห่างกันประมาณ5เมตร ตอนนั้นก่อนนอน ผมก็นึกได้ว่าได้สีผึ้งมา ก็เลยเอาออกมาแกะดู ตอนที่ได้มานั้น ท่านห่อสีผึ้งใส่กับถุงพลาสติดมาให้ พอผมแกะออกดู ก็ได้กลิ่นหอมแบบเย็นๆ ผมยังนึกในใจเลยว่าสีผึ้งของท่าน อ.แทน รุ่นนี้หอมดี เสร็จแล้วก็ห่อถุงไว้เหมือนเดิม แล้วเอาสีผึ้งไปวางไว้ที่หัวนอน เผอิญอีตอนที่แกะถุงดูสีผึ้งก็เลยติดที่นิ้วมืออยู่นิดหน่อย ก็เลยเอามาทาคิ้ว เสยหัวไปโดยอัตโนมัติ ไม่ได้คิด ไม่ได้อธิษฐานอะไรเลย แล้วก็นอน...
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ชมบรรยากาสวัดให้เพลิดเพลินและก็มาอ่านนิทานก่อนนอนกันครับ... พอ ล้มตัวลงนอนได้ซักพักหนึ่ง ในความรู้สึกตอนนั้น เหมือนกับเห็นทะลุออกไปข้างนอกกุฏิ มองเห็นผู้หญิงสองคน ภาพที่เห็นชัดเจนเหมือนจริง เป็นผู้หญิงน่าจะอายุประมาณ30กว่าๆหรือประมาณ40ปีเห็นจะได้ หน้าตาดีออกจะท้วมนิดๆ ทั้งสองคนไม่ใส่เสื้อผ้า ท่อนบนเปลือย ท่อนล่างใส่กางเกงชั้นใน กำลังเดินยิ้ม มุ่งหน้ามาทางที่ผมกำลังนอนอยู่ ตอนนั้นใจก็ไม่ได้คิดอะไร พอเห็นปั๊บ ก็กะว่าจะเบนสายตากลับมา แต่ที่ไหนได้สาวเจ้าคนหนึ่งในนั้น กลับมายืนคร่อมหัวผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอน นั้นผมก็ตกใจเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เจ้าหล่อนก็นั่งแมะลงมาตรงหน้าผมเลย ความรู้สึกที่สัมผัสได้เหมือนจริงมากๆ จนผมเกือบจะเคลิ้มไปกับความรู้สึกนั้นเลยที่เดียวฺ...
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ต่อครับ... แต่ชั่วแว๊บหนึ่ง ใจมันก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า "เอ...นี่เรามาบวชพราหมณ์นี่หว่า นอนก็นอนอยู่ในกุฏิ แล้วผู้หญิงเข้ามาในกุฏิเราได้ไง.." เท่านั้นแหละครับ..รู้ได้ทันทีว่าโดนดีเข้าแล้ว จะพยายามค่อยๆขยับตัวหนีก็ไม่ได้ เจ้าหล่อนก็นั่งยิ้มอยู่อย่างนั้นแหละ ตอนนั้น ผมคิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ไม่เข้าท่าแน่ เพราะตั้งแต่เริ่มรู้ตัว ก็ชักจะเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว... พอ เริ่มตั้งสติได้ ก็กำหนดจิตให้เป็นสมาธิแบบที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนมา แล้วก็ตั้งนะโม ยังไม่ทันครบสามจบเลยครับ เจ้าหล่อนก็หายแว๊บไปไหนก็ไม่รู้ พอรู้สึกว่าตัวเบาขึ้นขยับตัวได้ สัมผัสที่หน้าก็หายไปแล้ว ก็เลยลืมตาขึ้น แล้วก็ลุกหยิบไฟฉายส่องดูที่นาฬิกา ดูเวลา ตีสี่พอดี ความรู้สึกตอนนั้น บอกตรงๆครับว่าเคือง เพิ่งนอนไปได้ชั่วโมงเดียว ก็ต้องดืนมากลางคันซะอีก แล้วถ้านอนต่อกว่าจะหลับก็น่าจะซักพักหนึ่ง เดี๋ยวก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกตอนตี่สี่ครึ่งเพื่อไปทำความสะอาดศาลา ตาก็สว่างซะแล้ว เลยตัดสินใจไม่นอนต่อ ก็เลยจุดเทียนนั่งสมาธิต่อจนถึงเวลาทำความสะอาดศาลา..
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ผ่านไปสองสามวัน ท่าน อ.แทนก็กลับมาจามุกดาหาร ก็เลยเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ท่านฟัง ท่านนิ่งฟังผมเล่าจนจบ แล้วก็บอกว่า ผู้หญิง สองคนที่ผมเห็นนั้นเป็นผีแม่ม่าย อยู่ในวัดนี้แหละ ผมได้ยินทีแรกผมก็อึ้งๆ เท่านั้นยังไม่พอ ท่านยังบอกอีกว่า แปลก ปกติพวกเค้าจะวนเวียนผ่านไปมาอยู่แต่แถวๆกุฏิ6 และไม่เคยออกมานอกเส้นทางอย่างนี้ แต่นี่ผมนอนอยู่กุฏิ4 ซึ่งอยู่ห่างกันเกือบ50เมตร แถมมาแผลงฤทธิ์นอกเส้นทางอีกต่างหาก ท่านก็เลยถามผมว่าทำอะไรรึปล่าว ผมก็เลยเล่าว่าผมเอาสีผึ้งทาคิ้วเสยผม เท่านั้นแหละครับ ท่านก็ว่า"มิน่า มันถึงตั้งใจมาหาขนาดนั้น..." สรุป สีผึ้งรุ่นนี้ผมก็เก็บไว้อย่างดีครับและนำมาผสมในขุนแผนองค์นี้ด้วย นี่ขนาดไม่ใช่คนยังหลงเลย นับประสาอะไรกับคนอย่างเราๆ...
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ขุน แผนรุ่นนี้...ส่วนใหญ่จะไปอยู่แถวๆมุกดาหาร สกลนคร นครพนมซะเป็นส่วนใหญ่ครับ เคยไปแถวๆนั้นกับท่าน อ.แทนแล้วได้มีโอกาสได้แกล้งๆถามคนที่มีอยู่กับคอครับ เค้าว่าเรื่องเสน่ห์เมตตาเยี่ยมเชียวครับ เป็นที่ถูกอกถูกใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แถบถิ่นนั้นเลยทีเดียวครับ ส่วน ของผม...พอได้รับขุนแผนรุ่นนี้มาปั๊บใจก็แอบคิดล่ะครับว่า ต้องสุดๆแน่ๆครับ กะว่าจะเอาไว้ออกศึกทีเดียวเชียว แต่ก็ต้องชงักครับ...เมื่อท่านบอกว่า ไม่ต้องใช้ดอก แค่นี้ก็ดีแล้ว เดี๋ยวมันจะอยู่ไม่สุข เท่านั้นแหละครับ รุ่นนี้ผมก็เลยต้องอัญเชิญขึ้นหิ้ง ขนาดจะแจกใครยังต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะกลัวเค้าเอาไปใช้ในทางไม่เหมาะไม่ควรครับ แต่รับรองว่า รุ่นนี้ไม่ธรรมดา และองค์นี้ก็ไปขอแกมบังคับมาจากลูกศิษย์ท่าน อ.แทนอีกคน(จารย์เบียร์) นี่เพราะบอกว่าจะเอามาร่วมบุญสร้างพระธาตุ เค้าถึงยอมครับ....

    ข้อมูลตามนั้นเลยครับ สาธุ..สาธุ ร่วมด้วยช่วยกัน ทำบุญครับ..(อัพเดทแทนเจ้าบ้านครับ )
     
  5. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    อยู่กันเพียบเลยครับศิษย์พี่...<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>กะจะสัก, misu, ratcharoen, myammyaa, kwangpha </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951

    ขออนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าพระยาด้วยนะครับ

    ผมเคยได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง(ไปยืนอ่านในร้านเค้าเฉยๆ) เป็นการทำวิจัยเกี่ยวกับอานุภาพแห่งการสวดมนต์

    เค้าสรุปมาว่า การสวดมนต์ โดยเฉพาะการสวดโดยเปล่งเสียงออกมา ลักษณะของเสียงสระที่เปล่ง มีผลในการปรับธาตุในร่างกาย รักษาโรคภัยได้ แม้โรคมะเร็ง

    ขณะสวด ผู้สวดจะมีรัศมีเปล่งออกมารอบตัว ยิ่งมีสมาธิมากเท่าไหร่ วงกว้างของรัศมีจะมากเพิ่มตามไปด้วย

    บทที่เค้าทำวิจัยว่ามีอานุภาพสูงมากในการ รักษาโรคภัย และอธิษฐานขอเรื่องต่างๆให้ประสบความสำเร็จตามที่หวัง คือ บทที่สวดเพื่อสรรเสริญพระรัตนตรัย และสรรเสริญคุณครูบาอาจารย์ พระอรหันต์ทั้งหลาย

    บทสวดที่เค้าทดลองและแนะนำให้สวด ก็คือ บทเดียวกับที่ท่านเจ้าพระยาสวดนี่ล่ะครับ

    เริ่มด้วย บทบูชาพระรัตนตรัย
    ตามด้วย บทพาหุง มหากา (จะตามด้วย อิติปิโส เท่าอายุ + 1 ก็ดี)
    และสำคัญมาก คือ พระคาถาชินบัญชร

    แหม...ร่ายมาซะยาวเลย...เดี๋ยวจะหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยการไปยืนอ่านหน้าร้านเค้าอีกนะครับ
     
  7. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +3,172
    มขอร่วมประมูลด้วยครับ เงินที่ได้เข้าทำบุญ ครับ
    1,700 บาท ครับ
    ต้องไปทำภารกิจ แล้ว หากมีโอกาศ เดียวเข้ามาแวะชมเป็นระยะๆๆ ครับ

    อนุโมทนา สาธุ สำหรับ เจ้าของที่ขุนแผนเลื่อกครับ....
     
  8. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    ขอบพระคุณขอรับศิษย์พี่ 7 วันนี้ จัดเต็มตามคำแนะนำขอรับกระผม...
     
  9. lonkpop

    lonkpop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2009
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +194
    ขุนแผนรุ่นสอง อ.แทน 1777บาทครับ
     
  10. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
  11. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Amata_club [​IMG]
    ทำไมขุนแผน รุ่น2 (รุ่นสามป่าช้า) ท่านอาจารย์แทน รุ่นนี้ถึงเจาะรู

    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ชัดเจนครับสำหรับสายนี้ ไม่มีทั้งผีและไม่มีนิยาย

    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  12. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    คนเราย่อมสงสัยเป็นเรื่องปกติ หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง

    ผมก็เช่นกันที่ชอบสงสัยแบบมีเหตุและผล จนกระทั้งเข้าใจว่านี่แหละของจริง
     
  13. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951

    ติดตามมานานแล้ว...

    ขอร่วมประมูลเพื่อสมทบทุนสร้างวิหารทานที่ 1,515 ค่ะ[/QUOTE]


    ติดตามไปเรื่อยๆครับ










    คุณ misu รีบทำภารกิจ แล้วรีบกลับมานะครับ เดี๋ยวไม่ทันเค้าน้า






    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่มาร่วมด้วยช่วยกันก่อการบุญครับ
     
  14. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    เดี๋ยวมาครับ ขอตัวไปปฏิบัติภารกิจครู่ใหญ่ๆครับ

    สัญญาว่าจะกลับมาให้ทันก่อนพี่น้องดวลกันครับ...คุคุคุ
     
  15. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    สร้อยตะุกรุดรวมพุทธคุณ 16 ดอก หลวงพ่อสมชาย วัดหนองน้อย ที่คุณ ratcharoen ได้ร่วมบุญ ยังไม่ได้ส่งไปนะครับเนื่องจากคุณ ballaman พึ่งจะเสร็จภารกิจกลับมาครับ ซึ่งหากทำการส่งแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ในส่วนของสมเด็จพิมพ์คะแนนข้าวก้นบาตร หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู ผมได้ทำการส่งไปแล้ว ไม่ทรบว่าตอนนี้ได้รับรึยังครับ ยังไงถ้าได้รับแล้วรบกวนแจ้งด้วยนะครับ

    ขอบคุณมากครับ
     
  16. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    สัจจะเป็นเรื่องสำคัญครับ โดยเฉพาะสัจจะที่ได้บอกไว้กับบิดามารดา และครูบาอาจารย์
     
  17. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    หายเหนื่อยเลยครับ มีเพื่อนๆ พี่ๆ มาช่วยUpdateรายละเอียดให้อีกแรง

    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  18. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    ติดตามมานานแล้ว...

    ขอร่วมประมูลเพื่อสมทบทุนสร้างวิหารทานที่ 1,515 ค่ะ[/QUOTE]

    แค่เข้ามาทักทายก็ถือว่าช่วยประชาสัมพันธ์งานบุญในครั้งนี้แล้วครับ

    อนุโมทนาด้วยครับ
     
  19. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิปัสสนู [​IMG]
    ตะกรุดนี้คือ "ตะกรุดสามกษัตริย์" ของท่าน อ.แทน ที่พี่ปุ้มเปิดให้จองเมื่อเดือนที่แล้วครับ

    ไปครั้งนี้ เห็นท่านทำ ท่านเสกเรียบร้อย และมอบให้มาร่วมบุญกัน ก็เลยของความรู้เกี่ยวกับตะกรุดนี้จากท่านมา เพื่อมาบอกต่อกับพี่ๆเพื่อนๆที่สนใจ ที่ชอบของดีของแรงครับ

    ตามความเข้าใจของผม..ที่บอกว่าเป็นตะกรุดสามกษัตริย์นั้น ก็ต้องเป็นตะกรุดที่ลงยันต์ด้วยแผ่นโลหะสามอย่างคือ ทอง(เหลือง) เงิน นาค(ทองแดง)

    แต่ว่า...ของท่าน อ.แทนไม่ใช่แบบนั้นครับ วิชาที่ท่านเรียนมา ท่านว่า เป็นการลงยันต์ทั้งสามกษัตริย์ลงในแผ่นทองเหลืองแผ่นเดียว แต่ว่าพุทธคุณครอบจักรวาล คือต้องใช้ได้ทุกทางตามแรงอธิษฐานของผู้ใช้

    อย่างที่บอกไปนั่นแหละครับ ว่าตะกรุดรุ่นนี้ ท่านเป็นคนทำเองทุกขั้นตอนเลย พอท่านลงยันต์เสร็จ ก็ม้วนตะกรุดสอดใส่สายยาง ท่านว่าในระหว่างม้วนก็ต้องว่าคาถาไปด้วย เสร็จแล้วก็พันเชือก ตอนที่พันเชือกนี้ก็ต้องว่าคาถาไปด้วย พันเสร็จก็นำตะกรุดไปทารักเพื่อความคงทนในระหว่างที่ทาก็ว่าคาถาไปด้วยอีกเหมือนกัน ขั้นตอนสุดท้ายก็นำตะกรุดมาทาสีทอง(แทนการปิดทอง)ระหว่างทาก็ต้องว่าคาถาไปด้วยเหมือนกัน แต่อันสุดท้ายนี้ท่านว่า ต้องว่าคาถาทางมหาเสน่ห์มหานิยมในระหว่างที่ทาสีทอง (ส่วนดอกที่ถักเชือกคาดเอว ในระหว่างถักก็ต้องว่าคาถาเหมือนกัน)

    จากนั้นจึงนำตะกรุดทั้งหมดที่ทำเสร็จแล้วมาหนุนธาตุ และปลุกเสกให้จนครบทุกด้านเรียกว่าครอบจักรวาล

    ท่านบอกว่า "ตะกรุดนี้ดีนะ..เต็มหมดแล้ว ใช้ได้แล้วๆ ใช้ได้สารพัด"

    ผมถามท่านว่า "หนุนดวง เสริมดวงได้มั๊ย" ท่านก็ว่า "ได้..ใครดวงตก มีเคราะห์ให้เอาไว้กับตัวแล้วจะดีขึ้น ใครโดนของโดนกระทำ เอาตะกรุดอธิษฐานทำน้ำมนต์กิน อาบหาย ใครมีติดตัวกันได้สารพัด อยู่ได้สบายเลย..."

    และท่านยังบอกอีกว่า ใครๆที่มาเห็นตะกรุดนี้ ไม่ว่าพระ ว่าโยม ต่างก็พากันอยากได้ บางวัดถึงขนาดขอท่านเป็นร้อยๆดอกเลยทีเดียว แต่ท่านก็ว่าขอไว้ก่อน แล้วก็ให้ผมมานี่แหละครับ ท่านว่าให้เอาแจกให้กับเจ้าภาพกองบุญที่ร่วมสร้างโบสถ์พระธาตุ

    และท่านก็ฝากบอกมาว่า "ช่วงนี้บ้านเมืองมันไม่ค่อยปกติ ให้เอาตะกรุดนี้ติดตัวไว้จะได้ปลอดภัย อยู่สบายๆ"
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ได้ตะกรุดของท่านอาจารย์แทนไปแล้วก็เอามาพกหรือเอาไว้สวดมนต์ก็จะดีมากครับ

    ของครูบาอาจารย์ท่านทำมาให้แล้วครับ
     
  20. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    อนุโมทนาครับ คุณ Nufon ไกล้ๆๆ 21.30 อย่าไปไหนนะครับ เข้ามาติดตามอย่างไกล้ชิด ...
    ขุนแผนเลือกเจ้าของครับ..ไม่ใช่เจ้าของเลื่อกขุนแผน ...
    ช่วงนี้เนตผม หลุดเป็นว่าเล่น เลย ....แถ้มเพี้ยนอีกต่างหาก [/QUOTE]

    หลายท่านอาจว่าจะรอยิงตอนเวลาใกล้ๆ
    แต่บางครั้งท่านที่ยิงไว้ก่อนก็นอนมา เห็นมาหลายครั้งแล้ว ฮ่าๆๆ

    มีเงินหากไม่มีวาสนาก็คงจะไม่ได้
    มีวาสนาแต่ไม่มีเงินก็อาจจะไม่ได้เช่นกัน

    โปรดติดตามอย่างใกล้ชิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...