เพื่อการกุศล *★.• ใกล้หมดแล้ว !!! พญาลิ้นทอง ยอดแห่งมนต์เสน่ห์เขมรโบราณ สายวิชา "กรูเปรี๊ยะออง" ♡* อ.โอม •.★*

​

ส่วนอันนี้รอว่าเมื่อไหร่จะมาเล่า
ถ้าเอาออกมา จองก่อนเลย ฮิๆๆ
ของครูบาอาจารย์ต้องเก็บครับ

 

เห็นของดี ยังอยู่เพียงองค์เดียว จะปล่อยไปก็กระไรอยู่

ต้องเป็นของเราเป็นแน่แท้ .... เลยจัดไป แหะ ๆ


แนวเสน่ห์ก็ดี.... ไม่ค่อยมีสายนี้

 

ไปไหนก็ได้ครับ
ขอให้บอก
อิอิ

 

น้ำมันยังชุ่มมมมมมมมมม
สำหรับคนไม่ค่อยมีสายเสน่ห์ (น้อย)

 

จ๋อยยย :'(

 

ท่านเจ้าเมือง แล้วเมื่อใดท่านจะนำพระของผมออกมาให้บูชาละครับ องค์ละ 100 200... 500 แล้วแต่ท่านเจ้าเมืองจะเห็นควรขอรับ

 

คุณกะน่าจะออกมาให้ข้อมูลพระบ้างนะครับ พร้อมกับเป็นผูกำหนดราคาให้ทำบุญเองครับ

 

ผมก็มีข้อมูลไม่มากหรอกครับท่านอ. ไม่ค่อยทราบราคาพระด้วยครับ เอาเป็นว่า ถ้าท่านเจ้าเมืองถ่ายรูปมาลงแล้วผมจะเล่าประวัติหรือข้อมูลที่ผมมีให้ทราบละกันนะครับ

 

แหมๆ...ช่วงนี้กระแสขุนแผนของ อ.แทน กะลังแรง เลยขอเอาประวัติคร่าวๆของท่านมาเล่าสู่กันฟัง..ครับ

ท่าน อ.แทน ท่านเป็นชาวสำโรงทาบโดยกำเนิด เดิมที่ครอบครัวท่านตั้งบ้านเรือนอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอสำโรงทาบ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นหมู่บ้าน หนองไผ่ล้อม ต่อมาพ่อแม่ของท่านก็ย้ายครอบครับมาร่วมบุกเบิกและตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านโพธิ์ศรีธาตุนี้ครับ

ครอบครัวของท่านมีอาชีพทำไร่ทำนา แต่ว่าพ่อของท่านนั้นกลับได้รับการยกย่องจากคนยุคนั้นว่าเป็นจอมขมังเวทย์เลยก็ว่าได้ คนทั่วไปในสมัยนั้นจะรู้จักพ่อของท่านในนาม " ตาหูแดง " เพราะใบหูทั้งสองข้างของท่านมีสีแดง
ท่าน อ.แทนเคยเล่าให้ฟังว่า พ่อของท่านเคยยกและแบกโอ่งแดง (โอ่งใบใหญ่ขนาด3-4 คนโอบ ส่วนใหญ่จะเห็นตามชนบท ชาวบ้านใช้สำหรับรองน้ำฝนเก็บไว้ใช้) ตัวมือเดียวเดินเป็นกิโล (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะจาก บ้านสำโรงในปัจจุบันไปถึงแถวบ้านหนองไผ่ล้อม ก็น่าจะซัก4-5 กิโล ได้มั๊ง) และอีกเรื่องคือพ่อของท่านเป็นคนชอบดื่ม แต่ท่านไม่เคยเสียเงินซื้อ ถ้าเวลาท่านอยากดื่ม ท่านก็จะไปท้าพวกที่เค้าตั้งวงกันอยู่แล้ว หรือพวกชาวบ้านแถวๆนั้น ว่าให้ให้ทุบด้วยฆ้อน ตีด้วยไม้ จะฟันจะแทงด้วยมีด ด้วยขวาน ก็ได้ ถ้าสามารถทำให้ท่านมีเลือดออกจะน้อยจะมากขนาดไหนท่านก็จะไม่เอาความ แต่ถ้าทำไม่ได้ ท่านขอเอาเหล้าแค่ขวดเดียว ปรากฎว่าท่านไดกินเหล้าฟรีตลอดเลย

ในช่วงชีวิตวัยรุ่น ท่าน อ.แทนมีความสนใจในเรื่องวิชาคาถาอาคม และก็ได้พ่อของท่านเองนี่แหละครับ ที่เป็นอาจารย์คนแรกของท่าน อ.แทน จากนั้นก็ไปเรียนวิชาจากอาของท่านที่บุรีรัมย์ พออายุครบเกณฑ์ทหาร ท่านก็ไปเป็นทหารอยู่ช่วงหนึ่ง ท่านเล่าว่า ท่านเคยออกไปลาดตระเวณ ไปกัน 7-8 คน ไปเจอพวกฝ่ายตรงข้าม พอเจอกันปั๊บ ต่างฝ่ายต่างก็ระดมยิงใส่กันแบบไม่ยั้งเลย ท่านว่ายิงกันซึ่งๆหน้าแบบไม่มีใครหลบใคร ยิงจนลูกกระสุนหมด ฝ่ายนั้นตายเรียบ ฝ่ายท่านมีทั้งเจ็บทั้งตาย แต่ตัวท่านเสื้อพรุนไปหมด (ซ่อมไม่ได้) ท่านบอกว่า "โชคดีที่กระสุนไม่โดนตัวเรา มันแฉลบโดนแต่เสื้อขาดหมด นี่ถ้ามันโดนตัวนะ ป่านนี้ไม่อยู่แล้ว เรียบร้อย" (แล้วก็หัวเราะ)

หลังจากปลดจากทหารท่านก็บวช แล้วท่านก็ไปเรียนวิชากับ หลวงพ่อน้อย ที่ศรีสะเกษ (ท่านไม่ได้บอกว่าชื่อวัดอะไร) และออกเที่ยวธุดงค์อยู่ถึง 7 ปี

เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ...

 

ตอนบ่าย 2 ผมโทรไปขอคำแนะนำในการปฏิบัติกับท่านอ.แทน ท่านเมตตาสอนธรรมะเข้าใจง่ายๆ เนื้อๆ เน้นๆ ดีจังหนอออ กราบท่านอ.แทนครับ

 

วันนี้ลูกศิษย์สายตรง ต้องมีเลี้ยวบ้างครับ เพราะทางไกล ฮิๆๆ
By วิปัสสนู มาพร้อมกับความแรง (เน็ต)​

ว่าแล้วก็ขอเอารูปอาจารย์แทนมาให้ดูกันครับ
ชายชราที่ดูภายนอกไม่มีอะไร (มองจากข้างนอก)
คนเรามองแค่เปลือก
ก็ได้แต่เปลือก
หากไม่เปิดใจ ​

​

 

ท่านวิปัสสนูเล่าต่อไวๆครับกะลังติดตามเลย อิอิ

 

เข้ามาแอบดูขุนแผน อิอิ

 

ท่านเจ้าพระยา กะจะสัก โปรดทราบ
พรุ่งนี้ จะนำพระของท่านเจ้าพระยา กะจะสัก ที่ได้นำมาร่วมบุญในครั้งนี้มาร่วมบุญ จึงขอแจ้งให้ท่านเจ้าพระยา กะจะสัก ทราบว่า พระที่นำมาร่วมบุญทั้งหมดนี้ผมจะจัดเป็นชุดทั้งหมด 5 ชุด ไม่เรียงลำดับและออกนำให้ร่วมบุญโดยการประมูล

จึงมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลรายละเอียดจากท่านเจ้าพระยา กะจะสัก ในวันพรุ่งนี้ด้วย หากท่านเจ้าพระยา กะจะสัก ไม่มาให้ข้อมูล ของแถมพิเศษที่จะส่งไปให้ อด

จึงแจ้งมาให้ทราบ และเป็นพยานโดยทั่วกัน

อนุโมทนาด้วยครับ

 

พรุ่งนี้ กระผมจะมาเฝ้าหน้าจอแต่เช้าเลยขอรับท่านเจ้าเมือง

 

มาต่อกันนะครับ...

ท่าน อ.แทน เคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนสมัยที่ท่านไปธุดงค์ ท่านไปกัน 9 รูป เข้าใจว่าแต่ละท่าน แต่ละองค์ คงจะธุดงค์มาเจอกัน พอถูกอัธยาสัยกันก็เลยเดินธุดงค์ร่วมกัน ท่านว่าเดินไปทั่ว เจออะไรแปลกๆก็เยอะ บางที เดินอยู่ในป่าลึกๆตั้งหลายวันยังไม่เห็นมีบ้านคนซักหลัง แต่ก็แปลกที่มีคนมาใส่บาตรทุกวัน

พระที่ธุดงค์ไปด้วยกัน 9 รูป ก็มรณะด้วยไข้ป่าไป 2 รูป ท่านเล่าว่า พอพระที่ธุดงค์ไปด้วยกันมรณภาพ พระที่เหลือก็จะนั่งพิจารณาศพนั้นอยู่ 7 วัน พอศพเริ่มอืด ก็เอา เศษใบไม้แถวๆนั้นกลบเอาไว้เพื่อไม่ให้ดูอุจาด เเล้วก็เดินธุดงค์ต่อ แถมท่านยังเล่าให้ฟังอีกว่า พระที่ไปธุดงค์ด้วยกันเก่งๆกันทั้งนั้น

มีครั้งหนึ่งกลุ่มท่านธุดงค์ไปถึงริมแม่น้ำโขง มีพระรูปหนึ่งจะแยกทางเพื่อจะข้ามฝั่งไปธุดงค์ต่อที่ประเทศลาว แต่ว่าไม่มีเรือข้ามฟาก พระรูปนั้นก็เลยโยนของๆท่านลงน้ำโขง ปรากฎว่าของที่โยนลงไปกลายเป็นปลา พระรูปนั้นท่านก็ยืนบนปลาข้ามฝั่งไป (เฉยเลย) พอพระท่านไปลิบตาแล้วกลุ่มของท่าน อ.แทนก็ออกธุดงค์ต่อ...

ขอพักแป๊บ...เดี๋ยวมาต่อนะครับ...

 

โหหหหห น่าตื่นเต้นจริงๆเลยอ่ะ

 

ท่านเจ้าพระยา กะจะสัก ของถึงรึยังครับ

 

งั้นผมคงต้องมาสายๆ ซะแว้ววววว

 

ยังเลยขอรับท่านเจ้าเมือง...