๙๙๙ อิทธิมงคล มหาบารมี วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ๙๙๙

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย FALCON1, 9 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "ตราบใดยังมีคนอยู่ ของหลวงปู่ จะไม่เสื่อม จะไม่จน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์
    [​IMG]


    พระครูประสาท พรหมคุณ ( หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ )
    สุสานทุ่งมน ตำบลบ้านทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

    ศิษย์น้อมกราบนมัสการองค์ครูบาอาจารย์ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

    มารับพรจากหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ องค์ครูบาอาจารย์กันก่อนครับ เพื่อความเป็นสิมงคลกับชีวิต


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=bH_8K-uMMJ4"]YouTube - รับพรจากหลวงปู่[/ame]​


    คำสั่งสอนของหลวงปู่หงษ์
    คำสั่งสอนของหลวงปู่ที่กล่าวกับอริยมุนีเสมอๆเพื่อเป็นคติเตือนใจในการทำดี
    เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปหาหลวงปู่ หรือเวลาท่านเรียกพบ ท่านมักจะประทานโอวาทคำสอนให้แก่อริยมุนีเสมอๆ เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้เป็นคนดี
    โดยหลักๆๆแล้ว ท่านมักจะสอนให้ขยันภาวนาให้มากๆ และตั้งใจรักษาศีลให้ดี ท่านบอกว่าคนเราโตแล้วคิดเป็นทำเป็น อย่าเป็นคนงอมือ งอเท้า ให้ขยันทำงาน ทำงานอะไรก็แล้วแต่ต้องมีสติ คิดก่อนทำไม่ใช่ทำก่อนคิด ทำงานอะไรก็แล้วแต่ ต้องรีบทำให้เสร็จอย่าให้คั่งค้าง อย่าทำอะไรชักช้า ทำอะไรให้รวดเร็ว
    แม้แต่การตื่นนอน ต้องตื่นก่อน นก กา ออกไปหากิน ถ้าตื่นสายจะทำมาหากินอะไรได้ โดยท่านจะทำตัวอย่างให้ดูด้วย เช่น ท่านจะตื่นมาตอนตี3-4 เป็นประจำเพื่อทำการสวดมนต์นั่งกรรมฐาน
    ส่วนการใช้ของท่านก็บอกว่าของทุกอย่างที่เขาถวายมานั้นเขาได้มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของเขามาทำบุญ ท่านว่าต้องรู้จักใช้ให้มันคุ้มค่า ไม่ใช่ใช้ทิ้งๆขว้างๆ ใช้แล้วต้องเก็บให้เป็นที่เป็นทางเป็นระเบียบเรียบร้อย รู้จักใช้รู้จักรักษา แม้แต่ถุงพลาสติกที่เขาห่อของมาถวายท่าน ท่านยังพับเก็บเอาใว้ใช้งานต่อ ท่านว่ามันยังดีอยู่ยังใส่ของได้ ถ้าเราทิ้งไปยามจำเป็นใช้ต้องเสียเงินไปซื้ออีก
    ตรงไหนที่รก ไม่สะอาดท่านก็จะบอกสอนให้ทำให้สะอาดสะอ้าน เพราะหลวงปู่เป็นคนชอบความสะอาด
    ส่วนการพูดการจานั้นท่านก็บอกว่าให้พูดจาไพเราะ อย่าพูดจากระโชกโฮกฮาก หรือใช้คำไม่สุภาพ แม้แต่กับเพื่อนฝูงหรือลูกน้อง ต้องพูดจาดีๆ กับเขา เขาจะได้รัก อย่าใช้อารมย์ให้ใช้ความเมตตา แบบพี่แบบน้อง ถ้าใครด่า ใครว่า ใครแช่ง ก็ไม่ต้องไปโกรธเขา ให้ใช้เมตตาโต้ตอบ หรือนิ่งเงียบเสีย
    หลวงปู่บอกว่าคนเราเกิดมาต้องหัดเป็นคนพูดจามีสัจจะ รักษาสัจจะ สัจจะนี้สำคัญมาก พูดอะไรแล้วต้องทำให้ได้ รับปากกับใครไว้ต้องพยายามทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้อย่าไปรับปากเขา เสียสัจจะเปล่าๆ ท่านว่าเสียสัจจะบ่อยๆ ใครก็ไม่อยากคบไม่มีคนไว้ใจ ทำอะไรก็ไม่ค่อยจะสำเร็จเทวดาเขาไม่ช่วย หลวงปู่ท่านเป็นบุคลที่รักษาสัจจะมาก
    แล้วท่านบอกว่าอย่าเป็นคนขี้บ่น ลำบาก ยาก ขี้เกียจ เหนื่อย หรือพล่ามบ่นอย่างไรสาระตามอารมณ์ตัวเอง บ่นไปแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น บ่นไป บ่นมาก็จะเป็นไปตามปาก เหนื่อยนักก็พักไป บ่นมากๆคนยังไม่ชอบเลย ท่านว่าเทวดาหนีจากหมด อยู่กับหมู่กับฝูงก็ต้องมีความจริงใจให้กัน อย่าเป็นคนตอแหล ปลิ้นป้อน เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น
    ท่านว่าแบบนี้เทวดาครูบาอาจารย์หนีหมด สุดท้ายต้องอยู่ตัวคนเดียว
    แล้วต้องหัดเป็นคนปิดทองหลังพระ คือทำดีโดยไม่ต้องให้ใครเห็นเพื่อหวังจะได้หน้าได้ตา ท่านว่าให้ดู พระเจ้าอยู่หัว เป็นต้นแบบ
    และคนเราเกิดมาท่านว่าให้มีความเมตตากรุณาต่อบุคคลอื่น เหมือนเป็นพี่เป็นน้องเรา ถ้าอยากให้ใครจริงใจกับเราเราต้องจริงใจกับเขาก่อน คนเราเกิดมาชาตินี้ท่านว่าเพื่อสร้างความดีไว้ชาติหน้าพาหมูคณะร่วมกันสร้างบุญ เราทำแบบไหนก็จะได้แบบนั้น
    และท่านว่าต้องรู้จักบอกกล่าวแนะนำสั่งสอน บุคคลอื่นให้ตั้งใจทำความดีรักษาศีล แล้วต้องเป็นคนที่หัดรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย อย่าเอาแต่ตามใจหรือตามอารมย์ของตัวเอง โดยคิดว่าตัวเอง เก่ง ฉลาด หรือดีเด่นเกินคนอื่นให้หัดฟังคนอื่นเขาบ้าง
    และท่านว่าให้หัดสำรวจดูความพกพร่องของตนเอง อยู่เป็นเนืองนิจ เมื่อเห็นข้อผิดพลาดก็ให้รีบแก้ไขเสีย ไม่ใช่ไปนังดูแต่ข้อเสียของคนอื่น
    ที่ท่านได้ประทานโอวาทมานั้นมากมาย จำได้ไม่หมด แต่สิ่งที่สำคัญ อริยมุนี จะนำมาคิดตรึกตรองทุกวันเพื่อให้ตนเองนั้นเป็นคนดี ถึงทำได้ไม่หมดแต่ก็พยายาม นั่งคิดพิจารณาบ่อยๆ จะได้เกิดปัญญาตามที่ท่านอุตส่าห์แนะนำสั่งสอนบอกกล่าว ศิษยานุศิษย์ท่านใด ที่เห็นว่าดีก็สามารถนำไปปฎิบัติได้ ไม่มีลิขสิทธิ์
    :cool:เขียนโดย อริยมุนี:cool:

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2012
  2. wanakonth

    wanakonth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,151
    ค่าพลัง:
    +5,773
    แวะมาดูจ้า
     
  3. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ



    หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ อายุ 93 ปี สุสานบ้านทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์


    ประวัติและปฏิปทาหลวงปู่โดยย่อ


    หลวงปู่หงษ์พรหมปัญโญ อายุ 93 ปี สุสานบ้านทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์


    ({) ศึกษาเรียนสรรพวิชาครูบาอาจารย์ นานถึง 39 พรรษา รวมเฉพาะครูบาอาจารย์ในกัมพูชากว่า 160 องค์


    ({) เทพ พรหม พระอริยะ แผ่บารมีช้วยเสกวัตถุมงคลขลังมีอานุภาพสูง


    ({) ระเบิดลงหมูบ้านกรู ประเทศกัมพูชา ด้านทุกลูก ปลอดภัยทั้งหมู่บ้าน


    ({) ปราบนางโจรโจรี พร้อมสมุน 50 คนเทศนาสั่งสอนจนสำนึกตน


    ({) โจรเวียดกงระดมยิงปืนใส่ลูกปืนใหลลงปากกระบอก


    ({)ทหารเวียดกงจับใส่กรงเหล็กถ่วงน้ำทะเล แม้จีวรก็ไม่เปียก


    ({) ธรรมธาตุขึ้นจับวัตถุมงคลดุจเช่นหลวงปู่ดู่


    ({) กระรอกกระแตสัตว์ป่าวิ่งเข้าหาหลวงปู่ดุจมิตรน่าอัศจรรย์


    ({)แม่พระธรณีอุ้มชู ดลบันดาลช้วยเหลือหลวงปุู่หงษ์ ดุจมารดาและบุตร


    ({)หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ นามเดิมชื่อสุวรรณหงษ์ จะมัวดีอายุได้ 18 ปี บรรพชาแล้วพระอุปชฌาย์ได้ตั้งนามให้ใหม่ว่า “สามเณรพรหมศร” ครั้นอุปสมบทได้แล้ว 3 พรรษา ธุดงค์ข้ามเขาเข้าเขตกัมพูชา ถิ่นอาถรรพ์ คงเป็นด้วยบุญบารมีเก่าหนุนนำ พาให้ได้พบกับครูบาอาจารย์ ได้บังเกิดความเมตตาประสิทธิ์ประสาทสรรพวิชา ตกค่ำภาวนาตลอดไปยามสองจิตผ่องใส บังเกิดธรรมบันดาลพบ กับพระอาจารย์ใหญ่องค์เทพเทวาได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาลงจารเสกปากกา อุปเท่มีคุณมากนักหนากว่าพันประการ


    ({)อัศจรรย์กลางป่าใหญ่เห็นเด็กร่างดำใหญ่ดุจศิลา แสดง ผลักทักทายกุมารดินล้มหงายหลัง แล้วตั้งตรงทดลองใหม่ผลักล้มมาด้านหน้า ทดลองถึงสองครั้งให้ระอาจึงแสดงกายาสูงใหญ่ได้ห้าเมตร แสดงเสร็จให้เกิดศรัทธาแล้วสั่งสอนถึงวิธีการสร้างกุมารทองให้

    [​IMG]




    กราบนมัสการขออนุญาติหลวงพี่หนึ่ง ด้วยครับ ที่นำข้อความประวัติหลวงปู่มาโพสครับ

    ปราสาทมรกตจตุรมุข (อยู่ในบริเวณอาศรมหลวงปู่หงษ์ ) หน้าวัดศรีลำยอง



    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]







    </FIELDSET>


    บรรยากาศบริเวณสุสานทุ่งมน (ป่าช้า ) ที่หลวงปู่จำวัดครับ


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]












    </FIELDSET>
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->ภายในห้องที่หลวงปู่ใช้จำวัดครับ

    [​IMG] [​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2011
  4. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ


    อัตชีวประวัติ พระครูประสาท พรหมคุณ(หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ)
    สุสานทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์

    ประวัติ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ (รายการ เปิดบันทึกตำนาน)

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Av3R93I5dmk"]YouTube - ?????????????????? ????????? ???1/2[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=wEonLM09D7s"]YouTube - ?????????????????? ????????? ???2/2[/ame]​
    <!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end -->อัตชีวประวัติ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(พระครูปราสาทพรหมคุณ สุสานทุ่งมน (วัดเพชรบุรี) อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
    <O:p</O:p
    เด็กชายสุวรรณหงษ์ จะมัวดี เป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียร มีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ได้ช่วยกิจการงานทุกอย่าง ทำนา หว่านกล้า เก็บเกี่ยวข้าว ด้วยความวิริยะอดทน จนอายุได้ 18 ปี มารดาขอร้องให้บวชเณร ด้วยสาเหตุเกรงว่าจะไปมีเรื่องกับผู้อื่น เพราะเป็นช่วงเวลาของวัยรุ่นอารมณ์ร้อน ซึ่งโดยนิสัยแล้วเป็นผู้มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่เกรงกลัวใคร สุดท้ายเห็นแก่มารดาจึงตัดสินใจบวชให้แค่เพียง 7 วัน<O:p</O:p
    ครั้นบรรพชาแล้วพระอุปัชฌาย์ได้ตั้งนามให้ใหม่ว่า"สามเณรพรหมศร" ลุมาได้ 3 วัน ขณะนั่งบนแคร่ไม้ใต้โคนต้นมะขามใหญ่ได้มีบุรุษหญิงชายแปลกหน้าทั้งมีอายุแก่และหนุ่ม แต่งกายแบบชาวบ้านมาขอร้องให้เทศน์โปรดทีเถิด สามเณรพรหมศรกล่าวว่า “ฉันพึ่งบวชได้ไม่ถึงวันยังเทศน์ไม่เป็นหรอก ชายหญิงผู้แปลกหน้าทั้งหลายต่างให้ข้อแนะนำว่า” “ท่านเจ้าคะท่านเทศน์ไม่เป็นก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ท่านทดลอง ว่านะโม 3 จบ ประเดี๋ยวท่านก็จะเทศน์ได้เองนั่นแหละ” สามสามเณรพรหมศรนั่งนิ่งแลสงสัยว่า บุคคลทั้งหลายเหล่านี้เป็นใคร? มาจากไหน? อยู่ๆก็มาขอร้องให้เราเทศน์ แต่เมื่อลองคิดแล้วเขาบอกให้ว่านะโม 3 จบ จากนั้นก็เป็นเรื่องที่ปากพูดไปได้เองเป็นเรื่องเป็นราว ชายหญิงทั้งหลายต่างนั่งพนมมือ อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ครั้นเทศน์จบก็กราบขอบคุณขอลากลับ หันไปอีกทาง ปรากฏว่าหายไปทางไหนก็ไม่รู้ ผู้เขียนกราบเรียนถามหลวงปู่ว่าทำไมสามเณรพรหมศรจึงเทศน์ได้ ท่านกล่าวว่า มันเป็นของเก่าหรือที่เรียกว่า “ธรรมบันดาล” ที่พาให้พูดกล่าวไปได้เอง ความตั้งใจที่จะบวชเพียง 7 วัน ก็อยู่เลยเรื่อยมาจนอายุครบ 20 ปี พระอุปัชฌาย์จึงอุปสมบทให้ ณ วัดเพชรบุรี ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยตั้งนามฉายาให้ใหม่ว่า “พรหมปัญโญ” แปลว่า ผู้มีปัญญาดุจพรหม<O:p</O:p
    เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงปู่หงษ์ ตั้งใจมั่นขยันหมั่นเพียรศึกษาพระปริยัติธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า หลวงปู่เป็นผู้มีความวิริยะสูง จดท่องจำแม่นยำยิ่งนัก ทั้งฝักใฝ่หาความรู้ เพียรหาครูบาอาจารย์อย่างไม่ลดละแม้จะไกลไปยาก ก็อุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางไป เพื่อให้ได้ความรู้กลับคืนมาเป็นรางวัล ด้วยปณิธานมั่นที่จะโปรดลูกหลานญาติโยมภายหน้า สืบไป<O:p</O:p
    ครั้นอุปสมบทได้แล้ว 3 พรรษา จึงกราบลาพระอุปัชฌาย์จาริกธุดงควัตรตามแบบฉบับแห่งพระบรมครู อาศัยอยู่ตามโคนไม้ นุ่งห่มใช้ผ้าเพียงสามผืน ทั้งถือที่สงบสัปปายะ เช่น ป่าช้าเป็นที่เจริญภาวนาเช้าค่ำ ขบฉันภัตตราหารเพียงมื้อเดียว ได้ท่องเที่ยวสู่เมืองขุขัน จ.ศรีสะเกษ เพราะเป็นเขตแห่งสรรพศาสตร์มนตรา จึงได้เข้าขอศึกษากับครูอาจารย์ที่เป็นทั้งฆราวาสก็ดี เป็นผู้ทรงศีลสมณะก็ตาม จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงขออนุญาตลากลับเพื่อจาริกธุดงค์สู่พรมเปญ กัมพูชาสืบไป<O:p</O:p
    เมื่อธุดงค์ข้ามเขาเข้าเขตกัมพูชา อันเป็นที่ตระหนักดีอยู่แล้วว่าเป็นดินแดนแห่งอาณาจักรขอมถิ่นอาถรรพ์ เป็นที่รวมแห่งสรรพศาสตร์ ไสยเวทย์มนตรารุ่งเรืองนัก คงเป็นด้วยบุญบารมีเก่าหนุนนำ พาให้ได้พบกับครูบาอาจารย์เก่า เมื่อพบเห็นแล้วทุกครูอาจารย์ ต่างพึงพอใจในพระภิกษุหงษ์ พรหมปัญโญ ผู้สันโดษอ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งนัก ได้บังเกิดความเมตตาประสิทธิประสาทสรรพวิชา ทั้งเวทย์มนแลคาถาเมตตา มหาเสน่ห์ กำบังภัยทั้งคุ้มครอง แคล้วคลาดกันอาวุธ ปืน หอก ดาบ ธนูหน้าไม้เขี้ยวงา ช้างเสือ หุงสีผึ้ง กันยาเบื่อ ทั้งคุณไสย ทำน้ำมนต์รดอาบต่างหายไป แม้นบ้าใบ้จิตหลอนก็อ่อนโยน จนลุเลยข้ามดงสู่จังหวัดสารพัดไต่เขาและภูผา อาศัยหุบเขาข้างห้วยเอนกายา ตกค่ำภาวนาตลอดไปยามสองจิตผ่องใส บังเกิดธรรมบันดาลพาพบไป กับพระอาจารย์ใหญ่องค์เทพเทวาได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาลงจารเสกปากกา อุปเท่มีคุณมากหนากว่าพันประการ ประทานเสร็จสอนจบครบตำรา พระพรหมปัญโญ ให้ปิติทั้งศรัทธา ตั้งจิตกราบครูบาแล้วเงยหน้าขอชมบารมี ทันทีที่ลืมตารูปท่านอาจารย์ใหญ่ก็จางหายทันที พระพรหมปัญโญ สุดที่จะเสียดายเพราะมิได้กล่าวคำว่าขอบคุณ แก่ท่านผู้กรุณาประสาทวิชา ครั้นล่องไพรในพนากลางป่าใหญ่ อัศจรรย์ใจเป็นนักหนาเห็นเด็กร่างดำใหญ่ดุจศิลา พลางผลักทักทายมาแต่ใด กุมารดินล้มหงายหลัง แล้วตั้งตรงทดลองใหม่ ผลักล้มมาด้านหน้า ทดลองถึงสองครั้งให้ระอาจึงแสดงกายาสูงใหญ่ได้ห้าเมตร แสดงเสร็จให้เกิดศรัทธาแล้วสั่งสอนถึงวิธีการสร้างกุมารทองให้ถูกต้องตามตำรับฉบับครู ครั้นธุดงค์ผ่านเขาพนาไพร นานอยู่ได้เกือบขวบปี แวะผ่านที่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2011
  5. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    หมู่บ้านชื่อ “บ้านกรู”
    <O:p</O:p
    ณ หมู่บ้านนี้เองที่ชาวบ้านต่างกล่าวขานคุณงามความดีในวีรกรรมหลายๆสิ่งที่ไม่อาจลืมเลือนได้ จากหัวใจของทุกคน แม้หลวงปู่จะธุดงค์กลับประเทศไทยแล้วก็ตามจนขณะนี้หลวงปู่มีอายุย่าง 85 ปี จึงได้เดินทางไปเยี่ยมชาวกัมพูชา เมื่อชาวบ้านทราบข่าวว่าหลวงปู่จะมาต่างดีใจ ครั้นหลวงปู่ไปถึงชาวบ้านเกือบพันคนต่างนอนคว่ำเรียงรายตั้งแต่ถนนจนถึงศาลา แล้วอาราธนาให้หลวงปู่เดินเหยียบบนหลังของเขาเหล่านั้น หลวงปู่จะไม่เดินชาวบ้านเขาก็ไม่ยอม กล่าวว่ายอมพร้อมพลีกายด้วยความเคารพบูชา หลวงปู่ขัดเขามิได้จึงยอมเดินบนหลังของเขาเหล่านั้น แม้แต่ผู้เฒ่าอายุราว 100 กว่าปี เมื่อทราบข่าวว่าหลวงปู่หงษ์ มาก็อุตส่าห์ลากไม้เท้าหลังงองกเงิ่นเดินทางมากราบบูชา<O:p</O:p
    ผู้ติดตามหลวงปู่ทุกคนต่างแปลกใจและถามว่าทำไมจึงศรัทธาองค์หลวงปู่ขนาดนี้ พวกเราทุกคนต่างก็ถึงบางอ้อ! เพราะพ่อเฒ่าต่างเล่าให้ฟังว่า “หลานเอ๋ย ถ้าวันนั้นหลวงพ่อไม่ได้อยู่กับเราแล้ว หมู่บ้านกรูทั้งหมู่บ้านก็แตกกระจายป่นปี้ไปแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องแปลก ตาเองก็ไม่เคยเห็น ว่าลูกระเบิด และลูกปืนใหญ่ขนาดแตงโม มันตกมาบนหลังคาหญ้าแฝก แปลกที่มันไม่ทะลุหล่นลงมา กลับกลิ้งคลุกๆ ไปตามทางลาดชายคา พวกเราก็นึกว่าต้องตายแน่ๆ ถ้าลูกระเบิดตกกระทบกับพื้นดิน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังตุ้บ! ปรากฏว่าลูกปืนจมดินเกือบครึ่งลูก แต่มันอัศจรรย์มาก หลานเอ๋ย มันไม่ระเบิด! เท่านั้นแหละเม็ดกรวด เม็ดหิน แม้แต่ดินใต้แคร่ไม้ไผ่ เขายังขุดไปลึกเป็นเมตรเอาไปปั้นเป็นลูกอมตากแดด ครั้นหลวงพ่อกลับประเทศไทยไปแล้ว แคร่ตัวที่ท่านนั่งก็ยังไม่มีเหลือ ชาวบ้านเขาจุดธูปเอามาพลีแบ่งกันจบหมดไม่เหลือหรอ หลวงพ่อเน้อ! พร้อมกับยกมือไหว้ทางหลวงปู่หงษ์ พวกตาและชาวบ้านรอดตายมาได้ทุกคน เสมือนตายแล้วเกิดใหม่ เท่ากับหลวงพ่อท่านมาชุบชีวิตให้ใหม่”<O:p</O:p
    ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาวบ้านเขาจึงพร้อมใจกันยอมนอนคว่ำให้หลวงปู่ท่านเดินบนหลังของพวกเขา ชาวบ้านทุกคนเคารพรักหลวงปู่เสมือนเป็นเทพของพวกเขาทีเดียว เพราะมิใช่ว่าหลวงปู่ จะป้องกันภัยให้พวกเขาได้อย่างเดียว แต่หลวงปู่ได้แผ่เมตตาปล่อยสัตว์ ขุดบ่อ ขุดสระ สร้างฝายน้ำล้น ปลูกป่า ปล่อยช้าง วัว ควาย เต่า งู ตะขาบ สัตว์ทุกชนิด และสั่งห้ามมิให้ชาวบ้านทำลายป่าไม้ โดยอบรมสั่งสอนให้เห็นคุณและโทษของการไม่มีป่าไม้ไม่มีน้ำ จะเกิดความเดือนร้อนนานาประการ พร้อมทั้งสอนให้ชาวบ้านทุกคนถือศีลห้า ห้ามดื่มเหล้าเมายา แล้วครูอาจารย์ของหลวงปู่ท่านจะคุ้มครอง ทุกคนเคารพศรัทธาในหลวงปู่ได้ประพฤติปฏิบัติตาม จึงมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข<O:p</O:p
    หลวงปู่หงษ์ เป็นพระธุดงค์ ถือสันโดษ โปรดสัตว์ จึงไม่ติดกับที่อยู่ หรืออมิสลาภ จึงได้ลาญาติโยม เพื่อจาริกแสวงบุญต่อเรื่อยมา

    ปฐมศรัทธา
    <O:p</O:p
    เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าพระที่ชอบอยู่กับงู พระที่ชอบปล่อยงู พระที่มีงูเป็นทหารในยุคนี้หมายถึงพระภิกษุรูปใด หนึ่งเดียวในสยามแห่งอีสานใต้ที่กระทำการดังกล่าวนี้เชื่องสุดๆ ประดุจปลาไหล เพราะหลวงปู่ท่านเป็นพระผู้มากด้วยเมตตาจิตต่อสัตว์ป่า แผ่บารมีธรรมสู่สัตว์โลก แม้แต่งูก็อยู่กับหนูได้ใต้โพรงหินไม่กัด ไม่กินกันหรืองูอยู่กับกบในสระน้ำไม่ทำร้ายกัน เป็นต้น สร้างความฉงนแก่ผู้พบเห็นนัก<O:p</O:p
    ยังมีเหตุการณ์หนึ่งที่ผู้เขียนได้พบเองสมัยครั้งแรกที่ได้ยินชื่อเสียงของหลวงปู่ใหม่ๆ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว โดยได้ยินบุคคลต่างๆทั่วไปกล่าวขานกันว่า หลวงปู่องค์นี้อยู่กับงู ชอบปล่อยสัตว์นานาชนิด จึงสนใจใคร่ติดตามไปจนถึงสำนักของหลวงปู่หงษ์ และต้องหายสงสัยหมดสิ้น ขณะนั้นเวลาประมาณ 6 โมงเช้า หลวงปู่นั่งออกรับญาติโยม สักครู่ต่อมาได้มีกระรอกขาวตัวหนึ่งไต่สายไฟจากป่ามายังที่หลวงปู่นั่งรับแขกโดยมิเกรงกลัวบุคคลที่นั่งเต็มไปหมด โดยวิ่งด้วยเท้าทั้ง 4 แล้วมาหยุดอยู่ข้างหน้าหลวงปู่ทันใดนั้นกระรอกยกขาคู่หน้าชูขึ้นคล้ายกับทำความเคารพ พลางส่งเสียงร้อง “จิกๆ” แล้ววิ่งมาทางด้านข้างขวาของหลวงปู่หงษ์ ที่มีจานองุ่นตั้งอยู่ เจ้ากระรอกก็วิ่งรอบจานองุ่นวิ่งกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้น<O:p</O:p
    โดยมิกล้าถือวิสาสะกินเองจนหลวงปู่ได้ยินเสียง “คลุกๆ” ไปมาจึงได้หันมาทางจานองุ่นด้วยอากัปกริยาอมยิ้มแล้วพยักหน้าพลางกล่าวว่า “เอาซิๆ” เท่านั้นและเจ้ากระรอกก็ตรงเข้ากัดกินองุ่นในจาน จากนั้นหลวงปู่ก็หันหน้ากลับมาทางญาติโยมแล้วเอ่ยว่า “เขากินไม่มากหรอกลูกสองลูกประเดี๋ยวก็ไป” และก็เป็นไปตามคำพูดของหลวงปู่เพราะเจ้ากระรอกเขากินเพียงสองเม็ดจริงๆ แล้วคลานออกไป แต่ที่แปลกประทับใจทุกคนที่ได้พบเห็นก็คือ ก่อนที่เจ้ากระรอกจะไปได้คลาน 4 เท้า ข้ามาพอถึงด้านหน้าหลวงปู่ก็ยกเท้าคู่หน้าชูคล้ายกับพนมมือแล้วส่งเสียงร้อง “จิกๆ” แล้วจึงหันหลังวิ่งไต่สายไฟกลับสู่ป่าอันเป็นที่อยู่อาศัย สิ่งเหล่านี้คืออะไร ทำไมสัตว์ป่าจึงต้องทำความเคารพทั้งมาและไป ทุกคนต่างนึกต่างคิด ต่างฉงนมึนงงไปตามๆกันแต่สุดท้ายที่ทุกคนสรุปก็คือ หลวงปู่องค์นี้มิใช้พระธรรมดาแน่แม้นแต่สัตว์ป่ายังกระทำความเคารพ แล้วทำไมเราเป็นคนมิลองศึกษาจริยาวัตรข้อธรรมและปฏิปทาของท่าน ครั้นเดินลงมายังข้างศาลาก็ต้องผงะหงายเพราะได้เจอกับอสรพิษนามว่าแสงอาทิตย์ นอนกลิ้งหงายไปมาประดุจว่ามีแต่เขาเพียงตัวเดียวอยู่บนโลกนี้ แต่ผู้เขียนเองเมื่อได้มอง เห็นแล้วว่าน่ารักดีดูแล้วเหมือนลูกสุนัขที่กลิ้งหงายไปมายามต้องแสงสุริยาเพลาเช้าอย่างนั้น จึงได้ถึงบางอ้อ! อ๋อ! หลวงปู่หงษ์ ท่านชอบปล่อยงู ตะขาบ แมงป่อง ก่อนจะปล่อยหลวงปู่จะเป่าเสกให้ก่อน แล้วจึงปล่อยสัตว์ทั้งหลายไปเพื่อให้เขาเชื่องไม่ทำร้ายคน เป่าเพื่อเป็นเกราะกำบังคุ้มครองสัตว์นั้นๆ เป่าเสกเพื่ออธิษฐานให้สัตว์เหล่านั้นเมื่อละโลกนี้ไปแล้วขอให้เกิดเป็นคน อย่าได้เป็นสัตว์ต้องทุกข์ทรมาน เหล่านี้คือน้ำจิตอันเยือกเย็นแผ่ไพศาลยังสรรพสัตว์ทั้งหลายของโลก ให้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ละเลิกจากความเบียดเบียนซึ่งกันและกันย่อมเป็นสุข<O:p</O:p
    เมื่อ 7 8 ปีที่แล้วผมเองยังชอบที่จะไปหาพระอาจารย์ดัง ๆ ตามวัดต่าง ๆ ก็พอดีได้อ่านประวัติท่านหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญจากหนังสือต่าง ๆ ก็รู้สึกว่าชอบจริยาวัตรของท่าน ก็พอมีโอกาศก็ได้มากราบท่าน ยิ่งรู้สึกชอบอุปนิสัยท่านจนมากราบท่านบ่อยครั้งขึ้น บางครั้งที่ผมได้มีโอกาศไปกราบหลวงปู่ฯท่าน และถือโอกาศพักค้างที่สุสานทีละหลาย ๆวัน
    ยิ่งได้รู้มากเห็นมาก ยิ่งเครพ ยิ่งศัทธา มากขึ้นทุกที เคยได้ยินผู้ใหญ่พูดว่าถ้าจะดูว่าพระองค์นั้นดีมั๊ยให้ดูว่าชาวบ้าน ละแวกวัดมีความเครพนับถือพระองค์นั้นเพียงใด แต่กับหลวงปู่ฯท่านทุกเย็น ชาวบ้านจะพากันมากราบท่านโดยที่มีกรวยดอกไม้เข้ามากราบท่านทุกวัน พวกเด็กๆก็เหมือนกันจะพากันมารออยู่ข้างหลังผู้ใหญ่ พอผู้ใหญ่กราบเสร็จ พวกเด็ก ๆ ก็จะเข้าไปกราบต่อ
    ตอนนี้หลวงปู่ท่านจะแจกขนมที่ท่านซื้อเอาไว้ให้เด็ก ๆ ทีละคน ๆ ถบางครั้งเป็นนมขวด ท่านก็จะเอาหลอดเจาะให้เด็กทีละขวด ทีละคน ๆ ไปอย่างนี้ทุกคน บางทีแม่ลูกอ่อนลูกไม่สบายก็อุ้มลูกมาหาหลวงปู่ฯ ๆ ท่านก็รับเด็กจากมือแม่ลูกอ่อน มาอุ้มแล้วก็เป่าแล้วก็เป่าให้ทั่วตัว ท่านเป่าเหมือนกับจะให้เด็กน้อยหายไข้เดี๋ยวนั้น และภาพเหล่านี้เป็นเรื่องปกติเป็นอย่างนี้มาเนิ่นนาน พอกราบหลวงปู่กันแล้วชาวบ้านก็จะพากันไปนั่งเล่น นอนเล่นที่ ศาลาเล็ก ๆ ตรงปากทางเข้าสุสาน(ย้ำ...ว่าสุสานที่แปลว่าป่าช้าครับ) เหมือนกับเป็นศาลาปรชาคม ประจำหมู่บ้านก็นั่งคุย นอนคุยจนมืดค่ำก็จะได้แยกย้ายกันกลับบ้าน เป็นอย่างนี้ทุกวัน
    เราซึ่งเป็นคนได้รู้ได้เห็นก้ไม่รู้ว่าจะบรรยายควารู้สึกและความทรงจำเหล่านี้อย่างไรดี อาจจจะเรียกได้ว่ารู้สึกประทับใจก็ได้ และก็รู้สึกสนิทใจและสบายใจเวลาที่อยู่กับหลวงปู่ฯท่าน ด้วยว่าเพราะเรารู้ในใจแล้วว่าเราเจอครูบาอาจารย์ของเราแล้ว
    เมื่อก่อนเราแขวนพระ 5-7-9 องค์ องค์ละหลวงพ่อ ๆ
    แต่พอมาเจอหลวงปู่เหมือนกับเราเจอ อาจารย์ของเราแล้วท่านจะขลังยังไง ขนาดไหนไม่ทราบได้ในตอนนั้น แต่ข้อวัตรปฏิบัติของท่าน มั่นทำให้เราอบอุ่นเย็นใจ ใจเราถึงเครพศัทธาท่านสนิทแน่บแน่น เราก็เต็มใจที่จะแขวนพระท่านเพียงองค์เดียว หรือไม่ก็จะขาดไม่ได้ต้องมีในคอเสมอ
    หลวงปู่ ฯ ท่านชอบซื้อชีวิตสัตว์มาปล่อย ชอบขุดบ่อน้ำ ฝายก้นน้ำ ซื้อที่ขยายป่า ใครจับงูมาได้จะงูอะไรก็เอามาขายหลวงปู่ฯ ท่าน ๆ ก็ซื้อ ถ้าใครเคยไปสุสานจะเห็นกองหินที่เรียงรายเป็นตั้งสูงนั่นคือที่อยู่ของงู ตะขาบ แมงป่อง ฯลฯ ที่ท่านซื้อมาปล่อย โดยที่ก่อนปล่อยท่านจะเป่าก่อน ท่านว่าเป่าให้คนมองเขาไม่เห็นและเขาก็ไม่กัดคน
    ลูกศิษย์หลวงปู่ฯ(งู ะขาบ แมงป่อง) จึงไม่เคยกัดใครแม้แต่คนเดียว บางครั้งพวกขายปลาช่อน ปลาดุก จากตัวจังหวัด ขายไม่หมดก็เอามาขายหลวงปู่ ฯ ท่าน ๆ ก็ซื้อเอามาปล่อย ที่ละ 2-3หมื่นบาท(ผมยังเคยชั่งปลาและคิดเงินให้ท่าน)
    มีเรื่องแปลกที่ผมได้พบอยู่เรื่องนึง คืนนั้นผทนอนเฝ้าท่านตามปกติ ก็นั่งคุยกับท่านสักพัก ก็มีศิษย์ร่วมสำนัก(แมงป่อง)ตัวใหญ่มาก กำลังมุ่งตรงเข้ามาทางเรา(ผมกับหลวงปู่ฯ) พอหลวงปู่ ฯ ท่านเห็นท่านก็พูดเปรย ๆขึ้นว่า
    นั่นเขามาลาหลวงปู่
    ครับ..เขามาลาหลวงปู่ ฯ แต่ถ้าเขาเข้ามาใกล้กว่านี้ผมก็จะลาอีกคน จึงกราบ ๆ ท่านแล้วก็เอาที่โกยผงมาช่วยพาเพื่อนออกไปอยู่ข้างนอก คืนนั้นนอนผวาทั้งคืน ตื่นเช้ามา ตี 3 หลวงปู่ตื่น เราก็ตื่น ล้างหน้าแปรงฟัน จัดการเรื่องของท่านเรียบร้อย พอเช้าฟ้าสางก็กวาดสุสาน พอกวาดไป ๆ ก็ไปเจอเพื่อนคนเมื่อคืนที่มาลาหลวงปู่นอนหางตก ตายสนิทเรียบร้อย เราก็มานึก
    เออ..เขามาลาหลวงปู่ฯ จริงอย่างท่านว่าบางเรื่องที่เล่ามาแล้วหรือกำลังจะเล่าต่อไปจากนี้หลาย ๆเรื่อง อาจจะเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากสำหรับบางท่าน ผมเข้าใจเพราะผมเองก็เป็นคนหัวดื้อที่เชื่ออะไร ๆ ยากที่สุดคนนึงเหมือนกัน แต่ผมยืนยันว่าทุกเรื่องที่เล่ามา เป็นเรื่องที่ผมเห็นมากับตา เจอมากับตัว หรือไม่คนใกล้ชิดได้ประสพพบมาทั้งสิ้นครับ

    ห้าสิบห้าหาไม่เห็น
    หลวงปู่หงษ์ ได้ธุดงค์ ดั้นด้นมาถึงเขตดินแดงติดต่อระหว่างกัมพูชากับเวียตนาม(เวียตกง)
    ซึ่งขณะนั้นลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังเผยแพร่ มีอิทธิพลต่อทวีปเอเชียอาคเนย์เป็นอย่างมาก
    ได้มีหลายประเทศเปลี่ยนระบบการปกครองเป็นลัทธิดังกล่าว ในจำนวนนี้ ประเทศเวียตนาม
    หรือเรียกกันว่า “พวกเวียตกง” ก็เปลี่ยนระบบการปกครองไปแล้ว ระบอบการปกครองลัทธินี้
    สอนให้ไม่มีศาสนา มีความเชื่อเกี่ยวกับเทพเทวดา หรือว่าวิญญาณทั้งหลาย
    จึงได้กวาดล้างลัทธิของทุกศาสนาให้หมดไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นพระสงฆ์องค์เจ้าก็ต้องศึกไป
    บ้างก็ต้องหนีออกนอกประเทศ มิฉะนั้นจะถูกทำลายล้างเข่นฆ่าให้ตายหมด
    ขณะที่หลวงปู่หงษ์ ได้ธุดงค์มาถึง ณ เขตชายแดนประเทศกัมพูชา กับประเทศเวียตนาม
    ทันใดนั้นทหารเวียตกงก็ได้แห่กันมาประมาณห้าสิบกว่าคน ล้อมรอบกลดของหลวงปู่หงษ์
    เพื่อจะจับนำตัวไปฆ่า แต่เมื่อเปิดผ้าคลุมมุ้งกลดดู ก็เห็นแต่กลดว่างเปล่า คงมีแต่กาน้ำใส่น้ำตั้งอยู่
    กับบาตรและถุงยามเท่านั้น แต่องค์หลวงปู่นั้นได้หายไปแล้วจึงทำให้นึกย้อนเหตุการณ์สมัยหลวงปู่หงษ์
    ผจญกับนางพญาโจรีที่พาลูกสมุนโดดลงขันน้ำกลางบ้านหายกันไปหมด
    แต่ได้กราบเรียนถามท่านแล้วว่าหลวงปู่ใช้วิชานี้หรือเปล่า หลวงปู่ท่านกล่าวตอบว่า
    “ทำมิได้หรอก” เป็นเรื่องของครูบาอาจารย์ ที่จะช่วยให้ศัตรูเห็นก็ได้ หรือมิเห็นก็ได้
    เป็นเรื่องของท่านหลวงปู่ทำไม่เป็นหรอก
    ซึ่งในการนี้ทหารเวียตกงจะค้นหาอย่างไรก็ไม่พบองค์หลวงปู่หงษ์ได้ ผลสุดท้ายท่านเมตตา
    และสงสารพวกทหารเวียตกง จึงได้ปรากฏกายยอมให้ทหารเวียตกงจับตัวไป
    โดยคิดปลงเสียว่า ถ้าอดีตเคยเป็นศัตรูกันมาก็ดี เคยเป็นเจ้ากรรมนายเวร
    จะนำไปฆ่าแกงอย่างไรก็เชิญจับไป ให้ถือว่าใช้เวรใช้กรรมกันเป็นชาติสุดท้าย
    จักได้เป็นอันตัดขาดหมดเวรหมดกรรมกันไป แต่ถ้ามิได้เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาก่อนแล้วละก็
    ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยรักษา ครูบาอาจารย์รักษาคุ้มครอง อย่าได้เป็นอันตรายแต่ประการใดเลย
    ทันใดที่หลวงปู่ได้ปรากฏกายออกมาจากกลดนั้น ทหารเวียตกงต่างตกใจขวัญหนีดีฝ่อ
    จึงได้นำปืน M16 ประทับบ่าแล้วยิงถล่มสู่เป้าหมายถึงองค์หลวงปู่หงษ์ ทันที
    หลวงปู่นั้นก็ได้แต่ยืนเฉย หาได้สะทกสะท้าน หรือหวาดกลัวเสียงลูกปืนแต่ประการใดไม่
    เพราะลูกปืนนั้นได้ตกลงกองอยู่ ณ ด้านปลายเท้าของหลวงปู่นั่นเอง
    ห่างจากปลายเท้าประมาณ 1 วา บางกระบอกปืนก็ยิงจนปากกระบอกแดง
    บางกระบอกลูกปืนไหลออกจากปากกระบอกเอง ซึ่งตามตำราของท่านเรียกว่า
    “ปืนแตกน้ำ” คือลูกกระสุนจะด้านหรือหมดสภาพประดุจลูกปืนหรือดินประสิวนั้น
    แช่อยู่ในน้ำ เวลายิงจึงด้าน และไหลออกมาประดุจว่าไหลมากับน้ำ
    จึงเรียกว่าปืนแตกน้ำ “ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของวิชาคงกระพันของท่าน”
    เมื่อทหารเวียตกงจะฆ่าอย่างไรๆ ก็มิอาจฆ่าได้ ทุกคนต่างก็จนใจ
    ผลสุดท้ายจึงเข้ารุมจับหลวงปู่ แล้วนำมาใส่กรงเหล็ก นำเดินทางมาถึงท่าเรือ
    จากนั้นก็ยกกรงเหล็กใส่เรือตังเกออกสู่กลางทะเล สักครู่ต่อมาเวียตกงจึงนำเชือกผูกกรงเหล็ก
    แล้วยกกรงเหล็กถ่วงทะเล ประมาณ 10 นาทีต่อมาจึงได้สาวเชือกดึงกรงเหล็กขึ้นมา
    ทุกคนต้องตกใจอย่างที่สุด เพราะพระภิกษุที่อยู่ในกรงเหล็กนั้นนั่งสมาธิเฉยหาได้สะทกสะท้านตกใจกลังต่อภัยใดๆไม่
    แถมจีวรที่นุ่งห่มอยู่นั้นก็ไม่เปียกน้ำทะเลแต่ประการใด
    ซึ่งการนี้ได้กราบเรียนถามหลวงปู่ว่าทำไมจีวรของหลวงปู่จึงไม่เปียกน้ำ
    หลวงปู่ได้เมตตาตอบว่า “อ๋อศีลคุ้ม คนเราถ้ามีศีลมั่นถือมั่น ในปฏิทาแห่งคุณพระพุทธเจ้า
    และครูบาอาจารย์แล้ว เชื่อว่าตกน้ำก็ไม่ไหล ตกไฟก็ไม่ไหม้
    ประกอบกับการที่เรามีเมตตาอธิษฐานแผ่ยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย”
    แต่ก็ยังไม่สะใจพวกทหารเวียตกงอยู่นั่นแหละ เพราะเขากลับมีคำสั่งให้เรือหาปลานั้นวิ่งแล่นต่อไปอีกไกลแสนไกล
    จนเห็นแค่ขอบฟ้าจรดผิวน้ำเท่านั้น จากนั้นก็นำกรงเหล็กหย่อนลงมหาสมุทร
    อยู่นานสักประมาณ 10 นาที จึงได้สาวเชือกขึ้นมา ทันใดทหารเวียตกงก็ต้องช๊อก
    เพราะว่าหลวงปู่นั้นยังคงนั่งสมาธิเฉยดุจเดิมอยู่ในกรงเหล็ก ทำให้พวกทหารเวียตกงนั้น
    หมดความสามารถที่จะประหารเข่นฆ่าพระภิษุรูปนี้ได้ จึงได้สั่งคนเรือหัวเรือกลับสู่ฝั่งของเมือง
    ได้กราบเรียนถามว่า”หลวงปู่หงษ์ ทราบได้อย่างไรว่าเป็นมหาสมุทรมิใช่ทะเล”
    หลวงปู่ได้เมตตาตอบว่า
    “ก็น้ำในมหาสมุทรนั้นจะเย็นมากกว่าน้ำในทะเล
    ผู้เขียนจึงถึงบางอ้อ และมีความรู้เพิ่มขึ้นอีก”
    ในที่สุดเรือหาปลาก็แล่นเข้าหาฝั่งอีกครั้ง แต่ทหารเวียตกงนั้นก็มิได้ละความพยายามแต่ประการใด
    ต่างก็ช่วยกันยกกรงเหล็กลงและรุมกระชากองค์หลวงปู่หงษ์ ออกมาจากกรงเหล็ก
    อีกสี่คนช่วยกันจับแขนทั้งสอง และขาทั้งสองอยู่ในลักษณะนอนคว่ำ
    จากนั้นก็นำพุ่งเข้าปากจระเข้ใหญ่ ซึ่งกำลังนอนหลับอ้าปากอยู่
    ซึ่งตามลักษณะสัญชาติญาณของจระเข้แล้ว เวลานอน
    สุดท้ายทหารเวียตกงก็ยอมแพ้ในอิทธิบุญบารมีของหลวงปู่ จึงได้นำองค์หลวงปู่หงษ์
    ออกจากจระเข้ใหญ่ พร้อมทั้งกราบถวายตัวเป็นศิษย์สืบมา<!-- google_ad_section_end -->
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2011
  6. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    เมตตาบารมีอิทธิปาฏิหารย์ปราบนางพญาโจรี
    หลวงปู่หงษ์ ธุดงค์จาริกแสวงบุญเรื่อยมายังเมืองพระตะบอง ขณะนั้น ชาวเมืองเกิดความเดือดร้อน ข้าวยากหมากแพง เกิดขโมย โจรชุกชุม แต่ยังมีกลุ่มโจรหนึ่งมีหัวหน้าเป็นสตรี มีลูกน้องกว่า 50 คน มีนามว่า “มะลิ” มะลิเป็นชื่อของสาวใหญ่ชาวเขมร ถือกำเนิด ณ เมืองพะตะบอง ในยุคนั้นแล้วต้องถือว่ามะลิเป็นสาวที่มีความงดงามที่สุด ความงามสมัยนั้นจะต้องมีผิวดำเป็นมัน ผมดำเงา มีความสง่าแฝงไปด้วยตะบะบารมีประดุจนางพญา เพราะนางนั้นมีสมุนพลพรรคบริวารประมาณกว่า 50 คน ทั้งนางและสมุนบริวารนั้นล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่ทางราชการของกัมพูชาต้องการตัวมากที่สุด เพราะมะลิและบริวาร มีอาชีพในการจี้ปล้น
    แต่ก็เป็นโจรที่มีคุณธรรม เพราะข้าวของที่ได้มาจากการปล้นนั้นนางได้แบ่งปันแล้วก็นำไปแจกจ่ายแบ่งต่อคนยากจนด้วย ซึ่งการจี้ปล้นแต่ละครั้ง จะปล้นจากคนรวยมาแบ่งคนจน หรือการจี้ปล้นแต่ละครั้งนั้นจะกระทำก็ต่อเมื่อพรรคพวกอดอยากไม่มีจะกินแล้ว จึงทำการปล้น ในการลูกสมุนออกปล้นแต่ละครั้ง นางมะลิจะทำพิธีเบิกทางโจร ด้วยวิชาไสยศาสตร์โดยการตั้งขันทำน้ำมนต์เสร็จแล้วก็นำน้ำมนต์นี้แจกจ่ายแก่พวกสมุนให้ดื่มกินกันจนครบ จึงได้ออกกระทำการปล้น จนเป็นที่หวาดหวั่นสะพรึงกลัวต่อผู้มีฐานะร่ำรวย เดือดร้อนไปตามๆกัน จึงได้นำความนี้ขึ้นร้องเรียนแจ้งต่อกฎหมายบ้านเมือง แต่ก็มิได้รับผลสำเร็จแต่ประการใด เพราะยามใดที่ทางราชการออกกวาดล้างไล่จับ ก็ไม่สามารถจะจับได้ หรือติดตามได้ทัน ขนาดประชิดตัวเห็นอยู่หลัดๆจับได้ก็ดิ้นหลุด หายตัวมองไม่เห็นต่อหน้าต่อตา อย่างหาสาเหตุไม่พบ ขนาดตำรวจทราบลังหรือแหล่งที่อยู่ล้อมรอบไว้แล้วก็ยังมิอาจจะทำอะไรต่อสมุนนางได้
    เมื่อตำรวจล้อมบ้านยามใดสมุนทุกคนต่างกระโดดลงอ่างน้ำมนต์ หายไปต่อหน้าต่อตาเช่นกัน โดยที่บ้านเมืองนั้นต้องพบกับความผิดหวังร่ำไป และเมื่อทุกคนต่างทราบกิตติศัพท์ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ว่าเป็นพระธุดงควัตร ประพฤติปฏิบัติดีมีสรรพวิชา เรืองด้วยวิทยาอาคมอันแก่กล้า ต่างก็นำความมากราบเล่าสู่หลวงปู่หงษ์ และขอความเมตตาช่วยเหลือปราบนางพญาโจรี และพรรคพวกด้วยเถิด หลวงปู่ก็ได้เมตตาสัตว์ที่ยากไร้ อันหาที่พึ่งมิได้ จึงได้ดำเนินเดินทางมาถึงบ้านของมะลิ และได้นั่งภาวนาแผ่เมตตาบารมีอยู่ ณ บนบ้านของนางพญาโจรี จนพลบค่ำนางพญาโจรีได้กลับมาถึงบ้าน หลวงปู่กล่าวว่านางมะลิมาแล้ว แต่ทุกคนก็มิอาจมองเห็นนางได้เลย แต่มะลินั้นมิอาจที่จะรอดพ้นสายตาของหลวงปู่หงษ์ผู้ทรงด้วยฌานแห่งทิพย์จักษุและเจโตปริยญานไปได้ ว่านางนั้นต้องการอะไร และจะประพฤติปฏิบัติเหตุการณ์อะไรต่อไปเป็นลำดับ ด้วยญานของอนาคตตังสะญาณ
    ทั้งที่นางมะลิพยายามก้าวขาขึ้นบันไดด้วยวิธีใดๆก็ตาม ก็มิอาจที่จะขึ้นบันไดบ้านของตนได้ จนหลวงปู่ได้กล่าวขึ้นว่า “อ้าว! ขึ้นมาบนเรือนซิ” นางจึงขึ้นมาบนเรือนได้ ทุกคนได้ยินเสียงเท้าคนเดินไปมา แต่ก็มิอาจที่จะมองเห็นนางมะลิได้อยู่ดีนั่นเอง จนหลวงปู่ได้กล่าวว่า “นั่งลงซี” พร้อมกันนั้นหลวงปู่ได้ทำการถอนเวทมนต์ทั้งปวง ทุกคนจึงได้เห็นว่านางมะลินั่งอยู่ หน้าหลวงปู่ ทันใดนางก็ชักปืนออกมาจากเอว หมายจะสังหารพระภิกษุรูปนี้เสีย แต่นางก็หาได้มีความไวเกินจากญานอันหยั่งรู้ของหลวงปู่ไปมิได้ ทันใดนั้นหลวงปู่ก็ตบที่หัวเข่าของท่านว่า “ติด” เป็นที่แปลก นางมะลินั้นมือก็ติดอยู่ที่ปืน และก็ไม่สามารถที่จะชักปืนนั้นออกมาจากเอวของนางได้ สักครู่ต่อมาหลวงปู่จึงได้ถามว่า “ยอมแล้วหรือยัง ถ้ายอมแพ้ให้กราบ” นางมะลิยอมแพ้และได้ก้มกราบแต่โดยดี และนำปืนไว้ข้างหน้า
    สักครู่นางจึงนึกว่าหลวงปู่ตายใจแล้วว่ายอมแพ้ พอหลวงปู่เผลอด้วยสัญชาติญาณของนางพญาโจรี นางก็ยื่นมือเตรียมหยิบปืน หมายจะสังหารหลวงปู่เสีย ให้สิ้นจงได้ แต่ก็มิสามารถที่จะหลุดเลยจากญานของหลวงปู่ไปได้ ทันใดนั้นหลวงปู่ก็ตบหัวเข่าของท่านอีกครั้ง และกล่าวว่า “ติด” ด้วยสัจจวาจาและตะบะบารมีจึงทำให้นางพญาโจรีจะเอื้อมหยิบปืนอย่างไรก็ไม่สามารถหยิบได้เลยทั้งๆที่ปืนนั้นอยู่ด้านหน้าของนางเองไม่ถึงศอก
    จากนั้นหลวงปู่หงษ์ ก็กล่าวอบรมให้สติ ด้วยหลักแห่งศีลและเมตตาธรรม จนนางนั้นได้เกิดความละอาย เกรงกลังต่อบาป บังเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ถวายตัวเป็นอุบาสิกา และขอสมาทานศีลแปด ประพฤติดี ปฏิบัติชอบจนถึงทุกวันนี้ ณ ประเทศกัมพูชา ซึ่งหลวงปู่ก็นับถือน้ำใจของนางมะลิ ทั้งต่างให้ความนับถือกันเป็นพี่น้องบุญธรรมร่วมชาตินี้ด้วย
    ส่วนพรรคพวกสมุนบริวารต่างกลับตัวกลับใจ หันมาประกอบสัมมาอาชีพประพฤตัวถูกต้องตามกฎหมายเป็นพลเมืองดีของชาติบ้านเมืองสืบไป

    พระธาตุปรากฏ
    คุณหมอชัชชัย ด่านสุนทร นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลบุรีรัมย์ได้หยิบพระพิฆเนศปางอ้อมจักรวาลเนื้อชานหมากกับพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมันให้ชมพร้อมกล่าว "แปลกนักพระเนื้อชานหมากทั้ง 2 นี้ได้มีเม็ดพระธาตุผุดเรียงเต็มไปหมดบางองค์ก็มากบางองค์ก็น้อย แต่ส่วนใหญ่ที่พิจารณาแล้วพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมันจะมีเม็ดพระธาตุขึ้นมากกว่าจึงได้พิจารณากันว่าพระธาตุที่ผุดขึ้นมีสีขาวทราบภายหลังว่า ในการผสมผงสร้างพระชุดนี้ ได้นำผงพระธาตุสิวลี ซึ่งหล่นอยู่ก้นโหลแก้วครั้งที่ คุณพี่ประดิษฐ์ สุขประเสริฐ ทายาทศิษย์สายหลวงพ่อดิ่ง วัดบางบัวจ.ฉะเชิงเทรา นำมาถวายหลวงปู่จึงได้นำผงพระธาตุสิวลีผสมกับผงของพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมัน ชุดนี้ด้วยประการแรก ประการที่สองเล็บของหลวงปู่นั้นงอกยาวได้ใสบ้าง เป็นเม็ดใสก็มี ประการที่สามอันว่าธาตุขันธ์ในกายของหลวงปู่ เช่น เกศ เล็บ น้ำลายผสมอยู่กับชานหมากก็ตาม เหล่านี้กระมังที่มาประชุมธาตุจนทำให้พระพิมพ์ ขุนแผนชัยวรมัน กับพิมพ์พระพิฆเนศ เนื้อผงชานหมากเหล่านี้ ปรากฏเป็นธาตุขึ้นได้ หรือแม้แต่พระผงรุ่นแรกพิมพ์นิยม พิมพ์ไกเซอร์ก็ดี พระพิมพ์สมเด็จ พระประธานก็ดี รุ่นฉลองชัยที่กดพิมพ์มือล้วนกรรมวิธีการสร้างแบบโบราณ คือ กดด้วยมือตัดขอบด้วยผิวไผ่หรือมีด ผึ่งลมตามธรรมชาติ เมื่อนำมาสักการบูชา ก็ปรากฏว่างอกได้ฟูได้ มีเม็ดพระธาตุงอกขึ้นเต็มทั้งองค์เช่นกัน หลวงปู่หงษ์ กล่าวว่า"เราตั้งใจทำให้จริงๆแล้วก็ทำให้อย่างดีด้วย เพราะว่าคณะศิษย์ตั้งใจทำเพื่อฉลองอายุครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์มิมีสิ่งใดที่จะตอบแทนน้ำใจ ก็มีแต่ศีลปฏิบัติภาวนาและน้ำจิตที่เป็นบุญเป็นกุศลสะสมมาแต่กาลก่อน อธิษฐานขอช่วยลูกศิษย์ให้ได้ดีทุกคนแต่ปรารถนา ขออย่างเดียวอย่าดื่มเหล้าหรือผิดลูกเมียผู้อื่นเขา อะไรก็ทำมิได้เลย สำหรับเรื่องนี้ทำให้นึกถึงคุณหมอชัชชัย หมอดีฝีมือเยี่ยมแห่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ จำได้ว่าวันที่ คุณหมอชัชชัย ได้ไปกราบหลวงปู่พร้อมกับผู้เขียนได้นำครอบน้ำมนต์ถวายหลวงปู่ได้ประสิทธิพร้อมขอน้ำมนต์ของหลวงปู่เติมไว้เป็นปฐม หลวงปู่เมตตาตักให้พร้อมกล่าวว่า"ให้นำน้ำธรรมดามาเติมใช้ได้ดี 108 ประการ" ครั้นกลับมาบ้านคุณหมอก็นึกถึง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ว่าเวลาท่านสร้างพระมักนำพระแช่น้ำมนต์ 1-2 วัน นำขึ้นมาผึ่งก็บังเกิดมีพระธาตุผุดขึ้น เอ! ถ้าหลวงปู่ของเราก็น่าจะทำได้เช่นกัน เพราะบารมีธรรมจริยปฏิปทา จึงทำให้เกศาที่บูชาก็ยังเป็นแก้วเป็นธาตุได้ ครั้นเวลากลางคืนได้ฝันถึงหลวงปู่มาบอกว่า "ให้นำพระขุนแผนชัยวรมัน แช่น้ำมนต์ ซึ่งประเดียวก็เห็นเอง" คุณหมอชัชชัย สะดุ้งตื่น แต่มีความรู้สึกว่าหลวงปู่มากล่าวพูดเช่นนั้น จึงได้อาราธนาพระขุนแผนชัยวรมันองค์ละ 100 บาท แช่น้ำมนต์ประมาณ 1-2 วันแล้วนำมาผึ่งวางไว้ พอเวลาค่ำได้พบเห็นว่า พระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมัน เกิดมีธาตุใสได้ จึงปลื้มปิติยินดีอย่างที่สุด

    หลวงปู่สอนให้อดทนข่มใจ
    หลวงปู่หงษ์ ได้เมตตาให้กั้นลวดหนามเพื่อป้องกันสัตว์ลงไปเล่น เป็นที่น่ายินดีที่ทำงานเสร็จภายใน 1 วัน ด้วยการใช้กำลังแรงงานเพียง 80 คน ซึ่งรวมระยะเวลาล้อมประมาณ 7 ไร่กว่า หลวงปู่กล่าวว่าปลื้มใจที่ทุกคนตั้งใจร่วมใจกันทำงานอย่างขมีขมันมีความรับผิดชอบ ใครมีหน้าที่อย่างไรก็ทำตามหน้าที่ของตนก็สัมฤทธิผลได้ในกิจการนั้นๆ งานใดสิ่งใดก็ตาม เรามีความตั้งมั่น มีความ มุมานะ มีความขยันหมั่นเพียร รู้จักอดออมเก็บความรู้สึกไว้ให้ได้ ผู้นั้นก็ย่อมประสบผลสำเร็จในกิจการนั้นๆ อีกสิ่งที่สำคัญคือจิต มีความไวมากในการสัมผัสรับรู้ หากเราไม่รู้เท่าทันตัวจิตนี้แล้วเราก็ต้องตกเป็นเหยื่อของสิ่งภายนอกที่เข้ามากระทบทุกๆเรื่องไป และถ้ายิ่งมีการปะทะโต้ตอบกันไปมาไม่รู้จักข่มใจตนเองสิ่งที่จะตามมาคือความเสียหาย ดังนั้นขอให้ลูกหลานรู้จักอดออม ข่มใจตนเอง ใครเขาจะว่าอย่างไรก็ขอให้นิ่งเฉยเสียเขาว่ามานั้นมิได้เจ็บปวดแต่ประการใด ถ้าจิตใจของเราไม่ไปปรุงแต่งในคำพูดของเขานั้นๆว่าเจ็บปวด ทุกสิ่งทุกอย่างขอให้ทุกคนดูตัวเอง ดูใจตัวเองว่าตัวเราเอง ตำหนิใจตัวเอง จนหาคำว่าตัวเราเองไม่ได้แล้วว่าไม่ดีจึงค่อยว่าผู้อื่นเขา ขอให้ระลึกนึกถึงว่า คนเราทุกวันนี้มักมีอายุไม่ค่อยยืนยาว อยู่กันไปไม่ถึง 100 ปี ก็ต้องจากกันไปทุกคน นี้คือความจริงแท้แน่นอน
    ทุกคนที่ได้สดับรับฟังต่าง ปิติยินดีที่หลวงปู่ได้เมตตาแนะนำกระแสธรรมให้มีจิตระลึกได้ เพราะคนเราทุกวันนี้ลืมนึกไปว่าเกิดแล้วไม่ตาย จึงต่างขวนขวายชิงดีชิงเด่น เอารัดเอาเปรียบกันสารพัด ขาดทมะ คือ ขาดความข่มใจ ไม่รู้จักการให้อภัย ขาดความเมตตาต่อกัน โลกเราทุกวันนี้จึงมีแต่ความร้อนระอุเร่าร้อนกัดกร่อนในการจัดสร้างความดี ก็คงต้องช่วยกันเรียกร้องให้พวกเราทุกคน รู้จักการให้อภัยมีเมตตาต่อกันและกัน สร้างสรรค์แต่สิ่งที่ดีงาม เชื่อว่าโลกนี้จักสวยงามน่าอยู่สืบไป
    นอกจากนี้หลวงปู่หงษ์ยังเป็นครูบาอาจารย์ที่คอยพูดให้เราเห็น แสดงอาการกระทำให้เรารู้เป็นตัวอย่างทั้งทางทฤษฎีและทางปฏิบัติ ด้วยจิตปรมัติตั้งมั่นให้ลูกหลานทุกคนสร้างความดี หนีความชั่ว ด้วยการตั้ง “กองทัพศีลห้า
    ซึ่งตอนนี้หลวงปู่หงษ์กำลังเปิดรับสมัครกองพลทหารศีลห้า หลักกติกาไม่มีอะไรมาก ไม่จำกัดเพศและวัย ใบสมัครไม่ต้องใช้ สิ่งที่ต้องตระเตรียมก็คือ กาย วาจา และใจ ด้วยการกรองข้อมูลทางวาจาสู่ใจ “ว่าข้าพเจ้าจะรักษาศีลห้าปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่อย่างเคร่งครัด” เท่านี้ก็เป็นการบันทึกข้อมูลแล้วและหลวงปู่ท่านก็รับเป็นลูกศิษย์ ผลที่จักได้รับ คือบุญกุศลความดีที่ติดตามไปยามมีเหตุคับขันให้ภาวนา “นะเมติ” หลวงปู่และครูบาอาจารย์ของท่านจักลงมาช่วยคุ้มครองเอง นึกคิดประสงค์สิ่งใดจักสมใจปรารถนาทุกประการ หลวงปู่มักกล่าวเสมอๆว่า “เทวดาครูบาอาจารย์เขาช่วยคนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้

    คุ้มศิษย์ต่างแดน
    ประสบการณ์ต่างแดนหลวงปู่คุ้มครองลูกศิษย์ ณ ประเทศเยอรมันได้อย่างไร คงเป็นผลพวงจากการที่ คุณสุพิชา คงทอง นั้นได้สมัครเข้าเป็นกองกำลังพลกองทัพศีลห้า” ของหลวงปู่กระมัง เพราะโดยลำพังแล้วคุณสุพิชา คงทอง เป็นสตรีผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือบุคคลอื่นๆ และมีนิสัยเฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่งเป็นคนชอบพูดคุย ใจคิดอย่างไร ปากก็จักพูดตามไปเช่นกัน และเมื่อต้นปีได้เดินทางไปทำงาน ณ ประเทศเยอรมัน ซึ่งมีคนไทยเป็นเจ้าของกิจการ ก็เป็นเรื่องธรรมดาของบุคคลทั่วไป เมื่อเป็นคนมาใหม่ก็ย่อมถูกลองของ หรือกลั่นแกล้งจับผิดจากเพื่อนร่วมงานพูดง่ายๆ เสมือนหัวเดียวกระเทียมลีบ ตนจึงต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน แต่ด้วยความเป็นคนช่างพูดเห็นสิ่งใด ไม่ถูกต้องก็จะพูดกล่าวไป ครั้งเวลาพลบค่ำจะต้องสวดมนต์ไหว้พระระลึกนึกถึง หลวงปู่ทุกวัน จึงได้ฝันเห็นหลวงปู่ถึง 3 วันติดๆ ในคืนวันทื่ 4 ได้เกิดเหตุการณ์ แปลกกว่าทุกวัน เพราะหลวงปู่ได้นำกำหญ้าคามาปิดปากคุณสุพิชา รุ่งเช้าคุณสุพิชา ได้โทรเล่าเรื่องให้ผู้เขียนฟังพร้อมกับกล่าวว่า ทำไมหลวงปู่ท่าน จึงเอาไม้พรมน้ำมนต์มาปิดปากหนู ผู้เขียนกล่าวว่า “เขาเรียกกำหญ้าคา สำหรับพรมน้ำมนต์” นั้นแหละหนูพูดไม่ถูกแต่เอ! ท่านจะไม่ให้หนูพูดหรืออย่างไรค่ะ? ผู้เขียนตอบ “แน่นอนถูกต้องตามที่คุณเข้าใจ เราเป็นคนใหม่อยู่คนเดียวกับอีกฝ่ายเขารวมกันเป็นหมวดหมู่ อย่างไรก็ตามไม้ซีกจะไปงัดกับไม้ซุงย่อมไม่เป็นผล” จะเห็นได้ว่าหลวงปู่นั้นท่านไปได้ทุกเมื่อทุกประเทศ เอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง เยอรมัน ฯลฯ ขอเพียงให้ลูกศิษย์เป็นคนดีมีศีลห้า แล้วสิ่งใดๆ ก็ทำมิได้ ครูบาอาจารย์ท่านคุ้ม ไปอยู่เมืองไหนประทศไหน หลวงปู่หงษ์ ก็ตามไปคุ้มครองได้
    อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องแปลกสดๆร้อนๆ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า “อยากเป็นลูกศิษย์หลวงปู่” เมื่อวันก่อนคุณเอนก ได้พาเพื่อนๆ มากราบรูปเหมือนหลวงปู่ที่กองทุนปลูกป่าหลวงปู่หงษ์ ซ.นวลจันทร์ คุณเสกสรรผู้เป็นเพื่อนได้นั่งพินิจพิเคราะห์พิจารณารูปหล่อเหมือนหลวงปู่กับนึกคิดอยู่ในใจว่า เอ! ทำไมเดียวนี้คนจึงหันมากราบหลวงปู่กันเยอะจึงได้น้อมจิตระลึกนึกถึงหลวงปู่ว่า กระผมขออธิษฐานขอเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ด้วยคนเถิด หากหลวงปู่รับทราบขอจงได้แสดงให้ลูกได้รู้ได้รู้ ด้วยเถิด จนเวลาพลบค่ำได้เวลานอนขณะนั้นเอนกายสู่หมอนยังมิทันได้หลับก็ปรากฏว่า หลวงปู่มายืนอยู่ข้างเตียงของผมพร้อมกับพูดว่า “เรียกมาทำไม” สักครู่ก็หายไป ผมดีใจปลื้มใจเป็นที่สุดที่หลวงปู่ได้เมตตารับผมเป็นลูกศิษย์แล้วหลวงปู่นี้เป็นที่สุดจริงๆ ผมได้เห็นแล้ว จากคนที่ไม่เคยแขวนพระ หรือเครื่องรางใดๆ เลย ก็ต้องกลับหาพระของหลวงปู่ขึ้นอาราธนาคล้องคออย่างสบายใจทำให้เป็นที่กังขาแก่มิตรสหาย ว่าทำไมเพื่อนเราจึงหันมานิยมพระเครื่องทั้งที่เป็นคนสมัยใหม่

    เผาขน อบต.
    เหตุการณ์ครั้งหลังจากที่คุณสุเมธ ถูกรอบยิงแสกหน้าแบบเผาขนที่สุสานทุ่งมน แต่กระสุนมิได้ออกเลยกับแตกคาปากกระบอกปืน ส่วนที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นญาติของคุณนิดรู้จักกับผู้เขียนดี โดยผู้เขียนได้มอบเหรียญพ่อรักลูกให้คุณนิดๆ ได้นำเหรียญขุดสระนี้มอบให้กับน้าชายได้ไม่ถึงสัปดาห์ ขณะเดินทางไปตลาดถูกคู่อริที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน นำปืนลูกโม่จ่อยิงเผาขนจนหมดโม่ แต่ผลไม่ระคายผิวหนังเลยเช่นกัน จากนั้นผู้ร้ายก็วิ่งหนีไป ประชาชนชาวเพชรที่อยู่ละแวกนั้นต่างตรงรี่เข้ามาขอดูว่าคุณแขวนพระดีอะไร? น้าของคุณนิดกล่าวว่ามีเหรียญของหลวงปู่หงส์รุ่นขุดสระ หลานชายมาจากกรุงเทพฯ มอบไว้ให้ พลางสั่งกำชับไว้ว่าให้เก็บไว้ให้ดี เพราะเป็นเหรียญรุ่นแรกและเคยมีประสบการณ์มาแล้วเมื่อหลังจากวันเสร็จพิธีพุทธาภิเษก โดยนายตำรวจได้นำเหรียญขุดสระเนื้อสำริดไปลองยิงดูปรากฏว่าปืนไม่ลั่น แต่ยกขึ้นฟ้าไกปืนทำงานตามปกติจนถึงลูกที่สามก็ยิงไม่ออกเช่นกัน หลวงปู่ท่านทราบและสั่งห้ามว่าทำดีแล้วไม่ต้องลอง แล้วจักเห็นเองยามคับขัน การกระทำเช่นนั้นเป็นการประมาทต่อครูบาอาจารย์ทีหลังอย่าทำอีกเล่นเอาตำรวจผู้นั้นหน้าหง๋อยไป
    ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาวบ้านเขาจึงพร้อมใจกันยอมนอนคว่ำให้หลวงปู่ท่านเดนบนหลังของวกเขา ชาวบ้านทุกคนเคารพรักหลวงปู่เสมือนเป็นเทพเจ้าของพวกเขาทีเดียว เพราะมิใช่ว่าหลวงปู่หงษ์ จะป้องกันภัยให้พวกเขาได้อย่างเดียว แต่หลวงปู่หงษ์ได้แผ่เมตตาปล่อยสัตว์ ขุดบ่อ ขุดสระ สร้างฝายน้ำล้น ปลูกผ่า ปล่อยช้าง วัว ควาย เต่า งู ตะขาบ สัตว์ทุกชนิด และสั่งห้ามมิให้ชาวบ้านทำลายป่าไม้โดยอบรมสั่งสอนให้เห็นคุณ และโทษของการไม่มีป่าได้ไม่มีน้ำจะ เกิดความเดือดร้อนนานาประการ พร้อมทั้งสอนให้ชาวบ้านทุกคนถือศีลห้า ห้ามดื่มเหล้าเมายา แล้วครูอาจารย์ของหลวงปู่ท่านจะคุ้มครอง ทุกคนเคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่ได้ประพฤติปฏิบัติตาม จึงมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2011
  7. คชบุตร

    คชบุตร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,637
    ค่าพลัง:
    +4,388
    สวัสดีครับ :cool:
     
  8. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ
    พระคาถาต่างๆของหลวงปู่หงษ์
    วิธีบูชากุมารทอง หลวงปู่หงษ์
    ตั้งนะโม 3 จบจุดธูป 5 ดอก บอกพระภูมิ-เจ้าที่ หรือตี่จูเอี๊ยเพื่อขออันเชิญกุมารทอง...เข้าบ้านเรือนเพื่อเป็นศิริมงคล คุ้มครองป้องกันบันดาลโชคลาภ ทำการค้าให้เจริญ
    จุดธูป 5ดอก ภาวนา"นะเมติปะจะขะ" 9 จบ ถวายนม น้ำแดง ยาคูล ขนม กล้วย(เท่าที่มี หรือหาได้) แล้วตั้งจิตอธิฐานขอพรตามความปราถนา ทรัพสมบัติทั้งหลาย ยกให้กุมารทอง เป็นผู้คุ้มครองดูแลรักษาและช่วยหามาเพิ่มเติมด้วยเถิด
    คาถาอาราธนา ตะกรุดน้ำ
    ตั้งนะโม 3 จบ "นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะเมติ"9-12 จบ
    คาถาอาราธนาตะกรุดดิน(ตะกรุดขอมดำดิน)
    ตั้งนะโม 3 จบ "นะโมพุทธายะ มะพะทะนะ จะภะกะสะนะเมติ" 9-12 จบ
    คาถาอาราะนา ตะกรุดไฟ(ตะกรุดเตโช)
    ตั้งนะโม 3 จบ "นะโมพุทธายะ พะทะนะมะ จะภะกะสะ นะเมติ" 9-12 จบ
    คาถาอาราธนาตะกรุดลม(ตะกรุดวายุ)
    ตั้งนะโม 3 จบ "นะโมพุทธายะ ทะนะมะพะ จะภะกะสะนะเมติ"9-12 จบ
    คาถาอาราธนา ตะกรุดชัยวรมัน
    ตั้งนะโม 3 จบ"นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ อะภะอะ นะเมติ" 9-12 จบ
    คาถาอาราธนาพญาเสือดำ
    ตั้งนะโม 3 จบ"ยะขังนิขังวา อะภะอะ สิงหะละหุ นะเมติ" 9-12 จบ
    คาถาอาราธนาพระยาพาลี
    ตั้งนะโม 3 จบ "กัตตะ วุตตะ นะเมติ" 9-12 จบ
    คาถาพระพิฆเนศ
    ตั้งนะโม 3 จบ"โอมนะมัสสะ ปัตตะเยนะมะ โอมมหาเทวะมหาสะการัม มหาพิฆะเนศสะการัม วิญญานัง โฮม ทีปัง ธูปังปุบผังนะโมนะมัสสะการัม"
    คาถาหัวใจพระพิฆเนศ
    "โอม พระพิฆเนศ สายะนะโมพุทะยะ นะเมติ"
    คาถาบูชาปฐมครูปู่ตาไฟ
    ตั้งนะโม 3 จบ"โอมนะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นะเมติ ฦ ฦา ฤ ฤา นมัสสิตวา หลวงปู่ตาไฟ สิทธิเตโช มหาปุญโญมหายะโส มหาลาโภ อิทธิ ฤทธิ ประสิทธิเม"
    คาถาบูชาพระสิวลี
    ตั้งนะโม 3 จบ "อิมัง อัคคีทานัง ปัพผัง พระสิมพะลี จะมหาเถรัง
    พุทธังปูเชมิธัมมังปูเชมิ สังฆังปูเชมิ
    สิมพะลี นันทะเถรัสสะ เอตะพัตตังสัพพะธะนัง
    สาริกะธาตุ พุทธรูปปัง อะหังวันทามิสัพพะทา
    พระคาถาหัวใจพระสิวลี
    นะชาลีติ ประสิทธิลาภา ปะสันนะจิตาสะทาโหติ ปิยังมะมะ
    สัพเพชะนา พะหูชะนา สัพเพทิสา สะมาคะตากาละโภชนา
    วิกาละโภชนา อาคัจฉันติปิยังมะมะ
    พระคาถานี้หากเราจะไปหาลาภที่ไหน ให้ภาวนาไปเถิดจะทำให้มีลาภผลดีนักแล
    คาถาตะกรุดอุปคุปต์ อุดปืน
    อุปปะ คุตโตจะมหาเถโร อุทะง อัทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะนะเมติ
    คาถาพญาเต่าเรือน(เต่ากัสโป)
    "นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะนะเมติ"9-12 จบ
    คาถาลูกกรองพรหมปัญโญ
    "นะโมพุทธายะนะมะพะทะนะเมติ"9-12 จบ
    คาถาท้าวเวสสุวรรณ
    "เวสสะ พุสะ นะมะพะทะจะภะกะสะนะเมติ"

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
    " นะเมติ "


    พระคาถาบทนี้เป็นคาถา ประจำสำนักที่ไว้ให่ศิษย์ภาวนาเวลาจะสื่อกับครูบาอาจารย์หลวงปู่ท่านเคยบอกว่าเราภาวนา นะเมตินี้หนาสะเทือนขึ้นไปถึงพรหมโลก หมายถึง นะเมตินี้ถ้าเราภาวนาจะสื่อไปถึงสุดแดนครูบาอาจารย์ผู้สถิตย์อยู่บนชั้นพรหมโลกและความหมายของ นะเมตินี้หลวงปู่ท่านบอกว่าหมายถึง รสน้ำนมแม่พระธรณีย์ คืออาหาร พืชพันธุ์ ข้าวน้ำต่าง ๆ ที่เลี้ยงดูทุก สรรพชีวิต อย่างไม่ลำเอียง ใครจะปลูก ใครจะหว่านใครจะเก็บเกี่ยว เอาไปกินไม่ว่า คนหรือสัตว์ ไม่ว่าคนรวยหรือคนจน พระสงฆ์ เณร ชีหรือ อลัชชี มหาโจร คนต่ำทราม แม่พระธรณีย์ก็ไม่เคยรังเกียจมีคุณให้การเลี้ยงดูเท่ากันหมด แล้วแต่ใครจะเก็บเกี่ยวใช้สอยได้มากเท่าใด นะเมติรสน้ำนมแม่พระธรณีย์ นี้จึงเปรียบเหมือนคุณครูบาอาจารย์ที่ไม่เคยรังเกียจเดียจฉันท์ ลูกศิษย์คนใด ที่เคารพนับถือ หลวงปู่ ฯท่านถึงไม่เคยดุด่าว่ากล่าวลูกศิษย์คนไหน ก็ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา หนักแน่นเยือกเย็นดั่งคุณของพระแม่ธรณีย์นั่นเอง



    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]







    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2011
  9. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ
    *********************************************************************
    ประกาศงานบุญ " ทอดผ้าป่าสามัคคี " สุสานทุ่งมน

    ขอเชิญศิษยานุสิทธิ์ของ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ณ สุสานทุ่งมน ตาบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๔

    เพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินเพิ่มเติมและทำการถมที่ที่ซื้อแล้ว สำหรับเป็นที่สร้างปราสาทฆติกามหาพรหม และปราสาทพระเจ้า ๕ พระองค์ พร้อมกับที่พักของผู้มาปฎิบัตธรรม และเสนาสนะต่างๆ ภายในสุสานที่คั่งค้างให้แล้วเสร็จ

    จึงขอเรียนเชิญพุทธศาสนิกชนอละศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีโดยพร้อมเพรียงกัน โดยตั้งเป็นกองผ้าป่าสามัคคี กองละ ๒,๗๐๐ บาท

    1.ร่วมทำบุญผ้าป่าสามัคคี กองละ ๒,๗๐๐ บาท
    -ได้รับพระพิฆเนศ หรือพระแม่โพสพ ขนาด ๕ นิ้ว จำนวน ๑ องค์
    -ได้รับพระพิฆเนศ หรือพระแม่โพสพ องค์เล็ก จำนวน ๒๗ องค์
    2.ร่วมทำบุญ ๑,๐๐๐ บาท
    -ได้รับล็อคเก๊ตบรมครูฉากทอง บรรจุผงวิเศษ จำนวน ๑ องค์
    3.ร่วมทำบุญ ๖๐๐ บาท
    -ได้รับตะกรุด (โทรสอบถามที่สุสาน ) อุดผงวิเศษ จำนวน ๑ ดอก
    4.ร่วมทำบุญ ๖๐๐ บาท
    -ไดรับตะกรุด(โทรสอบถามที่สุสาน ) จำนวน ๑ ดอก
    5.ร่วมทำบุญ ๕๐๐ บาท
    -ไดรับย่าม ( โทรสอบถามที่สุสาน ) จำนวน ๑ ใบ

    6.ร่วมทำบุญ ๑๐๐ บาท
    -ได้รับพระพิฆเนศ หรือพระแม่โพสพ องค์เล็ก จำนวน ๑ องค์



    อนิสงค์ที่ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันทำในครั้งนี้ ขอบุญกุศลนี้จงเป็นปัจจัยให้ท่านมีความเจริญรุ่งเรือง ทั้งทางโลกและทางธรรม และได้เข้าถึงพระนิพพานเป็นที่สุด สาธุ

    หากท่านใดสนใจร่วมทำบุญ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สุสานทุ่งมน ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

    โทร 089-9999882 ( หลวงพี่หนึ่ง )
    โทร 086-0647992 ( หลวงพี่โทน )
    โทร 081-0751810 ( คุณเสก )
    โทร 086-1413175 ( คุณบูลย์ )
    โทร 082-1556845 ( คุณนิ่มนวล )
    โทร 085-2614097 ( คุณสมควร )


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG]
























    </FIELDSET>
    1.ร่วมทำบุญผ้าป่าสามัคคี กองละ ๒,๗๐๐ บาท
    -ได้รับพระพิฆเนศ ขนาด ๕ นิ้ว จำนวน ๑ องค์<!-- google_ad_section_end -->


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG]</FIELDSET>

    1.ร่วมทำบุญผ้าป่าสามัคคี กองละ ๒,๗๐๐ บาท
    -ได้รับพระแม่โพสพ ขนาด ๕ นิ้ว จำนวน ๑ องค์<!-- google_ad_section_end -->


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG]</FIELDSET>

    6.ร่วมทำบุญ ๑๐๐ บาท
    -ได้รับพระพิฆเนศ องค์เล็ก จำนวน ๑ องค์<!-- google_ad_section_end -->


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]</FIELDSET>
    6.ร่วมทำบุญ ๑๐๐ บาท
    -ได้รับพระแม่โพสพ องค์เล็ก จำนวน ๑ องค์<!-- google_ad_section_end -->


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG] </FIELDSET>
    สถานที่ติดต่อขอรับซองผ้าป่าในกรุงเทพมหานครครับ
    1.ร้านมาลีซีคอนสแควร์ 081-8674503
    2.ร้านชินบารมี ทุกสาขา 081-3232915
    3.ธนภัทรพระเครื่อง(บิ๊กซีติวานนท์) 089-6793839
    4.นพรัตน์พระเครื่อง(ไอทีสแควร์หลักสี่)084-0255369
    5.คุณขวัญ เมืองเอก 089-7724287
    6.คุณชญาดา(การไฟฟ้าวัดเลียบสะพานพุทธ) 085-9222432
    7.คุณอิ๋ว โรงเรียนวัดอัมพวา บางกอกน้อย 081-6124054
    8.คลังพระเครื่องพาต้าปิ่นเกล้า 089-7708895
    จังหวัดชลบุรี
    1.คุณอนันต์ (ศรีราชา)080-1034173
    จังหวัดลพบุรี
    1.คุณราชวัฒน์086-5063054
    หาดใหญ่
    1.สินเด่นพระเครื่อง 088-0812168<!-- google_ad_section_end -->

    อนุโมทนาบุญครับ

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ

    ******************************************************

    ประกาศงานบุญ " ร่วมบริจาค สร้างกำแพง รอบสุสาน" สุสานทุ่งมน
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อริยมุนี
    ขอเชิญศิษยานุศิษของหลวงปู่ ร่วมบริจาค สร้างกำแพง รอบสุสาน โดยบริจาคทำบุญ ช่องละ 6000 บาท
    จะใด้รับรูปหล่อหลวงปู่องค์ใหญ่ปางมหาโพธิสัตขนาดบูชา 7 นิ้ว 1องค์
    และใด้สลักชื่อ ตัวเองพร้อมกับครอบครัว เช่น ชื่อ นาย ปฏิพัต ริวัฒนา และครอบครัว เป็นต้น
    ไว้ที่กำแพงเป็นที่ระลึก
    รูปหล่อรุ่นนี้เป็นรูปที่หลวงปุ่นั่งบนพญางูคาบเพรช
    สารพัดนึก ถ้อสนใจร่วมทำบุญ

    โทรสอบถามใด้ที่สุสานทุ่งมน 081-0751810 อริยมุนี

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

    [​IMG]


    อนุโมทนาบุญครับ

    ศิษย์มีครู

    นะเมติ นะเมติ นะเมติ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2011
  10. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ


    เรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญบูชาวัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ


    รุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ "






    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=SvUZG0STLKQ"]YouTube - หลวงปู่หงษ์ รุ่นฉลองมงคล93 ภาค1[/ame]



    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=rvoUpKd34AA"]YouTube - หลวงปู่หงษ์ รุ่นฉลองมงคล93 ภาค2[/ame]




    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=7c7Op5VhDms"]YouTube - หลวงปู่หงษ์ รุ่นฉลองมงคล93 ภาค3[/ame]


    เบอร์โทรติดต่อ

    คุณธนวัตร 087-5539408
    คุณสุวัฒน์ 081-8374617
    คุณวุฒิ 087-0267111

    อนุโมทนาบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    ศิษย์มีครู

    นะเมติ นะเมติ นะเมติ

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    <!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1001.jpg
      1001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.7 KB
      เปิดดู:
      690
    • 1002.jpg
      1002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.8 KB
      เปิดดู:
      690
    • 1003.jpg
      1003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10 KB
      เปิดดู:
      711
    • 1004.JPG
      1004.JPG
      ขนาดไฟล์:
      8.9 KB
      เปิดดู:
      631
    • 1005.jpg
      1005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      179.2 KB
      เปิดดู:
      639
    • 1006.JPG
      1006.JPG
      ขนาดไฟล์:
      9.9 KB
      เปิดดู:
      637
    • 1007.JPG
      1007.JPG
      ขนาดไฟล์:
      8.9 KB
      เปิดดู:
      600
    • 1008.jpg
      1008.jpg
      ขนาดไฟล์:
      170.3 KB
      เปิดดู:
      766
    • 1009.JPG
      1009.JPG
      ขนาดไฟล์:
      9.9 KB
      เปิดดู:
      627
    • 1010.JPG
      1010.JPG
      ขนาดไฟล์:
      10.4 KB
      เปิดดู:
      619
    • 1011.jpg
      1011.jpg
      ขนาดไฟล์:
      183.9 KB
      เปิดดู:
      695
    • 1012.jpg
      1012.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153 KB
      เปิดดู:
      683
    • 1013.JPG
      1013.JPG
      ขนาดไฟล์:
      9.7 KB
      เปิดดู:
      648
    • 1014.jpg
      1014.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111 KB
      เปิดดู:
      614
    • 1015.JPG
      1015.JPG
      ขนาดไฟล์:
      5.9 KB
      เปิดดู:
      621
    • 1016.JPG
      1016.JPG
      ขนาดไฟล์:
      8.5 KB
      เปิดดู:
      635
    • 1017.jpg
      1017.jpg
      ขนาดไฟล์:
      123.7 KB
      เปิดดู:
      696
    • 1018.jpg
      1018.jpg
      ขนาดไฟล์:
      133.4 KB
      เปิดดู:
      612
    • 1019.jpg
      1019.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.5 KB
      เปิดดู:
      729
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2011
  11. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    มารายงานตัวครับ
    ตั้ม เชียงใหม่ หาตั้งนาน มาอยู่กันที่นี่เอง
    ผู้ที่ไม่สมัครสมาชิกพรีเมี่ยม สามารถแสดงความเห็นได้อย่างเดียว
    ห้ามบอกบุญ เช่นกฐิน ผ้าป่า
    หรือซื้อ เช่า ขาย วัตถุมงคล ทุกรูปแบบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2011
  12. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ

    *************************************************************************************
    ประวัติการจัดสร้างวัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

    รุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ "


    ลป.ท่านเคยให้โอวาทกับทางคณะผู้จัดสร้างไว้ หลายครั้งด้วยกัน เพื่อให้เป็นหลักยึดและกำลังใจในการจัดสร้างว่า


    "ทุกๆอย่างหากเราตั้งใจทำ ทำดี งานอะไรก็สำเร็จ บางคนก็ชอบ บางคนไม่ชอบเขาจะว่าก็ช่างเขา ไม่ต้องไปสนใจ หลายคนอยากทำแต่ทำไม่ได้ เขาก็อิจฉาเจตนาไม่ดี เทวดาไม่ช่วย จึงทำไม่สำเร็จ แต่ลูกๆทำไม่เป็น ไม่เป็นไร เจตนาดีบริสุทธิ์ ครูบาอาจารย์ คอยช่วยเหลืออยู่ ก็ดีใจด้วย ที่ทำสำเร็จ ทำได้ดีแล้ว ให้ทำต่อไป"

    "เหนื่อยนักก็พัก ตื่นมาก็ทำต่อ ๆไป ก็สำเร็จ"

    "ตาอยู่ส่วนตา หูอยู่ส่วนหู ใจอยู่ส่วนใจ ปากอยู่ส่วนปาก
    ให้เราคิดเสมอว่าเราทำอะไรก็พอแล้ว ให้ตั้งมั่นเอาไว้"

    "ของอย่างนี้ ใครจะคิด ใครจะพูด ก็ได้ ห้ามไม่ได้ ทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวเราเองนั้นแหละว่าดีหรือไม่ ถูกหรือไม่ ที่ทำอยู่ดีหรือไม่นั้น ครูบาอาจารย์ เทวดาจะตัดสินเอง ไม่ต้องกลัว"

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ<!-- google_ad_section_end -->

    *************************************************************************************
    วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม 2553
    คณะศิษย์เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ เพื่อขอโอวาทจากหลวงปู่ ในการจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น “ ฉลองมงคล ๙๓ ) ซึ่งหลวงปู่เมตตาเซ็นต์หนังสืออนุญาติให้จัดสร้าง เมตตาจารแผ่นชนวน และหาที่สุดไม่ได้คือ หลวงปู่ท่านเมตตาลงมานั่งตรงห้องโถงเพื่อให้ถ่ายรูปเป็นแบบในการสร้างพระบูชารูปเหมือนหลวงปู่ 12 นิ้ว ซึ่งหลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้ว หลวงปู่ได้สนธนาธรรม และเมตตาอธิบายถึงขั้นตอนของงานต่างๆ
    [​IMG]

    วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2553
    คณะศิษย์เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ เพื่อนำตัวอย่าง และแบบปั้น วัตถุมงคล รุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ " ให้หลวงปู่พิจารณาแบบ พระบูชาหลวงปู่ 12 นิ้ว พระยอดขุนพล 3 นิ้ว เหรียญเสมา รูปเหมือนปั๊มชิด ซึ่งหลังจากที่หลวงปู่พิจาณาแล้ว เห็นว่ายังคงต้องมีการปรับปรุงแก้ไขบางส่วนเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วถือว่าดี หลังจากนั้นหลวงปู่จึงได้เมตตาอธิฐานจิตให้เป็นปฐมฤกษ์ และอวยพรให้กับทางคณะศิษย์ ให้สร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาดีที่สุด อย่างที่ตั้งใจไว้
    [​IMG]

    วันเสาร์ที่ 4 กันยายน 2553
    คณะศิษย์เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ เพื่อขอเมตตากราบเรียนถาม และขอคำปรึกษาถึง ฤกษ์และเวลาเททอง พระรูปเหมือนหลวงปู่ ขนาด 12 นิ้ว และพระยอดขุนพล ขนาด 3 นิ้ว รวมถึง วัน-เวลา พิธีปลุกเสกอธิฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล " ฉลองมงคล ๙๓ " ซึ่งในครั้งนี้ทางคณะศิษย์ได้นำชนวนมวลสารทั้งหมดที่ใช้ในการจัดสร้างมาให้หลวงปู่เมตตาอธิฐานจิตให้ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ได้เมตตาอธิฐานจิต พลีมวลสาร และปลุกเสกชนวนทั้งหมด เพื่อบอกกล่าวถึงครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่อยู่ในมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด และคณะศิษย์ได้นำแบบเหรียญเสมา และแบบรูปเหมือนปั๊มชิด ให้หลวงปู่พิจารณาแบบและยันต์ด้านหลังเหรียญ หลังจากที่หลวงปู่พิจาณาแล้ว ท่านพอใจรูปแบบเหรียญเป็นอย่างมาก ซึ่งหลวงปู่ได้กำหนดฤกษ์ไว้คือ
    พิธีฤกษ์เททอง วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน 2553 เวลา 12.01-13.30 น.
    พีธีปลุกเสกอธิฐานจิต วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายา 2553
    [​IMG]
    <LEGEND></LEGEND>

    วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน 2553
    คณะศิษย์เดินทางไปทำพีธีเททองพระบูชาหลวงปู่ 12 นิ้ว พระยอดขุนพล 3 นิ้ว โดยได้จัดพีธีบวงสรวงทั้งพิธีพราหมณ์ และพิธีสงฆ์ ซึ่งทางลูกศิษย์ที่เคารพและศรัทธาในองค์หลวงปู่ที่มาร่วมงาน ต่างก็ได้ช่วยกันนิมนต์พระอาจารย์มาร่วมอธิฐานจิตในครั้งนี้ ดังมีรายนามต่อไปนี้
    1.หลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน วัดตาล จังหวัดนนทบุรี เป็นประธานเทททอง
    2.พระอาจารย์อภิสิทธิ์ อภิญญาโณ วัดยานนาวา จังหวัดกรุงเทพ
    3.พระอาจารย์สมพงษ์ สมจิตโต วัดท่าเสา จังหวัดสมุทรสาคร
    4.พระอาจารย์เอราวัณ พุทธอุทยานธรรมโกศล จังหวัดปทุมธานี
    ช่วงเช้าเวลา 09.00 น. เป็นพีธีบวงสรวง
    ช่วงบ่ายเวลา 12.19-13.19 เป็นพิธีเททอง

    [​IMG] [​IMG]

    วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553
    คณะศิษย์เดินทางไปทำพีธี อุดชนวนใต้ฐาน พระลีลา พระบูชาหลวงปู่ 12 นิ้ว พระยอดขุนพล 3 นิ้ว ซึ่งช่วงเช้าทำพีธีบวงสรวง และตอกโค๊ดพระ ส่านตอนช่วงบ่ายก็ช่วยกันอุดมวลสารใต้องค์พระครับ งานนี้พวกพี่ๆน้องๆมาช่วยกันทำงานบุญถวายให้หลวงปู่กันหลายท่าน บางท่านก็ช่วยกันนำชนวนมวลสารมาอุดให้เพิ่มอีกเยอะมากๆ ซึ่งเป็นสุดยอดมวลสารทั้งนั้นเลยครับ เป็นของมงคลทั้งนั้นเลย ของบางอย่างหายากมากๆ ซึ่งทุกคนต่างก็มาช่วยกันทำงานนี้ด้วยแรงศรัทธาในองค์หลวงปู่หงษ์ ปฐมบรมครูของพวกเราทุกๆคน ซึ่งตอนช่วงบ่ายที่จะเริ่มอุดของมงคลใต้ฐานองค์พระ ตอนนั้นแสงแดดจัดมาก แต่ขณะที่เริ่มอุดของมงคลใต้ฐานพระ ทันใดนั้นแสดงแดดก็เริ่มอ่อนลง และเริ่มมีฝนตกลงมาปรอยๆ เหมือนกับว่าองค์ครูบาอาจารย์ท่านรับรู้ และท่านลงมาช่วยประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ ซักพักฝนก็หยุดตก และพีธีการอุดใต้ฐานพระก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ( ซึ่งในวันที่นำพระไปให้หลวงปู่อธิฐานจิต ได้กราบนมัสการเมตตาสอบถามหลวงปู่ในเรื่องดังกล่าว หลวงปู่เมตตาตอบว่า เทวดาท่านลงมาช่วย )
    [​IMG] [​IMG]
    <LEGEND></LEGEND>

    วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน 2553
    คณะศิษย์เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ ตั้งแต่วันที่ 16 เพื่อขอเมตตาหลวงปู่อธิฐานจิตปลุกเสก วัตถุมงคล รุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ " พอไปถึงทาง ทางคณะศิษย์ได้นำพระรูปหล่อหลวงปู่ 12 นิ้ว พระยอดขุนพล และพระนำฤกษ์ปางลีลา รวมถึงล็อดเก๊ต ที่ทำสำเร็จแล้ว ให้หลวงปู่พิจารณา " หลวงปู่กล่าวว่า ทุกอย่างทำได้ดีมากๆ ไม่ค่อยมีคนเขาทำกันแล้ว แก้แล้วแก้อีก กว่าจะได้ สร้างพระทำของดีๆ นั้นมีบุญมาก คนเขานำไปบูชา เรายิ่งได้บุญมาก" ซึ่งทางคณะศิษย์เองก็งงครับ เพราะว่าทางคณะศิษย์ผู้สร้างยังไม่ได้ทันกราบเรียนบอกเรื่องดังกล่าวให้หลวงปู่ทราบเลยครับ ว่าทุกอย่างกว่าจะแล้วเสร็จก็ใช้เวลากว่า 6 เดือน แก้แล้วแก้อีกกว่าจะลงตัว และเหรียญเสมา กับรูปเหมือนปั๊มชิด ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ลูกศิษย์หลายท่านได้แต่อ้าปากค้าง มองหน้ากันปริบๆ
    หลังจากนั้น หลวงปู่แจ้งว่า ตอนหัวค่ำวันที่ 17 ให้จัดเตรียมประรำพิธีเสียแต่เนิ่นๆ เพราะว่าพรุ่งนี้ ( วันที่ 18 ) หลวงปุ่มีกิจนิมนต์ที่ วัดสะพานหัน เวลา ตี 4
    ทางคณะศิษย์จึงได้จัดประรำพีธี พร้อมจัดเตรียมวัตถุมงคลทั้งหมดแล้วจนแล้วเสร็จ ตั้งแต่เวลาประมาณเวลา 21.00 น. ของคืนวันที่ 17 และหลวงปู่ให้โยงสายสินธุ์เข้าไปในห้องที่หลวงปู่ใช้จำวัด ซึ่งทราบภายหลังว่าหลวงปู่ได้เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลทั้งหมดให้ในห้องที่หลวงปู่ใช้จำวัดแล้ว โดยหลวงปู่เริ่มอธิฐานจิตปลุกเสกตั้งแต่เวลาประมาณ 23.30 ของคืนวันที่ 17 จนถึงเวลาประมาณ 02.20 น. ของวันที่ 18 รวมเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง นับว่าเป็นความเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งหลังจากที่หลวงปู่อธิฐานจิตปลุกเสกเสร็จแล้ว ท่านได้ออกมาจากที่ห้องท่านจำวัด ซึ่งประโยคแรกที่ได้ยินจากหลวงปุ่คือ " ดีมากมาก "
    หลังจากนั้นทางคณะศิษย์จึงถวายค่าขันครู ตามธรรมเนียมโบราณ และคณะศิษย์ได้น้อมถวายรูปหล่อพระบูชาองค์ครู ขนาด 12 นิ้ว แด่องค์หลวงปู่หงษ์
    ซึ่งพระบูชาทั้งหมด ทางคณะศิษย์ไม่ได้นำกลับ ยังคงเก็บไว้ที่ สุสานทุ่งมน โดยโยงสายสินธุ์ไปยังห้องที่หลวงปู่จำวัด เพื่อให้หลวงปู่เมตตาอธิฐานจิตต่อจากนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเหรียญเสมา และรูปเหมือนปั๊มชิด จะแล้วเสร็จ และทางคณะศิษย์จะนิมนต์หลวงปู่ ให้เมตตาทำพีธีอธิฐานจิตอีกวาระหนึ่ง พร้อมกับเหรียญเสมา และรูปเหมือนปั๊มชิด (ที่ยังไม่แล้วเสร็จ) ที่เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุมลคลที่อยู่ใน รุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ " อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางคณะศิษย์ได้กราบถวายความคืบหน้าให้หลวงปู่ทราบแล้ว
    [​IMG]

    <O:p</O:p

    วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2554
    คณะศิษย์เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ เพื่อกราบนิมนต์ขอเมตตาจากองค์หลวงปู่ เพื่อทำพีธีอธิฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล เหรียญเสมา และรูปเหมือนปั๊มชิด ในรุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ " ซึ่งพึ่งแล้วเสร็จ ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2554 ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 2 หลังจากนั้นทางคณะได้แจ้งความคืบหน้าในการจัดสร้างให้หลวงปู่ทราบ และได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่เป็นเวลาอันสมควร ทางทีมงานจึงได้กราบนมัสการลาหลวงปู่ ซึ่งการมากราบหลวงปู่ในครั้งนี้ ดูหลวงปู่มีธาตุขันธ์ที่แข็งแรงดีครับ
    [​IMG]

    วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2554
    คณะศิษย์เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่ เพื่อขอเมตตาจากหลวงปู่เพื่ออธิฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล เหรียญเสมา และรูปเหมือนปั๊มชิด ซึ่งเป็นวัตถุมงคลส่วนหนึ่งใน รุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ " ซึ่งวัตถุมงคลดังกล่าวพึ่งแล้วเสร็จ ทำให้ ไม่ทันเข้าพิธีอธิฐานจิตปลุกเสกวาระแรก เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 พร้อมกับ พระลีลา พระบูชาหลวงปู่ 12 นิ้ว พระยอดขุนพล 3 นิ้ว และล็อกเก๊ต ซึ่งทางคณะผู้สร้างจึงนำมาให้หลวงปู่ทำพีธีอธิฐานจิตในวันนี้ เนื่องจากทางคณะได้มากราบนมัสการขอนิมนต์หลวงปู่เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสกไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2554 แล้ว ซึ่งก่อนวันพีธีอธิฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล คือวันที่ 12 มกราคม 2554 หลวงปู่มีอาการอาพาธไม่ได้ออกมาโปรดศิษย์เลย พอตอนหัวค่ำได้มีนายแพทย์ที่โรงพยาบาลมาดูอาการหลวงปู่ ทางคณะจึงรอดูอาการของหลวงปู่จนถึงเช้าวันที่ 13 มกราคม 2553 พอประมาณ 03.30 น. ทางลูกศิษย์ใกล้ชิดที่คอยดูแลหลวงปู่ ได้ออกมาแจ้งข่าวว่า หลวงปู่ท่านทรงมีธาตุขันธ์ที่แข็งแรงขึ้น และท่านจะออกมาโปรดศิษย์ ซึ่งเช้านี้มีลูกศิษย์ที่มากราบหลวงปู่หลายคณะ ประมาณเกือบ 100 คน ทางคณะศิษย์จึงได้แก้ปัญหา โดยได้จัดเตรียมวัตถุมงคล ที่จะให้หลวงปู่เมตตาอธิฐานปลุกเสกให้ โดยโยงสายสินธุ์จากวัตถุมงคล และคณะศิษย์ได้จัดขันแปดให้หลวงปู่ เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสก จนเสร็จพีธี หลังจากนั้นทางคณะศิษย์ได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่ กราบเรียนถวายแจ้งความคืบหน้าของวัตถุมลคล รุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ " ให้หลวงปู่ทราบพอสมควร เนื่องจากหลวงปู่ยังมีอาการอาพาธอยู่ จึงนั่งโปรดศิษย์ได้ไม่คอยนาน หลังจากนั้นทางคณะจึงได้กราบนมัสการลาหลวงปู่
    พอช่วงบ่ายทางคณะได้ นำวัตถุมงคล รุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ " เดินทางไปที่ วัดบ้านกรวด เพื่อนำวัตถุมงคล รุ่น " ฉลองมงคล ๙๓ " ขอเมตตาจาก หลวงปู่ผาด ซึ่งเป็นพระสหธรรมมิกกับหลวงปู่หงษ์ อธิฐานจิตปลุกเสกให้อีกหนึ่งวาระครับ
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]







    *************************************************************************************
    คำขอบคุณจากทีมงาน " ฉลองมงคล ๙๓ "

    ทางทีมงานจะเริ่มทยอยแจกจ่ายวัตถุมงคล สำหรับผู้สั่งจอง หลังวันที่ 20 มกราคม 2554 เป็นต้นไป ตอนนี้กำลังรอบรรจุใส่กล่องและนับจำนวนให้เรียบร้อย โปรดอดใจรออีกนิดครับ สำหรับพระบูชาท่านที่สั่งจองเอาไว้ รบกวนติดต่อทีมงานด้วยครับ เพื่อนัดแนะการจัดส่ง วันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ทางทีมงาน ได้ทำการถวายพระบูชาที่เหลือจากการสั่งจองให้แก่ทางสุสานทุ่งมนไปแล้ว ประมาณ 400,000 บาท (ไม่ได้หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น) หลังจากนี้จะถวายปัจจัยและเหรียญต่างๆ-หล่อตัดชิด เพื่อให้เป็นรายได้แก่ทางสุสานทุ่งมน เพื่อที่หลวงปู่จะได้มีปัจจัยในการซื้อที่ดินเพิ่มเติม - ถมที่ - สร้างปราสาทพระเจ้าห้าพระองค์ รวมแล้วเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

    ต้องขออนุโมทนาบุญผู้ใจบุญทุกท่าน - รวมถึงลูกศิษย์ลูกหาเก่าๆ ของหลวงปู่ - โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่าน ร ม ต หลายท่านที่สนับสนุนมาโดยตลอดแต่มิประสงค์เอ่ยนาม ท่านผู้ว่า- ท่านผู้พิพากษา -อัยการจังหวัด -คุณหมอ -ท่านเจ้าสัว -ceo บริษัทต่างๆ และกราบนมัสการพระเดชพระคุณเจ้าด้วยนะครับที่สนับสนุนทีมงานนะเมติ สปิริตทีมมาโดยตลอด งานนี้คงจะยากที่จะสำเร็จหากมิได้ทุกท่านเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนด้วยดีเสมอมา บางท่านก็พยายามบอกบุญต่อ ไปเรื่อย ทราบว่าตอนนี้แม้แต่คนญี่ปุ่นก็ยังบินมาเมืองไทย แล้วร่วมสนับสนุนการทำบุญต่างๆของหลวงปู่ ก็รู้สึกดีใจ มากๆครับ หลังจากที่ได้ช่วยกันบอกบุญไปเรื่อย ในช่วง 1 เดือนกว่าที่ผ่านมาก็ช่วยๆกันบอกบุญ และโอนปัจจัยเข้าบัญชีให้หลวงปู่เพื่อค่ารักษาพยาบาล รวมแล้วกว่า 300,000 บาท ขอบคุณมากๆครับช่วยๆกัน
    อนุโมทนาบุญครับ

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
    [​IMG][​IMG][​IMG]


    </LEGEND>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2011
  13. พนมมาลัย

    พนมมาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +173
    สวัสดีครับ แวะเข้ามาดูครับ
     
  14. ปูเชมิ

    ปูเชมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +173
    มีรายละเอียดบัญชีธนาคาร หรือธนาณัติที่จะให้โอนเงินไปร่วมทำบุญไม๊
     
  15. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ


    ขอเชิญร่วมทำบุญถวายค่ารักษาพยาบาลหลวงปู่ครับ

    ชื่อบัญชี กองทุนค่ารักษาพยาบาลหลวงปู่หงษ์
    ภายใต้ชื่อ พระถวิล อภิวฒฑโณ - นายเสกสรร พรหมนุช -
    นางสาว สมยศ (หลานหลวงปู่)

    ธนาคาร ไทยพาณิชย์ 959-2044792 (สาขาย่อยปราสาท)




    ส่วนสถานที่ติดต่อขอรับซองผ้าป่าในกรุงเทพมหานครครับ

    1.ร้านมาลีซีคอนสแควร์ 0818674503
    2.ร้านชินบารมี ทุกสาขา 0813232915
    3.ธนภัทรพระเครื่อง(บิ๊กซีติวานนท์) 0896793839
    4.นพรัตน์พระเครื่อง(ไอทีสแควร์หลักสี่)0840255369
    5.คุณขวัญ เมืองเอก 0897724287
    6.คุณชญาดา(การไฟฟ้าวัดเลียบสะพานพุทธ) 0859222432
    7.คุณอิ๋ว โรงเรียนวัดอัมพวา บางกอกน้อย 0816124054
    8.คลังพระเครื่องพาต้าปิ่นเกล้า 0897708895
    จังหวัดชลบุรี
    1.คุณอนันต์ (ศรีราชา)0801034173
    จังหวัดลพบุรี
    1.คุณราชวัฒน์0865063054
    หาดใหญ่
    1.สินเด่นพระเครื่อง 0880812168<!-- google_ad_section_end -->


    อนุโมทนาบุญครับ

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2011
  16. ejob

    ejob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +366
  17. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216
    ขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
    พอดีผมมีตระกรุดน้ำเหลือพร้อมซองเดิมๆจากวัดและรายการอื่นๆอีกหลายรายการผู้สนใจติดต่อทาง PM นะครับ

    ด้วยความเคารพ
    อ๋อง
     
  18. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    มารายงานตัวครับ
    ตั้ม เชียงใหม่ หาตั้งนาน มาอยู่กันที่นี่เอง
    ผู้ที่ไม่สมัครสมาชิกพรีเมี่ยม สามารถแสดงความเห็นได้อย่างเดียว
    ห้ามบอกบุญ เช่นกฐิน ผ้าป่า
    หรือซื้อ เช่า ขาย วัตถุมงคล ทุกรูปแบบ

    ****************************************************************************************

    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ


    สวัสดีครับคุณตั้ม
    ****************************************************
    ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก Premium แต่โฆษณาให้บูชาวัตถุมงคล จะถูกแบนอย่างน้อย สองเดือน-ถาวร<!-- google_ad_section_end -->

    เพื่อความเรียบร้อยเมื่อพบเห็นหรือได้รับแจ้งสมาชิกที่ไม่ใช่สมาชิก Premium ตั้งกระทู้ หรือโพสต์ในกระทู้เพืี่อน ๆ โฆษณาให้เช่าบูชาวัตถุมงคล เช่นบอกราคาค่าเช่า สถานที่เช่า เป็นต้น ฯลฯ

    เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อพบเห็นหรือได้รับแจ้ง จะพิจารณาแบนตั้งแต่สองเดือนขึ้นไป - แบนถาวร ทันที
    ฉะนั้นขอความร่วมมืออย่างเอาใจใส่ขอให้สมาชิกเอื้อเฟื้อและอยู่ในระเบียบด้วยกันโดยสมัครสมาชิก Premium ให้เรียบร้อย
    หรือไม่ใช่สมาชิก Premium ไม่ควรโพสต์โฆษณาที่ห้องพระเครื่องและวัตถุมงคล ควรโพสต์ที่ห้องประชาสัมพันธ์

    [​IMG]

    ****************************************************

    มีอีกกระทู้ที่น่าสนใจอีกหนึ่งกระทู้ครับ คลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ


    http://palungjit.org/threads/★-ศูนย์ศรัทธาเสวนาภาษาศิษย์-หลวงปู่หงษ์-พรหมปัญโญ-สุสานทุ่งมน.279019/



    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2011
  19. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ



    คำสอนของ หลวงปู่หงษ์<!-- google_ad_section_end -->

    คำสอน ลป.หงษ์



    [​IMG]

    [​IMG][​IMG][​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->"การปล่อยวาง คือ หลักสำคัญของการปฏิบัติธรรม"<!-- google_ad_section_end -->


    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คชบุตร : 09-02-2011 เมื่อ 06:56 PM





    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]




    </FIELDSET>
    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2011
  20. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ

    เรียนคุณดู๋ดี๋
    ต้องขอขอบคุณกับเป็นอย่างมากเลยครับที่เป็นผู้เปิดกระทู้ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ เป็นคนแรกในเว็บพลังจิตซึ่งเป็นที่รวมติดตามข่าวสารของหลวงปู่ของลูกศิษย์ของหลวงปู่ทุกคนและก็ทำให้มีผู้ที่ศรัทธามาเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มากขึ้นซึ่งส่วนตัวผมเองตลอดเวลาที่ คุณดู๋ดี๋เปิดกระทู้นี้ขึ้นมา ผมก็เข้ามาดูและโพสในกระทู้นี้เกือบทุกวันและก็คงมีอีกหลายๆคนที่เป็นแบบผมทำให้ผู้ที่เข้ามาโพสพูดคุยกัน รู้จักกันแม้นบางครั้งยังไม่เคยเห็นหน้ากันเลยก็มีซึ่งเป็นการน่าเสียดายมากครับที่กระทู้นี้ดีๆแบบนี้ได้ถูกปิดกระทู้ลง
    ซึ่งตั้งแต่เปิดกระทู้มามีคนเข้ามาโพสกันอย่างมากมายและเข้ามาดูแสนกว่ากระทู้ซึ่งข้อมูลต่างๆ ที่มีผู้เข้ามา
    โพส ผมจะพยายามเก็บมารวมในกระทู้ที่เปิดใหม่ให้มากที่สุดครับก่อนที่กระทู้จะถูกลบและถูกเก็บครับ

    ( ตอนนี้ได้ SAVE ข้อมูลในกระทู้ของคุณ ดู๋ดี๋ ตั้งแต่หน้าที่ 1-106 มาไว้ในกระทู้นี้
    อยู่ประมาณหน้าที่ 2-7 ครับ แต่เข้าไปดูแล้วเน็ตอาจจะช้าลงครับ )

    ขอบคุณมากๆครับ
    อนุโมทนาบุญครับ

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
    ********************************************************************************

    เรียนทุกท่านทราบครับ ถ้าจะเข้าไปอ่านกระทู้ที่แอัพเดท
    เข้าไปเปิดอ่านหน้าที่ 1 หรือ หน้าที่ 8 เป็นต้นไปได้เลยครับ

    ส่วนตั้งแต่หน้า 2-7 ยกจากกระทู้เก่ามาให้อ่านครับ
    และเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลครับ เผื่อกระทู้โดนลบหรือถูกเก็บโดย เว็บบอร์ด ครับ
    แต่ถ้าเข้าไปอ่านเครื่องคอมอาจจะช้าครับ( กระทู้เก่าหน้า 1-106 ครับ)

    ***ถ้าผู้สนใจดูกระทู้เก่าคลิ๊กได้ที่นี่เลยครับ***

    999 ประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ 999


    อนุโมทนาบุญครับ

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...