ในเว็บนี้มีใครปรารถนาพุทธภูมิบ้าง

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย thanan, 23 ตุลาคม 2004.

  1. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    อืม................
    ไม่น่าจะใช่นะครับ
    ในกรณีหลวงพ่อเราๆๆๆนี้ ท่านลาแล้ว.....ท่านมองได้ไกลแค่( ไม่ถึง ) 100,000 กัปป์ เองนะครับ นอกนั้นมองไม่เห็นนะครับ
    แต่ถ้าท่านไม่ลาสิครับ แล้วบำเพ็ญต่อให้เต็ม 30 ทัศน์ เมื่อไร !! นั้นละครับ ท่านจะมองได้มีที่สิ้นสุดเลยนะครับ
    อันนี้หลวงพ่อเทศน์เองนะครับ ว่า.......มหาสาวกระลึกชาติได้แค่ 100,000 กัปป์

    ปล....ผมเองก็ศิษย์หลวงพ่อเหมือนกันนะครับ
    ผมปรารถนาแบบ ปัญญาแบบพิเศษ ครับผม
     
  2. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    แปลว่า........สูงสุดหรือยิ่งยวด ครับ
    ถ้าจะกล่าวถึงการบำเพ็ญบารมีของ องค์อนิตยหรือองค์นิตยโพธิสัตว์ ก็จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ

    ระดับที่ 1 เรียกว่า บารมีระดับธรรมดา คือ ความสามารถในการเสียสละสิ่งของที่ตัวเองเป็นเจ้าของได้ (ทะสะบารมี)
    ระดับที่ 2 เรียกว่า บารมีระดับกลาง คือ ความสามารถในการเสียสละอวัยวะของตัวเองได้ (ทะสะอุปบารมี)
    ระดับที่ 3 เรียกว่า บารมีระดับยิ่งยวด คือ ความสามารถในการเสียสละชีวิตของตัวเองได้ (ทะสะปรมัตถบารมี)
     
  3. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    โมทนากับท่านด้วยนะครับ ตอบน่ารักจังเลยครับ
     
  4. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    โมทนากับท่านด้วยนะครับ
    ขอเพิ่มนิดนะครับ
    ไม่ว่าจะเป็นแบบ ปัญญาธิกะ ศัทธาธิกะและวิริยาธิกะ บำเพ็ญสุดๆๆเหมือนกันหมดเลยนะครับ ไม่งั้นไม่เรียกว่า บารมีเต็ม 30 ทัศน์ ได้เลยนะครับ แต่ต่างกันนิดเดียวนะครับระยะเวลานะครับ
     
  5. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903
    ครับ มะเป็งไรครับ ทั้งสามเหล่าก็บำเพ็ญแบบสุดๆเหมือนกันครับ แต่ความหมายของผมคือ การรวบรวมบารมีที่เป็นปลีกย่อยต่างๆ เพื่อสัพสัตว์ในยุคศาสนาของท่าน เช่น ในเหล่า ปัญญาธิกะ ก็บำเพ็ญเต็ม 30 ทัศ บริบูรณ์และยิ่งใหญ่
    ในเหล่า ศรัทธาธิกะ ก็จะรวบรวมสร้างบารมีในปลีกย่อยออกไปอีก ในยุคของพระองค์ ในเขตที่พระองค์ประกาศพระศาสนาจึงมีแต่คนที่มีบุญ(หาอ่านได้ในGoogle นะครับ)
    ส่วน เหล่า วิริยาธิกะนั้น จะเก็บรวบรวมบารมีออกไปอีกเพื่อสัพสัตว์ในยุคของพระองค์ คนในยุกนั้นจึงมีความเสมอกัน เช่น เหมือนในยุกของ พระศรีอริยะ ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 ต่อจากศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน หลัง ครบ 5,000 ปี แต่ไม่รู้อีกนานเท่าไร บางท่านอาจจะมีข้อมูลนะครับ
     
  6. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    ผมทำอะไรไม่เคยคิดมันคืออะไร
     
  7. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603

    สาธุ กราบอนุโมทนากับน้องเจ( 18 ปี) และท่านมหาพรหมราชา ด้วยนะครับ
    ก็อย่างที่น้องเขาบอกนั้นละครับ ต่างกันที่ระยะเวลานิดเดียวเอง อย่างอื่นเหมือนกันหมดเลยนะครับ
    ส่วนเรื่องที่บอกในเขตพระศาสนานะครับ ไม่ว่าในเขตพระพุทธเจ้าประเภทไหนก็จะมีเวไนยสัตว์ทั้ง ๔ วรรณะเหมือนกันหมดเลยนะครับ
    ท่านมหาพรหมราชา ลองศึกษาพุทธประวัติองค์พระทศทีปังกรพระพุทธเจ้าดูนะครับ( ท่านเป็นแบบวิริยาธิกะ ) ในเขตที่พระองค์ทรงประกาศศาสนามีเวไนยสัตว์ทุกประเภทเลยนะครับ
     
  8. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ผมเองอ่านเจอในหนังสือไตรภูมิพระร่วง พระพุทธเจ้าแต่ละประเภทโปรดสัตว์ได้เท่ากันคือ

    ๒๔ อสงไขย ๑๑,๐๐๐ โกฏิ ๑๐๐,๐๐๐ คน ​

    ผิดถูกประการใดอภัยด้วยนะครับ
     
  9. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903

    ครับขออนุโมทนา ที่ว่ามีความเสมอกัน เช่น ยุคของพระศรีอริยเมตตรัยพุทธเจ้านะครับ คือ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีวรรณะนะครับ ยุคพระศรีฯ ก็ยังมีวรรณะนะครับ และที่ท่านทั้งสองว่าแตกต่างกันเพียงแค่เวลา ก็แสดงว่าอย่างอื่นเสมอกันใช่มัยครับ ถ้าหากอย่างอื่นเสมอกันนั้น ทำไมพระพุทธเจ้าในด้าน วิริยาธิกะ ถึงมี สาวกบริวารแวดล้อมตามเสด็จที่มากกว่า มีพระรัศมีที่เป็นปกติมากกว่า มีพระชนมายุมากกว่า มีอายุพระพุทธศาสนาที่ยาวนานกว่า มีธรรมาภิสมัยที่ต่างกัน แต่พระคุณของพระพุททธเจ้ามีเท่ากันทุกพระองค์ และที่สำคัญ ถ้าหากแตกต่างกันเพียงเวลาแค่นิดเดียวอย่างที่ว่านะครับ แล้วพระโพธิสัตว์ ด้าน ศรัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ ที่ใช้เวลามากกว่าเหล่าพระโพธิสัตว์ด้านปัญญาธิกะ ถึง 20 อสงไขย์ และ 60 อสงไขย์ นั้นก็น่าคิดนะครับ ว่าทำเพื่ออะไร ...

    ความแตกต่างของพระพุทธเจ้าโดยละเอียด ตามเว็บนี้นะครับ

    http://palungjit.org/threads/พระอดีตวงศ์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้มาตรัสรู้ในอดีตกาล.76066/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2010
  10. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ใช่ครับ ทุกอย่างเท่าๆๆกันหมด
    เรื่องบริวารและรัศมี สองอันนี้ไม่รู้ครับ เพราะเป็นเรื่องพุทธวิสัย ผมไม่อาจรู้ได้
    แต่ที่รู้พระองค์มีศิษย์เอกแค่ ๘๐ องค์เท่าๆๆกันทุกๆๆพระองค์ ( อสีติมหาสาวก ๗๘ องค์ อัครมหาสาวก ๒ องค์ รวมศิษย์เอก ๘๐ องค์เท่าๆๆกันทุกๆๆพระองค์ ) อย่างอื่นผมไม่อาจรู้ได้ครับ
    เรื่องอายุของพระพุทธเจ้าและอายุศาสนา นั้นผมไม่รู้ครับ ท่านลองไปศึกษาพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์( พระกกุสันโธพุทธเจ้า พระโคนาคมพระพุทธเจ้า พระกัสสะปะพระพุทธเจ้า ทั้ง ๓ พระองค์เป็นประเภทสัทธาธิกะ ยังทรงมีพระชนม์มายุและอายุศาสนาไม่เท่ากันเลย )
    แม้แต่พระศรีอาริย์กับพระทีปีงกรพระพุทธเจ้าทรงเป็นแบบวิริยาธิกะยังมีพระชนม์มายุไม่เท่ากันเลยนะครับ
    เอาเป็นว่าสักวันหนึ่งท่านจะรู้เองนะครับ ว่าอะไรเป็นอะไรนะครับ
    เพราะเรื่องที่เราๆๆๆๆทั้งหลายคุยกันอยู่นี้เป็นเรื่องพุทธวิสัย นะครับ ( ไม่ควรคิด )
    ปล.สิ่งที่ท่านนำมาให้อ่านนะครับ ขอบคุณมากๆๆครับ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมเองอ่านมานานแล้วนะครับ และไม่เคยสงสัยเลยนะครับ
    อีกอย่างที่ท่านกล่าว ถึง ๒๐ และ ๖๐ อสงไขยนะครับ ไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ ประเด็นอยู่ที่มหากัปป์นะครับ
    เพราะ มหากัปป์ใหญ่กว่าอสงไขย น้องเจถึงได้บอกงัยครับว่าต่างแค่ระยะเวลานิดเดียว นะครับ
    1 * 10(ตามด้วยเลข 0 อีก 140 ตัว)ปี = 1 อันตรกัปป์
    64 อันตรกัปป์ = 1 อสงไขย
    4 อสงไขย = 1 มหากััปป์

    ปัญญาธิกะ ๒๐ อสงไขยกับเศษอีก ๑๐๐,๐๐๐ มหากัปป์
    สัทธาธิกะ ๔๐ อสงไขยกับเศษอีก ๑๐๐,๐๐๐ มหากัปป์
    วิริยาธิกะ ๘๐ อสงไขยกับเศษอีก ๑๐๐,๐๐๐ มหากัปป์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 กรกฎาคม 2010
  11. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เราไม่ได้ปรารถนาพุทธภูมิเลย

    เพราะไม่ได้ปรารถนาเพื่อตัวเอง


    แค่ปรารถนาจะให้ผู้อื่นได้เข้าถึงสุขที่แท้จริงมากกว่า ลั้นลาเกินไปไหม ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กันยายน 2010
  12. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เจอคำถามแบบนี้เล่นเอาเค้าเขิลลลล catt3
     
  13. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ผู้เคยปรารถนา ถึงจุดๆหนึ่งจะมีแรงเหวี่ยงให้ได้พบคำตอบและสิ่งที่อยู่ในใจทั้งหมดเอง

    ไม่เกี่ยวกับการที่จะบอกหรือไม่บอกใครว่าตนปรารถนาพุทธภูมิ ยกเว้นหน่อพุทธภูมิด้วยกันที่จะเข้าใจกันได้

    (ดีไม่ดีการบอกไป คนในบ้านจะเป็นห่วงเอาได้)

    คำตอบมีอยู่แล้ว แค่หากุญแจไขปริศนาให้เจอเท่านั้นเอง

    คนรู้จริง เขามักไม่พูด (เพราะเขาใช้โทรจิตเรียกบริวารที่ตามกันมา) อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กันยายน 2010
  14. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393


    ฮ่าๆๆๆ เจอคนจริงเข้าอีกคน
     
  15. โพธิวิถี

    โพธิวิถี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    150
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +580
    ขออนุญาติแสดงตนด้วยครับ แม้มองไม่เห็นปลายทางเลยอาศัยศรัทธาและเมตตาเป็นหลักในจิตใจมีแต่ ตรงไปเรื่องท้อมีบ้าง แต่ไม่ท้อแท้ครับ ขออนุโมทนาด้วยกับพระโพธิสัตว์อนุบาล
    ตลอดจน ถึงมหาบัณฑิตโพธิสัตว์ที่จะจบหลักสูตรได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเป็นบุญของสรพสัตว์ทั้งหลายยิ่งแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ

    โพธิวิถี
     
  16. Mhor Maow

    Mhor Maow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +836
    แค่เข้ามาดูเฉย ๆ ครับ...
    ผมก็ไม่รู้นะคับว่าผมปรารถนาพุทธภูมิหรือป่าว คือ นิสัยส่วนตัวจะไม่ชอบช่วยเหลือคนคับ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ
    แต่ก็สรุปเลยแล้วกันว่าถึงแม้ว่าผมอาจจะเคยปรารถนาพุทธภมิ หรือตั้งใจบำเพ็ญบารมีมาหลายชาติภพแล้วก็ตาม แต่ ณ ชาตินี้ตัวผมเป็นผม ผมขอยกเลิกความตั้งใจดังกล่าว ไม่ขอปรารถนาพุทธภูมิแล้วอีกต่อไป เพราะเบื่อเหลือเกินกับการเวียนว่ายตายเกิดไม่จบไม่สิ้นแบบนี้ ไม่เอาแล้วคับ ขอให้ทุกคนในนี้ช่วยเป็นพยานให้ด้วย ว่าผมไม่ต้องการแล้ว ผมอยากไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีก
    มาบ่นแค่นี้ก็พอคับ ไปแร่ะ....:cool:
     
  17. gandaan

    gandaan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +163
    ...ผู้ที่ปารถนาพุทธภูมิแล้ว ในขณะที่บารมียังไม่แก่กล้า จิตยังไม่มั่นคง เกิดเพลี้ยงพล้ำไปทำบาปเข้า จะตกนรก หรือไปอบายภูมิหรือเปล่าครับ.....
     
  18. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ไม่มีใครอยู่เหนือกฏแห่งกรรม แต่ว่ามันจะหนักหรือเบานั้นขึ้นอยู่กับว่าสำนึกระลึกได้และเข้าใจในสิ่งที่ตนกระทำและเกิดขึ้นกับตน พร้อมทั้งเพียรสร้างสิ่งดีงามให้เกิดแก่ตน ผลนั้นก็จะเบาลงแต่ยังไงก็คงยังมีอยู่ แต่การมีอยู่ของสิ่งนั้นมันต่างกัน ถ้าเปรียบความดีเหมือนน้ำ กรรมชั่วเหมือนตะกอนเท่าหยิบมือ ถ้าอยู่ในน้ำขนาดเท่าแก้วมันก็ดูเยอะดูมากแต่ถ้าอยู่ในน้ำสะอาดขนาดเท่ามหาสมุทรก็ดูเหมือนไม่มีเลยจริงไหม แต่ความจริงคือ มันมี เท่านี้แหละครับ ส่วนเรื่องอบายภูมินั้นมันคงเป็นเรื่องของจิตที่กังวลหรือจิตที่ไม่ได้รับการขัดเกลา ดังนั้นจึงต้องขัดเกลาอยู่ตลอดเวลา เมื่อยังมีบุญบารมีน้อยอยู่ก็จำต้องชดใช้สิ่งที่ทำพระศาสดาของเราทั้งหลายก็เคยต้องชดใช้ในสิ่งที่ตนกระทำมาแล้ว นั่นเพราะยังไม่รู้ ยังไม่เข้าใจ และทุกๆคนที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่นั้น สร้างเวรสร้างกรรมอยู่นั้น ก็ด้วยความไม่รู้ความไม่เข้าใจ จึงต้องมีการสร้างบารมีขัดเกลาจิตใจกันจนมีปริมาณน้ำดีมากๆ มันจะยืดออกไปและท้ายทีสุดก็ต้องชดใช้อยู่ดี แต่ความรุนแรงที่ได้รับไม่เหมือนกัน
    สาธุคั๊บ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2010
  19. Sirichut

    Sirichut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +308
    พระปัจเจก ครับบ อืมส่วนตัวแล้ว ไม่ชอบกระตุ้นคนอื่น และก็สอนใครไม่เป็นด้วยครับ

    แบบว่าไม่ค่อยเข้าใจโลก เหอะๆๆ แต่เข้าใจในความคิดของตนเอง
     
  20. เทพสำราญ

    เทพสำราญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +888
    ..การตั้งปณิธานในทางโลกและทางธรรมเป็นจุดยืนของแต่ล่ะืท่านตามบารมีีพลังอำนาจที่ตน
    นับถือ (ผู้อยู่ห้วงแห่งจิตของเหล่าอริยะย่อมเป็นที่ทราบดีในวงศ์ษาคณาธรรม.)......
    .........ร่วมงานธรรมและงานโลกีย์ครั้งใหญ่พร้อมกันครับ.........
    ..............เทพสำราญ.............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...