โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. โอ๊ตศ์

    โอ๊ตศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +1,107
    น้อยจาย นิดหน่อย

    ท่าน จิ-โป ไม่เคยคุยกะนู๋เรย

    ><
     
  2. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    จากกระแสน่าจะชั้นสูงอยู่ครับ คงเป็นอดีตของเขาที่เขาแสดงให้เห็นละครับ
     
  3. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    รู้ว่าเป็นใข้เมื่อเช้ายังจับมานั่งเช็ดตัวอีก
    อันนี้ไม่รู้จะเกี่ยวกันรึเปล่านะ ผมเห็นมีคนทำน้ำมนต์ และมารดให้เด็ก
    นี่เป็นสาเหตุทำให้เป็นใข้รึเปล่า ไม่ต้องกลัวไป
     
  4. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    คุยเรื่องอะไรดี ไม่รู้เหมือนกัน ให้ลองถามมา 1 ข้อ จะลองตอบดู
     
  5. โอ๊ตศ์

    โอ๊ตศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ^_____________^

    เวลานั่งสมาธิ มักจะรู้สึกเหมือนหายใจไม่สุด หรือหายใจสะดุดๆ
    แก้อย่างไรดีขอรับ
     
  6. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    สงสัย เราคงทำกับเขามา ทุกข์ไปกับเขาด้วย แม่เขาจิตตกมากกว่าเรอีก คุยไม่รู้เรื่องเลย เอาแต้ร้องให้ฟูมฟาย
     
  7. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    นึกว่าจะถามว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันซะอีก (โล่งเลย)

    คือเรื่องของลมมันมี 2 แบบครับ
    คืออาณาปณสติ ว่าด้วยการมีสติจรดจ่อกับลมหายใจเข้าออก
    และอีกอย่างอาณาปณกสิณว่าด้วยการทำลมให้เป็นกสิณ

    กล่าวคือ แบบแรก เอาใว้ฝึกสติ แบบที่สองใว้ฝึกกำลังใจ
    เมื่อทำแบบแรกนานเข้าลมหายใจจะถูกจิตบีบคั้น เหมือนหายใจสะดุดไปจน
    มีอาการเหมือนใจจะขาดรอนๆ ท่านก็ให้ทำแบบที่สอง (ท่านคือใครไม่อาจ
    ทราบได้)
    แบบที่สองคือกำหนดลมเราให้เป็นแสงสว่าง เมื่อลมหายใจเข้าจากปลายจมูก
    เข้าไปถึงภายในท่านเรียก กายใน เมื่อลมหายใจแผ่ออกมาจากปลายจมูกท่าน
    เรียก กายภายนอก ก็ลมนั้นแลคือกาย

    กายนี้ไม่มีอายตนะ ตาหูจมูกลิ้น แต่กายลมมีแสงเป็นกาย มีโพรงในกาย
    มนุษย์เป็นตัวกำหนดรูป มีจิตป็นตัวคุม มโนจิตเราจะเห็นลมหายใจเรานี้
    เป็นแสงสว่างเหมือนหมอกควัน นานเข้าจนจับเป็นสมาธิจะเป็นแสงสว่าง
    มาก ลมหายใจเหมือนจะไม่มี ก็เข้าสู่สภาวะแห่งสมาธิได้

    ส่วนถ้าจะทำเป็นเพียงสติกำกับแบบแรก ให้กำหนดกายภายใน ภายนอกให้
    พอประมาณ ไม่ต้องถึงขนาดจับเป็นกสิณ ลมหายใจก็จะไม่ติดขัดครับ
     
  8. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า ฝันดีทุกๆๆคนค่ะ
     
  9. Dio2499

    Dio2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +542
    ขอแสดงความคิดเห็นแบบสั้นๆด้วยคนนะคับ
    ลมหายใจในการทำสมาธินั้น เราก็หายใจแบบปกตินั้นแหล่ะคับ ไม่สั้นเกินไป ไม่ยาวเกินไป เมื่อใดที่สติเรามากพอ มันก็จะไต่ระดับจิตเอง อีกอย่างนั้น ฌานกับสมาธินั้น มันอันเดียวกันนะ แต่มันไม่เหมือนกัน ต่างกันแค่พลิกฝ่ามือ เหมือนกับว่า ต่างกันแค่การปฏิบัติในบางอย่างเท่านั้นเอง ลมหายใจติดขัดเป็นเพราะเราหายใจไม่เป็น คุมอารมณ์จิตไม่ค่อยอยู่ อารมณ์จิตนะ ไม่ใช่จิต อย่าสับสน มันจึงมีผลต่อการตั้งสติสมาธิ
     
  10. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    เล่าประสบการณ์การปฎิบัติให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ...พอเป็นธรรมทาน..
     
  11. โอ๊ตศ์

    โอ๊ตศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +1,107
    อ่านคำแนะนำท่านจิโปแล้ว
    ยังไม่แน่ใจว่าเข้าใจหรือเปล่า แต่ก็ลองทำเลย
    (บางทีข้างในเขาคง Get)

    ลมหายใจสั้นลง
    ข้างในเย็นดี
    เย็นกลางอก
    นั่งนานกว่านี้น่าจะได้อีก

    (ตอนเริ่มต้นร้อนแหะ เหงื่อออกเลย หรือนึกถึงตัวเองสว่างไปก็ไม่รู้ฮับ)
     
  12. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ใช่ครับ ดูไปยังงั้นเรื่อยๆ บางเวลาเมื่อเราเข้าถึงมัน เหงื่อเราจะไหลออกมา
    ทางขุมขนเม็ดเท่าข้าวโพด เรียกว่าชุดที่ใส่เปียกเลยครับ แต่ตอนนั่งเหมือนเหงื่อออกนิดเดียวเอง

    กำหนดกายภายในกายภายนอก ลมหายใจเป็นกายจิตคอยควบคุม บางคนตามดูได้ทั้งกายภายในและกายภายนอก บางคนจ้องดูได้เพียงกายภายใน

    มันก็เหมือนเราดูสติปัฏฐานสี่ กาย เวทนา จิต ธรรม นั่นดูกายมนุษย์ แต่อันนี้
    กายที่เราดู ที่เราหมายถึงคือกายลม คือกายภายในและกายภายนอกครับ
    ดูจนจิตมันจับที่ลมล่ะครับ จากควันเป็นแสง จากแสงเป็นอะไรก็ดูเอง

    วันนี้ขอตัวก่อนครับ ว่างๆจะมาใหม่
     
  13. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230


    ครับ เข้าใจแจ่มแจ้งเลยครับ

    มีเรื่องมาถามอีกแล้วค่ะ

    1. แต่ว่าตอนนี้นะครับ จะรบกวนถามว่า แม่เค้าแบ่งที่ให้ตรงที่มีรอยแยกด้านล่างใต้ดินน่ะค่ะ ติดกำแพง แล้วมีศาลเจ้าที่ กับจอมปลวกอยู่ในที่นั้นด้วย ประมาณ 50 ตารางวา หนูจะสร้างบ้าน จะต้องทำอะไรหรือเปล่า คือก็ต้องเอาศาลและจอมปลวกออกน่ะค่ะ แล้วก็ต้องปลูกบ้านทับไปเลย ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    2. ครือว่า ที่ให้หนูทำนั้น ให้อยู่ตรงนั้นที่ว่าโล่ง ๆ ให้นานที่สุด อย่างว่านะ ดู ๆ ไปมันเป็นอานาปาณสติ แต่กำหนดเป็นแสง คือกสิณ (คือไม่ใช่ว่าจะทำตามโอ๊ตนะคะ แต่ว่า หนูรู้สึกว่ามันเป็นกสิณมาหลายวันแล้ว) หนูรู้สึกในใจอยู่ว่ามันจะเป็นเช่นนั้นที่ให้เห็นเป็นสีขาว แล้วจะสว่างเป็นแสงเองนั้น ที่หนูเคยดูอารมณ์ตรงนี้มันเบาสบาย เมื่อเบาสบายแล้ว ที่หนูเคยทำได้อยู่ครั้งหนึ่งที่เคยเล่าให้ฟัง นั่นคือผลของมันใช่มั้ยคะ แต่ที่ให้ดูคือดูอารมณ์รู้สึกมันเบาสบาย แต่บางครั้งนะคะ มันจะรู้สึกร้อน ๆ ในตัว หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำมัยมันร้อนขนาดนั้น เป็นบางครั้งแค่นั้น ตอนนี้เริ่มดึงเข้ามาดูตรงนี้ให้ชัดมากขึ้นเริ่มเบาขึ้นมากแล้วค่ะ งง..กับคำพูดหนูมั้ยเนี่ย
     
  14. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ก็ข้างล่างมันแยก ยังจะดันสร้างอีก เดี๋ยวมันก็เป็นหลุมลงไป สร้างไป
    ก็เสียเงินเปล่า ศาลกับจอมปลวกมันเป็นเรื่องรอง ขอท่านย้ายท่านก็ไปแล้ว
    แต่รอยแยกใต้ดินนี่ล่ะ มันขอไม่ได้ รอก่อน ใว้ท่านเก็บกลับแล้ว แผ่นดิน
    มันสงบปลอดภัย รอยแยกมันเลื่อนมาปิดกันค่อยสร้าง ตอนนี้เก็บเงินใว้ดีกว่า

    ดูกายลม กายแห่งแสงมันจะไม่ร้อนเพราะไม่มีอายตนะประสาทรับรู้
    ที่ร้อนเพราะใจเราวกมาจับที่กายเนื้อ มันเลยรู้เวทนาว่าร้อน เราทำงานกสิณ
    ก็ต้องเป็นหนึ่งเดียวที่กสิณ ถ้าจะดูกายเนื้อก็ อสุภะ สติปัฏฐานไป ทำทีละอย่าง
     
  15. กาโน

    กาโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +152
    แวะเข้ามาอ่าน นานแล้วครับ ได้ความรู้ดีมากเลย
    ขออนุญาตนำไปปฏิบัติ ด้วยนะครับท่าน...
    เพิ่งเริ่มจะปฏิบัติ ไม่นาน
    เคยนั่งดูแต่ลมอย่างเดียว
    ไม่เคยกำหนดเป็นแสงสว่างเลย
     
  16. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1160005/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    พอพูดเรื่องอานาปณสติกรรมฐานแล้วผมอยากถามคุณจิโปซักเรื่อง เห็นว่าคุณจิโปมีประสบการณ์มากในด้านทิพจักขุญาณ ในทางสมถะก็คงจะไม่ใช่น้อย ยังอยากสมัครเป็นศิษย์เลย
    ทีนี้เคยมีคนมาถามว่า บางคนนั่งแล้วรู้สึกจุกที่อกบ้าง ปวดแถวๆหว่างคิ้วบ้าง ตัวผมคิดว่าเป็นเรื่องการควบคุมทางเดินลมที่มีปัญหา เขาอาจจะอ้วน เวลานั่งแล้วเลือดมันตีบ เลยเหนื่อยง่าย หรือว่าเขาบังคับลมในกายไม่ได้ อันนี้ไม่แน่ใจ
    บางคนเขาก็บอกว่ามันเป็นกรรมเก่า เขามาทดสอบกำลังใจบ้าง ข้อนี้จริงๆแล้วมันเป็นอย่างไรครับ สงสัย
     
  18. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    คือผมเองไม่ได้เก่งอะไร เพียงแค่เคยทำมาหลายอย่างเลยพอรู้บ้างเล็กน้อย
    ครั้นจะเทียบบาลีก็ขี้เกียจเลยตอบไปตามที่เคยเป็นครับ

    คือเมื่อเรานั่งดูกองลม ท่านไม่ได้ให้บังคับว่าให้ลมหายใจยาว รึหายใจสั้น
    ท่านให้หายใจธรรมดาๆเรานี่ล่ะ เพียงให้มีจิตเพ่งดู แน่วแน่ในกองลม
    ทีนี้คนเราพอจิตจับที่กองลมมันเริ่มละเอียด ก็เผลอแว๊ปมาจับที่กายเนื้อ ความ
    ละเอียดที่สัมผัสอยู่ในกองลม เลยต้องมาเปรียบเทียบกับเวทนาทางกายเนื้อ
    เลยเกิดอาการจุกที่อกบ้าง ปวดตามตัวในบางที่บ้าง

    ซึ่งจริงๆแล้วอาการปวดมันมีอยู่แล้วแต่เราเองชินกับมัน เลยไม่ใส่ใจ จนเรา
    ได้สัมผัสอันละเอียด เลยเห็นอาการดังกล่าวเป็นเรื่องผิดปกติไปครับ
    อาการนี้จะว่ากรรมเก่าก็ถูกบ้างในบางคน ก็บางคนเสวยกรรมโดยตัวเอง
    ไม่รู้ ก็เจ็บ จุกจนชิน เมื่อได้หลุดพ้นในเสี้ยวหนึ่งแห่งอารมณ์สมาธิก็เลยเห็นว่า
    เอ ..นี่เราเจ็บ จุกตรงนี้ เลยรู้ว่าตัวเองมีกรรมอยู่

    ก็ต้องรวมลงตามหลักไตรลักษณ์ครับ เพื่อให้ใจเรากลับมา"ชิน" กับมัน
    จนกว่าเราจะหลุดพ้นจากอาสวะ ก็พ้นกรรมนี้เอง (กรรมใหม่ก็มาอีก)

    รู้ยังไงว่าพ้น??
    ก็เมื่อเราเห็นแสงสว่าง อาการนี้จะหายไปเอง พอกลับมาที่กายเนื้อ ซักพัก
    อาการนี้ก็หายไปอีก ย่อมเรียกว่าพ้นกรรมนี้แล้วครับ
     
  19. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    กลับมาแล้วค่ะ เอาบุญมาฝากทุกๆท่านด้วยค่ะ
     
  20. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1161446/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...