โดนขังวิญญาณ

มีเรื่องมาเล่าเหมือนกันครับ
วันก่อนแฟนฝันว่า มี ญ มาบอกว่าให้คนที่บ้านหยุดทำได้แล้วไม่อย่างนั้นก็จะมีแต่เจ็บป่วย
พอตอนเย็นเราก็นึกถึงคำพูดที่แฟนพูดก็ได้นึกว่า จะให้พ่่อเลิกทำอาชีพนี้ เท่านั้นละ ขนลุกทั้งตัว
เห็นเป็นเงาดำ ๆ ยืนกันเต็มไปหมด
จากนั้นก็อาบน้ำ ตั้งใจจะมานั่งสมาธิอุทิศบุญให้พ่อ ให้เจ้ากรรมนายเวร หลังจากสวดมนต์
เสร็จก็อธิฐานจิตอุทิศบุญ นั่งไปได้สักระยะ มีความรู้สึกว่าได้ไปยืนอยู่หน้าบ้านตัวเองที่ต่างจังหวัด
รอบ ๆ นั้นมืดไปหมด เห็นแสงสีขาวอยู่ในบ้านเป็น วงเล็ก ๆ รอบ ๆ เห็นไก่ อยู่หลายตัวกำลัง
ลุ่มจิก วงแสงสีขาวนั้น
ตอนนี้บอกพ่อแล้วว่าให้เลิกทำอาชีพนี้ ได้แล้ว ให้เปลี่ยนอาชีพ ไปปลูกผักแทน แต่ไม่รู้
ว่าท่านจะฟังหรือเปล่า
อันนี้ก็คงเป็นกฏแห่งกรรม เจ้ากรรมนายเวร มารอแล้ว หมดบุญเมื่อไรก็คงโดนพวกเค้า
เอาคืน ได้อธิฐานจิตบอกกับพวกเค้าไปแล้วว่า จะให้ พ่อ เลิกทำอาชีพนี้ให้ได้ ยังไงก็ขอให้
พวกท่าน อโหสิกรรม ให้กันด้วย

 

สบายดีกันไหม๊ครับ ทุกคน..

 

สบายดีครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้า กำลังปรับสถานที่อยู่อาศัย

เปิ้ลสบายดีนะ ตอนนี้อยู่ไหนเนี่ยทำไมสถานที่สว่างขนาดนั้น

 

ห้องขังวิญญานเงียบเลย

 

ต้องขอนิานซักเรื่องเรียกความครึกครื้นซะแลัวครับ

 

มีเรื่องเล่า "บารมีเต็ม"

หลายวันก่อนน้องนิดโทรมาเล่นด้วย ปรากฏว่าเค้ารู้ว่าบ้านที่ผมอยู่ตั้งอยู่บนเนิน
กลางไร่มีเจ้าที่ท่านนึงคอยดักถามดวงจิตที่จะเข้าไร่ ข้างๆบ้านมีบังบดอยู่ ผมเลยรู้
สึกว่า "เออ..เข้าท่า บารมีคุณนิดไม่ธรรมดาเลย" ก็ได้ยินเสียงว่า นั่นล๊ะ นึกว่าเก่ง
อยู่คนเดียวคนอื่นเค้าจะตามมาทันอยู่แล้วยังนั่งเล่นอยู่นั่นล๊ะ..เฮ้ออออ ก๊อคนมันขี้เกียจนี่นา

เลยมาเล่าให้ฟัง ตอนแรกที่มาอยู่บ้านหลังนี้คือไถเงินคุณแม่ยายมาซื้อบ้านเล็กๆอยู่
ตานี้ที่ดินมันมีบ้านอยู่แล้วหลังนึง หลังบ้านก็มีโกดังเล็กๆอันนึง
เวลาที่เราไปเดินอยู่ในโกดังจะได้ยินเหมือนคนคุยกันอยู่ข้างๆ เหมือนจะใกล้ๆ ได้ยิน
เสียงเหมือนคนคุยกันหลายคนในตลาด คือฟังไม่ได้ศัพท์ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน เสียงดังพอ
ได้ยินแต่พอเราเงี่ยหูฟังก็เงียบหาย ตานี้ผมก็ย่องๆไปข้างกำแพงแล้วยืนแอบฟังเค้าคุย
กัน เงียบไปราวๆอึดใจนึงเขาก็เริ่มคุยกันอีก ผมก็รีบโผล่หัวออกไปดูทันที ปรากฏว่า
ไม่มีอะไรเลย ข้างๆเป็นป่าอ้อยโล่งๆ เราก็คิดว่า "เอาเข้าแล้ว งานเข้า" ผมกะว่าเย็น
วันนั้นจะนั่งดูแต่ก็ลืมไป จนผ่านไปหลายวันก็ไม่มีเวลานั่งดู เสียงก็ดังแว่วมาเรื่อยๆจน
คนที่บ้านได้ยินกันหมด จากที่คนที่บ้านกลัวๆกลายเป็นชินซะแล้ว
ต่อมาวันนั้นไปหาน้าตาที่บ้านเค้า ก็ได้ยินเสียงวิ่งบนหลังคาบ้านเขา เลยถามแกว่า
ทำไมเจ้าที่บ้านแกแรงจัง ถึงขนาดวิ่งไล่กันเสียงดังขนาดนี้ แกก็หัวเราะ บอกว่าเขา
เลี้ยงกุมารใว้ มันดื้อมาก ผมก็ยิ้มๆ รักใครรักมันอ่ะนะ บางคนกลัวบางคนก็อยากเลี้ยง

ต่อมาผมก็กลับบ้าน คืนนั้นนอนหลับไปก็ฝันผมนอนอยู่รู้สึกเหมือนมีคนมาหาเลยมอง
ไปทางหน้าไร่ ก็เห็นเหมือนคนวัยรุ่นเดินเข้ามา2คน แต่มีคนผู้ใหญ่ยืนอยู่กลางไร่เรียก
ให้เข้าไปคุยกัน ขณะนั้นเองจิตผมเหมือนวูปเข้าไปลอยอยู่บนกลุ่มเขา3คนสูงราวๆ 3 เมตร
ก็เห็นผู้ใหญ่คุยถามวัยรุ่นว่าเองเป็นใคร?มาจากไหน มาหาใคร เด็กมันเลยบอกว่า
กระผมมาหาท่าน เห็นท่านไปบ้าน กระผมเลยตามมาดูว่าบ้านท่านอยู่ที่ไหน
แล้วตัวผู้ใหญ่ก็เงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วยิ้มๆ ส่วนเด็กวัยรุ่นเหมือนว่าจะมองไม่เห็นผม
แล้วผู้ใหญ่ก็บอกว่า "เอ๊า งั้นเข้าไป" จิตผมก็ลอยวูปเข้ามาที่ร่างที่ยังนอนอยู่ในบ้าน
คือจากบ้านห่างจากหน้าไร่ราวๆ100กว่าเมตร เจ้าที่อยู่ราวๆครึ่งทางตรงเนินดิน

แล้วเด็กวัยรุ่นก็เดินวูปเดียวเข้ามาที่ๆผมกำลังนอน แล้วก็พูดยิ้มๆว่า"นอนอยู่นี่เอง"
ผมก็ยิ้มให้เขา แล้วคุยกันนิดหน่อย ใจผมก็รู้ว่านี่คือกุมารตามมาจากบ้านน้าตา
พอคุยกันนิดหน่อยเขาก็กลับ พอเดินวูปออกไป เจ้าที่ก็กวักมือเรียกอีก วัยรุ่นก็ลอย
เข้าไปหาตามมือที่กวักเรียก แล้วเจ้าที่ก็เหมือนจะถามว่าคุยเรื่องอะไรกัน ท่านว่ายังไง
อะไรทำนองนี้ แล้วเจ้าที่ก็หันมามองทางผมแล้วยิ้มให้เหมือนกับรู้ว่าผมกำลังมองอยู่
ผมเลยรู้ว่าไร่ที่ซื้อใว้มีเจ้าที่อยู่ตรงนี้เอง ทำหน้าที่เสมือนยาม โอ้ น่าสงสารเป็นกึ่งเทพ
แต่ยังมาทำหน้าที่ยังงี้ โอ้หนอไม่มีอะไรดีเท่าพระนิพพาน เพราะนิพพานสูงสุดรัศมีก็สวย
เหาะไปไหนเทวดาเขาก็กราบไหว้ให้ความเคารพนับถือ

ตานี้เลยย่องไปดูข้างบ้านดูซิ ทำไมคุยกันจัง ก็ปรากฏเป็นเมืองๆนึงคนตัวสูงใหญ่มาก
เป็นเมืองทำด้วยแก้ว ประดับด้วยลูกแก้วสวยงาม เมืองนี้เขาเป็นเพื่อนกับแม่บ้าน มีการ
พากันไปเที่ยว บอกชื่อเสียงเรียงนามเสร็จ ก็ชี้ให้ดูไห ในไหมีกระดูกข้อมือโผล่ขึ้นมา
มีทองสี่เหลี้ยมอยู่2ก้อนราวๆใหญ่1นิ้วX1นิ้ว บอกไปขุดเอาเลยข้างโกดังตรงนี้ๆยกให้

แต่ยังไม่ได้ขุด คือขี้เกียจ บางทีขุดก็เจออย่างอื่นแทนเลยไม่อยากสนใจเดี๋ยวบอกให้
มาเฝ้าที่แทนล่ะยุ่งเลย

เล่ามาหลายบรรทัดไม่ใช่อะไร คือสงเสริมกำลังใจให้น้องนิดที่แค่โทรศัพท์มาก็รู้อะไร
เยอะทั้งๆที่ไม่ได้บอกว่าตรงไหนมีอะไร บารมีท่านเต็มแล้วปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติก็พอได้
แต่..แต่นะ ปฏิบัติใว้จะดีกว่า อย่าขี้เกียจแบบผมเลย ปีหน้าเริ่มปีใหม่มาก็เริ่มทำเลย
ไม่นานให้กำลังใจอยู่ตัวค่อยขี้เกียจครับ ท่านว่าน้ำมาให้รีบตัก เดี๋ยวน้ำลดจะไม่ได้อะไร.

 

ขอบคุณครับ พี่จิ-โป

ใจอยากจะนั่งสมาธิ แต่ก็เพราะความขี้เกียจ และมีเหตุไม่ได้นั่ง เมื่อวันอาทิตย์ ตั้งใจจะไป
นั่งที่วัดที่ เคยเล่าให้ฟังว่า เจอพญานาค วัดป่าวัดทับทิมแดง ที่พี่จิ-โป เห็นมังกร
ปรากฏว่าต้องไปงานแต่งที่ สุพรรณ แล้วก็ไปไหว้พระหลวงพ่อโตที่ วัดป่าเลไลย์
ไปไหว้พระที่วัดไผ่ล้อม จ.ปทุม ที่แฟนเห็นพระองค์ใหญ่ ช่วงนี้อธิฐานจิตให้หมด
เวรหมดกรรม กับสิ่งที่เกิดอยู่ ปีหน้าฟ้าใหม่ ตั้งใจปฏิบัติ

เอารุปการ์ตูนมาให้ดู ที่เห็น ในนิทานพี่จิ-โป


ตรงกลางรูปคน เป็นเจ้าที่
เสา ด้านซ้าย ขวา เป็นเหมือน บริเวณเขตพื้นที่
สี่เหลี่ยมด้านหลัง เป็นเมืองที่เห็น เป็นคนโบราณ เมืองเก่า บ้านไม้

 

มีเรื่องมาเล่าเหมือนกัน
เจ้าที่ตรงนี้แรงมากน้องนิด

เมื่อวันก่อนน้าตาพาลูกชายมาช่วยกันตัดหญ้า พรวนดินสวนหวายที่ไร่
พอตอนบ่ายลูกชายน้าตาก็บอกว่าขอพักก่อนเหนื่อยมาก คือน้าตามาถามว่าทำไมไม่ตัดหญ้าให้เสร็จ ลูกชายน้าตาก็ตะคอกใส่น้าตาว่าเหนื่อย จะพัก น้าตาก็บอกว่าไม่เป็นไรงั้นเจ้าก็พักไปเถอะ (ใจดีไม่ดุลูกอ่ะนะ) ทีนี้ลูกชายน้ำตาก็เก็บของ และกำลังเอาแว่นตาเดินไปเก็บในโกดัง ทีนี้กำลังจะแขวนแว่นบนรถตัดหญ้า ก็สะดุ้ง บอกว่ามีงูตัวใหญ่สีดำมาพันขา แกตกใจมาก แล้วก็ไปบอกน้าตา จากวันนั้นแกก็ปวดคอ คอเอียง
พอเข้าวันที่ 3 น้าตาก็บอกลูกว่า เจ้ารู้หรือยัง ว่าเจ้าน่ะคิดอย่างไรกับพ่อ คือลูกน้าตาตะคอกใส่พ่อแล้วมีความอาฆาตว่างั้นเถอะ ก็เลยเห็นงูที่เจ้าที่ทำให้เห็น ซึ่งงูนี้เรากับพี่โอก็เปิดกล้องวงจรปิดดู ไม่มีงูเลยซักตัวเดียว น้าตารู้ว่าไม่ใช่งูจริง ๆ เป็นเจ้าที่ทำให้เห็นว่ายังไม่อยากให้หยุดตัดหญ้า คือเจ้าที่ที่นี่ชอบคนขยัน และใครก็ตามที่คิดไม่ดี จะเห็นสิ่งที่ไม่ดีว่างั้น
ทีนี้น้าตาก็เลยบอกลูกว่า ถ้าเจ้าอยากหายก็ทำขันธ์ 5 มา ขอขมาพ่อ (น้าตาแกมีองค์น่ะค่ะ) พอยกขันธ์ 5 ลูกน้าตาก็หายในตอนนั้นเลย

โอ้...นี่พึ่งจะรู้ว่า เจ้าที่นี่แรงจริง ๆ

 

เล่านิทานไปเที่ยวเมืองบังบด

ตอนย้ายเข้าไปอยู่ใหม่ ๆ ก็เจออะไรแปลก ๆ ได้ยินเสียงคนคุยกัน แล้วโผล่ไปดูก็ไม่มี
ทีนี้พี่โอก็บอกว่า มาอยู่ในภูมิที่ดีแล้วทำมัยไม่นั่งสมาธิบ้าง
วันนั้นก็เลยนั่ง ปรากฎว่า มีผู้ชายสูงขาวหน้าตาดีมาก ปรากฎมาให้เห็นในนิมิต ท่านก็บอกชื่อเสียงเรียงนาม ว่าเอ่ยชื่อท่านแล้วจะเข้าเมืองบังบัดได้ (ท่านเป็นพี่ชายเรา) ทีนี้ก็เลยตามท่านไปลงไปในเมือง ข้างในเมืองทำด้วยลูกแก้วทั้งหมด ซึ่งถ้ามองในนิมิตจะเห็นเป็นเหมือนเมืองแก้ว แต่ดูดี ๆ ทั้งหมดเป็นลูกแก้วสว่างสีขาว เป็นเมืองสีขาว สวยงามมาก มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และมีผู้คนเดินอยู่ในเมืองนั้นเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก เราก็เดินเล่นอยู่ในนั้นซักพักก็ออกมาจากสมาธิ

ทีนี้ตอนกลางคืนก็ฝันว่าเค้าพาไปเที่ยวในเมืองบังบด ทุกครั้งที่ฝันก็จะฝันเห็นเพื่อนเราเป็นเพื่อนเก่าเต็มไปหมด เพื่อนก็มาทัก งัยไม่ได้เจอกันนาน เป็นยังงัยบ้าง แล้วก็เดินเที่ยวในนั้น ปรากฎว่า เค้าบอกว่า เมืองบังบดนี้มีแต่เพื่อนเราสมัยก่อนทั้งหมดเลย และก็มีไหใบใหญ่ ๆ มีแขนของคน 7 ศอก และมีก้อนทอง และสมบัติฝังอยู่ใต้พื้นดิน ตรงที่นิดเห็นนั่นแหล่ะ ซึ่งก็ตรงกันกับที่พี่โอบอก

หลังจากนั้นเวลาฝันว่าเจออะไรไม่ดี ก็จะมีผู้ชายคนนี้คอยดูแล ปกป้องคุ้มครองไม่ห่างเลย

 

พี่จิโป ครับ ขอถามเรื่องบทสวดภาณยักษ์ ที่ฟังกันหรือไปเข้าพืธี ที่บอกของขึ้น อันนี้เป็นจริงหรือเปล่าครับ
ผมฟังแล้วรุ้สึกชอบมากกว่า แต่ไม่เห็นมีอะไรเลย

 

สวดภาณยักษ์ จริง ๆ แล้วเมื่อก่อนเค้าเรียกว่าสวดญานยักษ์
หมายถึงว่าเอาญานของยักษ์เข้าตัว เผื่อไล่สิ่งที่ไม่ดีออกไป แต่เฉพาะกรณีของคนที่สามารถจับกระแสของยักษ์ในตัวได้ก็จะเกิดอาการ แต่คนที่จับกระแสไม่ได้ หรือไม่มีอะไรก็จะไม่เกิดอะไรเลย

 

เมื่อเช้าฝัน เลยมาเล่าให้ฟัง ฝันมั่วๆ ดีเหมือนกัน

ฝันประมาณตีห้า ฝันว่า ได้นั่งรถไปสถานที่หนึ่ง คนเยอะแยะ มีผูหญิงคนหนึ่งท้อง ผมก็เลยบอกว่าถ้าคลอดแล้วผมเลี้ยงให้ ถ้าไม่มีพ่อผมเป็นพ่อให้ นั้นใจดีด้วย แล้วก็เดินขึ้นมา เห็นโรงแรม หนึ่งกำลังสร้าง ซึ่งความคิดที่เข้ามาคือ รร. นี้มีคนตายทั้งหมด 7 คน ที่อยู่ในนั้น และประวัติคือ เมื่อก่อนเป็นตึกร้าง ที่สร้างไม่เสร็จเนื่องจากมีคนตาย 7 แล้วก็มี อาเสี่ย มาซื้อทำ โรงแรม สร้างไปสักพัก คนงานที่มาก่อสร้าง ก็ตกลงมาตายกันหมด ผมเลยเข้าไปดู กลายเป็นว่า ตัวผมเองกลายเป็นพระไปแล้ว ก็พยายามพูดให้ ผี ที่อยู่ตรงนั้นออกมาคุยกัน ทำไมถึงต้องฆ่าคน มีเสียงตอบมาว่าเค้าห่วงที่ตรงนี้ไม่อยากให้ใครมายุ่ง ผมก็กระโกนพูดแต่ก็ไม่ค่อยมีเสียงออกมา จึงบอกกับผีไปว่า อาตมาเสียงไม่ค่อยมี อย่าให้ตะโกนมาเลยมาก ผมก็เดินไปเดินมา สักพัก มีร่างแม่ชีท่านหนึ่งตกลงมาจากชั้น 2 เสียชีวิต ผมเลยบอกไปว่า ถ้าไม่ออกมา งั้นผมจะ นั่งสมาธิเข้าไปคุยด้วยเพราะ อาตมาไม่มีเสียงจะตะโกน

ภาพที่ฝันมันชัดเจนมาก วิญญาณที่อยู่ที่นั้นทั้ง7 รู้สึกจะมีเด็กอยู่ด้วย และเสียงนาฬิกาก็ปลุกดังขึ้น

ผมว่าต้องมีอะไรสักอย่างเพราะรู้สึก วู่วาบ หรือเพราะแอร์มันเย็นก็ไม่รู้

 

การแก้ฝันแบบเด็ดขาดครับ คือการพิจารณาลงไปให้ถึงแก่นของมัน
ไม่ควรพิจารณาเพียงเฉพาะเหตุการณ์ที่ฝัน
การพิจารณาลงไปคือการสะสางเอาส่วนอื่นออกให้เหลือแต่เพียงอารมณ์เช่น
ตอนที่เป็นพระนั้นตะโกนไม่ได้เป็นเพราะ"โมหะ" เดือดร้อนใจมากเกินไป
ตั้งใจจะช่วยมากเกินไปจนขาดสติ การช่วยคนหรือช่วยผีนั้นเราต้องไม่เดือด
ร้อนใจ ช่วยได้ก็ดี ช่วยไม่ได้ก็ช่าง เราทำไปตามหน้าที่เพียงเท่านั้นเอง

พอพิจารณาเห็นโทสะตัวนี้แล้ว กรรมก็โผล่ขึ้นมาว่า
ถ้าจะดูจริงๆตัวคุณนิดเองในปีนี้จะมีเคราะห์บาดเจ็บแขนซ้านลงไปถึงมือซ้าย
ควรไปทำบุญแล้วเอาน้ำมนต์ลูบแขนซ้ายบ่อยๆ จากหนังจะกลายเป็นเบา
อาจจะเหลือแค่นิ้วนางซ้ายบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นเอง นี่รูปมันโผล่ขึ้นมา
ให้เห็นแบบนี้

คือการพิจารณาฝันให้คุณนิดตัดเหตุการณ์ออกทีละช่วง แล้วพิจารณาแก่น
ของเรื่อง พอเห็นมูลกิเลสที่แฝง ส่วนที่จะทำการปรุงให้เราคิดไปต่างๆนาๆ
จะหายไปจะตัดออกเอง แล้วภาพจะปรากฏในใจเรา เราถึงจะรู้ว่าฝันนี้จะ
เกิดกรรมใดแก่เราหรือเกิดกับใครอื่น
อย่างน้อยที่สุดเราจะได้ประโยขน์ตรงที่เป็นกระจกให้เรารู้ว่าช่วงนี้"โมหะ"
เราพุ่งขึ้นมามากเกินไปนิด เราอาจจะหงุดหงิดง่ายเกินไปหน่อย

ส่วนเรื่องผีเมื่อเราลดโมหะลงไปแล้วเดี๋ยวในฝันเราก็ช่วนเขาได้เองแบบง่ายๆครับ

 

สวัสดีครับทุกคนไม่ค่อยได้เข้ามานานเลยสบายดีกันทุกคนไหมครับ

 

วันเวลา เปลี่ยนไป ใจยังนึก
ความรู้สึก วนเวียน ไม่เปลี่ยนผัน
เคยพบเจอ สุขเศร้า คละเคล้ากัน
บัดนี้วัน เเปรเปลี่ยน คนเลือนลาง
เหลือแต่ซาก รอยปลัก สลักไว้
เป็นเยื่อใย ให้คะนึง ถึงยามห่่าง
พอมาเยือน เหมือนเห็น เป็นหน้านาง
ยามเมื่อส่าง นางจางหาย ไปกับลม

 

ขอบคุณครับ จะนำไปฝึกและปฏิบัติ ครับ
ช่วงนี้ กิเลส เว้นหนักเลย รุ้ตัวเอง คิดได้แต่ยังตัดไม่ขาด

เมื่อ 2-3 วันก่อนกำลังคิดว่าจะกลับไปทำงานที่บ้านดีหรือเปล่าเพราะน้องก็ไม่สบายบ่อยพ่อก็ทำคนเดียว พ่อผมเคยบอกให้กลับมาทำมันเป็นอาชีพ เราก็นึกว่า ถ้าเรากลับไปขายแล้วอธิฐานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งจะเลิกทำ แค่คิดนะ ภาพไก่มากันเต็มเลย รุ้เลยว่าเป็นเจ้ากรรมแน่ๆ ขนลุกทั้งตัว ถึงกลับเย็นกันเลยทีเดียว

ใจจริงก็ไม่อยากทำพยายามคิดหางานอย่างอื่นทำแทนอาชีพนี้

 

ตาชั่งมันมี2ข้างครับ
และที่เราเรียนๆกันมามันเป็นแบบทวิ คือบุญและบาป
เมื่อเราหลีกไม่ได้เลี่ยงไม่พ้น จำเป็นต้องทำบาป ก็ให้รีบทำบุญให้มากขึ้น
เพื่อให้จิตเราจับที่บุญให้มากที่สุด คนเราไม่นานก็ตายครับ อย่าไปอาลัยอาวรณ์
กับสิ่งรอบตัวมากเกินไป ความดีก็ตาม ความชั่วก็ตามล้วนสุดท้ายล้วนเป็นสิ่งที่ปรุงจิต
แม้เราจับที่ความดีมากที่สุดก็ได้เพียงพระพรหมหรือจับที่บาปมากก็ไปร้อนรนที่
นรกภูมิ แต่ทั้งสองอย่างไม่ว่าสวรรค์หรือนรกล้วนมีวาระ มีระยะเวลาในการเสวยทั้งนั้น

หลีกไม่ได้ เลี่ยงไม่พ้น ให้พยายามปลูกจิตกุศลให้เกิดมากๆใว้ คิดดี จะให้นั่นช่วยนี่
คนทั้งหลาย แม้เรื่องจริงๆทำไม่ได้ แต่ในใจเราต้องคิดอยากช่วยใว้ กุศลนี้ดีกว่าบุญ
ที่ทำแล้วไม่ครบองค์สาม กุศลนี้จะทำให้เราเลี่ยงกรรมทั้งหลายได้ด้วยจิตที่เราอยาก
ช่วยเขา ท่านทั้งหลายจึงเอ็นดูช่วยเรานั่นเอง

กุศลจะมาเกิดก่อนบุญเสมอ ท่านว่า ครบองค์สามมันมาทีหลัง กุศลมันมาก่อน
แต่คนเราส่วนมากจะไปหลงที่บุญแต่มักมองไม่เห็นกุศล เหมือนคนมองเห็นบุญ
จนมองไม่เห็นนิพพานนั่นเอง

เอานะ เลี่ยงไม่ได้ก็ท่องใว้ กุศล กุศล

 

สาธุ ครับ พี่จิโป
ผมนี่ชอบมีความฝัน แต่ติดที่เครา ไ่ม่สามารถแก้ปริศนาฝันได้ เรื่องมีอยูว่า

ได้ฝันว่าไปนอนที่บ้านชั้น 2 ขณะกำลังนอนอยู่ได้ท่อง นโนฯ พอจบ 1 จบก็จะล้มตัวลง
ท่องทั้งหมด 4 จบ ได้ล้มไปทั้ง 4 ทิศ (ตอนนี้คิดได้ว่าน่าจะเป็นธาตุทั้ง4)
ก็เดินออกมาหน้าบ้านมองขึ้นไปบนท่องฟ้า แล้วก็เห็น 12 นักษัตร์ ลอยมา (ตีความไม่ออก)

เมื่อสักครู่ ภาพในจิต เห็นเหมือน หัวใจกำลังเต้น แต่ไม่ใช่สีแดง เป็นสีทอง

นิทานก็ได้จบลงแล้วครับ 555

 

ผมแปลตรงๆว่า การแยกธาตุทั้ง4ออก จนเหลือจิตดวงเดียวแล้วเดิน
หลุดออกมาจากกายเดิม ก็มาเจอนักษัตรนั่นคือตัวแทนของเซียนยังเวียน
ว่ายตายเกิดอยู่ตามวงจรนักษัตร แม้จะมีหัวใจเซียน มีอายุยืนยาวไม่เจ็บ
ป่วยแต่ก็ยังมีอายุขัย
สรุป การแยกธาตุออกจนที่สุดแล้วก็ยังไม่พ้นจร้า
แปลตรงๆเลย แต่หัวใจสีทองเท่ห์มาก ของผมหัวใจสีขาว

 

สบายดีนะครับ พี่ ๆ ทุกท่าน

พี่นิดนี่ไม่เบาเลย

พี่จิโปพีผึ้งก็มีขุมทรัพย์ให้ขุดบ่อยเหลือเกิน

พี่คมเป็นไงบ้างครับสบายดีนะครับ

ช่วงนี้ ทำงานสะเพร่าประจำเลยใครมีเคล็คลับ หรือยาที่ช่วยเรื่องความจำมั้งไหมครับ พลาดบ่อยเดี่ยวจะตกงานเอา