แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    55555 นั่นสิครับพี่โต้ง...ขนาดเมื่อวันเสาร์ผมเข้าเนตมารอทั้งวันยังไม่ทันเลยคร้าบบบบ...ช่วงนี้แห้วตลอดดดดดด ..อิอิ.(^_^)
     
  2. หมี่หยก

    หมี่หยก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +331
    น้าน..น..น..น..เป็นงั้นไปพี่เรา เฮ้อ..!!!
    เสน่ห์อยู่ที่ใจ..ใช่ใบหน้าค่ะ ตอบกะได้ลุง..เคยมีเจ้า..เปิ้ลบ่รักดี..น่องเลยป๋าทิ้งแล้วกะเจ้า..และก็ยังมะอยากรีบพิษงูค่ะ..55++catt3 อุ้ย..แต่คนเขาไปงานกันเกินร้อยเลยนะพี่เช ..ล้นศาลาเลยแหละค่ะ ขอบอกๆๆ งานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่วัดหลักสี่อะค่ะ
     
  3. siwarit

    siwarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +6,173

    ตอนนี้ยอดยังไม่ถึง 200 ครับ แต่ตามที่คุยกันคือ ให้สิทธิ์คนที่โอนก่อนครับ ซึ่งก็อนุโลมให้ถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ครับ นั่นคือ ที่จองไว้ยังคงสิทธิ์ไว้ถึงวันที่ 30 กันยายนครับ หลังจากนั้นจะนับสิทธิ์ตามการโอนครับ
     
  4. REX

    REX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +796
    วันปิยมหาราชรำลึก [​IMG]
    เมื่อยังเยาว์วัย จำได้นะครับ ถึงวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี ครูจะจัดให้นักเรียนเดินพาเหรดไปยังศาลากลางจังหวัด แล้วทำพิธี ถวายบังคมและวางพวงมาลาเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือพระปิย-มหาราช พระผู้ซึ่งทำคุณอเนกอนันต์แก่ประเทศไทยยากจะหาคำรำพันได้
    พระองค์ท่านทรงดำริและจัดให้มีโทรเลข ระบบการขนส่งทางรถไฟ (มีรถไฟพร้อมประเทศญี่ปุ่นแต่ไทยล้าหลังมากในการพัฒนารถไฟ) ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปการศาล ยกเลิกระบบไพร่และที่สำคัญที่สุดก็คือทรงให้มีการเลิกทาส ซึ่งปีนี้ พ . ศ 2548 ครบรอบ 100 ปีสำหรับการเลิกทาสของไทยครับ
    พระองค์ทรงเห็นว่าการซื้อ - ขายทาส เป็นการลิดรอนอำนาจส่วนบุคคล อีกทั้งในสมัยนั้นมีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศ หากไม่มีการเลิกทาสขึ้น ชาติตะวันตกอาจเห็นความล้าสมัยของประเทศไทยด้วย และพระองค์ต้องการให้ประเทศไทยเท่าเทียมกับอารยะประเทศอื่น ๆ ด้วย จึง ได้มีดำริให้มีการเลิกทาสขึ้น
    การเลิกทาสเมื่อ 100 ปีก่อนนั้น พระองค์ไม่ได้ดำเนินการอย่างเฉียบพลัน เหมือนกับการหักด้ามพร้าด้วยเข่า แต่พระองค์จะใช้วิธีละมุมละม่อมและค่อยเป็นค่อยไป โดยให้มีการสำรวจทาสและกำหนดว่าทาสที่เกิดในปีที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2411 จะเป็นไทได้เมื่ออายุได้ 21 ปีออกพระราชบัญญัติเลิกทาสในมณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ มณฑลบูรพา และออกพระราชบัญญัติทาสรัตนโกสินทร์ศก 124 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2488 พระองค์จึงสั่งห้ามมีการซื้อขายทาสอย่างเด็ดขาดและมีการลดตัวทาสลงเดือนละ 4 บาทจนกว่าจะหมดไป
    การเลิกทาสดังกล่าว ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยโดยตรงคือ

    • แรงงานมีอิสระมากขึ้น
    • เกิดกองทหารประจำการที่ติดอาวุธทันสมัย
    • มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากยิ่งขึ้น
    • ประชาชนมีโอกาสได้รับการศึกษา ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศมากขึ้น
    วันที่ 23 ตุลาคมนี้ หากท่านมีเวลา อย่าลืมไปถวายบังคมเพื่อแสดงความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระองค์ท่าน

    หากไม่มีพระองค์ท่าน ป่านนี้ผมคงเป็นทาสในเรือนเบี้ยของใครสักคนที่เป็นเจ้าขุนมูลนาย

    Emergency Room - Maharaj Nakorn Chiangmail Hospital
     
  5. หมี่หยก

    หมี่หยก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +331
    "สาระ" และ "แก่น" พระพุทธศาสนา มาแบ่งปันเพื่อนๆทุกคน
    อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดในทุกข้อ แต่เป็นใจความสำคัญที่ท่านเน้นffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    1) ว่าถึงเรื่องการดั้นด้นตามไหว้พระวัดดังๆ ของชาวพุทธบางกลุ่ม: ท่านสอนว่า "ไหว้พระตามแนวพุทธ ไหว้ด้วยใจ"

    (2) เรื่องการฆ่าสัตว์เล็กๆ ที่เราไม่เองไม่รู้ตัว: ท่านสอนว่า " กรรมไม่มี บาปไม่มี หากไม่ได้เจตนา ให้ดูที่เจตนาเป็นสำคัญ"

    (3) เรื่องการดูหมอ : ท่านกล่าวว่า " คนที่รู้จักตัวเอง ไม่จำเป็นต้องหาหมอดู.. ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว" ท่านไม่เชื่อเรื่องหมอดู แต่ท่านเชื่อ กฎแห่งกรรม กฎแห่งการกระทำ กฎที่บอกว่า ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับตัวเรา

    (4) การห้อยพระ: ท่านกล่าวว่า "กฎแห่งกรรมของพระพุทธเจ้าก็เป็นหมัน เพราะง้างกับกฎแห่งกรรม " เลยโยงถึงเรื่อง ธุรกิจพิมพ์พระ ซึ่งท่านกล่าวว่า "บาปไม่บาปให้วัดที่เจตนา หากมีเจตนาเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ไม่บาป"

    (5) การแก้กรรม: ท่านกล่าวว่า "คนไทยชอบแก้กรรม เหมือนเราถูกมัดไว้แล้วต้องมานั่งแก้ กรรมคือตัวความคิดของเรา ง่ายนิดเดียวคือการเปลี่ยนความคิด" และท่านเสริมว่า หลายสิ่งหลายอย่างพิสูจน์ไม่ได้ในห้องแล็บ ของพวกนี้ไม่ได้เห็นด้วยตา แต่เห็นด้วยปัญญา สิ่งสำคัญไม่ใช่โลกหน้ามีรึไม่มี แต่โลกนี้มีอยู่จริงและเราใช้ชีวิตอย่างไร

    (6) พุทธพาณิชย์ : ท่านกล่าวว่า "ให้วัดที่เจตนา.. หากท่านพิมพ์คำเทศน์ คำสั่งสอนเป็นหนังสือ อ่านกันได้ทั่วโลก กำไรคือสติ ปัญญา การหายโง่ งมงาย ไม่ใช่พุทธพาณิชย์ หาวัดกำไรเป็นเม็ดเงินนั่นแหละคือพุทธพาณิชย์"

    (7) เรื่องค่าตัวท่านในการนิมนต์เทศน์ : ท่านกล่าวว่า "ท่านเป็นพระ ไม่มีต้นสังกัด ไม่มีค่าย ท่านเป็นต้นสังกัดของตัวท่านเอง เวลานิมนต์อย่าถามเรท ถ้าท่านว่างและเห็นว่าเป็นประโยชน์ ท่านก็ไปให้" ท่านยังเสริมอีกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี นั่นก็บรรลุวัตถุประสงค์ของการมีวัด วัดอยู่ที่ใจคุณแล้ว

    (8) คำถาม:
    (8.1) ถ้าเราไม่เคารพพระที่เราไม่ชอบ เพราะประพฤติมิชอบ บาปไหม ท่านตอบว่า "ถ้าไม่มีความดีให้เราเคารพ ก็ไม่ควรเคารพ ไม่เสียหายอะไร คนเราจะเคารพคนที่สูงกว่าเรา ดีกว่าเรา เป็นเรื่องปกติ ถ้าเราไปเคารพคนที่ไม่ควรเคารพ อันนี้บาป"
    (8.2) ถ้านำแกนนำเหลือง-แดงมาให้ท่านเทศน์ ท่านจะเทศน์อย่างไร
    ท่านฝากไว้สองข้อว่า
    1. อย่าเห็นแก่ตัว จนไม่เห็นหัวประเทศไทย
    2. ต้องยอมถอย เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้า

    (9) คนเราจิตตก จะมีวิธีแก้อย่างไร: ท่านสอนว่า "จิตตก ก็ยกจิต ต้องออกจากสภาพแวดล้อมแบบนั้น หาหนังสือธรรมอ่าน.." ท่านยังเสริมถึงเรื่องกัลยาณมิตร คือเพื่อนแท้ ที่คนจิตตกควรมีและสร้างให้มีได้ ส่วนปาปะมิตรคือเพื่อนเลว ที่ดีงชีวิตเราให้ต่ำลง

    (10) มาหาพระพุทธเจ้าอย่าขอ แต่บอกว่า พระพุทธองค์จะเป็นต้นแบบของเรา ท่านมีหน้าที่สร้างแรงบันดาลใจ พระพุทธศาสนาไม่ใช่ศาสนาแห่งการขอ เป็นศาสนาแห่งการลงมือทำ การลงมือทำเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

    (11) บุคคลต้นแบบของท่าน ว. วุฒิชัย
    (11.1) พระพุทธเจ้า
    (11.2) ท่านพุทธทาสภิกขุ - เป็นแรงบันดาลใจในการคิดนอกกรอบ กล้าคิดกล้าทำ ยินดีที่จะพูดความจริงโดยไม่กลัวว่าตัวเองจะต้องตาย
    (11.3) พระพรหมคุณาภรณ์ - มีความแม่นยำในพระธรรมวินัย ท่านเป็นพระที่ไม่ได้จบจากนอก แต่ท่านสามารถสอน ที่ ม. Harvard
    (11.4) ท่านดาไล ลามะ - ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมดีเลิศ ท่านเป็นพระที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวโลก จนชาวโลกรู้สึกได้
    (11.5) ท่านติช นัท ฮันท์ - พระชาวเวียดนาม

    (12) พูดถึงกิเลสที่ทำให้เกิดความอยาก : ท่านกล่าวว่า "ความอยากมี 2 อย่าง หนึ่งอยากเพราะถูกกดดันด้วยตัวกิเลส และสอง อยากเพราะถูกผลักดันโดยปัญญา อย่างหลังเป็นความอยากที่ถูกต้อง

    (13) เรื่องการระงับอารมณ์ทางเพศของพระ: ท่านกล่าวว่า ความสุขทางเพศรสเป็นความสุขขั้นต่ำ ของบันไดความสุข กามอารมณ์เกิดจากความคิด ถ้าเราไม่ต่อยอดความคิด ความรู้สึกทางกามอารมณ์ก็ไม่มีตัวตน ท่านอธิบายขั้นของความสุขไว้ว่า ปัญญาสุข คือความสุขจากการแสวงหาปัญญา สมาธิสุขคือความสุขจากการนั่งสมาธิ ทำจิตให้สงบ สารแห่งความสุขจะแผ่ไปทั่วร่าง และความสุขสุดยอดคือนิพพานสุข เป็นความสุขตลอดกาล เป็นความสุขที่ปราศจากกิเลสทั้งปวง

    ขอ ความสุขทาง "ธรรม" จงบังเกิดแก่ผู้อ่านทุกท่านคะ..อนุโมธนาสาธุ
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2010
  6. siwarit

    siwarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +6,173
    ผมมีเรียงไว้สำหรับคนที่จองไว้จนถึง 12.00 น.ของวันนี้ครับ ผมขอหารือกับพี่หนุ่มก่อนนะครับเพราะรายชื่อจำนวนมากเกินกว่าจำนวนครับ
     
  7. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    ขอบคุณครับคุณหมี่เหลือง เอ๊ย!! หมี่หยก ชิมิ ชิมิ:cool:
     
  8. REX

    REX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +796
    <TABLE width="80%"><TBODY><TR><TH scope=col>
    สยามินทร์ปิ่นธเรศเจ้า
    นึกพระนามความหอม
    อวลอบกระหลบออม
    เพราะพระองค์ทรงอุ้ม ​
    </TH><TH scope=col>
    จุลจอม จักรเอย
    ห่อหุ้ม
    ใจอิ่ม
    โอบเอื้อเหลือหลาย ​
    </TH><TH scope=col rowSpan=3></TH></TR><TR></TR><TR><TD colSpan=2>
    (จากพระนิพนธ์ ลิลิต “ สามกรุง ” ของ น.ม.ส.) ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]
     
  9. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    6,328
    ค่าพลัง:
    +23,902
    สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่านค่ะ

    ไม่ทราบกติกาการรับลูกอมจากคุณหนุ่ม....แต่ก็ขอมาร่วมลุ้นด้วยคนค่ะ
     
  10. gungwan

    gungwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +1,188
    ขอตั้งชื่อลูกอมเป็นชื่อที่ 3 ว่า "ตะเคียน 99" ครับ
     
  11. 9046

    9046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +2,503
    สวัสดีครับ พี่หนุ่ม และพี่ๆทุกท่าน มัวนั่งไล่อ่านตามอยู่ ไม่ทันชุดพิเศษเลยครับ 555. อดเลย
     
  12. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    ผมเป็นประเภทตำรวจในหนังละครครับ
    มาตอนพระเอกโดนยิงตายทุกที
    สรุปกิจกรรมเสร็จเรียบร้อย เห็นแต่่ร่องลอยสงคราม
    กับฝุ่นจางๆ และควันหลง ปนกับเสียงโอดครวน
    กินแห้วตามระเบียบ เรียบร้อยโรงเรียนลูกอม

    ผมเขียนบรรยายไม่ค่อยเก่ง คงจะพอเห็นภาพกันนะ
    ส่วนลูกอม 99 ลูก สงสัยต้องรอเม็ดสุดท้ายตอนสิ้นเดือน ค่อยสรุปผล
    ช่วงนีดมกลิ่นเทศกาลไปก่อนพลางๆ
     
  13. 9046

    9046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +2,503

    ..มาไม่ทันครับ อดเลย ฮือ ฮือ..
     
  14. 9046

    9046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +2,503
    ขอร่วม ตั้งชื่อลูก อมด้วยครับ " ลูกอม มหาระรวย " ครับ
    ถ้าไปซ้ำ กับของท่านใดก็ขออภัยด้วยนะครับ
     
  15. kieng_

    kieng_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    663
    ค่าพลัง:
    +2,757
    ลูกอมพิเศษจำนวน 99 ลูก
    แจกให้กับผู้โชคดีและร่วมกิจกรรมทั้งหมดที่ผ่านมา 35 ลูก
    คงเหลือ 64 ลูกสำหรับการจองทำบุญ ใช่ไหมครับ
    จะได้ลุ้นไหมนี่
     
  16. kieng_

    kieng_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    663
    ค่าพลัง:
    +2,757
    ลูกอมพิเศษจำนวน 99 ลูก
    แจกให้กับผู้โชคดีและร่วมกิจกรรมทั้งหมดที่ผ่านมา 35 ลูก
    คงเหลือ 64 ลูกสำหรับการจองทำบุญ ใช่ไหมครับ
    จะได้ลุ้นไหมนี่
     
  17. siwarit

    siwarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +6,173
    ครับพี่ ด้วยความยินดีครับ
     
  18. paramitta

    paramitta Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +79
    โอนเงินทำบุญกรรมการชุด4 จำนวนเงิน2500บาท เรียบร้อยแล้วคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      926.1 KB
      เปิดดู:
      51
  19. หมี่หยก

    หมี่หยก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +331
    มีประวัติพระดีและเก่ง..มาเล่าให้พี่ๆทราบข่าวค่ะ แต่ตอนนี้ท่านมรณภาพแล้ว
    ท่านชื่อพระใบฎีกากำธร (ครูบาธร) วัดหนองแขม จ.เชียงใหม่
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%"> เดิมชื่อ กำธร กาวี เกิดเมื่อ ๔ ก.ย. พ.ศ.๒๕๑๔ เป็นบุตร นางบัวแก้ว และพ่อหนานรัตน์ กาวี ชาวบ้านหนองแขม ผู้เป็นศิษย์ของครูบาแก้ว วัดปากร้อง เกจิดัง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พ่อเสียชีวิตลงตั้งแต่ท่านอายุ ๓ ขวบ ดช.ธร ในสมัยนั้นเกิดมาในตระกูลหมอเมืองรักษาคนมาตลอด เนื่องจากปู่เป็นหมอไสยศาสตร์และยาโบราณโดยเรียนมาจากเจ้าน้อยแสนคำ พระเวทย์ต่างๆได้ของตระกูลได้สืบทอดมาถึง ดช.ธร อย่างไม่รู้ตัวเนื่องจากในขณะที่ยังเล็กนั้นพ่อแม่ต้องออกไปทำการเกษตรทิ้งท่านไว้ให้ปู่เป็นคนเลี้ยงจนกลายเป็นหลานรักของปู่ขนาดพ่อแม่ว่ายังไม่ได้เพราะปู่จะห้าม การที่ท่านได้อยู่กับปู่นั้นทำให้ท่านได้เห็นปู่ใช้ไสยศาสตร์คาถาอาคมสงเคราะห์คนตลอดตั้งแต่จำความได้ พิธีการต่างๆคาถาทุกๆบทถูกซึมซับเข้าสู่ความจำของเด็กน้อยอย่างรวดเร็ว การเรียนสมาธิจิตก้าวหน้าเกินผู้ใหญ่ไปไกลเพราะเด็กเล็กมีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์และสมองอยู่ในระยะจดจำเรียนรู้ ทำให้เมื่อท่านอายุ ๕ ขวบปู่จึงให้เริ่มปัดเป่ารักษาคนซึ่งก็ได้ผลดี ส่งผลให้ดช.กำธร กลายเป็นเด็กเหนือธรรมดาและเป็นอีกที่พึ่งหนึ่งของชาวบ้าน แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เด็กชายกำธร มีวิถีการดำเนินชีวิตที่ผิดแปลกไปคือไม่ชอบเรียนหนังสือเหมือนเด็กอื่นๆ
    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext align=left colSpan=2><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. หมี่หยก

    หมี่หยก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +331
    จนกระทั่งปู่เสียชีวิตลง ดช.ธรจึงได้บวชลูกแก้วเป็นสามเณรเมื่ออายุ๑๒ปี ณ.อุโบสถ์ วัดหนองแขมมีพระครูวิบูลย์วิหารกา วัดเวฬุวนาราม สันป่าตอง เป็นอุปัชฌาย์ โดยบวชแล้วไปอยู่กับครูบาบุญทา ปัญญาวุฒิโท ตุ๊ลุง(ญาติข้างแม่)ผู้เชี่ยวชาญโหราศาสตร์ วัดหลักพัน อ.สันทราย ช่วงที่อยู่กับตุ๊ลุงนั้นท่านพาเณรธรไปฝากเรียนหนังสือตามโรงเรียนโดยเรียนรวมกับเด็กปกติทั่วไป เณรธรมิอาจขัดได้ทั้งๆที่ใจไม่ชอบ ท่านเลยไปตามใจตุ๊ลุงแต่ไปโรงเรียนละวัน เปลี่ยนไปหลายโรงเรียนจนตุ๊ลุงเริ่มท้อ ในที่สุดตุ๊ลุงและญาติๆเริ่มคิดว่าท่านเป็นเณรไม่เหมือนเด็กอื่นจึงอายที่จะเรียนร่วมกัน จึงให้ท่านสึกออกมาเมื่ออายุ ๑๕ ปี แต่ความจริงญาติๆไม่รู้ว่าที่เณรธรไม่อยากเรียนหนังสือนั้นเพราะท่านชอบที่จะเรียนพระเวทย์มากกว่า มีเวลาครั้งใดท่านต้องเที่ยวไปเสาะหาหนานแก่ๆต่อคาถาอาคม ระหว่างที่สึกจากเณรมานั้น ท่านก็ยังไม่ไปเรียนหนังสือต่ออยู่ดี เพราะวันๆหนึ่งได้แต่ศึกษาวิชาอาคมกับรักษาสงเคราะห์ชาวบ้านที่มาพึ่งเด็กหนุ่มวัยรุ่นผู้เรืองอาคมอย่างท่าน จนขนาดสวยดอก(กรวยดอกไม้ธูปเทียนที่ผู้มาหานำมาบูชาครู)เสียบเต็มชายหลังคาบ้าน
    กระทั่งอายุ ๑๘ ย่าง ๑๙ ปี วัดหนองแขมล้างพระจำวัด เหลือเณรเพียงรูปเดียวกำลังจะสึกอีกต่างหาก ชาวบ้านและพ่อหลวง(ผู้ใหญ่บ้าน)จึงรวมตัวกันมาขอร้องให้ท่านบรรพชาไปรักษาวัด ทำให้ท่านไม่อาจปฏิเสธได้จึงทำการบวชเณรอีกครั้ง และบวชพระในเวลาต่อมาเมื่ออายุครบ ๒๐ เป็นพระอยู่ ๑ ปีได้สึกไปเป็นทหารรับใช้ชาติ จนปลดจากทหารพระครูอาทรตันติธรรมเจ้าคณะตำบลและชาวบ้านจึงไปรับกลับมาบวชในปี พ.ศ.๒๕๓๗ กระทั่งปัจจุบันประวัติการเรียนวิชาอาคมนอกจากวิชาอาคมสายเจ้าน้อยแสนที่สืบมาจากปู่และคาถาอาคมที่ต่อมาจากหนานอุ๊ยต่างๆแล้ว ครูบาธรท่านยังร่ำเรียนจากครูบาอาจารย์ต่างๆดังนี้พ่อหนานปัน บ้านสบทา ป่าซาง ลำพูน เรียนหัวใจพระรอด แก้ ของรักษาคน พ่อหนานเจริญ บ้านสันทราย สันป่าตอง เชียงใหม่ เรียนกำแพง๗ชั้น ๙ยอด พ่อหนานแก้ว เมือง๑๒ ปันนา เมืองจีน เรียนสักยันต์ว่านยา กลองสะท้อน ๙ ยอด หัวใจอ้ายงั่ง วีคำ พ่อหลวงสุข บ้านแม่ปู ดอยเต่า เชียงใหม่ เรียนแก้ของ พ่อหนานจัน บ้านทุ่งปุย ดอยหล่อ เชียงใหม่ เรียนวิชาทั้งหมดของท่าน แต่ที่โดดเด่น คือ แมงวันคำ กับ เสือ ๗ ป๊อด(ชิ้น)หรือเสือแยกร่างนั่นเองแต่ถ้ารวมเป็นร่างเดียวกันจะแรงมาก หากจะสัก คนที่รับการสักต้องคาบเนื้อและต้องสักในป่าช้าจะขลังมากแต่ขณะเดียวกันการถือของวิชานี้ก็มีข้อห้ามมากมายเช่นกัน พ่อหนานจันนี้เป็นหลานครูบาอิน วัดฟ้าหรั่ง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทำตะกรุดกาสะท้อน และทำวัตถุมงคลหลายๆอย่างส่งให้ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งและครูบาดวงดี วัดท่าจำปี และพ่อหนานจันนี้เป็นลุงเขยของครูบาธรจึงได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาเต็มๆที่ทำได้ผลให้อย่างไม่ปิดบังเพราะเป็นญาติกันไม่ต้องกลัวศิษย์ล้างครูจึงไม่บังวิชาไว้ ให้แบบเต็มๆ โดยเฉพาะวิชาแมลงวันคำ ที่ครูบาธรทำได้ผลเป็นที่ประจักษ์มาตลอด

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...