เออ!...ตามมาทำไม..ถ้าไม่รักยายผีป่า?!!

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 23 มีนาคม 2005.

  1. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +3,656

    โอ้โฮ้...ว่าแต่ สาวเกาหลีคนนั้นชื่อไรอะครับ(ping-love
     
  2. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,043
    หุหุ....น่าจาเอารุปหนุ่ม ๆ เกาหลีมาฝากบ้างอ่าค๊า.....
     
  3. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    น้องเค้าชื่อ Amy ครับ


    phuang หุหุ....น่าจาเอารุปหนุ่ม ๆ เกาหลีมาฝากบ้างอ่าค๊า.....


    ไว้คราวหน้า พี่จะเอารูปหนุ่มเกาหลีที่หล่อๆ มาฝากนะ วันนี้ขอเอารูปหนุ่มเวียดนามที่หน้าตาเหมือน สัญญา คุณากร มาฝากก่อนละกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00171.JPG
      DSC00171.JPG
      ขนาดไฟล์:
      156.1 KB
      เปิดดู:
      29
    • DSC00162.JPG
      DSC00162.JPG
      ขนาดไฟล์:
      148 KB
      เปิดดู:
      28
  4. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ว้า ไม่มีใครหล่อสู้หนุ่มกระบี่ อุ้ย หนุ่มไทยเร้ย แหะๆ (ยายผีป่าเผลอหลุดสคริปง่ะ ตะแง้ววววววววว)
     
  5. Jdin_buddhism

    Jdin_buddhism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +10,153
    สวัสดีครับคุณยาย...

    เมื่อเช้าผมส่งข้อความ คำถาม เพื่อถามยายแต่ส่งไม่ผ่านครับ ก็เลยว่าจะมาส่งใหม่ รบกวนคุณยายช่วยตอบหรือท่านอื่นๆ ที่จะกรุณา หากสามารถตอบได้กรุณาด้วยครับ

    สมมติว่า หากมีญาติเราคนหนึ่งเสียชีวิตไป แล้วเราจะได้รับเงินสงเคราะห์เนื่องจากการเสียชีวิตของญาติเราจำนวนหนึ่ง แล้วเรานำเงินนั้นไปทำบุญทุกๆ อย่าง เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติเรา

    กรณีอย่างนี้ จะถือได้ว่าคนตายนั้นทำบุญด้วยตัวเองหรือไม่ครับ เพราะว่าเงินจำนวนนั้นเป็นเงินที่ได้รับจากการเสียชิวิตของญาติเรา ก็เหมือนเป็นเงินของผู้ตายเอง กรณีนี้เป็นอย่างไรครับ หรือว่าต้องให้ญาติเราสั่งไว้ว่าเงินที่ได้นี้ฝากทำบุญทุกอย่างที่ทำได้ เวลาทำต้องอุทิศหรือป่าวครับหรือว่าเขาจะได้เหมือนทำเองครับ

    ฝากยายสักข้อนะครับ
     
  6. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ตาย คือ การไปที่ไม่มีอะไรติดไปนอกจากความดี หรือความชั่ว เขาตาย ทรัพย์สมบัติของเขา ก็เอาไปด้วยไม่ได้ อะไรที่เคยคิดว่าเป็นของเขา ก็เอาไปไม่ได้เช่นกัน แม้กระทั่งสังขารที่เคยลุ่มหลงว่ามันช่างน่าอยู่เสียกระไร

    หากจิตนั้นยังคิดยังย้อนว่าตนมี นี่ก็ของกูเคยมี กูเคยรักเคยหวง จิตเขาก็ติดกับกิเลส กลายเป็นสัมภะเวสีไป หรือเปรตไป

    ดังนั้นการทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไม่ว่าจะเป็นปัจจัยของผู้ตายเองหรือผู้อื่นอุทิศสร้างไปให้ มันขึ้นอยู่กับภพภูมิที่เขาไปด้วย

    แต่การทำบุญไม่ว่าด้วยปัจจัยใดๆ ขอให้ทำด้วยจิตที่น้อมนำ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำส่งไปตามความเชื่อ ตามประเพณีว่าต้องทำนะ จิตไม่ผ่องแผ้วพอ เราก็ชวด ผีก็ชวด โดยเฉพาะก่อนทำบุญ อย่าผิดศีลไปพร้อมๆกัน (ชั่วขณะก็ยังดี)

    เอางี้นะคะ เมื่อวานตอนดึกๆยายพยายามจะโพสเรื่องนี้ที่ไปอ่านเจอมาจากคมชัดลึก เราไม่ต้องเชื่อสนิท เราอ่านและพิจารณาไป แต่จากการที่ยายผีป่าแผ่เมตตา สร้างบุญส่งไปนั้น ก็สัมผัสได้ว่า ทุกภพทุกภูมิตื่นได้ค่ะ อนุโมทนาได้ เบิกบานได้ เราขยันทำจิตเราให้ตื่น เบิกบานกับอานิสสงส์ บุญมันครอบหมดล่ะค่ะ ไม่ถึง มันก็วกกลับมาหาเราค่ะ ไม่มีขาดทุน

    ส่งบุญให้คนตายได้จริงหรือ?


    ๑.การก่อและถวายพระเจดีย์ทราย
    ๒.การทำบุญตักบาตรอุทิศให้ญาติที่ตายแล้ว
    ๓.การบังสุกุลอัฐิ (กระดูก) อุทิศบุญกุศลให้ญาติที่ตายแล้ว
    ๔.การสรงน้ำพระพุทธ
    ๕.การสรงน้ำพระสงฆ์และสามเณร
    ๖.การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และ
    ๗.การปล่อยสัตว์ให้ชีวิตเป็นทาน
    ทั้งหมดนี้เป็นบุญ ๗ ประการที่พุทธศาสนิกชน ทั่วทุกภูมิภาคนิยม ทำกัน ในช่วงเทศกาล สงกรานต์
    บุญอย่างหนึ่งที่พุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยอดตั้งคำถามอยู่ในใจ คือ "การบังสุกุลอัฐิ (กระดูก) อุทิศบุญกุศลให้ญาติที่ตายแล้วผู้ตายจะได้รับหรือไม่?"
    พระราชญาณวิสิฐ เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมยาการาม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หรือที่รู้จักกันในนาม "หลวงป๋า" ได้อธิบายเรื่อง การอุทิศส่วนบุญให้ผู้วายชนม์ ไว้ว่า ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าผู้วายชนม์ คือผู้ที่ตายแล้วจากโลกนี้ ไม่ใช่ตายสูญ สำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานเป็นพระอรหันตขีณาสพแล้ว ตราบใดที่อวิชชายังทำหน้าที่อยู่ก็จะต้องมีภพภูมิเกิดใหม่เสมอไป ไม่ใช่ตายแล้วสูญ หรือตายแล้วจบสิ้น ตายแล้วต้องเกิดใหม่ แต่เมื่อไปเกิดในภพภูมิที่เป็นทุกข์หรือสุข ย่อมได้รับผลบุญที่มีผู้อุทิศให้ไม่เท่าเทียมกัน กล่าวคือ
    ๑.สัตว์ที่ไปเกิดในสุคติภพ อย่างคนที่ทำดีสูงสุดในภพสามได้อรูปฌานก็ต้องเกิดในอรูปภพ ถ้าก่อนตายอรูปฌานไม่เสื่อม ก็ต้องเกิดในอรูปภพ ส่วนท่านที่ได้รูปฌาน ฌานไม่เสื่อมก่อนตายก็จะไปเกิดในอรูปภพ กล่าวอย่างง่ายๆ ว่าเกิดในพรหมโลก ซึ่งเป็นสุคติภพชั้นสูง ชั้นกลางคือผู้ทำความดีระดับกลาง ในระดับที่มีใจเป็นกุศลได้บริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนาพอสมควรเป็นเนืองๆ
    เมื่อตายไปแล้วก็มีโอกาสได้ไปเกิดในภพภูมิที่เรียกว่า สุคติภพ เช่น กามภพ ได้แก่ เทวโลก หรือมนุษย์โลก คือไปเกิดเป็นเทวดา ที่ต่ำลงมาก็เป็นมนุษย์ มนุษย์ก็จัดเป็นสุคติภพ แต่มนุษย์ที่เกิดมาในที่เจริญทางพุทธศาสนาก็มี เกิดเป็นศาสนิกในศาสนาอื่นก็มาก แม้เกิดในพุทธศาสนาเป็นผู้มีปัญญารู้เรื่องบาปบุญคุณโทษก็มี ไม่รู้เรื่องบาปบุญคุณโทษก็มาก
    ๒.สัตว์ที่ไปเกิดในทุคติภพ คือ พวกเปรต สัตว์นรก อสุรกายสัตว์ดิรัจฉาน แม้แต่สัตว์นรกก็มีอยู่หลายภูมิ สัตว์นรกก็เหมือนติดคุก ซึ่งมีอยู่หลายแดน มีตื้น มีลึก มีชั่วคราว มีถาวร มีขั้นถึงโทษประหาร กล่าวถึงเปรตก็นับเผ่าพันธุ์ไม่ถ้วน สัตว์ดิรัจฉานก็นับชนิดไม่ถ้วน อสุรกายก็มาก เพราะฉะนั้น คนเราตายไปแล้วยังต้องเกิด ตราบใดที่อวิชชายังทำหน้าที่อยู่
    หลวงป๋า บอกด้วยว่า การอุทิศส่วนบุญให้ผู้วายชนม์ ผู้วายชนม์นั้นย่อมได้ไปเกิดแล้วเพียงแต่ว่าจะไปเกิดที่ไหนอย่างไร โดยปกติจะไม่เกิน ๕ วัน ๗ วัน ต้องได้เกิดแน่ การอุทิศบุญให้จะได้รับหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับภพภูมิที่ไปเกิด สัตว์บางประเภทก็ได้รับ บางประเภทก็ไม่ได้รับ ขึ้นอยู่กับประเภทของภพภูมิของผู้รับ
    ทั้งนี้หลวงป๋าได้อธิบายประเภทของภพภูมิให้ฟังด้วยว่า พวก "อรูปพรหม" และ "รูปพรหม" เป็นสัตว์ในสุคติภพชั้นสูง อายุของพรหมยืนยาว เรียกว่า พรหมจะขยับตัวครั้งหนึ่ง มนุษย์เราก็ตายไปนับครั้งไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นในการอุทิศส่วนกุศล พรหมเกือบจะไม่มีโอกาสได้รับรู้ได้เลย เว้นแต่ในบางชั้นของพรหมอาจจะรับรู้แต่เวลาก็แตกต่างกันมากเหลือเกิน บางทีเราทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปนับครั้งไม่ถ้วน จนกระทั่งเราตายไป พรหมเพิ่งขยับตัว เลยไม่ทันได้รับรู้
    ส่วนใน "เทวโลก" เวลาก็ยังต่างกันมากอยู่ เมื่อเทียบกับมนุษย์โลก โอกาสที่เทวดาจะรับรู้เรื่องการบุญการกุศลกับเราก็น้อยแต่มีทางเป็นไปได้มากทีเดียว เฉพาะเรื่องรับรู้ขึ้นกับเงื่อนไขว่าถ้าผู้ปฏิบัติธรรมสามารถที่จะสื่อสารกันได้ จะได้โดยวิธีใดก็แล้วแต่กับเทวดา ทำให้เขารับรู้โดยง่าย แต่ถ้าปุถุชนทั่วไปอุทิศส่วนกุศลให้เทวดา เทวดาก็จะรับรู้ได้สำหรับเทวดาที่อยู่ในระยะใกล้ๆ เท่านั้นที่พอรู้ได้ นอกนั้นก็จะเพลิดเพลินอยู่ในทิพย์สมบัติ ก็จะไม่มองดูว่าหมู่ญาติได้ทำบุญอะไรอุทิศให้ เพราะฉะนั้น โอกาสที่เทวดาจะรู้เรื่องการทำบุญก็ไม่มากนัก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเสียเลย ขึ้นอยู่กับผู้อุทิศบุญ จะสามารถบอกข่าวไปได้ไกลเท่าใด
    พวก "มนุษย์" ผู้วายชนม์แล้วไปเกิดเป็นมนุษย์ ส่วนใหญ่ก็จำกันไม่ได้ว่าใครเป็นญาติใคร ไม่รู้จักกันเลยว่าเคยเป็นญาติกันมาก่อน อาจจะเดินสวนกันไปมาก็ได้ อีกฝ่ายหนึ่งอุตส่าห์ทำบุญไปให้ แต่เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้รับรู้ก็ไม่ได้อนุโมทนาบุญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกิดเป็นมนุษย์ แต่ไม่รู้ว่าไปเกิดส่วนไหนของโลกมนุษย์ยิ่งถ้าเกิดนอกพุทธศาสนาก็ยิ่งไม่รู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ ถึงได้ยินก็เหมือนไม่ได้ยิน ไม่รู้เรื่อง ก็เลยไม่รับรู้และไม่ได้อนุโมทนาบุญ
    พวก "เปรต" สำหรับเปรตมีเป็นร้อยๆ ชนิด แต่เปรตที่จะรับรู้ส่วนบุญคือเปรตที่อยู่ใกล้ๆ กับมนุษย์ ซึ่งมีความทุกข์และความหิว ภาษาบาลีเรียก "ปรทัตตูปชีวิกเปรต" เปรตประเภทนี้เกือบจะแน่นอนว่ามีโอกาสรับรู้ได้ และเขาก็จำญาติโยมแม้เกิดมานานนับภพนับชาติไม่ถ้วน ก็ยังจำได้ เพราะเปรตเหล่านี้มีชีวิตยืนนาน แต่เปรตอื่นนอกนั้นแย่เต็มที ไม่สามารถรับรู้ได้
    พวก "อสุรกาย" ก็ดีกว่าเปรตหน่อย ส่วนพวก "สัตว์นรก" พวกนี้ยากที่จะได้รับรู้เพราะเหมือนคนติดคุก ถึงเราจะบอกไปเท่าใดก็ไม่มีโอกาสได้ยินในส่วนบุญส่วนกุศลที่อุทิศให้ มีแต่ความเดือดร้อนทรมานด้วยเครื่องกรรมกรณ์ (เครื่องทรมาน) ต่างๆ พวก "สัตว์ดิรัจฉาน" แทบไม่มีโอกาสรับรู้เรื่องการบุญการกุศล และไม่รู้จักการอนุโมทนาบุญเพราะไม่มีใครบอก ถึงแม้บอกแล้วก็ฟังไม่รู้เรื่อง
    นอกจากนี้ยังมีอีกประเด็นคำถามที่ตามมา คือ "เมื่อเราอุทิศส่วนบุญสุดท้ายบุญของเราจะหมดไปหรือไม่" โดยหลวงป๋าได้อธิบายไว้ว่า ไม่ใช่เช่นนั้น บุญกุศลนั้นเหมือนกับแสงสว่าง หรือแสงเทียน ลองนึกว่า ถ้าท่านมีเทียนสว่างไสวอยู่ในมือและมีแสงสว่าง (ของผู้อื่นที่ต่อเทียนกับเรา) รอบท่านทั้งหมดด้วย
    "การอุทิศส่วนบุญกุศลก็เสมือนว่าท่านเชื้อเชิญทุกคนให้มาชื่นชมแสงสว่าง (คุณความดี) ของท่าน และรับแสงสว่างจากท่าน หรืออาจพูดว่าทุกคนมาพร้อมด้วยเทียน ขอจุดต่อจากท่านเช่นนั้น ท่านจะเห็นว่าแสงเทียนของท่านก็มิได้อ่อนลง แต่แท้ที่จริงจะกลับสว่างยิ่งขึ้น เพราะเหตุไร เพราะว่าแสงจากเทียนของทุกคน ที่ท่านเชื้อเชิญมาต่อเทียนจากท่านจะสว่างไสวสะท้อนกลับมายังตัวท่านอีกด้วย" หลวงป๋า กล่าวทิ้งท้าย
     
  7. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    "เหตุใดผู้ทำกรรมชั่วในปัจจุบันจึงเป็นคนร่ำรวย" น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตในสภาวะสังคมปัจจุบัน
    เหตุใดผู้กระทำความชั่วในปัจจุบัน เช่น ฆ่าสัตว์ คดโกงประเทศชาติ จึงเป็นผู้ที่ร่ำรวย มีคนเคารพนับถือมากมาย แสดงว่าการกระทำชั่วไม่ได้ให้ผลตอบแทนในการทำความชั่ว ใช่หรือไม่ ?
    มีคำบาลีบอกอยู่ว่า ในกรณีมีเหตุการณ์เช่นนี้เพราะเขามีสมบัติ ๔ ประการ
    ๑.กาลสมบัติ คือ อยู่ระหว่างบุญให้ผล
    ๒.คติสมบัติ คือ เขามาเกิดในตระกูลที่มียศถาบรรดาศักดิ์ มีทรัพย์สินบริวาร โภคทรัพย์บริวาร มีทรัพย์สมบัติมาก มีบริวารสมบัติมาก
    ๓.ประโยคสมบัติ ทำดีมีคนเห็นมีคนยกย่องสรรเสริญ ทำไม่ดีคนไม่เห็นพิสูจน์ไม่ได้ หรือเห็นไม่กล้าพูด นี่เรียกประโยคสมบัติ
    ๔.อุปาทิสมบัติ เกิดมาแล้วมีสมบัติอีกประการหนึ่ง เป็นคนมีบุคลิกดีน่าเกรงขาม พูดจาเข้าท่า คนเลยเชื่อถือไปในลักษณะแห่งความดี
    สมบัติ ๔ ประการนี้ กำลังให้ผลเขาอยู่ ก็เลยยังไม่ตกต่ำ แต่กรรมชั่วที่เขากำลังทำอยู่นั้นก็จะให้ผลแก่เขาต่อไปในกาลข้างหน้า
    ส่วนอีกคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ถ้ามนุษย์มีกรรมเก่าจริง ทำอย่างไรจึงจะลบล้างกรรมเก่าได้ ?
    การลบล้างกรรมเก่านั้นทำไม่ได้ ิเพียงแต่ว่าทำอย่างไรจะให้กรรมดีให้ผล ก็ทำกรรมดีให้หนักๆ ไปมากๆ เข้า เมื่อมากเข้ากรรมดีกระทำให้หนักก็เป็นครุกรรมไปเรื่อยๆ ทำให้เป็นอาจิณกรรมทำให้เป็นนิสัยเรื่อยๆ กรรมนี้ก็ย่อมให้ผลก่อนกรรมอื่น อุปมาเหมือนกรรมไม่ดีจะให้ผล เหมือนสุนัขไล่เนื้อกำลังไล่ตามเรา จะกัดเรา ถ้าเรามัวยืนเฉยอยู่ แน่ล่ะเดี๋ยวเดียวมันก็มาทัน หรือปะเหมาะกลับทำกรรมชั่วไปอีก ก็เท่ากับหันหลังกลับวิ่งเข้าไปหาสุนัขไล่เนื้อ เป็นอย่างไรได้รับผลเร็วเลย
    แต่ถ้าเราวิ่งหนีไปข้างหน้าตามกำลังเพียงใดก็เท่ากับทำกรรมดีส่วนหนึ่ง ก็มีผลว่าอาจจะพ้นหรือไม่พ้น
    ถ้าเราทำกรรมดีสุดดีหรือดียิ่งขึ้น เช่น ทั้งศีล ทั้งสมาธิ ทั้งปัญญา เสมือนหนึ่งขี่จักรยาน แล้วก็ขี่รถยนต์ แล้วก็ขี่จรวด สุนัขไล่เนื้อก็ตามเราไม่ทันเป็นของธรรมดา เรียกว่า เมื่อทำกรรมดีมากๆ เข้า กรรมดีก็ชิงให้ผลก่อน กรรมชั่วจึงตามไม่ทัน
    หนักๆ เข้าสุนัขไล่เนื้อก็หอบแฮ่กๆ ลิ้นห้อย เรื่องล้างกรรมนั้นล้างไม่ได้ กรรมนั้นยังอยู่ แต่ถ้าทำกรรมดีมากๆ ก็ได้รับผลจากกรรมดีก่อน 0 พระราชญาณวิสิฐ (หลวงป๋า) 0
     
  8. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,043
    หุหุ....หล่อแบบตี๋ ๆ หน้าเหมือนจิง ๆ อ่ะค่ะ:cool:

    เอามาฝากอีกน๊าค๊า.......

    อยากกิงขนม เกาหลีจังเลย...อิอิ
     
  9. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    สวัสดีครับ ยังคอยตามอ่านข่าวคราวอยู่ตลอดครับ แต่บ่อยครั้งเข้าเวปไม่ได้เลยเซ็ง ห่างๆไปบ้าง ขอบคุณครับที่ยังถามถึง ทางออสเตรเลียสบายกันดีครับ คุณตาก็สบายดี เห็นบอกว่ากำลังเป็นไปตามครรลองของชีวิตตามที่ยายบอกมา แต่ก็แฮปปี้ดีครับ อยากทราบว่าถ้ายายกลับไปทำงานต่อต่างประเทศผมจะส่งคืนผ้ายันต์ยังไงดีครับ ก็รอดูว่าจะมีใครไปเมืองไทยจะฝากกลับไปคืนครับ แต่ช่วงนี้ยังยังไม่มีวี่แววเลยครับ อยากติดต่อเจ้านางทำยังไงดีครับ
     
  10. Supernova

    Supernova เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +2,488
    ขอบคุณยายมากครับ
    ปกติ ผมขี้เกียจโพสต์มากๆ แต่ชอบอ่านที่ยายโพสต์ ๆเสมอมาครับ ชอบอ่านเนื้อหาสาระและไร้สาระ(อ่านแล้วขำๆในใจ)แต่แทรกข้อคิดอะไรเยอะมาก
    เห็นด้วยครับ ต้องรีบทำความดีให้มากๆเพื่อหนีอกุศลกรรมครับ และผมก็รู้ตัวผมเองก็เจอผลกรรมนั้นมาถึงผมนั้นมากมายเหลือเกิน แต่อาศัยเทพเทวดาช่วยเหลือผมตามที่ท่านทำได้ที่ไม่เกินผลกรรมที่ผมทำไว้ และชีวิตบนภพภูมินี้ไม่คิดที่จะทำอะไรที่หลงผิดมากแล้ว

    เล่าเรื่องที่วัดปทุมวนาราม
    เมื่อวันแรงงาน(เมื่อวาน) ก็ไปวัดปทุมวนารามเหมือนเดิมครับ ผมชอบวัดแห่งนี้มากถึงแม้ว่าผมฝึกกรรมฐานสายหลวงพ่อก็ตามครับ และโมทนาบุญให้เทวดาท่านทุกครั้งที่อยู่วัดนี้ เพราะท่านได้ช่วยดูแลวัดนี้ครับทุกครั้ง(ถ้าไม่ลืมซะก่อน)
    เทวดาวัดนี้ท่านจะอยู่ตามต้นไม้เพียบเลยครับ และท่านจะโมทนาบุญ เมื่อผมเดินเข้าสวนป่า เทวดาท่านโมทนากันเพียบ โดยใช้เสียงจั๊กจั่น(ซึ่งปกติจะร้องกันตอนหัวค่ำ) แต่ร้องในตอนเที่ยงๆบ่ายๆเลยครับ แบบว่าผมเดินไปช่วงไหน ท่านๆก็โมทนาเป็นเสียงจั๊กจั่นเพียบ
     
  11. Jdin_buddhism

    Jdin_buddhism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +10,153
    สวัสดีครับยาย

    วันนี้ 02/05/2549 นิดบอกผมว่าโอนเงินไปร่วมทำบุญสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตามใบบอกบุญคุณยายให้ผมแล้ว จำนวน 300 บาทและนิดได้ทำสมทบอีก 100 บาท รวมเป็น 400 บาทครับ

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณยายด้วยครับ...สาธุ
     
  12. rija

    rija เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +236
    หวัดดีค่ะ ทุกๆๆๆคน
     
  13. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    หวัดดีครับทุกโคนนน

    .......หายหน้าหายตาไปไหนหมดแล้ว

    ....พี่ตั้มครับ ต้องการรูปสาวเกาหลีด่วน หุหุ
     
  14. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    ต้องการรูปสาวเกาหลีคนไหนละครับ เมื่อวานเจอสาวเกาหลีคนหนึ่ง น่ารักมากกกกก ขอบอก ผิวสวยมากเลย เธอเป็นแอร์โฮสเตสของ Korean airline เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกัน เพราะดันเอากล้องไปไว้ในกระเป๋าใบใหญ่ซะนี่..เฮ้อ...
     
  15. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    สวัสดีค่ะพี่ตั้ม อยู่ทางโน้นเป็นยังไงบ้างคะ สนุกสนานดีมั้ยเอ่ย
    แอนไม่ได้เข้าเวบมาหลายวันเนื่องจากช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวของญี่ปุ่น แอนก็เลยได้หยุดยาวด้วยเลยกลับมาบ้านที่พิษณุโลกค่ะตอนนี้ อากาศร้อนดี 555 เดี๋ยวบ่ายนี้จะไปไหว้หลวงพ่อพระพุทธชินราชที่วัดค่ะ แล้วจะกราบพระขอพรเพื่อทุกๆคนในเวบพลังจิตนะคะ
     
  16. rija

    rija เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +236
    หวัดดีค่ะ ทุกๆๆคนซำบายดีนะคะ ไปดูดวงก่อนล่ะคิคิ
     
  17. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,043
    ไปฝึกกานมาดีจังเลยค่ะ

    ถ้าโอกาส ได้เวลาที่เหมาะสม

    จะไปฝึกด้วยค่ะ ...ทักทายกานบ้างน๊ะคะ
     
  18. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    จ๊ะเอ๋ ...มาแระ ...และเพลียมั๊กๆ เด่วมาฝอย ขอตัวนอนก่อนเน้อ

    สวัสดีค่ะน้องรุ่ง แหม...รอยายผีป่าทำนายเรื่องรักเรื่องหัวใจม่ายไหว ก็ถามไปที่คนผึ้งหลวงหรือท่านอื่นๆที่เปิดให้ถามไปพลางๆก่อนนะจ๊ะ

    น้องผึ้งจ๊ะ ยายล่ะปวดหมองกะอารมณ์นักวิเคราะห์เจาะลึกของพี่ชายข้ามภพของน้องผึ้งเจงๆ ตูล่ะเซ็งเรย แต่ช่างเหอะ สีทนด้ายยยยยยยยยยยยย แหะๆ

    จะมาเล่าเรื่องการไปฝึกมโนภาคยายผีป่า กะน้องๆ ที่บ้านสายลมเน้อ แต่ตอนนี้ กู๊ดไนท์ๆๆๆๆๆ
     
  19. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    เย่ๆๆ

    หนูรออ่านจ้า..
     
  20. rija

    rija เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +236
    เย้...เย้......เย้ !! คุณยายมาแล้ววววว เย้...เย้......เย้ !! ยังรออยู่นะค่ะ คุณยายที่รักขา รุ่งยังรอ ...ร้อ ...รอ คุณยาย ซำเหมอค่ะ รออยู่นะคะ คิคิ เย้...เย้......เย้ !! หายเหนื่อยหายเพลี้ยแล้วค่อยมาตอบก็ได้ค่ะ คุณยายที่ร๊ากกก ขา คิคิ ตื่นเต้นจังเลยค่ะ คุณยาย ลุ้นคำตอบอยู่เลยนะคะ (เนื้อเต้น ริก ... ริก .. ริก เลย ...คิคิ) แต่ว่า ถ้าชีวิตรักไม่เป็นดังหวังล่ะก้อ แนะนำวัดให้ด้วยนะคะ คุณยาย รุ่งจะบวชประชดรั๊ก !!
     

แชร์หน้านี้

Loading...