เรื่องเล่า พ่อท่านบ้านเรา อริยสงฆ์เมืองใต้

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wichu, 5 พฤษภาคม 2015.

  1. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านเนียม อดีตเจ้าอาวาสวัดบางไทร ต.บางศาลา อ.ปากพนัง จ.นครศรีฯ
    [​IMG]
    พ่อท่านเนียม นั้น เป็นที่ทราบอย่างกว้างขวาง ว่า ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่ยึดมั่นในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด ตลอดระยะเวลาที่ท่านอยู่ในผ้าเหลือง ท่านไม่เคยสะสมทรัพย์สินใดๆ เลย และเป็นพระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคมที่สูงยิ่งรูปหนึ่งในภาคใต้ จนได้รับฉายาเป็น “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง”
    แม้ญาติโยมจะบริจาคให้เป็นการส่วนตัวมากสักท่าไหร่ พ่อท่านเนียมท่านจะนำมาสร้างเสนาสนะต่างๆ ในวัดจนหมด พ่อท่านเนียมท่านมีลูกศิษย์ทั่วประทศ รวมทั้งชาวต่างประทศ เช่น ชาวพุทธในมาเลเซีย สิงคโปร์ ก็เคารพศรัทธาพ่อท่านเนียมป็นจำนวนมาก
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ก่อนที่พ่อท่านเนียมจะละสังขาร ได้มีพระครูวิสุทธิบุญดิตถ์ หรือ “หลวงพ่อนวล ปริสุทโธ” เจ้าอาวาสวัดไสหร้า อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สหธรรมมิกของพ่อท่านเนียม เดินทางมาเยี่ยม โดยไม่มีใครทราบล่วงหน้ามาก่อน จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ และเชื่อว่า พ่อท่านเนียม และพ่อท่านนวล ได้ส่งกระแสจิตถึงกัน โดยหลังจากพ่อท่านนวล เดินทางกลับไม่กี่นาที พ่อท่านเนียมก็ละสังขารอย่างสงบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p14.jpg
      p14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.2 KB
      เปิดดู:
      7,731
  2. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พระครูพิศิษฐ์อรรถการ
    [​IMG]
    พ่อท่านคล้าย เป็นพระเถระที่มีความเคร่งครัดในสิขาวินัย มีคุณธรรม บำเพ็ญสาธารณะอย่างใหญ่หลวง นอกจากนั้นท่านยังได้รับยกย่องนับถือจากประชาชนทั่วไปว่าเป็นเกจิอาจารย์สำคัญรูปหนึ่งขอภาคใต้ในฐานะที่เป็นผู้มี “วาจาสิทธิ์”
    ครั้งหนึ่งหีบเก็บเงินของวัดหนึ่งที่พ่อท่านคล้ายเคยจำพรรษาอยู่ได้หายไป จึงไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพราะในหีบมีเงินที่มีผู้บริจาคไว้เพื่อบำรุงวัด และในรุ่งเช้านั้นลูกศิษย์ก็ได้ไปแจ้งให้พ่อท่านคล้ายทราบด้วย
    เมื่อท่านได้ฟังก็นั่งยิ้มอยู่ ลูกศิษย์จึงถามว่าหีบนั้นหายไปไหนและจะได้คืนหรือเปล่า
    ท่านพูดว่า “ไม่สูญหายไปไหน เขาแบกไม่ไหวทิ้งไว้กลางสวน"
    เมื่อลูกศิษย์ไปดูก็พบหีบพร้อมด้วยรอยงัดแงะแต่ปรากฎว่างัดไม่ออก จึงได้นำกลับมาไว้ที่ศาลาของวัดตามเดิม นับว่าเป็นเหตุอัศจรรย์มากดังคำวาจาสิทธิ์ของท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p15.jpg
      p15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107 KB
      เปิดดู:
      7,328
  3. thth

    thth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +887
    สาธุครับ ที่ได้นำเรื่องราวของครูบาอาจารย์ทางใต้มาเผยแพร่กันครับ
     
  4. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ประวัติพระแม่แก่วัดก้างปลา ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
    พระแก่ ๗๕๖ ปี

    [​IMG]

    “พระแก่”หรือ “แม่แก่” หรือ “หลวงพ่อแก่” เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดก้างปลา หมู่ที่ ๓ ตำบลที่วัง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
    ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ที่เล่าสืบต่อกันมาว่า พระแก่เป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเชื้อพระวงศ์ ไม่มีคู่ครอง เป็นผู้ที่มีใจบุญ สุนทาน มีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ชอบทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา
    ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 1800 ท่านทราบว่าที่เมืองนครศรีธรรมราช มีการบูรณะซ่อมแซมพระบรมธาตุ ท่านได้บอกบุญแก่ผู้มีจิตศรัทธารวบรวมทรัพย์สินที่มีค่าพร้อมเสบียงอาหาร ชวนคณะผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายพร้อมทั้งบริวารลงสำเภาเดินทางมาทางทะเลสิ้นระยะเวลาแรมเดือน เดินทางมาตามเส้นทางแม่น้ำตรัง มาตามลำคลอง(คลองใหญ่) มาถึงคุ้งน้ำวน(คลองเภาลายในปัจจุบัน)เรือสำเภาก็อับปางลง ทรัพย์สินต่างๆจมลงในแม่น้ำสิ้น
    ผู้คนที่มาต่างก็กระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง ส่วนองค์พ่อแก่เองมาติดอยู่ที่เกาะวัดก้างปลา และสิ้นพระชนม์ที่เกาะวัดก้างปลาแห่งนี้
    ต่อมาพระภิกษุเชื้อสายจีนได้สืบทราบว่าคณะที่เดินทางมาจากประเทศจีนเพื่อมาร่วมบูรณะพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ได้เสียชีวิตในระหว่างทางเพราะเรือสำเภาอับปางลง จึงได้สร้างพระไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งศรัทธาในพระพุทธศาสนาและคุณความดีของพ่อแก่ท่านไว้ที่เกาะก้างปลาแห่งนั้น และที่เรียกกันหลายชื่อก็เพราะสาเหตุ ดังนี้ คือ
    เรียกว่า “แม่แก่”เรียกตามคนในสมัยโบราณ เพราะเมื่อมีคนมาบนบายศาลกล่าวขอพรเมื่อได้สำเร็จตามความปรารถนา ก็เรียกตามความรู้สึกของตนด้วยความเคารพว่า “แม่แก่”(แม่เฒ่า)เนื่องจากอยู่มานานแต่ไม่มีใครรู้จักชื่อ
    ที่เรียกว่า “พระแก่” เพราะชาวบ้านมีความรู้สึกว่าท่านเป็นผู้ทรงศีลทรงธรรมมีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกับพระ เป็นที่พึ่งไดในยามที่พวกเขามีทุกข์ จึงเรียกว่า “พระแก่”
    เรียกว่าหลวงพ่อแก่ เป็นชื่อที่ใช้เรียกกันในสมัยพระครูวิฑิตธรรมโสภณ(มหาเลียบ ฐิตธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดก้างปลา ซึ่งเป็นพระที่เก่งทางด้านไสยศาสตร์ วิชาอาคม มีคนมาสักการะท่านมากและถามถึง เรื่องพระแก่ แม่แก่ ท่านจึงสร้างวิหารและเขียนไว้ที่หน้าวิหารว่า วิหารหลวงพ่อแก่ เพื่อให้เป็นชื่อสากล เพราะเป็นชื่อที่เรียกง่ายและเป็นคำที่ไพเราะ คนในสมัยปัจจุบันจึงเรียกว่า “หลวงพ่อแก่” กันทั่วหน้า
    อภินิหารหรือความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแก่ ในสมัยโบราณ มีคณะของศิลปินมโนราห์ ไม่ว่าคณะใหญ่ หรือคณะเล็กเมื่อเดินทางผ่านหน้าวัดก้างปลา ถ้าไม่แวะรำถวายก่อนก็ไม่สามารถะดินทางต่อไปได้ จะต้องแวะรำถวายก่อนเสมอจึงจะผ่านไปได้
    จนเป็นที่ร่ำลือกันทั้งใกล้ไกลและเมื่อปี พ.ศ. 2505 พระครูวิฑิตธรรมโสภณ(มหาเลียบ ฐิตธมฺโม) ได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดก้างปลาได้ทำการเคลื่อนย้ายรูปพระแก่ไปไว้ที่หน้าวัด เป็นเหตุให้ท่านเจ็บป่วยลงโดยหาสาเหตุไม่ได้
    ไม่ว่าจะไปหาหมอที่ไหนก็ไม่พบสาเหตุของอาการป่วย ท่านคิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะมาจากเหตุที่เคลื่อนย้ายรูปพระแก่เป็นแน่ จึงได้บนบานศาลกล่าวขอขมาพ่อแก่ อาการของท่านจึงได้ทุเลาจากการอาพาธ หลังจากนั้นจึงได้ย้ายพ่อแก่มาไว้ที่เดิม และมีหลายครั้งที่พระแก่ได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้เห็น จนประชาชนกล่าวขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก่ต่างพากันมากราบไหว้ขอพรท่านตลอดมาตราบจนปัจจุบัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p16.jpg
      p16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      125.6 KB
      เปิดดู:
      7,018
  5. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ๏ ปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงามของ หลวงพ่อนวล

    พ่อท่านนวล ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์”

    ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากหลวงพ่อนวล ท่านไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ


    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๓ ทางประดิษฐาราม (วัดไสหร้า) ได้จัดสร้างวัตถุมงคล"พ่อท่านนวลรุ่นแรก"ขึ้น ซึ่งเป็นรุ่นที่มีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับของศิษยานุศิษย์ ที่ได้นำไปบูชาอย่างกว้างขวาง
     
  6. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ๏ การสร้างวัตถุมงคล พระเครื่องพ่อท่านนวล วัดไสหร้า

    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๓ ทางวัดได้จัดสร้างวัตถุมงคล"พ่อท่านนวล"รุ่นแรกขึ้น ซึ่งเป็นรุ่นที่มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของศิษยานุศิษย์ ที่ได้นำไปบูชาอย่างกว้างขวาง และเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๔๘ ทางวัดได้สร้างวัตถุมงคลรุ่นผูกพัทธสีมายกช่อฟ้าฝังลูกนิมิต สำหรับให้ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้สักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยรับได้เฉพาะที่วัดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น อีกทั้ง วัตถุมงคลที่โด่งดังยังมีรุ่นมหาโภคทรัพย์ ๗ รอบ เป็นต้น

    [​IMG]
    ภาพด้านบนด้านซ้ายเป็นเหรียญที่ให้บูชา ร่วมบุญในช่วงงานผูกพัทธสีมา วัดไสหร้า
    ด้านขวา เป็นพระผงรุ่นเสริมบารมี ซึ่งสร้างก่อนงานนี้

    [​IMG]
    ภาพบนเป็นวัตถุมงคลให้ร่วมบุญบูชา ในงานผูกพัทธสีมา
    รูปขวา เป็นพระสีวลี ขนาดห้อยคอบูชา ที่มีในงานนี้

    [​IMG]
    ภาพบน รูปขวา เป็นเหรียญรุ่นรับเลื่อนสมณศักดิ์ ซึ่งเหรียญนี้ ได้ตอกโค๊ต แจกผู้มาร่วมในพิธีพุทธาภิเษก เหรียญดังกล่าว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • n12.jpg
      n12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.3 KB
      เปิดดู:
      6,321
    • Untitled-1.jpg
      Untitled-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.6 KB
      เปิดดู:
      6,412
    • n11.jpg
      n11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.1 KB
      เปิดดู:
      6,404
  7. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    วัตถุมงคลของพ่อท่านเนียม วัดบางไทร
    ประมาณ ปี ๒๕๔๔ ซึ่งผมได้มีโอกาศแวะไปกราบทำบุญกับ พ่อท่านเนียม ในวัดเองก็ไม่ได้ตั้งตู้ให้บูชา
    สอบถามชาวบ้านใกล้ๆ วัด ก็ทราบว่า ร้านขายของชำ ที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามวัด ได้เก็บวัตถุมงคลที่มีอยู่ สามารถไปบูชาได้
    ส่วนมากจะเป็นพระเนื้อ ผง รูปแบบตามในรูป เป็นพระในรุ่นที่บูรณะกำแพงอุโบสถ แบบรูปด้านล่างครับ

    [​IMG]
    แบบเหรียญที่มีให้บุชาตอนนั้น
    [​IMG]
    ต่อมา เมื่อทางคณะศิษย์ได้สร้างกุฏิหลังใหม่ ถวายท่าน เนื่องเพราะกุฏิหลังเก่าเป็นไม้ และมีฝุ่นมาก ทำให้ท่านอาพาธในโรคทางเดินหายใจ
    ในกุฏิใกล้ๆกันซึ่ง มีพระลูกศิษย์ท่านอยู่ ได้มีตู้วัตถุมงคล ให้บูชา ตามนี้ครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • w12.jpg
      w12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.9 KB
      เปิดดู:
      5,985
    • w13.jpg
      w13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.1 KB
      เปิดดู:
      6,077
    • w11.jpg
      w11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.5 KB
      เปิดดู:
      6,059
    • w10.jpg
      w10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.9 KB
      เปิดดู:
      6,642
  8. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    วัตถุมงคล พ่อท่านเนียม วัดบางไทร๒
    ประสบการณ์ในวัตถุมงคล ของพ่อท่านเนียม นั้น มีมากมาย แต่มี ๒ เรื่องที่ผมได้ฟัง จากหลวงพี่ที่ดูแลตู้วัตถุมงคล คือ
    ๑. พระปิดตาเนื้อผง เป็นเรื่องที่ได้ฟังจากหลวงพี่
    ๒.สายสิญจ์ ผูกข้อมือ เป็นเรื่องที่ ลูกน้องผมได้เจอเอง
    ตามรูป ด้านซ้ายคือพระปิดตาเนื้อผง และขวาคือสายสิญจ์ผูกข้อมือของท่านครับ

    [​IMG]
     
  9. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พระปิดตาเนื้อผงพิมพ์ใหญ่ ของพ่อท่านเนียม
    ผมเองได้ผ่านไปวัด บางไทร อยู่ เกือบทุกเดือน ก็แวะ บูชาวัตถุมงคลเรื่อยมา
    มีครั้งนึง ได้เห็นพระปิดตาเนื้อผงของท่าน ซึ่งพึ่งเห็นครั้งแรก
    ผมถาม "หลวงพี่ ว่าพระปิดตานี้ พึ่งทำหรือ"
    หลวงพี่ "พระปิดตาเนื้อผงนี้ ทำไว้นานแล้ว แต่ชาวบ้านแถววัดไม่สนใจ เพราะเห็นว่า องค์พระมีขนาดใหญ่"
    หลวงพี่ "แต่ ก่อนนี้ไม่นาน ได้มีพวกวัยรุ่น ที่ไปทำงานกรุงเทพ มาขอบูชากันมาก"
    "เห็นเค้าเล่าว่า เพื่อนแขวนพระรุ่นนี้ หลังเลิกงานช่วงค่ำ ได้ไปนั่งกินข้าวต้มกัน และมีเรื่องชกต่อยกับพวกอีกโต๊ะ พวกคู่กรณีชักปืนออกมาจ่อยิงหัว แต่ กระสุนด้านยิงไม่ออก"
    "ตอนนี้ พวกชาวบ้านก็มาถามหาอยู่ แต่อาตมาไม่เอาออกมาให้บุชา โยมจะเอาเท่าไหร่ก็เอง เหลือไม่มากแล้ว"
    เรื่องก็ประมาณนี้ครับ

    ส่วนเรื่องสายสิญจ์ผูกข้อมือ เดี๋ยวจะมาเล่าต่อครับ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ งานสงกรานต์ ความเมา ขวดเบียร์ และมีดพร้าครับ(พร้าแบบของภาคใต้ มีด้านไม้ยาว)
     
  10. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ลูกอมสารพัดนึก และด้ายสายสิญจน์ผู้ข้อมือ พ่อท่านเนียม
    วัตถุมงคล ที่ถือว่าเป็นของดีประจำตัวท่าน ซึ่งชาวอำเภอปากพนักจะรู้กันดี คือลูกอมสารพัดนึก ท่านจะแจกเอง และไม่ได้แจกโดยทั่วไป เป็นของที่ท่านหวงมากพอสมควร
    [​IMG]
    ผมเองเดินทางผ่านไปเส้นทางจากเมืองนครศรีฯ ไปอำเภอปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอหัวไทร เดือนละครั้ง ปกติถ้ามีเวลาผมก็จะแวะกราบพ่อท่านเนียม วัดบางไทร ปากพนัง พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ ภายหลังรู้จักพ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน ก็แวะบ้างนานๆครั้ง
    ครั้งนึงหลังจากทำบุญถวายสังฆทาน กับพ่อท่านเนียมแล้ว ท่านก็ถามว่า “ได้แล้วยัง ลูกอมนี้”
    ผม “ยังไม่เคยได้ครับ”
    พ่อท่านเนียม “ลูกอมนี้ ทำจากผงของครูบาอาจารย์ของเราผสมกับผงของเรา ใช้ได้สารพัดนึก เอาไปเลี่ยมใส่กรอบแล้ว ให้เจาะรูไว้ข้างบนกับข้างล่าง สำหรับแช่ทำน้ำมนต์พรมขายของดี รักษาโรคที่หมอรักษาไม่หาย ผีเข้า ก้างปลาติดคอ เป็นไข้เจ็บพุง แล้วแต่อธิษฐาน”
    พ่อท่านเนียม “แต่ว่าห้ามแขวนลูกอมนี้ ไปที่ไม่ดี ไปกินเหล้า ไปทำสิ่งไม่ดีให้ถอดเก็บไว้”
    แล้วท่านแจกลูกอม และสายสิญจน์ผูกข้อมือ ให้ทั้งกับผม และลูกน้องผมด้วย
    [​IMG]
    รูปด้านบน ซ้ายคือสายสิญจ์ผูกข้อมือ ด้านขวาคือมีพร้า แบบของทางภาคใต้ ใช้ดายหญ้าฟันกิ่งไม้

    ลูกน้องผม มันยังเป็นวัยรุ่นและเกเรพอสมควร มักตั้งวงดื่มเหล้ากับเพื่อน เมาแล้วไปนอนกับเด็กร้านคาราโอเกะบ้าง หมอนวดบ้าง มันจึงไม่กล้าห้อยลูกอมของพ่อท่านเนียม เพียงแต่ผูกข้อมือด้วยด้ายสายสิญจ์
    ในวันสงกรานต์ปี พ.ศ.๒๕๔๙ ลูกน้องผมไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนๆ หน้าร้านค้าริมถนน ขณะนั้น มีกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่อีกตำบลไม่ไกลกันขับรถกระบะ มาขอเติมน้ำใส่ถังน้ำใหญ่จะเอาไปสาดเล่น แล้วถอยรถเข้ามาในร้านชนเอาเก้าอี้ที่กลุ่มลูกน้องผมนั่งอยู่ ทั้งสองกลุ่มก็เมากันเละตั้งแต่เช้าแล้ว เลยตะลุมบอนกัน
    ร้านขายของที่อยู่ใกล้ๆกับที่เกิดเหตุเล่าว่า ทั้งสองพวกเมาเละกันอยู่ เห็นเจ้าลูกน้องผมถือขวดเบียร์ฟาดซ้ายฟาดขวา เพื่อนคนไหนสู้ไม่ได้ก็วิ่งหนี ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่รู้ไปเอามีดพร้ามาจากไหนฟันใส่ตะลุมบอนกัน เห็นว่าพวกนั้นใช้มีดพร้าฟันใส่เจ้าลูกน้องผมด้วย ซักพักฝ่ายนี้ก็หนี อีกฝ่ายก็พาพวกขึ้นรถออกไป
    หลังเกิดเหตุ ญาติๆที่รู้ข่าวก็ตอนเย็นแล้วออกตามหาเจ้าลูกน้องผมพาไปอยู่บ้านญาติที่อยู่ในตัวเมืองนครศรีฯ กลัวว่าจะมีการกลับมาแก้แค้นกันอีก ไปถึงก็ค่ำแล้วเค้าก็ให้ลูกน้องผมไปอาบน้ำ พอถอดเสื้อออกก็เห็นว่าเสื้อด้านหลังมีรอยขาดเป็นริ้วๆ หลายที่ และด้านหลังของมันก็มีรอยขีดๆเหมือนโดนข่วนแต่ไม่มีบาดแผลและเลือดไม่ออก วันรุ่งขึ้นเลยโทรมาขอพระพ่อท่านเนียมของผมไปองค์นึง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • w14.jpg
      w14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.8 KB
      เปิดดู:
      9,303
    • w15.jpg
      w15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.8 KB
      เปิดดู:
      7,936
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2015
  11. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านเนียม ฐิตธัมโม วัดนิโครธาราม ( วัดบางไทร )
    พระครูไพศาลวิริยกิจ ( เนียม ฐิตธัมโม ) อายุ 94 ปี 77 พรรษา เกิดวันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2459 (ขึ้น 14 ค่ำเดือน 7 ปีมะโรง) พ่อท่านได้ศึกษาการรักษาโรคตามแบบหมอบ้านแผนโบราณ วิชาความรู้ทางโหราศาสตร์ ทั้งภาษาไทยและขอม บิดาของท่าน

    [​IMG]
    ท่าน บรรพชาเป็นสามเณร ขณะอายุ 16 ปี เมื่อวันที่ 20 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2475 ณ วัดป่าระกำเหนือ ตำบลป่าระกำอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช มี เจ้าอธิการเพ็ชร ถาวโร วัดป่าระกำเหนือ ตำบลป่าระกำ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์
    พ่อท่านเนียมอุปสมบท อายุ 20 ปี เมื่อวันที่ 21 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2478 (แรม 14 ค่ำ เดือน 3 ปีกุน) ณ วัดปากแพรก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับฉายา ฐิตธัมโม มีพระอุปัชฌาย์คือ พระครูสุกกธรรมวโรภาส (พ่อท่านขาว) วัดปากแพรก ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง มีวาจาสิทธิ์ เข้มขลังในเวทมนต์คาถา เป็นหมอบ้านแผนโบราณ สามารถรักษาคนเสียสติ ให้หายเป็นปกติได้ สอนวิปัสสนาสมถะกัมมัฏฐานและวิชาอาคม-เวทมนต์คาถาให้แก่ พ่อท่านเนียม เป็นที่ยอมรับนับถือ-เคารพยกย่องจากชาวบ้าน ทั้งอาจารย์และศิษย์
    พ่อท่านเนียม ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูไพศาลวิริยกิจ (นิยม ฐิตธัมโม) เมื่อปี พ.ศ.2511
    อาจารย์ของ พ่อท่านเนียม ฐิตธัมโม
    1. พระอธิการเพชร ถาวโร วัดป่าระกำ (ล่าง) อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
    2. พระอาจารย์ขำ ปวรธมโม (ดิษฐ์แก้ว) วัดบางไทร อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
    3. พระครูนิโครธจรรยานุยุต (พ่อท่านมุ่ย จันทสุวัณโณ) วัดป่าระกำเหนือ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
    4. พ่อท่านจีต ปุญญสโร วัดถ้ำเขาพูล จ.ชุมพร
    5. ท่านสัก (เป็นฆราวาส) อยู่หมู่ 2 บ้านสุขี ต.ป่าระกำ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
    สหธรรมิก พ่อท่านเนียม ฐิตธัมโม
    1. พระครูเรวัตรศีลคุณ (พ่อท่านสังข์ เรวโต) วัดดอนตรอ มรณภาพแล้ว-ปัจจุบันสังขารไม่เน่าเปื่อย
    2. พระครูวิสุทธิ์บุญญดิษฐ์ (พ่อท่านนวล ปริสุทโธ) วัดไสหร้า มรณภาพแล้ว-ปัจจุบันสังขารไม่เน่าเปื่อย
    พ่อท่านเนียม ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 (ตรงกับวันพระแรม 8 ค่ำ เดือน 12) สิริอายุ 94 ปี 5 เดือน 19 วัน พรรษาที่ 77 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
    (มีเรื่องเล่าขานกันในหมู่ศิษย์ว่า ก่อน พ่อท่านเนียม จะละสังขาร ได้มี พระวิสุทธิ์บุญดิตถ์ (พ่อท่านนวล ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดไสหร้า อ.ทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช เกจิชื่อดังแดนใต้ สหธรรมิกของพ่อท่านเดินทางมาเยี่ยม โดยไม่มีใครทราบล่วงหน้ามาก่อน จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และเชื่อว่า พ่อท่านเนียม และพ่อท่านนวลสื่อกระแสจิตถึงกัน โดยภายหลังพ่อท่านนวลเดินทางกลับไม่กี่นาที พ่อท่านเนียม ก็ละสังขารอย่างสงบ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • w16.jpg
      w16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92 KB
      เปิดดู:
      7,341
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2015
  12. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านเอื้อมวัดบางเนียน
    [​IMG]
    ในปี พ.ศ.๒๕๔๘ ผมได้รับการบอกเล่าจากข้าราชการที่ชอบสะสมพระเครื่อง เสาะหาพระเก่งพระดีว่า ได้ข่าวจากเพื่อนๆที่รับราชการในอำเภอเชียรใหญ่ถึงพระดีและศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ได้รับการบอกเล่าและมีพยานในเหตุการณ์หลายคนทั้งข้าราชการและชาวบ้านในพื้นที่
    มีท่านผู้มียศสูงท่านหนึ่ง ได้มาราชการที่ในเขตอำเภอเชียรใหญ่ ลูกน้องในพื้นที่ได้บอกว่ามีพระดีอยู่รูปหนึ่งทำตะกรุดได้เก่งยิงไม่ออก จึงได้นิมนต์ท่านไปที่งานด้วย

    [​IMG]
    ท่านผู้นั้นได้ขอตะกรุดจากพ่อท่านเอื้อม พ่อท่านมอบให้ท่านรับไปแล้วก็ส่งให้กับลูกน้องรับไป คล้ายๆจะให้ถือไปเก็บหรือนำไปลองข้างนอก ขณะที่ลูกน้องรับตะกรุดไปแล้วหมุนตัวหันหลังเดินออกไป ทันใดนั้น ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็ชักปืนออกยิงไปที่ลูกน้องที่ถือตะกรุด
    แชะ แชะ แชะ ปืนยิงไม่ออก เงียบกันไปทั้งงาน ไม่มีใครนึกฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้
    ต่อมาคนที่เห็นเหตุการณ์ก็เล่ากันปากต่อปาก ในวงการผู้นิยมสะสมพระเครื่องของเมืองนครฯ
    หลังจากนั้นคนรู้จักกันที่ได้ไปกราบพ่อท่านเอื้อมบ่อยๆ ได้ถามพ่อท่านถึงเรื่องนี้
    ท่านก็บอกว่า เป็นเรื่องจริง ท่านเล่าเรื่องนี้ซ้ำอีกครั้งก่อนบอกว่า “วันนั้นถ้ายิงออก ก็ตายกันหมด”
    หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ผมก็รีบไปกราบพ่อท่านเอื้อมในทันที ตอนนั้นภายในวัดยังไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรมากมาย มีเพียงกุฏิเล็กๆ ๓ หลัง หอฉันก็เป็นไม้ไม่มีรั้ว ท่านจึงทำตะกรุด และรัดปะคต เพื่อให้บูชา หาปัจจัยมาก่อสร้างรั้วตาข่ายเหล็ก กันสุนัขและแมว เข้าไปในหอฉัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p113.jpg
      p113.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.8 KB
      เปิดดู:
      5,895
    • a111.jpg
      a111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.8 KB
      เปิดดู:
      6,265
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2015
  13. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านเอื้อม มีญาณรู้ สื่อกับเทพยาดาได้
    ...ในเรื่องเล่าในพื้นที่อำเภอเชียรใหญ่ ถึงความขลังและศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านเอื้อม
    [​IMG]
    ...ในช่วงก่อนปี พ.ศ.๒๕๔๘ มีการก่อสร้างถนน โดยหน่วยงานราชการ เป็นถนนที่ติดต่อระหว่างอำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด และอำเภอหัวไทร
    ...เส้นทางที่ถนนตัดผ่าน มีอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้การก่อสร้างติดขัด ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากมีบริเวณอาถรรพ์...
    ...เมื่อเครื่องจักร รถเกลด รถบด รถแบ๊คโฮล เข้าไปทำงานในพื้นที่นั้น เครื่องยนต์จะดับการทำงานหยุดชะงัก
    ...หากท่านเดินทางผ่านถนนทางหลวงสายอำเภอหัวไทร ไปอำเภอเชียรใหญ่ ก่อนถึงสี่แยกบ่อล้อ จะมีสามแยกที่มีป้ายแนะนำสถานที่น่าสนใจ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นั้นคือ ศาลต้นไทรศักดิ์สิทธิ์...
    ...ใช่แล้วครับ เส้นทางที่ถนนตัดผ่านใกล้กับต้นไทรใหญ่ เมื่อเครื่องจักรเข้าไปใกล้เครื่องยนต์จะดับ ไม่สามารถเข้าทำงานได้
    ...ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมงานของทางราชการ เห็นท่าไม่ดี รู้ว่าต้องเป็นอาถรรพ์ จึงได้สอบถามหาพระเก่ง เพื่อมาช่วย จึงได้นิมต์พ่อท่านเอื้อมท่านไปทำพิธีขอให้ และตั้งศาลเจ้าแม่ต้นไทรศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันผู้สนใจในเรื่องการเสี่ยงโชคมักไปกราบไหว้ขอพรขอเลข และผูกผ้าแพรสี นำของต่างๆไปไหว้แก้บนกันอยู่เสมอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a112.jpg
      a112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.3 KB
      เปิดดู:
      6,376
  14. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    ประวัติพ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ วัดบางเนียน
    ..."1 ศตวรรษ 5 แผ่นดิน" พ่อท่านเอื้อม พระเกจิอาจารย์จอมขมังเวท ทองทั้งแท่ง เพชรแท้แห่งลุ่มน้ำปากพนัง เจ้าอาวาสวัดสุวรรณจัตตุพลปันนาราม (วัดบางเนียน)ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ถือกำเนิด ณ บ้านเลขที่ 68หมู่ที่12ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ปีระกา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2449
    ...หลังจบการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนใกล้บ้านแล้ว ประกอบอาชีพทำนาช่วยเหลือครอบครัว
    ...พ่อท่านเอื้อม อุปสมบทเมื่ออายุ 65 ปี เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2514 เวลา 13.45 น. ณ พัทธสีมา วัดปากเชียร อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีพระครูถาวรบุญรัต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมานิต มานิโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายา "กตปุญโญ"
    ...ตามประวัติพ่อท่านเอื้อม ก่อนอุปสมบทท่านเคยเป็นเสือเก่ามาก่อน และได้เคยปะทะกับท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ต่างคนต่างมีวิชาสายสำนักเขาอ้อเหมือนกัน จนในที่สุดท่านทั้งสองคบหาเป็นสหายกัน ต่อมาท่าน พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้แนะนำให้ท่านไปบวชกับพ่อท่านคล้าย วัดจันดี แต่หลวงพ่อคล้ายท่านชราภาพมากแล้ว จึงแนะนำให้ไปบวชกับพระรูปอื่น ก่อนบวชท่านได้บอกว่าถ้าบวชกับพระรูปไหนจะไปสึกกับพระรูปนั้น ในที่สุดท่านก็ได้อุปสมบทกับพระครูถาวรบุญรัต ในเวลาต่อมาท่านพระครูถาวรบุญรัตได้มรณภาพลง พ่อท่านเอื้อมจึงลาสิกขาไม่ได้ตั้งแต่นั้นมาจวบจนปัจจุบัน
    ...หลวงปู่เอื้อม กตปุญโญ สำหรับด้านการศึกษาพุทธาคม หลังจากอุปสมบทแล้ว พ่อท่านเอื้อมอยู่จำพรรษาวัดปากเชียรศึกษาข้อวัตรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จากนั้นได้จาริกธุดงค์ตามป่าเขา ขึ้นเหนือถึงประจวบคีรีขันธ์ ลงใต้สำนักอาจารย์เขาอ้อ ไปสุดชายแดนมาเลเซีย
    ... ระหว่างธุดงค์ได้สร้างวัดตามสถานที่ต่างๆ รวมได้ 7 วัด ได้แก่ วัดท้ายทะเล อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช, วัดเนินธัมมัง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช, วัดไสไท อ.เมือง จ.กระบี่, สำนักสงฆ์สะเดา อ.เมือง จ.ชุมพร, สำนักสงฆ์เขาวงแหวน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง, สำนักสงฆ์ควรเขาดิน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี และวัดบางเนียน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
    พ่อท่านเอื้อม ศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างมุ่งมั่นและจริงจัง ระหว่างธุดงค์ปักกลดตามป่า ถ้ำและเดินข้ามภูเขาน้อยใหญ่รวม 69 ลูก การปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดของพ่อท่านเอื้อมจึงเชื่อกันว่าพ่อท่านได้ บรรลุธรรมขั้นสูง
    ...นอกจากศึกษาค้นคว้าและปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดแล้ว พ่อท่านเอื้อมยังได้ศึกษาค้นคว้าทางไสยเวท และวิทยาคมทั้งศาสตร์อิสลาม พราหมณ์ ขอมและพุทธ มาตั้งแต่อายุ 16 ปีจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้พ่อท่านเอื้อมมีความรู้แตกฉาน ลึกซึ้งและแกร่งกล้าทางด้านไสยศาสตร์ เวทมนตร์ คาถา อาคมในทุกด้าน
    [​IMG]
    จากภาพ ด้านซ้ายเหรียญรุ่นแรกเนื้อทองแดง

    ..."หลวงพ่อเอื้อม วัดบางเนียน"ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์เพชรน้ำหนึ่งของภาคใต้ ที่มีตบะบารมีอันสูงยิ่ง วัตถุมงคลที่พ่อท่านเอื้อมอธิษฐานจิตหรือปลุกเสกจะมีอิทธิปาฏิหาริย์และ ประสบการณ์ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด คุ้มครอง โชคลาภ และเมตตามหานิยม ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ที่นำไปบูชาจนนับครั้งไม่ถ้วน ศิษยานุศิษย์ ผู้ศรัทธาและบุคคลทั่วไปจึงเคารพนับถือศรัทธา แสวงหาวัตถุมงคลของพ่อท่านเอื้อมไว้บูชา และไปคารวะกราบไหว้พ่อท่านเอื้อมกันมากมายตลอดเวลา ปัจจุบัน "หลวงพ่อเอื้อม วัดบางเนียน" ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิเอกอุด้านจตุคามรามเทพรูปหนึ่ง
    ...พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ วัดบางเนียน ละสังขารแล้ว วันที่ 9 ธันวาคม 2557 ละสังขาร อายุ 108 ปี 2 เดือน 8 วัน พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ พระเถราจารย์ ละสังขารที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์

    กิตติคุณเป็นที่กล่าวขานเรื่องเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย พระเครื่องและวัตถุมงคลเข้มพลังมากประสบการณ์ เช่น เหรียญพ่อท่านเอื้อม รุ่นแรก พ.ศ.2533 อายุ 82 ปี ตะกรุดผ้ายันต์ พระผง รูปหล่อบูชา เป็นต้น ซึ่งราคาค่านิยมในกลุ่มลูกศิษย์มีราคาค่อนข้างสูงสำหรับเหรียญรุ่นแรก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a111.jpg
      a111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.8 KB
      เปิดดู:
      5,575
  15. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    วัตถุมงคลของพ่อท่านเอื้อม ในปี พ.ศ.๒๕๔๘ ถึง ๒๕๕๐
    ในช่วงที่ท่านอายุ ๙๘ ปี ถึง ๑๐๐ ปี
    ...พ่อท่านเอื้อมมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางถึงความขลังศักดิ์สิทธิ์
    ...วัถตุมงคลของท่าน ที่ทางวัดสร้างเอง และที่ทางวัดอื่น หรือลูกศิษย์ได้ขอสร้างมีหลากหลายรุ่น ซึ่ง เมื่อได้จัดสร้างและนิมนต์ท่านปลุกเสก หรือนำมาให้ท่านเสกให้ที่วัดแล้ว ก็จะถวายให้ท่านส่วนนึง เพื่อให้ผู้ศรัทธาบูชา นำปัจจัยบำรุงวัดต่อไป

    [​IMG]

    [​IMG]

    เหรียญชุดนี้ มีให้บูชาที่วัดในตอนท่านอายุ ๙๘ ซึ่งทางวัดและคณะศิษย์ที่จังหวัดชุมพร ขออนุญาตจัดสร้าง ถือว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกของทางจังหวัดชุดพร(ไม่นับเหรียญรุ่น ๑, ๒ และ ๓ ที่สร้างของวัดบางเนียน)

    [​IMG]

    เหรียญยืนชุดนี้ เป็นเหรียญยืนรุ่นแรกของวัดบางเนียน เป็นเหรียญที่มีจำนวนน้อย เนื่องจากระหว่างขนส่งจากโรงงานที่ กรุงเทพมานครศรีฯ กล่องบรรจุพระฉีกขาดทำให้เหรียญหล่นหายไปบางส่วน ในช่วงกระแสการสร้างจตุคามโด่งดัง เหรียญรุ่นนี้มีราคาพุ่งสูง จาก ๑๐๐ บาท ไปถึง ๔,๐๐๐ บาท ทีเดียว

    [​IMG]

    พระผงรุ่นนี้ สร้างตอนท่านอายุ ๙๙ ปี โดยพระลูกศิษย์ที่ ขออนุญาตสร้างเพื่อให้ทำบุญก่อสร้างสำนักสงฆ์สาคูใต้ เนื้อผงผสมว่าน๑๐๘ โดยสร้างที่วัดบางเนียน และให้พ่อท่านปลุกเสกให้ ชุดนี้ ถวายไว้ที่วัดบางเนียน
    ในพิมพ์พระราหู มีประการณ์การลองกันมากมาย ในช่วงปี๒๕๕๐ หลายคนชาวนครศรีฯ เลี่ยมแขวนนอกเสื้อกันมากมาย


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a112.jpg
      a112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.3 KB
      เปิดดู:
      5,768
    • p117.jpg
      p117.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.5 KB
      เปิดดู:
      5,932
    • p115.jpg
      p115.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.8 KB
      เปิดดู:
      5,854
    • a114.jpg
      a114.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.1 KB
      เปิดดู:
      5,868
    • p118.jpg
      p118.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.4 KB
      เปิดดู:
      5,693
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2015
  16. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านเอื้อม เมื่ออายุ ๑๐๘ ปี รับรู้ทางจิตจากคำอธิษฐาน
    ในช่วงก่อนเข้าพรรษา ปี ๒๕๕๖
    ...ผมได้รับปากเพื่อน ที่จะขอผ้าจีวร ของพ่อท่านเอื้อม เพื่อนำไปติดด้านหลังแผ่นยันต์ ส่งแจกทหาร ตำรวจ ชาวพุทธในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
    ผมเองค่อนของหนักใจมากในเรื่องนี้เพราะ
    ๑.ในตอนที่พ่อท่านเอื้อมอายุ ๑๐๕ ปี ท่านก็ชราภาพมากแล้ว หูท่านก็ไม่ค่อยได้ยินเสียง ต้องพูดตะโกนดังๆ การจะอธิบายให้ท่านเข้าใจคงยากพอสมควร
    ๒.พ่อท่านเอื้อมมีชื่อเสียงมาก มีลูกศิษย์อยู่ด้วยมากมาย ถ้าผมไปขอ กลัวว่าเค้าจะไม่เชื่อใจผม เพราะไม่ได้รู้จักสนิทกัน เค้าอาจคิดว่าผมจะไปหลอกลวงหรือเปล่า
    ...ในกลางคืน ผมสวดมนต์ไหว้พระแล้ว ได้ตั้งจิตอธิษฐาน บอกกล่าวกับพ่อท่านเอื้อม เรื่องขอผ้าจีวร ถึง ๓ วันติดๆกัน ก่อนจะเดินทางไปวัดบางเนียน
    ...เมื่อไปถึงวัดบางเนียนนั้น มีรถจอดอยู่ถึง ๖ คัน เป็นรถใหม่ป้ายแดงที่นำรถมาขอให้เจิมให้ โดย "หลวงช้าง" พระลูกศิษย์พ่อท่านและได้รับการถ่ายทอดวิชาจากสายวัดเขาอ้อ เป็นผู้ทำน้ำมนต์ และแป้งเจิม ทำพิธีเจิมให้
    ...ตอนผมไปถึง จัดเตรียมผ้าจีวรและของสังฆทานเพื่อถวาย พ่อท่านเอื้อมยังพักผ่อนอยู่ ผมได้เข้าไปพูดคุยกับหลวงพี่ที่ดูแลพ่อท่านอยู่ บอกท่านเรื่องจะขอผ้าจีวรพ่อท่านเอื้อมไปติดแผ่นยันต์แจกชาวพุทธในสามจังหวัดใต้
    ...หลวงพี่บอก "ปกติพ่อท่านเอื้อมไม่เคยมอบผ้าจีวรให้ใครมาก่อนเลย แม้แต่กับลูกหลานท่านจะให้แต่ ผ้าสบง ผ้าอาบน้ำฝน ซึ่งในแต่ละปี ท่านจะให้เฉพาะในวันสงกรานต์เท่านั้น วันก่อนมีท่านอัยการมาขอผ้าจีวรพ่อท่านเหมือนกันจะเอาไปผสมสร้างพระแต่ท่านไม่ให้ แล้วหลวงพี่ก็เมตตาบอกว่าจะบอกพ่อท่านให้ฟังอีกแรงหนึ่ง...
    ...ผมฟังแล้ว ก็หมดความหวังว่าจะได้ผ้าจีวร แต่มาแล้วอย่างน้อย ขอน้ำมนต์ไปก็ยังดี จึงได้นั่งรอและ สวดมนต์บทจักรพรรดิ์ สลับกับการอธิษฐานลุ้นขอผ้าจีวร
    [​IMG]
    ..เมื่อพ่อท่านเอื้อมตื่นแล้ว ทางหลวงพี่และลูกชายของพ่อท่านก็เช็ดหน้าตา ให้ท่าน แล้วนำภัตตาหารมาให้ท่านฉัน ... จนเสร็จเรียบร้อย
    ... ต่อมาก็เป็นเวลากราบเยี่ยมทำบุญกับท่าน ทางคณะศิษย์ที่นำรถใหม่ไปเจิม และคนที่ชอบวัตถุมงคล ก็จะบูชาวัตถุมงคลจากร้านค้าภายในวัด ทางร้านจะจัดพานให้นำวัตถุมงคลใส่พาน แล้วนำไปให้พ่อท่านเอื้อมอธิษฐานให้อีกครั้ง
    ...ภาพพ่อท่านเอื้อมที่ผมเห็นตอนนั้น ท่านอายุ ๑๐๘ ปี และชราภาพมากแล้ว ท่านนั่งบนเก้าอี้ หลับตา มือทั้งสองวางบนหน้าขา ทางผู้บูชาวัตถุมงคลก็จะเข้าไปกราบท่าน นำพานวัตถุมงคลวางบนมือท่านครู่หนึ่งก็ยกกลับมา ถือว่าท่านรับรู้และเสกให้แล้ว ผมดูอยู่ ท่านไม่ได้ลืมตาหรือขยับเมือเลยด้วยซ้ำ เหมือนท่านนั่งหลับอยู่
    ...เมื่อ ทุกคณะที่มา ได้กราบท่านเสร็จเรื่องกันแล้ว ก็เป็นโอกาศของผม เข้าไปกราบถวายผ้าจีวรและของสังฆทาน คือวางบนมือที่หน้าขาท่าน หลวงพี่ที่ดูแลก็รับยกไปเก็บให้ ...แล้วผมก็พนมมือไหว้ ยกแผ่นกระดาษขนาดเอสี่ที่เขียนข้อความว่า "ขอผ้าจีวรไปติดแผ่นยันต์แจกสามจังหวัดใต้" ให้ท่านดู พร้อมพูดบอกท่านตามน้ัน หลวงพี่ก็พูดดังๆข้าหูท่านอีกที
    ผมเห็นท่านหรี่ตาขึ้นนิดนึง แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้นทันใดนั้น พ่อท่านยกมือขวาใช้นิ้วชี้ไปที่ห้อง...
    หลวงพี่พูดเสียงดังว่า "ท่านให้แล้ว โยมโชคดีจริงๆ ท่านไม่เคยให้ใครเลย"
    แล้วหลวงพี่ก็รีบเข้าไปเอาผ้าจีวรในห้องพ่อท่านมามอบให้ผม
    ...ผมนำผ้าจีวรวางบนตักท่านอีกครั้ง บอกขอให้ท่านเสกเพื่อให้ผู้ได้รับปลอดภัย แล้วลากับ
    ...ระหว่างผมเดินถือผ้าจีวรกลับไปที่รถ สวนทางกับหลานสาวท่านที่อยู่ร้านวัตถุมงคลหน้ากุฏิท่าน เค้าก็ทักว่า "พี่โชคดีมากจริงๆ ท่านไม่เคยให้ผ้าจีวรใครมาก่อนเลย"
    ...ครับ พ่อท่านเอื้อมในวัย ๑๐๘ ปี ท่านทรงฌาณอยู่ตลอด มีณาญรู้ถึงจิตใจเราได้ รับรู้ถึงคำอธิษฐาน ภายนอกดูเหมือนท่านนั่งหลับแม้ดวงตาปิดอยู่ หูท่านก็ไม่ค่อยได้ยิน มือท่านก็วางเฉยเหมือนไม่มีแรงยก แต่จิตท่านกลับรับรู้ทุกสิ่ง สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a113.jpg
      a113.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101 KB
      เปิดดู:
      5,770
  17. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    วัดเขาขุนพนม อำเภอพรหมคีรี นครศรีธรรมราช

    วัดเขาขุนพนม นครศรีธรรมราช คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยวัดนั้นตั้งอยู่ใกล้กับพระตำหนักเมืองนคร เป็นวัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี มีถ้ำซึ่งมีกำแพงก่ออิฐถือปูนและใบเสมาเช่นเดียวกับกำแพงเมือง ผนังด้านหน้ามีลายปูนปั้นประดับเครื่องลายครามจีน ในถ้ำมีพระพุทธรูปสำริดประมาณ 30 องค์ และพระพุทธบาทสำริด

    [​IMG]

    สำหรับถ้ำในวัดแห่งนี้มีหลายถ้ำทะลุถึงกัน ส่วนกำแพงมีการนำถ้วยชามมาตกแต่ง บริเวณซุ้มของกำแพงยังปรากฏถ้วยลายครามจีนสมัยราชวงศ์หมิง ส่วน ยอดของซุ้มประตูมีเครื่องลายครามสมัยราชวงศ์ชิง สันนิษฐานว่าเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (พระเจ้าตากสิน เสด็จหนีมาผนวชจนสวรรคต) แต่บางท่านก็ว่าเป็นที่พักผ่อนสำหรับเจ้าหญิงเกศิณีธิดาของเจ้านราสุริยวงศ์ เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ช่วง พ.ศ. 2312 - 2319

    [​IMG]

    วัดเขาขุนพนมและศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาเขาขุนพนม อยู่ในเขตหมู่ที่ 3 ตำบลบ้านเกาะ จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 ถึงกิโลเมตรที่ 21 ผ่านตลาดพรหมโลก มีทางแยกขวาไปอีก 2.5 กิโลเมตร วัดเขาขุนพนม เป็นวัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี มีถ้ำที่มีกำแพงก่ออิฐถือปูน มีใบเสมาเช่นเดียวกับกำแพงเมือง ผนังด้านหน้ามีลายปูนปั้นประดับเครื่องลายครามจีน ในถ้ำมีพระพุทธรูปสำริดประมาณ 30 องค์ และพระพุทธบาทสำริด ถ้ำในวัดแห่งนี้มีหลายถ้ำทะลุถึงกัน
    ขอบคุณ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • k111.jpg
      k111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.8 KB
      เปิดดู:
      5,362
    • k112.jpg
      k112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.5 KB
      เปิดดู:
      5,249
  18. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านพุ่ม กตปุญโญ สหธรรมมิก ของ พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ วัดบางเนียน
    ในปี พ.ศ.๒๕๕๔ พ่อท่านเอื้อมในวัย ๑๐๕ ปี มีชื่อเสียงโด่งดังมากเป็นพระเกจิที่ขมังเวทและศักสิทธิ์อยู่ในอันดับต้นๆ ของ จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคใต้ ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๕๐ ถึง ๒๕๕๕ ในพิธีพุทธาภิเษกองค์พ่อจตุคามรามเทพ ท่านมักได้รับนิมนต์เป็นประธานจุดเทียนชัย อยู่เสมอมา
    เพื่อนผมเป็นชาว อำเภอทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช ชอบสะสมพระเครื่อง ได้ยินกิติศัพท์ ความศักสิทธิ์ของพ่อท่านเอื้อม จึงได้พาครอบครัวเดินทางไปกราบทำบุญกับพ่อท่านเอื้อม ที่วัดบางเนียน อำเภอเชียรใหญ่ ต้องเดินทางถึง ๑๐๐ กิโลเมตร
    เมื่อได้พบกัน พ่อท่านเอื้อมได้ถามคณะของเพื่อนว่า “มากันจากที่ไหน” พอทราบว่ามาจากอำเภอทุ่งใหญ่ พ่อท่านก็ว่า “อยู่ทุ่งใหญ่ ให้ไปทำบุญกับท่านพุ่มมั่ง ท่านเหมือนกับเราแหละ”
    ต่อมา เพื่อนผมและครอบครัว ก็ได้ไปกราบทำบุญกับพ่อท่านพุ่ม ที่สำนักสงฆ์ดอยเจดีย์ศรีพุทธสถิต และได้เล่าให้ผมฟัง เรื่องนี้และยังบอกอีกว่า พ่อท่านพุ่ม แม้อายุ ๑๑๐ ปี ท่านยังตรวจดวงชะตาให้อีกด้วย
     
  19. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านพุ่ม กตปุญโญ พระผู้เมตตาบนเขากลางเมืองทุ่งใหญ่
    ผมได้ฟังเรื่องราวของพ่อท่านพุ่ม จึงได้เดินทางเพื่อกราบท่านบ้าง
    [​IMG]
    พ่อท่านตรวจดวงชะตา แก้เคราะห์ร้าย สำหรับคนดวงตก
    เมื่อไปถึงก็ขอท่านตรวจดวงชะตา ในวัย ๑๑๐ ปี ท่านยังอ่านและเขียนหนังสือได้ด้วยอักษรแบบสมัยก่อน
    ท่านจะตรวจดวงชะตาจาก วัด เดือน ปีเกิด ด้วยวิชาเลข ๗ ตัว ดูเฉพาะว่า ดวงชะตาอยู่ในเคราะห์หรือตกเกณฑ์ที่ไม่ดีหรือไม่ หากดวงชะตาอยู่ในเกณฑ์ร้าย ท่านก็จะทำพิธีแก้ไขให้ การทำบุญนั้นแล้วแต่เราจะศรัทธา ในครั้งท่านแจกผ้ายันต์ สายสิญจน์ผูกข้อมือ

    รักษาคนถูกผีเข้า หรือ โดนคุณไส
    ต่อมาผมมักจะแวะไปกราบทำบุญกับท่านอยู่เสมอ มีหลายครั้งที่เห็นครูที่สอนอยู่ในพื้นที่เขตอำเภอทุ่งใหญ่ ขับรถกระบะ พาเด็กนักเรียนมาทีละ ๗ถึง๘ คน มาถึงก็ช่วยกันอุ้มเด็กที่หมดสติมา สอบถามถึงได้รู้ว่า “เด็กถูกผีเข้าหมดสติ” พาตัวมาให้ท่านรักษา

    [​IMG]
    ชานหมากรักษาโรค
    สำหรับชานหมากของท่าน ได้ยินมาว่า ใช้อธิษฐานรักษาโรคได้ บางคนเป็นอัมพฤกษ์มาถึง ๕ ปี ได้ชานหมากของท่านไปกินจนหายเป็นปกติ จนมีการแอบแย่งเก็บชานหมากที่ท่านเคี้ยวกัน ถึงกับจ้างให้คนที่วัดเก็บไว้ให้ ซึ่งต่อมาในปี ๒๕๕๗ ได้มีคนมาสอนวิธีปั้นชานหมากเป็นลูกกลมๆเพื่อให้คนบูชา ซึ่งชานหมากที่ปั้นนี้ค่อนข้างพิเศษตรงที่ใช้น้ำผึ้งที่แช่ก้อนแร่ขึ้เหล็กไหลนำมาผสมซึ่งจะมีผงก้อนแร่ขี้เหล็กไหลผสมด้วยเพิ่มเรื่องคงกะพันคุ้มครองอีกด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p112.jpg
      p112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.5 KB
      เปิดดู:
      5,207
    • p118.jpg
      p118.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.2 KB
      เปิดดู:
      5,217
  20. wichu

    wichu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +4,694
    พ่อท่านพุ่ม กตปุญโญ
    สำนักสงฆ์ดอยเจดีย์ศรีพุทธสถิต
    ท่านเป็นศิษย์พุทธาคม ของพ่อท่านนาค พ่อท่านแดง วัดภูเขาหลัก และพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน
    ท่านสนิทเป็นสหธรรมมิก กับพ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ วัดบางเนียน
    พ่อท่านพุ่ม กำเนิดวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๔ ที่ ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
    ในวัยเด็กท่านได้รับการถ่ายทอด วิชา ทางเวทมนตร์ คาถาอาคม และได้ศึกษาด้านแพทย์แผนโบราณ ตัวยาสมุนไพร หมอกลางบ้าน จากปู่เพชรขาว ซึ่งเป็นโยมปู่ของท่าน
    พออายุ ๒๐ ปี ท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ และได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดภูเขาหลัก โดยมีพ่อท่านนาค เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาท่านได้ลาสิขาออกมาใช้ชีวิตครองเรือน นำวิชาความรู้ที่ศึกษามาช่วยเหลือชาวบ้าน รักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยตัวยาสมุนไพร และได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน
    ระหว่างเป็นฆราวาส ท่านได้เดินทางไปช่วยเหลือพ่อท่านคล้ายสร้างเจดีย์วัดธาตุน้อยอยู่เสมอจนพ่อท่านคล้ายมรณภาพ ใน พ.ศ.๒๕๑๓
    ใน พ.ศ.๒๕๒๑ ท่านพุ่มอายุ ๗๗ ปี เกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส ตั้งใจจะเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อปฏิบัติธรรมมุ่งสู่เส้นทางมรรคผล

    [​IMG]
    พ่อท่านพุ่มจึง อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดท่ายาง โดยมี พระครูประกิต สุตคุณ(พ่อท่านถนอม) วัดท่ายาง เป็นอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา กตปุญโญ(ผู้มีบุญได้กระทำไว้แล้ว) ต่อมาท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดไสใหญ่ และได้บูรณะพัฒนาจากวัดร้างจนมีเสนาสนะต่างๆ และได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมเป็น พระครูใบฎีกาพุ่ม

    พ.ศ.๒๕๓๒ พรรษาที่ ๑๑ พ่อท่านพุ่มออกจาริกไปเยือนแดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย สถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน และวัดพระเชตะวันมหาวิหาร ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพร้อมต้นพระศรีมหาโพธิ์ กลับมาเมืองไทย
    ใน พ.ศ.๒๕๓๓ ท่านได้เริ่มก่อสร้าง ที่พักสงฆ์ดอยเจดีย์ ขึ้น ซึ่งที่แห่งนี้เป็นที่ดินของโยมบิดาอันเป็นมรดกตกทอด ท่านได้สร้างเสนาสนะ สร้างพระธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถนนทางขึ้นสู่สำนักสงฆ์ สถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับภิกษุสามเณร และญาติโยม

    วัตถุมงคลขลัง
    พ.ศ.๒๕๔๘ ท่านได้สร้างเหรียญรุ่นแรก
    พ.ศ.๒๕๕๐ สร้างพระผงว่านรุ่นแรก และ ล๊อกเกต รุ่นแรก
    พ.ศ.๒๕๕๕ สร้างรูปเหมือนบูชา ๕ นิ้ว
    และต่อมาได้จัดสร้างเครื่องราง สายคาดเอว ลูกอมชานหมาก ด้ายผูกคอรถ ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า
    พ.ศ.๒๕๕๗ ได้สร้างเหรียญเสมา ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า ลูกอมชานหมาก รุ่นอายุวัฒนมงคล ๑๑๓ ปี รุ่นอายุยืน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p111.jpg
      p111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.7 KB
      เปิดดู:
      6,012

แชร์หน้านี้

Loading...