เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tjs, 14 มิถุนายน 2013.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ==============

    หรือแนะนำว่า ให้เปลี่ยนจากบนบานเป็นการอธิฐานบารมี ก็จะดีกว่า แต่การอธิฐานก็ต้องควรกระทำให้ถูกต้องตามหลักศีลธรรมอันดีงาม นะครับ เราไม่ได้ติดสินบน แต่เราอธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ หากสมปราถนาจริงจึงค่อยทำบุญอุทิศให้ตามกำลังหรือสักการะตามสมควร อันนี้ก็อยู่ที่กำลัง ความเหมาะสมครับให้พิจารณาเอาเองนะครับ
     
  2. wangwang

    wangwang เมตตาคุณณัง อะระหังเมตตา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +629
    ขอบคุณมากครับคุณก้อง ผมได้รับคำตอบแล้วครับ และมีคำถามเพิ่มเติมจากที่แนะนำครับ
    ขออนุโมทนาครับ
     
  3. redeye127

    redeye127 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +1,474
    รบกวนสอบถามนะครับ พอดีผมฝันแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลยครับ
    1. คือผมกำลังจะบวชช่วงเดือนกุมภาพันธ์แล้วในฝันก็ได้เห็นว่าคนดันตายซะก่อน(ผมจำไม่ได้ว่าโดนฆ่าหรือว่าฆ่าตัวตาย)จากนั้นผมก็เสียใจมากที่ยังไม่ทันบวชให้พ่อแม่ คือเป็นวิญญาณร้องไห้เสียใจที่ยังไม่ได้บวชให้พ่อแม่ >> แบบนี้หมายความว่ายังไงครับ รบกวนพี่ช่วยดูให้ทีนะครับ
    2. เจ้าที่เจ้าทางที่บ้านของผมท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ เพราะทุกครั้งที่ผมทำบุญผมนึกถึงท่านให้ท่านมีความสุขเสมอครับ
     
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =====================

    1 เป็นจิตใต้สำนึกครับ เป็นความปราถนาส่วนลึกที่อยากทำให้สำเร็จ แต่ด้วยความกังวลลึกๆ จึงเกิดการนึกคิดปรากฏในความฝัน ไม่ต้องกังวลอะไรครับ

    ขอให้เราวางแผนชีวิตของเราให้ดี ทำอะไรต้องเดินสายกลาง การรีบไปก็ไม่ดี ช้าไปก็ไม่ดี แต่ให้ดูความพอดี ความเหมาะสมความพร้อม ที่มี แล้วจึงเดินตามแผนให้สำเร็จ ในระหว่างนี้ก็ให้เตรียมตน ด้วยการสวดมนต์ภาวนาและถือศีล5บ้าง 8บ้าง เพื่อเตรียมตัวล่วงหน้าครับ

    2 เจ้าที่ที่บ้านมีพ่อแก่นุ่งขาวรูปหนึ่งและตายายเจ้าที่ ท่านได้รับบุญที่อุทิศให้ตลอดครับ ทำได้ดีแล้วครับ ไม่มีปัญหาอะไร และในรอบ1ปีควรถวายเครื่องสักการะ พร้อมด้วยพวงมาลา ผ้าสามสีใหม่ให้ท่านด้วยปีละ1ครั้งจะดีมากครับ
     
  5. redeye127

    redeye127 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ขอบคุณมากๆครับ พี่ใจดีมากๆเลยครับ
     
  6. boonnippan

    boonnippan ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +1,099
    กราบขอบพระคุณในความเมตตาจากครูก้องค่ะ ดิฉันขอน้อมนำบุญที่ได้ปฏิบัติมาแด่ครูก้องและทุกท่านเช่นกันค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  7. wangwang

    wangwang เมตตาคุณณัง อะระหังเมตตา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +629
    สวัสดีครับคุณก้อง ผมได้รับคำตอบแล้วครับ ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ
     
  8. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    แจ้งมาเพื่อให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านและติดตามกระทู้แห่งนี้ทราบว่า

    ก่อนหน้านี้กระผมคิดว่าจะปิดกระทู้ ในช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2558 แต่ หลังจากได้ทบทวนเรื่องนี้ และได้สอบถามครูอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ท่านกล่าวว่าการสงเคราะห์ผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่นให้เขาได้มีโอกาสแก้ไข มีโอกาสลืมตาอ้าปาก หรือช่วยสงเคราะห์๋ให้มีเขาได้มีดวงตาเห็นธรรม มีกำลังใจเผชิญต่อสู้กับอุปสรรค์ กับปัญหา ให้ผ่านพ้นทุกข์ ไปได้นั้น ให้เขาได้หันมาสร้างกุศล สร้างบุญบารมี ถือว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญ

    ท่านกล่าวว่า ในปีนี้และต่อๆไป ยังมีผู้ทุกข์ยาก มีผู้ที่เดือดร้อนอีกมากมาย การช่วยเหลือของเราแม้จะเล็กน้อยแต่ก็ถือว่ามีความสำคัญต่อเขาเหล่านั้น เมื่อเรายังมีกำลัง มีเวลา ยังมีลมหายใจที่สามารถสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้อื่นได้ ก็ควรต้องทำ ทำต่อไป ทำไปเรื่อยๆไม่สิ้นสุด จนกว่าจะถึงที่สุดตามกำลังวาสนาบารมีของตน

    ท่านแนะนำว่า นับแต่นี้ นอกจากการตรวจสอบชะตา ดูดวงแก้ไขกรรม แนะนำด้านการแก้ไขกรรม เสริมดวง วาสนาบารมีแล้ว ท่านขอให้ผมได้ช่วยทำหน้าที่เพิ่มเติมดังนี้
    1เผยแผ่ความรู้ โดยการนำเอาหลักธรรมด้านปริยัติ มาเผยแผ่ให้มาก
    2เผยแผ่ความรู้ โดยการนำเอาหลักธรรมด้านปริบัติ
    3เผยแผ่ความรู้ โดยการนำเอาหลักธรรมด้านปฏิเวธ
    4สาธยายธรรมอันเป็นแบบปาฏิหาริย์วิธี ตามอภิญญาที่เกิดปรากฏตามกำลังฌาณสมาธิ อรูปฌาณสมาธิ วิปัสนาญาณ ญาณทัสนะ มีที่สุดคือปัญญาวิมุตติและเจโตวิมุตติ
    5เป็นสื่อกลางถ่ายทอดอันหมายถึง สื่อกลางจากพระโพธิสัตว์ เทพพรหม สรวงสวรรค์ ครูอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆพระองค์ ตามสถานการณ์ต่างๆ ตามวาระที่มีเทวบัญชาหรือสารจากเทวสภาเป็นต้น ตามความเหมาะสมที่สำคัญหรือจำเป็นที่พวกเราควรรู้หรือควรทราบ เพื่อการปฏิบัติตนให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไป

    โดยวันนี้ 16 มกราคม 2558 อันเป็นวันแทนแห่งวันบรมครู กระผมขอกราบสักการะครูอาจารย์บรมครูทุกๆพระองค์ เทพพรหม พระโพธิสัตว์ทั่วสากล พระอริยะสงฆ์ พระธรรม พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ด้วยเศียรเกล้า
    และขอบารมีจากทุกๆพระองค์ ได้โปรดช่วยสนับสนุน เสริมสร้างกำลัง ของกระผมทั้งกำลัง กาย วาจา จิต ให้มีกำลังเต็มเปี่ยมเพื่อการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางและเผยแผ่พระธรรม สงเคราะห์ผู้อื่นเพื่อประโยชน์สุขความผาสุขมีที่สุดคือหลุดพ้นทุกข์ ของเรา

    ตลอดจน กรรมอันใดที่กระผมได้เคยล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี ิขอทุกๆพระองค์จงโปรดอโหสิกรรมแก่กระผมด้วย เพื่อการสำรวมระวังไม่กระทำอีกต่อไป

    ท้ายสุดนี้ นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กระทู้แห่งนี้ จะดำเนินการให้เป็นไปตามโอวาทของครูอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ได้กล่าวไว้แล้วเบื้องต้นครับ สาธุ
     
  9. kengloveyou

    kengloveyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +2,077
    สวัสดีคุณ tjs ครับ เห็นว่าจะมีการเพิ่มเนื้อหาทางธรรมะเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายมากยิ่ง
    ขึ้น แบบนี้ก็ดีเลยครับ สาธุกับความดีและเจตนาอันเป็นบุญเป็นกุศลอันล้นเหลือของคุณจริงๆ

    ผมยินดีกับสิ่งที่คุณ tjs จะทำต่อไปด้วยจริงๆครับ สาธุ

    วันนี้ผมมีคำถามมาถามนิดหน่อยครับ ออกจะแนวเด็กๆไปหน่อย แต่ผมก็อยากรู้ครับ

    ตามพื้นจริตนิสัยเดิมของผม ตอนนี้ผมไม่สงสัยอะไรเกี่ยวกับ นรก สวรรค์ พรหม นิพพาน
    ว่าจะมีจริงหรือไม่จริง หน้าตาเทวดาเป็นยังไง วิมานสวยแบบไหน ผมไม่สงสัยไม่ติดใจ
    อะไรสักอย่าง เวลาผมทำสมาธิ ผมก็ใช้คำภาวนา "พุทโธ" ภาวนา พอจิตสงบผมก็
    พิจารณาธรรมต่อไปเรื่อย พอจิตเริ่มมั่วออกนอกลู่นอกทางผมก็ จับลมหายใจควบกับ
    "พุทโธ" ใหม่ทำสลับไปสลับมา และก็ไม่มีทีท่าว่าจะเห็น นรก สวรรค์ เทวดา เลย แบบนี้
    นี่ผมกำลังดำเนินปฏิปทาแบบ สุขวิปัสโก ใช่ไหมครับ

    แต่แล้วบางทีเวลากลางคืน พวกที่เขากำลังได้รับความทุกข์ เช่น สัมภเวสี อสุรกาย เปรต
    เขาต้องการบุญกับผม เขามาหาผมมาเข้าฝันบ้าง มาอำบ้าง มาทับบ้าง เขย่าบ้าง บีบคอ
    ด้วย แล้วทำไมผมสื่อกับเขาได้ละครับ ทั้งทั้งที่ผมก็ไม่เห็นตัวเขาหรอกนะ แต่ใจผมรู้เอง
    เลยว่าตอนนี้ผีประเภทไหนกำลังมาขอบุญเราอยู่ และถ้าผมแผ่เมตตาแล้วเขาได้รับ ผมก็รู้
    ได้ด้วยว่าตอนนี้เขา อนุโมทนาบุญได้รับบุญที่เราแผ่ไปให้แล้ว มันรู้ขึ้นมาเองจริงๆนะครับ
    ความรู้สึกมันผุดขึ้นมาในใจเลย และประสาทรับรู้ทางร่างกายคือ ขนจะลุกกันซู่ซ่าผิดปรกติ
    แบบนี้เรียกว่า เป็นอภิญญาอย่างอ่อน หรือทิพจักขุญาณอย่างอ่อนหรือเปล่าครับ

    ซึ่งเมื่อก่อนผมเคยถามคุณ tjs ทีหนึ่งแล้วว่าผมจะมีฤทธิ์อภิญญาของเก่าด้วยหรือเปล่า
    คุณ tjs ก็บอกว่ามีแต่ต้องทำสมาธิถึง ฌาน4 ถ้าแบบนี้ก็แสดงว่าผมกำลัง ปฏิบัติไม่ตรง
    สายที่ตนเองเป็นสิครับ คือตอนนี้ผมปฏิบัติสายสุขวิปัสโก แต่ผมทำไมสื่อกับผีได้ แล้ว
    ตกลงผมมีอภิญญาในตัวของเก่าด้วยหรือเปล่า งั้นผมควรปฏิบัติสายเตวิชโช หรือฉฬ
    ภิญโญ แบบนี้ถึงจะถูกหรือเปล่าครับ ผมงงและสับสน หรือว่าผมเป็นสุขวิปัสโกนะถูกแล้ว
    พูดไปพูดมาชักจะงงๆ งั้นก็ขอถามคุณ tjs ตามนี้เลยครับ ว่าผมควรปฏิบัติธรรมตามสาย
    จริตใด สุขวิปัสโก เตวิชโช ฉฬภิญโญ ที่จะให้เหมาะสมกับบุญเก่าของเก่าที่ผมสั่งสมมา
    แล้วทุกภพชาติดีครับ เพื่อประโยชน์ในการก้าวหน้าในมรรค ผล นิพพาน ได้เร็วที่สุดครับ
    ขอบคุณมากนะครับ หวังว่าคงจะไม่งงกับคำถามนะครับ เพราะผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
    เหมือนกัน หุหุ
     
  10. หญิงท้วม

    หญิงท้วม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +37
    สวัสดีค่ะ ตามที่คุณเคยแนะนำไว้ว่าให้อุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้จิตใจดิฉันวิปริตและผีพราย ดิฉันอุทิศให้แล้วแต่ก็ไม่ทราบว่าผีพรายไปเกิดในภพภูมิที่ดีแล้วหรือไม่
    บุญที่อุทิศให้พวกเขายอมรับหรือเปล่า ตรงนี้อยากขอความกรุณาตอบให้ด้วยค่ะ
    ทุกวันนี้ถึงแม้ว่าอาการจิตวิปริตยังไม่หายไปแต่ก็พยายามสวดมนต์ทุกวันแล้ว
    แต่อยากทราบว่าเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ดิฉันวิปริตนั้นเขาพอจะใจอ่อนหรือยังคะ
    คำถามสุดท้าย ทุกวันนี้ดิฉันมักจะได้กลิ่นหอมแบบไร้ที่มา
    แต่ส่วนมากก็จะขอให้ท่านเหล่านั้นโมทนาบุญของตัวเอง โดยที่ตั้งเจตนาไว้ว่าช่วยให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น แต่ที่ไม่รู้คือท่านเหล่านั้นมาด้วยเจตนาอะไรและต้องการอะไร
    ขอความกรุณาช่วยตอบด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มกราคม 2015
  11. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    วันนี้เปิดเว็บบอร์ดพลังจิตขึ้นมา เห็นกระทู้ของคุณ tjs โชว์อยู่บนหน้าแรกของเว็บบอร์ด ซึ่งจำได้ว่า tjs เคยโพสในห้องพุทธภูมิ และหายไปนาน

    เมื่อได้มาเห็กระทู้(เมื่อพยามัจจุราชฯ) ของคุณ tjs จึงสนใจเข้าไปดู โอ้!โห! มีตั้ง 60 หน้า และผมได้เปิดอ่านคร่าวๆ แต่ไม่ครบทั้ง 60 หน้า

    อ่านแล้ว รู้สึก ศรัทธา เลื่อมใส คุณ tjs ครับ พูดจริงครับ แต่ให้ดี จะต้องพบปะ พูดคุยกัน ถึงจะชัวร์ 555 และยังอ่านเจอว่า จะยังไม่ปิดกระทู้นี้ ก็ขออนุโมทนา สาธุ ครับ

    นี่ผมไปอยู่ไหน ถึงไม่รู้ว่า tjs ได้มาเป็นอาจารย์ดังอีกท่านหนึ่งในห้อง "กฏแห่งกรรม-ภพภูมิ" แต่อย่างว่า ผมไม่ค่อยเข้าไปที่ห้องอื่น นอกจากห้อง "พุทธภูมิ"

    ทราบว่ากระทู้นี้ของคุณ tjs เป็นการเมตตา สงเคราะห์ ช่วยเหลือ ถ้าเป็นไปได้ อยากให้มีการสัมภาษณ์ผู้ที่ตกนรก ว่าตอนเป็นมนุษย์อยู่บนโลกได้ทำกรรมอันใดไว้ แล้วพิมพ์ออกเผยแพร่ คงจะดีไม่น้อย ขออนุญาตเจ้าแห่งสวรรค์ เจ้าแห่งนรก เจ้าแห่งโลกวิญญาณ บารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์

    อย่างไรก็ตาม ก็มีคำถามแรก ท่าน tjs ยังปรารถนาพุทธภูมิอยู่ใช่ไหมครับ
     
  12. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ผมส่งมาให้ดู ไม่ต้องหลังไมค์ ไม่ PM

    ผมปรารถนาพุทธภูมิ เกิดวันที่ 30 พฤษภาคม 2512 เวลา 02.12 น.

    ชีวิตในภพชาตินี้ เป็นอย่างไรบ้างครับ พอไหวไหม

    ผมมีคำถามเยอะ แล้วจะถามอีก
     
  13. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    น้องชายผมที่ผูกคอตาย ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ
    อยู่ไหน ต้องการอะไร บอก
     
  14. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ช่วยดู พญานาค ที่ถ้ำเขาเตาหม้อ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
    ท่านมีนามว่าอะไร จะได้นึกชื่อออก เวลาบำเพ็ญกุศล
    ใช่พญานาคมุจลินท์ หรือไม่
    ใช่พญาศรีสัตตนาคราช หรือไม่
     
  15. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    เทพชัยฤทธิ์ ที่ถ้ำเขาเตาหม้อ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
    ท่านมีประวัติ ความเป็นมา และวิมาน อย่างไร
     
  16. manymoons123

    manymoons123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +416
    กราบเรียน คุณ tjs

    กระผม manynoons หรือ ชื่อจริง นาย ไพสิฐ เกียรติเลขา อายุ 41 ปี อยู่จังหวัดสงขลาครับ เกิด วันพฤหัสบดี คืนวันที่ 1 เวลา ตี 1:35 เดือนมีนาคม 2516 ปีชวด


    ที่ผ่านมาประมาณ 10 กว่าปีนี้ ผมจำ พ.ศ. ไม่ได้ครับ ผมได้บรรพชาอุปสมบท 2 ครั้ง

    1) บวชครั้งแรก บวชนานประมาณหนึ่งปี ต้องสึกออกมา เพราะ ต้องอาบัติปาราชิก ข้อเสพเมถุน
    คือ ผมทำโยคะแล้วเกิด ความกำหนัดมีความรู้สึกทางเพศ จึงคู้ตัว อมองคชาติตัวเอง โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่า เป็นอาบัติปาราชิก คือคิดไปเองว่า ทำกับตัวเองไม่เป็นอาบัติปาราชิก

    2)บวชครั้งที่สอง เนื่องจากยังลังเลสงสัยว่า บวชครั้งแรกอาจจะไม่เป็นอาบัติปาราชิก เลย
    เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทอีกครั้ง บวชอยู่ประมาณ 2 ปี จึงสึกออกมา

    ซึ่งต่อมารู้ว่า บวชครั้งแรกต้องอาบัติปาราชิกแน่นอน ทำให้การบรรพชาอุปสมบทในครั้งที่สอง ถือเป็นโมฆะ คือเป็นฆารวาสห่มผ้าเหลืองอยู่นานถึงสองปีกว่า ก่อให้เกิดกรรมดำ ใน
    พระพุทธศาสนามากมายประมาณมิได้

    ทั้งหมดนี้ เป็นกรรมดำ ที่หนักหนาสาหัสเกินประมาณ ที่ผมทำไว้ในพระพุทธศาสนาครับ


    ขอคุณ tjs ได้โปรดเมตตาชี้ทางสว่างให้กระผมด้วยครับ
     
  17. manymoons123

    manymoons123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +416
    กราบเรียน คุณ tjs

    กระผม manynoons หรือ ชื่อจริง นาย ไพสิฐ เกียรติเลขา อายุ 41 ปี อยู่จังหวัดสงขลาครับ เกิด วันพฤหัสบดี คืนวันที่ 1 เวลา ตี 1:35 เดือนมีนาคม 2516 ปีชวด


    ที่ผ่านมาประมาณ 10 กว่าปีนี้ ผมจำ พ.ศ. ไม่ได้ครับ ผมได้บรรพชาอุปสมบท 2 ครั้ง

    1) บวชครั้งแรก บวชนานประมาณหนึ่งปี ต้องสึกออกมา เพราะ ต้องอาบัติปาราชิก ข้อเสพเมถุน
    คือ ผมทำโยคะแล้วเกิด ความกำหนัดมีความรู้สึกทางเพศ จึงคู้ตัว อมองคชาติตัวเอง โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่า เป็นอาบัติปาราชิก คือคิดไปเองว่า ทำกับตัวเองไม่เป็นอาบัติปาราชิก

    2)บวชครั้งที่สอง เนื่องจากยังลังเลสงสัยว่า บวชครั้งแรกอาจจะไม่เป็นอาบัติปาราชิก เลย
    เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทอีกครั้ง บวชอยู่ประมาณ 2 ปี จึงสึกออกมา

    ซึ่งต่อมารู้ว่า บวชครั้งแรกต้องอาบัติปาราชิกแน่นอน ทำให้การบรรพชาอุปสมบทในครั้งที่สอง ถือเป็นโมฆะ คือเป็นฆารวาสห่มผ้าเหลืองอยู่นานถึงสองปีกว่า ก่อให้เกิดกรรมดำ ใน
    พระพุทธศาสนามากมายประมาณมิได้

    ทั้งหมดนี้ เป็นกรรมดำ ที่หนักหนาสาหัสเกินประมาณ ที่ผมทำไว้ในพระพุทธศาสนาครับ


    ขอคุณ tjs ได้โปรดเมตตาชี้ทางสว่างให้กระผมด้วยครับ
     
  18. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559

    คุณ tjs คงยังไม่เข้ามาตอบ

    งั้นผมขออนุญาต ตอบแทนไปพลางๆ ก่อน ผิดถูกอย่างไร ให้ tjs เฉลย

    ผมทำโยคะแล้วเกิด ความกำหนัดมีความรู้สึกทางเพศ จึงคู้ตัว อมองคชาติตัวเอง โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่า เป็นอาบัติปาราชิก

    1. ผมได้ค้นหาข้อมูลในพระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ วินีตวัตถุ อุทานคาถา ดังนี้

    ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งมีหลังอ่อน เธอถูกความกระสันบีบคั้นแล้ว ได้
    อมองค์กำเนิดของตนด้วยปาก เธอได้มีความรังเกียจว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบทไว้แล้ว เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว

    2. ได้ค้นหาข้อมูล ลักษณะที่ภิกษุได้รับการยกเว้นไม่ต้องอาบัติมี ๕ ประการ คือ
    2.1 ภิกษุไม่รู้ตัว หรือถูกบังคับแต่ไม่ยินดี
    2.2 ภิกษุบ้าเสียสติ
    2.3 ภิกษุมีจิตฟุ้งซ่านชั่วขณะ
    2.4 ภิกษุมีทุกขเวทนาหนักกระสับกระส่ายไม่รู้สึกตัว
    2.5 ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติ (อาทิกัมมิกภิกษุ) ซึ่งก็คือ พระสุทินน์กลันทบุตร

    3. วินิจฉัย ในกรณีของคุณ manymoons123 แม้ว่าจะไม่รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นอาบัติปาราชิก แต่คุณ manymoons123 ไม่ใช่เป็นต้นบัญญัติ และไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้นไม่ต้องอาบัติ ดังนั้น คุณ manymoons123 ต้องอาบัติปาราชิก

    4. คุณ manymoons123 อาบัติปาราชิก แต่เป็นปาราชิก เสพเมถุนธรรม ด้วยตัวของตัวเอง ไม่มีบุคคลที่สอง เมื่อไปเทียบกับ ศีล5 จึงไม่ใช่ปาณาฯ และ กาเมฯ ดังนั้น ศีล 5 ยังอยู่

    5. พรรษาแรกบวชนาน 1 ปี ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน พระธรรม วินัย บ้างหรือ หรืออาจได้เรียนบ้าง แต่ไม่รู้ว่าการกระทำนี้ต้องอาบัติ

    6. บวชครั้งที่ 2 สันนิษฐานว่า บวชครั้งแรก คงไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน พระธรรม วินัย หรืออาจได้เรียนบ้าง แต่ไม่รู้ว่าการกระทำนี้ต้องอาบัติ จึงบวช ครั้งที่ 2

    7. ปัญหา คือ เมื่อไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน พระธรรม วินัย หรืออาจได้เรียนบ้าง แต่ไม่รู้ว่าการกระทำนี้ต้องอาบัติ แล้วตลอดระยะเวลาของการบวช ไม่ว่าจะเป็นครั้งที่ 1 หรือ ครั้งที่ 2 ได้กระทำเช่นนี้เป็นประจำ ใช่หรือไม่ หรือเพียงเฉพาะทำครั้งแรกครั้งเดียวในช่วงบวชครั้งที่ 1 แล้วไม่เคยทำต่ออีกเลย

    8. ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม ภายหลังเมื่อสึกจากการบวชครั้งที่ 2 แล้ว จึงรู้ว่าการกระทำนั้นต้องอาบัติปาราชิก เมื่อรู้แล้ว ก็จะได้ไม่ต้องไปบวชอีก

    9. มันเหมือนกฏหมาย เมื่ออาบัติปาราชิกแล้ว ต้องขาดจากความเป็นพระ ต้องสึกสถานเดียว ถ้าไม่สึกก็แค่ผู้ห่มผ้าเหลือง และไม่สามารถร่วมสังฆกรรมได้ นอกจากนี้ยังเป็นบาป ไม่ว่าจะทำอย่างไรผู้ที่ห่มผ้าเหลืองนั้น ก็ไม่สามารถปฏิบัติให้ถึงมรรคผลนิพพานได้ แม้แต่สวรรค์ก็ไปไม่ได้ ต้องไปนรกสถานเดียว เพราะมันเป็นกฏ นอกเสียจากจะสึกออกมา

    10. การสึกออกมานั้น เป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว และเมื่อนำมาเทียบเคียงกับศีล 5 ตามที่ได้กล่าวในข้อ 4 ก็ไม่ถือว่าเป็นการผิดศีล 5 และการสึกออกมานี้ ยังสามารถประพฤติ ปฏิบัติ ให้ได้สวรรค์ และ มรรคผล นิพพาน เพราะไม่ใช่เป็นการทำ "อนันตริยกรรม"

    11. เมื่อสึกออกมาแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นอดีต และตามกฏ ก็ไม่สามารถไปบวชใหม่ได้ ให้อยู่กับปัจจุบัน คือ ชาตินี้ไม่สามารถบวชได้อีก ยกเว้นชาติหน้าถ้ามีโอกาส

    และที่สำคัญ ก็คือข้อเสนอแนะ ที่คุณจะต้องนำไปประพฤติ ปฏิบัติ ตั้งเป็นสัจจะ อธิฐาน เมื่อเป็นฆราวาส ดังนี้

    1. ห้ามประพฤติเช่นนั้นอีกเป็นอันขาด

    2. ให้ถือศีล 5 โดยเฉพาะ กาเมฯ เน้นมากข้อนี้ แม้แต่ หนังโป๊ หรือรูปโป๊ ก็ไม่ควรดู เพื่อเป็นการสร้างนิสัยบารมี ไปภพหน้า ชาติหน้า

    3. อย่าเจ้าชู้ เป็นนักเลงผู้หญิง จับมือ ถือแขน ลวนลาม เพื่อเป็นการสร้างนิสัยบารมี ไปภพหน้า ชาติหน้า

    3. ห้ามทำอสุจิเคลื่อนทุกกรณี (ทำด้วยเจตนา หรือจงใจ) ยกเว้นฝัน

    4. อย่าไปคิดถึงเรื่องอดีต ให้อยู่กับปัจจุบัน ทำบุญกุศลในปัจจุบัน หรือถ้ามีเวลา โอกาสอำนวย ให้สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม

    5. ควรหาเวลาถือศีล 8 สำคัญมากขอเน้น เพราะศีล 8 เป็นศีลพรหมจรรย์ เพื่อเป็นการสร้างนิสัยบารมี ไปภพหน้า ชาติหน้า

    6. ให้ใช้หนี้สงฆ์เป็นประจำ มีมากชำระหนี้สงฆ์มาก มีน้อยชำระหนี้สงฆ์น้อย ตามเหตุตามปัจจัย และตนเองต้องไม่เดือดร้อน แต่ต้องทำประจำ ตลอดชีวิต เน้นมาก เพราะคุณ manymoons123 เป็นเหมือนผู้ปลอมบวช ในคราวบวชครั้งที่ 2

    7. สร้างบุญอื่นๆ อยู่เป็นประจำ หรือถ้าให้ดี ถ้ามีเวลา มีโอกาส ก็ไปเข้าปาริวาสกรรม ตามวัดหรือสำนักที่เขาเปิดให้ฆราวาสเข้าร่วมอยู่กรรมด้วย

    8. ถ้าคิดอยากบวช ก็บวชเป็นได้แค่สามเณร หรือเป็นพ่อขาว(โกนหัวถือศีลแปด) หรือบวชเป็นฤษี

    ทำได้แค่นี้ ก็ถือว่า ได้สวรรค์ และถ้ายิ่งมากกว่านี้ ก็ มรรค ผล นิพพาน หากเกิดชาติหน้า ก็ยังมีโอกาสกลับมาบวช ตามที่ได้สร้างนิสัยบารมีไว้ในชาตินี้

    ขอให้มีความสุข ความเจริญ
    อย่าไปคิดถึงอดีตแล้วทำให้ทุกข์เศร้าหมอง
    ให้คิดอยู่กับบุญกุศลในปัจจุบัน และจะไม่กระทำเช่นนั้นอีก
    โดยให้กระทำตามข้อเสนอแนะ
     
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ==================

    คุณนิพพานสุข มีบารมีเก่าที่เคยสั่งสมไว้ โดยมีสองลักษณะคือ
    1แบบพราหม
    2แบบพระสงฆ์สาวก

    กรณีข้อ1สั่งสมไว้มาก พอสมควร ซึ่งทำให้มีพื้นฐานของสมาธิในระดับฌาณ ซึ่งสามารถทำได้หรือเคยทำได้ หากจะรื้อของเก่าและต่อยอดก็ทำได้ ไม่เกินความสามารถในชาตินี้

    กรณีข้อ2สั่งสมมาไม่มากนัก แต่หากปราถนาซึ่งความหลุดพ้นทุกข์จะได้บวชเป็นพระสงฆ์และสามารถปฏิบัติจนหลุดพ้นทุกข์ได้

    เพราะด้านบุญทานก็สั่งสมมาดี ด้านศีล ก็เช่นกันแต่ก็มีวิบากกรรมเก่าให้ผล ก็ในอดีตที่ผ่านมาก็มีตกหล่นบ้าง ประกอบกับเราเป็นฆราวาส ต้องรับผิดชอบทางโลกอยู่ในสังคมก็มีตกหล่นบ้างแต่ก็เล็กน้อยไม่เจตนา ครั้นเมือได้บรรพชาแล้ว เมื่อปฏิบัติด้วยความเพียร ก็จะมีดวงตาเห็นโลกุตระธรรมและบรรลุธรรมได้ในชาตินี้ ในระหว่างนี้หากต้องการพิสูจน์สิ่งที่ผมกล่าว

    ขอให้เราปฏิบัติธรรมตามครรลอง เดินมรรคดูและขอให้รักษาศีล5-8แล้วภาวนาทุกวัน อภิญญาเบื้อต้นจะปรากฏ ด้วยกำลังของฌาณสมาธิที่ทำได้

    หากบรรพชา พรรษาที่5จะรอบรู้ในธรรม พรรษาที่8ที่รอบรู้ในวิปัสสนาหลุดพ้นทุกข์ พรรษาที่9รู้แจ้งมรรคสำเร็จวิชาสาม พรรษาที่10 หลุดพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง ที่เหลือก็คือเผยแผ่พระธรรม สืบทอดพระศาสนาครับ บารมีของคุณขั้นต่ำคือเตวิชโชอรหันต์สำเร็จวิชาสามครับ

    ในเวลาที่เหลือคือยังมีวิบากกรรมทางโลก ืต้องชดใช้ จนเมื่อหมดแล้วจึงจะได้บรรชา ขอให้อดทน ต่อสู้ การต่อสู้คือการ นำเอาความดี เอาบุญในปัจจุบันและอดีตร่วมกันเป็นเครื่องหนุนส่งให้ผ่านพ้นไปได้ และจะสำเร็จสมปราถนาครับ สาธุ
     
  20. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ===============

    จากที่ตรวจดูเจ้ากรรมและวิญญาณสัมพเวสีไม่อยู่ไม่มีครับ วิบากรรมส่วนนี้ได้หมดวาระไปแล้วประกอบกับเราได้แผ่อุทิศบุญให้เขาไปแล้วเขารับแล้ว กรรมส่วนนี้จึงหมดวาระและได้ถือว่าชดใช้กันไปหมดแล้ว

    จากที่ตรวจดูมีเทพธิดาผู้หนึ่งทัดดอก
    ไม้เป็นดอกชะบา แต่งกายชุดไทยนุ่งห่มสใบสวยงามครับ มีกลิ่นกายหอม เป็นเทพชั้นจาตุมหาราชิกาครับ น่าจะเพิ่งมาอยู่กับคุณ เพราะมีวาสนาร่วมกันครับ จากการปฏิบัตธรรมของคุณนั่นเองครับ นับแต่นี้ไปก็ให้มีการแผ่บุญกุศลให้เธอทราบให้เธออนุโมทนาด้วยนะครับ เธอจะช่วยเหลือดูแลคุ้มครองคุณครับ การบูชาก็เหมือนเทพทั่วๆไป มีพวงมาลัย ผลไม้บ้าง น้ำเปล่า ตามความเหมาะสมครับ จุดธุป7ดอกนะครับเวลาจะทำการสักการะครับ ถึงเวลาจะสัมผัสรับรู้สื่อถึงเขาได้ครับ ขอแนะนำเท่านี้ก่อนครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...