เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tjs, 14 มิถุนายน 2013.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ================

    ขออนุโมทนาครับคุณ therd2499 ที่คุณมาถูกทางแล้วครับ
    ทำไมเราต้องฝึกจิตอบรมจิตให้จิตทรงฌาณ24 ชม
    เพราะว่า จิตที่ทรงฌาณ เป็นจิตที่ได้วางรากฐานที่มั่นไว้ดีแล้ว เมื่อฌาณ เกิดตลอดแล้ววิปัสสนาและปํญญาก็เกิดตามเป็นปรกติ มันคือสิ่งที่จิตจะไม่พลาด ทำให้จิตไม่ตกไปสู่โลกทีชั่ว เมื่อเราเดินมรรค วิธีนี้จะทำให้เราทรงสติปัญญา รู้ทันจิตเป็นปกติ ไม่ไหลไปตามความนึกคิดปรุงแต่ง ดับอวิชา ตัณหาอุปทานได้ สุดท้ายจะเป็นผู้ห่างไกลทุกข์ได้สำเร็จครับ

    ครูอาจารย์ที่จิตเกาะพระ ทุกท่านเป็นครูอาจารย์ที่ดีมีความรอบรู้ในธรรมทั้งปริยัติ ปฏิบัติครับ

    ท่านใดที่สนใจก็เข้าไปดูได้ครับ กระผมไม่มีเวลามากพอที่จะสอนวิชานี้ให้ครับ แต่ก็ยินดีจะช่วยแนะนำให้ทุกอย่างครับ สาธุ
     
  2. yellowest

    yellowest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2013
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +2,475
    อ่านตั้งแต่หน้าแรกเลยรึเปล่าครับ
     
  3. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    1-10ครับ วิธีการฝึก
     
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การปรุงแต่งทางความคิดเกิด รูปนามก็ปรากฏเกิด เครื่องปรุงแต่งทำงานความปรุงแต่งก็เกิด
    เมื่อเห็นทัน รู้ทัน ย่อมดับ ดับแล้วจึงว่าง ว่างแล้ว กิเลสอันใหม่กำลังก่อตัว
    ความนึกคิดอันใหม่กำลังเกิด เครื่องปรุงแต่งทำงานเกิดการปรุงแต่งอันใหม่อีก
    กระบวนการเกิด วงจรการเกิดการดับ การว่าง ที่ไม่แน่นอน ไม่มีทิศทางที่แน่นอน จิตก็ไม่แน่นอนย่ำแย่ แยกแยะไม่ได้ สูงต่ำดีชั่วเกลือกกลั้วกลับกลอกขึ้นลง
    วจีและกายก็ย่ำแย่ ตามจิตที่หลงผิดไหลผิดไปตามอวิชา ตัณหา ช่วยชักพาชักนำไป

    ย้อนดูจิต ย่อม รู้ใจ รู้กาย รู้วาจา เพราะรู้ธรรมแจ้งชัด
    เพราะมีจิตอาศัยธรรม กายประหนึ่งคือธรรม วาจาเสมือนธรรมที่ส่งออก
    อกุศลกรรมดับแล้ว กุศลกรรมดีให้ผลเวียนวน จากผลเป็นเหตุ เวียนว่าย จากเหตุเป็นผล จึงเหลือแค่ตนคือกุศลคือความดี

    ที่สุดคือรู้จักก้าวสู่มรรควิธี หลุดพ้นทุกความดี ที่สุดนี้มีบรมสุข พ้นทุกข์ใดๆห่างไกลโลกิยะชน ก้าวล่วงพ้นสู่พระนิพพาน ครับ สาธุ
     
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    มีสหายธรรมอยากทราบความมีภูมิธรรมสูงต่ำเป็นอย่างไร จึงช่วยอธิบายไปว่า

    สูงต่ำ ไม่อาจวัดได้ด้วยความรู้สึก หรือใจคน
    สูงต่ำ นั้นวัดได้เฉพาะตน รู้ดียิ่ง
    สูงต่ำ จริงไม่จริงสำคัญ หรือ
    สูงต่ำ กลับคืนสู่ คือสามัญ
    สูงต่ำ ใช่เธอและฉัน ไม่มี
    สูงต่ำ ในพระสัทธรรม นั้นมี
    สูงต่ำ ณ ที่นี้คือหมดสิ้น
    รู้แจ้งในธรรม
     
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    คำถามที่ค้างไว้ตอบให้แล้วนะครับ
    ส่วนที่ต้องคุยกันต่อเพราะต้องมีข้อมูลบางส่วนมาประกอบ
    รบกวนแจ้งกลับมาให้ทราบด้วยนะครับเพื่อจะได้แนะนำต่อไปว่าควรจะทำอย่างไรครับ

    ขอทุกท่านเจริญในธรรมครับ
     
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เนื่องจากกระผม จะไปสัมมนา ที่ราชบุรีและสมุทรสงคราม

    จะกลับมาอีกทีวันจันทร์ครับ ท่านใดที่ส่งคำถามไป กรุณารอหน่อยนะครับ สาธุ
     
  8. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ทุกความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยคือความไม่ยินดีและยินร้าย รับรู้ปล่อยวางเป็นปรกติ

    การเจริญภาวนา มีเกร็ดความรู้สำคัญอย่างหนึ่งคือ
    หากกองไฟที่ลุกโชติช่วงคือกิเลส เรามีปัญญาดับกิเลศ ตัณหา อุปทานขณะนั้น ย่อมดับไป เพราะด้วยปัญญา
    หากแต่ไฟกิเลสที่ดับลงแล้ว แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันดับสนิทแล้ว เพราะหลายครั้งหากพิจารณาให้ดี กองไฟเปลวไฟแม้ดับไป เหลือแต่กองเถ้าถ่าน ต้องพิจารณาเหตุคือกองเถ้าถ่านเหล่านั้นดับสนิท จริงแท้หรือยัง
    หากยังไม่หมดคือมีถ่านแดงๆครุกรุ่นอยู่ภ่ายใน เมื่อใดที่มีเชื้อเพลิงเข้าไปใหม่ กองไฟกิเลสกองนี้ก็พร้อมจะลุกเป็นไฟเผาไหม้เราได้อีก

    ดังนั้นจึงควรพิจารณาเข้าไปให้ลึกให้เห็นทั่วทั้งกองเถ้าถ่านหรือเหตุปัจจัยทั้งหลายต้องดับลงไปด้วย หากตัณหา อุปทานดับ แต่อวิชาไม่ดับ อวิชาย่อมก่อให้เกิดไฟกิเลสประการอื่นๆเป็นไฟลุกไหม๊ใจเราได้อีก ไม่จบสิ้น

    ฉนั้นการดับกองไฟกิเลส ต้องดับให้สิ้นซากถึงมูลเหตุ คือกองเถ้าถ่านต้องดับ เชื้อเหล่านั้นต้องดับลงไปด้วย นั้นคืออวิชาต้องดับสนิทสิ้นซากลงไปด้วยนั้นเอง

    จะรู้ได้อย่างไร คำตอบคือ เพราะเรามีสติปัญญาที่แหลมคม มีชัยชนะต่อมันทุกครั้งเสมอไม่พลาดพลั้งต่อมันอีกแล้วในปัจจุบัน แม้อนาคตกาลเราก็จะมีชัยชนะต่อข้าศึกคือกิเลสตัวนี้ได้เสมอเป็นนิรันดร์ครับ สาธุ
     
  9. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ขอบพระคุณครับที่ช่วยตอบคำถาม (“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”)
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ห่างหายไปหลายวันมีภาระงานหนักพอสมควร แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่เราต้องทำก็ทำไป ให้กายนี้ทำหน้าที่ทำประโยชน์ของมันไป จะได้ไม่เปลืองข้าวสุก หรืออาหารที่กินทานไปแต่ละวัน

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปทำบุญทอดกฐินวัดเขาดิน ที่แปดริ้วมาครับ เอาบุญมาฝากครับ

    วันเสาร์นี้กระผมจะไปทอดกระฐิน ที่ลพบุรีครับ มีเป็นกองกฐินของกระผมหนึ่งกองและเป็นเจ้าภาพผ้าไตรหนึ่งชุดครับ

    ส่วนช่วงปีใหม่ก็ วางแผนไว้แล้วจะไปทำบุญด้วยการ ถวายพระพุทธรูปหน้าตักประมาณ19นิ้ว และองค์ปู่ฤาษีตาไฟขนาด16นิ้ว ทดแทนของเก่าที่แตกหัก ณ รอยพระพุทธบาพุน้อย วัดถ้ำมรกต บ้านหมี่ลพบุรีครับ เดี่ยวเดือนหน้าต้องไปหาซื้อพระพุทธรูปและองค์ปู่ฤาษีตาไฟ ก็ขอให้หาได้ง่ายๆแบบสวยๆและราคาไม่แพงมากครับ

    จึงเรียนมาเพื่อ ให้ทุกท่านได้ร่วมอนุโมทนาครับ
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ไปร่วมทอดกฐินมาครับ

    หลังจากนั้นก็ได้กลับมา พิจารณาเรื่องสมาธิ และการปฏิบัติ ก็เกิดความปราถนาขึ้นอย่างหนึ่งคือ จิตเกิดความตั้งมั่นว่า นับแต่นี้ไป การคิดพยาบาทผู้อื่น จะไม่มีเกิดขึ้นในจิตของตนอีก แม้ที่ผ่านมาอาจจะมีบ้างแม้จะน้อยนิด แต่ก็ยังมีพลาดพลั้งเผลอได้บ้างเช่นกัน การที่เราตั้งใจปล่อยวางความไม่ดีของผู้อื่น ที่ทำร้ายเรานั้น ทางแก้ที่ดีที่สุดคือ
    ต้องให้อภัยและไม่พยาบาทเขา

    นี่จึงเป็นสัจจะวาจาหรือธรรมข้อหนึ่งที่นับแต่นี้ไปจะทำข้อนี้ให้ได้โดยบริบูรณ์ถึงที่สุดครับ สาธุ
     
  12. yellowest

    yellowest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2013
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +2,475
    วันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสมาถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ที่วัดบวรฯ ครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2013
  13. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ขอบคุณครับพี่ก้อง

    ก็อยากไปเยี่ยมท่านเหมือนกันแต่ต้องระงับอารมณ์นั้นไว้ก่อนเอาตัวเราให้รอดก่อน

    ขอบคุณครับ LOVE LOVE^^
     
  14. atta454

    atta454 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    131
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +263



    อนุโมทนาสาธุกับ บุญทุกบุญที่คุณก้องได้ทำนะครับ
    อยากทำได้ แบบนี้จัง
    รัก โลภ โกรธ หลง...
    รู้ว่าตัดยากมาก แต่อยากตัดให้ได้ ให้เหลือ เพียงความเมตตา
    ทำได้คงเป็นบุญ และเป็นผลดีกับตัวเอง...จะทำให้ดีที่สุด จะมากจะน้อยก็ให้ได้ทำ...
     
  15. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เมื่อวานไปทำบุญไหว้พระวัดสมานมาครับ และเมื่อคืนได้ลอยกระธงเป็นพุทธบูชาและขอขมากรรมต่อพระแม่คงคา ขอนำบุญกุศลมาฝากทุกท่านครับ สาธุ
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    พระโพธิสัตว์ ขั้นอุปบารมีขึ้นไป ส่วนหนึ่ง ทรงอารมณ์ พระอนาคามีและพระอรหันต์

    จากการที่กระผมเจริญสมาธิและได้พิจารณา คำสอนหลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ ที่สอนว่า แม้พระอระหันต์ทั้งหลาย ต่างก็ให้ความเคารพต่อพระโพธิสัตว์ นั้น

    จากคำกล่าวนี้ จึงได้พิจารณา ก็เกิดปัญญาเห็นว่า พระโพธิสัตว์ที่สั่งสมบารมีมามากเหล่านั้น มีบารมีธรรมสูง สามารถรู้แจ้งในมรรควิธี และเป็นผู้ทรงอารมณ์ความเป็นพระอรหันต์ พระโพธิสัตว์เหล่านั้น แม้จะยังไม่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า แต่พระโพธิสัตว์ส่วนนั้น สามารถอบรมสั่งสอนให้ มนุษย์บางส่วนเข้าถึงพระธรรม เข้าถึงความเป็นอริยะบุคคลได้ สามารถอบรมสั่งสอนให้เข้าถึงอรหันตบุคคลได้ก็มี

    ดังนั้น คุณงามความดีของพระโพธิสัตว์เหล่านี้ จึงมีมากเช่นกัน ควรที่เราจะกราบไหว้สักการะบูชา เช่นกัน เพื่อประโยชน์สุข เพื่อประโยชน์ในบารมีธรรมของตนยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ
     
  17. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090


    พญามัจจุราชในเรื่อง สองมาตราฐานมากๆ
    อย่างนี้ต้องแจ้งทุจริต ปฏิบัติภารกิจโดยมิชอบ
     
  18. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    อาจจะมีสิ่งที่ชอบ ในความไม่ชอบ ที่อาจจะมองไม่เห็นเพราะเป็นเหตุผลหลายอย่างที่ดีประกอบกัน นั่นเองครับ

    แต่ใครเล่าจะเข้าใจและรู้จริง ในความจริงเบื้องลึกของเรื่องนี้ แม้กระผมเองก็อาจจะยังไม่ทราบความจริงทั้งหมดเพราะเกินวิสัยที่จะรับรู้ได้

    บางสิ่งจึงไม่อาจตัดสินได้ด้วยเปลือกนอกที่ปรากฏครับ สาธุ

    ที่มาอาจจะดูสำคัญ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือปัจจุบัน
    การอยู่หรือไป จึงต้องคิดให้มากว่า ว่าเราจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร เมื่อเราจะไป เราจะต้องเตรียมตัวอย่างไรครับ

    มีเพียงหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้นคือหนทางและแสงสว่างที่เป็นสรณะอันเกษมครับ สาธุ
     
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =============

    เพื่อความกระจ่างชัดจึงขอกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
    การที่พระโพธิสัตว์ผู้มีบารมีธรรมสูงมาก ที่ทรงอารมณ์พระอรหันต์นั้น สามารถกล่าวสอนให้มนุษย์บางส่วนเข้าถึงพระธรรมสามารถอบรมสั่งสอนให้เข้าถึงอรหันตบุคคลได้นั้น การอบรมสั่งสอนนั้นโดยมาก ก็จะอาศัยพระธรรม ของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เป็นแนวทางคำสอน ที่เป็นเสาหลักสำคัญ

    อนึ่งพระโพธิสัตว์ทั้งหลายจักไม่นำเอาความรู้ของตนเป็นหลักแต่จะอาศัยพระธรรมของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยเผยแผ่คำสอนและอบรมสั่งสอนผู้ที่สามารถอบรมได้ให้เกิดปัญญาหลุดพ้นทุกข์ได้

    เมื่อใดที่พระโพธิสัตว์ได้มาจุติกาลเกิดในยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธเจ้าหรือสุญญกับป์นั้น
    พระโพธิสัตว์ แม้จะมีบารมีมาก แต่ก็ยังไม่ใช่เวลาที่พระโพธิสัตว์จะกล่าวแสดงโลกุตระธรรมที่ตนรู้เพื่อความหลุดพ้นได้ ดังนั้นพระโพธิสัตว์จะมีหน้าที่คือโปรดสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ชั่วขณะและสร้างบารมีของตนเพื่อความตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น ส่วนนี้เป็นประเพณีปฏิบัติ ของเหล่าพระโพธิสัตว์

    ดังนั้นการกล่าวแสดงธรรมใดๆ ล้วนมีเหตุปัจจัย เสมอ เพราะเกี่ยวเนื่องด้วย กาละ เทศะ บุคคล ท่านพระโพธิสัตว์เองและ มหาชนครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2013
  20. สาวสารคาม

    สาวสารคาม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +33
    โมทนาบุญค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...