เมืองบาดาลสวรรค์ & เรื่องดีดี..มีไว้แบ่งปัน

นึกได้ระ..เห็นมีหลายคนบอกว่าเราเกี่ยวสัมพันธ์กับหนุมาน
เมื่อคืนเลยนึกให้หนุมานพาเที่ยว...
ก๊ากกกกกกกกก....ดูสินั่น สับสนๆๆ เลยอ่ะ :boo:

 

คุณนันทะชัยดี บอกว่าจะไปเมืองพญาครุฑ
แล้วหายเงียบบบบ...ไปเลยนิ
สงสัยๆๆ คง...... (ละไว้ในฐานที่เข้าใจ) :boo:

 

เมืองกลางหาวภิ่นที่อยู่ของครุฑกว่าจะไปสัมผัสได้ ต้องใช้ความสามารถมากพอสมควรครับ Unseen เทือกเขาภูพาน ด้านขวาเป็นเมืองกลางหาว ครั้งแรกเจอประตูเมือง เขาไม่อนุญาติใครก็ตามที่ไม่ใช่ชาวเมืองนั้นผ่านเข้าไปได้ครับ

 

แต่นันทะชัยดีอาศัยความสามารถบางอย่างก็สามารถผ่านเข้าไปในเมืองนั้นได้ครับ เมืองกลางหาวนั้นมีลักษณะแปลกเกินจะบรรยายครับ ก็ขอให้ฟังแบบสบายๆนะครับ

 

อ้าวว...กลับมาแล้วแฮะ ฟิ้ววววววววว....
rabbit_run_away

 

รอๆๆๆๆ ฟังแบบสบายๆๆ

 

เมื่อคืนฝันน่ากลัวจ้า ดันฝันแนวผีในหนังไทนเลย .:boo:

ฝันว่านั่งรถเมล์ นั่งๆอยู่ไฟในรถก็มืดลง หญิงที่เป็นคนให้บริการประจำรถกลายเป็นผี ในรถเหลือเรากับแม่ และหญิงที่ไหนอีกคนไม่รู้ เรานั่งกันหลังๆ หญิงอีกคนนั่งด้านหน้า จากนั้นรถก็เริ่มเปลี่ยนเป็นห้องยาวๆห้องหนึ่งออกแนวห้องน้ำเก่าที่ปูฝาผนังด้วยกระเบื้อง ผีหญิงก็เริ่มสำแดงเดชฆ่าหญิงที่นั่งหน้า เราและแม่เลยจะหนี มองไปเห็นทางสองทาง เลยเลือกทางที่ย้อนขึ้นด้านบน แต่ไม่ผ่านผี คิดว่าจะพบทางออกไหม ปรากฎไปพบทางออกเป็นด้านในห้างๆหนึ่ง(อารมณ์แบบเดินออกจากห้องน้ำในห้าง จากห้างก็กลายเป็นโรงงาน เราหาทางหนีมีคนบอกทางออกแก่เรา เราสามารถออกมาบริเวณนอกตัวอาคารได้ แต่ยังไม่ออกจากเขตโรงงาน มีหมาสองตัววิ่งมาหาเรา ในขณะที่ผีแปลงเป็นแมลงวัน มาขัดขวางเรา แต่ยังไม่ทันที่ผีจะเปลี่ยนเป็นคน หมาก็ช่วยไล่ให้ เรามองไปทางทิศประตูทางเข้า เห็นคนมากมายกำลังเดินเข้ามา เลยถามชายที่ช่วยพาเราออกมาว่า เขาเข้ามากันทำไม ไม่กลัวกันรึ (อารมณ์ประมาณ่ว่า เข้ามารังผีทำไม ). ชายคนนั้นบอกว่า พวกนั้นมุดเข้ามาในรูโดยคิดว่านั่นคือประตู แล้วเราก็ตื่น หุหุ น่ากลัวปะ !!! :boo:

 

ฝันตื่นเต้นดีอ่ะ...ให้ตัวเองกะมิกกี้ฝันอ่ะดีแล้ว
ส่วนเราน่ะรออ่าน...อิอิ
แต่เราว่าตัวเองฝันดีน๊าาาาา
จากฝันทำให้รู้ว่าตัวเองมีพรรคพวก
ญาติสนิทมิตรสหายคอยดูแลช่วยเหลือนิ

 

ลักษณะที่พบเจอเมืองนั้นสว่างมากเหมือนอากาศยามเย็นๆ เมืองนั้นมีลักษณะตั้งอยู่ในแง่งผาครับ มีลักษณะเป็นสีทองเหลืองอร่าม และผู้คนในเมืองนี้ ยิ่งแปลกตาดีครับ คือทุกคนมีปีกสีต่างๆครับ เช่น สีใสเหมือนแมงปอ ปีกสีลายดอกต่างๆคล้ายปีกของผีเสื้อก็มีครับ

 

เวลาพวกเขาบินเป็นกลุ่มเป็นฝูงเหมือนฝูงนกในภพภูมิของมนุษย์ครับ ในลานกว้างที่พวกมนุษย์มีปีกนั้นบินลงมาเหมือนเหล่าฝูงผีเสื้อที่วังสีดาครับ ดูสวยงามดีครับ มนุษย์ชาวเมืองกลางหาวยากที่จะให้ผู้คนต่างเมืองนั้นเข้าไปสัมผัสครับ แต่ถ้าใครได้ไปสัมผัสก็คงจะรู้สึกแบบนันทะชัยดีหรือเปล่าครับ นันทะชัยดีรู้สึกถึง ความอิสระ เสรี เบิกบาน ความสดใสของเมืองที่หาที่อื่นไม่เจอครับ

 

ส่วนครุฑนั้นในเมืองเป็นมนุษย์ชั้นพิเศษลักษณะคล้ายๆเป็นพวกชั้นปกครองครับ โดยนันทะชัยดีดูจาก เมื่อมนุษย์ครุฑเดินผ่านทุกคนในเมืองจะเดินหลบหลีกเหมือนเป็นธรรมเนียมประเพณีของที่นี้ ที่ปฏิบัติแบบนี้มาช้านานจนกลายเป็นเรื่องปกติของที่นี้ครับ ครุฑที่Unseen เทือกเขาภูพานนั้น มีแสงเหมือนลูกกรงอยู่รอบๆ นันทะชัยดีสัมผัสได้ว่า เป็นลักษณะของการถูกลงโทษครับ เลยแอบสอบชาวเมืองคนหนึ่งได้ความว่า มนุษย์ครุฑผู้นี้แอบไปเที่ยวนอกเมืองกลางหาว แลัวไปทะเลาะกับพวกงูมีหงอน เรื่องแย่งสาวเมืองคนมีเขี้ยว นันทะชัยดีคิดว่า คงเป็นสาวยักษ์ครับ

 

ชาวเมืองท่านนั้นเล่าให้ฟังอีกว่า พวกงูมีหงอนนั้นมีพิษร้าย มนุษย์ครุฑนั้นถูกพิษ ทำท่าจะตายจากภพภูมิเมืองกลางหาวไปเกิดเป็นมนุษย์ แต่ด้วยความเป็นรัชทายาทของเมืองนี้ กษัตริย์เลยให้ครุฑที่มีหน้าที่รักษา ให้หายจากการถูกพิษของพวกงูมีหงอนนั้น แต่กฏของชาวเมืองก็ต้องเป็นกฏ เลยต้องถูกกักขังและให้ได้สำนึกเลยให้ถือกระบอง ซึ่งหมายถึงพระราชอำนาจนั้นอยู่ตลอดเวลาครับ

 

ชาวเมืองบอกต่ออีกว่า การถูกกักขังสำหรับครุฑนั้นถือว่า เสียเกียรติ เสียบารมีเป็นอันมาก จนกระทั่งมีมนุษย์ที่มีศลี มีจิตเมตตานั้นมาพำนักอยู่ใกล้บริเวณที่ครุฑท่านนี้ถูกกักขัง ครุฑท่านนี้เลยอยากสะสมเสบียงบุญ บารมี เลยใช้อำนาจจิตที่ตนเองนั้นมีอยู่สื่อสารให้สร้างรูปสลักติดชะแง่งหินที่ภพภูมิมนุษย์ เมื่อชาวเมืองมนุษย์มาสักการะ อธิษฐานจิต แผ่บุญ กุศลให้ ครุฑนั้นก็ได้บารมีไปด้วย

 

นันททะชัยดีมองแววตาของครุฑท่านนี้แล้ว สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่น เมื่่อตั้งใจจะทำอะไรแล้วก็คงจะยากที่จะเปลี่ยนใจครับ ทำให้นันทะชัยดีคิดต่อไปอีกว่า สาวยักษ์นั้นจะสวยสด งดงามแค่ไหนกันน่า ทั้งครุฑทั้งนาคาถึงแย่งชิงกัน โดยไม่กลัวสิ่งที่จะตามมาครับ

 

ในอดีตที่นันทะชัยดีเคยไปสัมผัสเมืองยักษ์มานั้น ปกติชาวเมืองยักษ์นี้จะอิทิฐมานะค่อนข้างมากครับ คือยักษ์นั้นจะถือตัวตนว่า เป็นพวกเทวดามากกว่าชาวเมืองหิมพานต์หรือบังบดครับ แสดงว่า เมืองยักษ์นั้นน่าจะอยู่ห่างออกไปจากที่แห่งนี้พอสมควรครับ

 

ในตำนานของเทือกเขาภูพานมีการกล่าวถึงยักษ์ไว้เรื่องหนึ่งคือ เรื่องพระนางสุมณฑาครับ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันระหว่างมนุษย์กับยักษ์ครับ วัดถ้ำสุมณฑานั้น นันทะชัยดีเคยไปสัมผัสมาแล้วครับ ต้องถามก่อนว่า อยากให้เล่าให้ฟังรึเปล่าครับ

 

อยากให้เล่าสิจ๊ะ
พญาครุฑกับพญานาค
แย่งธิดาพญายักษ์....น่าสนใจอ่ะ
รอๆๆๆ ค่ะ

 

ขอติดตามอ่านด้วยค่ะ และขอนำตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับนางสุมณฑามาฝากนะคะ

ตำนานนางสุมณฑา ... บนเทือกเขาภูพาน ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบะยาวอยู่ทางทิศประจิม ของหมู่บ้านผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เป็นดินแดนศักสิทธิ์ที่ชาวบ้านเล่าขานกันมาแต่โบราณกาล มีถ้ำลึกลับซึ่งเชื่อว่าเป็นเมืองของคนบังบดลับแลโบราณเรียกว่าถ้ำเม็ง หรือถ้ำเกวียนหักวันดีคืนดีวันพระเดือนหงายเต็มดวง บางทีจะมีเสียงผู้คนพูดคุยและหัวเราะกันชัดถ้อยชัดคำด้วยสำเนียงภาษาครึ่ง มนุษย์ครึ่งเทพบางคืนมีลำแสงประหลาด สาดประกายออกมาจากบริเวณนั้นและบางครั้งก็มีเสียงฆ้อง กลองเสียงพิณและเสียงแคนบรรเลงแว่วดังให้ได้ยินกันเสียงเยือกเย็นไพเราะ เสนาะหู

ส่วนที่มาของชื่อถ้ำสุมณฑานั้นได้มีการกล่าวถึงในวรรณคดีอีสานล้านช้าง ว่าพญากุมภัณธุ์ยักษ์ ออกไปหาอาหารบนเทือกเขาแห่งหนึ่งบนเขาภูพาน ได้เห็นพระนางสุมณฑา ซึ่งเป็นธิดาเดียวของพระยาขอม ผู้ครองเมืองจากนครราช


วันนั้นพระนางร้อนรุ่มพระทัยไม่เป็นสุขอยู่ในตำหนักปรารถนาจะเสด็จประพาสป่า เที่ยวเล่นจึงพร้อมด้วยบริวารสนมกำนัลติดตามไป พระนางก็บรรทมพักผ่อนอยู่ป่านั้นเอง ครั้นพญายักษ์ผ่านมาพบเข้าก็คิดจะจับนางสนมกินเป็นอาหารแต่เมื่อเข้าใกล้ได้ เห็นสิริโฉมของพระนางสุมณฑาเข้าจึงได้มีจิตปฎิพัทธ์รักใคร่เปลี่ยนใจไม่กินนางสนม แต่เป่ามนต์ให้หลับและลักลอบอุ้มเอาพระนางสุมณฑาพามาซ่อนไว้ในถ้ำที่ยอดภูผาหักแห่งนี้

 

เมื่อพระนางสุมณฑาตื่นขึ้นมาจากบรรทมรู้ตัวว่าอยู่ ในหมู่ล้อมของยักษ์บริวารพญายักษ์ พระนางตกใจกลัวยิ่งนักได้แต่สวดมนต์ภาวนาร่ายคาถาตามคัมภีร์พระเวทย์ลัทธิพราหมณ์ อ้อนว้อนเทวดาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้ร่างกายของพระนางร้อน เหมือนเปลวเพลิง มิให้พญายักษ์เข้าใกล้ได้ กุมภัณธุ์พญายักษ์ก็มิอาจเข้าใกล้ถึงกายของพระนางสุมณฑาได้จึงเพียงนั่งนอน เฝ้าอยู่หน้าถ้ำพร้อมกับบริวารยักษ์ คอยเก็บหาอาหารผลไม้ มาอุปัฎฐากให้พระนางสุมณฑาด้วยจิตใจจงรักภักดีมิได้ขาด

 

พระบิดาของพระนางสุมณฑาส่งทราบข่าวจึงให้เท้าทั้ง 6 เป็นเหล่าบุตรของมเหสีรองออกตามหาพระธิดาจนได้มาพบจึงทำศึกสู้รบกันเพื่อ แย่งพระนางแต่ก็ไม่สามารถชนะยักษ์ได้พระยาขอมจึงบัญชาท้าวทั้ง 3 ของมเหสีหลวงมีพระนามว่า พระศรีโหร์ พระสังข์ทอง และพระสังข์สินชัยไป ติดตามเอาพระนางกับคืนมาให้ได้ท้าวทั้งสามเป็นผู้มีฤทธิ์มีอำนาจก็ได้ทำศึกสู้กับพญายักษ์ต่างไม่มีใครแพ้ชนะจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยหล้าทั้ง 2 ฝ่าย