เพชรพญานาคจากถ้ำ ใหม่หน้า 177

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุณศรชัย, 15 กุมภาพันธ์ 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. คุณศรชัย

    คุณศรชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,180
    <CENTER><CENTER>ตำนานการก่อกำเนิดเพชรนาคา</CENTER>


    <DD>นับย้อนหลังนานแสนนานไปในสมัยพุทธกาลแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า "กัสสโป" ซึ่งได้ลงมาตรัสรู้พระโพธิญาณเพื่อรื้อขนสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏะสงสารในมหาภัทรกัปนี้ (ที่มีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ 5 พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 4) ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนกึกก้องไปทั่วหมื่นโลกธาตุอนันตจักรวาลด้วยพระบารมีแห่งพระโพธิญาณองค์มหาพระโพธิสัตว์

    <DD>เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์บังเกิด “ฝนโบกพรรษ” ตกลงมา ใครใคร่ให้เปียกก็เปียกใครใคร่ไม่เปียกก็ไม่เปียก ด้วยพระบุญญาธิการแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป เมื่อได้ตกลงมาสู่พื้นพสุธาบางส่วนได้ประมวลตัวรวมธาตุดึงดูดธาตุทั้งสี่ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จนบังเกิดก่อกำเนิดเป็น “เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง” ธาตุกายสิทธิ์ขึ้นมา มีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกายรัศมีถึง 7 สี ส่องแสงสว่างไปทั้งกลางวันและกลางคืนนับเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน

    <DD>รัศมีแห่งเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนี้ ส่องสว่างครอบคลุมจนไปถึงนครใต้บาดาล ดลบันดาลทำให้เกิดแสงสว่างเป็นรัศมี 7 ประกา รกลบรัศมีแสงสว่างอัญมณีพลอยอันมีค่าต่างๆ ที่อยู่ในนครบาดาลทั้งหมด จนเกิดความแตกตื่นโกลาหลไปทั่วทั้งนครบาดาล จนเหล่านาคีนาคาผู้ที่มีฤทธิ์ ต่างหาสาเหตุต่างๆ นาๆ ถึงเหตุการณ์อันอัศจรรย์ใจนี้

    <DD>จนทำให้กษัตริย์ผู้ครองเมืองนครบาดาลทั้ง 7 เมืองนามว่า “พญานาคราชสุนันโท” กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ผู้ครองเมืองนครบาดาล ที่มีเหล่าบริวารนาคีนาคาผู้มีฤทธิ์อำนาจกำลังแห่งตนมากมายนับไม่ถ้วน ได้ใช้กำลังบุญฤทธิ์ของตนอธิษฐาน ขอให้รู้ถึงสาเหตุของปรากฏการณ์อัศจรรย์ใจในครั้งนี้

    <DD>ด้วยเหตุของกำลังบุญฤทธิ์ที่ได้สร้างสะสมมานานในสมัยอดีตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนาและได้บวชเรียนเป็นพระภิกษุสาวกแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพ ุทธเจ้าในอดีตกาล ซึ่งได้ตั้งจิตอธิษฐาน จะขอทะนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา ก่อนที่จะละสังขารตายลง (ขอเว้นในเหตุของกฏแห่งกรรมที่ทำให้กำเนิดเป็นพญานาคผู้มีฤทธิ์)

    <DD>ด้วยเหตุนี้เองทำให้ล่วงรู้ถึงการก่อกำเนิดแห่ง “เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง” ด้วยอำนาจผลบุญบารมีแห่ง พระโพธิญาณขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และรู้ถึงหน้าที่ของตนเองที่ได้อธิษฐานเอาไว้ พญานาคราชสุนันทโทผู้เป็นใหญ่ได้แสดงฤทธิ์อำนาจ แทรกแผ่นดินขึ้นมาพร้อมกับเหล่าบริวารทั้งหลาย ขึ้นมาสู่พื้นปัฐพีมาดูต้นเหตุอัศจรรย์อันที่ทำให้เกิดความอัศจรรย์ไปทั่วพื้นพิภพใต้บาดาล

    <DD>ท่านพญานาคราชสุนันโทได้มีคำสั่งให้เหล่าบริวารทั้งหลาย ต่างแสดงฤทธิ์อานุภาพอัญเชิญไปเก็บรักษาเพื่อประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป เหล่านาคีนาคาบริวารทั้งหลายต่างก็อัญเชิญไปเก็บตามถ้ำตามภูเขา หมวดหมู่ที่พวกตนได้สิ่งสถิตย์พักอาศัยอยู่

    <DD>ส่วนหนึ่งก็ได้นำดินสีต่างๆ มาพอกหุ้มเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงเอาไว้ เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาหรือน้ำมือจากพวกมนุษย์ ใจคิดคดไม่อยู่ในศีลในธรรม หรือจากเหล่าเทพพรหมที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้เห็นเป็นเพียงก้อนดินก้อนหินธรรมดา อีกกลุ่มหนึ่งได้นำไปไว้ในถ้ำที่ลึกลับ ที่ยากจะเข้าไปได้นำไปประดิษฐสถานเอาไปไว้ในแอ่งน้ำต่างๆ ภายในแต่ละถ้ำที่เห็นสมควร พร้อมกับทั้งอธิษฐานบดบังรัศมีแห่งแก้วนี้เสีย จนรอเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป</DD></CENTER>
    อ้างอิง...http://tamroiphrabuddhabat.com/xmb/viewthread.php?tid=653
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2011
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    วันนี้มีบุญมาฝากเพื่อนๆค่ะ ติงไปฟังสวดพระอภิธรรมมา....
    ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม ๕๐๐ บาท อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ
     
  3. คุณศรชัย

    คุณศรชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,180

    น้อมอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ...
     
  4. viphard

    viphard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +1,877
    ได้รับแล้วนะครับ บุญใดที่ได้ทำแต่ต้นจนถึงปัจจุบันขอให้คุณศรชัย ได้โมทนาส่วนบุญกุศลเหล่านั้น ได้รับผลเช่นเดียวกับกระผมทุกประการนะครับ บุญรักษาครับ
     
  5. คุณศรชัย

    คุณศรชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,180

    น้อมอนุโมทนา...สาธุ..สาธุ..สาธุ...
     
  6. จิตพุทธ

    จิตพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    763
    ค่าพลัง:
    +1,123
    โอนเงินเรียบร้อยแล้วจ้าช่วงเช้า..ที่อยู่ตามPM นะครับ.....
     
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๔
    ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม
    อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ
    (ปัจจัย ๒๐๐ บาท กระติกต้มน้ำไฟฟ้า ๒ ใบ)
     
  8. boy19

    boy19 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2007
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +86
    อนุโมทนาบุญกับคุณติงครับ สาูธุ สาธุ สาธุ
     
  9. คุณศรชัย

    คุณศรชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,180
    อนุโมทนาบุญกับพี่ติงติงด้วยนะครับ..สาธุ..สาธุ..สาธุ
     
  10. คุณศรชัย

    คุณศรชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,180
    [FONT=4803_Kwang_MD] คติธรรมคำสอนของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต คัดจากหนังสือ ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ


    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* ผู้สนใจศึกษาปฏิบัติธรรม คือผู้สนใจหาความรู้ความฉลาดเพื่อคุณงามความดีทั้งหลาย ที่โลกเขาปรารถนากันเพราะคนเราจะอยู่และไปโดยไม่มีเครื่องป้องกันตัวย่อมไม่ปลอดภัย ต่ออันตรายทั้งภายนอกภายใน เครื่องป้องกันตัวคือหลักธรรมมีสติปัญญาเป็นอาวุธสำคัญ จะเป็นเครื่องมั่นคงไม่สะทกสะท้านมีสติปัญญาแฝงอยู่กับตัวทุกอิริยาบท
    จะคิด-พูด-ทำอะไรไม่มีการยกเว้น มีสติปัญญาสอดแทรกอยู่ด้วยทั้งภายในและภายนอก มีความเข้มแข็งอดทน มีความเพียรที่จะประกอบคุณงามความดี คนอ่อนแอโง่เง่าเต่าตุ่นวุ่นวายอยู่กับอารมณ์เครื่องผูกพันด้วยความนอนใจ และเกียจคร้านในกิจการที่จะยกตัวให้พ้นภัย
    [/FONT]



    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* การตำหนิติเตียนผู้อื่น ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย
    ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่นจนอยู่ไม่เป็นสุขนั้น นักปราชญ์ถือเป็นความผิดและบาปกรรม ไม่มีดีเลย จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนามาทรมานอย่างไม่คาดฝัน
    การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรอง เป็นการสั่งสมโทษและบาปใส่ตนให้ได้รับความทุกข์ จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน งดความเห็นที่เป็นบาปภัยแก่ตนเสีย ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง
    [/FONT]


    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* ผู้เห็นคุณค่าของตัว จึงเห็นคุณค่าของผู้อื่น ว่ามีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่เบียดเบียนทำลายกัน ผู้มีศีลสัตย์เมื่อทำลายขันธ์ไปในสุคติในโลกสวรรค์ ไม่ตกต่ำเพราะอำนาจศีลคุ้มครองรักษาและสนับสนุน จึงควรอย่างยิ่งที่จะพากันรักษาให้บริบูรณ์ ธรรมก็สั่งสอนแล้วควรจดจำให้ดี ปฏิบัติให้มั่นคง จะเป็นผู้ทรงคุณสมบัติทุกอย่างแน่นอน
    [/FONT]


    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* เมื่อเกิดมาอาภัพชาติ แล้วอย่าให้ใจอาภัพอีก
    ผู้เกิดมาชาตินี้อาภัพแล้ว อย่าให้ใจอาภัพ คิดแต่ผลิตโทษทำบาปอกุศลเผาผลาญตนให้ได้ทุกข์ เป็นบาปกรรมอีกเลย
    [/FONT]


    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* คนชั่ว ทำชั่วได้ง่าย และติดใจไม่ยอมลดละแก้ไขให้ดี
    คนดี ทำดีได้ง่าย และติดใจกลายเป็นคนรักธรรมตลอดไป
    [/FONT]

    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]
    * เราต้องการของดี คนดี ก็จำต้องฝึก ฝึกจนดี จะพ้นการฝึกไปไม่ได้ งานอะไรก็ต้องฝึกทั้งนั้น ฝึกงาน ฝึกคน ฝึกสัตว์ ฝึกตน ฝึกใจ นอกจากตายแล้วจึงหมดการฝึก คำว่า ดี จะเป็นสมบัติของผู้ฝึกดีแล้วแน่นอน
    [/FONT]

    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* ศีล นั้นอยู่ที่ไหนมีตัวตนเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รักษาแล้วก็รู้ว่า ผู้นั้นเป็นตัวศีล ศีลก็อยู่ที่ตนนี้ เจตนาเป็นตัวศีล เจตนาคือจิตใจ คนเราถ้าจิตใจไม่มีก็ไม่เรียกว่าคน มีแต่กายจะทำอะไรได้ ร่างกายกับจิตต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่างๆ มีโทษต่างๆ ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียนไม่หวั่นไหว ไม่มีเรื่องหลงหา หลงขอ คนที่หา คนที่ขอต้องเป็นทุกข์ ขอเท่าไหร่ยิ่งไม่มี ยิ่งอดอยากยากเข็ญ
    กายกับจิตเราได้มาแล้ว มีอยู่แล้ว ได้มาจากบิดามารดาพร้อมบริบูรณ์ จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำ ศีลมีอยู่ที่เราแล้ว รักษาได้ไม่มีกาล ได้ผลไม่มีกาล
    ผู้มีศีลย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ผู้มีศีลย่อมมีความสุข ผู้จักมั่งคั่งบริบูรณ์ไม่อด ไม่ยาก ไม่จน ก็เพราะรักษาศีลให้สมบูรณ์ จิตดวงเดียวเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา
    ผู้มีศีลแท้เป็นผู้หมดเวรหมดภัย
    [/FONT]



    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* คุณธรรม ยังมีผู้เข้าถึงให้เป็นผู้ฉลาดปราดเปรื่องเลื่องระบือ มีความฉลาด กว้างขวางในอุบายวิธี ไม่มีคับแค้นจนมุม
    [/FONT]

    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* การปฏิบัติธรรม เป็นการทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทรงตรัสสอนเรื่องกาย วาจา จิต มิได้สอนเรื่องอื่น ทรงสอนให้ปฎิบัติฝึกหัดจิตใจ ให้เอาจิตพิจารณากาย เรียกว่า กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน หัดสติให้มากในการค้นคว้า เรียกว่า ธัมมวิจยะ พิจารณาให้พอทีเดียว เมื่อพิจารณาพอจนเป็นสติสัมโพชฌงค์ จิตจึงจะเป็นสมาธิรวมลงเอง
    การประกอบความพากเพียรทำจิตให้ยิ่ง เป็นการปฏิบัติตามคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
    [/FONT]

    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]
    ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอน
    [/FONT]

    ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืน


    ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และกตัญญู


    ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่านั้น

    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]
    * วาสนา นั้นเป็นไปตามอัธยาศัย
    คนที่มีวาสนาในทางที่ดีมาแล้ว แต่คบคนพาล วาสนาก็อาจเป็นคนพาลได้ บางคนวาสนายังอ่อน เมื่อคบบัณฑิต วาสนาก็เลื่อนขึ้นเป็นบัณฑิต
    ฉะนั้น บุคคลควรพยายามคบแต่บัณฑิต เพื่อเลื่อนภูมิวาสนาของตนให้สูงขึ้น


    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]
    ผู้มีปัญญา ไม่ควรให้สิ่งที่ล่วงแล้วตามมา ไม่ควรหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
    [/FONT] [/FONT]

    ผู้มีปัญญา ได้เห็นในธรรมซึ่งเป็นปัจจุบัน ควรเจริญความเห็นนั้นไว้เนืองๆ ควรรีบทำเสีย


    ผู้มีปัญญา ซึ่งมีธรรมเป็นเครื่องอยู่ มีความเพียรแยกกิเลสให้หมดไป จะไม่เกียจคร้าน ขยันหมั่นเพียรทั้งกลางวันและกลางคืน


    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* จิต เป็นสมบัติสำคัญมากในตัวเราที่ควรได้รับการเหลียวแล ด้วยวิธีเก็บรักษาให้ดี ควรสนใจรับผิดชอบต่อจิต อันเป็นสมบัติที่มีค่ายิ่งของตน วิธีที่ควรกับจิตโดยเฉพาะก็คือภาวนา ฝึกหัดภาวนาในโอกาสอันควร ตรวจดูจิตว่า มีอะไรบกพร่องและเสียไป จะได้ซ่อมสุขภาพจิต
    นั่งพินิจพิจารณาดูสังขารภายใน คือ ความคิดปรุงแต่งของจิตว่า คิดอะไรบ้าง มีสาระประโยชน์ไหม คิดแส่หาเรื่อง หาโทษ ขนทุกข์มาเผาตนอยู่นั้น พอรู้ผิด-ถูกของตัวบ้างไหม
    พิจารณาสังขารภายนอกว่า มีความเจริญขึ้นหรือเจริญลง สังขารมีอะไรใหม่หรือมีความเก่าแก่ชราหลุดไป พยายามเตรียมตัวเตรียมใจเสียแต่เวลาที่พอจะทำได้ ตายแล้วจะเสียการให้ท่องในใจอยู่เสมอว่า เรามีความแก่-เจ็บ-ตาย อยู่ประจำตัวทั่วหน้ากัน
    [/FONT]

    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]* ทาน-ศีล- ภาวนา ธรรมทั้ง 3 นี้ เป็นรากแก้วของความเป็นมนุษย์ และเป็นรากเหง้าของพระศาสนา ผู้เกิดมาเป็นมนุษย์ ต้องเป็นผู้เคยสั่งสมธรรมเหล่านี้มาอยู่ในนิสัย ของผู้จะมาสวมร่างเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยมนุษย์อย่างแท้จริง

    [/FONT]

    คนหิว อยู่เป็นปกติสุขไม่ได้
    จึงวิ่งหาโน่นหานี่
    เจออะไรก็คว้าติดมือมาโดยไม่สำนึกว่าผิดหรือถูก
    ครั้นแล้วสิ่งที่คว้ามาก็เผาตัวเองให้ร้อนยิ่งกว่าไฟ


    คนที่หลงจึงต้องแสวงหา
    ถ้าไม่หลงก็ไม่ต้องหา
    จะหาไปให้ลำบากทำไม
    อะไรๆ ก็มีอยู่กับตัวเองอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว
    จะตื่นเงา ตะครุบเงาไปทำไม
    เพราะรู้แล้วว่า เงาไม่ใช่ตัวจริง


    ตัวจริง คือ สัจจะทั้งสี่ที่มีอยู่ในกายในใจอย่างสมบูรณ์แล้ว

    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]
    อานิสงส์ของศีล 5 เมื่อรักษาได้
    1. ทำให้อายุยืน ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
    2. ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในความปกครอง มีความปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายมาราวี เบียดเบียนทำลาย
    3. ระหว่าง ลูก หลาน สามี ภริยา อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก ไม่มีผู้คอยล่วงล้ำ กล่ำกราย ต่างครองกันอยู่ด้วยความผาสุข
    4. พูดะไรมีผู้เคารพเชื่อถือ คำพูดมีเสน่ห์เป็นที่จับใจไพเราะ ด้วยสัตย์ ด้วยศีล
    5. เป็นผู้มีสติปัญญาดีและเฉลียวฉลาด ไม่หลงหน้าหลงหลัง จับโน่นชนนี่ เหมือนคนบ้าคนบอหาสติไม่ได้ ผู้มีศีล เป็นผู้ปลูกและส่งเสริมสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลก ให้มีแต่ความอบอุ่นใจ ไม่เป็นที่ระแวงสงสัย ผู้ไม่มีศีลเป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์ ให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
    [/FONT]

    เราเกิดมาเป็นมนุษย์
    มีความสูงศักดิ์มาก

    อย่านำเรื่องของสัตว์มาประพฤติ
    มนุษย์เราจะต่ำลงกว่าสัตว์
    และจะเลวกว่าสัตว์อีกมากมาย
    อย่าพากันทำ


    ให้พากันละบาป บำเพ็ญบุญ
    ทำแต่คุณความดี
    อย่าให้เสียชีวิตเปล่าที่มีวาสนาเกิดมาเป็นมนุษย์



    กรรม จำแนกสัตว์ให้ทราม และประณีตต่างกัน ผู้สงสัยกรรม หรือไม่เชื่อกรรมว่ามีผล
    คือ ลืมตนจนกลายเป็นผู้มืดบอดอย่างช่วยไม่ได้



    แม้เขาจะเกิดและได้รับการเลี้ยงดู
    จากพ่อ-แม่มาเป็นอย่างดีเหมือนโลกทั้งหลายก็ตาม
    เขาก็มองไม่เห็นคุณของพ่อ-แม่
    ว่าได้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูตนมาอย่างไรบ้าง


    แต่เขาจะมองเห็นเฉพาะร่างกายเขา
    ที่เป็นคนหนึ่งกำลังรกโลกอยู่โดยเจ้าตัวไม่รู้เท่านั้น


    คนฉลาดปกครองตนให้มีความสุขและปลอดภัย
    ไม่จำเป็นต้องเที่ยวแสวงหาทรัพย์มากมาย
    หรือเที่ยวกอบโกยเงินเป็นล้านๆ มาเป็นเครื่องบำรุง
    จึงมีความสุข


    ผู้มีสมบัติพอประมาณในทางที่ชอบ
    มีความสุขมากกว่าผู้ใดมาในทางมิชอบเสียอีก
    เพราะนั่นไม่ใช่สมบัติของตนอย่างแท้จริง
    ทั้งๆ ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์


    แต่กฏความจริง คือกรรมสาปแช่งไม่เห็นด้วย
    และให้ผลเป็นทุกข์ไม่ส้นสุด
    นักปราชญ์ ท่านจึงกลัวกันหนักหนา


    แต่คนโง่อย่างพวกเรา
    ผู้ชอบสุกเอาเผากิน และชอบเห็นแก่ตัว
    ไม่มีวันอิ่มพอ ไม่ประสบผล คือ ความสุขดังใจหมาย


    อะไรๆ ที่เป็นสมบัติของโลก
    มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา
    ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล


    สมบัติในโลกเราแสวงหามา
    หามาทุจริตก็เป็นไฟเผา
    เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริงๆ


    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]
    หาคนดีมีศีลธรรมในใจ
    หายากยิ่งกว่าเพรชนิลจินดา
    [/FONT]

    ได้คนเป็นคนดีเพียงคนเดียว
    ย่อมมีคุณค่ามากกว่าเงินเป็นล้านๆ


    เพราะเงินเป็นล้านๆ
    ไม่สามารถทำความร่มเย็นให้แก่โลกได้อย่างถึงใจ
    เหมือนได้คนดีทำประโยชน์



    [FONT=4815_KwangMD_Catthai]
    ธรรม เป็นเครื่องปกครองสมบัติและปกครองใจ
    ถ้าขาดธรรมเพียงอย่างเดียว
    ความอยากของใจจะพยายามหาทรัพย์
    ได้กองเท่าภูเขาก็ยังหาความสุขไม่เจอ
    [/FONT]

    ไม่มีธรรมในใจเพียงอย่างเดียว
    จะอยู่ในโลกใด กองสมบัติใด ก็เป็นเพียงโลก
    เศษเดนและกองสมบัติเดนเท่านั้น
    ไม่มีประโยชน์อะไรแก่จิตใจแม้แต่นิด


    ความทุกข์ทรมาน ความอดทน
    ทนทาน ต่อสิ่งกระทบกระทั่งต่างๆ
    ไม่มีอะไรจะแข็งแกร่งเท่าใจ
    ถ้าได้รับความช่วยเหลือที่ถูกทาง


    ใจจะกลายเป็นของประเสริฐ
    ให้เจ้าของได้ชมอย่างภูมิใจ

    [/FONT]
     
  11. คุณศรชัย

    คุณศรชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,180
    วันนี้รู้สึกเงียบเหงาจังเลย...มีอะไรมาเล่าสู่กันฟังบ้างจ๊ะ..ตอนนี้ทางสำนักสงฆ์บ้านหนองม่วงกำลังต่อเติมศาลาที่พักสงฆ์ชาวบ้านไปทำบุญแล้วต้องได้หลบแดนกันที่มุมมองดูแล้วก็อดคิดไอเดียขึ้นมาไม่ได้ก็เลยปรึกษากับท่านอาจารย์ว่าต้องทำยังไงเลยได้ผลสรุปต้องต่อเสาออกไปอีกเพื่อจะได้กันฝนกันแดด..จะเก็บภาพมาให้ชมเป็นน้ำพักน้ำแรงของชาวบ้านที่กำลังช้วยกันคนละนิดไม่ว่าจะเป็นการร่วมบุญเสาปูนสังกะสี..ปูน..กระเบื้อง จะเก็บภาพมาแล้วจะนำล่องการทำบุญเป็นคนแรกนะครับ...
     
  12. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    เอาบุญมาฝากนะคะ
    วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๔ เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม

    ถวายปัจจัย ๑,๖๐๐ บาทค่ะ
    วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๔ พาเด็กๆชั้นม.๑/๖ และม.๑/๑๐
    ไปถวายสังฆทาน ที่วัดป่าเลิงจิตวิเวก ถวายหนังสือธรรมะ
    และถวายปัจจัย ๔๓๑ บาทค่ะ
    เชิญอนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ
    (เราสะสมบุญจากการให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ทีละเล็ก ทีละน้อย....
    ทำบ่อยๆจนเป็นนิสัยกันนะคะ)<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
     
  13. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    สาธุ สาธุ สาธุ น้อมอนุโมทนาบุญนะคะ
     
  14. เยธัมมา

    เยธัมมา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +36
    อนุโมทนากับคุณติงด้วยค่ะ

    อนุโมทนากับน้องศรชัยด้วยค่ะ
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    เพชรพญานาคที่ลงใหม่ งดงามบาดตาบาดใจ
    แต่ว่า เพื่อนเอย....มีคุณหมอท่านใดรักษาโรคทรัพย์จางได้บ้างหนอ.....
     
  16. อนนท

    อนนท สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ทำไมแก้วนาคาช่วงนี้มีเยอะจัง... แล้วมีอนุภาพด้านใหนเหรอครับ...
     
  17. คุณศรชัย

    คุณศรชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,180
    ช่วงนี้ก็รู้สึกว่าจะไม่ค่อยมีออกมาเยอะเท่ากับช่วงออกพรรษานะครับเพราะวัตถุมงคลก็เห็นเดิมที่หน้าแรกจะแทรกเข้ามาก็องค์สององค์ครับ....ส่วนสัณฐานต่างๆก็เป็นสัณฐานอาวุธ ความหมายก็ตามอาวุธเลยครับว่าใช้ทำอะไรบ้างและความหมายของสีเพชรพญานาคก็ตามข้างล้างเลยนะครับ...บุญรักษาครับ


    สีขาวใส เกิดจากนาคราชที่บำเพ็ญเพียรถือศีลปฏิบัติธรรมมานานจนจิตสมาธิแก่กล้า มีความสะอาดค่อนข้างบริสุทธิ์หมดจด มีฤทธิ์มีพลังอันเข้มข้น แต่หนักไปทางเมตตา และปล่อยวาง ผู้ใดมีไว้ครอบครองจะส่งเสริมในด้านพลังสมาธิ จะมีสมาธิจิตดี สงบและมั่นคง อันก่อให้เกิดปัญญาญาณขึ้นตามลำดับ มีความก้าวหน้าในทางธรรม เรียกว่าเป็นพลังธรรมทางบริสุทธิ์และให้ผลในทางเมตตามหาลาภทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ดึงดูดใจผู้คนรอบข้างได้อย่างดี ใครได้อยู่ใกล้แล้วจะรู้สึกสบายใจ ผู้ครอบครองสมควรที่จะเป็นนักปฏิบัติธรรม และต้องสร้างบุญมาพอสมควร มีความใจกว้างพร้อมเสียสละ


    สีแดง เป็นสีแห่งฤทธิ์อำนาจ มีตบะเดชะอันทรงพลัง เป็นที่เกรงขามแก่ผู้ที่ได้พบเห็น ใช้ในทางเสริมสร้างบารมีเกิดกำลังใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว มีความองอาจน่ายำเกรงยิ่งขึ้นทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเองและมั่นใจแน่วแน่ในความคิดอ่านของตน เพราะสีแดงนี้เป็นสีของนาคราชในวรรณะหัวหน้าระดับผู้นำ เปรียบเสมือนผู้นำทางทหารการปกครอง เป็นอัศวินปกป้องรักษาเมืองบาดาลย่อมมีฤทธิ์อำนาจมากเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบในทางฤทธิ์ทางพลังของฌานสมาธิ มีความเป็นผู้นำซึ่งจะช่วยส่งเสริมสง่าราศี แต่ผู้นั้นต้องเป็นผู้มีคุณธรรมในใจด้วยเพราะมีผลในด้านปกปักรักษาป้องกันแคล้วคลาด ช่วยให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ได้ด้วย จะได้ไม่เอาไปใช้ในทางผิดๆ


    สีชมพู ส่วนใหญ่เกิดจากนาคราชเพศเมีย จึงเหมาะสำหรับผู้หญิง เพราะจะเป็นที่ดึงดูดใจของเพศตรงกันข้าม เนื่องจากมีอนุภาพในทางเมตตามหานิยม สร้างเสริมสง่าราศีมีความโดดเด่นสะดุดตาของผู้ที่ได้พบเห็น ดึงดูดใจผู้อื่นได้ดีและยังบันดาลด้านโชคลาภชื่อเสียง เกียรติยศเงินทอง ยิ่งถ้าเป็นสีชมพูเข้มออกหวาน ซึ่งค่อนข้างหายากด้วยแล้วจะยิ่งมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้นชนิดที่อาจเรียกได้ว่า รักจนหลงก็ว่าได้ เปรียบเสมือนนางพญาผู้งดงาม อันเป็นที่พึงปรารถนาแก่คนทั้งหลาย ใครเห็นใครรัก ใครเห็นใครหลง เพราะมีพลังดึงดูดสารพัดในทางที่ดีได้อย่างประหลาด เหมาะกับคนที่ต้องการความเด่นเป็นสง่า มีเสน่ห์เรียกความสนใจจากผู้คนรอบข้าง


    สีม่วง มีพลังหนักไปในทางดึงดูดทรัพย์และมิตรสหาย ช่วยสร้างเสน่ห์อันล้ำลึกน่าพึงปรารถนา น่าสนใจเป็นที่รักของคนรอบข้าง รอบตัว บางคนเข้าใจผิดคิดไปว่า สีม่วงเป็นสีของแม่ม่ายจึงไม่กล้าใช้ แต่ความจริงแล้วเป็นสีที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายทุกด้าน เข้าไหนเข้าได้และเป็นที่เกรงใจของทุกคนที่ได้พบเห็นพูดคุยจนเกิดความนิยมยกย่องในทางที่ดีเสียอีก ผู้ที่คอบครองก็จะมีใจเป็นสุข สดชื่นท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดีในทุกแห่งทุกที่ ใจของตนเองก็จะสงบเย็นไปด้วย ป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจ


    สีเหลือง มีตั้งแต่สีเหลืองอ่อนจนกระทั่งสีเหลืองเข้าอย่างบุษราคัมหรืออำพัน เป็นสีที่ดึงดูดใจ นำโชคนำลาภได้ดีเช่นกันตามกำลังความเข้มของสี ยิ่งเข้มยิ่งดีมีเมตตามหานิยมในตัวและเป็นสีแห่งการบำเพ็ญ กล่าวคือผู้ที่มีไว้จะชอบที่จะทำบุญให้ท่าน สนใจธรรมะและชอบช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากจะดึงดูดโชคลาภเงินทองแล้ว ก็จะเกิดความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีความราบรื่นในชีวิต ปราศจากอุปสรรค เพราะมีผู้ยินดีช่วยเหลือเกื้อกูล สีเหลืองเป็นสีแห่งการพึ่งพาและการต้อนรับช่วยเหลือ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตการงานราบรื่นสำเร็จและสมหวังในทรัพย์สินเงินทองตามแต่จะอธิฐานใช้ บุคคลโดยทั่วไปจึงมีไว้ได้ตามใจปรารถนา


    สีเขียว มีความเกี่ยวเนื่องกับพวกเทพ พรหม และวิญญาณ อันมีฤทธิ์ มีพลังทางจิตเป็นแก้วสารพัดนึกอย่างดีตามแต่จะอธิฐานขอ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นจะเมตตาสงเคราะห์ช่วยเหลือ อาจใช้เป็นสื่อทางจิตในด้านการติดต่อสื่อสารกับพวกที่อยู่ในโลกทิพย์หรือภพภูมิต่างๆ ด้วยดีเพราะสีเขียวของเพชรพญานาคนี้จะช่วยในด้านสมาธิจิตด้วย มีเดชตบะอำนาจ ทำให้จิตสงบรวมลงเป็นสมาธิได้เร็วมีความมั่นคงไม่ค่อยหวั่นไหวโดยง่าย ทั้งยังช่วยคุ้งครองเกิดความแคล้วคลาดปลอดภัยอีกด้วย มีสีเขียวอ่อน เขียวตองและเขียวเข้มแบบเขียวไข่กา ยิ่งเข้มยิ่งมีพลังฤทธิ์มาก ทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ แม้กระทั่งปัญญาความรู้เปรียบเสมือนอำมาตย์ราชครูที่ปรึกษาย่อมมีความรอบรู้และขมังเวทย์เก่งในทุกด้าน จะพูดจาก็เป็นที่น่าเชื่อถือ ทำให้เกิดความเคารพและก่อให้เกิดศรัทธาแก่ผู้ที่ได้ยินด้วยบารมีธรรม


    สีฟ้าและสีน้ำเงิน ถือเป็นสีของวรรณะกษัตริย์ราชาผู้นำผู้ปกครองระดับสูง ผู้มีอำนาจวาสนาและบารมีอันยิ่งใหญ่หรืออยู่ในวงวารมีเชื้อราชวงศ์ ต้องสร้างสะสมบุญญาธิการและบารมีมานาน ผู้ที่มีบารมีสูงเท่านั้นจึงจะเป็นเจ้าของครอบครองได้และต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมในใจเป็นปกติ มิฉะนั้นอาจต้องแพ้พ่ายเกิดความอับเฉาแก่ชีวิตได้ ผู้ที่เหมาะสมได้มีไว้ครอบครองจะช่วยส่งเสริมทั้งเดชทั้งอำนาจ ป้องกันศัตรูจากทิศทั้งแปด เป็นที่เคารพเกรงกลัวแก่คนทั่วไป จะเกิดมีขุมทรัพย์มหาศาลมาเสริมสร้างบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป เป็นที่พึ่งแก่คนอื่นได้ ตลอดจนช่วยให้มีอายุยืนยาว เพราะเทพรักษาคุ้มครองทั้งยังเป็นมงคลแก่ตนเอง เกิดความคล่องตัวในทุกเรื่องอีกด้วย


    สีส้ม ป้องกันอาวุธ



    สีชา(สีพิเศษ) หมายถึงสีที่มีพลังอานุภาพสามารถที่จะยับยั้งอารมณ์ความคิดที่ใช้แต่อารมณ์ทำให้สติปัญญาความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ถูกที่ควรที่ ตามไม่ทันจนกระทำพลาดพลั้งผิดพลาดไปจนเกิดความเสียหายเหมาะกับผู้ที่ขาดแหล่งพึงพิงทางจิตใจหรือผู้ที่มีจิ ตใจเลื่อนลอยเสร้าเสียใจผิดหวังท้อแท้และมีความพิเศษก็คือจะมีอานุภาพทางมีโชคมีลาภอย่างที่คาดไม่ถึง
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    อนุโมทนาบุญกับคุณติงและคุณศรชัยด้วยค่า
    และเห็นด้วยกับคุณติงที่ว่า (เราสะสมบุญจากการให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ทีละเล็ก ทีละน้อย....
    ทำบ่อยๆจนเป็นนิสัยกันนะคะ)

    ตอนนี้ก็กะลังฝึกทำอยู่ค่า ไปเรื่อยๆไม่เครียดแต่ก็ไม่ละเลย
     
  19. คุณศรชัย

    คุณศรชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,180
    สาธุ...การทำบุญในความหมายตามความรู้สึกของน้องคือการให้ด้วยใจบริสุทธิเพื่อเป็นแนวทางแบบอย่างกับสาธุชนรุ่นหลังและบำรุงศาสนาเพื่อให้อยู่คุู่กับลูกหลานตราบนานเท่านานและเราได้ทำบุญได้บำเบ็ญกุศลบุญก็จะเห็นผลในภพชาตินี้คือเรามีใจที่อิ่มบุญรู้สึกสบายใจที่ได้ทำบุญไม่ว่าจะเป็นการให้ทานต่างๆ..ล้วนแล้วแต่ทำให้จิตใจของเราสบายใจและมีสติที่จะดำเนินชีวิตไปได้ในยุคโลกานิวัฒน์การทำบุญนั้นไม่จำเป็นต้องทำเกินตัวทำอย่างพอประมาณทำที่ละเล็ก ทีละน้อยทำบ่อยๆจนเป็นนิสัยอย่างเช่นพี่ติงได้กล่าวเบื้องตันเพื่อจะได้เป็นตัวอย่างให้ลูกหลานได้ทำตามเพื่อสังคมจะได้อยู่อย่างมี คุณธรรม จริยธรรม ศิลธรรม ลดการทำบาป เพื่อให้คนได้ทำความดีละเว้นความชั่ว...สาธุ

    ยากอะไรไม่ยากเท่าปฏิสังขร ถอนอะไรไม่ยากเท่า ถอนมานะ
    ละ อะไรไม่ยากเท่ากับ ละกามคุณ

    บุญ อะไรไม่ยากเท่า ทำบุญบรรพชา

    หา อะไรไม่ยากเท่ากับ หาตน

    จน อะไรไม่ยากเท่ากับ จนปัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2011
  20. คุณศรชัย

    คุณศรชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +1,180
    น้อมอนุโมทนาสาธุ....สาธุ...สาธุ...
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...