เพื่อการกุศล :::(เปิดจอง)ล็อกเกตพระแก้วมรกต"ภูริทัตตเถรานุสรณ์-สมเด็จองค์ปฐมอมฤตศุภมงคลญาณสังวร":::

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Fedor

    Fedor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +112
    เป็นกำลังใจให้คณะผู้จัดทำทุกๆท่านนะครับ

    เห็นแล้ว เหนื่อยแทน ทางคณะผู้จัดสร้างจริงๆครับ

    "ใจ "ล้วนๆครับ

    อนุโมทนาบุญกับพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกท่านด้วยนะครับ
     
  2. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    to คุณ dekdelta ครับ
    หลวงปู่ผอง วัดป่าโนนลำดวน เพิ่งมรณภาพไปเมื่อเืดือนก่อนน่ะครับ
    ส่วนเรื่องค่าน้ำมันไม่ต้องครับ รถผมบริษัทให้ค่าน้ำมันเบิกได้ครับ 555
    ผมสะดวกตลอดน่ะครับ ยกเว้นต้นเดือนกับปลายเดือนครับ

    ถ้าว่างจะไปสุรินทร์หรือมุกดาหารก็พาไปได้ครับ
    สุรินทร์- หลวงพ่อเยื้อน อ.บัวเชด, หลวงพ่อสมศักดิ์ วัดบูรพา ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์ครับ หลวงปู่ใหญ่วัดบ้านเต็งเล็ง เป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์ ที่ไปอยู่กับหลวงปู่ฝั้นสมัยท่านอยู่ที่ถ้ำขามครับ หลวงปู่ใหญ่นี่ท่านสนิทกับหลวงพ่อพุธด้วยครับที่วัดป่าสาละวันมีพระบอกว่าเคยเห็นกายทิพย์ของท่านครับ หลวงพ่อที่วัดป่าปราสาทจอมพระก็เป็นศิษย์หลวงปู่ฝั้นครับ
     
  3. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    ถ้ามีโอกาสไปเพชรบูรณ์ อยากให้ไปกราบหลวงปู่เปรื่อง ฐานังกโร อายุ 80 พรรษา 60 ปี บ้านสักหลง อ.หล่มสักวัดสันติวัฒนานะครับ ในลูกศิษย์หลวงปู่คำดีวัดถ้ำผาปู่มี 4 รูป 1.หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน 2. หลวงปู่สีทน มรณภาพแล้ว 3.หลวงพ่อเปรื่อง องค์นี้ละครับ 4.หลวงปู่เผย เจ้าอาวาสวัดถ้ำผาปู่องค์ปัจจุบันครับ หลวงพ่อเปรื่องท่านอยู่กับหลวงปู่คำดี 9 ปีครับ แล้วก็ไปอยู่กับหลวงปู่ชอบ ฐานสโมครับ หลวงปู่ขาลที่เชียงรายเคยกล่าวบอกว่าหลวงพ่อเปรื่องเป็นพระที่กราบได้โดยไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้วครับ ส่วนเรื่องเหรียญที่คณะศิษย์เคยถวายให้ท่านเอาไว้แจก มีประสบการณ์เยอะมากครับ เคยมีลูกศิษย์ท่านโดนยิงกลางหลังถึง 7 นัดยังไม่เป็นอะไรเลยครับ รถของลูกศิษย์ท่านโดนสิบล้อพุ่งเข้าชนก็หมุนตกข้างทางไม่โดนสิบล้อชน แล้วก็รถและคนขับไม่เป็นอะไรเลยครับ แต่ที่สำคัญเหรียญของท่านที่อยู่ในลิ้นชักในรถกระเด็นออกมาอยู่ในอุ้งมือของคนขับด้วยครับตอนรถหมุนครับ ท่านจะดุนิดๆนะครับ แต่ความจริงท่านใจดีมากๆที่ท่านดุเพราะกลัวคนจะมารบกวนท่านและพระในวัดตลอดทั้งวันครับ
     
  4. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ขอบคุณมากครับ พี่ farren มีควมรู้ดีมากๆ

    รบกวนเล่าเรื่อง หลวงปู่ห้วย วัดหลวง ที่ศรีษะเกษหน่อยดิครับ เค้าว่าเก่งเหมือนกัน กับอีกองค์เป็นรุ่นพี่หลวงปู่ชื่น วัดตาอี ที่ยังมีชีวิตอยู่ สายวิชาเขมรแรงมากๆ
     
  5. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ที่อุบลยังขาดสองท่านครับคือ

    หลวงปู่แสง ญาณวโร

    หลวงตาเก่ง ธนวโร ครับ
     
  6. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    แม่ชีนวล อายุราวๆ 100ปี น่าให้อฐิธานจิตมาก ใครทราบวัดช่วยบอกด้วยว่าท่านย้ายไปไหนครับ
     
  7. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    หลวงปู่เปรื่อง ฐานังกโร อายุ 80 พรรษา 60 ปี องค์นึ้น่าสนใจครับ ถ้าหลวงปู่ขาล รับรองท่านต้องไม่ธรรมดาแน่ๆๆ
     
  8. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ดูแล้วน่ะครับคุณเดลต้า อุบล ยโส อำนาจ สุรินทร์ เพชรบูรณ์ น่าไปมากๆเลยครับ
     
  9. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    เคยไปกราบอริยสงฆ์แดนดอกลำดวนหลวงปู่ห้วยรูปนี้อยู่ครับครับ ท่านเป็นพระที่ปฏิปทาเคร่งขึมครับ ประวัตินี่มีอยู่หาอ่านได้ตาม google ครับ แต่ที่เคยเจอท่าน รู้สึกว่าท่านจะมีเหล็กไหล ธาตุกายสิทธิ์และแร่ตระกูลต่างๆเยอะมากครับ ท่านเคยจัดแสดงที่วัดสาขาของท่านครับ สำคัญลองสังเกตที่รูปของท่านนะครับเวลาปลุกเสกวัตถุมงคลจะมีแสงประหลาดทุกครั้งครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ตอนที่ 84 คาถาอาคมเราทิ้งหมดแล้วเอาแต่พุทโธ คำเดียวเท่านั้น

    [​IMG]

    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]พระครูประสูตโสภณ พ่อท่านเกลื่อน วัดประดู่หมู่ อดีต เจ้าอาวาส วัดในวังพระอารามหลวง และอดีตเจ้าคณะอำเภอนาทวี อายุ 104 ปี(2554) [/FONT]
    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]เกจิพรรษาสูงสุดในสงขลา และเป็นเกจิที่ปลุกเสก หลวงปู่ทวด ปี 97 [/FONT]
    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านเป็นสิษย์ พ่อท่านเอียด วัดดอนศาลา พ่อท่าน วัดแหลมทราย พ่อท่านวัน วัดปากพะยูน และ อีกหลายรูป[/FONT]

    ปัจจุบันท่านไม่ออกวัตถุมงคลใดๆ ท่านให้เหตุผลว่าเหมือนชื่อตอนครับ
    แต่พอท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ นี่พลิกตำราทำเต็มที่นานมาก เพราะในสายภาคใต้ ท่านเก็บมาหลายสาย คิดดูว่าเป็นศิษย์น้องของพระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา รูปเดียวที่ยังอยู่
    ตบะบารมี ก็ดูที่แววตาท่านสิครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2011
  11. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ตอนนี้ผมเริ่มมั่นใจแล้วนะครับว่าพระรุ่นนี้ไม่ใช่ธรรมดา เพราะหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัยท่านมาบอกครับ แต่ไม่ได้บอกผมนะ แล้วจะเล่าให้ฟังตอนหลัง
     
  12. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    ความจริงแล้วที่อุบลยังมีอีกหลายรูปครับ
    ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่เก่ง วัดกิตติ หลวงปู่คำบุ หลวงปู่บุญรอดวัดกุดคูณ หลวงปู่อำคา 75 ปี วัดบ้านตำแย ศิษย์หลวงปู่บุญมี วัดสระประสานสุขครับ
    ส่วนสายหนองป่าพงคงจะไม่มีหวังครับเพราะมีคำสั่งหลวงพ่อชาไม่ให้ทำวัตถุมงคลครับ ที่น่าจะขอท่านได้ก็มีหลวงปู่ศรีวัดภูตามุยนั่นละครับ เพราะว่าหลวงพ่ออมรเพิ่งมรณภาพไปครับ

    ความจริงอยากเชิญไปวัดหลวงปู่จามที่คำชะอี มุกดาหารครับ ท่านอายุ 101 ปีแล้ว เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กุมภาพันธ์ 2011
  13. ญานธรรม

    ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,936
    ค่าพลัง:
    +14,705
    ล็อกเกตพระแก้วมรกต"ภูริทัตตเถรานุสรณ์


    ตอนนี้ยังบูชาได้ไหมครับ เหลือฉากสีอะไรบ้างครับ
     
  14. BoseBoseBose

    BoseBoseBose เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +1,776
    โอ้โห น่าติดตามมากครับผม แล้วนี่คือยังไม่กำหนดวันสิ้นสุดการปลุกเสกใช่ไหมครับเนี่ย ก็คือสงสัยว่าจะได้รับพระเมื่อไร น่าสนใจมากๆ
     
  15. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    เรื่องรับพระนี่ ผมต้องปรึกษาฤกษ์พิธีพุทธาภิเษกกับท่านพระอาจารย์วีระ วัดราชสิทธารามอีกทีนึง เพราะผมจะจัดงานพุทธาภิเษกตามที่บอกทุกท่านไว้ อาจจะนิมนต์ครูบาอาจารย์ ไม่ 4 ก็ 9 องค์ พร้อมทั้งเชิญกายทิพย์ของสมเด็จพระสังฆราชสุกไก่เถื่อน(อาจารย์ของสมเด็จโต และพระสังฆราชถึง 3 พระองค์) พระสังฆรานุวงศ์ชุ่ม(อาจารย์สอนกรรมฐาน หลวงปู่ศุข หลวงพ่อพริ้ง และหลวงปู่เสาร์อาจารย์หลวงปู่มั่น) มาร่วมเสกด้วย

    โดยจัดโยงสายสิญจน์ต่อหน้าไม้เท้าเบิกไพรต้นตระกูลพระกรรมฐาน ไม้เท้านี้เป็นของพระราหุลตั้งแต่ยุคพุทธกาล ตกทอดมายังพระมหาเถรคันฉ่องและสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว จนมาถึงสมเด็จพระสังฆราชสุก วัดท่าหอย ก่อนย้ายมาที่วัดพลับ

    ในงานจะมีการจัดธง เทียนแท้ และสวดธัมมจักรฯแบบเต็มสูตร รูปแบบเดิมของสมเด็จพระสังฆราชทุกประการ

    จึงขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมพิธี น่าจะจัดกลางๆปี สมศักดิ์ศรีของพระชุดนึงพึงกระทำ


    พระท่านควรนำดอกไม้ธูปเทียนมารับจากมือครูบาอาจารย์ด้วยตัวเอง หลังงานพุทธาภิเษก จะได้เห็นคุณค่า
    ในการนี้มีค่าใช้จ่ายในการจัดผมต้องทำพระชุดกรรมการมาอีกจำนวนหนึ่ง โดยใช้มวลสารคนละชุดกับล็อกเกตครับ แล้วจะติดจีวรของสมเด็จพระสังฆราชสุกให้ทำบุญ เพื่อให้มีปัจจัยถวายสร้างรูปหล่อของพระสังฆราชนุวงศ์เอี่ยม ไว้ที่วัดพลับ ขอให้อนุโมทนาธุด้วยทั่วกัน
     
  16. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ตอนที่ 85 หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ

    [​IMG]
    ประวัติหลวงปู่เย็น ทานรโต
    นามเดิม เย็น ศรีศาสตร์
    ชาติภูมิ บิดา นายถิ่น ศรีศาสตร์ มารดา นางเเช่ม ศรีศาสตร์
    เป็นชาวเดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี เกิด วันเสาร์ ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๔๔๕ เป็นบุตรคนโต ในจำนวนพี่น้อง ๖ คน

    อาชีพ ช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพกสิกรรม มีฝีมือทางช่างไม้ ช่างปูน เเละมีความสามารถออกเเบบบ้าน วัดวาอาราม

    อุปสมบท อายุครบบวช ณ วัดเดิมบาง สุพรรณบุรี เเละได้ย้านมาอยู่ วัดระฆังโฆสิตาราม เรียนพระธรรมวินัย ภาษาบาลี เเละภาษาขอม

    วิทยฐานะ สอบได้นักธรรมเอก เปรียญสี่ประโยค

    ผลงาน บูรณะวัดร้าง วัดกลางชูศรีเจริญสุข อำเภอบางระจัน สิงห์บุรี

    บูรณะวัดร้าง วัดสระเปรียญ สรรคบุรี ชัยนาท
    สร้างสถานีอนามัยชั้นหนึ่ง สถานีอนามัยหัวเด่น สรรคบุรี

    อาพาธ ตั้งเเต่ปี๒๕๓๔ ระบบขับถ่ายไม่ปรกติ โรคหอบ ถุงลมโป่งพอง เข้าออกโรงพยาบาลเสมอ ครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลสิงห์บุรีเวชการ เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๓๙

    มรณภาพ ด้วยอาการสงบ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๓๙ เวลา ๑๓.๔๕ รวมอายุได้ ๙๔ปี ๒เดือน ๑๑วัน
    อุปนิสัย มีความเมตตาสูง อารมณ์ดี ยิ้มเเย้มตลอด พูดตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม นอบน้อมถ่อมตน มีวิธีสอนธรรมะอย่างสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ ให้กำลังใจต่อศิษย์ในการต่อสู้ชีวิต เเละอุปสรรคต่างๆ

    หมายเหตุ หลวงปู่เคยลาสิขามีครอบครัว สมรสกับนางลมัย อิ่มสำราญ ชาวบางระจัน สิงห์บุรี มีบุตรธิดา ๖ คน หลังจากเห็นภัยในวัฎฎะ หลวงปู่จึงออกบวชอีกครั้ง จนมรณภาพ ส่วนคุณเเม่ลมัย เมื่อหลวงปู่ออกบวชก็มิได้ทัดทาน เเต่ยังอนุโมทนากับหลวงปู่ด้วย ตอนที่หลวงปู่มาบูรณวัดร้าง วัดกลางชูศรี คุณเเม่ลมัยก็ได้บวชเป็นชีพราหมณ์ที่วัดด้วย คอยดูเเละเรื่องอาหารขบฉัน เเม้หลวงปู่จะย้ายมาวัดสระเปรียญ คุณเเม่ลมัยก็ยังตามาดูเเลเสมอ หลังจากสุขภาพไม่ดี คุณเเม่ก็ไปอยู่กับลูกสาว ปัจจุบันคุณเเม่สมัยอายุ๘๑ปี(พ.ศ.๒๕๓๙)

    พระธุดงค์ลึกลับ
    สมัยที่หวงปู่จำพรรษาอยู่ที่วัดระฆังนั้น วันนึงท่านเห็นพระธุดงค์รูปนึง เเบกกลด สะพายย่ามผ่านมา ท่านเห็น เกิดความรู้สึกเลื่อมใส ศรัทธา จึงเข้าไปกราบขอนิมนต์ให้ท่านเข้ามาพักในกุฎิก่อนเเละให้การต้อนรับท่านอย่างดี
    ระหว่างการสนทนา หลวงปู่ได้ขอให้ท่านเล่าถึงเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับการธุดงค์ของท่านให้ฟัง พระธุดงค์เล่าว่า ท่านธุดงค์ไปถึงฝั่งลาว ผ่านป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายเเละไข้ป่า ที่ร้ายกว่านั้นคือ ท่านผ่านเข้าไปยังหมู่บ้านหนึ่งชื่อว่า บ้านเเก้ว ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในเรื่องยาพิษเเละยาสั่ง คนที่ผ่านเข้าไปจะต้องถูกลองด้วยยาสั่งเเละยาพิษเสมอ น้อยคนนักที่จะรอดมาได้อย่างปลอดภัย หลวงปู่ได้ฟัง จึงเกิดความสงสัย ถามว่า ไม่กลัวเขาทำให้ตายเหรอ พระธุดงค์ตอบว่า เขาทำให้ตาย กินข้าวได้ เราไม่กลัว
    พระธุดงค์ตอบเป็นปริศนา เเม้หลวงปู่เย็นไม่เข้าใจนักเเต่ก็มิได้ซักถามต่อ เมื่อได้สนทนาต่อไปเรื่อยๆ จึงเริ่มรู้ว่า พระธุดงค์รูปนี้ ไม่ธรรมดา เเต่เป็นพระที่ทรงอภิญญาเเละเรืองวิทยาอาคมยิ่งองค์นึง ท่านจึงไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าสัตว์ร้าย ไข้ป่า หรือเเม้กระทั้งคน ท่านได้ธุดงค์ไปเเล้วทั่วเเผ่นดินไทย ไปถึงเมืองญวณ เขมร ลาวเเละพม่า ก่อนจากกัน ท่านได้มอบสิ่งของบางอย่างให้กับหลวงปู่เย็น ท่านบอกว่าเป็นเเก้วสารพัดนึก สามารถดลบันดาลให้เป็นไปได้ตามปรารถนาได้ทุกประการ หลวงปู่เย็นได้กราบด้วยความสำนึกในความมีเมตตาของท่าน เเต่พอหหลวงปู่เงยหน้ามา พระรูปนั้นก็ได้อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย

    ตัว พ มหัศจรรย์
    ตอนที่พระธุดงค์บอกกับหลวงปู่ว่า มีขอวิเศษจะมอบให้ ท่านได้เอื้อมมือๆไปหยิบก้านธูปในกระถางรูปบูชาพระ เเล้วเอามาหักเป็นอักษรตัว พ จากนั้น เอาด้ายสายสิญณ์ มาพันก้านธูปกลับไปกลับมา พร้อมบริกรรม คาถากำกับลงไปตลอดเวลา เมื่อเสร็จเเล้วก็มอบให้หลวงปู่เย็น เเละบอกว่า นี่คือเเก้วสารพัดนึก

    พระธุดงค์ได้สาธยายคุณวิเศษของตัว พ ว่า เป็น ตัวเเทนของพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ เเละพระสังฆคุณ เป็นของวิเศษดุจดังเเก้วสาพัดนึก หากปรารถนาสิ่งใด ให้ ยกตัว พ ขึ้นจบ เเล้ว ภาวนาขอบารมีเเห่ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บันดาลให้เป็นไปตามที่ปรารถนาก็จะได้ สมดังตั้งใจ

    เมื่อหลวงปู่เย็น ขอเรียนวิชา ท่านก็ถ่ายทอดให้ พอหลวงปู่ก้มลงกราบขอบพระคุณท่าน พอเงยหน้ามา ก็ไม่เห็นท่านเสียเเล้ว เป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่งที่ท่านได้เห็นครั้งเเรกในชีวิต ถือว่า พระธุดงค์เป็นพระรูปเเรกที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ท่าน

    หลวงปู่บอกว่า ท่านชื่ออะไรไม่รู้ เเต่ท่านก็จำหน้าพระธุดงค์ได้อย่างเเม่นยำ ท่านมารู้ทีหลังก็เมื่อได้เห็นรูปท่าน หลวงปู่ท่านชี้ให้ดูรูป พระครูโลกอุดร ที่ท่านได้ใส่กรอบบูชาไว้ที่หัวนอน เเละได้กล่าวว่า อาจารย์องค์นี้เเหละ ที่ทำให้กูสร้างวัดได้สำเร็จ
    เสาะหาอาจารย์ดี
    หลวงปู่เย็น อยู่วัดระฆังได้ ๙ พรรษา ก็พยายามหาอาจารย์ดีอยู่เสมอ ท่านได้ข่าวว่าหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา เป็นพระเกจิที่ทรงอาคมเเก่กล้า จึงเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ โดยไม่ร้อช้า เเล้วก็ถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้ ทั้งทางด้านวิทยาคม การผสมธาตุสำหรับนำมาสร้างเครื่องรางของขลัง ตลอดจนวิชาเเพทย์เเผนโบราณการผสมยา
    ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ขยันขันเเข็ง ไม่นานต่อมาหลวงปู่เย็นก็สามารถเรียนวิชาต่างจากหลวงพ่ออิ่มได้หมด เเต่หลวงปู่เย็นยังอยากเรียนวิชาอีก หลวงพ่ออิ่มจึงได้ฝากฝังให้ไปเรียนต่อกับหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ผู้ซึ่งเป็นพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเเละเป็นอาจารย์ของพระเกจิหลายรูป อาทิเช่น หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ หลวงพ่อกวย วัดบ้านเเค หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม หลวงพ่อพิมพ์ วัดวิหารทอง หลวงพ่อเเพ วัดพิกุลทอง เป็นต้น หลวงปู่ได้อยู่เรียนวิชา ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อศรีด้วยความขยันขันเเข็ง ท่านจึงได้เมตตาสอนวิชาความรู้ต่างๆให้หลวงปู่เย็นจนหมดสิ้น

    วัดกลางชูศรี
    ปี ๒๕๐๗ หลวงปู่เย็นได้ออกธุดงค์ ไปทางอำเภอบางระจัน จ.สิงห์บุรี พบเจดีย์เก่าในพงหญ้ารกครึ้ม ในสภาพทรุดโทรม จึงรู้ว่าที่เเห่งนี้เป็นวัดร้าง ด้วยจิตกุศลอันเเรงกล้า ท่านจึงมีความตั้งใจที่จะบูรณะก่อสร้างขึ้นใหม่ หลวงปู่จึงขายที่นาที่เป็นมรดกตกทอดหลายเเปลง นำเงินที่ได้มาซื้ออิฐ หิน ปูน วัสดุก่อสร้างต่างๆ ด้วยที่ท่านมีฝีมือในการก่อสร้าง จึงสร้างกุฎิสงฆ์ ศาลาประกอบศาสนกิจ หอสวดมนต์ ขุดสระ บูรณจนวัดมีสภาพที่ดีเเละมีความเจริญรุ่งเรือง เเละมีนามว่า วัดกลางชูศรีเจริญสุข
    ในการบูรณะวัด นอกจากใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวจากการขายที่ดิน หลวงปู่ยังได้สร้างตัว พ ไว้ให้เเก่ผู้ที่นำวัสดุก่อสร้างมาถวาย ผู้ใดถวายปูนหนึ่งถุง ท่านจะมอบตัว พ ให้หนึ่งตัว ต่อมาผู้ที่ได้รับตัว พ ไป นั้น ตัว พ ได้ก่ออภินิหาร มีประสบการณ์มากมาย ผู้ที่บูชานำไปตั้งจิตอธิษฐาน มักสมหวังในสิ่งที่ตั้งใจเสมอ จนเป็นที่เลื่องลือ จนมีผู้คนมากมายมาขอตัว พอจากหลวงปู่กันมากมาย สมัยก่อน ปูนถุงละ ๒๐ บาท ใครถวายปูนหนึ่งถุง ท่านก็จะให้ตัว พ หนึ่งตัว เมื่อปูนขึ้นราคา ตัว พ ก็ขึ้นราคาตามไปด้วย เเต่สมัยก่อน ชาวบ้านนึกถึงในเรื่องการทำบุญ ไม่ได้คิดถึงพุทธพาณิชย์เเต่อย่างใด เเต่หลวงปู่จะพูดเสมอว่า ตัว พ ของท่านเป็นพุทธพาณิชย์ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มา จะถูกใช้ในการก่อสร้างถาวรวัตุต่างๆภายในวัดทั้งสิ้น พูดได้ว่า หลวงปู่สร้างวัดด้วยตัว พ จริงๆ
    ในช่วงบูรณวัด หลวงปู่จะทำงาน ก่อสร้าง ลงมือด้วยตัวท่านเอง ถ้ามีญาติโยมเจ็บป่วยมา ท่านก็จะช่วยรักษาให้ ใช้ยาเเผนโบราณบ้าง น้ำมนต์บ้าง กลางคืน หลังจากสวดมนต์ไหว้พระ หลวงปู่จะนั่งหักก้านธูปทำตัว พ ไว้เเจกจ่ายสมนาคุณเเก่ผู้ที่มาทำบุญ

    [​IMG]

    นิมนต์หลวงปู่บุดดา
    ครั้งนึงหลวงปู่ได้รับกิจนิมนต์ ไปพบพระรูปนึงที่มีสำเนียงการเทศน์ที่น่าฟังยิ่ง กริยาสงบน่าเลื่อมใส บ่งบอกถึงความเป็นนักธรรมปฎิบัติ เกิดความผูกพันธ์ อยากเชิญชวนให้ท่านมาอยู่วัดที่ท่านกำลังสร้างอยู่ หลังจากเสร็จกิจสงฆ์ หลวงปู่จึงเข้าไปนมัสการเเละนิมนต์ให้ท่านมาอยู่วัดกลางชูศรี เพื่อช่วยกันพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป พระภิกษุรูปนั้นก็รับปาก พระสงฆ์ที่หลวงปู่นิมนต์มาอยู่ด้วย เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ท่านคือ หลวงปู่บุดดา ถาวโร
    หลังจากหลวงปู่บุดดมาอยู่ด้วย วัดกลางชูศรีก็กลายเป็นวัดของนักปฎิบัติธรรมโดยเเท้จริง โดยมีหลวงปู่เย็นเป็นผู้นำในการเจริญวิปัสนากรรมฐาน หลวงปู่กล่าวเสมอว่า ตราบใดที่หลวงปู่บุดดายังอยู่ที่วัด ความเจริญรุ่งเรืองก็จะมาเรื่อยๆ เพราะหลวงปู่บุดดาเป็นพระเเท้ ไม่ต้องทำอะไร ลาภสักการะก็จะไหลมาเทมา พูดได้ว่า ยามหลับได้เงินหมื่น ยามตื่นได้เงินเเสน จริงอย่างที่กล่าว ครั้งใดที่ญาติโยมมากราบขณะที่หลวงปู่บุดดาจำวัด ทุกคนจะเกรงใจ ไม่กล้ารบกวนท่าน โดยจะถวายปัจจัยใส่ซองไว้ที่ใกล้ตัวท่าน หลังจากที่วัดมีความเจริญรุ่งเรืองสมดังปณิธาน หลวงปู่ได้ถวายวัดให้กับหลวงปู่บุดดา ตัวท่านเองก็ออกเสาะหาวัดร้างที่จะบูรณะต่อไป
    วัดร้างการเปรียญ
    ที่ตำบลบางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ไม่ไกลจากวัดบ้านเเคของพระเกจิที่ทรงคุณวิเศษเเละเป็นที่เคารพของศิษยานุศิษย์ท่านนึง คือ หลวงปู่กวย ชุตินธโร มีวัดเก่าเเก่วัดนึง เป็นวัดร้าง ชื่อว่า วัดการเปรียญ ตอนที่หลวงปู่เย็นไปพบ กรมศาสนาได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นวัดร้างมาเเล้วประมาณ ๖๐ ถึง ๗๐ ปี
    จากคำบอกเล่าของคนเก่าเเก่ สมัยก่อนมักมีคนมาขุดหาของเก่า ของมีค่าเเละได้ไปจำนวนไม่น้อย
    เดิมวัดการเปรียญมีเนื้อที่ธรณีสงฆ์อยู่ ๙๐ ไร่ หลังจากการบูรณเป็นวัดใหม่ มีเนื้อที่เหลือเพียง ๗๐ ไร่ ในบริเวณวัด มีสระน้ำสองสระ ถมไปหนึ่ง เหลืออีกหนึ่งสระ เชื่อกันว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในการบูรณะทำการขุดลอกสระ มีการค้นพบเสาไม้ใหญ่ คงเป็นเสาหอไตรที่สร้างไว้กลางสระสมัยก่อน สระนี้ไม่มีใครกล้าลงไป เคยมีคนตักน้ำไปใช้เเล้วเกิดอาเพศภายใน ๓ วัน ๗ วัน บางคนลงไปอาบ ต่อมาตามตัวผิวหนังตกสะเก็ดเหมือนปลา บางคนเป็นผดผื่น รักษาไม่หาย ต้องไปจุดธูปขอขมาที่สระ จึงจะหาย เป็นที่อัศจรรย์
    ในการสร้างพระเครื่องของวัดสระเปรียญ อาจารย์หนูศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่เย็นมากที่สุด จะลงไปเอาดินในสระมาเป็นส่วนผสมเสมอ เเละไม่เกิดเหตุอะไรเลย เเต่ถ้าคนอื่นลงไป มักเกิดอาเพศทุกครั้ง หลังจากที่วัดได้รับการบูรณะจนดูสวยงามร่มรื่น หลวงปุ่ได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่ว่า วัดสระเปรียญ มีเเรงจูงใจมาจากที่ว่าวัดนั้นเคยมีหอไตรอยู่กลางสระน้ำนั้นเอง
    หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า ท่านสร้างวัดกลางชูศรีมาเเล้ว ท่านจะสร้างวัดการเปรียญขึ้นมาใหม่ เเล้วท่านก็ทำได้จริง

    ประสิทธิ์ตัว พ
    หลวงปู่เป็นพระใจดีมีเมตตาต่อสาธุชนทุกคน เเม้ตัวท่านจะมีโรคประจำตัว กลางวันท่านจะรับเเขก โปรดญาติโยมด้วยความเมตตา กลางคืน ท่านจะนั่งทำตัว พ ไว้เเจกจ่ายเเละมอบให้กับปผู้ที่มากราบเเละทำบุญ ใครที่มารับตัว พ หลวงปู่จะประสิทธิ์ให้อย่างเสียงดังว่า พ่อจงมาโปรดลูกคนนี้ ให้เขากินอิ่มนอนหลับ พ่อจงมาโปรดลูกคนนี้ เขาจะเอาอะไร ก็ขอให้เขาได้สมปรารถนา พระเจ้าพ่อจงมาโปรดลูกคนนี้ พระเจ้าเเม่จงมาโปรดลูกคนนี้ พุทธเตเชนะ ธัมมะเตเชนะ สังฆะเตเชนะ ความใดอย่าให้ถูก ปติเสรามิ พุทธเมตตาจิต ธัมมะเมตตาจิต สังฆะเมตตาจิต นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู อิสวาสุ สุสวาอิ พุทธปิติอิ

    มรณภาพ
    หลวงปู่เย็นอาพาธด้วยโรคหอบเเละถึงลมโป่งพอง ระบบขับถ่ายไม่ปรกติ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเสมอ เข้ารับการรักษาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๓๙ ในความดูเเลของนายเเพทย์ประเจิด เเละเเพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลสิงห์บุรีเวชการ หลวงปู่มรณภาพโดยอาการสงบเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ เวลา ๑๓.๔๕ น. สิริรวมอายุได้ ๙๔ ปี ๒ เดือน ๑๑ วัน หลวงปู่ได้สั่งไว้ก่อนมรณภาพว่า ถ้าท่านตายให้เอาร่างท่านไปบรรจุไว้ที่เเท่นที่ท่านทำไว้ ลักษณะเป็นเเท่นเเบบฮวงซุ้ย หลวงปู่ได้ก่อปูนทำด้วยตัวท่านเอง อยู่ใกล้กุฎิที่ท่านสร้างไว้ที่วัดกลางชูศรี ปัจจุบัน สังขารหลวงปู่ ถูกบรรจุไว้ที่โลงเเก้ว อยู่ที่ศาลาเอนกประสงฆ์ของวัดสระเปรียญ
    [​IMG]


    มวลสารผงอิทธิเจ และผงแป้งเสกหลวงปู่เย็น เจ้าตำหรับ พ พาน ผงแป้งเสกหลวงปู่เย็นคือผงที่เสกสองคณาจารย์คือ หลวงปู่บุดดาและหลวงปู่เย็น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0705.JPG
      IMG_0705.JPG
      ขนาดไฟล์:
      181.5 KB
      เปิดดู:
      87
  17. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ตอนที่ 86 ผงหัวเชื้อที่เหลือจากการสร้างพระปิดตาปุ้มปุ้ยรุ่นแรก ครูบาสม โอภาโส

    [​IMG]

    นิยามของคำว่าเหนียว..( ข่าม )คงไม่ใครที่จะไม่รู้จักครูบาสม โอภาโส วัดศาลาโป่งกว๋าวไปอย่างแน่นอนเซียนพระสายเหนือคงรู้จักกันดีเพราะวัตถุมงคลของท่านได้สร้างอิทธิปาฎิหารย์ที่ปรากฎแก่สายตาของลูกศิษย์ เช่นครั้งหนึ่งครูบาสมท่านได้นำลูกระเบิดที่ชาวบ้านเก็บได้จากแถบชายแดนมาแกะเล่นโดยไม่ทราบว่าเป็นก้อนอะไร แล้วเกิดระเบิดขึ้นทำให้กุฎิพังราบเรียบ จีวรของท่านขาดเป็นชิ้นๆแต่ตัวท่านเองกลับไม่เป็นอะไรแม้แต่เล็กน้อย มิหนำซ้ำตัวท่านเองยังนั่งหัวเราะ อย่างสบายใจอีกกว่าวกันว่าวัตถุมงคลแทบทุกชิ้นที่ท่านสร้าง เช่น เหรียญรุ่นแรกปี๒๕๑๙ พระปิดตาปุ้มปุ้ย เหรียญรุ่นสองปี๒๕๒๙ โดยเฉพาะตะกรุดน้ำบ่อห่าง จะเด่นทางมหาอุต ( ปืนยิงไม่ออก )เป็นอย่างยิ่ง การทำตะกรุดน้ำบ่อห่างของครูบาสม ท่านจะทำในคืนเดือนมืดหรือคืนที่เกิดสุริยุปราคา โดยการจารขักระ สัง วิ สุ โล ปุ๊ อัด ด้วยภาษาล้านนาภายในบ่อน้ำร้างโบราณที่น้ำแห้งดินมูลขึ้นมา ( น้ำบ่อห่าง ) วิธีการลงให้ลงด้วยอึดใจเดียวแล้วปลุกด้วย นะบังดิน โมบังไฟ พุทบังลูก คะบ่ออก จากนั้นจึงเสกด้วยคาถา นะโมพุทธายะ พะทะนะมะ กะสะจะภะ เป็นอันเสร็จพิธีวัตถุมงคลที่ครูบาสมท่านได้สร้างกำลังเป็นที่ต้องการของนักสะสมพระเครื่องภาคเหนือเป็นอย่างยิ่งด้วยอิทธิปาฎิหารย์จึงทำให้ครูบาสม โอภาโสได้รับการยกย่องเป็น ตนบุญแห่งเมืองสะเมิง ของชาวเชียงใหม่ตลอดกาล


    [​IMG]

    [​IMG]


    ถ้าท่านไม่เก่งจริง คงไม่กล้าเสกทับพระรุ่นนึงที่ ลูกศิษย์นำมาของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มาให้ปลุกเสก หลายร้อยองค์หรอกครับ

    พระปิดตาปุ้มปุ้ยปัจจุบันราคาหลักหมื่น อันนี้หัวเชื้อของปิดตาที่สร้างตั้งแต่ปี 2517 ได้โดยตรงจากคนสร้าง ร่วมอนุโมทนาด้วย ผงดังต่อไปนี้คือ

    มวลสารในการสร้าง

    ๑. พระกรุพระรอด วัดมหาวัน , พระคง , พระเปิม

    ๒. ผงหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ

    ๓. ผงหลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม ( ผงใบลานสีดำ )

    ๔. ผงหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตตาราม

    ๕. ผงหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา

    ๖. เกศาครูบาขาวปี

    ๗. ผงครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง

    ๘. ผงครูบาอินสม สุมโน ( พร้าว )

    ๙. ผงครูบาน้อย วัดบ้านปง

    ๑๐. ผงหลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง

    ๑๑. ผงหลวงพ่อเกษม

    ๑๒. ผงครูบาสม โอภาโส ( สะเมิง )

    ไม่ต้องบรรยายนะครับ โดยเฉพาะสมัยนั้นพระรอด พระคงแตกหักราคาไม่เท่าไหร่ โดยเฉพาะพระคงหักให้กันฟรีๆ เพราะปี 40 พระคงสวยๆยังราคาอยู่ 5-700 อยู่เลย ถ้าสมัยนี้สร้างต้องใช้พระคงองค์เดียวเจือจาง 1000 เท่า ไม่ก็พระคงเก๊ไปเลย เพราะตอนนี้ราคาพระคงสถิติสูงสุดอยู่ที่ 1.3 ล้านบาทแล้ว

    ผงหลวงพ่อแดง นี้คือ ผงที่สร้างสมเด็จญาณวิลาศ ท่านประสงค์ เจิมพร นำเข้าพิธีตั้งแต่ปี 2480 ผ่านพิธีใหญ่ ประมาณ 100 พิธี เช่น พิธีวัดราชบพิธ พระกริ่งสังฆราชแพ ชินราชอินโดจีน พิธี 25 ศตวรรษ มาอย่างโชกโชน พูดไป
    เถอะครับ ยุคนั้นองค์ไหนก็เสกทั้งนั้น

    ผงเปล่าๆ แต่ถ้าครูบาสมเสกองค์เดียวก็เหลือกินแล้ว อันนี้ระดับสุดยอดทั้งนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0706.JPG
      IMG_0706.JPG
      ขนาดไฟล์:
      217.8 KB
      เปิดดู:
      94
  18. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ตอนที่ 87 ผงหัวเชื้อของสำนักวัดโพธิ์ผักไห่

    ท่านพระอาจารย์พิจารณ์ วัดโพธิ์ผักไห่ สำนักที่รวบรวมตำราและผงทางไสยศาสตร์มากอกแห่งหนึ่ง ท่านมอบให้มาเพื่อสร้างงานบุญงานกุศลครับ ตามที่ท่านเขียนมาให้ ผงรวมของท่านประกอบด้วยผงดังต่อไปนี้

    1. ผงที่บรรจุในองค์หลวงพอ่สัมฤทธิ์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ซึ่งมีจารึกว่าสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว เป็นประธานเบิกเนตร จึงเชื่อว่าเป็นผงรัตนมาลาของสมเด็จพระพนรัตน์

    2. ผงอิทธิเจ หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ จ.สิงห์บุรี

    3. ผงพุทธคุณพระครูโสภณสิริธรรม

    4. ผงอิทธเจ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

    5. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ

    6. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค

    7. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

    8. ผงอิทธิเจ หลวงปู่นาค วัดระฆัง

    9. ผงพุทธคุณ หลวงปู่อ่วม วัดไทร

    10. ผงพุทธคุณ หลวงปู่นาค วัดช่องลม

    11. ผงอิทธิเจ สมเด็จพุทธจารย์ โต พรหมรังสี

    12. ชันโรงใต้ดิน

    13. ผงนะลิเก ของครูดอกดิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0708.JPG
      IMG_0708.JPG
      ขนาดไฟล์:
      204.6 KB
      เปิดดู:
      80
  19. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    มวลสารที่อุดหลังล็อกเกตรุ่นนี้พอใช้ได้มั๊ยครับ ? เดี๋ยวครั้งหน้าจะเป็นรูปของอังคาร หลวงปุ่หล้า วัดบ้านนาเก็ง ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ลืมลงอีกก็คือ ผงหัวเชื้อของคณะ 5 วัดราชสิทธาราม รวมทั้งผงอิทธิเจ อายุ 200 ปีที่ตกค้างในหม้อทำผงอิทธิเจ ของสมเด็จพระสังฆราชสุกไก่เถื่อนด้วย
     
  20. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ที่ผมยังไม่บรรจุมวลสารหลังล็อกเกตตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะ

    1. ต้องการหามวลสารระหว่างการเดินทางไปด้วย

    2. กลัวว่าเมื่อบรรจุผงแล้ว ครูบาอาจารย์บางองค์ท่านจะเสกไม่เข้า
    จึงต้องนำทั้งผงและพระไปเสกพร้อมๆกัน

    เหมือนที่หลวงปู่เสน วัดป่าหนองแซง พระที่หลวงตามหาบัวก็ยังเคยกล่าวถึงในคุณธรรม ยังบอกว่า "นี่มันผงอะไรกัน ทำไมจิตเราเข้าไปไม่ได้เลย"
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...