เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

ไม่ว่าตำแหน่งหน้าที่การงานจะใหญ่หรือเล็ก ไม่ว่าเครื่องห่อหุ้มกายจะเป็นคนทั่วไปหรือนักบวช หรือสถานะทางสังคมจะสูงหรือต่ำเพียงใด
ก็ไม่มีอะไรจะวัดได้ถึงความจริงใจของคน คงมีเพียงเจตนาที่แสดงออกมาเท่านั้น ถึงแม้จะไม่มีเครื่องชั่งตวง แต่เราก็รับรู้ได้ด้วยใจ

บัดนี้...ศาลาของหลวงพ่ออภิชิโตก็ได้มอบถวายให้กับวัดทองไปเรียบร้อยแล้ว ทุกท่านสามารถเข้าไปสักการะได้ตามศรัทธาตั้งแต่ 07.00 – 17.00 ของทุกวัน และเชื่อแน่เหลือเกินว่า จะต้องมีคนบางกลุ่มมาอ้างสิทธิเป็นคนเก่าแก่หรือคนใกล้ชิด-เป็นศิษย์หลวงพ่อเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อชื่อเสียงความนิยมยกย่อง โดยที่คนเหล่านี้ไม่เคยช่วยเหลือ ไม่เคยสนใจว่าอะไรจะเป็นค่าใช้จ่ายของงานสร้างศาลาบ้าง ไม่เคยแม้แต่จะเยี่ยมหน้ามาดูงานก่อสร้างสักครั้งทั้งที่อยู่ใกล้ๆ แต่รับรองว่าคณะศิษย์ตัวจริงที่ดำเนินงานสร้างศาลานี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ศาลานี้หาผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม แม้วันหน้าหากจะเข้าไปสักการะ ก็จะไปในสถานะของคนทั่วๆไปที่นับถือท่านเท่านั้น หากท่านใดประสงค์จะทำบุญกับวัดทองฯหรือกับศาลาหลวงพ่ออภิชิโต ให้ไปบริจาคได้ที่กุฏิของท่านเจ้าคุณ(เจ้าอาวาส)เท่านั้น อย่าหลงทาง เพื่อเงินของท่านจะได้เกิดผลกับศาสนาอย่างแท้จริง

 

เป็นเหรียญกษาปณ์รุ่นใหม่ไม่ทันหลวงพ่อครับ เป็นของที่เจ้าอาวาสปั๊มมาเพื่อหารายได้สร้างกุฏิวัดครับ ด้านหลังจะมีตัวนูนของนกวายุภักษ์ ไม่ใช่เหรียญรุ่นแรกที่แพงไปหลายหมื่นแล้วในเวลานี้

 

เสียดายที่ไม่ได้รู้จักกันครับ ทุกท่านเหมือนเพื่อนพ้องน้องพี่ที่รู้จักกันมานานปี หนึ่งวันคงยังไม่พอหากต้องคุยกันจริงๆ

 

ขอบคุณครับ สมบัติผลัดกันครอง คงต้องขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านถึงจะถูกครับ เพราะผมเองก็คงไม่สามารถทำได้แบบนี้หากไม่มีแรงสนับสนุนอย่างที่ผ่านมา ขอบคุณทุกคนอีกครั้งครับ

 

มีผู้บูชาไปแล้ว ขอโทษด้วยครับ

 

ที่ประพรมนั้น ได้นำน้ำมนต์จันทร์เพ็ญของเก่าของท่าน ผสมกับน้ำมนต์ในอ่างที่ทำใหม่ในวันนี้ครับ

 

ขอให้เดินทางกลับโดยปลอดภัยนะครับ

 

ขอกราบขอบคุณ อ.จ หนุ่มและศิษย์ ล.ป อภิชิโต ที่ทำให้มีวันนี้เกิดขึ้น...ผมและญาติที่บินมาจากต่างจังหวัดเพื่องานนี้โดยเฉพาะจึงได้มีโอกาสมาร่วมบุญด้วย...เมื่อเสร็จพิธี เขาจึงได้เล่าสิ่งที่เขาได้เห็นในวันนี้ให้ผมทราบและเรื่องที่เกิดขึ้นที่ต่างจังหวัดสดๆร้อนๆ...ตอนฟังก็ขนลุกทั้งตัว เป็นบุญของผู้ที่มาร่วมงานจริงๆ...ต้องขอตัวไปส่่งเขากลับบ้านต่างจังหวัดก่อน..ขอบคุณอีกครั้ง

 

และแล้ว วัดนี้ก็ได้เห็นพี่หนุ่มตัวเป็นๆ
หนุ่มและหล่อกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ

ได้พบเพื่อนๆ, พี่ๆ ตัวจริงเสียงจริง
แต่ละคนดูเสี่ยๆ ป๋ามากๆ
ถ้าไม่มีงานวันนี้คนอย่างผม คงไม่มีโอกาส ได้พบ ได้คุย
เนื่องจากหัวโขนที่สวม และ สิ่งแวดล้อม ที่ไม่มีโอกาส ได้เจอกัน

ได้เห็นศรัทธาของคณะบุคคลที่นับถือหลวงพ่อ
คนมากันเยอะมาก,มาจากที่ไกลๆ

ขนาดน้ำมนต์ ในศาลารูปเหมือน ยังไม่เหลือ..
เพื่อนๆ มีน้ำใจให้กันมาก
ขอบคุณพี่พรหมรักษา สำหรับน้ำลำใยที่ยกมาให้ 1 แก้ว

ขอบคุณพี่หนุ่มที่
ทำให้พวกเราได้มีโอกาส ได้เข้าร่วมงานนี้

วันนี้ตอนหลังงานเลิก ยืนคุยกันจนขาแข็ง 555

 

หลังจากที่ได้รับการ พรมน้ำมนต์ตั้งแต่เช้า จนถึงเวลานี้ ยังรู้สึกได้ถึงอนุภาพของพลังงานบางอย่าง ที่อยู่ในน้ำมนต์ มันทำให้รู้สึกมีพลังงานความร้อนแผ่อยู่ไปทั่ว
ทั้งร่างกายอยู่ตลอดเวลา แรงสุดยอดจริงๆครับ
และไม่ทราบว่า น้ำมนต์ที่จัดทำขึ้นมาใหม่ที่ได้รับกลับบ้านนั้น จะมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างครับ ถามด้วยความเคารพครับ เพื่อการเรียนรู้ครับ ขอบคุณครับ

 

ไม่ได้คุยกันเลย เสียดายจริงๆครับ อย่าลืมบอกเล่าในสิ่งที่เพื่อนๆไม่มีโอกาสได้ยิน ได้เห็น จะเป็นการสร้างกุศลศรัทธาอีกอย่างหนึ่งต่อผู้มีใจบุญใจกุศลด้วยกัน และยังมีแขกจากแดนไกลสองท่านบอกผมว่า ภายในศาลา เขาเห็นว่ามีหลวงพ่อและครูอาจารย์ที่เขาไม่รู้จักเลย นั่งอยู่ด้วยและไม่ใช่รูปหล่อท่าน ผมก็ไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็คงจะใช่อย่างคนสมาธิดีๆจิตละเอียดบอกมา เพราะหลวงพ่อท่านก็บอกว่า งานนี้จะลงมาเต็มๆเพื่อศิษย์รุ่นหลังชุดนี้สักครั้ง และผู้จัดงานก็ได้อัญเชิญมาทั้งหมดที่เป็นอริยะในแดนโลกุตระ

 

ในโถใบใหญ่หน้ารูปท่านวันนี้ ผสมด้วยน้ำมนต์เก่าของท่านเมื่อ 25ปีก่อนด้วยครับ แต่ในขวดเล็กๆที่กรอกไว้ก่อนหน้านั้น เป็นที่สุดของน้ำมนต์ครับ น้ำเป็นเพียงสื่อรองรับพลังมนตราของทิพย์อำนาจไว้ชั่วคราว การใช้ต้องทำจิตให้นิ่งและจิตถึงท่านให้มากที่สุด จะมีผลเต็มที่มากที่สุดครับ (มีบทวิเคราะห์ของ รพ.จุฬาฯเรื่องโมเลกุลของน้ำมนต์จากพระเกจิ น่าสนใจหามาอ่านครับ)

 

หากปลดหัวโขนออกแล้ว ทุกคนเท่าเทียมกันครับ
ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกันในวันนี้ แม้ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีโอกาสพบเจอกันอีก แต่หลายๆอย่างจะประทับอยู่ในใจตลอดไปครับ

 

ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ ขณะนั่่งฟังพระท่านสวดมนต์ในพิธีวันนี้ครับ
ขณะนั่งหลับตาอยู่นั้น ก็เห็นทั่วทั้ง บริเวณถูกปกคลุมไปด้วย แสงเหลืองทองครับ ก็นึกอยู่ในใจว่าเป็นแสงของอะไรนะ
จนได้รับหนังสือสวดมนต์ ก็ถึงบางอ้อ ครับ แสงที่เห็น เหมือนสีจีวรของท่านอาจารย์ที่ใส่อยู่เลยครับ เป็นรูปของท่าน ที่อยู่หน้าท้ายๆ ของหนังสือครับ (ให้พูดตามความรู็สึกส่วนตัวนะครับ น่าจะเป็น รัศมี หรือ ออร่า ประจำกาย ท่าน)
เล่าสู่กันฟังครับ

 

เมื่อเช้าไปเกือบไม่ทันคนเยอะมาก ดีเอามอไซไปเลยหาที่จอดง่าย
ตอนนั่งก็พยายามมองหาว่าคนไหนพี่หนุ่ม ตอนแรกคิดคนใส่เสื้อสีขาวผมยาวไว้หนวด
แต่ดูไปดูมาไม่น่าจะใช่ สรุปก็เลยไม่ทราบเลยว่าพี่หนุ่มคนไหน 55555
เห็นพิธีแล้วความรู้สึกปลื้มใจแทนพี่หนุ่มที่คนมาเยอะกันขนาดนี้
ได้ไปต่อแถวบูชารูปเหมือนสีกับผ้ายันมา 1 ชุด

พี่หนุ่มครับผ้ายันของหลวงปู่ดู่นี้มีประวัติการปลุกรึป่าวครับ

 

ผมก็มองๆอยู่เช่นกันครับว่า ยังไม่เจอกันเลย สงสัยคงจะมาไม่ทัน แต่ยินดีด้วยครับที่มาทันพิธีสวดเพราะจะมีผลต่อชีวิตตนเองจากพิธีนี้ ผ้ายันต์ชุดนั้น เพื่อนๆทำมาแจกโดยเฉพาะและแบ่งให้ผมมาส่วนหนึ่ง เคยนำไปเข้าพิธีปลุกเสกมาแล้ว 18พิธีเมื่อสองปีก่อนครับ คราวหน้าหากเจอคนอ้วนๆตัวดำเตี้ยๆแก่ๆ นั่นแหละมีเค้าลางของผมครับ

 

ก็ว่าจะเข้าไปยกมือไหว้ทักทายคนเตี้ยๆดำๆอ้วนๆอยู่เหมือนกันครับ คิดในใจว่าพี่หนุ่มน่าจะรูปร่างหน้าตาแบบนี้แน่นอน
ที่ไหนได้ ดันหล่อกว่าผมอีก เซ็งเลย 5555
กำลังเดินทางกลับขอนแก่นครับ ออกจากหมอชิตบ่ายสาม อีกประมาณ 20 กว่าโลก็ถึงบ้านแล้วครับ
ขอบพระคุณพี่หนุ่มมากครับ ที่ทำให้ฝันผมเป็นจริง ได้ถวายผลไม้จากสวนผมเองต่อหน้าหลวงพ่อ
ได้ขอพรจากหลวงพ่อ ในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ลูกศิษย์ลูกหา เจนเนอเรชั่นใหม่เพียบเลยวันนี้ เกินคาดเดาครับ

 

ภาพพระเครื่องด้านหลังของหนังสือสวดมนต์เล่มที่แจกไปแล้วนั้น ทุกภาพได้รับการตรวจสอบจากคนที่อยู่ในการสร้างของปี29 และศิษย์เก่าๆยุคนั้นอีกสามท่านว่าแท้และสวยสมบูรณ์จริง เป็นคนที่เก็บไว้จากพระมหาเหลื่อมตั้งแต่ต้นพิมพ์ละเป็นร้อยๆองค์และมีทุกเนื้อทุกประเภท ทุกชิ้นที่ลงถือเป็นมาตรฐานในการเช่าบูชาได้ในวันหน้า และแทบทุกองค์มีที่มาพิเศษไม่ธรรมดาทั้งสิ้น ล้วนเคยเป็นพระในครอบครองของศิษย์ระดับอาวุโสหรือลูกหลานของท่านจริงๆแบบที่เขาคัดเก็บไว้เพื่อคนรุ่นต่อๆไป คนทำงานที่จะใช้เป็นบรรทัดฐานได้ในวันหน้าแบบนี้ต้องไม่พลาดตายน้ำตื้นแน่นอน

 

ได้ยินพระที่วัดประกาศตามหาเจ้าของอยู่เหมือนกันครับ

 

กระท้อนหวานนุ่มอร่อยมากครับ ที่ใส่ในพานถวายหลวงพ่ออภิชิโตนั้น ไม่เหลือเช่นกัน วันหน้าต้องสามเข่งแล้วครับ อร่อยจริงๆ ขอบคุณอีกครั้ง รวมทั้งเพื่อนๆที่นำน้ำลำใยมาช่วยงาน ขอให้เจริญรุ่งเรือง ไม่อดไม่อยาก ร่ำรวยตลอดไปนะครับ