เชิญชมสุดยอดวัตถุมงคล หลายพระคณาจารย์ครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ขุนพลาย, 27 ตุลาคม 2009.

  1. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    พระปิดตามหาอุตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหานิยม รุ่นทอง ๙๓ เนื้อชินตะกั่ว หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี
    พระเกจิอาจารย์ดังร่วมสมัยกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ และพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมกันสร้างและพุทธาภิเษกหลวงปู่ทวดรุ่นแรก ปี 2497 จนเป็นที่เลื่องลือด้านอภินิหารตราบเท่าทุกวันนี้

    พระปิดตมหาอุตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหานิยม รุ่นทอง ๙๓ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี้ พุทธศาสตร์และพุทธศิลป์ทางภาคใต้ตอนล่างที่คงความศักดิ์สิทธิ์และงดงามยิ่ง มีประสบการณ์ ทหารชายแดนใต้ทราบกันดี เพราะนิมนต์ไปทดลองดูแล้ว
    ประสบการณ์ที่ 1 หลังจากที่เข้าพิธีครั้งแรก ได้นำไปทดลองด้วยการตั้งเป้ายิงกระสุนพลาดทุกนัด
    ประสบการณ์ที่ 2 ได้นำพระปิดตามหาอุตม์กับผ้ายันต์ใส่ไว้ใต้ท้องเครื่องบินบังคับด้วยวิทยุ ให้บินอยู่ในพิกัดในวิถีที่พลทหารปืนล็อกเป้าเตรียมยิงจรวดนำวิถี โดยทหารทดสอบยิงจรวดนำวิถีแต่พลาดเป้าและไม่ระเบิด ผู้คนในพื้นที่ทราบกันดีจึงตามเก็บพระปิดตารุ่นนี้กันอย่างมากมาย พระปิดตารุ่นนี้จึงไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบ่อยครับ

    พิธีปลุกเสกวาระที่ 1 พิธีเททองหล่อนำฤกษ์ ตรงกับวันเสาร์ ที่ 20 มีนาคม 2553 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล ธาตุทอง ฤกษ์ขลังสุดๆ ในรอบ 100 ปี การจัดงานครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากพระศีลมงคล (หลวงปู่ทอง) เจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย จังหวัดปัตตานี โดยท่านมอบให้ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีเททองหล่อนำฤกษ์ พร้อมพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สวดชยันโต 9 รูป โดยมีพลเอกรัชกฤต กาญจนวัฒน์ เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
    พิธีปลุกเสกวาระที่ 2 เมื่อวันอังคาร ที่ 22 มิถุนายน 2553 ขึ้น 11 ค่ำเดือน 8 ปีขาล ภายในพระอุโบสถวัดสำเภยเชย จ.ปัตตานี โดยมีพระอาจารย์ทอง เป็นผู้จุดเทียนชัยพร้อมนั่งปรกในพิธีพุทธาภิเษก ร่วมกับพระเกจิดังสายใต้ และครูบาอริยชาติ เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย ร่วมนั่งปรกปลุกเสกด้วย จนถึงเวลาตี 4 ของวันรุ่งขึ้น
    พิธีปลุกเสกวาระ 3 เมื่อวันอังคาร ที่ 24 สิงหาคม 2553 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 9 ปีขาล ณ วัดพะโคะ จ.สงขลา ในพิธีปลุกเสกได้อัญเชิญลูกแก้ววิเศษของหลวงปู่ทวดเข้าร่วมพิธีด้วย โดยมีพระเกจิอาจารย์ดังที่เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก ดังนี้.-
    1. พระธรรมวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง วัดคูหาสวรรค์
    2. พระเทพวีราภรณ์ (หลวงพ่อนิมิต) เจ้าคณะภาค 18 วัดโคกสมานคุณ
    3. พระเทพพิพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุราษฏร์ธานี วัดท่าไทร
    4. พระราชพิพัฒนาภรณ์ (หลวงพ่อผัน) รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา วัดทรายขาว
    5. หลวงพ่อนวล วัดไสหร้า
    6. หลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ
    7. หลวงพ่อเอียด วัดโคกแย้ม
    8. พระครูพิเศษเขมาจารย์ (พ่อท่านท้วม) วัดศรีสุวรรณ จ.สุราษฏร์ธานี
    9. หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง
    10. หลวงพ่อหรีด วัดป่าโมก จ.พังงา
    11. หลวงพ่อประสูติ วัดในเตา
    12. หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน
    13. หลวงพ่อแดง วัดบ้านไร่
    14. หลวงพ่อเงิน วัดโพรงงู
    15. หลวงพ่อภัทร
    16. หลวงพ่อประพัฒน์ วัดป่าพยอม
    17. หลวงพ่อชัย วัดพะโคะ
    18. หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง
    19. หลวงพ่อเหวียน วัดพิกุลทอง
    20. หลวงพ่อเสถียร วัดโคกโดน
    21. หลวงพ่อปัญญาสาร วัดนิคมพัฒนาราม
    22. หลวงพ่อสิริ วัดบ้านสวน
    23. ท่านมหาภูษิต วัดศรีมหาโพธิ์

    มีพระเจริญพระพุทธมนต์อีก 9 รูป และมีพระมหานาคอีก 4 รูป จุดเทียนชัยโดยหลวงพ่อนวล วัดไสหร้า ดับเทียนชัยโดยหลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ เป็นพิธีที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปี ของวัดพระโคะ มีพระเกจิอาจารย์ดังมาร่วมพิธีปลุกเสกมากมาย สายเขาอ้อมาเกือบทุกรูป พระเกจิสายใต้ชั้นแถวหน้าของภาคใต้ทั้งนั้น
    พระอาจารย์ทอง ได้กล่าวถึงพระรุ่น “ทอง ๙๓” นี้ว่า “พระชุดนี้เป็นพระที่มีพุทธคุณสูง ดีครอบจักรวาล เพราะหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ทวดหนอน และหลวงปู่ทวดสิทธิชัย มาร่วมปลุกเสกด้วย พวกสูไม่ต้องกลัว เมื่อผ่านพิธีนี้ไปแล้ว จะมีคนต้องการและมาเช่ากันเยอะ ขอให้เตรียมการให้เรียบร้อย”
    พระปิดตามหาอุตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหานิยม รุ่นทอง ๙๓ เนื้อชินตะกั่ว ลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี ปลุกเสก 3 วาระ จัดสร้างปี พ.ศ.2553 จำนวน 993 องค์ ขนาดความสูง 3.0 ซ.ม. ตอกโค๊ดและมีหมายเลขกำกับทุกองค์
    บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.60.-บาท
    กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03815.JPG
      DSC03815.JPG
      ขนาดไฟล์:
      76.9 KB
      เปิดดู:
      123
    • DSC03816.JPG
      DSC03816.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      100
    • DSC03817.JPG
      DSC03817.JPG
      ขนาดไฟล์:
      53.2 KB
      เปิดดู:
      121
    • DSC03818.JPG
      DSC03818.JPG
      ขนาดไฟล์:
      53.6 KB
      เปิดดู:
      82
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2017
  2. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    พระปิดตามหาอุตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหานิยม รุ่นทอง ๙๓ เนื้อนวะโลหะ หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี
    พระเกจิอาจารย์ดังร่วมสมัยกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ และพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมกันสร้างและพุทธาภิเษกหลวงปู่ทวดรุ่นแรก ปี 2497 จนเป็นที่เลื่องลือด้านอภินิหารตราบเท่าทุกวันนี้

    พระปิดตมหาอุตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหานิยม รุ่นทอง ๙๓ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี้ พุทธศาสตร์และพุทธศิลป์ทางภาคใต้ตอนล่างที่คงความศักดิ์สิทธิ์และงดงามยิ่ง มีประสบการณ์ ทหารชายแดนใต้ทราบกันดี เพราะนิมนต์ไปทดลองดูแล้ว
    ประสบการณ์ที่ 1 หลังจากที่เข้าพิธีครั้งแรก ได้นำไปทดลองด้วยการตั้งเป้ายิงกระสุนพลาดทุกนัด
    ประสบการณ์ที่ 2 ได้นำพระปิดตามหาอุตม์กับผ้ายันต์ใส่ไว้ใต้ท้องเครื่องบินบังคับด้วยวิทยุ ให้บินอยู่ในพิกัดในวิถีที่พลทหารปืนล็อกเป้าเตรียมยิงจรวดนำวิถี โดยทหารทดสอบยิงจรวดนำวิถีแต่พลาดเป้าและไม่ระเบิด ผู้คนในพื้นที่ทราบกันดีจึงตามเก็บพระปิดตารุ่นนี้กันอย่างมากมาย พระปิดตารุ่นนี้จึงไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบ่อยครับ

    พิธีปลุกเสกวาระที่ 1 พิธีเททองหล่อนำฤกษ์ ตรงกับวันเสาร์ ที่ 20 มีนาคม 2553 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล ธาตุทอง ฤกษ์ขลังสุดๆ ในรอบ 100 ปี การจัดงานครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากพระศีลมงคล (หลวงปู่ทอง) เจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย จังหวัดปัตตานี โดยท่านมอบให้ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีเททองหล่อนำฤกษ์ พร้อมพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สวดชยันโต 9 รูป โดยมีพลเอกรัชกฤต กาญจนวัฒน์ เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
    พิธีปลุกเสกวาระที่ 2 เมื่อวันอังคาร ที่ 22 มิถุนายน 2553 ขึ้น 11 ค่ำเดือน 8 ปีขาล ภายในพระอุโบสถวัดสำเภยเชย จ.ปัตตานี โดยมีพระอาจารย์ทอง เป็นผู้จุดเทียนชัยพร้อมนั่งปรกในพิธีพุทธาภิเษก ร่วมกับพระเกจิดังสายใต้ และครูบาอริยชาติ เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย ร่วมนั่งปรกปลุกเสกด้วย จนถึงเวลาตี 4 ของวันรุ่งขึ้น
    พิธีปลุกเสกวาระ 3 เมื่อวันอังคาร ที่ 24 สิงหาคม 2553 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 9 ปีขาล ณ วัดพะโคะ จ.สงขลา ในพิธีปลุกเสกได้อัญเชิญลูกแก้ววิเศษของหลวงปู่ทวดเข้าร่วมพิธีด้วย โดยมีพระเกจิอาจารย์ดังที่เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก ดังนี้.-
    1. พระธรรมวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง วัดคูหาสวรรค์
    2. พระเทพวีราภรณ์ (หลวงพ่อนิมิต) เจ้าคณะภาค 18 วัดโคกสมานคุณ
    3. พระเทพพิพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุราษฏร์ธานี วัดท่าไทร
    4. พระราชพิพัฒนาภรณ์ (หลวงพ่อผัน) รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา วัดทรายขาว
    5. หลวงพ่อนวล วัดไสหร้า
    6. หลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ
    7. หลวงพ่อเอียด วัดโคกแย้ม
    8. พระครูพิเศษเขมาจารย์ (พ่อท่านท้วม) วัดศรีสุวรรณ จ.สุราษฏร์ธานี
    9. หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง
    10. หลวงพ่อหรีด วัดป่าโมก จ.พังงา
    11. หลวงพ่อประสูติ วัดในเตา
    12. หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน
    13. หลวงพ่อแดง วัดบ้านไร่
    14. หลวงพ่อเงิน วัดโพรงงู
    15. หลวงพ่อภัทร
    16. หลวงพ่อประพัฒน์ วัดป่าพยอม
    17. หลวงพ่อชัย วัดพะโคะ
    18. หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง
    19. หลวงพ่อเหวียน วัดพิกุลทอง
    20. หลวงพ่อเสถียร วัดโคกโดน
    21. หลวงพ่อปัญญาสาร วัดนิคมพัฒนาราม
    22. หลวงพ่อสิริ วัดบ้านสวน
    23. ท่านมหาภูษิต วัดศรีมหาโพธิ์

    มีพระเจริญพระพุทธมนต์อีก 9 รูป และมีพระมหานาคอีก 4 รูป จุดเทียนชัยโดยหลวงพ่อนวล วัดไสหร้า ดับเทียนชัยโดยหลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ เป็นพิธีที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปี ของวัดพระโคะ มีพระเกจิอาจารย์ดังมาร่วมพิธีปลุกเสกมากมาย สายเขาอ้อมาเกือบทุกรูป พระเกจิสายใต้ชั้นแถวหน้าของภาคใต้ทั้งนั้น
    พระอาจารย์ทอง ได้กล่าวถึงพระรุ่น “ทอง ๙๓” นี้ว่า “พระชุดนี้เป็นพระที่มีพุทธคุณสูง ดีครอบจักรวาล เพราะหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ทวดหนอน และหลวงปู่ทวดสิทธิชัย มาร่วมปลุกเสกด้วย พวกสูไม่ต้องกลัว เมื่อผ่านพิธีนี้ไปแล้ว จะมีคนต้องการและมาเช่ากันเยอะ ขอให้เตรียมการให้เรียบร้อย”
    พระปิดตามหาอุตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหานิยม รุ่นทอง ๙๓ เนื้อนวะโลหะ หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี ปลุกเสก 3 วาระ จัดสร้างปี พ.ศ.2553 จำนวน 993 องค์ ขนาดความสูง 3.0 ซ.ม. ตอกโค๊ดและมีหมายเลขกำกับทุกองค์
    บูชา 2,500.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.60.-บาท
    กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03811.JPG
      DSC03811.JPG
      ขนาดไฟล์:
      70.1 KB
      เปิดดู:
      74
    • DSC03812.JPG
      DSC03812.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57.3 KB
      เปิดดู:
      93
    • DSC03813.JPG
      DSC03813.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57.9 KB
      เปิดดู:
      108
    • DSC03814.JPG
      DSC03814.JPG
      ขนาดไฟล์:
      48.1 KB
      เปิดดู:
      68
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2017
  3. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    พระปิดตามหาอุตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหานิยม รุ่นทอง ๙๓ เนื้อเมฆพัตร หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี
    พระเกจิอาจารย์ดังร่วมสมัยกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ และพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมกันสร้างและพุทธาภิเษกหลวงปู่ทวดรุ่นแรก ปี 2497 จนเป็นที่เลื่องลือด้านอภินิหารตราบเท่าทุกวันนี้

    พระปิดตมหาอุตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหานิยม รุ่นทอง ๙๓ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี้ พุทธศาสตร์และพุทธศิลป์ทางภาคใต้ตอนล่างที่คงความศักดิ์สิทธิ์และงดงามยิ่ง มีประสบการณ์ ทหารชายแดนใต้ทราบกันดี เพราะนิมนต์ไปทดลองดูแล้ว
    ประสบการณ์ที่ 1 หลังจากที่เข้าพิธีครั้งแรก ได้นำไปทดลองด้วยการตั้งเป้ายิงกระสุนพลาดทุกนัด
    ประสบการณ์ที่ 2 ได้นำพระปิดตามหาอุตม์กับผ้ายันต์ใส่ไว้ใต้ท้องเครื่องบินบังคับด้วยวิทยุ ให้บินอยู่ในพิกัดในวิถีที่พลทหารปืนล็อกเป้าเตรียมยิงจรวดนำวิถี โดยทหารทดสอบยิงจรวดนำวิถีแต่พลาดเป้าและไม่ระเบิด ผู้คนในพื้นที่ทราบกันดีจึงตามเก็บพระปิดตารุ่นนี้กันอย่างมากมาย พระปิดตารุ่นนี้จึงไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบ่อยครับ

    พิธีปลุกเสกวาระที่ 1 พิธีเททองหล่อนำฤกษ์ ตรงกับวันเสาร์ ที่ 20 มีนาคม 2553 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล ธาตุทอง ฤกษ์ขลังสุดๆ ในรอบ 100 ปี การจัดงานครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากพระศีลมงคล (หลวงปู่ทอง) เจ้าอาวาสวัดสำเภาเชย จังหวัดปัตตานี โดยท่านมอบให้ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีเททองหล่อนำฤกษ์ พร้อมพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สวดชยันโต 9 รูป โดยมีพลเอกรัชกฤต กาญจนวัฒน์ เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
    พิธีปลุกเสกวาระที่ 2 เมื่อวันอังคาร ที่ 22 มิถุนายน 2553 ขึ้น 11 ค่ำเดือน 8 ปีขาล ภายในพระอุโบสถวัดสำเภยเชย จ.ปัตตานี โดยมีพระอาจารย์ทอง เป็นผู้จุดเทียนชัยพร้อมนั่งปรกในพิธีพุทธาภิเษก ร่วมกับพระเกจิดังสายใต้ และครูบาอริยชาติ เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย ร่วมนั่งปรกปลุกเสกด้วย จนถึงเวลาตี 4 ของวันรุ่งขึ้น
    พิธีปลุกเสกวาระ 3 เมื่อวันอังคาร ที่ 24 สิงหาคม 2553 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 9 ปีขาล ณ วัดพะโคะ จ.สงขลา ในพิธีปลุกเสกได้อัญเชิญลูกแก้ววิเศษของหลวงปู่ทวดเข้าร่วมพิธีด้วย โดยมีพระเกจิอาจารย์ดังที่เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก ดังนี้.-
    1. พระธรรมวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง วัดคูหาสวรรค์
    2. พระเทพวีราภรณ์ (หลวงพ่อนิมิต) เจ้าคณะภาค 18 วัดโคกสมานคุณ
    3. พระเทพพิพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสุราษฏร์ธานี วัดท่าไทร
    4. พระราชพิพัฒนาภรณ์ (หลวงพ่อผัน) รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา วัดทรายขาว
    5. หลวงพ่อนวล วัดไสหร้า
    6. หลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ
    7. หลวงพ่อเอียด วัดโคกแย้ม
    8. พระครูพิเศษเขมาจารย์ (พ่อท่านท้วม) วัดศรีสุวรรณ จ.สุราษฏร์ธานี
    9. หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง
    10. หลวงพ่อหรีด วัดป่าโมก จ.พังงา
    11. หลวงพ่อประสูติ วัดในเตา
    12. หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน
    13. หลวงพ่อแดง วัดบ้านไร่
    14. หลวงพ่อเงิน วัดโพรงงู
    15. หลวงพ่อภัทร
    16. หลวงพ่อประพัฒน์ วัดป่าพยอม
    17. หลวงพ่อชัย วัดพะโคะ
    18. หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง
    19. หลวงพ่อเหวียน วัดพิกุลทอง
    20. หลวงพ่อเสถียร วัดโคกโดน
    21. หลวงพ่อปัญญาสาร วัดนิคมพัฒนาราม
    22. หลวงพ่อสิริ วัดบ้านสวน
    23. ท่านมหาภูษิต วัดศรีมหาโพธิ์

    มีพระเจริญพระพุทธมนต์อีก 9 รูป และมีพระมหานาคอีก 4 รูป จุดเทียนชัยโดยหลวงพ่อนวล วัดไสหร้า ดับเทียนชัยโดยหลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ เป็นพิธีที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปี ของวัดพระโคะ มีพระเกจิอาจารย์ดังมาร่วมพิธีปลุกเสกมากมาย สายเขาอ้อมาเกือบทุกรูป พระเกจิสายใต้ชั้นแถวหน้าของภาคใต้ทั้งนั้น
    พระอาจารย์ทอง ได้กล่าวถึงพระรุ่น “ทอง ๙๓” นี้ว่า “พระชุดนี้เป็นพระที่มีพุทธคุณสูง ดีครอบจักรวาล เพราะหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ทวดหนอน และหลวงปู่ทวดสิทธิชัย มาร่วมปลุกเสกด้วย พวกสูไม่ต้องกลัว เมื่อผ่านพิธีนี้ไปแล้ว จะมีคนต้องการและมาเช่ากันเยอะ ขอให้เตรียมการให้เรียบร้อย”
    พระปิดตามหาอุตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ มหานิยม รุ่นทอง ๙๓ เนื้อเมฆพัตร หลวงปู่ทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี ปลุกเสก 3 วาระ จัดสร้างปี พ.ศ.2553 จำนวน 993 องค์ ขนาดความสูง 3.0 ซ.ม. ตอกโค๊ดและมีหมายเลขกำกับทุกองค์
    บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.60.-บาท
    กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03820.JPG
      DSC03820.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.7 KB
      เปิดดู:
      83
    • DSC03821.JPG
      DSC03821.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.5 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSC03823.JPG
      DSC03823.JPG
      ขนาดไฟล์:
      40.9 KB
      เปิดดู:
      50
    • DSC03821.JPG
      DSC03821.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.5 KB
      เปิดดู:
      31
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2017
  4. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    พระปิดตามหาลาภ เนื้อเงิน หลวงปู่ไข่วาจาสิทธิ์ วัดลำนาว จ.นครศรีธรรมราช

    เมื่อสมัยที่พ่อท่านคลายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช พระอริยสงฆ์แห่งปักษ์ใต้ยังครองสังขารอยู่ ได้มีชาวบ้าน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราชไปกราบท่านอยู่เป็นประจำ พ่อท่านคล้ายจะบอกให้ทราบว่า บัดนี้ที่บางขันได้มีไก่ขันหลอแหลขึ้นมาแล้วให้ไปกราบไหว้ท่านเสีย เพราะเป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์ที่กราบไหว้ได้สนิทใจ พระบริสุทธิ์สงฆ์ที่พ่อท่านคล้ายพูดถึงนั้น ท่านหมายถึงพ่อท่านไข่ แห่งวัดลำนาว นั่นเอง ด้วยเหตุที่พ่อท่านไข่ท่านเป็นพระที่มีความยึดมั่นในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีศีล สมาธิ ปัญญา มีความสะอาดหมดจดทั้งกายวาจาใจ มีปฏิปทาอันน่าเคารพศรัทธาเลื่อมใส ไม่ว่าท่านจะกล่าวอะไรก็จะเป็นไปตามคำที่ท่านกล่าวเสมอ จนเป็นที่เลื่องลือกล่าวขานกันว่า "พ่อท่านไข่ วาจาสิทธิ์"

    พ่อท่านไข่ วาจาสิทธิ์ ท่านมีสมณศักดิ์ที่พระครูศีลมงคล ฉายา นาถสีโล อายุ ๙๑ ปี ท่านบวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ ๑๕ ปี และอุปสมบทเป็นพระเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ อุโบสถวัดชัยชุมพล อ.ทุ่งสง โดยมี พระครูอุดมศีลาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงพ่อไข่ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย ฝึกสมาธิกรรมฐาน กับครูบาอาจารย์หลายต่อหลายท่านจนหลวงพ่อไข่มีความเชี่ยวชาญแตกฉานในวิชาแขนงต่างๆ รวมทั้ง
    พระคาถาอาคมขลัง ต่อมาพ่อท่านไข่ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งสร้าน วัดวังขรี วัดทุ่งควาย และสุดท้ายท่านได้รับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาส วัดลำนาว เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ มาจนถึงปัจจุบัน
    พ่อท่านไข่ ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำวัตรปฏิบัติไม่เคยขาด เจริญกรรมฐานเป็นอารมณ์ ท่านสวดพระคาถาชินบัญชรเป็นนิจ ตั้งแต่สมัยที่ท่านอุปสมบทใหม่ๆ จนถึงปัจจุบัน ทั้งยังเป็นพระที่รักสันโดษ มักน้อย สมถะ ไม่ยืดติดในลาภยศใดๆ ทั้งสิ้น สมกับเป็นพระแท้ พระบริสุทธิ์สงฆ์ อันแท้จริงของชาวใต้ และเป็นหลักชัยของ อ.บางขัน ตลอดมา ในแต่ละวัน พ่อท่านไข่ วัดลำนาว ท่านจะรับแขกเพียงหนึ่งหรือสองเวลาเท่านั้น ส่วนใหญ่ชาวบ้านที่ไปหาท่านก็เพื่อขอพรจากท่าน เพราะต่างก็เชื่อกันว่า พรที่ได้จากท่านนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก และจะเป็นไปตามวาจาสิทธิ์ของท่านเสมอ
    พระเครื่องและวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังของพ่อท่านไข่ วัดลำนาว ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์สูงยิ่งเป็นที่ยอมรับจากลูกศิษย์ที่เคารพนับถือทั่วประเทศ ทหาร 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็มีประสบการณ์จากพระเครื่องเครื่องรางของขลังของท่านมากมาย โดยเฉพาะด้านคงกระพันมหาอุดไม่ธรรมดาครับ
    "พระปิดตามหาลาภ เนื้อเงิน" หลวงปู่ไข่ วาจาสิทธิ์ วัดลำนาว อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว จัดสร้างเพียง 199 องค์เท่านั้น มีหมายเลขและโค๊ดกำกับ ขนาดความสูงประมาณ 2 ซ.ม.ครับ
    บูชา 2,500.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.60.-บาท

    กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04094.JPG
      DSC04094.JPG
      ขนาดไฟล์:
      58.9 KB
      เปิดดู:
      36
    • DSC04095.JPG
      DSC04095.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.3 KB
      เปิดดู:
      26
    • DSC04096.JPG
      DSC04096.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.6 KB
      เปิดดู:
      27
    • DSC04097.JPG
      DSC04097.JPG
      ขนาดไฟล์:
      70.5 KB
      เปิดดู:
      22
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2017
  5. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    รูปเหมือนปั๊มมหาเทพกวนอู เนื้อทองแดง รุ่นสร้างหอระฆัง หลวงพ่อเพชร วัดบ้านกรับ
    รูปเหมือนปั๊มมหาเทพกวนอู หลวงพ่อเพชร จนฺทวํโส วัดบ้านกรับ ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เป็นปางบู๊ที่หลายคนนำไปห้อยคอแล้ว บอกว่ามีประสบการณ์โดดเด่นทางด้านการคุ้มครองป้องกันและเกื้อกูลให้ประสบความสำเร็จโดยเฉพาะเรื่องการค้าขาย เพราะคนจีนโพ้นทะเลที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีส่วนใหญ่เป็นคนที่ศรัทธาและปฏิบัติตามมหาเทวานุวัตรของมหาเทพกวนอู มหาเทพกวนอูเป็นนับรบที่ยิ่งใหญ่และมีพลังจิตที่เข้มแข็งห้าวหาญมาก
    หลวงพ่อเพชร จนฺทวํโส เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีพลังจิตแรงกล้าเปี่ยมด้วยบุญฤทธิ์ ได้ปลุกเสกตามเคล็ดวิชาสิงห์โตน้ำตาลทรายที่ท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อแก้ว วัดหัวนา เคล็ดวิชานี้เป็นเคล็ดลับที่ทำให้ท่านสามารถเสกวัตถุมงคลในรูปมหาเทพกวนอูได้เข้มขลังยิ่งนัก และมีประสบการณ์เกิดขึ้นแล้ว โดยลูกศิษย์หลวงพ่อท่านหนึ่งใจ จ.กาญจนบุรี ได้นำรูปเหมือนปั๊มเทพเจ้ากวนอูเลี่ยมขึ้นคอ สินค้าที่เคยขายได้วันละไม่กี่พันบาทกลับขายดีได้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว บางวันยอดขายถึงหลักหมื่น
    "รูปเหมือนปั๊มมหาเทพกวนอู เนื้อทองแดง รุ่นสร้างหอระฆัง" หลวงพ่อเพชร วัดบ้านกรับ อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว จัดสร้างปี 2543 จำนวน 2,560 องค์ ขนาดความสูง 1 นิ้ว ก้นตอกโค๊ดระฆัง และมีหมายเลขกำกับทุกองค์ครับ
    บูชา 1,800.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.60.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub

    กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03232.JPG
      DSC03232.JPG
      ขนาดไฟล์:
      78.3 KB
      เปิดดู:
      79
    • DSC03234.JPG
      DSC03234.JPG
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      53
    • DSC03235.JPG
      DSC03235.JPG
      ขนาดไฟล์:
      41.2 KB
      เปิดดู:
      64
    • DSC03233.JPG
      DSC03233.JPG
      ขนาดไฟล์:
      51.9 KB
      เปิดดู:
      58
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2017
  6. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    สุดยอดวัตถุมงคล "รุ่นพุทธคุณ" ไตรมาส ๕๑ หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    สุดยอดวัตถุมงคล "รุ่นพุทธคุณ" ไตรมาส ๕๑ หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน เจ้าตำรับตะกรุดโทนและผ้ายันต์แดงอันลือลั่น แห่งท้องทุ่งบ้านหมี่ มีประสบการณ์เรื่องแคล้าวคลาดปลอดภัยรอดพ้นจากอันตรายถึงชีวิตมาแล้วหลายท่าน หลวงพ่ออธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส 3 เดือน
    สุดยอดวัตถุุมงคลประกอบด้วย.-
    1.ตะกรุดโทน ขนาดความยาว 4 นิ้ว จำนวน 1 ดอก ตอกโค๊ด "ว.ฐ"
    2.ผ้ายันต์แดง พร้อมรูปถ่ายหลวงพ่อเลี่ยมกรอบ
    3.หนุมานครองเมือง จำนวน 1 ตน
    บรรจุอยู่ในกล่องกำมะหยี่สวยหรูเดิมจากวัดครับ

    บูชา 4,500.-บาท+ค่าจัดส่ง 60.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03864.JPG
      DSC03864.JPG
      ขนาดไฟล์:
      56.4 KB
      เปิดดู:
      46
    • DSC03865.JPG
      DSC03865.JPG
      ขนาดไฟล์:
      39.1 KB
      เปิดดู:
      58
    • DSC03866.JPG
      DSC03866.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.5 KB
      เปิดดู:
      61
  7. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    ผ้ายันต์แดง รุ่นพุทธคุณ ไตรมาส 51 หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    หลวงพ่อเพี้ยน พระเกจิอาจารย์อาวุโสของเมืองลพบุรี เจ้าตำรับสุดยอดเรื่องเครื่องรางของขลัง ตะกรุดโทน ผ้ายันต์แดง เสือ สิงห์ ฯลฯ ที่มีประสบการณ์พุทธคุณกล่าวขานกันไปทั่วประเทศ ทั้งในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดคงกระพัน เป็นมหาอุตม์คุ้มกันภัย ค้าขายดี
    "ผ้ายันต์แดง รุ่นพุทธคุณ ไตรมาส 51" หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวตลอด 3 เดือน เลี่ยมพร้อมรูปถ่ายเดิมจากวัด
    บูชา 1,200.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.60.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03871.JPG
      DSC03871.JPG
      ขนาดไฟล์:
      74.9 KB
      เปิดดู:
      62
    • DSC03872.JPG
      DSC03872.JPG
      ขนาดไฟล์:
      83 KB
      เปิดดู:
      62
  8. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    หนุมานครองเมือง รุ่นพุทธคุณ ไตรมาส 51 เนื้อไมครอนเงิน หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    หนุมาน เป็นลิงที่มีฤทธิ์มาก สามารถสำแดงฤทธิ์เดชต่างๆ ได้หลายประการ เช่น การขยายร่างกายให้ใหญ่โต การยืดหางให้ยาว การหดตัวให้เล็กจนมองไม่เห็น เป็นต้น นอกจากนี้ หนุมานยังได้ชื่อว่าเป็นอมตะ คือ ไม่มีวันตาย เนื่องจากเป็นบุตรของพระพาย (ลม) กับนางสวาหะ ด้วยเหตุนี้ เมื่อหนุมานมีอันตรายถึงตายแล้ว เพียงแค่มีลมพัดผ่าน หนุมานก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ด้วยอำนาจของพระพายผู้เป็นบิดานั่นเอง
    หนุมานครองเมือง หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน สุดยอดเรื่องโชคลาภ ค้าขายดีมีกำไร เสริมอำนาจบารมี คุ้มครองป้องกันภัยจากศาสตราวุธต่างๆ ขจัดปัดเป่าภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม แคล้วคลาดคงกระพัน เจริญรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่การงาน
    "หนุมานครองเมือง เนื้อไมครอนเงิน" หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน อยู่ในชุดสุดยอดวัตถุมงคลรุ่นพุทธคุณ ไตรมาส 51 หลวงพ่ออธิษฐานปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส 3 เดือน
    บูชา 1,800.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.60.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03873.JPG
      DSC03873.JPG
      ขนาดไฟล์:
      68.9 KB
      เปิดดู:
      103
    • DSC03874.JPG
      DSC03874.JPG
      ขนาดไฟล์:
      69.4 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSC03875.JPG
      DSC03875.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.6 KB
      เปิดดู:
      81
  9. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง จ.ภูเก็ต ขนาดบูชา 9 นิ้ว เนื้อทองเหลือง
    "หลวงพ่อแช่ม" วัดฉลอง ภูเก็ต ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2370 ที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา เมื่อปีกุน พุทธศักราช 2370 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) พ่อแม่ส่งให้อยู่ ณ วัดฉลอง เป็นศิษย์ของพ่อท่านเฒ่าตั้งแต่เล็ก เมื่อมีอายุพอจะบวชได้ก็บวชเป็นสามเณร และต่อมาเมื่ออายุถึงที่จะบวชเป็นพระภิกษุก็บวชเป็นพระภิกษุจำพรรษาอยู่ ณ วัดฉลองนี้หลวงพ่อแช่มได้ศึกษาวิปัสนาธุระจากพ่อท่านเฒ่า จนเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญทางวิปัสนาธุระเป็นอย่างสูง ความมีชื่อเสียงของหลวงพ่อแช่มปรากฏชัด ในคราวที่หลวงพ่อแช่มเป็นหัวหน้าปราบอั้งยี่
    ในปีพุทธศักราช 2419 กรรมกรเหมืองแร่เป็นจำนวนหมื่นในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง ได้ซ่องสุมผู้คนก่อตั้งเป็นคณะขึ้นเรียกว่า อั้งยี่ โดยเฉพาะพวกอั้งยี่ในจังหวัดภูเก็ต ก่อเหตุวุ่นวายถึงขนาดจะเข้ายึดการปกครองของจังหวัดเป็นของพวกตน ทางราชการในสมัยนั้นไม่อาจปราบให้สงบราบคาบได้ พวกอั้งยี่ถืออาวุธรุกไล่ ยิง ฟันชาวบ้านล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านไม่อาจต่อสู้ป้องกันตนเองและทรัพย์สิน ที่รอดชีวิตก็หนีเข้าป่าไป เฉพาะในตำบลฉลอง ชาวบ้านได้หลบหนีเข้าป่า เข้าวัด ทิ้งบ้านเรือน ปล่อยให้พวกอั้งยี่เผาบ้านเรือน หมู่บ้านซึ่งพวกอั้งยี่เผาได้ชื่อว่า "บ้านไฟไหม้" จนกระทั่งบัดนี้
    ชาวบ้านที่หลบหนีเข้ามาในวัดฉลอง เมื่อพวกอั้งยี่รุกไล่ใกล้วัดเข้ามา ต่างก็เข้าไปแจ้งให้หลวงพ่อแช่มทราบ และนิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มหลบหนีออกจากวัดฉลองไปด้วย หลวงพ่อแช่มไม่ยอมหนี ท่านว่าท่านอยู่ที่วัดนี้ตั้งแต่เด็กจนบวชเป็นพระ และเป็นเจ้าวัดอยู่ขณะนี้จะให้หนีทิ้งวัดไปได้อย่างไร
    เมื่อหลวงพ่อแช่มไม่ยอมหนีทิ้งวัด ชาวบ้านต่างก็แจ้งหลวงพ่อแช่มว่า เมื่อท่านไม่หนีพวกเขาก็ไม่หนีจะขอสู้มันละ พ่อท่านมีอะไรเป็นเครื่องคุ้มกันตัวขอให้ทำให้ด้วย หลวงพ่อแช่มจึงทำผ้าประเจียดแจกโพกศีรษะคนละผืน เมื่อได้ของคุ้มกัน คนไทยชาวบ้านฉลองก็ออกไปชักชวนคนอื่นๆ ที่หลบหนีไปอยู่ตามป่ากลับมารวมพวกกันอยู่ในวัด หาอาวุธ ปืน มีด เตรียมต่อสู้กับพวกอั้งยี่
    พวกอั้งยี่เที่ยวรุกไล่ฆ่าฟันชาวบ้าน ไม่มีใครต่อสู้ก็ชะล่าใจ ประมาท รุกไล่ฆ่าชาวบ้านมาถึงวัดฉลอง ชาวบ้านซึ่งได้รับผ้าประเจียดจากหลวงพ่อแช่มโพกศีรษะไว้ก็ออกต่อต้านพวกอั้งยี่ พวกอั้งยี่ไม่สามารถทำร้ายชาวบ้าน ก็ถูกชาวบ้านไล่ฆ่าฟันแตกหนีไป ครั้งนี้เป็นชัยชนะครั้งแรกของไทยชาวบ้านฉลอง ข่าวชนะศึกครั้งแรกของชาวบ้านฉลอง รู้ถึงชาวบ้านที่หลบหนีไปอยู่ที่อื่น ต่างพากลับมายังวัดฉลอง รับอาสาว่าถ้าพวกอั้งยี่มารบอีกก็จะต่อสู้ ขอให้หลวงพ่อแช่มจัดเครื่องคุ้มครองตัวให้ หลวงพ่อแช่มก็ทำผ้าประเจียดแจกจ่ายให้คนละผืน พร้อมกับแจ้งแก่ชาวบ้านว่า "ข้าเป็นพระสงฆ์จะรบราฆ่าฟันกับใครไม่ได้ พวกสูจะรบก็คิดอ่านกันเอาเอง ข้าจะทำเครื่องคุณพระให้ไว้สำหรับป้องกันตัวเท่านั้น" ชาวบ้านเอาผ้าประเจียดซึ่งหลวงพ่อแช่มทำให้โพกศีรษะ เป็นเครื่องหมายบอกต่อต้านพวกอั้งยี่
    พวกอั้งยี่ให้ฉายาคนไทยชาวบ้านฉลองว่า พวกหัวขาว ยกพวกมาโจมตีคนไทยชาวบ้านฉลองหลายครั้ง ชาวบ้านถือเอากำแพงพระอุโบสถเป็นแนวป้องกัน อั้งยี่ไม่สามารถตีฝ่าเข้ามาได้ ภายหลังจัดเป็นกองทัพเป็นจำนวนพัน ตั้งแม่ทัพ นายกอง มีธงรบ ม้าล่อ เป็นเครื่องประโคมขณะรบกัน ยกทัพเข้าล้อมรอบกำแพงพระอุโบสถ ยิงปืน พุ่งแหลน พุ่งอีโต้ เข้ามาที่กำแพง เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่บรรดาชาวบ้านซึ่งได้เครื่องคุ้มกันตัวจากหลวงพ่อแช่มต่างก็แคล้วคลาดไม่ถูกอาวุธของพวกอั้งยี่เลย รบกันจนเที่ยงพวกอั้งยี่ยกธงขอพักรบ ถอยไปพักกันใต้ร่มไม้หุงหาอาหาร ต้มข้าวต้มกินกัน ใครมีฝิ่นก็เอาฝิ่นออกมาสูบ อิ่มหนำสำราญแล้วก็นอนพักผ่อน ชาวบ้านแอบดูอยู่ในกำแพงโบสถ์ เห็นได้โอกาสในขณะที่พวกอั้งยี่เผลอก็ออกไปโจมตีบ้าง พวกอั้งยี่ไม่ทันรู้ตัวก็ล้มตายและแตกพ่ายไป
    หัวหน้าอั้งยี่ประกาศให้สินบน ใครสามารถจับตัวหลวงพ่อแช่มวัดฉลองไปมอบตัว จะให้เงินถึง 5,000 เหรียญ เล่าลือกันทั่วไปในวงการอั้งยี่ว่า คนไทยชาวบ้านฉลอง ซึ่งได้รับผ้าประเจียดของหลวงพ่อแช่มโพกศีรษะ ล้วนแต่เป็นยักษ์มาร คงทนต่ออาวุธ ไม่สามารถทำร้ายได้ ยกทัพมาตีกี่ครั้งๆ ก็ถูกตีโต้กลับไป ในทุกครั้ง จนต้องเจรจาขอหย่าศึก ยอมแพ้แก่ชาวบ้านศิษย์หลวงพ่อแช่มโดยไม่มีเงื่อนไข การปราบอั้งยี่ในครั้งนั้น เมื่อพวกอั้งยี่แพ้ศึกแล้วก็หันมาเลื่อมใส ให้ความเคารพนับถือต่อหลวงพ่อแช่มเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้ซึ่งนับถือศาสนาอื่นก็มีความเคารพเลื่อมใสต่อหลวงพ่อแช่ม เกิดเหตุอาเพทต่างๆ ในครัวเรือน ต่างก็บนบานหลวงพ่อแช่มให้ช่วยขจัดปัดเป่าให้ ไม่เพียงแต่ชนชาวไทยในภูเก็ตเท่านั้น ที่มีความเคารพเลื่อมใสในองค์หลวงพ่อแช่ม ชาวจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนชาวจังหวัดต่างๆ ในมาเลเซีย เช่น ชาวจังหวัดปีนัง เป็นต้น ต่างให้ความคารพนับถือในองค์หลวงพ่อแช่มเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะชาวพุทธในจังหวัดปีนัง ยกย่องหลวงพ่อแช่มเป็นเสมือนสังฆปาโมกข์เมืองปีนังด้วย
    คณะกรรมการเมืองภูเก็ต ได้ทำรายงานกราบทูลไปยังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะกรรมการเมืองนิมนต์หลวงพ่อแช่ม ให้เดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร มีพระประสงค์ทรงปฏิสันถารกับหลวงพ่อแช่มด้วยพระองค์เอง
    หลวงพ่อแช่มและคณะเดินทางถึงกรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานสมณศักดิ์หลวงพ่อแช่ม เป็น พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญานมุนี ให้มีตำแหน่งเป็นสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต อันเป็นตำแหน่งสูงสุดซึ่งบรรพชิตจักพึงมีในสมัยนั้น ในโอกาสเดียวกัน ทรงพระราชทานนาม วัดฉลอง เป็น วัดไชยาธาราราม
    จากคำบอกเล่าของคณะผู้ติดตามหลวงพ่อแช่มไปในครั้งนั้นแจ้งว่า มีพระสนมองค์หนึ่งในรัชกาลที่ 5 ป่วยเป็นอัมพาต หลวงพ่อแช่มได้ทำน้ำพระพุทธมนต์ให้รดตัวรักษา ปรากฏว่าอาการป่วยหายลงโดยเร็วสามารถลุกนั่งได้
    อนึ่ง การเดินทางไปและกลับจากจังหวัดภูเก็ตกับกรุงเทพมหานคร ผ่านวัดๆ หนึ่งในจังหวัดชุมพร หลวงพ่อแช่มและคณะได้เข้าพักระหว่างทาง ณ ศาลาหน้าวัด เจ้าอาวาสวัดนั้นนิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มเข้าไปพักในวัด แต่หลวงพ่อเกรงใจและแจ้งว่าตั้งใจจะพักที่ศาลาหน้าวัด แล้วก็ขอพักที่เดิมเถิด เจ้าอาวาสและชาวบ้านในละแวกนั้นบอกว่า การพักที่ศาลาหน้าวัดอันตรายอาจเกิดพวกโจรจะมาลักเอาสิ่งของของหลวงพ่อแช่มและคณะไปหมด หลวงพ่อแช่มตอบว่าเมื่อมันเอาไปได้มันก็คงเอามาคืนได้ เจ้าอาวาสวัดและชาวบ้านอ้อนวอน หลวงพ่อแช่มก็คงยืนยันขอพักที่เดิม ตกตอนดึกคืนนั้นโจรป่ารวม 6 คน เข้ามาล้อมศาลาไว้ ขณะคนอื่นๆ หลับหมดแล้ว คงเหลือแต่หลวงพ่อแช่มองค์เดียว พวกโจรเอื้อมเอาของไม่ถึง หลวงพ่อแช่มก็ช่วยผลักของให้ สิ่งของส่วนมากบรรจุปิ๊บใส่สาแหรก พวกโจรพอได้ของก็พากันขนเอาไป
    รุ่งเช้าเจ้าอาวาสและชาวบ้านมาเยี่ยม ทราบเหตุที่เกิดขึ้นก็พากันไปตามกำนันนายบ้านมา เพื่อจะไปตามพวกโจร หลวงพ่อแช่มก็ห้ามมิให้ตามไป ต่อมาครู่หนึ่งพวกโจรก็กลับมา แต่การกลับมาคราวนี้หัวหน้าโจรถูกหามกลับมา พร้อมกับสิ่งของซึ่งลักไปด้วย กำนันนายบ้านก็เข้าคุมตัว หัวหน้าโจรปวดท้องจุกเสียดร้องครางโอดโอย ทราบว่าระหว่างที่ขนของซึ่งพวกตนขโมยไปนั้น คล้ายมีเสียงบอกว่าให้ส่งของกลับไปเสียมิฉะนั้นจะเกิดอาเพท พวกโจรไม่เชื่อขนของต่อไปอีก หัวหน้าโจรจึงเกิดมีอาการจุกเสียดขึ้น จนไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ เลยปรึกษากันตกลงขนสิ่งของกลับมาคืน หลวงพ่อแช่มสั่งสอนว่า ต่อไปขอให้เลิกเป็นโจร อาการปวดก็หาย กำนันนายบ้านจะจับพวกโจรส่งกรมการเมืองชุมพร แต่หลวงพ่อแช่มได้ขอร้องมิให้จับกุมขอให้ปล่อยตัวไป
    ชาวเรือพวกหนึ่งลงเรือพายออกไปหาปลาในทะเลถูกคลื่นและพายุกระหน่ำจนเรือจวนล่ม ต่างก็บนบานสิ่งศักดิ์ต่างๆ ให้คลื่นลมสงบ แต่คลื่นลมกลับรุนแรงขึ้น ชาวบ้านคนหนึ่งนึกถึงหลวงพ่อแช่มได้ ก็บนหลวงพ่อแช่มว่า ขอให้หลวงพ่อแช่มบันดาลให้คลื่นลมสงบเถิด รอดตายกลับถึงบ้านจะติดทองที่ตัวหลวงพ่อแช่ม คลื่นลมก็สงบ มาถึงบ้านก็นำทองคำเปลวไปหาหลวงพ่อแช่ม เล่าให้หลวงพ่อแช่มทราบและขอปิดทองที่ตัวท่าน หลวงพ่อแช่มบอกว่าท่านยังมีชีวิตอยู่จะปิดทองยังไง ให้ไปปิดทองที่พระพุทธรูป ชาวบ้านกลุ่มนั้นก็บอกว่าถ้าหากหลวงพ่อไม่ให้ปิดทอง หากแรงบนทำให้เกิดอาเพทอีกจะแก้อย่างไร ในที่สุดหลวงพ่อแช่มก็จำต้องยอมให้ชาวบ้านปิดทองที่ตัวท่านโดยให้ปิดที่แขนและเท้า ชาวบ้านอื่นๆ ก็บนตามอย่างด้วยเป็นอันมาก พอหลวงพ่อแช่มออกจากวัดไปทำธุระในเมือง ชาวบ้านต่างก็นำทองคำเปลวรอคอยปิดที่หน้าแขนของหลวงพ่อแทบทุกบ้านเรือน จนถือเป็นธรรมเนียม
    เมื่อกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จมาจังหวัดภูเก็ต นิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มไปหา ก็ยังทรงเห็นทองคำเปลวปิดอยู่ที่หน้าแข้งของหลวงพ่อแช่ม นับเป็นพระภิกษุองค์แรกของเมืองไทยที่ได้รับการปิดทองแก้บนทั้งๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่
    แม้แต่ไม้เท้าของหลวงพ่อแช่ม ซึ่งท่านถือประจำกายก็มีความขลัง ประวัติความขลังของไม้เท้ามีดังนี้.-
    เด็กหญิงรุ่นสาวคนหนึ่ง เป็นคนชอบพูดอะไรแผลงๆ ครั้งหนึ่งเด็กหญิงคนนั้นเกิดปวดท้องจุกเสียดอย่างแรง กินยาอะไรก็ไม่ทุเลา จึงบนหลวงพ่อแช่มว่า ขอให้อาการปวดท้องหายเถิด ถ้าหายแล้วจะนำทองไปปิดที่ของลับของหลวงพ่อแช่ม อาการปวดท้องก็หายไป เด็กหญิงคนนั้นเมื่อหายแล้วก็ไม่สนใจ ถือว่าพูดเล่นสนุกๆ ต่อมาอาการปวดท้องเกิดขึ้นมาอีก พ่อแม่สงสัยจะถูกแรงสินบน จึงปลอบถามเด็ก เด็กก็เล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่จึงนำเด็กไปหาหลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อแช่มกล่าวว่า ลูกมึงบนสัปดนอย่างนี้ใครจะให้ปิดทองอย่างนั้นได้ พ่อแม่เด็กต่างก็อ้อนวอนกลัวลูกจะตายเพราะไม่ได้แก้บน ในที่สุดหลวงพ่อแช่มคิดแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ โดยเอาไม้เท้านั่งทับสอดเข้าให้เด็กหญิงคนนั้นปิดทองที่ปลายไม้เท้า กลับบ้านอาการปวดท้องจุกเสียดก็หายไป ไม้เท้านั่งทับของหลวงพ่อแช่มอันนี้ยังคงมีอยู่ และใช้เป็นไม้สำหรับจี้เด็กๆ ที่เป็นไส้เลื่อน เป็นฝีเป็นปาน อาการเหล่านั้นก็หายไปหรือชงักการลุกลามต่อไป เป็นที่น่าประหลาด
    หลวงพ่อแช่มมรณภาพในปี พ.ศ. 2451 บรรดาศิษย์ได้ตรวจหาทรัพย์สินของหลวงพ่อแช่ม ปรากฏว่าหลวงพ่อแช่มมีเงินเหลือเพียง 50 เหรียญเท่านั้น ความทราบถึงบรรดาชาวบ้านปีนังและจังหวัดอื่นในมาเลเซีย ต่างก็นำเงิน เอาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น มีข้าวสาร มีคนมาช่วยเหลือหลายเรือสำเภา งานศพของหลวงพ่อแช่มจัดได้ใหญ่โตมโหฬารที่สุดในจังหวัดภูเก็ต หรืออาจจะกล่าวได้ว่ามโหฬารที่สุดในภาคใต้ บารมีของหลวงพ่อแช่มก็มีมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
    บูชา 2,500.-บาท+ค่าจัดส่ง 200.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2017
  10. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง จ.ภูเก็ต ขนาดบูชา 5 นิ้ว เนื้อทองเหลือง
    "หลวงพ่อแช่ม" วัดฉลอง ภูเก็ต ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2370 ที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา เมื่อปีกุน พุทธศักราช 2370 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) พ่อแม่ส่งให้อยู่ ณ วัดฉลอง เป็นศิษย์ของพ่อท่านเฒ่าตั้งแต่เล็ก เมื่อมีอายุพอจะบวชได้ก็บวชเป็นสามเณร และต่อมาเมื่ออายุถึงที่จะบวชเป็นพระภิกษุก็บวชเป็นพระภิกษุจำพรรษาอยู่ ณ วัดฉลองนี้หลวงพ่อแช่มได้ศึกษาวิปัสนาธุระจากพ่อท่านเฒ่า จนเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญทางวิปัสนาธุระเป็นอย่างสูง ความมีชื่อเสียงของหลวงพ่อแช่มปรากฏชัด ในคราวที่หลวงพ่อแช่มเป็นหัวหน้าปราบอั้งยี่
    ในปีพุทธศักราช 2419 กรรมกรเหมืองแร่เป็นจำนวนหมื่นในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง ได้ซ่องสุมผู้คนก่อตั้งเป็นคณะขึ้นเรียกว่า อั้งยี่ โดยเฉพาะพวกอั้งยี่ในจังหวัดภูเก็ต ก่อเหตุวุ่นวายถึงขนาดจะเข้ายึดการปกครองของจังหวัดเป็นของพวกตน ทางราชการในสมัยนั้นไม่อาจปราบให้สงบราบคาบได้ พวกอั้งยี่ถืออาวุธรุกไล่ ยิง ฟันชาวบ้านล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านไม่อาจต่อสู้ป้องกันตนเองและทรัพย์สิน ที่รอดชีวิตก็หนีเข้าป่าไป เฉพาะในตำบลฉลอง ชาวบ้านได้หลบหนีเข้าป่า เข้าวัด ทิ้งบ้านเรือน ปล่อยให้พวกอั้งยี่เผาบ้านเรือน หมู่บ้านซึ่งพวกอั้งยี่เผาได้ชื่อว่า "บ้านไฟไหม้" จนกระทั่งบัดนี้
    ชาวบ้านที่หลบหนีเข้ามาในวัดฉลอง เมื่อพวกอั้งยี่รุกไล่ใกล้วัดเข้ามา ต่างก็เข้าไปแจ้งให้หลวงพ่อแช่มทราบ และนิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มหลบหนีออกจากวัดฉลองไปด้วย หลวงพ่อแช่มไม่ยอมหนี ท่านว่าท่านอยู่ที่วัดนี้ตั้งแต่เด็กจนบวชเป็นพระ และเป็นเจ้าวัดอยู่ขณะนี้จะให้หนีทิ้งวัดไปได้อย่างไร
    เมื่อหลวงพ่อแช่มไม่ยอมหนีทิ้งวัด ชาวบ้านต่างก็แจ้งหลวงพ่อแช่มว่า เมื่อท่านไม่หนีพวกเขาก็ไม่หนีจะขอสู้มันละ พ่อท่านมีอะไรเป็นเครื่องคุ้มกันตัวขอให้ทำให้ด้วย หลวงพ่อแช่มจึงทำผ้าประเจียดแจกโพกศีรษะคนละผืน เมื่อได้ของคุ้มกัน คนไทยชาวบ้านฉลองก็ออกไปชักชวนคนอื่นๆ ที่หลบหนีไปอยู่ตามป่ากลับมารวมพวกกันอยู่ในวัด หาอาวุธ ปืน มีด เตรียมต่อสู้กับพวกอั้งยี่
    พวกอั้งยี่เที่ยวรุกไล่ฆ่าฟันชาวบ้าน ไม่มีใครต่อสู้ก็ชะล่าใจ ประมาท รุกไล่ฆ่าชาวบ้านมาถึงวัดฉลอง ชาวบ้านซึ่งได้รับผ้าประเจียดจากหลวงพ่อแช่มโพกศีรษะไว้ก็ออกต่อต้านพวกอั้งยี่ พวกอั้งยี่ไม่สามารถทำร้ายชาวบ้าน ก็ถูกชาวบ้านไล่ฆ่าฟันแตกหนีไป ครั้งนี้เป็นชัยชนะครั้งแรกของไทยชาวบ้านฉลอง ข่าวชนะศึกครั้งแรกของชาวบ้านฉลอง รู้ถึงชาวบ้านที่หลบหนีไปอยู่ที่อื่น ต่างพากลับมายังวัดฉลอง รับอาสาว่าถ้าพวกอั้งยี่มารบอีกก็จะต่อสู้ ขอให้หลวงพ่อแช่มจัดเครื่องคุ้มครองตัวให้ หลวงพ่อแช่มก็ทำผ้าประเจียดแจกจ่ายให้คนละผืน พร้อมกับแจ้งแก่ชาวบ้านว่า "ข้าเป็นพระสงฆ์จะรบราฆ่าฟันกับใครไม่ได้ พวกสูจะรบก็คิดอ่านกันเอาเอง ข้าจะทำเครื่องคุณพระให้ไว้สำหรับป้องกันตัวเท่านั้น" ชาวบ้านเอาผ้าประเจียดซึ่งหลวงพ่อแช่มทำให้โพกศีรษะ เป็นเครื่องหมายบอกต่อต้านพวกอั้งยี่
    พวกอั้งยี่ให้ฉายาคนไทยชาวบ้านฉลองว่า พวกหัวขาว ยกพวกมาโจมตีคนไทยชาวบ้านฉลองหลายครั้ง ชาวบ้านถือเอากำแพงพระอุโบสถเป็นแนวป้องกัน อั้งยี่ไม่สามารถตีฝ่าเข้ามาได้ ภายหลังจัดเป็นกองทัพเป็นจำนวนพัน ตั้งแม่ทัพ นายกอง มีธงรบ ม้าล่อ เป็นเครื่องประโคมขณะรบกัน ยกทัพเข้าล้อมรอบกำแพงพระอุโบสถ ยิงปืน พุ่งแหลน พุ่งอีโต้ เข้ามาที่กำแพง เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่บรรดาชาวบ้านซึ่งได้เครื่องคุ้มกันตัวจากหลวงพ่อแช่มต่างก็แคล้วคลาดไม่ถูกอาวุธของพวกอั้งยี่เลย รบกันจนเที่ยงพวกอั้งยี่ยกธงขอพักรบ ถอยไปพักกันใต้ร่มไม้หุงหาอาหาร ต้มข้าวต้มกินกัน ใครมีฝิ่นก็เอาฝิ่นออกมาสูบ อิ่มหนำสำราญแล้วก็นอนพักผ่อน ชาวบ้านแอบดูอยู่ในกำแพงโบสถ์ เห็นได้โอกาสในขณะที่พวกอั้งยี่เผลอก็ออกไปโจมตีบ้าง พวกอั้งยี่ไม่ทันรู้ตัวก็ล้มตายและแตกพ่ายไป
    หัวหน้าอั้งยี่ประกาศให้สินบน ใครสามารถจับตัวหลวงพ่อแช่มวัดฉลองไปมอบตัว จะให้เงินถึง 5,000 เหรียญ เล่าลือกันทั่วไปในวงการอั้งยี่ว่า คนไทยชาวบ้านฉลอง ซึ่งได้รับผ้าประเจียดของหลวงพ่อแช่มโพกศีรษะ ล้วนแต่เป็นยักษ์มาร คงทนต่ออาวุธ ไม่สามารถทำร้ายได้ ยกทัพมาตีกี่ครั้งๆ ก็ถูกตีโต้กลับไป ในทุกครั้ง จนต้องเจรจาขอหย่าศึก ยอมแพ้แก่ชาวบ้านศิษย์หลวงพ่อแช่มโดยไม่มีเงื่อนไข การปราบอั้งยี่ในครั้งนั้น เมื่อพวกอั้งยี่แพ้ศึกแล้วก็หันมาเลื่อมใส ให้ความเคารพนับถือต่อหลวงพ่อแช่มเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้ซึ่งนับถือศาสนาอื่นก็มีความเคารพเลื่อมใสต่อหลวงพ่อแช่ม เกิดเหตุอาเพทต่างๆ ในครัวเรือน ต่างก็บนบานหลวงพ่อแช่มให้ช่วยขจัดปัดเป่าให้ ไม่เพียงแต่ชนชาวไทยในภูเก็ตเท่านั้น ที่มีความเคารพเลื่อมใสในองค์หลวงพ่อแช่ม ชาวจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนชาวจังหวัดต่างๆ ในมาเลเซีย เช่น ชาวจังหวัดปีนัง เป็นต้น ต่างให้ความคารพนับถือในองค์หลวงพ่อแช่มเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะชาวพุทธในจังหวัดปีนัง ยกย่องหลวงพ่อแช่มเป็นเสมือนสังฆปาโมกข์เมืองปีนังด้วย
    คณะกรรมการเมืองภูเก็ต ได้ทำรายงานกราบทูลไปยังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะกรรมการเมืองนิมนต์หลวงพ่อแช่ม ให้เดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร มีพระประสงค์ทรงปฏิสันถารกับหลวงพ่อแช่มด้วยพระองค์เอง
    หลวงพ่อแช่มและคณะเดินทางถึงกรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานสมณศักดิ์หลวงพ่อแช่ม เป็น พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญานมุนี ให้มีตำแหน่งเป็นสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต อันเป็นตำแหน่งสูงสุดซึ่งบรรพชิตจักพึงมีในสมัยนั้น ในโอกาสเดียวกัน ทรงพระราชทานนาม วัดฉลอง เป็น วัดไชยาธาราราม
    จากคำบอกเล่าของคณะผู้ติดตามหลวงพ่อแช่มไปในครั้งนั้นแจ้งว่า มีพระสนมองค์หนึ่งในรัชกาลที่ 5 ป่วยเป็นอัมพาต หลวงพ่อแช่มได้ทำน้ำพระพุทธมนต์ให้รดตัวรักษา ปรากฏว่าอาการป่วยหายลงโดยเร็วสามารถลุกนั่งได้
    อนึ่ง การเดินทางไปและกลับจากจังหวัดภูเก็ตกับกรุงเทพมหานคร ผ่านวัดๆ หนึ่งในจังหวัดชุมพร หลวงพ่อแช่มและคณะได้เข้าพักระหว่างทาง ณ ศาลาหน้าวัด เจ้าอาวาสวัดนั้นนิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มเข้าไปพักในวัด แต่หลวงพ่อเกรงใจและแจ้งว่าตั้งใจจะพักที่ศาลาหน้าวัด แล้วก็ขอพักที่เดิมเถิด เจ้าอาวาสและชาวบ้านในละแวกนั้นบอกว่า การพักที่ศาลาหน้าวัดอันตรายอาจเกิดพวกโจรจะมาลักเอาสิ่งของของหลวงพ่อแช่มและคณะไปหมด หลวงพ่อแช่มตอบว่าเมื่อมันเอาไปได้มันก็คงเอามาคืนได้ เจ้าอาวาสวัดและชาวบ้านอ้อนวอน หลวงพ่อแช่มก็คงยืนยันขอพักที่เดิม ตกตอนดึกคืนนั้นโจรป่ารวม 6 คน เข้ามาล้อมศาลาไว้ ขณะคนอื่นๆ หลับหมดแล้ว คงเหลือแต่หลวงพ่อแช่มองค์เดียว พวกโจรเอื้อมเอาของไม่ถึง หลวงพ่อแช่มก็ช่วยผลักของให้ สิ่งของส่วนมากบรรจุปิ๊บใส่สาแหรก พวกโจรพอได้ของก็พากันขนเอาไป
    รุ่งเช้าเจ้าอาวาสและชาวบ้านมาเยี่ยม ทราบเหตุที่เกิดขึ้นก็พากันไปตามกำนันนายบ้านมา เพื่อจะไปตามพวกโจร หลวงพ่อแช่มก็ห้ามมิให้ตามไป ต่อมาครู่หนึ่งพวกโจรก็กลับมา แต่การกลับมาคราวนี้หัวหน้าโจรถูกหามกลับมา พร้อมกับสิ่งของซึ่งลักไปด้วย กำนันนายบ้านก็เข้าคุมตัว หัวหน้าโจรปวดท้องจุกเสียดร้องครางโอดโอย ทราบว่าระหว่างที่ขนของซึ่งพวกตนขโมยไปนั้น คล้ายมีเสียงบอกว่าให้ส่งของกลับไปเสียมิฉะนั้นจะเกิดอาเพท พวกโจรไม่เชื่อขนของต่อไปอีก หัวหน้าโจรจึงเกิดมีอาการจุกเสียดขึ้น จนไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ เลยปรึกษากันตกลงขนสิ่งของกลับมาคืน หลวงพ่อแช่มสั่งสอนว่า ต่อไปขอให้เลิกเป็นโจร อาการปวดก็หาย กำนันนายบ้านจะจับพวกโจรส่งกรมการเมืองชุมพร แต่หลวงพ่อแช่มได้ขอร้องมิให้จับกุมขอให้ปล่อยตัวไป
    ชาวเรือพวกหนึ่งลงเรือพายออกไปหาปลาในทะเลถูกคลื่นและพายุกระหน่ำจนเรือจวนล่ม ต่างก็บนบานสิ่งศักดิ์ต่างๆ ให้คลื่นลมสงบ แต่คลื่นลมกลับรุนแรงขึ้น ชาวบ้านคนหนึ่งนึกถึงหลวงพ่อแช่มได้ ก็บนหลวงพ่อแช่มว่า ขอให้หลวงพ่อแช่มบันดาลให้คลื่นลมสงบเถิด รอดตายกลับถึงบ้านจะติดทองที่ตัวหลวงพ่อแช่ม คลื่นลมก็สงบ มาถึงบ้านก็นำทองคำเปลวไปหาหลวงพ่อแช่ม เล่าให้หลวงพ่อแช่มทราบและขอปิดทองที่ตัวท่าน หลวงพ่อแช่มบอกว่าท่านยังมีชีวิตอยู่จะปิดทองยังไง ให้ไปปิดทองที่พระพุทธรูป ชาวบ้านกลุ่มนั้นก็บอกว่าถ้าหากหลวงพ่อไม่ให้ปิดทอง หากแรงบนทำให้เกิดอาเพทอีกจะแก้อย่างไร ในที่สุดหลวงพ่อแช่มก็จำต้องยอมให้ชาวบ้านปิดทองที่ตัวท่านโดยให้ปิดที่แขนและเท้า ชาวบ้านอื่นๆ ก็บนตามอย่างด้วยเป็นอันมาก พอหลวงพ่อแช่มออกจากวัดไปทำธุระในเมือง ชาวบ้านต่างก็นำทองคำเปลวรอคอยปิดที่หน้าแขนของหลวงพ่อแทบทุกบ้านเรือน จนถือเป็นธรรมเนียม
    เมื่อกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จมาจังหวัดภูเก็ต นิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มไปหา ก็ยังทรงเห็นทองคำเปลวปิดอยู่ที่หน้าแข้งของหลวงพ่อแช่ม นับเป็นพระภิกษุองค์แรกของเมืองไทยที่ได้รับการปิดทองแก้บนทั้งๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่
    แม้แต่ไม้เท้าของหลวงพ่อแช่ม ซึ่งท่านถือประจำกายก็มีความขลัง ประวัติความขลังของไม้เท้ามีดังนี้.-
    เด็กหญิงรุ่นสาวคนหนึ่ง เป็นคนชอบพูดอะไรแผลงๆ ครั้งหนึ่งเด็กหญิงคนนั้นเกิดปวดท้องจุกเสียดอย่างแรง กินยาอะไรก็ไม่ทุเลา จึงบนหลวงพ่อแช่มว่า ขอให้อาการปวดท้องหายเถิด ถ้าหายแล้วจะนำทองไปปิดที่ของลับของหลวงพ่อแช่ม อาการปวดท้องก็หายไป เด็กหญิงคนนั้นเมื่อหายแล้วก็ไม่สนใจ ถือว่าพูดเล่นสนุกๆ ต่อมาอาการปวดท้องเกิดขึ้นมาอีก พ่อแม่สงสัยจะถูกแรงสินบน จึงปลอบถามเด็ก เด็กก็เล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่จึงนำเด็กไปหาหลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อแช่มกล่าวว่า ลูกมึงบนสัปดนอย่างนี้ใครจะให้ปิดทองอย่างนั้นได้ พ่อแม่เด็กต่างก็อ้อนวอนกลัวลูกจะตายเพราะไม่ได้แก้บน ในที่สุดหลวงพ่อแช่มคิดแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ โดยเอาไม้เท้านั่งทับสอดเข้าให้เด็กหญิงคนนั้นปิดทองที่ปลายไม้เท้า กลับบ้านอาการปวดท้องจุกเสียดก็หายไป ไม้เท้านั่งทับของหลวงพ่อแช่มอันนี้ยังคงมีอยู่ และใช้เป็นไม้สำหรับจี้เด็กๆ ที่เป็นไส้เลื่อน เป็นฝีเป็นปาน อาการเหล่านั้นก็หายไปหรือชงักการลุกลามต่อไป เป็นที่น่าประหลาด
    หลวงพ่อแช่มมรณภาพในปี พ.ศ. 2451 บรรดาศิษย์ได้ตรวจหาทรัพย์สินของหลวงพ่อแช่ม ปรากฏว่าหลวงพ่อแช่มมีเงินเหลือเพียง 50 เหรียญเท่านั้น ความทราบถึงบรรดาชาวบ้านปีนังและจังหวัดอื่นในมาเลเซีย ต่างก็นำเงิน เอาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น มีข้าวสาร มีคนมาช่วยเหลือหลายเรือสำเภา งานศพของหลวงพ่อแช่มจัดได้ใหญ่โตมโหฬารที่สุดในจังหวัดภูเก็ต หรืออาจจะกล่าวได้ว่ามโหฬารที่สุดในภาคใต้ บารมีของหลวงพ่อแช่มก็มีมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
    บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง 100.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    น้ำมันช้างตกมัน ครูบามนตรี วัดพระธาตุสุโทนฯ จ.แพร่
    "น้ำมันช้างตกมัน (น้ำมันกัวเผาะ)" ครูบามนตรี วัดพระธาตุสุโทน จ.แพร่ ประกอบด้วยน้ำมันช้างตกมันตายโหง น้ำมันว่านดอกทอง และชิ้นว่านดอกทองผสมด้วยกัน ใช้พกพาหรือแตะตามเนื้อตามตัวเพื่อเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมแก่ตนเอง แต่ควรใช้ในทางที่ถูกศีลธรรมและรับผิดชอบครับ เหมาะกับนักค้านักขาย นักร้อง นักพูด นักแสดง ดารา และทุกสาขาอาชีพ
    บูชา 1,200.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    คุณปลัด เมตตา มหาลาภ เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    "คุณปลัด เมตตา มหาลาภ เนื้อตะกั่ว"
    หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ท่านเสกจนปลัดวิ่งได้ วิ่งวนอยู่ในบาตร เสียงดังเกรียวกราว เรื่องนี้นักข่าว, ช่างภาพ เคยเห็นมากับตา เมื่อคราวไปทำข่าว ปลัดขิกของท่านจึงมีสมญานามว่า "ปลัดขิกเหิรเวหา"
    "นะเฮ นะฮา ประสกที่มา สีกาที่นั่ง หัวเราะให้ดัง อุกขิก ตะขัค.." นี่คือคาถาปลุกปลัดขิกท่อนหนึ่งของพระคาถาที่หลวงพ่อยิดเคยบอกกับลูกศิษย์ไกล้ชิดไว้ เวลาท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้นปลัดในมือของท่านทุกตัวจะกระโดดโลดเต้น หรือกระดุกกระดิกได้เหมือนดังมีชีวิต หรือแม้กระทั่งวัตถุมงคลต่างๆ ที่หลวงพ่อปลุกเสกนั้นยังมีเสียงเหมือนสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวได้ ทั้งนี้เพราะพลังจิตอันแกร่งกล้าและความเชี่ยวชาญในพระเวทย์คาถาอาคมของหลวงพ่อ
    ปลัดขิกมีอิทธิคุณดังนี้.-
    1.การค้าขาย ใช้เอาไปทิ่มกับของที่ขาย ไม่นานจะเห็นผลและจะค้าขายดีอย่างเทน้ำเทท่า
    2.เรื่องแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น ตะขาบ แตน ต่อ แมงป่อง เอาไปวนบริเวณที่ถูกกัดต่อยจะหายเป็นปลิดทิ้ง รวมทั้งงูมีพิษจะอ้าปากไม่ขึ้นถ้าเราเหยียบ หรือนอนทับงูจะตาย
    3.เป็นเมตตามหานิยม เข้าหาผู้หญิงให้ไว้ด้านซ้าย เข้าหาเจ้านายให้ไว้ด้านขวา สู้ไว้ข้างหน้า ไม่กล้าไว้ข้างหลัง

    "คุณปลัด เมตตา มหาลาภ เนื้อตะกั่ว" หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จัดสร้างปี 2536 ขนาดความยาว 4 ซม.
    บูชา 1,800.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    พระผงรูปเหมือนโต๊ะหมู่ รุ่น "ตั้งตัว" เนื้อผงโสฬสมหาพรหม สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์
    ตอนที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อธิฐานจิตพระปิดตา “คลังสมบัติ” สร้างปรากฏการณ์ใหม่แห่งความร่ำรวยให้แก่สาธุชนจำนวนมาก สร้างเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นประดับวงการธุรกิจไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเหตุมหามงคลหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน ทำให้ค่านิยมพระปิดตาเจ้าสัวจากหลักสิบพุ่งไปหลักพันแต่ก็หาคนปล่อยไม่ได้
    ก่อนสงกรานต์ปีกระต่ายทอง หลวงปู่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จได้เมตตาอธิฐานจิตพระผงรูปเหมือนโต๊ะหมู่ “ตั้งตัว” เพราะ หลวงปู่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ องค์กรรมฐานกลางกรุง อธิฐานจิตบนทำเล “ท้องมังกร” ฮวงจุ้ยแห่งมหาเศรษฐีกำเนิดเถ้าแก่ ทำเลทองอย่างนี้อธิฐานจิตถึงระดับเอื้ออำนวยให้ส่งผลทาง มหาเศรษฐีมหาศาล วัตถุมงคลมีผลแห่งความร่ำรวย เงินทอง โชคลาภ สร้าง “เถ้าแก่” เล็กใหญ่ร่ำรวยไปตามๆ กัน พระผงโต๊ะหมู่ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ออกแบบได้สวยงาม เข้มขลังอลังการ รวมวิชาพระกรรมฐานไว้อย่างเอกอุ ผนึกกำลังอาถรรพ์ย่านท้องมังกร มีกินไม่อดเป็นเศรษฐี ถวายนามตามประสบการณ์ที่ผู้ได้รับแจกไปว่า รุ่น “ตั้งตัว” ที่ระลึกถวายน้ำสรงท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ รูปเหมือนโต๊ะหมู่รุ่นนี้ “ดีอุดม” อุดมไปด้วยความหมายพร้อมพรั่งบันดาลให้พบแต่สิ่งดี มีเงินทอง โชควาสนา ค้าขายร่ำรวยอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ
    1. พระพุทธรูปตั้งเป็นประธานโต๊ะหมู่ คือ องค์พระพุทโธมหาจักรพรรดิ อธิฐานให้เป็นประธานของทรัพย์สมบัติดุจแก้ว ๗ ประการของมหาจักรพรรดิคือ จักรแก้ว (อาวุธเลิศคือปัญญา), ปริณายกแก้ว (ผู้นำดี), คฤหบดีแก้ว (พร้อมด้วยทรัพย์), ช้างแก้ว (อสังหาริมทรัพย์บริบูรณ์), ม้าแก้ว (สังหาริมทรัพย์บริบูรณ์), แก้วมณี (ทรัพย์สารพัดนึก) และนางแก้ว (นางผู้มีค่างามพร้อม)
    2. ดอกบัว แจกันละ 5 ดอก แทนพระพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้ทั้ง 5 พระองค์ รวมกันมี 10 ดอก แทนบารมีทั้ง 10 ประการก่อนบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า
    3. พานพุ่ม 2 พุ่ม พระธรรม พระวินัย เป็นเหตุให้รู้แจ้ง
    4. โต๊ะหมู่ 7 ตัว แทนพระธรรม ๗ คัมภีร์ เป็นพระธรรมชั้นสูงเป็นเหตุให้สำเร็จมรรค ผล นิพพาน
    ผงศักดิ์สิทธิ์ผงโสฬสมหาพรหม ทำขึ้นโดยแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ใช้เวลา 18 วัน 18 คืน เมื่อปี 2499 ทำพิธีประจุคุณพระ คุณพรหม และเทพมนต์ ปลุกเสกบรรจุพระพุทธคุณโดยยอดพระเกจิอาจารย์ 108 องค์ อาทิ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, หลวงปู่ทิม วัดไร่วารี, หลวงพ่อลี วัดอโศการาม, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, อาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, พระอาจารย์วัน อุตตโม, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเฮี้ยง วัดป่า ชลบุรี, หลวงตามหาบัว, หลวงปู่สิม, หลวงปู่กงมา, หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง (มีเรื่องเล่าถึงความแรงของผงนี้ว่า หลวงพ่อลี วัดอโศการาม จับผงถึงกับออกปากว่า “เฮ็ดหยังแรงจังซี่” อยากจะบอกประกาศดังๆ ว่า จะหาพระเครื่องที่มหาเถระแต่ละองค์ได้เสกไว้เป็นเรื่องยาก ผงหัวกระทิ ผ่านพิธีดีที่สุด ที่คุณแม่บุญเรือนเป็นเจ้าพิธี
    พลอยเสกคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม “มีพลอยมีแต่ได้” ของเก่าที่คนรู้น้อยแต่มีค่ามาก เก็บมาเกือบ 60 ปี คือ พลอยเสก (โดยเฉพาะทับทิมเสก) ที่คณะศิษย์จากจันทบุรี เมือง “ทับทิมสยาม” ราคาแพงที่สุด น้ำงามๆ ว่ากันเม็ดละเป็นแสนๆ ลูกศิษย์จันท์นำทับทิมถวาย คุณแม่ พลอยเสกนี้คุณแม่จะชอบแจกให้กับศิษย์ที่ประกอบอาชีพ เกี่ยวกับการทำธุรกิจ การค้าขาย เป็นนายหน้า นายประกัน หรือ คนที่มากราบเรียนว่า กิจการไม่ดี ธุรกิจมีปัญหา หาเงินไม่คล่อง ชักหน้าไม่ถึงหลัง คุณแม่จะให้พลอยเสกของท่านไป ท่านจะบอกว่า “พลอยได้ทุกอย่าง มีพลอยมีแต่ได้ ” พลอยเสกของคุณแม่จึงมีอานุภาพทางการเงินโภคทรัพย์ เรียกโชคลาภเงินทองไม่ขาดกระเป๋าดีที่สุด ลูกศิษย์ลูกหาของคุณแม่ต่างรู้จัก เกิดประสบการณ์ “ได้ทุกอย่าง” กันทั่วหน้า อธิฐานใช้พรมของขายก็ขายดี อธิฐานพรมบ้าน แก้โรค ป้องกันภัยได้สารพัด พลอยเสกชุดนี้เป็นพลอยเสกชุดเก่าที่ คุณแม่ได้อธิฐานจิตไว้ เมื่อปี 2499 งานพิธีใหญ่ที่วัดสารนารถธรรมมาราม ระยอง 18 วัน18 คืน และคุณแม่ได้อธิฐานจิตอีกหลายวาระ หลังจากคุณแม่สิ้นเมื่อปี 2507 คนก็ไม่รู้จักพลอยเสกที่มีอานุภาพวิเศษที่สุดทางการเงินโภคทรัพย์ “มีพลอยมีแต่ได้” ของท่านเลย พลอยเสกชุดนี้จึงเก็บเป็นสมบัติของวัดสัมพันธวงศ์ พึ่งจะเปิดเผยเมื่อนำมาบรรจุในรูปเหมือนโต๊ะหมู่ ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ “สุขสมปรารถนา ถวายน้ำสรง” หรือเรียกว่ารุ่นตั้งตัว องค์ละ 1 เม็ด ก็มีค่าสูงสุด มีผลแรงตามแบบฉบับของคุณแม่บุญเรือน ที่อุดมไปด้วยปาฏิหาริย์ พระอรหันต์อย่างหลวงพ่อลี ออกปาก ผงมวลสารโสฬสมหาพรหม ผสมกับผงมวลสาร 3 กองหลักดังนี้
    เนื้อมวลสารที่ 1 ผงธูปเศรษฐี (อัญเชิญผงธูปองค์ไฉ่ซิงเอีย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ผงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ๙ ทำเลทอง เช่น วัดเล่งเน่งยี่, วัดพนันเชิง (บารมีใหญ่โต) ผงธูปวัดสำคัญ เช่น ภูเขาทอง (บารมีสูงด้วยยศศักดิ์อำนาจวาสนา), วัดระฆังฯ (บารมีชื่อเสียงเกียรติยศโด่งดังปรากฎไกล), วัดชนะสงคราม (บารมีชนะทุกอย่าง) ดีทางมงคลโชคลาภ การค้าขาย ทำมาหากิน เสี่ยงโชค เงินทอง (สีเทา)
    เนื้อมวลสารที่ 2 ดอกว่านมหามงคล ๓ ชนิด ดอกวาสนา ดอกกาหลง ดอกไม้ทอง ดีทางเมตตา ความเจริญ งอกงาม มหาเสน่ห์ มหามงคล กว่าดอกวาสนาจะออกได้ใช้เวลาและมีความเชื่อว่าบ้านไหนต้นวาสนาออกดอกจะรวยใหญ่ วาสนาดีมาก รับความสำเร็จใหญ่ ข้าราชการ เกษตรกรรม เหมาะสมบูชาพระปิดตากองนี้ (สีว่าน)
    เนื้อมวลสารที่ 3 ข้าวก้นบาตร สมเด็จฯ อัญเชิญข้าวก้นบาตร ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ องค์กรรมฐานกลางกรุง ชานหมากพระอริยสงฆ์ในอดีตกาลที่ท่านเจ้าคุณโกมินทร์ฯ เก็บรักษาไว้ อาทิ ชานหมาก หลวงปู่แหวน ชานหมากหลวงปู่ขาว ชานหมากหลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงพ่อพุทธ ฐานิโย เป็นมงคลวิเศษที่เหนือกว่ามงคลทั้งปวง (สีขาว)
    พระผงโต๊ะหมู่ฝังตะกรุดพญายูงทอง เส้นเกศาสมเด็จฯ สร้าง 3 เนื้อคือ
    1.เนื้อมวลสารที่ 1 ผงธูปเศรษฐี (สีเทา)
    สร้าง 1,999 องค์ มีหมายเลขและโค๊ดกำกับ
    2.เนื้อมวลสารที่ 2 ดอกว่านมหามงคล (สีว่าน) สร้าง 1,999 องค์ มีหมายเลขและโค๊ดกำกับ
    3.เนื้อมวลสารที่ 3 ข้าวก้นบาตร) (สีขาว) สร้าง 1,999 องค์ มีหมายเลขและโค๊ดกำกับ
    ขนาดความสูง 3.8 ซ.ม. กว้าง 2.5 ซ.ม.

    บูชาบาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     
  14. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    พระขุนแผนมะรุมมะตุ้ม พิมพ์ขี่หุ่นพยนต์ หลวงปู่โฉม วัดอัมภาราม จ.บุรีรัมย์

    หลวงปู่โฉม อรุโณ วัดอัมภาราม จ.บุรีรัมย์ ศิษย์สายตรงหลวงปู่เทิ่ง ฆงคปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมภาราม ผู้โด่งดังด้านเมตตามหานิยมอย่างเอกอุ และได้ถ่ายทอดสรรพวิชาให้กับหลวงปู่โฉมอย่างหมดสิ้น พร้อมกับนำหลวงปู่โฉมไปฝากตัวศึกษาวิชาอาคมต่างๆ ต่อกับหลวงพ่อมั่น วัดบ้านตาจง, หลวงพ่อเพียร วัดบ้านถนนหัก, หลวงปู่เป็น วัดเจริญนิมิตร (ผู้มีตำนานเหาะเหินเดินอากาศ มหาอุตม์หยุดลูกปืน ท่านเก่งมาก หลวงปู่โฉมเรียนวิชากับหลวงปู่เป็นตั้งแต่ทำน้ำมนต์แก้อาถรรพ์ ทำตะกรุดหยุดปืน ทำยันต์พยนต์ศึก วิชาพรหมสี่หน้ามหากำบัง วิชาลงหลังปัทมึน และวิชาพรหมมหาเสน่ห์ จนเจนจบทุกวิชา) หลวงปู่สุข ธัมมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง, ครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขต จ.ตาก, หลวงพ่อแผน วัดบ้านหนองเติม และหลวงพ่อเชือน วัดบานตาจง ด้วยความที่หลวงปู่เป็นพระสมถะ จึงไม่ค่อยมีวัตถุมงคลของท่านให้เห็นกันมากนัก แต่ในวงการพระเครื่องของ จ.บุรีรัมย์ จะเป็นที่รู้กันดีว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เข้มขลังมากๆ อีกทั้งประสบการณ์วัตถุมงคลของท่าน เช่นตะกรุดเป็นที่เลื่องลือทั่วไป ทั้งเรื่องค้าขาย ตีรันฟันแทง ป้องกันภัย ป้องกันอุบัติเหตุ หรือโดนฟ้าผ่าแล้วไม่เป็นอะไร ก็มีเรื่องมาเล่าไม่ขาด
    เมื่อปี 2553 หลวงปู่โฉม ได้อนุญาตให้ลูกศิษย์สร้างพระขุนแผนรุ่นแรก ตามตำรับสายเขมรโบราณ ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงหลวงปู่โฉมเท่านั้นที่ยังคงสร้างและเสกได้อย่างรู้จริง ท่านขนามนามพระขุนแผนรุ่นแรก ไตรมาสปี 53 ว่าพระขุนแผนพระเจ้าครอบเมือง ซึ่งได้จัดสร้างพระขุนแผนไว้จำนวน 1,000 องค์ ปลุกเสกตลอดไตรมาส เมื่อมีคนได้ข่าวก็เข้ามาขอจองตั้งแต่ยังไม่ได้เสก เมื่อเปิดบูชาก็หมดในเวลาอันรวดเร็ว ตามมาด้วยประสบการณ์มากมาย และตามมาด้วยเสียงบ่นมายังคณะผู้จัดสร้างว่าทำไมมีน้อยเหลือเกินและหมดเร็ว ทางคณะจัดสร้างจึงได้สร้างพระขุนแผนรุ่นสองขึ้นมา โดยใช้มวลสารเดิมที่เหลืออยู่ผสมกับผงยาจินดามณีและผงจากครูบาอาจารย์สายเขาอ้อ รูปทรงพระขุนแผนขี่หัวกระโหลก มือซ้ายอุ้มกุมารทอง มือขวาถือดาบ แต่ความจริงแล้วเดิมทีแต่โบราณเป็นพิมพ์พระพรหมขี่พยนต์อุ้มกุมารพุทธองค์หลังประสูติ พระพิมพ์นี้อาจารย์แสง วัดมณีชลขันธ์ เคยสร้างบรรจุกรุ ภายหลังสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ซึ่งเคยศึกษาวิชากับพระอาจารย์แสง ก็ได้เคยจัดสร้างขึ้น ทางคณะผู้จัดสร้างจึงเลือกพิมพ์นี้มาจัดสร้างเพื่อรักษาพิมพ์นี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก
    มวลสารที่ใช้ไม่มีคุณผีมีแต่คุณพระ สร้างจากผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงหินพระธาตุ ผงข้าวสารหิน ผงหอยหิน ผงว่าน 108 ดินกากยายักษ์ ดินและอิฐจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ทั้งเขาพนมรุ้ง ปราสาทเก่าสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ดินที่ตั้งพระศพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อิฐจากพระเจดีย์ที่บรรจุพระอัฐิสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระมหาเถรคันฉ่อง ฯลฯ ผงยาฤาษี ผงจากพระอาจารย์สายเขาอ้อ ผงเหล็กไหล ผงเหล็กเปียก ผงปรอด ผงแร่เขาอึมครึม ผงเหล็กน้ำพี้ ผงแร่เกาะล้าน ผงแร่โคกยายเหลือง (อยู่ใกล้สุสานทุ่งมน หลวงปู่หงส์ท่านว่าขลังมากหากนำมาสร้างวัตถุมงคล) ผงไม้เทพธาโร ฯลฯ ด้านหลังลงยันต์มหาเสน่ห์ มหาโชค มหาลาภ

    "พระขุนแผนมะรุมมะตุ้ม พิมพ์ขี่หุ่นพยนต์" หลวงปู่โฉม อรุโณ วัดอัมภาราม จ.บุรีรัมย์ จัดสร้างและปลุกเสกตลอดไตรมาส 54 (ที่ อ.นางรอง มีคนขอลองยิงตั้งแต่เสกได้เดือนเดียว ผลปรากฏว่าปืนยิงไม่ออก, ที่ อ. เฉลิมพระเกียรติ วัยรุ่นได้สาวๆ ทุกคน) จำนวนจัดสร้าง 2,000 องค์ เท่านั้นครับ
    บูชา 2,500.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub

    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม

    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2017
  15. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    ม้าเสพนาง เนื้อผงพรายยาแฝด องค์ครู ฝังตะกรุด 2 ดอก พระอาจารย์ตั๋ง วัดป่าสันติธรรม จ.นครพนม

    "ม้าเสพนาง เนื้อผงพรายยาแฝด องค์ครู ฝังตะกรุด 2 ดอก" พระอาจารย์ตั๋ง วัดป่าสันติธรรม องค์ครู ฝังตะกรุดมหาเสน่ห์ แค่พกติดตัวเอาไว้ก็แรงมาก มหาโชค มหาลาภ แก่ผงยันต์ปถมังโลกีย์ ผงดอดัน
    อาจารย์ตั๋ง เจ้าตำรับยันต์ดอดัน และ จิ้งจกเกี้ยวปี้มหาเสน่ห์ พระอาจารย์ได้ครูดี มีวิชาประสิทธิ์มนต์ปฐมโลกีย์ ทำพิธีลบผงอักขระ เลขยันต์ นำเอาผงมาอธิษฐานปลุกเสกกดพิมพ์เสกทีละองค์เป็นม้าเสพนาง
    ผงที่นำมาจัดสร้างม้าเสพนาง มีดังนี้.-
    1.ผสมผงพราย 7 ป่าช้า
    2.ดินอาถรรพ์
    3.สีผึ้งนางครวญ
    4.ผสมผงยาแฝดตำรับลาวโซ่งและเขมรลงไป
    5.ผสมผงว่านด้านมหาเสน่ห์และโชคลาภ
    6.ว่านดอกทอง
    7.กาฝากรัก
    8.กาฝากยม
    9.กาฝากกาหลง
    10.กาฝากมะรุม
    11.น้ำมันช้างผสมโขลง
    12.เครือเขาหลง
    13.ดอกกาหลงฝูง
    15.ว่านห้าร้อยนาง
    16.ว่านขุนแผน
    17.ว่านมหาเสน่ห์
    18.ผงวิชาอิ่นแก้ว
    19.ผงวิชาดอดันมหาเสน่ห์ (ใครที่ลงดอดันที่มือซ้าย-ขวา สุดยอดเรื่องเจ้าชู้ เมียเยอะ เงินมาก ส่วนใครที่ไม่มีโอกาสลงวิชา ให้บูชาม้าเสพนางไปใช้แทนได้)
    20.ผงหัวใจขุนแผนเจ้าชู้
    21.ผงหัวใจเสน่ห์
    อธิษฐานมนต์เดินธาตุวิชาอาคม อัญเชิญญาณครูพ่อปู่สายญาณเสน่ห์ประทับลงมาประสาทประสิทธิให้สำเร็จเป็นม้าเสพนางมหา เสน่ห์ เมตตามหานิยม
    ผู้ใดพกม้าเสพนางของพระอาจารย์เอาไว้อธิษฐานได้เลย เรื่องมหาเสน่ห์แรงที่สุด เรื่องมหาโชค มหาลาภก็ดี ม้าของท่านเมื่อจะใช้ให้อธิษฐานถ้าเป็นเรื่องเสน่ห์ คนรักคนหลง สาวรักสาวหลง สาวน้อยติดใจ สาวใหญ่แม่หม้ายลุ่มหลง พกเอาไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านซ้าย สุดยอดของความเป็นชายเจ้าชู้แรงเสน่ห์ มีคนรักใคร่ลุ่มหลงมากมาย
    ส่วนใครอยากให้มีโชคลาภ ค้าขายคล่อง บันดาลโชคลาภ หาเงินหาทอง มั่งคั่งร่ำรวย ใส่กระเป๋ากางเกงด้านขวา อธิษฐานขอบุญบารมีและอิทธิฤทธิ์ ครูบาอาจารย์พระอาจารย์ให้สำเร็จในเรื่องที่ปรารถนาได้ด้วยเช่นกัน

    บูชา 1,200.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2017
  16. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    ล็อกเก็ตพระพิฆเณศ พระอาจารย์รัตน์ (เงาะ) วัดรังษีโสภณ จ.นครนายก
    "ล็อกเก็ตพระพิฆเณศ" พระอาจารย์รัตน์ (เงาะ) วัดรังษีโสภณ มหาเทพผู้ประทานพรให้เกิดความสงบสุขในการดำเนินชีวิต ขจัดปัญหาและอุปสรรคทั้งปวง ประทานความสำเร็จในธุรกิจเรื่องการงาน การเงิน โชคลาภ และทรัพย์สิน พระองค์สามารถทำลายสิ่งชั่วร้ายและคอยปกป้องคุ้มครองผู้บูชาให้แคล้วคลาดปลอดภัย สามารถอธิษฐานขอพรได้สมดังจิตปรารถนา
    บูชา 2,500.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2017
  17. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    ล็อกเก็ตพระแม่ธรณีขี่สิงห์ พระอาจารย์รัตน์ (เงาะ) วัดรังษีโสภณ จ.นครนายก
    "ล็อกเก็ตพระแม่ธรณีขี่สิงห์" พระอาจารย์รัตน์ (เงาะ) วัดรังษีโสภณ ออกวันงานที่ 27 กันยายน 2552 เข้าพิธีใหญ่ วัดศาลาแดง ด้านหน้าเป็นรูปพระแม่ธรณีขี่สิงห์ ด้านหลังฝังมวลสาร ผงเสาโบสถ์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ แต่เน้นที่หลอดน้ำมันพรายและใส่ตะกรุดครองคู่
    พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก มีดังนี้.-
    หลวงปู่คำบ่อ วัดใหม่บ้านตาล จ.สกลนคร
    หลวงปู่จ้อย วัดหนองน้ำเขียว จ.ชลบุรี
    หลวงปู่คง วัดเขากลิ้ง จ.เพชรบุรี
    หลวงปู่ยวง วัดโพธิ์ศรี จ.ราชบุรี
    หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง จ.ชลบุรี
    หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ จ.พระนครศรีอยุธยา
    หลวงพ่อลออ วัดหนองหลวง จ.นครสวรรค์
    หลวงปู่จันทร์ วัดป่าหนองยาง จ.นครราชสีมา
    หลวงปู่ธีร์ วัดจันทราวาส จ.บุรีรัมย์ (ลูกศิษย์อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง)
    หลวงพ่อชวน วัดเขาแก้ว จ.อ่างทอง
    พระอาจารย์รัตน์ วัดรังษีโสภณ จ.นครนายก
    พระอาจารย์ปุ้ม วัดศาลาแดง กทม

    "ล็อกเก็ตพระแม่ธรณีขี่สิงห์" พระอาจารย์รัตน์ (เงาะ) วัดรังษีโสภณ เป็นวัตถุมงคลที่ดีเข้มขลังเน้นทางด้านเสน่ห์ เมตตา มหานิยม มหาอำนาจ มหาบารมี พระแม่ธรณีผู้ทรงไว้ซึ่งทรัพย์สมบัติและปราบมาร ปราบอุปสรรคทั้งปวง อีกทั้งยังปกป้องคุ้มครองผู้บูชาให้แคล้วคลาดปลอดภัยอีกด้วย จำนวนการสร้าง 100 องค์เท่านั้นครับ
    บูชา 3,000.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม

    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2017
  18. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    ล็อกเก็ตพระศิวะมหาเทพ ครูภูม พันพราย
    พระศิวะ แปลว่า ผู้เปี่ยมด้วยความกรุณาในการชุบชีวิตต่างๆ ให้บริสุทธิ์ พระองค์คือมหาโยคีจอมราชาของเหล่าทวยเทพและมุนีทั้งปวง อันประกอบไปด้วยบรรดาฤาษี โยคี มุนี ดาบส ฯลฯ

    ตำนานระบุว่า พระศิวะเกิดจากพระเวทและพระธรรมที่ช่วยกันเนรมิตพระองค์ขึ้นมาเพื่อสร้างโลกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่โลกได้ละลายกลายเป็นอากาศมาช้านาน โดยมอบฤทธิ์อำนาจให้พระศิวะมีอิทธิฤทธิ์สูงสุด สามารถประทานพรให้กับบุคคลใดก็ได้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง มีความกรุณาต่อทุกชีวิตในไตรโลก ไม่ว่า อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ อสูร เทวดา พญานาค นางอัปสร หรือคนธรรพ์ ฯลฯ ผู้ที่รับพรนั้นๆ ไป ก็มีฤทธิ์เป็นไปตามพรของพระศิวะทุกประการทั้งสิ้น
    พระศิวะทรงมีเอกอัครมเหสีคู่พระทัยคือ พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี หรือพระอุมาเทวี หรือชาวฮินดูนิยมเรียกกันว่า พระนางปาราวตี ซึ่งเป็นอิตถีเทพที่งดงามยิ่งนัก และยังเป็นเทพเทวีที่มีผู้คนนิยมบวงสรวงบูชามากมายกว่าเทพนารีองค์อื่นๆ พระแม่อุมามหาเทวีปรากฏอยู่ในทุกคัมภีร์ทุกตำรา ด้วยเพราะพระศิวะนั้นไม่ปรากฏว่าจะมีพระชายาอีกมากมายดังมหาเทพองค์อื่น ๆ
    พระศิวะทรงเป็นพระบิดาของพระพิฆเนศวรและพระขันธกุมาร พระโอรส 2 พระองค์นี้ประสูติจากพระแม่อุมา อัครมเหสีคู่บารมี

    พระศิวะมียังพระชายาคู่บารมีอีก 2 พระนาง คือ พระคงคาและพระนางสนธยา
    พระแม่คงคาซึ่งเป็นพระพี่นางของพระแม่อุมามหาเทวี อัครมเหสีของพระศิวะนั้น แต่เดิมก็เป็นพระชายาองค์รองๆ ของพระนารายณ์หรือพระวิษณุ ซึ่งเมื่อได้มีเรื่องมีราวขัดแย้งบาดหมางกันระหว่างบรรดาพระชายาพระวิษณุ จนก่อเหตุให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญใจ พระวิษณุจึงได้นำพระแม่คงคามาถวายให้เป็นพระชายาของพระศิวะ
    ส่วนพระนางสนธยานั้นเป็นธิดาของพระพรหม มหาเทพอีกพระองค์หนึ่ง ซึ่งมีความผิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนเป็นเหตุให้พระพรหมผู้เป็นบิดาทรงกริ้วนัก และปรารถนาที่จะลงโทษพระธิดาสนธยาอย่างหนัก ซึ่งพระธิดาก็เกรงกลัวที่จะถูกลงโทษทัณฑ์ จึงได้แปลงกายเป็นนางเนื้อหลบลี้หนีพระบิดาไปเสีย พระพรหมเองก็ไม่ยอมลดละ ด้วยความกริ้วถึงกับนิรมิตองค์เป็นกวางตามนางเนื้อไปในทันที พระศิวะได้ทรงบังเอิญมาพบเห็นเข้า จึงได้มีความเห็นใจพระธิดาสนธยา ครั้นจะห้ามปรามพระพรหมผู้เป็นบิดาของพระนางสนธยาก็ดูจะกระไรอยู่ จึงได้ยับยั้งความกริ้วของพระพรหมในครั้งนั้นด้วยการแผลงศรไปถูกเศียรกวางขาดกระเด็น เมื่อพระพรหมกลับคืนมาสู่ร่างเดิมจึงได้คลายความโกรธ และพระศิวะก็ได้พูดคุยกับพระพรหมให้ยกโทษให้กับพระธิดา และการขออภัยโทษแก่พระนางสนธยานั้นคงจะไม่เป็นการสำเร็จได้โดยง่าย พระศิวะจึงได้ใช้วิธีทูลขอพระนางสนธยามาเป็นพระชายา ด้วยความเกรงอกเกรงใจกัน พระพรหมจึงได้ยินดียกพระธิดาให้ไปเป็นพระชายาของพระศิวะ ด้วยเหตุนี้เองที่พระธิดาสนธยาจึงไม่ต้องถูกพระบิดาลงโทษ
    ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าการที่มีพระชายาเพิ่มขึ้นมานั้น ไม่ได้เป็นเพราะพระศิวะออกไปแสวงหาด้วยความมากรักหลายใจแต่อย่างใด
    พระศิวะไว้ผมยาวสลวย มีพระพักตร์งดงามคมคายมากกว่าเทพพระองค์ใด สังเกตจากภาพเขียนของอินเดีย จะให้ความสำคัญกับพระองค์ค่อนข้างมากในเรื่องนี้ ทรงแต่งพระองค์แบบธรรมดาสามัญ ทรงฉลองพระองค์ง่ายๆ สบายๆ แบบกันเองเหมือนไม่ทรงถือตัว เช่น นุ่งผ้าเตี่ยวห่มหนังเสือหรือหนังกวางเพียงผืนเดียว ห้อยลูกประคำที่ทำจากเม็ดรุทรากษะ มีพญางูพันพระศอ และสร้อยสังวาลเป็นรูปหัวกะโหลก จึงได้รับความนิยมจากศิลปินแห่งโลกตะวันตกรวมทั้งศิลปินไทย เช่น นักดนตรีในยุคซิกส์ตี้-เซเว่นตี้ โดยเฉพาะพวกบุปผาชนที่แอนตี้สงครามและใฝ่หาเสรีภาพต่างศรัทธาและบูชาพระองค์ เป็นเสมือนฮีโร่ในดวงใจ

    พระองค์มีดวงเนตรที่สาม จะลืมพระเนตรขึ้นก็ต่อเมื่อมีเหตุอันสำคัญเกิดขึ้นที่พระองค์จะต้องลงมือปราบปรามหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ลุล่วง ตรีเนตรหรือดวงเนตรที่สามนี้ สามารถเผาผลาญทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าให้แหลกเป็นผุยผงไปได้ เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่พระศิวะประลองฤทธิ์กับพระนารายณ์ ไม่มีใครแพ้ชนะอย่างเด็ดขาด พระพรหมเห็นดังนั้น จึงเดินเข้าไปต่อว่าพระศิวะ หาว่าพระองค์ไม่สามารถปราบได้แม้กระทั่งมหาเทพที่พระองค์สร้างขึ้นมาเอง
    พระศิวะทรงพระพิโรธที่ถูกหยามหมิ่น จึงเผลอลืมเนตรที่สามขึ้น ทำให้เศียรข้างหนึ่งของพระพรหมมอดไหม้มลายไป มิอาจกลับคืนมาได้อีกเลย นับตั้งแต่นั้นจากเดิมที่พระพรหมมี 5 เศียร จึงเหลืออยู่เพียง 4 เศียร อย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน

    พระศิวะทรงเป็นเทพเจ้าแห่งพร 108 ประการ จะประทานให้กับผู้อื่นที่ทำความดีเท่านั้น พวกมิจฉาชีพอย่าไปขอพรท่านเข้าล่ะ ดีไม่ดีท่านอาจให้โทษได้ ถ้าสืบทราบมาว่าเป็นคนชั่วช้าเลวทราม ก็พระองค์คือเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างโลกที่โสมมนัสให้สะอาดแล้วสถาปนาขึ้นมาใหม่ เป็นมาอย่างนี้ชั่วกัปชั่วกัลป์ หากพระองค์ไม่ทรงลงมือเองก็ต้องมีพระนารายณ์ลงมาปราบยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ หรือไม่ก็พระแม่ทุรคา พระแม่กาลี พระชายาของพระองค์เองมาทำการปราบ
    ส่วนใครที่มีทุกข์ร้อนในเรื่องใดๆ ก็สามารถขอพรจากท่านให้พ้นทุกข์ได้ แต่ต้องปฏิบัติตนให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีเป็นพื้นฐาน หรือผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยอยากจะอาการทุเลาลงก็สามารถขอพรท่านได้
    นอกจากนี้ พระศิวะยังทรงเป็นบรมครูทางด้านนาฏยศาสตร์หรือนาฏศิลป์อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย ท่าร่ายรำ 108 ท่าของพระองค์ มีพระฤาษีภารตะมุนีเป็นผู้บันทึกไว้แล้วถ่ายทอดแก่ชาวโลก เรียกว่า “นากยัม” นับเป็นต้นแบบการร่ายรำของชมพูทวีปที่ถ่ายทอดไปสู่ดินแดนอื่นๆ
    หากคุณนึกถึงการร่ายรำเมื่อใด ต้องนึกถึงระบำแขกก่อน สาเหตุก็เพราะการร่ายรำของอินเดียมีลีลาที่เร้าใจ ได้อารมณ์สุนทรีย์ในเรื่องของท่าทาง การส่ายเอว ส่ายสะโพก เพราะว่าพวกเค้าสืบสานตำนานนาฏยศิลป์มาจากองค์พระศิวะ ดังที่มีคำนิยามว่า “พระผู้เขย่าจักรวาลด้วยการร่ายรำ”
    เครื่องบวงสรวง ได้แก่ ดอกดาวเรือง ธูปกำยาน นม เนย ใบพลู

    คาถาบูชา “โอม นะมะ ศิวายะ ศิวายะ นะมะ โอม ศิวายะ นะมะ โอม ศิวายะ ศิวะ ศิวะ ศิวะ ศิวายะ นะมะ โอม ฮาระ ฮาระ ฮาระ ฮาระ ฮารายะ นะมะ โอม”
    คาถาบูชาแบบย่อ “โอม นะมัส ศิวายะ”

    (ประวัติครูภูม พันพราย ท่านเป็นคนที่ชอบและเสาะแสวงหาวิชาในหลายสถานที่ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ท่านยังเดินทางไปเรียนวิชาจาก พม่า อินเดีย เนปาล ภูฏาณ ด้วยเหตุที่ทางบ้านท่าน เป็นครอบครัวที่มีฐานะในสังคมที่ร่ำรวย ประกอบกับตอนเกิดมารดาของครูได้ฝันว่า มีเทพรูปกายดำเหมือนนิลถือตรีศรู มาบอกว่าจะมา สร้างบารมีช่วยคน ตอนเกิดมาครูภูมมีปานรูปสามง่ามตรงหน้าผาก และพอท่านโตมาก็จางหายไป ในสายวิชาของท่านถามว่าท่านเน้นเรียนไปทางไหนเป็นพิเศษ คำตอบคือไม่มี เพราะท่านพยามที่จะรวบรวมสายวิชาในทุกๆ ที่ๆ ท่านพอจะรวบรวมและเรียนได้ แต่ส่วนมากท่านจะเน้นไปทางของสายแขกมายันอิสลาม เพราะครูใหญ่ที่ท่านให้ความนับถือ คือองค์บิดาศิวะและแม่ย่าใหญ่กาลี เวลาที่ครูจะทำอะไร ท่านจะเชิญทั้ง 2 พระองค์นี้ลงมาประสาทพรก่อนเป็นอันดับแรก วัตุถุธาตุของครูทุกชิ้น ท่านทำด้วยตัวท่านเองทุกขั้นตอน ลงทุนลงแรกและสร้างจำนวนไม่มาก คำที่ท่านพูดก่อนที่จะทำของออกมา คือ กูสร้างตามใจกู สร้างอันดับแรก คือ กูเก็บไว้ใช้เอง สนองความต้องการของกู และทดลองวิชาที่กูเรียนมา ส่วนใครจะชอบไม่ชอบ เช่าไม่เช่า กูไม่ได้สน เพราะกูเชื่อในครูที่กูเรียนมา และกูไม่เคยทำให้เดือดร้อนกระเป๋าใคร เวลาจัดสร้างเงินกูทั้งหมด นี้คือคำที่ครูตั้งมั่นในตนเองมาตลอด .......
    ด้วยเหตุที่ว่าท่านไม่ต้องการที่จะเปิดตัว หรือมานั่งรับแขก เพราะท่านบอกว่า เราเป็นอย่างนี้ก็สุขแล้ว เราจะเป็นนิรนามของเราต่อไป การใช้ของอย่านึกถึงเรา แต่จงนึกถึงพ่อแม่ที่ให้มึงเกิดมา และนึกถึง แรงแห่งครูบิดาศิวะ แม่ย่ากาลี องค์บรมครู ปู่องค์พระฤาษี เป็นพอ จึงไม่จำเป็นที่จะมานึกถึงเรา เพราะเราก็เช่นเดียวกับท่านๆ ทั้งหลาย ยังหิว ยังอยาก ยังมีกิเลส วันใดที่หมดแล้วซึ่งเหล่านี้ ก็ค่อยให้มานึกถึงเราแล้วกันนะ

    บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    ล็อกเก็ตนางอัปสร ธิดาสวรรค์ ครูภูม พันพราย

    "ล็อกเก็ตนางอัปสร ธิดาสวรรค์" ครูภูมิ พันพราย ด้านหน้าเป็นรูป แห่งนางอัปสร ธิดาสวรรค์ สุดยอดนางแห่งมหาเสน่ห์อันเย้ายวนชวนให้หลงในบ่วงมหาเสน่ห์อย่างมิรู้ลืม มีแรงแห่งกามคุณหรือเสน่ห์ในตัวสูงเป็นอย่างยิ่ง เป็นที่ต้องตาแก่ผู้พบเห็น เทพเทวดาองค์ใดที่ได้อยู่ใกล้ๆ นาง ต่างพากันหลงใหลแย่งชิงมาเป็นของตน ตามตำราครูบาอาจารย์แต่กาลก่อน ในพระสูตรมีกล่าวไว้เรื่องของนางอลัมพุสาเทพอัปสร เป็นนางฟ้าในสวรรค์ที่สวยน้อยที่สุดในกลุ่มนางอัปสรด้วยกัน ผู้ทำให้อิสิงคาลดาบส ฤาษีผู้มีฌานสมาบัติแก่กล้า เมื่อได้พบนางครั้งแรกถึงกลับหลงรักจนตบะแตก จนเป็นที่มาของฤาษีตบะแตกเลยทีเดียว
    การที่จะทำให้ฤาษีตบะแตกได้ แสดงว่านางต้องมีเสน่ห์มากมายเหลือล้นจนฤาษีหลงใหลคลั่งไคล้
    ล็อกเก็ตด้านหน้ารูปนางอัปสรนี้ ล้อมรอบด้วยมหายันต์เทวะนาครี ยันต์มหาเสน่ห์สายแขก ส่วนด้านหลังปิดด้วยผงมวลสารทางมหาเสน่ห์ เช่น ผงว่านดอกทอง ผงดอกไม้บูชาแม่อัปสร ผงนะอ่อนใจ ผง 7เทวดา 7 นางฟ้า ฝังขวดน้ำมันพรายแม่เหมยฟ้านางพรายในตำนาน ฝังตะกรุดนะดอกทอง และตะกรุดจินดามณี (ตะกรุดจินดามณี คือ ตะกรุดที่ลงด้วยคาถาที่เรียกโชคลาภมิขาดสายดั่งพระสังข์เรียกเนื้อร้อยป่า เรียกปลาร้อยน้ำนั่นเอง)
    ล็อกเก็ตนี้จึงดีทั้งด้านเสน่ห์เมตตามหานิยมแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างที่สุด และด้านโชคลาภไม่ขาดสาย อุดมด้วยโภคทรัพย์ ทำมาหากินคล่อง เงินทองไหลมาเทมา ไม่อดหยากลำบากแต่ประการใด
    (ประวัติครูภูม พันพราย ท่านเป็นคนที่ชอบและเสาะแสวงหาวิชาในหลายสถานที่ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ท่านยังเดินทางไปเรียนวิชาจาก พม่า อินเดีย เนปาล ภูฏาณ ด้วยเหตุที่ทางบ้านท่าน เป็นครอบครัวที่มีฐานะในสังคมที่ร่ำรวย ประกอบกับตอนเกิดมารดาของครูได้ฝันว่า มีเทพรูปกายดำเหมือนนิลถือตรีศรู มาบอกว่าจะมา สร้างบารมีช่วยคน ตอนเกิดมาครูภูมมีปานรูปสามง่ามตรงหน้าผาก และพอท่านโตมาก็จางหายไป ในสายวิชาของท่านถามว่าท่านเน้นเรียนไปทางไหนเป็นพิเศษ คำตอบคือไม่มี เพราะท่านพยามที่จะรวบรวมสายวิชาในทุกๆ ที่ๆ ท่านพอจะรวบรวมและเรียนได้ แต่ส่วนมากท่านจะเน้นไปทางของสายแขกมายันอิสลาม เพราะครูใหญ่ที่ท่านให้ความนับถือ คือองค์บิดาศิวะและแม่ย่าใหญ่กาลี เวลาที่ครูจะทำอะไร ท่านจะเชิญทั้ง 2 พระองค์นี้ลงมาประสาทพรก่อนเป็นอันดับแรก วัตุถุธาตุของครูทุกชิ้น ท่านทำด้วยตัวท่านเองทุกขั้นตอน ลงทุนลงแรกและสร้างจำนวนไม่มาก คำที่ท่านพูดก่อนที่จะทำของออกมา คือ กูสร้างตามใจกู สร้างอันดับแรก คือ กูเก็บไว้ใช้เอง สนองความต้องการของกู และทดลองวิชาที่กูเรียนมา ส่วนใครจะชอบไม่ชอบ เช่าไม่เช่า กูไม่ได้สน เพราะกูเชื่อในครูที่กูเรียนมา และกูไม่เคยทำให้เดือดร้อนกระเป๋าใคร เวลาจัดสร้างเงินกูทั้งหมด นี้คือคำที่ครูตั้งมั่นในตนเองมาตลอด .......
    ด้วยเหตุที่ว่าท่านไม่ต้องการที่จะเปิดตัว หรือมานั่งรับแขก เพราะท่านบอกว่า เราเป็นอย่างนี้ก็สุขแล้ว เราจะเป็นนิรนามของเราต่อไป การใช้ของอย่านึกถึงเรา แต่จงนึกถึงพ่อแม่ที่ให้มึงเกิดมา และนึกถึง แรงแห่งครูบิดาศิวะ แม่ย่ากาลี องค์บรมครู ปู่องค์พระฤาษี เป็นพอ จึงไม่จำเป็นที่จะมานึกถึงเรา เพราะเราก็เช่นเดียวกับท่านๆ ทั้งหลาย ยังหิว ยังอยาก ยังมีกิเลส วันใดที่หมดแล้วซึ่งเหล่านี้ ก็ค่อยให้มานึกถึงเราแล้วกันนะ)

    บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคาไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. ขุนพลาย

    ขุนพลาย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    7,047
    ค่าพลัง:
    +1,615
    ล็อกเก็ตสมิงนารี ครูภูม พันพราย
    "ล็อกเก็ตสมิงนารี" ครูภูม พันพราย ด้านหน้าล็อกเก็ตจำลองรูปของนางเสือสาวยั่วสวาท เจ้าแห่งพงไพร ล้อมรอบด้วยยันต์มหามนต์ทางเสน่ห์สายแขกมายาไว้ ด้านหลังอุดด้วยผงมวลสารว่านยาอาถรรพ์ทางมหาเสน่ห์และโชคลาภต่างๆ เช่น ผงนะอ่อนใจ ผงกามคุณ 9 ห้อง ผงนะดอกทอง ผงพราย 9 นางนี และฝังขวดน้ำมันอาถรรพ์ 3 ขวด ดังนี้
    ขวดที่ 1 ขวดน้ำมันพรายแม่จิริยา และแม่ทองดี
    ขวดที่ 2 ฝังขวดน้ำมันว่านไก่แดง เด่นในด้านของโชคลาภ เรื่องทำมาหากิน ทำให้ซื้อง่ายขายคล่อง เงินทองไม่ขาดมือ

    ขวดที่ 3 ขวดผงหัวเชื้อด้านมหาเสน่ห์ เป็นผงเก่าด้านมหาเสน่ห์ของครูบาอาจารย์ต่างๆ นำมาปั้นเป็นแท่งแล้วนำผงนั้นมาเขียนตัวยันต์ทางมหาเสน่ห์ และลบผงมาบรรจุใส่ขวด
    นอกจากนี้ด้านหลังยังบรรจุด้วย
    1.ตะกรุดดวงใจมายา
    2.ตะกรุดนางหลงเงา
    3.ชิ้นอาถรรพ์
    4.พลอยนาคา

    "ล็อกเก็ตสมิงนารี" ครูภูม พันพราย ใช้เป็นเสน่ห์เมตตา มหานิยม เรียกจิต และสุดแต่ใจปรารถนา ผู้ใช้อธิฐานจิตเอาเองเถิด ล็อกเก็ตสมิงนารีนี้ไม่เน้นเซ่น แต่ขอให้หมั่นทำบุญให้กับดวงจิตในเครื่องรางเป็นพอ
    บูชา 5,500.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
    โทร.081-661-9989, 083-956-6942
    Email:kobsub@hotmail.com
    LINE ID:kobsub
    นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครปฐม
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...