เสียงธรรม เข้าใจธรรมดาของโลก / หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ในห้อง 'ธรรมเทศนาทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 4 กรกฎาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ทำบุญ อนุโมทนาบุญ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๔ พ.ย. ๒๕๖๑ (ไฟล์ 611104A ซีดี ๗๙)

    Dhamma.com
    Dec 19, 2018

    อนุโมทนา คือยินดีที่เขาทำความดี ถ้าเรายินดีที่เขาทำความดี เราก็ได้บุญ ในส่วนของคนทำดี ถ้าทำแล้วใจกว้าง ก็ได้บุญเยอะ เป็นบุญซ้อนเข้าไปอีก อย่างเราทำดีอะไรมา เราไปบอกคนซึ่งเราคิดว่า ถ้าเขารู้แล้วเขาจะยินดี เราไปบอกเขาให้อนุโมทนาบุญ เขายินดี เขาก็ได้บุญด้วย เราเป็นคนบอก เราก็ได้ด้วย บางคนทำบุญแล้วใจแคบ ไม่อยากบอกคนอื่น กลัวบุญจะถูกแบ่ง บุญไม่ได้กะพร่องกะแพร่ง อนาถาแบบนั้น เวลาเราทำบุญ เหมือนเราจุดเทียนขึ้นเล่มหนึ่ง แล้วเราบอกให้คนอนุโมทนา เหมือนเขาต่อเทียน เอาเทียนมาต่อไฟจากเรา แสงสว่างในภาพรวมมันเพิ่มขึ้น พลังของบุญมันแรงขึ้น ทีแรกแสงของเราริบหรี่ ๆ เราก็ชื่นใจ ดีกว่าไม่มีแสงเลย คราวนี้สว่าง ทุกคนมีเทียนคนละเล่ม ใจเราเบิกบาน --
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา วันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (วันทอดกฐิน) ไฟล์ 611104A ซีดีแผ่นที่ ๗๙
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    อสุรกายเป็นที่พึ่งของเราไม่ได้ :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 19 ส.ค. 2566

    Dhamma.com
    Aug 18, 2023
    อสุรกายเป็นที่พึ่งของเราไม่ได้ :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 19 ส.ค. 2566

    คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ เรามีผลประโยชน์เป็นสรณะ คนในโลกนี้ เขาไหว้หมด ยุคโบราณเขาไหว้ภูเขา ไหว้แม่น้ำ ไหว้ต้นไม้ เดี๋ยวนี้ยังไหว้ต้นไม้อยู่ ขุดเจอตอไม้ก็เอามาไหว้กัน หรือถูหาเลข แล้วก็มโนไหว้โน้นไหว้นี้ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จักจบหรอก ถ้าเราสังเกตให้ดีเราจะเห็น มันจะมีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมาให้เราไหว้เรื่อยๆ ยุคหนึ่งก็ไหว้จตุคาม มาถึงวันนี้ไหว้อสุรกาย มันไปกันใหญ่แล้ว ทำไมคนต้องเที่ยวหาที่พึ่งภายนอก เพราะว่าไม่สามารถพึ่งตัวเองได้ ใจมันอ่อนแอ
    การพึ่งตัวเองแล้วเรียนรู้ตัวเองไป ตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าท่านสอน ที่พระอรหันตสาวกท่านสอน ลงมือปฏิบัติไป จนกระทั่งเรารู้ธรรมชาติทั้งหลาย มันเป็นไปตามเหตุ สิ่งทั้งหลายเกิดจากเหตุ ถ้าเหตุดับสิ่งนั้นก็ดับ ถ้าไม่มีเหตุสิ่งนั้นมันก็ไม่เกิด เราภาวนาเรื่อยๆ เราจะเห็น สิ่งทั้งหลายมีเหตุมันก็เกิด หมดเหตุมันก็ดับ บังคับมันไม่ได้
    อย่างเราจะมีความสุข หรือเราจะมีความทุกข์ เราจะไปร้องขอให้เทวดาช่วยเราไม่ให้ทุกข์หรือ ไปขออสุรกายช่วยให้เรามีความสุข เขาเหล่านั้นก็มีความทุกข์ ไม่ได้ต่างกับเราหรอก เทวดาเขาก็ทุกข์อย่างเทวดา ผีมันก็ทุกข์อย่างผี สัตว์นรกมันก็ทุกข์อย่างสัตว์นรก สัตว์เดรัจฉานมันก็ทุกข์ ทุกข์มากๆ เลย เขาจะมาเป็นที่พึ่งที่อาศัยของเราได้อย่างไร เขาเองยังทุกข์อยู่ เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนให้เราไปดูถูกคนอื่น ดูถูกเทวดา พรหม หรือภูติผีปีศาจอะไร ท่านสอนให้เรามองเขาในฐานะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมทุกข์ คือยังทุกข์อยู่ด้วยกัน เหมือนเพื่อนเรายังลำบากมาก เราก็ยังพยายามไปเรียก ให้เขาช่วยโน่นช่วยนี่อีก มันไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลย อย่างพวกอสุรกายมันลำบากมาก เราก็จะไปไหว้ จะเอาตัวอะไรไปบูชายัญอะไรอย่างนี้ หวังจะให้ช่วยเรา มันยังช่วยตัวเองไม่ได้เลย
    เพราะฉะนั้นเลิก ชาวพุทธเราต้องเลิกที่จะเอาสิ่งอื่นมาเป็นที่พึ่งของเรา เราต้องเอาธรรมะเป็นที่พึ่ง เรียนรู้ธรรมะไป เข้าใจวิธีปฏิบัติแล้วลงมือปฏิบัติ ปฏิบัติธรรมให้สมควรแก่ธรรม แค่ไหนสมควร ก็ปฏิบัติเต็มสติเต็มกำลังของเรานั่นล่ะ เรียกว่าปฏิบัติโดยสมควร ถ้าเราปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ธรรมะนั้นจะคุ้มครองเรา
    หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    19 สิงหาคม 2566

     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    มีศีลเป็นเครื่องป้องกันตัว :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 7 พ.ค. 2565

    Dhamma.com
    May 6, 2022
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    lppramojteaching.jpg
    หน้าที่ของเราคือแหกคุกให้ได้ :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 13 ส.ค. 2566

    Dhamma.com
    Aug 12, 2023
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    กถาวัตถุ 10 :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 1 พ.ค. 2565

    Dhamma.com
    May 4, 2022
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ศีลและสมาธิ เพื่อการเจริญปัญญา :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 20 ส.ค. 2566

    Dhamma.com
    Aug 19, 2023
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    วิปัสสนาไม่ดัดแปลงจิต :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 26 สิงหาคม 2566

    Dhamma.com
    Aug 25, 2023
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ใช้จิตประภัสสรไปเจริญปัญญา :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 27 สิงหาคม 2566

    Dhamma.com
    Aug 26, 2023
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    เมื่อไรเห็นทุกข์จะวางทุกข์ :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 2 กันยายน 2566

    Dhamma.com
    Sep 1, 2023
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    สัมมาวายามะ :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 กันยายน 2566

    Dhamma.com
    Sep 2, 2023

    สัมมาวายามะ ::
    หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 ก.ย. 2566
    เราทำต้นทางนี้ให้ดี มีสติอ่านจิตอ่านใจตัวเองไปเรื่อยๆ กุศลเกิดก็รู้ อกุศลเกิดก็รู้ไป ไม่ต้องคาดหวังอะไร แล้วมันจะรู้ได้เร็วขึ้นๆ เพราะสติเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ มีความเพียรชอบ ทำให้มากเจริญให้มาก ก็จะทำให้สัมมาสติบริบูรณ์ ฉะนั้นคอยดูจิตดูใจตัวเองที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลไว้ให้มากๆ สติก็จะดี สมาธิก็จะสมบูรณ์ขึ้นมา แล้วต่อไปพอสมาธิเกิดแล้ว จะเห็นไตรลักษณ์ ลำพังสติ ไม่มีสัมมาสมาธิหนุนหลัง ยังไม่เห็นไตรลักษณ์ สติระลึกกาย เห็นอะไร เห็นกาย สติระลึกรู้เวทนา เห็นอะไร ก็เห็นเวทนา สติระลึกรู้กุศลอกุศล เห็นอะไร เห็นกุศล อกุศล แต่ถ้าจิตมีสัมมาสมาธิตั้งมั่น มันจะเห็นเลยว่ากายที่สติระลึกรู้ ไม่ใช่เรา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่เรา เวทนาที่สติระลึกรู้ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่เรา กุศลอกุศลที่จิตระลึกรู้ คือสังขารทั้งหลายไม่ใช่เราๆ ค่อยดูไป พอปัญญามันแก่รอบแล้วต่อไปวิมุตติมันก็เกิดเอง พระพุทธเจ้าสอนบอกว่า ไม่มีใครทำจิตให้บรรลุมรรค ผล นิพพานได้ จิตบรรลุมรรค ผล นิพพานได้ เมื่อศีล สมาธิ ปัญญาแก่รอบ ศีล สมาธิ ปัญญาแก่รอบ ต้องอาศัยการเจริญมรรคมีองค์ 8 นั่นล่ะ แต่พวกเราจะปฏิบัติทางดูจิต เราก็ตัดเข้ามาตรงสัมมาวายามะนี่เลย คอยรู้ทันกิเลสตัวเองไว้ เป็นการปฏิบัติที่ลัดสั้น
    หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    3 กันยายน 2566
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    อารมณ์บัญญัติ – อารมณ์ปรมัตถ์ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 26 ก.พ. 2565

    Dhamma.com
    Feb 27, 2022
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ศีลที่พระอริยะชมเชย :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๒๗ ม.ค. ๒๕๖๑ (610127A)

    Dhamma.com
    Feb 24, 2018
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    วิธีฟังธรรมให้ถึงธรรม :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 6 มิ.ย. 2564

    Dhamma.com
    Aug 5, 2021

    การฟังธรรมะจากครูบาอาจารย์ หรืออ่านพระไตรปิฎก เมื่อก่อนหลวงพ่อก็ทำ ทำเพื่อจะรู้วิธีที่จะเรียนรู้ธรรมะ วิธีที่จะเรียนรู้ธรรมะ ก็คือการที่คอยรู้ลงที่กายที่ใจของตัวเอง ธรรมะแสดงอยู่ที่กายที่ใจนี้ มีสติคอยรู้ลงไป มีจิตตั้งมั่น ไม่ถลำลงไปรู้ ในที่สุดปัญญาก็เกิด ร่างกายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จิตไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ฉะนั้นการที่เราฟังธรรมหรืออ่านธรรมะ เพื่อให้รู้วิธีปฏิบัติ วิธีปฏิบัติธรรม เรียนรู้ธรรมที่แท้จริง คือการเรียนรู้กาย เรียนรู้ใจ จะเรียนรู้กาย เรียนรู้ใจได้ ใจต้องมีความตั้งมั่น มีสมาธิ สติต้องระลึกลงในกาย สติต้องระลึกลงในใจ
    (2) เข้าใจแล้วนะ การฟังธรรมะไม่ต้องมาทุรนทุราย การที่ต้องดิ้นรนหาครูบาอาจารย์ก็เพื่อจะรู้วิธีปฏิบัติ การอ่านพระไตรปิฎกก็เพื่อจะรู้วิธีปฏิบัติ วิธีปฏิบัติธรรมก็คือการเรียนรู้กายรู้ใจของตัวเองอย่างที่มันเป็น มีเครื่องมือหลักๆ 2 ตัว คือ สัมมาสติกับสัมมาสมาธิ

    -- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม
    6 มิถุนายน 2564
    ไฟล์ 640606 ซีดีแผ่นที่ 90

     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    หนี้ต้องใช้ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๒๑ เม.ย. ๒๕๖๑ (ไฟล์ 610421B ซีดี ๗๖)

    Dhamma.com
    Jun 1, 2018

    (๑) กรรม เมื่อทำแล้วแก้ไม่ได้ การแก้กรรมไม่ใช่ศาสนาพุทธ เมื่อทำกรรมแล้ว ก็ต้องมีผล มีวิบาก ทางเดียวของเราก็คือ ทำกุศลใหม่ให้มากๆ พอกุศลใหม่มีกำลังกล้า มันให้ผล มันเจือจางผลของอกุศลเก่า เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ล้างกรรมได้ แต่ว่าเจือจางได้ ด้วยการทำกรรมใหม่ที่ดี
    (๒) กรรมเก่าไม่สำคัญ ที่สำคัญที่สุดคือกรรมปัจจุบันนี้ ทำกรรมดีไว้ แล้วมันจะดี --

    พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๑
    ไฟล์ 610421B ซีดีแผ่นที่ ๗๖
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    อ่านจิตตนเอง :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 9 ก.ย. 2566

    Dhamma.com
    Sep 11, 2023

    อ่านจิตตนเอง :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    9 ก.ย. 2566
    การที่เราอ่านจิตตนเอง ไม่ใช่แค่จะได้สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ ไม่ได้แค่สัมมาวายามะ แต่สติของเราจะเข้มแข็งมากขึ้นๆ ทีแรกต้องโกรธแรงๆ ถึงจะรู้ ต่อไปขัดใจเล็กๆ ก็เห็นแล้ว สติเราพัฒนาแล้ว ทีแรกต้องมีราคะรุนแรงถึงจะรู้ ต่อไปใจโลภนิดเดียว แค่อยากเห็นรูป ก็เห็นแล้ว อย่างเรานั่งอยู่ ได้ยินเสียงอะไรแว่วๆ เราอยากฟัง อยากหันหน้าไปดู เราก็รู้ทัน เรารู้ได้ละเอียดขึ้นๆ สติเราเร็วขึ้นๆ นั่นล่ะเป็นสัมมาสติ สามารถระลึกได้โดยที่ไม่ได้เจตนาระลึก ถ้าจงใจระลึกมันเจือด้วยโลภเจตนา สติตัวจริงไม่เกิดหรอก เพราะสติไม่เกิดร่วมกับอกุศล เพราะฉะนั้นเราจงใจให้มีสติ ตั้งใจให้มีสติ สติจะไม่เกิด สติเกิดจากเราคอยดูสภาวะไปเรื่อยๆ จิตจำสภาวะได้แล้วสติเกิดเอง อย่างเราไปเห็นโกรธบ่อยๆ ต่อไปพอโกรธปุ๊บ สติเกิดเองเลย รู้ทันว่าตอนนี้โกรธแล้ว รู้ทันว่าโลภแล้ว รู้ทันว่าหลงแล้ว รู้ทันว่าอยากขยับตัวแล้ว รู้ทันว่าอยากโน้นอยากนี้แล้ว คอยรู้ทัน นี้สติ ทุกครั้งที่สติเกิด สัมมาสติเกิด สัมมาสมาธิจะเกิดร่วมด้วยเสมอ หลวงพ่อเริ่มที่เข้าใจสิ่งต่างๆ ขึ้นมานี้ เริ่มมาจากประโยคเดียว “อ่านหนังสือมามากแล้ว ต่อไปนี้อ่านจิตตนเอง” เห็นไหม การอ่านจิตตนเองครอบคลุมองค์มรรคทั้ง 8 ได้ การอ่านจิตตนเองนั้น คือการเรียนรู้ทุกข์นั่นเอง รู้ทุกข์แจ่มแจ้งเมื่อไรก็ละสมุทัย แจ้งนิโรธ เกิดอริยมรรคอัตโนมัติ ไปฝึกเอา ไปทำเอา ไม่มีใครช่วยใครได้หรอก
    หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    9 กันยายน 2566
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ธาตุ 6 :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 10 ก.ย. 2566

    Dhamma.com
    Sep 9, 2023
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    วิมุตติเกิดเมื่อเห็นไตรลักษณ์มากพอ :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 17 ก.ย. 2566

    Dhamma.com
    Sep 18, 2023
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    วิธีจัดการกับความฟุ้งซ่าน :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 16 ก.ย. 2566

    Dhamma.com
    Sep 15, 2023

    วิธีจัดการกับความฟุ้งซ่าน :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 16 ก.ย. 2566 เวลาเราภาวนาแล้วจิตเราไม่สงบ เราพยายามจะให้สงบ ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ มันยิ่งฟุ้งซ่าน ตรงที่อยากทำแล้วก็ดิ้นรนทำ จะทำให้ฟุ้งซ่านมากขึ้น แต่ถ้าเราตัดที่ต้นตอของมัน เรารู้ จิตฟุ้งซ่านเราไม่ชอบ รู้ว่าไม่ชอบ ความไม่ชอบดับ จิตเป็นกลาง พอจิตเป็นกลาง ความฟุ้งซ่านทนอยู่ไม่ได้ มันดับขาดสะบั้นทันทีเลย พอจิตเป็นกลางได้ มันตั้งมั่นอัตโนมัติอยู่แล้ว มันตั้งมั่น มันเป็นกลางขึ้นมา ก็เอื้อให้เกิดปัญญา ปัญญาทำหน้าที่ตัดสิ่งที่ไม่ดีออกไป อย่างความฟุ้งซ่านอย่างนี้ พอความฟุ้งซ่านเกิด สติรู้ทัน จิตตั้งมั่น จิตเป็นกลาง จะเกิดปัญญา ปัญญาก็ตัดความฟุ้งซ่านขาดสะบั้นออกไป จิตก็ตั้งมั่น สงบ เด่นดวงอยู่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องพยายามทำจิตให้สงบ ไม่ต้องทำจิตให้ตั้งมั่น ให้รู้ทันเวลามันไม่สงบ เวลามันไม่ตั้งมั่น พอรู้ทันแล้วสังเกตลงไป จิตยินดีให้รู้ทัน จิตยินร้ายให้รู้ทัน ถ้าเราถอดถอนความยินดียินร้ายเสียได้ ความดิ้นรนปรุงแต่งของจิตมันก็หยุด จิตมันก็สงบ ตั้งมั่น เด่นดวง เป็นกลาง ง่าย ง่ายมาก แต่ถ้าเราไม่รู้วิธี โอ๊ย ยาก อย่างจิตเราฟุ้งซ่าน ไปนั่งสมาธิไปเดินจงกรม เมื่อไรมันจะสงบ เขาฝึกสมาธิก็ฝึกกันเป็นสิบๆ ปี ถึงจะชำนิชำนาญ ไม่ทันกิเลสของคนรุ่นนี้ ฉะนั้นอาศัยสติรู้ทันลงไป จิตฟุ้งซ่าน รู้ทัน จิตยินร้ายต่อความฟุ้งซ่าน รู้ทัน แล้วจิตจะสงบเอง ตั้งมั่นเอง อันนี้คือการใช้ปัญญานำสมาธิ
    หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    16 กันยายน 2566
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    จิตเกิดดับสืบเนื่องกันอย่างรวดเร็ว :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 23 ก.ย. 2566

    Dhamma.com
    Sep 22, 2023
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,601
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047

แชร์หน้านี้

Loading...