เข้าฌาน แล้วระลึกชาติ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย Tamjugg, 9 ตุลาคม 2012.

  1. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ก็ไม่ต้องฝึกให้แจ้งในญานฌานและบุฟเพนิวาสานุสติก็ได้ผมไม่ได้บังคับท่านและผมไม่ใช่คนที่บัญญัติบุฟเพนิวาสานุสติขึ้นมา

    ไม่ต้องฝึกอยู่กับที่ดีแล้วไม่ต้องเหนื่อย พระอรหันต์เค้าฝึกกันไปทำไมไม่รู้เนอะ? เหอะๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  2. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    เพิ่งตอนลบคำถาม...ของนายไปไม่ทันไรกลับมาอีกแล้วนะอินทรบุตร

    ฝึกมาตั้งนานรู้ญานฌานบ้างไหม?

    เอาเวลาไปฝึกให้เก่งยังจะมีประโยชน์กว่ามาเที่ยวจับผิดติเตียนคนอื่น ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ได้ฌานแล้วนอกจากการอยู่่เป็นสุขในวิหารธรรมแล้ว การย้อนอดีตชาติสักเท่าไรก็ไม่หนีจากการไปดูได้เพียงเรื่องของขันต์5เก่าเท่านั้น สาธุๆ
     
  4. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    พระศาสดาเข้าบุฟเพนวาสานุสติในวันแรกเริ่มที่ตรัสรู้ทำไมหนอ ? คิดไม่ออกหนอ ?

    บรรลุอาสวักขยญานทีเดียว โดยที่ไม่ได้ญานอะไรไม่รู้อะไรได้ ? หรือเป็นไปตามลำดับ ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  5. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ส่วนเรื่องอรหันต์นั้นในพุทธกาลผู่้ที่ได้อภิญญานั้นมีน้อยมาก ผิดกับอรหันต์ที่ไม่ได้อภิญญามีมากมหาศาลนะครับ ท่านได้ก็ถือว่าดีครับอนุโมทนาด้วย แต่อย่าเข้าใจว่าอรหันต์นั้นจำเป็นต้องทรงอภิญญาครับ สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  6. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    พระองค์ทรงเป็นผู้รู้แจ้งมรรค เป็นผู้ฉลาดในมรรคท่านรู้ว่าท่านทำไปเพื่ออะไร ผมเป็นสาวกย่อมไม่รู้วิสัยของพระศาสดาอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเองเป็นผู้เข้าไปดูอดีตได้ ท่านย่อมรู้ว่าท่านรู้อะไรที่เป็นปัญญาที่เป็นเรื่องของการบรรลุธรรมได้บ้างครับ นอกจากเห็นขันต์5เก่าๆที่มันไม่ต่างจากมื้อวานที่ผ่านมาแล้วเท่านั้น แล้วก็เอามาเล่าให้กันฟัง จนงงไปงงมา สงสัยกันไม่รู้จักจบว่าิ้มันก็เรื่องของขันต์ทั้งนั้นจะมีอะไร แต่เอาเป็นเครื่องอยู่เพื่อความสงบสุขส่วนตัวก้น่าจะมีประโยชน์แก่ท่านนะครับ
     
  7. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    มืดมาแล้วก็ทำให้แจ้งไปมิใช่หรือเพื่อนพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย?

    ลืมบอกว่า วิปัสนากรรมฐานนี้ไม่ได้หยุดที่บุฟเพนิวาสานุสติเท่านั้น นี้เป็นเพียงญานแรกเท่านั้น ยังมีหลายๆญานสูงกว่านี้..... ลองไปอ่านอภิญญาของพระศิษย์พี่ดูยังไม่ต้องพูดถึงพระอาจารย์

    ส่วนสิ่งที่ผมได้ก็มาจากการฝึก4เดือนตอนเป็นพระเท่านั้น อภิญญาระดับโลกุตระเป็นยังไงต้องไปถามพระที่ฝึกไป25พรรษาที่วัดดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  8. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ฌานนี้นั้นเป็นโลกิยะญาณซึ่งจะเกิดก็ได้ไม่เกิดก็ได้ สำหรับคนที่สะสมมาเท่านั้นที่เกิดได้ง่าย คนที่ยังไม่เกิดก้ทำให้เกิดได้ แต่อรหันต์ที่เข้าได้ญาณที่ดับกิเลสแล้วท่านมักจะไม่ทำเพราะไม่มีประโชยน์แก่ท่านแล้ว เพราะท่านอยู่อย่างไรก็ได้ ทั้งสุขและทุกข์ท่านรับได้ ท่านเองท่านสะสมมาเกิดก็ดีมาก แต่อรหันต์นั้นบางองค์ก็เกิดบางองค์ก็ไม่เิกิดครับ แล้วแต่สะสมมา ไม่เป้นที่จำเป็นจะต้องทุกคนครับ และคนที่บรรลุธรรมแล้วเขาไม่ค่อยเน้นเรื่องนี้มาก จะเกิดหรือไม่เกิดเขาปล่อยตามเหตุปัจจัยครับ
     
  9. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029

    ในปรินิพพานสูตรที่ ๕ กล่าวถึงลำดับขั้นของการเข้าสู่นิโรธฌานสมาบัติเพื่อการดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ๙ ลำดับ ดังนี้
    ก่อนจะเสด็จปรินิพพาน พระพุทธเจ้าทรงทำปรินิพพานบริกรรมด้วยอนุปุพพวิหารสมาบัติทั้ง ๙ โดยอนุโลมเป็นลำดับดังนี้

    - ทรงเข้าปฐมฌานเป็นลำดับแรก
    - ออกจากปฐมฌาน แล้วเข้าทุติยฌาน
    - ออกจากทุติยฌาน แล้วเข้าตติยฌาน
    - ออกจากตติยฌาน แล้วเข้าจตุตถฌาน
    - ออกจากจตุตถฌาน แล้วเข้าอากาสานัญจายตนะ
    - ออกจากอากาสานัญจายตนะ แล้วเข้าวิญญาณัญจายตนะ
    - ออกจากวิญญาณัญจายตนะ แล้วเข้าอากิญจัญญายตนะ
    - ออกจากอากิญจัญญายตนะ แล้วเข้าเนวสัญญานาสัญญายตนะ
    - ออกจากเนวสัญญานาสัญญายตนะ แล้วเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ

    ซึ่งสัญญาเวทยิตนิโรธ อันเป็นฌานสมาบัติลำดับที่ ๙ นี้ มีอาการสงบที่สุด คือ ดับทั้งสัญญาและเวทนา หมดความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของสังขาร ไม่รู้สึกอะไรใดๆทั้งกายทั้งใจทุกประการ เป็นความสงบยิ่งกว่านอนหลับ แม้ลมหายใจเข้าออกก็หยุด ผู้ไม่คุ้นเคยกับสมาบัตินี้จึงคิดเห็นไปว่า พระพุทธองค์ทรงดับขันธ์ไปแล้ว ซึ่งในหมู่จำนวนหมู่พระอรหันต์ทั้งหมดที่แวดล้อมในขณะนั้น มีพระอนุรุทธองค์เดียวเท่านั้นที่เชี่ยวชาญในสมาบัติ ๘ นี้ใกล้เคียงกับพระพุทธเจ้าที่สุด จึงสามารถอนุโลมปฏิโลม ตามเสด็จดูพระพุทธองค์ในการเสด็จเข้าปรินิพพานได้ ดังนั้น พระอานนท์เถระเจ้าผู้นั่งเฝ้าดูอาการอยู่ตลอดทุกระยะ ได้เกิดวิตกจริตคิดว่า พระบรมศาสดาเสด็จนิพพานแล้วหรือยัง ซึ่งพระอนุรุทธก็ได้บอกว่าขณะนี้ พระบรมศาสดากำลังเสด็จอยู่ในสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติยังไม่ได้เสด็จนิพพาน

    ครั้นพระผู้มีพระภาคเสด็จอยู่ในสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติตามเวลาที่พระองค์ทรงกำหนดแล้ว ก็เสด็จออกจากสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ถอยเข้าฌาน ๘ คือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ออกจากเนวสัญญานาสัญญายตนะ แล้วถอยออกจากสมาบัตินั้นโดยปฏิโลมเป็นลำดับย้อนกลับขึ้นไปถึงปฐมฌานอีกครั้ง จากนั้นก็ทรงออกจากปฐมฌานแล้วทรงเข้าทุติยฌาน(ฌาน๒) อีกวาระหนึ่งออกจากทุติยฌานแล้วทรงเข้าตติยฌาน (ฌาน3) ออกจากตติยฌานแล้วทรงเข้า จตุตถฌาน ซึ่งการเจริญภาวนาจนถึงฌานระดับ ๔ นี้ จะมีความนิ่งสงบมาก จนรู้สึกว่าไม่มีลมหายใจ ซึ่งจริง ๆนั้นลมหายใจยังอยู่ แต่ว่าแผ่วเบามาก จนดูเหมือนไม่ได้หายใจแล้ว ที่เป็นดังนี้ก็เพราะกายกับจิตได้แยกกันในฌานนี้ ซึ่งพระพุทธองค์ก็ได้ทรงอุปามาระดับฌาน ๔ นี้ว่า "เปรียบเหมือนแม่น้ำคงคาไหลไปสู่ทิศตะวันออก หลั่งไปสู่ทิศตะวันออก บ่าไปสู่ทิศตะวันออกฉันใด ภิกษุเจริญพอกพูนซึ่งฌาน ๔ ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพาน ฉันนั้น" เมื่อทรงออกจากจตุตถฌานแล้ว ก็เสด็จปรินิพพานในบัดนั้น

    ทันทีที่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นนาถะของโลกได้เสด็จปรินิพพานแล้วก็บังเกิดเหตุมหัสจรรย์แผ่นดินไหว เสียงกลองทิพย์ก็บันลือลั่น กึกก้องด้วยสำเนียงสนั่นในนภากาศเป็นมหาโกลาหลในปัจฉิมกาล.

    นี่คือความเป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้า และพระอริยสาวกผู้เลิศ มีพระสารีบุตร ที่ปรินิพพานอย่าง
    นี้ครับ เพราะพระองค์ย่อมเสวยสุขด้วการเข้าสมาบัติจนครบ ๒๔ แสนโกฎิ ครับ



    .................................................................................

    ผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ครับ...
    จากเว็บ http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=19676



    และศาสนานี้บรรญัติวิสุทธิ7วิโมกข์8ไว้ทำไมนะ ?
    พึงระวังหรือไม่สำหรับท่านที่ยังไม่รู้อะไรเลยแม้ญานฌานแล้วบอกว่าตนบรรลุไม่มาเกิดอีกแล้ว ?
    ค่อยๆพิจารณาแต่พองามนะผู้เจริญในธรรมทั้งหลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  10. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ไม่ขอวิจารย์เรื่องวิสุทธิมรรค เพราะเป็นการเรียบเรียงแต่งใหม่ของสาวกรุ่นหลัง ซึ่งพระพุทธองค์ทรงห้ามไว้เรื่องแต่ใหม่ เปรียบเหมือยกองอานกะ
    ภิกษุทั้งหลาย ! เรื่องนี้เคยมีมาแลว : กลองศึกของกษัตริยพวกทสารหะ เรียกวา
    อานกะ มีอยู. เมื่อกลองอานกะนี้ มีแผลแตก หรือลิ, พวกกษัตริยทสารหะไดหาเนื้อไมอื่น
    ทําเปนลิ่ม เสริมลงในรอยแตกของกลองนั้น (ทุกคราวไป). ภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อเชื่อมปะเขา
    หลายครั้งหลายคราวเชนนั้นนานเขาก็ถึงสมัยหนึ่ง ซึ่งเนื้อไมเดิมของตัวกลองหมดสิ้นไป
    เหลืออยูแตเนื้อไมที่ทําเสริมเขาใหมเทานั้น;
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  11. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    จะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ตามสบายท่านเลยครับ อนุโมทนาในความสุขที่เกิดแต่ฌานเป็นความสุขที่ปราศจากอกุศล พระศาสดาก็ไม่ให้กลัวกับความสุขเหล่านี้ให้เสพให้มากด้วย แต่ใครไม่ทำก็ได้จะทำก็ได้ แล้วแต่กำลังสะสมมาครับ
     
  12. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    newamazing บอกวิสุทธิ7วิโมกข์8เป็นการเรียบเรียงแต่งใหม่ของสาวกรุ่นหลัง พระศาสดาเข้าออกฌานก่อนปรินิพานก็เป็นเรื่องแต่งอีก ? เหอะๆ เก่งจริงๆ

    ทุกข์เท่านั้นที่เกิดจริงๆ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  13. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมอธิบายโดยเป็นเนื้อแท้ของสัจจะธรรมว่ามันเป็นอย่างไร ไม่ได้โต้แย้งในเรื่งที่ท่านได้นะครับ ผมยังอิจฉาเลยผมเองก็อยากได้ทุกคนก็อยากได้ทั้งนั้นตราบใดที่ยังไม่บรรลุอนาคามี แต่ความอยากของปุถุชน กับความอยากของอริยชนมีกำลังต่างกันมากครับ ท่านได้เพราะท่านสะสมมา ผมอนุโมทนากับท่านอย่างจริงใจ และความจริงนั้นฌานนั้นมีประโยชน์มากดั่งที่ท่านยกมานั้นแหละ คนที่ได้จะรู้เองว่ารสชาติและประโยชน์นั้นมันอยู่ตรงไหน แต่สิ่งใดมีประโยชน์ก็มีโทษมากเหมือนกัน ถ้าผู้ที่ได้แล้วยังไม่เป็นอริยะบุคคลอย่างเช่นท่านเทวทัต ที่ได้แล้วก็ใช้ไม่เป็น ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งขึ้นนะครับจะได้เป็นเนื้อนาบุญแก่โลกต่อไปครับ อนุโมทนาครับ
     
  14. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านไม่เข้าใจเหตุผลที่พระศาสดาทรงห้ามการแต่งใหม่ทั้งหมดเพราะหตุใด ถึงจะเป็นการปราถนาดีอย่างไรพระองค์ก็ไม่ให้สาวกเรียบเรียงแต่งใหม่ ให้ใช้คำพระศาสดาเพียงอย่างเดียว สาวกต้องประกาสคำของพระศาสดาเีพียงอย่างเดียวครับ
     
  15. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    คำภีร์คือสิ่งที่แต่งขึ้นเรียบเรียงขึ้น ฉะนั้นวิสุทธิมรรคนั้นเป็นสิ่งที่เรียบเรียงขึ้นใหม่โดยใชัถ่อยคำเก่ามีเรียบเรียง ซึ่งอาจจะทำให้มีความหมายผิดไปจากเดิมไม่มากก็น้อย พระองค์ทรงรู้เห็นโทษของการผิดไปของอรรถพยัญชนะเก่าๆที่ท่านได้แสดงไว้แล้ว เพราะท่านบอกว่าสิ่งที่ท่านได้กล่าวไว้ตั้งแต่วันแรกและวันสุดท้ายนั้นสมบูรณ์ด้วยอรรถพยัญชนะ เป็นอกาลิโก สาวกห้ามแต่งใหม่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ฉนั้นผมจึงไม่ตอบท่านในประดเด็นนี้ครับ
     
  16. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    แต่การเข้าออกฌานก่อนปรินิพานเป็นเรื่องแต่งหรือเรื่องจริงนะ ที่ท่านnewamzingว่า ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ถ้าท่านยกการข้าออกฌานมา ผมก็จะกล่าวเป็น การที่พระองค์ทรงทำอะไรได้มากมายเหนือวิสัยเรานั้นจะด้วยเหตุผลอะไรนั้น เราไม่ต้องพยายามรู้ทุกเรื่องก็ได้ครับ เพราะปัญญาเรานั้นอาจไปไม่ถึง

    แต่เราศึกษาธรรมวินัยของพระองค์นั้น เราต้องยอมรับว่าแต่รละคนสะสมมาำไม่เหมือนกันแม้กระทั้งอรหันต์ในธรรมวินัยของพระองค์ในพุทธกาลนั้น ยังมีความสามารถแตกต่างกัน บางองค์ได้อภิญญาบ้าง บางองค์ไม่ได้บ้าง คนที่ได้ก็ถือว่าดีมีสุขในปัจจุบัน เพราะฌานนั้นให้ความสุขในปัจจุบัน

    แต่คนที่ไม่ได้สะสมมาก็จะทำอย่างไรเล่า พระอริยเจ้านั้นไม่ขนขวายมากนักได้ก็ดีไม่ได้ก็ดี ส่วนเรื่องที่พระอรหันต์ที่ได้นั้นก็ทำกันได้ทั้งนั้นจะเข้าจะออกฌานจะดูอดีตสักกี่ชาติเพื่ออะไรนั้นก็สุดแล้วแต่ท่านก็ทำได้ทั้งนั้นไม่เป็นโทษแก่ท่านแล้วเพราะอาสาวะสิ้นแล้วทั้งนั้น แต่คนที่ได้ฌานแล้วยังไม่ได้เป็นอริยบุคคลนัน้มีโทษดั่งที่ผมได้ยกตัวอย่างไปว่ามีภิกษุที่เพลินดูอดีตชาติเป็น100ปีดูได้เป็นแสนกัปล์ เผล ตายเปล่าเลย อดเป็นอริยบุคคลเลย ไปเกิดเป็นพรหม ซึ่งก้ยังไม่พ้นเปรต พ้นนรกเลย มันน่าเสียดายมั้ยครับ ท่านเองก็โชคดีแล้วที่ได้สะสมมา ขอท่านเดินต่อยิ่งๆขึ้นไปอนุโมทนาครับ
     
  18. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    คือคุณบอกว่าวิสุทธิ7กับวิโมก8เป็นการแต่งขึ้นของพระรุ่นหลัง ผมเลยถามต่อว่าการปรินิพานของพระบรมศาสดาเข้าออกฌานเป็นเรื่องแต่งของพระรุ่นหลังไหมเท่านั้น? คุณใช้วิธีไหนแยกว่าอันไหนพระรุ่นหลังแต่งคุณnewamazing? ผมไม่ได้ว่าอะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  19. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ตำราพระไตรปิฎหทั้งหมดล้วนอ้างเอามาจากตำราที่เก่าแก่ที่สุดคือ บาลีสยามรัฐเท่าที่โลกเราจะมี แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว วิสุทธิมรรค และพระไตรปิฎกบางส่วนนั้นไม่มีในวิสุทธิมรรค นั้นหมายความว่าสิ่งไหนไม่มีในบาลีสยามรัฐนั้น เป็นสิ่งแต่งขี้นใหม่ของสาวกรุ่นหลังๆครับ
     
  20. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    อุทยัพภยญาน ภังขยญาน สังขารุเบกขาญาน ปฐมฌาน จตุถฌาน... ใครกันหนอช่างกล้าแต่งหรือเราปรุงแต่งเอง?

    อย่าลืมว่ากองทัพเตริกเผามหาลัยนาลันทาหลายเดือนจนแทบหมด สิ่งที่เราอ่านนี้คือสิ่งที่ตกทอดมาบางส่วนเท่านั้น..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...