อย่าเลยพระพุทธเจ้า อย่าเลยครูอาจารย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปุณฑ์, 28 มีนาคม 2013.

  1. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ก็คงต้องไต่ถาม ไล่เลียง ขอคำสอน ท่านอ่ะนะ
    ข้อความที่ยังลี้ลับ จะได้เปิดเผย
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เอ่อ งง นิดนึง

    ไอ้ตรงที่อ้ายกระผม ทำตัวใหญ่ๆ ตรงนั้น ใครเขียนขึ้นใหม่ อะเป่า ครับ
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    พระพุทธบัญญัติห้ามสวมรองเท้าสีต่างๆ
    [๖] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์สวมรองเท้าสีเขียวล้วน .... สวมรองเท้าสีเหลือง
    ล้วน .... สวมรองเท้าสีแดงล้วน .... สวมรองเท้าสีบานเย็นล้วน .... สวมรองเท้าสีดำล้วน .... สวมรองเท้า
    สีแสดล้วน .... สวมรองเท้าสีชมพูล้วน ชาวบ้านพากันเพ่งโทษ ติเตียน

    สีเขียวกับดำแยกกันอยู่แลวจ๊ะ พุทธวจนสว่างไสวไม่ดีตรงไหนจ๊ะถึงโต้แย้งเพื่อจะใหฟังคำสาวกอริยสัจ สาวกเป็นผู้เิดนตามนะแต่งไม่ได้ชัวร์ป๊าดเลย
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456

    เอ้าๆ ไปกันใหญ่แล้ว

    คนเขา ใช้เทคนิคการใส่สี เพื่อ การอ้างอิง ประโยชน์ในการอธิบาย

    อีนี้ ไปงัด พระวินัยมา ทำอิหยัง
     
  5. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    อันนี้เป็นบท ภิกษุ ไม่ดื้อด้านแล้วจ๊ะ
    ก็คือเมื่อไตร่ตรองเป็นของนอกศาสนา ก็ไม่ตั้งจิต ไม่สนใจ
     
  6. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692

    พระพุทธบัญญัติห้ามสวมรองเท้าสีต่างๆ
    [๖] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคีย์สวมรองเท้าสีเขียวล้วน .... สวมรองเท้าสีเหลือง
    ล้วน .... สวมรองเท้าสีแดงล้วน .... สวมรองเท้าสีบานเย็นล้วน .... สวมรองเท้าสีดำล้วน .... สวมรองเท้า
    สีแสดล้วน .... สวมรองเท้าสีชมพูล้วน ชาวบ้านพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า เหมือนพวก
    คฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาค
    ทรงบัญญัติห้ามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงสวมรองเท้าสีเขียวล้วน ไม่พึงสวมรองเท้า
    สีเหลืองล้วน ไม่พึงสวมรองเท้าสีแดงล้วน ไม่พึงสวมรองเท้าสีบานเย็นล้วน ไม่พึงสวมรองเท้า
    สีดำล้วน ไม่พึงสวมรองเท้าสีแสดล้วน ไม่พึงสวมรองเท้าสีชมพูล้วน รูปใดสวม ต้องอาบัติ
    ทุกกฏ.

    http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=05&A=224&Z=248
     
  7. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    พุทธวจนมีประโยชน์จริงๆนะท่าน
     
  8. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ฮา นา ก้า . ..

    กินข้าว กินน้ำ ก่อนก็ได้นะ ท่าทาง จะมึนไปกันหมด
     
  9. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    5555+++เมาธรรมเหรอท่าน
     
  10. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    หมายถึง คนอื่นน่ะ อาทิ ลิงค์ในเม้นท์กับเรื่องที่มาพูด คนละเรื่อง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  11. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมนี่แหล่ะครับท่านไปแหล่ะ พุทธวจน นะจ๊ะ ไปแล้ว....
     
  12. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    [​IMG]
     
  13. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    พระไตรปิฎกมีประโยชน์จริงๆนะ อย่าแยกพุทธวจนะออกจากพระไตรปิฎกเลยท่าน

    ที่ถามไปครั้งนั้น เอาง่ายๆกว่านี้แล้วกัน
    ที่ท่านอ้างอิงพระไตรปิฎกว่า "ห้ามแต่งเติมคำสอนของพุทธองค์นั้น" อย่างไหนจึงเข้าพวกตามความหมายนั้น

    1) อริยสัจ4
    2) อริยสัจ 1+1+1+1
    3) อริยสัจ5
     
  14. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สมองผมน้อย ผมไม่เข้าใจคำถามท่านจริงๆ ขยายความหน่อยซิ
     
  15. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ข้อไหนคือนิยามของ การแต่งเติมคำสอนของพุทธองค์ครับ
     
  16. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัทที่ดื้อด้านไม่ได้รับการสอบถามแนะนำ
    เป็นไฉน ภิกษุในบริษัทใดในธรรมวินัยนี้ เมื่อผู้อื่นกล่าวพระสูตรที่ตถาคตภาษิต
    ไว้ซึ่งลึกล้ำ มีอรรถอันลึกล้ำ เป็นโลกุตระ ปฏิสังยุตด้วยสุญญตธรรม ไม่
    ตั้งใจฟังให้ดี ไม่เงี่ยหูลงสดับ ไม่เข้าไปตั้งจิตไว้เพื่อจะรู้ทั่วถึง

    อนึ่ง ภิกษุเหล่านั้นไม่เข้าใจธรรมที่ตน"ควรเล่าเรียนท่องขึ้นใจ"
    เมื่ิอไม่ศึกษาคำตถาคต. ย่อมไม่เข้าใจธรรมที่ตน ควรเล่าเรียน


    จะตีความได้มั้ยว่า
    1) ผู้ไม่แตกฉานในบาลี และหลีกเลี่ยงการอ่านบาลีต้นฉบับของพระไตีปิฎก คือ ผู้ดื้อด้านนี้
    2) ผู้ไม่เข้าถึงแก่นแห่งโลกุตระ แต่ยึดถือพยัญชนะแห่งโลกีย คือผู้ดื้อด้านนี้
     
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สมบูรณ์ด้วยอรรถและพยัญชนะ ท่านอ่านดีๆเอาแค่พยัญชนะก็พอ อรรถนั้นกาลเวลาล่วงมานานแล้วอาจจะมีคนไม่เข้าใจได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือพยัญชนะครับ แต่ก็เถอะท่านผมเข้าใจความจริงดี คำว่าอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกอย่างมีความเสื่อมในตัวมันเอง แต่เราๆท่านๆก็เลือกเอาเถอะครับจะดำเนินชีวิตอย่างไร ชีวิตเป็นของตนเองไม่มีใครไปบังคับอะไรได้ ผมก็ทำหน้าที่ของผมเท่าที่มันสมองจะมี
     
  18. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย ก็บริษัทที่ดื้อด้านไม่ได้รับการสอบถามแนะนำเป็นไฉน ภิกษุในบริษัทใดในธรรมวินัย
    นี้ เมื่อผู้อื่นกล่าวพระสูตรที่ตถาคตภาษิตไว้ซึ่งลึกล้ำ มีอรรถอันลึกล้ำ เป็นโลกุตระ ปฏิสังยุต
    ด้วยสุญญตธรรม ไม่ตั้งใจฟังให้ดี ไม่เงี่ยหูลงสดับ ไม่เข้าไปตั้งจิตไว้เพื่อจะรู้ทั่วถึง อนึ่ง ภิกษุ
    เหล่านั้นไม่เข้าใจธรรมที่ตนควรเล่าเรียนท่องขึ้นใจ แต่เมื่อผู้อื่นกล่าวพระสูตรที่กวีได้รจนาไว้
    เป็นคำกวี มีอักษรวิจิตร มีพยัญชนะวิจิตร มีในภายนอก ซึ่งสาวกได้ภาษิตไว้ ย่อมตั้งใจฟัง
    เป็นอย่างดี เงี่ยหูลงสดับ เข้าไปตั้งจิตไว้เพื่อจะรู้ทั่วถึงอนึ่ง ภิกษุเหล่านั้นย่อมเข้าใจธรรมที่
    ตนควรเล่าเรียน ท่องขึ้นใจ ภิกษุเหล่านั้นเรียนธรรมนั้นแล้ว ไม่สอบสวน ไม่เที่ยวไต่ถามกัน
    และกันว่า พยัญชนะนี้อย่างไร อรรถแห่งภาษิตนี้เป็นไฉน ภิกษุเหล่านั้นไม่เปิดเผยอรรถที่ลี้ลับ
    ไม่ทำอรรถที่ลึกซึ้งให้ตื้น และไม่บรรเทาความสงสัยในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยหลายอย่าง
    เสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัทนี้เรียกว่าบริษัทดื้อด้านไม่ได้รับการสอบถามแนะนำ
     
  19. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    คุยภาษาไทยกันอยู่รึเปล่าหนอ?

    เอ้าเอาแบบตรงๆ

    อริยสัจ4 คือ คำของพุทธองค์ ที่ปรากฏในพระไตรปิฎกใช่มั้ย

    แล้วหากมีผู้กล่าวว่า
    "ไม่มีหรอกอริยสัจ5น่ะ "
    1) อย่างนี้เรียกว่า คำของตถาคตหรือไม่ ?
    2) มีปรากฏในพระไตรปิฎกหรือไม่?
    3) พูดถูกหรือผิดจากพระไตรปิฎก?
     
  20. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านก็รู้ว่าอริยสัจ5มันไม่มีแค่ยกมาคุยกันสนุกๆคิดมากน่าท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...