อย่ามัวเก็งภัยพิบัติ จนลืมไปว่าสงครามโลกยังมีตัวเลขให้นับต่อไปได้อีก

อาบัติปาราชิก ที่ขาดจากพระ แม้ไม่เปล่งวาจาสึก ก็ถือว่าไม่ใช่พระแล้ว
มี 4 อย่าง ว่าง่ายๆ
1.เสพเมถุน
2.ลักทรัพย์
3.ฆ่าคน
4.อวดอุตริ

ที่เห็นๆส่วนมาก เวลาจับพระสึก มักไปเล็งเอาข้อแรก คือเสพเมถุน
ทั้งโยม ทั้งคณะสงฆ์ ก็ให้น้ำหนักข้อนี้เป็นหลัก
แต่ไอ้ข้อหานี้ ก็กลับเอาผิดพระได้ยากที่สุด
เพราะถ้าไม่คาหนังคาเขาจริงๆ ประเภทบุกจับในโรงแรม
ยังไม่เห็นจับสึกได้เลย ต่อให้มีรูป ยังว่าตัดต่อ

สองสามปีก่อน เพื่อนเราเอาเรื่องมาปรึกษาเรา ร้องเรียนว่าเจ้าอาวาสกระทำผิด
ส่งหนังสือไปคณะสงฆ์แล้ว เรื่องเหมือนจะไม่เป็นดั่งใจ

ข้อหานึง เสพเมถุนกับเด็กผู้ชาย ข้อหานี้ มีเด็กผู้ชายที่เสพเมถุนด้วยเป็นพยาน
อีกข้อหา เอาเงินวัดเข้ากระเป๋าตนเอง มีหลักฐานเป็นตัวเลข และบัญชี

เราบอกว่า ข้อหาแรก แม้ดูร้ายแรง หนักหนามาก ทั้งพระทั้งโยมมักไม่ยอม
แต่ถึงที่สุด พยานบุคคล ที่ร่วมกระทำผิดด้วย ถ้าสู้กันอาจรอดได้ เพราะสามารถอ้างว่า
ถูกใส่ร้าย พยานเท็จ เพราะไม่มีหลักฐาน รูปถ่ายหรือดีเอ็นเอ

ข้อหาที่สอง ว่ากันตามพระธรรมวินัยจริง เพียงลักทรัพย์เอาเป็นของตนแค่ 5 มาสก
หรือ 1 บาท ก็ขาดจากพระแล้ว และหลักฐานมันเป็นเอกสารหลอกกันไม่ได้
ถ้าข้อหานี้จะปาราชิกโดยแก้ตัวไม่ได้เลยล่ะ
เราบอกเขาไปว่า แต่น่าเสียดายที่ทางคณะสงฆ์หรือสังคมทั่วๆไป ไม่ให้ความสำคัญเรื่องแบบนี้
ดังนั้นคงเอาผิดยากอีกเหมือนกัน

จำได้ไหม วัดดังระดับประเทศ มีคดีเอาที่ดินเป็นชื่อตน
เรื่องถึงศาล ก่อนศาลพิพากษา รีบโอนคืนให้วัด
อัยการไม่ฟ้อง คณะสงฆ์ไม่เห็นทำอะไร
ทั้งๆที่คดีทางโลกหยุดไป
ก็ไม่เกี่ยวกับหลักธรรมของพระพุทธเจ้า
เมื่อเจตนาเอาเป็นของตน เอาทรัพย์สำเร็จแล้ว
ขาดจากพระแล้ว
ถึงเอามาคืน ก็ไม่ทำให้การขาดจากพระกลับคืนมา

สำหรับเรื่องร้องเรียนที่ว่า เราก็ได้ข่าวหลังจากนั้นอีกปี ว่าเงียบแล้ว
เอาผิดไม่ได้ เลยมาสองสามปี เราก็ไม่ได้ถาม เพราะคิดว่าคงเป็นไปตามคาดนั่นแล

 

อีกเรื่อง ที่คนทั่วไปมักมองข้ามทั้งๆที่ อาบัติประเภทนี้ จับสึกปาราชิกได้ง่ายมาก
และพระจำนวนไม่น้อยอาจทำผิดข้อนี้ ทั้งรู้และไม่รู้
คืออวดอุตริ หมายถึงโม้ว่าตนเองมีคุณวิเศษ ทั้งๆที่ไม่มี โดยเจตนาหวังให้คนยกย่อง

ประเภททำนายภัยพิบัติ โดยตนเองไม่รู้เลยด้วยวิชาอะไรของตน
อาจแค่เกาะกระแส หรือจำคนอื่นเขามาพูด ถ้าเป็นฆารวาส ไม่ผิดอะไรมาก
แต่เป็นพระนี่ ปาราชิกเลย ไม่รู้พระทีี่พูดน่ะ รู้อาบัตินี้หรือไม่

หรือกรณีบอกว่าสตีฟ จ็อบ เป็นเทวดายักษ์อะไรสักอย่าง
ถ้าท่านเห็นจริงก็ดีไป แต่ถ้าไม่ใช่นี่ก็ปาราชิกเลยล่ะ

เห็นไหม มันอาบัติได้ง่ายๆ เพราะแค่พูดออกมาก็อาบัติแล้ว

ส่วนฆ่าคน น่ะ มันเห็นชัด เพราะเป็นคดีทางโลกไปด้วย
แต่ทางธรรมมันลึกซึ้งขี้นไปอีก แค่กล่าววาจา ทำให้เขาตายก็เข้าข่ายด้วยปาราชิกข้อนี้ด้วย

อ้อ แล้วเรื่องลักทรัพย์น่ะ สมัยพุทธกาล มีกรณีเยอะมาก
ที่มาทูลถามพระพุทธเจ้า ว่าแค่นั้นแค่นี้น่ะปาราชิกไหม
มีกรณีนึง เอาดอกไม้ไปสองดอก พระพุทธเจ้าถาม
มูลค่าเท่าไหร่ พอตอบว่า 5 มาสกพอดี
พระองค์ตอบว่า เธอปาราชิกเสียแล้ว

 

ปัจจุบัน โลกมันเปลี่ยนไปเยอะ
หลายๆอย่างมันไม่มีในสมัยพุทธกาล ทั้งมือถือ อีเมล์ เล่นเอ็มMSN
อันนี้ก็น่าจะเก่าไป เดี๋ยวนี้เขาเล่นไลน์ เราเล่นไม่เป็น

บางที อาจคิดไปได้ว่าถ้าพระพูดคุยทางสื่ออะไรแบบนี้กับสีกา 2 ต่อสอง
มันเข้าอาบัตหรือไม่ แม้ไม่ได้คุยกันตัวต่อตัวแบบคนเป็นๆ

ก็อาจอ้างว่า ไม่มีบัญญัติว่าห้ามเล่นเอ็ม หรือเล่นไลน์
ก็พูดไปได้หมดล่ะ เพราะสมัยนั้นมันไม่มีของแบบนี้จริง

แต่ต่อให้เอาเฉพาะของเก่าๆ แบบเก่า ที่สมัยพุทธกาลก็มี และสมัยนี้ก็มี
มันมีตัวอย่างเยอะมาก ที่พระพุทธองค์ตัดสินชี้ขาดไปแล้ว

เราว่าแค่เอาของที่มันมีตรงกันในสมัยนั้น และสมัยนี้ก็มี
มันก็เยอะมากพอเหลือที่จะกล่าวแล้วว่า ที่ทำนั้นมันถูกหรือผิดพระธรรมวินัย

ด้วยเหตุที่ว่าพระในสมัยนั้นสงสัยว่าอาบัติหรือไม่ ในกรณีต่างๆกัน
สุดท้ายต้องมาทูลถามพระองค์เพื่อแก้ข้อสงสัย

เอาไว้ ถ้าเรามีเวลาหรือมีอารมณ์นึกอยากทำ อาจลองรวบรวมมาให้ดู

 

พระใช้คอมพิวเตอร์จะเข้าข่ายลักทรัพย์หรือไม่ เพราะระบบปฎิบัติ windows การส่วนใหญ่ เกิน 90% น่าจะเถื่อน

 

ถ้าคนๆนึงมีปัญหาขึ้นมา
แล้วก็โยงหาเหตุไม่ได้ ทั้งตรรกะและความเข้าใจก็ไปไม่ถูกทาง
เมื่อนำเหตุไม่ใช่เหตุมาประมวล
การสรุปไปสู่ความเข้าใจได้
ก็กลายเป็นความเข้าใจที่ไม่น่าเข้าใจขึ้นมา
ส่วนสิ่งที่น่าเข้าใจก็อาจไม่เข้าใจขึ้นมา.. เพราะมันซับซ้อนเกินไป
ความเชื่อของแต่ละคน ก็อาจเป็นไปดังนี้
มาจากการแก้ปัญหาว่าไปตามความเข้าใจของตน

คนบางคนไม่ชอบลูกสาวของคนที่ตนเกลียดเพราะดูแล้วนิสัยไม่ต่างกัน ทำอย่างกะมีเซ้นท์ตัดสินได้ แต่อาจมาจากการพิจารณาอะไรๆแล้วนั่นแหละ
คนบางคนชอบลูกสาวของคนที่ตนเกลียดเพราะสวยดี ไม่ได้ทันพิจารณาอะไร แต่ถ้าพิจารณาว่าดีแล้วค่อยชอบ แบบนี้คงจะดี

 

วันนี้ ฟ้าร้อง ฮึ่มๆ เหมือนฝนจะตกหนักเลย
สงกรานต์นี้ ปี๋ใหม่นี่นะเจ้า ขอให้เฮีย No และทุกท่าน มีความสุข..จ๊าดๆ นะเจ้า
มาก่อนไผ.. จะอู้คำเมือง กะเขาจั๊กหน่อย ได้แหมน่อยจะอี้ แล..



คือว่า บ่าได้เป็นจะใดกันเน้อ เว็บเนี้ย..
แค่เอาประวั๊ติวันสงกร๋านต์มาผ่อ.(เบิ่ง)... กันแหม
http://www.dmc.tv/pages/scoop/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C.html

 

ยังมีคนตัดพ้อเรื่องกรรมว่า ทำไมคนไม่ดีไม่รับกรรม
ทำไมคนดีๆโดนฆ่าโดนทำร้ายเช่นภาคใต้
ความคิดแบบน้มันมีมาแต่โบราณกาลแล้ว
คือไม่เชื่อผลแห่งกรรม

หรือบางคนไม่เชื่อเพราะ คิดว่ามีแค่ชาตินี้ ชาติก่อนไม่มี ชาติหน้าไม่มี
เมื่อไม่เชื่อเรื่องชาตินี้ชาติหน้า ก็พาลไม่เชื่อเรื่องกรรมไปด้วย
ความเชือแบบนี้แหล่ะ ที่พระพุทธเจ้าเรียกว่ามิจฉาทิษฐิ

อาจจะค้านว่าต่อให้ไม่เชื่อเรื่องชาตินี้ชาติหน้า แต่เป้นคนดี ไม่เบียดเบียนมันผิดตรงไหน
ตรงเป็นคนดีน่ะไม่ผิด แต่ความเชือว่าชาติก่อนไม่มี ชาติหน้าไม่มี และถ้าเผยแพร่
สอนลูกสอนหลาน หรือมีคนเชื่อตาม มันส่งผลเสียร้ายแรงมาก

มันต้องเริ่มจากเชื่อชาติก่อนชาตินี้ให้ได้ก่อน
มันถึงเริ่มต่อไปเรื่องผลแห่งกรรมได้

กรรมคือผลแห่งการกระทำ ในเมื่อมันมีชาติก่อนชาตินี้และชาติหน้า
ไอ้การกระทำที่ได้ทำมาแล้วตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ผลมันย่อมไม่หายไปไหน
มันย่อมตอบสนองไม่วันใดก็วันนึง

นี่จึงเป็นที่มาของคำตอบว่า
ทำไมคนดี ถูกคนร้ายฆ่าตาย ทำไมไม่ไปตอบแทนคนชั่วบ้างเล่า

 

อย่าว่าแต่ภาคใต้ ครูถูกฆ๋าเลย
สมัยนาลันทา พระสงฆ์ถูกฆ่าตายเป็นหมื่น
ทำไมกรรมดีไม่ช่วย
ก็นั่นแหล่ะ ลองไม่เชื่อเรื่องกรรม ก็เอาตรงนี้มาเถียงเอาจนได้

แต่ถ้าเชื่อเรื่องชาตินีมี ชาติก่อนมี ชาติหน้ามี
ย่อมเข้าใจได้
ถึงบอกว่า ต้องมาจากความเชื่อที่เป็นสัมมาทิษฐิก่อน เรื่องชาตินี้ชาติหน้า

ถ้าลองปฏิเสธเรื่องชาตินี้ชาติก่อน
ก็พาลไม่เชื่อเรื่องพระพุทธเจ้าไปด้วย
ว่าเป็นไปได้อย่างไร เกิดมาเป็นพระพุทธเจ้า ต้องบำเพ็ญบารมีมา 4 อสงขัย
ไม่นับ 16 อสงขัยก่อนที่อธิษฐานด้วยใจและเปล่งวาจา

 

กรรมคือผลแห่งการกระทำนั่นแหล่ะ
มีบางคนพยายามทายผลแห่งการกระทำ คือหมอดูหรือโหราศาสตร์

ถ้าให้แม่นกว่านั้นคืออนาคตังสญาณ คือทายอนาคตด้วยอำนาจญาณ

เคยไปดูหมอนานมาแล้วหลายสิบปี
หมอคนนึงพูดกับเรา เราจำได้จนบัดนี้

เขาบอก พรหมลิขิตที่เรียกกันคือกรรมลิขิต
คือเราเคยทำอะไรไป มันก็ส่งผลมาให้ได้รับในอนาคต
อีกอันนึงคือมนุษย์ลิขิต คือเราทำเองในปัจจุบัน
ในเมื่อการกระทำในอดีตยังส่งผลเลย ทำไมกรรมในปัจจุบันจะไม่ส่งผลเล่า

สมมุติว่า จากดวงไม่ตายโหง คือจากกรรมเก่าน่ะไม่มี
แต่เราไม่เชื่อเดินไปให้รถไฟชน ถามว่าจะตายไหม
เขาบอกมันต้องตายใช่ไหม อันนั้นคือมนุษย์ลิขิต คือทำกรรมใหม่ในปัจจุบัน

 

กรรมเก่าส่งผลให้เราได้รับผลแน่นอน
เว้นเสียแต่กรรมใหม่มีอำนาจเหนือ
ทำให้ลด หรือเพิ่ม ผลจากกรรมเก่าได้

หมอดูหรือ คนดูด้วยญาณ เมื่อไปทายคนมีศีลมีธรรม มักทายไม่ถูก

ส่วนไปทายคนชั่วมากๆ ก็อาจไม่ถูกไปด้วยเช่นกัน
เพราะผลกรรมชัี่วในปัจจุบันมันซ้ำเติม
เช่นทายว่าไม่มีเคราะห์ แต่ผลอาจหนักกว่าเดิมคือตายโหง

 

พระพุทธเจ้าของเรา
เมื่อประสูติ ฤาษีทั้งหลายทำนายว่า ไม่เป้นพระเจ้าจักรพรรดิก็เป็นพระพุทธเจ้า
มีพระฤาษีอัญญาโกณทัญญะองค์เดียว ที่ทายว่าได้เป็นพระพุทธเจ้า

นี่ก็ทายได้จากการทายกรรมเก่าในอดีตชาติ จนส่งผลมาปัจจุบันและอนาคต

ราวกับว่าอนาคต มันถูกกำหนดไว้แล้ว
โหณฌาณศิลป์ นักดูลายมือในอดีต
เคยกล่าววาจาอันลือลั่นไว้ว่า
มนุษย์คือหุ่นยนต์ที่ถูกกำหนดไว้แล้ว

คนที่ค้านก็อาจคิดว่า ไม่จริง เป็นไปได้อย่างไร
เพราะเราอาจสร้างกรรมใหม่อย่างไรก็ได้

ก็จริงในแง่นั้น
แต่อนาคตที่ว่า ถูกกำหนดไว้แล้วนั้น
มันก็มาจากกรรมปัจจุบัน ของชาติก่อนเหมือนกัน

คนธรรมดา มีกิเลสตัณหา เกือบทั้งหมด
เอาว่า 99.99 เปอร์เซนต์
เมื่อเจอสิ่งมากระทบ ย่อมตอบสนองคล้ายๆกัน
เจอด่าย่อมด่าตอบ เจอทำร้ายทำร้ายตอบ เจอกิเลสมายั่วย่อมคล้อยตาม
ถ้าลองเป็นแบบนี้
ทายอดีตมาถึงปัจจุบัน ต่อไปอนาคต มันย่อมมีโอกาสถูก

เพราะดวงหรือกกรมเก่ามันบอกผลที่เราจะประสบ
เช่นดวงต้องถูกโกง จนหมดตัว
อันนั้นเป็นผล กรรมบังคับผลให้ต้องประสบ

แต่คนส่วนมากเมื่อถูกโกง ถูกรังแก ย่อมไปแก้แค้น
ถ้าโดนรังแกหนักมากอาจจ้างมือปืนไปยิง

ไอ้อันหลังกรรมไม่ได้บังคับ ให้มันไปยิงหรือจ้างคนไปยิงเขา
อันหลังนี้มันทำด้วยอำนาจกิเลสของมันเอง ที่ต้องการจองเวร

หมอดูอาจดูได้ว่าต้องติอคุกเพราะไปยิงเขา ซึ่งก้อาจจะแม่น
ทั้งๆที่กรรมบังคับให้ได้รับผล คือโดนโกงเท่านั้น

ส่วนผลที่ไปยิงเขาจนติดคุก
อันนั้นเป็นเพราะคนส่วนมาก เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้
ย่อมตอบสนองไปแบบนั้น

เว้นเสียแต่บางราย อาจฝึกฝนจนมีธรรมะ
กลัวบาป หรือปลงได้ว่าเป็นกรรม
ก็อาจหลุดพ้นการติดคุกไปได้

จึงทำให้เข้าใจผิดไปว่ากรรมเก่าบังคับให้ต้องกระทำกรรมใหม่ไปด้วย
ทั้งๆที่จริงมันไม่ใช่

 

คนที่ไปทำเพื่อชาติ ทหารตำรวจ หรือถ้าเอาเรื่องที่ใกล้ คือฝ่ายกปปส ที่โดนยิงตาย
ถ้าคิดเสียว่าเขาทำกรรมดี ทำไมต้องเคราะห์ร้าย

ต้องบอกว่า อย่างไรเสีย เขาต้องเป็นเช่นนั้น
ถึงงเขาไม่ไปเป็นตำรวจทหาร ที่ภาคใต้ หรือไม่ออกมาม๊อบ
กรรมเก่าของเขาบังคับให้เขาต้องได้รับผลอยู่ดี

ไอ้ที่บอกว่านอนอยู่บ้านจะตายไหม

ขอบอกว่า ตาย

ถ้าดวงหรือกรรมเก่าบอกว่าต้องตาย มันก็ต้องตาย
เช่นบางคน โดนอะไรหล่นมาทับ จากเครือ่งบินบ้าง หรือนักโดดร่มตกมาใส่
หรือ กระสุนลอยจากฟ้าตกลงมา ก็เคยมีมาแล้ว

กรรมบังคับผล
ส่วนไอ้คนยิงมันทำกรรมใหม่ของมันเอง
กรรมไม่ได้บอกให้มันไปยิง มันต้องรับกรรมอยู่ดี
จะอ้างว่า ทำตามกรรมเก่าไม่ได้

เพราะถ้ามันไม่ไปยิง กรรมเขาจัดการของเขาเองได้
จะอ้างว่า ทำเพื่อให้กรรมทำงานสะดวก ไม่ได้

 

ไม่มีเหตุบังเอิญ ในพระพุทธศาสนา ผลย่อมมาจากเหตุ

 

กรรมใหม่ ของใครบางคน
ดันมาดลทำกรรมกับเราได้
อยู่ดีดี มันจะมาแบ่งเมืองไป
ถึงเราตายจะรักษาบ้านเมืองเรา
ถ้ากรรมดีมีไม่พอรักษาชีพ
ก็เพียงรีบทำดีไม่ทำเขลา
หากต้องตายวายชีวาตไม่ดูเบา
ทำดีเข้าบุญของเราจะตามตัว

 

ศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจุบัน มีอายุ5000 ปี

ตอนนี้นับว่ามาครึ่งทางแล้ว

อีกครื่งทางจะว่านานก็นาน

จะว่าไม่นานมากก็ได้ ไม่ไกลมาก อีกไม่กี่ชั่วอายุคนเท่านั้น

หลังจากนั้น โลกขาดจากศาสนา

คนส่วนมากไม่เชื่อเรื่องบุญกรรมที่ว่า ทำดีได้ไดี ทำชั่วได้ชั่ว

แค่ขนาดปัจจุบัน ยังไม่ขาดจากศาสนา ก็เริ่มมีคนบอกว่าไม่เชื่อเสียแล้ว

เมื่อไร้ศาสนา ผู้คนก็เบียดเบียนกัน ทำร้ายกัน

มองเห็นแต่ความสุขในปัจุบันที่จับต้องได้

ว่ากันว่า ถึงตอนนั้น เด็กอายุแค่ 10 ขวบก็มีลูกเสียแล้ว

เผอิญว่าวันนี้ เห็นข่าว เด็กอายุ 8 ขวบ มีลูก


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9570000041877

ถ้าไม่อยากกลับมาเกิด ในอนาคต ที่เรียกว่ามีแต่คนที่คอยแต่เบียดเบียนกัน

ด้วยว่าไม่มีศาสนาเสียแล้ว ก็พึงระลึกกันได้เสียที่ว่า จะทำอย่างไรกัน

 

ตอบคำถามเรื่องสงครามอานุภาพพระคำข้าวกับพระหางหมาก
ผู้ถาม : ลูกไม่สบายใจเกี่ยวนอสตราดามุส เขาพยากรณ์ว่าจะเกิดไอ้นั่นไอ้นี่ ลูกไม่ห่วงหรอก
ที่ห่วงก็คือว่าถ้าประเทศไทยจะมีหุ้นส่วนหรือเปล่า
และก็ลูกควรจะเอาอะไรจากหลวงพ่อเพื่อป้องกันเหตุร้ายเหล่านี้เจ้าค่ะ...

หลวงพ่อ : ไม่มีอะไรหรอกที่แจกนี่คุ้มได้

ผู้ถาม : พระรุ่นหางหมากนี่หรือครับ

หลวงพ่อ : หางหมากกับคำข้าวน่ะ

ผู้ถาม : ก็แสดงว่ารู้ล่วงหน้าแล้วว่ามีอย่างนี้จึงทำ

หลวงพ่อ : รู้ท่านบอกไว้ตั้งแต่งปีญวนแตกปีแรก หลายปี ปีญวนแตกน่ะอมริกาเหาะไปน่ะฉันถามท่าน

ท่านบอกจะเกิดที่นั่น... ท่านก็สั่งทำพระชุดนี้ คำข้าวนะ นี่คุ้มได้เลยรังสีต่าง ๆ อาวุธวิทยาศาตร์น่ะทั้งหมด กันได้หมด

ผู้ถาม : นี่มาสงเคราะโดยตรงเลยหรือครับ

หลวงพ่อ : ใช่...ใครไม่ให้สตางค์ก็ไม่ให้ \"ปูชัง ละภะเต ปูชา วันทโก ปฏิวันทะนัง\"

ผู้บูชาได้รับการบูชาตอบ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ...นี่เขาให้มาเราก็ให้ไป

ผู้ถาม : นี่แสดงว่าไม่ต้องเดือนร้อนอะไร ลูกหลานหลวงพ่อน่ะ ที่นี้ก็ถามอีกนิดว่าแล้วพระทั้งสองอย่างคือ

พระคำข้าวกับพระหางหมากนี้ พอจะมีทางป้องกันแก๊สได้หรือเปล่าเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ : ได้แน่ ๆ ของยืนยันว่ากันได้

ผู้ถาม : แก๊สนะครับ

หลวงพ่อ : ใช่...นิวเคลียร์ยังกันได้ แก๊สก็แค่นั้นหยาบกว่า...

 

บางทีมัวเก็งภัยพิบัติใหญ่มากๆ จนลืมภัยพิบัติย่อมๆไป

เหตุการณ์เครื่องบินตกหรือหายหรืออะไรไม่รู้
คนในเครื่องบินหายหรือตายนับสองสามร้อย

อีกไม่กี่วันกี่สัปดาห์ ก็มีเหตุการณ์เรือล่ม
คนในเรือหายอีก สองสามร้อย ไม่รู้จะรอดหรือไม่

ไอ้แบบนี้มันก็ภัยพิบัติเหมือนๆกัน

น่าแปลกใจที่ว่า มันชักถี่เกินไปแล้วมั้ง

มันจะมีอะไรอีกหรือป่าวนี่

 

พูดถึงเกี่ยวกับพระเครื่องของหลวงพ่อ ที่ท่านsomchai 12ยกมา

เราเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับพระเครื่องเหมือนกัน

จะว่าเป็นเพราะพระเครื่องช่วยหรือป่าวก็อาจเป็นไปได้

บางคนก็ว่าบังเอิญก็ได้ ก็แล้วแต่จะคิด

สมัยไปเกณฑ์ทหาร
ลงจากกรุงเทพไป ไปถึงไปเกณฑ์เลย แต่แวะกลับบ้านไปแป๊ป
ไม่เจอใครที่บ้าน เจอคนข้างบ้าน ก็บอกเขาว่ามาเกณฑ์ทหาร
แล้วมาเลย พอถึงตอนเดินเข้าไปเกณฑ์

พ่อมายืนข้างประตูตอนไหนไม่รู้ หย่อนอะไรไม่รู้เข้ากระเป๋าเสื้อ
ภายหลังพ่อบอก กลับไปบ้าน คนข้างบ้านบอกว่าลูกชายมาเกณฑ์ทหารเลยรีบตามมา

ที่หย่อนไปคือพระปิดตา ที่พ่อนับถือมาก นัยว่าแคล้วคลาด

พอถึงตอนหยิบใบดำใบแดง

ของเราเป็นตำบลสุดท้าย

ในกล่องเหลืออยู่ 20 ใบ เพราะเห็นว่าจะหมดแล้ว
พี่ทหารเลยนับให้ดู
แล้วเฉลยว่า
ใน 20 ใบสุดท้าย

เป็นใบแดง 18
ใบดำ 2

เราหยิบ

อืม... เพราะพระปิดตาของพ่อหรือป่าว..

ได้ใบดำ

 

เหตุภัยใหญ๋ที่เพิ่งผ่านมา สองเหตุ
คือเครื่องบิน ที่คาดกันว่าจมน้ำ
ล่าสุดเรือ ก็ทางน้ำอีก
คิดเล่นๆ เวลามันห่างกันไม่เท่าไหร่เลย
มีเหตุเกี่ยวกับทางน้ำสองเหตุแล้ว

ทางโหราศาสตร์ให้ดาวจันทร์ หมายถึงเรื่องน้ำ
ไม่รู้สองเรื่องนี้มันเกี่ยวกับดาวจันทร์ตรงไหน
แต่จำได้เลาๆว่าเดือนเมษา มีจันทรคราสด้วย
ไม่แน่ใจว่ามีสุริยคราสด้วยหรือป่าว เคยผ่านตา

ทางโหราศาสตร์ ให้ระวัง เดืิอนนึงสองคราสพร้อมกัน

 

ทางโหราศาสตร์

ภัยการเมืองหรือภัยพิบัติ หรือ อะไรสักอย่างที่หากจะเกิด

ให้สังเกตุ ช่วงที่ดาวใหญ่ ย้ายราศี

ดาวพฤหัส จะย้ายราศีวันที่ 19 มิย

ราหู จะย้ายราศีวันที่ 13 กค

เขาว่า เวลาดาวใหญ่ๆ ย้ายราศี มันจะเกิด ผลข้างเคียง

คล้ายๆ มีแรงถีบและแรงผลัก ช่วงก่อนหรือหลังก็ได้