ห้องพระเครื่อง "ศิลป์พระ๙" พระเครื่องทั่วไทย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิลป์พระ9, 26 ธันวาคม 2020.

  1. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    393.พระกรุวัดเจ้ามูล เนื้อแดง หลังยันต์ 3 ตัว กทม. ((( บูชา 350 บาท ))) "จอง" >>>พี่พุทโธ ภควา

    พระกรุวัดเจ้ามูล
    พระกรุวัดเจ้ามูล แตกกรุออกมาในปี 2509 สาเหตุในการค้นพบมาจากในปี 2509 พระครูโสภณสมาธิวัตร (หลวงพ่อเฟื่อง สมณศักดิ์ในสมัยนั้น) ได้ทำการรื้อถอนพระเจดีย์หน้าพระอุโบสถหลวงพ่อทับทิมเพื่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ในจำนวนนั้นประกอบด้วย พระเจดีย์องค์กลาง 1 องค์และพระปรางค์อีกสององค์ เมื่อทำการรื้อถอนพระเจดีย์หน้าพระอุโบสถ จึงได้พบพระเครื่องเข้าโดยบังเอิญ เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระเครื่องเนื้อผง มีทั้งสีขาวและสีแดงแก่ว่านสบู่เลือด

    พระกรุวัดเจ้ามูลเท่าที่มีการสอบถาม จากผู้รู้ ได้แก่ท่านเจ้าอาวาส วัดเจ้ามูล รวมถึงท่านที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนเปิดกรุ ต่างลงความเห็นว่า พระกรุวัดเจ้ามูล สร้างในราวปี 2460-2465 โดยได้รับอิทธิพลการสร้าง จากพระพิมพ์ประภามณฑลข้างรัศมี ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท (สังเกตุจาก ด้านหน้าพระกรุวัดเจ้ามูล) และผสมผสานกับพระพิมพ์เล็บมือ ของหลวงพ่อผ่อง วัดคูหาสวรรค์ (สังเกตุ จากการจารยันต์อุด้านหลัง) ซึ่งวัดคูหาสวรรค์ก็อยู่ไม่ไกล จากวัดเจ้ามูลมากนัก ดังนั้น รูปแบบและเนื้อหาของพระ จึงมีความเก่าใกล้เคียงกันกับพระเล็บมือของวัดคูหาสวรรค์ จ.กรุงเทพฯ
    พระกรุวัดเจ้ามูล สร้างโดยท่านพระอธิการเพ็ง เจ้าอาวาสรูปที่ 5 ของวัดเจ้ามูลและได้มีการนิมนต์ หลวงปู่ศุขแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ในคราวที่ หลวงปู่ศุขมาร่วมปลุกเสกพระนาคปรกใบมะขาม ที่วัดอนงคาราม มาเป็นประธานในการปลุกเสก และ ยังได้นิมนต์หลวงพ่อผ่อง วัดคูหาสวรรค์ ผู้สร้างพระเล็บมือ ซึ่งมีความสนิทสนมเป็นพระสหธรรมิกกันกับพระอธิการเพ็ง วัดเจ้ามูล มาร่วมปลุกเสกพระด้วย
    cr.ข้อมูลจาก รร วัดเจ้ามูล

    52.jpg
    53.jpg
    54.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 55.jpg
      55.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.4 KB
      เปิดดู:
      6
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2024
  2. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    จองแล้วครับ

    386.เหรียญหลวงพ่อพวง วัดพระนอนสาริการาม ปี 2501 จ.เพชรบุรี
    ((( จองแล้ว )))

    390.พระหลวงพ่อนั่ง วัดสามพระยา ปี 2482 กรุงเทพฯ ((( จองแล้ว )))
     
  3. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    382.เหรียญหลวงพ่อม่วง วัดหนองกาทอง รุ่นแรก 2497 จ.เพชรบุรี ((( บูชา 2,950 บาท ))) "จอง">>> พี่j999
    เหรียญรุ่นแรกแท้ๆดูง่ายๆ "ในองค์สวยแชมป์ราคาหลายหมื่น" ครับ เหรียญนี้สภาพน่ารักราคาไม่แพงครับ เหรียญท่านหายากสร้างน้อยประสบการณ์สูง

    56.jpg
    cr.พระเกจิสยาม
    หลวงพ่อม่วง วัดหนองกาทอง หรือ พระครูวิธานวชิรคุณ(ม่วง อินทโชโต) วัดหนองกาทอง ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ท่านมีนามเดิมว่า ม่วง อยู่พรหมชาติ พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านหนองกระปุก อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี เกิดเมื่่อวันจันทร์ที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๓๐ แต่ไม่ปรากฏชื่ีอโยมบิดาและโยมมารดาของท่าน
    หลวงพ่อม่วง ท่านเป็นพระเถระที่พูดน้อย ไม่โอ้อวด แต่ของขลังที่ท่านแจกศิษย์มีอภินิหารเป็นที่เลื่องลือเชื่อถือได้ ตามคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ท่านเดินธุดงค์มาปักกลด ณ บริเวณวัดหนองกาทอง ซึ่งตอนนั้นเป็นพื้นที่รกล้างไม่มีสำนักสงฆ์ไว้ให้ชาวบ้านประกอบพิธีทางศาสนา

    ชาวบ้านในพื้นที่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อหลวงพ่อม่วงเดินทางผ่านมา ชาวบ้านจึงเกิดความเลื่อมใส จึงพร้อมใจกันนิมนต์ให้อยู่ที่หมู่บ้าน เพื่อสร้างวัด โดยเริ่มแรกเป็นเพียงสำนักสงฆ์

    จากการที่ได้สอบถามผู้คนหลายๆ ปาก ต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อม่วงนั้นท่านเป็นพระจริงๆ เป็นพระแท้ มีวัตรปฎิบัติเคร่งครัด เพื่อบรรลุมรรคผลอย่างแท้จริง ท่านก็ได้ร่ำเรียนมาจากหลายสำนัก และตัวท่านก็เป็นศิษย์ที่หลวงพ่อกุน วัดพระนอน รักมาก

    ครั้งที่ท่านไปเยี่ยมหลวงพ่อกุน ก่อนที่จะมรณภาพไม่นาน ท่านให้ไปหาสมุดมาเพื่อคัดลอกตำรับตำราต่างๆ แต่ท่านก็เฉยเสียเพราะสมัยนั้นกระดาษสมุดหาได้ยาก จนกระทั่งหลวงพ่อกุนต้องให้พระปลัดเทพ (พระครูพิศาลสมณกิจ) ไปจัดหาสมุดมาทำการจดบันทึกวิชาอาคม มอบให้กับหลวงพ่อม่วงไปศึกษา

    มีเรื่องเล่าขานถึงเหรียญปั๊มรูปเหมือนรุ่นแรกและเป็นเหรียญรุ่นเดียวที่ทันหลวงพ่อม่วงปลุกเสก เล่ากันว่า เมื่อครั้งที่หลวงพ่อม่วงทำการปลุกเสกเหรียญปั๊มรูปเหมือนนี้ มีชาวบ้านได้ไปร่วมในพิธีขณะที่หลวงพ่อปลุกเสกเหรียญในอุโบสถนั้น ได้เห็นแสงสีทองปรากฏจากร่างของหลวงพ่อสว่างไปทั่วอุโบสถ และตัวของหลวงพ่อค่อยๆ ลอยขึ้น ท่ามกลางสายตาของผู้ร่วมในพิธีปลุกเสก

    ส่วนในเรื่องของพุทธคุณแห่งเหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อม่วงรุ่นแรกนี้ มีเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่ง มีนักเลงท้องถิ่นอำเภอบ้านลาด บ้างว่าเป็นมือปืน ถูกคนร้ายดักยิงแต่ยิงไม่เข้า คนร้ายจึงได้ใช้ขวานที่พกติดตัวมาด้วย จามไปที่ลำตัวของนักเลงท่านั้น แต่ก็ไม่ระคายผิว

    จนคนร้ายตัดใจใช้ขวานจามไปที่ศีรษะของนักเลงคนนั้นอย่างไม่ยั้ง จนนักเลงท่านนั้นเสียชีวิต แต่ที่แปลกประหลาดหามีเลือดออกแม้แต่หยดเดียว แต่กะโหลกศีรษะแตกละเอียดโดยที่ผิวหนังไม่ระคานระเคืองแต่อย่างใด

    และยังมีกล่าวถึงบางเสี้ยวของประวัติหลวงพ่อม่วงไว้ว่า ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อกุน วัดพระนอน ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาตะกรุดไมยราพสะกดทัพและวิชาคงกระพันชาตรีต่างๆ

    หลวงพ่อม่วง ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพบนธรรมาสน์ภายหลังเทศน์จบแล้ว เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๙ นับรวมสิริอายุได้ ๗๙ ปี ๕๘ พรรษา.

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อม่วง วัดหนองกาทอง

    เหรียญหลวงพ่อม่วง วัดหนองกาทอง รุ่นแรก

    สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ เพื่อแจกในงานฉลองสมณศักดิ์ของหลวงพ่อ และแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่แบบมีหูในตัว เหรียญมีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้ แต่คาดกันว่าประมาณ ๒,๐๐๐ เหรียญ

    3.jpg
    1.jpg
    2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2024
  4. พุทโธ ภควา

    พุทโธ ภควา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +1,760
    จอง รายการนี้ด้วยครับ
    393.พระหรุวัดเจ้ามูล เนื้อแดง หลังยันต์ 3 ตัว กทม.
     
  5. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองครับ /// ขอบคุณมากๆครับพี่
     
  6. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,965
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ขอปิดครับ
     
  7. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,965
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ขอปิด 381 ครับ
     
  8. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองทั้ง 2 รายการ ครับ /// ขอบคุณพี่มากๆครับ
     
  9. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    378.เหรียญหลวงพ่อผูก วัดเกาะ ห่วงเชื่อม ปี 2516 จ.เพชรบุรี ((( บูชา 950 บาท ))) "จอง">>>พี่j999

    cr.thaipra.net
    หลวงพ่อผูก ัดเกาะ หรือ พระอาจารย์ผูก จนฺโชโต ท่านเกิด วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2433 ที่ตำบลโคกหม้อ(ซึ่งหมู่บ้านอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของวัดเกาะไปราว 1 กิโลเมตร) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี บิดาชื่อ เกตุ บารดาชื่อ มอญ ในวัยเด็กท่านเรียนหนังสือกับพระอาจารย์หรั่ง วัดเกาะ ต่อมาเมื่ออายุครบ 21 ปี ท่านจึงอุปสมบทที่วัดเกาะ โดยมี พระสุวรรณมุณี (ฉุย) วัดคงคาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูเพชร โรปมคุณ (หลวงพ่อเหลื่อม) วัดเกาะ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการฉิม วัดป้อม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ว่า “จนฺโชโต” เมื่ออุปสมบทแล้วหลวงปู่ผูกท่านก็ได้ศึกษาวิปัสสนาธุระและพุทธาคมกับของพระอาจารย์เรืองวิทยาคุณของเมืองเพชรบุรีดังนี้ ศึกษาวิปัสสนาธุระและพุทธาคมกับหลวงพ่อฉุย อยู่ 4 พรรษา ศึกษาพุทธาคมกับหลวงพ่อปลอด วัดในปากทะเล ศึกษาพุทธาคมกับหลวงพ่อเหลื่อม วัดเกาะ นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณกับพระภิกษุชรารูปหนึ่งของวัดเกาะ ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาแพทย์แผนโบราณเป็นอย่างมากในสมัยนั้น

    ต่อมาหลวงพ่อผูกท่านก็ได้บำเพ็ญตนรักษาผู้เจ็บป่วยมาตลอดชีวิตของท่านโดยไม่เคยเรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ หลวงปู่ผูกท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และท่านไม่เคยปฏิเสธในการรักษาผู้ป่วยที่มาให้ท่านรักษาให้ ท่านมีเมตตาธรรมสูง มักน้อย สันโดษ มีคนมาให้ท่านรักษาพิษสุนัขบ้า ท่านก็รักษาให้หายขาด มีคนมาให้ท่านรักษามากจนชื่อเสียงโด่งดัง และพวกฝีแผลเรื้อรัง ท่านก็รักษาให้หายได้ การรักษาโรคฝีนั้น ท่านจะรักษาด้วยอาคม โดยท่านจะทำหุ่นเทียนเป็นรูปของผู้ป่วย แล้วเอาไม้ไผ่ปลายแหลมแทงไปที่หุ่นเทียนตรงบริเวณเดียวกันกับอวัยวะของผู้ป่วย ภายในสามวันผู้ป่วยก็จะหายเป็นปกติ ในสมัยนั้นโด่งดังมาก จนเป็นที่น่าสนใจของนายแพทย์ ดำรง ลิ้มสกุล แห่งสถานอนามัยแม่และเด็ก กรุงเทพฯ ถึงกับเดินทางไปดูการรักษาด้วยตัวเอง จนพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจากท่านหายจากการเจ็บป่วยได้จริง นายแพทย์ดำรงจึงเกิดความเลื่อมใสขอมอบตัวเป็นศิษย์

    ต่อมาในปี พ.ศ. 2516 นายแพทย์ดำรงก็ได้ขออนุญาตหลวงพ่อผูก สร้างเหรียญรูปท่านขึ้น เพื่อแจกในงานทำบุญฉลองอายุครบ 7 รอบของหลวงปู่โดยสร้างเหรียญสัมฤทธิ์ 84 เหรียญเท่าอายุของหลวงปู่ และเหรียญทองแดงรมดำ จำนวน 1,048 เหรียญ เหรียญนี้จึงเป็นเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อผูก นายแพทย์ดำรงได้นำเหรียญที่สร้างเสร็จแล้วใส่พานมาถวายหลวงพ่อผูก และท่านก็ได้ปลุกเสกเหรียญดังกล่าวในวันเสาร์ห้า (7 เมษายน พ.ศ. 2516) ในการแจกเหรียญวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2516 หลวงปู่ผูกท่านได้แจกเหรียญ โดยไม่ได้แยกเหรียญสัมฤทธิ์หรือเหรียญทองแดง ท่านจะแจกปนกันไป แล้วแต่ว่าใครจะได้เหรียญสัมฤทธิ์หรือเหรียญทองแดง ปัจจุบันไม่ค่อยได้พบเห็นกันนักครับ ชาวบ้านในแถบนั้นต่างก็หวงแหนกันครับ

    หลวงพ่อผูกมรณภาพลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2516 สิริอายุ 84 ปี พรรษา 63

    LINE_ALBUM_2024.2.25_๒๔๐๒๒๗_5.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2024
  10. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    372.เหรียญ หลวงพ่อบุศย์ วัดกุฎีดาว จ.เพชรบุรี รุ่นแรก ปี 2499 ((( บูชา 800 บาท ))) "จอง">>>พี่j999

    เหรียญพื้นที่ หายากมากๆอีกเหรียญของเมืองเพชรบุรี เป็นเหรียญประสบการณ์ในพื้นที่ ปัจจุบันหาชมได้ยากครับ

    หลวงพ่อบุศย์ วัดกุฏีดาว หรือ พระศรีพัชราจารย์ นามเดิม บุศย์ นามสกุล ปานสรวย เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2446 ที่บ้านหนองกลาง ตำบลหนองควง (ต้นมะพร้าว) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ท่านได้รับการศึกษาเบื้องต้นโดยเรียนหนังสือไทยกับพระอธิการแย้ม วัดกุฏีดาว จนสามารถอ่านออกเขียนได้ เมื่อถึงอายุเกณฑ์ทหารท่านต้องไปเป็นทหารกองประจำการระหว่าง พ.ศ. 2467 – 2468 หลังจากพ้นเกณฑ์แล้วโยมมารดาและญาติได้จัดการให้อุปสมบทเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2471 ณ พัทธสีมา วัดหนองควง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี โดยมีพระครูสุวรรณมุนี (ชิต) วัดมหาธาตุวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเอี่ยม วัดหนองควง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเย็น วัดกุฏีดาว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า “ปภสฺสโร”

    เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดกุฏีดาว โดยสภาพวัดกุฏีดาวในสมัยนั้นมีความทรุดโทรม เกือบจะเป็นวัดร้าง มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่เพียง 3-4 รูปเท่านั้น เสนาสนะต่างๆ อยู่ในสภาพต้องบูรณะซ่อมแซม พระอธิการเย็นได้พยายามปรับปรุงแก้ไขด้วยความลำบาก จนในที่สุดท่านเบื่อหน่ายและลาสิกขาไปในที่สุด พระบุศย์ผู้มีพรรษาเพียง 5 พรรษา จึงได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดกุฏีดาว เนื่องด้วยไม่มีพระภิกษุภายในวัดที่มีพรรษาสูงกว่าท่าน และไม่มีพระภิกษุวัดอื่นได้รับการแต่งตั้งให้มาเป็นเจ้าอาวาสหลวงพ่อบุศย์ท่านเป็นพระเถระที่มีขันติ วิริยะและสติปัญญาสูง มีหลักการในการปกครองคณะสงฆ์และศิษย์วัด ครั้นถึง พ.ศ. 2479 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกุฏีดาว และใน พ.ศ. 2482 จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูปริยัตยานุโยค”

    ต่อมาใน พ.ศ. 2498 หลวงพ่อบุศย์ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ให้เป็นพระราชาคณะที่ “พระศรีพัชราจารย์” ท่านจึงได้สร้างเหรียญรูปเหมือนตัวท่านเป็นครั้งแรก สำหรับแจกเป็นที่ระลึกงานฉลองสมณศักดิ์ใน พ.ศ. 2499 ลักษณะเป็นเหรียญทรงเปลวเทียน นั่งเต็มองค์ คล้ายกันกับเหรียญเปลวเทียนหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ ด้านหน้าระบุ “พระศรีพัชราจารย์” ด้านหลังเป็นยันต์ มีข้อความระบุ “วัดกุฏีดาว เพชรบุรี ๒๔๙๙” มีเนื้อทองแดงกะไหล่เงิน เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง เนื้อทองแดงรมดำ นอกจากนี้ยังมีเหรียญรูปเหมือนรุ่น 2 รูปไข่ พ.ศ. 2517 และ รูปถ่าย เป็นต้น
    หลวงพ่อบุศย์ได้ถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคหัวใจ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2526 สิริอายุได้ 80 ปี

    LINE_ALBUM_2024.2.25_๒๔๐๒๒๗_4.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2024
  11. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    383.แหวนอาร์ม พระอาจารย์โพธิ์แจ้ง วัดโพธิ์แมนฯ กรุงเทพฯ ((( บูชา 1,850 บาท ))) "จอง">>>พี่j999

    วัตถุมงคลรุ่นนี้เป็นแหวนรูปเหมือนรุ่นแรกๆที่เป็นรูปหน้าท่าน จำนวนการหมุนเวียนหายากมากในสนามผมได้มาแค่ 2-3 วง วงนี้เป็นวงแรกที่เปิดให้บูชา สร้างด้วยเนื้ออัลปาก้า สภาพวงนี้สวยมาก

    ทำไม นิกายจีนมหายาน ในไทย ถึงรุ่งเรืองเฟื่องฟูที่สุดในยุคของท่าน "อาจารย์โพธิ์แจ้ง วัดโพธิ์แมนฯ"

    รากฐานสำคัญ ที่ทำให้นิกายจีน มหายานในเมืองไทย มีความมั่นคง เพราะ ท่านอาจารย์โพธิ์แจ้ง ได้ศึกษา วางรากฐาน มหายาน ในเมืองไทย ให้ได้รับความยอมรับ โดยท่านอุทิศตัวท่านเอง ศึกษาหลักธรรม

    ขั้นต้นศึกษาในประเทศไทย โดยอันที่จริงตั้งแต่มีนิกายจีน มาตั้งแต่ยุคอาจารย์สกเห็ง เป็นปฐมเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย ในยุคสมัย รัชการที่ 5 แล้วนั้น ครูบาอาจารย์ในฝ่ายจีนนี้ไม่ธรรมดาเลย แต่ละรูปเคร่งครัดและปฎิบัติญาณตามแนวทางนิกายมหายาน จนสำเร็จ หลายต่อหลายท่าน (มีพระคณาจารย์หลายท่านมรณะแล้วสรีระไม่เน่าไม่เปื่อย) เป็นผู้ทรงญาณชั้นสูง แต่นิกายจีนก็ยังไม่ค่อยได้ความยอมรับในหมู่พุทธศาสนิกชน ในเมืองไทยเท่าไหร่นัก จวบจนมาถึง ยุคท่านอาจารย์โพธิ์แจ้ง จากการที่ท่านได้อุทิศตนศึกษาหลักธรรม และ การฝึกกัมมัฐาน ตามแนวทางนิกายจีนมหายานในเมืองไทยอย่างเต้มที่แล้ว ท่านได้ธุดงค์ไปศึกษา หลักธรรมฝ่ายมหายานในประเทศธิเบท ในสำนักของ พระสังฆราชา นอร่าริมโปเช ซึ่งในยุคนั้น ท่านมีชื่อเสียงและ ลูกศิษย์มากมายแทบทุกที่ในโลก การศึกษาหลักธรรมมนตรยาน วัชรยาน ซึ่งเป็นมหายาน อีกแขนงหนึ่งในครั้งนี้เป็นจุดที่ทำให้ท่านอาจารย์โพธิ์แจ้ง มีวิชาสายวัชรยาน เข้ามาเผยแพร่และช่วยเหลือคนในเมืองไทย จนมีชื่อเสียงโด่งดัง ท่านสังฆราชานอร่าฯ ได้เปิดเผยว่าท่านเจ้าคุณ อาจารย์ถือกำเนิดจากปรมาจารย์ “คุรุนาคาชุน” (ตามความเชื่อและแนวทางปฏิบัติในทิเบต) ซึ่งมาเพื่อฟื้นฟู สถาปนาพุทธศาสนามหายานให้มั่นคงในภูมิภาคนี้ ท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้รับ ความเมตตาจากพระอาจารย์เป็นพิเศษ เมื่อท่านเจ้าคุณอาจารย์ศึกษาแตกฉานใน มนตรยานณยิงมาคากิว แล้ว พระสังฆราชาฯได้ประกอบมนตรภิเษก ตั้งให้ ท่านเจ้าคุณ อาจารย์เป็น “พระวัชรธราจารย์” อันดับที่ 26 สืบต่อจากท่าน ในกาลครั้งนั้น ท่านสังฆราชานอร่าฯ ได้มอบ อัฐบริขาร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตำแหน่งสังฆราชา ให้ท่านเจ้าคุณอาจารย์อย่าง ครบถ้วน ทั้งได้มอบพระธรรมคัมภีร์ ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดของนิกายเพื่อให้ท่านเจ้าคุณ อาจารย์นำกลับมาประดิษฐานในประเทศไทย ด้วย ท่านสังฆราชาได้ทำนายว่า ทิเบตต้องแตก พระธรรมคัมภีร์อันมีค่ามหาศาลจะถูกทำลายหมด

    ถัดมา ท่านได้ไป เข้ารับการอุปสมบท ณ.วัดล่งเชียงยี่ บนภูเขาป๋อฮั้วซัว มณฑล กังโซว โดยมีพระคณาจารย์ฮ่งยิ้ม เป็นอุปัชฌาย์ ผู้เป็นสังฆนายกสำนักวินัย สำนักปฏิบัติ ธรรมวินัยแห่งนี้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่มีระเบียบวินัยเคร่งครัดที่สุดของจีน เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้อยู่ศึกษาพระปริยัติธรรม กับพระคณาจารย์เพิ่มเติมอีก 2 ปี ด้วยสติ ปัญญา อันหลักแหลมฉลาดเฉลียว ท่านได้เรียนรู้อรรถธรรมลึกซึ้งต่างๆได้แตกฉานเป็นที่รัก ใคร่ของพระอาจารย์ และ พระสงฆ์ต่างๆ ในสำนัก ปี พ.ศ.2479 จึงได้จาริกกลับประเทศไทย เพื่อเผยแพร่พระธรรมและประสบการณ์ความรู้ ที่ได้รับมาแก่พุทธบริษัทในประเทศไทยอีก หลังจากนั้น ปี พ.ศ.2491 ท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้จาริกไปประเทศจีนเป็นวาระที่สาม ครั้งนี้ท่านเจ้าคุณอาจารย์ ได้รับเกียรติอย่างสูงจากพระคณาจารย์จีนพระปรมัตตาจารย์ (เมี่ยวยิ้ว) ประมุขเจ้านิกายวินัยของประเทศจีน องค์ที่ 18 แต่งตั้งท่านเจ้าคุณอาจารย์เป็น พระปรมัตตาจารย์ ประมุขนิกายวินัยองค์ที่ 19

    จากบทความที่ทางเวปวัดโพธิ์แมน ได้ลงไว้นี้ ท่านอาจารย์เจ้าคุณโพธิ์แจ้ง วัดโพธิ์แมน ท่านเป็นพระในนิกายจีนที่บวชในสำนักนิกายจีนที่ยิ่งใหญ่ ถึง 3 แห่ง คือ
    1.ในเมืองไทย
    2.ในจีน
    3.ในทิเบท

    ซึ่ง ทั้ง 3 ที่ดังกล่าวล้วนเป็นนิกายจีนที่มีชื่อเสียงระดับสูงสุดทั้งนั้น ท่านได้ศึกษาความรู้หลักธรรมตามนิกายจีน ในทุกๆที่จนแตกฉาน ได้รับความนับถือสูงสุดในทุกสำนักที่กล่าวมาข้างต้น ถึงขนาดเป็นผู้ทรงนิกายสูงสุด ในทุกๆที่ท่านได้ไปศึกษา แม้แต่ในสำนักของท่านนอร่าริมโปเช ซึ่งเป็นสำนักที่ใหญ่มาก แต่ก็ยังยกย่องท่าน ตั้งให้ ท่านเป็น “พระวัชรธราจารย์” อันดับที่ 26 สืบต่อจากท่าน ซึ่ง ในความคิดของผม ท่านเป็นพระอริยะที่ทรงภูมิอย่างยิ่ง จนในเมืองจีนท่านเจ้าคุณอาจารย์ ได้รับเกียรติอย่างสูงจากพระคณาจารย์จีนพระปรมัตตาจารย์ (เมี่ยวยิ้ว) ประมุขเจ้านิกายวินัยของประเทศจีน องค์ที่ 18 แต่งตั้งท่านเจ้าคุณอาจารย์เป็น พระปรมัตตาจารย์ ประมุขนิกายวินัยองค์ที่ 19 อีก จนมาถึงจุดที่ท่านเลือกมาพัฒนานิกายจีนในเมืองไทย ท่านก็ได้รับการยกย่องได้รับตำแหน่งสูงสุดในนิกายจีน ในประเทศไทย


    52.jpg

    3.jpg 4.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2024
  12. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,965
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ขอจองครับ
     
  13. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,965
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ขอจองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2024
  14. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,965
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ขอจองครับ
     
  15. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองทั้ง 3 รายการครับ ขอบคุณพี่มากๆครับ
     
  16. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    384.ขันน้ำมนต์ ไคกวงพิธีจีน ((( บูชา 4,500 บาท )))
    สมนาคุณเป็น เหรียญซำกัวไต่ตี่ ฝาบาตรใหญ่เล็ก และเหรียญกุ่ยก๊กจือใหญ่ อัลปาก้า 1 เหรียญ

    ขันน้ำมันต์ไว้ทำน้ำมนต์ พรมบ้านไล่เสนียดจัญไร เสริมสิริมงคลแก่บ้านเรือน ไคกวงพร้อมเหรียญเตียวฮูเทียนซือ มียันต์ทั่วทั้งใบ ขันนี้ทำเป็นครั้งแรกมีแค่หลักสิบใบเท่านั้น

    รูปสภาพปัจจุบัน
    2.jpg

    รูปถ่ายสตูฯ(หากขัดจะได้สภาพตามนี้ )
    1.jpg

    สมนาคุณ
    3.jpg 5.jpg 6.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1312757.jpg
      1312757.jpg
      ขนาดไฟล์:
      231.4 KB
      เปิดดู:
      7
    • 1312760.jpg
      1312760.jpg
      ขนาดไฟล์:
      163.2 KB
      เปิดดู:
      6
    • 1312761.jpg
      1312761.jpg
      ขนาดไฟล์:
      162.3 KB
      เปิดดู:
      7
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      201.8 KB
      เปิดดู:
      6
    • 1312763.jpg
      1312763.jpg
      ขนาดไฟล์:
      187 KB
      เปิดดู:
      7
    • 1312764.jpg
      1312764.jpg
      ขนาดไฟล์:
      192.4 KB
      เปิดดู:
      7
    • 1312765.jpg
      1312765.jpg
      ขนาดไฟล์:
      203.8 KB
      เปิดดู:
      6
    • 1312758.jpg
      1312758.jpg
      ขนาดไฟล์:
      190.1 KB
      เปิดดู:
      7
    • 1312759.jpg
      1312759.jpg
      ขนาดไฟล์:
      201.4 KB
      เปิดดู:
      7
    • 1312762.jpg
      1312762.jpg
      ขนาดไฟล์:
      155.9 KB
      เปิดดู:
      6
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2024
  17. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    380.พระรูปหล่อหลวงพ่อชม วัดดอนกอก จ.เพชรบุรี ((( บูชา 650 บาท )))

    หลวงพ่อชม วัดดอนกอก รุ่นนี้บางท่านกล่าวว่าสร้างในช่วงที่ท่านมรณะภาพไปแล้ว บางข้อมูลว่ากันว่าอุดด้วยอัฐิท่าน สำหรับผม บ้านอยู่แถวหัวสะพาน ใกล้ๆกับวัดดอนกอก นอกจากหลวงพ่อแก้ว วัดหัวนา หลวงพ่อผล วัดเขมาฯแล้ว ก็มีหลวงพ่อชม วัดดอนกอก ที่คนห้อยติดคอ ทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็น ปิดตา เนื้อผงคลุกรัก เหรียญรุ่นแรก หรือรูปหล่อรุ่นแรก สำหรับรูปหล่อมีคนในพื้นที่เล่าให้ฟังว่ามีประสบการณ์ด้านแคล้วคราด และ มหาอุตต์ เกิดขึ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะนักเล่นวัวลาน เคยเห็นคนในตำบลหัวสะพานเลี่ยมทองรูปหล่อท่านอย่างดี

    11.jpg
     
  18. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    375.เหรียญหลวงพ่อเล็ก วัดจุมป๊ะ รุ่น 2 พ.ศ. 2518 จ.สงขลา ((( บูชา 1,500 บาท )))
    ได้รับ 8 เหรียญ สภาพสวยทุกเหรียญ

    หลวงพ่อเล็ก ลมฺภโก เดิมชื่อ เล็ก นามสกุล สีแสงแก้ว เกิดวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๗ ตรงกับวันอังคาร เดือนยี่ ปีมะโรง หมู่ที่ ๘ บ้านพรุพ้อ ตำบลป่าบอนเหนือ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง โยมบิดาชื่อนายแสง โยมมารดาชื่อนางแก้ว สีแสงแก้ว อาชีพครอบคัวทำกสิกรรม มีพี่น้องทั้งหมด ๓ คน ท่านเป็นบุตรชายคนโต พออายุย่างเข้า ๑๐ ขวบ โยมย่าพาท่านมาสมัครเป็นลูกศิษย์กับพระอาจารย์ไข่ วัดพรุพ้อ เพื่อให้ท่านศึกษาเล่าเรียนหนังสือภาษาไทย และอักษรขอม ว่า นะโม พุทธายะ กะขะ คะ ฆะ งะ จนจบ ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความตั้งใจเล่าเรียนอย่างดี จนสามารถอ่านออกเขียนได้ทั้งภาษาไทยและอักษรขอมอย่างรวดเร็วจนเป็นที่พอใจ พระอาจารย์ เลยบรรพชาให้เป็นสามเณร ต่อมาสามเณรเล็กเดินทางจากวัดพรุพ้อกลับไปหาโยมบิดา มารดา ทั้งนี้เพื่อขออนุญาตจากโยมบิดาเพื่อศึกษาวิชาจากสำนักอื่น ๆ โยมบิดาไม่อนุญาตและแนะนำท่านศึกษาเล่าเรียนกับโยมบิดา หลวงลุง หลวงตา และวัดใกล้ ๆ บ้านของท่านจะเรียนวิชาอะไรแล้วแต่ ส่วนมากจะสอนวิชาพุทธศาสตร์และไสยเวท ครั้นอายุได้ ๒๑ ปี โยมย่า โยมบิดา มารดา นำท่านมาอยู่วัดแหลมจาก ตำบลปากรอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา มอบให้เป็นศิษย์หลวงพ่อลอย จมฺท์โร เจ้าอาวาสวัดแหลมจาก เพื่อศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติม
    วันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๗ ท่านอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดแหลมจาก ตำบลปากรอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีหลวงพ่อลอย จมฺท์โร เจ้าอาวาสวัดแหลมจาก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์ชุม วัดแหลมจาก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการไล่ วัดสลักป่าเก่า เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้รับฉายา ลมฺภโก หลังจากอุปสมบทเรียบร้อยแล้ว ท่านไปจำพรรษาที่วัดพรุพ้อ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ศึกษาพระธรรมวินัย และเรียนปาฏิโมกข์ วัดพรุพ้อไม่มีกุฏิสงฆ์ ท่านได้สร้างกุฏิสงฆ์ให้วัดพรุพ้อ ๒ หลัง ต่อมาท่านได้ลาหลวงพ่อลอย และพระอาจารย์ไข่เพื่อออกธุดงค์ไปทางเหนือเพื่อแสวงหาความรู้ด้านพุทธคุณ และไสยเวทจากพระอาจารย์ต่าง ๆ เมื่อใกล้วันเข้าพรรษาท่านจึงเดินทางกลับจากธุดงค์มาจำพรรษาที่วัดพรุพ้อ จังหวัดพัทลุง

    พ.ศ. ๒๔๗๗ ท่านจำพรรษาที่วัดควนขัน จังหวัดพัทลุง เพื่อศึกษาวิชาโหราศาสตร์กับพระอาจารย์ชื่น แก้วเอียด ท่านเรียนวิชาโหราศาสตร์เป็นเวลา ๓ เดือน เมื่อออกพรรษาแล้วท่านได้ลาพระอาจารย์ชื่น แก้วเอียด เพื่อไปจำพรรษาที่วัดควรขันตามเดิม กำนันพันทับ จันทสุวรรณ กับชาวบ้านจำนวนหนึ่ง พากันมานิมนต์หลวงพ่อเล็ก ลมฺภโก ให้ไปจำพรรษาที่วัดเจริญภูผา (จุ้มปะ) ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลาท่านจึงตกลงรับปากกำนันพันทับและชาวบ้าน และเดินทางมาจำพรรษาที่วัดเจริญภูผา (จุ้มปะ) พร้อมด้วยอุบาสก ๑ คน กำนันและชาวบ้านพยายามเอาใจใส่ปรนนิบัติดูแลพระภิกษุ หลวงพ่อเล็ก และช่วยกันบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเจริญภูผา หรือวัดจุ้มปะ จนมีสภาพที่ดีกว่าเดิมมาก

    วันที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสเรียบร้อยแล้ว อบรมสั่งสอนชาวบ้านเรื่อยมา สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดจนถึงปัจจุบัน จากการเปิดเผยของนายชิน ขุนเพชร คูหาพระเครื่อง สี่แยกคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เล่าว่า หลวงพ่อเล็ก ลมฺภโก อดีตเจ้าอาวาสวัดเจริญภูผา (จุ้มปะ) ท่านมีเมตตาธรรมสูงให้ความช่วยเหลือผู้ตกทุกข์มาหาด้วยความเป็นกันเอง และมีเวลาว่างท่านจะเขียนอักขระลงยันต์ทำตะกรุดเครื่องรางของขลังจนชื่อ เสียงของหลวงพ่อเล็กเลื่องลือไปทั่วหลายจังหวัดภาคใต้เกี่ยวกับวัตถุมงคล อันศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่ปลุกเสกเองแม้ชาวต่างชาติประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงค์โปร์ต่างขอสมัครเป็นศิษยานุศิษย์ของท่านและเช่าวัตถุมงคลจาก หลวงพ่อเล็กไปบูชา หลวงพ่อเล็ก ท่านเรียนไสยเวท และพุทธคุณ วิชาแพทย์แผนโบราณเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ชาวบ้านจาก หมอวาส ลุงฉ่ำ และลุงสังข์

    หลวงพ่อเล็กนับว่าเป็นพระสงฆ์ที่ใจดีมีเมตตาแก่ชาวบ้านทั่วไป ให้การต้อนรับแก่ผู้คนที่มาหาโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ กิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านแพร่ขยายทั่วไป และแผ่ขยายเข้าไปถึงในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์แม้ว่าต้อนปลายๆอายุท่านอาพาธด้วยโรคชรา แต่ก็ยังคงต้อนรับแก่ชาวบ้านที่ศรัทธามานมัสการอย่างเต็มที่จนกระทั่งร่างกายทรุดโทรมตามลำดับในที่สุดท่านก็ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 รวม อายุ 78 ปี คงทิ้งไว้แต่คุณงามความดี และวัตถุมงคลเป็นที่นิยมศรัทธามาจนตราบเท่าทุกวันนี้

    จากเวปไซด์รัตภูมิซิตี้ได้อ้างอิงอนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พระอธิการเล็ก ลมฺภโก วัดเจริญภูผา (จุ้มปะ) อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จึงได้ทราบถึงการฉันเอกาของหลวงพ่อเล็ก

    “ตลอดเวลาที่เป็นเจ้าอาวาสวัดเจริญภูผา ท่านได้พัฒนาวัดให้เจริญก้าวหน้าเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาและเป็นความภูมิใจของชาวบ้านในละแวกนั้นอย่างมาก และชื่อเสียงของท่านเป็นที่เลื่องลือในด้านความศักดิ์สิทธิ์ และการรักษาโรคแผนโบราณ ตลอดจนปฏิบัติศีลจารวัตรดีงามเป็นที่เคารพนับถือแก่ชาวบ้านตลอดมา ท่านฉันเอกา (มื้อเดียว) มาตลอด

    พ่อท่านเล็กได้ตั้งใจศึกษาวิชาความรู้ทั้ง ๔ สาขาจนเชี่ยวชาญ รู้จริง เป็นจริง ทำได้จริง ท่านได้รับการยกย่องเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ชื่อเสียงเลื่องลือไปไกล ประชาชนทั้งใกล้และไกลมาเคารพสักการะและขอความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เช่น การทำนายโชคชะตา การขอมีบุตร (สำหรับผู้มีบุตรยาก) การรักษาโรคแผนโบราณ การขอบารมีคุ้มครองเป็นเครื่องรางของขลัง วิชาความรู้ทั้ง ๔ สาขา พ่อท่านได้ศึกษาจากครูต่อไปนี้
    ๑.วิชาปริยัติธรรม พระธรรมวินัย ภาษาไทย อักษรขอม ไสยศาสตร์ คาถาอาคม ศึกษาจากท่านมหาลอย อาจารย์ไข่ และโยมบิดา ลุง และตา
    ๒.วิชาแพทย์แผนโบราณ การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ศึกษาจากหมอวาส ลุงฉ่ำ ลุงสังข์
    ๓.วิชาโหราศาสตร์ คำนวณเลข ศึกษาจากพระอาจารย์ ชื่น แก้วเอียด

    วิชาความรู้ที่ทำท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง
    ๑. การทำพิธีขอบุตรให้กับผู้มีบุตรยาก ท่านสามารถทำได้สำเร็จมากกว่า ๔๐๐ ราย มีการทำพิธีทางไสยศาสตร์ ทางศาสนา กินยาแผนโบราณ
    ๒.วัตถุมงคล ซึ่งพ่อท่านจะทำการปลุกเสกโดยตัวของท่านเองมีหลายชนิด เช่น ด้ายมงคล ทรายเสก ตะกรุดพิศมร ปลอกแขน ผ้ายันต์ ฯลฯ
    พระเครื่องและเหรียญต่าง ๆ เช่น พระผงรูปเหมือนเหรียญรูปเหมือนชนิดต่าง ๆ
    ๓.การรักษาตามตำรายาแผนโบราณ เช่น ยาแก้เลือดไม่ดีของผู้หญิง ยาแก้เลือดเมื่อคลอดลูกใหม่ ยาแก้ไข้ผิดน้ำ ยาปวงหรืออหิวาตกโรค ฯลฯ

    60.jpg 61.jpg
     
  19. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    371.เหรียญหลวงพ่อผิว วัดตาลกง รุ่นแรก ปี 2503 จ.เพชรบุรี ((( บูชา 450 บาท )))

    เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อผิว โดยเหรียญนี้ใช้แจกให้กับผู้ร่วมทําบุญ ในงานฌาปนกิจศพ พระธรรมะศิริ (หลวงพ่อผิว) อดีตเจ้าอาวาส วัดตาลกง เมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๐๓ เวลาประมาณเที่ยงคืน เศษๆ โดย ณ ตอนนั้น หากใครร่วมท่าบุญ จํานวน ๑๐ บาท ก็จะได้รับ เหรียญ พระธรรมะศิริ (หลวงพ่อผิว) เนื้อทองแดง (จัดสร้างเนื้อเดียว จํานวนสร้างหลักพันองค์) จํานวน ๑ เหรียญ

    แต่หลังจากที่เหลือจากการร่วมทําบุญแล้ว หลวงพ่ออุ้น ท่านก็ได้เก็บไว้ และได้ทยอยแจกเรื่อยมา โดยมิได้คิดมูลค่าในการเช่าบูชา

    โดยเหรียญนี้ผ่านการปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์จํานวน ๙ รูป (ปลุกเสกก่อนงานฌาปนกิจศพประมาณ ๒ วัน) โดยมี รายนามพระสงฆ์ที่ร่วมปลุกเสก ดังต่อไปนี้
    ๑.หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
    ๒.หลวงพ่อรวม วัดท่าคอย
    ๓.หลวงพ่อเทียบ วัดมาบปลาเค้า
    ๔.หลวงพ่อวง วัดตามปลาเค้า
    ๕.หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง
    ๖.หลวงพ่อเยิ้ม วัดบางจาก
    ๗.หลวงพ่อขาว วัดอินจําปา


    พระอธิการผิว ธมมสิริ นามสกุล กล่อมใจ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2437 ที่บริเวณทุ่งหนองตาอาน ใกล้เขาพรหมชะแง้ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ในวัยเด็กเมื่ออายุประมาณ 7 – 8 ขวบ โยมบิดามารดาได้นำไปฝากอยู่ที่วัดท่าคอย เพื่อเล่าเรียนเขียนอ่านหนังสือตามปกติของเด็กในวัยเดียวกัน เมื่ออายุ 20 ปี ได้เข้ารับราชการเกณฑ์เป็นตำรวจจังหวัดเพชรบุรีอยู่ 3 ปี จนได้ยศสิบตรี ต่อมาเกิดป่วยเป็นฝีหัวใหญ่จนต้องลาออกจากตำรวจ กลับมารักษาตัวที่บ้านจนหาย ครั้นอายุ 25 ปี ได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ พัทธสีมา วัดตาลกง มีพระครูญาณเพชรรัตน์ (ปลั่ง) วัดศาลาเขื่อน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูชัน วัดมาบปลาเค้า เป็นพระกรรมวาจารย์ หลวงพ่อพุด วัดตาลกง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาทางธรรมว่า “ธมมสิริ” ภายหลังจากอุปสมบทแล้ว ไม่ปรากฏหลักฐานว่าหลวงพ่อผิวได้ไปเล่าเรียนหรือจำพรรษาในที่ใดเป็นระยะเวลานานๆ ทราบแต่เพียงว่าใน พ.ศ. 2469 หลวงพ่อพุด เจ้าอาวาสวัดตาลกงได้มรณภาพลง ทางคณะสงฆ์และเหล่าทายกทายิกาได้พร้อมใจกันอาราธนาหลวงพ่อผิวขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดตาลกงสือต่อ หลวงพ่อผิวเป็นผู้มีอุปนิสัยที่เป็นอยู่อย่างสันโดษ แต่มีความเชี่ยวชาญในสมถกรรมฐานและวิทยาคมสูงยิ่ง โดยเฉพาะวิชาลงนะที่กระหม่อม ซึ่งต่อมาท่าได้ถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆ ให้กับหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ศิษย์ผู้ใกล้ชิดจนหมดสิ้น ทั้งนี้หลวงพ่อผิวยังมีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆ ของหลวงพ่อจ้วน วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง อีกด้วย หลวงพ่อผิว ได้ถึงแก่มรณภาพลงเมื่อ พ.ศ. 2501 สิริอายุได้ 64 ปี พรรษา 39

    2.jpg
     
  20. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    611
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    373.เหรียญหลวงพ่อเห่ง วัดอุตมิงค์ หลังเรียบมีจาร รุ่น2 ปี2502 เพชรบุรี ((( บูชา 450 บาท )))

    เหรียญประสบการณ์ สวยๆหลายๆพัน รุ่นแรกสวยๆหลักหมื่น พระประสบการณ์โซนบ้านแหลมครับ

    พระครูวชิวกิจใสภณ นามเดิม เห่ง นามสกุล ตูวิเชียร เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2427 ชาติภูมิเดิมอยู่ที่ตำบลบางขุนไทร อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เมื่อครั้งยังยาว์วัยได้เข้าศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดอุตมิงค์ จนจบการศึกษา จนกระทั่งอายุครบ 21 ปี จึงเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ณ พัทธสีมาวัดอุตมิงคาวาส ตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี โดยมี พระอธิการทรัพย์ วัดเขาตะเคราเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการหวัง วัดโพธาวาส เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอธิการเปลี่ยนวัดอุตมิงคาวาส เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาในการอุปสมบทว่า “สิริจนฺโท” ครั้นอุปสมบทแล้วท่านได้จำพรรษาที่วัดอุตมิงคาวาส อยู่เล่าเรียนศึกษาพระธรรมวินัย ท่องบ่นทำวัตรสวดมนต์ ตลอดจนวิปัสสนาธุระ และ พุทธาคมต่าง ๆ จากอธิการเปลี่ยน พระอธิการหวัง และ พระอธิการทรัพย์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนักและยังเดินทางไปศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกหลายรูป กาลต่อมาใน พ.ศ. 2453 พระอธิการเปลี่ยน เจ้าอาวาสวัดอุตมิงคาวาส ได้มรณภาพลง ด้วยความที่หลวงพ่อเห่ง ท่านเป็นผู้เอาใจใส่เป็นธุระในกิจการคณะสงฆ์เป็นอย่างดี จึงเป็นที่ไว้วางใจของพระอธิการเปลี่ยน คณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่จึงได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา ครั้นถึง พ.ศ. 2497 ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูวชิรกิจโสภณ” อุปนิสัยและจริยวัตรของหลวงพ่อเห่ง ท่านเป็นผู้ฝักใฝ่ในการศึกษาเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ทำวัตรสวดมนต์ เจริญวิปัสสนากรรมฐานเป็นประจำ เป็นผู้พูดน้อย ค่อนข้างขรึม ไม่ชอบการสนทนาที่ไม่มีสาระประโยชน์ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ศิษย์และผู้คนละแวกวัดต่างเคารพเสื่อมใสและยำเกรงท่านมาก ในช่วงบั้นปลายชีวิตของท่านได้มีโรคภัยเข้ามาเบียดเบียนอยู่บ่อยครั้งก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้อาพาธชนิดสามวันดีสี่วันไข้ จนในที่สุดท่าได้มรณภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2507 เวลา 17.00 น. สิริอายุได้ 80 ปี พรรษา 59 ทางคณะกรรมการวัดและศิษยานุศิษย์ ได้เก็บสรีระสังขารของหลวงพ่อเห่งไว้เพื่อบำเพ็ญกุศล และจัดงานพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 16 – 18 เมษายน พ.ศ. 2508

    18.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...