หมอดูจีนผู้เร้นกาย อาจารย์นริศ หมากรุกจีน

ค่าเรียนเท่าไรครับ เปิดปีละครั้งหรือป่าวครับ

 

โทรศัพท์ไปสอบถามอาจารย์นริศ หมากรุกจีนได้โดยตรงเลยนะ


นามบัตรเพื่อติดต่ออาจารย์ นริศ
***ใครโทรไปหา หรือติดต่อท่านก็บอกด้วยว่า อ่านจากบทความของผม
"ดอย ศิษย์รุ่น13" แนะนำไว้ในเวปไซต์นี้ ขอขอบคุณ"

 

อาจารย์ นริศ หมากรุกจีน ได้รับเชิญจากร้านสมเด็จองค์สภานายิกา สภากาชาดไทย
ให้เข้าร่วมพยากรณ์ดวงชะตาการกุศล เป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน
ตั้งแต่สมัยที่ยังมีหมอดูเก่งๆ ที่ได้รับคัดเลือกมาไม่ถึง 10 คน จนตอนนี้รายชื่อเป็นพรืด

ในงานนี้อาจารย์นริศ หมากรุกจีน ดูช่วยเป็นการกุศล
ธรรมดาค่าดูคนละ 1000 บาท
ดูในงานครั้งนี้ 400 บาท
​

 

ท่านซินแส นริศ จริงๆจะปิดวิชานี้ไว้ แต่พระกระแสรับสั่ง ท่านจึงรับสอนศิษย์ตาม

จริงๆท่านมีความตั้งใจในตอนแรกว่าจะไม่สอนวิชาให้ใครนอกจากคนในตระกูล เพราะวิชาดังกล่าวท่านก็ได้มาด้วยความไม่เจตนาตั้งแต่ตอนแรกที่ได้พบซินแสผู้มอบให้จากการไปส่งเพื่อนไปดูดวง ตนเองไม่ได้คิดจะอยากดู แต่เมื่อซินแสท่านนั้นได้พิจารณาโหงวเฮ้งด้วยประการทั้งปวงแล้วก็ขอให้ท่านเป็นศิษย์เพราะเชื่อว่าจะได้สืบต่อวิชาล้ำค่านี้ต่อไป แปลกไหมที่หมอดูจีนทั้งหมดในไทยตอนนี มีท่านเพียงคนเดียวที่ใช้หมากรุก และรู้ว่าใช้อย่างไรอย่างแท้จริง จนตอนนี้ผมเห็นหมอดูจีนที่มีชื่อเสียงหลายคนพยายามทำเลียนแบบเป็นแผ่นพลาสติกกลมๆ แต่อย่างไรก็ดูออกว่าสีที่ใช้ไม่ได้ตรงตามโบราณเลย เป็นของปลอมก็ว่าได้
จู่ๆก็เกิดเรื่องที่ท่านต้องรับลูกศิษย์ สืบเนื่องจากการที่ท่านได้ตอบรับคำเชิญไปพยากรณ์การกุศลให้กาชาด ต่อมาก็เป็นมูลนิธิสิริวัฒนาฯ และท่านได้ถวายการดูพระชะตาให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ พระองค์หนึ่งซึ่งท่านผู้หญิงผู้เป็นนางสนองฯ ได้กล่าวว่า พระองค์ท่านไม่ให้ใครดูพระชะตามานานมาร่วม 30 ปีได้ วันนี้ถือว่า อาจารย์นริศได้รับเกียรติมาก และอาจารย์ นริศก็ได้ถวายคำทำนายดวงพระชะตาจนเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นจริงอย่างไม่น่าเป็นไปได้ หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามคำทำนาย คุณหญิงผู้นั้นได้นำพระกระแสรับสั่งมายังซินแส นริศ ว่า พระองค์รับสั่งให้ถามว่า ท่านรับลูกศิษย์ไหม ท่านอาจารย์ซินแส นริศก็ตอบไปว่า ไม่ได้รับ เพราะตั้งใจจะสอนแต่ลูก แต่ลูกท่านมาขอไม่เรียน จึงคิดว่าจะปิดตำรานี้ทิ้งไปเสีย คุณหญิงผู้นั้นได้บอกว่า พระองค์ท่าน รับสั่งว่า วิชาดีๆแบบนี้ต้องถ่ายทอด ต้องรับศิษย์ให้วิชาดีๆแบบนี้มีคนสืบต่อไป ท่านจึงยึดและปฏิบัติตามพระกระแสรับสั่งนี้ ทิ้งความมุ่งหวังเดิมที่จะปิดวิชานี้ไว้เสีย

พรุ่งนี้ 7 ตุลาคม 2555 ท่านซินแส นริศ ฯ จะรับศิษย์ในการสอนวิชาโหราศาสตร์จีน รุ่นที่ 17
ท่านใดอยากศึกษาวิชาล้ำค่านี้ไว้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนเองและคนรอบข้าง ติดต่อได้ตามเบอร์โทรด้านบน ทั้งเบอร์บ้าน และมือถือ

***ใครโทรไปหา หรือติดต่อท่านก็บอกด้วยว่า อ่านจากบทความของผม
"ดอย ศิษย์รุ่น13" แนะนำไว้ในเวปไซต์นี้ ขอขอบคุณ"

 

สำหรับท่านที่ไม่เคยมีพื้นฐานด้านภาษาจีน หรือดวงจีนเลย
ขอยืนยันว่าสามารถเรียนได้ และทำนายดวงได้แม่น ดูจากตัวอย่างลูกศิษย์ท่านอาจารย์ด้านหน้าทั้งหมดไม่มีพื้นฐานภาษาจีนและพูดจีนไม่ได้ แต่การทำนายตามดวงจีนที่ได้รับการสั่งสอนมา สามารถใช้ได้อย่างแม่นยำ

สำหรับท่านที่ศึกษาดวงจีนมานานปี แต่เจอปัญหา อ่านดวงได้ไม่ทะลุญาณ และติดขัดในปัญหา ทำนายไม่แม่นยำเท่าที่ควรและศึกษาเท่าใดก็มีข้อสงสัย ไม่ลึกซึ้งเสียที เชิญมาเรียนแล้วจะพบคำตอบ ลูกศิษย์จากสิงคโปร์ประเทศแห่งดวงจีนและฮวงจุ้ย ได้เห็นด้วยกับคำนิยมที่กล่าวว่า ศาสตร์การอ่านดวงโป๊ยหยี่สี่เถียวแบบที่อาจารย์ซินแส นริศ หมากรุกจีน ท่านได้สอนสั่ง เป็นสิ่งใหม่ที่มหัศจรรย์และไม่เคยพบมาก่อนว่าดวงจีนที่แท้จริงต้องอ่านแบบนี้ มันจึงจะแม่นยำ และเป็นคำทำนายที่เอาไปใช้แล้วได้ผลจริงว่าเป็น pratical Bazi คือโป็ยหยี่สี่เถียวที่สามารถนำมาใช้ได้จริง ไม่ใช่เอาแต่อ้างห้าธาตุตำราพูดได้แต่ภาษาหมอดู แปลเป็นคำทำนายบ้าๆ ไม่ใช่แบบนั้น

ด้านล่างเป็นผลงานหนังสือที่ลูกศิษย์ของท่าน อีกคนหนึ่ง นอกเหนือจากสามคนที่ผมกล่าวไว้ เขียนขึ้น และจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียง แสงดาว เขียนเพื่อให้วิชานี้อย่างน้อยก็มีตำราจารึกเอาไว้ว่าครั้งหนึ่งเคยมีซินแสท่านหนึ่ง ซินแสนริศ ได้สอนสั่งเอาไว้ จริงๆแล้วเป็นวิชาโป๊ยหยี่สี่เถียวแต่ลึกซึ้งกว่าตำราทั่วไปและก็ทายง่ายกว่าตำราทั่วไป พูดสั้นๆว่า ง่ายๆแต่ลึก เรียบๆแต่สูงส่ง ฉะนั้น ดวงจีน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้เลย ผมมาเขียนประชาสัมพันธ์ไม่ได้มีอามิสสินจ้างใดๆ และท่านอาจารย์ท่านก็ไม่ได้มีเจตนาให้เผยแพร่เพียงแต่ผมต้องการประกาศให้คนทั้งหลายได้รู้ถึงวิชาที่มีคุณค่า และเป็น กั๋วเป่า คือสมบัติล้ำค่าของแผ่นดินจีนที่หล่นหาย เพราะตามเวปไซต์เจ้าตำรับคือจีนและไต้หวัน ก็ไม่ปรากฎว่ามีผู้ใดใช้วิชาโป็ยหยี่สี่เถียวแบบนี้เป็น ผมใช้เวลาค้นหามาเป็นปี ก็หาไม่พบ พบที่เดียวคือ ท่านอาจารย์ ซินแส นริศ หมากรุกจีน เท่านั้น




จุดประสงค์ของ การรวบรวมข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับ "หมากรุกแห่งชีวิต" เล่มนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้ที่มีมโนธรรมในจิต คิดแต่จะทำความดีเพื่อเสริมคุณค่าในชีวิตของตนเอง เพราะผู้เขียนเชื่อมั่นว่า เมื่อท่านผู้อ่านทำความเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง จะได้เห็นลู่ทางในการก่อกรรมดี มิใช่แค่ต่อสังคมส่วนรวม แต่เพื่อตนเองและครอบครัว ค้นพบทางสู่ความสำเร็จและความมั่นคงในชีวิต

คำนิยม โดยจีรนันท์ เศวตนันทน์

 

ภายใน "สัปดาห์พยากรณ์เพื่อสภากาชาดไทย ประจำปี 2555" ณ สยามพารากอน นอกจากนักพยากรณ์ชั้นครู ที่ร้านสมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ทำการคัดสรรในเรื่องความแม่นและมีจรรยาบรรณ พร้อมเชิญมาออกบูธเพื่อนำเงินรายได้เข้าการกุศล เรายังสามารถพบศาสตร์การพยากรณ์ในแบบที่แทบไม่เคยได้เห็น มากระตุ้นต่อมให้อยากรู้ว่าวิธีการทำนายดวงสุดแปลกนั้น ...จะแม่นสักแค่ไหน?

แปลกแหวกแนวสุดต้องยกให้ "ศาสตร์แห่งคริสตัล" ของนักพยากรณ์ "กามล แสงวงศ์" โดยเจ้าตัวถึงกับเอ่ยปากว่า ศาสตร์การดูดวงแขนงนี้เขาเป็นเจ้าตำรับคิดขึ้นมาเอง โดยดัดแปลงตกผลึกจากศาสตร์พยากรณ์โหราศาสตร์สากล ดวงดาว ไพ่ยิปซี และเลขศาสตร์ และใช้คริสตัล 5 สี ได้แก่ สีแดง สีขาว สีน้ำตาล สีฟ้า และสีฟ้าอมเขียว เป็นตัวแทนธาตุไฟ, ดิน, น้ำ, ลม และไม้ จำนวน 100 เม็ด เป็นตัวกลางในการสื่อสารโดยไม่ต้องใช้วันเดือนปีเกิดหรือเวลาตกฟากมาคำนวณ

ส่วนวิธีการดูก็ไม่ยุ่งยาก นักพยากรณ์กามล บอกว่า แค่หยิบเม็ดคริสตัลขึ้นมาตามใจที่อยากจะหยิบ แล้วเอามาวางไว้บนผ้า จากนั้นเขาก็จะเริ่มทำนาย (ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าแค่วิธีการแค่นี้แต่ความแม่นยำนั้นเข้าขั้น 85-90% ทีเดียวนะจ๊ะ)

"สิ่งที่หยิบออกมาก็คือแบบจำลองในชีวิตหรือจุดกำเนิดในชีวิตของคุณ เมื่อได้สัมผัสพลังชีวิตที่คริสตัลดูดซับไว้ ผมก็จะสามารถแนะนำให้รู้ว่าชีวิตของคุณนั้นมีศักยภาพอะไรบ้าง และตัวคุณเองจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับศักยภาพที่มีได้มากน้อยเพื่อต่อยอดได้ขนาดไหน ทั้งนี้ เพราะศาสตร์แห่งคริสตัลไม่ใช่การทำนายในเชิงโหราแบบลิขิตชะตา ทว่า จะเน้นการให้คำแนะนำตามความเป็นตัวตน ดูจุดดี จุดเด่น และสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยครับ"

ต่อมาก็เป็นการดูดวงในแบบที่แทบไม่เคยได้เห็นในสังคมไทย และศาสตร์การพยากรณ์ที่ว่าก็คือ "ศาสตร์ไพ่มาจอง" หรือไพ่นกกระจอกของนักโหรา "ฮั่น มาจอง" ที่ผันตัวเองจากอินทีเรียมือดี มาเป็นนักทำนายดวงอาชีพเมื่อ6-7 ปีที่ผ่านมา

ฮั่น มาจอง อธิบายศาสตร์การดูดวงของตัวเองให้ฟังว่า การดูไพ่ของเขานั้นมีรากมาจากสังคมเกษตรกรรม อิงกับปรัชญาจีนโบราณ แล้วผนวกกับความรู้ด้านอื่นๆของจีน ผ่านตัวไพ่ 144 ตัว พร้อมด้วยกระดานนภา 13 ตำแหน่ง จึงต่อยอดการตอบโจทย์ของผู้มาทำนายได้หลากหลาย ประมาณว่าอยากรู้อะไรก็บอกได้ และให้รายละเอียดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

"การดูดวงทั่วไปแบบวันเดือนปีเกิดจะให้แต่พื้นดวงว่าใครวาสนาจะเป็นอย่างไร แต่ตัวไพ่มาจองจะให้รายละเอียดในเรื่องของคำตอบ แบ่งเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ดวงชะตาตัวเอง สิ่งกำลังเกิดขึ้น การตอบโจทย์ปัญหา และบทสรุปของการแก้ปัญหา และมีความเชื่อของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจีนเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตาม ผมนิยมดูอนาคตมากกว่าอดีต ส่วนความแม่นยำของการทำนายก็อยู่ที่ราวๆ 70% ขึ้นไป"

ขณะที่ "ศาสตร์หมากรุกจีน" ที่เคยรุ่งเรืองเมื่อ6,000 ปีก่อน และซบเซาในอีก 1,000 ปีให้หลัง จนเริ่มมาบูมอีกครั้งในปัจจุบัน ก็เป็นอีกหนึ่งการดูหมอที่ไม่ใคร่จะได้พบเจอได้ทั่วไป (ยกเว้นย่านเยาวราช) ยิ่งเป็น "ศาสตร์โป้ยยี่ซีเถียว" ที่แตกแขนงออกมาด้วยแล้ว คิดว่าคงมีแต่ "นริศ สหชาติศิริ" นักพยากรณ์วัย 64 ท่านเดียวกระมังที่อาสาทำนายได้ และอายุงานกว่า 30 ปีก็เป็นเครื่องการันตีความเก๋าในด้านความแม่นยำได้เป็นอย่างดี

"ฐานศาสตร์มาจากปฏิทินชาวนาและปราชญ์จีน มารวบรวมเป็นตำรา ความพิเศษของการดูดวงด้วยศาสตร์ดังกล่าวคือ จะแม่นเรื่องหาฤกษ์ยามมาก โดยเฉพาะฤกษ์ดีอย่างฤกษ์แต่งงาน ผ่านการใช้สัญลักษณ์ของดิน, น้ำ, ไฟ, ทอง และเทวดาประจำตัว ซึ่งทั้งหมดจะคำนวณจากวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟาก แล้วค่อยๆ วางหมากรุกจากตัวหมาก22 ตัว แบ่งเป็นหมากนภา 10 ตัว และหมากปฐพี 12 ตัว ลงใน 8 ช่อง 4 แถว ที่จะระบุให้รู้ถึงระดับวาสนา อาชีพสังคม เนื้อคู่ ความร่ำรวย สังขาร อาการเจ็บป่วย ชื่อเสียงความหวัง คุณธรรม และจะดียิ่งขึ้นหากทำนายพร้อมกันเป็นคู่สามี-ภรรยา เพราะจะได้รู้ว่าใครหนุนใคร ขาดตกบกพร่องตรงไหน เทวดาประจำตัวให้คุณให้โทษอย่างไร หลบเลี่ยงหรือแก้เคล็ดได้หรือไม่ เช่น บางคนดวงแห้งสนิท ก็ควรย้ายที่อยู่ไปอยู่ใกล้น้ำก็จะเจริญขึ้น หรือถ้าดวงเป็นไฟก็ต้องประกอบอาชีพเย็นๆ พูดง่ายๆ คือศาสตร์การดูดวงของผมนั้นเคลียร์ปัญหาให้คุณได้แน่นอนครับ"

อย่างไรก็ตาม นริศประกาศกร้าวไว้ว่า ศาสตร์การดูหมอในแบบของเขานั้นไม่เน้นไสยศาสตร์ ไม่เจือปนสิ่งผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม

ตบท้ายกันอีกสัก 2 ศาสตร์การดูดวงแบบไทย แต่เป็นแบบที่คุณๆ ไม่เคยรู้จักแน่นอน ศาสตร์แรกเป็นของ "อาจารย์ธนัญธร บุญจักรวาล" ที่เจ้าตัวขอนำเสนอมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ กับศาสตร์ดูดวงแบบไทยแท้ "ราศีจักรหรือดาวกะพริบ 10 ชั้น" ที่มีมาแต่ยุคพระนารายณ์

อาจารย์ธนัญธร เผยว่า หลักการทำนายโชคชะตาแบบดาวกะพริบ 10 ดวง จะใช้ดาวนพเคราะห์ 10 ดวง ได้แก่ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสฯ ศุกร์ เสาร์ พระราหู พระเกตุ และมฤตยู และโคจรผสมกับชั้นทั้ง 10 ได้แก่ เกษตร มหาอุจ มหาจักร ราชาโชค อุจจาวิลาศ ประ นิจ และจุลจักร โดยดูในภาพของดาวแต่ละชั้นว่าตัวไหนอยู่ชั้นไหน แล้วเอามาพยากรณ์ตรึงกับดวงชะตาวันเดือนปีเกิด แล้วโยกมาดูร่วมกับมหาทักษาของวันเกิดผู้ดู เพื่อตอบโจทย์คำถามจุดเด่นของการพยากรณ์ในแบบนี้จะละเอียดกว่าดูทั่วไป เพราะเราดูตั้งแต่รากแก้ว ขุดฐานดวงขึ้นมาดูกันเลยทีเดียว เพราะจะช่วยให้ความแม่นยำเต็มร้อย หรือไม่อย่างน้อยก็ 80% ขึ้นไป

ส่วน ณัฐชานันท์ มากมูล ก็เป็นอีกหนึ่งสาวที่พกศาสตร์พยากรณ์ไม่คุ้นหูมา แจงให้ฟังถึงความมหัศจรรย์ของโหราศาสตร์ไทย โดยมีพระเอกเป็นวิชา "อินทภาสบาทจันทร์" ซึ่งเจ้าตัวระบุชัดว่า วิชาดังกล่าวเป็นวิชาทำนายดวงโบราณที่ไม่ค่อยมีใครใช้แล้ว ทั้งๆ ที่มีความแม่นยำมาก เพราะเจาะลึกดวงยิ่งกว่าโหราศาสตร์ไทยทั่วไป ในแบบฟันธงโชะเด๊ะว่าในปีนี้ดวงดีร้ายขนาดไหน ถึงขั้นระบุวันหรือช่วงเวลาว่าจะดี ร้าย กี่วัน เดือน ปี ได้เลยทีเดียว!!!

อย่างไรก็ตาม นักโหรา ฮั่น มาจอง ฝากบอกไว้ด้วยว่า"ศาสตร์ดูดวงแปลกๆ มีทั้งคุณและโทษ เพราะถ้าใช่วิชาของจริงก็จะอยู่ ผู้ดูได้คำแนะนำที่ดี แต่ถ้าไม่ใช่วิชาที่แท้จริง หรือตัวโหรามีความโลภ ศาสตร์นั้นก็จะจางหายไปตามกาลเวลา ซึ่งกรณีนี้ดูไปก็ไม่ได้ประโยชน์ และอาจเกิดผลร้ายด้วยหากเราเชื่ออย่างไม่มีสติ อย่าลืมว่านักพยากรณ์ก็เป็นแค่คนชี้แนะ ไม่สามารถลิขิตชะตาชีวิตใครได้ คนที่จะเดินต่อไปก็คือตัวเรา เราต้องเลือกเอง".

บรรยายใต้ภาพ
คริสตัล 5 สี 100 เม็ด เครื่องมือทำนายดวง สุดเก๋แถมแม่นเวอร์ของกามล แสงวงศ์
เลือกตามใจแล้ววาง ...ก็ได้ทราบถึงหลักในการดำเนินชีวิต
กามล แสงวงศ์ ผู้บุกเบิกศาสตร์การทำนายแบบใหม่ของไทย
บรรยากาศการดูดวงของ ฮั่น มาจอง
นริศ สหชาติศิริ โหราศาสตร์วัยเก๋าท้าทายความแม่นด้วยหมากรุกจีน
อาจารย์ธนัญธร บุญจักรวาล กับมรดกตกทอดของบรรพบุรุษ ศาสตร์ดาวกะพริบ 10 ชั้น
ณัฐชานันท์ มากมูล

 

เวปไซต์ซินแสนริศ ผู้เชี่ยวชาญวิชาหมากรุกจีนโป๊ยหยี่สี่เถียว-ปาจื้อ หนึ่งเดียวในไทย

.

 

อัพเดทคลิป ที่อาจารย์เคยออกทีวี

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/A7BjF-QbBz8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

วันนี้เราไปดูดวงกับซินแสนริศมาแหละ
ตอนไปถึงเขาบอกให้เรานั่งรอ เรามองรอบๆห้องเห็นเขียนอะไรเต็มไปหมด แบบว่าเหมือนว่าเป็นเซียนขั้นเทพ เลยแอบคิดในใจว่าเขาคงจะเป็นซินแสที่ดูแม่นมาก เพราะว่าเซิสในเน็ตมา หลายคนบอกว่าแม่นมาก มีออกรายการทีวีด้วย แถมมีลูกศิษย์มาเรียนอีกต่างหาก

พอเริ่มดู ก็เริ่มสงสัย ถามตัวเองว่าเรามาผิดที่หรือเปล่า เพราะซินแสคนนี้แย่มาก ทั้งกิริยา ท่าทาง อวดเก่ง โผงผาง แต่จริงๆไม่รู้อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ย้ำ ว่าเขาไม่รู้อะไรเลย!! ดูๆแล้วเหมือนคนปัญญาอ่อนหรือสติไม่ประกอบด้วยซ้ำ (รู้แค่ว่าเราอยู่ในธาตุอะไร แล้วก็จับหมากรุกจีนวางๆ)เราอัดเทปเสียงเขาไว้ด้วย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรามีเงิน มีธุรกิจมากมาย และไม่รู้เรื่องอื่นๆอีกมากมาย เพราะเขาบอกว่าเราไม่ทำงานอะไรเป็นแม่บ้านเฉยๆ แต่จริงๆเราทำงานหนักแทบจะ24 ชั่วโมง บ้างานอีกต่างหาก (จะบอกว่าเวลาเราไปหาหมอดู เราจะแต่งตัวแบบว่าเสื้อยืด รองเท้าแตะ ฯ เพราะเราจะได้รู้ตัวตนของหมอดู)
เขาพูดจาโผงผางแบบท้าทาย ก้าวร้าวแต่ไม่หยาบคาย(พูดแรง เสียงดังและพูดมึงกูแต่เราถือว่าไม่หยาบนะ รับได้) แต่ว่าถ้าเราแสดงอาการไม่เชื่อ เขาจะว่าเราทันที และพูดเสียงดังมากขึ้นเหมือนโมโห ถ้าเราบอกว่าไม่เข้าใจเขาก็จะมีอาการโกรธ ถ้าเราถามคำถามเขาก็ฟังไม่ทันจบก็พูด ทำทายเสร็จเรียบร้อย ตกลงเราจะถาม"เรื่องม้ากลับตอบเรื่องช้างให้เราฟัง" และถามเขาก็จะถามเราว่าจะมาดูเรื่องอะไร เราถามเขาว่าไม่รู้เหรอว่าในดวงนี้เขาเดือดร้อนเรื่องอะไร เท่านั้นแหละเขาบอกว่าไม่ดูให้แล้ว และก็เรียกเก็บเงินแถมยังไล่เราออกไปด้วย

สุดท้ายเลยไม่ได้อะไรกลับบ้านเลย เสียดายเงินมาก รู้อย่างนี้เอาเงินไปในเด็กยากจนเป็นทุนเรียนหนังสือน่าจะเกิดประโยชน์กว่า ตั้ง 3,000 บาท และเสียดายเวลามาก บอกกับตัวเองว่าจะไม่ดูดวงอีกแล้ว พอกันที! หมอดู-หมอเดา! ใครจะรู้ตัวเราดีไปกว่าเรา

เราบอกเพื่อนๆจากประสบการณ์เราเป็นกรณีศึกษาให้เป็นอุทาหรณ์ ถ้าคุณคิดจะไปดู(ไม่เสียดายเงิน) แนะนำให้เอาสติไปด้วย ไม่งั้นซินแสคนนี้อาจจะเหลือแต่ชื่อ!

 

เคยดูดวงหมากรุกจีนกับอาจารย์นริศที่อิมโพเรี่ยมเมื่อประมาณ2ปีมาแล้วก็ได้รับการกระทำแบบเดียวกับคุณsynciakoแต่ไม่พูดได้แต่เก็บไว้ในใจและคิดว่านี่หรืออาจารย์ดูดวงที่เชียร์กันนักหนากิริยาคำพูดไม่สมกับคนทีเป็นครูบาอาจารย์แถมดูดวงก็ไม่แม่น่น