สีสัน..อินเดีย

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย wvichakorn, 10 เมษายน 2011.

  1. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    จร้า..คุณสร้อย..
    ..จะเริ่มเขียนได้วันอาทิตย์นี้น๊า
     
  2. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    "...ที่ยอดเขาคิชกูฏนี้..เป็นที่อธิษฐานของผู้แสวงบุญทั้งหลาย..เพิ่งค้นเจอว่าคาถาที่ตัวเองใช้อธิษฐาน..จากบทสวดมนต์เป็นคำอธิษฐานจิตของพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าเมื่อครั้งเสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์นาม "สุเมตดาบส"
    ....บุญใด ที่ข้าพเจ้าได้ทำในบัดนี้ เพราะบุญนั้น และการอุทิศแผ่ส่วนบุญนั้น
    ขอให้ข้าพเจ้า ทำให้แจ้ง โลกุตระธรรมเก้า ในทันที
    ถ้าข้าพเจ้า เป็นผู้อาภัพอยู่ ยังต้องท่องเที่ยวไป ในวัฏสงสาร
    ขอให้ข้าพเจ้า เป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ ผู้เที่ยงแท้ ได้รับพยากรณ์แต่พระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ถึงฐานะ แห่งความอาภัพ ๑๘ ประการ
    ..ขอให้ข้าพเจ้า พึงเว้นจากเวรทั้ง ๕ พึงยินดีในการรักษาศีล ไม่เกาะเกี่ยวในกามคุณทั้ง ๕ พึงเว้นจากเปลือกตมกล่าว คือ กาม
    ขอให้ข้าพเจ้า ไม่พึงประกอบด้วย ทิฐิชั่ว พึงประกอบด้วย ทิฐิที่ดีงาม ไม่พึงคบมิตรชั่ว พึงคบแต่บัณฑิตทุกเมื่อ
    ขอให้ข้าพเจ้า เป็นบ่อที่เกิดแห่งคุณ คือศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ ความเพียร และขันติ พึงเป็นผู้ที่ ศัตรูครอบงำไม่ได้ ไม่เป็นคนเขลา คนหลงงมงาย
    ขอให้ข้าพเจ้า เป็นผู้ฉลาดในอุบาย แห่งความเสื่อม และความเจริญ เป็นผู้เฉียบแหลม ในอรรถและธรรม ขอให้ญาณของข้าพเจ้า เป็นไปไม่ข้องขัด ในธรรมมะที่ควรรู้ ประดุจลมพัดไปในอากาศฉะนั้น

    ...ความปรารถนาใดๆ ของข้าพเจ้า ที่เป็นกุศล ขอให้สำเร็จโดยง่ายทุกเมื่อ คุณที่ข้าพเจ้า กล่าวมาแล้วทั้งปวงนี้ จงมีแก่ข้าพเจ้า ทุกภพ
    เมื่อใด ที่พระสัมมาสัมพุทธะเจ้า ผู้แสดงธรรมเครื่องพ้นทุกข์ เกิดขึ้นแล้วในโลก เมื่อนั้น ขอให้ข้าพเจ้า พ้นจากกรรมอันชั่วช้าทั้งหลาย เป็นผู้ได้โอกาสแห่งการบรรลุธรรม
    ขอให้ข้าพเจ้า พึงได้ความเป็นมนุษย์ ได้เพศบริสุทธิ์ ได้บรรพชา อุปสมบทแล้ว เป็นคนรักศีล มีศีล ทรงไว้ซึ่งพระศาสนา ของพระศาสดา
    ...ขอให้เป็นผู้มีการปฏิบัติธรรมได้ โดยสะดวก ตรัสรู้ได้พลัน กระทำให้แจ้ง ซึ่งอรหันตผลอันเลิศ อันประดับด้วยธรรมมะ มีวิชชาเป็นต้น

    ...ถ้าหากพระพุทธเจ้า ไม่บังเกิดขึ้น แต่กุศลกรรมของข้าพเจ้า เต็มเปี่ยมแล้ว
    ...เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอให้ข้าพเจ้า พึงได้ญาณ เป็นเครื่องรู้ เฉพาะตน อันสูงสุดเทอญ..."

    ...ความรู้สึกของคนที่เดินขึ้นไปถึงพระคันธกุฎีของพระพุทธองค์บนยอดเขาคิชกูฎ ที่ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด..ไม่ว่าร้อนหรือเย็นจากอากาศภายนอก..เหนื่อยหรือไม่เหนื่อย..แต่ก็จะเกิดความชุ่มชื่นของจิต ความชุมชื่นของใจ ที่บอกใครไม่ได้หมด....
     
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    สาธุ สาธุ สาธุ........ จับใจเหลือเกิน.....
     
  4. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    .
    .อันที่จริงแล้ว..ยอดเขาคิชกูฏนั้นอยู่สูงไม่น้อยทีเดียว ..แต่ด้วยเหตุภูเขานั้นเป็นเขาสัณฐานกว้าง เวลาที่สร้างทางขึ้น อินเดียจึงสร้างทางขึ้นแบบเป็นทางลาด..ทำให้ลดการใช้กล้ามเนื้อขาได้ทั้งขาขึ้นขาลง ..และสะดวกต่อการแบกหามคนที่ไม่สามารถเดินขึ้นได้ แต่ยังมีศรัทธาแรงกล้าที่จะไปไปกราบพระคันธกุฎีของพระพุทธองค์ที่สำคัญนี้ค่ะ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030923.JPG
      P1030923.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      46
    • P1030921.JPG
      P1030921.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      58
    • P1030930.JPG
      P1030930.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      46
    • P1030933.JPG
      P1030933.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      55
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2013
  5. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.2455801/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ...ลงมาถึงพื้นดินด้านล่างแล้ว ถึงรู้ว่าหิวจนตาลาย...ตั้งแต่เริ่มเดินทางในอินเดีย เวลาในอินเดียช้ากว่าเมืองไทยราวชั่วโมงครึ่งค่ะ ..ผู้แสวงบุญทั้งหลายต้องเปลี่ยนเวลากินอาหาร คือ ต้องกินพร้อมพระและแม่ชีที่เดินทางไปพร้อมกันในคณะ..เพื่อลดความยุ่งยากในการหาที่กินอาหาร และเก็บภาชนะต่าง ๆ ค่ะ..
    ...เพียงแค่เวลา ๑๑ โมงเศษ ๆ กอร์ปกับเพิ่งเดินลงจากเขา..สิ่งที่หยิบได้ก่อนคือน้ำ เพราะตอนที่เดินขึ้นไปไม่มีใครกล้ากินน้ำกันเลย เพราะไม่รู้ว่าจะปลดทุกข์หนักทุกข์เบาได้ที่ไหนค่ะ..ไม่มีที่หลีกเร้นหลบให้พ้นตา..ฮ่า ฮ่า..แล้วเราก็กินน้ำกันจนพุงกาง..พอเปิดอาหารมาก็เลยกินกันได้น้อยค่ะ
     
  7. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ..ลงจากเขาคิชกูฏ..เราเดินทางต่อไปที่เมืองนาลันทาไปที่วัดไทยนาลันทา เพื่อรับประทานอาหาร..ที่วัดไทยนาลันทานี้ ท่านอาจารย์ดร.มหาพัน ท่านมีอาหารอร่อยมาก พร้อมผลไม้สด ๆ อย่างแอบเปิ้ลลูกเล็ก ๆ แต่หวานกรอบ องุ่นหวานชื่นใจ หรือไม่ก็ส้มที่รสจัดเปรี้ยวจี๊ดและหวานจ๋อยรวมอยู่ด้วยกัน..(ถ้ามีรสเค็มด้วย ก้อแปลว่าคนปอกลืมล้างมือ ฮ่า ฮ่า)..ถ้าคนที่เพิ่งมาอินเดียครั้งแรก..ก้อจะบ่นว่า โห..รู้งี้ไม่น่ากินน้ำมาเยอะเลย..และคนที่มามากกว่า ๑ ครั้ง..ก็จะรู้ว่าที่วัดไทยนาลันทาจะมีของอร่อยใหรับประทาน..เค้าก็อจะกินน้ำมาไม่มากนักเมื่อลงจากเขาคิชกูฏค่ะ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8837.JPG
      DSCN8837.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      42
    • DSCN8838.JPG
      DSCN8838.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      40
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2013
  8. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ....การเดินทางในครั้งนี้เหมือนเวลากระชั้นในทุกที่..ระหว่างทางก่อนขึ้นเขาคิชกูฏซึ่งมีสถานที่สำคัญและน่าสนใจอยู่หลายแห่งเราจึงเพียงได้แต่ดู ไม่ได้ชมค่ะ..ระหว่างที่เราจะเดินทางกลับไปรับประทานอาหารกันที่วัดไทยนาลันทา พระวิทยากรท่านเพิ่งได้มีโอกาสชี้ให้ดูบริเวณที่เป็นบ้านของท่านหมอชีวกโกมารภัฎ อยู่ที่ใกล้ทางขึ้นเขาคิชกูฏค่ะ แต่ถ้าเดินก็คงราว ๆ สัก ๒๐๐ เมตร คงเพราะเหตุที่บ้านท่านอยู่ไม่ไกลมังคะ เมื่อครั้งที่พระเทวทัตกลิ้งหินจากเขาคิชกูฏลงมาต้องข้อพระบาทของพระพุทธองค์ ท่านหมอชีวกฯ จึงได้ถวายการรักษาพระพุทธองค์ ..และในบริเวณใกล้ ๆ กันก็เป็นที่ที่กักขังพระเจ้าพิมพิสาร

    "..พระเจ้าพิมพิสารมีพระโอรสนามว่า อชาตศัตรู (ผู้เกิดมาไม่เป็นศัตรู) โหราจารย์ทำนายว่าพระโอรสองค์นี้จะทำปิตุฆาต แต่พระเจ้าพิมพิสารก็มิทรงแยแสต่อคำทำนาย ทรงอบรมให้การศึกษาพระโอรสเป็นอย่างดี เจ้าชายก็อยู่ในพระโอวาทเป็นอย่างดี แต่พอเจ้าชายน้อยได้รู้จักพระเทวทัต ถูกพระเทวทัตล้างสมองให้เห็นผิดเป็นชอบ จนจับพระเจ้าพิมพิสารขังคุกให้อดพระกระยาหาร และทำการทรมานต่างๆ เช่น กรีดพระบาทของพระเจ้าพิมพิสาร เพื่อให้เดินจงกรมทำสมาธิไม่ได้ เป็นต้น จนพระองค์เสด็จสวรรคต "

    ...ถ้าจากบริเวณที่เป็นที่กักขังพระเจ้าพิมพิสาร แล้วมองตรงไปที่เขาคิชกูฏ จะเห็นยอดเขาและพระคันธกุฎีของพระพุทธองค์..จึงคิดเองว่าที่พระเจ้าพิมพิสารสามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน และปฏิบัติธรรมตลอดเวลาที่ถูกกักขัง มีกำลังใจอย่างยิ่ง เพราะได้เห็นพระคันธกุฎีหรืออาจเห็นพระพุทธองค์ได้ตลอดเวลา..จนภายหลังพระเจ้าอชาตศัตรูให้ปิดช่องหน้าต่าง พระเจ้าพิมพิสารก็ไม่ย่อท้อต่อการปฏิบัติธรรม จนถูกกรีดพระบาท เพื่อให้เดินจงกรมทำสมาธิไม่ได้ ...จึงสวรรคต...แล้วไปเกิดเป็นยักษ์ชื่อ "ชนวสภะ" ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา..."
     
  9. tips2513

    tips2513 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +185
    ขออนุโมทนาบุญด้วย ยังไม่มีโอกาสได้ไป ขอตามรอยบุญนี้ด้วยค่ะ
     
  10. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    สาธุค่ะ..ขอให้มีโอกาสได้ไปกราบพระพุทธองค์โดยเร็ววันนะคะ
     
  11. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ..เพราะเป็นวันที่อากาศค่อนข้างร้อน..ท่านผู้มีอายุทั้งหลายหลังลงจากเขาคิชกูฏแล้วจึงดูอ่อนเพลีย..คณะแสวงบุญเดินทางต่อไปที่ตโปธาราม สถานที่ที่เป็นที่อาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามวรรณะของอินเดีย ...เมื่อครั้งก่อนไม่ได้มาค่ะ ที่นี่จะมีสาหรีสวย ๆ มาขายมากมาย คราวนี้เลยดีใจเพราะจะได้ซื้อสาหรีอีกค่ะ..ที่ซื้อมาในครั้งโน้นก็ยังเก็บไว้อยู่เลย ..แต่ยังอยากซื้ออีก...ราคาสาหรีที่นี่ถูกกว่าที่พาราณสีมากมาย อาจเป็นเพราะเมื่อไปดูที่พาราณสีเค้าพาเราไปดูที่ห้างเลยก็เป็นได้ ผ้าต่าง ๆ เช่นผ้าพันคอ ผ้าห่มกันหนาว จึงราคาแพงกว่าที่อื่น ๆ ทั้งสิ้น ...


    ....เมื่อถึงตโปธารามทีแรกคนที่คิดว่าจะไม่ลงไปดู ก็อดลงไปจากรถไม่ได้ หลายคนถือยาหม่อง ยาดม ..แต่พอถึงตโปธาราม ยาหม่อง ยาดม เหล่านั้นถูกขอกันเป็นแถว ๆ โดยเฉพาะยาหม่องตราลิงถือลูกท้อ..ความเชื่อเรื่องหนุมานยังมีมากสำหรับที่นี่ค่ะ..
     
  12. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ..ที่ตโปธารามนี้แม้จะมองเห็นความแตกต่าง การแบ่งชั้นวรรณะ แต่สิ่งดี ๆ ที่แอบแฝงอยู่ก็คือ ความเคารพในฐานะซึ่งกันและกัน การยอมรับซึ่งกันและกัน ที่อาจเป็นเหตุให้การกระทบกระทั่งกันน้อยลง..เพราะที่นี่สังเกตเห็นว่า..ใครอยู่วรรณะไหนก็ใช้น้ำตามชั้นนั้น ๆ อย่างสดใสร่างเริง พอใจในสิ่งที่ตนมี สิ่งที่ตนได้รับค่ะ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030992.JPG
      P1030992.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      47
    • P1010816.JPG
      P1010816.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      56
    • P1010819.JPG
      P1010819.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      58
  13. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239

    ..ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งค่ะ คือ รอยเกวียนโบราณ ที่เราได้เห็นร้องรอยเหล่านี้ได้กลายเป็นหินแล้วด้วยกาลเวลาผ่านมายาวนาน...พระวิทยากรเล่าว่า เป็นเส้นทางเดินค้าขายระหว่างเมืองของพระเจ้าพิมพิสารกับเมืองของพระเจ้าปเสนทิโกสน..รอยเกวียนโบราณที่เห็นในวันนี้ ..จึงเป็นสัญญลักษณ์ของความรุ่งเรืองในอดีต และภาพของการเดินทางอันยาวไกลที่ผ่านป่าดง ฤดูแล้วฤดูเล่า จนรอยเกวียนชัดเจน ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN8729.JPG
      DSCN8729.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      43
    • DSCN8732.JPG
      DSCN8732.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      47
    • DSCN8739.JPG
      DSCN8739.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2013
  14. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239

    ...หลังจากได้พักรับประทานอาหารกลางวันแล้ว ที่นาลันทานี้มีสถานที่สำคัญที่คณะจาริกทั้งหลายต้องไปกัน ก็คือ มหาวิทยาลัยนาลันทา และไปกราบพระเจ้าองค์ดำที่อยู่กลางทุ่งทางด้านหลังของมหาวิทยาลัยนาลันทา..และอีกที่หนึ่งที่ชาวไทยชอบมากคือบริเวณหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัยนาลันทาเป็นที่ที่ผู้ดูแลคณะจาริกต่างๆ ปวดเศียรเวียนเกล้ากับการตามหาผู้คนที่มาในคณะค่ะ..
     
  15. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    " ..การเดินทางที่ยาวนานในอินเดีย เหตุจำกัดด้วยกฏหมายของอินเดีย ให้ความเร็วของรถโดยเฉพาะรถขนาดใหญ่วิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน ๖๐ กม./ชม. (แม้ว่าคนขับจะแอบขับเร็วในบางครั้ง) ..ก็ทำให้ทุกคนต้องทำใจ หากไม่ชื่นชมกับธรรมชาติสองข้างทาง ก็หลับตานิ่ง หรือไม่ก็หากล้องถ่ายรูปมาเก็บภาพกัน..แต่ที่มากสุดเห็นจะเป็นการหลับเพราะต้องติ่นแต่เช้านอนดึกกันแทบทุกวันค่ะ..คุณยายหลายท่านที่ไปด้วยกันเพราะศรัทธาแท้ ๆ ที่ทำให้ไม่ป่วยเลย อาจมีอ่อนเพลียบ้าง แต่ก็ไม่เป็นภาระของคณะจาริกแต่อย่างใด..
    ...หากท่านใดจะไปอินเดีย ต้องเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อมนะคะ และเลือกไปในช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก ไม่หนาวมาก ไม่มีฝนตก..เพราะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในอินเดียช่วงกลางวันและกลางคืนต่างกันมากค่ะ..
     
  16. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239

    ..พระพุทธรูปองค์ดำ อันศักดิ์สิทธิ์ที่นาลันทานี้ เมื่อคราวที่มาอินเดียครั้งแรก(ปี ๒๕๕๑) มีวิหารเก่า ๆ มาก ต้องเดินตัดกลางทุ่งนามาที่วิหารเล็ก ๆ นี้ พื้นก็ยังเป็นปูนอยู่เลยค่ะ บริเวณโดยรอบถ้าจะนั่งกันก็มีแต่ฝุ่นค่ะ

    ...ต่อมาเมื่อเดินทางไปกราบทุกปี จึงเห็นการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ จนเดี๋ยวนี้มีทางลาดปูน มีรถม้าให้นั่ง มีวิหารที่งามขึ้น มีพระพุทธรูปและของที่ระลึกมาขายมากมาย...แต่ที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือ..ประตูเหล็กด้านที่เข้ามาต้องปิดหลังจากที่คณะจาริกประเทศต่าง ๆ เข้ามาแล้วค่ะ..หาไม่เราจะมีผู้ขอมาขอมากมายจนทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ..
     
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030933.JPG
      P1030933.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      90
  18. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ...การไปแสวงบุญในประเทศอินเดีย...สิ่งที่ทุกคนที่เดินทางไปทำก็คือ..การสวดมนต์ ขอพร อธิษฐาน ..ที่หลวงพ่อองค์ดำนี้เป็นที่บอกต่อ ๆ กันมาว่า สิ่งที่อธิษฐานขอพรจะเป็นเรื่องของสุขภาพ..ใครที่เจ็บป่วยตรงไหนก็จะไปลูบที่องค์หลวงพ่อองค์ดำให้ตรงกับที่เราเจ็บป่วยค่ะ..องค์หลวงพ่อที่เห็นในปีแรกจึงเปลี่ยนไปทุกปี ตลอดระยะเวลา ๕ ปี ...เลยมีคำถามในใจว่า..ต่อไปองค์หลวงพ่อจะยังมีสีดำหรือไม่..
     
  19. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ในปีแรก ๆ ที่ได้ขอพรหลวงพ่อองค์ดำ..ทำให้ในครั้งต่อ ๆ มาได้คิดว่า ..
    ...หากเรามัวแต่ขอ..ไม่ทำ ไม่ปฏิบัติ..ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น..คำว่า อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ ..จึงตามมา


    เหมือนขอให้สุขภาพดี แต่ตัวเราเองกลับไม่รักษาสุขภาพ ไม่ดูแลสุขภาพเลย..สุขภาพดีจะมีไหน...

    .คณะผู้แสวงบุญเดินทางต่อมาที่มหาวิทยาลัยนาลันทา..มหาวิทยาลัยที่สำคัญทางพุทธศาสนา..ที่มหาวิทยาลัยนาลันทานี้..มีเรื่องเล่ามากมาย..ก่อนเดินเข้าประตูมหาวิทยาลัย ก็จะต้องสอบก่อนเข้าไปทุกครั้งค่ะ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...