เว็บพลังจิต ศัตรูในชาติที่แล้วมาเกิดเป็นลูก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Supop, 24 กรกฎาคม 2010.

  1. pinya

    pinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +842
    เรื่องของกรรมช่างเป็นเรื่องที่ละเอียดซับซ้อน และน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
    คะเห็นด้วยอ่านกระทู้ของคุณแล้วมันมีหลากหลายอารมณ์ปนแปไปอะคะทั้งเศร้า สะเทือนใจ สงสาร ปลาบปลี้ม แต่ก็ขอขอบคุณนะคะที่นำสิ่งดีๆมาเล่าสู่กันฟังหลังจากนี้ถ้ามีอะไรดีๆมาเล่าอีกก็ก็พร้อมจะฟังนะคะ
    อ่านแล้วคิดถึงบุพการีขึ้นมาทันทีคะ
     
  2. pcman

    pcman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +287
    ขออนุโมทนาในการระงับซึ่งเวรกรรมที่เนื่องจากความโกรธพยาบาทครับ

    "จนวันหนึ่งผมก็รู้เหตุผล อดีตชาติที่ผ่านมาลูกของผมเคยฆ่าผมตาย"

    ขออนุญาตถามเป็นประสบการณ์ทางธรรมได้ไหมครับ ว่าประโยคนี้เห็นในนิมิตหรือมีผู้เห็นมาบอกครับ ก่อนจะเห็นนิมิตมีอาการปิตินำ และสงบระงับนิ่ง และเห็นขึ้นมาในนิมิตใช่รึเปล่าครับ
     
  3. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    เรื่องของนิมิตไม่จำเป็นต้องเกิดจากอารมณ์ปิติครับ เกิดจากความทุกขเวทนา หรือการอธิฐานจิตก่อนปฎิบัติ หรือเกิดจากการเพ่งพินิจก็ได้ครับ และนิมิตยังแบ่งได้อีกทั้งนิมิตที่เกิดขึ้นโดยสติยังรับรู้ไม่ทันจิตหรือนิมิตที่เกิดขณะที่สติไปพร้อมจิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนิมิตจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อจิตสงบแล้ว อีกข้อหนึ่งนิมิตที่เกิดยังมีทั้งนิมิตที่เกิดจากเรื่องราวต่างๆที่เราหมกมุ่นอยู่หรือสนใจอยู่มาปรากฎ หรือนิมิตที่เกิดจากการที่เทพเทวดาหรือพระอริยเจ้าบันดารให้เกิด

    แยกให้ดูบางข้อนะครับ

    นิมิตที่เกิดจากความทุกขเวทนาของตนขณะปฎิบัติ คือนิมิตที่เกิดขึ้นในขณะที่จิตของเราเพ่งพินิจอยู่กับความเจ็บปวดทางกายในขณะปฎิบัติจนจิตสงบ (นิมิตนี้เองที่โดยมากจะทำให้เราระลึกย้อนไปถึงอดีตชาติเพื่อดูต้นเหตุแห่งความทุกข์ทรมานนั้น)

    นิมิตที่เกิดในขณะที่สติยังตามไม่ทันจิต คือจิตของเราสงบแล้วกำลังดิ่งลงแต่สติเรายังตามรับรู้ความสงบของจิตไม่ทัน นิมิตนี้เราจะเห็นภาพหรือเหตุการณ์อะไรต่างๆเหมือนความฝัน คือเราจะมารับรู้เรื่องราวในนิมิตหรือคิดพิจารณาในเรื่องราวของนิมิตก็ต่อเมื่อนิมิตนั้นจบไปแล้ว และนิมิตนี้ยังเป็นนิมิตที่เทพหรือเทวดาทั้งหลายใช้ในการติดต่อเราได้เหมือนกัน

    นิมิตที่สติตามรับรู้ทัน จะเป็นนิมิตที่เราสามารถรับรู้ได้ตลอดเวลาในขณะที่นิมิตยังเกิดอยู่ และนิมิตนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นได้ทั้งการที่จิตของเราหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาปรากฎ หรือเทพเทวดาพระอริยเจ้าทั้งหลายมาติดต่อ หรือจิตของเราเกิดปัญญาแสดงธรรมให้เราพิจารณา

    นิมิตที่ผมเคยสัมผัสจะมีทั้ง แบบสติตามรับรู้ทันและตามรับรู้ไม่ทันจิต และแบบเพ่งพินิจ และบางครั้งก็จะมีวิญญาณหรือเทวดาหรือพระมาหาผมในฝันด้วย

    ดังนั้นพอมีนิมิตอะไรก็ตามแต่เกิดขึ้น ขอให้พิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนว่านิมิตนี้คืออะไรเกิดจากอะไร ถ้าเกี่ยวกับข้อธรรมะเราก็นำมาพิจารณาว่าเป็นไปตามหลักธรรมหรือไม่ต่างกันอย่างไร ต้องใช้ปัญญาให้มาก และอย่าไปยึดติดกับนิมิตให้รับรู้และพิจารณาก็พอ

    แต่นิมิตของผมส่วนมากและเรื่องราวนี้เกิดจากการเพ่งพินิจที่เกิดจากความทุกข์ จึงได้รายละเอียดต่างๆ

    แต่เทวดาประจำตัวผมอธิฐานขอพบท่านเอาเองจึงได้เห็น

    เรื่องของนิมิตบางคนก็บอกว่าไม่ใช่สาระไม่ต้องนำไปคิดต่อ แค่รับรู้และปล่อยผ่านเลยไปซะ แต่สำหรับผมคิดอีกแบบหนึ่ง ถ้ามีนิมิตเกิดขึ้นผมจะพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน ว่านิมิตนี้มันเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร ถ้าเป็นนิมิตที่ไม่มีแก่นสารก็จึงปล่อยผ่านเลยไปแต่ถ้าเป็นนิมิตที่เทพเทวดาหรือพระมาสอนธรรมหรือเป็นปัญญาจากจิตก็จะเก็บไว้เป็นความรู้

    ผมไม่ขอกล่าวอะไรมากไปกว่านี้แล้ว มันจะเกินเลยไปผมยังไม่ใช่ผู้รู้

    และโปรดใช้ปัญญาของท่านพิจารณาเอาเถิด อย่าเชื่อผมทั้งหมด เพราะทุกอย่างนี้ผมได้มาจากการปฎิบัติด้วยตัวเองไม่ได้อ้างอิงจากตำรา ขอให้ท่านได้ไปปฎิบัติและศึกษาพิจารณากันด้วยตัวเองก็จะรับรู้ได้ด้วยตัวเอง (เฉพาะเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับนิมิตในโพสต์นี้นะครับ)

    เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2010
  4. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    สิ่งที่เห็นจริงแต่ไม่จริง

    มีพระรูปหนึ่งปฏิบัติเคร่งมากในเรื่องนี้จนสุดท้ายไปปฏิบัติกับน้องสาวทั้งคู่เห็นในนิมิตรว่าเป็นสามีภรรยากันมาก่อน สุดท้ายก็มีอะไรกัน และบ้าไปในที่สุดทั้งคู่ เคยได้ยินไหมเรื่องนี้
     
  5. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    สวัสดีครับ คุณตถาตา ผมพึ่งนั่งสมาธิเสร็จเลยแว็บมาดูซะหน่อย
     
  6. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    สวัสดีครับ ท่าน ผมกำลังจะไปนั่งสมาธิแล้วครับ เจริญในธรรมครับท่าน
     
  7. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    อนุโมทนา สาธุค่ะ
    ผู้ที่ได้เกิดมาร่วมครอบครัวเดียว เป็นญาติพี่น้องกันก็ตาม ล้วนเป็นกรรมกำเนิดด้วยกันทั้งสิ้นค่ะ ตอนแรกก็ไม่ทราบค่ะ แต่พอปฏิบัติไปเรื่อยๆ เหมือนจะถูกสอนเรื่องของกรรม เรื่องของบาป เรื่องของบุญไปโดยอัตโนม้ติ .... ดิฉันก็เป็นเหมือนกันค่ะ เคยแปลกใจว่า ทำไมคุยกับแม่ ถึงไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไร เหมือนอยู่กันคนละโลก ทั้งๆ ที่ ชอบทำบุญกุศลเมือนกัน ชอบไปวัดเหมือนกัน แต่สิ่งที่เป็นของแม่กับดิฉันนั้นต่างกันมาก เช่น การว่ากล่าวนินทา ดิฉันก็บอกท่านว่า ให้ปล่อยวางเถอะ เพราะทีเรายังเคยนินทาเขาเลย เขาก็ไม่สามารถมาปิดปากเรา ให้เราหยุดได้ แต่พอเราโดนเขานินทาให้ร้าย ทำไมเราถึงกลับทนไม่ได้ ปล่อยวางไม่ได้ ต้องด่ากลับไป ในเมื่อมาทางนี้แล้ว ควรจะ ละ ปล่อยวางได้ แต่สุดท้าย กลายเป็นว่าดิฉันกับแม่ก็ทะเลาะกันไปอีกคู่ ตัวอย่างแบบนี้เป็นต้น แต่พอได้เห็น ได้รู้ ถึงพบว่า กรรมจากอดีตชาตินั่นแหละค่ะ ที่ทำให้ดิฉันต้องใช้กรรมกับท่านแบบไม่สามารถจะหลีกหนี หรือ ทิ้งท่านไว้ได้เลย สุดท้าย “แม่ใคร ใครก็รัก” ถึงแม้ว่า ดิฉันจะต้องเจอกับปัญหาที่เรามองว่า ปัญหาเหล่านี้แก้ได้ โดย “ใจ” ของท่านทั้งหมด แต่ก็เป็นปัญหาที่ ท่านไม่เคยเข้าใจว่า “ใจ” จะแก้ปัญหาได้อย่างไร เพราะ ยึดทุกอย่าง เพราะจับต้องทุกอย่างไว้ในใจ และคิดทุกอย่าง เก็บทุกรายละเอียด จนบางครั้ง ดิฉันท้อมาก เพราะดิฉันก็รักแม่ แต่แม่ “ไม่รัก” ตัวเองเลย ทำร้ายตนเองด้วยความคิด วิจารณ์ วิเคราะห์ คนอื่น ตลอดเวลา ดิฉันก็พยายามบอกเรื่องนี้ ว่าทุกอย่าง อย่าไปคิดเยอะ ถ้าคิด ก็ขอให้พิจารณาแค่ตัวเราก็พอ มองดูสังขาร มองดูเวทนา ของเรา ว่าทุกอย่างเกิดขึ้น เพราะกรรม ให้เพียรส่งบุญกุศลให้มาก พิจารณากายสังขารของเราให้มาก จิตจะได้ไม่ฟุ้ง ไปนึกคิดแต่เรื่องของคนอื่น แล้วก็นำมาเป็นทุกข์ของเรา ก็ไม่รู้ว่าจะนำท่านออกจากวังวนของปัญหาที่เกิดจาก “ใจ” ตน ได้เมื่อไหร่ แต่ก็พยายามทำต่อไป ทั้งที่ เวลาจะพูดคุยก็เกิดปัญหาทุกครั้ง ก็ต้องยอม .... พอบอกกล่าวท่าน ท่านก็จะบอกว่า “ฉันปฏิบัติมาก่อนแกมาตั้งกี่ปี แกไม่ต้องมาบอกฉันหรอก” จบเลยค่ะ ดิฉันพูดไม่ออกเลย เพราะความยึดมั่นถือมั่นนั่นแหละค่ะ คำพูดพวกนี้ถึงได้ออกมา อีกอย่างนั่นเพราะ...ดิฉันเคยทำแบบนี้กับท่านแบบนั้นมาก่อน...กรรมกำหนดจริงๆ ค่ะ ครั้นจะปล่อยไม่ดึง ไม่นำ ไม่พา แล้ว ก็ไม่ได้ เพราะในขณะที่นำคนอื่น คนในครอบครัวของเราก็ต้องนำเช่นเดียวกัน จะละทิ้งปล่อยวางไม่ได้ ดิฉันเข้าใจเจ้าของกระทู้นะคะ และขออนุโมทนา สาธุด้วยค่ะ ที่จิตของท่านสว่างไสว ไปกับ “อภัย” ที่เกิดขึ้น เพราะผู้ทำกรรมนั้น ได้เกิดมาเป็นกุลบุตรให้กับคุณ เพราะต้องการชดใช้นั่นแหละค่ะ .... และขออนุโมทนากับท่านสามเณรด้วยค่ะ ที่อธิษฐานเรียนพระอภิธรรมต่อ ขอให้จิตที่ปรารถนาพุทธภูมิของท่านเจ้าของกระทู้ สมเร็จมรรคผล ดังที่ปรารถนานะคะ สาธุ...
     
  8. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ความรู้สึกที่ดีเมื่อกี้คือคุณนี่เอง ขอบคุณครับ

    ท่านทั้งหลายครับผมแค่เป็นผู้ปฎิบัติธรรมะธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น และเป็นผู้ที่ยังอยู่ในกองทุกข์ทั้งหลายและอยากหลุดพ้นจากกองทุกข์เท่านั้น

    ข้อมูลความรู้ทั้งหลายขอให้ท่านได้โปรดใช้สติปัญญาพิจารณาด้วยเพราะมันมาจากความรู้จากการปฎิบัติส่วนตัว แต่เรื่องราวที่ดีต่อจิตใจส่งผลให้แนวทางการปฎิบัติเป็นไปด้วยดีก็ควรเก็บไว้ (ผมกลัวว่าถ้าผิดไปจากคำสอนมันจะเป็นโทษแก่ตัวเอง และผลของการปฎิบัติของแต่ละคนไม่เหมือนกัน)

    และผมต้องขอโทษกับข้อมูลที่อ่านแล้วไม่ค่อยประติดประต่อกันเท่าไหร่ และมักจะมาเพิ่มข้อมูลทีหลัง ก็เพราะว่าผมพิมพ์ไปทำงานไป (ผมดูแลตึกเช่าและร้านค้าอยู่) บางครั้งพิมพ์อยู่ต้องลุกไปทำกิจ ต้องไปใช้สมองกับกิจธุระพอกลับมาพิมพ์ใหม่ทำให้สับสนกับการพิมพ์ไปบ้าง

    เจริญในธรรมครับ
     
  9. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    เรื่องของนิมิตบางคนก็บอกว่าไม่ใช่สาระไม่ต้องนำไปคิดต่อ แค่รับรู้และปล่อยผ่านเลยไปซะ แต่สำหรับผมคิดอีกแบบหนึ่ง ถ้ามีนิมิตเกิดขึ้นผมจะพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน ว่านิมิตนี้มันเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร ถ้าเป็นนิมิตที่ไม่มีแก่นสารก็จึงปล่อยผ่านเลยไปแต่ถ้าเป็นนิมิตที่เทพเทวดาหรือพระมาสอนธรรมหรือเป็นปัญญาจากจิตก็จะเก็บไว้เป็นความรู้

    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    เห็นด้วยค่า



    การให้อภัยผู้อื่น เหมือนเอาของหนัก กองไฟออกจากใจ ทำให้ใจเราเหมือนจะลอยสูงขึ้น ทั้งใจยังเย็นลงนะคะ ยินดีด้วยค่า


    ว่างแล้วมาเขียนเล่าใหม่นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2010
  10. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ขออนุโมทนาบุญด้วยคนนะคะ ผู้ปฏิบัติได้จริง บุญ กุศลแรงค่ะ ขอให้หมดเวรหมดกรรมกันไปนะคะ สาธุ
    และขอบคุณที่นำข้อมูล มาเผยแพร่ให้ทราบค่ะ
     
  11. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    ขออนุโมทนาในกุศลจิต ที่นำประสบการณ์มาแบ่งปัน เป็นข้อคิดที่ดีมาก
    รู้สึกได้จริงๆ

    อย่างไรก็ตามเมตตาภาวนา จะช่วยได้มากจริงๆ การแผ่เมตตาให้ลูก นอกจากจะลดกระแสความอาฆาตของตนลงแล้ว
    จะส่งผลให้ลูกได้มีชีวิตที่ดีขึ้นในทุกด้าน ไปในแนวทางที่เราตั้งจิตอธิษฐานนั้น
    เป็นกระแสคลื่นที่ส่งพลังไป พ่อแม่แผ่ให้ลูกจะมีผลมาก

    อดีตคืออดีต สนใจปัจจุบัน เพราะสิ่งนี้เป็นกรรมวิบากที่เข้ามาทดสอบคุณ
    หากผ่านตรงนี้ไปได้ คุณจะพบแต่ทางสว่างมากกว่าเดิมเสียอีก
    อย่างน้อยขณะนี้ก็เดินมาถูกทางแล้ว
     
  12. อย่าท้อ

    อย่าท้อ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่เหตุการณ์คล้ายกับคุณฉันมีลูกสาวเเละมีลูกใหม่อีกสองคน...
    ฉันจะทำยังไงดีฉันเกียจลูกสาวคนโตฉัน
    ทั้งๆที่เมืีอก่อนรักเเละห่วงเป็นอย่างมาก
     
  13. คนแก้กรรม

    คนแก้กรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +833
    ชาติก่อนก็ผ่านไปแล้ว แก้ไขไม่ได้แล้ว ชาติหน้าก็ยังมาไม่ถึง

    ชาติปัจจุบันเขาคือลูกเรา ให้อภัยเขา แล้วลืมเรื่องชาติที่แล้ว เราจะมีแต่ความสุขครับ

    โมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...