ว่าด้วย ทิฏฐิ 62 (๑. พรหมชาลสูตร )

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิษณุ12, 21 มีนาคม 2012.

  1. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ฆ่ายังไง
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ก็ไม่รู้ใครถามว่า

    แปลว่า นอกเหนือจากที่น้าปราบยกมา ถือว่าเที่ยง ถูกไหม

    ลังเล ถูกไหม ^^


    มันมีอะไรที่นอกเหนือไปจากที่ผมเสนอ

    ผมก็ถามเพื่อความเข้าใจ
     
  3. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    นาอินจังๆ ยังไม่รู้ว่า แต่นาอินจังเห็นเป็นสอง
    เลยหวลไปคิดถึงคำว่า พบผู้รู้ ให้ฆ่าผู้รู้

    หากฆ่าได้แล้ว นาอิน จะไม่ได้ผุดได้เกิดอีก
     
  4. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...........ด้วยอริยะมรรคมีองค์แปด............................:cool:
     
  5. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    นานาจัง เห็นเป็นสอง นี่เป็นยังไงเหรอครับ
    เห็นอะไรเป็นสอง

    หากฆ่าได้แล้ว นาอิน จะไม่ได้ผุดได้เกิดอีก
    ตรงนี้ นานาจัง คิดว่าฆ่าได้(ทราบวิธีฆ่า หรือความหมายไหมครับ)
    จะไม่ได้ผุด ได้เกิดอีก เป็นอย่างไร เห็นอย่างไร

    ตรงนี้เป็นการฟุ้งออก จากภาวนาไหมครับ
     
  6. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    อย่างที่บอก ผู้ใดเจริญสติ เจริญสติปัฏฐาน และทำสมถะเป็นนิจ
    ผู้นั้น หาความเจริญได้ การเห็นเป็นสองนั้น
    เกิดจากการดูลมหายใจเข้า ออก การรู้อารมณ์กายในกาย
    เราเห็นเขาเกิด เขาเห็นเขาดับ ผัสสะต่างทำให้ใจเรากระเพื่อมได้ตลอด
    แม้เราว่าเรานิ่่ง แต่มันไม่ได้นิ่ง มันไหวตลอดเวลา
    การเห็นเป็นสอง คือ มันมีผู้รู้ และตัวถูกรู้ ผู้รู้คือจิต ผู้ถูกรู้คือสิ่งที่เราระลึก
    ถามว่า ทำไมถึงไม่รู้จักวิธีฆ่า นาอินจะบอกว่ายังไม่มีปัญญา
    ตำราเขาว่าอย่างนั้น แต่ตำราไม่ได้เข้าร่วมในขณะที่เราำกำลังภาวนา
    นาอินเลยบอก ปัญญายังไม่เกิด เพื่อให้ฆ่า แล้วนาอินก็เลยบอกว่า
    พบผูั้้้ให้ฆ่าผู้รู้ นั้น หากบอกใครแล้วเขาไม่ได้ปฎิบัติเขาจะมองภาพไม่ออก
    การเกิดมันสลับกันไป สลับกันมา เห็นเขาเป็นอะไร แล้วมาเห็นว่าเป็นเราใหม่
    มันเป็นสิ่งที่ไม่ใช่อุปทาน แต่มันคือสัจจะธรรม

    หากเป็นการฟุ้งในธรรม ก็ให้รู้ว่าฟุ้ง รู้ไปเรื่อยๆ นั้นล่ะ คือการภาวนา
    ที่มีค่ามากกว่า ใดใด ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงสรรเสริญ
     
  7. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    สำคัญคือตรงที่ว่า นานาจัง เข้าใจ ว่า ฆ่านี่อย่างไร
    ปัญญาคือตัวฆ่าหรือเปล่า หรือคิดว่า ยังไม่รู้ ปฏิบัติไป สร้างเหตุที่ดีไปเรื่อยๆ เดี๋ยวรู้เอง ตอนนี้รู้ไปเรื่อยๆก่อน
    ในส่วนของการแยกเป็นสอง หากจะกล่าวอีกก็คือ เห็น รูป นาม และในการเห็นรูปนามนั้น ยังรู้อีกว่าแม้อาการเห็นนั้น ยังมีผู้เห็นและถูกเห็น
    และยังรู้อีกว่า แม้ตัวผู้เห็นเอง ยังแสดงอาการเช่นเดียวกัน
     
  8. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    เราพูดในฐานะ ที่เราทำได้ เราภาวนาได้แง่นี้เราก็ทำของเราไป
    ถามว่ายังไง ตอบไปแบบนั้น
    เราไม่ต้องการชี้แนะใคร เราไม่รู้ว่าเขาฝึกมาขนาดไหน
    เห็นจริงหรือไม่ ไม่สำคัญ
    ทำตัวเองให้จริง และและนิ่ง(สติ) ให้ได้แค่นี้

    การบอกว่า นาอิน ทำไม่ได้ นาอินไม่ต้องการสัญญาของใคร
    นาอิน บอกยังไม่มีปัญญา ไม่ใช่สิ่งน่าอาย มันก็แค่นั้น การบอกความจริง มันดี
    แต่เราไม่หยุดภาวนา
     
  9. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    หากจิตตินนท์แบบนั้น ทำได้ เราอนุโมทนา ตามที่ คุณบอก
    ว่าคุณเห็น
     
  10. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    จากที่ติดตามอ่าน ข้อเขียนนาอินจัง ผมเข้าใจได้ครับ คงเพราะปฏิบัติมาแนวทางใกล้กัน คือเห็นเวทนาชัดที่กาย มันทุกข์อย่างไร แล้วค่อยๆละเอียดขึ้น(เวทนาที่ใจ) ในการปฏิบัติ ใช้การเจริญสติ ควบคู่กับสมาธิภาวนา จึงเห็นได้ครับ
    ผมแสดงความเห็นนะครับ ยังไง นานาจัง ก็น้อมพิจารณาในตนได้อย่างแยบคายอยู่แล้ว
    อนุโมทนาในกุศลจิต ครับ
     
  11. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    เล่าเรื่องครับ
    ในช่วงที่เรา เริ่มเห็นว่าเหตุของความทุกข์ที่เกิดอยู่มันมีเกิดมีดับ มีตัวรู้ มีสิ่งที่ถูกรู้
    ช่วงนี้จะเริ่มมีความเห็นที่ทำให้ตนมั่นใจ เริ่มที่จะส่งออกมากขึ้น วิจัยธรรมมากขึ้น
    จนบางครั้งโดนกิเลสตนหลอกเอาได้ง่าย
    สิ่งที่เราควรระลึกไว้ สำหรับการภาวนา คือสมาธิ การที่จิตตั้งมั่น เป็นสิ่งสำคัญ
    จึงอาจต้องเว้นช่วงการเสวนาลง เห็น ดูที่ตนเองมากขึ้น
    ผมเองใช้วิธีการพิมพ์เสร็จแล้วอ่านที่ตนพิมพ์ซ้ำจากนั้นก็ลบ
    ใช้แบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ น้อมมาที่กายใจตนให้มาก (โยนิโสมานสิการโดยแยบคาย)
     
  12. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    หากหยุด พากย์ได้ ก็หยุดฟุ้งเองน่ะ แระ
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049

แชร์หน้านี้

Loading...