วิชชา ธรรมกาย ไม่ได้มาจาก วัดพระธรรมกาย

เอาล่ะครับผมเองเห็นว่าพอเพียงในการอธิบายแล้ว คุณขันธ์ในสายตาผมไม่เหลือสภาพแห่งบุคคลที่ควรเสวนาด้วยแล้ว ผมจะไม่เปลืองตัวล่ะ อ่านข้อความนี้ก็ขอให้คุณขันธ์ทำใจให้สบายเราเป็นเพื่อนกัน ไม่มีใครแพ้ไม่มีใครชนะ ผมถือว่าผมอธิบายได้ชัดเจนทุกเรื่องแล้ว คนตามืดตามัวอาจจะยังไม่ทราบ แต่คนตาดีท่านทราบชัดเจนแล้ว


ขอขอบคุณหลายๆ ท่านที่ส่งข้อความมาคุยกับผมเป็นการส่วนตัว หลายสิบท่านเลย แปลว่าท่านเข้าใจข้อมูลที่ผมนำเสนอ มีเพียงผู้มากด้วยอคติไม่กี่คนที่พยายามตามล่อหลอกให้คนอื่นเขว แต่ไม่เป็นไร ผมรู้เท่าทันคุณหมดแล้ว ผมไม่ใส่ใจในกรณีนี้ ผมสบายใจแล้วที่หลายๆ ท่านแจ้งมาว่าการนำเสนอในฝ่ายผู้ฝึกวิชชาธรรมกายทำให้ท่านเข้าใจการฝึกภาวนาวิชชาธรรมกายได้ชัดเจนขึ้นแล้ว เป็นผลดีต่อท่านแล้ว ท่านพอใจแล้ว


ก็หวังว่าท่านที่ตามรังควานคงจะเห็นแก่ธรรมสันติ เห็นแก่ความสงบ เห็นแก่การสร้างมิตรมิใช่หาเหตุเพื่อสร้างศัตรู เราเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ในสังสารวัฏกันทั้งนั้น มาเก่งกันเองทำไม มาก่อเวรสร้างกรรมกันทำไม ทำไมไม่ไปเก่งกับกิเลส ทำไมไม่ไปสู้กับกิเลส มาสู้กันเองทำไม ท่านจะกระทำปากดั่งหอกคอยทิ่มแทงกันไปทำไม รีบตามดับกิเลสในใจตนเองเถิดครับ



เรื่องอวิชชามีขนาดเท่าเมล็ดโพธิ์เมล็ดไทรนั้น ผมขออธิบายในความเห็นดังนี้นะครับ เพราะผมถือว่าผมจบแล้ว ในความเห็นด้านล่าง


อันที่จริงเรื่องอวิชชามีขนาดเท่าเมล็ดโพธิ์ฯ นั้น คือเห็นเป็นดวงขุ่นมัวขนาดเล็กเท่าเมล็ดโพธิ์เมล็ดไทร นั่นท่านกล่าวตามสภาวธรรมที่เห็นในการใช้ญาณทัสสนะพิจารณาปฏิจจสมุปบาท ทีนี้ท่านถือว่าเป็นผลของภาวนามยปัญญา แปลว่าเมื่อท่านปฏิบัติตามวิธีการนี้ท่านจะได้เห็นรูปนามของสภาวธรรมเหล่านี้ในส่วนละเอียดปารกฏเช่นนี้ เพียงแต่คุณขันธ์อ้างว่าถ้าสำคัญทำไมพระพุทธเจ้าไม่ตรัส ในความเห็นของผม นั่นเป็นธรรมในส่วนภาคปฏิบัติท่านจะยืนยันตรงกันเฉพาะผู้ปฏิบัติ ถ้าวันนี้เรานำสภาวธรรมมากล่าวผู้อ่านที่มีแต่สุตตมยปัญญาและจินตมยปัญญาจะเข้าใจไม่ได้ แต่สำหรับข้อมูลที่มีผู้นำเสนอนั้นเป็นภาษาภาคปฏิบัติวิชชาธรรมกายสำหรับให้ผู้ที่เข้าถึงธรรมกายและใช้รู้ญาณทัสสนะของธรรมกายไปพิจารณาในเรื่องนี้ ซึ่งเห็นได้ทุกคน


สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจก็คือความหมายที่เราอ่านในตำราทางพุทธศาสนาเรื่องปฏิจจสมุปบาทนั้นผู้ฝึกธรรมกายก็พิจารณาได้ความรู้ตามนั้นชัดเจนเพียงแต่เรื่องในส่วนรู้ญาณที่ละเอียดท่านก็บันทึกเอาไว้ แต่เป็นภาษาปฏิบัติและอยู่ในตำราภาคปฏิบัติท่านที่ไม่มีพื้นเพียงพอจะอ่านไม่เข้าใจ ดังนั้นผมจึงเห็นใจท่านที่อ่านข้อมูลที่ผู้นำเสนอได้เสนอมาท่านจึงสงสัยนั่นเองครับ


ขอพิมพ์เพิ่มเติมไว้ ณ ที่นี้ เรื่องเหล่านี้ผมถือว่าเป็นญาณวิสัยนะครับ พูดมากก็ฟุ้งมาก จึงเห็นควรยุติเท่านั้น เพราะเรื่องนี้ท่านยังไม่ถึงวิสัยเช่นนี้ก็พิจารณาให้แจ่มแจ้งไปตามความรู้ทั่วไปก่อนเถิดครับ เพราะผู้ฝึกภาวนาวิชชาธรรมกายก็ได้ทั้งรู้ทั้งเห็นไปตามตำรานั้นๆ ได้เช่นกัน ส่วนเรื่องละเอียดขอให้รู้ไว้ใช่ว่าก็แล้วกัน...ครับ

 

ผู้อยู่ในธรรม...?


<!--MsgIDBody=0-->พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต


ธรรมวิหาริกสูตรที่ ๑


[๗๓] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่าผู้อยู่ในธรรมๆ ดังนี้ ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรมด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ ฯ



-->> (นักเรียน)

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเรียนธรรมคือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไป ละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน เพราะการเรียนธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่าเป็นผู้มากด้วยการเรียน(ปริยัติติพหุโล) ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม ฯ




-->> (นักเขียน - นักแต่ง - นักเทศน์)

อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมแสดงธรรมตามที่ได้สดับมาแล้ว ตามที่ได้เรียนมาแล้ว แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไป ละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน เพราะการแสดงธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่าเป็นผู้มากด้วยการแสดงธรรม(ปัญญัตติพหุโล) ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม ฯ




-->> (นักสวด - นักท่อง)

อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมกระทำการสาธยายธรรมตามที่ได้สดับมาแล้วตามที่ได้เรียนมาแล้ว โดยพิสดาร เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไป ละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน เพราะการสาธยายธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่า เป็นผู้มากด้วยการสาธยาย(สัชฌายพหุโล) ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม ฯ




-->> (นักคิด)

อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมตรึกตาม ตรองตาม เพ่งตามด้วยใจ ซึ่งธรรมตามที่ได้สดับมาแล้ว ตามที่ได้เรียนมาแล้ว เธอย่อมปล่อยให้วันคืนล่วงไปละการหลีกออกเร้นอยู่ ไม่ประกอบความสงบใจในภายใน เพราะการตรึกตามธรรมนั้น ภิกษุนี้เรียกว่า เป็นผู้มากด้วยการตรึกธรรม(วิตักกพหุโล) ไม่ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม




-->> (นักปฏิบัติธรรม)

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถาอุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ เธอย่อมไม่ปล่อยให้วันคืนล่วงไป ไม่ละการหลีกออกเร้นอยู่ ประกอบความสงบใจในภายใน เพราะการเล่าเรียนธรรมนั้น ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้อยู่ในธรรม(ธรรมวิหารี)อย่างนี้แล




ดูกรภิกษุ เราแสดงภิกษุผู้มากด้วยการเล่าเรียนธรรม แสดงภิกษุผู้มากด้วยการแสดงธรรม แสดงภิกษุผู้มากด้วยการสาธยายธรรม แสดงภิกษุผู้มากด้วยการตรึกธรรม แสดงภิกษุผู้อยู่ในธรรม ด้วยประการฉะนี้ ดูกรภิกษุ กิจใดอันศาสดาผู้หวังประโยชน์เกื้อกูลอนุเคราะห์ อาศัยความเอ็นดู พึงกระทำแก่สาวกทั้งหลาย กิจนั้นเราได้ทำแก่เธอทั้งหลายแล้ว ดูกรภิกษุ นั่นโคนต้นไม้ นั่นเรือนว่าง เธอจงเพ่งฌาน อย่าประมาท อย่าเป็นผู้มีความเดือดร้อนในภายหลัง นี้เป็นอนุสาสนีของเราเพื่อเธอทั้งหลาย ฯ


จบสูตรที่ ๓


เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๒๐๒๔ - ๒๐๕๗. หน้าที่ ๘๘ - ๙๐.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=22&A=2024&Z=2057&pagebreak=0



กระผมจบนะครับ อันเนืองจากช่วงนี้ติดภาระกิจหลายเรื่อง และเห็นว่าคุยมากแล้วใจมันฟุ้ง ฟุ้งทั้งผู้ถามผู้ตอบ เพราะเอาความขุ่นมัวมาเป็นประเด็นในการหาเหตุทะเลาะกัน ไม่มีประโยชน์นะครับ ถ้าจะจ้องหาเหตุทะเลาะเอาชนะไม่ยอมกัน ผมไม่ถนัดคุยกับบุคคลที่จัดอยู่ในประเภทนี้ เอาล่ะครับมีโอกาสอาจเข้ามาดูอีก แต่คิดว่าจะไปตั้งกระทู้เย็นๆ ในห้องอภิญญาดีกว่าครับ...
<!--MsgFile=0-->
<!-- / message -->

 

อ้าว ไหงเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย กำลังอ่านมันๆ
คุณสมถะเล่นยกเรื่องที่คนอื่นไม่เคยอ่านมาถามเขา แล้วพอเขาบอกว่าไม่เคยอ่าน ก็สรุปว่าเขาไม่รู้เรื่องในที่ถกกันก่อนหน้านี้
อย่างนี้เข้าเรียกนักมายากลนี่นา เอาใหม่ครับ กลับเข้าเรื่องที่คุณขันธ์เขาถามเรื่องเมล็ดโพธิต่อดีกว่า กำลังอยากฟังต่อครับ เพราะไม่เคยได้ยินมาเหมือนกัน

 

คุณขันธ์ต้องไปพยายามให้มากกว่านี้ หลายเรื่องคุณก็ถูกหลายเรื่องคุณก็ผิด โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับวิชาธรรมกาย หากเราไม่รู้ไม่เห็นจริงๆอย่าวิจารณ์อะไรเลยครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยส่วนตัวของผมเคารพนับถือในพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีทุกองค์ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนและ ไม่ว่าตัวท่านเองจะปฏิบัติหรือจะสอนด้วยวิธืการและแนวทางใด และผมก็ไม่เคยคิดเคยเห็นว่าวิธีการหรือแนวทางการปฏิบัติของใครเป็นวิธีที่ผิด ใครชอบใครศรัทธาแบบไหนก็ปฏิบัติไปกันไปเถอะครับ มันจะผิดกันก็แต่วิธีการแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน การปฏิบัติธรรมและการสวดมนต์ก็เหมือนกัน มันต้องเลี้ยงลูกอ่อนครับ เริ่มปฏิบัติเริ่มสวดมันก็เหมือนกับเด็กหัดพูดหัดเดิน ชัดบ้างไม่ชัดบ้างพูดตามเขาไปโดยไม่รู้ความหมายหัดพูดไปโตขึ้นไปก็เริ่มรู้ไป และคนเรากว่าจะยืนจะเดินจะวิ่งได้รวดเร็วมั่นคง ก็คงไม่เคยมีใครไม่ล้มหัวฟาด สวดมนต์และปฏิบัติธรรมก็เหมือนกัน สวดไปปฏิบัตืไปมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆอย่างว่า สวดมนต์ในตอนแรกก็สวดตามเขาไปโดยที่ไม่รู้ความหมาย พอสวดไปทุกวันๆก็อยากจะรู้ก็เลยต้องศึกษาหาอ่านแล้วมันก็รู้ เมื่อรู้แล้วก็เกิดศรัทธาอยากทำตามหลังจากที่มัศรัทธาก่อนที่จะสวดมาแล้ว มันเป็นขั้นเป็นตอนอย่างนี้แหละครับ อาจารย์บางท่านถึงได้พูดว่า รู้เรื่องไม่รู้เรื่องผิดถูกก็สวดไปเถอะเดี๋ยวมันก็ดีเอง คนเราอย่าติเพื่อทำลายครับต้องติเพื่อก่อ และไอ้เรื่องแบบนี้วิธีการและคำพูดสำคัญที่สุด ขอบคุณและขอโทษคุณขันธ์ครับ

 

ค้น Google หาเรื่องเมล็ดพันธ์ผักกาด เจอแต่ คาถาตะกรุดอะไรก็ไม่รู้

นอกนั้นก็เป็นการใช้บอกขนาดของพระธาตุ

ถ้าจะให้ถอดความตามประสาคนช่างอ่านอย่างผม ก็สงสัยว่า เป็นการ
บอกรูปที่ดิน หรือ ขนาดของพื้นที่ของการเดินจงกรม เพราะแปลงพักกาด
นั้นจะต้องยกพื้นขึ้นมาจากร่อง ก็น่าจะพอดีกับการเดิน และสอดคล้องกับ
การกำหนดพื้นที่เดิน แต่ถ้าไม่ใช่แปลงปลูกพักกาด ก็อาจจะเป็นลานตากแห้ง
เมล็ดพันธ์ก็ได้ อย่างหลังนี้ ก็จะเป็นไปได้มากขึ้น คือ ในเมล็ดพักกาด ก็หมาย
ถึงเดินย่ำไปในเมล็ดพักกาด ก็อาจเพื่อให้มันแตกรวงออกมา เหมือนการฟัด
ข้าวให้หลุดจากรวง

มันสมเหตุสมผลกว่าที่จะ ย่อตัวลงไปเดินจงกรมในเมล็ดพักกาด

 

555 นี่มันนิสัยไอ้ใบไม้ชัดๆ ถอดแบบกันมาไม่มีผิด สมแล้วที่มีฉายาว่า ใบไม้2
ดีนะเนี่ย ที่มันไ่ม่พูดว่า "คนที่ส่งข้อความมาหาบอกว่า พบพระพุทธเจ้าแล้ว"

สมถะเอ้ย ไปแย้งข้อความผมอันเก่าก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน อย่ามาใช้นิสัยที่ว่า สร้างกระแสหมู่ชนแล้วทำให้ผมเป็นคนผิด

 

<TABLE width="90%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD colSpan=3></TD></TR><TR vAlign=top><!--left column--><TD width="50%"><!-- block entry--><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="1%"></TD><TD width="96%" bgColor=#f7f7f7></TD><TD width="1%"></TD></TR><TR><TD width="1%" background=images/bl.gif></TD><TD vAlign=top width="96%" bgColor=#f7f7f7><!--poster entry--><TABLE cellSpacing=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 1px; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-RIGHT-WIDTH: 1px" height=75></TD><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(images/shade_side.jpg); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" width=10></TD></TR><TR height=10><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(images/shade_btm.jpg); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat"></TD><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(images/shade_cn.jpg); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat"></TD></TR></TBODY></TABLE><!--poster--><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="8%"></TD><TD align=left width="92%">

​

 

ยิ่งน่าสงสารเข้าไปอีก ^-^

 

ว่าย ต้อง ขออภัยทุกคนนะครับที่ได้พูด ร่วงเกินอะไรไป โอ๊ มาเห็น กระทู้นี้แล้วผมอยากอายจัง คือผมไม่ได้ เปิดคอมมา แต่ 2 เดือนที่แล้ว แล้วครับ คือมีคนรู้ Password ผมจริงๆๆ นะครับ ผมขอสาบาล โอย !! ผมได้ตอบคำพูดของ กระทู้ไดหรือ พูดร่วงเกินอะไรไปขออภัยนะครับ...........คือผมจะไม่ใช่ ชื่อนี้นะ ครับ นักบุญภาคอีสาน ผมไม่เล่นชื่อนี้นะครับ ต้องโทษอีกครั้ง โอย ตาย ห่าละ

 

โอยผมจะตาม ลบทัน ไม
เนี่ย

 

ก็ว่าแปลกๆ จำได้ว่า คุณนักบุญคุยธรรมกับ อ.ขันธ์ ได้รสชาติดี

แต่เมื่อไม่นานมานี้แปลกๆ ยังกะคนไม่รู้จักกัน

 

ข้อความชี้แจงครับ​

1. กระผมรับรองว่ากระผมเขามาครั้งสุดท้ายตอนตอบปัญหาเรื่อง ญาณ 4 ในกระทู้ที่ผ่านมา ของคุณสมาชิกที่ถูกแบลครับ
2.ทหารที่ไหนจะบอกว่าตัวเป็นทหารทั้งๆที่นี้เป็นความรับของทหารตามหลักไม่ให้บอกต่อสาธารณะ ชน
3.ผมไม่เคยปรามาดใคร เลยโดยเฉพาะท่าน ขันธ์ ผมอายมากเลย
4.เรื่องลงใต้ก็ไม่ควรพูดและ เรืองตาไม่ดอีกผมรับลองว่า เป็นจริงแต่ไม่หนักเท้าไร
5.และเรื่องสวนตัวผมอีกมากมาย ไม่รู้เฉพาะกระทู้นี้หรือป่าว ผมตามอ่านแล้วผมก็อาย เพราะที่ผ่านมาผมไปทำงานตลอดครับ ไม่มีเวลาได้กลับบ้านเลยก็เลยเขียน Password และชื่อ สมาชิกไว้ โต๊ะทำงาน ​

ขอกราบขอโทษทุกท่านที่ผมได้ ใช้วาจาหรือ อะไรไม่ดีออกไปในนามผมด้วนนะครับ..........ผมก็ขอไม่ใช่ชื่อนี้ และพอเพียงเท้านี้ จะไม่สมัครสมาชิกอีกแล้ว จะเป็นผู้ตามอ่านและตามดูเท่านั้น ถ้ามีใครเข้ามาอีก นั้นไม่ใช่ผมนะครับ ส่วนอีกเรื่อง เรื่องพระหลังบ้านผมที่เป็นพระธาตุเรื่องก็ยืนยันตามที่ ผู้อืนที่ไม่ใช่ผมได้กล่าวไว้ว่าเป็นจริงตอนนี้พระธาตุก็อยู่กับกระผม แล้ววันหน้าผมจะนำรูปมาให้ท่านๆดู

 

อะไรแล้วไปแล้ว ก็ช่างมันเถอะ มานั่งอายอะไรทำไม มันจบไปแล้วก็ให้มันจบไปเถอะ

 

ดังที่ท่านขันธ์ว่าละครับ สิ่งที่มันเกิดแล้วก็ให้มันแล้วกันไป

 

หลวงปู่มั่นตอนหละงก้ได้ธรรมกาย ไปศึกษาให้ดีก่อนจะยกมาข่มวิชาธรรมกาย พระพุทธเจ้าพระอรหันต์แสดงธรรมกายโปรดท่านครับ

 

เสียดายท่านใบไม้นอกกำมือก็มาถูกแบน จะหาคนมีสติปัญญาแบบท่านไม่มีแล้วในเวปนี้ แต่นั่นแหล่ะ การพูดตรงเกินไป ก็พลอยไปเหยียบแขนขาหรือกระทั่งไปกระทบครูอาจารย์คนอื่นเข้าเลยโดนแบนเสียอีก คนที่เห็นด้วยกับท่านใบไม้แบบผู้เขียนก็โดนใส่ความว่าเป็นอวตารของท่านใบไม้ด้วย บาปกรรมจริงๆ

 

มีดบิน มาแล้วหรือ สมุนผู้จงรักภักดีต่อใบไม้
อย่าเอาคำพูดพล่อยๆ ที่ว่า หลวงปู่มั่นได้ธรรมกายใน แบบฉบับของคุณ
ถ้า ท่านได้ ก็คือ ธรรมกายในแบบฉบับพระพุทธองค์ คือ นิพพาน

 

เสียใจด้วยครับคุณขันธ์ผู้เลวทราม ไปอ่านประวัติหลวงปู่มั่นที่หลวงตาบัวเขียนให้ดี คุณน่ะ ไม่เคยรู้เรื่องพระสายท่านอาจารย์มั่น ไม่ศึกษาจริง บารมียังน้อยเพราะไม่ได้เดินวิชามาให้รอบ ช่วยตอบที่ท่านพระอรหันต์เยอรมันมาพบท่านย ตอบที่พระอรหันต์มาแสดงธรรมให้ฟัง พระอรหันต์มาแสดงท่านิพพานให้ดูด้วย
ตอบกันตรงๆ เลย อย่าอายเลยครับ นั่นคือ ธรรมกายของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์มาแสดง แต่พระธรรมยุติยอมรับไม่ได้ เพราะต้องการบอกว่าเก่งกว่าท่านอาจารย์วัดปากน้ำ ใช่หรือไม่

ถ้าเช่นนั้นทำไมบารมีหลวงพ่อวัดปากน้ำถึงมากกว่าพระทุกองค์ในประเทศนี้เคยมีมา หรือใครจะเถียง
นับตามจำนวนศิษย์ จำนวนเงินทองที่เข้ามา จำนวนนักวิชาการสายธรรมกาย จำนวนผู้รู้ธรรม จำนวนการเผยแพร่ ทำไม และก็ทำไม จริงๆ ไม่อยากพุด ไปศึกษาเรื่องอาจารย์ชอบ ฐานสโม อีกคนเหอะ ท่านบอกตรงๆ เลยพระอรหันต์ชื่อ พากุลละ มาสนทนาธรรมกับท่าน เป็นตัวตนเลย อะไรน่ะ ถ้าไม่ใช่ธรรมกาย
หรือจะไปถามหลวงปู่บุดดาก็ได้ ในย่ามท่านน่ะ พระเครื่องที่ติดตัวมีไม่กี่องค์ แต่ทำไมต้องเป็นพระของขวัญวัดปากน้ำด้วยเล่า เอาล่ะ เท่านี้ คุรก็คงรู้แล้วว่า ถ้าผมจะเล่นเรื่องธรรมกับคุณ คุณยังไกลมากครับ ขออภัยที่วันนี้สอนให้แทนท่านใบไม้ คุณน่ะ สู้ท่านใบไม้ด้านธรรมไม่ได้เลย เพราะใจคุณมารมาครองครับ ถ้าละทิฎบิก้อาจไปจาตุมได้ แค่จาตุมนะ

 

คุณนี่มันจอมยั่วจริงๆ ผมไม่มีเวลาเถียงกับคุณหรอก จะว่าผมเลวทราม หรือ มารครองใจก็เอาเถอะ เพ้อเจ้อ ไม่หยุด จะให้ผมถามกลับไปไหม จะได้หน้าแหกไปอีกรอบ ถ้าไม่อยากหน้าแหกก็อยู่เฉยๆ

 

ไปเรียก ท่านใบไม้ของคุณ ผู้ล่วงลับไปแล้ว มาดีกว่าบอกว่า ตอนดึกๆ มาเจอกันผมจะรออยู่ที่ กระทู้นี้ เวลา 5 ทุ่มตรง แล้วมาดวลปืนกันเลย ตอนนี้ผมไม่ว่างคุยกับเด็กอย่างมีดบิน