ลองของ ปฏิบัติกรรมฐานกับการระลึกชาติ

ความเห็นตรงกันเลยค่ะคุณ pazta เมื่อถึงเวลา เราก็จะเห็นเอง และเราเองไม่ได้มีจุดประสงค์จะอยากรู้อยากเห็น เพียงแต่ทำกรรมฐานแล้ว จิตใจสงบ เอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ น่ะค่ะ

 

คุณ pazta เข้าใจเรื่องระลึกชาติ ได้อย่างถูกต้องค่ะ

อรอยากให้เพื่อนๆ ที่คิดว่า ผู้ที่ระลึกชาติได้ เป็นคนหลงอยู่กับอดีต และโอ้อวด ได้อ่านตรงนี้

มีหลายคนที่พอรู้แล้วผูกใจอาฆาตก็มี เขาผู้นั่น ต้องเรียนรู้ให้ได้ด้วยตนเอง ให้รู้จักละวาง

แต่ก็มีอีกหลายคน ที่รู้เห็นอดีตชาติ และเข้าใจ คำว่า เกิดขึ้น ตั้งยู่ ดับไป ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญ กับผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบด้วยนะค่ะ ^_^

 

สนับสนุนเจ้าค่ะ จริงแท้แน่นอน ตามที่ พี่นิพพาน แนะนำค่ะ

เวทนา มาให้รู้เลยว่า กำลังได้ชดใช้กรรม

 

สมมุติ นะค่ะ

กรรมบางอย่าง เราอาจจะต้อง ขาหัก เพื่อชดใช้เจ้ากรรมนายเวร

แต่เมื่อทำกรรมฐาน มีเวทนา ปวดขา สุดแสนจะทน แต่ก็ทน นั่นคือเรา ทยอยใช้กรรมแล้ว

จากที่ขาจะต้องหักก็ กลายเป็นว่า เมื่อใดทำกรรมฐาน ก็จะมีอาการปวดขาแบบนี้ เป็นการทยอยใช้กรรม ดีกว่าการรับกรรมหนักๆ ในคราเดียว

หากอดทนได้ และทำกรรมฐานไปเรื่อยๆ เราก็จะใช้กรรมเจ้ากรรมนายเวรได้จนหมด


ช่วงแรก อรเอง จะปวดขามากที่ นั่งสมาธิ 30 นาทีค่ะ แต่ ต่อมาก็ไม่ปวด ก็เพิ่มเวลา ขึ้นอีก เป็น 45 นาที พอไม่ปวด ก็เพิ่มเวลาขึ้นอีก

ทุกความเจ็บปวดคือการใช้กรรม ซึ่งดีต่อเรามาก


สังเกตตัวเองดูนะค่ะ ว่าช่วงแรก ทำกรรมฐาน เหงื่อจะออกเยอะมาก ปวดขา ปวดตัวมาก แต่หลังจากนั้น ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จะเห็นว่า เหงื่อน้อยลง ปวดขา ปวดตัว น้อยลง เพราะ กรรมที่เกาะอยู่น้อยลงแล้ว สุขภาพที่ไม่ดี ก็ดีขึ้น

สู้ๆ นะค่ะ อรเองจะเป้นกำลังใจให้ค่ะ

ถ้ายังไง ส่งชื่อ นามสกุลมาให้อรก็ได้นะค่ะ อรจะแผ่เมตตาช่วยอีกแรง ^_^

 

เราเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นไม่ได้เกิดตอนนั่งสมาธิแต่เกิดขึ้นตอนช่วงเรากำลังจะหลับเป็นตอนเริ่มเห็นประมาณอายุ6-7ขวบช่วงนี้เห็นบ่อยมากตอนนั้นยังเด็กยังนั่งสมาธินานๆๆไม่เป็น เวลามีพระธุดงมาพระท่านจะสอนให้นั่งสมาธิอยู่ต่างจังหวัดตอนนั้นยังเด็กมากแต่รู้สึกได้ว่าอยากทำบุญอยากบวชตั้งแต่เด็กจะสวดมนต์ก่อนนอนทุกวันใช้บทง่ายๆๆ อะระหังพอสวดจบก็คิดเอาว่าขอไห้เรียนเก่งๆๆขอไห้พ่อแม่มีความสุขคิดเอาตามประสาเด็กๆๆเจอเมลงหรือสัตว์ตายก็จะเอาไปฝังไต้ต้นไม้เอาดอกไม้ไปวางแล้วก็หลับตาบอกไห้เขาไปบนฟ้า ครั้งแรกที่เห็นอดีตคือเห็นป่าอยู่คาริปตัสเห็นพ่อกับแม่ไปดักนกรู้ด้วยตัวเองว่าตัวเองเป็นนกอีแวงสีดำตัวที่ติดตะค่ายพ่อ พ่อจำตัวเราออกจากตาค่ายแล้วฟาดกับต้นอยู่คาริปตัสจิตที่อยู่กับร่างนกอีแวงก็หลุดพุ่งเข้าท้องแม่แล้วรู้ตัวว่าอยู่ในท้องแม่เห็นแม่เดินกลับเข้าบ้านแล้วเราก็ตื่นด้วยความตกใจแต่ก็ไม่ได้เล่าไห้แม่หรือพ่อฝฟังเพราะตอนเด็กรู้สึกกลัวพ่อกับแม่ไม่รู้เพราะอะไร
​

 

ครั้งที่สองเห็นตัวเองไส่ชุดไทยสีแดงเป็นผู้หญิงยืนดูคนฆ่ากันเผาบ้านเรือนเรายืนร้องไห้อยู่ตรงต้นสะเดาพอตื่นเราก็ร้องไห้อยู่แม่ถามว่าเป็นอะไรเล่าไห้แม่ฟังแม่บอกว่าตอนนี้หนูเป็นลูกแม่แม้ชาติได้ๆๆหนูเกิดเป็นสิ่งไดก็ตามอย่า่มารบกวนลูกของฉันอีกเด็กคนนี้เป็นลูกของฉัน ตอนโตพอเข้าเรียนมัธยมเลยได้เรียนเรื่องท้องทิ่นของเราเลยรู้ว่าที่ที่เราอยู่คือฐานทัพที่เรารบกับพม่าต้นสะเดาต้นที่เราเห็นในฝันก็อยู่กลางหมู่บ้านเรานั้นละ

 

ตอนหลังมาก็เห็นตัวเองกำลังเก็บดอกไม้ดมอยู่บนสวรรณกำลังเก็บเพลินๆๆก็หล่นลงมาแล้วเราก็ตื่น เคยฝันเห็นพญาครุตกับพญานาคสู้กันแพ้โดนกินในฝันเหมือนเราเป็นคนผิดเรายืนดูอยู่เราร้องไห้จนตืนช่วงโตขึ้นอายุเข้า20ปีเริ่มนั่งสมาธิและสวดมนต์อย่างจริงจังก็ไม่ฝันแปลกๆๆอีก

 

เขานั่งสมาธิเห็นอดีตเห็นผีเห็นอะไรกันแปลกๆๆแต่เรากลับเห็นตอนเรากำลังจะหลับแตเรานอนเราำกำหนดจนหลับนะ

 

สวัสดีค่ะ คุณพญาปักษา อรขอโทษที่ตอบช้ามากๆๆๆนะค่ะ ไม่ได้เข้ามานานแล้ว ขออนุโมทนาบุญ ในการสร้างกุศล ด้วยการปฏิบัติธรรมนะค่ะ เป็นสิ่งที่เห็นได้เฉพาะตนจริงๆ การกำนหนด จนหลับไปจะทำให้สติ ยังคงอยู่กับเรา ทำให้ไม่เกิดการ "ฝัน" ยิ่งเราปฏิบัติมากๆ จะไม่ฝันเลย


อรฟังมาจากหลวงพ่อจรัญสอนอีกทีนะค่ะ อรเคย ลองพิสูจน์เรื่องนี้ ว่าปฏิบัติธรรมได้ดีขึ้นหรือไหม ให้ดูตรงฝันได้ ว่าฝันไหม ปีนั้น อรปฏิบัติกรรมฐาน ทุกวัน วันละ 3 ชม ไม่ขาด ปีนั้นทั้งปี ไม่เคยฝันเลยแม้แต่วันเดียว แต่พอไม่ทำทุกวัน ก็เริ่มเกิดความฝัน ตามปกติค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ ^^ คุณพระรักษา เทวดาคุ้มครอง นะค่ะ

 

อรฟังมาจากหลวงพ่อจรัญสอนอีกทีนะค่ะ อรเคย ลองพิสูจน์เรื่องนี้ ว่าปฏิบัติธรรมได้ดีขึ้นหรือไหม ให้ดูตรงฝันได้ ว่าฝันไหม ปีนั้น อรปฏิบัติกรรมฐาน ทุกวัน วันละ 3 ชม ไม่ขาด ปีนั้นทั้งปี ไม่เคยฝันเลยแม้แต่วันเดียว แต่พอไม่ทำทุกวัน ก็เริ่มเกิดความฝัน ตามปกติค่ะ<!-- google_ad_section_end -->


ไม่เข้าใจอ่ะค่ะ ว่าทำไมดูที่ความฝันช่วยอธิบายได้ใม๊ค่ะ(จะใด้ดูมั่ง)....ขอบคุณค่ะ

 

สาเหตุที่เกิดฝัน เพราะ สติเราไม่อยู่กับตัว มีจิตที่ฟุ้งซ่าน ถ้าเราทำกรรมฐาน กำหนด การเดิน นอน นั่ง ตลอดเวลา กำหนดให้รู้เท่าทันอารมณ์ สติจะอยู่กับเราตลอด เวลาทำกรรมฐานก็จะไม่ลำบากมาก ก็จะดึงสติ หรือ จิต ให้อยู่นิ่ง เมื่อจิตนิ่ง เราจะมีสมาธิ มีสติ เวลานอน ก็กำหนด นอนหนอ เริ่มจากกระม่อมถึงปลายเท้า และจากปลายเท้าขึ้นมากระหม่อม ครบ 5 ครั้ง แล้วกำหนด พอง ยุบ ที่ท้อง จนหลับไป แต่ตัวสติก็ยังอยู่กับเรา ไม่ได้ออกไป ร่าเริงที่ไหน (การเกิดความฝัน)

อรเอง ณ ตอนนั้น ถึงรู้ว่า ที่ครูบาอาจารย์สอนไว้ เราจะเข้าใจได้ดีก็ต่อเมื่อลงมือปฏิบัติอย่างไม่ลดละ ความพยายาม เราจะได้หัวใจพระกรรมฐานแน่นอน


ตอนนี้ ไม่ได้ทำกรรมฐานทุกวันแล้ว ความฝันกลับมาแล้วค่ะ มีปีนั้น ปีเดียว ที่ไม่เคยเกิดความฝันเลย

สำหรับอร นะค่ะ ตอนหลวงพ่อจรัญท่านบอก แบบนี้ ไม่เชื่อหรอกค่ะ และท่านก็บอกด้วยว่า ไม่ต้องเชื่อ ให้ลองทำดู แล้วจะรู้ แต่ลองทำดู คือการปฏิบัติกรรมฐาน อย่างตั้งใจ อย่างจริงจัง ไม่เลิกกลางคัน รักษาสัจจะที่ตั้งไว้ จะเดินจงกรมเท่าไหร่ นั่งสมาธิเท่าไหร่ ต้องทำให้ได้ แล้วจะได้ของดี

อรถึงลองทำ ตามที่ท่านบอก เพราะ เริ่มแรกในการทำกรรมฐาน จะเจอสิ่งใด อย่างไร หลวงพ่อบอกเช่นไร อรเจอทุกอย่างที่ท่านบอก 100 % เลยค่ะ

บุญรักษา ที่ท่านชี้แนะ วิธีการรับมือกับเจ้ากรรมนายเวร และท่านกรุณาแผ่เมตตาช่วย เสมอ ถึงได้ผ่านมาได้

ต้องลองดูนะค่ะ แต่ หัวใจสำคัญคือ ต้องอาศัยความเพียรสูง สู้ๆนะค่ะ ^^

 

อย่างนี้คุณผีขาประจำ(มาบ่อย) กับขาจร(มาครั้งเดียว)ที่เคยมาในฝันละค่ะ เค้าไม่มาอีกเปนเพราะอะไรค่ะ หลวงพ่อท่านใด้เล่าบ้างใม๊ค่ะ....

 

ระหว่างที่รอการอัพเดตของคุณอร ขอเล่าพอเป็นกลับแกล้มหน่อยนึงแล้วค่อยไปเป็นเมนูหลักคือคุณอรต่อนะคะ(smile)(smile)(smile)(sing)(sing) เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญเหมือนกันแต่ความเพียรต่างกันมากเลยค่ะ ส่วนตัวมักจะสวดมนต์เวลานอน คือจะกำหนดสวดมนต์ในใจแต่ช่วงนี้มักจะหลับก่อนสวดมนต์จบทุกทีเลยค่ะ
เรื่องสวดมนต์นั้นเมื่อประมาณ ๒ หรือ ๓ ปีก่อนนี่แหละจำไม่ได้แล้วจะพยายามอย่างจริงจังท่องบทสวดพาหุงมหากาฯ เพื่อให้จำได้ขึ้นใจ และครั้งแรกเลยที่สัมผัสกับอีกมิติคือ ในช่วงที่นอนภาวนาจิตก็กำหนดสวดไปๆ แล้วมีวรรคหลังๆเกิดลืมว่าใช่หรือเปล่าก็สวดกลับไปกลับมาที่วรรคเดิมๆโดยยังไม่ทันได้สวดจบและไม่รู้ตัวว่าจิตเรากำลังมีสมาธิดิ่งสู่ภาพและเสียงที่กำลังจะปรากฎอยู่เบื้องหน้า เริมแรกจะมีเสียงเหมือนจิ้งหรีดก็ว่าได้จากเบาๆก็ดังขึ้นๆเข้ามาในหูพร้อมกับภาพเหมือนในหนังเวลาจะทะลุไปอีกมิติแล้วเสียงนั้นก็หายไปแล้วภาพก็เปลี่ยนเป็นภาพชัดขึ้นๆ เป็นเหมือนจอหนังอยู่เหนือปลายที่นอนของเรา รวมทั้งถึงตอนนี้เราจะเห็นได้เลยโดยที่เราไม่ต้องหันไปดูว่ารอบๆตัวเรามีอะไรบ้าง แต่เวลาที่เห็นพอสติตามไม่ทันคือตื่นเต้น ตกใจ กลัว สมาธิกระเจิง ภาพก็เลยหายไป แต่ถ้าเราทำจริง(จัง)เราก็จะได้ของจริง ดั่งที่หลวงพ่อท่านพูดไว้แน่นอน ๑๐๐ล้าน เปอร์เซ็นต์
แต่ช่วงหลังๆมานี้รู้ตัวว่ามีแต่เดี๋ยวผลัดไปเรื่อยแล้วก็เลยไม่ค่อยได้ลงมือทำจริงจัง ก็มัวแต่อ่านเรื่องของเขา ส่วนเรื่องของเราเมื่อไม่ลงมือก็เลยก็อย่าไปหวังว่าจะได้ของจริงเหมือนหลวงพ่อ เหมือนคุณอร (เรียกว่าสอนตัวเองไว้) หรือถ้าผู้อ่านท่านใดเป็นอย่างที่ว่าานี้ก็ขอให้รีบร่งปฏิบัตินะคะ เราก็จะสู้ๆค่ะchearrchearrchearr:VO

 

ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ หลวงพ่อ ท่านจะสอนเรื่อง การปฏิบัติกรรมฐาน สอนวิธีรับมือกับสิ่งที่เราจะเจอ ไม่ว่าจะเป็น ในระหว่างการปฏิบัติ หลังการปฏิบัติ และยกตัวอย่าง เป็นครั้งคราวค่ะ ขอโทษจริงๆที่ไม่สามารถแนะนำตรงส่วนนี้ได้ นะค่ะ

 

ขอบคุณที่ share ประสบการณ์การปฏิบัติด้วยนะค่ะ ดีใจที่ได้เจอลูกศิษย์หลวงพ่อเหมือนกันค่ะ อรไปทำกรรมฐาน (ที่วัดอัมพวัน) ครั้งล่าสุดเมื่อเดือน มกราคมที่ผ่านมานี้เองค่ะ หอบบุญมาฝากนะค่ะ อยู่ห้องพักทำได้ไม่มากค่ะ เพราะมีรูมเมท


เรื้องผลัดวันไปเรื่อย อรอ่านแล้ว เข้าใจได้ทันทีเลยว่า มารมาขวาง ก้าว เหยียบผ่านมารไปด้วยกันนะค่ะ ผ่านได้ก็เป็นบททดสอบขั้นต้น ที่จะทำให้เจ้ากรรมนายเวร เปิดใจ ให้เราได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม ชดใช้กรรมให้เขา (ให้บรรเทาลง) ไม่ต้องรับหนักๆๆ ภายในคราวเดียว

อรเอง ก็อาศัย สวดมนต์ทุกวันค่ะ จะได้ไม่ทำให้จิตวิ่งเร็วมาก พอว่างทำกรรมฐาน จะได้จับจิตให้นิ่ง ได้


ครั้งล่าสุดที่ไป ได้ใช้กรรมกับเจ้ากรรมนายเวร (หลายๆ คู่กรณี มาทวงพร้อมๆกันค่ะ เพราะอรเองไม่ได้ทำกรรมฐานทุกวันแล้ว ปฏิบัติที ก็มาทวงเยอะเลย)

เจอพ่อในชาติที่สอง ที่ระลึกชาติได้อีกครั้งค่ะ พ่อมาพร้อมกะเจ้ากรรมนายเวร

พอจะครบเวลา ช่วงนั่งสมาธิ น้ำตาไหลออกมาเลยค่ะ สงสารพ่อ พ่อมารอบุญกุศลจากลูกคนนี้ ตอนแรกยังไม่แน่ชัด แยกแยะไม่ชัดเจน เพราะอร ตามกำหนดอารมณ์ตนเองไม่ทัน

พอครบเวลา ก็แผ่เมตตา เริ่มแรก ถึง มารดา บิดา ก็เอ่ยบิดาก็ น้ำตาไหลตอนนั้นเลย เหมือนมีไร จุกที่คอ พูดคำแผ่เมตตาไม่ออก จึงได้รู้ว่า ที่รู้สึกเสียใจ หดหู่ใจ นอกจาก เป็นเพราะกรรมที่ทำกับเจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลายแล้ว ก็เป็นพ่อคนนี้ ที่อรสะเทือนใจมาก พ่อมาและยังคงอยู่ คิดถึงพ่อ นึกถึงตอนพ่อตายในวันนั้น

พอถึงบางอ้อแล้ว อรก็ตั้งใจแผ่เมตตาให้พ่อ อีกครั้ง


ปล. ตอนนี้หลวงพ่อจรัญ ท่านอาพาธอยู่ค่ะ อรเองก็แผ่เมตตาถึงท่านทุกวัน ให้ท่านหายไวไว

คุณพระรักษา เทวดาคุ้มครองนะค่ะ

 

อนุโมทนา ค่ะ ตามอ่านอยู่ รู้ตัวเลยว่า ความเพียรเรายังน้อยจริงๆจะพยายามค่ะ

 

สวัสดีค่ะ คุณ linda สู้ๆ นะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ พอทำกรรมฐาน บ่อยๆ วันนึงเราจะรู้ได้ด้วยตนเองค่ะ เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน จริงๆค่ะ ช่วงหลังๆ ไม่ได้เขียนเล่าเรื่องใหม่ๆเลยค่ะ เกิดอาการขี้เกียจน่ะค่ะ

ช่วงหลังนี้ ก็เป็นไปตามที่หลวงพ่อสอนไว้ค่ะ คนทำกรรมฐาน พอสร้างกรรมใหม่ขึ้นมา จะตามสนองทันที เพื่อจะได้ชดใช้กรรมในชาตินี้ ไม่ติดตัวไปชาติหน้าให้ เจ็บช้ำน้ำใจ นะค่ะ เพราะชาติหน้าเราจะไม่รู้เลยว่า เราไปทำอะไรมา ทำไมเป็นเช่นนี้ แต่ในชาตินี้ หากเรารู้เหตุ ว่า เราทำอันใดไว้ เราก็ต้องรับผลของกรรมอันนั้น เราก็จะปล่อยวาง ไม่เสียใจ เข้าใจมันน่ะค่ะ

อาทิเช่น เมื่อไม่นานมานี้ ทะเลาะกะพ่อค่ะ จับได้ว่าพ่อเหมือนจะมีกิ๊กสาว สาวคนนั้นอายุวัย 60 ปี สงสารแม่ที่รับรู้ว่าเขากะพ่อ คุยโทรสับกันตลอด อรเสียใจมากเลยค่ะ เลยพูดกะแม่ว่า "อรเกลียดพ่อ" (ตอนนี้พ่อไม่แสดงออกนอกหน้าเยอะแล้ว สงสัยเพราะอร ว่าเนี้ยล่ะ บวกกะน้องสาว ไซโคพ่อเป็นระยะ)

ทั้งที่รู้ว่า กรรมจะตามทัน อีกไม่นานแน่ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิพ่อ


ไม่เกิน ครึ่งปี ก็เป็นเปรตเดินดินเลยค่ะ จะเทียบว่า ปากเท่ารูเข็มก็ได้ กินไรไม่ได้ ก็กำหนดตามอารมณ์ พิจารณาดู โอ้... กรรมที่ด่าพ่อไว้วันนั้น นั่นเอง เพราะ ตอนเจ็บปาก เกิดขึ้น ในวันที่ไปหาหมอฟัน จัดฟันอยู่น่ะค่ะ แต่การที่เราเจ็บปาก ไม่ได้เกิดจาก การจัดฟัน

จัดฟันก็ปวดฟัน กินไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่อาการที่แทรกเข้ามาอีก เป็นรอยช้ำที่ฟันคุด แล้วอักเสบจนอ้าปากไม่ได้ พูดก้ไม่ค่อยจะได้ด้วย

เปรต ชัดๆ ค่ะ


อีกอันคือ คิดทำเลวค่ะ โดนแกล้งจากเพื่อนร่วมงาน เราเลยเคืองเพื่อนร่วมงานคนนั้นมาก ด้วยว่า อารมณ์เคืองยังค้างอยู่ ในวินาทีนั้นคุยกันเรื่องงาน เลยโกหกว่า "ไฟล์งานไม่มีให้นะ คงต้องให้เธอทำเองแล้วล่ะ เพราะคอมพัง งานหายหมด

พอมี สติ ก็กลัวล่ะ ตายแล้ว กรรมจะเอาคืนแบบใด ไม่นาน เพียง เดือน สองเดือน อรก็กดโน้นนี่ copy ไฟล์งานไปอีกที่นึง copy แล้วก็จะตามไปลบไฟล์ต้นฉบับทิ้ง กลายเป็นว่า งานทั้งหมดหายค่ะ


เพราะ ไอ้ที่เราเข้าใจว่า copy แล้ว แท้จริง "มันยังไม่ได้ถูก copy เลย"


เรียกว่า "หายสมใจนึก ที่ได้โกหกไว้เลย"

แต่ที่ ปวดจี๊ดดดดดดดดดดดด คือ แทนที่ งานที่เราโกหก จะหายอันเดียว แต่ข้อมูลงานทั้งชีวิต หายหมด เกลี้ยง และเป็นการสั่งลบแบบ ถาวร ไม่มีในถังขยะให้กู้คืนด้วย


และ จี๊ด เข้าไปอีก ตรงที่ หายเพราะ เรากดลบเอง คอมถามซ้ำๆๆๆ ว่าจะลบจริงเหรอ และแบบ ถาวร นะ

ก็ยืนยันค่ะ แล้วก็ทำอะไรไม่ได้เลย

ตอนนั้น ก็โอ๊ย กรรมตามทันแล้ว....



และยังมีอีกหลายเื่รื่องค่ะ ส่วนใหญ่ โกหก อย่างไร เป็นจริงตามนั้นเลย


ปัจจุบันี้ เข้าใจที่หลวงพ่อจรัญท่านสอน เพราะ จะต้องเจอกับตัวเอง ตามที่ท่านสอน ทุกประการ

กลัวการทำเลว ทำชั่วมาก เพราะ จะโดนเอาคืนทันที เนื่องจาก เราทำกรรมฐาน ซึ่งเป็นตัวช่วยไม่ให้เราเอากรรมชั่ว หอบไปเจอท่านพญามัจจุราช เมื่อละทิ้งร่างกายนี้ไปแล้ว

หอบไปแต่บุญกุศลดีกว่าเนอะ อิอิ

 

ใด้ยินมาว่าผู้ที่ปฏิบัติแล้วระลึกชาติใด้หรือเห็นอะไรที่คนอื่นมองไม่เห็นด้วยตาเนื้อเนี่ยะต้องมีของเก่าติดมาจากชาติก่อน เราไม่เคยเห็นและระลึกชาติก็ไม่ใด้ (ไม่มีของเก่าติดมาเลย)อยากได้แบบนั้นเเหมือนกันค่ะ แต่กล้าๆกลัว ก็มีบ้างคุณผีมาในฝัน ตอนนี้ไม่มาแล้ว ช่วงนี้เราว่างเลยมีเวลาปฏิบัติก็พยายามจะทำให้มากที่สุดเท่าที่ทำใด้ ขอบคุณมากค่ะที่นำเสนอสิ่งดีๆให้ใด้อ่าน เล่าใด้สนุกมาก ขอให้เจริญในธรรมค่ะ

 

เป็นบ่อยเลยค่ะเวลาสวดมนต์กับตอนแผ่เมตตาจะร้องไห้เองแต่หลังจากแผ่เมตตาแล้วจะหายไปเอง แต่รู้สึกว่าเวลากล่าวแผ่ให้เจ้ากรรมนายเวรนั้นเหมือนเขารับรู้แล้วทำให้เราร้องไห้ขึ้นมาเองแบบสะอื้นเลยค่ะ และเวลาทำบุญหรือสวดมนต์ก็จะอุทิศบุญให้กับหลวงพ่อเสมอค่ะ ยังไงก็อนุโมทนาบุญกับคุณอรด้วยนะคะ
แต่อยากจะบอกคุณpearl8 ว่าไม่จำเป็นต้องมีของเก่าเสมอไปหรอกค่ะ เพียงเรามุ่งมั่นในการทำดี และปฏิบัติเสมอก็สามารถจะรู้ในเรืองอย่างนี้ได้แน่นอน แต่ขอบอกว่าเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าเราจะเห็นเมื่อไร แต่เมื่อเห็นอย่าลืมกำหนดให้ทัน ไม่ว่าจะน่ากลัวหรือน่าชมค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี ได้ในสิ่งที่ปรารถนานะคะ