*ร้านอารยสมบัติ*พระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฏิ-อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย กิตติกรณ์_ต่าย, 14 พฤษภาคม 2010.

  1. กิตติกรณ์_ต่าย

    กิตติกรณ์_ต่าย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5,218
    ค่าพลัง:
    +14,686
    บ่วงบาศนาคราช รุ่นร่วมบุญสร้างบรรณศาลาพิภพพญานาคราช ปี60 - อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ พร้อมกล่องเดิม

    อัตราบูชาองค์ละ 599 บาท (พร้อมกล่องเดิม) เนื้อทองสัมฤทธิ์ผสมนวโลหะ ค่าจัดส่งพัสดุกันกระแทก+อีเอ็มเอส 60 บาทครับ
    สภาพสวยกริ๊บ ไม่ผ่านการใช้ครับ ตามรูปที่แสดง
    รับประกันความแท้ 100% ตลอดชีพเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ


    ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ ธนาคารทหารไทย สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี 347-2-61986-9 โทร 086-4594495,084-2041313 ID Line : 0842041313


    ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้งจำนวนเงินที่ชำระวันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ

    บ่วงบาศนาคราช จัดเป็นอีกมหามงคลสายพญานาคราช ใครได้บูชา จะเกิดทรัพย์เกิดสุข ผมจัดสร้างแจก ไม่จำหน่าย และใช้สุดยอดมวลสาร ท่ีหล่อพระกริ่ง หล่อพระพุทธ หล่อเทพเทวา มาตลอด10ปี นำมาเป็นชนวนสำคัญ เเละมีพิธีพุทธานาคาภิเษก ถูกต้อง หลายพิธี

    "หมอลักษณ์ ฟันธง! ปี60-65 คือปีแห่งพญานาคประทานพร ร่วมสะสมบุญ สร้างสัมพันธ์กับพญานาค ช่วยเกื้อหนุนดวงชะตาอย่างแน่นอน!"

    โหรดังฟันธงชื่อดัง "อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ" ได้เปิดเผยผ่านเฟสบุ๊ค “โหรฟันธง ลักษณ์ เรขานิเทศ” ในขณะถ่ายทอดสดการทำบุญที่ ป่าคำชะโนด หรือ เกาะคำชะโนด ตั้งอยู่ใน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ว่าใน ปีพุทธศักราช 2560-2565 นับเป็นปีมหามงคลแห่ง "พญานาคราชประทานพร" ผู้ที่เคารพและศรัทธาในพญานาค ท่านพญานาคราชล้วนแต่จะประสาทพรให้ ดังนั้นตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงปี2565 ขอให้หมั่น สร้างบุญสัมพันธ์กับพญานาคราช แล้วจะโชคดี โดยเฉพาะการทำบุญที่วัดที่เกี่ยวข้องกับ พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช โดยตรง

    นาคาศรีสุทโธ และ นาคีศรีปทุมมา เป็นพญานาคราชผู้เป็นใหญ่ในประเทศไทย เป็นพญานาคราชขององค์อินทราธิราชเจ้า "มีพรหมประกายโลก" หรือวังนาคินทร์คำชะโนด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นเวียงวังที่ประทับ

    องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธ มีวรกายสีเขียวมรกต เศียรสีทอง มีเมตตาสูงต่อผู้กราบไหว้บูชา หากอธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นจะสัมฤทธิ์ผล จึงมีผู้คนไปกราบไหว้ บนบานศาลกล่าวกันเป็นจำนวนมาก

    ประชาชนที่เคารพศรัทธามักจะเรียกท่านว่า "จ้าวปู่ศรีสุทโธ" และ "จ้าวย่าศรีปทุมมา" องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธเป็นมหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ แผลงเศียรได้ 9 เศียร ส่วนองค์นางพญาศรีปทุมมานาคิณีผู้เป็นชายาแผลงเศียรได้ 5 เศียร ทั้งสององค์โปรดปรานการฟังธรรมจากพระอริยสงฆ์มาก และเนรมิตวรกายเป็นเศียรเดียว หรือเป็นมนุษย์ก็ได้ ดั่งคำโบราณอีสานกล่าวว่า "นามนาคนั้นข้างขึ้นเป็นคน...ข้างแรมเป็นนาค" ทั้งองค์ศรีสุทโธและองค์ศรีปทุมมาอยู่ในตระกูลเอราปถะ วรกายของทั้งสององค์มีสีเขียวมรกตและสีเขียวตองอ่อน

    วัดที่มีจ้าวปู่ศรีสุทโธประดิษฐานอยู่ ตั้งอยู่ที่คำชะโนด ขอให้เข้าสักการะ ถวายบุญ และ ขอพรกับปู่ศรีสุทโธ ในคำชะโนด แล้วอุทิศบุญถวายปู่ศรีสุทโธ และพญานาคราชทุกหมู่เหล่า เพื่อเป็นบุญสัมพันธ์ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต


    คาถาบูชาองค์วิรูปักโข ศรีสุทโธ พญานาคราช

    "ปัจฉิมัสมิง ทิวาภาเค สันตินาคา มหิทธิกา เตปิตุมเห อานุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะจะ"

    ข้าพเจ้า (นาย/นาง/นางสาว.....)ขอน้อมสักการะองค์วิรูปักโข ศรีสุทโธ พญานาคราช ด้วยความนับถือศรัทธา ขออุทิศบุญที่ข้าพเจ้าได้สร้าง แด่พญานาคราชทุกหมู่เหล่า ขอท่านจงรับและ ขออาราธนาบารมีพญานาคราชในทุกทิศานุทิศ อันมีท้าววิรูปักโขเป็นต้นเป็นอธิบดีแห่งพญานาคราชในปัจจิมทิศแห่งสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา จงประทานพรให้ ข้าพเจ้ามีโชคมีลาภ มีทรัพย์มีสุข เกิดเมตตามหานิยม เป็นท่ีรักแก่มนุษย์และเทวดา บังเกิดความร่ำรวยโชคดี เกิดอัศจรรย์ปาฏิหาริย์ในชีวิต....ตั้งแต่บัดนี้ไปด้วยเทอญด้วยเทอญ
    พระคาถาและคำอธิษฐาน โดย ลักษณ์ เรขานิเทศ

    พิธีพุทธา-เทวาภิเษก
    - พิธีบวงสรวง ปลุกเสก วาระที่ 1 ณ.พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม กทม. (ท่านเจ้าคุณธงชัย)
    - พิธีบวงสรวง ปลุกเสก วาระที่ 2 ณ.พระอุโบสถ วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย เบื้องหน้าหลวงพ่อพระใส
    - พิธีบวงสรวง ปลุกเสก วาระที่ 3 คำชะโนด วัดสิริสุทโธ วันตรุษไทย เเรม 15 คำ่ เดือน 4

    บ่วงบาศนาคราช.1.jpg บ่วงบาศนาคราช.2.jpg บ่วงบาศนาคราช.3.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2017
  2. กิตติกรณ์_ต่าย

    กิตติกรณ์_ต่าย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5,218
    ค่าพลัง:
    +14,686
    ล็อกเกตกลมพระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) หลังยันต์ปริศนาธรรมกาย ออกวัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม. พร้อมกล่องเดิมจากวัด

    ล็อกเกตพระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) หลังยันต์ปริศนาธรรมกาย โดยพุทธาภิเษกและบรรจุความศักดิ์สิทธิ์ โดยการเจริญสมาธิภาวนาตามหลักวิชชาธรรมกายชั้นสูง ณ.โรงงานทำวิชชา วัดปากน้ำภาษีเจริญตามแนวทางสมัยหลวงพ่อสด จันทสโร พุทธาภิเษกและบรรจุความศักดิ์สิทธิ์พระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น1-3 ซึ่งเกิดปาฏิหาริย์แก่ผู้นำไปบูชาอย่างแพร่หลาย

    หลวงปู่ท่านได้สร้างพระผงมอบเป็นของขวัญแก่ผู้มาทำบุญสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ใครบริจาค ๒๕ บาทขึ้นไปจะได้ พระ๑ องค์ แม้บริจาคเป็นพันเป็นหมื่นก็ได้คนละ ๑ องค์เท่านั้น พระของขวัญ

    วัดปากน้ำมีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์มาจนกระทั่งปัจจุบัน ผู้รับพระของขวัญไปแขวนประจำตัวต่างก็พบกับความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารต่างๆ นานา บางคนรับพระของขวัญไปแล้วก็ถูกลอตเตอรี่บางคนทำมาค้าขึ้นร่ำรวยจนตัวเองก็แปลกใจ บางคนประสบอุบัติเหตุร้ายแรง คนอื่นๆ เสียชีวิตหมด มีแต่ผู้ที่แขวนพระของขวัญเท่านั้นที่รอดมาได้อย่างอัศจรรย์ นอกจากนี้ทหารไทยที่ไปรบที่ประเทศเกาหลีมักจะพากันมารับพระของขวัญและให้หลวงปู่เป่ากระหม่อมให้

    นายกุล ผ่องสุวรรณ ไวยาวัจกรวัดปากน้ำได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “...ในตอนเย็นๆ ข้าพเจ้ามักจะนั่งอยู่กับหลวงพ่อ ทหารที่จะไปสงครามเกาหลีจะสะพายเป้มารับพระของขวัญแทบทุกวัน หลวงพ่อท่านประสิทธิ์ประสาทแล้ว ท่านก็จะบอกว่า ไม่เป็นไรแล้ว กลับบ้านได้ คือหมายถึงไม่ตาย...บางรายเขียนจดหมายมาเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆของพระ
    ของขวัญที่เขาประสบเช่นเขาเล่าว่าขนาดออกไปทำการยิงเผาขนกันแทบไม่เว้นแต่ละวันก็รอด มีชัยมาได้ทุกครั้ง...”

    เมื่อหนังสือพิมพ์ลงเรื่องอภินิหารของพระของขวัญ กิตติศัพท์ก็ยิ่งขจรขจายไปทั่ว มหาชนหลั่งไหลมารับพระกันมากมายราวกับที่วัดมีงานมหรสพพระรุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาถึง ๘๔,๐๐๐ องค์เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ หมดไปอย่างรวดเร็ว หลวงปู่จึงสร้างอีก ๒รุ่นๆละ๘๔,๐๐๐องค์ซึ่งก็แจกหมดไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน


    อัตราบูชาองค์ละ 400 บาท (พร้อมกล่องเดิมจากวัด)
    ค่าจัดส่งพัสดุกันกระแทก+อีเอ็มเอส 60 บาทครับ
    สภาพสวยกริ๊บ ไม่ผ่านการใช้ครับ ตามรูปที่แสดง
    รับประกันความแท้ 100% ตลอดชีพเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ

    ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ ธนาคารทหารไทย สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี 347-2-61986-9 โทร 086-4594495,084-2041313 ID Line : 0842041313


    ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้งจำนวนเงินที่ชำระวันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ

    ประวัติโดยสังเขป‘หลวงพ่อสด’วัดปากน้ำภาษีเจริญ

    ชาติภูมิ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เดิมมีชื่อว่า “สด มีแก้วน้อย” เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๔๒๗ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บ้าoสองพี่น้อง ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรีก่อนอุปสมบท ได้เรียนหนังสือเมื่อเยาว์วัยกับพระภิกษุซึ่งเป็นน้าชาย ณ วัดสองพี่น้อง ต่อมาได้ศึกษาอักษรสมัยที่วัดบางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม

    เมื่ออายุ ๑๔ ปี โยมบิดาถึงแก่กรรม ท่านดำเนินการค้าสืบต่อจากบิดา จนถึงอายุ ๒๒ ปี และปี ๒๔๔๙ ได้อุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง โดยมีพระอาจารย์ดี วัดประตูศาล เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อเหนี่ยง อินฺทโชโต เป็นพระกรรมวาจารย์, พระอาจารย์โหน่ง อินฺทสุวณฺโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “จนฺทสโร”

    อุปสมบทแล้วจำพรรษาอยู่วัดสองพี่น้อง ๑ พรรษา เรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อโหน่ง และหลวงพ่อเนียม ในระยะเวลาสั้นๆ ปวารณาพรรษา แล้วเดินทางมาจำพรรษา ณ วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ เพื่อเล่าเรียนพระปริยัติธรรมต่อไป สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) กับ สมเด็จพระวันรัต (เผื่อน)

    สรุปแล้วท่านเคยศึกษาสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานในสำนึกต่างๆ ดังนี้

    ๑. พระอาจารย์โหน่ง วัดสองพี่น้อง ๒. หลวงพ่อเนียม วัดน้อย ๓. พระมงคลทิพยมุนี (มุ้ย) วัดสามปลื้ม ๔. พระอาจารย์ดี วัดประตูศาล ๕. พระสังวรานุวงษ์ (เอี่ยม) วัดราชสิทธาราม ๖. พระครูญาณวิรัต (โป๊) วัดเชตุพนวิมลมังคลาราม ๗. พระอาจารย์สิงห์ วัดละครทำ ๘. พระอาจารย์ปลื้ม วัดเขาใหญ่

    การศึกษาของหลวงพ่อสด จากอาจารย์ตามข้างต้นนี้ อยู่ในระยะเวลาประมาณ ๑๐ ปี จากปีที่ท่านอุปสมบทในปี ๒๔๔๙-๒๔๕๙

    เมื่อสมเด็จพระวันรัต (เผื่อน) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ องค์ต่อจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอภาษีเจริญ จ.ธนบุรี ท่านมีความประสงค์ที่จะให้หลวงพ่อสดมีวัดอยู่เป็นหลักเป็นฐาน จึงหวังเอาตำแหน่งเจ้าอาวาสผูกหลวงพ่อไว้กับวัดปากน้ำ ซึ่งเป็นพระอารามหลวงวัดหนึ่ง เพื่อไม่ให้เร่ร่อนโดยไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอีกต่อไป

    ปี ๒๔๕๙ หลวงพ่อสดจึงรับบัญชาออกจากวัดพระเชตุพน ไปเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ในปี ๒๔๖๓

    เมื่อแรกที่ท่านมาปกครองวัดปากน้ำ วัดมีสภาพกึ่งร้าง ท่านได้เริ่มสร้างความเจริญให้วัด โดยกวดขันพระภิกษุสามเณรให้ปฏิบัติธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด สอนสมถวิปัสนากัมมัฏฐาน ส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม ตั้งสำนักเรียนทั้งนักธรรมและบาลี สร้างโรงเรียนปริยัติธรรมที่ทันสมัยที่สุดในสมัยนั้น จนวัดปากน้ำมีความเจริญขึ้นมาโดยลำดับ กลายเป็นศูนย์กลางปฏิบัติธรรมและการศึกษาบาลี ปฏิบัติสมถ-วิปัสสนากรรมฐาน

    สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ (พ.ศ.๒๕๐๒ -๒๕๐๘) ได้เขียนไว้ว่า

    “หลวงพ่อวัดปากน้ำใช้คำว่า “ธรรมกาย” เป็นสัญลักษณ์ของสำนักกัมมัฏฐาน วัดปากน้ำ ทีเดียว เอาคำว่า “ธรรมกาย” ขึ้นเชิดชู ศิษยานุศิษย์รับเอาไปเผยแพร่ทุกทิศ”

    อีกตอนหนึ่งท่านเขียนเล่าว่า

    “คำว่า “ธรรมกาย” นั้นย่อมซาบซึ้งกันแจ่มแจ้ง เมื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำได้มรณภาพแล้ว กล่าวคือ เมื่อทำบุญ ๕๐ วัน สรีระสังขารของพระคุณท่าน คณะเจ้าภาพได้อาราธนาเจ้าคุณพระธรรมทัศนาธร วัดชนะสงคราม มาแสดงธรรม

    เจ้าคุณพระธรรมทัศนาธร ได้ชี้แจงว่า คำว่า “ธรรมกาย” นั้นมีมาในพระสุตันตปิฎก ท่านอ้างบาลีว่า ตถาคต ๘๘ วาเสฏฐ เอตํ ธมฺมกาโยติ วจนํ ซึ่งพอจะแปลความได้ว่า “ธรรมกายนี้เป็นชื่อของตถาคต ดูกรวาเสฏฐะ” ทำให้ผู้ฟังเทศน์เวลานั้นหลายร้อยคนชื่นอกชื่นใจเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนกราบสาธุการแด่เจ้าคุณพระธรรมทัศนาธร และประหลาดใจว่า ทำไมเจ้าคุณพระธรรมทัศนาธรจึงทราบประวัติ และการปฏิบัติของหลวงพ่อวัดปากน้ำได้ถูกต้อง

    ผู้เขียน (สมเด็จพระสังฆราชปุ่น) เรื่องนี้ก็แปลกใจมาก เมื่อแสดงธรรมจบลงจากธรรมาสน์แล้วจึงถามผู้แสดงธรรมว่า คุ้นเคยกับหลวงพ่อวัดปากน้ำหรือ จึงแสดงธรรมได้ถูกต้องตามเป็นจริง

    พระธรรมทัศนาธร ตอบว่า “อ้าว ไม่รู้หรือ ผมติดต่อกับท่านมานานแล้ว หลวงพ่อวัดปากน้ำข้ามฟากไปฝั่งพระนครแทบทุกคราวไปหาผมที่วัดชนะสงคราม และผมก็หมั่นข้ามมาสนทนากับเจ้าคุณวัดปากน้ำ การที่หมั่นมานั้นเพราะได้ยินเกียรติคุณว่า มีพระเณรมาก แม้ตั้ง ๔-๕๐๐ รูป ก็ไม่ต้องบิณฑบาตฉัน วัดรับเลี้ยงหมด อยากจะทราบว่า ท่านมีวิธีการอย่างไรจึงสามารถถึงเพียงนี้และ ก็เลยถูกอัธยาศัยกับท่านตลอดมา”

    สมณศักดิ์

    พ.ศ.๒๔๖๔ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูสมณธรรมทาน”…พ.ศ.๒๔๙๒ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระภาวนาโกศลเถร”….พ.ศ.๒๔๙๔ ได้รับพระราชทานพัดยศ

    ชั้นเปรียญ…พ.ศ.๒๔๙๘ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ “พระมงคลราชมุนี”…พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ “พระมงคลเทพมุนี”

    อาพาธและมรณภาพ พระมงคลเทพมุนี หรือหลวงพ่อสด เริ่มอาพาธด้วยโรคความดันโลหิตสูง ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๙๘ มีอาการขึ้นๆ ลงๆ พล.ร.จ.เรียง วิภัตติภูมิประเทศ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลทหารเรือ เป็นแพทย์ประจำตัวดูแลรักษา

    หลังจากได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ “พระมงคลเทพมุนี” เมื่อปี ๒๕๐๐ อาการของโรคเพิ่มมากขึ้น แต่กำลังใจของท่านนั้นเข้มแข็ง ไม่แสดงอาการรันทดใจใดๆ การต้อนรับแขกด้วยอาการยิ้มแย้มเสมอ

    หลวงพ่อสด อาพาธได้ประมาณ ๒ ปีเศษ จึงถึงแก่กาลมรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ ตึกมงคลจันสร เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๒ เวลา ๑๕.๐๕ น. สิริอายุได้ ๗๕ ปี พรรษา ๕๓
    (ข้อมูล : หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก)

    พระคาถาบูชาหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สำหรับท่านที่เคารพศรัทธาต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อสด พระคาถาบทนี้เป็นอีกหนึ่งบทที่ใช้ในการภาวนาเพื่อบูชาหลวงพ่อ

    คาถาบูชาหลวงปู่สด

    (ตั้งนะโม 3 จบ)

    "โยธะ จันทะสะโร ธัมมะ กายัสสะ กุสะโล วะโร คุณาธิโก มะหาเถโร สิเรนะตัง นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุ เม"

    ล็อกเกตลพ.สด กลม.1.jpg ล็อกเกตลพ.สด กลม.2.jpg ล็อกเกตลพ.สด กลม.3.jpg
     
  3. กิตติกรณ์_ต่าย

    กิตติกรณ์_ต่าย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5,218
    ค่าพลัง:
    +14,686
    ล็อกเกตรูปไข่พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) หลังยันต์ปริศนาธรรมกาย ออกวัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม. พร้อมกล่องเดิมจากวัด

    ล็อกเกตพระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) หลังยันต์ปริศนาธรรมกาย โดยพุทธาภิเษกและบรรจุความศักดิ์สิทธิ์ โดยการเจริญสมาธิภาวนาตามหลักวิชชาธรรมกายชั้นสูง ณ.โรงงานทำวิชชา วัดปากน้ำภาษีเจริญตามแนวทางสมัยหลวงพ่อสด จันทสโร พุทธาภิเษกและบรรจุความศักดิ์สิทธิ์พระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น1-3 ซึ่งเกิดปาฏิหาริย์แก่ผู้นำไปบูชาอย่างแพร่หลาย

    หลวงปู่ท่านได้สร้างพระผงมอบเป็นของขวัญแก่ผู้มาทำบุญสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ใครบริจาค ๒๕ บาทขึ้นไปจะได้ พระ๑ องค์ แม้บริจาคเป็นพันเป็นหมื่นก็ได้คนละ ๑ องค์เท่านั้น พระของขวัญ

    วัดปากน้ำมีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์มาจนกระทั่งปัจจุบัน ผู้รับพระของขวัญไปแขวนประจำตัวต่างก็พบกับความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารต่างๆ นานา บางคนรับพระของขวัญไปแล้วก็ถูกลอตเตอรี่บางคนทำมาค้าขึ้นร่ำรวยจนตัวเองก็แปลกใจ บางคนประสบอุบัติเหตุร้ายแรง คนอื่นๆ เสียชีวิตหมด มีแต่ผู้ที่แขวนพระของขวัญเท่านั้นที่รอดมาได้อย่างอัศจรรย์ นอกจากนี้ทหารไทยที่ไปรบที่ประเทศเกาหลีมักจะพากันมารับพระของขวัญและให้หลวงปู่เป่ากระหม่อมให้

    นายกุล ผ่องสุวรรณ ไวยาวัจกรวัดปากน้ำได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “...ในตอนเย็นๆ ข้าพเจ้ามักจะนั่งอยู่กับหลวงพ่อ ทหารที่จะไปสงครามเกาหลีจะสะพายเป้มารับพระของขวัญแทบทุกวัน หลวงพ่อท่านประสิทธิ์ประสาทแล้ว ท่านก็จะบอกว่า ไม่เป็นไรแล้ว กลับบ้านได้ คือหมายถึงไม่ตาย...บางรายเขียนจดหมายมาเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆของพระ
    ของขวัญที่เขาประสบเช่นเขาเล่าว่าขนาดออกไปทำการยิงเผาขนกันแทบไม่เว้นแต่ละวันก็รอด มีชัยมาได้ทุกครั้ง...”

    เมื่อหนังสือพิมพ์ลงเรื่องอภินิหารของพระของขวัญ กิตติศัพท์ก็ยิ่งขจรขจายไปทั่ว มหาชนหลั่งไหลมารับพระกันมากมายราวกับที่วัดมีงานมหรสพพระรุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาถึง ๘๔,๐๐๐ องค์เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ หมดไปอย่างรวดเร็ว หลวงปู่จึงสร้างอีก ๒รุ่นๆละ๘๔,๐๐๐องค์ซึ่งก็แจกหมดไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน


    อัตราบูชาองค์ละ 400 บาท (พร้อมกล่องเดิมจากวัด)
    ค่าจัดส่งพัสดุกันกระแทก+อีเอ็มเอส 60 บาทครับ
    สภาพสวยกริ๊บ ไม่ผ่านการใช้ครับ ตามรูปที่แสดง
    รับประกันความแท้ 100% ตลอดชีพเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ

    ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ ธนาคารทหารไทย สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี 347-2-61986-9 โทร 086-4594495,084-2041313 ID Line : 0842041313


    ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้งจำนวนเงินที่ชำระวันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ

    ประวัติโดยสังเขป‘หลวงพ่อสด’วัดปากน้ำภาษีเจริญ

    ชาติภูมิ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เดิมมีชื่อว่า “สด มีแก้วน้อย” เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๔๒๗ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บ้าoสองพี่น้อง ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรีก่อนอุปสมบท ได้เรียนหนังสือเมื่อเยาว์วัยกับพระภิกษุซึ่งเป็นน้าชาย ณ วัดสองพี่น้อง ต่อมาได้ศึกษาอักษรสมัยที่วัดบางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม

    เมื่ออายุ ๑๔ ปี โยมบิดาถึงแก่กรรม ท่านดำเนินการค้าสืบต่อจากบิดา จนถึงอายุ ๒๒ ปี และปี ๒๔๔๙ ได้อุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง โดยมีพระอาจารย์ดี วัดประตูศาล เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อเหนี่ยง อินฺทโชโต เป็นพระกรรมวาจารย์, พระอาจารย์โหน่ง อินฺทสุวณฺโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “จนฺทสโร”

    อุปสมบทแล้วจำพรรษาอยู่วัดสองพี่น้อง ๑ พรรษา เรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อโหน่ง และหลวงพ่อเนียม ในระยะเวลาสั้นๆ ปวารณาพรรษา แล้วเดินทางมาจำพรรษา ณ วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ เพื่อเล่าเรียนพระปริยัติธรรมต่อไป สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) กับ สมเด็จพระวันรัต (เผื่อน)

    สรุปแล้วท่านเคยศึกษาสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานในสำนึกต่างๆ ดังนี้

    ๑. พระอาจารย์โหน่ง วัดสองพี่น้อง ๒. หลวงพ่อเนียม วัดน้อย ๓. พระมงคลทิพยมุนี (มุ้ย) วัดสามปลื้ม ๔. พระอาจารย์ดี วัดประตูศาล ๕. พระสังวรานุวงษ์ (เอี่ยม) วัดราชสิทธาราม ๖. พระครูญาณวิรัต (โป๊) วัดเชตุพนวิมลมังคลาราม ๗. พระอาจารย์สิงห์ วัดละครทำ ๘. พระอาจารย์ปลื้ม วัดเขาใหญ่

    การศึกษาของหลวงพ่อสด จากอาจารย์ตามข้างต้นนี้ อยู่ในระยะเวลาประมาณ ๑๐ ปี จากปีที่ท่านอุปสมบทในปี ๒๔๔๙-๒๔๕๙

    เมื่อสมเด็จพระวันรัต (เผื่อน) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ องค์ต่อจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอภาษีเจริญ จ.ธนบุรี ท่านมีความประสงค์ที่จะให้หลวงพ่อสดมีวัดอยู่เป็นหลักเป็นฐาน จึงหวังเอาตำแหน่งเจ้าอาวาสผูกหลวงพ่อไว้กับวัดปากน้ำ ซึ่งเป็นพระอารามหลวงวัดหนึ่ง เพื่อไม่ให้เร่ร่อนโดยไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอีกต่อไป

    ปี ๒๔๕๙ หลวงพ่อสดจึงรับบัญชาออกจากวัดพระเชตุพน ไปเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ในปี ๒๔๖๓

    เมื่อแรกที่ท่านมาปกครองวัดปากน้ำ วัดมีสภาพกึ่งร้าง ท่านได้เริ่มสร้างความเจริญให้วัด โดยกวดขันพระภิกษุสามเณรให้ปฏิบัติธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด สอนสมถวิปัสนากัมมัฏฐาน ส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม ตั้งสำนักเรียนทั้งนักธรรมและบาลี สร้างโรงเรียนปริยัติธรรมที่ทันสมัยที่สุดในสมัยนั้น จนวัดปากน้ำมีความเจริญขึ้นมาโดยลำดับ กลายเป็นศูนย์กลางปฏิบัติธรรมและการศึกษาบาลี ปฏิบัติสมถ-วิปัสสนากรรมฐาน

    สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ (พ.ศ.๒๕๐๒ -๒๕๐๘) ได้เขียนไว้ว่า

    “หลวงพ่อวัดปากน้ำใช้คำว่า “ธรรมกาย” เป็นสัญลักษณ์ของสำนักกัมมัฏฐาน วัดปากน้ำ ทีเดียว เอาคำว่า “ธรรมกาย” ขึ้นเชิดชู ศิษยานุศิษย์รับเอาไปเผยแพร่ทุกทิศ”

    อีกตอนหนึ่งท่านเขียนเล่าว่า

    “คำว่า “ธรรมกาย” นั้นย่อมซาบซึ้งกันแจ่มแจ้ง เมื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำได้มรณภาพแล้ว กล่าวคือ เมื่อทำบุญ ๕๐ วัน สรีระสังขารของพระคุณท่าน คณะเจ้าภาพได้อาราธนาเจ้าคุณพระธรรมทัศนาธร วัดชนะสงคราม มาแสดงธรรม

    เจ้าคุณพระธรรมทัศนาธร ได้ชี้แจงว่า คำว่า “ธรรมกาย” นั้นมีมาในพระสุตันตปิฎก ท่านอ้างบาลีว่า ตถาคต ๘๘ วาเสฏฐ เอตํ ธมฺมกาโยติ วจนํ ซึ่งพอจะแปลความได้ว่า “ธรรมกายนี้เป็นชื่อของตถาคต ดูกรวาเสฏฐะ” ทำให้ผู้ฟังเทศน์เวลานั้นหลายร้อยคนชื่นอกชื่นใจเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนกราบสาธุการแด่เจ้าคุณพระธรรมทัศนาธร และประหลาดใจว่า ทำไมเจ้าคุณพระธรรมทัศนาธรจึงทราบประวัติ และการปฏิบัติของหลวงพ่อวัดปากน้ำได้ถูกต้อง

    ผู้เขียน (สมเด็จพระสังฆราชปุ่น) เรื่องนี้ก็แปลกใจมาก เมื่อแสดงธรรมจบลงจากธรรมาสน์แล้วจึงถามผู้แสดงธรรมว่า คุ้นเคยกับหลวงพ่อวัดปากน้ำหรือ จึงแสดงธรรมได้ถูกต้องตามเป็นจริง

    พระธรรมทัศนาธร ตอบว่า “อ้าว ไม่รู้หรือ ผมติดต่อกับท่านมานานแล้ว หลวงพ่อวัดปากน้ำข้ามฟากไปฝั่งพระนครแทบทุกคราวไปหาผมที่วัดชนะสงคราม และผมก็หมั่นข้ามมาสนทนากับเจ้าคุณวัดปากน้ำ การที่หมั่นมานั้นเพราะได้ยินเกียรติคุณว่า มีพระเณรมาก แม้ตั้ง ๔-๕๐๐ รูป ก็ไม่ต้องบิณฑบาตฉัน วัดรับเลี้ยงหมด อยากจะทราบว่า ท่านมีวิธีการอย่างไรจึงสามารถถึงเพียงนี้และ ก็เลยถูกอัธยาศัยกับท่านตลอดมา”

    สมณศักดิ์

    พ.ศ.๒๔๖๔ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูสมณธรรมทาน”…พ.ศ.๒๔๙๒ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระภาวนาโกศลเถร”….พ.ศ.๒๔๙๔ ได้รับพระราชทานพัดยศ

    ชั้นเปรียญ…พ.ศ.๒๔๙๘ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ “พระมงคลราชมุนี”…พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ “พระมงคลเทพมุนี”

    อาพาธและมรณภาพ พระมงคลเทพมุนี หรือหลวงพ่อสด เริ่มอาพาธด้วยโรคความดันโลหิตสูง ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๙๘ มีอาการขึ้นๆ ลงๆ พล.ร.จ.เรียง วิภัตติภูมิประเทศ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลทหารเรือ เป็นแพทย์ประจำตัวดูแลรักษา

    หลังจากได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ “พระมงคลเทพมุนี” เมื่อปี ๒๕๐๐ อาการของโรคเพิ่มมากขึ้น แต่กำลังใจของท่านนั้นเข้มแข็ง ไม่แสดงอาการรันทดใจใดๆ การต้อนรับแขกด้วยอาการยิ้มแย้มเสมอ

    หลวงพ่อสด อาพาธได้ประมาณ ๒ ปีเศษ จึงถึงแก่กาลมรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ ตึกมงคลจันสร เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๒ เวลา ๑๕.๐๕ น. สิริอายุได้ ๗๕ ปี พรรษา ๕๓
    (ข้อมูล : หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก)

    พระคาถาบูชาหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สำหรับท่านที่เคารพศรัทธาต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อสด พระคาถาบทนี้เป็นอีกหนึ่งบทที่ใช้ในการภาวนาเพื่อบูชาหลวงพ่อ

    คาถาบูชาหลวงปู่สด

    (ตั้งนะโม 3 จบ)

    "โยธะ จันทะสะโร ธัมมะ กายัสสะ กุสะโล วะโร คุณาธิโก มะหาเถโร สิเรนะตัง นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุ เม"

    ล็อกเกตลพ.สด รูปไข่.1.jpg ล็อกเกตลพ.สด รูปไข่.2.jpg ล็อกเกตลพ.สด รูปไข่.3.jpg
     
  4. กิตติกรณ์_ต่าย

    กิตติกรณ์_ต่าย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5,218
    ค่าพลัง:
    +14,686
    ล็อกเกตหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา ปี54 พิมพ์ใหญ่ ฉากแดง พร้อมกล่องเดิมจากวัด

    อัตราบูชาองค์ละ 599 บาท (พร้อมกล่องเดิมจากวัด) ตอกโค้ดและรันนัมเบอร์
    ค่าจัดส่งพัสดุกันกระแทก+อีเอ็มเอส 60 บาทครับ
    สภาพสวยกริ๊บ ไม่ผ่านการใช้ครับ ตามรูปที่แสดง
    รับประกันความแท้ 100% ตลอดชีพเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ


    ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ ธนาคารทหารไทย สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี 347-2-61986-9 โทร 086-4594495,084-2041313 ID Line : 0842041313


    ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้งจำนวนเงินที่ชำระวันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ


    ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีอภินิหาร มีฤทธานุภาพของชาวไทย
    องค์หนึ่ง ชาวไทยได้รับการคุ้มครองรักษาอภิบาลจากหลวงพ่อโสธรองค์นี้อย่าง
    ร่มเย็นเป็นสุขและปลอดภัยอริราชศัตรูมาหลายปีแล้วอย่างแปลกประหลาด
    เพราะฉะนั้นท่านผู้ปรารถนาจะมีความสุขสวัสดี ปลอดภัยจากโรคพยาธิควรจะมีหลวงพ่อโสธรไว้บูชา

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ
    พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา
    มีส่วนสูง ๖ฟุต ๗นิ้ว พระเพลากว้าง ๕ฟุต ๖นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวฉะเชิงเทราเคารพนับถือมาก ทางราชการจัดให้มีงานสมโภชเป็นเทศกาลประจำปี มีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลกันมานมัสการคับคั่งตลอดงาน ได้รับทั้งความสนุกและทั้งบุญกุศลด้วย

    ตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง

    สำหรับประวัติความเป็นมาของพระ 5 พี่น้องนั้น(หรือพระ 3 พี่น้องในบางตำนานซึ่งได้แก่ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดบ้านแหลม) ตามตำนานระบุว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ต่างก็ลอยน้ำมาตามแม่น้ำสายหลักของภาคกลางทั้ง 5 สาย และมีชาวบ้านมาพบเจอจึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและนำไปประดิษฐานไว้ตามวัดใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ

    ส่วนเหตุที่ว่าพระพุทธรูปทั้ง 5 นี้เป็นพี่น้องกันก็มาจากตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุและสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล มีอำนาจทางจิตมาก ได้ตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันว่าจะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน
    "เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน"
    และเมื่อพระภิกษุทั้งห้ามรณภาพไปแล้ว ก็ได้เข้ามาสถิตอยู่ในพระพุทธรูปทั้งห้าองค์และแสดงปาฏิหาริย์ให้พระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาทางใต้ตามแม่น้ำทั้ง 5 สาย
    ชาวบ้านชาวเมืองตามริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาก็พากันเลื่อมใส จึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นสถิตอยู่ตามวัดต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ
    โดยพระพุทธรูปองค์แรก ลอยมาตามแม่น้ำบางปะกง แล้วขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกว่า “หลวงพ่อโสธร”
    พระพุทธรูปองค์ที่สอง ลอยมาตามแม่น้ำนครชัยศรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง”
    พระพุทธรูปองค์ที่สาม ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ เรียกว่า “หลวงพ่อโต”
    พระพุทธรูปองค์ที่สี่ ลอยมาตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม”
    และพระพุทธรูปองค์ที่ห้า ลอยมาตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี เรียกว่า “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา”
    ในขณะที่บางตำนานก็กล่าวไว้ว่า การที่พระพุทธรูปทั้ง 5 ลอยน้ำมานี้ ก็เพราะเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ข้าศึกได้เผาไฟเพื่อหลอมเอาทองที่หล่อจากองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านเองก็ต้องการจะรักษาพระพุทธรูปไว้ จึงเอาปูนบ้าง รักดำบ้างไปพอกไว้ที่องค์พระเพื่อให้ดูไม่สวยงามและปกปิดความมีค่าไว้จากข้าศึก แต่เมื่อไม่อาจปกป้องได้ไหวจึงขนย้ายพระพุทธรูปสำคัญลงแพไม้ไผ่ล่องมาตามแม่น้ำเพื่อไม่ให้ข้าศึกทำลาย ด้วยน้ำหนักขององค์พระ เมื่อวางพระลงบนแพไม้ไผ่จึงดูเหมือนพระพุทธรูปลอยมาตามน้ำ จนผู้ที่พบเห็นถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่น้ำหนักมากจะสามารถจะลอยน้ำได้


    ระคาถาบูชาหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา


    ก่อนจะภาวนา คาถาหลวงพ่อโสธร ต้องบูชาพระรัตนตรัยเสียก่อน แล้วจึงกล่าวคำบูชาเฉพาะ คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร ระลึกถึงองค์ท่านโดยมองพระพุทธรูปหลวงพ่อพระพุทธโสธร ภาพถ่ายหรือพระเครื่องที่มี ถ้าไม่มีให้กำหนดภาพของท่านขึ้นในจิตของเราเป็นพุทธานุสสติกรรมฐานไปในตัว

    กาเยนะ วาจายะ เจตสา วา โสธะรัง นามะ
    อิทธิปะฏิหาริกะรัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ

    ท่อง3จบ

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร (คาถาพระเจ้า5พระองค์)

    ท่องนะโม 3 จบ แล้วกล่าวคำบูชา

    นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ
    พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูพาลวินาศสันติ
    นะ กาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน
    นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากกะยะมุนี
    โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง
    พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห
    อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร แบบย่อ (นะโม3จบ) อิติ อิติ อิติ โสธโร นะโมพุทธายะ ยะธาพุทธโมนะ


    ว่าคาถาบูชาพระพุทธโสธร นี้ทุกวันระลึกถึงองค์หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหารจะปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไปชีวิตราบรื่น เดินทางแคล้วคลาดภยันตรายต่างๆ


    ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากแดง.1.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากแดง.2.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากแดง.3.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2017
  5. กิตติกรณ์_ต่าย

    กิตติกรณ์_ต่าย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5,218
    ค่าพลัง:
    +14,686
    ล็อกเกตหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา ปี54 พิมพ์ใหญ่ ฉากชมพู พร้อมกล่องเดิมจากวัด

    อัตราบูชาองค์ละ 599 บาท (พร้อมกล่องเดิมจากวัด) ตอกโค้ดและรันนัมเบอร์
    ค่าจัดส่งพัสดุกันกระแทก+อีเอ็มเอส 60 บาทครับ
    สภาพสวยกริ๊บ ไม่ผ่านการใช้ครับ ตามรูปที่แสดง
    รับประกันความแท้ 100% ตลอดชีพเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ

    ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ ธนาคารทหารไทย สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี 347-2-61986-9 โทร 086-4594495,084-2041313 ID Line : 0842041313


    ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้งจำนวนเงินที่ชำระวันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ


    ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีอภินิหาร มีฤทธานุภาพของชาวไทย
    องค์หนึ่ง ชาวไทยได้รับการคุ้มครองรักษาอภิบาลจากหลวงพ่อโสธรองค์นี้อย่าง
    ร่มเย็นเป็นสุขและปลอดภัยอริราชศัตรูมาหลายปีแล้วอย่างแปลกประหลาด
    เพราะฉะนั้นท่านผู้ปรารถนาจะมีความสุขสวัสดี ปลอดภัยจากโรคพยาธิควรจะมีหลวงพ่อโสธรไว้บูชา

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ
    พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา
    มีส่วนสูง ๖ฟุต ๗นิ้ว พระเพลากว้าง ๕ฟุต ๖นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวฉะเชิงเทราเคารพนับถือมาก ทางราชการจัดให้มีงานสมโภชเป็นเทศกาลประจำปี มีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลกันมานมัสการคับคั่งตลอดงาน ได้รับทั้งความสนุกและทั้งบุญกุศลด้วย

    ตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง

    สำหรับประวัติความเป็นมาของพระ 5 พี่น้องนั้น(หรือพระ 3 พี่น้องในบางตำนานซึ่งได้แก่ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดบ้านแหลม) ตามตำนานระบุว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ต่างก็ลอยน้ำมาตามแม่น้ำสายหลักของภาคกลางทั้ง 5 สาย และมีชาวบ้านมาพบเจอจึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและนำไปประดิษฐานไว้ตามวัดใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ

    ส่วนเหตุที่ว่าพระพุทธรูปทั้ง 5 นี้เป็นพี่น้องกันก็มาจากตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุและสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล มีอำนาจทางจิตมาก ได้ตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันว่าจะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน
    "เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน"
    และเมื่อพระภิกษุทั้งห้ามรณภาพไปแล้ว ก็ได้เข้ามาสถิตอยู่ในพระพุทธรูปทั้งห้าองค์และแสดงปาฏิหาริย์ให้พระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาทางใต้ตามแม่น้ำทั้ง 5 สาย
    ชาวบ้านชาวเมืองตามริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาก็พากันเลื่อมใส จึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นสถิตอยู่ตามวัดต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ
    โดยพระพุทธรูปองค์แรก ลอยมาตามแม่น้ำบางปะกง แล้วขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกว่า “หลวงพ่อโสธร”
    พระพุทธรูปองค์ที่สอง ลอยมาตามแม่น้ำนครชัยศรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง”
    พระพุทธรูปองค์ที่สาม ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ เรียกว่า “หลวงพ่อโต”
    พระพุทธรูปองค์ที่สี่ ลอยมาตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม”
    และพระพุทธรูปองค์ที่ห้า ลอยมาตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี เรียกว่า “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา”
    ในขณะที่บางตำนานก็กล่าวไว้ว่า การที่พระพุทธรูปทั้ง 5 ลอยน้ำมานี้ ก็เพราะเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ข้าศึกได้เผาไฟเพื่อหลอมเอาทองที่หล่อจากองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านเองก็ต้องการจะรักษาพระพุทธรูปไว้ จึงเอาปูนบ้าง รักดำบ้างไปพอกไว้ที่องค์พระเพื่อให้ดูไม่สวยงามและปกปิดความมีค่าไว้จากข้าศึก แต่เมื่อไม่อาจปกป้องได้ไหวจึงขนย้ายพระพุทธรูปสำคัญลงแพไม้ไผ่ล่องมาตามแม่น้ำเพื่อไม่ให้ข้าศึกทำลาย ด้วยน้ำหนักขององค์พระ เมื่อวางพระลงบนแพไม้ไผ่จึงดูเหมือนพระพุทธรูปลอยมาตามน้ำ จนผู้ที่พบเห็นถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่น้ำหนักมากจะสามารถจะลอยน้ำได้

    ระคาถาบูชาหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา

    ก่อนจะภาวนา คาถาหลวงพ่อโสธร ต้องบูชาพระรัตนตรัยเสียก่อน แล้วจึงกล่าวคำบูชาเฉพาะ คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร ระลึกถึงองค์ท่านโดยมองพระพุทธรูปหลวงพ่อพระพุทธโสธร ภาพถ่ายหรือพระเครื่องที่มี ถ้าไม่มีให้กำหนดภาพของท่านขึ้นในจิตของเราเป็นพุทธานุสสติกรรมฐานไปในตัว

    กาเยนะ วาจายะ เจตสา วา โสธะรัง นามะ
    อิทธิปะฏิหาริกะรัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ

    ท่อง3จบ

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร (คาถาพระเจ้า5พระองค์)

    ท่องนะโม 3 จบ แล้วกล่าวคำบูชา

    นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ
    พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูพาลวินาศสันติ
    นะ กาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน
    นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากกะยะมุนี
    โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง
    พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห
    อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร แบบย่อ (นะโม3จบ) อิติ อิติ อิติ โสธโร นะโมพุทธายะ ยะธาพุทธโมนะ


    ว่าคาถาบูชาพระพุทธโสธร นี้ทุกวันระลึกถึงองค์หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหารจะปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไปชีวิตราบรื่น เดินทางแคล้วคลาดภยันตรายต่าง


    ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากชมพู.1.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากชมพู.2.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากชมพู.3.jpg
     
  6. กิตติกรณ์_ต่าย

    กิตติกรณ์_ต่าย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5,218
    ค่าพลัง:
    +14,686
    ล็อกเกตหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา ปี54 พิมพ์ใหญ่ ฉากเขียว พร้อมกล่องเดิมจากวัด

    อัตราบูชาองค์ละ 599 บาท (พร้อมกล่องเดิมจากวัด) ตอกโค้ดและรันนัมเบอร์
    ค่าจัดส่งพัสดุกันกระแทก+อีเอ็มเอส 60 บาทครับ
    สภาพสวยกริ๊บ ไม่ผ่านการใช้ครับ ตามรูปที่แสดง
    รับประกันความแท้ 100% ตลอดชีพเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ

    ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ ธนาคารทหารไทย สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี 347-2-61986-9 โทร 086-4594495,084-2041313 ID Line : 0842041313


    ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้งจำนวนเงินที่ชำระวันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ


    ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีอภินิหาร มีฤทธานุภาพของชาวไทย
    องค์หนึ่ง ชาวไทยได้รับการคุ้มครองรักษาอภิบาลจากหลวงพ่อโสธรองค์นี้อย่าง
    ร่มเย็นเป็นสุขและปลอดภัยอริราชศัตรูมาหลายปีแล้วอย่างแปลกประหลาด
    เพราะฉะนั้นท่านผู้ปรารถนาจะมีความสุขสวัสดี ปลอดภัยจากโรคพยาธิควรจะมีหลวงพ่อโสธรไว้บูชา

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ
    พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา
    มีส่วนสูง ๖ฟุต ๗นิ้ว พระเพลากว้าง ๕ฟุต ๖นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวฉะเชิงเทราเคารพนับถือมาก ทางราชการจัดให้มีงานสมโภชเป็นเทศกาลประจำปี มีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลกันมานมัสการคับคั่งตลอดงาน ได้รับทั้งความสนุกและทั้งบุญกุศลด้วย

    ตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง

    สำหรับประวัติความเป็นมาของพระ 5 พี่น้องนั้น(หรือพระ 3 พี่น้องในบางตำนานซึ่งได้แก่ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดบ้านแหลม) ตามตำนานระบุว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ต่างก็ลอยน้ำมาตามแม่น้ำสายหลักของภาคกลางทั้ง 5 สาย และมีชาวบ้านมาพบเจอจึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและนำไปประดิษฐานไว้ตามวัดใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ

    ส่วนเหตุที่ว่าพระพุทธรูปทั้ง 5 นี้เป็นพี่น้องกันก็มาจากตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุและสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล มีอำนาจทางจิตมาก ได้ตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันว่าจะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน
    "เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน"
    และเมื่อพระภิกษุทั้งห้ามรณภาพไปแล้ว ก็ได้เข้ามาสถิตอยู่ในพระพุทธรูปทั้งห้าองค์และแสดงปาฏิหาริย์ให้พระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาทางใต้ตามแม่น้ำทั้ง 5 สาย
    ชาวบ้านชาวเมืองตามริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาก็พากันเลื่อมใส จึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นสถิตอยู่ตามวัดต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ
    โดยพระพุทธรูปองค์แรก ลอยมาตามแม่น้ำบางปะกง แล้วขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกว่า “หลวงพ่อโสธร”
    พระพุทธรูปองค์ที่สอง ลอยมาตามแม่น้ำนครชัยศรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง”
    พระพุทธรูปองค์ที่สาม ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ เรียกว่า “หลวงพ่อโต”
    พระพุทธรูปองค์ที่สี่ ลอยมาตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม”
    และพระพุทธรูปองค์ที่ห้า ลอยมาตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี เรียกว่า “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา”
    ในขณะที่บางตำนานก็กล่าวไว้ว่า การที่พระพุทธรูปทั้ง 5 ลอยน้ำมานี้ ก็เพราะเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ข้าศึกได้เผาไฟเพื่อหลอมเอาทองที่หล่อจากองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านเองก็ต้องการจะรักษาพระพุทธรูปไว้ จึงเอาปูนบ้าง รักดำบ้างไปพอกไว้ที่องค์พระเพื่อให้ดูไม่สวยงามและปกปิดความมีค่าไว้จากข้าศึก แต่เมื่อไม่อาจปกป้องได้ไหวจึงขนย้ายพระพุทธรูปสำคัญลงแพไม้ไผ่ล่องมาตามแม่น้ำเพื่อไม่ให้ข้าศึกทำลาย ด้วยน้ำหนักขององค์พระ เมื่อวางพระลงบนแพไม้ไผ่จึงดูเหมือนพระพุทธรูปลอยมาตามน้ำ จนผู้ที่พบเห็นถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่น้ำหนักมากจะสามารถจะลอยน้ำได้

    ระคาถาบูชาหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา

    ก่อนจะภาวนา คาถาหลวงพ่อโสธร ต้องบูชาพระรัตนตรัยเสียก่อน แล้วจึงกล่าวคำบูชาเฉพาะ คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร ระลึกถึงองค์ท่านโดยมองพระพุทธรูปหลวงพ่อพระพุทธโสธร ภาพถ่ายหรือพระเครื่องที่มี ถ้าไม่มีให้กำหนดภาพของท่านขึ้นในจิตของเราเป็นพุทธานุสสติกรรมฐานไปในตัว

    กาเยนะ วาจายะ เจตสา วา โสธะรัง นามะ
    อิทธิปะฏิหาริกะรัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ

    ท่อง3จบ

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร (คาถาพระเจ้า5พระองค์)

    ท่องนะโม 3 จบ แล้วกล่าวคำบูชา

    นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ
    พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูพาลวินาศสันติ
    นะ กาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน
    นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากกะยะมุนี
    โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง
    พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห
    อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร แบบย่อ (นะโม3จบ) อิติ อิติ อิติ โสธโร นะโมพุทธายะ ยะธาพุทธโมนะ


    ว่าคาถาบูชาพระพุทธโสธร นี้ทุกวันระลึกถึงองค์หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหารจะปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไปชีวิตราบรื่น เดินทางแคล้วคลาดภยันตรายต่างๆ


    ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากเขียว.1.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากเขียว.2.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากเขียว.3.jpg
     
  7. กิตติกรณ์_ต่าย

    กิตติกรณ์_ต่าย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5,218
    ค่าพลัง:
    +14,686
    ล็อกเกตหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา ปี54 พิมพ์ใหญ่ ฉากส้ม พร้อมกล่องเดิมจากวัด

    อัตราบูชาองค์ละ 599 บาท (พร้อมกล่องเดิมจากวัด) ตอกโค้ดและรันนัมเบอร์
    ค่าจัดส่งพัสดุกันกระแทก+อีเอ็มเอส 60 บาทครับ
    สภาพสวยกริ๊บ ไม่ผ่านการใช้ครับ ตามรูปที่แสดง
    รับประกันความแท้ 100% ตลอดชีพเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ

    ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ ธนาคารทหารไทย สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี 347-2-61986-9 โทร 086-4594495,084-2041313 ID Line : 0842041313


    ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้งจำนวนเงินที่ชำระวันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ


    ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีอภินิหาร มีฤทธานุภาพของชาวไทย
    องค์หนึ่ง ชาวไทยได้รับการคุ้มครองรักษาอภิบาลจากหลวงพ่อโสธรองค์นี้อย่าง
    ร่มเย็นเป็นสุขและปลอดภัยอริราชศัตรูมาหลายปีแล้วอย่างแปลกประหลาด
    เพราะฉะนั้นท่านผู้ปรารถนาจะมีความสุขสวัสดี ปลอดภัยจากโรคพยาธิควรจะมีหลวงพ่อโสธรไว้บูชา

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ
    พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา
    มีส่วนสูง ๖ฟุต ๗นิ้ว พระเพลากว้าง ๕ฟุต ๖นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวฉะเชิงเทราเคารพนับถือมาก ทางราชการจัดให้มีงานสมโภชเป็นเทศกาลประจำปี มีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลกันมานมัสการคับคั่งตลอดงาน ได้รับทั้งความสนุกและทั้งบุญกุศลด้วย

    ตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง

    สำหรับประวัติความเป็นมาของพระ 5 พี่น้องนั้น(หรือพระ 3 พี่น้องในบางตำนานซึ่งได้แก่ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดบ้านแหลม) ตามตำนานระบุว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ต่างก็ลอยน้ำมาตามแม่น้ำสายหลักของภาคกลางทั้ง 5 สาย และมีชาวบ้านมาพบเจอจึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและนำไปประดิษฐานไว้ตามวัดใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ

    ส่วนเหตุที่ว่าพระพุทธรูปทั้ง 5 นี้เป็นพี่น้องกันก็มาจากตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุและสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล มีอำนาจทางจิตมาก ได้ตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันว่าจะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน
    "เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน"
    และเมื่อพระภิกษุทั้งห้ามรณภาพไปแล้ว ก็ได้เข้ามาสถิตอยู่ในพระพุทธรูปทั้งห้าองค์และแสดงปาฏิหาริย์ให้พระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาทางใต้ตามแม่น้ำทั้ง 5 สาย
    ชาวบ้านชาวเมืองตามริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาก็พากันเลื่อมใส จึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นสถิตอยู่ตามวัดต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ
    โดยพระพุทธรูปองค์แรก ลอยมาตามแม่น้ำบางปะกง แล้วขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกว่า “หลวงพ่อโสธร”
    พระพุทธรูปองค์ที่สอง ลอยมาตามแม่น้ำนครชัยศรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง”
    พระพุทธรูปองค์ที่สาม ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ เรียกว่า “หลวงพ่อโต”
    พระพุทธรูปองค์ที่สี่ ลอยมาตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม”
    และพระพุทธรูปองค์ที่ห้า ลอยมาตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี เรียกว่า “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา”
    ในขณะที่บางตำนานก็กล่าวไว้ว่า การที่พระพุทธรูปทั้ง 5 ลอยน้ำมานี้ ก็เพราะเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ข้าศึกได้เผาไฟเพื่อหลอมเอาทองที่หล่อจากองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านเองก็ต้องการจะรักษาพระพุทธรูปไว้ จึงเอาปูนบ้าง รักดำบ้างไปพอกไว้ที่องค์พระเพื่อให้ดูไม่สวยงามและปกปิดความมีค่าไว้จากข้าศึก แต่เมื่อไม่อาจปกป้องได้ไหวจึงขนย้ายพระพุทธรูปสำคัญลงแพไม้ไผ่ล่องมาตามแม่น้ำเพื่อไม่ให้ข้าศึกทำลาย ด้วยน้ำหนักขององค์พระ เมื่อวางพระลงบนแพไม้ไผ่จึงดูเหมือนพระพุทธรูปลอยมาตามน้ำ จนผู้ที่พบเห็นถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่น้ำหนักมากจะสามารถจะลอยน้ำได้

    ระคาถาบูชาหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา

    ก่อนจะภาวนา คาถาหลวงพ่อโสธร ต้องบูชาพระรัตนตรัยเสียก่อน แล้วจึงกล่าวคำบูชาเฉพาะ คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร ระลึกถึงองค์ท่านโดยมองพระพุทธรูปหลวงพ่อพระพุทธโสธร ภาพถ่ายหรือพระเครื่องที่มี ถ้าไม่มีให้กำหนดภาพของท่านขึ้นในจิตของเราเป็นพุทธานุสสติกรรมฐานไปในตัว

    กาเยนะ วาจายะ เจตสา วา โสธะรัง นามะ
    อิทธิปะฏิหาริกะรัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ

    ท่อง3จบ

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร (คาถาพระเจ้า5พระองค์)

    ท่องนะโม 3 จบ แล้วกล่าวคำบูชา

    นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ
    พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูพาลวินาศสันติ
    นะ กาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน
    นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากกะยะมุนี
    โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง
    พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห
    อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร แบบย่อ (นะโม3จบ) อิติ อิติ อิติ โสธโร นะโมพุทธายะ ยะธาพุทธโมนะ


    ว่าคาถาบูชาพระพุทธโสธร นี้ทุกวันระลึกถึงองค์หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหารจะปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไปชีวิตราบรื่น เดินทางแคล้วคลาดภยันตรายต่างๆ

    ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากส้ม.1.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากส้ม.2.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากส้ม.3.jpg
     
  8. กิตติกรณ์_ต่าย

    กิตติกรณ์_ต่าย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5,218
    ค่าพลัง:
    +14,686
    ล็อกเกตหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา ปี54 พิมพ์ใหญ่ ฉากม่วง พร้อมกล่องเดิมจากวัด

    อัตราบูชาองค์ละ 599 บาท (พร้อมกล่องเดิมจากวัด) ตอกโค้ดและรันนัมเบอร์
    ค่าจัดส่งพัสดุกันกระแทก+อีเอ็มเอส 60 บาทครับ
    สภาพสวยกริ๊บ ไม่ผ่านการใช้ครับ ตามรูปที่แสดง
    รับประกันความแท้ 100% ตลอดชีพเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ

    ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ ธนาคารทหารไทย สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี 347-2-61986-9 โทร 086-4594495,084-2041313 ID Line : 0842041313


    ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้งจำนวนเงินที่ชำระวันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ


    ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีอภินิหาร มีฤทธานุภาพของชาวไทย
    องค์หนึ่ง ชาวไทยได้รับการคุ้มครองรักษาอภิบาลจากหลวงพ่อโสธรองค์นี้อย่าง
    ร่มเย็นเป็นสุขและปลอดภัยอริราชศัตรูมาหลายปีแล้วอย่างแปลกประหลาด
    เพราะฉะนั้นท่านผู้ปรารถนาจะมีความสุขสวัสดี ปลอดภัยจากโรคพยาธิควรจะมีหลวงพ่อโสธรไว้บูชา

    หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ
    พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา
    มีส่วนสูง ๖ฟุต ๗นิ้ว พระเพลากว้าง ๕ฟุต ๖นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวฉะเชิงเทราเคารพนับถือมาก ทางราชการจัดให้มีงานสมโภชเป็นเทศกาลประจำปี มีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลกันมานมัสการคับคั่งตลอดงาน ได้รับทั้งความสนุกและทั้งบุญกุศลด้วย

    ตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง

    สำหรับประวัติความเป็นมาของพระ 5 พี่น้องนั้น(หรือพระ 3 พี่น้องในบางตำนานซึ่งได้แก่ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดบ้านแหลม) ตามตำนานระบุว่า พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ต่างก็ลอยน้ำมาตามแม่น้ำสายหลักของภาคกลางทั้ง 5 สาย และมีชาวบ้านมาพบเจอจึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและนำไปประดิษฐานไว้ตามวัดใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ

    ส่วนเหตุที่ว่าพระพุทธรูปทั้ง 5 นี้เป็นพี่น้องกันก็มาจากตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุและสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล มีอำนาจทางจิตมาก ได้ตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันว่าจะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน
    "เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน"
    และเมื่อพระภิกษุทั้งห้ามรณภาพไปแล้ว ก็ได้เข้ามาสถิตอยู่ในพระพุทธรูปทั้งห้าองค์และแสดงปาฏิหาริย์ให้พระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาทางใต้ตามแม่น้ำทั้ง 5 สาย
    ชาวบ้านชาวเมืองตามริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาก็พากันเลื่อมใส จึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นสถิตอยู่ตามวัดต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ
    โดยพระพุทธรูปองค์แรก ลอยมาตามแม่น้ำบางปะกง แล้วขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกว่า “หลวงพ่อโสธร”
    พระพุทธรูปองค์ที่สอง ลอยมาตามแม่น้ำนครชัยศรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง”
    พระพุทธรูปองค์ที่สาม ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ เรียกว่า “หลวงพ่อโต”
    พระพุทธรูปองค์ที่สี่ ลอยมาตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม”
    และพระพุทธรูปองค์ที่ห้า ลอยมาตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี เรียกว่า “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา”
    ในขณะที่บางตำนานก็กล่าวไว้ว่า การที่พระพุทธรูปทั้ง 5 ลอยน้ำมานี้ ก็เพราะเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ข้าศึกได้เผาไฟเพื่อหลอมเอาทองที่หล่อจากองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านเองก็ต้องการจะรักษาพระพุทธรูปไว้ จึงเอาปูนบ้าง รักดำบ้างไปพอกไว้ที่องค์พระเพื่อให้ดูไม่สวยงามและปกปิดความมีค่าไว้จากข้าศึก แต่เมื่อไม่อาจปกป้องได้ไหวจึงขนย้ายพระพุทธรูปสำคัญลงแพไม้ไผ่ล่องมาตามแม่น้ำเพื่อไม่ให้ข้าศึกทำลาย ด้วยน้ำหนักขององค์พระ เมื่อวางพระลงบนแพไม้ไผ่จึงดูเหมือนพระพุทธรูปลอยมาตามน้ำ จนผู้ที่พบเห็นถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่น้ำหนักมากจะสามารถจะลอยน้ำได้

    ระคาถาบูชาหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา

    ก่อนจะภาวนา คาถาหลวงพ่อโสธร ต้องบูชาพระรัตนตรัยเสียก่อน แล้วจึงกล่าวคำบูชาเฉพาะ คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร ระลึกถึงองค์ท่านโดยมองพระพุทธรูปหลวงพ่อพระพุทธโสธร ภาพถ่ายหรือพระเครื่องที่มี ถ้าไม่มีให้กำหนดภาพของท่านขึ้นในจิตของเราเป็นพุทธานุสสติกรรมฐานไปในตัว

    กาเยนะ วาจายะ เจตสา วา โสธะรัง นามะ
    อิทธิปะฏิหาริกะรัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ

    ท่อง3จบ

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร (คาถาพระเจ้า5พระองค์)

    ท่องนะโม 3 จบ แล้วกล่าวคำบูชา

    นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ
    พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูพาลวินาศสันติ
    นะ กาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน
    นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากกะยะมุนี
    โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง
    พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห
    อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง

    คาถาบูชาหลวงพ่อโสธร แบบย่อ (นะโม3จบ) อิติ อิติ อิติ โสธโร นะโมพุทธายะ ยะธาพุทธโมนะ


    ว่าคาถาบูชาพระพุทธโสธร นี้ทุกวันระลึกถึงองค์หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหารจะปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไปชีวิตราบรื่น เดินทางแคล้วคลาดภยันตรายต่างๆ

    ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากม่วง.1.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากม่วง.2.jpg ล็อกเก็ตลพ.โสธรปี54ฉากม่วง.3.jpg

     
  9. กิตติกรณ์_ต่าย

    กิตติกรณ์_ต่าย เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5,218
    ค่าพลัง:
    +14,686
    โคอุสุภราช รุ่นแรก (วัวธนูทรงเครื่อง) ชุดกรรมการ 3 องค์ ครูบาครอง ขัตติโย วัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ.ลำปาง พร้อมกล่องเดิมจากวัด

    โคอุสุภราช รุ่นแรก (วัวธนูทรงเครื่อง) ชุดกรรมการ 3 องค์ ครูบาครอง ขัตติโย วัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ.ลำปาง ประกอบด้วย เหรียญเม็ดแตงเนื้อทองแดง โคอุสุภราช รุ่นแรก เนื้อทองเหลืองกะไหล่เงินลงยา และโคอุสุภราช รุ่นแรก เนื้อทองเหลือง

    อัตราบูชาองค์ละ 1,500 บาท (พร้อมกล่องเดิมจากวัด) ตอกโค้ดและรันนัมเบอร์
    ค่าจัดส่งพัสดุกันกระแทก+อีเอ็มเอส 60 บาทครับ
    สภาพสวยกริ๊บ ไม่ผ่านการใช้ครับ ตามรูปที่แสดง
    รับประกันความแท้ 100% ตลอดชีพเก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนครับ

    ชื่อบัญชี : นายกิตติกรณ์ สัตยธำรงค์ ธนาคารทหารไทย สาขาสกลนคร เลขที่บัญชี 347-2-61986-9 โทร 086-4594495,084-2041313 ID Line : 0842041313

    ท่านใดที่โอนเงินแล้วกรุณาแจ้งจำนวนเงินที่ชำระวันและเวลาในการโอนเงินและแจ้งชื่อ-ที่อยู่ในการจัดส่งด้วยครับ


    โคอุศุภราชาราชาวัวธนูเทพแห่งสัตว์ทั้งปวง : พระองค์ครู เรื่องและภาพ ไตเทพ ไกรงู (นสพ.คม ชัด ลึก)

    โค หรือ วัว ที่มีนามว่า “อุศุภราช หรือ โคนนทิ” (อ่านว่า โค-นัน-ทิ) คือ โคเผือกที่เป็นพาหนะประจำขององค์พระศิวะ บนสวรรค์ชันฟ้า ซึ่งเทพบุตรองค์นี้ มีนามว่า “นนทิ” มีหน้าที่เป็นเทพที่คอยคุ้มครองดูแลบรรดาสัตว์สี่เท้าทั้งปวง ที่อาศัยอยู่ในป่าใกล้ๆกับเขาไกรลาส และเทพนนทิ เป็นเทพที่ครองสัตว์จัตุบาททั้งปวงนั้น ก็มักจะนิรมิตองค์เองให้กลายเป็น โคเผือก เพื่อให้พระศิวะได้เสด็จประทับไปยังที่ต่างๆ จนเป็นเสมือนพาหนะประจำตัวขององค์พระศิวะไปโดยปริยาย

    นอกจากนี้ ในคัมภีร์โบราณนั้นยังบันทึกไว้ด้วยว่า เทพบุตรนนทิองค์นี้ ไม่ได้เป็นคู่เทพที่จะมาแปลงกายเป็นโคให้พระศิวะได้เสด็จประทับเป็นพาหนะเท่านั้น แต่พระนนทิก็ยังเป็นหัวหน้าแห่งเทพบริวารทั้งหลายทั้งปวง

    การจัดสร้างโคอุศุภราชา หรือ วัวธนูทรงเครื่อง ของ หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย นั้น ในสมัยที่หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ออกจาริกธุดงควัตโรนั้นได้มีโอกาสพบกับครูบาอาจารย์หลายรูป รวมถึงครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ จ.ลำปาง และครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้สอนคาถาปลุกเสกวัวธนู และเล่าให้ฟังว่า วัวธนูมีพุทธคุณแบบที่เรียกว่าครอบจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมตตามหานิยม มีเสน่ห์ การค้าขายดีเยี่ยม ทั้งยังปกป้องคุ้มครองตนเองและบ้านพักอาศัย ทำให้ศัตรูกลับมารัก ทำน้ำมนต์ก็ดีเลิศ

    ในครั้งที่หลวงปู่ครูบาครองยังอยู่ในป่าประมาณ พ.ศ.๒๕๓๐ ในขณะปฏิบัติกรรมฐานอยู่นั้น ท่านได้นิมิตเห็นโคอุศุภราชา พาหนะของพระศิวะ มาหาท่าน ท่านได้เอาน้ำเอาหญ้าให้โคอุศุภราชากิน เมื่อโคอุศุภราชากินหญ้าและน้ำหมด ก็ได้คลายลูกแก้วมอบให้หลวงปู่มาหนึ่งลูก แล้วก็หายไปในนิมิต

    เมื่อเวลาได้ผ่านล่วงมาถึงปัจจุบันนี้หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ก็ได้เห็นสมควรแก่เวลาแล้วที่จะจัดสร้างโคอุศุภราชา โดยใช้การปลุกเสกตามแบบโบราณที่ได้เล่าเรียนมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆ แต่ในครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่โคอุศุภราชา เป็นราชาเทพแห่งสัตว์ทั้งปวง จึงมีฤทธิ์สูงสุด


    วัวธนู เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง ซึ่งมีทั้งลักษณะที่เป็นรูปลักษณ์ของวัวอันเกิดจากการหล่อ ที่เป็นรูปลักษณ์ของวัว วัวธนูชนิดที่ได้จากการหล่อนี้ มักเป็นรูปหล่อจากโลหะอาถรรพณ์ เช่น เศษบาตรพระที่แตกชำรุด ตะปูตอกโลงศพผีตายโหงเจ็ดป่าช้าหรือโลหะที่ถลุงจากทองขวานฟ้า (แร่โลหะที่อยู่บริเวณฟ้าผ่า) ส่วนที่ได้จากการปั้นมักใช้ดิน ขี้ผึ้ง หรือ ครั่ง ซึ่งได้มาจากที่ต่าง ๆ กล่าวคือ

    ดินมักเป็นดินจากขี้เถ้าของศพคนตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ดินจากป่าช้าเจ็ดแห่ง ดินที่พลีมาจากสี่มุมเมือง ดินจากจอมปลวกอารักษ์เมืองหรือดินโป่ง ถ้าเป็นขี้ผึ้งมักเป็นขี้ผึ้งจากเทียนจังกร (เทียนที่จุดข้างโลงศพขณะมีพิธีชักผ้าบังสุกุล) ขี้ผึ้งจากรังของผึ้งที่รุมต่อยคนจนคนเสียชีวิตหรือขี้ผึ้งบริสุทธิ์ที่ซื้อจากร้านสี่มุมเมือง และหากเป็นครั่งก็มักเป็นครั่งจากไม้พุทรา

    สำหรับวัวธนูที่มาจากการแกะ ส่วนใหญ่จะแกะจากเขาวัวตายฟ้าผ่า งาช้าง นอแรด และเขี้ยวหมูตันเป็นต้น ส่วนที่ได้จากการสานมักสานจากตอกไม้ไผ่หรือหวายเป็นรูปวัวมีเขาและขาพอเป็นรูปร่าง

    วัวธนูทรงเครื่องตำหรับ ของ หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย นั้น สร้างจากมวลสารโลหะพุทธคุณ และโลหะอาถรรพ์ ดังต่อไปนี้ ๑. ทองแดงเถื่อน ๒.ทองแดงบริสุทธ์๓. ดีบุก ๔. ตะปูตรึงโลงศพ ๗ ป่าช้า ๕. เหล็กขนันผี,เงินปากผีตายท้องกลม,งั่ง ๖. เหล็กยอดเจดีย์, ทองขวานฟ้า๗. กระสุนปืนด้าน,ดาบโบราณ ๘. เคี้ยวเกี้ยวข้าวโบราณ ๙. ตะขอสับช้าง

    พิธีพุทธาภิเษก วันที่ ๕ มิ.ย. ๕๙ โคอุศุภราชา (วัวธนูทรงเครื่อง) รูปเหมือน 9 นิ้ว และ 5 นิ้ว หลวงปู่ครูบาครอง โดยมีครูบาอาจารย์อธิษฐานจิตดังนี้
    - ครูบาพรรณ พรหมเสโณ
    - ครูบาเสน เขมจาโร
    - ครูบากวน อภิญโญ
    - ครูบาอินแก้ว กาวิโร
    ณ วิหาร วัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ.ลำปาง
    (หลวงปู่ครูบาครองได้จารแผ่น และอธิษฐานจิตมวลสารให้ ตั้งแต่ก่อนท่านอาพาธเข้าโรงพยาบาล)


    โคอุสุภราช.1.jpg โคอุสุภราช.2.jpg โคอุสุภราช.3.jpg โคอุสุภราช.4.jpg โคอุสุภราช.5.jpg โคอุสุภราช.6.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...