ร้านพระกรรมฐาน พ่อแม่ครูอาจารย์ แท้ทุกรายการ (ใหม่)

658. เหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียว แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ สำนักสงฆ์ห้วยทราย อำเภอ คำชะอี มุกดาหาร แม่ชีแก้วเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น และได้รับการอบรมธรรมะโดยหลวงตามหาบัวจนบรรลุธรรม เหรียญนี้ถูกจัดสร้างเพื่อแจกในงานฉลองเจดีย์คุณแม่ชีแก้ว โดยมีหลวงตามหาบัวเป็นองค์ประธาน ปลุกเสกโดยหลวงปู่จาม มหาปุญโญ และหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสโก วัดป่านาคำน้อย อุดรธานี ( ศิษย์หลวงตามหาบัว ) ท่านเป็นหลานแม่ชีแก้วครับ

พิมพ์ใหญ่ + พิมพ์เล็ก ครบคู่ครับ



ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ปีพุทธศักราช ๒๕๔๙ (บ่าย)
เทศน์อบรม ณ สำนักชีบ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

แม่ชีแก้ว พูดตามภาษาของธรรม ไม่เอากิเลสมาแย่งมาชิงมากีดมาขวาง ก็พูดว่าแม่ชีแก้วนี้ ก็คือพระอรหันต์องค์หนึ่งนั่นเอง อัฐิของแกได้กลายเป็นพระธาตุอย่างละเอียดลออประจักษ์ใจให้เห็นแล้ว ทางสายตาประชาชนทั่วๆ ไป ทางด้านจิตใจก็สิ้นเสร็จลงไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕ เป็นปีที่แกผ่านพ้นอุปสรรค แดนนรกของวัฏจักร ไปเป็นเวลาจนกระทั่งถึงป่านนี้ นานมาแล้วแหละ นี่อัฐิของแกเวลาล่วงไปแล้ว ก็ได้กลายเป็นพระธาตุขึ้นมา จึงว่าเป็นผู้สมควรที่จะก่อเป็นเจดีย์ขึ้นมาให้ประชาชนทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา

วันนี้เราเป็นมงคลทั่วหน้ากัน แล้วมาทั้งใกล้ทั้งไกล เราสละชีวิตจิตใจ หน้าที่การงานทุกอย่างมาแล้ว เพื่อบูชาคุณกราบไหว้อัฐิธาตุของแม่ชีแก้ว โดยพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ นำหน้า หรือเป็นแกนนำอยู่ในนั้นด้วย เรียกว่าเราได้กราบทั้งพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระสงฆ์ก็คืออย่างแม่ชีแก้วนี่ก็เป็น สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ โดยสมบูรณ์แล้ว ไม่ใช่ว่าผู้หญิงมาเป็นสรณะ ความบริสุทธิ์ของจิตดวงนั้น จิตดวงนั้นไม่นิยมว่าเป็นเพศหญิงเพศชาย นั่นละเป็นสรณะของโลก เราก็ได้มากราบไหว้บูชาสรณะอันนั้นเข้าสู่ดวงใจของเรา นับว่าสมมักสมหมายที่ได้พากันมาทั้งใกล้ทั้งไกล ไม่เสียท่าเสียที ไม่เสียเวล่ำเวลา มาได้มรรคได้ผลตามเจตนาของเราที่มา


ราคา 650 บาท ปิดรายการ

 

659. เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง ปี 2547 หลังช้างศึก บล็อกเเรก นิยมที่สุด สร้างเนื้อทองแดง 5,000 กว่าเหรียญ เจาะหูห่วงตอกโต๊ดทั้งหมด ชุดแรกการจัดสร้างไม่มีเนื้อทองคำไม่มีหรียญพิเศษ(กรรมการ) มีโค๊ตตัวเดียว ทีมผู้สร้างยืนยัน ชุดแรก ดู หูห่วงจะมีรอยจิกและโค๊ตตามรูปที่ผมลงให้ดู บล็อกนี้ หลวงปู่ลีอธิฐานจิตเดี่ยว ครับผม

ราคา 1,850 บาท ปิดรายการ

 

660. พระบูชาหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนแก่น ขนาดหน้าตัก 5นิ้ว ออกวัดป่าธรรมวิเวก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ปี 2547 ที่ระลึก เททองหล่อพระประธานและรูปเหมือนบูรพาจารย์ พิธีใหญ่มากๆครับ บล็อกแรก

พระบูชารุ่นนี้เสกที่วัดป่าธรรมวิเวก รุ่น สามบูรพาจารย์ เจ้าพิธีคือ พระครูโอภาสธรรมประโภส (อาจารย์มะ) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน(ธ) ปลุกเสกแผ่นชนวนมวลสารหลายเกจิด้วยกัน พระเถราจารย์ที่เมตตาจารชนวนแผ่นยันต์ มีอาทิ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ,หลวงปู่ท่อน ญาณธโร,หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป, หลวงปู่ธีร์ วัดมิ่งเมืองฯลฯ

กำหนดการปลุกเสกพิธีใหญ่มากครับ มีพระนั่งปรกหลายรูป อาทิ ท่านเจ้าคุณพระมงคลโมลี,หลวงปู่ท่อน,หลวงปู่ธีร์ , หลวงพ่อชม, หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป, พระอาจารย์จำนงค์ เจ้าอาวาสวัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ รูปปัจจุบันก็มา รูปเหมือน 3 บูรพาจาย์ของวัดป่าธรรมวิเวก คือ เจ้าอาวาสรูปแรกที่สร้างวัดป่าธรรมวิเวก (ผมจำชื่อไม่ได้ครับ) 2.พระครูโอภาสสมณกิจ อดีตเจ้าอาวาส ผู้สร้างเหรียญรุ่นแรกกับเหรียญแท๊งน้ำอันโด่งดังครับ (สมัยบุกเบิกร่วมกับ พ.อ.เฉลิม คำรพวงศ์) 3.หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต พระสุปฏิปันโณ อันเป็นเนื้อนาบุญของโลกและเป็นที่พึ่งของเหล่าผองศิษย์ ยากจะหาใดเสมอเหมือน การเทพระหล่อบุรพาจารย์นั้นเท่าองค์จริง ตั้งใว้ที่ศาลาวัดป่าธรรมวิเวกเพื่อให้ลูกศิษย์กราบไหว้ แต่รูปเหมือนบูชาที่เทหน้าตัก 5 นิ้วและให้บูชาที่วัดขณะทำพิธี องค์ละ 699 บาท ใต้ฐานอุดผงพุทธคุณและพระผงรุ่นยืนถือไม้เท้า + เหรียญบาทขวัญถุงครับ พระบูชารุ่นนี้หมดจากวัดในเวลาไม่นาน จนได้มีการทำบล็อกสองเพิ่มขึ้นมาครับ เป็นที่ต้องการของบรรดาลูกศิษย์อย่างมาก


ราคา 1,550 บาท ท่าน anamvong01

 

ขอจองพระบูชา รายการที่ 660 ครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

661. เหรียญข้าวหลามตัดหลวงปู่คำพันธ์ รุ่นแรก(นปข.31) วัดธาตุมหาชัย เนื้อทองแดง ปี2531 จ.นครพนม สภาพสวย หายาก!!!

จัดสร้างโดย หน่วยปฎิบัติการลุ่มน้ำโขงที่มีความเคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่คำพัน โดยเพื่อเป็นเครื่องรางยึดเหนี่ยวจิตใจและเพื่อฉลองอายุหลวงปู่ 6 รอบ 72 ปี เป็นเหรียญดีประสบการณ์เรื่องแคล้วคลาดปลอดภัยสูง สุดยอดเหรียญประสบการณ์อีกรุ่นของท่าน

ราคา 350 บาท

 

662. ล็อกเก็ตรุ่นแรก หลวงปู่ขาน ฐานวโร วัดป่าบ้านเหล่า กิ่งอ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ในบรรดาวัตถุมงคลของท่าน ล็อกเก็ตรุ่นนี้ถือว่าหายาก เเละเป็นที่นิยมมาก สร้างจำนวนน้อยมากจนไม่พอเเจกจ่ายลูกศิษย์ลูกหา จนได้ตามเก็บกันไปทั่ว

หนึ่งในเพชรน้ำเอก พระอรหันต์สายหลวงปู่มั่นครับ อัฎฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุแล้วครับ





ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย

นามเดิม ทองขาน สุขา กำเนิด15 มิถุนายน 2478 ที่บ้านโนนปอแดง ต. โนนสัง อ.โนนสัง จ.อุดรธานี(ปัจจุบัน เป็นจ.หนองบัวลำภู) ท่านเป็นบุตรคนที่9 ของ คุณพ่อหนู คุณแม่ห่อน สุขา มีพี่น้องทั้งหมด10 คน

1. พระสอน (มรณภาพ)
2.นายพร(ถึงแก่กรรม)
3. นางสอ(ถึงแก่กรรม)
4.นางสังข์(ถึงแก่กรรม)
5นางวัง(ถึงแก่กรรม)
6นางเวิน(ถึงแก่กรรม)
7นางเหวิ่น(ถึงแก่กรรม)
8นายหว่าน(ถึงแก่กรรม)
9หลวงปู่ขาน ฐานวโร
10 นางก้าน (มารดาของพระอาจารย์เสถียร สมาจาโร)

ชีวิตช่วงเยาว์วัยท่านเรียนจบชั้นป.4 ได้ออกช่วยบิดามารดาทำไร่สวน

ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา

หลวงปู่บรรพชาเมื่ออายุ 15 ปี ต่อมาได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดป่าชะบาวัน บ้านกุดฉิม ใน อ.โนนสัง เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2500 เวลา 15.43 น. โดยมีพระครูศาสนูปกรณ์ วัดโยธานิมิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่อุ่น ชาคโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเพ็ง อิติโสภโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา ฐานวโร แปลว่า ที่ตั้ง อันประเสริฐ

หลวงปู่ได้พำนักที่วัดป่าโคกสำโรง ซึ่งมีหลวงพ่อชม โฆสิโก เป็นเจ้าอาวาส พอออกพรรษาหลวงปู่ขานได้เดินทางปฏิบัติ ธรรมกับหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล ตลอดระยะเวลลาที่อยุ่วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ได้ปฏิบัติภาวนาอย่างเข้มข้น หลังจากนั้นหลวงปู่ได้จาริกไป ที่ต่างๆ เช่น วัดป่าแก้วชุมพล ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่จวน กุลเชษโฐ ที่ถ้ำจันทร์ หนองคาย หลังจากนั้นได้ธุดงไปยังถ้ำพระ ที่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พบหลวงปู่ลี กุสลธโร ทั้ง 2 ท่านต่างภาวนาอย่างไม่ลดละต่อกิเลส จนหลวงปู่ขาน ได้พบกับวิมุตติธรรมอันประเสริฐ อันเป็นเครื่องยุติการเดินทางใน 3 โลกธาตุ หลวงปู่ ได้กลับไปนมัสการพระอาจารย์ท่านต่างๆ และได้พาญาติพี่น้องของท่านอพยพ มาอยู่ที่บ้านเหล่าเชียงราย เนื่องจากบ้านโนนปอแดง อยู่ในพื้นที่สร้างเขื่อนอุบลรัตน์ สำหรับวัดป่าบ้านเหล่าหรือดอยกู่แก้วเคยเป็นวัดในสมัยพระเจ้ากือนา กษัตริย์ อาณาจักรเชียงแสนมาก่อน

ปฏิปทา
หลวงปู่มักจะสอนพระเณรให้รู้จักพึ่งตนเอง มีความอดทน และทำเป็นตัวอย่างมากกว่าสอนด้วยปากเปล่า และหลวงปู่ไม่รับนิมนต์กิจ ที่ไหนไกลจากบ้านเหล่าเลย อีกทั้งท่านยังเป็นพระที่มีขันติธรรม แม้ท่านป่วยก็ไม่บ่น แสดงอาการอ่อนแอให้ใครเห็นเลย

มรณภาพ
หลวงปู่มรณภาพด้วยอาการไตวายเรื้อรัง เมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม 2549 เวลา 21.34 น. สิริรวม 71 ปี 1 เดือน 17 วัน 50 พรรษา

ธรรมโอวาท
๑. ไปไหนไม่เท่ากับอยู่วัด อยู่วัดไหนก็ ไม่เท่าอยู่วัดตัวเอง
๒. คนมีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ จะได้ไม่นิ่งนอนใจในชีวิต


ราคา 1,250 บาท ปิดรายการ

สวยสมบูรณ์ไม่มีกระเทาะ

 

663. เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่สนธิ์ เขมิโย วัดอรัญญานาโพธิ์ บ้านนาโพธิ์ หมู่ 8 ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พระเกจิชื่อดัง 5 แผ่นดินแห่งเมืองนครพนม ปี 2516 บล็อก 2 เป็นรองแค่บล็อกแรกเท่านั้นครับ บล็อกแรกตอนนี้ราคาเกือบหมื่นแล้วครับ บล็อกสองก็ไม่ได้รับความนิยมรองลงมาและมีพุทธคุณไม่แพ้บล็อกแรกครับ (เหรียญรุ่นแรกท่านมี 5-6 บล็อกครับ)



หลวงปู่สนธิ์ ท่านมีความเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมอันเข้มขลัง เป็นลูกศิษย์สืบสายธรรมจากหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน วัดท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม อดีตพระเกจิสองฝั่งโขงที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ

อายุ 20 ปี ได้อุปสมบท ที่วัดศรีชมชื่น ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม โดยมีหลวงพ่อแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อเกศ เป็นพระกรรมวาจา และมีหลวงพ่อเกิด เป็นพระกรรมวาจาจารย์

จากนั้นเดินธุดงค์ไปจำพรรษาที่ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร อ.โพนสวรรค์ และ อ.ท่าอุเทน นาน 8 พรรษา

ช่วงที่จำพรรษาอยู่ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน ปวารณาฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน พระเกจิชื่อดังผู้สร้างพระพุทธบาทบัวบกในยุคนั้น ก่อนที่จะเดินธุดงค์ไปจำพรรษาที่วัดพระพุทธบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย ตามลำดับ ก่อนข้ามแม่น้ำโขงไปที่แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว นาน 2 พรรษา และธุดงค์ไปภูเขาควายอีก 4 พรรษา นั่งปฏิบัติธรรมท่ามกลางสัตว์ป่าดุร้าย เช่น หมี เสือโคร่ง

จากนั้นธุดงค์ต่อไปในภาคเหนือของไทย 7 จังหวัด และภาคกลางอีก 7 จังหวัด

ได้สร้างวัดอรัญญานาโพธิ์ ในปี พ.ศ.2509 อยู่จำพรรษาจนถึงปัจจุบัน

เป็นพระที่มีความสมถะ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเวลาเดินธุดงค์จะไม่มีทรัพย์สินมีค่าติดตัว ไม่สวมรองเท้า และบิณฑบาตก็รับแต่พอฉันในแต่ละมื้อเท่านั้นไม่เก็บสิ่งของมีค่า

ยึดมั่นในพระธรรมวินัย จะคอยอบรมลูกศิษย์อย่าประมาทในศีล มักน้อยสันโดษ เป็นอยู่ง่ายๆ กินแต่น้อย ไม่สะสมทรัพย์สิ่งของ จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธา

นอกจากเป็นผู้ชำนาญการด้านพระปริยัติและวิปัสสนากัมมัฏฐาน ยังเป็นผู้ทรงวิทยาคมอันสูงส่งรูปหนึ่ง

ครั้งหนึ่งจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ที่พบเห็นหลวงปู่สนธิ์ กำลังออกบิณฑบาต เกิดฝนตก แต่ปรากฏว่าเม็ดฝนไม่ถูกตัวหลวงปู่ ทั้งที่หลวงปู่สนธิ์ก็ออกเดินบิณฑบาตไปตามปกติ แต่ฝนตกตามหลังไป แต่ไล่ไม่ทันตัวหลวงปู่ ชาวบ้านก็เลยเรียกขานว่า “ฝนไล่ไม่ทันหลวงปู่”

สร้างวัดอรัญญานาโพธิ์ เมื่อปี พ.ศ.2509 ยังสร้างโรงเรียนอีก 5 แห่ง และตึกอาพาธสงฆ์ที่ ร.พ.ศรีสงคราม สร้างศาลาการเปรียญวัดกูฏิอีกหลายแห่ง พร้อมตั้งมูลนิธิหลวงปู่สนธิ์สนับสนุนทุนเรียนดีแต่ยากจน

เมื่อวัยเข้าสู่ชรา จึงกลับจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด แต่ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง หลวงปู่อาพาธเป็นโรคเส้นเลือดในสมอง ก่อนนำตัวเข้ารักษาที่ ร.พ.ศรีสงคราม เมื่อเดือน พ.ย.2559 แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งต่อไปรักษาตัวที่ ร.พ.นครพนม จากนั้นจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น นาน 2 เดือน ก่อนกลับมารักษาตัวที่ ร.พ.ศรีสงคราม

กระทั่งละสังขารอย่างสงบ เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 5 ก.ย. สิริอายุ 108 ปี พรรษา 88 ท่ามกลางความเศร้าสลดของศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ


ราคา 750 บาท ท่าน j999

เหรียญผิวไฟ สวยๆครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

โอนค่าบูชาพระบูชารายการที่ 660 ให้แล้ว....ข้อมูลตาม PM ครับ

 

664. เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์ชาตรี ปภสสโร วัดป่าโสภณธรรมาราม จ.สกลนคร ปี 2549 เนื้อทองฝาบาตร สภาพสวยมากๆครับ มีประสบการณ์เด่นชัดด้านแคล้วตลาด และยังมี มหาอุตม์ คงกระพัน ปัจจุบันไม่ค่อยมีออกมาให้เก็บสักเท่าไหร่ ลูกศิษย์สายตรงตามเก็บกันหมดครับ



ประวัติโดยย่อ.- พระอาจารย์ชาตรี ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม, เรียนวิชากับหลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ บึงกาฬ, หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง และไปเรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อพระสุพรหมญาณเถระ วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน จนกระทั่งหลวงพ่อพระสุพรหมญาณเถระ ท่านมรณะ จึงออกธุดงค์จาริกไปตามเขาทางภาคเหนือ โดยกำหนดอยู่ปฎิบัติธรรมแห่งละ 1 พรรษา จนถึงปี พ.ศ.2534 พรรษาที่ 9 ท่านได้นิมิตเห็นสถานที่แห่งหนึ่งมีสระน้ำกว้างใหญ่มีงูที่มีลักษณะที่ต่างจากงูทั่วไป จึงตัดสินใจออกธุดงค์มาทางภาคอีสาน และพบโดยกำหนดสถานที่ตามที่เห็นในนิมิต คือที่ตั้งวัดป่าโสภณธรรมาราม บ้านกุดจิก ตำบลนาคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร และอยู่จำพรรษาจนถึงในปัจจุบัน ... พลังจิตท่านไม่ธรรมดา วัตถุมงคลแต่ละรุ่นที่ออกมาล้วนแต่มีประสบการณ์ความขลัง เป็นที่ประจักษ์มานักต่อนัก


ราคา 1,450 บาท ปิดรายการ

 

665. เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์ชาตรี ปภสสโร วัดป่าโสภณธรรมาราม จ.สกลนคร ปี 2549 เนื้อนวะ สร้างน้อย หายากมาก สภาพสวยมากๆครับ มีประสบการณ์เด่นชัดด้านแคล้วตลาด และยังมี มหาอุตม์ คงกระพัน ปัจจุบันไม่ค่อยมีออกมาให้เก็บสักเท่าไหร่ ลูกศิษย์สายตรงตามเก็บกันหมดครับ



ประวัติโดยย่อ.- พระอาจารย์ชาตรี ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม, เรียนวิชากับหลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ บึงกาฬ, หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง และไปเรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อพระสุพรหมญาณเถระ วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน จนกระทั่งหลวงพ่อพระสุพรหมญาณเถระ ท่านมรณะ จึงออกธุดงค์จาริกไปตามเขาทางภาคเหนือ โดยกำหนดอยู่ปฎิบัติธรรมแห่งละ 1 พรรษา จนถึงปี พ.ศ.2534 พรรษาที่ 9 ท่านได้นิมิตเห็นสถานที่แห่งหนึ่งมีสระน้ำกว้างใหญ่มีงูที่มีลักษณะที่ต่างจากงูทั่วไป จึงตัดสินใจออกธุดงค์มาทางภาคอีสาน และพบโดยกำหนดสถานที่ตามที่เห็นในนิมิต คือที่ตั้งวัดป่าโสภณธรรมาราม บ้านกุดจิก ตำบลนาคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร และอยู่จำพรรษาจนถึงในปัจจุบัน ... พลังจิตท่านไม่ธรรมดา วัตถุมงคลแต่ละรุ่นที่ออกมาล้วนแต่มีประสบการณ์ความขลัง เป็นที่ประจักษ์มานักต่อนัก


ราคา 1,950 บาท ปิดรายการ

 

666. ล็อกเก็ตรุ่นแรก ญาท่านเภา จันทธัมโม วัดบ้านเวินโพนพิสัย จ.หนองคาย เกจิดังสองฝั่งโขง ผู้สืบทอดวิชาสายธาตุหลวงใต้(สปปลาว) ที่ระลึกอายุครบ 7 รอบ ปี 2555 เป็นรุ่นแรกและน่าจะเป็นรุ่นเดียวของท่านครับ





เปิดตำนานพระอภิญญาลุ่มน้ำโขง'ญาท่านเภา'วัดบ้านเวินโพนพิสัย


จ.หนองคาย เป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในแถบลุ่มน้ำโขง มีพระเถราจารย์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นครูบาอาจารย์ ต้นธาตุ ต้นธรรม หลายรูปด้วยกัน ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่องคาถาอาคมและไสยเวทย์ จนเป็นที่เลื่องลือเล่าขานเป็นตำนานสืบทอดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
อาทิ ญาท่านป้อง บ้านหนองกุ้ง, หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทาราม, หลวงปู่ด่อน อินทสาโร วัดถ้ำเกีย ฯลฯ ซึ่งส่วนมากท่านเหล่านี้ได้ล่วงลับไปแล้ว
แต่ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในขณะนี้ และผู้เขียนอยากแนะนำคือ “ญาท่านเภา” วัดบ้านเวิน ซึ่งผู้เขียนเองไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของท่านมาก่อน จนได้พูดคุยกับคุณเอก นาครทรรพ พี่ชายใจดี ผู้ที่สนใจในศาสตร์เดียวกัน ซึ่งปัจจุบันท่านได้พักร้อนงานการเมือง และได้หันมาศึกษาหาความรู้ด้านพระพุทธศาสนาในระดับปริญญาโท
คุณเอก เล่าว่า...ในช่วงเวลาที่ สปป.ลาว มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบใหม่ ทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบขึ้น ชาว สปป.ลาว ต่างต้องหาที่พึ่งทางใจ โดยเฉพาะ “ญาท่านเภา” ได้เป็นที่พึ่งทางใจให้แก่ชาวลาวได้เป็นอย่างดี โดยต่างแวะเวียนมาให้ท่านลงน้ำมันงา จารศีรษะ และฝังทองคำดิบ เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดคงกระพัน ทำให้ชื่อเสียงของ “ญาท่านเภา” ขจรขจายไปทั่วทั้งสองฝั่งโขง
ต่อมาท่านได้ลี้ภัยสงครามมายังเมืองไทย เหตุเพราะท่านได้สักยันต์ให้ทหารปฏิบัติการฝ่ายตรงข้ามกับทางราชการ ลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า...ขณะที่ท่านฝ่าวงล้อมทหารออกมา ท่านได้ใช้วิชากำบังร่าง หนีออกมาฝั่งไทยได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบันท่านมีอายุ ๘๕ ปี จำพรรษา ณ วัดบ้านเวิน จ.หนองคาย จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งชาว จ.หนองคาย ให้ความเคารพนับถือในตัวท่านเป็นอันมาก
“ญาท่านเภา” เกิดในสกุล “สาวรักษ์” เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๗๑ ณ บ้านดงกะลึม เมืองหาดทรายฟอง (ปัจจุบันขึ้นกับเมืองปากงึ่ม) แขวงนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เป็นบุตรคนที่ ๓ โดยมีพี่น้องทั้งหมด ๔ คน บิดาชื่อ “จารย์อุ่น” มารดาชื่อ “วรรณี”
ชีวิตในวัยเด็กของท่านก็เหมือนกับชาวชนบททั่วไป เป็นชาวนา เมื่ออายุ ๒๑ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ณ วัดบ้านเลิด เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๙๑ โดยมี “พ่อแม่บุ” เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “จันทธัมโม”
ท่านมีความสนใจใฝ่ในการศึกษา จึงเดินทางไปศึกษาหาความรู้ที่ตัวเมืองเวียงจันทน์ โดยฝากตัวเป็นศิษย์ “ญาพ่ออุ่น” ที่วัดพระธาตุหลวงใต้
ในช่วงที่ท่านศึกษาวิชากรรมฐานอยู่ที่วัดพระธาตุหลวงใต้นี้เอง ทำให้ท่านมีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับ “ญาท่านป้อง” และญาท่านป้องนี่เองที่เป็นผู้สอนคัมภีร์มูลกัจจายน์ให้แก่ญาท่านเภา
คัมภีร์นี้ว่าด้วยหลักไวยากรณ์ของภาษาบาลี หรือภาษามคธ และข้ออธิบายจากคัมภีร์ต่างๆ ท่านได้จดรวบรวมไว้อย่างละเล็กละน้อย แล้วเขียนแปลเป็นภาษาไทยกำกับ
นอกจากนี้ ญาท่านป้อง ยังสอนไสยเวทย์วิทยาคมให้แก่ญาท่านเภา อีกด้วย

ญาท่านเภา เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งสองฝั่งโขง ด้วยท่านเป็นที่พึ่งที่อาศัยของบรรดาชาวไทยและชาวลาว ด้วยอุปนิสัยที่รักสันโดษ มักน้อย ท่านชอบอยู่อย่างเงียบๆ ในกุฏิเล็กๆ มีปกติอยู่ในองค์ภาวนาพระกรรมฐาน “วิชาแก้วสี่ดวง” ซึ่งผู้ที่ฝึกสำเร็จจะสามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ เป็นวิชาที่สืบทอดกันในดินแดนแถบนี้ จึงไม่แปลกที่ พระเถราจารย์ เหล่านี้จะมีอิทธิฤทธิ์ ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมหัศจรรย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินผิวน้ำ ย่นระยะทาง ห้ามฟ้าห้ามฝน เสกพยนต์รูปสัตว์ ฯลฯ


ราคา 550 บาท ท่าน j999

 

667. พระเปิดโลก หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาฯ จ.หนองคาย พิมพ์เล็ก หายากสุดๆ

เป็นพระเนื้อดินสีดที่สร้างขึ้นโดย ลป ทองทิพย์ รัตนโคตร วัดป่าสีดาเทพลักษณืราม จังหวัดหนองคาย ผู้เป็นอ.ใหญ่ในสายพระโพธิสัตว์ ผู้มีจิตแรงกล้าพิศดาร

พระพิมนี้นิยมสูงมาก เล่นหากันสูง มีอนุภาพ ด้านชนะศตรู เป็นนายคน ยศฐาบันดาศักดิ์เพิ่มพูน

พิจารณาดูนะครับ พระเริ่มหายากมากแล้ว พระของหลวงปู่บางพิมพ์ราคาเข้าหลักหมื่นแล้วครับ




พระเดชพระคุณหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ เป็นพระกรรมฐานาจารย์ พระมหาเถระ ผู้เป็นเนื้อนาบุญ องค์บรมครูหน่อพุทธางค์กูรนี้ ผู้มีคุณูปการณ์อย่างยิ่งต่อพระพุทธศาสนา ด้วยจริยาวัตรอันงดงาม และน่าเลื่อมใสศรัทธาต่อพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นอย่างมาก ทั้งบรรพชิต พระภิกษุสงฆ์ สามเณร อุบาสกอุบาสิกา จากทั่วทุกสารทิศได้หลั่งไหลเข้ากราบสักการะ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ อย่างต่อเนื่องเสมอมา นับตั้งแต่ครั้งที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ยังมีชีวิต จวบจนถึงปัจจุบัน ในกาลที่ท่านฯ ได้ละสังขารล่วงไปแล้วนั้น ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชน ทั้งหลายเหล่านั้น ที่ยังมีความศรัทธาต่อ องค์คุณูปการณ์ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และด้วยการเก็บรักษา ร่างสังขารของท่านไว้ในโลงแก้วปรับอากาศ เพื่อน้อมสักการะบูชา และโดยการสรงร่างสังขารของพระเดชพระคุณท่านฯ ด้วยหัวน้ำหอมอย่างดี และเปลี่ยนชุดไตรจีวรถวายแด่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ อย่างต่อเนื่องเสมอมา ตามความน้อมเคารพสักการะ ในองค์คุณของท่านฯ
ปฏิปทาของท่านนั้น กอปรด้วยพระวิสุทธิคุณอันสูงส่ง มีมโนปณิธานอันพร้อมด้วยพระเมตตาและมหากรุณาธิคุณ ในความมุ่งหมายที่จะยังสัตว์โลกให้ได้รู้ธรรม ด้วยทาน ศีล และภาวนา อีกทั้งท่านยังได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี วจีคำสอนอันไพเราะงดงามและครบถ้วนบริบูรณ์ด้วยอรรถะ และพยัญชนะ และหลายครั้ง หลายคราวที่ท่านฯ นำเรื่องราวในพุทธประวัติ และพุทธชาดกของพระบรมโพธิสัตว์ที่จะมาเลี่ยงลัดตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลมาบอกกล่าว และเทศน์สอนลูกศิษย์

พระเดชพระคุณหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ ได้ล่วงละสังขาร ในวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๔ ณ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร โดยก่อนมรณภาพ ท่านได้มอบหมายต่อลูกศิษย์ ว่ามิให้ฌาปณกิจสังขารของท่าน ให้ใช้ผ้าไหมพันสรีระสังขารไว้แล้วสรงบูชาด้วยหัวน้ำหอม ซึ่งคณะศิษยานุศิษย์ นำโดยพระสุวิทยา จันตะธัมโม ประธานสงฆ์วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร องค์ปัจจุบันก็ได้กระทำเป็นประจำทุกปี โดยพิธีสรงร่างสังขารหลวงปู่ฯ ด้วยหัวน้ำหอมและเปลี่ยนผ้าไตรนั้น จะกระทำปีละ ๒ ครั้ง คือในวันสงกรานต์(๑๓ เมษายน ของทุกปี) และในวันออกพรรษา(วันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑) ส่วนการทำบุญกตัญญุตา อุทิศแด่หลวงปู่ฯ จะมีการถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร และสวดมาติกาบังสุกุล แสดงถึงความกตัญญู ซึ่งกระทำทุกปี ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ อันถือเป็นวันคล้ายวัน ครบรอบของการละสังขารของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ฯ


ราคา 850 บาท ท่าน SIR2010


ด้านหลังมีรอยกาวที่เจ้าของเดิมติดพระไว้หน้ารถแล้วแกะออกครับ

 

จอง 667

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

653 655 667
โอนเงินแล้ว 1,900.- บาท วันที่ 14/6/62 เวลา 19.29 น.
ที่อยู่ ตาม PM

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ขอจองครับ