ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

หนึ่งปริศนา..สองคนพี่น้อง

หนึ่งจอมคน..ดั่งจอมครุฑผู้มากวาสนาบรรดาศักดิ์
สองสุรสีห์..ดั่งราชสีห์เจ้าโลกเก่งกาจฉกาจฉกรรจ์

เครื่องมงคลที่เป็นดั่งอาวุธปราบยุคเข็ญที่ใช้มวลสารของสูงอันเห็นยากเอายากซึ่งพ่ออาจารย์ท่านบอกเอาไว้ว่าถ้าไม่ใช่คนในเขาเอาออกมาให้ทำเพื่อตัวเขาได้ใช้เอง คิดฝันอย่างไรก็ไม่มีโอกาสเอาด้วยของสองสิ่งอันเป็นมวลสารของสองพี่น้องเป็นดั่งตัวแทนของอำนาจวาสนาบารมีทั้งหมดของทั้งสองท่าน...พ่ออาจารย์ท่านว่าบอกแค่นี้หลายๆคนจะรู้และร้องอ๋อทันที ซึ่งสองพี่น้องแต่ต้นกรุงผู้ยิ่งใหญ่นี้ท่านเก่งจริงๆและเป็นต้นตอแห่งความเจริญรุ่งเรืองทุกอย่าง(พ่ออาจารย์ท่านว่าบอกไม่ได้มากไปกว่านี้เพราะเป็นของสูงมากด้วยมีวาสนาในสายสกุลลูกหลานอันท่านรักษาไว้จึงได้มาเป็นมงคล)

 

มีไลน์มาถามกันมากมายทั้งวันเลยวันนี้ยอมรับเลยว่าหลายๆท่านทายถูกบอกได้แค่มียอดของมวลสารทั้งสองซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ควรจะกล่าวถึงไปมากกว่านี้เอาตามวาสนาบารมีคนจองทันเท่านั้นเดี๋ยวมาลุ้นกันนะครับ

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่วุฒิชัย ED 6474 6160 2 TH

พี่ศิระ ED 6474 6161 6 TH

พี่นฐมน ED 6474 6162 0 TH

พี่นฤชา ED 6474 6163 3 TH

พี่ภาคภูมิ ED 6474 6164 7 TH

 

ร่วมทำบุญบูชา ตราบุญบัญญัติเจ้าฟ้า,เจ้าโลก,เจ้ามหาชีวิตทรงอภิบุญญา (ล่อแรงเล่นหนัก)

สืบเนื่องจากที่พ่ออาจารย์ท่านได้รับมวลสารของศักดิ์สิทธิ์อันมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองตั้งแต่ต้นกรุง ซึ่งสืบสายวงศ์ลูกหลานท่านมีความประสงค์จะให้ช่วยสร้างเครื่องรางไว้ซักรุ่นโดยพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าเป็นของมหามงคลที่นับเนื่องแก่ผู้ถือครองต้องมีวาสนาบารมีสูงด้วย และท่านได้ขอแบ่งมวลสารส่วนหนึ่งมาสร้างเหรียญสำคัญครั้งนี้

อันมวลสารนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าให้เราตายก็พูดไม่ได้แต่รับรองว่าเป็นของแรงด้วยสองพี่น้องนั้นดั่งองค์รามลักษณ์แรงฤทธิ์และมากบารมีท่านว่าถ้าจะเอาดีในแผ่นดินอันท่านผู้ประเสริฐได้ตั้งขึ้นมานั้นก็ให้อาราธนาเหรียญชุดนี้เถิด องค์พี่ดั่งพญาครุฑผู้มากด้วยอำนาจราชศักดิ์ทั้งปวง องค์น้องนั้นดั่งราชสีห์ผู้มากฤทธิ์อันลงมากวาดผ่านยุคเข็ญรวมแผ่นดินให้ก่อเกิดความเจริญรุ่งเรืองทั้งหลายสืบต่อกันมา พ่ออาจารย์ท่านว่ามวลสารทั้งสองนี้เรารับสัจจะไว้มั่นเหมาะว่าให้ตายก็พูดไม่ได้เอาเป็นแค่ให้ใช้กันในหมู่คนที่เชื่อนั่นก็พอว่าเหรียญนี้มีบารมีของผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดและมากอาวุโสสูงสุดถึงสองท่านหนุนนำท่านนำมาสร้างเหรียญในรูปครุฑตะปบสิงห์ราชาท่านว่าเป็นความหมายสื่อตรงๆถือตัวทั้งสองพระองค์ ถือเป็นรูปเปรียบดั่งสัญลักษณ์
*** อันที่จริงเหรียญชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้นานแล้วและก็เคยมีคนเอาไปใช้จนเกิดปาฏิหาริย์ในชีวิต แต่เจ้าตัวเขานั้นกลับไม่รู้ว่าข้างในบรรจุมวลสารอะไรคิดว่าเป็นเพียงเหรียญครุฑธรรมดาจึงเอาไปเรียกเล่นๆว่าเหรียญครุฑขี่สิงห์บ้าง..ครุฑปี้สิงห์บ้าง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าก็ไม่เป็นไรแล้วแต่ปากคนเขาจะเรียกคะนองกันไปแต่คุณวิชาก็ไม่ได้เสื่อมของศักดิ์สิทธิ์จะเรียกอะไรก็ศักดิ์สิทธิ์อยู่วันยังค่ำจากประสบการณ์ผู้ใช้ทำให้พ่ออาจารย์ท่านตั้งชื่อเหรียญรุ่นนี้โดยเรียกของท่านเองว่า"เหรียญล่อแรงเล่นหนัก"

ความศักดิ์สิทธิ์ของ"จักรพรรดิ์"แห่งเหรียญ
พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญหล่อเจ้ามหาชีวิตนั้นก็หมายความตรงตัวอยู่แล้วว่าเจ้ามหาชีวิตคือผู้เป็นเจ้าของทุกสิ่งบนพื้นพิภพไม่เว้นแม้แต่ชีวิตใดๆก็ดีอันมีดวงจิตถือครองทั้งมนุษย์แลเดรัจฉานซึ่งเป็นตราอาญาสิทธิ์แทนตัวผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองท่านเหรียญนี้จึงมีอำนาจมากพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นได้ทุกสิ่งทำได้ทุกอย่าง แต่ที่เหนือกว่าสิ่งใดก็คือเป็นเหรียญที่มีกำลังระดับ "ทรงอภิบุญญา" ท่านว่าเมื่อได้ครอบครองได้สวมคอด้วยตราเจ้ามหาชีวิตนั้นจะปรับเปลี่ยนกระแสพลังบุญอันบริสุทธิ์ที่จะชักนำสิ่งมงคลเปลี่ยนวิถีชะตาให้เราเป็นผู้มีบุญบารมีให้พลังบุญบัญญัตินั้นหนักหน่วงรุนแรง พูดง่ายๆคือเป็นเหรียญที่เอาไว้เปิดบุญเปิดบารมีทั้งเพิ่มกำลังบุญให้มากกว่าผู้อื่นและอยู่เหนือผู้อื่นดั่งกำลังบุญราชครุฑและบารมีสิงห์ราชาผู้เป็นเจ้าฟ้าเจ้าโลกทั้งสองหนุนนำ ครุฑตะปบบสิงห์คือฟ้าโปรดปฐพี แม้สูงเยี่ยมเทียมฟ้ายังชะลอลงดินได้นี่แหละที่ท่านว่า "ล่อแรงเล่นหนัก" ใครที่ชะตาชีวิตหนักหน่วงมีปัญหารุนแรงหรือมีความปรารถนาหนักหนาเกินชะตาชีวิตจะแบกไหวต้องใช้เหรียญนี้จะชะลอทุกสิ่งลงมาได้ดั่งใจดั่งฟ้าอันอยู่สูงสุดลงมาโปรดพื้นปฐพี สิ่งที่แยกขาดจากกันไม่เคยมาบรรจบพบกันก็คือฟ้าดินเหรียญนี้อุปมาดั่งว่าฟ้าเหยียบดินอะไรที่อยู่สูงที่เกินเอื้อมเกินไขว่คว้าก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น

จอมครุฑผู้เป็นเจ้าฟ้า
จอมครุฑที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์กำเนิดเป็นมหาครุฑองค์ปฐมในวัฏจักรเผ่าพันธุ์เทพวิหค ที่ครุฑทั้งหลายต่างเกรงกลัวนอบน้อมดุจจอมราชันย์แห่งเผ่าพันธุ์ พญาครุฑที่มีวิมานอาศัยอยู่ในสวรรค์ชั้นไวกูณฐ์ร่วมกับพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้า เป็นวิมานเอกเทศดุจอาณาเขตต้องห้ามที่ไม่มีใครหาญกล้าไปรบกวน นั่นคือพญาสุเรนทรชิตครุฑผู้อาจหาญสามารถชนะได้แม้กระทั่งพระอินทราธิราชองค์นั้น อาถรรพ์องค์ครุฑสุเรนทร์นั้นใช้แก้ทุกสิ่งที่เลวร้ายผันแปรได้ในทุกสรรพสิ่งในทุกสถานการณ์ซึ่งเป็นสภาวะธรรมชาติอันไม่คงที่ คนเราต้องเจอโชคร้ายมากมายเหมือนฟ้าเล่นตลกเมื่อมีเหตุร้ายมาถึงตัวจะได้กลับร้ายกลายเป็นดี พ่ออาจารย์ท่านว่าครุฑของเราไม่ได้เปลี่ยนวัฏจักรแต่ทำให้ด้วยเคล็ดและคุณวิชาแปรกลับทุกสรรพสิ่งจากร้ายให้เป็นดีจากอวมงคลกลายเป็นศุภมงคล ด้วยชีวิตคนนั้นไม่ว่าจะผ่านอะไรมามากก็ตามความสำเร็จสุดท้ายให้ดูที่ปลายมือคือที่สุดของชีวิตมงคลเรื่องนี้ถือว่าสำคัญนักคนรวยจนลงก็มีถมไป ได้ดีเป็นพักๆโชคร้ายกระหน่ำเข้ามาก็มีอยู่มากพ่ออาจารย์ท่านจึงลงวิชาพลิกฟ้าพสุธาหงายเสริมเข้าไว้ที่จอมครุฑให้สอดคล้องกัน ท่านว่าเสริมส่งอานุภาพยิ่งขึ้นไปอีกองค์ครุฑจะแปรผันสถานการณ์เลวร้ายต่างๆให้ลูกๆที่ศรัทธาท้ายที่สุดของชีวิตปลายมือต้องได้ดีคงที่ทุกคน

มีอะไรสำคัญอธิษฐานบอกท่านจะได้ชื่อว่าเราฝากชีวิตไว้กับเทพที่ทรงอานุภาพเกรียงไกรที่สุดในประวัติศาสตร์เทวโลก ท่านจะโอบอุ้มเราด้วยความรักคอยค้ำชูเราจะมีสิ่งดีๆตามเข้ามาในชีวิตเจ้าอย่างรวดเร็วปานมหาวายุพัดเพราะท่านบินสูงเหนือลมเล่นลมเฉกเช่นนั้น ผู้ที่มีดวงครุฑมีบารมีครุฑหนุนอยู่ล้วนแต่ได้ดีเป็นยอดคนแห่งยุคทั้งสิ้น แม้ได้บูชาก็จะตัดเสียซึ่งเคราะห์กรรมทั้งหลาย อุปสรรคแลอันตรายอันจะเกิดมีในชีวิตต่อไปจะพินาศย่อยยับสิ้นจะสู้กับใครก็ชนะเขาหมด..จะอาสาเจ้านายก็ได้ชัย..จะทำการณ์ใหญ่ก็สำเร็จ..จะปราบศัตรูก็พิฆาตได้สิ้นทั่วทิศานุทิศ ทำให้ผู้ครอบครองมีความเด็ดขาดกล้าที่จะตัดสินใจ เมื่อเสริมส่งด้วยอำนาจบารมีของพ่อพญาสุเรนทรชิตแล้วจึงเป็นศุภมงคลยิ่งกว่าจะหาสิ่งใดมาเปรียบเทียบได้ ทั้งครุฑนี้คือเจ้าฟ้าก็มีที่ใดเล่าอันอยู่ใต้ฟ้านี้ที่ฟ้าจะครอบคลุมไปไม่ทั่วถึงเมื่ออยู่ใต้ฟ้าก็เหมือนอยู่ใต้สายตาของพ่อพญาสุเรนทรชิตตลอดเวลาจะเจริญด้วยยศศักดิ์สูงสุดคิดทำการณ์ใดก็สำเร็จโดยไว

อันชื่อว่าพญาสุเรนทร์หรือสุเรนทรชิตนั้นก็เป็นชื่อที่มีเกียรติ..เป็นชื่อของครุฑองค์ต้น..เป็นชื่อที่มีความหมายว่าครุฑผู้ชนะพระอินทร์นั่นเอง เเม้เเต่เจ้าสวรรค์และอาวุธที่ทรงอานุภาพสูงสุดในเทวโลกยังอาจเอาชนะท่านได้ไม่สามารถทำให้บาดเจ็บหรือระคายผิวนับประสาอะไรกับปัญหาเรื่องเล็กๆของมนุษย์ที่จะให้ท่านช่วยคลี่คลายหรือแก้ไข พ่ออาจารย์ท่านว่าจอมครุฑของท่านใช้ตาในดูจะเห็นว่าท่านกระทำสิงหนาทสำเเดงรัศมีเเบบพระอัคนีครุฑองค์นี้เเหละที่อยู่ที่ไหนไปที่ใดเทวดาก็หลงเข้าใจผิดว่าเป็นพระอัคนีเสด็จมาพากันออกมาบูชาเพราะเป็นครุฑองค์ต้นที่ทรงฤทธิ์ถึงปานนั้น ทั้งในร่างกายคนเราที่มีเสนียดมีอัปมงคลอยู่มากอาจมีไฝในที่ลับมีสิ่งไม่พึงประสงค์เป็นอัปมงคลในตัวโดยที่เราไม่รู้ ก็ด้วยบารมีพ่อครุฑจะช่วยเเก้ไขอาถรรพ์เหล่านั้นจะช่วยทำลายอาถรรพ์ต่างๆในร่างกายของเรา เมื่อร่างกายของเราไม่มีอาถรรพ์ทั้งหลายเเล้วเราจะทำอะไรย่อมสำเร็จได้โดยง่ายแบบคนอื่นเขา นอกจากใช้ทำลายอาถรรพ์ทั้งหลายในร่างกายเเล้วยังทำลายอาถรรพ์ทั้งหลายสิ่งอัปมงคลทั้งหลายในเคหสถานบ้านเรือนอีกด้วย บ้านใครมากอาถรรพ์เจ้าที่เฮี้ยนเป็นมิจฉาทิฏหรือโดนเทวดาเกเรรังแกภูติผีเกเรเบียดเบียน พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ครุฑท่านกระพือปีกหนเดียวอัปรีย์จัญไรทั้งเดรัจฉานวิชาแลผู้ปองร้ายเราทั้งหลายไม่ว่าจะมนุษย์หรืออมนุษย์ก็ดีย่อมแพ้พ่ายกระจัดกระจายสิ้น

สิงห์ราชาผู้เป็นเจ้าโลก
ไกรสรราชสีห์คือราชสีห์ที่มีฤทธิ์สูงสุด มีอำนาจมากที่สุดกว่าราชสีห์ตระกูลอื่นทั้งหมดซ้ำยังเป็นที่เกรงกลัวของเหล่าสัตว์และมนุษย์โดยทั่ว พ่ออาจารย์ว่าวิชาที่ท่านเรียนมานั้นมักกล่าวถึงราชสีห์ว่าเป็นเจ้าแผ่นดินโดยยืนเหยียบโลกไว้ในอุ้งเท้าทั้งสี่ เป็นสัตว์ที่มีอานุภาพมากซ้ำยังมีศักดิ์สูงมีเกียรติยศต่างจากสัตว์อื่นๆและมักจะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์หลายๆประเทศ ทั้งสิงห์ราชายังเป็นยอดของสัตว์ทั้งหลายมีอำนาจเหนือป่าหิมพานต์ด้วยหมู่สัตว์ต่างๆจะเกรงกลัวแม้เสียงคำรามเมื่อได้ยินไม่ตกตายก็สิ้นสติเลยทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านสร้างสิงหราชาขึ้นด้วยท่านว่าพญาราชสีห์นี้ทรงไว้ซึ่งอำนาจบารมี,ตบะบารมี,ศีลบารมี..สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุอันเป็นที่สุดแห่งมหาอำนาจเป็นที่สุดแห่งความเกรงกลัวเช่นนั้นท่านจึงสร้างพญาราชสีห์ขึ้นมาช่วยเสริมอำนาจราชศักดิ์,ตบะ,เดชะหนุนนำคนหนุนนำชะตาชีวิตให้ผู้บูชาได้เป็นเจ้าคนนายคน

พ่ออาจารย์ท่านว่าสิงห์จริงๆนั้นไม่ค่อยจะมีใครเขาสร้างกันสำเร็จนักด้วยมันเป็นราชาของป่า เป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้งหลาย เป็นมหาอำนาจเป็นราชศักดิ์อย่างถึงที่สุดแต่โบราณเขาถึงมีตำราสิงหราชครองโลกบ้าง..สิงหราชเหยียบโลกบ้างดุจใครได้ครอบครองสิงห์ที่ทำขึ้นจากวิชาเหล่านี้เสมอได้โลกทั้งใบเช่นนั้น ด้วยเป็นสัตว์ตระกูลสูงแม้ใครได้เลี้ยงได้พกพาก็จะหนุนนำวาสนาให้ได้มีอำนาจเหนือคน ดั่งกษัตริย์หรือตัวเจ้าตัวนายในรามเกียรติ์ก็จะมีสิงห์เป็นพาหนะเป็นสัตว์บริวารเสมอเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะทำสิงห์อันจะเติมเต็มอำนาจราชศักดิ์เสริมชะตาให้เจ้าของเรียกขานประกาศหาชัยชนะกำราบศัตรู สิงห์ราชาคือตัวตนของความยิ่งใหญ่ที่ไม่หยุดนิ่งเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆพร้อมกับชัยชนะและความสำเร็จที่มากขึ้นกวาดไปทั้งป่าล่าไปทั้งโลกแม้จุดหมายยิ่งใหญ่ปานใดก็โดนสะกดให้ล้มลงให้แตกพ่ายตั้งแต่ยังไม่เริ่มเพราะนี่คือการล่าของสิงห์ราชเจ้าโลก คนที่มีสิงห์ราชาหนุนนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องชื่อเสียง เกียรติยศ ลาภศฤงคารเหล่านี้เขาจะรู้ว่าสิ่งต่างๆล้วนเป็นของตายคือมันจะเข้ามาในรูปแบบไหนมันก็เข้ามาแน่ๆ เราจะเหนือกว่าเด่นกว่าคนอื่นเช่นนั้นดั่งกำชัยชนะไว้เห็นทางเห็นความสำเร็จตั้งแต่ต้น ดุจเอาชัยชนะใส่พานมาประเคนให้ถึงปากถึงมือเลยทีเดียวหนุนกำลังวาสนาหนุนอำนาจตบะเดชะให้ครบสมบูรณ์

ด้วยปกติสิงหราชจะอาศัยซ่อนตัวอยู่ในหลืบในถ้ำแม้จะเก็บตัวเงียบแต่สัตว์ต่างๆก็ยังตื่นกลัวเป็นที่สุด ไม่ว่าจะสัตว์ใดทั้งเทวดาหรือเพชรพญาธรก็ไม่กล้าจะเข้าไปตอแยถึงในถ้ำพระคูหาแม้เสือเจ้าป่าหรือเสือจ่าฝูงและสัตว์ต่างเมื่อเจอสิงหราชยังต้องเผ่นหนีอยู่ห่างๆนั่นเพราะเขาสู้กำลังของสิงหราชไม่ได้ ได้แต่จะคอยชะเง้อมองเป็นแค่บริวารคอยพิทักษ์รักษาความปลอดภัยให้แก่สิงหราชเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือเคล็ดมหาอำนาจของสิงหราชอุปมาดั่งว่าแม้สัตว์เหล่าใดมีตบะมีอำนาจมากมายเพียงใดก็ตามย่อมต้องพ่ายแพ้ต่อราชศักดิ์ของพญาสิงห์นี้ดุจเราคนที่มีสิงหราชอุปถัมภ์ก็เช่นกันท่านว่าบอกได้แค่เพียงต่อไปนั้นคนอื่นย่อมต้องชะเง้อคอคอยมองเราเท่านั้น ทั้งสาปของพญาราชสีห์นั้นจะแรงมากและยังฟุ้งกระจาย แม้เทวดา เพชรพญาธร ผีป่า เจ้าทุ่ง เจ้าเขา เจ้าท่าก็ยังต้องคอยดูแลรักษาสิงหราชนี้ ด้วยคุณวิเศษอันมีมาเฉพาะตัวของสิงหราชอันเป็นสัตว์ตระกูลสูงพ่ออาจารย์ท่านจึงบอกเคล็ดไว้ว่าสิงหราชที่ทำวิชาถูกต้องนั้นแม้พกหนังเสือเขี้ยวเสือหน้าผากเสือก็ยังไม่เป็นมหาอำนาจเทียบเท่ากับพญาสิงห์เพราะใช้ได้ทางเพิ่มทั้งมหาอำนาจและหนุนส่งบารมีให้กับผู้เป็นเจ้านายแบบลูกโดดดังนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำวิชาสิงหราชครองโลก..สิงหราชเหยียบโลก..สิงหราชครองเมือง..สิงหราชเชิญธง..สิงหราชตะปบเหยื่อและวิชาตระกูลสิงหราชเฉพาะทั้งร้อยแปดตัวผูกไว้ในตัวสิงหราชา ท่านว่าสิงหราชที่เราทำนี้เป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจกลืนโลกไม่ว่าจะสิ่งมีชีวิตใดทั้งอยู่ในป่าอยู่บนดินอยู่บนฟ้าอยู่ในน้ำ หรือต่อให้ขุดรูอยู่เมื่อขึ้นชื่อว่าอยู่ในโลกไม่ว่าจะที่ไหนหรือมิติไหนก็ยังต้องยอมสยบ ด้วยเขามีบารมีโดดเด่นเป็นที่เคารพยำเกรงทั้งมีฤทธิ์เลิศช่วยเราดับทุกข์ภัยเหตุการณ์เลวร้ายได้ชงัดนัก ท่านว่าทำให้บริบูรณ์ทั้งหมดสุดแต่จะเอาไปใช้กันแม้ถามหาโชคลาภก็ดุจมีคนเอามาป้อนให้ถึงปากทั้งลงมหากันแก้สารพัดเหตุการณ์ ทั้งกำบังภัยมองไม่เห็นตัว ทั้งแปลงภาคแบ่งรูปแม้ใครประทุษร้ายก็จะเห็นเป็นหลายคนเช่นนั้น

สิงห์ราชาเป็นตัวล่าเหยื่อออกตระเวนหาเหยื่อทุกท้องที่ท่านว่าอันราชสีห์ล่าเหยื่อนี้ทำยากกว่าสิงห์ทุกชนิดเพราะต้องเสกลงอาการอธิษฐานให้ตื่นตัวพร้อมล่าตลอดเวลาดั่งราชสีห์เจ้าโลกผู้สยบโลกไว้ใต้ฝ่าเท้า แม้ใครได้พบเจอจะส่งเสริมสิริมงคลให้เจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ โชคลาภหลั่งไหลทำมาค้าขึ้นดี เป็นมหาอำนาจแคล้วคลาดปลอดภัย แก้ดวงตกเสริมดวงโชคชะตาให้รุ่งโรจน์ แม้ได้บูชาจะมีอำนาจมากนักเปี่ยมด้วยตบะเดชะเป็นมหาปราบกำราบสิ่งชั่วร้ายได้สิ้น สิ่งลึกลับต่างๆทั้งภูติผีแลคุณไสยสิบสองชาติภาษาย่อมไม่สามารถทำอะไรได้เลยเป็นทั้งเมตตามหาเสน่ห์มีอำนาจในการสะกดใจคน กันรังควาน ปัดเสนียดการกลั่นแกล้งทุกประการ...อันพรรณคุณพิเศษของสิงห์ราชานี้เหมาะและเข้ากับยุคสมัยคนที่ใช้แม้เสมอตัวแค่ห้อยอาราธนาหากเป็นคนประเภทอยู่นิ่งๆไม่ทำอะไรรอแต่ความสบายวิ่งเข้ามาให้ถึงปากเขาก็จะล่าและทำให้สิ่งต่างๆสำเร็จได้ไวขึ้น .....แต่หากมีอุปนิสัยในการแสวงหามีจิตใจที่อยากจะยิ่งใหญ่อยากจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปไม่ติดอยู่ในวังวนและสถานที่เดิมๆเขาก็จะยิ่งแรงและให้คุณรวดเร็วมากขึ้นเพราะทำอะไรล่าอะไรก็ได้ไปหมด อะไรที่เป็นความสำเร็จเป็นทางที่เราอยากจะเดินไปให้ถึงย่อมใช้ล่าได้ทั้งสิ้น..ทั้งล่างาน..ล่าผลงาน..ล่าสาว..ล่าความรัก..ล่าเกียรติยศ..ล่าโชค..ล่าวาสนา ท่านว่าขอให้ใจอยากล่าไม่ว่าเรื่องใดย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น

หัวใจพญาธรรมิกราช
พ่ออาจารย์ท่านกำหนดพิมพ์ชัดเจนด้วยครุฑราชและสิงห์ราชาทั้งด้านหลังท่านยังนำแผ่นทองแดงมาลงหัวใจพญาธรรมิกราชไว้ในขนาดเท่าหลอดกาแฟเพื่ออุดมวลสารศักดิ์สิทธิ์แต่ครั้งต้นกรุงของสองพี่น้องปฐมบรมวงศ์อันประเสริฐ ด้วยพญาธรรมิกราชคือเจ้าแห่งธรรมผู้ควบคุมกลไกและวาระการเกิดของเหล่าศาสดาทั้งหลายในห้วงมหาจักรวาลทั้งมวล พระองค์คือผู้ค้นพบและเข้าถึงธรรมอันเป็นที่สุดมีหน้าที่ปฏิสัมพันธ์พิเศษกับมนุษย์ด้วยต้องคอยดูแลรักษาปกป้องสุจริตชนให้เดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้องดีงาม

ตะกรุดนี้สำคัญนักที่พ่ออาจารย์ท่านเลือกใช้หัวใจพญาธรรมิกราชมาห่อยอดมวลสารไว้ด้วยว่าพญาธรรมิกราชย่อมเป็นที่พึ่งได้ยามเดือดเนื้อร้อนใจ เมื่อกาลอันจะเกิดทุกข์เข็ญซึ่งได้ปรากฏนั้นพระองค์คือบุคคลเดียวที่จะปรากฏขึ้นเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ ช่วยให้รอด ช่วยนำออกจากเหตุการณ์ทั้งหลายที่มันเลวร้ายและวิปริตผิดธรรมชาติซึ่งแท้จริงแล้วพระองค์ได้ปรากฏอยู่เสมอคอยสอดส่องไปทั่วแม้ในมวลอากาศ ด้วยปัจจุบันนั้นโลกได้เสื่อมโทรมลงมากพ่ออาจารย์ท่านจึงลงหัวใจพญาธรรมิกราชไว้โดยถือคติว่าพระเวทย์และพระธรรมของพระองค์นั้นได้รวมตัวกันครบถ้วนบริบูรณ์แล้วเมื่อหัวใจปรากฏขึ้นย่อมดุจพญาธรรมิกราชปรากฏเช่นกันจะช่วยปลดเปลื้องทุกข์ยากและพันธนาการทั้งหลายแก่ศิษย์ผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง พญาธรรมิกราชมีหน้าที่คือปลดเปลื้องยุคเข็ญเป็นทางรอดที่มนุษย์จะพึ่งโพธิสมภารของพระองค์ท่าน ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถือเป็นเงื่อนไขที่สมบูรณ์ด้วยในปัจจุบันนั้นยังไม่ถึงเวลาที่พระองค์จะลงมาช่วยสัตว์ทั้งหลาย เช่นนั้นจึงจำต้องโปรดเฉพาะบุคคลที่ระลึกถึงท่านและมีบุญมีพันธะสัญญากัน ทั้งชนทั้งหลายก็ยังไม่รู้จักท่านเพราะเทพเจ้านั้นยังปิดบังซ่อนชื่อของท่านเอาไว้อยู่ด้วยหมายใจจะให้มนุษย์รับเคราะห์กรรมในสิ่งที่ตนเองได้กระทำให้รู้จักความทุกข์ยากลำบากเสียก่อน

เช่นนั้นท่านจึงได้ลงหัวใจพญาธรรมิกราชไว้ให้เฉพาะบุคคลที่มีศรัทธาด้วยท่านมีหน้าที่โดยตรงในการพามนุษย์ออกจากยุคเข็ญและความทุกข์ยากต่างๆในกฏของวัฏสงสาร ซ้ำแม้ในทางธรรมก็มีความเชื่อสืบต่อกันมาว่าแม้ใครได้พบพระยาธรรมิกราชเพียงครั้งเดียวก็ย่อมบรรลุธรรมในระดับอริยบุคคลได้ ที่เราลงหัวใจเชิญพระองค์มานั้นก็เพื่อหวังตัดความทุกข์ทางโลกให้ผู้บูชามีครบทั้งทางโลกและทางธรรม

ทั้งสามสิ่งอันรวมกันเป็นเหรียญหล่อเจ้าฟ้า,เจ้าโลก,เจ้ามหาชีวิตทรงอภิบุญญานั้นหนึ่งคือราชครุฑ..สองคือสิงห์ราชา..สามคือหัวใจพญาธรรมิกราชหากแยกกันก็แล้วไปแต่สามอย่างนี้เมื่อนำมาร่วมกันย่อมเป็นอาถรรพ์ของเจ้าโลก..เจ้าฟ้า..เจ้าแผ่นดิน..เจ้าแห่งพระเวทย์พระธรรมสรรพวิญญาณ พ่ออาจารย์ท่านพูดเป็นปริศนาถึงอาถรรพ์เหรียญนี้ว่า ### จอมครุฑเป็นดั่งตั้วแทนมหาราชาผู้เป็นต้นวงศ์กษัตริย์ทั้งหลายสืบมา ..สิงห์ราชาแทนตัวท่านผู้น้องอันเกรียงไกรผู้เป็นดั่งจอมคนลงมาปราบยุคเข็ญ เมื่อดำเนินการณ์หล่อนั้นท่านไม่อนุญาติให้ใช้ตะกั่วลงถมหล่อเหรียญนี้หากต้องใช้เฉพาะกายสิทธิ์ธาตุอันได้แก่เหล่าวัชรธาตุและหยาดน้ำฟ้าทวาราวดีมาหล่อขึ้นรูปเท่านั้น ด้วยทั้งครุฑองค์ต้น,สิงห์ราชาแลพญาธรรมิกราชล้วนเป็นกายสิทธิ์เป็นอมตะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์วัฏจักรท่านจึงประสงค์ให้หล่อท่านด้วยธาตุอันเป็นกายสิทธิ์เช่นกันเพื่อจะได้รองรับพลังได้เต็มที่ ด้านบนนั้นพ่ออาจารย์ท่านฝังตะกรุดเงินที่ลงหัวใจจักรพรรดิ์แยกเสกอัญเชิญบารมีไว้เต็มสูตรจะได้นำมาซึ่งวาสนาดั่งชะตาพญาจักรพรรดิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งเหล่านี้ก็สมแก่นามตราเจ้าฟ้า,เจ้าโลก,เจ้ามหาชีวิตแล้ว

เหนือสิ่งอื่นใดคือเหรียญนี้เอาไว้อาราธนาขอพึ่งบารมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่เป็นตัวแทนฟ้าดินและพระเวทย์พระธรรมได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันสำคัญก็ตรงนี้เวลาเราทำอะไรแล้วบารมีเราไม่พอทำให้ไปต่อไม่ได้ไม่สุดมันก็จบลงแค่นั้น ที่ภาษาง่ายๆเรียกว่าพังที่นี้ "ทรงอภิบุญญา" ก็คือทรงบารมีเอาบารมีของเจ้าฟ้าเจ้าโลกเจ้าสรรพสิ่งทั้งสามมาหนุนเนื่องในตัวเรายามที่เราขาดต้องพึ่งต้องใช้ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องเอ่ยปากหยิบยืมเลยขอให้มีเหรียญนี้ติดตัวจะทำอะไรที่เกินเนื้อเกินตัวเพื่อเป้าหมายชีวิตในยามสังคมเป็นเช่นทุกวันนี้ท่านว่าลุยทำไปเดินหน้าได้เต็มที่ ไม่มีที่ว่าบุญหมดบารมีเราไม่ถึงเป้า ท่านว่าเหรียญนี้มีอาถรรพ์มากอุปมาว่าแม้บ้านเมืองไม่ใช่ของเราก็ยังยึดครองมาโดยชอบธรรมได้สิ่งอื่นใดก็ดีหากเราปรารถนาแล้วย่อมเป็นไปได้ทั้งสิ้น

คาถาบูชา
โอม นะโม วิโลโค วิลูคะรีนะตีอูรู นะมัตเตร ฮีเรคารัมมาตู ขอบารมีองค์ครุฑราช
โวมะถัง ปะกาเสนโต สะถะอาหะ พระยาราชสีโห เชชะนะอาสิทิเสตถัง อาหะเตชะนา อะปัณณะอาสิติ ขอบารมีสิงห์ราชา

*** พ่ออาจารย์ท่านว่าของสิ่งนี้ต้องใช้บารมีเพื่อพบเจอนะ และชีวิตก็ต้องสร้างโอกาสในการไขว่คว้าให้ตัวเองด้วย ด้วยเป็นตราบุญบัญญัติอันจะนำพามาซึ่งศุภมงคลในทุกกาลสมัย ท่านว่าให้อาราธนาติดตัวไว้ดั่งสมบัติเป้นของที่เกิดมาเพื่อเป็นคู่บารมี เป็นทรัพย์คู่ชีวิตของเรา(ปกติพ่ออาจารย์ท่านไม่เคยพูดเช่นนี้เลยท่านว่าตายไปเกิดใหม่ก็หาของอาถรรพ์สูงแบบนี้ไม่ได้) ### ท่านย้ำว่าไม่ให้พูดถึงในประการทั้งปวงให้รู้ไว้เพียงเท่านี้ว่ามวลสารสำคัญสองสิ่งอันเกี่ยวเนื่องกับยอดคนสองพี่น้องอยู่ในนี้ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าไม่ใช่ใครมีเงินและจะใช้ได้หากแต่ยังต้องมีโอกาสและมีบารมีมากพอดลให้ชะตาและเวลาสมดุลย์กันจึงจะได้พบเจอณ.กาลบัดนี้

ร่วมทำบุญบูชา ตราบุญบัญญัติเจ้าฟ้า,เจ้าโลก,เจ้ามหาชีวิตทรงอภิบุญญา (ล่อแรงเล่นหนัก) บูชา 4,000 บาท

​

 

*** ตกไปอีกเรื่องหนึ่งคือรายการนี้ให้แจ้งวันเดือนปีเกิดรวมไปถึงเป้าหมายหลักๆใหญ่ๆที่ยากที่สุดของชีวิตแต่ละท่านไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะลงเหล็กจารคาถาขอบารมีสงเคราะห์เป็นรายบุคคลไป ย้ำว่าเอาเป็นเรื่องที่หนักและยากที่สุดแบบที่เป็นเป้าหมายหลักใหญ่ของชีวิตที่ต้องการบรรลุให้ได้

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้อย่าลืมทำบุญเนื่องในวันมาฆบูชากันนะครับ ทำบุญตามกาลมีอานิสงส์มากเป็นมงคลอย่างยิ่ง

 

การอาบน้ำมนต์​

เมื่อได้รับน้ำมนต์จากที่ต่างๆมาเช่นวัดหรือศาลเจ้าควรตั้งหน้าหิ้งพระและสวดมนต์เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ที่ครูบาอาจารย์แต่ละท่านได้อธิษฐานจิตไว้ เพราะน้ำเป็นธาตุหนึ่งในสี่ธาตุของโลกย่อมเสื่อมสภาพเป็นน้ำธรรมดาดังเดิม เมื่อต้องการจะนำมาอาบด้วยตนเองให้เอาน้ำมนต์ใส่ลงในน้ำแต่อย่าเอาน้ำธรรมดามาเติมลงในน้ำมนต์ การอาบน้ำมนต์ด้วยตนเองได้รับการถ่ายทอดมาจาก หลวงปู่อินทร์ อินทโชโต วัดเกาะหงษ์ นครสวรรค์ มีดังนี้

ท่านให้อาบ ๒ วัน วันแรกตอนที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตก ยกถังใส่น้ำค่อนถังเติมน้ำมนต์ลงไป จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย บิดามารดาครูบาอาจารย์ดังนี้

“ข้าพเจ้า ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือ ขอให้ประสิทธิ์แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะอาบน้ำมนต์ในวันเวลาวันนี้ ขอให้ทุกข์โศกโรคภัยเคราะห์อุบาทว์เสนียดจัญไรทั้งหลายของข้าพเจ้า จงตกไปพร้อมกับตะวัน ขอความปรารถนาของข้าพเจ้าจงสำเร็จด้วยเทอญ”
เวลาอาบน้ำมนต์ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก แล้วอาบให้หมดถัง

ในวันรุ่งขึ้นให้อาบอีกครั้งก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นยกถังใส่น้ำค่อนถังเติมน้ำมนต์ลงไป จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยบิดามารดาครูบาอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์อธิฐานดังนี้

“ข้าพเจ้า ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือ ขอให้ชะตาชีวิตของข้าพเจ้าจงรุ่งเรีองสดใสดังตะวันที่ขึ้นมาวันนี้ด้วยเถิด ขอความปรารถนาของข้าพเจ้าจงสำเร็จด้วยเทอญ”

เวลาอาบน้ำมนต์ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ให้ดูวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งปราศจากเมฆหมอกบดบังดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นมา แล้วอาบน้ำมนต์ให้หมดถังทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความตั้งใจมั่นของแต่ละท่าน เพื่อจะได้เป็นกำลังใจและขจัดปัดเป่าอุปสรรคให้บรรเทาเบาบางลงไปเราทั้งหลายยังเป็นโลกียบุคคลอยู่สิ่งนี้เป็นโลกียวิชาจะยังผลสำเร็จแก่เราได้ในระดับหนึ่ง

พรมน้ำมนต์เคหะสถาน
แม้เคหะสถานบ้านเรือนที่เราอาศัยอยู่จะอยู่นานแล้วหรือเพิ่งจะอาศัยอยู่ เอาน้ำมนต์ใส่ขันจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อธิษฐานว่า

“ข้าพเจ้า ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือ เจ้าที่ที่ข้าพเจ้าพักอาศัย ขอให้มาประสิทธิ์แก่ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าจะพรมน้ำมนต์เคหะสถานบ้านเรือนแห่งนี้ ขอให้สิ่งไม่ดีทั้งหลายให้ออกไปจากบ้านของข้าพเจ้า ขอความปรารถนาของข้าพเจ้า จงสำเร็จ”

แล้วพรมน้ำมนต์จากหลังบ้านออกไปหน้าบ้าน และพรมจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้าน พร้อมกับอธิษฐานอาราธนาบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวข้างต้นว่า “……… ขอให้มาประสิทธิ์แก่ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าจะประพรมน้ำมนต์เคหะสถานบ้านเรือนแห่งนี้ ขอให้ข้าวของ เงิน ทอง โชคลาภ ความสุข ความเจริญ จงเข้ามาสู่บ้านที่ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ด้วยเทอญ”

แนะนำน้ำมนต์ที่อาบแล้วหมดเสนียดเจริญรุ่งเรืองทันตาคือน้ำล้างเท้าพ่อ-แม่ทำให้ได้ดังนี้ก็จะบังเกิดเป็นสิริมงคลแก่บ้านที่เราอยู่อาศัยดีนักแล

​

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

พอดีเห็นมีสอบถามขอบูชารักยมกันมา ยังไม่มีของนะครับถ้ามีอะไรเดี๋ยวจะอัพเดทให้หน้ากะทู้อีกทีนึง

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่ธวัช ED 6474 6419 2 TH

พี่บุญชนะ ED 6474 6420 1 TH

พี่ณธพรหม ED 6474 6421 5 TH

พี่กฤตยชญ์ ED 6474 6422 9 TH

พี่ธีรนนท์ ED 6474 6423 2 TH

 

พูดคุยรอบเช้า​

วันนี้ก็จะมาพูดกันเรื่องเลี่ยมพระเพราะเห็นจะเป็นปัญหาคาราคาซังมายาวนาน บางคนส่งมาเลี่ยมก็เลี่ยมให้บ้างไม่ได้เลี่ยมบ้าง ทีนี้ใครที่คืนเงินไปก็จะน้อยใจว่าหนนี้ทำไมเลี่ยมให้พี่ไม่ได้

ยกตัวอย่างกรณีเมื่อวาน ผมลองมานั่งตั้งสติแล้วคิดๆดูก็เลยรู้อะไรหลายๆอย่าง เริ่มจากแต่เช้าที่จะเอาพระไปเลี่ยมให้คนที่ฝากๆกันมา ช่างเค้าก็บอกว่าป่วยขาบวมรักษาอยู่โรงพยาบาลให้รอก่อน ทีนี้ผมก็นั่งรอเพราะกะจะเลี่ยมเสร็จแล้วเลยไปส่งของด้วย นั่งรออยู่สามชั่วโมงจนเห็นว่ามันควรแก่เวลาแล้วเพราะเราโทรไปแปดสายแต่ทางนั้นเค้าไม่รับเลยเค้าว่าให้รอเค้าเปิดร้านแล้วจะโทรบอก ผมรออยู่สามชั่วโมงเพราะออกมาแล้วก็ต้องหาที่นั่งเล่นรอไปแต่ทีนี้ปัญหาคือเค้าไม่รับสายผมเลย ก็ยังคิดเป็นห่วงว่าเขาป่วยกะจะซื้อของกินไปเยี่ยมเขาหน่อยเลยตัดสินใจนั่งรถไปร้านเค้าเลย ปรากฏว่าเจอตัวเขาเปิดร้านนั่งเลี่ยมพระปกติ
*** ที่บอกเราว่าป่วยอยู่โรงพยาบาลคือเค้าโกหก ที่บอกเราว่าเปิดร้านแล้วจะโทรหาปล่อยให้เรารอนานๆสามชั่วโมงเราโทรไปแปดรอบเขาก็ไม่รับ ผมเลยเอาโทรศัพท์มายืนโทรหน้าร้านเค้าก็เห็นหยิบขึ้นมาดูแต่ไม่รับสาย เท่านั้นแหละผมพอแล้วกลับเลยเอาไปส่งทั้งที่ยังไม่ได้เลี่ยมตามที่ฝากๆกัน

เพราะหลังๆผมรู้สึกว่าร้านเลี่ยมมีปัญหาโทรไปบอกแต่ปิดร้านบ้างไม่อยากเลี่ยมให้บ้าง ก็เลยมานั่งคิดๆดูจึงเข้าใจว่าที่ผ่านๆมาเขาพยายามพูดให้ผมมาแจ้งในกระทู้ขึ้นราคาค่าเลี่ยมพระให้เค้า ปกติตอนสมัยเขาไม่ค่อยมีงานเคยตกลงกันไว้ว่าให้เลี่ยมเหมาราคาเดียวที่หนึ่งร้อยบาทไม่ว่าใหญ่รึเล็ก แต่หลังๆนี่เค้าบ่นตลอดว่าราคานี้ไม่ได้ที่อื่นเค้าเลี่ยมกันองค์ละสองสามร้อยบางองค์ก็สี่ห้าร้อย

ผมมานั่งนึกย้อนดูคือทางร้านพูดบ่อยจริง แต่ผมก็เคยบอกเค้าว่าน่าจะขึ้นไม่ได้หรอกเพราะผมเกรงใจคนที่เค้าฝากมาและที่สำคัญที่สุดคืองานที่เลี่ยมของพี่มันไม่ได้ดีเหมือนคนอื่น ผมก็เคยบอกเขาเอางานที่อื่นให้ดูว่าสองสามร้อยเนี่ยงานเค้าสวยมากเค้าเลี่ยมกันใสไม่มีรอยน้ำยาเอาว่างานคุณภาพ แต่ของร้านนี้คือเลี่ยมแค่พอห้อยได้ไม่ได้เน้นฝีมือเลยจะไปเอาราคาตามเค้ามันไม่ได้ ผมอธิบายเค้าไปหลายรอบเวลาขอขึ้นราคา

แล้วก็รู้สึกว่าหลังๆเริ่มจะมีปัญหาจนเราคิดว่านี่เค้าทำงานจริงมั๊ยเราเอางานไปให้แต่เค้าดูไม่ว่างไม่อยากทำ เหมือนจะบีบๆให้เรามาขึ้นราคาทางนี้ให้บวกค่าเลี่ยมเพิ่มบ้างบวกค่ารถบ้างจนเมื่อวานนี้รู้เลยว่าเขาบีบเราเพราะหลังจากผมเอาของไปส่งแล้วบ่ายสองเค้าเพิ่งโทรมาว่าเพิ่งเปิดร้าน เพราะเค้าไม่รู้ว่าเราไปดูตั้งแต่เที่ยงพี่เขาเปิดนั่งเล่นนั่งชิวกับแก๊งเขานานแล้ว คือเขาไม่รู้ว่าเราเห็นและเราก็ดูออกแล้วว่ามันมีปัญหานะทำแบบนี้

หลายๆคนที่ฝากเลี่ยมบางทีก็ได้เลี่ยมบางทีก็ไม่ได้เลี่ยมมันมีอยู่สองเหตุผลนะ คือฝากมาบางครั้งผมนั่งรอยอดมันก็มีคนฝากเลี่ยมอยู่องค์สององค์ไม่มีมาเพิ่ม แบบนี้ผมก็คืนเงินไม่เอาไปเลี่ยมให้เพราะค่ารถไปกลับมันก็สองร้อยกว่าบาทแล้วยังแพงกว่าค่าเลี่ยมเสียอีก กับอีกกรณีหนึ่งก็คือร้านบ่ายเบี่ยงไม่ว่างไม่เปิดจะให้เราขึ้นราคาให้เขานี่แหละ แต่ครั้งเมื่อวานนี่ผมเหลืออดจริงๆเพราะมันเสียเวลาผมต้องไปนั่งรอคือเราออกมาแล้วอยู่ดีๆโทรมาบอกว่าไม่ว่างป่วยอยู่โรงพยาบาลทั้งที่จริงร้านเค้าเปิดปกติ นี่คือเราต้องนั่งโง่ๆไปสามชั่วโมง

ก็อยากจะให้หลายๆคนที่ฝากเลี่ยมได้คิดกันบ้าง ว่าที่ส่งเงินคืนไปไม่ใช่ผมจะมีปัญหาขี้เกียจเอาไปเลี่ยมให้ท่าน แต่ผมพยายามแล้วถ้าคุณเคยเลี่ยมพระน่าจะรู้ว่าองค์นึงรอกี่ชั่วโมงแล้วถ้ามีคิวก่อนหน้าอีกล่ะ คือมีฝากเลี่ยมพระทีไรเหมือนผลาญเวลาเล่นไปวันๆนึงแต่นี่ก็รอให้จนตอนนี้รู้สึกเหนื่อยและเครียดเพราะไม่ได้คิดว่าจะโดนเขาปั่นหัวมาแบบนี้

*** ดังนั้นในกรณีเลี่ยมพระนี่ขอพูดชัดๆไว้เลยนะครับแม้ตัวผมเองผมยังเอาไปใส่กรอบสแตนเลสที่ท่าพระจันทร์เพราะหลังๆผมไม่โอเคกับงานเขาที่ทำลวกๆชุ่ยๆและบางองค์ยิงน้ำยาพลาดบ่อยต้องแก้หลายรอบคือพลาสติกเนี่ยถ้าเลี่ยมมาไม่ใสและแก้บ่อยมันดูเสียของไปเลยนะ ผมเลยใส่ตลับเลสไปเลยถูกกว่ากันมาก ### ทีนี้คนที่ฝากเลี่ยมไว้ผมก็จะเอาไปเลี่ยมให้แค่จังหวะที่เค้าไม่งี่เง่านะครับเอาว่ายังทำให้เหมือนเดิมแต่มาอธิบายให้เข้าใจกันก่อนที่เห็นส่งเงินคืนไม่ใช่ผมไม่ทำหน้าที่ของผมนะ คือผมทำแล้วนั่งรอแล้วโทรไปหลายๆรอบก็แล้วแต่ก็นะอย่าไปเพิ่มเงินเลยครับถ้าจะขนาดนี้ ถ้าจะเอาราคาแบบนี้พี่ๆไปหาร้านดีๆที่เลี่ยมใสๆสวยๆทำดีกว่า ที่ฝากเลี่ยมกันมาผมก็ยังยืนยันราคาเดิมให้แต่จะได้เลี่ยมหรือเปล่าก็ดูกันลุ้นกันที่ช่างอีกที เพราะหลังๆโควิดมานี่ผมเพิ่งมานั่งคิดว่าเค้ามีปัญหาจะบีบเราให้ขึ้นเงินตลอดก็เอาตามนี้นะครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เดี๋ยวเย็นนี้ติดตามพูดคุยกันนะครับ จะมีของชุดพิเศษที่ต้องใช้ประกอบกับ...เรียกว่าเป็นชุดหนึ่งชุดมีสองชิ้น นานๆทีถึงจะมีของเป็นชุดๆออกมาติดตามกันดีๆ

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่วุฒิชัย ED 6474 6712 3 TH

พี่ประดิทรรศน์ ED 6474 6713 7 TH

พี่พรหมพล ED 6474 6714 5 TH

พี่คณพศ ED 6474 6715 4 TH

พี่พรเทพ ED 6474 6716 8 TH

พี่พิสุทธิ์ ED 6474 6717 1 TH

พี่ศิระ ED 6474 6718 5 TH

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เย็นนี้ติดตามกันดีๆนะ

 

ฝากคำถาม PM ไว้นะครับ

 

ร่วมทำบุญบูชา มงคลกายทิพย์สงเคราะห์อุปถัมภ์ชะตาบารมีท่านย่าวิสาขานิมมานรดี(กามคุณเนรมิต)

มงคลกายทิพย์นั้นเป็นการลงตะกรุดรูปท่านย่าวิสาขาพร้อมกับหัวใจคาถาเฉพาะของท่านเพื่อยืมกำลังบารมีมาสงเคราะห์คน พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาการทำตะกรุดอาบน้ำว่านยาคือแช่ลงในน้ำว่านและเสกให้สำเร็จซึ่งน้ำว่านนี้ท่านเรียกว่ายากามคุณเนรมิต...ด้วยอาศัยว่านางวิสาขามหาอุบาสิกานั้นมีบุญยิ่งใหญ่ได้บรรลุโสดาบันตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ เมื่อทำลายธาตุขันธ์ไปแล้วจึงได้เอากำเนิดเป็นชายาของท้าวสุนิมมิตผู้เป็นเทวราชปกครองสวรรค์ชั้นนิมมานรดี

พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยอาศัยกำลังแห่งมหาทานทั้งวาสนามหากุศลทั้งหลายที่ท่านย่าวิสาขาได้กระทำไว้ต่อพระพุทธองค์ ทำให้พระนางมีฤทธิ์และมีความเป็นทิพย์เหนือล้ำกว่าเทพเจ้าทั้งหลายในนิมมานรดี เรียกว่าเหนือกว่าแม้กระทั่งท้าวสุนิมมิตผู้จอมภพเสียเองทั้งศักดิ์พระชายาแห่งท้าวสุนิมมิตก็ดุจว่าท่านย่าเป็นจอมภพแห่งนิมมานรดีเช่นกันเช่นนั้นกำลังความเป็นทิพย์และฤทธานุภาพเฉพาะของเทพเจ้าแห่งนิมมานรดีนี้ ท่านย่าวิสาขาย่อมมีและเก่งเหนือผู้อื่น

ปกติวิสัยแห่งเทพเจ้านิมมานรดีนั้นย่อมกระทำความปรารถนาในกามคุณให้เติมเต็มได้ดั่งใจต้องการ "เรียกว่าอยากได้สิ่งใด..ก็ทำให้สำเร็จได้เองไม่ต้องพึ่งใคร" จะปรารถนาสิ่งใดให้เสมอใจ..ให้เท่ากับความพึงใจพอใจของตนก็นิรมิตเนรมิตเอาได้ทุกสิ่งตามที่ปรารถนา..เนรมิตมาเพื่อสนองความต้องการความอยากได้ต้องประสงค์อันพึงมีของตน นี่คืออำนาจฤทธิ์พิเศษของเทพเจ้านิมมานรดีอันแตกต่างแปลกแยกกับเทพในจาตุมหาราชิกา,ดาวดึงส์,ยามา,ดุสิต...เรียกว่าแม้กระทั้งเทพเจ้าแห่งปรนิมิตวสวัตตีหากอยากได้อะไรยังต้องให้เทพเจ้าแห่งนิมมานรดีเนรมิตให้ ทั้งอำนาจแห่งเทพเจ้านิมมานรดีนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังสรรเสริญว่าเต็มอิ่มในกามคุณ แม้ปรารถนาอยากได้อะไร..มีความใคร่จะเสพย์กามคุณอย่างใด..ทั้งรูปเสียงกลิ่นรสอันพิลาสเลิศล้ำประณีตที่สุดในแสนโกฏิจักรวาล...ปรารถนาอันมิอาจหาสิ่งที่ต้องการซึ่งเกิดได้เองโดยธรรมชาติเพราะเขาจะต้องการสิ่งที่ดีที่สุด..งามที่สุด..เป็นเลิศที่สุดมาสนองความอยากของเขา ก็นั่นแหละด้วยฤทธานุภาพอำนาจเฉพาะแห่งเทพเจ้านิมมานรดีนั้นจึงได้เนรมิตทุกสิ่งได้เสมอใจเพื่อมาตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ของตนเอง อะไรขึ้นชื่อว่าเป็นกามคุณเป็นเรื่องทางโลกโลกียะทั้งสุข,สมบัติ,ความสนุกสนานเพลิดเพลินอารมณ์,ความสุขสมหวัง,ความเต็มความอิ่มในกามคุณทั้งห้าขอเพียงปรารถนาย่อมได้เพลิดเพลินในห้วงกาลแห่งการเติมเต็ม เทพเจ้าเหล่านี้แม้ไร้คู่ก็ยังเนรมิตคู่ครองขึ้นมาเองได้เมื่อเพลิดเพลินสมใจแล้วธาตุเนรมิตนั้นจึงจะหายไป

อาศัยว่าท่านย่าวิสาขาเป็นดุจประมุขแห่งนิมมานรดีจึงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในการเนรมิตสิ่งอันพึงใจอันต้องประสงค์ได้ทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นอำนาจเฉพาะตัวนะ อย่างที่เราบอกว่าแม้เทพเจ้าอื่นๆในสวรรค์จาตุมหาราชดาวดึงสายามาดุสิต..จนถึงปรนิมก็ทำไม่ได้ ชั้นอื่นๆเขาต้องอาศัยผลบุญผลกรรมตามกำลังวาสนาแต่ของท่านยาวิสาขานี่อยากได้อะไรก็เกิดขึ้นเลยเป็นอาญาสิทธิ์ของเทพเจ้าแห่งนิมมานรดีนี้ เช่นนั้นการลงตะกรุดเพื่อใช้เป็นมงคลกายทิพย์แทนทิพย์รูป..ทิพย์สมบัติ..ทิพย์บารมีของท่านย่าวิสาขาจึงเป็นสิ่งสำคัญและมีอำนาจมาก

ฤทธานุภาพในมงคลกายทิพย์ท่านย่าวิสาขา
- จะมีกำลังดั่งห้าช้างสาร
- จะนำมาซึ่งความเป็นมงคลทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นอันศรัทธาต่อเรา
- จะบันดาลให้มีคนรักทุกชาติเผ่าพันธ์
- จะทำให้คนเกิดความเอ็นดูดั่งเลือดในอก
- จะเป็นผู้นำแก่ชนทั้งผอง
- จะได้คู่ครองถึงพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติและชาติตระกูล
- จะได้คู่ครองถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ
- จะได้ครอบครองทรัพย์ล้ำค่าที่สุดในหมู่มนุษย์ดั่งที่ตนปรารถนา(ดุจวิสาขาผู้เป็นเจ้าของมหาลดาปสาธน์ เครื่องประดับอันล้ำค่าที่สุดในหมู่มนุษย์อันประกอบขึ้นด้วยทองคำ 1,000 แท่ง,เพชร 4 ทะนาน,แก้วมุกดา 11 ทะนาน,แก้วประพาฬ 20 ทะนาน,แก้วมณี 33 ทะนาน )
- จะได้สำเร็จในสิ่งปรารถนาอันจะเกิดขึ้นอย่างปราณีตมีคุณค่าสูงสุดเหนือชนทั้งหลาย
- จะกลายเป็นผู้มีบริวารมาก
- จะมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดแก้ไขปัญหาได้หมดสิ้น
- จะเข้าใจธรรมได้ง่าย ทำสิ่งที่ยากให้สำเร็จได้
- จะยินดีในการให้ทานทำบุญมีจิตใจใฝ่หาพระธรรม
- จะมีอายุยืนยาวนานกว่าผู้อื่น
- จะได้บุตรหลานมีปัญญา กตัญญูรู้คุณไม่อกตัญญู
- จะสร้างและสืบวงศ์สกุลตนเองให้เจริญได้มั่นคงมั่งคั่งยาวนาน
- จะมีบุญญาภินิหาริย์เสมอด้วยผู้สร้างบารมีมามากชาติมากภพเช่นนางวิสาขา
- จะเปลี่ยนความคิดคนอันประสงค์ร้ายให้กลับมาดีกับตนได้ เปลี่ยนศัตรูกลายเป็นมิตร
- จะทำให้ผองชนมองเห็นว่าเรางามดูมีความงดงามสมวัยไปจนสิ้นอายุขัย
- จะมีอำนาจขจัดอวมงคลทั้งแก่ตน..แก่ชนทั้งหลาย..แก่บ้าน..แก่เรือนอาศัยทั้งปวง
- จะสร้างฐานะตนให้บริบูรณ์ได้สำเร็จ
- จะไม่ขาดในเครื่องอุปโภคบริโภคและจตุปัจจัยทั้งหลาย
- เมื่อปรารถนาจะแสวงหาลาภสักการะใดๆ จะไม่ได้กลับมาตัวเปล่า มือเปล่า

พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือบารมีในมงคลกายทิพย์ท่านย่าวิสาขาของท่าน ด้วยความเป็นมหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่ซึ่งเป็นพระชายาในท้าวสุนิมมิตท่านจึงมีความสามารถที่จะบันดาลได้ทุกอย่างอันเป็นความสุขในสุขคติภูมิ พ่ออาจารย์ท่านว่าอะไรเป็นความสุขของลูกหลานท่านย่าให้ได้ทั้งหมดด้วยท่านมีนิสัยรักลูกหลานทุกคนและจะคอยเฝ้ามองการเจริญเติบโตของลูกหลานทุกคนจนกว่าจะหมดสิ้นอายุขัย เช่นนี้ท่านย่าจึงเป็นผู้ดูแลชั้นยอด(พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนย่าตามใจหลาน..จะเอาอะไรให้ขอท่านย่าวิสาขานี่แหละ..แล้วจะรู้ที่เค้าเรียกว่าย่าโอ๋ลูกโอ๋หลานตัวเองมันเป็นยังไง) ด้วยเป็นนิสัยติดตัวท่านมาตั้งแต่ชาติมนุษย์แล้วที่ท่านรักลูกรักหลานมากๆย่อมดูแลให้บริบูรณ์รุ่งเรืองในทรัพย์สมบัติได้ถ้วนทุกประการ

### หากรู้ตัวเองว่ายังมีความเพลิดเพลินในกามคุณ ยังต้องทำงานแข่งขันกับเวลาชีวิตหลีกเลี่ยงความทุกข์ยากอันเกิดจากความไม่สมบูรณ์ในจตุปัจจัยไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านให้สำรวจตัวถ้ารู้ตัวว่ายังไงตัวเองก็ยังไม่พร้อมคือยังหาเช้ากินค่ำอยู่ ยังต้องกินต้องใช้ต้องการที่อยู่อาศัยและความเจริญทางโลกทั้งปวงนี่ก็ควรจะขอบารมีท่านย่าวิสาขาฝากตัวเป็นลูกเป็นหลานให้ท่านย่าใหญ่ดูแลเสียแต่เนิ่นๆ ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินแก้....จำเอาไว้ว่าท่านย่าวิสาขานั้นได้ชื่อว่าเป็นนางฟ้าใหญ่เป็นเทพเจ้าปราศจากทุกข์คือ ไม่มีความทุกข์ ไม่รู้จักความทุกข์ใดๆอันเกิดจากกามคุณเพราะหลังจากท่านเกิดเป็นชายาในท้าวสุนิมมิตท่านย่าย่อมสมความปรารถนาในทุกสิ่งที่ต้องการ

สายสัมพันธ์
การทำมงคลกายทิพย์บารมีท่านย่าวิสาขานั้นก็เหมือนการเชิญบารมีท่านย่าใหญ่มาให้เป็นที่พึ่งแก่ลูกหลานอันตกอยู่ในความไม่สมหวังสมปรารถนาใช้ชีวิตได้ยากเย็นทั้งหลายนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ง่ายเลยเพราะท่านอยู่สูงมากและต้องเป็นผู้ที่มีภพชาติเคยอาศัยใบบุญเกิดเป็นลูกเป็นหลานเป็นเหลนเป็นบริวารท่านเท่านั้นจึงจะมีโอกาสพบเจอนำไปบูชาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งนี้จะปรากฏขึ้นในสายเลือดคือเราจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าเรามีสายสัมพันธ์กับท่านหรือไม่เมื่อได้ยินชื่อท่านแล้วหากรู้สึกเกิดความอบอุ่น รู้สึกใกล้ชิดดั่งเคารพญาติผู้ใหญ่ รู้สึกปิติดั่งได้เจอผู้สูงส่งที่อยู่ห่างไกลเช่นนี้ ย่อมเรียกว่าเคยมีสายสัมพันธ์เป็นลูกหลานเหลนบริวารที่ได้รับการบำรุงดูแลจากท่านย่า สายสัมพันธ์ตรงนี้ยังตัดกันไม่ขาดจึงได้มีโอกาสมาพบมาเจอเครื่องมงคลในบารมีท่านย่าวิสาขา แต่ถ้าใครรู้สึกเฉยๆไม่มีความผูกพันธ์หรือความอบอุ่นใดๆก่อตัวขึ้นเมื่อเห็นเครื่องมงคลเมื่อได้ยินนามของท่านนั่นคือไม่เคยมีวาสนาร่วมชาติเกื้อกูลกันมาก่อน พ่ออาจารย์ท่านว่าก็นั่นแหละได้เวลาแล้วที่ท่านย่าจะเลือกคนของท่านเอง

ตะกรุดทุกดอกแช่อยู่ในขวดน้ำว่านยากามคุณเนรมิต
การทำน้ำว่านยากามคุณเนรมิตนั้นถ้าจะเอาแบบคำโบราณเรียกก็ต้องเรียกว่าเป็นยาตำรับผีบอกแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วต้องเรียกว่าท่านย่าบอกเราไม่ใช่ผี คือท่านย่าวิสาขาท่านบอกให้หาว่านยาตำรับของท่านมาแช่มากลั่นมาทำเอาน้ำว่านชนิดต่างๆเป็นตำรับลับดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่า "ทำเอาสะใจท่าน(ย่าวิสาขา)เพื่อให้แรงเท่านั้น" เช่นนี้ว่านยากามคุณเนรมิตจึงแรงมากในทีแรกท่านกำหนดไว้เป็นน้ำว่านเพื่อใช้เจิมตะกรุดเวลาจะขอความปรารถนาอะไรก็ให้เอาน้ำว่านนี่เจิมตะกรุดแล้วอธิษฐาน แต่พอทำน้ำว่านยาขึ้นมาจริงๆท่านย่าวิสาขาท่านว่าให้เอาแช่ตะกรุดไปเลยจะแรงกว่าเพราะแช่แบบนี้มันใช้ได้ไม่หมดและยังเป็นอิทธิคุณแฝดว่าเนรมิตความปรารถนาได้ตลอดเวลาไม่มีพักไม่มีหยุด ถ้าต้องเอาแต่มานั่งเจิมทีนึงขอเรื่องนึงไม่ช้าไม่นานน้ำยานั้นก็หมดก็สูญไปสู้แช่ให้ว่านยาซึมซับลงไปทำปฏิกิริยากันตลอดเวลาแบบนี้ไม่ได้

น้ำว่านยากามคุณเนรมิตนี้พ่ออาจารย์ท่านกลัวมากที่สุด ...ด้วยเป็นน้ำยาที่ประสานกับทิพย์มนต์เต็มอัตราตำรับท่านย่าวิสาขาพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าแรงนักและแรงมากถ้าจะเล่นทางเสน่ห์ยังแรงกว่าพวกน้ำมันพรายลนศพพวกนั้นไปไกลมากๆ(แต่ไม่มีมวลสารผีมวลสารพรายเป็นว่านล้วนๆ) เช่นนั้นท่านจึงกลัวคนจะเอาไปใช้ผิดที่ผิดทาง แรกเริ่มนั้นรายการชุดท่านย่าวิสาขานี้ท่านจึงยังไม่ออกให้ใครบูชา ด้วยเกรงมากๆว่าเวลาป้ายน้ำว่านทาตะกรุดอธิษฐานตัวยาจะซึมเข้าเนื้อหนังทำให้คนๆนั้นกลายเป็นที่รักที่เมตตามากเกินไป หรือใครที่เจ้าเล่ห์จะนำไปทานำไปป้ายคนที่ชอบเพื่อใช้ทางสนองตัณหาอารมณ์ตัวเองถ้าเอาไปทำชั่วท่านไม่อยากให้นำไปใช้ จนท่านย่าแนะนำให้เอาตะกรุดมาแช่ในยาท่านจึงให้เอาออกมาเปิดบูชากันได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อไม่สัมผัสโดนเนื้อตัวยอมปลอดภัย ลำพังแค่พกไว้ทั้งยังเอาแช่ลงไปให้อิทธิคุณซึมซับหนุนเนื่องซึ่งกันและกันเท่านี้ก็แรงมากพอแล้ว

พ่ออาจารย์ท่านว่ายานี้มีอานุภาพมาก ...(วันเสาร์จะลงรายละเอียดฉบับเต็มให้นะครับ)

คาถาบูชา
วิสาขาเทวีปูชา ชนาจิตตัง สัจจังปรมังอิติ

*** รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใช้วาสนาสามส่วนบารมีห้าส่วนจึงจะดลมาให้พบเจอให้รู้สึกรักรู้สึกผูกพันธ์กับท่านย่าวิสาขาผู้เป็นจอมภพนิมมานรดีได้ เรียกว่ามีแต่ลูกหลานเหลนและบริวารอันมีสายสัมพันธ์แต่ครั้งก่อนเท่านั้นจะรู้สึกตัวและมาอาราธนาบารมีท่านย่าไปโปรดตัว รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เปิดจองและลงรายละเอียดเพียงคร่าวๆก่อนท่านว่าเป็นเครื่องมงคลกายทิพย์ประเภทสงเคราะห์ชะตาคนอย่างแรงแต่อย่าเพิ่งไปบอกเขามาก เดี๋ยวมันจะเกินกำหนดกรรมจะมีสัตว์อันไม่ได้มีชะตาร่วมกับท่านย่ามาเอาไปใช้จะยุ่งเสียเปล่า เช่นนั้นท่านจึงให้เปิดจองก่อนและลงรายการเพียงคร่าวๆเพราะรายการนี้ท่านว่าทำยากและแรงมากเกินไปเดี๋ยวท่านย่าท่านจะเลือกคนของท่านเอง(ลงรายการให้เรียบร้อยอีกทีวันเสาร์นะครับ)

*** มงคลกายทิพย์ท่านย่าวิสาขานี่พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเอาไปใช้เพื่อเอาดี ทำให้ชีวิตตนประเสริฐเป็นเลิศกว่าสัตว์ทั้งหลาย เปลี่ยนชีวิตตัวเองให้ถึงพร้อมในกามคุณทั้งหลาย เมื่อได้ดีได้สมหวังสมปรารถนาในระดับนึงแล้วตัวหลอดใส่ตะกรุดและว่านยานี้ให้เอาไปเลี่ยมจับทองคำ หรือสั่งทำหลอดทองคำขึ้นมาเพื่อใส่มงคลกายทิพย์ท่านย่าเสีย เอาว่าเราขอเท่าไหร่ได้เท่าไหร่ ถ้าได้สะสมไปเรื่อยๆจนมีเงินพอก็ให้เอาท่านไปเลี่ยมให้ดีให้สมศักดิ์ศรี จะมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นมาเรื่อยๆยิ่งๆขึ้นไป

#### พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าขอก่อนได้ก่อนเมื่อได้สะสมไปหลายๆครั้งในความปรารถนาจนมีทรัพย์สมบัติมากพอไม่เดือดร้อนใดๆแล้วก็นำท่านไปเลี่ยมใส่หลอดทองคำดีๆเสีย

ร่วมทำบุญบูชา มงคลกายทิพย์สงเคราะห์อุปถัมภ์ชะตาบารมีท่านย่าวิสาขานิมมานรดี(กามคุณเนรมิต) บูชา 2,500 บาท

​

 

รายการนี้น้ำว่านยาที่แช่ตะกรุดจะออกสีม่วงเข้มสวยมากๆถ้าได้เลี่ยมใส่หลอดห้อยจะยิ่งสวยนานๆจะมีเครื่องมงคลแบบแช่น้ำว่านอย่างแรงมากๆปบบคูณร้อยออกมา สายท่านย่านี่ถ้าใครพลาดตกรถแน่นอน ปกติจะมีแบบแช่น้ำมันหลายๆรุ่นแช่ว่านยาหนนี้ถือเป็นรุ่นแรกเลยเน้นเอาแรงส่วนแบล๊คกราวภาพผมใช้รูปนางสุชาดานะครับไม่ใช่ท่านย่าวิสาขาพอดีรูปสวยๆท่านหายาก

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เมื่อวานก็มีพี่ที่จองตะกรุดทักมาพูดคุยกันทางไลน์ว่าไม่นึกว่าพ่ออาจารย์ท่านจะสร้าง เพราะเป็นวิชาที่หาคนทำยากและไม่ปรากฏว่าสำนักไหนจะสร้าง พร้อมกับเล่าว่าเมื่อก่อนตอนไปปฏิบัติธรรมแม่วิสาขาท่านเมตตาสงเคราะห์ให้เห็นกับตาเนื้อเลยครับ....

ที่จริงเกี่ยวกับท่านย่าวิสาขานี้หลายคนยังเข้าใจผิด..ยังไม่เข้าใจกันเท่าไหร่บางคนก็คิดแค่ว่าท่านเป็นเศรษฐีสมัยพุทธกาลแต่ไม่ได้รู้ว่าท่านมีบารมีอยู่ระดับเดียวกับอนาถบิณฑิกเศรษฐีทีเดียว นั่นคือบารมีในทางสงเคราะห์คนหมู่มากแต่จะต่างกันที่อุปนิสัยนิดหน่อย อย่างที่พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าท่านย่ารักลูกหลานมากๆขอให้เป็นลูกหลานท่านรับรองว่าสบายไปสิบชาติ

สมัยท่านย่าใหญ่วิสาขานั้นท่านมีบุตรชายหญิงยี่สิบคน แต่ละคนก็แต่งงานมีลูก(หลาน)อีกคนละยี่สิบ เรียกว่าแค่ชั้นหลานก็สี่ร้อยคนแล้วพอหลานสี่ร้อยแต่งงานก็มีลูกอีกคนละยี่สิบเท่ากับว่าท่านย่ามีเหลนอีกแปดพันคน นับเฉพาะลูกหลานเหลนก็แปดพันสี่ร้อยกว่าคนเข้าไปแล้วและท่านย่ายังรักและบำรุงลูกหลานเหลนทุกคนอย่างดี ถ้าไม่ดีจริงแต่ละคนจะแต่งงานมีลูกได้อีกคนละยี่สิบได้อย่างไรนั่นหมายความว่าชีวิตต้องดีขนาดไหนถึงทำได้เช่นนี้ *** ท่านย่ารักลูกหลานมากดั่งเมื่อหลานท่านตายท่านย่าก็โศกเศร้ามากที่สุด เมื่อพระพุทธองค์ทรงถามว่า ดูก่อนวิสาขาในสาวัตถีนี้เธอต้องการบุตรหลานสักกี่คน ท่านย่าก็ตอบทันทีว่า "ข้าพระองค์ต้องการบุตรหลานในพระนครนี้ทั้งหมด" ...หากขึ้นชื่อว่าจะเป็นลูกหลานท่านแล้วไม่ต้องกลัวว่าท่านจะไม่ช่วยเหลือ

เรียกได้ว่าเกิดมามีชีวิตประเสริฐเจ็ดขวบบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน เกิดมาเป็นเบญจกัลยาณีมีกำลังห้าช้างสารสามารถใช้นิ้วมือสองนิ้วจับงวงช้างพลายเหวี่ยงให้ล้มได้ ทั้งยังเป็นผู้สั่งสมบารมีมามากเป็นพิเศษเหนือกว่าเศรษฐีคนอื่นๆด้วยกันท่านย่ามีลูกหลานเหลนแปดพันสี่ร้อยกว่าคน...แต่เชื่อหรือไม่ว่าลูกหลานเหลนแปดพันสี่ร้อยกว่าคนนั้นท่านมีบุญได้เห็นได้เลี้ยงให้เติบโตได้อบรมสั่งสอนครบทุกคน แต่ละคนก็เป็นสกุลเศรษฐีแตกขยายวงศ์สกุลออกไปกับเศรษฐีด้วยกัน อุปมาว่าสมัยนั้นสกุลของท่านย่าวิสาขามีเศรษฐีเกิดขึ้นเพราะการอุปถัมภ์เลี้ยงดูของท่านอีกแปดพันกว่าคนนั่นเอง

เรื่องที่ไม่มีใครรู้ ### เครื่องมงคลในบารมีท่านย่าวิสาขานั้นแท้จริงแล้วสำคัญมากๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยท่านย่าวิสาขายังอยู่ที่ใดก็ดีในชมพูทวีปเมื่อจะทำงานการมงคลต้องเชิญท่านย่าวิสาขาก่อนเช่นนั้นท่านย่าจึงมีกิจธุระในแต่ละวันมากเป็นพิเศษ เรียกว่าสมัยนี้ถ้าจะทำชีวิตทำกิจใดให้เกิดมงคลสูงสุดแก่ตัวเองก็ต้องพึ่งบารมีท่านย่านี่แหละ อย่าลืมนะว่าสมัยนั้นพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่พระอรหันต์ก็มากมายแต่กลับต้องเชิญท่านย่าเป็นการพิเศษเพื่อให้งานมงคลนั้นสัมฤทธิ์ผลนี่คือบารมีเฉพาะตัวของท่านคือการขจัดอุบาทว์อวมงคลทั้งหลายทั้งในเรือนและนอกเรือนทั้งต่อตนเองและผู้อื่นได้เรียบร้อย เรียกว่าสมัยพุทธกาลถ้าจะขจัดอวมงคลทั้งปวงแล้วต้องเชิญท่านย่านี่แหละเป็นประธานงานทั้งหมด(คิดเอาว่ากิจธุระท่านจะมากขนาดไหนท่านจึงได้มอบหมายงานดูแลพระสงฆ์ทั้งหลายให้ลูกหลานช่วยกันทำ) สมัยพุทธกาลท่านย่าต้องเป็นประธานงานมงคลทั้งหลายต้องเป็นผู้นำในการทำพิธีทั้งหมด(เพราะท่านขจัดอวมงคลได้) เรียกว่าในชมพูทวีปถ้าจะเกิดงานมงคลใดๆขึ้นแม้จะทำอาหารก็ต้องเอามาให้ท่านย่าวิสาขานั้นกินก่อน จะทำอะไรถ้าหวังสิริมงคลหวังความสำเร็จแก่ชีวิตก็ดีต้องพึ่งท่านย่าวิสาขา

พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือความจริงที่ไม่ค่อยมีคนรู้ และไม่รู้ด้วยว่าจะทำให้มงคลเกิดแก่ชีวิตเกิดแก่กิจการงานที่ตนจะทำได้อย่างไรจะต้องพึ่งใคร...มันเป็นมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วถ้าจะเอาดีทางโลกต้องพึ่งบารมีย่าวิสาขากิจการทั้งปวงจึงจะสำเร็จพ่ออาจารย์ท่านว่าก็ท่านย่าวิสาขานี่แหละแม้สมัยพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ท่านยังมีบทบาทโดดเด่นถึงปานนี้ เห็นหรือไม่ว่าแตกต่างจากเศรษฐีอื่นๆแม้สุทัตตะคหบดี(ท่านอนาถบิณฑิกะ)ก็ยังไม่มีอำนาจพิเศษอันเกิดแต่บารมีที่สั่งสมมาที่จะบันดาลให้งานมงคลทั้งปวงประสบความสำเร็จได้โดยฉับพลันไม่มีปัญหาอุปสรรคใดเกิดขึ้น

เหนือสิ่งอื่นใดคือท่านย่านั้นงามนักแม้ท่านจะมีอายุมากถึงร้อยยี่สิบปีแต่หากท่านนั่งอยู่ในหมู่ลูกหลานสาวรุ่นรับรองว่าไม่มีใครแยกออก นี่คือเบญจกัลยาณีหญิงที่เกิดมาถึงพร้อมด้วยความงามอย่างที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องดูจากลักษณะการลุกนั่งของคนชรานั่นแหละถึงจะแยกออกได้แม้วัยล่วงเข้าร้อยยี่สิบปีเข้านี่แล้วจนท่านทำลายธาตุขันธ์ท่านก็เป็นหญิงงามอยู่เช่นนั้น ทั้งท่านย่ายังเป็นผู้สร้างวิหารบุพพารามโดยตั้งราคาของมหาลดาปสาธน์ออกขายในราคาเก้าโกฏิกับหนึ่งแสนกหาปณะตามราคาวัสดุที่ใช้ทำ แต่ปรากฏว่าราคานี้แม้เศรษฐีทั่วชมพูทวีปก็ไม่มีใครซื้อได้ท่านย่าจึงซื้อไว้ด้วยตัวเอง(คือเอาเงินตัวเองซื้อของตัวเองและเอาเงินที่ซื้อนี่แหละสร้างพระวิหาร) พระวิหารบุพพารามจึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับพระศาสดาเป็นที่จำพรรษาแก่สงฆ์ทั้งหลาย...ต้นกำเนิดโลหะปราสาทแห่งแรกในศาสนานี้จึงเกิดขึ้น มีลักษณะเป็นปราสาทสองชั้นมีหกสิบยอดสร้างขึ้นจากทองคำสุกสว่างทุกยอดมีห้องพักอาศัยชั้นละห้าร้อยห้องทั้งที่ประทับพระพุทธองค์ ท้องพระโรงสำหรับฟังธรรม ที่พักกลางวันกลางคืนที่จงกรม ที่อยู่ของพระผู้ทรงอภิญญา ผู้ทรงพระสูตร ทรงพระวินัย ผู้รู้ทางคันถธุระ วิปัสสนาธุระ ภิกษุอาพาธ อาคันตุกะญาติโยม มีสวนมีสระน้ำสรงสระน้ำฉันน้ำใช้ ทั้งท่านย่ายังเป็นผู้เริ่มขออนุญาติต่อพระศาสดาเพื่อถวายผ้าอาบน้ำฝนคนแรกของศาสนาอีกด้วย

สรุปคร่าวๆคือบารมีท่านไม่ธรรมดานี่แหละ พอดีมีพี่หลายคนทักมาคุยเมื่อคืนเหมือนสัญญาต่อกันติดว่าเขาเคยเจอท่านย่ากันหลายคน ก็คิดดูเอาขนาดพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่มีพระอรหันต์มากมายปานใด...แต่หากจะทำการมงคลให้สำเร็จทำกิจการ..เริ่มทำสิ่งใดให้ออกมาดี..ให้สำเร็จก็ต้องใช้บารมีท่านย่าวิสาขานำหน้าเป็นประธานทุกครั้งคิดเอาเองเถอะว่าบารมีท่านมากมายปานใด(ประกอบกับนิสัยรักลูกหลานปานจะขาดใจสุดๆด้วย)พ่ออาจารย์ท่านว่าใครมีปัญญาก็พิจารณาเอาเถอะนะ นี่แหละน้อยคนนักยากจะรู้ คนที่รู้เขาก็คิดก็ทำอะไรได้สำเร็จเสมอๆเพราะพึ่งท่านย่าไปตลอดชีวิต

*** ที่จริงกะจะลงรายละเอียดเจาะลึกให้รอบวันเสาร์ แต่พอดีมีคนตื่นเต้นกันเยอะกับรายการท่านย่าวิสาขาก็เลยเอามาลงให้เลย รับรองว่าของดีที่ทำยากที่สุดในสายบารมีท่านย่าใหญ่วิสาขาไม่เสียชื่อความเป็นประธานแห่งการมงคลทั้งปวงของท่านแน่นอน ชีวิตใครขาดมงคลมักมีแต่เรื่องอวมงคลก็ต้องเอาท่านนี่แหละไปเปลี่ยนชีวิต

​

 

อธิษฐาน​

ทุกครั้งที่เราทำบุญ ส่วนใหญ่มักจะอธิษฐานกันเพื่อหวังอยากได้ในสิ่งที่เราพึงปารถนาการทำบุญแล้วอธิษฐานจึงเป็นสิ่งที่เราชาวพุทธมักทำคู่กันเป็นประจำ

มีคำถามว่า การอธิษฐานนั้นจะให้ผลจริงตามแรงอธิษฐานหรือไม่
คำตอบคือ ให้ผลได้จริง
เพราะคำว่าอธิษฐาน แปลว่าการจดจ่อแน่วแน่ของจิต จิตของคนเรามีพลานุภาพมากเมื่อจิตจดจ่อและตั้งมั่นอยู่ในเรื่องใดนานเข้าจิตจะสามารถน้อมนำสิ่งนั้นมาสู่เราได้ แต่สิ่งที่น้อมนำมานั้นเป็นวิบากคือผลดังนั้นต้องสร้างเหตุก่อนแล้วผลนั้นจะตามมา

ก่อนที่จะอธิษฐานจิต จึงต้องมีการทำบุญสร้างเหตุให้ดีเสียก่อนแล้วผลที่ดีจะตามมาโดยอาศัยการอธิษฐานจิตเป็นเครื่องเหนี่ยวนำความต้องการของเรา

บางคนชีวิตนี้ต้องพบกับปัญหาด้านความรัก ต้องทุกข์เพราะคนรักหรือไม่สมหวังในความรัก
จึงทำบุญแล้วอธิษฐานจิต ขอให้ชาติหน้าได้พบคู่ครองที่ดีหรือสมหวังในความรัก

บางคนเกิดมาร่างกายไม่สมประกอบ ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำเค็ญจึงทำบุญแล้วอธิษฐานจิตขอให้ชาติหน้าได้เกิดมามีร่างกายที่สมประกอบครบ 32

บางคนชาตินี้ป่วยเป็นโรคเรื้อรังรักษาไม่หาย เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหายทำให้รำคาญใจและไม่มีความสุข จึงทำบุญแล้วอธิษฐานจิตขอให้ชาติหน้าเกิดมามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

บางคนชาตินี้เกิดมามีฐานะยากจนมีชีวิตที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวองอย่ายากลำบาก เมื่อได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมจึงเข้าใจเหตุและผลของกรรมและวิบากกรรมจึงทำบุญเพื่อให้พบชาติต่อไปได้เกิดมารวยมีอันจะกิน ไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องความเป็นอยู่อีกต่อไป

บางคนเกิดมารูปร่างหน้าตาไม่งาม จึงทำบุญแล้วอธิษฐานจิตขอให้ชาติหน้าเกิดมาหน้าตาดีมีเสน่ห์

การอธิษฐานจิตดังกล่าวนี้ แทบจะเห็นกันอยู่เสมอๆทุกครั้งที่ปุถุชนคนส่วนใหญ่มักอธิษฐานกัน แต่ขอให้รู้ว่าการอธิษฐานเช่นนี้ เรียกว่า "การอธิษฐานด้วยตัณหา" ไม่ใช่เป็นการอธิษฐานที่ดีที่สุด เพราะคนที่ตั้งจิตอธิษฐานดังกล่าวนี้เป็นอธิษฐานที่เจือด้วยกิเลส อยากได้ใคร่มีเพราะเป็นอำนาจของความโลภ เพื่อหวังในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เพื่อสนองอัตตาของกิเลสของตนเองจึงไม่ได้ชื่อว่าเป็นการอธิษฐานที่ดีเลิศเพราะขึ้นชื่อว่ากิเลสย่อมมีความมัวหมองในจิต

แต่การอธิษฐานอย่างไรจึงชื่อว่าเป็นการอธิษฐานที่ดีที่สุด การอธิษฐานที่ดีเลิศคือ "การอธิษฐานด้วยปัญญา" ปัญญาคือการรู้แจ้งแทงตลอดในกลไกของเหตุผลของสรรพสิ่งนั้นๆผู้ที่เข้าใจชีวิตตามแนวทางคำสอนของพระพุทธองค์จะเห็นความจริงของสรรพสิ่งทั้งหลายว่าทุกอย่างล้วนเป็นมายา เพราะชีวิตและธรรมชาติทั้งหลายอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์
ทุกสิ่งล้วนไม่ยั่งยืน
ทุกสิ่งล้วนเป็นทุกข์
และทุกสิ่งไม่ใช่ตัวตน
แต่ผู้มีปัญญาน้อยหรือปัญญาทุรพลคือผู้ที่ไม่ได้เข้าใจหลักความจริงสากลของธรรมชาติจึงเกิดความไม่รู้หรืออวิชชา และปรุงแต่งไปทางบุญบ้างบาปบ้างและต้องวนเวียนเกิดเวียนตายเสพทุกข์สุขไปตามแรงกรรม ผู้ที่เห็นภัยในวัฎฎะผู้นั้นจึงขึ้นชื่อว่าผู้มีปัญญาได้เห็นความจริงของมายาจึงไม่ปารถนาต้องมาพบกับความแปรปรวนของทุกข์และสุขในสังสารวัฎฎ์อีกต่อไป จึงได้หมั่นทำบุญแล้วอธิษฐานจิตเพื่อจะไม่มาเกิดอีกจึงเรียกว่าการอธิษฐานด้วยปัญญา

ส่วนการอธิษฐานด้วยตัณหา เพราะเกิดจากความไม่เข้าใจในความจริงของสรรพสิ่งของผู้นั้นจึงยึดติดในกิเลสและอุปทาน จึงทำไปด้วยอำนาจของกิเลสที่หวังในลาภ ยศ สรรเสิรญ สุขในทางโลกแม้จะได้สิ่งที่ต้องการมาแต่ก็ไม่อาจอยู่กับผู้นั้นได้นานเพราะความแปรปรวนของสรรพสิ่ง และยิ่งเป็นการเพิ่มภพชาติให้มากขึ้นและทุกข์ก็ตามมามากขึ้นตามภพชาติที่เกิด

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า " การเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์ " เราลองมาสำรวจตัวเราเองกันเถิด ว่าที่ผ่านมาเราทำบุญแล้วอธิษฐานด้วยอำนาจแห่งตัณหาเพื่อให้สร้างภพสร้างชาติต่อไปหรือ อธิษฐานด้วยปัญญา หากผู้ใดเข้าใจในการความเป็นไปของชีวิตและเบื่อหน่ายในความแปรปรวนของสรรพสิ่งและการหลอกลวงด้วยภาพมายาชีวิตที่ไม่มีอยู่จริงและพึงหวังสิ่งที่เลิศกว่า คือการไม่มาเกิดอีก ขอให้ท่านนั้นจงตั้งจิตอธิษฐานดังนี้ทุกครั้งภายหลังจากทำบุญแล้ว
"ด้วยผลแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วในครั้งนี้ ( นึกถึงบุญที่เราทำ ) ขอให้เป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้บรรลุมรรคผลนิพพานในอนาคตกาลอันใกล้นี้เถิด แต่หากข้าพเจ้ายังต้องเวียนว่ายตายเกิดทุกภพชาติที่จะต้องเกิด ขอให้ให้เกิดในครอบครัวผู้มีสัมมาทิฎฐิขอให้ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้องได้พบกัลยาณมิตรชี้ทางสว่างให้แก่ข้าพเจ้าและได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมชั้นสูงอันเป็นปัจจัยให้บรรลุมรรคผลนิพพานในอนาคตกาลอันใกล้นี้เถิด"

นี่คือการอธิษฐานที่ดีเลิศที่สุด ไม่มีส่วนใดเจือด้วยกิเลสเลยลองมาวิเคราะห์คำอธิษฐานนี้ดู
- ขอให้เป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้บรรลุมรรคผลนิพพานในอนาคตกาลอันใกล้
การเดินทางของชีวิตมีจุดหมายคือการพ้นทุกข์ เป้าหมายของเราคือการเข้าถึงพระนิพพาน
และในอนาคตกาลอันใกล้ เพื่อระบุให้ภพชาตินั้นไม่ยืดยาวเพื่อความทุกข์ต่างๆจากภพชาติจะได้สั้นเข้าไปอีก

- แต่หากข้าพเจ้ายังต้องเวียนว่ายตายเกิด
ทุกภพชาติที่จะต้องเกิด ขอให้ให้เกิดในครอบครัวผู้มีสัมมาทิฎฐิ

- หากเรายังไม่บรรลุธรรมชั้นสูง แน่นอนว่ายังต้องกลับมาเกิดอีก
แต่การเกิดนั้นหากไปเกิดในครอบครัวของผู้ที่ไม่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา อาจทำให้เราเดินทางผิดได้เพราะครอบครัวนั้นอาจไม่เชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรม ไม่ทำบุญหรือซ้ำร้ายอาจทำทุจริตเห็นผิดเป็นชอบ เราอาจถูกสอนให่ทำไปตามนั้นซึ่งนำมาซึ่งโทษภัยได้ ดังนั้นการอธิษฐานเพื่อให้เกิดในครอบครัวผู้มีสัมมาทิฎฐิ เป็นเครื่องช่วยให้เราดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้องเพราะสัมมาทิฎฐิหรือความเห็นที่ถูกต้อง หรือความเข้าใจธรรมที่ถูกต้องเป็นประตูด่านแรกแห่งการเดินทางสู่ทางพ้นทุกข์ สัมมาทิฎฐิจึงเป็นประธานของ มรรค 8 นั่นเองเมื่อมีสัมมาทิฎฐิแล้วสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา และอื่นๆจะตามมา

- ขอให้ได้พบพระพุทธศาสานา ได้ฟังพระธรรมที่ถูกต้อง
การอธิษฐานเพื่อให้ได้พบพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ประเสริฐมาก คำสอนของพระพุทธองค์เป็นเครื่องชี้ทางให้เราพ้นทุกข์ได้ การได้ฟังธรรมที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดของการเดินทางสู่การพ้นพทุกข์ เพราะแม้ว่าเราจะได้พบพระพุทธศาสนาแต่หากได้ฟังธรรมมาผิดๆจะทำให้เราเดินผิดทางได้

- ได้พบกัลยามิตรชี้ทางสว่างให้แก่ข้าพเจ้า
การได้พบกัลยาณมิตรหรือผู้รู้ธรรมพระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต เพราะกัลยาณมิตรจะคอยแนะนำทางที่ถูกที่ควรให้เรา ในมงคล 38 ประการ ข้อที่สำคัญที่สุดคือมงคลข้อที่ 1 "อเสวนา จะพาลานัง ปัณฑิตา ณัญจะ เสวะนา" อย่าคบมิตรชั่วให้คบแต่กัลยาณมิตรหรือคบผู้รู้

- ได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมชั้นสูงอันเป็นปัจจัยให้บรรลุมรรคผลนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้เถิด
การได้ฟังธรรมที่ถูกต้องแล้วยังไม่พอยังต้องฎิบัติธรรมจนบรรลุด้วยจึงจะขึ้นชื่อว่าได้เข้าถึงปัญญาในการรู้แจ้งแทงตลอดอย่างสมบูรณ์

แล้วคำถามว่าถ้าเราอธิษฐานด้วยปัญญาแล้วเงินทอง,ลาภ,ยศ,สรรเสริญจะเกิดกับเราหรือไม่
คำตอบคือเราได้รับแน่อนอนอยู่แล้วแม้ว่าจะไม่ได้อธิษฐานถึงสิ่งเหล่านี้เพราะสร้างเหตุไว้อย่างไรผลที่ได้รับย่อมตรงตามเหตุนั้น ดังนั้นการทำบุญครั้งต่อไปควรอธิษฐานด้วยปัญญากันได้แล้ว

​

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่ปรีชา ED 6474 7797 3 TH

พี่กฤตยชญ์ ED 6474 7798 7 TH

พี่พรเทพ ED 6474 7799 5 TH

 

รายการหลักร้อยที่จะลงวันนี้ทีแรก เป็นเครื่องมงคลแบบปั้นมือคือพ่ออาจารย์ท่านค่อยๆปั้นของท่านไปทีละองค์ๆๆๆ

ทีแรกตั้งใจว่าจะเปิดจองเย็นวันนี้แต่พ่ออาจารย์ท่านกำชับมาว่าให้จองตอนเขาพร้อมจะได้ทั้วถึงกัน คนไม่ทันไม่ได้เขาจะได้ไม่มาว่าเราทีหลัง ก็เลยเลื่อนกำหนดจองออกไปเป็นพรุ่งนี้เช้านะครับ