ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จทะลวงขั้นชำระรากปมกรรมห้วงภพ(สมดุลย์กลาง) พ่ออาจารย์พล

กรรมใครก็กรรมมัน ...ถ้าเขาไม่ทำเราถึงตาย สุทรรศนจักรก็คงจะไม่สนองดุจเดียวกัน *** ขอยกประสบการณ์ของพี่ท่านนี้มาให้อ่านนะครับ

ผมบังเอิญมีศัตรูเป็นคนมีวิชาอาคม ที่คนเรียกว่าหมอธรรม สักเสก ทำคุณไสย์ รักษาคุณไสย์ คนโดนผีเข้า ถูกใส่ของก็จะถูกหาบหามมาให้แกรักษาประจำ ซึ่งที่อื่นถอดไม่ออกแต่แกคนนี้ถอดออก ถือว่าฝีมือเข้าขั้นพอสมควร

ที่ได้มาเป็นศัตรูกันก็เพราะความอิจฉาริษยา เกลียดชัง และอยากได้ตังค่ารักษาจากครอบครัวผมก็เลยทำของใส่หลายรอบ ไปรักษากับแกก็หายเดี๋ยวก็เป็นอีก รักษาครั้งนึงก็หลายพัน ค่าครูค่าของในพิธี ใส่ซองให้นอกรอบอีกต่างหาก

หลังๆมาเลยสงสัยจึงไปรักษาที่อื่น เขาก็บอกว่าคนนี้ๆ ลักษณะนี้ๆ บ้านอยู่ตรงนี้ๆเป็นคนทำ ก็ถือว่าโป๊ะแตกตามที่คาด เลยไม่ยุ่งกับแกอีก แกก็เลยจัดหนักมาแบบให้ตายไปข้างนึง

ผมอดกลั้นหลายรอบจึงเขียนชื่อนามสกุลหมอธรรมคนนี้แล้วเอาพี่จักรทับไว้ (สุทรรศนจักรพ่ออาจารย์พล) บอกพี่จักรว่าถ้าคนนี้เป็นคนทำก็จงจัดการเสีย ถ้าเขาบริสุทธิ์ก็จงอย่าเป็นอะไรเลย

ผ่านมาไม่กี่เดือนเห็นคนไปบ้านแกเยอะและบ่อยผิดสังเกตจึงถามชาวบ้านดู เขาบอกว่าแกท้องโตเหมือนคนเป็นโรคตับระยะสุดท้าย และหามแกใส่รถไปรักษาตามที่ต่างๆ ผมก็นึกว่าของคงเข้าตัวเองแน่แล้วก็ได้แต่ปลงสังเวชว่ากรรมใครก็รับเอาเอง ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นก็ถึงตัว แล้วเขาก็ตายจริงๆ อายุยังไม่หกสิบด้วยซ้ำ ระยะเวลาที่เขียนชื่อเอาพี่จักรทับจนถึงวันที่เขาตายไม่น่าถึงหกเดือน

ผู้ประสงค์ร้ายถูกกำจัดไป ครอบครัวอยู่สบายขึ้นเยอะ ไม่ต้องทรมานเจ็บหัวใจแปลบๆและหมกมุ่นกับคำภาวนาสัมปจิตฉามิอีกเลย พี่จักรพ่ออาจารย์พลเด็ดขาดและพึ่งพาอาศัยได้จริง ขอบคุณพ่ออาจารย์พล ขอบคุณพี่จักร และขอบคุณคุณกรณ์ที่เป็นสื่อกลางนำสิ่งดีๆสู่ชีวิตครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

ก็มีหลายคนสอบถามหาสุทรรศนจักรเข้ามาเป็นการใหญ่คนละหล่ยๆชิ้น ต้องเรียนว่ารายการนี้เป็นเครื่องมงคลที่เคยออกไปแล้ว ไม่มีของนานแล้วนะครับผมก็เก็บไว้แค่อันสองอันเลยแบ่งไม่ได้ เดี๋ยวเอาไว้รอรายการใหม่อีกทีนะครับ *** นี่แหละที่ย้ำตลอดเวลาพ่ออาจารย์ท่านออกเทพศาสตรา เพราะนานๆท่านจะทำซักหนและเทพศาสตราสำนักนี้ก็ไม่มีใครเหมือนทั้งสิ้น ถ้าพอมีกำลังเก็บได้ควรเก็บถึงจังหวะชีวิตช่วงนึงไม่แน่ว่าเราจะได้พึ่งเขา

 

ร่วมทำบุญบูชา มงคลสลักพระพุทธปฐมกัปดับธาตุ(สยบฟ้าเหยียบแผ่นดิน)​

"พระองค์เดียวที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้เวียนใส่ หากแต่ท่านใส่ติดตัวตลอด 24 ชม. มานานหลายปี"

ต่อไปเบื้องหน้าคนที่เคยอยู่สุขสบายจะต้องสู้ชีวิตหนักหน่วง..ส่วนคนที่ลำบากอยู่แล้วนั้นจะยิ่งจ่อมจมกับความทุกข์สาหัส ด้วยโลกในกาลนี้คนจะต้องดิ้นรนและต่อสู้เพื่อความอยู่รอดจนลืมแม้แต่การทำบุญ ด้วยทุกคนจะเอาใจไปจดจ่อกับความทุกข์ยากเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสเพื่อปากท้องตัวเองท่านว่าจะเกิดนักสู้ชีวิตขึ้นมากมายเต็มไปหมด..ถ้าไม่สู้เขาก็อด นั่นแหละชนทั้งหลายจะเริ่มออกห่างจากศีลทานการภาวนาสร้างบารมี เช่นนี้องค์ปฐมและครูบรมพรหมท่านจึงห่วงลูกหลานด้วยหนทางชีวิตนั้น ### ท่านย้ำอยู่เสมอว่าการเกิดมาดุจการลืมตาและหลับตาชั่วครั้งชั่วคราว..เราอยู่ในโลกนี้เพียงเวลาสั้นๆจากเกิดแล้วก็ตายเพียงเท่านั้นเองไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ แท้จริงแล้วโลกนี้ไม่ใช่ที่อยู่ของเราเลย มันเป็นเพียงฉากละคร..เป็นนาฏลีลาของชีวิตที่เราเหยียบลงมาแล้วก็เดินผ่านไปเมื่อบทบาทของเราหมดลง ระหว่างที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่นี้ก็เป็นเพียงการเดินผ่านห้วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ด้วยเกรงว่าบทบาทการทดสอบของโลกที่โหดร้ายมากขึ้นจะตัดตอนภพชาติและความสนิทธรรมในใจลูกหลาน ครูเบื้องบนท่านจึงให้พ่ออาจารย์สร้างพระพุทธปฐมกัปดับธาตุขึ้นมาสงเคราะห์ผู้ที่ไม่อาจจะผ่านคราเคราะห์ของโลกนั้นไปได้

พระพุทธปฐมกัปดับธาตุนั้นใช้ดับทุกข์ที่ผันแปรผิดเพี้ยนและแสดงอาการปรากฏให้เห็นในชีวิตเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงเริ่มมีอาการว่าจะไปไม่รอดท่านก็ช่วยเต็มที่แล้ว ด้วยโลกต่อไปนี้สัตว์ในคราบคนจะมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆจนคนอาจจะท้อถอยและไม่เห็นค่าคุณงามความดีเพราะคุณธรรมจะเสื่อมถอยด้อยค่าดำรงค์อยู่ได้เพียงชนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น จะปรากฏการทำลาย,การเบียดเบียน,การทะเลาะวิวาทแม้แต่การฆ่าฟันและทำร้ายกันไปทั่วค่อยๆสะสมและมากขึ้นๆอย่างไม่มีมูล พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนนะต่อไปกว่าเขาจะคิดได้ก็หาเหตุหาผลมารองรับกันไม่เจอแล้วด้วยชนทั้งหลายจะไม่ใช้เหตุผลต่อกันเลย แต่ละคนจะกระทำทุกสิ่งไปตามอารมณ์ที่ไม่มีสติควบคุมด้วยคนหยาบจะมีล้นโลกอยู่เช่นนั้น ..พระพุทธปฐมกัปนี้ท่านสร้างไว้เพื่อเพิ่มโอกาสชีวิตให้เกิดคนที่มีความเห็นดีเห็นชอบเห็นควรเห็นงามด้วยไม่เอาชีวิตตัวเองไปตกระกำลำบากจนไม่มีเวลาศึกษาปฏิบัติธรรม ท่านว่าภัยร้ายที่สุดของมนุษย์ก็คือตัวมนุษย์นั่นเองทั้งความเสื่อมถอยถ่อยเถื่อนต่างๆที่อบรมบ่มเพาะมาจากนิสัยเวลาตกอยู่ในสถานการณ์บีบบังคับ..เพื่อจะไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเพราะทางนี้เป็นแผ่นดินพุทธศาสนา เมื่อมีพุทธศาสนาย่อมต้องมีพุทธบริษัที่คอยดูแลกันสืบไป ด้วยจะไม่ให้เหตุการณ์ที่ทำให้คนจนตรอกจนนิสัยวิบัตินี้ท่านจึงให้เอาพระชนิดเดียวกับที่ท่านบูชาในคอโดยไม่ถอดออกตลอด 24 ชั่วโมงในทุกๆวันมาเปิดจอง

เครื่องมงคลยุคเก๋าของพ่ออาจารย์...สมัยก่อนนั้นท่านเริ่มจากการสร้างด้วยไม้ช่อฟ้าวัดระฆังในยุคของสมเด็จโตที่อายุนับร้อยๆปีนำมาทำการแกะสลักซึ่งเครื่องมงคลเหล่านั้นย่อมมากไปด้วยพุทธคุณและนับเป็นของสูงที่หมดไปนานมากแล้ว หากแต่ท่านยังมีเครื่องมงคลบางชุดที่รับสัตย์ครูบาอาจารย์และทำเก็บไว้เช่นพระพุทธปฐมกัปดับธาตุที่ท่านห้อยอยู่นี้ ท่านรับสัตย์เอาไว้ว่าจะทำเพียง 10 องค์เท่านั้น(รวมที่ท่านห้อยอยู่) ท่านจึงเพียรทำและเสกเก็บไว้ทั้งหมดมานานหลายปี ...ตามคติว่าด้วยปฐมกัปนั้นถือเป็นต้นตอแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่จะส่งต่อศาสนาออกไป พระพุทธปฐมกัปจึงเป็นเครื่องมงคลที่รวมกำลังสมเด็จองค์ต้นแห่งปฐมกัปปฐมวงศ์พุทธวงศ์ทุกพระองค์(สมเด็จองค์ต้นที่เป็นพี่ใหญ่สุดหรือเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวในกัปนั้นๆ) เช่นนี้พระพุทธปฐมกัปจึงมีศักดิ์สูงมากไล่มาตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมผ่านมากี่กัปก็รวมกำลังองค์ต้นกัปไว้ดังนี้ถือว่าเป็นใหญ่กว่าเขาทั้งหมดในทุกๆกัป องค์ปฐมท่านให้เคล็ดว่าทำไว้เป็นตัวแทนองค์ต้นกัปทุกๆพระองค์จึงไม่ให้พ่ออาจารย์ท่านแกะสลักหน้าตาองค์พระ ด้วยปฐมกัปคือการเริ่มต้นวัฒนธรรมที่ดีสืบต่อกันเป็นการเริ่มต้นศาสนาเริ่มต้นการสืบทอดความเจริญรุ่งเรืองจากยุคสู่ยุค *** เช่นนี้พระพุทธปฐมกัปจึงเป็นพระที่จะส่งต่อความเจริญรุ่งเรืองที่มีมาทั้งหมดในโลกแก่ผู้อาราธนาองค์พระ วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวท่านเองจะทำหรือแตะต้องไม่ได้เลย "ฉันบอกได้แค่ว่าเป็นธุระองค์พระในนิพพานท่านทำให้ทั้งสิ้น เพราะเป็นวิชาของท่านที่มีประสงค์จะให้ทำขึ้นมา"

ด้วยวิชานี้ต้องเสกต้องลงอาถรรพ์กันตั้งแต่ไม้ที่นำมาแกะสลักคือช่อฟ้าหรือยอดฟ้าอันเปรียบว่าสูงสุดในผืนฟ้า เมื่อแกะสลักแล้วต้องให้องค์พระท่านทำวิชาถึงสามไตรมาส(คือสามปี) เพราะเป็นเครื่องมงคลสักการะสำคัญที่ใช้แทนองค์ต้นปฐมกัปทุกพระองค์ ### พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระพุทธปฐมกัปนี้มีอานุภาพมาก องค์ปฐมท่านว่าแค่นึกเห็นเพียงครั้งหนึ่งเสมือนได้เพิ่มพูนในบุญวาสนา...หากตั้งจิตให้เป็นกุศลกราบองค์พระเสียครั้งหนึ่งจะระงับบาปกรรมที่ทำสั่งสมมา(แม้นบาปหนักหนาเท่าคงคามหานที)...องค์พระพุทธปฐมกัปนั้นหากตั้งจิตมั่นบูชาจะสมความปรารถนาในทุกสิ่งที่ตั้งใจ...อานุภาพแห่งองค์พระเป็นไปเพื่อความสงบสุข..ด้วยความสงบนั้นจะไม่ชักนำความวุ่นวายมาสู่ชีวิต..ผู้ใดมีกุศลมากชีวิตย่อมราบรื่น..สงบ..และไม่วุ่นวายอันเป็นลักษณะของผู้มีบุญมาก

สยบฟ้าเหยียบแผ่นดิน
พระพุทธปฐมกัปนั้นเป็นเครื่องมงคลที่ใช้สยบทุกข์ทั้งปวง...แต่มีความหมายมากกว่านั้น ด้วยเมื่อจะสร้างองค์ปฐมท่านเเนะนำให้แกะสลักเป็นรูปองค์ปฐมกัปเหยียบเต่าเหยียบมังกรไว้..
- มังกร คือสัญลักษณ์ของผู้ปกครองชั้นฟ้าอันมีวาสนาบารมีและมีกำลังสูง ใต้ผืนฟ้านี้ไม่เกรงกลัวผู้ใด การเหยียบมังกรก็คือการสยบสะกดข่มทุกผู้ทุกนามแม้ว่าผู้นั้นจะมากวาสนาบารมีซักเพียงใด..จะเกิดมาในตระกูลสูงก็ดี...มีฐานะสูงกว่าก็ดี..มั่งคั่งร่ำรวยกว่าก็ดี..มีหน้าที่บัญชาการเราก็ดี...(พูดง่ายๆคือทุกคนที่มากวาสนาบารมีมากกว่าเรา) เอาง่ายๆว่าท่านสยบลงทั้งหมดแบบนี้เลยด้วยเป็นเครื่องมงคลที่เน้นให้ใช้ชีวิตกันได้สะดวกราบรื่น ปกติวิชานี้มีอาถรรพ์มาก พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระในนิพพานท่านจะไม่ทำให้เลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่างกรณีนี้ท่านทำให้ด้วยจะป้องกันลูกหลานถูกคนรังแก
- เต่า คือสัญลักษณ์ของแผ่นดินท่านว่าเป็นตัวแทนของตบะความแข็งแกร่ง องค์พระเหยีบเต่าไว้ดุจปราบแผ่นดินสยบสิ้นทั้งหมด แม้นผู้มีตบะอาคม..ผู้ที่มีบุญเก่ารักษา...ผู้ที่ของเก่าเขาทำมาเยอะ...ผู้ที่มีชีวิตแข็งแกร่งกว่าเราในทุกด้าน คนเหล่านี้จะข่มเราไม่ลงเลยถ้าต้องเจอกันเป็นแห้ทางสยบเข้าช่วยเหลือเราทั้งหมด การเหยียบเต่านี้เป็นสัญลักษณ์ว่าปราบแผ่นดินในชั้นดินจะไม่เกรงกลัวผู้ใดเลย
เมื่อองค์พระปฐมกัปเหยียบเต่าเหยียบมังกรเช่นนี้จึงเป็นคติของอานุภาพ"สยบ" แบบที่พ่ออาจารย์ท่านพูดเอาไว้ว่าต่อให้ยิ่งใหญ่มากวาสนาบุญบารมีซักเพียงใดหากมาต่อด้วยเรามารังแกเราหรือคิดจะทำร้ายเรา..แม้จะเป็นเทพมาจากไหนก็อยู่ใต้ตีนกูทั้งนั้น ด้วยต่อไปในอนาคตนั้นคนจะหาเรื่องหาเหตุสร้างปัญหาให้กันโดยง่าย พระพุทธปฐมกัปนี้จึงเป็นวิชาที่ทำไว้แก้ทางผู้ที่โดนข่มเหงในปัจจุบันตลอดจนอนาคตเบื้องหน้าอย่างแท้จริง

องค์พระทุกองค์อุดด้วยผงดับธาตุ คือวิชาทำผงที่เอาไว้ใช้ดับทุกข์..ดับโศก..ดับโรค..ดับภัยอย่างตรงตัวโดยเฉพาะ ผงดับธาตุนี่สำคัญเพราะทุกข์โศกโรคภัยนั้นมักจะแฝงตัวอยู่ไม่ให้เราดูรู้เห็นเมื่อยังไม่แสดงอาการออกมา สิ่งเหล่านี้จะคอยขัดขวางเราออกไปจากวงจรชีวิตปกติสุข พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่พ้นทุกข์ก็วนทุกข์..คนที่วนทุกข์นี่น่าสงสารนะเพราะเวลาเขาทุกข์แล้วก็ตัวทุกข์นั่นแหละที่ขัดขวางและฆ่าเขาให้ตายไปจากคุณงามความดี เวลาคนทุกข์นี่หายากนะที่จะประคองสติได้ ผงดับธาตุจึงใช้ดับสิ่งที่คอยขัดขวางเราไม่ให้พบความสำเร็จ...ดับสิ่งที่นำเราออกจากการสร้างบารมีก็คือทุกข์โศกโรคภัยทั้งหลาย ดั่งคนที่ได้รับทุกข์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตคนเหล่านี้จะโดนตัดโอกาสจากกิเลสมารบ้าง,มัจจุมารบ้างตั้งแต่เกิดจนตายจะไม่มีโอกาสสนใจการปฏิบัติธรรมเลยเรียกว่าตายไปพร้อมกับทุกข์เกิดกี่ชาติก็ทุกข์ทั้งไม่มีสวรรค์หรือสุคติภูมิเป็นที่ไป ดังนี้แล้วองค์ปฐมท่านจึงกำชับให้อุดพระพุทธปฐมกัปด้วยผงดับธาตุโดยเฉพาะ จะใช้สิ่งอื่นอุดนั้นไม่ควรกันเลย

พระพุทธปฐมกัปนั้นมีอานุภาพใหญ่มาก....สยบได้ตั้งแต่สูงสุดบนฟ้าไปจนต่ำสุดใต้ดิน แม้อริศัตรูจะมีบารมีมาก..จะเก่ง..จะสูงวาสนาปานใดไหนก็เข้าวลีที่ว่า"เหยียบไว้ใต้ตีนกู" ได้ทั้งสิ้น ทั้งยังมีอานุภาพมากแก่ผู้อาราธนาดังจะจำแนกได้ดังนี้
- จะรู้แจ้งเข้าใจในสรรพธรรมโดยเร็ว
- จะได้ดวงตาแห่งปัญญาโดยเร็ว
- จะได้โปรดสัตว์ทั้งหลายโดยเร็ว
- เมื่อเจอปัญหาจะได้มาซึ่งกุศโลบายอันดีงามโดยเร็ว
- จะได้ที่เกาะที่พึ่งดุจโดยสารขึ้นสู่สำเภาแห่งปัญญาโดยเร็ว
- จะได้ข้ามพ้นทะเลทุกข์โดยเร็ว
- จะได้มาซึ่งหนทางแห่งศีลและสมาธิ
- จะได้ขึ้นถึงมรรคผลโดยเร็ว
- จะได้เข้าสู่พระนิพพานโดยเร็ว

พระพุทธปฐมกัปนั้นพ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าเป็นพระพุทธเมตตาที่สร้างขึ้นเพื่อโอบอุ้มโลกโดยแท้ ดังนั้นพระพุทธคุณจึงออกไปทางมหากรุณาเพื่อใช้สงเคราะห์สัตว์โดยด้านหลังฝังของวิเศษไว้ดังนี้
- คณโฑน้ำทิพย์ อันประจุน้ำอมฤตไว้ ตามตำนานนั้นธันวันตรีแพทย์สวรรค์ได้ทูนคณโฑน้ำอมฤตนี้ผุดขึ้นจากเกษียรสมุทรจนเทวดาและอสูรแย่งชิงกันด้วยน้ำอมฤตนั้นมีอาถรรพ์คือใช้ต่อชีวิตใช้ต่ออายุรวมถึงกำลังฤทธิ์วาสนาบารมีและความเจริญรุ่งเรืองให้ยั่งยืนสืบไปได้ "แม้คนผู้นั้นจะหมดวาสนาแล้วก็ตาม" ในทางพุทธมหายานก็ถือเป็นพุทธศาสตราอย่างหนึ่งด้วยเป็นเทพอาวุธที่ใช้ในการรักษา(ไม่ได้ใช้ทางทำลายล้างแบบศาสตราอื่น) อันน้ำทิพย์นั้นจะได้ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งเสริมสิริมงคลต่อวาสนาบารมีแก่ผู้อาราธนา ท่านว่าเป็นพุทธศาสตราที่หนุนส่งกำลังบุญให้ดึงดูดความเจริญมาสู่ชีวิต หากหม้อคณโฑนี้ปรากฏขึ้นแก่ผู้ใดจะเป็นเหตุนำมาซึ่งความสุขความสำเร็จใหญ่น้อยทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างไม่ยาก...แต่ยากตอนเริ่มสร้างเพราะองค์ปฐมท่านให้เดินทางหาแหล่งน้ำทิพย์อันผุดขึ้นตามถ้ำตามสถานที่รวมพลังงานพลังปราณธรรมชาติทั้งหลายมาให้ได้มากที่สุด ท่านว่าต้องใช้น้ำทิพย์มานวดมาหมักกับผงวิเศษสูตร"นารายณ์กวนเกษียรสมุทร" จึงจะนำมาปั้นคณโฑนี้แล้วจึงฝังด้วยองค์เหล็กปรพรหมโรยแร่โคตรเศรษฐีทุกชิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำได้ไม่มากนักเพราะน้ำที่เอาแต่ละที่ไม่ใช่ว่าจะตักมาเท่าไหร่ก็ได้ องค์ปฐมท่านให้ใช้จอกตักได้ที่ละจอกเท่านั้น...
- ฝังตะกรุดเงินสยบอาถรรพ์ ตะกรุดนี้ใช้ข่มอำนาจดวงดาว,อำนาจพระราหูตลอดจนการโคจรของวิถีราศีจักรที่ส่งผลร้ายและสิ่งอัปมงคลอาถรรพ์ทั้งปวง เพื่อสยบอาถรรพ์ร้ายให้เราพร้อมที่จะพบความเจริญเป็นยอดคนในทุกด้าน

พระพุทธปฐมกัปนั้นพ่ออาจารย์ท่านเรียกของท่านว่าหลวงพ่อตีนโตคือเหยียบปัญหาและอุปสรรคราบคาบได้ทั้งหมดเป็นตัวแทนของกำลังบุญในองค์ปฐมกัปทุกพระองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ้งนี้สำคัญมากเพราะกำลังบุญนี้เมื่อสถิตย์กับผู้ใดอุปสรรคในชีวิตก็จะหมดไปเข้าทำนองว่าบุญมากอุปสรรคในชีวิตก็น้อย ดูง่ายๆเลยว่าคนไหนเกิดมามีบุญอย่างไรก็ให้ดูชีวิตของเขาถ้าเกิดมาบุญน้อยถอยถดนี่คนพวกนี้อุปสรรคในชีวิตจะมากเพราะถ้าคนไหนบุญอ่อนหรือบุญหมดกำลังบาปที่เคยทำไว้จะให้โอกาสส่งผลทำให้เสื่อมอำนาจวาสนา...เสื่อมชื่อเสียงเกียรติยศเงินทอง...เจ็บไข้ได้ป่วย..เสื่อมลงจากความสุขทั้งปวง..คนรักหมดรัก...รักษาทรัพย์สมบัติที่มีไว้ไม่ได้ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าการที่ชีวิตใครจะมีทุกสิ่งบริบูรณ์ได้ก็ต้องมีบุญที่มากเพียงพอเสมอความต้องการของเราคอยอุดหนุนส่งเสริม ### นี่เห็นมั๊ยบุญเป็นพื้นฐานของทั้งหมดใครจะปฏิเสธว่าขอแค่พออยู่พอกินก็พอแล้ว..ก็ไอ้แค่อพออยู่พอกินนั่นก็ต้องอาศัยบุญเช่นกัน หวังจะเป็นเศรษฐี...เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ..เป็นพระอรหันต์ไปถึงนิพพาน..จะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า..เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกสิ่งนี้กำลังบุญต้องเต็มที่เรียกว่ามีบุญมีบารมีถึงระดับที่จะได้เป็น เมื่อกำลังบุญถึงขั้นเข้าขั้นก็จะดำรงค์สภาวะเช่นนั้นอยู่ได้อย่างมีความสุขและมั่นคง ....ด้วยบุญคือเบื้องหลังความสุขทั้งมวลดังนี้พระพุทธปฐมกัปจึงเป็นเครื่องมงคลที่จะอวยความสำเร็จในชีวิตทุกระดับอย่างแท้จริง(เช่นนี้จึงเป็นพระที่ท่านไม่ถอดออกห่างจากคอเลย)

คาถาบูชา
ปัญจะมาเรชิโนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกัง ปะวัตตะยิ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุเมชะยะมังคะลัง

***พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนั้นมีจำกัดเพียงเก้าองค์ ด้วยเป็นของเก่าเเละข้างบนท่านเลือกเจ้าของทุกองค์เช่นนั้นจะเปิดให้จองกันเท่านี้ ### ท่านให้เปิดเนื้อหาไว้เพียงครึ่งเดียว ใครจองทันก็ถือว่าบุญยังทำมาดีด้วยวัสดุที่ใช้ทำนั้นหมดไปแล้วทั้งสิ้น ทั้งยังเป็นวิชาจำเพาะที่พ่ออาจารย์ท่านรับสัตย์ไว้ว่าทำครั้งเดียวไม่สร้างเพิ่ม(เดี๋ยวเนื้อหาเต็มผมจะนำมาลงให้รอบพรุ่งนี้อีก) รับรองว่าคนที่พลาดมีเจ็บใจกันแน่นอน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา มงคลสลักพระพุทธปฐมกัปดับธาตุ(สยบฟ้าเหยียบแผ่นดิน) บูชา 4,000 บาท

​

 

พระพุทธปฐมกัปนี้ท่านให้เปิดเนื้อหาเพียงครึ่งเดียวก่อน..รายการนี้ใครทันนับว่าเป็นวาสนา พ่ออาจารย์ท่านเรียกพระที่ท่านห้อยนี้ตามสไตล์ของท่านว่าหลวงพ่อตีนโต(คำนี้มีความหมายว่าเหยียบทุกสิ่งจริงๆ)..สมดั่งคำท่านว่า"แม้จะเป็นเทพมาจากไหนก็อยู่ใต้ตีนกูทั้งนั้น" ถ้าเป็นคนมุ่งร้ายไม่ประสงค์ดีเก่งแค่ไหนมากวาสนาอย่างไรก็ไม่รอด
*** ในอดีตรายการแกะสลักไม้ช่อฟ้าแบบนี้ต่ำๆต้องมีหกพันถึงหมื่นขึ้น หนนี้จึงบอกแค่ว่าถ้าใครทันถือว่าโชคดีจริงๆ เพราะถ้ารอจนเปิดเนื้อหาของฝังหรือผงวิเศษเฉพาะทางทั้งหมดก็ไม่แน่ว่าจะมียอดเหลือให้จอง

 

ประโยชน์ของฤกษ์​

### การจะทำความดีไม่ต้องรอฤกษ์ยามใดๆ

ในสมัยเมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่พระเชตวัน ใกล้กรุงสาวัตถีในโกศลรัฐ ได้มีบุคคลผู้หนึ่งในชนบทสู่ขอธิดาของตระกูลหนึ่งในกรุงสาวัตถีให้แก่บุตรของตน ตกลงกันกำหนดวันประกอบพิธีมงคลเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาเขาได้ถามอาชีวก(นักบวชจำพวกหนึ่ง)ผู้เป็นที่นับถือของตนว่าวันนั้นฤกษ์ดีหรือไม่ อาชีวกโกรธว่าไม่ถามตนเสียก่อนกำหนดวันกันแล้วมาถามภายหลัง จึงกล่าวว่าวันนั้นฤกษ์ไม่ดีอย่าทำการมงคล ถ้าทำจะเกิดมหาวินาศพวกเขาก็พากันเชื่อ เมื่อถึงวันนัดก็ไม่ไปเพราะกลัวจะเกิดมหาวินาศ

ส่วนทางฝ่ายหญิงซึ่งได้เตรียมการมงคลทั้งปวงไว้แล้วรออยู่ไม่เห็นฝ่ายชายมาก็พากันโกรธเพราะได้ตกลงวันกันไว้ ได้ตระเตรียมสิ่งทั้งปวงสิ้นเปลืองไปเป็นอันมากทั้งเป็นการเสียหน้าแก่ฝ่ายหญิง จึงได้ยกธิดาให้แก่ชายในตระกูลอื่นซึ่งเป็นผู้ขอรับแทนได้ประกอบพิธีมงคลตามที่เตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยไปในวันนั้นเอง

ครั้นวันรุ่งขึ้น พวกฝ่ายชายที่สู่ขอไว้ก่อนจึงพากันไปยังบ้านเจ้าสาวก็ถูกพวกฝ่ายหญิงด่าว่าขับไล่ให้กลับ พวกฝ่ายชายก็โต้ตอบเกิดวิวาทกันขึ้นแต่ก็ไมไ่ด้หญิงนั้นเพราะเขายกให้คนอื่นไปแล้ว ต้องพากันกลับ

ข่าวเรื่องอาชีวกนั้นทำการทำนายทายทักเป็นอันตรายแก่การมงคลปรากฏไปทั่วนครจนทราบถึงหมู่ภิกษุ พระพุทธเจ้าได้ทรงทราบจากหมู่ภิกษุก็ได้ตรัสเล่าเรื่องทำนองเดียวกันที่เกิด
เพราะถือฤกษ์ยามผิดๆในอดีตกาลแก่ภิกษุทั้งหลายว่า...ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตผ่านสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี มีตระกูลๆหนึ่งในกรุงพาราณสีได้ออกไปขอกุลสตรีในหัวเมืองเพื่อบุตรของตนได้ตกลงนัดวันแต่งงานกันไว้แล้ว จึงกลับไปถามอาชีวกผู้เป็นอาจารย์ของตนว่าฤกษ์แต่งงานที่กำหนดไว้นั้นจะดีหรือร้ายประการใด อาชีวกนึกขัดใจที่ไม่ถามตัวเสียก่อนไปด่วนนัดแต่งงานเสียเช่นนี้จึงแกล้งบอกว่าฤกษ์ไม่ดี ตระกูลนั้นก็เชื่อถือตามไม่ไปแต่งงานตามกาลเวลาที่กำหนดไว้เขาจึงยกหญิงนั้นให้แต่งงานกับบุรุษอื่นเสีย ครั้นวันหลังจึงพากันไปใหม่แต่ก็ได้รับความเสียใจกลับมา ในเวลานั้นมีนักปราชญ์คนหนึ่งได้กล่าวขึ้นในที่ประชุมนั้นว่า
นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา
อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ กึ กริสฺสนฺติ ตารกาติ
แปลว่า ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนพาลซึ่งมัวแต่คอยหาฤกษ์อยู่ ประโยชน์นั่นแหละเป็นฤกษ์ของพวกต้องการด้วยประโยชน์ ดาวทั้งหลายในท้องฟ้าจักทำอะไรได้ ดังนี้

ดังที่มีมาในนักขัตตชาดก หากใครปรารถนาจะให้ชีวิตของตนมีแต่ความเป็นมงคลก็ต้องปฏิบัติตามมงคลนั้นๆนั่นเอง ครั้นสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเรื่องอดีตดังนี้แล้ว จึงตรัสว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อาชีวกนั้นได้ทำให้ตระกูลนั้นขาดประโยชน์เพียงแต่ในชาตินี้เท่านั้นก็หาไม่ ถึงในชาติปางก่อนก็ได้เคยทำมาแล้วเหมือนกัน แล้วทรงประชุมชาดกว่าอาชีวกในครั้งก่อนนั้น ได้เกิดมาเป็นอาชีวกคนนี้ ตระกูลที่เชื่อถืออาชีวกในครั้งก่อนนั้นได้เกิดมาเป็นตระกูลนี้ ส่วนบุรุษผู้เป็นบัณฑิตที่กล่าวสุภาษิตไว้นั้นคือเราตถาคตนี้แล ดังนี้

ในชาดกนี้แสดงให้เห็นว่า ความชั่วและความดีย่อมไม่เกี่ยวกับฤกษ์ยามตามคัมภีร์พราหมณ์ทั้งหลายหากแต่เกี่ยวกับการกระทำเท่านั้น คือถ้าบุคคลทำชั่วในเวลาใดเวลานั้นก็เป็นฤกษ์ชั่วของผู้ทำนั้น เหมือนอย่างผู้ทำโจรกรรมถ้าไปลักทรัพย์ของเขาในเวลาใด เวลานั้นก็นับว่าเป็นฤกษ์ร้ายของผู้นั้น ผู้นั้นได้ชื่อว่าทำบาปในเวลานั้น หรืออีกอย่างหนึ่งคนไปจับไฟในเวลาไดเวลานั้นจัดว่าเป็นฤกษ์เจ็บของคนนั้น

ถ้าบุคคลทำดีในเวลาใดเวลานั้นนับว่าเป็นฤกษ์ดี เหมือนอย่างบุคคลให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรมเทศนาในเวลาใดเวลานั้นก็จัดว่าเป็นฤกษ์ดียามดี อันธรรมดาฤกษ์ยามย่อมไม่ทำความชั่วความดีให้แก่ผู้ใด เมื่อผู้ใดคิดจะทำความดีแต่ไปหวังคอยฤกษ์ยามอยู่ผู้นั้นจะต้องขาดประโยชน์เสียเวลาเปล่า เหมือนดังเรื่องที่มีมาในชาดกนี้เป็นตัวอย่างที่อ้างอิง เมื่อความจริงมีอยู่เช่นนี้ท่านผู้มีวิจารณญาณทั้งหลายจะประกอบกิจการสิ่งใดควรพิจารณาดูเสียก่อนว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดี เมื่อเห็นว่าไม่ดีก็อย่าทำเมื่อเห็นว่าดีจึงทำ ไม่ต้องรอฤกษ์ยามเป็นประมาณจึงจะไม่เสียประโยชน์และเสียกาลเวลาดังนี้

​

 

สมาธิเป็นพลังที่มีอำนาจที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุดในโลก​

อัลเบิร์ต ไอสไตน์ได้เริ่มสงสัยว่า พระพุทธศาสนาอาจเป็นศาสนาที่ให้คำตอบต่อคำถามที่เขากำลังพยายามค้นหาอยู่ ในช่วง ๑ ปีสุดท้าย ก่อนที่จะเสียชีวิตนั้น (ค.ศ.๑๙๕๔) มหาวิทยาลัยปรินซ์ตันได้ตีพิมพ์งานเขียนชิ้นหนึ่งของเขาชื่อเรื่อง " The Human Side " ซึ่งกล่าวถึงศาสนาในอนาคต นักฟิสิกส์ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้ ได้กล่าวทิ้งท้าย ก่อนตายว่า.. "พลังสมาธิเป็นพลังที่มีอำนาจที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุดในโลก"

ข้อมูลอ้างอิงจาก:ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ดร.วิจิตร บุณยะโหตระ

- ทำสมาธิเพียง 45 นาที จะเกิดกระแสไฟฟ้าในร่างกายสูงกว่าค่าที่วัดได้จากคลื่นหัวใจ (EKG) 10,000 เท่า สูงกว่าค่าคลื่นสมอง 100,000 เท่า

- คลื่นแสง(ซึ่งมีอนุภาค phyton) มีความเร็ว 300,000 กม./วินาที เคยเชื่อกันว่ามีความเร็วสูงสุดในโลก แต่ปัจจุบันเชื่อว่าคลื่นสมองขณะมีสมาธิเร็วกว่าแสงเพราะมีอนุภาค trachyon เคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแสงเพราะอนุภาคนี้เป็นกลาง(ไม่มีประจุไฟฟ้า) ผ่านสนามแม่เหล็กได้โดยไม่ถูกรบกวน

- ขณะที่ท่านวาดภาพหรือเขียนหนังสือด้วยสมาธิจิต พลังสมาธิจะเป็นพลังงานสถิตอยู่ในนั้นได้นานแสนนาน เช่น ตรวจพบพลังงานสถิตบนภาพวาดของลีโอนาโดดาวินชี่ แม้เวลาผ่านไปเป็นศตวรรษแล้วก็ตาม

- พลังสมาธิเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่ เป็นมหาสมบัติทางธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับสุขภาพ,ความสงบเย็นเป็นสุข,ความเจริญรุ่งเรือง และการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตามที่เราปรารถนาได้อย่างมหัศจรรย์...

- เรามี 75,000 ล้านเซลล์ ทุกเซลล์ในร่างกายเป็นแบตเตอรี่ขนาดจิ๋วทุกเซลล์ส่งพลังงานสเคล่า ขนาด70-80 มิลลิโวลท์ออกมา(ถ้าสุขภาพดี) รอบกายเราจึงมีพลังงานห่อหุ้มเรียก Scalar Energy,Bio-energy หรือออร่า

- พลังงานสเคล่าถูกควบคุมด้วยสมาธิหรือการสวดมนต์ภาวนา(Mind Control) สมาธิปรับให้ออร่าของเรามีคลื่นความถี่เท่ากับคลื่นแอลฟ่าและเธต้าของสมอง และทำให้พลังงานตัวเราเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับคลื่นคอสมิคของจักรวาล ทำให้เรามีชีวิตสงบเย็นเป็นสุขและสมดุล

ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากว่าการสวดมนต์นั่งสมาธิที่เราคิดว่าดี จะสามารถมีการวัดผลเป็นตัวเลขทางวิทยาศาสร์ได้ขนาดนี้

​

 

ร่วมทำบุญบูชา หม้อกลัศชุบวาสนาครรภ์ฟ้าดินฝังองค์เหล็ก (คณโฑน้ำทิพย์)

คณโฑน้ำทิพย์ อันประจุน้ำอมฤตไว้ ตามตำนานนั้นธันวันตรีแพทย์สวรรค์ได้ทูนคณโฑน้ำอมฤตนี้ผุดขึ้นจากเกษียรสมุทรจนเทวดาและอสูรแย่งชิงกันด้วยน้ำอมฤตนั้นมีอาถรรพ์คือใช้ต่อชีวิตใช้ต่ออายุรวมถึงกำลังฤทธิ์วาสนาบารมีและความเจริญรุ่งเรืองให้ยั่งยืนสืบไปได้ "แม้คนผู้นั้นจะหมดวาสนาแล้วก็ตาม" ในทางพุทธมหายานก็ถือเป็นพุทธศาสตราอย่างหนึ่งด้วยเป็นเทพอาวุธที่ใช้ในการรักษา(ไม่ได้ใช้ทางทำลายล้างแบบศาสตราอื่น)

อันน้ำทิพย์นั้นจะได้ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งเสริมสิริมงคลต่อวาสนาบารมีแก่ผู้อาราธนา ท่านว่าเป็นพุทธศาสตราที่หนุนส่งกำลังบุญให้ดึงดูดความเจริญมาสู่ชีวิต หากหม้อคณโฑนี้ปรากฏขึ้นแก่ผู้ใดจะเป็นเหตุนำมาซึ่งความสุขความสำเร็จใหญ่น้อยทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างไม่ยาก...แต่ยากตอนเริ่มสร้าง

เพราะองค์ปฐมท่านให้เดินทางหาแหล่งน้ำทิพย์อันผุดขึ้นตามถ้ำตามสถานที่รวมพลังงานพลังปราณธรรมชาติทั้งหลายมาให้ได้มากที่สุด ท่านว่าต้องใช้น้ำทิพย์มานวดมาหมักกับผงวิเศษสูตร"นารายณ์กวนเกษียรสมุทร" จึงจะนำมาปั้นคณโฑนี้แล้วจึงฝังด้วยองค์เหล็กปรพรหมโรยแร่โคตรเศรษฐีทุกชิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำได้ไม่มากนักเพราะน้ำที่เอาแต่ละที่ไม่ใช่ว่าจะตักมาเท่าไหร่ก็ได้ องค์ปฐมท่านให้ใช้จอกตักได้ที่ละจอกเท่านั้น...

วัตถุที่ได้รับการบูชาเสมอด้วยเทพเจ้า
พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าทำเป็นเล่นไป ด้วยครูฉันแรงนักนี่ไม่ใช่หม้อที่นึกจะพกส่งเดชอย่างไรก็ได้มีไว้ให้ห้อยคอเท่านั้น ด้วยท่านสร้างไว้แทนอาถรรพ์มากมายต้องลงให้ใช้เป็นพุทธศาสตราและเป็นหม้อกลัศของมหาเทพซึ่งมีอาถรรพ์มากไปในตัว กลัศนั้นก็แปลได้ตรงตัวว่าหม้อน้ำหากแต่ได้รับการยกย่องว่ามีความสำคัญกับพิธีพราหมณ์มาตั้งแต่ยุคพระเวทย์ ในยุคนั้นจะเรียกโสมกลัศหรือจันทรกลัศใช้เป็นสัญลักษณ์แทนตัวหรือเป็นตัวแทนของเทพเจ้าต่างๆในศาสนาพราหมณ์

เมื่อเราทำการบูชากลัศนั้นก็เสมือนว่าได้บูชาพระเป็นเจ้าพระองค์นั้นที่เรานับถือโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเทวรูปหรือรูปเคารพใดๆในปรัมพิธี หม้อกลัศนี้จึงมีอาถรรพ์มากเพราะใช้เป็นสื่อแทนตัวเทพเจ้าได้ทุกองค์ และภายในหม้อกลัศก็จะใส่ของมงคลที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์เพราะหม้อกลัศคือหม้อแห่งความอุดมสมบูรณ์

ด้วยกลัศนั้นเป็นมหาสัญลักษณ์เพราะใช้บรรจุน้ำอมฤตที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งธารของชีวิตและเป็นตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ของสรรพสิ่ง ก็ด้วยน้ำอมฤตนั้นใช้ต่ออายุต่อวาสนาบารมีเพิ่มกำลังฤทธิ์สถาปนาให้ฐานะมั่นคงสถาพรดุจเทพเจ้าได้ หม้อกลัศนี้จึงมีอาถรรพ์มากไม่ใช่นึกจะสร้างก็สร้างได้ง่ายๆเลย ด้วยน้ำที่ใช้สร้างหม้อกลัศนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความบริบูรณ์และหม้อน้ำก็ดุจดั่งครรโภทรของแม่พระธรณีซึ่งยังให้เกิดความสมบูรณ์ตามมา ### พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งจะเกิดจะมีในวัฏสงสารนั้นย่อมเกิดมาจากครรภ์แห่งฟ้าดิน สรรพสิ่งทั้งหลายมีรากเหง้าเสมอกัน เช่นนั้นหม้อกลัศจึงเป็นตัวแทนแห่งความบริบูรณ์ทุกสิ่งและยังให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ตามความปรารถนาเพราะเป็นประดุจครรภ์แห่งฟ้าดิน(นี่เป็นเคล็ดที่น้อยคนนักจะรู้และที่สำคัญผู้ศรัทธาจะเปลี่ยนชีวิตคนมาได้นับพันๆปี)

หม้อกลัศได้ถูกยกฐานะขึ้นจากสัญลักษณ์แห่งพลังชีวิตของน้ำอมฤตคือผู้ครอบครองย่อมชนะชั่วกัปกัลป์จะทำกิจใดย่อมแพ้ไม่เป็น จากสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ...ความอุดมสมบูรณ์ มาสู่สัญลักษณ์ของเทพเจ้า
- หม้อกลัศเป็นสัญลักษณ์ของหม้อปูรณฆตะหรือหม้อน้ำแห่งความสมบูรณ์ตามอาถรรพ์ในยุคพระเวท
- หม้อกลัศเป็นตัวแทนของพระวรุณเทวราช ใช้ขอพรความอุดมสมบูรณ์ ใช้ให้สัตย์สาบานและสาบแช่งได้รุนแรงดุจคำพระวรุณในฤคเวท
- หม้อกลัศเป็นตัวแทนของมหาเทพต่างๆตามการระลึกถึงเช่นสัตยนารายณ์,มหาเทพ,มหาเทวี,พระลักษมี,พระพิฆเณศ....ท่านว่าคิดถึงองค์ไหนกลัศก็สื่อถึงองค์นั้น

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าหม้อกลัศคือบายศรีแขกแต่จริงๆแล้วกลับไม่ใช่บายศรี..ไม่ใช่ที่ใส่เพียงเครื่องเซ่นสรวงบูชาเทพ *** แต่ตัวกลัศเองกลับเป็นวัตถุที่ได้รับการบูชาเสมอเทพเจ้า จะบูชาไว้เพื่อดูดทรัพย์ดูดเงินดูดทองให้เข้ามาบูชา ให้เจริญด้วยลาภสักการะใดๆก็ดี ท่านว่าแค่พกไว้ก็หนุนดวงทุกด้านให้ดีขึ้นแล้ว...หนุนได้ทุกทางนั่นแหละตามความฝืดเคืองของแต่ละคนแล้วแต่จะอธิษฐานกันเอาตามเหตุและปัจจัยความไม่สมบูรณ์...ตามความปรารถนาของแต่ละคน

พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วกลัศไม่ใช่เพียงหม้อใส่น้ำอมฤต หากแต่เป็นมหาสัญลักษณ์ใช้สื่อถึงแทนตัวเทพได้ทุกพระองค์ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของพระวรุณมายาวนานนับร้อยนับพันปีจึงมีอาถรรพ์มากให้คุณโดยตรงกับตัวเราได้ด้วยร่างกายยมนุษย์ก็ประกอบด้วยเลือดเนื้อธาตุน้ำมากที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ง่ายเลยพระวรุณท่านให้คุณได้โดยตรง ### แต่ผู้ที่พกหม้อกลัศของท่านนั้นให้ระวังวาจาเอาไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าสาปแช่งใครเขาและห้ามเด็ดขาดคือห้ามเอ่ยออกนามพระวรุณก่อนทำการสาปแช่งผู้ใดเพราะผลที่ตามมาจะร้ายแรงอย่างมาก..รุนแรงเป็นที่สุด..ผลจะน่ากลัวเกินกว่าที่เทพเจ้าใดๆจะบันดาลให้เกิดขึ้นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าสาปได้ก็สาปไปแต่ระวังไว้เพราะพระวรุณท่านยุติธรรมเป็นที่สุด ความยุติธรรมของพระวรุณนั้นเกินหน้าเทพเจ้าทั้งหมดหนักหนายิ่งกว่ายมราชอันเธอคิดว่ายุติธรรมที่สุดแล้วเสียอีก
*** หม้อกลัศนี้หากเอาไปสาปแช่งคนที่เขาผิดจริงก็แล้วไป แต่หากเราผิดแล้วกลับนำไปใช้ก็รับผลสนองกันเอง(ทางที่ดีที่สุดอย่าเอ่ยนามวรุณเทวราชเพื่อจะสาปแช่งใคร หากพูดปกติสาปแช่งคนโดยพลั้งปากไม่เอ่ยนามท่าน ไม่ยกหม้อกลัศออกนามพระวรุณพ่ออาจารย์ท่านว่าจะไม่มีปัญหาใดๆเลย ในทางกลับกันหากเอ่ยนามพระวรุณและให้พรตัวเองหรือผู้อื่นผลก็จะรุนแรงเช่นกันหากแต่เป็นผลในทางที่ดี)

ฝังด้วยเหล็กวิชาองค์ธาตุอาตมัน
เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณสัณฐานเม็ดเล็ก ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง

แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น)

เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น)

ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น

องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล

ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น....

พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น) ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

**** หม้อกลัศนี้ท่านทำไว้น้อยเพราะเป็นของที่เหลือจากฝังองค์พระ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะเอาไปใช้ให้เป็นอุตม์(คือมหาอุดมสมกับนามครรภ์แห่งฟ้าดินที่ให้กำเนิดสรรพสิ่งสุดแต่จะคิดฝันแล้วควรบูชาไว้คู่กันอย่างน้อยก็คนละคู่เป็นเคล็ดไม่ขาดคู่โดดเดี่ยวหรือไม่ขาดสิ่งอุปโภคบริโภคมหาสมบัติอันมากวาสนา) รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่ากลัศทุกชิ้นเลือกเจ้าของ เทพเจ้าเขาไม่เอาคนซี้ซั้วมาครอบครองแน่นอน

ร่วมทำบุญบูชา หม้อกลัศชุบวาสนาครรภ์ฟ้าดินฝังองค์เหล็ก (คณโฑน้ำทิพย์) บูชา 900 บาท

​

 

ร่วมทำบุญบูชา องค์ครุฑปฐมชีวันราชันกำเนิด (ตราวงจรเทพราชันกินเหยื่อ)​

ปฐมบทแห่งราชันผู้สั่นสะเทือนฟ้าดินตลอดกาล
องค์ครุฑปฐมชีวันนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าครูในโลกทิพย์ทุกพระองค์แจ้งมาตรงกันหมด ด้วยถ้าไม่เอาออกมาให้คนใช้ในตอนนี้เธอจะรอไปถึงเมื่อไหร่ เพราะเป็นสุดยอดเครื่องมงคลที่จะใช้เสพย์,ใช้เอาอะไรก็ทำได้โดยง่ายและมีให้กินยาวนานเป็นวงจรไม่รู้สิ้นสุด ### เป็นปางปฐมชีวันหรือที่ท่านเรียกว่าราชันกำเนิดเกิดมาแบบราชันอย่างแท้จริง ด้วยเป็นองค์ครุฑที่อยู่ในช่วงเวลามีฤทธิ์ตบะบารมีมากที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าในเวลานั้นก็คือเวลาที่ท่านออกจากเปลือกไข่นั่นเอง

เวลาที่องค์ครุฑถือกำเนิดออกจากเปลือกไข่นั้นทั่วทั้งประสาทวิมานของพระกัศยปะเทพบิดรก็สว่างไสวด้วยรัศมีขององค์ครุฑที่สาดกระจายแรงกล้าปานรัศมีพระอัคนี เหล่าเทพเทวาทั่วโลกธาตุเห็นดังนั้นยังเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระอัคนีสาดแสงเล่นฤทธิ์ฤาจะเป็นพระอัคนีเสด็จมาต่างน้อมเศียรวันทากราบลงพร้อมกันเพราะความเข้าใจผิดนั้นไปทางทิศทางประสาทที่องค์ครุฑถือกำเนิด เพราะเข้าใจกันไปว่าพระอัคนีจะเสด็จมาปราสาทพระเทพบิดรด้วยองค์มหาฤาษีกัศยปะประกอบกิจพิธีใด (พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละเป็นช่วงเวลาที่องค์ครุฑมีรัศมีเจิดจ้าที่สุดและเพียงแรกเกิดก็ได้รับการยอมรับก้มหัวอภิวันท์จากเหล่าเทวดาหมื่นโลกธาตุพร้อมๆกันโดยไม่รู้ตัว)

เช่นนั้นถ้าจะทำองค์ครุฑที่มีฤทธิ์สูงสุดอันไม่มีผู้ใดกล้าทำกันก็ต้องทำองค์ครุฑที่ครูพระนารายณ์สอนท่านเรียกว่า "วิชาครุฑปฐมชีวัน"...แต่พ่ออาจารย์ท่านเรียกของท่านง่ายๆว่าครุฑเบบี๊(ครุฑเด็ก) เพราะเป็นครุฑที่เกิดมาก็ได้รับการกราบไหว้อ่อนน้อมก้มหัวจากมหาเทพเทวาทั้งหมดเช่นนี้จึงเป็นยิ่งกว่ามหาอำนาจและเกิดมาเพื่อเป็นใหญ่อย่างแท้จริง เมื่อได้เกิดมาแล้วองค์พระกัศยปเทพบิดรยังได้เอาอกเอาใจเพราะถูกใจและรู้อำนาจตลอดจนบารมีเบื้องหน้าของลูกตนนี้(ลำพังฟักออกจากไข่เทวดาก็กราบไหว้ทั้งหมื่นโลกธาตุแล้ว) ท่านจึงได้บำรุงถนอมลูกตนนี้เป็นพิเศษ ทั้งคอยปกป้องหาอาหารมาป้อนให้ถึงปาก *** เป็นวาสนาชั้นยอดที่พระเทพบิดรจะป้อนอาหารและให้ความเอ็นดูแก่ลูกตนใด เช่นนั้นตราองค์ครุฑปฐมชีวันหรือตราวงจรเทพราชันกินเหยื่อจึงเป็นยอดของเครื่องราง พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละคือสิ่งที่แม้เกิดมายังเล็กที่สุดแต่กลับยิ่งใหญ่ในบารมีอย่างสูงสุด แม้เทพเทวาทั้งหลายมารู้ภายหลังว่าเผลอไหว้องค์ครุฑออกจากไข่กันทั่วหน้าก็ยังเกรงเดชสามารถทำนายอนาคตเบื้องหน้าแห่งพญาสุเรนทรชิตได้ว่าจะมากอำนาจบารมีอย่างสูงสุด

ทั้งอาถรรพ์องค์ครุฑปฐมชีวันนั้นเมื่ออยากได้อยากกินอะไรย่อมมีคนหามาป้อนให้ถึงปาก พ่ออาจารย์ท่านว่าพอครูท่านให้นำมาทำเป็นเครื่องรางก็เข้าทำนองเดียวกัน ### แต่เธอจำไว้นะ ...ว่าจะเอาไปเทียบกับพวกสิงห์ป้อนเหยื่อ,หมูกินเสือ,เสือคาบเหยื่อ..อะไรเหล่านี้ไม่ได้ เทียบกันไม่ได้เลยเพราะนี่คือเทพราชันนอนกิน ...นี่คือองค์สุเรนทรชิตผู้มากบารมีอาศัยอยู่ในตรามหาวงจรแห่งการเสพย์สุขทุกสถาน ปรารถนาสิ่งใดเทวดาทั้งหมื่นโลกธาตุย่อมให้พรและหามาให้ทุกสิ่งด้วยทราบกันดีว่าอนาคตเบื้องหน้าแห่งพญาวิหคนั้นจะยิ่งใหญ่เพียงใด เช่นนั้นวิชาเทพราชันกินเหยื่อจึงถือได้ว่าเป็นความสบายสูงสุดแล้วเมื่อเราปรารถนาจะเอาอะไรถึงขั้นว่าต้องมีคนคอยหาสิ่งที่ดีที่สุด...ย้ำว่าต้องดีและดีที่สุดเท่านั้น ถึงจะหามาป้อนมาให้แก่เรา *** ไม่ว่าจะยุคนี้หรือยุคไหนถ้าคนอื่นเขาอยู่ไม่รอด แต่จำไว้เถิดหากมีตรานี้เราต้องรอดเป็นคติเดียวเท่านั้นไม่กลายเป็นอื่น ดั่งองค์ครุฑออกจากไข่ก็รอดพ้นจนเติบใหญ่มากบารมีประกาศศักดาไปทั่วฟ้า..เช่นนั้นท่านจึงใช้ "วิชาครุฑปฐมชีวัน" เพื่อมาทำเครื่องรางให้กำเนิดวิถีชีวิตในแบบราชันพญาสุเรนทรชิตแก่ผู้ครอบครองทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าหมดยุคแล้วที่จะพึ่งเพียงบารมีขององค์ครุฑเฉยๆเท่านั้น...หากแต่เครื่องรางนี้จะทำให้เราก้าวเดินไปบนเส้นทางราชันผู้ยิ่งใหญ่มากบารมีแบบองค์ครุฑ พ่ออาจารย์ท่านว่าสองอย่างนี้ต่างกันนะเหมือนฟ้ากับเหวเลยอย่างหนึ่งคือพึ่งเขาอีกอย่างหนึ่งคือเดินไปจนยิ่งใหญ่แบบเขา นี่คือดีได้ด้วยตัวเองเป็นการดีมากจากเนื้อในและคงทนถาวรมากที่สุด เช่นนั้นวิชานี้ท่านจึงจัดเป็นยอดวิชาขององค์ครุฑที่ท่านหวงแหนมาก ### ด้วยเป็นหมวดวิชาอาถรรพ์ ผู้ถือจะมีอาถรรพ์ให้เป็นไป ให้มั่งมี ให้มีกินไม่สิ้นสุด ให้เจริญขึ้นบนหนทางแห่งราชันองค์ครุฑ วิชานี้ถ้าองค์นารายณ์ไม่สอนไม่มอบให้ท่านก็ทำไม่ได้เลย ด้วยมีอาถรรพ์มากถึงขั้นว่าถ้าเบื้องบนไม่อนุญาติทำไปไม่นานก็มีแต่ตายกับวิบัติ องค์ครุฑปฐมชีวันก็คือการสาดแสงรัศมีครั้งแรกขององค์ครุฑเป็นแสงแรกที่จุดตำนานพญาสุเรนทรชิตให้ดังกึกก้อง แม้เหล่าเทวดาผู้มีมานะทิฏฐิทั้งหมื่นโลกธาตุยังต้องก้มหัวลงไหว้เด็กอ่อนที่เพิ่งลืมตาดูโลกอย่างเต็มใจ

พญาสุเรนทรชิตของพ่ออาจารย์นั้น...ต่างจากครุฑมากมายทั้งหลายอย่างไร
เรียกได้ว่าพ่ออาจารย์ท่านเป็นผู้เปิดศักราชแห่งพญาสุเรนทรชิตเลยก็ว่าได้เพราะท่านรู้และท่านทำมานาน ทำมาก่อนใครทั้งหมดในฐานะเจ้าตำรับอาถรรพ์องค์สุเรนทรชิต...เป็นที่ทราบกันดีว่าอยากเป็นใหญ่เป็นโตต้องบูชาพญาครุฑ และครุฑมีดีอะไร..พ่ออาจารย์พลมีดีอะไรถึงสร้างเเละเสกพญาครุฑได้ ด้วยอาถรรพ์พญาครุฑนี้มีอยู่จริงถึงขนาดที่ว่าในสมัยก่อนอดีตนายกชื่อดังก่อนเล่นการเมืองบังเคยเข้าพบพ่ออาจารย์ให้ท่านลงอาถรรพ์พญาครุฑให้ที่บ้านพักเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จทางการเมืองได้เป็นนายกหลายสมัยก็เเล้วกันไม่พูดมาก มาดูกันที่วิชาพญาครุฑนั้นท่านบอกว่ายิ่งนานวันก็จะยิ่งเลอะจนกู่ไม่กลับ แต่เดิมนั้นครุฑเป็นความเชื่อของทางพราหมณ์ฮินดูเเต่พุทธก็รับเอาเข้ามาด้วย แม้ในนานาอารยประเทศก็มีเรื่องพญาวิหคเช่นครุฑตามความเชื่อของเเต่ละชนชาติ เช่นฟีนิกส์ หงษ์ไฟ เป็นต้น ส่วนครุฑที่เเท้จริงนั้นคือครุฑที่มีกำเนิดสูงส่งมิใช่ครุฑที่เป็นเทพเจ้าในป่างิ้วตามคติพุทธไม่ ท่านว่าพราหมณ์สมัยก่อนเวลามีเทพเจ้าที่ไม่สามารถอธิบายถึงการเกิดได้ก็มักจะผูกเป็นตำนานยกให้เป็นลูกพระกัศยปเทพบิดรครุฑก็เช่นกันถูกยกให้เป็นลูกของพระกัศยปเทพบิดร ...ครุฑที่ว่าสูงว่าเป็นยอดแห่งครุฑก็คือครุฑที่เป็นลูกโทนไม่มีพี่น้องครุฑอื่นๆเป็นต้นวงศ์องค์ครุฑในพระกัศยปเทพบิดรนั้น

พญาครุฑของถิ่นต้นกำเนิดเเท้ๆนั้นที่ว่าสูงส่งสูงอย่างไร ท่านสูงเพราะว่าเป็นเทพเดรัจฉานที่บินสูงสุดเเละมีฤทธิ์มากที่สุด..มีรัศมีเป็นประกายไฟลุกเจิดจ้าเสมอด้วยพระอัคนี..เวลาบินไปไหนเหล่าเทวดาก็นึกว่าพระอัคนีก็จะออกมาไหว้ทำความเคารพ ที่ว่ามีฤทธิ์มากนั้นมากเพียงไหนก็มากพอๆกับที่วชิราวุธของพระอินทร์ไม่สามารถทำอันตรายให้ระคายผิวได้ แต่ครุฑก็เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนยอมคบหาพระอินทร์เป็นเพื่อนเเละสลัดขนปีกให้เป็นที่ระลึกไปหนึ่งเส้น อำนาจขององค์ครุฑนั้นมากพอกับพระผู้เป็นเจ้าเนื่องจากครุฑได้สู้รบกับพระนารายณ์โดยไม่รู้ผลเเพ้ชนะเเละพระนารายณ์เองก็ไม่ประสงค์จะรบต่อด้วยถ้าเกิดเเพ้ก็จะเสียศักดิ์ศรีของพระผู้เป็นเจ้าจึงยอมตกลงทำสัญญากันซึ่งครุฑนั้นเวลานั่งจะอยู่สูงกว่าพระนารายณ์เเละเวลาไปไหนจะยอมเป็นพาหนะให้ท่าน แต่ก็ปรากฏว่าในตำนานของพราหมณ์มีเเทบนับครั้งได้เลยที่พระนารายณ์จะเรียกใช้พญาครุฑมาเป็นพาหนะ หากไม่มีความจำเป็นเเล้วก็จะไม่รบกวนเเละยังให้เกียรติซึ่งกันเเละกันอีกด้วย เรื่องของพญาครุฑนั้นพ่ออาจารย์บอกว่าครุฑที่เป็นเทพเจ้าในป่างิ้วเป็นชาวสวรรค์จาตุมหาราชิกาที่มีนับล้านๆๆตนนั้น เป็นเพียงเชื้อสายเผ่าพันธุ์ของครุฑองค์ต้นเท่านั้นเรียกว่าพวกเลือดผสม ด้วยพญาครุฑองค์ต้นหรือพญาสุเรนทรชิตนั้นมีอานุภาพมาก มากขนาดที่ว่ากางปีกก็สามารถบดบังเเสงพระอาทิตย์ไม่ให้ตกต้องถึงโลกได้ กระพือปีกทีหนึ่งก็จะเกิดลมประลัยกัลป์พัดพาสิ่งที่ขวางหน้าไม่ว่าจะเป็นมหาคีรีไกรลาสหรืออะไรก็ตามให้ปลิวหายไปได้ในพริบตา ...เมื่อไม่รู้จึงมีคนเขียนนิยายกันมากเพื่อจะสร้างพญาครุฑ และพอสร้างออกมาเเล้วประสบการณ์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนครุฑที่เกิดกับนางวินตาเป็นบุตรของพระกัศยปะเทพบิดรที่หมายถึงนั้นไม่ใช่ครุฑธรรมดาสามัญทั่วไป แต่เป็นจอมครุฑพญาสุเรนทรชิตที่เป็นพาหนะของพระนารายณ์ เป็นครุฑที่ชนะพระอินทร์มีอานุภาพเสมอด้วยพระนารายณ์เป็นเจ้า เป็นพี่น้องร่วมบิดากับองค์ต้นเผ่าพันธ์พญานาคองค์อนันตนาคราชซึ่งเกิดกับนางกัทรุอันเป็นบรรพบุรุษแห่งสายนาคพันธุ์ทั้งปวง **** ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ "วิชาครุฑปฐมชีวัน" ซึ่งเป็นที่สุดของวิชาอาถรรพ์ขององค์พญาสุเรนทรชิตฝากไว้ซักคราหนึ่ง ด้วยทำวิชาอาถรรพ์เพื่อให้กำเนิดมหาวงจรตามวิถีจอมราชันพญาครุฑนี้จะยิ่งมีอาถรรพ์สูงขึ้นไปอีกขนาดไหนก็ลองคิดดู ### ครุฑที่พ่ออาจารย์ท่านสื่อท่านทำนี้ มีชื่อว่าพญาสุเรนทร์หรือสุเรนทรชิตนั่นเอง..ซึ่งเป็นชื่อที่มีเกียรติ..เป็นชื่อของครุฑองค์ต้น..เป็นชื่อที่มีความหมายว่า "ครุฑผู้ชนะพระอินทร์" นั่นเอง เเม้เเต่เจ้าสวรรค์และอาวุธที่ทรงอานุภาพสูงสุดในเทวโลกยังเอาชนะได้โดยไม่บาดเจ็บนับประสาอะไรกับปัญหาเรื่องเล็กๆของมนุษย์ที่จะให้ท่านช่วยคลี่คลายหรือแก้ไข

พ่ออาจารย์ท่านปั้นครุฑปฐมชีวันเมื่อฝักออกจากไข่ในห้วงเวลาที่องค์ครุฑมีบารมีสูงสุดกระทำสิงหนาทสำเเดงรัศมีเเบบพระอัคนี ....เป็นปางที่องค์ครุฑมีเกียรติยศสูงสุดด้วยเทพหมื่นจักรวาลนั้นต่างหมอบกราบเมื่อแรกกำเนิดพร้อมกัน ครุฑองค์นี้เเหละที่อยู่ที่ไหนไปที่ใดเทวดาก็หลงเข้าใจผิดว่าพระอัคนีเสด็จมาพากันออกมาบูชาเพราะเป็นครุฑองค์ต้นที่ทรงฤทธิ์ถึงปานนั้น *** แม้ในร่างกายคนเรานี้มีเสนียดมีอัปมงคลอยู่มาก..อาจมีไฝในที่ลับ..มีสิ่งไม่พึงประสงค์เป็นอัปมงคลในตัวโดยที่เราไม่รู้ก็ ให้พญาสุเรนทร์นี้ท่านช่วยเเก้ไขอาถรรพ์เหล่านั้นให้ท่านช่วยทำลายอาถรรพ์ต่างๆในร่างกายของเรา เมื่อร่างกายของเราไม่มีอาถรรพ์ทั้งหลายเเล้วเราจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้โดยง่ายแบบคนอื่นเขา พญาสุเรนทร์นี้นอกจากใช้อธิษฐานให้ท่านช่วยทำลายอาถรรพ์ทั้งหลายในร่างกายเเล้วยังให้ท่านทำลายอาถรรพ์ทั้งหลายสิ่งอัปมงคลทั้งหลายในเคหสถานบ้านเรือนได้อีกด้วย บ้านใครตรงทางสามเเพร่งตรงเสาไฟอยู่ในที่อาถรรพ์เจ้าที่เฮี้ยนเป็นมิจฉาทิฏฐิเทวดาเกเรรังแก ท่านว่าสิ่งเหล่านี้บอกกล่าวพ่อพญาสุเรนทร์ท่านเถิดศักดิ์ศรีท่านสูงเเค่ท่านมาสิ่งอัปมงคลเหล่านี้ก็กระจัดกระจายเเล้ว

องค์ครุฑปฐมชีวันนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเหมาะแก่ผู้ที่ต้องการวาสนาสูงส่งเพราะทำได้ยาก..ทำเพื่อเปลี่ยนวงจรชีวิตให้เดินไปตามทางแห่งราชันผู้เกรียงไกรไร้พ่ายเช่นพญาสุเรนทรชิต ด้วยพ่ออาจารย์ต้องเชิญองค์พญาสุเรนทร์มาลงอาถรรพ์ปฐมชีวันให้ทีละองค์เองอีกด้วย ท่านว่าใช้ได้ทุกทางเลยองค์ครุฑของท่านจะทางเสน่ห์ก็ดี...ดูลูกหลานท่านสินับล้านๆๆตนเข้าไปแล้ว ของอย่างนี้อิทธิคุณออกได้ทุกทางตามที่เราอธิษฐานเลย ข้อแม้มีอยู่เรื่องเดียวคือตนเองต้องเป็นสัมมาทิฏฐิเป็นคนดีถึงจะใช้ขึ้น พ่อพญาสุเรนทร์นั้นชอบคนมีสัจจะรักษาคำพูดอย่างมาก ระวังเรื่องนี้ให้ดีถ้าประพฤติให้เป็นนิสัยในชีวิตประจำวันได้มีเเต่รุ่งกับรุ่งอย่าพูดในสิ่งที่ตนไม่คิดจะทำหรือทำไม่ได้ ....อย่าขออะไรกับท่านถ้าจะลืมคำบนบานศาลกล่าว ทางที่ดีให้หาสมุดเล่มเล็กๆจดไว้ว่าบนอะไรขออะไรกันลืม พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้วไม่ต้องใช้อามิสสินจ้างใดๆเลยเพียงแค่องค์ครุฑปฐมชีวันก็ทำเพื่อเปลี่ยนวงจรชีวิตคนอยู่แล้วอยากได้อะไรใช้อธิษฐานกันก็พอ

ตราวงจรเทพราชันกินเหยื่อ
เมื่อสร้างองค์ครุฑปฐมชีวันได้แล้ว พ่ออาจารย์ท่านต้องรวบรวมวลสารต่างๆเพื่อจะเชิญองค์ครุฑเข้าไปสถิตย์ในซุ้มวงจรเทพราชันกินเหยื่อ โดยท่านทำเป็นรูปพญานาคอันเป็นเหยื่อขององค์ครุฑโอบอุ้มไว้ ท่านทำเป็นงูกินหางเป็นวิชาอาถรรพ์ที่ได้สองทางคือ"กินรวบ..กินทั้งนอกกินทั้งใน" นอกก็กลืนกิน ในก็พร้อมจะกินท่านสร้างตราวงจรนี้ด้วยผงอาถรรพ์ทั้งหลายตามที่ท่านรู้และได้เรียนมาแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆนั้นทำได้ยากอย่างยิ่งด้วยหลายๆสิ่งที่นำมาบดโขลกผสมกันนั้นล้วนมีอาถรรพ์ในตัวตนของมันและบางอย่างนั้นก็เป็นสมบัติเมืองบาดาลที่นาคราชเขาหวงพอๆกับชีวิตเขา

ด้วยวงจรเทพราชันกินเหยื่อนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอนันต์มีรูปเปรียบเป็นวงแหวนจักรวาลจึงมีค่าเลิศกว่าสมบัติสวรรค์หรือวิมานอากาศใดๆทั้งสิ้น เมื่อองค์ครุฑปฐมชีวันสถิตย์อยู่ภายในจึงเป็นมหาสัญลักษณ์อันเป็นอนันต์ทุกสิ่ง..ให้ได้ทุกอย่างเป็นอนันต์..ให้มีกิน..มีให้กินเป็นอนันต์มีวาสนาไม่รู้สิ้นรู้หมด ด้วยเป็นการสอดประสานกันระหว่างพลังของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ทั้งรูปงูที่คาบหางกลืนกินร่างกายของตัวเองนั้นเป็นอาถรรพ์อย่างหนึ่งนั่นคือคติของการดับและการเกิดใหม่ได้ด้วยตนเองสิ่งนี้จะเรียกว่าการก่อเกิดก็ได้ เพราะกำหนดมหาวงจรแห่งการกำเนิดได้เองเช่นนี้วงจรเทพราชันกินเหยื่อจึงกินได้เรื่อยๆส่งผลให้เรามีได้ทุกสิ่งเป็นอนันต์ตลอดไป ### เป็นเครื่องรางที่พ่ออาจารย์ท่านว่าแรงไม่มีตกเลย ผู้บูชาจะมากวาสนาไม่ร่วงหล่นมีชีวิตอยู่นอกเหนือจากกฎสามัญปกติ จะเป็นชีวิตที่ไม่ได้มาจากการสร้างของพระเป็นเจ้าเพราะไม่ถูกควบคุมโดยวัฏจักร ไม่ได้อยู่ในกฏไตรลักษณ์ ทุกสิ่งที่อยากกินอยากได้หรือปรารถนาจะเกิดโดยปราศจากผู้ให้กำเนิด(กฏแห่งกรรรมที่เกื่ยวเนื่องกัน บางอย่างปรารถนาก้ไม่มีวันเกิดขึ้นได้เพราะไม่มีบุญสัมพันธ์กัน)นั่นคือเกิดด้วยวงจรเทพราชันกินเหยื่อ เมื่อไม่อาศัยผู้ให้กำเนิดจึงไม่ต้องอาศัยวาสนาในชนกกรรมของตนเช่นนั้น ท่านว่าวิชาครุฑปฐมชีวันในตราวงจรเทพราชันกินเหยื่อจึงเป็นวิชาที่ละเอียดและลึกซึ้งเกินหยั่งถึงอย่างแท้จริงเป็นตราที่ใช้แทนวงจรความเป็นนิรันดร...แทนโลกแห่งจิตวิญญาณ จะช่วยส่งเสริมแก่นพลังชีวิตของผู้ใช้ให้ไม่มีวันหมดเหมาะแก่การสร้างสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นได้โดยการอิงอาศัยพื้นฐานจากปัจจัยเดิมของตัวเองโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวตน ดุจเราสร้างชีวิตใหม่ขึ้นได้เองโดยการกลืนกินชีวิตเดิมดังนั้นวงจรนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสมดุลย์มีจังหวะที่เกิดขึ้นโดยสม่ำเสมอสื่อถึงสมดุลยภาพสร้างความสมดุลระหว่างวงจรกับตัวเราคือพลังชีวิตของเราที่จะเชื่อมต่อในกิจการที่เรากระทำอยู่ณ.ปัจจุบันเวลานั้นๆให้อยู่ในช่วงสมดุลมากที่สุด..มีแต่ได้รับ..มีแต่สำเร็จ..มีแต่รุ่งเรือง

วงจรเทพราชันนั้นจะเคลื่อนตัวโดยการหมุนดุจกงจักรจึงเป็นดั่งเทพอาวุธที่ใช้ทำลายผู้อื่นได้อย่างง่ายดายเป็นความตรงกันข้ามที่แฝงไปด้วยความสมดุลย์ พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นเมื่อไม่มีก็ต้องได้ต้องมีโดยไม่สนกฏของพระเป็นเจ้าเช่นนั้น เช่นนั้นผู้ที่ถือครององค์ครุฑปฐมชีวันจะรอดพ้นจากอำนาจแห่งกรรมอันหนักหนาหรือลิขิตชะตาที่ตายตัวและแม้แต่พลังแห่งวิถีดวงดาวที่กำหนดชะตาได้ ด้วยเป็นมหาวงจรที่ไม่เกื้อหนุนโดยกฏไตรลักษณ์เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงว่ามันมีพลังพิศดารมากนัก เพราะสิ่งนี้คือพลังแห่งการกลับคืนสู่นิรันดร์ช่วยให้คนใช้เดินไปได้สุด..ไปสู่จุดสูงสุด ทั้งเป็นการเริ่มต้นในความสิ้นสุดแม้วิบัติถึงขั้นเสียหายไปแล้วก็มีโอกาสเกิดใหม่ได้เสมอ เป็นการเกิดขึ้นใหม่ได้อย่างไม่รู้จบไม่ว่าจะทำอะไรทำกี่อย่างก็แจ้งเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง วงจรนี้จึงเป็นมายามิติที่เป็นเอกเทศเป็นมหาสัญลักษณ์ที่จะทำงานตลอดไปตราบใดที่ชีวิตยังมีพลังงานอยู่ย่อมใช้ได้เสมอ

ด้วยพลังแห่งการกลืนกินกับพลังของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อยู่ในกฏของไตรลักษณ์นั่นแหละที่จะเปลี่ยนชีวิตคนได้ด้วยทุกสิ่งนั้นล้วนอยู่ในวัฏจักรแม้จะทรงวิชาหรือมีอำนาจจิตแรงกล้าสักปานใดก็หนีไม่พ้นข้อนี้ เช่นนั้นมหาวงจรเทพราชันจึงใช้เป็นทางออกเมื่อเจอวิกฤติหรือกับคนที่ชะตาสับสนหาความสำเร็จไม่ได้ ด้วยมหาวงจรจะพลิกชีวิตผู้บูชาทำการกลืนกินและเปลี่ยนแปลงวงจรชีวิตนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นวิชาอาถรรพ์ที่จะช่วยให้เราใช้ชีวิตกันได้ง่ายขึ้น ### ชีวิตใครที่เอาตัวไม่รอดเจออาถรรพ์หรือกฏแห่งกรรมกฏแห่งกาลเวลากลืนกินอยู่ตลอดเวลาสม่ำเสมอพ่ออาจารย์ท่านว่าวงจรเทพราชันนั้นจะล้างอาถรรพ์ได้ เพราะเราจะอยู่เหนือกฏและองค์ครุฑปฐมชีวันจะกลืนกินกาลเวลาอันวิบัตินั้นเสียเอง..เราจะเปลี่ยนชีวิตกลายเป็นผู้กินไม่ใช่ผู้ถูกฏแห่งกรรมและกาลเวลากลืนกินจะนำไปใช้ทางใดก็ได้พ่ออาจารย์ท่านว่าขวนขวายใช้ความคิดกันดูเถิด เบื้องบนเขาไม่ให้ท่านชี้โพรงให้กระรอกมากไป ผงที่ท่านนำมากดเป็นมวลสารของมหาวงจรนั้น บางอย่างทั้งชีวิตของการเดินป่าหาของอาถรรพ์ก็ไม่สามารถหาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวท่านนั้นยังดีที่ได้ของตกทอดมากจากครูบาอาจารย์อยู่บ้างจึงสร้างขึ้นมาได้ไม่ยากนัก สิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือสังขารพญานาค,ซากไข่พญานาค,ก้อนแป้งผัดหน้านางนาคกัลยาท่านว่าของเหล่านี้ต้องมีให้ครบสูตร นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้เพิ่มอาถรรพ์แห่งคุณวิชาด้วยการลบถมผงมหานาคทุกตระกูลอันเป็นเหยื่อองค์ครุฑที่มีอานุภาพมากเข้าไปด้วย ซ้ำยังใช้มวลสารธาตุกายสิทธิ์,ดินแม่น้ำโขง,หินนาคราช,หินแม่น้ำโขง,เหล็กไหลพญานาค,แร่สะเก็ดดาว,ผงยันต์วะพันตัว,ผงวาสนา,ผงนาคบาศ,ผงนาคสวาท,ผงนาคเกี้ยวชู้,ผงกำลังนาคแสนตน,ผงอิทธิเจ,ผงนะปัดตลอด,ผงมหาเศรษฐี ,ผงมหาลาภ,ผงพระเจ้าเงินตรา,ผงวิชาเทพเจ้าแห่งการพนัน,ผงวิชาเสี่ยงดวง,ว่านมหาลาภ,ว่านนาคราช... พ่ออาจารย์ท่านว่าผงวิเศษแต่ละอย่างนั้นย่อมมีคุณใช้ได้นับพันนับหมื่นช่องและเมื่อผสมผงนั้นครูเทพครูพรหมทั้งหลายท่านยังช่วยกันใช้อำนาจส่งต่อพลังงานการหมุนวนเป็นวงจรมหาวัฏฏะอย่างมีนัยยะพ่ออาจารย์ท่านว่าเหล่าครูท่านช่วยทำให้ด้วยความเมตตาเพื่อให้พลังนั้นหมุนวนถ่ายเทได้ไม่มีจุดสิ้นสุด

ตราวงจรเทพราชันนั้นมีอาถรรพ์มากแม้ผู้ใดได้ไว้ในครอบครองก็จะช่วยให้มีกินมีใช้ไม่มีอดตลอดชาติ จะนำพาให้บังเกิดโชคลาภแก่ผู้ครอบครองและยังใช้คุ้มครองภัยพิบัติทั้งหลาย และยังใช้ปราบมารปราบคู่อริที่มาราวีชีวิตเราให้มีอันเป็นไปได้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่ามหาวงจรเทพราชันนั้นปรารถนาสิ่งใดย่อมได้เสมอใจทุกสิ่งขอให้อธิษฐานกันดีๆว่าจะเอาอะไรจะใช้กับอะไร พกไว้เถิดองค์ครุฑท่านบอกฉันว่าจะชนะหมดเลย..ชนะทุกอย่างแม้ใครกล้ามาต่อกรเราก็ต้องแพ้ทั้งหมด แม้ผู้ปรารถนาหนทางอันเจริญก้าวหน้าก็กินใช้ได้ไม่รู้หมดมีหนทางให้ก้าวสูงขึ้นไปเรื่อยๆทำอะไรก็มีแต่ได้ไม่มีเสีย ทั้งมหาวงจรนี้ยังเชื่อมต่อกับองค์ครุฑปฐมชีวันสุเรนทรชิต..เชื่อมต่อเราเข้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์..เชื่อมเราสู่วงจรชีวิตราชันโดยตรงเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้พกติดตัวโดยทำเป็นพวงกุญแจหรือจะนำขึ้นแขวนคอก็ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะพวกที่อยู่ในสถานที่ซึ่งมีอาถรรพ์ เรียกว่าชีวิตต้องอาถรรพ์ก็ดีหรือที่อยู่ที่ทำกินต้องอาถรรพ์ก็ดีทั้งบ้านติดทางสามแพร่ง บ้านที่อยู่ต่ำกว่าถนน บ้านที่อยู่ต่ำกว่าบ้านข้างๆ หรือใครที่โดนข้างบ้านกดขี่ หรือรู้สึกว่าเขาทำพิธีทำสิ่งใดข่มหรือสะกดเรา ก็ให้เอาองค์ครุฑนี้แขวนไว้หน้าบ้านหรือบางบ้านมีต้นไม้ใหญ่อยู่หน้าบ้านต้นไม้นั้นข่มบ้านเราหากแขวนนาคบาศไว้ที่หน้าบ้านแม้ต้นไม่นั้นมีภูติผีหรือรุกขเทวดารักษาอยู่เขาก็จะออกไปไม่นานต้นไม้นั้นก็จะตาย ดังนั้นเครื่องรางนี้จึงใช้แก้อาถรรพ์ได้ทุกประการตามแต่ใจจะปรารถนาทั้งการพกติดตัวจะช่วยปราบสิ่งที่ไม่ดีต่างๆที่จะมาหาเราได้อีกด้วย

### ด้านหลังท่านฝังด้วยองค์เหล็กอาตมัน กับลงตะกรุดครุฑเปิดปากทั้งสี่ทิศฝังไว้ ท่านว่าจะกินอะไรในมหาทิศทั้งสี่นี่องค์ครุฑกินได้หมดเลยเพียงเราอธิษฐาน แม้จะย่างก้าวไปในอาณาเขตของผู้ใดต่อให้เป็นมหาเทพองค์ไหนก็ไม่ติดนะ ถ้าเราอยากเอาอยากได้เขาจะดึงเข้าสู่วงจรราชันของเขาหมด..วงจรที่มีเขาเป็นราชันเป็นผู้ยิ่งใหญ่แต่ผู้เดียว..ปรารถนาอะไรย่อมไม่ติดอะไรทั้งนั้น นี่คือกินได้ทั้งหมดเลยในมหาทิศทั้งสี่อันเราโคจรไป เมื่อจะใช้ขอเพียงใจเรากล้าบอกกับท่านได้เลยตรงๆทุกสิ่ง...ถ้าใจเรากล้าจะกิน..ต้องได้กิน

คาถาบูชา
โอมพญาครุฑธาราชันกำเนิด พระบิดาประเสริฐท่านให้กำเนิดพ่อสุเรนทร์มา ครุฑโธ ครุฑโธ นะโมวิโลโค วิลูคะรีนะตีอูรู นะมัตเตร ฮีเรคารัมมาตู กูจะปลุกซึ่งดวงตราวาสนา กูจะเรียกให้พระเทพบิดรป้อนอาหาร กูจะกิน กูต้องได้กินทุกสิ่งอันพึงปรารถนาวาสนาสวรรค์ชั้นฟ้าอยู่ในปากของกู ครุฑโธ ครุฑโธ(พ่ออาจารย์ท่านว่าอาราธนาองค์ครุฑปฐมชีวันอยากได้อะไรหลับตานึกเอาเลย)

**** พญาครุฑปฐมชีวันนั้นท่านว่าทำยากมาก เพราะเป็นหมวดวิชาอาถรรพ์เวทย์ที่ยิ่งกว่าวิชาใดๆในโลก เป็นของสูงเป็นวิชาขององค์สุเรนทรชิตที่ท่านใช้กินได้ ใช้รับได้ในสิ่งที่ท่านต้องการและปรารถนา รายการนี้ท่านว่าจะจองคนละกี่องค์ก็แล้วแต่วาสนาบารมีทางผู้บูชาเขา ถ้ากิจการใหญ่โตหรือฝันสูงมากก็ต้องใช้กันเป็นคู่หรือตามแต่เทวดาประจำตัวจะบอกแก่เขาเลย เขาจะมีตัวเลขกำลังขององค์ครุฑปรากฏขึ้นในใจเอง รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา องค์ครุฑปฐมชีวันราชันกำเนิด (ตราวงจรเทพราชันกินเหยื่อ) บูชา 2,500 บาท

​

 

องค์ครุฑปางนี้ท่านว่าเป็นปางที่มีอาถรรพ์สูงสุด ..แรกกำเนิดก็ได้รับการเคารพนบนอบสูงสุด..ได้รับความสบายสูงที่สุด..เปล่งกำลังฤทธิ์มากที่สุด ท่านว่าถ้าใครคิดว่าครุฑฉันเป็นลูกเจี๊ยบก็อย่าเอาไปเพราะชุดนี้เป็นวิชาอาถรรพ์ที่มีอาถรรพ์มากใช้สร้างวงจรราชันกำเนิด แม้ตัวพ่ออาจารย์ท่านก็ทำได้เพียงครั้งเดียว ท่านว่าถ้าผิดครูข้างบนเขาไม่อนุญาตินี่เขาเอาถึงตายทีเดียว

 

พูดคุยยามเช้า​

อรุณสวัสดิ์ครับ ก็มาพูดคุยกันสบายๆรอบเช้ากันต่อจะว่าไปแล้วเวลาพ่ออาจารย์ท่านพูดอะไรส่วนใหญ่จะแม่นเสมอ เรียกว่าประมาทกับคำพูดท่านไม่ได้เลย ....ติดตามกันให้ดีนะครับ "บางสิ่งจะมีหรือไม่มีก็ได้..แต่กลับกันบางสิ่งที่บรมครูท่านเหลือไว้ให้หากไม่มีแล้วก็ไม่นับเป็นสายครูเดียวกับฉัน" คำพูดในลักษณะนี้ท่านไม่เคยพูด และไม่พูดเสียประโยชน์เปล่าแน่นอน ลองว่าถ้าลั่นหรือกลั่นกรองออกมาจากปากได้แล้วสิ่งนี้ย่อมสำคัญเทียบเทียมของแทนตัวบรมครูอย่างแท้จริง...แต่จะเป็นครูองค์ไหน

คำพูดบางคำนั้นก็มีความหมายลึกซึ้ง และชัดเจนตรงประเด็น ด้วยพ่ออาจารย์ท่านก็สื่อชัดๆตรงๆเสมออยู่แล้ว ของสำคัญในวาจาสำคัญที่ยากจะเอ่ยคำออกมาได้ เดี๋ยวมารอลุ้นกันรับรองว่าเกินคาดเพราะพ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งนี้ลองโพสลงไปคนที่เขามีวาสนาร่วมกันรออยู่แม้ไม่บอกอะไรสายสัมพันธ์มันก็ดึงเข้ามาอยู่ดี ของสิ่งนี้ผมแอบบอกไว้ก่อนเลยว่าเป็นส่วนหนึ่งของกายสังขารแห่งกายทิพย์องค์ครูบาอาจารย์ท่านที่มอบไว้ให้พ่ออาจารย์สักการะบูชาแทนตัว รู้กันอย่างนี้ช่วงนี้ก็เกาะกระทู้กันแน่นๆนะครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เย็นนี้จะเปิดตัวเครื่องมงคลครั้งแรกที่ให้จองแบบไม่บอกชื่อและรายละเอียดใดๆเลย ...จะมาใส่รายละเอียดให้วันพรุ่งนี้ แต่แอบกะซิบนะครับว่ารุ่นนี้ท่านสร้างจากของสำคัญในร่างกายบรมครูของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเขาไม่สนก็แปลว่าคนละทางไม่มีอะไรมากไปกว่านี้

 

รอบเย็นเตรียมตัวกันนะครับ เคราพระเทพบิดร...ของสิ่งนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านได้มาจากครูสอน - ครูหัด สมัยท่านนุ่งห่มขาวถือพรตฤาษีอยู่ป่า ...บอกคร่าวๆว่าครูสอนครูหัดท่านนี่แหละไม่ธรรมดา เฉพาะเคราพระเทพบิดรที่บรรจุลงในขวดแก้วใสฝังไว้ในเครื่องมงคลนั้นไม่ใช่สิ่งที่มีเงินล้านแล้วจะซื้อได้เลย รายการนี้ถ้าใครพลาดรอเนื้อหาเต็มๆพรุ่งนี้อาจจะได้พลาดกันจริงๆเพราะพ่ออาจารย์ท่านพูดว่าวาสนาคนที่ต้องกันเขามี ไม่ต้องรออะไรหรอกเขาจะมาเอาไปเอง ...ก่อนเปิดจองจะบอกย้ำให้อีกครั้งว่ารายการนี้เป็นยอดของอาถรรพ์ฝ่ายมหาคุรุเทพที่มีแรงครูสูงที่สุดในสายท่าน

 

ร่วมทำบุญบูชา พระผงชำระธาตุแบ่งเบาผ่อนผันอโหสิกรรม(ปฐมาจารย์มหาสังขารพระเทพบิดร)
​

พระกศยปเทพบิดร บรมครูผู้สร้างกลไกสรรพชีวิตในจักรวาล
จะนำเรื่องราวของพระองค์ท่านในสายพ่ออาจารย์ที่ลงเปิดเผยเเพร่พระบารมีถึงความยิ่งใหญ่เเละเป็นที่เคารพเกรงกลัวของเหล่าทวยเทพรวมถึงสรรพชีวิตในกฏแห่งวัฏฏสงสารนี้ พระมหาฤาษีผู้ได้รับพระนามยิ่งใหญ่ว่า พระเทพบิดร มาให้รับทราบกันคร่าวๆ

พระกศยปเทพบิดรนั้นท่านเป็นหนึ่งในเจ็ดมหาฤาษีของโลกเรียกว่าสปตะฤาษีหรือฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 ตน ซึ่งได้รับเกียรติและการเคารพสูงสุดจากพระผู้เป็นเจ้าในฐานะคุรุและมหามุนี ในคัมภีร์ศตปถพราหมณะระบุชื่อว่า 1.โคตม 2.ภัทรวาช 3.วิศวามิตร 4.ชมทัศนี 5.วศิษฐ์ 6.กัศยป และ 7.อัตริ ในที่นี้จะกล่าวถึงพระกศยปเทพบิดรนอกจากจะเป็นสปตะฤาษีท่านยังควบตำแหน่งเป็นพระมหาประชาบดีที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะท่านเป็นผู้ให้กำเนิดมวลมนุษย์เเละเทพเทวะทั้งปวงตลอดจนสร้างกลไกสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

พระกศยปเทพบิดรนั้นในบางตำราก็ว่าเป็นพระบิดาของพระนารายณ์ ในวิษณุปุราณะก็กล่าวว่าเป็นบิดาของมหาฤาษีนารทมุนี ซึ่งพระฤาษีกัศยปเทพบิดรองค์นี้ยิ่งใหญ่ในตบะฌาณทรงศักดิ์และทรงสิทธิ์เหนือมวลเทพเจ้าทั้งปวงหากแต่ไม่ค่อยมีผู้ใดกล่าวถึงเเละสร้างท่านกันมากนัก พระกศยปมหาฤาษีมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อว่าพระกศป,พระประชาบดี,พระเทพบิดา..อื่นๆ และด้วยเหตุที่เป็นผู้ให้กำเนิดเทพเทวดา,มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายเช่น แทตย์,ทานพ,นาค,ครุฑและปีศาจ ไม่เว้นแม้แต่พระผู้เป็นเจ้าท่านจึงได้รับการขนานพระนามด้วยเกียรติยศสูงสุดว่า "พระเทพบิดร"

พระองค์มีที่สถิตอยู่ที่เขาเหมกูฎบรรพตเป็นผู้แต่งโศลกต่างๆในคัมภีร์ฤคเวทเป็นอันมากรวมถึงแต่งพระเวทอื่นๆบางตอนด้วย ว่ากันว่าพระกศยปะองค์นี้ยังเป็นพระอาจารย์ที่สอนศิลปะศาสตร์แก่ 2 ศิษย์ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมหาอวตารของพระวิษณุที่เก่งที่สุดในโลก สาเหตุของความเก่งกล้าก็มาจากครูผู้นี้นั่นเองได้แก่ ปรศุราม(รามสูร)และพระรามจันทร์(พระราม) ต่อมาในยุคไตรเภทคัมภีร์ในยุคนี้ได้บันทึกถึงกำเนิดพระศิวะเจ้าว่าทรงประสูติจากพระนางสุรภีและพระบิดาก็คือพระกัศยปะเทพบิดรและในคัมภีร์พรหมมานัสก็ยังกล่าวไว้เช่นกัน จะเห็นได้ว่าพระมหาฤาษีองค์นี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆด้วยพระกศยปะมีอัครมเหสีชื่อพระอทิติและมีมเหสีฝ่ายซ้าย(องค์รอง)คือนางทิติแล้วก็มีชายาอีก12องค์ บางตำราก็ว่ามี13องค์นอกจากนั้นยังมีนอกสมรสอีกนับพันล้านนาง

พระกศยปมหาฤษีหรือกัศยปเทพบิดรมีโอรสอยู่มาก เช่นพวกอาทิตย์ทั้ง 8 คือ สุริยาทิตย์,วรุณาทิตย์,มิตราทิตย์,อริยมนาทิตย์,ภคาทิตย์,องศาทิตย์,อินทราทิตย์และธาตราทิตย์ โดยเป็นโอรสที่เกิดกับนางอทิติอัครมเหสี พูดง่ายๆคือพระมหาฤาษีองค์นี้เป็นพ่อของพระอินทร์,พระอาทิตย์,พระวรุณ,พระยมเป็นต้น กล่าวชัดๆคือลูกของท่านล้วนกุมกลไกต่างๆในมหาจักรวาลไว้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด..อีกองค์หนึ่งที่สำคัญมากคือพระวามนซึ่งเป็นพระนารายณ์อวตารปางที่ 5 โดยเกิดกับพระนางอทิติเช่นกัน จะเห็นได้ว่าท่านเป็นฤาษีที่อยู่สูงเเละมีความสำคัญมากแม้เเต่พระเป็นเจ้ายังเลือกที่จะเกิดเป็นพระโอรสของท่านเลย ด้วยท่านเป็นผู้สร้างกลไกจักรวาลจึงมียอดบุตรที่เรารู้จักกันดีอีกมากมาย
- ครุฑ นั้นเกิดกับนางวินตา อันว่าครุฑบุตรของพระกศยปะเทพบิดรที่หมายถึงนั้นไม่ใช่ครุฑธรรมดาสามัญทั่วไป แต่เป็นจอมครุฑพญาสุเรนทรชิตที่เป็นพาหนะของพระนารายณ์ เป็นครุฑที่ชนะพระอินทร์มีอานุภาพเสมอด้วยพระนารายณ์เป็นเจ้า
- นาคกับอรุณ เกิดกับนางกัทรุ พญานาคที่เกิดเป็นโอรสนี้ก็รวมไปถึงองค์อนันตนาคราช บรรพบุรุษแห่งสายนาคพันธุ์ทั้งปวง
- มารุต(ลมหรือพระพาย)และแทตย์ เกิดกับนางทิติ พระมารุตหรือพระพายที่เป็นบิดาของหนุมานก็เป็นบุตรของพระองค์
- ทานพ เกิดกับนางทนุ
- ปีศาจ เกิดกับนางโกรธศา
- อสุรินทรราหู ผู้เป็นใหญ่แห่งอสุรกายภูมิผู้ได้รับขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งมาร ก็เป็นบุตรที่เกิดจากพระกัศยปะเทพบิดรกับนางสิงหิกาด้วย
ท่านเป็นพระบิดาของเทพเจ้าหลายพระองค์มากจริงๆไม่อาจกล่าวได้หมด จึงทำให้ท่านเป็นประชาบดีที่ได้รับเกียรติให้ใช้พระนามว่าพระเทพบิดร จะเห็นได้ว่าชื่อพระกัศยปเทพบิดรก็ได้มาเพราะเหตุที่มีลูกเป็นเทพที่คนรู้จักกันมากมายหลายองค์นี่เอง ซึ่งเเต่ละพระองค์ก็ยิ่งใหญ่จนมิอาจจะกล่าวได้ กศปหรือกัสสป มีความหมายเดียวกันคือแปลว่าผู้มีฟันดำชื่อนี้มีผู้ใช้กันมาก พระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 ก็มีชื่อนี้ รวมทั้งพระอรหันต์สาวกองค์แรกที่เป็นประธานในการทำสังคายนาครั้งแรกก็ชื่อนี้(พระมหากัสสป)ทั้งยังเป็นผู้สร้างพระธาตุพนมตั้งแต่ พ.ศ. 8 อีกด้วย

อาจมีผู้สงสัยว่าแทตย์กับทานพคืออะไรบอกได้ว่าเป็นอสูรจำพวกหนึ่งตามตำราว่าชอบจะเป็นปฏิปักษ์กับพวกเทวดามักจะเข้าไปก่อกวนทำลายพิธีของเทวดาและรบกันบ่อยๆ ส่วนปีศาจถือว่าเป็นผีมีฐานะต่ำกว่ารากษสและอสูร หากมองดีๆแล้วพระกศยปเทพบิดรท่านเป็นผู้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตในรูปแบบต่างๆที่เป็นระบบโครงสร้างของจักรวาลก็ไม่ผิด ด้วยว่าท่านมีตบะที่สะสมมานานเป็นเอนกอนันต์กาลเป็นที่เคารพเเละยำเกรงต่อทุกสรรพชีวิตเพราะท่านเป็นปฐมบิดา ที่สำคัญท่านมีภรรยามากจะเรียกได้ว่าเป็นครูเสน่ห์ก็คงไม่ผิดใครที่ปรารถนาสายวิชามหากำเนิดให้ก่อเกิดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้ยากในชีวิตต้องขอบารมีท่านเลย เพราะท่านเป็นฤาษีที่อยู่สูงมากจะเห็นได้ว่ามีน้อยที่นักที่จะกล่าวถึงมหาฤาษีพระองค์นี้เเละก็ไม่ค่อยมีใครกล้าสร้าง ด้วยว่าท่านเป็นถึงบิดาของเหล่าเทพองค์สำคัญมากมายเเละที่สำคัญยังเป็นครูเสน่ห์ชั้นสูงสุดที่ไม่ค่อยมีใครกล้าสร้างเเละกล้าเเตะต้องอีกด้วยเพราะเเรงครูสูงมากต้องสร้างเเละเชิญได้จริงเท่านั้น

พ่ออาจารย์พลท่านได้สร้างพระกัศยปเทพบิดรขึ้นมาอย่างรู้จริง ท่านว่านอกจากจะเป็นยอดบรมครูเสน่ห์สายฮินดูแล้วยังมีอภิสิทธิ์เด็ดขาดในทุกๆเรื่องเนื่องจากเป็นบรมบิดาแห่งทวยเทพทั้งปวงด้วย อยู่ที่ไหนก็เป็นที่รักในทุกที่ ผู้ที่บูชาพระกศยปที่พ่ออาจารย์สร้างท่านว่าอย่าได้กลัวภัยอันจะเกิดเเก่ภพภูมิทั้งหลายเลยเพราะลูกๆของท่านที่ครองภพภูมิต่างๆย่อมเกรงใจเเละเคารพท่าน แค่ออกพระนามก็เป็นที่รักต่อสรรพชีวิตโดยรอบเเล้ว เวลาขอพรท่านเเค่ขอให้ลูกๆของท่านทุกองค์รักและเมตตาช่วยเหลือเราท่านว่าเท่านี้ไปไหนเทวดาก็ลงมากันตรงนั้นเเล้ว เนื่องจากท่านเป็น1ใน7มหาฤาษีสูงสุดซ้ำยังเป็นพระปชาบดีที่มีภรรยามากที่สุดจนเรามิอาจประมาณได้ เรื่องมหาเสน่ห์ลุ่มหลงนี้ไม่ต้องพูดเลยเชื่อขนมกินได้แน่นอนสตรีที่จะได้เกิดบุตรกับท่านนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้ กว่าจะได้พระองค์ท่านนี่ต้องเสียเวลาบำเพ็ญตบะระลึกถึงท่านเป็นพันๆปีถึงจะมีบุตรกับท่านได้ คนบูชานี่ก็จะได้เเต่ยอดสตรีมาเป็นคู่ครองเท่านั้น อย่านำไปใช้เชิงชู้สาวให้พกไว้กับตัวในฐานะบรมครูสูงสุดแห่งสายเสน่ห์ก็แล้วกันแล้วอะไรๆที่เราปรารถนาที่มันดีต่อชีวิตก็จะเข้ามาเอง....

พ่ออาจารย์ท่านเป็นอีกหนึ่งครูบาอาจารย์ที่เปิดศักราชพระเทพบิดรไว้อย่างลึกซึ้งด้วยทำมานานแล้ว เรียกว่าพอเป็นเรื่องของพระเทพบิดรถ้าท่านเผยก็จะพูดหมดหลังจากนั้นก็จะเงียบไม่พูดไม่กล่าวอะไรต่อไปแม้ใครจะถาม นิสัยของท่านเรียกว่าสวรรค์เปิดปากคือให้รู้เท่าที่ท่านพูดแค่นั้น จนตอนหลังท่านยอมพูดจึงมาเข้าใจว่าทำไมพ่ออาจารย์ท่านจึงมีเทพวิชาพิศดารต่างๆมากมาย...ด้วยครูสอนครูหัดท่านก็คือพระกัศยปะเทพบิดรนั่นเอง ...ครูองค์ต้นที่ปูทางสอนท่านตอนเข้าป่าสมัยยังนุ่งห่มขาวเข้าป่าถือพรตเหมือนฤาษี พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละครูฉัน(หมายถึงครูที่คอยฝึกหัดสอนกันมาจริงๆ) ท่านเล่าเรื่องเหลือเชื่อว่าสมัยก่อนตอนเจอท่านปากท่านปิดสนิทเลยนะแต่เรากลับได้ยินเสียงท่านภายในใจไม่ใช่ได้ยินผ่านหูคือรู้ว่าท่านคิดท่านสื่อสารอะไรกับเราท่านไม่เคยพูดหรือสอนเราผ่านทางปากเลยเรียกว่าปากไม่ขยับ แต่ใช้จิตคุยอย่างเดียวเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านยืนยันว่ามหาฤาษีพระองค์นี้ยังมีชีวิตอยู่บนโลกอย่างแท้จริง ท่านจะเลือกคนเลือกรับศิษย์ของท่านโดยไปมาแบบลี้ลับ นึกจะหายก็หาย ..นึกจะมาก็มา บางทีให้คาถาไว้ภาวนาก็หายไปเลยเป็นเดือนๆจนเราลองใช้เกิดอิทธิคุณแล้วนั่นแหละท่านถึงกลับมาปรากฏสอนเราต่อ จะว่าคล้ายหลวงปู่ใหญ่(หลวงปู่เทพโลกอุดร)มั๊ยพ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละนิสัยคล้ายๆกันแต่ไปมาลี้ลับมากกว่าและท่านเลือกรับคนน้อยกว่ามากๆ

พ่ออาจารย์ท่านทำพระผงพิมพ์นี้ไว้นึกถึงครูของท่านโดยทำเป็นรูปหน้าฤาษีซ้อนกันท่านสื่อว่านี่คือครูที่อยู่เหนือครู เป็นสัญลักษณ์ของปฐมาจารย์สูงสุดหรืออาจารย์องค์ปฐมของครูทั้งหมด พระผงรุ่นนี้มีอานิสงค์ใหญ่มากพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า"พระผงชำระธาตุแบ่งเบาผ่อนผันอโหสิกรรม" ด้วยว่าเมื่อผู้ใดอาราธนาไว้กรรมเลวร้ายย่อมเลิกให้ผลหรือไม่มีผลอีกฉับพลันทันที ท่านสร้างรูปครูด้วยผงลบกระดานชนวนล้วนๆที่มีคุณใช้คุมยันต์คุมวิชาทั้งปวงผสมกับมวลสารของครูสามชนิด

- ชานหมากที่คายใส่มือ เหตุด้วยชื่อกศยปะคือผู้มีฟันดำนั้นเพราะจะด้วยอะไรก็ไม่ทราบแต่ตอนมาสอนพ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็ไม่เคยเห็นว่าท่านไปฉันหมากเคี้ยวหมากปากแดงๆตอนไหน เห็นแต่ตอนคายหมากมาใส่มือเรานี่แหละ คือท่านลี้ลับมากเหมือนเป็นกายทิพย์เลยใส่เข้าไปตอนไหนก็ไม่รู้เห็นแต่ตอนเอาออกมา หมากที่ท่านฉันแล้วฉันจึงเรียกว่าคำหมากทิพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าชุดนี้ท่านหวงอยู่มากด้วยเป็นของครูบาอาจารย์ ท่านแบ่งมาใส่ให้เป็นมวลสารหัวเชื้อเน้นๆเลยเพื่อเป็นสื่อให้พวกเราเอาไว้ใช้อธิษฐานถึงครูบาอาจารย์ของท่านยามต้องการความช่วยเหลือ

- เคราพระเทพบิดร พ่ออาจารย์ท่านว่านี่อาจจะเป็นอภิสังขารเพียงอย่างเดียวที่ท่านตั้งใจเนรมิตไว้หรือให้ไว้ดูต่างหน้าก็ได้ในทุกๆโลก พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายๆสิ่งที่ครูต้นท่านทำท่านก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อย่างในอดีตนั้นพอท่านร่ำลากันแล้วพ่ออาจารย์ท่านก็ตั้งใจจะเลิกถือพรตฤาษีแล้วท่านจึงเอามีดที่พกมาด้วยตัดหนวดเคราของท่านเองมอบให้อาจารย์ แต่กาลกลับกลายเป็นว่าองค์เทพบิดรนั้นก็ตัดเคราของท่านออกมาเช่นกัน(ไม่รู้ท่านตัดอย่างไรเห็นเอามือลูบก็ร่วงมาทั้งกระจุกเสมือนว่าแลกกันเอาไว้) นี่จึงเป็นเรื่องที่พ่ออาจารย์ท่านพูดว่าก็ยังงงๆถึงทุกวันนี้เพราะท่านไม่พูดแต่ท่านทำเลย "เครานี้ของพระเทพบิดรดีอย่างไรเอาไว้ทำอะไรฉันก็บอกไม่ได้ แต่ฉันบอกได้แค่เป็นของดูต่างหน้าครูบาอาจารย์เอาไว้กราบระลึกถึงท่านก็แล้วกัน" ด้วยจะหาสิ่งแทนตัวท่านแทนอภิสังขารทิพย์ของท่านในโลกนี้และในทุกๆโลกฉันเชื่อว่าคงหาได้ยากแล้ว เมื่ออาราธนาท่านมาใส่ขวดบรรจุบอกกล่าวท่านว่าจะเชิญให้ไปโปรดเหล่าศิษย์ที่มีบุญสัมพันธ์กันก็ได้ยินสำเนียงเสียงท่านยังกังวาลอยู่แปลว่าท่านอนุเคราะห์ด้วยดี ฉันบอกได้เลยว่านี่เป็นที่สุดแล้วในสายเครื่องมงคลของพระเทพบิดรทั้งปวงหลังจากนี้จะไม่มีเช่นนี้อีก แม้จะมีเงินทองหรือวาสนาชั้นฟ้ามากมายทับถมจากไหนหากไม่มีวาสนาต่อครูฉันย่อมไม่ได้พบสิ่งของแทนร่างกายครูแทนธาตุสังขารของครูเช่นนี้เลย

- ข้อไม้พรหมทัณฑ์ ท่านว่าเป็นสุดยอดของศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าไม้ครูหรือไม้เท้ามหาเถร ต้นชี้ตายปลายชี้เป็นต่างๆทั้งหมด อันว่าไม้เท้าแต่เดิมนั้นจะใช้ในการพยุงค้ำยันร่างกายมีอิทธิคุณแฝดช่วยพยุงค้ำจุนไม่ให้คนใช้ตกต่ำ ซ้ำยังเป็นเครื่องแสดงอำนาจของตบะญานขั้นสูงสุดด้วย ว่ากันว่าไม้เท้าพรหมทัณฑ์นี้เมื่อชูขึ้นให้พรหรือจะสาปแช่งใครทุกสิ่งย่อมเป็นไปดั่งใจคิดทุกประการ เป็นประกาศิตมั่นคงดั่งเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผาที่สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะมนุษย์หรือเทวดาไม่กล้าฝ่าฝืน ที่แม้แต่ครั้งหนึ่งพระอินทร์จอมเทพยังโดนฤทธิ์เดชของไม้เท้าพรหมทัณฑ์นี้จากฤาษีทุรวาสะสาบให้สิ้นฤทธิ์แพ้สงครามอันเป็นต้นเหตุของการกวนน้ำอมฤตนั่นเอง ซ้ำแม้แต่ศรเอกของพระนารายณ์อย่างศรพรหมมาสตร์ที่ว่ากันว่ามีอิทธิฤทธิ์สูงสุดเป็นเทพอาวุธที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของท้าวมหาพรหมนั้น สิ่งเดียวที่มีอานุภาพเสมอกันสามารถต้านอานุภาพของศรพรหมมาสตร์ได้ก็คือไม้เท้าพรหมทัณฑ์นั่นเอง ดังนั้นไม้เท้าพรหมทัณฑ์นี้จึงเป็นประกาศิตแห่งสรรพชีวิต เมื่อสถิตย์อยู่เป็นศุภมงคลในกายบุคคลใดก็จะปกป้องคุ้มคร้องรักษาไม่ให้ภัยร้ายต่างๆมากล้ำกรายได้ ซ้ำหากเราคิดหรือหวังสิ่งใดแล้วอธิษฐานเบื้องหน้าไม้เท้าพรหมทัณฑ์ ทุกสิ่งนั้นต้องเป็นไปเสมอใจ ท่านว่าใช้ให้ดีเถิดสาปให้ตัวเองรวย...ให้ตัวเองสูงส่ง..ได้ดี..ตามแต่ใจปรารถนา ### ข้อไม้พรหมทัณฑ์นี้คือไม้เท้าที่ครูต้นของท่านถืออยู่ตลอดเวลาเมื่อมาสอนท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านแวปไปแวปมาเสมือนอยู่ในอากาศแบบนั้นนึกจะไปก็ไปเลยนึกจะมาก็มาได้ เมื่อท่านอบรมฉันตามนิสัยคนทั้งหลายก็ย่อมอยากได้ของดีที่สุดของอาจารย์นั่นแหละ ที่ฉันเห็นในตัวท่านก็มีแค่ไม้เท้าอันเดียวที่ท่านถือไปถือมา พอฉันขอท่านก็ให้นะ แต่หักให้มาแค่ข้อเดียว เหมือนให้เป็นที่ระลึกเช่นนั้น พอได้จับได้สัมผัสจึงรู้ว่าไม้เท้านี้อย่างน้อยๆต้องมีอายุเกินพันเกินหมื่นปี ...เอาว่าฉันไม่พูดอะไรมากครูท่านให้มาเมื่อจะทำรูปท่านฉันก็เอาของๆท่านนี่แหละใส่กลับเข้าไป ท่านค่อยๆสกัดออกเป็นชิ้นเล็กๆถือเอาอาถรรพ์แรงครูด้วยเป็นสิ่งที่ครูเคยถือ "ครูถือ ..ถือครู ถ้าพวกเธอไม่ทิ้งครู..ครูก็ย่อมถือย่อมตามเธอตลอดไป ...พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นกฤติยาคมแฝดซับซ้อนไปทุกภพทุกชาติอย่างถึงที่สุด" ด้วยมีของกายสิทธิ์ที่ทรงคุณค่าดังนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงให้คติว่าเธอเอ๋ยสุดแล้วแต่ใจจะอธิษฐานเอาเลยนะรูปครูฉันดีทุกอย่างไม่มีอะไรที่จะบอกว่าจะไม่ดีได้เลย

พ่ออาจารย์ท่านว่าครูของฉันนั้นหน้าตายังหนุ่มแน่นเหมือนเด็กอายุยี่สิบแต่ผมท่านขาวโพลนทั้งหมดเคราก็มีทั้งขาวทั้งดำสังขารของท่านนั้นไม่แก่เลยด้วยดูก็รู้ว่าท่านสำเร็จแล้วมีฌาณสมาบัติสูง พระผงรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ใจสื่อใจนะ มวลสารที่เก็บที่เอามาทำก็ให้ด้วยใจ เอาไปแล้วก็ห้อยคอเสียไม่ต้องเอาไปเก็บ ฉันไม่มีอะไรจะพูดจะบอกกับเธอหรอก ...เพราะครูฉัน..ฉันรู้ว่าท่านดีทุกอย่าง ท่านคือผู้ให้ของโลกทุกโลก..คือต้นขั้วบรรพบุรุษแห่งทุกสรรพชีวิต..ทุกสายพันธ์..ทุกเผ่าพันธ์ไม่ว่าจะกายหยาบหรือทิพย์กาย เอาไปห้อยก็เหมือนห้อยพ่อห้อยบรรพบุรุษตัวเองนั่นแหละ ขอกำลังบรรพบุรุษองค์ต้นให้สงเคราะห์ชีวิตเราเสียจะทางไหนก็มีแต่ได้กับดี

คาถาบูชา
พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องใช้ เอาใจสื่อใจจะเข้าใจ วันไหนมีตัวรู้ทางจิตตอบโต้กลับหรือได้ยินเสียงท่านตอบกลับด้วยฤทธิ์ทางใจ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละครูท่านยอมรับแล้ว ให้หมั่นพูดคุยหรืออธิษฐานกับท่านบ่อยๆ *** ครูฉันเงียบๆปากไม่เคยขยับ แต่จะหาใครใจดีเท่าท่านนั้นยากนัก

*** รายการนี้ท่านบอกชัดเจนว่าถ้าไม่เชื่อกันก็ไม่ต้องเอาไปนะเพราะมันเป็นเรื่องเหนือโลกของฉัน ฉันทำฉันแบ่งให้เฉพาะคนที่ศรัทธาครูต้นฉันเท่านั้นส่วนคนที่ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรพ่ออาจารย์ท่านว่าขนาดเจอกับตัวยังยากจะเชื่อเลยเธอเอ๋ยด้วยครูฉันท่านไม่ปกติ(ไม่ใช่มนุษย์) รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา พระผงชำระธาตุแบ่งเบาผ่อนผันอโหสิกรรม(ปฐมาจารย์มหาสังขารพระเทพบิดร) บูชา 4,000 บาท

​

 

ทานสามประการ​

การให้ทาน คือการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทนโดยหมายให้ผู้ได้รับได้พ้นจากทุกข์

แบ่งออกเป็น ๓ อย่างได้แก่
๑. อามิสทาน คือการให้วัตถุ สิ่งของ หรือเงินเป็นทาน
๒. ธรรมทาน คือการสอนให้ธรรมะเป็นความรู้เป็นทาน
๓. อภัยทาน คือการให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ดีกับเรา ไม่จองเวร หรือพยาบาทกัน

การให้ทานที่ถือว่าเป็นความดี และได้บุญมากนั้นจะประกอบด้วยปัจจัย ๓ ประการอันได้แก่
๑. วัตถุบริสุทธิ์ คือเป็นของที่ได้มาโดยสุจริต ไม่ได้ไปยักยอกมา โกงมา หรือได้มาด้วยวิธีแยบยล
๒. เจตนาบริสุทธิ์ คือมีจิตยินดี ผ่องใสเบิกบาน ไม่รู้สึกเสียดายสิ่งที่ให้ ตั้งแต่ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้
๓. บุคคลบริสุทธิ์ คือให้กับผู้รับที่มีศีลธรรม ตัวผู้ให้เองก็ต้องมีศีลที่บริสุทธิ์

การให้ทานที่ถือว่าไม่ดี และยังอาจเป็นบาปกรรมถึงเราทางอ้อมอีกด้วยได้แก่
๑. ให้สุรา ยาเสพย์ติด เป็นต้น (ถ้าเขาเมาแล้วขับรถชนตาย เราก็มีส่วนบาปด้วย)
๒. ให้อาวุธ (ถ้าอาวุธนั้นถูกเอาไปใช้ประหัตประหาร บาปก็มาถึงเราด้วย)
๓. ให้มหรสพ คือการบันเทิงทุกรูปแบบ
๔. ให้สัตว์เพศตรงข้ามเพื่อผสมพันธุ์ อันนี้รวมถึงการจัดหาสาวๆ ไปบำเรอผู้มีอำนาจหรือผู้น้อยด้วยเป็นต้น
๕. ให้ภาพลามก หรือสิ่งพิมพ์ลามก เพราะทำให้เกิดความกำหนัด เกิดกามกำเริบ (เมื่อดูแล้วเกิดไปฉุดคร่า ข่มขืนใคร บาปก็ตกทอดมาถึงเราด้วย)

​

 

ร่วมทำบุญบูชา เศียรครูเหนือครูองค์พระกศยปเทพบิดร​

พระกศยปเทพบิดร บรมครูผู้สร้างกลไกสรรพชีวิตในจักรวาล

จะนำเรื่องราวของพระองค์ท่านในสายพ่ออาจารย์ที่ลงเปิดเผยเเพร่พระบารมีถึงความยิ่งใหญ่เเละเป็นที่เคารพเกรงกลัวของเหล่าทวยเทพรวมถึงสรรพชีวิตในกฏแห่งวัฏฏสงสารนี้ พระมหาฤาษีผู้ได้รับพระนามยิ่งใหญ่ว่า พระเทพบิดร มาให้รับทราบกันคร่าวๆ

พระกศยปเทพบิดรนั้นท่านเป็นหนึ่งในเจ็ดมหาฤาษีของโลกเรียกว่าสปตะฤาษีหรือฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 ตน ซึ่งได้รับเกียรติและการเคารพสูงสุดจากพระผู้เป็นเจ้าในฐานะคุรุและมหามุนี ในคัมภีร์ศตปถพราหมณะระบุชื่อว่า 1.โคตม 2.ภัทรวาช 3.วิศวามิตร 4.ชมทัศนี 5.วศิษฐ์ 6.กัศยป และ 7.อัตริ ในที่นี้จะกล่าวถึงพระกศยปเทพบิดรนอกจากจะเป็นสปตะฤาษีท่านยังควบตำแหน่งเป็นพระมหาประชาบดีที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพราะท่านเป็นผู้ให้กำเนิดมวลมนุษย์เเละเทพเทวะทั้งปวงตลอดจนสร้างกลไกสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

พระกศยปเทพบิดรนั้นในบางตำราก็ว่าเป็นพระบิดาของพระนารายณ์ ในวิษณุปุราณะก็กล่าวว่าเป็นบิดาของมหาฤาษีนารทมุนี ซึ่งพระฤาษีกัศยปเทพบิดรองค์นี้ยิ่งใหญ่ในตบะฌาณทรงศักดิ์และทรงสิทธิ์เหนือมวลเทพเจ้าทั้งปวงหากแต่ไม่ค่อยมีผู้ใดกล่าวถึงเเละสร้างท่านกันมากนัก พระกศยปมหาฤาษีมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อว่าพระกศป,พระประชาบดี,พระเทพบิดา..อื่นๆ และด้วยเหตุที่เป็นผู้ให้กำเนิดเทพเทวดา,มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายเช่น แทตย์,ทานพ,นาค,ครุฑและปีศาจ ไม่เว้นแม้แต่พระผู้เป็นเจ้าท่านจึงได้รับการขนานพระนามด้วยเกียรติยศสูงสุดว่า "พระเทพบิดร"

พระองค์มีที่สถิตอยู่ที่เขาเหมกูฎบรรพตเป็นผู้แต่งโศลกต่างๆในคัมภีร์ฤคเวทเป็นอันมากรวมถึงแต่งพระเวทอื่นๆบางตอนด้วย ว่ากันว่าพระกศยปะองค์นี้ยังเป็นพระอาจารย์ที่สอนศิลปะศาสตร์แก่ 2 ศิษย์ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมหาอวตารของพระวิษณุที่เก่งที่สุดในโลก สาเหตุของความเก่งกล้าก็มาจากครูผู้นี้นั่นเองได้แก่ ปรศุราม(รามสูร)และพระรามจันทร์(พระราม) ต่อมาในยุคไตรเภทคัมภีร์ในยุคนี้ได้บันทึกถึงกำเนิดพระศิวะเจ้าว่าทรงประสูติจากพระนางสุรภีและพระบิดาก็คือพระกัศยปะเทพบิดรและในคัมภีร์พรหมมานัสก็ยังกล่าวไว้เช่นกัน จะเห็นได้ว่าพระมหาฤาษีองค์นี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆด้วยพระกศยปะมีอัครมเหสีชื่อพระอทิติและมีมเหสีฝ่ายซ้าย(องค์รอง)คือนางทิติแล้วก็มีชายาอีก12องค์ บางตำราก็ว่ามี13องค์นอกจากนั้นยังมีนอกสมรสอีกนับพันล้านนาง

พระกศยปมหาฤษีหรือกัศยปเทพบิดรมีโอรสอยู่มาก เช่นพวกอาทิตย์ทั้ง 8 คือ สุริยาทิตย์,วรุณาทิตย์,มิตราทิตย์,อริยมนาทิตย์,ภคาทิตย์,องศาทิตย์,อินทราทิตย์และธาตราทิตย์ โดยเป็นโอรสที่เกิดกับนางอทิติอัครมเหสี พูดง่ายๆคือพระมหาฤาษีองค์นี้เป็นพ่อของพระอินทร์,พระอาทิตย์,พระวรุณ,พระยมเป็นต้น กล่าวชัดๆคือลูกของท่านล้วนกุมกลไกต่างๆในมหาจักรวาลไว้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด..อีกองค์หนึ่งที่สำคัญมากคือพระวามนซึ่งเป็นพระนารายณ์อวตารปางที่ 5 โดยเกิดกับพระนางอทิติเช่นกัน จะเห็นได้ว่าท่านเป็นฤาษีที่อยู่สูงเเละมีความสำคัญมากแม้เเต่พระเป็นเจ้ายังเลือกที่จะเกิดเป็นพระโอรสของท่านเลย ด้วยท่านเป็นผู้สร้างกลไกจักรวาลจึงมียอดบุตรที่เรารู้จักกันดีอีกมากมาย
- ครุฑ นั้นเกิดกับนางวินตา อันว่าครุฑบุตรของพระกศยปะเทพบิดรที่หมายถึงนั้นไม่ใช่ครุฑธรรมดาสามัญทั่วไป แต่เป็นจอมครุฑพญาสุเรนทรชิตที่เป็นพาหนะของพระนารายณ์ เป็นครุฑที่ชนะพระอินทร์มีอานุภาพเสมอด้วยพระนารายณ์เป็นเจ้า
- นาคกับอรุณ เกิดกับนางกัทรุ พญานาคที่เกิดเป็นโอรสนี้ก็รวมไปถึงองค์อนันตนาคราช บรรพบุรุษแห่งสายนาคพันธุ์ทั้งปวง
- มารุต(ลมหรือพระพาย)และแทตย์ เกิดกับนางทิติ พระมารุตหรือพระพายที่เป็นบิดาของหนุมานก็เป็นบุตรของพระองค์
- ทานพ เกิดกับนางทนุ
- ปีศาจ เกิดกับนางโกรธศา
- อสุรินทรราหู ผู้เป็นใหญ่แห่งอสุรกายภูมิผู้ได้รับขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งมาร ก็เป็นบุตรที่เกิดจากพระกัศยปะเทพบิดรกับนางสิงหิกาด้วย

ท่านเป็นพระบิดาของเทพเจ้าหลายพระองค์มากจริงๆไม่อาจกล่าวได้หมด จึงทำให้ท่านเป็นประชาบดีที่ได้รับเกียรติให้ใช้พระนามว่าพระเทพบิดร จะเห็นได้ว่าชื่อพระกัศยปเทพบิดรก็ได้มาเพราะเหตุที่มีลูกเป็นเทพที่คนรู้จักกันมากมายหลายองค์นี่เอง ซึ่งเเต่ละพระองค์ก็ยิ่งใหญ่จนมิอาจจะกล่าวได้ กศปหรือกัสสป มีความหมายเดียวกันคือแปลว่าผู้มีฟันดำชื่อนี้มีผู้ใช้กันมาก พระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 ก็มีชื่อนี้ รวมทั้งพระอรหันต์สาวกองค์แรกที่เป็นประธานในการทำสังคายนาครั้งแรกก็ชื่อนี้(พระมหากัสสป)ทั้งยังเป็นผู้สร้างพระธาตุพนมตั้งแต่ พ.ศ. 8 อีกด้วย

อาจมีผู้สงสัยว่าแทตย์กับทานพคืออะไรบอกได้ว่าเป็นอสูรจำพวกหนึ่งตามตำราว่าชอบจะเป็นปฏิปักษ์กับพวกเทวดามักจะเข้าไปก่อกวนทำลายพิธีของเทวดาและรบกันบ่อยๆ ส่วนปีศาจถือว่าเป็นผีมีฐานะต่ำกว่ารากษสและอสูร หากมองดีๆแล้วพระกศยปเทพบิดรท่านเป็นผู้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตในรูปแบบต่างๆที่เป็นระบบโครงสร้างของจักรวาลก็ไม่ผิด ด้วยว่าท่านมีตบะที่สะสมมานานเป็นเอนกอนันต์กาลเป็นที่เคารพเเละยำเกรงต่อทุกสรรพชีวิตเพราะท่านเป็นปฐมบิดา ที่สำคัญท่านมีภรรยามากจะเรียกได้ว่าเป็นครูเสน่ห์ก็คงไม่ผิดใครที่ปรารถนาสายวิชามหากำเนิดให้ก่อเกิดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้ยากในชีวิตต้องขอบารมีท่านเลย เพราะท่านเป็นฤาษีที่อยู่สูงมากจะเห็นได้ว่ามีน้อยที่นักที่จะกล่าวถึงมหาฤาษีพระองค์นี้เเละก็ไม่ค่อยมีใครกล้าสร้าง ด้วยว่าท่านเป็นถึงบิดาของเหล่าเทพองค์สำคัญมากมายเเละที่สำคัญยังเป็นครูเสน่ห์ชั้นสูงสุดที่ไม่ค่อยมีใครกล้าสร้างเเละกล้าเเตะต้องอีกด้วยเพราะเเรงครูสูงมากต้องสร้างเเละเชิญได้จริงเท่านั้น

พ่ออาจารย์พลท่านได้สร้างพระกัศยปเทพบิดรขึ้นมาอย่างรู้จริง ท่านว่านอกจากจะเป็นยอดบรมครูเสน่ห์สายฮินดูแล้วยังมีอภิสิทธิ์เด็ดขาดในทุกๆเรื่องเนื่องจากเป็นบรมบิดาแห่งทวยเทพทั้งปวงด้วย อยู่ที่ไหนก็เป็นที่รักในทุกที่ ผู้ที่บูชาพระกศยปที่พ่ออาจารย์สร้างท่านว่าอย่าได้กลัวภัยอันจะเกิดเเก่ภพภูมิทั้งหลายเลยเพราะลูกๆของท่านที่ครองภพภูมิต่างๆย่อมเกรงใจเเละเคารพท่าน แค่ออกพระนามก็เป็นที่รักต่อสรรพชีวิตโดยรอบเเล้ว เวลาขอพรท่านเเค่ขอให้ลูกๆของท่านทุกองค์รักและเมตตาช่วยเหลือเราท่านว่าเท่านี้ไปไหนเทวดาก็ลงมากันตรงนั้นเเล้ว เนื่องจากท่านเป็น1ใน7มหาฤาษีสูงสุดซ้ำยังเป็นพระปชาบดีที่มีภรรยามากที่สุดจนเรามิอาจประมาณได้ เรื่องมหาเสน่ห์ลุ่มหลงนี้ไม่ต้องพูดเลยเชื่อขนมกินได้แน่นอนสตรีที่จะได้เกิดบุตรกับท่านนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้ กว่าจะได้พระองค์ท่านนี่ต้องเสียเวลาบำเพ็ญตบะระลึกถึงท่านเป็นพันๆปีถึงจะมีบุตรกับท่านได้ คนบูชานี่ก็จะได้เเต่ยอดสตรีมาเป็นคู่ครองเท่านั้น อย่านำไปใช้เชิงชู้สาวให้พกไว้กับตัวในฐานะบรมครูสูงสุดแห่งสายเสน่ห์ก็แล้วกันแล้วอะไรๆที่เราปรารถนาที่มันดีต่อชีวิตก็จะเข้ามาเอง....

พ่ออาจารย์ท่านเป็นอีกหนึ่งครูบาอาจารย์ที่เปิดศักราชพระเทพบิดรไว้อย่างลึกซึ้งด้วยทำมานานแล้ว เรียกว่าพอเป็นเรื่องของพระเทพบิดรถ้าท่านเผยก็จะพูดหมดหลังจากนั้นก็จะเงียบไม่พูดไม่กล่าวอะไรต่อไปแม้ใครจะถาม นิสัยของท่านเรียกว่าสวรรค์เปิดปากคือให้รู้เท่าที่ท่านพูดแค่นั้น จนตอนหลังท่านยอมพูดจึงมาเข้าใจว่าทำไมพ่ออาจารย์ท่านจึงมีเทพวิชาพิศดารต่างๆมากมาย...ด้วยครูสอนครูหัดท่านก็คือพระกัศยปะเทพบิดรนั่นเอง ...ครูองค์ต้นที่ปูทางสอนท่านตอนเข้าป่าสมัยยังนุ่งห่มขาวเข้าป่าถือพรตเหมือนฤาษี พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละครูฉัน(หมายถึงครูที่คอยฝึกหัดสอนกันมาจริงๆ) ท่านเล่าเรื่องเหลือเชื่อว่าสมัยก่อนตอนเจอท่านปากท่านปิดสนิทเลยนะแต่เรากลับได้ยินเสียงท่านภายในใจไม่ใช่ได้ยินผ่านหูคือรู้ว่าท่านคิดท่านสื่อสารอะไรกับเราท่านไม่เคยพูดหรือสอนเราผ่านทางปากเลยเรียกว่าปากไม่ขยับ แต่ใช้จิตคุยอย่างเดียวเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านยืนยันว่ามหาฤาษีพระองค์นี้ยังมีชีวิตอยู่บนโลกอย่างแท้จริง ท่านจะเลือกคนเลือกรับศิษย์ของท่านโดยไปมาแบบลี้ลับ นึกจะหายก็หาย ..นึกจะมาก็มา บางทีให้คาถาไว้ภาวนาก็หายไปเลยเป็นเดือนๆจนเราลองใช้เกิดอิทธิคุณแล้วนั่นแหละท่านถึงกลับมาปรากฏสอนเราต่อ จะว่าคล้ายหลวงปู่ใหญ่(หลวงปู่เทพโลกอุดร)มั๊ยพ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละนิสัยคล้ายๆกันแต่ไปมาลี้ลับมากกว่าและท่านเลือกรับคนน้อยกว่ามากๆ

เศียรครูเหนือครูองค์พระกศยปเทพบิดรนี่คือครูที่อยู่เหนือครู เป็นสัญลักษณ์ของปฐมาจารย์สูงสุดหรืออาจารย์องค์ปฐมของครูทั้งหมด องค์พระรุ่นนี้มีอานิสงค์ใหญ่มากพ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อผู้ใดอาราธนาไว้กรรมเลวร้ายย่อมเลิกให้ผลหรือไม่มีผลอีกฉับพลันทันที

คาถาบูชา
พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องใช้ เอาใจสื่อใจจะเข้าใจ วันไหนมีตัวรู้ทางจิตตอบโต้กลับหรือได้ยินเสียงท่านตอบกลับด้วยฤทธิ์ทางใจ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละครูท่านยอมรับแล้ว ให้หมั่นพูดคุยหรืออธิษฐานกับท่านบ่อยๆ *** ครูฉันเงียบๆปากไม่เคยขยับ แต่จะหาใครใจดีเท่าท่านนั้นยากนัก

*** รายการนี้ท่านบอกชัดเจนว่าถ้าไม่เชื่อกันก็ไม่ต้องเอาไปนะเพราะมันเป็นเรื่องเหนือโลกของฉัน ฉันทำฉันแบ่งให้เฉพาะคนที่ศรัทธาครูต้นฉันเท่านั้นส่วนคนที่ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรพ่ออาจารย์ท่านว่าขนาดเจอกับตัวยังยากจะเชื่อเลยเธอเอ๋ยด้วยครูฉันท่านไม่ปกติ(ไม่ใช่มนุษย์) รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา เศียรครูเหนือครูองค์พระกศยปเทพบิดร บูชา 900 บาท

​

 

กาแปลงหงส์..จับมังกร ใครอยากได้ของแรงๆแบบใช้แล้วมีแต่ขึ้นไม่ติดกรรมติดตามไว้นะครับ

 

ใครยังจำได้ว่าพ่ออาจารย์ท่านเคยสร้างพระเจ้าเงินตราไว้....บอกเลยว่าท่านไม่ได้ทำไว้เฉพาะสายขาวหากแต่ท่านยังทำสายมหากาลไว้ด้วย ### พระเจ้าเงินตราสายมหากาลที่สร้างโดยผงยา...เป็นอย่างไร น้ำมันวิเศษอันมีอิทธิคุณรุนแรงที่ถูกเชิญมาเพื่อฟังเป็นศาสตร์ลี้ลับประเภทไหน

พรุ่งนี้รอบเย็นติดตามกันดีๆนะครับ ผมบอกเลยว่าเป็นเครื่องมงคลที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวเอาไว้ว่า "น่ากลัว(ใจคนใช้)...มากที่สุด" ของแต่ละอย่างแรงจนน่ากลัวจริงๆ

 

ร่วมทำบุญบูชา องค์ครูใหญ่พระเจ้าเงินตราสูตรยาดำรวยมหากาล(โกง,กลืน,กิน)

ต้นตำรับพระเจ้าเงินตรา
พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้าเงินตราขึ้น ซึ่งท่านว่าแต่เดิมนั้นวิชานี้มีการสถาปนาไว้ในยุคสมัยอาณาจักรศรีวิชัยไศเรนทร์วงศ์ของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ซึ่งในยุคนั้นเศรษฐกิจการค้าการเดินเรือได้เฟื่องฟูถึงขีดสุด พ่อค้าสำเภาทั้งหลายล้วนเป็นมหาเศรษฐีกันแทบทั้งสิ้น ซึ่งเขาเหล่านั้นได้บูชาวัตถุสิ่งหนึ่งนั่นคือพระเจ้าเงินตรานี่เอง ซึ่งได้ปรากฏหลักฐานเป็นพระพิมพ์เป็นรูปท้าวกุเวร(เวสสุวรรณ),คชลักษมี(มหาศักติ)

พ่ออาจารย์ท่านเมื่อได้ทราบเเล้วว่าครูต้องการให้ทำอะไรท่านก็ดำเนินการขออนุญาติเเละทำ โดยที่ท่านได้ขอความเห็นชอบจากพระเเม่ลักษมีก่อน ซึ่งท่านได้กล่าวว่าพระลักษมีนั้นคืออำนาจแห่งมหาศักติมวลพลังงานของมหาจักรวาลที่เป็นรูปแทนแห่งทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดและยังสามารถขจัดสิ่งที่เรียกว่าคราวซวยเคราห์กรรมทั้งหลายตลอดจนประทานโชคลาภแก่ผู้บูชาได้ หากผู้ใดไม่มีลักษมีประจำตัวไม่มีลักษมีในบ้านหรือเผลอสติลบหลู่ดูถูกเทพมารดาองค์นี้แล้ว ตรงกันข้ามความซวยและเคราห์กรรมทั้งหลายจะเข้ามาหยิบยื่นให้เขาบุคคลผู้นั้นจะต้องพบกับภัยพิบัติอันมีเหตุมาจากมหาพระเคราะห์ที่ยิ่งใหญ่นั่นคือพระเสาร์ ซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์ที่ส่งอานุภาพร้ายร้ายสูงสุด หนักกว่าพระศุกร์หรือพระราหูทั้งสิ้น แต่เมื่อรับพระลักษมีเเล้ว อำนาจของมหาเคราะห์แห่งพระเสาร์ก็จะสิ้นสุดไป มนุษย์ทั้งหลายมักจะรู้เพียงว่ามหาลักษมีนั้นท่านเป็นชายาเอกเเห่งองค์พระนารายณ์เท่านั้น แต่มหาลักษมีนั้นนอกจากจะเป็นเทพที่อำนวยโชคลาภสูงสุดเเก่ผู้บูชาแล้วในขณะเดียวกันยังมีพระรูปสวยงามที่สุดอ่อนหวานที่สุดด้วยในหมู่พระเเม่เจ้าทั้งสาม อันได้แก่พระอุมาเทวี,มหาลักษมี,พระสุรัสวดี เเละพระโฉมของพระนางนั้นยังงดงามเกินกว่าเหล่าอับสรสวรรค์และนางฟ้าทั้งหมดอีกด้วย

คุณวิเศษ
พ่ออาจารย์ได้กล่าวว่าพระเจ้าเงินตรานี้ มีอานุภาพมากแม้เคราะห์หามยามร้ายที่สุด...แม้ประธานเเห่งดาวบาปเคราห์อันให้โทษสูงสุดเช่นพระเสาร์ก็ไม่สามารถส่งผลกับตัวคนที่บูชาได้ ซ้ำยังเปิดทางเปิดโชคลาภให้เเบบสูงสุดอีกด้วย ท่านว่าที่ทำไว้ในซุ้มห้าเหลี่ยมเหมือนขุนแผนบ้านกร่างนั้น เพราะว่าเเฝงนัยย์ให้รู้ไว้ว่าของนี่ไม่ได้ดีด้านโชคลาภอย่างเดียวยังดีเรื่องเสน่ห์แบบสุดๆด้วย ที่ผ่านมาทำของนั้นจะโชคลาภก็เป็นโชคลาภ..จะเสน่ห์ก็เป็นเสน่ห์ไม่ได้เล่นให้เด่นพร้อมกันเพราะมันเป็นเรื่องที่ขัดกัน แต่ในความเป็นไปได้นั้นมหาลักษมีนี่แหละที่กุมกลไกเเห่งโชคลาภวาสนาของมนุษย์ชาติเอาไว้ ซ้ำยังเลือกที่จะอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือใครก็เป็นดุลย์พินิจของพระองค์ท่านด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่า..เชื่อมั๊ย..แม้เเต่จะหาคู่ครองที่ดีให้สมกับเป็นกุลสตรี..ให้มีพร้อมซึ่งทรัพย์สินเงินทองก็ต้องขอจากท่านให้ท่านดลบันดาลให้คนเเบบนั้นเข้ามาในชีวิตเรารักเราสนใจเรา พระลักษมีนั้นถือเป็นเทพที่ให้การอุปถัมภ์ในเรื่องความรักได้ดีที่สุด

มหาลักษมีนั้นท่านสงเคราะห์ไม่เลือกไม่ว่าจะหญิงหรือชาย เพราะท่านมีอารมณ์ความเมตตาเเสดงออกมาเนืองๆ โดยผู้บูชาให้เรียกท่านว่าแม่ใช้คำว่าแม่เเทนการระลึกถึงท่านให้ความรักความเคารพท่านอย่างสูงสุดแล้วจะเห็นเอง ที่เรียกว่าแม่รักลูก..แม่หวงลูก..แม่ตามดูแลลูกนั้นเป็นอย่างไร..แม่เห็นลูกเจ็บลูกจนไม่ได้..แม่เห็นชีวิตลูกตกต่ำมิได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือมหาลักษมีประทานพรอย่างแท้จริง ท่านให้ข้อคิดว่าพระรุ่นนี้มีอาถรรพ์แรงอย่างเเท้จริงผู้บูชาไปติดตัวเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างมากแม้ปรารถนาสิ่งใดให้อธิษฐานพระแม่จะตอบรับคำขอนั้นๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต้องบอกกันไว้เนื่องจากมีวิชาอาถรรพ์ในเรื่องคำพูดเเละวาจาแบบสูงสุดเหมือนปากพระร่วง จึงให้พูดแต่สิ่งที่ดีๆไพเราะอ่อนหวานพูดเเต่เรื่องดีๆในชีวิตตนเอง อย่าให้ร้ายอย่าสาปแช่งใครเพราะมันจะเป็นกรรมไปตามปากของเรา

พ่ออาจารย์ท่านได้ประกอบพิธีกดพิมพ์นำฤกษ์ในฤกษ์พิธีอุปราคาจันทรคราสไว้ได้ทั้งหมด 8 องค์ ซึ่งท่านได้กล่าวถึงพิธีนี้ว่าที่ต้องกดตอนจันทราคราสนั้นเพราะคราสนี้ส่งผลโดยตรงกับธาตุน้ำ มีปริมาณธาตุน้ำสูงทำให้เดินธาตุได้ง่ายและดึงพลังศักดิ์สิทธิ์มาประจุลงไปได้มาก ซึ่งธาตุน้ำนี้จะให้ผลทางด้านเมตตามหานิยมโชคลาภอย่างมาก ประกอบกับจันทรคราสนั้นอาศัยเวลาที่พระจันทร์ขับไล่พระราหูออกไปตามความเชื่อเป็นจันทร์เต็มดวงเป็นช่วงเวลาที่พระจันทร์มีอานุภาพสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านได้กดพิมพ์นำฤกษ์พร้อมกับมนต์คาถาเชิญพระจันทร์เข้าตัวในยามในเวลาที่พระจันทร์มีอานุภาพสูงสุด เพื่อให้เป็นเสน่ห์เมตตาอย่างที่สุดเฉกเช่นจันทรเทพบุตรอันเป็นที่หมายปองของเหล่าอัปสรสวรรค์นั่นเอง ถึงกับท่านได้กล่าวหลังกดเสร็จว่า "ถ้าไม่ได้ใช้ อย่าเพิ่งรีบตาย"

คาถาบูชา
พ่ออาจารย์ท่านให้ท่องว่า โอม มหามาตา พระลักษมี ท่องเช่นนี้ให้จิตเป็นสมาธิเรื่อยๆก่อนจะบอกกล่าวท่าน

* ท่านได้กล่าวไว้น่าคิดว่า ต่อไปคนใช้เขาจะรักพระลักษมีเหมือนที่รักแม่ของเขา เพราะเขาได้เขาสำเร็จในสิ่งที่เขาต้องการ จะหาเทวีพระองค์ไหนที่มีเมตตากับลูกๆลึกล้ำเหมือนแม่น้ำคงคาพระมหาสมุทรเช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นของคู่กายคู่บุญขอให้ผู้มีบุญได้เห็นและได้เชิญท่านไป ที่สุดแห่งเสน่หา..ที่สุดแห่งโชคลาภวาสนาอันจะพึงเกิดพึงมีแก่ชีวิตคนๆหนึ่ง รวมอยู่ที่ตรงนี้

* เวลาจะบนอะไรให้บนด้วยทองคำแหวนสร้อยคอรึกำไลหากสำเร็จให้ถวายท่าน เเละนำของที่ถวายนั้นขอจากท่านมาสวมใส่ที่ตัวของเราถือคติความผูกพันธุ์แม่รักลูก ของๆแม่มีอะไรย่อมให้แก่ลูกทั้งหมดทั้งสิ้นและย่อมเป็นมงคลแก่ตัวลูกด้วยถือว่าให้รางวัลแก่ชีวิตตนเองเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ทำบ่อยๆใช้ทองต่อทองต่อความรักความร่ำรวยไม่มีจบสิ้น

พระเจ้าเงินตราตำรับพ่ออาจารย์นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้บูชาสามารถอธิษฐานขอพรจากองค์พระแม่ได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเสริมชะตา,หนุนดวงวาสนาคู่ครอง,หนุนดวงไม่ให้ตกต่ำ,ขอเหตุและที่มาแห่งความเจริญก้าวหน้าในชีวิต..ในหน้าที่การงาน,ขอครอบครองสมบัติมหาโภคทรัพย์,ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยเวลาเดินทาง,อธิษฐานให้ป้องกันอวิชชามนต์ดำลมเพลมพัด.. เรียกว่าพระเจ้าเงินตราของท่านสามารถใช้อธิษฐานได้ทั้ง108ประการโดยไม่ต้องบนบานใดๆเพราะท่านยิ่งใหญ่เกินกว่าการเซ่นสรวงสังเวย กาลเวลาผ่านไปพ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นว่าหลายๆคนตามหาเครื่องมงคลเพื่อใช้เดินตามความฝันของตัวเองและต้องการสร้างฝันตัวเองให้สำเร็จให้ได้ ด้วยชนทั้งหลายเกิดมาพร้อมความฝันมีแนวทางความคิดที่อยากไปแต่...บางคนก็ทำได้เพียงคิดไม่อาจไปถึง หลายๆคนเรียกหาพระเจ้าเงินตราด้วยมั่นใจว่าเป็นที่สุดของวิชาที่จะใช้เติมเต็มความฝันสานฝันให้ผู้มีกำลังใจไปถึงดวงดาวของเขา ....หลายคนมีความรู้สึกและมีนิมิตโดยตรงจากครูบาอาจารย์ว่าต้องเอาพระเจ้าเงินตราชุดผงยาที่พ่ออาจารย์ท่านเก็บรักษาไว้มาบูชาให้ได้ ด้วยนี่แหละคือเครื่องมงคลที่จะใช้ขอในสิ่งที่ยากแก่การเป็นไปได้ให้เป็นไปโดยเร็วที่สุด

พระเจ้าเงินตราของพ่ออาจารย์นั้นเป็นดั่งผู้บรรเทาความทุกข์แก่มนุษย์มีอานุภาพรุนแรงดังพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่เปล่งกำลังขจัดความมืดมัวขัดข้อง(ทางทรัพย์สิน)ในโลก พระเจ้าเงินตราผู้บันดาลโชคแก่ผู้วิงวอน..พระเจ้าเงินตราที่ช่วยทุกเรื่องตามคำร้องขอ...อยากถูกหวยสักครั้ง..อยากเปลี่ยนดวง..เปลี่ยนชีวิตต้องขอกับพระเจ้าองค์นี้เท่านั้นเพราะท่านเป็นเทพมีผู้คนนับถือมานานโดยเฉพาะศาสตร์ด้านเงินๆทองๆท่านฉมังทันใจที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าพระเจ้าเงินตราชุดปกตินั้นจะประทานโชคลาภและความเหนือดวงให้แก่ผู้วิงวอนร้องขอเพื่อให้สัมฤทธิ์ผล แต่ในชุด"สูตรยาดำรวยมหากาล"ซึ่งถือเป็นศาสตร์ที่เน้นความแรงสูงสุดในสายวิชาพระเจ้าเงินตรานั้นจะยิ่งทวีอาถรรพ์หนักหน่วงขึ้นไปอีก

สูตรยาดำรวยมหากาล
ในศาสตร์พระเจ้าเงินตรานั้นมีสูตรยาและขั้นวิชาสูงสุดที่จะใช้สร้างพระเจ้าเงินตราที่เรียกว่า"โกงกลืนกิน" พระเจ้าเงินตราวิชาเฉพาะนี้จะใช้ทางโขมยดวงลักโชคชะตาของผู้อื่นได้โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆเรื่องวาสนาการโกงชีวิตเพื่อให้ได้มาซึ่งมหาสมบัติ แต่การสร้างนั้นก็ต้องอาศัยยามหาวิเศษที่ตัวว่านยาต่างๆนั้นหาได้ยากและองค์พระลักษมีท่านบังคับให้เก็บได้เฉพาะฤกษ์และวันที่ท่านกำหนดเท่านั้นเพื่อให้ได้รับซึ่งโชคสูงสุดเป็นไปเพื่อความสวัสดิมงคลป้องกันเสนียดจัญไรทั้งปวงอันจะเกิดกับโชควาสนาที่เราได้รับมา

พ่ออาจารย์ท่านว่าหาว่านยานั้นว่ายากแล้วแต่กลับต้องอาศัยฤกษ์ที่อยู่เหนือกว่าทุกฤกษ์..วันที่อยู่เหนือกว่าทุกวัน..เดือนที่จันทร์กระจ่างเต็มดวงทำให้ยาอุดมสมบูร์ถึงขีดสุด ว่านยาสูตรยาดำรวยมหากาลนั้นจึงสำคัญมากเพราะมีฤทธิ์ดับดวงระงับชะตาวาสนาของผู้อื่นได้ พ่ออาจารย์ว่าว่านยาทั้งหลายลงทุนลงแรงไปมากกว่าจะได้พระมาหนึ่งองค์เพราะเมื่อเก็บนั้นพระแม่ท่านย้ำเอาไว้ว่าให้ฝนทำผงห้ามหั่นหรือบดหรือตำโดยเด็ดขาด พอได้ยาครบตามสูตรท่านก็ต้องหาตัวประสานที่จะถนอมและคุมฤทธิ์มหาว่านทั้งหลายให้แรงเป็นลูกโดดไปได้นับกัปกัลป์ไม่เสื่อมถอยซ้ำยังต้องลงอักขระกำกับหัวว่านต่างๆตลอดเวลาแบบฝนไปลงไปพอผงเลือนแล้วก็ลงทับไปใหม่ว่านยานี้จึงแรงด้วยผงคุณวิชาที่ฝนไปพร้อมกันดั่งคูณกำลังวาสนาให้เพิ่มขึ้นนับประมาณไม่ได้

พระเจ้าเงินตราสูตรยาดำรวยมหากาลนั้นเป็นวิชาเฉพาะทางที่เรียกว่าโกงกลืนกิน นอกจากโขมยดวงลักโชคผู้ที่เราปรารถนาให้ปรากฏแก่เราแทนได้แล้วยังใช้กลืนกินสิ่งที่ปรารถนาได้อีกด้วย ดั่งว่าจะกินเงิน,กินทอง,กินโชคลาภเข้าตัว,กินสิริมงคล..กินวาสนา..กินและโกง ### พ่ออาจารย์ท่านว่ากินได้ทุกสิ่งโกงได้ทุกอย่างอย่าว่าแต่เงินทองวัตถุที่ทำให้เรารวยทรัพย์นับอนันต์อันจะก่อเกิดให้เราได้กินเลย อะไรที่ขึ้นชื่อว่าสมบัตินั้นล้วนกินได้หมดไม่ว่าจะสี่เท้าสองเท้าหรือมนุษย์ด้วยกันก็ไม่เว้น จะกินเขาเพื่อให้เหนือกว่าเขาหรือกินเขาเพื่อนำมาเป็นคู่ครองก็สุดแล้วแต่เรา สูตรรวยมหากาลนี้พระเจ้าเงินตราท่านว่าผู้ครอบครองจักได้กินทุกสิ่งที่ปรารถนา จะกินจะฟันกำไรเอาอะไรบอกองค์ท่านได้หมดเลย

นี่คือสูตรยาดำรวยมหากาลที่ต่างจากพระเจ้าเงินตราทั้งหลายเพราะท่านช่วยแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เป็นวิชาอันจำกัดไว้...เป็นวิชาที่สาบสูญไปนับพันปีที่จะใช้ก่อร่างสร้างชะตามหาเศรษฐีให้ฟันฝ่าพ้นอุปสรรคทั้งปวงเป็นของอาถรรพ์สร้างยาก ***พระเจ้าเงินตราสูตรยาดำรวยมหากาลนี้ท่านย้ำว่าเฉพาะสูตรยานี้มหาเทวีย่อมรับฟังเมื่อเราวอนขอบ่ายเบี่ยงไม่ได้เลยเพราะเป็นยาที่รับแรงได้มากรับพลังได้รวยที่สุด เมื่อจะทำจะกดพิมพ์ต้องลง "เปิดปากทรัพย์..ดักทรัพย์..จับลาภ" เช่นนี้จึงกลืนกินทรัพย์ได้ทุกสิ่ง ทั้งต้องลงผงค่ายกลตาข่ายเพชรพระเจ้าโรยหน้าคลุมองค์พระเจ้าเงินตราไว้ทุกองค์ดั่งว่าตาข่ายนี้จะซ้อนหุ้มทรัพย์สินเงินทองทั้งจักรวาลเอาไว้ไม่ให้กระเด็นตกเรี่ยราดรอดพ้นชีวิตเราไปได้เลย เช่นนั้นสูตรยาดำมหากาลจึงใช้เพื่อความเจริญรุ่งเรืองสูงโดดเด่นกว่ายอดวิชาบันดาลทรัพย์ใดๆในสายพระเจ้าเงินตรา ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านสรรเสริญว่า "สูตรยาดำรวยมหากาล..รวยชั่วข้ามวัน..เป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืน..หลับได้เงินหมื่น.ตื่นได้เงินแสน..เปิดดวงรับเงินล้านทุกกาลเวลา"

น้ำมันกาแปลงหงส์..โถมจับมังกร
ว่าด้วยการดำรงค์ไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์ของสรรพชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองรุดหน้าถึงขีดสุด ดั่งชะตานกกาสีดำทมิฬได้แปลงเปลี่ยนเป็นหงส์ฟ้าเหิรขึ้นสวรรค์ต่อต้านโถมจับพญามังกรได้ ด้วยสรรพชีวิตทั้งหลายนั้นยังข้องแวะอยู่ในห้วงวัฏสงสาร น้ำมันกาแปลงหงส์จึงช่วยให้ก่อเกิดทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้เป็นเจ้าของอยากได้และปรารถนาท่านว่ามีอาถรรพ์มากถึงปานนี้ "คนที่ไม่มีต้องได้มี" คนที่ไม่มีราศีจะมีสง่าราศี..คนที่ไม่มีบุตรจะได้บุตร..คนที่ไม่มีความรักจะเจอความรัก...คนที่ใช้ชีวิตยากลำบากจะทำมาหากินได้ง่าย..คนไร้ผู้อุปถัมภ์จะเจอคู่อุปถัมภ์...คนที่ไม่เคยมีลาภจะได้ลาภ..คนที่ที่โดนให้ร้ายคนผิดจะกลับใจ..คนที่มีอัญหาติดขัดในชีวิตจะคลี่คลายทุกข์..จะกระทำสิ่งใดมักสำเร็จสมความปรารถนา น้ำมันชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านหวงไว้ด้วยเป้นของครูบาอาจารย์ท่านมีอายุสืบต่อมาหลายรุ่นท่านต้องคอยระวังไม่ให้คนนำไปใช้

ด้วยปกติน้ำมันจะเน้นด้านเสน่ห์แต่ตัวนี้ท่านว่าดั่งปรารถนาของพระเป็นเจ้าอะไรที่ไม่มีไม่เคยได้ก็จะมี แค่พกไว้ก็เป็นเสน่ห์เมตตานะจังงังจะไปพูดคุยกับใครให้เค้ารักเคลิบเคลิ้มหลงไปให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นของพวกนี้กลายเป็นเรื่องไร้สาระไปเลยเพราะไม่เพียงเขาจะรักใคร่เอ็นดูแล้วยังใช้เปลี่ยนเพศ(หมายถึงแปลงฐานะจากต่ำไปสูงดั่งกาจำแลงหงส์ได้) น้ำมันนี้เป็นน้ำมันหัวเชื้อครูเก่าที่ได้ถูกเก็บรักษาและส่งมอบให้ลูกหลานกันมาหลายยุคสมัย พ่อาอจารย์ท่านว่าสร้างยากเพราะต้องจำแนกน้ำมันชนิดต่างๆค่อยๆหุงทีละชนิดทีละสูตรเป็นขั้นๆไป พอหุงได้ครบพันศาสตร์ตามตำรับวิชาน้ำมันโบราณจึงเอาน้ำมันพันชนิดที่หุงเสร็จแล้วมีอิทธิคุณแรงกล้ามาหุงรวมกันให้ใสดั่งตาตั๊กแตนเรียกว่าน้ำมันสหัสคุณกาแปลงหงส์เช่นนี้ คือมีคุณเป็นสหัสวิถีใช้ได้ทั้งพันหนทาง...พันความปรารถนา.พันความคิด..พันความต้องการ พ่ออาจารย์ว่านอกจากครูหมอเฒ่ายุคเก่าแล้วใครก็หุงน้ำมันเช่นนี้ไม่ได้ด้วยมวลสารที่นำมาทำนั้นมีแต่ในเมืองบังบดทั้งสิ้น หากใครจะหุงน้ำมันแบบนี้เขาต้องเข้าออกเมืองบังบดได้ดุจบ้านตัวเองนั่นแหละ

ด้วยน้ำมันนี้ตกอยู่กับผู้ใดคนผู้นั้นจะโชคดีดั่งมีขุมทรัพย์ได้รับพรให้เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ในขวดน้ำมันท่านใส่ "ธาตุข่มธาตุ" ไว้ด้วยทุกขวดท่านว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่ท่านหุงไว้โดยใช้การข่มกันของทองสองชนิดเป็นธาตุแข็งแกร่งและทนไฟมากที่สุดใช้ข่มธาตุทั้งปวงเพื่อบันดาลวาสนาบารมีเติมเต็มให้เจ้าของมีมหาอำนาจดั่งท้าวโกสีย์ มหาธาตุตัวนี้ท่านว่าใช้ข่มเทวดาได้ ปกติเขาขายกันเม็ดๆนึงหลายหมื่นบาท อันนี้ท่านว่าพูดจริงๆนะเพราะมันสร้างยากแต่หนนี้ในขวดน้ำมันท่านเชิญธาตุข่มธาตุใส่ลงไปหลายเม็ด(ท่านว่าให้เป็นที่วาสนาคนรับ)

นอกจากนั้นในขวดน้ำมันท่านยังใส่ว่านที่ครูในบังบดเรียกว่า "ขนอกพระนารายณ์" ลงไปด้วยทุกขวด พ่ออาจารย์ท่านว่าว่านนี้มีรัศมีสีทองสาดกระจายไปทั้งสิบทิศมีอานุภาพนำอรุณรุ่งแห่งความเจริญรุ่งเรืองและชื่อเสียงความมั่งคั้งตลอดจนสิริมงคลมาสู่ชีวิตผู้บูชา
### พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะน้ำมันชุดนี้ฉันพูดตรงๆว่าประเมิณราคาไม่ได้เลย จะขายหลายแสนก็ยังมีคนตาม แต่คนเอาไปเขาไม่ทุกข์นั่นไง น้ำมันตัวนี้มีไว้ช่วยคนที่ทุกข์ยากท่านจึงตัดใจฝังในพระลักษมีชุดผงยามหากาลและเก็บรักษามายาวนาน

วิชาที่พ่ออาจารย์สำเร็จ
ท่านนำธาตุกายสิทธิ์มาหล่อรูปปูไว้ใช้ฝัพระลักษมี ท่านปั้นหุ่นปูตัวเล็กๆที่ในอดีตนั้นเราจะเห็นว่าท่านเสกปูไม้ช่อฟ้าแกะจนคลานได้ เมื่อหล่อปูชุดนี้ท่านก็ทำในพิธีเดียวกันคือนำมาเเช่ในน้ำมนต์ค่อยๆเสกของท่านไปเรื่อยๆ ท่านบอกว่าปูนี้ดีมีก้ามที่ใหญ่โตหนีบอะไรเเล้วไม่หลุดง่ายๆ ที่เราทำปูเพราะนอกจากเรื่องโชคลาภเงินทองแล้วคนใช้เป็นเขาจะรู้จะเห็นเอง ปูนี่ดีมากๆอยากให้หนีบใครพอหนีบได้เเล้วไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากเราเเน่นอน *** ปูชุดนี้มีอาถรรพ์มากเอาง่ายๆตอนเสกเสร็จก่อนท่านจะฝังท่านได้เอามือของท่านจุ่มลงไปในน้ำมนต์แล้วเรียกให้ดู ปรากฏว่าปูนี้เกาะอยู่ตรงเเขนท่าน 1 ตัว คงจะเป็นคำพูดที่ว่าเราจะเสกจนมันคลานได้นั่นเอง

ตะกรุดไร้นามที่มีคนปรารถนามากที่สุด
ด้วยเป็นตะกรุดที่พ่อาจารย์ท่านก็ไม่รู้ว่าลงยันต์อะไรไว้ เพราะท่านบอกแต่เพียงว่าครูพรหมสหัมบดีท่านขอยืมร่างลงมาจารให้เอง พอคืนสติก็สำเร็จหมดแล้ว พ่ออาจารย์ท่านรู้แต่เพียงว่าตะกรุดนี้ใช้ห้ามความทุกข์คือห้ามความทุกข์ได้ทุกรูปแบบทั้งทางกายก็ดีรวมถึงที่เกิดกับใจก็ดี สิ่งใดเป็นทุกข์จะถูกปรามถูกหยุดไว้และขจัดให้สิ้นไป เรียกว่าห้ามทุกข์เพื่อเพิ่มสุขกันเอาสิ่งที่ไม่ต้องการออกไปเสียใช้ห้ามภยันตราย..ใช้ห้ามเรื่องร้ายต่างๆ

ของเหล่านี้คือสิ่งที่พ่ออาจารย์ท่านฝังไว้ให้คู่กันกับพระเจ้าเงินตราชุดมหากาลที่อันตรายมากที่สุด...อันตรายสูงสุด...แรงที่สุดในศาสตร์พระเจ้าเงินตรา ...ท่านว่าที่อันตรายคือคนใช้ระวังจะรวย ต่อให้จะมีจะได้จะเป็นอะไรก็ตามอย่าหลงลืมตัวตนของตนเอง ทาน..ศีล..ภาวนาอย่าทิ้ง ถ้าทำได้ก็มาใช้พระเจ้าเงินตราชุดมหากาลของฉัน

คาถาบูชา
โอม มหามาตาพระลักษมี ปัตตะวา ปิดตะวาโม ปิดตะวาติ (ใช้กับพระเจ้าเงินตราชุดนี้เพื่อขจัดปัดเป่าอุปสรรคชีวิตและอันตรายต่างๆอันจะเกิดแก่โชคลาภเงินทอง)

*** ผู้มีวาสนาแก่เงินตรา ผู้มีวาสนาแก่ทรัพย์สินรวมไปถึงยอดน้ำมันยอดธาตุศักดิ์สิทธิ์ในขวดน้ำมันนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหาได้ยากในโลก ไม่ต้องไปบอกอะไรเขาเลยว่าของเราดี เพราะคนดีเขาจะเห็นของว่าดีด้วยเทวดาประจำตัวเขาดลใจ... พ่ออาจารย์ท่านว่าไว้ดังนี้ว่าเป็นเรื่องของดวงตาถ้ายังไม่สว่างก็มองไม่เห็น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา องค์ครูใหญ่พระเจ้าเงินตราสูตรยาดำรวยมหากาล(โกง,กลืน,กิน) บูชา 4,000 บาท

​

 

"อารมณ์กรรมฐาน"หลวงปู่ชา สุภัทโท​

" .. อารมณ์ของสมถกรรมฐานนั้น "ท่านให้กำหนดอานาปานสติ คือลมหายใจเข้าออกนี้เป็นรากฐาน" ควบคุมจิตของเรา "ให้อยู่ในกระแสของลมนี้" ให้มันแน่วแน่ นิ่งนอนอยู่ เมื่อเราพยายามทำตาม ดังนั้น จิตของเราก็จะสงบ "นี่ท่านเรียกว่า อารมณ์ของกรรมฐาน"

"อารมณ์กรรมฐานนี้จะทำจิตให้สงบ" เพราะจิตมันวุ่นวายมาไม่รู้กี่ปีกี่ชาติแล้ว "ลองนั่งดูเดี๋ยวนี้ก็ได้ อาการวุ่นวายจะเกิดขึ้นทันที" มันจะไม่ยอมให้เราสงบ ฉะนั้น "ท่านจึงให้หาอารมณ์กรรมฐาน อารมณ์อันใดถูกใจ ถูกจริตของเราท่านให้พิจารณาอันนั้น"

เช่น "เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ" ท่านให้พิจารณากลับไปกลับมา เมื่อทำอย่างนี้ "บางคนพิจารณาตโจ หนัง" รู้สึกพิจารณาได้สบาย เพราะถูกจริต "ถ้าอันใดถูกจริตของเราอันนั้น ก็จะเป็นอารมณ์กรรมฐานของเรา" สำหรับปราบกิเลสทั้งหลายให้มันเบาบางลง

บางคน "มีความโลภ โกรธ หลง อย่างแรงกล้า" ก็ไม่มีอะไรจะปราบเจ้ากิเลสนี้ได้ "พอพิจารณามรณสติ คือการระลึกถึงความตายอยู่บ่อย ๆ ก็เกิดความสลดสังเวช"

เพราะว่า "จนมันก็ตาย รวยมันก็ตาย ดีมันก็ตาย ชั่วมันก็ตาย" อะไร ๆ มันก็ตายหมดทั้งนั้น ยิ่งพิจารณาไป "จิตใจก็ยิ่งเกิดความสลดสังเวช พอนั่งสมาธิก็สงบได้ง่าย ๆ" เพราะมันถูกจริตของเรา .. "

​

 

พรพ่อให้​

อรุณสวัสดิ์ครับ ก็จะได้พูดคุยกันสบายๆเช้าๆอีกรอบ เริ่มจากการโอนเงินเห็นบางท่านโอนมาสองบัญชี ที่จริงก็โอนรวบบัญชีเดียวตามที่เคยบอกกันไว้นะครับ *** เราจะยึดรายการจองครั้งสุดท้าย ยึดเอาบัญชีที่ส่งให้ครั้งสุดท้ายเป็นหลักในการโอน เพราะหลายๆคนจองของไว้เป็นเดือนหรือเกินเดือนก็มีพอถึงเวลาจริงทั้งของเก่าของใหม่ถ้ามานั่งแยกบัญชีโอนก็จะสับสนเพราะเลิกใช้บัญชีเก่าเปลี่ยนเป็นอันใหม่ไปแล้ว ในกรณีที่จองนานๆก่อนโอนก็รบกวนถามบัญชีอีกทีนะครับ หรือไม่ก็ง่ายๆเลยโอนบัญชีเดียวโดยยึดการจองบัญชีที่ส่งให้ครั้งล่าสุด

ช่วงนี้มีคนแชร์มาให้อ่านมาปรึกษาเรื่องราหูกันมากเพราะหมอดูดังๆออกมาทำนายกันเยอะ ก็เป็นมงคลตื่นข่าวว่าดวงจะตกไปต่างๆนาๆ เรื่องนี้ผมจะพูดรวมๆอีกทีว่าวิถีดาราศาสตร์ก็เป็นไปตามธรรมชาติของเค้า หากใจเรามีที่ยึดเหนี่ยวพึ่งพิงแล้วไม่จำเป็นต้องไปกังวลเลย เครื่องมงคลที่พ่ออาจารย์ทำหลายประเภทก็ใช้ยกดวงได้ ถ้ามีอยู่ในคออย่าทำตัวให้ครูบาอาจารย์ท่านหัวเราะหรือเทวดาท่านออมยิ้มเอาได้ว่าห้อยไว้หนักคอเปล่า *** เรียกว่าถึงคนทั่วโลกจะกังวลเราก็ไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยถ้ายังยึดมั่นในครูบาอาจารย์อยู่ ดาวเขาจะโยกจะย้ายอะไรก็ให้เป็นไปตามธรรมชาติเขา ส่วนใหญ่คนที่ห้อยเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์ท่านจะไม่สนใจกับคำหมอดูกันซะมาก ยิ่งรุ่นใหญ่ๆที่รากฐานชีวิตมั่นคงแล้วหากในคอมีเครื่องมงคลอยู่สังเกตุได้ว่าจะไม่มีคำถามหรือต้องการคำปรึกษาใดๆเพิ่มเลย จะกี่ปีๆก็จะพูดแค่ว่าราบรื่นดี เพราะชีวิตไม่เจอปัญหาอะไรเลยก็เลยไม่มีอะไรให้ปรึกษา ที่จริงคนแบบนี้เป็นเป้าปราถนาสูงสุดของผมเลยและผมก็เชื่อว่าหลายๆคนก็อยากให้ชีวิตเป็นเช่นนี้ คือไม่ไปเจอทุกข์เจอปัญหาจนต้องมาปรึกษาใคร แน่นอนว่าทุกคนอยากให้ชีวิตของตัวเองดีทั้งนั้น

ล่าสุดก็เพิ่งมีประสบการณ์เข้ามาด้วยบารมีในองค์พระกศยปเทพบิดรของพ่ออาจารย์ ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจร้อนรุ่มอย่างกับไฟแบบนี้ มีคนขอบารมีองค์มหาฤาษีสามารถขายที่ดินที่ประกาศขายไม่ออกมาสามสิบปีได้ รายนี้ตรงๆคือพี่เค้าเคยส่งตัวโฉนดมาให้ดูว่าอยากให้ครูช่วยจะได้ขายได้ แต่เราเห็นขนาดเนื้อที่พร้อมราคาเราก็ช๊อคพอสมควรในใจก็ไม่คิดว่าพี่เขาจะขายออกด้วยเลขศูนย์มันเยอะ ถ้าแบ่งขายเป็นแปลงๆยังจะขายง่ายกว่า ลึกๆเราทำใจเลยว่าสังคมตอนนี้เศรษฐกิจแบบนี้คงไม่ไหว แต่เรื่องกลับไม่เกินมือพระกศยปปู่ฤาษีใจดีของพ่ออาจารย์ท่าน แค่คำบอกเล่าปัญหาปราศจากการบนบานเซ่นสรวงใดๆ...พี่เค้าว่าปิดการขายไปเเล้วในเวลาที่น่าทึ่ง ### ใครเดือดร้อนก็ขอบารมีท่านดูแอบบอกใบ้กันดังๆว่าท่านใจดี

พรพ่อให้...จริงๆรายการนี้ก็เป็นเครื่องมงคล แต่ค่อนข้างจะแปลกแแยกไปไกลด้วยปกติเราจะเคยเจอเครื่องมงคลบางอย่างที่เอาไว้ใช้ขอพรโดยเฉพาะในตำรับของพ่ออาจารย์ซึ่งก็นับว่าน้อยแสนน้อยที่จะมีของแบบนี้ แต่เครื่องมงคลลรุ่นนี้กลับใช้ให้พร..แก่ตัวเราและผู้อื่น เป็นเครื่องมงคลที่วิเศษทั้งทางโลกและทางธรรมคือทางโลกเราก็ใช้รับพรในเรื่องที่ปรารถนาส่วนทางธรรมก็ปรารถนาจะให้ผู้ครอบครองได้เจริญเมตตาไปยังสรรพชีวิตโดยรอบด้วยการมอบพรให้ผู้อื่น ...พรจะศักดิ์สิทธิ์และเป็นจริงได้ผู้ให้ต้องมีบารมีแก่กล้า ....เช่นนั้นเครื่องมงคลแบบนี้ต้องเป็นเอกในเรื่องบารมีเช่นกัน ติดตามกันนะครับถ้าใครชอบของแปลกๆที่สร้างไม่ง่าย

​