ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จทะลวงขั้นชำระรากปมกรรมห้วงภพ(สมดุลย์กลาง) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    วันเข้าพรรษา

    วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในพระพุทธศานาที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดฤดูฝนเป็นระยะเวลา 3 เดือนตามที่พระธรรมวินัยได้บัญญัติไว้โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรืออาจพูดเป็นภาษาทั่วไปว่า จำพรรษา (พรรษา แปลว่า ฤดูฝน , จำ แปลว่า พักอยู่) พิธีเข้าพรรษานี้ถือว่าเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ไม่สามารถละเว้นได้ทุกกรณี ซึ่งการเข้าพรรษาตามปกติจะเริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (หรือเดือน 8 หลัง ถ้ามีเดือน 8 สองหน) และจะสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา

    ความเป็นมาของวันเข้าพรรษา
    วันเข้าพรรษา (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8) หรือเทศกาลเข้าพรรษา (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) ถือว่าเป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธที่สำคัญวันหนึ่งของประเทศไทย โดยมีกำหนดระยะเวลา 3 เดือนในช่วงฤดูฝน ซึ่งวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8) พุทธศาสนิกชนชาวไทย รวมถึงพระมหากษัตริย์และบุคคลทั่วไปได้สืบทอดประเพณีการปฏิบัติและการทำบุญในวันเข้าพรรษามาช้านานตั้งแต่สมัยสุโขทัย

    สาเหตุที่พระพุทธเจ้าได้ทรงอนุญาตให้จำพรรษาอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งตลอดระยะเวลา 3 เดือนแก่พระสงฆ์นั้น ก็เพื่อให้พระสงฆ์ได้หยุดพักจากการจาริกเผยแผ่ศาสนายังสถานที่ต่างๆ ที่จะเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาจำพรรษตลอด 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาและโอกาสสำคัญในรอบปีที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่จำพรรษารวมกันภายในอาวาส หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่งเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ นับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ด้วยเอง อีกทั้งในวันเข้าพรรษาและช่วงฤดูพรรษากาลตลอด 3 เดือนนั้น พุทธศาสนิกชนชาวไทยถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้บำเพ็ญกุศลด้วยการเข้าวัดทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา และนับเป็นโอกาสพิเศษที่มากกว่าวันสำคัญอื่นๆ โดยในวันเริ่มต้นพรรษานี้ จะมีการถวายหลอดไฟ หรือเทียนเข้าพรรษา และผ้าอาบน้ำฝน (ผ้าวัสสิกสาฏก) แก่พระสงฆ์ เพื่อไว้สำหรับให้พระสงฆ์ได้ใช้ตลอดการอยู่จำพรรษา ซึ่งในอดีต ชายไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนและมีอายุครบบวช (20 ปี) จะนิยมถือบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เพื่ออยู่จำพรรษาตลอดทั้ง 3 เดือน โดยพุทธศาสนิกชนชาวไทยจะเรียกการบรรพชาอุปสมบทเพื่อจำพรรษาตลอดพรรษากาลว่า บวชเอาพรรษา

    ความสำคัญของวันเข้าพรรษา

    1. ช่วงวันเข้าพรรษา เป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านจะประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ดังนั้นการกำหนดให้ภิกษุสงฆ์หยุดการเดินทางจาริกไปในสถานที่ต่างๆ จะช่วยให้ต้นกล้าของพันธุ์พืช ตลอดจนสัตว์เล็กสัตว์น้อยไม่ได้รับความเสียหายจากการเดินธุดงค์
    2. หลังจากเดินทางจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนามาเป็นเวลา 8 – 9 เดือน ช่วงเข้าพรรษาจะเป็นช่วงที่ให้พระสงฆ์ได้หยุดพักผ่อน
    3. วันเข้าพรรษา เป็นช่วงเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมสำหรับตนเอง อีกทั้งยังได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ตลอดจนเตรียมการสั่งสอนให้กับประชาชนเมื่อถึงวันออกพรรษา
    4. เพื่อจะได้มีโอกาสอบรมสั่งสอนและบวชให้กับกุลบุตรผู้มีอายุครบบวช อันจะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป
    5. เพื่อเป็นการให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสบำเพ็ญกุศลเป็นการพิเศษ อาทิ ทำบุญตักบาตร หล่อเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน รักษาศีล เจริญภาวนา ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม งดเว้นอบายมุข และมีโอกาสได้ฟังพระธรรมเทศนาตลอดช่วงเวลาเข้าพรรษาอีกด้วย

    ข้อยกเว้นการจำพรรษาของพระสงฆ์
    ถึงแม้ว่าการเข้าพรรษาจะถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระภิกษุโดยตรงที่ไม่สามารถละเว้นได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม แต่ในการจำพรรษาของพระสงฆ์ในระหว่างพรรษานั้นอาจมีกรณีจำเป็นบางอย่างที่ทำให้พระภิกษุผู้จำพรรษาต้องออกจากสถานที่จำพรรษาเพื่อไปค้างแรมที่อื่น พระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาตให้ทำได้โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษาโดยมีเหตุจำเป็นเฉพาะกรณีๆ ไป ซึ่งได้มีระบุไว้ในพระไตรปิฎก ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการพระศาสนา หรือการอุปัฏฐานบิดามารดา ทั้งนี้ ก็จะต้องกลับมาภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน การออกนอกที่จำพรรษาล่วงวันเช่นนี้เรียกว่า สัตตาหกรณีย พระพุทธเจ้าได้ทรงระบุเหตุต่างๆ เอาไว้ในกรณีจะออกจากที่จำพรรษาไปชั่วคราวได้ ดังนี้
    - การไปรักษาพยาบาล หาอาหารให้ภิกษุ หรือบิดามารดาที่เจ็บป่วย กรณีนี้ทำได้กับสหธรรมิก 5 และบิดามารดา
    - การไประงับภิกษุสามเณรที่อยากจะสึกมิให้สึกได้ กรณีนี้ทำได้กับสหธรรมิก 5
    - การไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น การไปหาอุปกรณ์มาซ่อมกุฏิที่ชำรุด หรือการไปทำสังฆกรรม อาทิ สวดญัตติจตุตถกรรมวาจาให้พระผู้ต้องการอยู่ปริวาส เป็นต้น
    - หากทายกนิมนต์ไปทำบุญ ก็ให้ไปทายกได้โดยให้ทาน รับศีล ฟังเทศนาธรรมได้ ในกรณีนี้หากโยมไม่มานิมนต์ก็จะไปค้างไม่ได้


    หากพระสงฆ์ออกจากอาวาสแม้โดยสัตตาหกรณียะล่วงกำหนด 7 วันตามพระวินัยก็ถือว่าขาดพรรษา และเป็นอาบัติทุกกฎเพราะรับคำ (รับคำอธิษฐานเข้าพรรษาแต่ทำไม่ได้) แต่ในกรณีที่พระสงฆ์สัตตาหกรณียะและกลับมาตามกำหนดแล้ว ไม่ถือว่าเป็นอาบัติ และสามารถกลับมาจำพรรษาต่อเนื่องได้ แต่หากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องออกจากที่จำพรรษาไปได้ตามวินัยอีก ก็สามารถทำได้โดยสัตตาหกรณียะและต้องกลับมาภายใน 7 วันเพื่อไม่ให้ขาดและไม่เป็นอาบัติทุกกฎดังกล่าว


    557000001349001.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    พรุ่งนี้ถือเป็นโอกาสอันดี...เพราะเป็นเครื่องมงคลทางล้างกรรมโดยพระผู้พเนจร...(พ่ออาจารย์ท่านว่ารายการนี้เป็นวิชาของพราหมณ์..ของปู่พระสยมซึ่งนานๆท่านจะทำซักหน) ติดตามกันให้ดีนะครับท่านว่าลงมาเพื่อล้างกรรมโดยเฉพาะ
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญคลี่คลายกรรมวณิพกภิกษาฏนะมูรติ (พ่อยอดขอทานล้างบาป)

    ในสมัยหนึ่งเมื่อพระเป็นเจ้าสูงสุดต้องเร่ร่อนล้างบาปกรรมด้วยการเป็นขอทาน...เมื่อครั้งที่องค์พระศิวะ(ครูพระสยม)ได้แสดงอำนาจผ่านเสาศิวลึงค์ พระองค์ได้ทรงโกรธกริ้วในความไม่ซื่อสัตย์ของพระพรหมจนเกิดเป็นพระมหากาลไภรวะขึ้นที่พระนลาฏออกมาตัดพระเศียรที่ห้าของพระพรหม ด้วยเศียรที่ห้านั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความเย่อหยิ่งอหังการและหลงใหลก่อเกิดเป็นพรหมรากษสจำนวนมหาศาลหลั่งไหลออกมาจากพระโอษฐ์ที่โอ้อวดตนว่ากำเนิดขึ้นเอง เป็นผู้สร้างจักรวาลจึงยิ่งใหญ่กว่าผู้ใดไม่มีที่สิ้นสุด...ด้วยการตัดเศียรพระพรหมผู้ถือกำเนิดขึ้นจากความบริสุทธิ์จึงเป็นความผิดบาปมหันต์ที่เรียกว่าพรหมาหัถยากลายเป็นพลังแห่งบาปเคราะห์ที่ถาโถมกลับคืนไปสู่พระกาลไภรวะ เศียรที่ห้าแห่งองค์พรหมได้กลายเป็นถ้วยกปาลติดอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ซ้ายชองพระศิวะเหนียวแน่นจนไม่สามารถสะบัดออกได้ ...หนทางที่จะล้างบาปมหันต์นั้นองค์พระสยมต้องจาริกออกภิกขาจารแสวงบุญ ในส่วนพระพรหมนั้นก็ได้ทําพิธีล้างบาปที่เกิดขึ้นจากอหังการด้วยการบูชาไฟและสวดพระเวทอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยพระโอษฐ์ทั้งสี่ของพระองค์

    ด้วยถ้วยกปาล(เศียรที่ห้าแห่งพรหม)เป็นบาปกรรมที่บังคับให้องค์ไภรวะต้องเคลื่อนไปเป็นขอทานซึ่งปราศจากทรัพย์สินติดตัวเพื่อจะไม่ได้ใช้ทรัพย์ส่วนพระองค์ในการล้างบาป พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดต้องลงมาเร่ร่อนเนื้อตัวเปลือยเปล่าขอทานอาหารเพื่อประทังชีวิตอย่างเต็มตัว(พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการใช้กรรมอย่างสาหัสนัก) ทั้งบาปพรหมาหัถยาที่พระองค์ได้กระทำไปยังจุติกลายเป็นรูปหญิงชั่วสกปรกน่าเกลียดน่ากลัวคอยย้ำเตือนบาปติดตามไปทุกหนแห่งทั้งสุนัขขาวอันเป็นตัวแทนของความถือดีหยิ่งยโสทะนงตนแห่งพรหมก็ได้ติดตามคอยกินน้ำเลือดน้ำหนองที่ไหลออกมาจากถ้วยกปาล การเดินทางล้างบาปของพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าพระองค์ไม่ได้ไปเพียงองค์เดียวเท่านั้นหากแต่ยังนำเหล่าคณะ(เทพสาวกในองค์พระศดาศิวะเจ้า)ติดตามไปด้วย *** จึงเป็นที่มาของยอดขอทานผู้เดินทางล้างบาปที่แม้เทพยดาเจ้ายังน้อมค่อมตัวลงกราบไหว้บูชา

    เมื่อกลายเป็นยอดขอทานที่ต้องภิกขาจารแสวงบุญในนาม“ภิกษาฏนะมูรติ” การเริ่มต้นล้างบาปไปทั่วทั้งสามโลกจึงได้เกิดขึ้นแต่บัดนั้น..พระองค์ต้องเดินไปขอทานอาหารตามบ้านทีละหลังไม่ว่าจะบ้านไหนหญิงสาวใดเมื่อได้เห็นรูปขอทานของพระเป็นเจ้าย่อมหลงใหลไปกับพระองค์ออกเดินร้องรำตามส่งเป็นขบวน จากการขอทานล้างบาปเล็กๆก็กลายเป็นขบวนยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงภิกขาจารไปถึงป่าวนตารุกะในที่นั้นทรงได้ทรมานเหล่าฤาษีทั้งหลายผู้ลุ่มหลงในกามให้สงบระงับไป ยอดขอทานทรงเที่ยวจาริกไปทั้งหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาลแม้นในแดนอสูร..แดนเทพ..ภพภูมิที่สลับซับซ้อนทั้งหลายพระองค์ทรงไปเยี่ยมเยือนเพื่อล้างบาปกรรมทั้งสิ้นจนล่วงไปถึงเกษียรสมุทรแห่งองค์นารายณ์ซึ่งทวารบาลนามว่าวิศวากะเสนาปฏิเสธไม่ให้ชาติขอทานเข้าเฝ้าพระเป็นเจ้า ยอดขอทานจึงได้สังหารทวารบาลและเสียบโครงกระดูกไว้ที่ตรีศูลทำให้พระองค์ได้รับนามใหม่ว่ากังกาละมูรติผู้ถือไว้ซึ่งโครงกระดูก ### ด้วยการสังหารทวารบาลนี้ทำให้บาปกรรมของพระองค์รุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อได้เข้าไปพบองค์พระวิษณุเพื่อขอทานอาหารองค์พระนารายณ์จึงได้ถวายเลือดของพระองค์ในมื้อแรกเป็นทานบูชาแก่พระศิวะเจ้าและองค์นารายณ์ยังได้ตัดเส้นเลือดบนหน้าผากพระเป็นเจ้าให้เลือดไหลลงสู่ถ้วยกปาลเป็นอาหารในมื้อต่อๆไป..เมื่อจบกิจแห่งการบริจาคแล้วพระองค์ได้ทูลให้พระไภรวะซึ่งได้สร้างบาปอันยิ่งใหญ่ด้วยการประหารพระพรหมและฆ่าทวารบาลแห่งบ้านที่มาภิกขาจารล้างบาปนั้นให้เสด็จไปหาพระแม่คงคา(แม่น้ำคงคา)ที่ตั้งอยู่ในเมืองพาราณสีเพื่อล้างบาปทั้งหมด ...เมื่อทรงเร่ร่อนได้สิบสองปีพระผู้เป็นเจ้าจึงได้เดินทางสู่พาราณสีไปชำระล้างบาปในแม่น้ำคงคาด้วยเหตุนี้บาปเคราะห์ทั้งมวลจึงถูกชำระล้างจนหมดสิ้น ผลแห่งการชำระล้างบาปนั้นถ้วยกปาลอันเกิดจากศรีษะแห่งพรหมก็ได้เคลื่อนหลุดไปจากมือพระองค์ทั้งทวารบาลวิศวากะเสนาที่เสียบอยู่ที่ตรีศูลก็ได้คืนชีวิตกลับมาใหม่...แม้นนางพรหมาหัถยาอันตามย้ำเตือนหลอกหลอนพระเป็นเจ้าก็ได้เดินทางลงไปสู่ยมโลก องค์พระศิวะเจ้าจึงได้กลับเพศจากขอทานคืนสู่ความสง่างามแห่งพระผู้เป็นเจ้ากลับสู่ศิวาลัยไกรลาส

    ยอดขอทานผู้ล้างบาปมหันต์โทษ
    ด้วยโองการพระเป็นเจ้าที่ประสงค์จะล้างบาปกรรมอันเกินเรื่องเกินควรแก่ชะตามนุษย์ พ่ออาจารย์จึงได้ทำยอดขอทานไว้โดยท่านกำหนดปั้นหุ่นเทียนให้ตรงตามตำรา พ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อยอดขอทานนี้ต้องเปลือยกายปล่อยผมรกยาวรุงรังเป็นก้อนเป็นลอนประดับกายด้วยสร้อยโครงกระดูกยกถ้วยกปาล(ศรีษะพรหม) เช่นนี้จึงจะเป็นรูปขอทานในอาถรรพ์การดับล้างบาปทั้งสามโลกธาตุแห่งพระเป็นเจ้า ด้วยรูปนี้จะมีสตรีทั้งเจ็ดอันเป็นภรรยาของสัปตฤๅษีและเหล่าภูติเหล่าเทพอันได้ชื่อว่าคณะศิวะสาวก(อินทร์พรหมแลเทพเจ้าทั้งปวง)คอยตามอารักขา พ่ออาจารย์ท่านว่ายอดขอทานต้องทำปางร่ายรำถือเคล็ดว่าใช้สุขกลืนทุกข์ได้..กลืนบาปกรรม..กลืนความผิดบาปได้ทั้งสิ้น ด้วยยอดขอทานบันเทิงร่ายรำในขบวนแห่ของเหล่าสาวกเป็นเคล็ดต่อต้านบาปเคราะห์ดั่งบาปกรรมไม่สามารถขัดความสุขใดๆของพระองค์ได้

    รูปอาถรรพ์แห่งยอดขอทานนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่
    ามีอาถรรพ์เหนือกว่ารูปใดๆเช่นชูชกเหล่านั้นเสียอีก เพราะเป็นรูปที่มีคุณหลายด้านแม้คนเห็นก็เคลิบเคลิ้มหลงใหลยินดีในตัวเราถึงขั้นไร้สติเดินตามกันไป ทั้งวิชาสร้างยอดขอทานของครูพระสยมนั้นยังเป็นของการล้างบาปไปทั่วทั้งสามโลกด้วยยอดขอทานอันปรากฏรูปว่าครั้งหนึ่งนั้นพระเป็นเจ้าสูงสุดได้กระทำฉากแห่งวงจรชีวิตคลี่คลายบาปเคราะห์อันร้ายแรงทั้งปวง ### ครูพระสยมท่านโองการเอาไว้ว่าต้องแช่ต้องเสกในน้ำที่ได้จากแม่น้ำคงคาถึงสิบสองปีตามเวลาที่ท่านจาริกแสวงบุญนั่นจึงจะถือว่าทำได้สำเร็จมีอานุภาพล้างบาปมหันต์โทษในชีวิตทั้งปวงให้เคลื่อนให้หลุดออก การจะสร้างเครื่องมงคลสายล้างบาปที่ให้อานิสงค์ใหญ่ *** ท่านว่าเป็นการจาริกล้างบาปทั้งสามโลกธาตุล้างบาปมหันตโทษได้ทุกชนิดในคติไสยเวทย์แห่งครูพระสยม เครื่องรางนี้จะต่างจากสิ่งที่ใช้ล้างบาปกรรมทั่วๆไปในชั้นต้นเช่นนั้นการจะสร้างจึงไม่ใช่ของง่ายครูพระสยมท่านต้องให้พ่ออาจารย์มนต์(เสก)ด้วยเวทย์ดึกดำบรรพ์เป็นร้อยบทจนบังเกิดอักขระศักดิ์สิทธิ์เป็นชุดๆประทับเข้าไปในตัวพ่อยอดขอทานต้องทำไปเรื่อยจนเต็มวิชาใช้เวลาถึงสิบสองปี จึงครบตามอาถรรพ์เวทย์ได้พ่อยอดขอทานที่มีกำลังยิ่งใหญ่ไม่ขาดตกบกพร่องมีกำลังแรงกล้าไม่มีวันดับ อำนาจการดับล้างบาปในทุกระดับ(ความร้ายแรง)จะแผ่จากพ่อยอดขอทานมาสู่ตัวเราสะสมไปเรื่อยๆเพื่อให้เราได้ใช้กำลังของท่านเปลี่ยนวงโคจรทางเดินของชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยอดีตชาติจะทำกรรมใดไว้หนักหนาทั้งจากกรรมปัจจุบันสมทบเข้าไปอีกจึงต้องใช้เครื่องลางที่มีอำนาจโดยตรงทางล้างบาปเด็ดขาดดังนี้เพื่อเปลี่ยนชีวิตที่ขาดกำลังและที่พึ่งให้สะดวกสบายไม่มีความลำบาก ดั่งมีครูมีที่พึ่งคอยล้างบาปเพื่อให้เราตักตวงสิ่งที่ปรารถนาได้ไม่มีวันหมดสิ้นจะปรารถนาสิ่งใดก็มีหมุนเวียนเข้ามาเรื่อยๆอยู่ตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่าให้อธิษฐานเอาได้เลย เพราะยอดขอทานนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ล้างบาปพ่อท่านยังเป็นผู้ให้และผู้ทำลายสิ่งที่ขวางหนทางสำเร็จของเราแบบไม่เกรงบาปกรรมอีกด้วย(ดั่งที่ท่านสังหารทวารบาลแห่งพระวิษณุเพื่อขอทานให้สำเร็จ) พ่อล้างบาปยอดขอทานนี้จึงใช้ขอได้ทุกเรื่อง ขอได้ไม่เลือก แม้อยู่กับตัวเราก็จะได้พบสิ่งที่ปรารถนาโดยเร็ววันจะสมหวังในชีวิตยิ่งกว่าครั้งใดที่เคยผ่านมา พ่ออาจารย์ท่านเชิญปฐมดวงจิตแห่งพระเป็นเจ้าลงมากำกับทั้งแบ่งกำลังสู่เหรียญยอดขอทานนี้จึงมั่นใจได้ว่าเหรียญนี้จะมีอาการสามสิบสองพร้อมที่จะสดับรับรู้ความต้องการของลูกๆไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร..ติดกรรมอะไรขอให้บอกท่านไปตรงๆด้วยหน้าที่ของท่านคือการล้างบาปสูงสุดท่านจึงไม่เลือกว่าจะเป็นเรื่องหนักหนาร้ายแรงที่เกิดจากความผิดบาปสักปานใดท่านช่วยแบบไม่มีถือตัวตั้งแต่เรื่องสูงไปจนต่ำ

    พ่อยอดขอทานนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสำเร็จเป็นเครื่องรางที่ใช้ง่ายพกง่ายจะพกไว้ส่วนใดก็ได้ขอให้โดนเนื้อโดนตัว ยิ่งมีกรรมมีบาปเป็นขวากหนามชีวิตมากยิ่งต้องสัมผัสเนื้อตัวคือเลี่ยมใช้แบบเปิดเพื่อให้ถูเนื้อถูตัวเลยยิ่งดี จะใช้ทางสะกดจิตสะกดใจคนก็ได้จะล้างบาปปัดภัยในกรรมที่ไม่อาจแก้ไขได้เพื่อหลีกเลี่ยงจุดวิกฤติของชีวิตเรียกว่าอธิษฐานได้ทุกเรื่องตามเหตุที่พึงจะเป็นไปได้ ด้วยเป็นรูปอาถรรพ์ที่เป็นดั่งขุมพลังแห่งการล้างและอภัยบาปทั้งหมดต่อหน้าพ่อผู้ประเสริฐ เป็นขุมกำลังแห่งพระเวทย์ในสายล้างบาปทุกแขนงของครูพระสยมจึงบันดาลได้ทุกสิ่งแบบปราศจากเงื่อนไขในอันที่จิตมนุษย์ผู้ใช้นั้นปรารถนาในเหตุปัจจัยที่เป็นไปได้ พ่อยอดขอทานจะปราบศัตรูอย่างร้ายกาจและเติมเต็มความปรารถนาที่เราขาดไถ่ถอนเคราะห์กรรมและหนี้สินหนี้ชีวิตทั้งปวงที่อดีตเราหลงผิดเดินเหยียบย้ำผิดทางออกนอกลู่นอกทางเช่นนี้ ยอดขอทานท่านจะเติมเต็มสิ่งที่เราขาดเรียกว่าขาดอะไรก็ได้อย่างนั้น กรรมใดที่ปิดกั้นทำให้วาสนาเราไม่ดีไม่ได้ท่านจะดูดกลืนรับความผิดบาปนั้นไว้เองเพราะรูปท่านเป็นรูปอาถรรพ์แห่งการชำระล้างบาปกรรมอันเป็นมหันตโทษทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าตามไสยเวทย์นี่ถ้ามีรูปและวิชานี้อยู่ติดตัวบาปกรรมจะไม่ออกฤทธิ์ออกเดชอย่างใดเลย ยิ่งสัมผัสเนื้อตัวยิ่งให้ผลมากท่านไม่ได้ช่วยแค่บรรเทาไปเป็นพักๆช่วงๆแต่พลังของพ่อขอทานคือรับและชำระแทน ชำระทิ้งไปให้เสื่อมให้สูญให้สลายในจังหวะที่ความผิดบาปนั้นตามเล่นงานเราไม่เลิกรา

    นอกจากนี้พ่อยอดขอทานยังเป็นเครื่องรางแห่งการขอที่ขอได้ทุกสิ่ง ท่านบอกว่าชื่อเขาก็บอกอยู่แล้วว่าเอาไว้"ขอ"สำหรับคนที่ความต้องการมากและอยากขอแบบไม่หยุดไม่เหนื่อย..มีเรื่องให้พึ่งเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์พัวพันมากมายก็ต้องขอกับพ่อยอดขอทานนี้ด้วยท่านถือคติว่าขออะไรแล้วย่อมได้ทุกอย่างแม้ต้องคร่าชีวิตก็ต้องได้รับมา คือท่านจะช่วยเราให้ได้ทุกสิ่งแบบไม่เลือกวิธีเลยจะดลบันดาลโชคลาภให้อย่างไม่มีขีดจำกัด เป็นเมตตามหานิยมอย่างล้นเหลือและสมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค เปลี่ยนชีวิตให้ถึงพร้อมทั้งเสน่ห์..โชคลาภ..ข้าวปลาอาหารความสุขสบาย..ที่อยู่อาศัยปัจจัยสี่ถึงพร้อมด้วยบริวารมากมาย ***พ่ออาจารย์ท่านว่ายอดขอทานของท่านนั้นไม่ใช่เราต้องบากหน้าไปขอจากผู้อื่นนะ แบบนั้นเอาไว้ให้พวกหน้าหนาเขาใช้ ยอดขอทานนี้อยากได้อะไรก็ขอกับองค์พ่อได้เลยด้วยท่านเป็นผู้เสียสละถ้าเอาไปใช้ทางทำมาหากินก็ได้ชื่อว่าเก่งที่สุด จะขอโชคขอลาภก็แม่นที่สุด...ด้านหลังท่านอุดด้วยผงศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ชำระล้างบาปกรรมเอามาทำวิชานวดกับน้ำจากต้นสายพระแม่คงคาที่พลีอธิษฐานจิตมาเพื่อใช้ทางชำระล้างดับสูญบาปกรรมทั้งปวง ผงนี้เน้นหยุดความฝืดเคืองในชะตาชีวิตเปลี่ยนคนให้มีกินอิ่มหนำสำราญไม่อดอยาก จะเป็นเมตตาทำอะไรก็ง่ายเข้าหาใครก็สะดวก จะเอาพ่อไปขอเปลี่ยนชีวิตด้านใดไม่ว่าจะขอเอาทรัพย์สินเงินทองโภคทรัพย์ลาภสมบัติท่านว่านี่งานง่ายๆของท่านเลยเพราะหน้าที่ของพ่อยอดขอทานท่านก็เดินขอจนท้องอิ่มไม่มีใครกล้าขวางจะถามทางโภคทรัพย์ก็มีบารมีเต็มสมบูรณ์ ทั้งเรื่องเมตตาความสงสารหลงใหลก็ไม่มีสิ่งใดเกินไปกว่านี้ *** ท่านว่าที่เราให้ขอกับพ่อยอดขอทานไม่ต้องไปขอกับผู้อื่น เพราะว่าถ้าลองขอกับใครเดี๋ยวเขาจะหลงๆงงๆมาตามเอ็นดูอุปถัมภ์เชื่อลมปากเราไปทั้งชีวิต จะของานขอเมียขอบ้านขอความมั่นคงใดๆก็ตามก็ให้ขอกับองค์พ่อท่านว่าจะได้มาง่ายๆบางสิ่งจะได้แบบคาดไม่ถึงทั้งเวลาได้ย่อมได้มากกว่าคนอื่น..ได้มากกว่าครั้งใด..ได้มากกว่าขอกับใคร..ได้สิ่งที่ปรารถนาสมปรารถนามากมายนับไม่ถ้วนทันตาทันใจ จะใช้ขอเก็บขอเกี่ยววาสนาอะไรก็ตามแต่ใจจะขอจะถึงซึ่งวาสนามีให้เก็บเกี่ยวไม่รู้หมด ทั้งอำนาจพ่อยอดขอทานยังต่างจากเครื่องรางอื่นๆ "ด้วยขอแล้วต้องให้ แม้นไม่ยินยอมพร้อมใจให้จะต้องตาย" ท่านมีอำนาจบังคับคนและขจัดอุปสรรคแก่เราได้จึงวางแลว่างเรื่องปัญหาลงไปได้เลย รูปพ่อขอทานนี้เป็นรูปอาถรรพ์กุมอำนาจแห่งการขอทุกสรรพสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าขอไปในทางที่ดีแก่ชีวิตตนนั้นขอไปเถิดท่านช่วยไม่ได้อยู่เรื่องเดียวคือขออายุคนถึงที่ตายเท่านั้น

    เมื่ออาราธนาพ่อยอดขอท่าน ### ชีวิตย่อมมีผลแรงมากเป็นลูกโดด
    จักจำเริญรุ่งเรืองอย่างแรงไม่มีสิ่งใดให้คลางแคลงสงสัยเลย ด้วยมีอาถรรพ์มีตัวตนทั้งพ่ออาจารย์ยังทำวิชายาวนานมาถึงสิบสองปีเสกให้ถึงจิตถึงใจเต็มสูตรตามที่ครูพระสยมท่านโองการดั่งคำว่าปลุกจนลุกเสกจนเดิน ญาณของพ่อยอดขอทานนั้นคุมได้ทั้งโลกนี่แหละยอดนักขอของแท้ที่ดึงเอาเทวดามาเดินตามรับใช้ต้อยๆ จะขออะไรคนเขาก็ให้..แม้ไปขอเทวดาด้วยเดชพ่อยอดขอทานเขายังต้องทูนหัวเข้ามาให้ เครื่องรางพ่อยอดขอทานนี้ท่านทำไว้เพื่อช่วยคนที่ชีวิตตกอับดวงชะตาตกต่ำโดยเฉพาะ..คนที่เป็นหนี้เป็นสิน..คนที่ยากจนข้นแค้น..คนที่อยากลืมตาอ้าปาก นั่นแหละท่านว่าค่อยเอาพ่อยอดขอทานไปใช้ เอาว่าขอกับท่านเถอะยิ่งขอยิ่งได้เพราะวิชาพ่อยอดขอทานนั้นทำไว้เพื่อเลื่อนฐานะคนให้มีฐานะดีเป็นมหาเศรษฐี..เลิกจน..เลิกตกต่ำจะได้ยกตนให้เสมอคนอื่นไม่มีจุดปิดแยกแบ่งกั้นฐานะทางสังคมยกฐานะให้อุดมทรัพย์ให้ขอได้..ขอกิน..ขอใช้..ขอล้างผลาญอุปสรรคใดๆขอได้ไม่มีวันหมด..เวลาเราขอท่านก็เหมือนเราไปเติมบารมีให้ท่านได้สงเคราะห์เรา แบบนี้ต่างคนต่างได้มีแต่ดีกับได้ ...เอาพ่อยอดขอทานใส่ที่เก็บเงินเงินก็ล้นก็เต็มเอามาแนบกายห้อยคอรึจะลงเอวตามสะดวกนี่ก็เป็นเคล็ดเรียกลาภสักการะ ถ้าบาปกรรมตามหลอกหลอนแล้วทุกข์มากจะเรื่องหนี้สิน..ตกงาน..ทำกินลำบาก..ชีวิตฝืดเคืองท่านว่าเอาเหล้าเซ่นพ่อยอดขอทานซักแก้วแล้วจุดธูปเก้าดอกบอกท่านอย่างช้าสุดไม่เกินสามวันเจ็ดวันปัญหาย่อมคลี่คลาย เป็นเคล็ดให้สิ่งที่ปรารถนาสำเร็จผลไวที่สุด พ่อยอดขอทานนี้ใช้ยกชีวิตให้ร่ำรวยใหญ่..ใช้นำความเจริญรุ่งเรื่องมั่งคั่งโถมเข้ามา พ่ออาจารย์ท่านรับรองว่ารายไหนรายนั้นจะเจอเหตุอัศจรรย์ใจปรากฏให้เห็นไม้ช้าเลย

    ฝังไก่เถื่อนเจ้าฟ้าพญาแถน
    ย้อนกลับไปในอดีตกาลอันยาวนานนับหาประมาณกาลเวลามิได้ เมื่อพระกกุสันโธเสวยพระชาติเป็นไก่ป่านั้น ในกาลต่อมาก็มีการนำชื่อสัตว์เหล่านั้นมาตั้งเป็นนามของพระพุทธเจ้า เป็นรูป เป็นนาม เป็นอาการสามสิบสองของพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ คือ พระกกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสปะ พระโคตโม พระศรีอริยเมตไตย เช่นนั้นเมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะทำพญาไก่เถื่อนตามตำรับสมเด็จพระสังฆราชสุก ให้ทรงคุณวิชาสูงสุด..ขลังที่สุด ท่านจึงได้เอ่ยอ้างอดีตชาติแห่งสมเด็จพระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้าอันเป็นปฐมพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้ พร้อมเชิญบารมีของพระองค์อาราธนามาสำเร็จเครื่องมงคลเพื่อให้ได้พญาไก่เถื่อนที่มีอานุภาพสูงสุด..มีอานุภาพมาก แม้ผู้ใดได้บูชาเป็นนิจสินก็จะเกิดลาภสักการะทั้งยศฐาบริวารไหลหลั่งมามิรู้ขาด ทำมาค้าขึ้น กิจการที่ประกอบล้วนราบรื่นเป็นไปด้วยดีไม่มีอุปสรรค แม้จะทำนา ทำสวน ทำไร่ผลการเกษตรก็เจริญงอกงามดี ทั้งทำให้บังเกิดสติปัญญามีมโนสำนึกแจ่มใสดุจพระพุทธโฆษาจารย์อันได้ชื่อว่ามีปัญญามากในหมู่สงฆ์ทั้งหลาย ถ้าอาราธนาติดตัวไว้เวลาจะเดินทางไปหนใด ไปทำกิจการงานใดหากมีอันตรายก็ให้คลาดแคล้วจากภัยทั้งหลายดีนักแล หากบูชาอย่างมีสติหมั่นสั่งสมคุณงามความดีตามหลักวิธีองค์คุณสมบัติของพญาไก่เถื่อน ในบั้นปลายก็จะบรรลุพระนิพพานด้วยเมตตาบารมีนี้เอง

    ในยุคสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์นี้ เห็นจะมีแต่สมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน) ที่ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวิชานี้ เพราะท่านสามารถใช้คาถาจนไก่ป่าเดินเข้ามาจิกอาหารจากมือท่านได้ แม้ท่านเดินไปที่ใดไก่ป่าที่ได้ชื่อว่าตื่นกลัวมนุษย์อย่างถึงที่สุดก็เดินตามท่านไปเป็นฝูง ด้วยไก่ป่านี้มีนิสัยปราดเปรียว มักจะคอยหนีคนหนีภัยอย่างเดียวเพราะเชื่องกับคนยาก แต่ท่านก็ยังสามารถเสกข้าวด้วยเมตตาให้กินจนไก่ป่าที่หวาดกลัวภัยของมนุษย์นั้นเชื่องได้ ท่านปฏิบัติตามองค์คุณแห่งไก่ป่าจนถึงซึ่งมรรคผลนิพพานเป็นที่สุด เกี่ยวกับวิชาไก่ของพ่ออาจารย์นั้น ท่านว่าไก่เป็นสัตว์ให้คุณที่มีสัญลักษณ์ต่างๆตามร่างกายอยู่ 5 ประการ คือ
    - ตัวไก่ หมายถึง ความขยัน ทำมาหากิน
    - หงอนไก่ หมายถึง สติปัญญา
    - เดือยไก่ หมายถึง อาวุธ
    - การต่อสู้ หมายถึง ความกล้าหาญ
    - การขันตอนเช้า หมายถึง ความยึดมั่น
    ดังนั้น เมื่อท่านทำไก่แก้วพญาแถนหรือไก่เถื่อนของเจ้าสวรรค์ ท่านจึงใส่ใจในองค์คุณทั้งหมดของวิชาไก่เป็นพิเศษ ท่านว่าหากเสกให้มีชีวิตจิตวิญญาณลงอาการสามสิบสองเฉยๆใครก็ทำได้ แต่การสร้างไก่ให้เพียบพร้อมด้วยคุณทั้งห้าจนแสดงผลตอบสนองแก่ผู้ใช้นั่นแหละ จึงจะเป็นไปได้ยาก ในเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้ตรงตามคุณห้าประการนั้น ทำให้ได้ดั่งที่สมเด็จพระกกุสันโธท่านรับสั่งไว้ เพื่อให้ได้ไก่แก้วที่เก่งที่สุด

    พญาไก่เถื่อนที่พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาลงคาถาวิชาโบราณเรียกอักขระคาถาแผ่นจารทั้งตัวขอม ตัวธรรม ทั้งเวทย์สวรรค์ ทั้งอักษรปัลวะหล่อหลอมขึ้นมานั้น ท่านว่าชนวนมวลสารมีไม่มากทำได้น้อย ท่านจึงหลอมออกมาเป็นตัวเล็กๆเพื่อให้ง่ายต่อการพกพา อันพญาไก่นี้นอกจากดีด้านทำมาหากิน คือหากินง่าย หากินเก่ง กินไม่เหลือ กินไม่เลือก เรียกว่าโชคลาภอยู่ที่ไหนก็พร้อมขุดคุ้ยกันจนกว่าจะเจอแล้ว แม้นผู้ใดได้อาราธนาท่านว่าให้สังเกตุดูนะวันนั้นเจ้าจะมีสติ มีคติ มีมโนสำนึกที่แจ่มใส มีกำลังใจสูงส่งอย่างน่าประหลาด ก็ไอ้กำลังใจตัวนี้แหละที่จะเปลี่ยนชะตาคนได้จะดูดดึงมงคล ลาภสักการะ และเรื่องราวดีๆที่มันตรงกับความคิด ความต้องการจะเข้ามาหาเจ้าได้ทำอะไรก็ล้วนสำเร็จด้วยกำลังใจทั้งสิ้น ทั้งยังทำให้มีปัญญามากดั่งพระพุทธโฆษาจารย์ด้วยคติและสติพร้อมมโนสำนึกนั้นใสกระจ่างแล้วนั่นเอง ทั้งคุณแห่งไก่ป่านั้นยังขันขานได้ไพเราะนัก ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านยกคุณสมบัติไว้ว่าเสียงไก่ป่าขันดุจเสียงสาลิกาสวรรค์ ดังนั้นวิชาไก่เถื่อนที่เสกเต็มวิชาจึงเป็นทั้งเมตตามหาเสน่ห์ เป็นทั้งอาถรรพ์ทำให้วาจาคำพูดนั้นน่าฟังน่าเชื่อถือยิ่งกว่าลงสาลิกาใดๆ ทั้งยังเป็นอาถรรพ์ที่จะปลอบประโลมสิ่งมีชีวิตแลจิตวิญญาณรอบด้านให้ผ่อนปรน ให้รู้สึกสบายตัวอย่างน่าประหลาดด้วยวิชาไก่เถื่อนแท้ๆนั้นเป็นกระแสเมตตาเจโตวิมุติที่ใช้เพื่อปลดปล่อยพันธนาการจิตวิญญาณของตนเองและผู้อื่นโดยถ้วนทั่ว ด้วยการปลอบประโลมนี้สรรพสัตว์ มนุษย์และเทวดาทั้งหลายล้วนจะเกิดความรู้สึกดี ความปรารถนาดี ความเมตตาแก่เจ้าของไก่เถื่อนนี้ตามคติวิชาเมตตามหานิยมขั้นสูงสุด เป็นกระแสเมตตาเจโตวิมุติที่ชุมเย็นเป็นที่สุด นอกจากนั้นท่านว่าเสียงไก่ธรรมดายังใช้ปลุกคนได้ แล้วเสียงขันพญาไก่เถื่อนนั้นเล่า พ่ออาจารย์ท่านถึงกับอุปมาไว้ว่า"กลในไก่ขันให้คนตื่น" ด้วยคำๆนี้ เฉพาะคำๆนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีค่ายิ่งยวดนักเพราะคำๆนี้สมเด็จพระกกุสันโธท่านรับสั่งไว้ อุปมาดั่งชีวิตที่เงียบสนิท ชีวิตที่หลับใหล ไร้สีสัน ไร้ชีวิตชีวา คือชีวิตที่หยุดความก้าวหน้าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแล้ว ชีวิตเหล่านี้ล้วนแต่จะตื่นขึ้น ตื่นเพื่อเจริญก้าวหน้า ตื่นพ้นจากอวิชาและอกุศลกรรมทั้งหลาย ด้วยอาถรรพ์คุณวิชาพญาไก่เถื่อนนี้เองอันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการตื่นทางโลกียะ อีกส่วนหนึ่งคือการตื่นขึ้นทางโลกุตระโดยนัยยะของคำพูดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามันกว้างมากนะ ถ้ามีสติพอจะระลึกได้ คงรู้ว่าการตื่นนั้นหมายถึงการตื่นรู้ ตื่นจากความเป็นปุถุชนกลายเป็นอริยบุคคล ตื่นจากห้วงทุกข์เข้าสู่พระนิพพานดุจดั่งสมเด็จพระสังฆราชสุกเช่นนั้น นี่คือการตื่นตามองค์คุณพญาไก่เถื่อนอย่างแท้จริง

    เช่นนั้นวิชาพญาไก่เถื่อนนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงพูดว่าทำได้ยากและมีความลึกซึ้งมากนัก ถ้าไม่ได้สมเด็จพระสังฆราชสุกแลบารมีสมเด็จพระกกุสันโธแล้ว จะทำไก่เถื่อนนี้ให้เต็มวิชาได้คงหาใครที่ทำสำเร็จไปกว่าทั้งสองท่านแล้วเป็นไม่มี นอกจากนี้อำนาจพญาไก่เถื่อนยังได้ชื่อว่าเป็นตบะเดชะยิ่งนัก หากพูดถึงตบะแล้วหลายคนจะนึกถึงตบะเสือหากแต่ตบะของพญาไก่เถื่อนที่ใช้สะกดสรรพชีวิตนั้นเป็นตบะที่เกิดจากพลังเมตตาต่างจากตบะที่น่าหวาดกลัวของสัตว์อื่น ทั้งคุณแห่งวิชาพญาไก่เถื่อนของพ่ออาจารย์นั้น ท่านว่าให้พกติดตัวไว้เถิด ใจเราจะเกิดลางสังหรณ์พิเศษที่เรียกว่าญาณหยั่งรู้ขึ้นมา ไอ้ญาณตัวนี้นั้นสำคัญนักเพราะอาจสามารถรู้ใจคนได้ รู้ความคิด รู้น้ำใจของเค้าที่จะปรากฏชัดอยู่ในความรู้สึกของเราดุจพญาไก่เถื่อนที่รู้กลิ่นตัวคน รู้ว่าใครมาดีมาร้ายหมายชีวิตเช่นนั้น เมื่อหยั่งรู้น้ำใจผู้อื่นแล้วท่านว่าให้เชื่อความรู้สึกตัวเองเป็นที่สุดเถิดแล้วจะรู้ว่าใครเขาร้ายหรือดีกับเราและเราควรจะปฏิบัติตอบเค้าเช่นใด และด้วยอำนาจแปลกประหลาดของไก่เถื่อนเจ้าฟ้าพญาแถนนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติภูติผีปีศาจจะเกรงกลัวไก่เถื่อนนัก มงคลไก่เถื่อนนี้ก็เช่นกันผีร้าย วิญญาณบาปทั้งหลายล้วนเกรงกลัวจะตกตายด้วยอำนาจพญาไก่ยิ่งนัก ที่สำคัญที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญเหนือกว่าผีเลยก็คือคน เพราะคนนี่แหละที่เลี้ยงผี ทั้งผีที่เป็นวิญญาณ กับผีในจิตใจที่คิดโทษให้ร้ายรังแกคนอื่น ท่านว่าด้วยอาถรรพ์พญาไก่เถื่อนที่ท่านลงไว้นี้นับว่าแปลกมาก เพราะใครมีผีในใจ ใครที่มาร้ายไม่หวังดีกับเรา ถึงเขาจะมาได้แต่เขาล้วนล้มหมด ท่านว่าคนล้มสมัยนี้ลุกยากนะ มันยิ่งกว่าแพ้ภัยตัวเองเสียอีกเพราะหากชีวิตเขาล้มแล้วย่อมไม่เหลืออำนาจใดๆมารังแกเราอีกเลย นี่คืออาถรรพ์แห่งพญาไก่เถื่อนที่จะมาเปลี่ยนชีวิตคน นั่นคือไม่ว่าใครก็ข่มเราไม่ได้ ล้วนล้มหายตกต่ำไปทั้งสิ้นพ่ายแพ้แก่อำนาจเรา

    พ่ออาจารย์ท่านนอกจากจะเสกไก่ให้เป็นมหาภูติมีชีวิตแล้ว ท่านยังลงคุณห้าประการให้ครบเพราะตั้งใจจะทำไว้ให้คนยกระดับขยับฐานะกัน เขาจะได้ลืมตาอ้าปากได้ด้วยการทำมาหากิน โชคลาภวาสนาการเงินนั้นสำคัญ และไก่เถื่อนก็มีความสามารถทางขวนขวายทรัพย์จะเห็นได้จากคนโบราณที่สังเกตจากพฤติกรรมของไก่มาประกอบเปรียบเทียบไว้ว่าไก่ฝูงหนึ่ง มักมีตัวผู้เป็นจ่าฝูงเพียงตัวเดียว แต่มีตัวเมียล้อมรอบนับสิบ นี่จึงเป็นกฤติยาคมแฝดทางมหาเสน่ห์ ทั้งยังสื่อว่าแม้บุรุษเพียงคนเดียวก็ยังหาเลี้ยงภรรยาได้นับสิบ พญาไก่เถื่อนนี้จึงเก่งทางขวนขวายทรัพย์มาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดอะไรมากไม่ได้ บอกได้แค่เก่งมากจนเหลือกินเหลือใช้เผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้ทุกชีวิต ด้วยอานุภาพไก่เถื่อนมีคุณดั่งแก้วสารพัดนึก นึกสิ่งใดย่อมสมปรารถนาในสิ่งนั้นทุกอย่าง ขอเพียงให้ศรัทธาเชื่อมั่นไว้เถิด จะเกิดลาภผลอย่างประเสริฐ ทั้งเป็นทางอยู่ยงคงกระพัน เป็นเมตตา เป็นมหาอำนาจ มีตบะเดชะครบถ้วน แม้มีบูชาไว้และหมั่นภาวนาพระคาถาให้ได้ทุกวันแล้วไซร้ย่อมเป็นเจ้าคนนายคน ไม่มีวันอับจน มีผู้คนเมตตาอุปถัมภ์โดยตลอดแล แต่ทั้งนี้ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องพื้นๆ ท่านว่าจริงอยู่ที่เสกไก่พยนต์เป็นไก่ฟ้า ไก่แก้ว ใช้ได้ทั้งการป้องกันตัว ข่มภูติผีปีศาจทั้งหลาย แต่ถ้าหากทำไก่อาคมทั้งทีแล้วทำได้ดีเพียงเท่านั้น ท่านกึงกับพูดไว้ว่า "เราถือว่าน่าผิดหวัง" พญาไก่ของพ่ออาจารย์นี้ท่านเรียกว่ามงคลฟื้นวาสนา เพราะท่านตั้งใจทำให้วาสนาที่หดหาย จืดจางลงด้วยเหตุผลอันประกอบด้วยปัจจัยหลักๆหลายด้านเช่นเหตุผลทางเศรษฐกิจ การเงิน การจับจ่ายใช้สอยที่ฝืดเคือง... ด้วยปัจจัยต่างๆรุมเร้าท่านว่าแม้คนดวงดีมีวาสนาก็ยังหากินยาก ดังนั้นพญาไก่ของท่านจึงเป็นมงคลฟื้นวาสนาอย่างแท้จริง


    ฝังตะกรุดแฝดดับล้างบาปอวิชชากาลโกลาหล
    สืบจากยุคสมัยที่บีบรัดด้วยกฏแห่งวัฏสงสารยังผลให้เกิดกาลโกลาหลและเภทภัยทั้งปลุกมารในใจมนุษย์ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำตะกรุดแฝดดับล้างบาปอวิชชากาลโกลาหลขึ้นเพื่อให้พลังงานคอยปราบปรามสิ่งชั่วร้าย ปิดกั้นทุกข์โทษโทสาทั้งหลายให้เข้าไม่ถึงตัว ตะกรุดนี้สำคัญนักนอกจากใช้ล้างบาปแล้วยังสามารถอาราธนาขอประสิทธิคุณขจัดศัตรูตลอดจนทำลายอุปสรรคขัดขวางให้แก่ผู้บูชาได้ ใครโดนกลั่นแกล้งใส่ความ กระทำด้วยทุจริต ชีวิตโดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด ท่านว่าแก้ไขได้หมด หรือแม้แต่คุณไสย ไสยศาสตร์มนตร์ดำชาติไหนภาษาใด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่พ่ายแพ้อานุภาพไม่มีได้กินซ้ำยังปรับเสริมแก้ไขอุบาทว์ตัวทุกข์ตัวเคราะห์ตลอดจนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งภายในภายนอกด้วย

    เพราะเป็นตะกรุดดับล้างท่านว่าคนอาราธนาจะไม่เจออุบัติเหตุร้ายแรงสิ่งใดเลยมาแผ้วพาลกับชีวิต จะไม่เจอเหตุที่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่พบสาเหตุใดที่นำเราออกจากชีวิตอันสันติและผาสุกจากการครองเรือน นอกจากการกันแก้อาถรรพ์ร้าย ล้างบางอวิชชา ให้โทษกับมารยาทุจริต ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้พลีผ้าแดงที่ใช้พับรองฐานถวายครูแม่ย่ากาลี อันผ่านพิธีการปลุกเสกเชิญครูนับเนื่องหลายสิบปี มาตัดเป็นแผ่นและเชิญครูแม่ย่านำหมึกมาลงจารอักขระเลขยันต์เต็มแผ่นแปะเป็นไส้กลางเล็กๆไว้ในตะกรุดด้วยวิชาที่แม่ย่าบอกกล่าวให้กับท่านเท่านั้นและยังเฉพาะเจาะจงให้คนที่มีปัญหาทางการเงินและปากท้องไว้บูชา ดุจดังว่าครูต้องการจะช่วยแก้ไขความอัตคัดขัดสน เพราะแม่ย่านั้นท่านมีพลังพิเศษเฉพาะทางที่จะหนุนนำโชคลาภตลอดจนอำนาจราชศักดิ์มาสู่ผู้บูชาเป็นหน้าที่ของท่านที่จะช่วยศิษย์อันมีน้ำใจจงรักภักดี กอปรกับสีแดงยังเป็นสีแห่งกำลังอำนาจ เป็นสีของสุริยะเทพ เป็นสีมงคลที่เชื่อว่าจะดึงดูดทรัพย์สินและสิ่งที่ดีงามมาสู่ผู้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเหมาะและควรที่สุดแล้วที่จะใช้ผ้าแดงนี้มาทำยันต์ของแม่ย่า เมื่อท่านนำยันต์แดงรับทรัพย์มาม้วนเป็นไส้ตะกรุดท่านว่าตะกรุดนี้จะดีทางโชคลาภโภคทรัพย์ขึ้นมาในตัวด้วย ไม่ใช่เพียงอานุภาพของครูแม่ย่าหรือยันต์แดง แต่เป็นเพราะว่าตะกรุดนั้นมีไส้ เวลาท่านนำมาเชิญครูจุติมันครบถ้วนสมบูรณ์ทั้งภายในภายนอกเพราะว่าวิชานี้มันกินมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ด้วยอานุภาพของตะกรุดซ้ำยังจะมีไส้อีกโบราณถือนักไม่เจริญก็ให้มันรู้ไป เอาว่ามีเหลือกินเหลือใช้เลี้ยงคนทั้งเมืองได้ก็พอ ที่ผ่านมาคนถามหายันต์แดงของท่านกันเยอะมากทำกี่ครั้งก็เกิดอาถรรพ์รุนแรงจนคนที่เอาไปใช้เห็นผลคาตาทุกครั้ง หนนี้ท่านจึงทำไว้ให้ในตะกรุดดับล้างด้วย

    ท่านว่าตะกรุดดับล้างกาลโกลาหลนี้มีบารมีแม่ย่าอยู่ทุกดอกให้รู้กันเอาไว้ด้วยว่าทำยากมาก*ตอนเสกนี่ถึงกับทำเอาพานรองที่วางตะกรุดเป็นรูทีเดียว ท่านว่าแม้ตัวเราเองเกิดมาก็ไม่เคยพบเจอตะกรุดรุ่นไหนครั้งไหนที่จะเสกจนพานทะลุได้เช่นนี้ ใช้ปราบไพรีสยบอาถรรพ์ร้าย ทั้งทำลายพลังงานลบในมหาทิศที่จะออกสัญจรไปตามม่านฉากแห่งละครชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดแฝดนี้แรงนะเป็นตะกรุดสายกำราบปราบปราม ตอนเสกต้องเชิญเทพสงครามทั้งยังครูที่มีฤทธิ์รุนแรงมาสำเร็จให้ด้วยหลายวาระ เพราะครูเขารักเขาหวงคนใช้ดุจลูกรักเขา ก็ครูพระครูเทพเขาหวงเช่นนี้ถึงขนาดตอนเสกครูพระขันธกุมารที่เป็นดาวกษัตริย์สงครามที่เราเชิญมาขอบารมีท่าน ถึงกับออกวาจาหลังประสิทธิ์ให้ว่าเราขอให้ผู้ทำผิดคิดร้ายมีชีวิตอันวิบัติอัปรี อย่ามีซึ่งสิ่งใดที่จะตั้งมั่นดำรงค์อยู่ได้อย่างสถาพร พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นเรื่องปัจจัตตังพูดมากไม่ได้ แต่บอกได้คำเดียวว่าแรงจริงๆ

    *** ส่วนลูกกลมๆนั้นพ่ออาจรย์ท่านว่าเป็นธาตุเป็นผงที่พลีมาจากแดนศิวาลัยไกลลาส เป็นของสำคัญของครูพระสยมท่านไม่ให้ฉันพูดว่าเป็นอะไร ท่านพูดแค่ปล่อยไปตามวาสนาของเขา ถ้าคนรู้พระนี้จะยิ่งมีค่ามาก คนจะยิ่งอยากได้กันมากจนไม่สนใจแก่นแท้เลยว่าเอาไว้ทำอะไร

    พ่อยอดขอทานนั้นมีตัวตนพ่ออาจารย์ท่านเชิญครูเสกจนแฝงเงา ท่านว่าถ้าครูปรากฏเห็นเงาเดินไปเดินมาอย่าตกใจเพราะท่านลงมาอยู่ด้วยแล้ว

    *** รายการนี้เป็นของกายสิทธิ์ อธิษฐานได้เลยไม่ต้องใช้คาถาบูชาใดๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าจิตถึงจิตใจถึงใจ

    ### พ่อยอดขอทานนั้นควรเลี่ยมเปิดให้ถูกเนื้อถูกตัวท่านว่าจะดีมากขึ้นไปอีสำหรับคนที่หวังทรัพย์สินแบบถาวรณ์ท่านว่าให้บูชาเป็นคู่ ติดตัวไว้องค์หนึ่งใส่ที่เก็บทรัพย์องค์หนึ่งเพื่อล้างบาปอาถรรพ์เรื่องการเงิน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาท่านว่าให้แจ้งชื่อนามสกุลกับพ่อยอดขอทานด้วยตนเองได้เลยเพื่อขอเป็นกรรมสิทธิ์ในการพึ่งพาท่าน รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญคลี่คลายกรรมวณิพกภิกษาฏนะมูรติ (พ่อยอดขอทานล้างบาป) บูชา 2,500 บาท

    107333688-3185012158225147-1116824600125300038-n.jpg 107376374-631731130779905-8862855327233768562-n.jpg
    107209572-557172221833868-4454041956176806865-n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มาคุยเรื่องพ่อยอดขอทานกันต่อ หลายๆคนอาจแปลกใจที่พ่ออาจารย์ท่านไม่สร้างชูชกแต่มาสร้างพ่อยอดขอทานแทน ทั้งนี้ก็ต้องพูดกันว่าปัจจุบันนั้นเราไปปักอกปักใจว่าชูชกเป็นพระเทวทัตกันมาก การกราบไหว้ชูชกก็เหมือนไปบูชาผู้ที่ทำร้ายพระพุทธเจ้าไปบูชาผีสางในนรก

    ซึ่งคนพูดก็ลืมคิดไปว่าพระเทวทัตนั้นก็คืออนาคตพระปัจเจกพุทธเจ้าตามพุทธทำนายจะผิดอะไรถ้าเราไหว้คุณแห่งพระปัจเจกโพธิ์ในอนาคตนั้น แต่เชื่อเถอะว่าร้อยทั้งร้อยหลายๆคนก็ยังทำใจไหว้พระเทวทัตไม่ลงแน่นอนเรียกว่าวันนี้ไหว้ไม่ได้อนาคตค่อยว่ากัน เอาไว้ท่านพ้นท่านสำเร็จปัจเจกโพธิญาณเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแบบนี้ถึงตอนนี้คนที่เคยด่าท่านไว้ในปัจจุบัน(ถึงเวลาท่านพ้น มานับเวลาเอาตอนนี้ก็คงต้องย้อนอดีตกันไกล)ก็คงเป็นพวกปากว่าตาขยิบยกมือไหว้ท่านได้อย่างสนิทใจ อีกประการหนึ่งหลวงปู่ดังๆในอดีตทั้งหลายที่ท่านสร้างชูชกขึ้นมาก็ไม่ใช่ว่าจะไปเอาดวงจิตของพระเทวทัตมาให้ใครกราบไหว้ ท่านเพียงผูกหุ่นตาเฒ่าเป็นวิชาผูกพยนต์อย่างหนึ่งในรูปอาถรรพ์แบบชูชกเพื่อให้มีคุณหลายๆอย่างแบบชูชกตรงตามรูปอาถรรพ์ของเค้า บางที่ก็ทำด้วยวิชาลงจินดามณีไปก็มี ไม่ใช่ว่าเห็นรูปชูชกแล้วจะไปตำหนิว่าไหว้ไม่ได้นี่คือเทวทัตต้องฝังดินกระทืบซ้ำ แบบนี้ต้องย้อนถามกลับไปว่าพระเทวทัตเคยไปทำอะไรให้เราโกรธแค้นหรือเปล่า ขนาดสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระเทวทัตท่านผูกเวรนับภพชาติไม่ถ้วนท่านยังวางพยาบาทจองเวรเหล่านี้ลงได้ ซ้ำยังรักและเมตตาพระเทวทัตเปรียบได้กับที่ทรงเมตตาพระราหุลนั่นทีเดียว แบบนี้คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็คงต้องถอยออกไปเพราะท่านผูกชาติเวรกันเอาไว้ทุกอย่างมันจึงเป็นเช่นนี้ ...ก็เกริ่นๆเล่าเรื่องชูชกที่ข้องเกี่ยวกับพระเทวทัตเสียหน่อยเพราะคนถามกันมาเยอะว่าควรเอาไว้ในบ้านมั๊ย *** นี่อยากจะบอกเลยว่าถ้าเป็นของหลวงปู่รอดหลวงปู่ทิมก็ไม่ควรเอาไว้..ส่งมาเถอะส่งมาให้ผมใช้แทน(แอบขำดังๆ) ถ้าใจเราจะเขวไปกับอะไรง่ายๆขนาดนี้ไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ครูบาอาจารย์แต่หนหลังทำ เรียกว่าแค่คิดก็ผิดแล้ว ท่านเหล่านั้นก่อนที่จะทำอะไรท่านย่อมตริตรองมาอย่างดีมีดำริโดยชอบแล้วจึงทำ ยิ่งตัวคนใช้ถ้าจะไปสงสัยครูบาอาจารย์มันก็ถือของไม่ขึ้นอยู่แล้ว ### ถือว่าออกนอกเรื่องตอบคำถามค้างๆไปก่อนนะครับ

    ..มาถึงพ่อยอดขอทานนั้น แอบกะซิบดังๆเพราะพ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไปใช้แล้วไม่ได้มีแค่แรงแค่กำลังเดียว เพราะเหล่าคณะสาวก หรือสาวกแห่งพระศดาศิวะย่อมตามคอยรับใช้ผู้ถือครองรูปนี้ นี่คืออาถรรพ์ซ้อนอาถรรพ์ของพ่อยอดขอทาน คณะสาวกขององค์พระศิวะนั้นมีทั้งพระคเณศ,พระขันทกุมาร,ท้าวกุเวร,เหล่ามหาฤาษี....และเทวดามากมายนับไม่ถ้วน รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำเสมอว่าเป็นรูปอาถรรพ์อยู่ที่ใดเทพคณะ(ศิวะสาวกก็ลงตรงนั้น)ช่วยเจ้าของพ่อยอดขอทานให้ทำงานสะดวกราบรื่นทั้งสิ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2020
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดกายทิพย์เทพอุ้มสมพรหมสิเหน่หา(เทวดาร้อนอาสน์)
    ตะกรุดตัวนี้ฉันเขียนให้ทำให้ดีแล้ว ให้เอาไว้ขออะไรก็ได้จะสมปรารถนาทุกด้าน ถ้าขอในทางที่ถูกต้องเทพเทวดาจะร้อนอาสน์เร่งมาช่วยให้สำเร็จดั่งใจหวัง

    ตะกรุดนี้ฉันใช้วิชาเทพอุ้มสมสร้างขึ้น หลายๆคนอาจคิดไปว่าจะอุ้มใครไปรักกับใครเพราะเมื่อพูดถึงเทพอุ้มสมมักจะปักใจกันว่าได้ลงเอยกันทางรักๆใคร่ๆดั่งอุ้มคนหนึ่งไปสมสู่กับอีกคนหนึ่งแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่วิชาเทพอุ้มสมของพ่ออาจารย์ท่านสำคัญกว่านั้นมากกล่าวคือการยกอุ้มให้สูงขึ้น อุ้มไปหาสิ่งที่ปรารถนาให้สมกับเจตนาความปรารถนาของตน(ไม่ใช่ว่าใช้เฉพาะทางรักๆใคร่ๆ) หากปรารถนาแม้นไม่คู่ควรไม่สมควรวิชาเทพอุ้มสมนี้ก็ย่อมดลให้ควรคู่ได้ทุกสิ่งพกไปทางใดเทพยดาเจ้าก็เกิดความพอใจบังเกิดความเมตตา..ต่อให้ไม่มีบุญสัมพันธ์..ไม่มีวาสนาเกื้อหนุนกัน..ก็ยังปรารถนาจะเข้ามาอนุเคราะห์เรา *** พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้สำคัญมากเทวดาบางองค์นี่ถ้าไม่มีสัญญาเก่าร่วมกันมาไหว้ให้ตายเขาก็ไม่ช่วยนะยกเว้นเราจะเริ่มสร้างศรัทธาและบวงสรวงบูชาเขาเสียใหม่ เช่นนั้นวิชาเทพอุ้มสมนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงยกว่าประเสริฐในยอดวิชาทั้งหลายเพราะไม่ต้องใช้ความสัมพันธ์ปางหลังครั้งเก่าก่อนยกขึ้นอ้างเขาก็เต็มใจช่วย

    อุ้มสมให้พบเจอสิ่งที่เหมาะสมและคู่ควรแก่ความศรัทธา ..ชักพาคู่วาสนาและบริวารทรัพย์สินอันประเสริฐทั้งหลายให้สมบูรณ์พูนพร้อม พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเทพอุ้มสมก็คือให้เทวดาท่านช่วยจัดแจงชีวิตเราได้เลยแบบที่เราแทบไม่ต้องไปขออะไรท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเทวดาแต่เขาจะถือกันว่าเป็นภารกิจที่ต้องเร่งทำให้เสร็จด้วยวิชาเทพอุ้มสมความต้องการของเราก็เหมือนภารกิจของเทวดาแบบนี้ ...สิ่งที่มนุษย์ว่ายากหนักหนาสำหรับเทวดานั้นเขาว่าไม่เห็นจะยากเพียงอุ้มชูให้มนุษย์สุขสมมีชีวิตสมบูรณ์พร้อมไปเสียทุกอย่างตั้งแต่เกิดจนตายปานเทวดาสรรค์สร้างดั่งเทพอุ้มสมเช่นนี้ ความปรานาใดๆก็ดี..กิจใดๆก็ดี..งานใดๆก็ดีเมื่ออาราธนาวิชาเทพอุ้มสมย่อมสำเร็จได้ไม่ยากเลย ### พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อให้เจอวิกฤตและแรงกดดันทั้งสิบทิศ แต่เป้าหมายย่อมสำเร็จเพียงคติเดียวเท่านั้น..เพื่อคัดสรรค์สิ่งที่เหมาะสม ชักนำและลิขิตให้สมปรารถน

    ตะกรุดกายทิพย์เทพอุ้มสม..นี้เวลาเขาสงเคราะห์เราตัวเราเองจะไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยเพราะทุกสิ่งที่เคยติดขัดอยู่ดีๆจะสะดวกราบรื่นไปทั้งหมดเสมอด้วยมีมือที่มองไม่เห็นคอยจัดการให้เราอยู่คอยช่วยให้เราได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในทุกๆเรื่อง แม้ไม่ตั้งใจหรือทดลองสิ่งใดเล่นๆก็ยังเกิดผลเกิดประโยชน์แบบไม่ตั้งใจเช่นนั้นเพราะเทพยดาเจ้าจะเป็นดั่งมือที่มองไม่เห็นชักนำไปเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งชีวิตใครใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงื่อนไขข้อกำหนดกฏเกณฑ์แบบตีวงล้อมปิดมาทุกด้าน ยิ่งเงื่อนไขเยอะก็ยิ่งขาดยิ่งเสียมีชีวิตไม่อิสระท่านว่าคนเหล่านี้แหละจะยิ่งเปลี่ยนแปลงได้ไวทันตาเห็น ปกติยิ่งยากเท่าไหร่ยิ่งช่วยช้ายิ่งไม่มีใครอยากเข้ามายุ่งมากขึ้นเท่านั้น ..แต่เทพอุ้มสมนี่กลับกันกลายเป็นว่าเขาจะจัดการไอ้ที่ยากๆในชีวิตเราก่อนยิ่งยากเท่าไหร่ยิ่งไวเท่านั้น *** พ่ออาจารย์ท่านว่าจะปลดภาระก็ต้องยกของที่หนักที่สุดออกก่อนจึงจะพอหายใจได้คล่องตัว ถ้ามัวแต่ไปแกะทรายแกะหินที่ติดที่เปื้อนตามเท้าเอาออกไปยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามโลกทุกวันนี้มีการแข่งขันกันอย่างอิสระเสรีในทุกๆที่และทุกๆด้านภาระที่เทพจะอุ้มสมให้เราก็กลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญทั้งหมดเพราะของบางอย่างในเกมส์ชีวิตนั้นท่านว่าพลาดหน่อยเดียวก็พลิกทั้งกระดาน เช่นนั้นมือที่มองไม่เห็นที่คอยแก้คอยกอบกู้ให้เกิดผลดีต่อการดำเนินกิจกรรมต่างๆพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดเทพอุ้มสมคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเป็นยอดปรารถนาของมนุษย์ ไม่ว่าชีวิตจะเปลี่ยนแปลงอย่างใดหรือเจอเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆแทรกแซงกระดานชีวิตก็จะไม่พลิกกลับออกไปจากหน้าความสมบูรณ์ มีแต่จะช่วยชักนำให้พัฒนาขึ้นปรับตัวขึ้นช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงซ้อนการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆนี่คือคุณของวิชาเทพอุ้มสม พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเปลี่ยนแปลงไปทีละขั้นซ้อนกันเป็นขั้นบันไดคือเปลี่ยนไปในทางที่ดีซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆไม่หยุดชลอใดๆทั้งสิ้น คุณของตะกรุดเทพอุ้มสมนอกจากดึงเทวดาเข้ามาสู่ชะตาชีวิตอุ้มสมชึวิตเราและดลใจให้เทวดายื่นมือช่วยเหลือเราในทุกสถานที่แล้วยังเน้นทางหาเงินหาทองและถึงพร้อมด้วยการเจริญในวาสนาบารมีดชะอานุภาพของตะกรุดเทพอุ้มสมเมื่อคราใดที่ชีวิตถึงคราววิบัติตกต่ำย่ำแย่ไปตามดวงชะตามือที่มองไม่เห็นมากมายจะฉุดดึงรั้งไว้ไม่ให้ตกต่ำได้อีกเลย (พ่ออาจารย์ท่านว่าให้จำให้ขึ้นใจคนใดก็ตามถ้าเทพสงเคราะห์เทพอุ้มสมให้ทุกอย่างในชีวิตแล้ว ขอให้จำเอาไว้ว่าอย่าใจอ่อนกับเพื่อนฝูงญาติมิตรที่จะมาหยิบยืมอย่างเด็ดขาด เพราะความใจอ่อนนั้นจะทำให้เธอไม่เหลืออะไรเลยอีกครั้งหนึ่ง***ท่านว่าวาสนาบางอย่างไม่ใช่ของเราแต่เทพยดาเจ้าท่านก็หามาให้เรา ตัวเราจึงไม่สมควรนำไปยกให้ใคร อันนี้ไม่นับการทำทานบารมีนะ)

    ตะกรุดเทพอุ้มสมนั้นพ่ออาจารย์ท่านเรียกอีกชื่อว่าตะกรุดสมปรารถนา ท่านว่าเราก็อธิษฐานเอาเลยอยากให้เป็นไปในด้านไหนอย่างไรก็จะสมปรารถนาแต่ท่านอธิษฐานจิตให้เน้นหนักๆ(จริงๆครบทุกด้าน)ให้สมปรารถนาในลาภสักการะทั้งหลาย ท่านว่าเทพอุ้มสมรุ่นนี้ฉันไม่ได้เร่งลาภธรรมดานะแต่ฉันยกให้เป็นลาภหนักๆเลยพอปลดภาระหนักลงก่อนแล้วแล้วก็ให้ได้ลาภหนักยกลาภหนักๆขึ้นแบกแทนเช่นนี้ถึงจะดี ท่านเน้นให้พบเจอแต่ความสุขความสมหวังคิดสิ่งใดก็จะสำเร็จสมปรารถนาได้โดยเร็วพลันสมหวั่งดั่งใจ ด้วยเหตุนี้ใครนำไปใช้ก็จะมีแต่เฮงไปไปหนก็ดีทุกที่ทำอะไรก้รวยทุกเรื่องมีเงินเข้ามาทุกวัน ไปไหนมีคนมารักมาชอบมากมายไปไหนคนก็เมตตามีเสน่ห์ต่อทุกๆเพศ แม้เจ้านายแลมิตรสหายหรือฝูงชนในมหาทิศใดไม่ว่าสูงว่าต่ำได้เห็นเราก็เอ็นดูนักอยากจะอุปถัมภ์แต่เราไม่เอาคนอื่นเลย จะได้ลาภได้ยศได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งมีแต่ความสุขความเจริญทำอะไรก็สำเร็จสมปรารถนาโดยพลัน นอกจากใช้อุ้มสมอุปถัมภ์ชีวิตแล้วตะกรุดนี้ยังใช้ได้อีกหลายทาง
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้แม้ศัตรูจะมีอำนาจเพียงใดก็ไม่อาจรุกรานเราได้ต้องแตกพ่ายไป
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ หากมีบุคคลหมายกระทำย่ำยี ร่างกายเขาจะร้อนรนทุกข์ทรมานดั่งพระเพลิงเผาผลาญ
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ ชนทั้งหลายจะเกรงในอำนาจบารมีมึนเมาลืมหลงยับยั้งสติไม่ได้ หากคนที่คิดร้ายย่อมแพ้ภัยมารในใจตนเอง
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ แม้ศัตรูจะใช้ร้อยเล่ห์สารพัดวิธีหรือการกระทำคุณไสยใดๆก็ไม่สามารถทำอันตรายเราได้เลย
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ จะปลอดภัยจากการรุกรานด้วยพยนต์อาคมและภูติปีวิญญาณอันมากด้วยกำลัง สิ่งไม่ดีจะเกิดความหวาดหวั่นขลาดขยาดกลัว
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ แม้ผู้ชำนาญทางวิทยาคมชั่วร้ายปานใดก็ไม่อาจเข้ามาราวีได้
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ ดั่งอยู่ในบัญชรแห่งเทพยดาเจ้า ย่อมไม่มีศัตรูหมูมารใดหาญหักมาก่อให้เกิดอันตรายแก่เราได้ ดั่งว่ามีกำแพงแสนชั้นมาปิดล้อมรอบตัวเราทำร้ายไม่ได้เลย
    - เมื่ออาราธนาตะกรุดไว้ หากมีผู้คิดร้ายใดล่วงล้ำเข้ามาในขอบเขตอำนาจแห่งเทพยดาเจ้าที่รักษาเรา จะเกิดนิมิตแสดงให้ปรากฏแก่ครรลองจักษุมหาเมฆจะปิดคลุมท้องฟ้าจนมืดมิด ธรรมชาติจะวิปริตก่อสายอสนีบาตฟาดผู้รุกรานนั้น


    แท้จริงแล้วตะกรุดเทพอุ้มสมยังเป็นยอดตะกรุดทางคุ้มครองทุกด้านเช่นนี้ดั่งพ่ออาจารย์ท่านว่าสิบทิศนี้อย่าว่าแต่มนุษย์เลยแม้เทพยดาเจ้าอันมิจฉาทิฏฐิก็ยังไม่อาจจะเข้ามาใกล้ได้ มีตะกรุดติดตัวเราไปในทิศทางใดเสมือนด้วยมีกายทิพย์ของครูบาอาจารย์ประทับในด้วยตลอด พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะตะกรุดนี้มีอำนาจกายทิพย์ของเทพยดาผู้มเหศรศักดิ์แฝงกำลังอยู่(เพราะเขาไม่มีกายหยาบจึงแฝงกำลังลงในเครื่องมงคลเช่นนี้) ถ้าเขาจะปรากฏรูปหรือแสดงตัวตนบ้างเป็นครั้งเป็นคราวก็อย่าได้ตกใจ เพราะท่านเหล่านี้มีหน้าที่สนับสนุนและช่วยประคับประคองให้ชีวิตเรามั่งคั่งขึ้น ดีขึ้นทั้งนอกทั้งใน เรื่องไม่ดีของชีวิตเราท่านจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงและช่วยสนับสนุนนี่เรียกว่าเทวดารักษา พ่ออาจารย์ท่านเน้นว่าตะกรุดนี้มีตัวมีตนนะเขาจะคอยเสกสรรให้พึงพบแต่ความรื่นเริงสมหวังจะสำเร็จดั่งใจไปทุกอย่าง เวลาเธอเดือดร้อนอะไรเทพองค์ไหนอยู่ใกล้อาสน์จะร้อนก่อน พกติดตัวไว้เถิดจะได้ยินเสียงคนพูดด้วยบ้าง(เขาอยากสื่อสารกับเรา)ก็อย่าไปตกใจ ท่านว่าเอาว่าได้ยินเสียงอะไรแปลกที่เป็นเสียงทิพย์อันไพเราะล้ำเลิศยากจะหาฟังได้ในโลกนั่นแหละครูท่านเตือนท่านบอกการณ์ที่คิดที่ทำไว้จะได้ชัยครั้งใหญ่ โชคลาภที่หมายมั่นไว้จะได้ก้อนใหญ่ก้อนโต ไปไหนจะมีเทวดาคอยอุ้มยกชูให้สูงให้เด่นอยู่เสมอไม่ให้ฐานชีวิตตกลงมา เมื่อเทพอุ้มสมแล้วจะได้ทุกอย่างที่ปรารถนา

    *** ท่านว่าตะกรุดเทพอุ้มสมฉันถือติดตัวไว้เทวดาต้องหาเลี้ยงเธอนะ
    ตะกรุดเทพอุ้มสมนี้ท่านเสกมายาวนานท่านว่าวิชาเรียกทรัพย์ทั้งหลายถ้าเอามาเทียบก็พ่ายแพ้ราบคาบ ด้วยเทพอุ้มสมเป็นวิชาของชนชั้นสูง ***ท่านย้ำว่าแค่การที่เทพลงมาอุ้มสมผู้ใดย่อมไม่เกิดกับชนชั้นธรรมดาสามัญอยู่แล้ว จึงเชื่อขนมกินได้เลยว่าจะได้ดีเป็นใหญ่เป็นโตกว่าผู้ใดดั่งเทพเจ้าในสวรรค์นำสมบัติพัสถานแก้วแหวนเงินทองมากองให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นของสูงมาก(ท่านเน้นย้ำคำว่ามากและมากๆหลายหน) ท่าวว่ามันดีเพราะว่ามันสะดวก เธอคิดเอาแล้วกันเทพอุ้มสมนี่ชีวิตสบายสุดแล้วปกติมีแต่เทพในปรนิมมิตวสวัตตีภูมิเท่านั้นที่คิดสิ่งใดก็ได้ดั่งใจเพราะจะมีเทวดาภูมินิมานรดีมาคอยเนรมิตถวาย นี่ก็เหมือนกันเป็นยอดวิชาของภูมิปรนิมิตวสวัตตีเช่นนั้นท้าวมาลัยท่านว่าเอาไว้ให้แก่ผู้ที่คู่ควรและมีบารมีสมควรจะได้ไว้ เมื่อได้ครอบครองเสมอด้วยมีเทวดาภูมินิมานรดีคอยมาเนรมิตความปรารถนาต่างๆให้เสมอใจคอยอุ้มสมให้สุขสบายทุกทิวาราตรีกาล เขาจะให้เราจนทับถมได้เป็นกองเป็นภูเขา(ท่านอุปมาไว้ว่าลาภหนักปานนั้น) ถ้าหายใจเข้าออกเป็นทรัพย์สมบัติความมั่งคั่งร่ำรวย(ท่านว่าจะมีมาให้ได้เก็บเกี่ยวอยู่มากโขไม่ขาด) ..คนไม่มีจะกินจะใช้จะกลายเป็นมีเหลือกินเหลือใช้ การลงทุนเสี่ยงโชคจะสำเร็จ ทรัพย์สินทีเก็บไว้จะงอกเงยขึ้นทันตา อยู่แห่งใดเทพยาดาอินทร์พรหมก็รักใคร่แม้มนุษย์ก็เดินเข้ามาหาเอาลาภสักการะมาส่งเอาข่าวดีมาบอก จะรวยจนไม่มีสิ่งใดมาขวางมาหยุดได้เจริญในทรัพย์สินศฤงคารไม่รู้จักคำว่ายากจน ### เมื่อจะใช้แบบเร่งด่วนท่านว่าให้หลับตานึกเอาจะทำอะไรอยากได้สิ่งใดให้นึกเอาว่าเทวดาเขามามอบให้เราแบบนี้จะไวมากตรงตามชื่อเลยว่าเทพอุ้มสมคิดอะไรเทวดาก็หาให้ จะดูดดึงจูงจับเงินทองโภคสมบัติถิ่นฐานบ้านช่องหรือสัตว์สองเท้าเช่นบริวารและคู่ครองท่านว่าไม่ต้องร้อนใจพึงคิดพึงจัดการด้วยตนเองอย่างใดเลยเทวดาเขาหาให้เราทั้งหมด จะพันผูกคล้องจับมัดเกี่ยวเหนี่ยวรั้งสิ่งใดนี่หน้าที่เทวดาเขาเราเพียงแต่บอกเป้าให้เขาหาเขามอบให้ตามความประสงค์เช่นนี้จะจำเริญรุ่งเรืองสำเร็จสมปรารถนาดังใจนึกเกิดผลดีสารพัดทุกประการ

    *** วิธีใช้
    ตะกรุดเทพอุ้มสมนี้ท่านว่า
    ให้แช่ใส่ในขวดน้ำหอมหรือกระแจะจันทน์น้ำมันทาใดๆก็ดี ด้วยจะใช้พกอาราธนาหรือใช้ฉีดประพรมตัวอำนาจฤทธิ์ยิ่งจะซึมซับเข้าเนื้อตัวไวกว่าปกติ ให้อธิษฐานขอเอาแล้วฉีดน้ำหอมพรมเนื้อตัวจะสมปรารถนาทุกประการ ### ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะพกสูงพกต่ำอย่างไรก็ได้ไม่มีเสื่อมต่อให้ค้นเดินข้ามหมาเยี่ยวใส่รอดใต้ราวใต้ทางใดๆทำอย่างใดก็ไม่เสื่อม ท่านว่าพกไปใช้เข้าได้ทุกที่สบายใจหายห่วง

    คาถา
    พ่ออาจารย์ท่านว่านึกถึงคุณเทวดา
    ออกนามเทพที่รักษาตะกรุด(จะมอบให้เฉพาะคนที่บูชา)เพียงเท่านี้ก็อธิษฐานได้เลย

    *** ตะกรุดเทพอุ้มสมนี้ท่านว่าใช้ได้ทุกคนยิ่งมากก็ยิ่งดีเหมือนมีเทพยดาเจ้าชั้นสูงรักษาหลายพระองค์(ท่านว่าจะใช้ไปทางใดบ้างจะใช้กี่ดอกก็ตามแต่จะพิจารณาความเหมาะสมในธุรกิจของตนเอง) รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดกายทิพย์เทพอุ้มสมพรหมสิเหน่หา(เทวดาร้อนอาสน์) บูชา 2,500 บาท

    107742648-598112271123937-8277551920298623355-n.jpg
    107718078-891044571375005-5355135108635881976-n.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงกักบารมีรัตนเจดีย์สหัสธาตุเชื่อมหมื่นนามธรรมปรากฏ(พญาเสือข้ามถิ่น)

    พระผงรัตนเจดีย์นั้นองค์ธรรมในโลกทิพย์ท่านกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องทำเป็นพิมพ์นี้ ด้วยเจดีย์เป็นสิ่งที่ใช้สักการะบูชาระลึกถึงผู้ล่วงลับถือกันว่ามีบุคคลที่ควรบรรจุอัฐิธาตุไว้ในสถูปเจดีย์เพื่อเป็นที่สักการะของมหาชนอยู่เพียงสี่จำพวกเรียกว่า"ถูปารหบุคคล" ได้แก่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า,พระปัจเจกพุทธเจ้า,พระอรหันตสาวกและพระเจ้าจักรพรรดิ์ ซึ่งพระเจดีย์นั้นยังแบ่งได้เป็นสี่ประเภทตั้งแต่
    - ธาตุเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมธาตุของพระพุทธ,พระปัจเจก,พระอรหันต์และพระจักรพรรดิ
    - บริโภคเจดีย์ ซึ่งหมายเอาสังเวชนียสถานต่างๆอันเป็นสถานที่ประสูติ,ตรัสรู้,ปฐมเทศนาและปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
    - ธรรมเจดีย์ ได้แก่คาถาที่แสดงพระอริยสัจหรือคัมภีร์ในพระพุทธศาสนาเช่นพระไตรปิฎก
    - อุเทสิกะเจดีย์ หมายถึงของที่สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศแด่พระพุทธเจ้าไม่กำหนดว่าจะต้องทำเป็นลักษณะอย่างไร

    พระผงทรงเจดีย์นี้จึงเป็นสิ่งแทนตัวของถูปรหบุคคลเมื่อเจาะจงทำเป็นเครื่องมงคลแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อพระพุทธท่านบอกเอาไว้ชัดเจน *** เมื่อเราไหว้องค์เจดีย์นี้เพื่อขอบารมีย่อมเสมอด้วยเราสักการะพระพุทธเจ้า,พระปัจเจกพุทธเจ้า,พระอรหันตสาวกทุกพระองค์ในทุกกาลทุกสมัยที่ล่วงเลยมาพร้อมๆกัน...รวมไปถึงยังได้บารมีของพระเจ้าจักรพรรดิทุกพระองค์ที่เคยอุบัติขึ้นมาด้วย เช่นนี้รัตนเจดีย์จึงเป็นของสูงที่พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าองค์พระในนิพพานทุกพระองค์ตลอดจนพระจักรพรรดิมาแฝงกำลังไว้พร้อมสรรพเพื่อให้ลูกหลานและผู้เคารพนับถือได้สักการบูชา เมื่อจะปั้นนั้นองค์ปฐมท่านเน้นย้ำว่าต้องปั้นหุ่นเทียนเป็นเจดีย์ยอดสูงเท่านั้น (พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเคล็ดให้ชีวิตพุ่งทะลุถึงจุดยอด,จุดสูงสุด)

    ผงกักบารมี
    องค์รัตนเจดีย์นี้องค์พระข้างบนท่านกำหนดให้กดพิมพ์ไว้เฉพาะในผงวิเศษที่เรียกว่า
    "ผงกักบารมี" ผงวิเศษนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ให้คติเอาไว้ว่าผู้ที่จะครอบครองได้ต้องมีสัญญากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาองค์มหาธาตุทั้งหลาย(อันนำมาทำเป็นมวลสาร)มาหลายภพหลายชาติ ซึ่งท่านว่าเรื่องแบบนี้ใช่จะมีจะเจอกันได้ง่ายๆคนที่อยากมีอาจจะไม่มีแต่คนที่ไม่อยากมีกลับกลายเป็นว่ามีเช่นนั้น เมื่อมีสัญญาผูกพันธ์กันมาย่อมเป็นเหตุให้เกิดผลเกื้อกูลพ่ออาจารย์ท่านว่านี่สัญญาทางจิตเขาจะนำไปเราจะรู้ได้เลยว่าเรามีวาสนารับไว้หรือเปล่า ถ้าคนที่จิตขุ่นมัวยังไม่ใสยังไม่กระจ่างมาพบเขาก็จะวางเฉยเอาไว้อย่างนั้นแม้คนที่ยังเชื่อมต่อสัญญาตนเองไม่เจอคนเหล่านี้ย่อมไม่ได้ตรอบครองแม้อณูผงเลย

    ผงกักบารมีนี้ท่านว่ามีคุณหนักใช้ได้ตลอดชีวิต ด้วยคนเราเกิดมาแตกต่างกันเพราะบุญบารมีที่ทำมาในอดีต ตัวบุญบารมีนี่แหละที่ทำให้คนมีชนชั้นมีชีวิตไม่เสมอกันมีฐานะการเงินที่แตกต่างกัน มีรูปร่างหน้าตาความสวยงามแตกต่างกัน แม้แต่ความคิดสติปัญญาจะเกิดมาฉลาดหรือโง่ก็ด้วยบารมี หากว่าไม่นับเรื่องบุญบารมีแล้วเช่นนั้นสัตว์โลกเกิดมาย่อมเท่ากันทั้งหมดทุกคนย่อมเสมอภาคเท่าเทียมไม่แตกต่าง เช่นนั้นบุญบารมีจึงเป็นเหตุให้ชีวิตคนแปลกแยกแตกต่างกันไป..หากทำบุญมาดีบารมีมากเกิดมาก็สบายทั้งชีวิต แต่กลับกันคนที่ของเก่าไม่มีมากพอและยังศรัทธาที่จะประกอบอาชีพสร้างเนื้อสร้างตัวเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเหล่านี้พยายามมากกว่าทุกคนเช่นนั้นครูในโลกทิพย์ท่านถึงให้ทำผงกักบารมีนี้ขึ้นมา...ผงนี้สำคัญนักท่านว่าของที่ไม่มีก็จะมีขึ้นเองด้วยจะกักสะสมบารมีของชนทั้งหลายในมหาทิศทั้งสี่แปรสภาพเป็นกำลังที่จะใช้สนับสนุนชีวิตเรา ด้วยบารมีนี้ถือเป็นจุดสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าบารมีเต็มนี่ถึงนิพพานเลยนะ ผงเช่นนี้จึงทำได้ยากเพราะใช้กระแสแห่งบารมีของพ่อแม่ครูอาจารย์และองค์พระในอดีตทั้งหลายรอบทิศอันกระจายอยู่รอบตัวเรามารวมกำลังหนุนเรา เมื่อบารมีมากพอย่อมเปลี่ยนชีวิตพลิกได้ชั่วข้ามวันท่านว่าผงนี้เมื่อใช้แล้วให้หมั่นสร้างบารมีไปด้วยเรื่อยๆจะดีมากจะเต็มไวเป็นพิเศษ(พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะสร้างเองก็ต้องว่ากันหลายชาติ)เช่นนั้นคนที่หมั่นเพิ่มบารมีให้แก่ตัวเองชีวิตเขาจึงไปได้เรื่อยๆไม่มีสะดุด จะมีเป้าอะไรก็ไปเหยียบฝั่งไปถึงฝั่งได้โดยง่ายเพราะเขาอาศัยบารมีช่วยให้บรรลุจุดหมายทุกสิ่งไม่ว่าจะจุดหมายสูงส่งอย่างไรก็ตาม บารมีทั้งสิบนั้นรวมเรียกว่าทศบารมีพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นกำลังติดตัวที่สำคัญมากต้องทำให้เต็มไม่ขาดไม่พร่องตั้งแต่ทานคือการให้,ศีลคือการรักษาศีลให้เป็นปกติ,เนกขัมมะคือการละออกจากกาม,ปัญญาคือความรู้,วิริยะคือความเพียร,ขันติคือความอดทนอดกลั้น,สัจจะคือความตั้งใจจริง,อธิษฐานคือความตั้งใจมั่นไม่เปลี่ยนแปลง,เมตตาคือความรักความปรานี,อุเบกขาคือความวางเฉย

    .
    ..ผงกักบารมีนี้ใช้เพื่อกักบารมีไว้กับตัวเรา ท่านว่าตรงๆก็คือยึดไว้ไม่ให้พ้นตัว..บารมีขององค์พระและพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ท่านอธิษฐานจิตทิ้งไว้เพื่อโปรดสัตว์ยามยากเหล่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละกักเอาไว้ดึงเข้าตัวเอาตรงนั้นแหละมาใช้ ### ในกรณีคนที่ของเก่าไม่มีจะทำใหม่ก็ต้องว่ากันหลายชาติจะได้มาพึ่งตรงนี้ก่อนเอาตรงนี้ไว้ให้ชีวิตสบายก่อน เปิดโอกาสให้ตัวเองได้สร้างบารมีได้มากขึ้นๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเอาสบายแค่ชาตินี้ของใหม่ไม่สร้างมันก็กินได้แค่ชาติเดียว

    แร่สหัสธาตุหมื่นเชื่อมนามธรรมปรากฏ
    แร่สหัสธาตุนี้
    เป็นการรวมกันของมหาธาตุศักดิ์สิทธิ์ทุกชนิดที่พ่ออาจารย์ท่านรวบรวมไว้ *** มีกำลังในการปรับสมดุลชีวิตที่พังไปแล้วให้ดีขึ้นไวเท่าใจคิดทั้งยังใช้ปรับธาตุปรับดวงชะตาได้ ท่านว่ากายสิทธิ์เหล่านี้เป็นมหาธาตุที่ไม่สามารถบังคับบัญชาได้(ต้องเชิญเขามาสงเคราะห์ร่วมบุญกันให้ช่วยปรับภูมิปรับชะตามนุษย์เช่นนี้เขาจึงทำ) เป็นมหาธาตุที่ทรงไว้ซึ่งจิต,เจตสิก,รูป,นิพพานมีอำนาจบันดาลในสิ่งที่ไม่เที่ยงทั้งหลายนั่นคือสิ่งที่ไม่ยั่งยืนสามารถเกิดขึ้นและดับลงไปได้(พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ลาภ,ยศ,วาสนาที่มนุษย์ถวิลหากันนั่นแหละ) มหาธาตุเหล่านี้บันดาลให้เกิดดับหรือจะทรงไว้ให้มั่นคงชั่วกาลตามเวลาชีวิตเราก็ย่อมได้ เพราะเขามีอำนาจทำสิ่งที่ไม่อาจปรากฏในชีวิตเราให้ปรากฏขึ้นได้,ช่วยให้คติที่เรายึดถือไว้ได้สมดั่งใจหวัง,ช่วยตั้งและประดิษฐานไว้ซึ่งความสำเร็จทางโลกนานัปการ,ช่วยจัดแจงและคัดสรรนามธรรมทั้งหลายอันจะมาเกื้อหนุนแก่เรา,ช่วยยับยั้งโรคเวรโรคกรรมไม่ให้เป็นไปตามอำนาจกฏเกณฑ์ของสภาวะธรรม...ด้วยมหาธาตุเป็นสภาพไร้ตัวตนที่ทรงไว้ซึ่งลักษณะของตนเองดังนี้ครูพระในนิพพานจึงให้พ่ออาจารย์นำเอาผงมหาธาตุนับหมื่นแสนชนิดที่สะสมผ่านชั่วอายุคนของบูรพาจารย์สืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่นมาโรยอัดไว้ข้างองค์เจดีย์ทั้งซ้ายและขวาตอนกดพิมพ์ซึ่งผงนี้เรียกว่าผงแร่สหัสธาตุ..ดังมีกายทิพย์แสนโกฏิคอยพิทักษ์รักษาองค์เจดีย์และให้คุณแก่เราช่วยให้นามธรรมทั้งหลายที่สมควรจะเกิดได้อุบัติขึ้น

    ด้วยนามธรรมนั้นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จะเปลี่ยนผ่านรูปธรรมได้ทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องแก้ที่นามธรรมโดยตรงเท่านั้นชีวิตคนถึงจะเปลี่ยนไปแบบเห็นกันที่ตาเนื้อในรูปธรรม ปกติการแก้ไขนามธรรมนั้นยากแก่การพูดและทำความเข้าใจเพราะนามธรรมนั้นเรามองไม่เห็นเรียกว่ารับรู้ไม่ได้ด้วยตา,หู,จมูก,ลิ้นและสัมผัส เพราะเขาไม่มีรูปไม่มีตัวตนจับต้องไม่ได้จะรู้ได้ก็ด้วยใจเช่นนั้นเมื่อจะแก้กฏนามธรรมที่บีบรั้งดึงเหนี่ยวชีวิตคนก็ต้องใช้กายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์ทางใจอย่างมากเข้าแก้ พ่ออาจารย์ท่านว่ากายสิทธิ์ธรรมดาแก้ไม่ได้เลยแต่กลับกันเมื่อเป็นการรวมอำนาจของมหาธาตุอย่างผงแร่สหัสธาตุนี้ กลับมีอำนาจมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงนามธรรมเชิงซ้อนเหล่านั้นได้ เมื่อนามธรรมน้อมเข้าไปสู่อารมณ์เจตสิกก็จะรับรู้ถ้าจะไม่รู้อารมณ์นี่ก็ต้องพระนิพพานเช่นนั้นแร่สหัสธาตุนี้จึงเป็นมหาธาตุที่เร่งเร้ากระตุ้นนามธรรมได้ทุกชนิดยกเว้นแค่ไปเร่งสวรรค์นิพพานไม่ได้ ..เรื่องอื่นอยากได้อะไรบอกครูบาอาจารย์ที่ท่านแฝงกำลังนับแสนโกฏิในแร่สหัสธาตุได้เลย

    เหล็กไหลไพลดำ
    องค์รัตนเจดีย์สำคัญนี้นอกจากบรรจุแร่สหัสธาตุแล้ว มติครูในโลกทิพย์ยังได้ให้พ่ออาจารย์ท่านอัญเชิญ
    องค์เหล็กไหลไพลดำ(แบบของจริงที่ไม่ใช่ขี้เหล็กไหลหรือรังเหล็กไหลแบบที่ขายๆกัน)..."เหล็กไหลไพลดำพูดพร่ำเป็นบ้า เล่นแร่แปรธาตุผ้าขาดตั้งวา ติระตะโสรถนอนอดเหมือนหมา" คำพรรณาที่ปรากฏมาแต่โบราณด้วยสิ่งเหล่านี้แสวงหามาครองได้ยากลำบากแม้จะหาดูของแท้ก็ยังยาก บางที่ก็ว่าไพลดำคืออาหารของเหล็กไหลใช้เพิ่มบุญฤทธิ์อำนาจให้เหล็กไหลได้..แต่เหล็กไหลที่เกิดขึ้นจากไพลดำนั้นต่างหากถึงจะเป็นยอดกว่ามหาธาตุทั้งปวงลำพังเพียงต้นไพลดำนั้นก็มีเทวดารักษาอยู่แค่จะหาดูยังยากแต่ที่ยากที่สุดคือการกู้และพิธีการเอาขึ้นมาครอบครอง ด้วยการกู้ว่านการตัดเหล็กไหลสิ่งเหล่านี้ย่อมกระทำได้ยาก ผู้จะทำได้ต้องถึงพร้อมด้วยบารมีและบุญฤทธิ์ตลอดจนสรรพวิชาทั้งหลาย เหล็กไหลไพลดำนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดของมหาธาตุที่อยู่คู่โลกอันยากจะได้เห็นมีเล่าสืบกันมาในตำนานที่มีมากกว่าสองพันปี ลำพังว่านไพลดำแท้ๆ(ของปลอมเยอะมาก)ยังน่าอัศจรรย์สามารถคุ้มครองป้องกันภัยและใช้ขจัดคุณไสย์ขับไล่สิ่งเลวร้ายใช้ป้องกันอันตรายจากภูตผีปีศาจ,ผีปอบ,เจ้าเข้าทรง,ผีเหยียบร่าง,เจ้าสัมภเวสีทั้งหลายทั้งยังคุ้มครองจากสัตว์ร้ายตลอดจนภัยพิบัติได้ ทั้งว่านนี้เมื่อออกใบยังห้ามแตะต้องด้วยจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตเรียกว่าใครแตะก็ตายทันทีจะกู้ด้วยจอบเสียมใดๆก็ไม่ได้

    เหล็กไหลที่เกิดจากต้นว่านไพลดำนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้กัน
    คุณไสย,ยาเบื่อ,ยาสั่งได้ทุกชนิด ใครชอบนอนละเมอผีเข้ามีวิญญาณแฝงนี่หายขาดเลย รวมไปถึงโรคที่เกินวิสัยและวิบากกรรรมในชีวิต(เพราะใช้ระงับวิบากกรรมได้จึงมีค่าควรเมือง) แม้องค์หลวงปู่ชอบเมื่อยังดำรงค์ธาตุขันธ์อยู่ได้เห็นต้นว่านไพลดำที่มีอยู่จริงในโลกยังถึงกับออกปากว่า"ตายไปก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว" ด้วยเป็นของในตำนานที่อยู่คู่โลกแม้เพียงได้เห็นก็ถือว่าเป็นบุญตาหากได้ครอบครองย่อมถือว่าทำบุญมาดี เหล็กไหลไพลดำจริงๆไม่ใช่โคตรเหล็กไหลที่คนอุปโลกกันหากแต่เป็นองค์เหล็กที่มีชีวิตผู้ที่ได้ครอบครองจะมีตบะเดชะน่าเกรงขามทำให้ไม่ตายโหงและยังระงับให้รอดพ้นจากภัยต่างๆใช้ได้หมดทั้งกันภูตผีและคุณไสย ด้วยองค์เหล็กไหลไพลดำนั้นมีพลังงานชีวิตที่น่าทึ่งที่สุด(พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาชอบเสพย์น้ำผึ้งจะขออะไรเขาให้เอาน้ำผึ้งทาพอเขากินอิ่มเขาก็จะช่วยเราได้เสมอใจ) เมื่ออาราธนาติดตัวนอกจากจะช่วยปรับธาตุรักษาสมดุลย์เติมสิ่งที่สึกหรอที่ร่างกายเราขาดทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายและเกิดโรคที่รักษาได้ยากเหล่านี้แล้ว ยังจะป้องกันทั้งผีและคนไม่ประสงค์ดีที่เข้ามาทำร้าย ***เขากันแม้แต่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำกับเรา ฉันพูดไม่ได้มากกว่านี้เอาว่าพูดได้เท่านี้ก็ไปคิดกันเอาเองไม่เช่นนั้นคงไม่จัดไว้ว่าเป็นยอดเหล็กไหลเป็นของในตำนานคู่โลกแบบนั้นหรอก...องค์เหล็กไหลไพลดำนี้วันดีคืนดีถ้าเห็นดวงไฟสีทองบ้างเขียวบ้างลอยออกมาวนไปวนมาแถบที่ตนวางองค์พระไว้ก็อย่าได้ตกใจพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเขาแค่ออกมาอาบแสงจันทร์เท่านั้นไม่มีอะไร

    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าจะไม่ใส่ชื่อเหล็กไหลนี้ไว้ในนามเครื่องมงคลอย่างเด็ดขาด
    ท่านว่าเดี๋ยวคนจะโลภ คนที่เขารู้อย่าว่าแต่เค้าจะมาเช่าเลย มีเท่าไหร่เค้าก็จะเก็บกันทั้งหมด ท่านจึงไม่ให้ออกชื่อบอกเพียงแต่ว่าใครมีบุญจองทันกันก็ได้ครอง (องค์เหล็กมีวรรณะเหลือบทองคำดำสวยงามเพราะใช้ระงับวิบากกรรม,ใช้กันแม้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำกับเรา จึงเป็นยอดธาตุกายสิทธิ์ในตำนานคู่โลก)

    ด้านหลังฝังตะกรุดปัญจะพรหมมา พ่ออาจารย์ท่านเรียกของท่านว่าชุดเสือข้ามถิ่นคือไปทางไหนทิศไหนก็เอาดีได้ตรงนั้นไม่ต้องเลือกต้องรอวาสนาจะเอาดีในถิ่นรึต่างถิ่นก็อยู่ที่เราคือได้ดีเหมือนกันทั้งยังมีอำนาจเคลื่อนย้ายทรัพย์เข้าหาเราให้เกิดความมั่งมีมั่งคั่งร่ำรวย(จะใช้เรียกทรัพย์ให้กลับมาก็ได้) ดลให้ได้อำนาจวาสนา เป็นเมตตา ทั้งปกป้องคุ้มครองภัยจากโรคร้ายจากเหตุร้ายต่างๆป้องกันอาถรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านดึงพลังจักรวาลเชื่อมต่อกับสุริยเทพ(ท่านว่าต้องเสกกลางแจ้งขอกำลังท่านเสกจนพระอาทิตย์ทรงกลดหมดเมฆเมฆา) ท่านว่าอยู่ตรงไหนก็เอาดีได้ตรงนั้นสาดแสงสาดรังศมีความเป็นเราออกไปดั่งพระอาทิตย์ทรงกลดไร้สิ่งรบกวน

    คาถาบูชา
    วันทามิเจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา สะรีระธาตุ มหาโพธิง พุทธะรูปัง สะกะลัง สะทา นาคะโลเก เทวะโลเก พรัหมะโลเก ชัมพูทีเปลังกาทีเป สะรีระธาตุโย เกสาธาตุโย อะระหันตะ ธาตุโย เจติยัง คันธะกุฏิง จะตุราสี ติสสะหัสเส ธัมมักขันเธ สัพเพสัง ปาทะเจติยัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ


    *** พระผงกักบารมีนี้ พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าอย่าพูดอะไรเลยไม่ต้องไปเชิญชวนให้ใครมาเช่า เพราะเหล็กไหลไพลดำเขาจะเลือกผู้ถือครองเขาด้วยตัวเอง เช่นนั้นรายการนี้จึงรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะประสิทธิ์ให้อีกคำรบหนึ่ง ### รายการนี้ท่านจะบอกนามทิพย์กายที่อารักษ์องค์เหล็กไหลแก่ผู้ครอบครองเท่านั้นเพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารขอพร ท่านว่าเรียกชื่อเขาจะคุยอะไรกันย่อมไวที่สุด รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงกักบารมีรัตนเจดีย์สหัสธาตุเชื่อมหมื่นนามธรรมปรากฏ(พญาเสือข้ามถิ่น) บูชา 4,000 บาท


    115916802-339424417059549-6015300386467721238-n.jpg 115885586-2547123388932399-8534118869364628987-n.jpg
    109116552-621262508813974-6142011038503285347-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ความหมายและอานิสงส์ของการบวช

    หลายคนอาจจะสับสนเหมือนกันว่าชีพราหมณ์กับเนกขัมมะต่างกันยังไง คำตอบคือไม่ต่าง แค่ชื่อที่เรียกไม่เหมือนกันเท่านั้นเองแต่ก็เอาความหมายของทั้งสองคำนี้มาฝาก

    ชีพราหมณ์ เป็นคำที่ใช้เรียกอุบาสิกาที่นุ่งขาวห่มขาวตั้งใจรักษาศีลปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดเช่นเดียวกับชี แต่ไม่ได้โกนผมโกนคิ้วอย่างชี ชีพราหมณ์จึงไม่ใช่ชีและไม่ใช่พราหมณ์ ชีพราหมณ์เป็นวิธีการที่จะช่วยให้อุบาสิกาที่ปรารถนาจะฝึกปฏิบัติสมาธิ ฟังธรรม และพักอยู่ที่วัดเพื่อให้มีความสงบและรู้สึกว่าได้ละทิ้งบ้านเรือนทรัพย์สมบัติมาจริงๆ แต่อุบาสิกาเหล่านั้นไม่ต้องการโกนผมโกนคิ้วจึงหาคำเรียกเลี่ยงไปว่าเป็นชีพราหมณ์ให้แตกต่างจากชีโดยทั่วไป อุบาสิกาเหล่านี้แม้จะไม่ได้โกนผม โกนคิ้วก็ตั้งใจรักษาศีลปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง บางท่านจึงเรียกว่าศีลจาริณีแปลว่าหญิงผู้รักษาศีล

    เนกขัมมบารมี แปลว่ากำลังใจเต็มพร้อมในการถือบวช บวชผมยาว,บวชผมสั้น,บวชนุ่งเหลือง,บวชนุ่งขาว,บวชนุ่งผ้าสีลายต่างๆ,บวชโกนหัว,ไม่โกนหัวได้ทั้งนั้น เพราะบวชจริงๆแล้วคือการบวชใจ จะอยู่บ้านอยู่วัดก็บวชได้เต็มที่ได้บุญครบถ้วน

    การถือศีลในระหว่างบวช ก็คือศีล 8 หรืออัฏฐศีล(การรักษาระเบียบทางกายวาจา,ข้อปฏิบัติในการฝึกหัดกายวาจาให้ยิ่งขึ้นไป)
    1. ปาณาติปาตา เวรมณี (เว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป )
    2. อทินฺนาทานา เวรมณี (เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย)
    3. อพฺรหฺมจริยา เวรมณี (เว้นจากกรรมอันมิใช่พรหมจรรย์,เว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์ คือร่วมประเวณี)
    4. มุสาวาทา เวรมณี (เว้นจากการพูดเท็จ)
    5. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี (เว้นจากน้ำเมา คือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท)
    6. วิกาลโภชนา เวรมณี (เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือตั้งแต่เที่ยงแล้วไปจนถึงรุ่งอรุณของวันใหม่)
    7. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี (เว้นจากการฟ้อนรำ,ขับร้อง,บรรเลงดนตรี,ดูการละเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ของหอม และเครื่องลูบไล้ซึ้งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง)
    8. อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี (เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่หรูหราฟุ่มเฟือย)

    อานิสงส์การถือบวช [บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ, อุทิศให้พ่อแม่-เจ้ากรรมนายเวร]
    1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา
    2. เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย
    3. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
    4. เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป
    5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
    6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต
    7. เป็นที่รักที่เมตตาของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา
    8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
    9. โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย
    10. ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่


    34e2bfdbbcfd8b9281d8eae20d585203.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ใครที่เคยพลาดเทพศาสตราตอนพ่ออาจารย์ท่านออก"ตรีเทพ" เดี๋ยวติดตามกันดีๆนะครับท่านว่าทพศาสตราชุดนี้เหมือนขีปณาวุธระยะไกล แต่ต้องใช้ให้ดีเพราะระบุตัวศัตรูได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2020
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ร่วมทำบุญบูชา ศาสตราเทพสังหารของ้าวฟาดมังกรจันทร์ฉงาย(กระตุ้นธรรม)

    เทพศาสตราชนิดหนึ่งซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าศาสตราเทพสังหาร ท่านว่าเป็นอาวุธที่มีพลังมายาแข็งกร้าวเปรียบได้กับขีปณาวุธพิสัยไกลที่ล๊อคตัวเป้าหมายได้...นั่นก็คือเทพอาวุธที่ท่านสร้างเอาไว้อันมีนามว่า"ของ้าวฟาดมังกรจันทร์ฉงาย" ด้วยเป็นอาวุธด้ามยาวที่มีง้าวอยู่ตรงปลายและมีขอสำหรับใช่สับบังคับช้างได้(มีคุณสองทางในตัวทั้งบังคับและสังหาร) จะใช้ป้องปัดคุ้มครองตนหรือใช้ปะทะล้างศัตรูก็ย่อมได้แต่ที่เหนือกว่าศาสตราชนิดอื่นนั่นก็คือเป็นอาวุธที่ใช้บนหลังช้างศึกด้วยของ้าวนั้นจะใช้บังคับช้างพร้อมกับใช้สัปยุทธกับข้าศึกที่นั่งบนหลังช้างเช่นกัน ผู้ที่จะรบบนหลังช้างได้นั้นต้องรู้ตำราคชยุทธด้วยเป็นศิลปะการต่อสู้ของชนชั้นสูง ผู้ที่จะถือของ้าวทำคชยุทธได้นั้นมีแต่แม่ทัพใหญ่หรือกษัตริย์ทำการท้าทายรบกันเท่านั้นจะเรียกว่ายุทธหัตถีก็ได้ เมื่อกระทำคชยุทธกันแล้วแม้ทหารราบทั้งหมดก็ห้ามทำร้ายนักรบและช้างศึกในขณะคชยุทธด้วยถือว่าเป็นการยุทธที่ทำไปด้วยเกียรติยศอย่างสูงสุดเป็นการต่อสู้ระหว่างเจ้านาย(กษัตริย์)หรือแม่ทัพสูงสุดเท่านั้น ซึ่งการศึกแบบนี้จะเกิดได้เฉพาะกับทัพหลวงที่มีกำลังพลมหาศาลเป็นศึกใหญ่ที่ต้องเกณฑ์พลออกมามากมายและองค์แม่ทัพต่างก็อยู่ในสนามรบทั้งคู่ กษัตริย์หรือแม่ทัพที่มีอำนาจสูงสุดจะตัดสินชะตาบ้านเมืองกันบนหลังช้างเช่นนี้มหาสงครามยุทธหัตถีจึงถือเป็นสงครามแห่งเกียรติยศ การรบบนหลังช้างโดยใช้ของ้าวเป็นอาวุธสังหารนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเป็นอาถรรพ์เหนือกว่าอาวุธทั้งปวงเป็นหนึ่งในพระแสงที่ใช้เป็นตัวแทนอำนาจขององค์พระมหากษัตริย์ซึ่งหากพระราชทานแก่ใครแล้วบุคคลนั้นเสมอด้วยได้รับพระราชทานอำนาจในการควบคุมอาณาเขตของราชอาณาจักร ด้วยของ้าวเป็นอาวุธที่ใช้ฆ่าแม่ทัพหรือกษัตริย์ต่างบ้านต่างเมือง ###ท่านว่ากษัตริย์ในสมัยนั้นเป็นดั่งสมมติเทพอย่างแท้จริง ของ้าวนั้นจึงเปรียบได้กับศาสตราสังหารเทพ

    เช่นนั้นของ้าวของพ่ออาจารย์ท่านจึงแตกต่างจากเทพศาสตราทั้งหลาเพราะเป็นศาสตราที่ใช้บังคับช้างอันเป็นสัตว์ใหญ่มีอาถรรพ์มาก(ดุจบังคับให้ชีวิตตนเองเดินไปทางไหนก็ได้ไม่มีอาถรรพ์ใดๆล่วงเกินได้อีกต่อไป)ทั้งยังใช้สะกดกำลังพลทั้งกองทัพทั้งอาณาจักรให้สงบนิ่ง***จะสะกดเจ้ากรรมนายเวรและสรรพเหตุเภทภัยไม่ให้เคลื่อนไหวกำเริบเสิบสาน แลใช้ประหารเอาชีวิตและข่มโขกชนชั้นสูงได้อย่างถึงที่สุด ในชีวิตจริงเมื่ออาราธนาของ้าวนี้ไว้ข้างกายจะมีอำนาจช่วยให้ผู้ถือครองได้กินรวบวาสนาบารมีเสมอด้วยผู้ผ่านพิภพถึงซึ่งความเป็นใหญ่เหนือมนุษย์ทั้งหลายจะเจริญเติบโตได้รุดหน้าและรวดเร็ว ปกติจะใช้กันในหมู่กษัตริย์หรือแม่ทัพใหญ่เท่านั้นซ้ำเมื่อพระราชทานแก่ผู้ใดยังเป็นการมอบอำนาจควบคุมอาณาจักรให้อีกด้วยเช่นนั้นจึงถือเป็นของสูงที่ใช้เปลี่ยนชีวิตนำมาซึ่งอำนาจและเกียรติยศที่ตนเองไม่คาดฝัน ของ้าวนั้นเป็นของมงคลด้วยหัวง้าวนั้นถือว่าจำลองลักษณะลิ้นของมังกรมีความโค้งเป็นเสี้ยวพระจันทร์ใช้ได้ทั้งรุกและรับคือจะฟันก็ได้จะใช้ปัดใช้เบี่ยงหรือรับการโจมตีของศัตรูก็ได้จึงถือว่าเป็นเทพศาสตราที่ใช้ได้ครบเครื่องทั้งโจมตีและคุ้มกายตน
    ### ด้วยพระแสงของ้าวนั้นเป็นอาวุธธาตุแสงที่มีกำลังขององค์สุริยเทพ พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าชื่อเขาก็บอกอยู่แล้วว่าพระแสงๆ จึงเป็นอาวุธด้านสว่างที่ใช้ทำลายความมืดมิดทั้งปวงเพราะพระแสงนั้นคือนามแห่งสุริยะเทพผู้ให้กำเนิดแสงสว่างจากความมืดมิดสถิตย์อยู่ทั่วสากลจักรวาลที่อำนาจแห่งแสงสุริยะสอดส่องเข้าไปถึงด้วยพระองค์สถิตย์อยู่ทุกที่ เช่นนั้นการเชิญพระแสงของ้าวผ่านชีวิต(พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่ยกของ้าวนี้ขึ้นข้ามหัวก็เสมอด้วยเบิกชีวิตนำแสงสว่างผ่านเข้ามาในชีวิตที่มืดมิดอับจน)

    อาถรรพ์แห่งของ้าว...ด้วยเป็นเทพอาวุธที่มีอาถรรพ์แตกต่างจากอาวุธทั้งหลาย เพราะปกตินั้นอาวุธย่อมใช้ในการฆ่าแต่พระแสงของ้าวนั้นนอกจากใช้ฆ่า(ชนชั้นสูงผู้มีอำนาจ..พ่ออาจารย์ท่านว่าฆ่าได้แม้แต่จุดสูงสุดของมนุษย์)แล้วยังใช้บังคับให้ยินยอม,ทำตามความปรารถนาของผู้บงการ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อสร้างเทพศาสตราชิ้นนี้จึงต่างจากเทพศาสตราอื่นๆด้วยผู้ถือจะใช้บังคับผู้มีอำนาจวาสนาให้อยู่ภายใต้เจตน์จำนงค์แห่งตนได้(ดุจใช้บังคับช้างซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่มากวาสนาบารมี) ทั้งของ้าวนั้นยังมีอาถรรพ์เมื่อพกไปเอ่ยปากขออะไรใครเขาก็ยกให้เพราะเป็นขอเกี่ยวใจเขาไว้ทั้งหมดอะไรที่มันจะหลุดไม่ถึงวาสนาเราก็เอาขอเกี่ยวไว้ได้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าอาถรรพ์เช่นนี้ยากคนที่จะทำได้ด้วยเมื่อขอแล้วย่อมเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วพ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละอาถรรพ์แท้จริงของวิชาขอยิ่งกว่าชูชกหรือสิ่งใดๆทั้งสิ้นเพราะเป็นรูปเนรมิตให้ขอได้ขอดี..ขอไปเถอะ..ขอให้ได้.ให้มั่ง..ให้มีสุดที่จะขอที่จะเกี่ยวเพื่อให้คนที่ชอบขอเขาได้ขอได้มีกันสมความหวังและเจตนาเขา

    ตัวขอบังคับช้างในของ้าวนี้พ่ออจารย์ท่านว่าต้องแยกเสกลงกำกับเป็นชั้นๆเอาไว้ก่อนด้วยต้องลงสะกด,ข่ม,บังคับอาถรรพ์และคุณวิชาทั้งปวงไว้อีกคำรบหนึ่งมาผูกเข้าด้วยกันจะได้เป็นยอดอาถรรพ์เป็นขอเหมือนกันแต่มากกว่าขอ ท่านว่าอาถรรพ์แห่งของ้าวนี้นอกจากใช้ขอแม้แต่เลือดในอกคนแล้วยังมีอานุภาพใช้ในการเกี่ยว..การเหนี่ยวรั้งไว้..การสะกด,ข่ม,บังคับ,ปัดอาถรรพ์.. อีกประการคำว่าขอก็คือได้..เมื่อขอแล้วย่อมได้รับสิ่งที่ขอเสมอ

    ด้วยของ้าวนั้นใช้สับบังคับช้างเสมอด้วยคชกุศซึ่งเป็นยอดศาสตราและเป็น ๑ ใน ๘ สิ่งมงคลของพราหมณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าการจะสร้างไม่ใช่ว่าจะเสกส่งเดชได้เพราะนอกจากจะต้องลงอานุภาพแห่งองค์นารายณ์แล้วยังต้องลงอานุภาพของพระศรีเคณศด้วย ปกติแล้วขอสับช้างนั้นเปรียบเสมือนสิ่งมงคลและอาวุธประจำกายของควาญช้างเพื่อที่จะใช้สั่งการช้างให้ทำตามคำสั่ง พระเคณศถือว่าขอสับช้างนั้นเป็นเครื่องหมายของการขจัดเสียซึ่งอุปสรรค,ขจัดภัยและเป็นบารมีมหาอำนาจมหามงคลในตัวจะแสดงออกด้วยการสะกดข่มโดยบริบูรณ์ต่อสรรพชีวิต ทั้งขอคชกุศบังคับช้างในพระแสงของ้าวนั้นยังเป็นที่มาแห่งบารมี,อำนาจวาสนา,ความสำเร็จด้วยจะใช้อาราธนาขจัดอุปสรรคก็ยังได้ผู้ที่ต้องการความสำเร็จในเรื่องต่างๆจึงควรอาราธนาติดตัว..นอกจากเป็นมหาอำนาจแล้วยังส่งผลทางวาทะศิลป์หว่านล้อมให้คนนับถือเชื่อฟังอีกด้วย ด้วยเหตุว่าพระแสงของ้าวเป็นของมงคลที่ใช้ในการบังคับที่สามารถค้ำคูณดวงชะตาและข่มสรรพอาถรรพ์ คุณไสย และสิ่งไม่ดีต่างๆได้อย่างชะงัด อุปมาดั่งมีอำนาจข่มสัตว์ใหญ่ที่มีอาถรรพ์มากเช่นช้างป่าให้เกรงกลัวและทำตามได้...เช่นนั้นของ้าวจึงเป็นเทพศาสตราวุธที่ยากจะหาผู้รู้สร้างได้ทำได้น้อยเต็มทีท่านว่านี่แหละเครื่องรางสิริมงคลนี่แหละของวิเศษจำเอาไว้นะพวกเธอว่าพระแสงของ้าวที่เราทำนี้เสกยากเพียงไหนฉันบอกได้แค่ว่าเครื่องรางสิริมงคลนี้มีแรงครูที่สูงมากเพราะเป็นศาสตราที่สังหารได้แม้แต่เทพเจ้า ของที่มีแรงครูสูงมักมีค่าพอที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตคนได้อย่างง่ายดาย ทั้งขอคชกุศอันประกอบในของ้าวยังเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือกันในหมู่ผู้ศึกษาพระเวทย์ที่รู้ลึกรู้จริงว่าเป็นของมงคลที่หาได้ยากยิ่งและมีอานุภาพสูงหลายประการคือ เป็นของโภคทรัพย์จากการเป็นขอ มีลักษณะงอหมายถึงการเกี่ยว การเหนี่ยวรั้งไว้ อีกประการคำว่าขอก็คือได้เป็นคำมงคล ยิ่งขอที่พ่ออาจารย์ท่านประจุอาคมนั้นยังเป็นเครื่องรางชั้นยอดเพราะต้องนำมาเสกแช่น้ำมันที่มีส่วนผสมของเศษเชือกประกำ ตะไคร่เสาตะลุงช้างเผือก น้ำมันช้าง ผงวิเศษจากการลบยันต์หัสดี ยันต์หนุมานหักคอช้างเอราวัณ นะคชสาร เช่นนั้นจึงเป็นของมีอานุภาพสูงเพราะมีเทพวิญญาณสิงสถิตย์ในตะขอ เป็นศาสตราวุธที่มีวิญญาณเช่นนั้นเอง..ท่านจึงว่าทำยากเพราะต้องแยกเสกเป็นขั้นๆไป

    แม้ผู้ใดปรารถนาถามหาทรัพย์ มีพระแสงของ้าวนี้ก็แรงเสียยิ่งกว่าตั้งนางกวักไว้ในบ้านถึงร้อยองค์ทั้งยังเป็นของมงคลคุมอาถรรพ์ด้วยมีอานุภาพบังคับได้ทุกสิ่งให้เป็นไปในทางที่ดี(บังคับได้แม้แแต่คนที่อยู่สูงกว่าเรา..มีวาสนาดีกว่าเรา..มีอำนาจมากกว่าเรา)ให้ทุกอย่างในชีวตเราร่มรื่นราบเรียบ ทั้งบังคับไม่ให้เหตุแห่งทุกข์หรืออาถรรพ์วิญญาณร้ายทั้งหลายนั้นกำเริบก่อความเดือดร้อนขึ้นมา แม้หากผู้มีทรงวิทยาคมหรือมีตบะแก่กล้าอื่นจะมาลองดี,ลองวิชา..คนเหล่านั้นก็จะแพ้ภัยตัวเองไปเพราะอำนาจพระแสงของ้าวที่พ่ออาจารย์เชิญเทพวิญญาณนั้นสามารถใช้สะกดอาคมไว้มิให้แสดงฤทธิ์ได้นั่นเองจึงนับว่าเป็นของดีที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนักทั้งผู้รู้เรื่องก็มักปกปิดเก็บเงียบเอาไว้.. มีความเชื่อสืบกันมาแต่โบราณว่าคชกุศนี้ดีในทางควบคุมคนให้อยู่ในอำนาจด้วย เพราะเคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชาไม่อยู่ในโอวาทกระด้างกระเดื่อง ด้วยถือดีว่าเป็นคนดีมีวิชาเหมือนกัน ก็เลยแก้อาถรรพ์ด้วยเขียนชื่อแล้วเอาคชกุศสับสะกดไว้ปรากฏว่าเจออีกทีหงอเชื่องเชื่อฟังแต่โดยดี แม้ใช้ในการปราบผีหรือข่มอาถรรพ์ก็ยังให้ผลชะงัดมาก เล่ากันสืบมาว่าในศาลาวัดหนึ่งมีผีนางไม้ดุมากคอยรบกวนผู้พักอาศัยให้เดือดร้อนอยู่เนืองๆ จนไม่มีผู้กล้าพักอาศัยยามค่ำคืนและเป็นผีที่เหลือมือหมอคือเป็นประเภทพฤกษาเทวา อาคมธรรมดาจึงไม่สามารถสะกดอยู่ จนวันหนึ่งนางไม้นี้มาสิ้นฤทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อมีคนคณะหนึ่งเดินทางผ่านมาพักที่ศาลาหลังนี้พอนางไม้เริ่มออกฤทธิ์เขย่าศาลาหัวหน้าคณะไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่เคยเรียนมนตร์ปราบผี นึกถึงความศักดิ์สิทธิ์องค์ครูได้ก็เอาตะขอช้างคชกุศนี่สับไปที่เสาตกน้ำมันที่นางไม้นี้อยู่ ปรากฏว่าทีเดียวเท่านั้นนางไม้นั้นสิ้นฤทธิ์หมดพิษสงสงบเสงี่ยมเงียบจ๋อยไม่มารบกวนอีกเลย อ้าวก็ช้างตกมันตัวเบ้อเร่อเบ้อเท่อขออันเดียวยังสะกดอยู่เลยนางไม้ตัวเล็กๆจะเหลืออะไร เพราะในทางไสยเวทช้างเป็นสัตว์ที่มีรังควาน(อาถรรพ์ แรงเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์หรือมีดีในตัว)

    เช่นนั้นจึงสรุปความว่าของ้าวนี้เป็นของมงคลพิเศษที่มีทั้งศรีคือความเป็นมงคลและเดชคืออำนาจในการสะกดข่มอยู่ในตัว ให้คุณด้านโชคลาภค้าขายเก็บเกี่ยวเงินทองลูกค้า มีอำนาจเป็นใหญ่ผู้คนนับถือเกรงกลัวมีบารมีดุจเจ้าคนนายคนลูกน้องเชื่อฟังหัวหน้าเชื่อฟัง(***แม้หากโดนผู้ใดกดขี่ข่มเหงทั้งการงาน สังคม ชีวิตครอบครัว หรือปยากปราบอยากข่มใครไว้ใต้อำนาจเรา ใช้ได้แม้แต่ศัตรูหรือคู่แข่ง ให้เขียนชื่อนามสกุลคนนั้นลงในกระดาษรูปภาพเขาแล้วนำของ้าวนี้สับลงไปจะทำให้ผู้นั้นเชื่อฟังเคารพเรา หงอเชื่องเชื่อฟังแต่โดยดี) ซ้ำยังแก้อาถรรพ์ แก้อาการผิดสำแดง สะกดอาคม หากอยู่ในบ้านจะควบคุมอาถรรพ์บังคับทุกสิ่งให้เป็นไปในทางที่ดีไม่ให้กำเริบนำความเดือดร้อนมาให้ แม้ใครมาลองดีลองวิชาก็แพ้ภัยตัวเอง เพราะโดนของ้าวสะกดไว้ไม่ให้แสดงฤทธิ์นั้นเอง


    นายแห่งศาสตราวุธทั้งมวล
    ด้วย
    เป็นศาสตราที่ใช้ประหารจอมทัพนับแต่ครั้งโบราณ พ่ออาจารย์ท่านว่าดั่งกวนอูที่ถือง้าวมังกรเขียวใช้สังหารขุนพลไปมากมายจนงhาวนั้นได้ฉายาว่างามเหี้ยมสังหาร เมื่อจะทำของ้าวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเอาให้มีฤทธิ์เช่นง้าวของกวนอูเหมือนกัน ด้วยความเชื่อแต่โบราณการหลอมวิญญาณมนุษย์หรือสัตว์วิเศษลงไปพร้อมกับการหลอมตีอาวุธจะทำให้ศาสตรานั้นมีจิตวิญญาณกลายเป็นของวิเศษเรียกว่าเทพศาสตรา...พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาแล้วท่านจึงใช้จิตเทพคือเชิญองค์เทพฝ่ายปราบปรามทั้งหมดเข้าคุมและแบ่งกำลังลงของ้าวตอนหลอมแต่ต้นเพื่อให้ตรงตามตำรา เมื่อของ้าวนี้ไปปรากฏที่ใดย่อมเป็นสัญลักษณ์แห่งสิริมงคลสมกับเป็นศาสตราที่มีเทพวิญญาณประจำอยู่ไม่ใช่ศาสตรากระหายเลือด หากแต่ในชีวิตจริงที่ต้องการต่อสู้..แข่งขัน..ชิงชัยก็จะนำพาให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายและปัดเป่าสิ่งอัปมงคลขจัดสิ่งร้ายที่เข้ามาป้องกันเรื่องร้ายๆให้ผ่านพ้นไป จะทำให้มีบริวารที่ดีเคารพยำเกรงและส่งเสริมให้การงานก้าวหน้าจะหนุนนำตัวเราและข่มขวัญศัตรูไปพร้อมกัน

    ของ้าวนั้นเมื่อจะใช้ประหารผู้ใดย่อมใช้ตัดหัวขุนทัพ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะฟันลำตัวขาดเป็นสองท่อนผ่าร่างแยกเป็นสองซีก เรียกว่าใช้ทำลายเจ้านายแห่งกองทัพทำลายขวัญกำลังพลจบลงด้วยกระบวนท่าเดียว...เช่นนั้นจึงถือว่าเป็นนายแห่งศาสตราวุธทั้งปวง ทั้งของ้าวด้ามนี้ยังสามารถใช้ฟาดฟันภูตผีปีศาจได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอาถรรพ์ทั้งหลายตลอดจนภูติผีปีศาจที่คอยก่อกวนชีวิตเราย่อมกลายเป็นเป็นเครื่องเซ่นสังเวยแก่ของ้าวทั้งสิ้น..เมื่อภูติผีและอาถรรพ์ถูกกำจัดย่อมนำมาซึ่งสิริมงคลในชีวิตอย่างถึงที่สุด

    ศาสตราเทพสังหารนั้นพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เพื่อให้เป็นตัวแทนอำนาจของครูอาจารย์ทั้งหลายในฝ่ายปราบปรามอันเป็นของสูงมีอานุภาพมาก เพื่อประโยชน์ใหญ่แก่ผู้ศรัทธาต่อไปจะได้สามารถเชิญครูได้ช่วยเหลือตัวเองได้ แม้สิ้นยุคพ่ออาจารย์ท่านลงไปแล้วก็สามารถอาราธนาครูปลุกเสกเครื่องมงคลได้เองเปลี่ยนชีวิตตัวเอง...ท่านว่าสุดแล้วแต่จะกระทำด้วยแรงครูนั้นย่อมเป็นไปได้ทุกสิ่ง เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเทพอาวุธที่ทรงกำลังสูงสุดย่อมมีขั้นตอนยุ่งยากเป็นธรรมดา แต่ท่านตั้งใจมั่นว่าจะให้ผู้ศรัทธาได้อาราธนาไปใช้บรรเทาปัญหาและทัณฑ์ทรมานต่างๆในชีวิตใช้บรรเทาความทุกข์สามประการที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ได้แก่
    - ทุกข์ทางกาย
    - ทุกข์ทางจิต
    - ทุกข์จากภัยธรรมชาติ
    ของ้าวนี้สามารถควบคุมและเยียวยาพลังงานทุกอย่างได้เพื่อจะบรรเทาระงับความทุกข์ทั้งสามประการอันจะเกิดในชีวิตเพื่อที่จะหยุดความทุกข์ทั้งทางกาย,ทางจิตและธรรมชาติของผู้มีวาสนาได้ครอบครองอย่างสิ้นเชิงด้วย
    ในขณะเดียวกันของ้าวยังมีพลังในการทำลายโลกลวงตาทั้งสาม ประกอบไปด้วยโลกปัจจุบัน(กาย),โลกอดีต(กามา)และโลกของจิตใจ(อัตตา)เมื่อโลกเหล่านี้ถูกกำจัดไปได้จะทำให้บุคคลนั้นกลายเป็นผู้รู้แจ้งในที่สุด ด้วยพระแสงของ้าวอันเป็นสิ่งแทนกำลังสุริยะเทพนั้นมีอำนาจหยุดยั้งภัยพิบัติไม่ให้เกิดขึ้นได้ทั้งธาตุแสงยังเป็นธาตุที่มอบพลังชีวิตแก่สรรพสิ่ง เช่นนั้นพระแสงของ้าวจึงเป็นเทพศาสตราที่ใช้ขับเคลื่อนพลังชีวิตและเปลี่ยนแปลงชีวิตคนให้ขึ้นถึงจุดสูงสุดท่านว่าอาราธนาไว้ใช้สร้างตัวได้ นอกจากมีอำนาจในการทำลายเหมือนเทพศาสตราอื่นๆแล้วยังสามารถใช้ลบตัวตนทั้งรูปธรรมทุกสิ่งในมหาจักรวาลทิ้งไปและเมื่อทำการลบสิ่งใดแล้วยังส่งผลไม่ให้สิ่งนั้นมีกำเนิดขึ้นมาได้อีกยาวนานถึงกัปกัลป์เลยทีเดียว..จะใช้อาราธนาลบตัวตนของความทุกข์ยาก,ทุกข์ภัยชนิดใดในชีวิตเราอยากให้เทพวิญญาณในของ้าวช่วยลบก็บอกเขาเถิด จะลบพิบัติภัยทั้งเคราะห์และสิ่งอุบาทว์ทั้งหลายให้หายไปจากชีวิตเธอได้ซ้ำยังหายไปยาวนานนับกัปกัลป์เช่นนั้น นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงซึ่งท่านจะให้ใช้ตัดความทุกข์ยากแลทุกข์เข็ญนั่นเอง ด้วยสิ่งใดที่ระงับไปเพียงชั่วครู่แล้วมันก็เกิดขึ้นอีกนั่นคือสภาวะของความทุกข์ยาก สิ่งนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อมันสำคัญและเป็นปัญหาหนักของชีวิตก็เพียงลบตัวตนมันออกไปก็พอ

    กระตุ้นธรรม...ด้วยของ้าวคือพระแสงเป็นตัวแทนของแสงสว่างที่ใช้ทำลายความมืดมิดคืออวิชชา,ราคะ,กิเลส และความเกี่ยวพันคือสัญญาของสรรพสิ่งที่ผูกโยงเกิดเป็นกฏแห่งกรรม พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยพระแสงนั้นจะกระตุ้นทั้งมหาจักรวาลให้เกิดวงจรชีวิตและการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยต่างๆ เพราะแสงสว่างเป็นตัวนำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนไหว พลังชีวิตทั้งหลายก็เช่นกันเช่นนั้นท่านจึงเรียกของ้าวนี้ว่าศาสตรากระตุ้นธรรม คือกระตุ้นสิ่งที่นิ่งอยู่ให้เจริญงอกงามขึ้น กระตุ้นตัวตนความเป็นตัวของเราให้ทะยานขึ้นไปสู่จุดสูงสุด จะเห็นได้ว่ายากนักที่จะหาเทพศาสตราใดที่จะเป็นสัญลักษณ์ของนามธรรมทั้งยังมีอำนาจกระตุ้นนามธรรมอันยิ่งใหญ่ได้ถึงเพียงนี้เพราะทุกสิ่งนั้นล้วนมีอำนาจขัดกับกฏวัฏสงสารทั้งสิ้น นอกจากจะเป็นขีปณาวุธพิสัยไกลที่ใช้ลบตัวตนเป้าหมายทิ้งไปโดยไม่จำกัดเผ่าพันธุ์ไม่ให้เหลือชาติเหลือวิญญาณก็ย่อมได้เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำว่าอย่านำไปใช้ทำลายใครพร่ำเพรื่อ(ถ้าจะทำเช่นนั้นบาปกรรมต้องรับกันเอง) เมื่อทำด้วยวิชาให้เป็นเครื่องมงคลแล้วนอกจากจะเป็นยอดเทพศาสตรายังเป็นสัญลักษณ์ของความมีอำนาจ,เป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ,เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์,เป็นสัญลักษณ์ของเงินทองและความร่ำรวย ทั้งพระแสงของ้าวนี้จะบันดาลให้กระแสกรรมที่กระเพื่อมขึ้นๆลงๆตลอดเวลาของมนุษย์เกิดความมั่นคง เป็นผลให้ชีวิตเกิดความโดดเด่นและถึงซึ่งเกียรติยศชื่อเสียง เมื่อจะทำแรกเริ่มพ่ออาจารย์ท่านต้องหล่อธาตุกายสิทธิ์แล้วนำเข้าหลอมในพิธีกองกูณฑ์อัคคีหรือพิธีโฮมัมบูชาไฟแด่พระอิศวรเจ้า(ครูพระสยม)แล้วนำมาตะไบเป็นยอดพระแสงของ้าวเก็บไว้ จากนั้นจึงได้เตรียมผงว่าน,ผงยา,ผงยันต์ชั้นสูงสุด ที่ใช้ในการแก้ผี แก้อาถรรพ์ แก้มนต์ดำ แก้ไสยศาสตร์ ได้แก่
    - ผงยันต์ ผงยันต์แก้ผีทั้งสองร้อยยี่สิบเจ็ดสูตร,ผงยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์,ผงยันต์ตรีนิสิงเห ,ผงยันต์นอโม,ผงยันต์ธงชัยพระอิศวร,ผงยันต์ธงชัยพระอินทร์,ผงยันต์กันคุณไสย,ผงยันต์กันอาวุธ,ผงยันต์อิติโปโสแปดทิศ,ผงยันต์ไตรสรณคมณ์,ผงปราบไพรี
    - ผงว่าน ว่านแสงอาทิตย์,ว่านไพรเหลือง,ไพรดำ,ขมิ้นอ้อย,ขมิ้นชัน,ขมิ้นขาว,ขมิ้นดี,ขมิ้นทอง,หมุยดำ,หมุยขาว,หมุยช้าง,เฉียงพร้า,หมากผู้,ปด,บอน,หิ่งหายผี,บังบาย,หนาด,เข็ดมอญ,หญ้าคา,ว่านโมกขศักดิ์,ว่านมหาปราบ,ว่านพะตะบะ,ว่านสามพันตรึง,ว่านหนุมาน,ว่านนางคุ้ม,ว่านสากเหล็ก,หนามจันทัน,หนามบ้อง,หนามแสงขัน,หนามเพดาษ,หนามงับ,ระงับใหญ่,ข่าตาแดง,ขิง, พริกไทย,เจ็ดมูลเพลิง,บอระเพชร,ว่านน้ำ,พัดแม่ชี,ชิงชาลี,ธรณีสาร,ส้มป่อย,คนทีดำ,งิ้วดำ,งิ้วขาว,เปราะลาย,พญาว่าน,กำแพงเจ็ดชั้น,ใบมะกรูด,ใบมะนาว
    - ผงยา(ผงอาถรรพ์,ผงเขี้ยวงา) ผงลำผีพ่าย,ผงไล่ผีหนี,ผงตีผีตาย,นอแรด,เขี้ยวเสือ,ดีหมี,ชะมดเชียง,ผงงาช้าง,ผงเขาวัวเขาควาย,ผงตะไบปลายหอกปลายดาบ,ตะใคร่เจดีย์,ผงชันเพชร
    - ผงพระอิศวรปราบยุคเข็ญ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงยันต์ ผงว่าน ผงยานี้ต้องนำมาผสมผงที่ได้จากพิธีกองกูณฑ์อัคคีของครูพระสยมโดยว่านบางตัวต้องนำมาลงอักขระตามสูตรแล้วจึงเสกปลุกว่านปลุกเสกยาแล้วจึงบดเป็นผง และนำมาปั้นใหม่เป็นแท่งดินสอลงโองการพระอิศวรปราบยุคเข็ญแล้วเสกตามสูตรตามวาระก่อนโดยเชิญคณะเทพศิวะสาวกทั้งหมดตลอดจนมหาเทพแผ่บารมีแบ่งกำลังลงสถิตย์ในผงพระอิศวรปราบยุคเข็ญนี้ทุกอณูจึงจะสำเร็จเป็นผงศักดิ์สิทธิ์ ผงนี้ท่านว่าที่ใช้แก้ผีได้สารพัด,แก้คุณไสยที่เข้าทำไว้ในแผ่นดิน,แก้อาถรรพ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี แก้ได้ทั้งยาสั่ง,ยาเสน่ห์,ยาแฝด,ยาพิษ,ยารัก,ยาชัง,ยาหน่าย,ยาตาย,ยาประสาท,ยามนต์ต่างๆ รวมไปถึงแก้อุบาทว์ที่เกิดจากการทำของต่ำ,แก้คุณไสยที่โดนมานานจนเข้าเลือด,แก้วิชาที่ถึงขั้นวิบัติอย่างแรง ทั้งปัดป้องสิ่งอัปมงคลเสนียดจัญไร ที่สำคัญยังช่วยหนุนนำดวงชะตามิให้ตกต่ำอีกด้วย อันผู้ใดที่มุ่งมาตรปรารถนาให้ร้ายแก่เราหากมันผู้นั่นยังยืนอยู่บนผืนพระธรณีขอเพียงว่าหากเรายังอยู่บนผืนแผ่นดินนี้มันก็ทำอะไรเรามิได้ เรียกว่าตราบใดที่ยังมีแผ่นดินมันอยู่ก็ทำร้ายเรามิได้เลย ตราบใดที่พระเวทย์และพระธรรมยังมีอยู่ในโลกนี้เราจะปลอดภัย

    พ่ออาจารย์ท่านได้ทำด้ามพระแสงของ้าวด้วยการลงตะกรุดสูตรที่ครูพระสยมสั่งไว้นั่นคือลงด้วยสูตรยันครูธงชัยพระสยม..ธงที่ไม่เคยแพ้ใครในสามโลก..ธงนี้ได้ชื่อว่าเป็นธงมหาโชค,มหาชัย,ธงแห่งชัยชนะนิรันดิ์กาล แม้นชักออกประกาศขึ้นหรือตกอยู่ณ.ที่แห่งใดแล้วย่อมเป็นอำนาจนิรันดร์ที่จะสยบทุกสรรพสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูท่านให้ลงธงชัยพระสยมนี้ล้อมรอบโองการคำพรมหาเทพ อันประกอบไปด้วย
    - พระศิวะ(เทพแห่งการทำลายล้าง) อำนวยพรแห่งอำนาจและความสำเร็จ,อำนวยพรแห่งความเจริญ,อำนวยพรแห่งอำนาจเหนือบุคคลทั้งหลาย,อำนวยพรอันนำมาซึ่งผลกำไรอันมหาศาล,อำนวยพรอันนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างสูงสุด,อำนวยพรอายุยืน(ต่ออายุผู้ที่ใกล้สิ้นใจได้ชั่วคราว),อำนวยพรบำบัดโรค(สามารถรักษาอาการไข้ที่เป็นมานาน),อำนวยพรแห่งความสมบูรณ์(บันดาลให้พ้นจากความยากจน),อำนวยพรกันอุบาทว์กันเสนียดจํญไรกันคุณไสยอวิชชาทั้งสิบหกภาษา
    - พระวิษณุนารายณ์(มหาเทพผู้ปกปักรักษาโลกมนุษย์) ผู้ดูแลรักษาทุกสรรพสิ่งอำนวยพรขจัดเหล่ามารและสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง,อำนวยพรคุ้มครองชะตาชีวิต,อำนวยพรบันดาลวาสนาแก่มนุษย์,อำนวยพรประทานแสงสว่างส่องกระจายในจิตที่มืดบอด,อำนวยพรขจัดบาป,อำนวยพรขจัดความขัดข้อง,อำนวยพรสร้างความภูมิฐานและการชนะทุกสิ่ง
    - พระพรหม(มหาเทพผู้สร้างโลกและลิขิตชีวิตมนุษย์) อำนวยพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา,อำนวยพรแห่งความคิดการสร้างสรรค์,อำนวยพรทางชะตาลิขิต,อำนวยพรบันดาลให้มีความสุขและสมบูรณ์ในชีวิต,อำนวยพรให้เกิดปัญญาในการประกอบอาชีพ,อำนวยพรความแข็งแรงปกป้องให้ห่างจากศัตรู,อำนวยพรความรู้แจ้ง,อำนวยพรให้เกิดความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณ
    - พระอินทร์(เทวราชผู้ครองสวรรค์) อำนวยพรบันดาลให้เหตุการณ์ทุกข์ต่างๆคลี่คลาย,ไอำนวยพรบันดาลให้ได้รับการคุ้มครองจากธรรมชาติ,อำนวยพรให้พ้นจากสิ่งเลวร้ายต่างๆ,อำนวยพรให้ชีวิตมีความสุขปราศจากมลทินและความเศร้าทุกข์ใดๆ
    - ท้าวกุเวร(พระคลังสวรรค์) อำนวยพรประทานทรัพย์สมบัติ,อำนวยพรความมั่งคั่งร่ำรวย,อำนวยพรลาภยศแก้ไขชีวิตให้ราบรื่น,อำนวยพรป้องกันภูติผี ปีศาจกันมนต์ดำปัดคุณไสย์ต่างๆ,อำนวยพระไม่ให้มีชีวิตอับจน,อำนวยพรให้มีกินมีใช้มิได้ขาดอย่างอัศจรรย์
    - ยมเทพ(เทพบรรพบุรุษ) อำนวยพรต่ออายุให้ยาวนาน,อำนวยพรให้หายจากโรคภัยต่างๆ,อำนวยพรให้พ้นจากอำนาจวิญญาณและพลังงานฝ่ายต่ำ
    - พระกาล(ผู้ควบคุมห้วงมิติกาลเวลา) อำนวยพรหยุดทุกข์,เคราะห์,เหตุเภทภัยทั้งหลาย
    - พระฤาษี(อำนาจแห่งธรรมและการบำเพ็ญเป็นพรที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด) อำนวยพรปัดเป่าลางร้าย,อำนวยพรส่งเสริมชะตาชีวิตภัยในทุกสถาน ทุกกาล ทุกเมื่อ ให้ถือคตินี้ไว้ให้มั่นคง
    ด้วยพระแสงของ้าวนั้นเป็นเทพศาสตราระดับสูงสุดพ่ออาจารย์ท่านว่า
    แค่คิดจะทำก็ยากแล้ว กว่าจะทำได้ก็ไม่ใช่ง่าย เมื่อได้แต่ละอย่างแล้วก็ต้องนำมาประกอบกันและอุดด้วยผงสำคัญที่เตรียมไว้ เพียงแค่ตะกรุดที่ใช้เป็นแกนก็ต้องใช้คำพรและอำนาจของเหล่ามหาเทพสำคัญอันเป็นกฏและตัวแทนของธรรมชาติมากมายผูกขึ้นมา เมื่อประกอบสำเร็จก็ต้องเชิญครูฝ่ายปราบปรามทั้งหมดแบ่งกำลังของท่านให้กำเนิดในรูปลักษณ์ใหม่ เพื่อให้คนใช้ได้นำไปสักการะเป็นเครื่องมงคลแรงครูหนุนนำชีวิตพ่ออาจารย์ท่านว่าพระแสงของ้าวนี้นี้ล้างอาถรรพ์ได้ทั้งปวงแม้แต่อาถรรพ์ชีวิต สุดแล้วแต่จะประดิษฐ์คิดวิธีใช้ได้เลยนั่นเพราะสิ่งนี้มีค่ามากเกินคำว่าค่าควรเมืองไปไกลลิบ

    ด้ามภายในใส่ตะกรุดเวทย์สวรรค์พิชัยสมบัติจักรพรรดิ์วิญญาณ
    พ่ออาจารย์ท่านได้เล็งเห็นสภาวะปัจจุบันว่าเศรษฐกิจไม่ดี การค้าการขายย่ำแย่ และคนตำแหน่งสูงๆก็ยังโดนปลดออกกันเป็นว่าเล่น เช่นนั้นการเล่นศึกในปัจจุบันก็คือสงครามชีวิตเป็นสงครามที่ต้องเอาชัยกันในการแข่งขันเพื่อให้ตนอยู่รอดท่านจึงวิชาเวทย์สวรรค์ชุดเฉพาะที่เรียกว่าพิชัยสมบัติจักรพรรดิ์วิญญาณ..ทำเป็นแกนใส่ไปด้านในพระแสงของ้าวนี้อีกคำรบหนึ่ง(หากคลอนหรือเขย่าดูจะได้ยินเสียงขลุกขลักที่ตะกรุดวิ่งภายใน) เพื่อปรารถนาจะช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบกับความตกต่ำของชีวิตและสังคมเหล่านั้น ด้วยเป็นวิชาเฉพาะทางเป็นวิชาพระเวทย์เเต่โบราณที่หาคนรู้คนศึกษาได้ยากเเทบจะหายสาบสูญไปเเล้ว..สามารถใช้อันเชิญพลังทิพย์ของสิ่งศักดิ์สิทธื์ได้ ดังนั้นถ้าไม่เกิดวิกฤติตกต่ำอย่างแท้จริงท่านย่อมเลี่ยงที่จะเอาออกมาใช้

    ด้วยตะกรุดเวทย์สวรรค์ปกตินั้นมีราคาสูงมากแค่ตัวปกติที่พอจะจับจองบูชาได้ก็นับกันที่หลักหมื่นขึ้นไป ยิ่งตัวพิเศษๆนั้นเอาว่าแม้หลายๆคนมีเงินมากองไว้ท่านก็ยังไม่ลงให้เพราะวาสนาไม่ถึง ซ้ำตัวตะกรุดเองก็น้ำหนักค่อนข้างมาก มีขนาดค่อนข้างใหญ่ผิดปกติเรียกว่าคนที่บูชาไปแม้อยากจะพกก็ยังพกได้ยาก ดังนั้นนานๆจึงต้องนำออกมาใช้มาดูซักครั้ง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกตินั้นตะกรุดก็เป็นเครื่องคาด พอเอาไปไม่คาดไม่ใช้นานๆเข้าสายสัมพันธ์มันก็ไม่เกิด ท่านพิจารณาถ้วนถี่เห็นว่าสภาพสังคมในปัจจุบันนั้นเป็นวาระกรรมใหญ่ที่รับร่วมกัน ท่านจึงนำตะกรุดเวทย์สวรรค์ชุดพิเศษที่ท่านลงไว้ออกมาให้บูชาใส่ไปในแกนพระแสงของ้าว

    ด้วยตะกรุดนี้เป็นวิชาท่านไม่สามารถลงเองได้ เพราะเป็นอักขระที่เหนืออักขระเป็นธรรมที่เหนือธรรม เรียกว่าตอนลงนั้นต้องแฝงธาตุเชิญครูแฝงอาการหรือก็คือให้ครูผูกมือผูกวิญญาณแล้วทำการลง อักขระที่เขียนนั้นล้วนเป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ใช่ทั้งขอมทั้งธรรมทั้งเทวนาครีหรืออะไรทั้งสิ้น แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าเธออ่านไม่ออกเห็นแล้วมองไม่รู้เรื่องเช่นนี้แหละรู้ไว้แค่ว่ามันขลังนักก็ถ้ามนุษย์อ่านกันออกมันจะเรียกว่าเวทย์สวรรค์ได้อย่างไร ชุดนี้ที่ฉันทำครูในโลกทิพย์ท่านเรียกว่า
    "พิชัยสมบัติจักรพรรดิ์วิญญาณ" (ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ใส่กล่องเล็กๆเอามาไว้หนุนหัวนอนตลอดชุดหนึ่งเพราะท่านเชื่อว่าเป็นของสูงมากและก็มีอานุภาพมาก)

    มารู้จักเวทย์สวรรค์กันก่อน....วิชาทำตะกรุดนี้ถือเป็นการทำตะกรุดครูอีกประเภทของพ่ออาจารย์ที่ว่าด้วยวิชาในหมวดของพระเวทย์สวรรค์ซึ่งเป็นวิชาพระเวทย์เเต่โบราณกาล ปกติท่านจะไม่โปรดนำมาทำมาใช้ซักเท่าไหร่ วิชานี้อักขระที่ใช้เขียนไม่ใช่ตัวธรรมหรือตัวขอมเเต่เป็นอะไรที่ล้ำเเละลึกกว่านั้น ชื่อก็บอกอยู่เเล้วว่าเป็นเวทย์สวรรค์เป็นวิชาของพรหมของเทวดาเขาใช้กัน จึงนับเป็นโอกาสดีที่พ่ออาจารย์ได้เมตตาทำตะกรุดนี้ให้พวกเราได้เป็นคนใช้ได้เป็นผู้ถือครอง พ่ออาจารย์กล่าวว่าเธอเคยได้ยินวิชาหมากินความคิดของสายอีสานมั๊ย อันนี้คนละเรื่องเลย พุทธคุณคล้ายกันเเต่หนักหน่วงกว่าเอ่ยปากภาวนาขออะไรก็เเล้วเเต่กับตะกรุด ปรารถนาสารพัดที่มีต้องได้ต้องเห็นผลนี่คือเวทย์สวรรค์ตัวนี้มันให้ผลเเรงเเละไวเเต่ต้องไม่เกินกรรมของเราเพราะชีวิตคนเรามีความต้องการความปรารถนาไม่รู้จบ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีวิชาเเละเครื่องรางที่ทำให้เขาได้ในสิ่งที่คิดไปซะหมด..เเน่นอนว่ายุ่งไม่รู้จบ วิชาต่างๆจึงถูกเก็บถูกปิดไม่ถ่ายทอดกันเช่นพระเวทย์สวรรค์วิชานี้ไม่มีการถ่ายทอดเลยเเละก็ห้ามเราถ่ายทอดด้วยให้ตายไปกับตัวเราเหมือนกัน

    วิชานี้ใช้ขออะไรได้สารพัดขอเลยเธอเอ๋ย ขอได้ยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรมันอันตรายตรงนี้ วิชานี้จะเเรงมากหรือน้อยมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรานะมันขึ้นอยู่ที่ใจคนใช้ที่ต้องเชื่อมั่นเจ้าตะกรุดนี้โดยปราศจากเหตุผล เเบบว่าเชื่อเต็มร้อยนั่นเเหละมั่นใจมากก็แรงมาก..มันจะเเรงไม่เเรงเเค่ไหนอยู่ที่ใจคนใช้เลย อันนี้บอกไว้ก่อนว่าถ้ามั่นใจสนิทใจมากก็ยิ่งขอได้ไวมากสำเร็จผลมาก ที่ว่าเป็นดาบสองคมก็เพราะน้ำใจคนนี่มันน่ากลัวมันไม่ได้มีจำกัดนะ ถ้าศรัทธาเชื่อมั่นเเละถือขึ้นมันก็จะยิ่งทับทวีเเละยิ่งมีพลังมากขึ้นเรียกว่าขึ้นเอาขึ้นเอานั่นแหละ ทีนี้เเหละจะเปรียบให้เห็นภาพก็เหมือนเล่นลมบนบินสูงอย่างพญาครุฑเลย ก็ตามที่บอกว่าเป็นวิชาของเทวดา..เทวดาเขาใช้กัน วิชาเหล่านี้จึงไม่มีปะปนหรือมีให้เห็นเเพร่หลายนัก เราเองก็เลือกคนให้ เพราะว่ามันเเรงเท่ากับใจคนใช้เเล้วคนส่วนมากที่กล้ามาเอาใจเขาก็เเรงมันก็ยิ่งเสริมยิ่งผลักให้สำเร็จไปกันใหญ่ เเต่เราก็ต้องดูจริตคนนะต้องไม่มากไปไม่มักใหญ่ใฝ่สูงถึงจะให้เขาเอาไปบูชาได้ ถามว่าใช้ได้เเค่ไหนขออะไรได้ ให้ใช้ใจเราเป็นมาตรฐานว่าควรจะขอมั๊ยดีกว่าขอได้ให้อยู่ในกรอบสิ่งที่ดีงามเเละความเจริญก้าวหน้าของตนเอง..ทีนี้มาดูกันต่อ วิชานี้ถ้าเราเอาไปขอซี้ซั่ว มันได้มั๊ยมันก็ได้เเต่ได้เวรกรรมติดมาด้วย ก็บอกเเล้วว่าเป็นวิชาของเทพยดาเขาใช้กันไปไหนเขาก็ตามกันไปเป็นสื่อให้เราเข้าถึงเขาง่าย ว่าก็ว่าเถอะไอ้ของเเบบนี้เวลาได้มันได้มากเเต่ถ้าเอาไปใช้ผิดมันจะเจ็บมากเวรกรรมจะสนองไว วิชานี้แปลกนะเวลาเราลงจะเป็นเสมอๆน้ำมูกน้ำหูน้ำตาจะไหลมาเองแบบอัตโนมัติถ้าไปทำให้ใครเห็นเขาจะนึกว่าเราบ้า นั่งเขียนภาษาอะไรก็ไม่รู้ขอมก็ไม่ใช่ธรรมก็ไม่ใช่เขียนไปร้องไห้ไปมีปิติตั้งไว้สูงถึงขนาดนั้น กว่าจะเสร็จดอกนึงนี่ก็เล่นเอาเหนื่อยมากเพราะไปเเตะของสูงวิชาของเบื้องบนเขาและวิชานี้ที่ใช้ขอได้สารพัดมันธรรมดาซะที่ไหน ต้องลงเต็มแผ่นทั้งหน้าหลังทีเดียวไม่ใช่เขียนไม่กี่ตัวกว่าจะได้คนทำร่างกายก็เเย่ ถ้าสั่งปั๊มก็ไม่ได้เรื่องอีกเพราะสูตรการลงเรารู้อยู่เเก่ใจว่ามันต้องทำมาจากมือของเราจะเเค่ปั๊มมาเป่าก็ไม่ได้

    ทีนี้เราก็เเค่ปรารถนาให้คนได้ไปเขาใช้ให้ถูกทำนองคลองธรรมเเค่นั้น มนุษย์นี่มีปากมีความปรารถนา ตะกรุดนี่เหมาะกับคนช่างขอขอไปเถอะขอจนกว่าจะได้เเละอย่าหยุดที่จะขอ ถ้าขอเเล้วยังไม่ได้ให้ตัดพ้อน้อยเนื้อต่ำใจว่าออกไปเลยนั่นเเละได้เเน่ เทวดาบางทีเขาก็ยึกยักลังเลเเต่เขากลัวอบายภูมิถ้าเราตัดพ้อว่าเค้ารับรองว่าไม่กล้าไม่ช่วยประสงค์จะสื่อจะขอองค์ไหนก็ออกนามท่านไปเลย ถ้าเรื่องมันใหญ่มันพูดกันยากอยากเห็นผลไวมากให้เอากระถางธูปมาเอาตะกรุดนี่ปักไว้(พระแสงของ้าวเพราะตะกรุดบรรจุลงไปแล้ว) จุดกลางเเจ้งนะธูป36ดอกจุดบอกเขาไปพอธูปหมดให้เก็บตะกรุดทันทีได้เรื่องเเน่เเค่ขอธรรมดาลำพังตะกรุดนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเเรงมากเเล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าทำให้เห็นให้รู้ไว้ว่าของสูงเเละพระเวทย์ดึกดำบรรพ์ที่อาถรรพ์เเรงให้คุณมหันต์เหล่านี้ยังไม่ได้หายไปไหนเเต่เเค่ไม่ปรารถนาที่จะทำบ่อยก็เท่านั้น ท่านว่าใครรู้เนื้อตัวเเละต้องการหรือตามหาวิชานี้ก็ให้เขาจองเอาไว้เพราะพลาดแล้วจะไม่มีให้เห็นอีกท่านไม่ได้อธิบายอะไรเยอะ เพราะเป็นพระเวทย์สวรรค์ด้วยเเถมยังใช้ขอได้ทุกอย่างด้วยถ้าพูดเยอะมันจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอกมากเกินไป

    ทีนี้ตะกรุดเวทย์สวรรค์ที่ชื่อพิชัยสมบัติจักรพรรดิวิญญาณนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหลักๆเลยก็จะลงด้วยองค์แห่งธาตุแสงนั่นก็คือพระสุริยาทิตย์ที่เป็นตัวแทนองค์ธรรมต้นกำเนิด ด้วยถือว่าแสงนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานที่ทำให้ทุกชีวิตสามารถขับเคลื่อนทำกิจกรรมต่างๆต่อไปได้ จึงถือเป็นอาถรรพ์ยิ่งใหญ่แห่งสภาวะองค์ธรรมที่จะทำให้มนุษย์นั้นเจริญรุ่งเรือง..มีชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง..ไม่ตกต่ำ..ไม่เสื่อมถอยและมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดได้ไกลกว่าชนทั้งหลายอันไม่มีองค์ธรรมซึ่งเป็นต้นกำเนิดสรรพชีวิตเกื้อหนุน พ่ออาจารย์ท่านว่าในโลกทิพย์นั้นเรียกองค์ธรรมแห่งธาตุแสงว่า"จักรพรรดิวิญญาณ"... ซ้ำตำรับนี้ท่านยังลงไว้ผูกอาถรรพ์คู่กับต้นปาริชาติอันเป็นสมบัติวิเศษแห่งดาวดึงส์พิภพที่มีอานุภาพยิ่งใหญ่ นั่นคืออยากได้อะไรแม้อธิษฐานใจกับต้นปาริชาติย่อมได้สมความปรารถนาทั้งสิ้น เรียกว่าจะหมายเดือนหมายดาว,จะเอานางฟ้า,เอาสมบัติเทวดา,จะเอาปราสาทวิมานต่างๆแม้กระทั่งทิพย์สมบัติย่อมขอจากปาริชาติได้ทั้งสิ้นท่านว่าขอได้หมดไม่มีลูกจะขอลูกก็ยังได้ เช่นนั้นปาริชาติจึงเป็นต้นไม้ต้นเดียวที่อสูรพิภพลงทุนทำสงครามนานกับเทวดามายาวนานชนิดที่เรียกว่านับกัปกัลไม่ได้เพื่อจะหาทางแย่งชิงปาริชาตินั้นไปไว้ในพิภพของตน พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อหนุนให้เวทย์สวรรค์ขอได้ทุกสิ่งอย่างแท้จริงจึงต้องลงรูปธรรมของปาริชาติเอาไว้ด้วยจะได้ขับเคลื่อนทั้งพลังชีวิตและพลังความปรารถนาได้พร้อมๆกัน พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าเมื่อครูเมตตาตั้งนามมาดังนี้คือเวทย์สวรรค์ชุด(พิชัยสมบัติจักรพรรดิวิญญาณ) ท่านจึงนำผงวิเศษอีกสองตระกูลมาปั้นเป็นปลายด้ามของ้าวเพื่อปิดมวลสารและตะกรุดเวทย์สวรรค์ภายในทั้งยังจะได้เน้นให้เกิดอานุภาพสูงสุดยิ่งขึ้นไปอีก

    1. ผงพิชัยสมบัติ สุดยอดวิชาจากตำราพระพิชัยสงครามนั่นคือวิชาพิชัยสมบัติ ซึ่งหาผู้รู้จริงทำจริงที่จะทำได้ยากเพราะเป็นที่สุดของวิชาโภคทรัพย์ตามตำรับพิชัยสงคราม ซึ่งแต่โบราณนั้นอย่าหวังว่าคนธรรมดาสามัญจะมีไว้ในครอบครอง ยิ่งการเสกด้วยวิชาพิชัยสมบัตินั้นยิ่งยากเข้าไปอีกเพราะพิชัยสมบัตินั้นเป็นวิชาที่จะเปิดดวงคนให้มีชัยชนะเหนือทรัพย์ทั้งหลายโดยไม่สนชะตาชีวิตหรือสิ่งที่ผ่านมานั้นเอง ท่านว่าวิชานี้ไม่ใช่วิชาชนชั้นทั่วไปแต่เป็นวิชาโชคลาภโภคทรัพย์ตำรับพิชัยสงครามเป็นวิชาที่ทำถวายเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน พ่ออาจารย์ท่านให้ความสำคัญกับวิชานี้มากด้วยว่าเป็นวิชาที่มีอานุภาพค่าควรเมืองตำรับหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านให้ความสำคัญกับวิชาพิชัยสมบัติมากท่านว่าถึงกาลควรแก่เวลาแล้วที่คนจะได้เปิดดวงเบิกบุญปรับหนุนโชคชะตากันเสียที วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านต้องลงอักขระเลขยันต์ตามตำรับหนุนด้วยสี่เทวราชที่คุมมหาทิศทั้งสี่นั่นคือท้าวจตุโลกบาลท่านว่าเพราะแบบนี้ไม่ว่าอยู่ทิศไหนที่ไหนก็รวยเพราะเป็นอาญาสิทธิ์ของจตุโลกบาล ไม่เพียงเท่านั้นวิชานี้ยังเป็นวิชาที่เสริมส่งคนใช้ด้วยคุณของสิบสองพระโพธิสัตว์อีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าพระโพธิสัตว์ทุกองค์นั้นล้วนมีจิตเมตตาเปี่ยมด้วยมหากรุณาอันยิ่ง แน่นอนว่าทุกพระองค์ย่อมโปรดสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ยากได้ด้วยจิตมหากรุณานี้ แต่ท่านว่านี่ยิ่งแล้วใหญ่เลยเพราะไม่ใช่มีกำลังเพียงหนึ่งแต่นี่มีถึงสิบสอง วิชาพิชัยสมบัตินั้นจึงเป็นวิชาสำคัญที่พลิกชีวิตคนได้แบบฉับพลันทันที เป็นวิชาชั้นสูงตามตำรับพิชัยสงครามมีคุณอันหาค่ามิได้ ท่านว่าหากได้ไว้ผูกตัวหรือนำติดกายบูชาคนผู้นั้นจะเจริญรุ่งเรืองยกฐานะตนเองได้ แม้อยู่กับตัวก็ยกฐานะตัวแม้นำไปฝังในบ้านก็ยกฐานะเพิ่มทรัพย์สมบัติให้แก่เรือน หากบ้านไหนมีพระภูมิเทวดานำผงวิชานี้ไปฝังที่บริเวณพระภูมิพ่ออาจารย์ท่านว่านี่ดีวันดีคืนทีเดียว เป็นอาญาสิทธิ์ท้าวจตุโลกบาลและสิบสองพระโพธิสัตว์ให้พระภูมิเจ้าที่รีบหาสมบัติมาให้ตรงไหนพร่องก็ต้องเติมให้เต็มอยู่เฉยมิได้เลย หากตั้งใจบูชาแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ล้วนแต่ผลิดอกออกผลงอกเงย ที่จะได้ชั่วหรือเสมอตัวนั้นหามีไม่ด้วยเป็นวิชาที่สืบมาแต่บูรพาจารย์มีคุณด้านโชคลาภสูงส่งเชื่อถือกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแล้วว่าเป็นสุดยอดวิชาทางด้านเรียกโชคลาภให้หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ชีวิตใครไม่เคยมีโชคหากจับพิชัยสมบัติขึ้นมาจะพลิกเปลี่ยนวาสนาได้ฉับพลันทันที ด้วยว่าพิชัยสมบัตินั้นคือปรับชีวิตให้มีชัยชนะเหรือทรัพย์สมบัตินั้นเอง ให้ผู้ใช้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติทั้งหลายนี่จึงไม่ใช่วิชาโชคลาภโภคทรัพย์ธรรมดา สิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ก็จะบังเกิดขึ้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ความปรารถนาใดที่ต้องใช้ความอุตสาหะมากใช้ความเพียรมากทำให้ชีวิตเรายากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน สิ่งเหล่านั้นล้วนแต่จะสำเร็จสมปรารถนาดั่งตั้งจิตมุ่งหวังไว้ไม่เคลื่อนคลายเพราะนี่คือพิชัยสมบัติตามตำรับพิชัยสงครามอย่างแท้จริง
    2. ผงจักรพรรดิ ที่พ่ออาจารย์ลบถมตามสูตรยันต์ทำตะกรุดมหาจักรพรรดิมีอุปเท่ห์ดังนี้ สิทธิการิยะ ท่านทิศาปาโมกขาจารย์ ท่านได้ประชุมกันสร้างมหายันต์นี้ขึ้น โดยจารึกไว้บนแผ่นหินบรรจุไว้ในสระน้ำใหญ่ เพื่อหวังที่จะให้กุลบุตรผู้ใดที่เล่าเรียนพระไตรปิฎกได้อาบกินน้ำในสระนั้นแล้ว สติปัญญาความทรงจำจะได้ดีขึ้น
    - อนึ่งถ้าหากกุลบุตรผู้ใดปรารถนาจะใคร่จำเริญในลาภและยศ ท่านให้ลงพระมหายันต์นี้ใส่ในแผ่นทองคำก็ได้แผ่นทองแดงหรือแผ่นตะกั่วก็ได้ทำเป็นตะกรุดเอาแช่น้ำบูชาไว้ ยิ่งแช่ไว้ในขันสัมฤทธิ์(หรือขันน้ำมนต์ที่ประกอบขึ้นตามพิธี)ยิ่งดี เอาน้ำที่แช่ตะกรุดนั้นกินบ้างลูบหน้าบ้างเอารดศรีษะบ้าง บำบัดโรคภัยทั้งหลายทั้งจะมีอายุยืนนานบังเกิดลาภยศตามแต่จะถึงปรารถนาอธิษฐานเอาเถิดได้สำเร็จความปรารถนาทุกประการแล
    - อนึ่งจะให้มีตบะเดชะให้เอาตะกรุดมหาจักรพรรตธิราชนี้ผูกเอวไว้ ให้รูดตะกรุดนั้นไว้ข้างหน้า ใครเห็นใครก็กลัวใครเห็นใครรักแล ถ้าจะเล่นการพนันให้รูดตะกรุดนั้นมาไว้ข้างหน้า ตั้งใจอธิฐานเอาว่าจะต้องการเงินสักเท่าไหร่ก็ให้พึงเอาเพียงนั้นเถิด พึงตั้งมั่นอยู่ในความสัตย์ให้ตั้งความปรารถนาทุกอย่างไม่แพ้แก่ใครในการเล่นการพนันเลย
    - อนึ่งถ้าจะให้ทำมาค้าขึ้น เพื่อที่จะขายสินค้าได้คล่องๆให้เอาตะกรุดนี้แช่ทำน้ำมนต์เอาน้ำมนต์นั้นประพรมสินค้าก็จะซื้อง่ายขายคล่องแล ถึงแม้ว่าผีเข้าคนอยู่ก็ดีเกิดโรคภัยไข้เจ็บทุกขเวทนาต่างๆก็ดี เอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนี้ประพรมผีร้ายออกหนีไปสิ้นมิอาจจะอยู่ได้เลยเป็นอันขาด ทั้งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆก็จะบรรเทาสูญหายถอนแก้กระทำย่ำยีถูกเสน่ห์ยาแฝดหายสิ้นทุกประการ ประพรมบ้านเรือนปัดเป่าตัวเสนียดจัญไรต่างๆหายสิ้นกันฟ้ากันไฟก็ได้ ถ้าหากถูกคดีเป็นถ้อยร้อยความให้เอาน้ำมนต์แช่ตะกรุดนี้อาบรดจะมีชัยชนะแก่คู่ความแล
    - อนึ่งถ้าจะกันโจรผู้ร้ายมิให้ทำอันตรายแก่เรา ให้เอากรวดหรือทรายมาแล้วเอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนี้ประพรมบริเวณบ้านเรา อธิษฐานขอเอาบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสงฆ์คุณ จงมาช่วยคุ้มครองป้องกันอันตรายบรรดาคนคิดร้ายที่เข้ามาเหยียบถูกเอากรวดทรายที่หว่านโปรยไว้ จะบันดาลให้มีอันเป็นไปต่างๆนานามิสามารถที่จะทำร้ายเราได้เลย
    - ตะกรุดดอกนี้อยู่กับผู้ใด ผู้นั้นเจริญในลาภยศมิรู้ขาดเลย ถึงแม้จะมีอุปสรรคอันตรายบาปเคราะห์รบกวนสักเท่าไหร่ก็ดีก็สามารถจะฝ่าฟันไปได้มิรู้ยากรู้จนเลยเจริญในลาภยศทุกประการ คุ้มกันสรรพเสนียดจัญไรคุณไสยนานาประการสารพัด นำติดตัวไปสารทิศใดก็ดีข้าศึกศัตรูพ่ายแพ้ไปสิ้นมิอาจจะทำอันตรายแก่เราได้ เป็นที่รักที่ชอบแก่คนทั้งหลาย แม้เข้าประจัญด้วยข้าศึกศัตรูก็บันดาลให้เกิดมีตบะเดชะเป็นมหาจังงังแก่ข้าศึกทั้งมวล อย่าว่าแต่ศึกมนุษย์ถึงเทพยดาก็ครั้นคร้ามแล อุปเท่ห์ของตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราชนี้สารพัดใช้ได้ทุกประการทรงคุณานุภาพเหลือจะคณานับประสิทธิทุกประการแลตามแต่จะใช้เถิด (พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ก็มีอานุภาพเช่นตะกรุดนั้นเอง)
    ด้วยเป็นเวทย์สวรรค์ดึกดำบรรพ์ท่านว่าให้อาราธนาไว้เดี๋ยวก็จะรู้เอง เอาว่ามีผลพลอยได้เกิดขึ้นอยู่เสมอๆกับคนใช้ ท่านว่าให้สังเกตุเอาด้วยตัวเองว่าต่อไปนี้จะสามารถจับสัมผัสหรือเริ่มมีความรู้สึกถึงพลังงานทั้งจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออำนาจในเครื่องมงคลทั้งหลายได้อย่างชัดเจนขึ้นที่ละน้อยตามผลการขัดเกลาของตะกรุด


    คาถาบูชา
    ท่านว่าไม่ต้องใช้
    เพราะเป็นศาสตราวุธเทพวิญญาณ ที่ให้ใช้ก็คือการขอการคุยกับพระแสงของ้าวนี่เเหละเพราะเขามีตัวรู้มีจิตวิญญาณเป็นภาชนะรองรับชั้นดี ถ้าเราใส่กำลังใจเเละความรู้สึกลงไปมากสิ่งที่ขอมันก็เห็นผลมากเป็นสูตรการใช้ที่ขึ้นอยู่กับกำลังใจเราเลย ไม่ต้องไปมองใครที่ไหนวิชานี้คือตัวเราล้วนๆ..นี่มันดีเเบบนี้ ถ้ามั่นใจใจตัวเองนั่นเเหละแรง

    การบูชา
    ถ้าห้อยติดตัวไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสักการะยกเว้นจะใช้บูชาไว้กับบ้านควรบูชาด้วยพวงมาลัย ดอกไม้หอมต่างๆ เช่นดอกมะลิ ดอกดาวเรือง น้ำอบ น้ำหอม แป้งหอม น้ำผลไม้ หรือน้ำหวานต่างๆ ตามสมควร(ไม่ต้องจุดธูปก็ได้) แล้วอฐิษฐานขอพรเอา...ดั่งใจปรารถนา


    *** ศาสตราเทพสังหารของ้าวฟาดมังกรจันทร์ฉงายนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้คนที่โดนข่ม,โดนรังแก,คนที่อยู่ในอำนาจผู้อื่นโงหัวไม่ขึ้น,คนที่อยากจะเป็นอิสระจากสิ่งหน่วงถ่วงอยู่ในชีวิต ท่านว่าก็ให้มาอาราธนาไว้ติดตัวไว้ไม่ห่างกายพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นอาถรรพ์แก้เคล็ดเพราะเป็นเครื่องสูงที่ใช้ประหารเจ้าชีวิตเป็นของเฉพาะจอมทัพหรือกษัตริย์ ###ผู้ใดได้ครอบครองเสมอด้วยกับได้อำนาจควบคุมอาณาเขต(จะมีทุกสิ่งที่ตนอยากมีคือจตุปัจจัยสี่ทั้งที่ดินบ้านรถบริวารสมบูรณ์) ทั้งเวลาขออะไรขอพรอะไรแล้วไม่ได้ต่อไปจะได้ขอได้บอกได้อธิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ พระแสงของ้าวนี้ชีวิตท่านนั้นทำได้แค่ครั้งเดียว ใครมีวาสนารู้ตัวว่าต้องตัดกรรม..ตัดสัญญา..ตัดชาติเวรใดๆที่ให้ผลในปัจจุบันอยู่ก็ให้นำไปใช้และเก็บรักษาไว้ให้ดีเวลาใช้ก็บอกกล่าวกับท่านเอาเพราะท่านเป็นเทพศาสตราที่มีจิตวิญญาณเสมือนอำนาจพระเป็นเจ้าเป็นรูปปรากฏของกฏนามธรรมทั้งหลายดังนั้นเพียงแค่บอกกล่าวก็ถือว่าดีแล้ว..พระแสงของ้าวนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้สิบสามเล่มทั้งท่านใช้เองด้วยและมีแบ่งให้บูชาแก้ปัญหาชีวิตคนที่เดือดร้อนไปแล้วบ้างปัจจุบันจึงมีให้บูชาเพียงเจ็ดเล่มเท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้สมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป ### รายการนี้ท่านว่าไม่ต้องแจ้งชื่อนามสกุลฉันเพราะเทพวิญญาณเขาเลือกเจ้าของทั้งหมดแล้ว และมันจะแรงแค่ไหนไปได้ถึงจุดไหนก็ขึ้นอยู่กับใจคนใช้เองด้วยเป้นของที่ไม่มีขีดจำกัด

    ร่วมทำบุญบูชา ศาสตราเทพสังหารของ้าวฟาดมังกรจันทร์ฉงาย(กระตุ้นธรรม) บูชา 4,000 บาท
    115905318-1025397867879411-1757975784982373403-n.jpg
    116092942-2987310444700472-1758425979056157648-n.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ประโยชน์ของสมาธิภาวนา
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนา ๔ ประการนี้

    สมาธิภาวนา ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ

    ๑. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบัน

    ๒. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อได้ญาณทัสสนะ

    ๓. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะ

    ๔. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะ


    สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบัน เป็นอย่างไรคือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้สงัดจากกามและอกุศลธรรมแล้ว บรรลุปฐมฌานที่มีวิตก วิจาร ปีติ และสุขอันเกิดจากวิเวกอยู่ เพราะวิตกวิจารสงบระงับไป บรรลุทุติยฌานมีความผ่องใสภายใน มีภาวะที่จิตเป็นหนึ่งผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิอยู่ เพราะปีติจางคลายไป มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย บรรลุตติยฌานที่พระอริยะสรรเสริญว่า ‘ผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข’ เพราะละสุขและทุกข์ได้ เพราะโสมนัสและโทมนัสดับไปก่อนแล้ว บรรลุจตุตถฌานที่ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่ สมาธิภาวนานี้ที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบัน

    สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อได้ญาณทัสสนะเป็นอย่างไร คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้มนสิการถึงอาโลกสัญญา (ความกำหนดหมายในแสงสว่าง) อธิษฐานทิวาสัญญา (ความกำหนดหมายว่ากลางวัน) ว่า กลางคืนเหมือนกลางวัน กลางวันเหมือนกลางคืน มีใจสงัดไม่มีเครื่องร้อยรัด อบรมจิตให้สว่างอยู่ สมาธิภาวนานี้ที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อได้ญาณทัสสนะ

    สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะเป็นอย่างไร คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้รู้แจ้งเวทนาที่เกิดขึ้น รู้แจ้งเวทนาที่ตั้งอยู่ รู้แจ้งเวทนาที่ดับไป รู้แจ้งสัญญาที่เกิดขึ้น … รู้แจ้งวิตกที่เกิดขึ้น รู้แจ้งวิตกที่ตั้งอยู่ รู้แจ้งวิตกที่ดับไป สมาธิภาวนานี้ที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะ

    สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะเป็นอย่างไร คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้มีปกติเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปในอุปาทานขันธ์ ๕ อยู่ว่า “รูปเป็นอย่างนี้ ความเกิดขึ้นแห่งรูปเป็นอย่างนี้ ความดับแห่งรูปเป็นอย่างนี้ เวทนาเป็นอย่างนี้ ความเกิดขึ้นแห่งเวทนาเป็นอย่างนี้ ความดับแห่งเวทนาเป็นอย่างนี้ สัญญาเป็นอย่างนี้ ความเกิดขึ้นแห่งสัญญาเป็นอย่างนี้ ความดับแห่งสัญญาเป็นอย่างนี้ สังขารเป็นอย่างนี้ ความเกิดขึ้นแห่งสังขารเป็นอย่างนี้ ความดับแห่งสังขารเป็นอย่างนี้ วิญญาณเป็นอย่างนี้ ความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณเป็นอย่างนี้ ความดับแห่งวิญญาณเป็นอย่างนี้” สมาธิภาวนานี้ที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะ

    ภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนา ๔ ประการนี้แล

    ภิกษุทั้งหลาย ก็คำนี้เรากล่าวไว้ในปุณณกปัญหาในปารายนวรรค หมายถึง ข้อความนี้ว่า

    บุคคลใดรู้สิ่งสูงต่ำในโลก
    ไม่มีกิเลสเป็นเหตุให้หวั่นไหวในโลกไหนๆ
    เรากล่าวว่า บุคคลเป็นผู้สงบ
    ไม่มีควันคือความโกรธ
    ไม่มีกิเลสกระทบจิต ไม่มีความหวัง
    ข้ามพ้นชาติและชราได้แล้ว

    unnamed.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสามเพชร(หลบ,หลีก,ลี้)สละปลดวางภาระปัญหา

    "มีเรื่องใหญ่" ...ก็เอาขึ้นแขวนคอ
    ตะกรุดสามเพชรเป็นตะกรุดชนิดพิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ค่อยนำออกมาให้ใครใช้หรือแม้แต่จะใช้เองท่านยังคิดแล้วคิดอีก ด้วยมีอานุภาพเป็นลูกโดดให้คุณถึงสามทางพร้อมกัน ทั้งท่านถือคติว่าปัญหาต่างๆในชีวิตคนนั้นเป็นเครื่องขัดเกลาปัญญาให้ชัดแจ้ง ที่ผ่านมาท่านจึงไม่ได้นำตะกรุดสามเพชรนี้ออกมาเลยเพราะกลัวว่าชีวิตที่ราบรื่นมากเกินไปจะไม่เหลืออะไรให้คนได้ขัดเกลาปัญญานั้น...แต่ทุกวันนี้ภาพรวมของสังคมและสิ่งรอบตัวเปลี่ยนจากเดิมไปทั้งหมด ปัญหาสะสมในชีวิตของแต่ละคนก็มากมายท่านจึงอนุญาติให้นำตะกรุดสามเพชรนี้ออกมาใช้งาน

    ตะกรุดสามเพชรนั้นใช้กันเรื่อง..กันปัญหาเข้าตัว ที่ท่านเรียกว่าสามเพชรเพราะว่ามีอานุภาพสามประการคือ
    - เป็นเพชรหลบ ใช้เลี่ยงปัญหาต่างๆบรรดามีที่จะถาโถมเข้ามาในชีวิตให้พ้นตัว ไม่ให้ถูกต้องกายจะเรื่องเลวร้ายรึเหตุอันไม่ปรารถนาทั้งหลาย ท่านว่าดุจตัวเราแอบอยู่หลุดรอดสายตาหากันเท่าไหร่ย่อมหาไม่เจอคลาดกันเสมอดังนี้
    - เป็นเพชรหลีก ใช้หลีกปัญหาให้พ้นทางชีวิตดุจได้รับการขยับหรือเคลื่อนย้ายสิ่งอันไม่พึงประสงค์ออกไปจากการดำเนินชีวิตของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าปัญหาทั้งหลายจะไม่อยู่ในหนทางที่เราจะก้าวเดินแบบนี้เช่นนี้จึงเรียกว่าเพชรหลีก..แต่เป็นตัวที่ใช้หลีกปัญหานะ
    - เป็นเพชรลี้ ดุจว่าชีวิตเราเกิดเส้นทางคู่ขนานที่ดำเนินไปแล้วจะไม่ย้อนกลับมาเจอปัญหาซ้ำๆเดิมๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนเราซ่อนตัวไว้ในหนทางใหม่ไม่มีวันบรรจบกับชะตากรรมแบบที่เคยเจออีก
    ด้วยปัญหานั้นย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราขัดข้องเกิดความแคลงใจ
    เป็นอุปสรรคที่ต้องรีบแก้ไขให้ทันท่วงทีเพื่อจะหลีกเลี่ยงให้พ้นเภทภัย ...ตะกรุดสามเพชรนี้ท่านว่ามันเป็นอย่างนี้พอห้อยแล้วเราไม่วางมันมันก็วางเราหมด เรียกว่าปลดภาระและปัญหาอันหนักบ่าทั้งหลายไม่มีที่ให้เหลือให้ยึดไว้ได้อีกเลย เช่นนี้แต่เดิมท่านจึงไม่ค่อยออกให้ใครด้วยเกรงว่าหนทางชีวิตที่ลื่นไหลไปได้ง่ายมากไปจะทำให้คนขาดสติ พ่ออาจารย์ท่านว่า ***จะไม่ดีได้อย่างไรนี่เป็นวิชาแรกที่ครูบรมพรหมท่านสอนฉันเชียวนะ

    ด้วยชีวิตประจำวันทุกคนย่อมต้องพบกับปัญหาต่างๆมากมายตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน,การงาน,การเงิน..หรือแม้แต่บางครั้งกินข้าวยังกลืนไม่ลงหายใจบางคนยังติดขัดแต่ละคนมีปัญหาชีวิตสะสมมากขึ้นเรื่อยๆทั้งมีปัญหาแตกต่างกันออกไปและทุกคนก็มีวิธีจัดการหรือรับมือกับเรื่องของตัวเองตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของแต่ละคน ด้วยมุ่งหวังผลลัพธ์คือการแก้ไขให้ได้ไวที่สุดแต่ในความเป็นจริงแล้วปัญหาชีวิตใช่ว่าจะแก้ได้ง่าย..ใช่ว่าจะแก้ได้หมดไม่มีสะสมเป็นเงาดำมืดตามติดชีวิตแต่ละคน ด้วยบางคนก็แก้ผิดทางใช้ผิดวิธีหรือที่อันตรายกว่านั้นก็สะสมไว้เป็นดินพอกหางหมูหลายเงื่อนปมจนแก้ไม่ได้คิดไม่ตก พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นใจเหล่าคนที่ลองผิดลองถูกกันทั้งชีวิตเพื่อจะใช้ความสามารถของตนเองขจัดปัญหาและเภทภัยทั้งหลายที่ก่อตัวขึ้น ทั้งๆที่ใช้หมดกำลังความคิดก็ยังไม่ได้หลุดพ้นจากวังวนเก่าๆด้วยปัญญาความสามารถนั้นไม่ตอบโจทย์กับปัญหาชีวิตที่สะสมพอกพูน พ่ออาจารย์ท่านเห็นใจคนที่หนีไม้พ้นวัฏสงสารเหล่านี้ท่านจึงให้นำตะกรุดสามเพชรนั้นออกมา ท่านว่าตะกรุดสามเพชรนี้เมื่อ"มีเรื่องใหญ่" ...ก็เอาขึ้นแขวนคอ ปัญหาที่สะสมมาตลอดทางเดินชีวิตจะหลุดลุ่ยคลี่คลายของมันไปเอง

    ตะกรุดสามเพชรนี้จะทำงานสอดคล้องเพื่อสนองความต้องการของเราในสถานการณ์ที่เกิดปัญหาต่างๆตามแต่ละทักษะและความเข้าใจของแต่ละคน ไม่ใช่ว่าคนทำอาชีพนี้ใช้ได้คนทำอาชีพอีกแบบใช้ไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงอาราธนาไว้เมื่อตกอยู่ในวังวนของความเดือดร้อนก็จะหลบหลีกลี้ได้ทุกสิ่ง กล่าวโดยง่ายว่าสามวิชานี้เมื่อรวมกันแล้วจะขจัดสภาวะความไม่สมดุลออกจากชีวิตไป ทั้งยังปรับให้ตัวเรากลืนเข้าหาธรรมชาติหรือเข้าสู่สภาวะสมดุลตามที่เราคาดหวังหรือตั้งสัจอธิษฐานเอาไว้กับครูบาอาจารย์ที่รักษาตะกรุด ไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆน้อยหรือเรื่องใหญ่ๆขอให้เป็นปัญหาที่อาจเปลี่ยนแปลงอาจพลิกชีวิตของเราให้จ่อมจมลงได้นั้นความยากในการแก้ไขจะระงับไป ด้วยพ่ออาจารย์ท่านมักพูดย้ำว่าชีวิตคนเรานั้นย่อมมีหลายทางเดินหลายตัวเลือก บางทีเลือกผิดเรื่องเดียวกันคนละคนกันแก้คนละวิธีคิดยิ่งแก้ก็ยิ่งทำให้มันยากขึ้นๆไปเรื่อยๆเช่นนี้ท่านจึงได้นำตะกรุดสามเพชรนี้ออกมาให้สั่งจองกันในยุคที่แต่ละคนมีปัญหาสะสมมากมาย

    ด้วยพ่ออาจารย์ท่านทราบว่าวัฏจักรชีวิตคนนั้นคือบทเรียน เมื่อเป็นบทเรียนย่อมต้องมีบททดสอบไม่ใช่น้อยรออยู่ตามกรรมในอดีตที่ทำไว้ เช่นนั้นเรื่องปวดหัวไอ้ตัวปัญหาความวิบัติที่จะดึงชีวิตต่ำลงนี้ ย่อมเป็นของคู่ตัวที่ต้องเจอกันไปตลอดจนกว่าจะตาย บางคนก็มีวิธีเลี่ยงคือหลบมันหลบจากภาระด้วยการใช้ความบันเทิงต่างๆทำให้ลืมมันไปชั่วครั้งชั่วคราวแต่แท้จริงแล้วปัญหาเหล่านั้นก็ยังคงอยู่เพราะไม่ได้รับการแก้ไข พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดตัวนี้ของฉันไม่ใช่ทำไว้ให้คนหนีปัญหานะ เพราะถ้าทำแบบนั้นปัญหามันสะสมมันเป็นการเดินออกมาจากสิ่งที่ตัวเองไม่ปรารถนาแล้วสุขภาพจิตของเธอก็จะตกด้วยเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าใช้ความสามารถแก้ไขอะไรไม่ได้เลย ยิ่งเธอหนีเธอก็ต้องเจอไปตลอดชีวิตเพราะเธอได้ยอมแพ้มันไปแล้ว ะกรุดฉันให้เอาไว้สู้กับปัญหาเฉพาะคนที่มีใจสู้เท่านั้นเภทภัยทั้งหลายจะกลายเป็นมงคล อัปมงคลนั้นจะหลบเลี่ยงหลีกลี้กลับไป

    ตะกรุดสามเพชรท่านทำให้สอดคล้องกับสภาวะโลกอย่างแท้จริง ด้วยเรื่องราวมากมายที่เราต้องแบกไว้ในทุกๆวันล้วนแต่เป็นเรื่องทางโลก ตะกรุดสามเพชรจึงช่วยผ่อนคลายบรรเทาผ่อนปรนในภาระทางโลกของเราด้วยแรงครูท่านสงเคราะห์ แต่ก็อย่าได้ลำพองใจด้วยวัฏจักรนั้นยิ่งใหญ่เมื่อมีโอกาสแต่เพียงน้อยก็ให้คว้าไว้และเร่งทำชีวิตตนให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดไอ้ประเภทรอเรื่องร้ายๆมาชนแล้วหายไปมันก็หายจริงแต่ชีวิตเธอก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเพราะอยู่เท่าเดิมเช่นนี้ นี่ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากนะชีวิตที่หลีกเลี่ยงเรื่องเดือดร้อนได้ เมื่อลี้หนีได้แบบนี้ที่จะเอาดีในชีวิตมันก็ไม่ยากเลยเพราะโอกาสมันเปิดรอเราตักตวงหมดแล้วขอแค่อย่ากลัวอย่าหนีปัญหาย่อมมีครูบาอาจารย์ให้พึ่งให้ยึดเกาะเสมอไป ที่ผ่านมานั้นสถานการณ์จะเลือกเรา นับแต่นี้ไปก็ให้ตัวเราได้เลือกสถานการณ์ทั้งหลายบ้าง อะไรที่ไม่ควรอยู่ไม่ควรข้องติดก็เอาตัวเองออกมา เรียกว่าสิ่งที่ไม่ควรเกี่ยวข้องไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตก็อย่าไปยุ่ง พ่ออาจารย์ท่านยกตะกรุดสามเพชรไว้ว่าเป็นของสูงสำหรับใช้ทางดำเนินชีวิตโดยตรง เพราะชีวิตของคนปกตินั้นมีกรรมมากปัญหามันก็มาจากกรรมทั้งนั้นและมันก็จะคิดดอกเบี้ยคือผลกระทบที่รุนแรงบานปลายมากขึ้นในตัวของมันเอง จะพูดง่ายๆว่าตะกรุดสามเพชรนี้ย่อมใช้หลีกเลี่ยงเคราะห์กรรมก็ไม่ผิด ไม่ต้องรอให้กรรมคิดดอกเบี้ยงอกเงยขึ้นมาชีวิตใครที่เจอมาแบบนี้ท่านว่าต่อไปไม่มีขอแค่ใช้ชีวิตให้เป็นก็เอาตัวรอดได้แล้ว

    ### ทุกดอกท่านอุดด้วยน้ำมันสังคโลกของเก่าที่จับตัวจนแข็งเป็นก้อนสีผึ้ง(รายการนี้ต้องย้อนกระทู้กันนานมากถ้าใครอยากอ่านเคยมีลงไว้..ย้ำว่าเป้นของโบราณที่พ่ออาจารย์ท่านหวงมากไม่ใช่ของหุงใหม่) ท่านว่าตะกรุดนี้เอาแช่น้ำมันขอคุณพระท่านสงเคราะห์เอาน้ำมันมาตักกินหรือจุณเจิมได้ทั้งหมดเลยเพราะมีก้อนขี้ผึ้งนี่อยู่ทุกดอก เป็นขี้ผึ้งที่ตกตะกอนของน้ำมันสังคโลกโบราณ...แช่กินไปเถอะรักษาได้ทุกอย่างแก้ได้ทุกโรคแม้แต่โรคเวรโรคกรรมสุดแล้วแต่จะอธิฐาน ***ขี้ผึ้งชุดนี้ท่านหวงมากเพราะเป็นต้นตำรับของน้ำมันสังคโลกที่ท่านเน้นย้ำว่ามีกำลังมาก มีแรงครูสูงกว่าน้ำมันที่หุงชั้นหลังอย่างเทียบกันไม่ได้


    *** ตะกรุดสามเพชรนี้พ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งรายละเอียดคร่าวๆก่อน ท่านว่าไม่เสียชื่อปฐมวิชาที่ครูบรมพรหมท่านสอนฉันแน่นอน ใครไม่เอาก็ช่างเขาเพราะฉันทำแค่ครั้งเดียวพลาดแล้วก็คือพลาดไปทั้งชีวิต(รายละเอียดทั้งหมดจะเอามาลงหลังเปิดจองหรือยอดเต็มแล้วอีกที)

    รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านให้ลงรายละเอียดคร่าวๆเอาเฉพาะคนที่มีวาสนาจะได้พ้นจากปัญหาชีวิตได้จองได้ใช้ ท่านว่าจะให้จองเท่าที่มีคนรู้ค่าเท่านั้นเพราะองค์สหัมบดีท่านสั่งมาเช่นนี้ ท่านว่ามันเป็นวิชาที่เกินเรื่องสำหรับมนุษย์มากเกินไป..เดี๋ยวจะสบายจนไม่รู้จักความทุกข์ ### ตะกรุดรุ่นนี้เป็นครั้งแรกเลยที่พ่ออาจารย์ท่านบอกสั้นว่า "เชื่อใจฉันเถอะ" คนที่ไม่เชื่อย่อมไม่คู่ควร(เดี๋ยวรอรายละเอียดฉบับเต็มๆแล้วจะรู้ว่าท่านอยากให้เอาไปใช้กันจริงๆ เพราะรุ่นนี้แม้จะขายดอกละสี่พันคนยังแย่งกันเลย ...เเค่มวลสารในตะกรุดก็เกินคุ้มมากครับ)

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสามเพชร(หลบ,หลีก,ลี้)สละปลดวางภาระปัญหา บูชา 900 บาท


    116886848-910551886110989-3279614723758921585-n.jpg
    116880003-720047055513334-956360388853671711-n.jpg
    116873215-298482188152375-5357506670783189465-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2020
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ปัญญา 3 ประการ

    "สุตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภาวนามยปัญญา"

    ปัญญา นั้นหมายถึง ความฉลาด รอบรู้ ความเข้าใจชัดในสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นความรู้ทั่วถึงเหตุผล รู้อย่างชัดเจนในบาปบุญคุณโทษ รู้วิชา รู้จักกาลเทศะ

    ผู้มีปัญญานั้นไม่จำเป็นว่าจะเป็นว่าจะเป็นคนรวยหน้าตาดีฐานะดีจบการศึกษาสูงจึงจะมี IQ (สติปัญญา) สูง แต่คนธรรมดาอย่างท่านทั้งหลายหรือคนที่จบป.4ก็สามารถเป็นผู้มีปัญญา ซึ่งฉลาด ทั้งในด้าน IQ และความฉลาดทางอารมณ์ EQ ได้เช่นเดียวกัน

    ผู้มีปัญญานั้นจะประกอบการพัฒนาปัญญา 3 ประการ ซึ่งนำไปสู่การเป็นผู้มีปัญญาสูงสุดได้

    1. สุตมยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการได้ฟัง ได้อ่าน ได้เรียนรู้เรื่องราวจากผู้อื่น ซึ่งเป็นความรู้ที่นำมากำหนดแนวคิดของเราเอง และนำไปใช้ในการทำงานการใช้ชีวิต เป็นการสร้างปัญญาชั้นแรกของมนุษย์

    สุตมยปัญญาไม่อาจทำให้เราหลุดพ้นได้ เพราะเป็นปัญญาที่เกิดจากความเชื่อที่ได้ยินมาหรือสอนต่อกันมา จนกลายเป็นความเชื่อโดยไม่สนใจวาเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ จนกลายเป็นการหลงงมงาย

    2. จินตมยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจาการเอาสุตมยปัญญาที่ได้เรียนรู้ มาพิจารณาดูว่ามีเหตุผลควรเชื่อถือได้หรือไม่ และสามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับตนเอง หรือนำไปสู่ทางพ้นทุกข์ได้หรือไม่

    3. ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติจนรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นปัญญาที่แท้จริงเป็นการต่อยอดจากสุตมยปัญญาและจิตมยปัญญา จึงจะเป็นไปในรูปแบบของการ รู้ - คิด - ทำ

    ภาวนามยปัญญาในทางธรรมเพื่อการหลุดพ้นนั้นจะเกิดจากการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานและการ วิปัสสนา ส่วนภาวนายปัญญาในทางโลกก็คือการลงมือทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเชี่ยวชาญ จนแตกฉานในสิ่งนั้นๆ

    ในการพัฒนาปัญญาของคุณเองนั้น คุณต้องใช้ปัญญาทั้ง 3 ประการนี้ด้วยกัน

    - เพราะถ้ามีแต่ "สุตมยปัญญา" นั้นท้ายทีสุดแล้วจะเป็นผู้หลงในความรู้เท่านั้น
    - เพราะถ้ามีแต่ "จิตมยปัญญา" กับ "สุตมยปัญญา" นั้นท้ายที่สุดแล้วจะเป็นผู้ยึดติดในอัตตา ว่าตัวนี้เป็นผู้มีปัญญามาพอแล้ว


    ดังนั้นในการพัฒนาปัญญาแล้วท่านต้องพัฒนาจิตไปพร้อมกันด้วยจึงจะเป็นการพัฒนาที่มนุษย์ทุกชนชั้นทุกชาติศาสนาสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งการพัฒนาเช่นนี้จะทำให้เกิดความฉลาดทางอารมณ์และความฉลาดจากการรู้แจ้งเห็นจริงของธรรมชาติจากภายในดวงจิตของตัวคุณเอง

    34e2bfdbbcfd8b9281d8eae20d585203.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดจองพรุ่งนี้เช้าพร้อมกัน จะรับยอดไม่นานนะครับเพราะของมีน้อย
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเวทย์กลับชาติลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต (กังหันแปลงฟ้าดิน)

    ศาสตร์กลับชาติชะตา...ดั่งชีวิตลิขิตด้วยปาฎิหาริย์
    พ่ออาจารย์ท่านได้สถาปนา"ลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต" ซึ่งเป็นวิชาการสร้างตุ๊กตาทองสมัยดึกดำบรรพ์ขึ้นมาตามคำสั่งครูบรมพรหมสหัมบดี ด้วยเป็นวิชาสำคัญที่ทำขึ้นได้ยากกว่าการทำกุมารทองทั้งหลายจึงยากยิ่งกว่าที่จะหาคนสร้างได้สำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านมีดำริว่าจะทำวิชาตามที่องค์บรมพรหมท่านกำหนดเพื่อให้ผู้ปรารถนาที่พึ่งได้พึ่งพิงชะตาของลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต องค์บรมพรหมท่านกำหนดให้สร้างในฤกษ์มหาเศรษฐีทั้งยังได้ประกาศนามเชิญบารมีแห่งมหาเศรษฐีผู้อริยะบุคคลครั้งพุทธกาลสู่ตุ๊กตาทองอีกคำรบหนึ่ง

    ศาสตร์กลับชาติชะตา.. # เป็นตุ๊กตาทองที่ใช้เปลี่ยนชีวิตคน เปลี่ยนให้เป็นคนที่สมบูรณ์ไปด้วยเสน่ห์เมตตาแก่ฝูงชน ทั้งโชคลาภเงินทองให้หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย จะอยู่ดีกระเดื่องเกียรติยศระบือไปได้ไกลกว่าทุกชนชั้นแลทุกตระกูลบนแผ่นดิน...เพื่อให้คนที่เกิดมาในชะตาอาภัพทำอะไรปราศจากหนทางรุ่งเรืองนั้นได้เจริญก้าวหน้าไปด้วยโชคลาภวาสนาเงินทองต่างๆบรรดามี *** หากแต่ไม่ใช่ดีขึ้นด้วยวาสนาที่ติดขัดในชาตินี้ของตนเอง ด้วยว่าจะได้ใช้วาสนาในลูกกรอปาฏิหาริย์หรือพ่อตุ๊กตาทองนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าศาสตร์การทำตุ๊กตาทองนี่เหนือกว่าวิชาทำกุมารทั่วไปและจะทำให้เป็นสาธารณะก็ไม่ได้เพราะเบื้องบนท่านกำชับให้ปกปิดไว้หนักหนา ด้วยขึ้นชื่อว่าเป็นศาสตร์กลับชาติชะตา(ไม่ใช่ตุ๊กตาผีสิง) พ่ออาจารย์ท่านเคยทำสงเคราะห์คนมาแล้วตามโองการบรมพรหมที่เจาะจงเป็นรายบุคคลเมื่อต้องการจะโปรดใคร...ย้อนไปยี่สิบแปดปีก่อนตามีเคยเป็นขอทานอยู่ที่ตลาดหัวรอ พ่ออาจารย์ท่านว่าตามีเขาเป็นคนดีองค์บรมพรหมท่านจึงต้องการให้แกมีสมชื่อจึงอนุญาติให้พ่ออาจารย์ท่านใช้ศาสตร์กลับชาติชะตาทำตุ๊กตาทองให้ตามีได้พึ่งบารมี...เช่นนั้นกาลเวลาผ่านไปจากขอทานยาจกจึงพลิกชีวิตฝืนชะตากรรมแห่งภพชาติกลายเป็นเศรษฐีคหบดี..จากคนเร่ร่อนไร้ที่อยู่กลายเป็นคนมีเคหะสถานได้ช่วยเหลือผู้คนได้สร้างศาสนสถานให้ความอุปถัมภ์แก่ภิกษุสามเณรเป็นอันมากทั้งชีวิตของตามีนั้นท่านใช้แค่ตุ๊กตาทองกลับชาติชะตา(หรือที่เรียกว่าลูกกรอปาฏิหาริย์)ของพ่ออาจารย์เท่านั้น

    ### วิชาสำคัญอันถูกปกปิดนี้มีต้นกำเนิดมาแต่ครั้งพุทธกาล เป็นเรื่องของคนที่แสนจะธรรมดาผู้หนึ่งที่จะได้ถึงวาสนาเป็นมหาเศรษฐีโดยไม่ต้องพึ่งชะตาตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนนั้นคนมีฐานะเขาก็นั่งเกวียนส่วนคนจรก็เดินเท้ากันไป เมื่อคนที่แสนจะธรรมดาผู้นี้ต้องการเดินทางไปต่างเมืองจึงต้องเดินเท้าเช่นกัน ขณะนั้นด้วยเหตุบังเอิญเมื่อราตรีกาลมาเยือนดวงดาราสาดแสงผิดสามัญปกติจนชายผู้นั้นจับสังเกตุได้กอปรกับระหว่างทางได้เจอกับขบวนมหาพราหมณ์ผู้มีความรู้ทางดาราศาสตร์จึงได้สอบถามเกี่ยวกับดาวบนฟ้าที่สุกสว่างกระจ่างตาผิดปกติดวงนั้นว่าปรากฏกาณ์บนฟ้าเช่นนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบนโลกหรือไม่ มหาพราหมณ์จึงได้ทัศนาดวงดาวและทำนายความเบื้องหลังแสงสุกใสนั้นบอกแก่ชายคนจรว่า "ในเวลาบัดเดี๋ยวนี้กำลังจะมีเทพเจ้าเบื้องบนลงมาเกิด ทารกผู้นี้มีบุญญาธิการมากเมื่อเกิดมาชีวิตเขาจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นถึงขั้นมหาเศรษฐีปรากฏแก่ตาโลก ด้วยบารมีของเขาดังนี้จะได้ค้ำชูพระศาสนาต่อไป" เมื่อชายคนจรทราบความเบื้องหลังดวงดารากำลังจะจุติมาเช่นนั้นจึงเที่ยวเสาะหาทารกที่มีลักษณะตรงตามที่มหาพราหมณ์นั้นได้บอกกล่าวจึงไปเจอเข้ากับเด็กทารกที่ถูกทอดทิ้งไว้ ชายคนจรจึงนำทารกมาเลี้ยงดูเป็นบุตรของตน พ่ออาจารย์ท่านว่านับแต่นั้นวาสนาการถึงซึ่งชะตาพญามหาเศรษฐีของทารกก็ได้ตกแก่ชายคนจรที่ไม่มีฐานะและวาสนาใดๆในชะตาเลย ทำให้ชายคนนั้นได้ร่ำรวยรุ่งเรืองถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐีของพระราชาที่ทุกเมืองทุกมหานครให้การยอมรับ และเมื่อกุมารผู้นั้นจำเริญวัยขึ้นก็เจริญในลาภโภคสมบัติสืบต่อจากบิดาบุญธรรมเป็นอันมากทั้งสองจึงได้ช่วยกันบำรุงพระศาสนาสืบมา

    เช่นนั้น
    ลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิตศาสตร์กลับชาติชะตาจึงเป็นยอดกุมารที่สร้างได้ยากที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำให้สำเร็จได้นั้นต้องรู้เวลาเกิดของทารกในตำนานผู้นั้น ซึ่งองค์บรมพรหมท่านต้องบอกต้องให้ฤกษ์ทุกสิ่ง(ให้เกิดมาแบบฟ้าประทาน) ทั้งต้องเชิญดวงจิตแห่งมหาโพธิสัตว์อนาคตวงศ์แบ่งภาคเคลื่อนลงเป็นดวงจิตแห่งองค์กุมารนั้น ผู้ที่ได้ทารกตุ๊กตาทองนี้ไปบำรุงรักษาก็จะได้พึ่งวาสนาบารมีของเขาให้ชีวิตเจริญขึ้นถึงขั้นยอดคนเป็นมหาคหบดีมีทรัพย์สมบัติมากมายนับไม่ได้ แต่นี้ต่อไปจะจำเริญด้วยทรัพย์สมบัติตักไม่พร่องไม่รู้หมดดั่งได้สมบัติจักรพรรดิมีขุนคลังแก้วเป็นบริวาร จะได้เสวยสุขสมบัติไม่ต้องเจอกับความยากลำบากใดๆเลย(วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าส่วนสำคัญที่สุดมีอย่างเดียว...นั่นคือชีวิตเปลี่ยนแล้วอย่าลืมคุณมหากุมาร อย่าลืมอุปถัมภ์พระศาสนาภิกษุสามเณรตามเจตนาแห่งองค์มหาโพธิสัตว์อนาคตวงศ์) พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญรุ่นนี้ครูพรหมให้ฉันทำกันเหนียวเอาไว้อีกหลายชั้น เพราะท่านเทียบเชิญอริยะบุคคลมหาเศรษฐีพุทธกาลอันมีนามกระเดื่องแดนดินทั้งหมดทั้งสิ้นมาแบ่งกำลังจุติบารมีสู่มหากุมารนี้ให้พร้อมสรรพ เช่นนี้ตุ๊กตาทองขุนคลังแก้วจึงเป็นมหากกว่าขุนคลังใดๆเพราะหนึ่งคือจิตมหาโพธิสัตว์ที่พร้อมจะโอบอุ้มผู้เป็นนาย สองคือบารมีขุนคลังผู้เป็นอริยะครั้งพุทธกาลทั้งหมดจึงประเสริฐกว่าขุนคลังจักรพรรดิยุคใดๆ

    หมดยุคแล้วที่จะหนีชะตากรรมตนเอง
    หลายๆคนนั้นยอมรับวาสนาชะตาตนเองไม่ได้ที่เกิดมาเอาดีได้แค่นี้...ไปไกลไม่ได้มากกว่านี้ คนที่หนีและปฏิเสธชะตาตนเหล่านั้น พ่อาจารย์ท่านว่าเขาไม่ได้แก้ไขอะไรเลยเพียงแต่ยืดเวลาให้ตนเองทรมานกับชะตาชีวิตไปเรื่อยๆและจะไม่สามารถมีชีวิตที่ดีได้ เช่นนั้นในเมื่อพึ่งวาสนาตนเอาดีไม่ได้ก็ให้ใช้วาสนาแห่งตุ๊กตาลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต ...ต่อไปชีวิตจะได้มีความสุข กุมารฉันนั้นเค้าถือคติว่า "ขอได้สารพัด ใครดีมาเขาดีตอบ..ใครร้ายมาเขายันกลับเหยียบไว้ใต้ตีน" ด้วยกำเนิดจากจิตมหาโพธิสัตว์จึงเป็นยอดกว่าทุกสรรพวิชาในวัฏจักรอันไม่มีใครเทียบและเสมอเหมือนได้ พ่ออาจารย์ท่านชุมนุมอัครมหาเศรษฐีพุทธกาลมาเป่ามนต์เจิมนะเศรษฐีทั้งสี่ทิศเหนือใต้ออกตกครบองค์ประชุม สี่มหาทิศดึงดูดโชคลาภเพิ่มพูนเงินทุกช่องทาง มหากุมารนี้นอกจากจะเด่นเรื่องโชคลาภเงินทองอันประจักษ์ชัดยังเป็นเสน่ห์เมตตา โชคลาภ คุ้มครองภัยใช้ได้ทั้งสิ้น มีอิทธิฤทธิ์นานัปการตามที่อธิษฐาน

    พ่ออาจารย์ท่านหล่อหลอมขึ้นจาก"ปรอทกินเงิน"
    และพระยันต์บังคับตามสูตรที่มหาพรหมท่านกำชับมากมาย อันปรอทกินเงินนั้นแม้นติดตัวไว้จะสามารถช่วยเหลือเกื้อหนุนผู้เป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ สามารถขับพิษร้ายที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกไปทำให้มีกำลังวังชา แม้ใช้สวมใส่เวลานอนหลับก็ทำให้นอนหลับสบายตื่นมาด้วยความสดชื่น ทั้งยังป้องกันสิ่งอัปมงคลอำนาจคุณไสย์มนต์ดำภูตผีปีศาจร้ายอันตรายทั้งปวงไม่ให้มากร้ำกรายราวี ป้องกันภยันตรายให้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเภทภัย เป็นคงกระพันชาตรี..ศัตรูหมู่คนพาลแพ้ภัยตนเอง ป้องกันอสรพิษสัตว์มีพิษทั้งหลายตลอดจนเขี้ยวงาต่างๆได้ จะปรับสมดุลธาตุทั้งสี่ในร่างกายให้สม่ำเสมอสมดุลกันเพื่ออานิสงส์ว่าตัวเราจะไม่เจ็บป่วยง่ายมีสุขภาพดี ทั้งยังเสริมธาตุในตัวเสริมอำนาจวาสนาบารมีเสน่ห์โชคลาภ ช่วย หนุนดวงให้ทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองเสริมในสิ่งที่ขาดไปเสริมสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เสริมดวงชะตาราศีเวลาดวงชะตาขึ้นเหรียญพระเวทย์จะสุกใสเปล่งประกายวาววับ เวลาดวงตกเคราะห์ร้ายตามชะตาฟ้าเหรียญจะหม่นหมองคล้ำดำลงท่านว่าเป็นการเตือนให้เราอาราธนาคุณเทพยดาเอาเหรียญจุ่ทน้ำทำน้ำมนต์อาบตัวสะเดาะเคราะห์เสีย แม้ปรารถนาสิ่งใดก็ให้นำน้ำหอมมาประพรมที่เหรียญแล้วอธิษฐานจะสมดังใจเราแล...หากสวดพระพุทธคุณบูชาเหรียญวันละสามรอบชีวิตจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญพระเวทย์กลับชาตินั้น คือกลับให้ดีขึ้นในชาตินี้ไม่ต้องรอชาติหน้าไม่ต้องขายฝันถ้าบุญทำกรรมแต่งตัวเองไม่พร้อมก็ให้ใช้วาสนาของมหากุมารนี้ เมื่อเอาเหรียญติดตัวไปเขาจะป้องกันเสนียดลบล้างความอัปมงคลทั้งกันเหล่าภูติผีเพชรพญาธรที่คอยกลั่นแกล้งสูบฤทธิ์ของกายสิทธิ์ จะช่วยเสริมตัวและเสริมบุญบารมีท่านว่าจะมีกินจำเริญในเกียรติยศ..จะคิดทำอะไรก็ดีในชีวิตทุกเรื่องทุกกิจย่อมไร้พ่ายไม่รู้จักแพ้ดั่งพญาพาลีชนะได้ทุกศึกไม่เสียกำลังเช่นนั้น หากมั่นใจแล้วแค่เหรียญนี้เหรียญเดียวพกติดตัวไว้ออกแสวงหาลาภได้ทั่วทั้งปฐพี คุ้มกะลาหัวรักษาชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัยไปแล้วต้องได้กลับไม่ตายนอกถิ่น *** สิ่งที่เสียไปย่อมได้คืนมา เสริมสิริมงคลให้เจริญรุ่งเรืองอยู่ฝ่ายเดียวอยู่ที่ไหนก็เจริญที่นั่น เป็นเมตตามหานิยมชั้นยอดเสริมอำนาจวาสนาบารมีไปได้ทั่วสารทิศทุกสถานการณ์อธิษฐานได้ตามประสงค์

    ด้านหลังท่านอุดด้วยผงประคำครูที่สืบมาแต่ครูบาศรีวิชัย พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ซึมซับพระเวทย์พระคาถาจากครูบาศีลธรรมเจ้ามาจนหมด ผู้ใดมีไว้บูชาก็เจริญก้าวหน้าก้าวไกลก้าวไว กว่าใครเขาด้วยอำนาจแรงครู พ่ออาจารย์ท่านพลีมาทำผงชุดนี้ด้วยเป็นของสำคัญเฉพาะผู้มีวาสนาบารมีจะได้ใช้เท่านั้น นำมาป่นเป็นผงแล้วก็มีฤทธิ์อธิษฐานใช้ได้สารพัดนึก มีคุณวิเศษมากมาย เป็นเสน่ห์เมตตาโชคลาภวาสนาบารมีชั้นสูงทั้งแรงครูยังช่วยป้องกันเสนียดลบล้างความอัปมงคลใช้เป็นตัวเร่งบุญเสริมบารมีได้ยอดเยี่ยม ผงนี้ติดตัวไว้จะรอดพ้นปลอดภัยจากสัมภเวสี,ภูติผีปีศาจวิญญาณร้าย,เทวดาผ่ายมิจฉาทิฏฐิ รวมไปถึงลมเพลมพัดคุณไสยมนต์ดำและภัยที่มองไม่เห็นทุกประการ
    ท่านนำผงนี้มาเข้ากับ
    ผงเฉพาะตามสูตรสร้างพระเวทย์กลับชาติ ผงสูตรนี้ท่านว่าติดตัวไว้จะบังเกิดโชคลาภมีเงินทองไม่ขาดมือ คนที่ไม่มีก็จะมี คนที่มีก็จะพึงรักษาเอาไว้ได้ทั้งหาใหม่เพิ่มให้พอกพูน คิดสิ่งใดก็ทำได้คล่องตัวกิจการเจริญรุ่งเรืองพ้นวิกฤตในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะผงนี้หาเงินดีจริงท่านว่าสมัยก่อนลบเสร็จใช้ทำเลยไม่ได้นะต้องลองให้ประจักษ์แก่ใจก่อน ผงนี้ฉันแค่ใส่ถุงซิบให้คนเขาพกไปเล่นหวยกลับมาอีกทีข้อมือนี่ได้ใส่ทองเส้นโตกำไลทองหนาเท่าขอบโอ่งใส่ทองทั้งตัวหลายสิบบาท ท่านว่าต้องดีเพียงนี้จึงเรียกว่าทำสำเร็จเอามาใช้สร้างมหากุมารได้
    ทั้งยังผสมผงมวลสารต่างๆที่องค์บรมพรหมท่านกำชับไว้พ่ออาจารย์ท่านว่าเน้นไปทางมีกินไม่รู้สิ้นสุดทั้งนั้น ผงพวกนี้นี้แค่พกติดตัวก็มีกินมีใช้ไม่ขาดคนไม่มีโชคจะมีโชค โชคลาภเงินทองจะเข้ามาแบบไม่คาดฝัน ติดตัวไว้กันฝันร้ายทำให้ฝันดีและฝันเห็นช่องทางการทำมาหากินที่จะทำให้รวยหากมีวาสนาเทวดาจะมาบอกนิมิตรบันดาลซึ่งทรัพย์สินเงินทองและความสมปรารถนา

    - อุดกังหันแปลงฟ้าดิน วิชากังหันนี้ปกติพ่ออาจารย์ท่านไม่เคยทำเพราะว่าทำแล้วต้องเอาให้สุดให้พัดสิ่งไม่ดีทุกเรื่องออกไปจากชีวิตทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าหลักการของกังหัน"ฝั่งนึงพัด ฝั่งนึงดูด" นั่นหมายความว่าเมื่อมีสิ่งร้ายออกไปย่อมมีสิ่งอันเป็นมงคลมาแทนที่ไม่ให้ว่างเปล่า จะช่วยเสริมดวงดูดสิ่งดีๆเข้ามาไม่มีสิ้นสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้ดูดอะไรก็ตามแต่ใจเราอธิษฐานเลยนะ แต่กังหันนั้นในขณะที่เค้าดูดเขาก็พัดปัญหาและอุปสรรคออกไปด้วยคือทำงานพร้อมกันสองทางพร้อมๆกันเลย กังหันพระเวทย์นี้คนใช้จึงเหลือแต่ความสุขสบายเพราะทุกข์เขาพัดทิ้งไปไม่เหลือเลย มื่อพกสัญลักษณ์กังหันนี้ไปทิศใดก็จะนำชัยชนะและความโชคดีมาสู่เจ้าของตัดวงจรกรรมที่ริดรอนลงได้อย่างกระทันหัน ตราบใดที่กังหันพระเวทย์อยู่กับตัวชีวิตไม่มีที่จะสะดุดเลย ชีวิตใครที่ร้อนมากหรือว่าเย็นจนนิ่งไม่ขยับ จะปัญหาหนักหนาหรือเบาบางย่อมปัดเป่าได้สิ่งที่กังหันพระเวทย์แปลงฟ้าดินจะดึงดูดได้ก็ในเรื่องโชคลาภ,เงินทอง,หน้าที่การงานจะให้เงินสะพัดเท่าไหร่หวังลาภก้อนโตอย่างไรนี่จิตเราสั่งได้ทั้งจะพัดปัญหาชีวิตอีกเรื่องสุขภาพทรุดโทรมเปลี่ยนจากหนักให้เบาลงเรื่อยๆ พัดพามาซึ่งชื่อเสียง,ลาภยความสมบูรณ์ของครอบครัวชีวิตคู่และลูกหลาน,ดูดเอาคนอุปการะผู้สนับสนุนชีวิตเข้ามา,ช่วยให้เรามีความรู้มีความคิดสร้างสรรค์สมองปลอดโปร่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าติดตัวไว้เดินทางไปไหนก้ปลอดภัย โชคลาภคิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ

    ลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิตนั้นเป็นวิชาที่ครูบรมพรหมท่านรักษาไว้ด้วยจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแต่ฝ่ายเดียวดั่งมหากุมารลิขิตชีวิตบันดาลความมั่งมีและความเจริญรุ่งเรืองให้นอกจากนี้ยังขอเขาได้ทุกอย่างจะให้ดึงจิตดึงใจชักจูงผู้คนก็ยังทำได้ องค์บรมพรหมท่านกำหนดให้ทำตุ๊กตาทองภาคนี้เป็นกุมารดูดรกด้วยอานิสงค์ว่า "เราไม่ต้องหาเลี้ยงเขา จะมีแต่เขาหาเลี้ยงเรา" ไม่ต้องเซ่นไม่ต้องล่อกันด้วยอะไรทั้งนั้นเพราะเขาอิ่มเอมกับความเป็นทิพย์มีสมบัติจักรพรรดิดั่งมหาโพธิสัตว์ดุสิตสวรรค์ ใช้อธิษฐานได้ตามแต่ปรารถนาดั่งเช่นความรักอันไม่มีประมาณของพระมหาสัตว์ผู้คอยอุ้มชูสรรพสัตว์บนพื้นโลก ท่านยินดีแบ่งภาคมาเป็นบริวารเพื่อให้สรรพชีวิตได้ตั้งตัวเริ่มต้นกันได้ตราบใดที่เท้ายังเหยียบดินอยู่(คือยังไม่ตาย) ท่านจะคอยปกป้องคุ้มครองให้พรผู้บูชาอยู่เสมอจะมีแต่ความรุ่งเรืองทำกิจใดไม่รู้ยากรู้อับจนเลย แม้เดินทางไปแห่งหนใดก็เสมือนมีพระญาณสอดส่องคอยค้ำชูดูแลไม่ห่าง เหรียญนี้ใช้แช่น้ำเสกเป็นน้ำมนต์แก้อาถรรพ์ต้องธรณีสารได้จะใช้ประพรมบ้านเรือนให้เกิดสิริมงคลก็ได้ หรือจะใช้ทำน้ำมนต์รดใครทางด้านใดเป้นที่สุดท่านว่าอาราธนาได้เลย ### แม้เอาเหรียญนี้ไปวางทับชื่อศัตรูคนคิดร้ายหมู่มารทั้งหลายจะพ่ายแพ้ไปในที่สุดถึงขั้นไม่มีแผ่นดินจะอยู่นั่นทีเดียว
    ปล. เคล็ดการบูชาพิเศษของเหรียญพระเวทย์กลับชาตินั้น ก่อนจะทำอะไรให้ตั้งจิตตั้งใจระลึกถึงพระคุณของพระมหาโพธิสัตว์อนาคตวงศ์ออกพระนามท่านเสียก่อนเพื่อให้ท่านเป็นทิพย์พยานในกิจที่เราทำ *** แต่ละองค์มีเชื่อเรียกขานตามพระนามแห่งอนาคตมหาโพธิสัตว์ดุสิตสวรรค์ทั้งสิบที่จะได้ตรัสรู้ในยุคต่อไปจะบอกเฉพาะผู้เป็นเจ้าของ

    คาถาบูชา
    เอหิตาตะปิยะปุตตะ ปุเรถะมะมาปาระมิง หัตทะยังเมภิสิณเจถะ พุทโธบุพพนิมิตตัง ปิยะปุตตัง สัพพะลาภังกะโรถะวะจะนัง ปิยังนำมามะมา

    ใครที่รู้ว่าพึ่งดวงตนเองไม่ไหวไปได้ไม่มากกว่านี้แล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าก็ให้พึ่งลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต ทุกองค์ท่านลงตะกรุดพันธะสัญญาไว้ เป็นการเชื่อมสัญญาผู้เป็นนายกับบริวารพ่ออาจารย์ท่านว่าให้ตัวคนใช้เขียนชื่อและนามสกุลเราใส่กระดาษเอากาวติดไว้กับตะกรุดออกนามมหาโพธิสัตว์ที่แบ่งกำลังมาเป็นมหากุมาร ท่านว่าต่อไปแม้ไม่พกพาอาราธนาเขา เพียงจิตเราระลึกนึกคิดอะไรในใจเขาก็จะรู้(พ่ออาจารย์ท่านว่าเผื่อเอาไว้ในวันที่ไม่สะดวกห้อยหรือพกพาไม่ได้เพื่อให้เราได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือในทุกสถานการณ์) ท่านปลุกเสกเอาไว้ในฤกษ์วันพญาวัน(ตามโองการมหาพรหม)ทุกปีมาสิบกว่าปีซึ่งฤกษ์เช่นนี้ถือว่าดีที่สุดในรอบปี เหรียญนี้ท่านเน้นให้เหนือกว่าทุกสิ่งสามารถข่มคุณไสยการกระทำได้ทุกชนิดแม้นคนรอบตัวเล่นของ...ไม่ว่าจะหุ่นพยนต์,ควายธนู,ของเสน่ห์,ของกันตัวเช่นไรพ่ออาจารย์ท่านว่าลูกกรอนี้คือกรอหมดข่มเขาลงทั้งหมด เหรียญนี้ท่านว่าไม่เน้นสวยแต่เน้นขลังทุกท่วงทำนองชีวิตดั่งลิขิตไว้ซึ่งปาฏิหาริย์

    *** เหรียญพระเวทย์กลับชาตินี้ทั้งมวลสารของฝังและขั้นตอนการสร้างหลายๆอย่างเป็นความลับอยู่มาก ท่านว่าข้างบนให้บอกได้เท่าที่ควรบอกอะไรไม่บอกก็ไม่ต้องถาม ทั้งรายการนี้จะแจ้งนามมหาโพธิสัตว์ดุสิตสววรรค์อนาคตวงศ์ทั้งสิบแต่ละพระองค์ที่แบ่งกำลังสู่เหรียญเพื่อเป็นเครื่องมงคลประจำตัวผู้บูชา องค์ไหนพระนามไหนจะเป็นของใครพ่ออาจารย์ท่านว่าสภาของมหาโพธิสัตว์เจ้าทั้งสิบนั้นท่านเลือกคนของท่านไว้แล้ว รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเวทย์กลับชาติลูกกรอปาฏิหาริย์ชีวิต(กังหันแปลงฟ้าดิน) บูชา 4,000 บาท

    117644418-300972834450510-6294170520829970619-n.jpg 117390332-3204047339687003-3647662349018492425-n.jpg
    117379900-849489472245190-208356226863332674-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2020
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    อภัยทาน

    ในแต่ละวันเราอาจต้องพบเจอผู้คนมากมาย คนเหล่านี้อาจเป็นคนที่เคยทำอะไรไม่ดีให้เราเจ็บช้ำน้ำใจมาก่อน เป็นต้นเหตุให้เราอารมณ์เสีย,รู้สึกไม่ดี,หงุดหงิดทุกครั้งที่ได้เจอ แต่ทุกข์กลับตกอยู่ที่คนเกลียด กรรมตกอยู่ที่คนเคียดแค้น

    คนที่ไม่ทุกข์ไม่มีกรรมคือคนที่ไม่เกลียดไม่เคียดแค้นใคร...ใครให้อภัยก่อน ก็มีความสุขในชีวิตก่อน

    การให้อภัยคือการยกโทษทางจิตใจในสิ่งผิดที่เขาทำต่อเรา ทำให้ความรู้สึกของความโกรธแค้นของเราบรรเทา เรารู้สึกว่าเราให้อภัยเขาได้เราจึงให้อภัย ให้อภัยโดยไม่ขึ้นกับว่าคนที่ทำผิดนั้นจะเป็นอย่างไร...เขาจะเสียใจ..จะชดใช้..จะรับโทษหรือเปล่าเราไม่ต้องไปสน

    แต่เราก็ให้อภัยเขาได้เพื่อปลดปล่อยความแค้นออกจากใจเรา ปล่อยความคิดความรู้สึกด้านลบ ให้ออกไปจากเราเพื่อที่เราจะไม่ทุกข์ บางครั้งเราไม่ให้อภัยบางคนเพราะคิดว่าเราทำไม่ได้หรือไม่เราก็รู้สึกว่าเราไม่อยากให้อภัย เราจะเก็บความโกรธแค้นนี้ไว้เพราะเขาไม่สมควรได้รับการให้อภัย

    แต่ในขณะเดียวกันนั้นเรากลับไม่รู้ตัวว่าจิตใจที่โกรธแค้นนั้นมาพร้อมกับความทุกข์ และมันทำร้ายเราเสมอ คนที่ทำผิดต่อเราเขาไม่ได้มารู้สึกทุกข์กับเราเลย ..การให้อภัยก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องกลับไปดีกับเขา แต่เป็นการทำให้เราพ้นจากจิตใจที่เคียดแค้นและเจ็บปวดต่างหาก

    หากอยากอยู่อย่างสบายใจ อยากมีชีวิตที่สงบสุขมากก็ต้องฝึกใจ..เลิกยุ่ง..เลิกมอง..รักษาระยะห่างเท่าที่เราสบายใจ เรียนรู้ที่จะไม่ใส่ใจคนอื่นจนเกินไป เกลียดก็อย่าไปมอง..ไม่ชอบก็อย่าไปดู

    หากไม่ใส่ใจคนอื่นจนเกินไปก็ไม่มีใครมาทำให้เราหงุดหงิดได้ ลองท่องไว้ " ไม่โกรธไม่เกลียดและไม่เฉียดเข้าไปใกล้ " ให้อภัยเขาเราสุข...โกรธเขาเกลียดเขาเราก็ทุกข์เอง

    ให้อภัยมันช่วยปลดปล่อยเราจากความทุกข์และความแค้น คนที่ทำได้คือคนที่ชนะไม่ใช่พ่ายแพ้ จริงๆแล้วการให้อภัยกับการให้โอกาสเป็นคนละส่วนกัน..เราให้อภัยแต่ไม่ให้โอกาสได้

    เพราะการให้อภัยคือการยกโทษทางจิตใจ แต่การให้โอกาสต้องมาพร้อมกับการพิสูจน์ตัวเองของคนทำผิด
    ถ้าคนทำผิดไม่ได้กลับใจไม่ได้เสียใจเราไม่จำเป็นต้องกลับไปคุยด้วยไม่ต้องกลับไปสุงสิงด้วย แค่ยกโทษให้เขาแล้วเดินหนีออกมาต่างคนต่างอยู่ ## เอาความสุขของเรากลับคืนมา

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    มงคล ที่ ๑๑ บำรุงบิดามารดา

    ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลให้น้ำให้ปุ๋ย ไปบำรุงลำต้นจนสมบูรณ์
    เมื่อถึงเวลาแล้ว ย่อมออกดอกออกผลให้แก่เจ้าของฉันใด
    คนที่ได้รับการเลี้ยงดูจนเติบใหญ่
    เมื่อมีโอกาสย่อมตอบแทนคุณพ่อแม่และผู้มีอุปการคุณฉันนั้น
    ทองคำแท้หรือไม่ โดนไฟก็รู้
    คนดีแท้หรือไม่ ให้ดูตรงที่เลี้ยงพ่อแม่
    ถ้าดีจริงต้องเลี้ยงพ่อแม่ ถ้าไม่เลี้ยงแสดงว่าไม่ดีจริง
    เป็นพวกทองชุบ ทองเก๊

    พระคุณของพ่อแม่
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอุปมาว่า ถ้าบุตรจะพึงวางบิดามารดาไว้บนบ่าทั้งสองของตน ประคับประคองท่านอยู่บนบ่านั้น ป้อนข้าวป้อนน้ำและให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง ๑๐๐ ปี และปรนนิบัติท่านไปจนตลอดชีวิต ก็ยังนับว่าตอบแทนพระคุณท่านไม่หมด
    ยังมีผู้อุปมาไว้ว่า หากเราใช้ท้องฟ้าแทนกระดาษ ยอดเขาพระสุเมรุแทนปากกา น้ำในมหาสมุทรแทนหมึก เขียนบรรยายคุณของพ่อแม่จนท้องฟ้าเต็มไปด้วยอักษรภูเขาสึกกร่อนจนหมดน้ำในมหาสมุทรเหือดแห้งก็ยังบรรยายคุณของพ่อแม่ไม่หมด


    บิดามารดาเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบุตร สรุปโดยย่อคือ

    ๑. เป็นต้นแบบทางกาย แบบเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ของทั้งหลายในโลกมีค่าสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ก้อนดินเหนียวธรรมดาถ้าหากนำมาใส่แบบพิมพ์แล้วพิมพ์เป็นตุ๊กตา ก็ทำให้ดินก้อนนั้นมีค่าขึ้นมาเป็นเครื่องประดับบ้านเรือนได้ ดินเหนียวก้อนเดียวกันนี้หากได้แบบที่ดีกว่าขึ้นมาอีก เช่นแบบเป็นพระพุทธรูป ดินเหนียวก้อนนี้ก็จะทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้นมีผู้คนได้กราบไหว้บูชา จะเห็นได้ว่าคุณค่าของดินเหนียวก้อนนี้ขึ้นอยู่กับแบบที่พิมพ์นั่นเอง
    ในทำนองเดียวกันการเกิดของสัตว์เช่นเป็น ช้าง ม้า วัว ควาย ฯลฯ แม้จะมีปัญญาติดตัวมามากสักปานใดก็ไม่สามารถทำความดีได้เต็มที่ โชคดีที่เราได้เกิดเป็นคนได้โครงร่างที่ประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งหลาย เหมาะในการทำความดีทุกประการเราจึงสามารถใช้ความรู้ความสามารถประกอบคุณความดีได้เต็มที่ ทั้งนี้ก็เพราะเรามีพ่อแม่เป็นต้นแบบทางกายให้นั่นเอง
    ๒. เป็นต้นแบบทางใจ ให้ความอุปการะเลี้ยงดูฟูมฟักทะนุถนอมอบรมสั่งสอน ปลูกฝังกิริยามารยาท ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมแก่ลูก
    พระคุณพ่อแม่ในการเป็นต้นแบบทางกายให้เราก็นับว่ามีมากเหลือหลายแล้ว ยิ่งท่านอบรมเลี้ยงดูเรามาเป็นต้นแบบทางใจให้ด้วยก็ยิ่งมีพระคุณมากเป็นอเนกอนันต์


    สมญานามของพ่อแม่
    สมญานามของพ่อแม่นั้น กล่าวกันว่าท่านเป็นทั้งพรหมของลูก,เทวดาคนแรกของลูก,ครูคนแรกของลูกและเป็นพระอรหันต์ของลูก ซึ่งอธิบายได้ดังนี้
    - พ่อแม่เป็นพรหมของลูก เพราะเหตุที่มีพรหมวิหารธรรม ๔ ประการ ได้แก่
    ๑.มีเมตตา คือมีความปรารถนาดีต่อลูกไม่มีที่สิ้นสุด
    ๒.มีกรุณา คือหวั่นใจในความทุกข์ของลูก และคอยช่วยเหลือเสมอไม่ทอดทิ้ง
    ๓.มีมุทิตา คือเมื่อลูกมีความสุขสบาย ก็มีความปลาบปลื้มยินดีด้วยความจริงใจ
    ๔.มีอุเบกขา คือเมื่อลูกมีครอบครัวสามารถเลี้ยงตนเองได้แล้ว ก็ไม่วุ่นวายกับชีวิตครอบครัวลูกจนเกินงาม และหากลูกผิดพลาดก็ไม่ซ้ำเติมแต่กลับคอยเป็นที่ปรึกษาให้เมื่อลูกต้องการ

    - พ่อแม่เป็นเทวดาคนแรก(บุรพเทพ)ของลูก เพราะคอยปกป้องคุ้มกันภัยเลี้ยงดูลูกมาก่อนผู้มีความปรารถนาดีคนอื่นๆ
    - พ่อแม่เป็นครูวิสุทธิเทพของลูก เพราะมีคุณธรรม ๔ ประการ ได้แก่
    ๑.ไม่ถือสาในความผิดของลูก แม้ว่าบางครั้งจะพลาดพรั้งล่วงเกินก็ให้อภัยเสมอ
    ๒.ปรารถนาประโยชน์แก่ลูกเสมอ ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร ก็ยังคงปรารถนาให้ลูกดีมีความสุข
    ๓.เป็นทักขิเณยยบุคคล เป็นเนื้อนาบุญของลูก เป็นผู้ที่ลูกควรทำบุญต่อตัวท่าน
    ๔.เป็นอาหุเนยยบุคคล เป็นผู้ควรแก่การรับของคำนับและการนมัสการของลูก


    คุณธรรมของลูก
    เมื่อพ่อแม่มีพระคุณมากมายปานนี้ลูกจึงควรมีคุณธรรมต่อท่าน คุณธรรมของลูกเริ่มที่รู้จักคุณพ่อแม่คือรู้ว่าท่านดีต่อเราอย่างไร สูงขึ้นไปอีกคือตอบแทนคุณท่าน ในทางพระพุทธศาสนาได้บรรยายคุณธรรมของลูกไว้อย่างสั้นๆแต่เก็บความไว้ได้อย่างครบถ้วนคือคำว่ากตัญญูกตเวที คุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นลูกรวมอยู่ใน ๒ คำนี้
    กตัญญู หมายถึง เห็นคุณค่าท่านคือเห็นด้วยใจ ด้วยปัญญา ว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อเราอย่างแท้จริง ไม่ใช่สักแต่ว่าปากท่องพระคุณพ่อแม่ปาวๆไปเท่านั้น
    คุณของพ่อแม่ดูได้จากอุปการะ คือประโยชน์ที่ท่านทำแก่เรามีอะไรบ้างที่แตกต่างจากคนอื่น ตามธรรมดาของคนทั่วๆไป เมื่อจะอุปการะใครเขาต้องเห็นทางได้เช่นเห็นหลักทรัพย์หรือดูนิสัยใจคอ ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าอุปการคุณของเขาจะไม่สูญเปล่าจึงลงมือช่วยเหลือ แต่ที่พ่อแม่อุปการะเรานั้นเป็นการอุปการะโดยบริสุทธิ์ใจจริงๆไม่ได้มองถึงหลักประกันใดๆเลย เราเองก็เกิดมาตัวเปล่าไม่มีหลักทรัพย์แม้แต่เข็มเล่มเดียว ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าอวัยวะร่างกายจะใช้ได้ครบถ้วนหรือไม่ ยิ่งนิสัยใจคอแล้วยิ่งรู้ไม่ได้เอาทีเดียวโตขึ้นมาจะเป็นอย่างไรจะเป็นคนอกตัญญูหรือไม่ไม่รู้ทั้งนั้น หนังสือสัญญาการรับปากสักคำเดียวระหว่างเรากับท่านก็ไม่มีแต่ทั้งๆที่ไม่มีท่านทั้งสองก็ได้โถมตัวเข้าช่วยเหลือเราจนสุดชีวิตที่ยากจนก็ถึงกับกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาช่วย เรื่องเหล่านี้ต้องคิดดูด้วยเหตุผลอย่าสักแต่คิดด้วยอารมณ์เท่านั้น การพิจารณาให้เห็นคุณของพ่อแม่ด้วยใจอย่างนี้แหละเรียกว่ากตัญญูเป็นคุณธรรมเบื้องต้นของผู้เป็นลูก ยิ่งพิจารณาเห็นคุณท่านมากเท่าไรแสดงว่าใจของเราเริ่มใสและสว่างมากขึ้นเท่านั้น
    กตเวที หมายถึง การทดแทนพระคุณของท่าน ซึ่งมีงานที่ต้องทำสองประการ คือ
    ๑.ประกาศคุณท่าน
    ๒.ตอบแทนคุณท่าน
    การประกาศคุณท่าน หมายถึง การทำให้ผู้อื่นรู้ว่าพ่อแม่มีคุณแก่เราอย่างไรบ้างมากน้อยเพียงใด เรื่องนี้มีคนคิดทำอยู่มากเหมือนกันแต่ส่วนมากไปทำตอนงานศพ คือเขียนประวัติสรรเสริญคุณพ่อแม่ในหนังสือแจก การกระทำเช่นนี้ก็ถูกแต่ถูกเพียงเปลือกนอกผิวเผินนัก ถ้าเป็นการกินผลไม้ก็แค่เคี้ยวเปลือกเท่านั้น ยังมีทำเลที่จะประกาศคุณพ่อแม่ที่สำคัญกว่านี้คือที่ตัวเรานี่เอง
    คนเราทุกคนคือตัวแทนของพ่อแม่ตนทั้งนั้น เลือดก็แบ่งมาจากท่านเนื้อก็แบ่งมาจากท่านตลอดจนนิสัยใจคอก็ได้รับการอบรมถ่ายทอดมาจากท่าน ความประพฤติของตัวเรานี่แหละจะเป็นเครื่องประกาศคุณพ่อแม่อย่างชัดแจ้งที่สุด ไม่ใช่อยู่ที่หนังสือแจกไม่ใช่อยู่ที่หีบศพบนเชิงตะกอนแต่อยู่ที่ตัวเรานี่เอง หากพิมพ์ข้อความไว้ในหนังสือแจกว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนตั้งอยู่ในศีลในธรรม แต่ตัวเราเองประพฤติสำมะเลเทเมาคอร์รัปชั่นทุกครั้งที่มีโอกาส ศีลข้อเดียวก็ไม่สนใจรักษาก็ผิดที่ไป สดุดีคุณพ่อแม่ว่าเป็นคนดีสุภาพเรียบร้อย แต่ตัวเรา ผู้เป็นลูกกลับประพฤติตัวเป็นนักเลงอันธพาลอย่างนี้คุณค่าของการสรรเสริญพ่อแม่ก็ลดน้ำหนักลง กลายเป็นว่ามอบหน้าที่ในการกตเวทีประกาศคุณพ่อแม่ให้หนังสือทำแทนให้กระดาษให้เครื่องพิมพ์ให้ช่างเรียงพิมพ์แสดงกตเวทีแทน แล้วตัวเรากลับประจานพ่อแม่ของตัวเองอย่างน้อยที่สุดก็ประจานแก่ชาวบ้านว่าพ่อแม่ของเราเลี้ยงลูกไม่เป็นประสา
    พ่อแม่ของใครใครก็รัก เมื่อรักท่านก็ประกาศคุณความดีของท่านสิประกาศด้วยความดีของตัวเราเองตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ยิ่งท่านยังมีชีวิตอยู่การประกาศคุณของเราจะทำให้ท่านมีความสุขใจอย่างยิ่งส่วนใครจะประพันธ์สรรเสริญคุณพ่อแม่พิมพ์แจกเวลาท่านตายแล้ว นั่นเป็นประเด็นเบ็ดเตล็ดจะทำก็ได้ไม่ทำก็ไม่เสียหายอะไร
    ไม่ว่าเราจะตั้งใจประกาศคุณท่านหรือไม่ ความประพฤติของเราก็เป็นตัวประกาศคุณท่านหรือประจานท่านอยู่ตลอดเวลา คิดเอาเองก็แล้วกันว่าเราจะประกาศคุณพ่อแม่ของเราด้วยเกียรติยศชื่อเสียงหรือจะใจดำถึงกับประจานผู้บังเกิดเกล้าด้วยการทำตัวเป็นพาลเกเรและประพฤติต่ำทราม

    การตอบแทนคุณท่าน แบ่งเป็น ๒ ช่วง คือ
    ๑.เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ช่วยเหลือกิจการงานของท่าน เลี้ยงดูท่านตอบเมื่อยามท่านชรา ดูแลปรนนิบัติการกินอยู่ของท่านให้สะดวกสบายและเอาใจใส่ช่วยเหลือเมื่อท่านเจ็บป่วย
    ๒.เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็จัดพิธีศพให้ท่านและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านอย่างสม่ำเสมอ


    แม้ว่าเราจะตอบแทนพระคุณท่านถึงเพียงนี้แล้วยังนับว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่ท่านมีต่อเรา ผู้ที่มีความกตัญญูกตเวทีต้องการจะสนองพระคุณท่านให้ได้ทั้งหมดพึงกระทำดังนี้

    ๑.ถ้าท่านยังไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็พยายามชักนำให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธาให้ได้
    ๒.ถ้าท่านยังไม่ถึงพร้อมด้วยการให้ทาน ก็พยายามชักนำให้ท่านยินดีในการบริจาคทานให้ได้
    ๓.ถ้าท่านยังไม่มีศีล ก็พยายามชักนำให้ท่านรักษาศีลให้ได้
    ๔.ถ้าท่านยังไม่ทำสมาธิภาวนา ก็พยายามชักนำให้ท่านทำสมาธิภาวนาให้ได้
    เพราะว่าการตั้งอยู่ในศรัทธา,การให้ทาน,การรักษาศีล,การทำสมาธิภาวนาเป็นประโยชน์โดยตรงและเป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ตัวบิดามารดาผู้ปฏิบัติเองทั้งในภพนี้ภพหน้า และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือเป็นหนทางไปสู่นิพพาน

    อานิสงส์การบำรุงบิดามารดา
    ๑.ทำให้เป็นคนมีความอดทน
    ๒.ทำให้เป็นคนมีสติรอบคอบ
    ๓.ทำให้เป็นคนมีเหตุผล
    ๔.ทำให้พ้นทุกข์พ้นภัย
    ๕.ทำให้ได้ลาภโดยง่าย
    ๖.ทำให้แคล้วคลาดภัยในยามคับขัน
    ๗.ทำให้เทวดาลงรักษา
    ๘.ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
    ๙.ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า
    ๑๐.ถ้ามีลูกก็จะได้ลูกที่ดี
    ๑๑.ทำให้มีความสุข
    ๑๒.ทำให้เป็นแบบอย่างอันดีแก่อนุชนรุ่นหลัง ฯลฯ

    “เพราะการปรนนิบัติในมารดาบิดานั้นแล บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญเขาในโลกนี้นี่เอง เมื่อเขาละไปแล้วย่อมบันเทิงในสวรรค์”

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ร่วมทำบุญบูชา กังหันพระเวทย์แปลงฟ้าดินผงกลับชาติ(ฝังธาตุอาตมัน)

    กังหันแปลงฟ้าดิน วิชากังหันนี้ปกติพ่ออาจารย์ท่านไม่เคยทำเพราะว่าทำแล้วต้องเอาให้สุดให้พัดสิ่งไม่ดีทุกเรื่องออกไปจากชีวิตทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าหลักการของกังหัน"ฝั่งนึงพัด ฝั่งนึงดูด" นั่นหมายความว่าเมื่อมีสิ่งร้ายออกไปย่อมมีสิ่งอันเป็นมงคลมาแทนที่ไม่ให้ว่างเปล่า

    จะช่วยเสริมดวงดูดสิ่งดีๆเข้ามาไม่มีสิ้นสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้ดูดอะไรก็ตามแต่ใจเราอธิษฐานเลยนะ แต่กังหันนั้นในขณะที่เค้าดูดเขาก็พัดปัญหาและอุปสรรคออกไปด้วยคือทำงานพร้อมกันสองทางพร้อมๆกันเลย กังหันพระเวทย์นี้คนใช้จึงเหลือแต่ความสุขสบายเพราะทุกข์เขาพัดทิ้งไปไม่เหลือเลย

    เมื่อพกสัญลักษณ์กังหันนี้ไปทิศใดก็จะนำชัยชนะและความโชคดีมาสู่เจ้าของ
    ตัดวงจรกรรมที่ริดรอนลงได้อย่างกระทันหัน ตราบใดที่กังหันพระเวทย์อยู่กับตัวชีวิตไม่มีที่จะสะดุดเลย ชีวิตใครที่ร้อนมากหรือว่าเย็นจนนิ่งไม่ขยับ จะปัญหาหนักหนาหรือเบาบางย่อมปัดเป่าได้สิ่งที่กังหันพระเวทย์แปลงฟ้าดินจะดึงดูดได้ก็ในเรื่องโชคลาภ,เงินทอง,หน้าที่การงานจะให้เงินสะพัดเท่าไหร่หวังลาภก้อนโตอย่างไรนี่จิตเราสั่งได้

    ทั้งจะพัดปัญหาชีวิตอีกเรื่องสุขภาพทรุดโทรมเปลี่ยนจากหนักให้เบาลงเรื่อยๆ พัดพามาซึ่งชื่อเสียง,ลาภยความสมบูรณ์ของครอบครัวชีวิตคู่และลูกหลาน,ดูดเอาคนอุปการะผู้สนับสนุนชีวิตเข้ามา,ช่วยให้เรามีความรู้มีความคิดสร้างสรรค์สมองปลอดโปร่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าติดตัวไว้เดินทางไปไหนก็ปลอดภัย โชคลาภคิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ
    ### ชุดกังหันพระเวทย์นี้เป็นชุดสองใบพัดและต่ออีกสองใบพัดด้วยตะกรุดเฉพาะศาสตร์ทำกังหันพระเวทย์แปลงฟ้าดินของพ่ออาจารย์ ท่านว่าสูตรนี้ครูในบังบดเคยสอนฉันไว้ ถ้าใช้สูตรนี้ทำกังหันเปลี่ยนชีวิตใครก็รายไหนรายนั้น เธอจะไปเอากังหันสำเร็จรูปมาให้ฉันเสกก็ทำไม่ได้เช่นนี้ ด้วยเขามีสูตรมีเคล็ดต้องทำกับมือต้องประกอบด้วยตะกรุดวิชาเฉพาะของเขา เช่นนี้กังหันพระเวทย์พ่ออาจารย์ท่านจึงยกไว้ว่าเป็นของประเสริฐใครมีติดตัวให้ใช้คู่ชีวิต

    จะเอาไปแก้เคล็ดแก้ที่ทางอาถรรพ์หรือติดตัวติดสถานที่ทำงานตึกรามบ้านช่องท่านว่าย่อมได้ทั้งสิ้น ต่อไปจะเป็นประโยชน์แก่ชนหมู่มากด้วยกังหันพระเวทย์เช่นนี้ไม่มีใครเขาทำกันเพราะต้องใช้พลังงานฟ้าดินขับเคลื่อน ถ้าฟ้าไม่เห็นดินไม่รู้จักทำไม่ได้เลย

    ชุดนี้ท่านได้นำมากดเข้ากับผงชุดพระเวทย์กลับชาติคือผงประคำครูที่สืบมาแต่ครูบาศรีวิชัย พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ซึมซับพระเวทย์พระคาถาจากครูบาศีลธรรมเจ้ามาจนหมด ผู้ใดมีไว้บูชาก็เจริญก้าวหน้าก้าวไกลก้าวไว กว่าใครเขาด้วยอำนาจแรงครู พ่ออาจารย์ท่านพลีมาทำผงชุดนี้ด้วยเป็นของสำคัญเฉพาะผู้มีวาสนาบารมีจะได้ใช้เท่านั้น นำมาป่นเป็นผงแล้วก็มีฤทธิ์อธิษฐานใช้ได้สารพัดนึก มีคุณวิเศษมากมาย เป็นเสน่ห์เมตตาโชคลาภวาสนาบารมีชั้นสูงทั้งแรงครูยังช่วยป้องกันเสนียดลบล้างความอัปมงคลใช้เป็นตัวเร่งบุญเสริมบารมีได้ยอดเยี่ยม ผงนี้ติดตัวไว้จะรอดพ้นปลอดภัยจากสัมภเวสี,ภูติผีปีศาจวิญญาณร้าย,เทวดาผ่ายมิจฉาทิฏฐิ รวมไปถึงลมเพลมพัดคุณไสยมนต์ดำและภัยที่มองไม่เห็นทุกประการ

    ท่านนำผงนี้มาเข้ากับผงเฉพาะตามสูตรสร้างพระเวทย์กลับชาติ ผงสูตรนี้ท่านว่าติดตัวไว้จะบังเกิดโชคลาภมีเงินทองไม่ขาดมือ คนที่ไม่มีก็จะมี คนที่มีก็จะพึงรักษาเอาไว้ได้ทั้งหาใหม่เพิ่มให้พอกพูน คิดสิ่งใดก็ทำได้คล่องตัวกิจการเจริญรุ่งเรืองพ้นวิกฤตในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะผงนี้หาเงินดีจริงท่านว่าสมัยก่อนลบเสร็จใช้ทำเลยไม่ได้นะต้องลองให้ประจักษ์แก่ใจก่อน ผงนี้ฉันแค่ใส่ถุงซิบให้คนเขาพกไปเล่นหวยกลับมาอีกทีข้อมือนี่ได้ใส่ทองเส้นโตกำไลทองหนาเท่าขอบโอ่งใส่ทองทั้งตัวหลายสิบบาท ท่านว่าต้องดีเพียงนี้จึงเรียกว่าทำสำเร็จเอามาใช้สร้างได้

    ทั้งยังผสมผงมวลสารต่างๆที่องค์บรมพรหมท่านกำชับไว้พ่ออาจารย์ท่านว่าเน้นไปทางมีกินไม่รู้สิ้นสุดทั้งนั้น ผงพวกนี้นี้แค่พกติดตัวก็มีกินมีใช้ไม่ขาดคนไม่มีโชคจะมีโชค โชคลาภเงินทองจะเข้ามาแบบไม่คาดฝัน ติดตัวไว้กันฝันร้ายทำให้ฝันดีและฝันเห็นช่องทางการทำมาหากินที่จะทำให้รวยหากมีวาสนาเทวดาจะมาบอกนิมิตรบันดาลซึ่งทรัพย์สินเงินทองและความสมปรารถนา

    ด้านหลังฝังด้วยเหล็กวิชาองค์ธาตุอาตมัน

    เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณสัณฐานเม็ดเล็ก ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง

    แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น)

    เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง
    ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น)

    ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น

    องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล

    ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น....

    พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น) ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด


    *** กังหันพระเวทย์นี้มีจำนวนจำกัดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น วิชาในบังบดเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีเจ้าของหมดแล้วทุกชิ้น ายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา กังหันพระเวทย์แปลงฟ้าดินผงกลับชาติ(ฝังธาตุอาตมัน) บูชา 900 บาท

    117676950-355408828807534-7009405307837246228-n.jpg 117603090-300432227864666-5170626157896335217-n.jpg
    117694622-1229685540710769-6469815449089472027-n.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    ร่วมทำบุญบูชา โคตรตะกรุดรวมพระเวทย์อรุณาจรัส(ราชรถมาเกย)

    "อักขระพุทธาคม..จะเปี่ยมอานุภาพเข้มขลังดุดันขึ้นกว่าปกตินับร้อยเท่าพันเท่า"
    โคตรตะกรุดนั้นเป็นนามของตะกรุดชั้นยอดที่สุดและเหนือที่สุดด้วยรวมพระเวทย์หลายตำรับที่ตกผลึกมาจากพ่ออาจารย์ซึ่งเป็นวิชาที่ท่านต้องใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจจนสำเร็จนานกว่า 30 ปี ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงยกวิชาที่นำมาลงตะกรุดชนิดนี้ว่าเป็นโคตรตะกรุดและเป็นตะกรุดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกตามตำรับของท่าน.. ### ท่านเน้นย้ำเสมอว่าผู้ใดก็ดีได้ครอบครองตะกรุดรวมพระเวทย์แล้วอักขระเลขยันต์พุทธาคมใดๆก็ตามที่ประทับอยู่ในตัวเราหรือแม้แต่วัตถุมงคลที่เราศรัทธาและครอบครองอยู่จะเปี่ยมอานุภาพเข้มขลังดุดันขึ้นกว่าปกตินับร้อยเท่าพันเท่า(เช่นนี้เองพ่ออาจารย์ท่านจึงสงวนไว้ด้วยว่าศักดิ์สิทธิ์มากย่อมเข้มขลังมาก...และอันตรายมากโดยเฉพาะกับผู้ที่เอาไปใช้ในทางเสื่อมด้วยท่านเกรงว่าจะเสียของเปล่าๆ) ด้วยตะกรุดรวมพระเวทย์นี้ท่านสร้างให้เป็นประโยชน์แก่การช่วยเหลือเกื้อกูล...และเน้นเป็นอย่างมากในทางปาฏิหาริย์ให้เกิดเรื่องมงคลซ้อนๆกันหลายชั้นแก่ผู้ครอบครอง(โชคดีเข้ามาพร้อมกันหลายๆเรื่องอยู่เสมอๆ)

    ยอดวิชาอรุณาจรัส...ที่ศึกษากว่า 30 ปี
    วิชาอรุณาจรัสนั้นพ่ออาจารย์ท่าน
    เรียกว่าอรุณเบิกฟ้าหรืออรุณจรัส เป็นช่วงเวลาที่ผู้อาราธนาจะได้พบกับชีวิตใหม่ดั่งประสบพบเจอแสงแรกของพระอาทิตย์ในความมืดมิด เมื่ออรุณทาบฟ้าพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นย่อมหมายถึงการอำลาจากไปของความมืดทั้งปวงด้วยสองสิ่งนี้จะอยู่คู่กันพร้อมๆกันนั้นไม่ได้เลย ท่านเล็งเห็นว่าชีวิตคนนั้นประสบทั้งสุขและทุกข์วนเวียนกันดั่งกาลเปลี่ยนผันของทิวาราตรีไม่ได้มีสุขยืนยงอยู่สถาพร ชนหมู่มากนั้นล้วนทุกข์ทับทวีในขณะที่สุขผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ตะกรุดรวมพระเวทย์อรุณาจรัสนั้นจึงเป็นดั่งเกราะป้องความสุขทั้งปวงให้สถิตย์กับตัวเราและเร่งค่ายกลแบบซับซ้อนให้เกิดสุขทับทวีหลายๆเรื่องต่อเนื่องกันไปไม่สิ้นสุด...จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งความสุข(สุขนิรันดร์คือพระนิพพาน) ชีวิตของผู้ถือครองอรุณาจรัสนั้นจะหาทุกข์ใดๆเบียดบังดั่งราตรีที่ย่างกรายเป็นไปตามวัฏจักรนั้นก็หามิได้

    พ่ออาจารย์ท่านให้คติว่า
    ในเวลาทุกข์ทับถมมาแสนทวีนั้น...เว้นแต่มีโคตรตะกรุดรวมพระเวทย์อรุณาจรัสแล้วผู้ที่ปรารถนาจะล่วงไปด้วยตนเองจำต้องพึ่งสติและความเพียรตั้งมั่นในคุณธรรมทั้งสิ้น เช่นนี้ตะกรุดจึงเป็นเหมือนดาบสองคมคือคนดีใช้ก็ได้ คนชั่วจะเอาไปใช้เรื่องชั่วๆก็ได้ไม่ติดขัดสนทางใดเลย อะไรได้ชื่อว่าเป็นความสุขของเขามันเข้าทางทุกอย่างไป จากคนที่ฝ่าฟันรัตติกาลเข้าหาแสงสว่างจักกลายกลับเป็นบุคคลที่ได้พบอรุณรุ่งของชีวิตอีกครั้งถ้าพบกับพระเวทย์ตะกรุดนี้ อรุณรุ่งของชีวิตที่จะทำให้เราโคจรไปไม่หยุดนิ่งดั่งได้รับแสงแรกแห่งอาทิตย์ทำลายความดำมืดทั้งปวง ผู้ที่อาราธนานั้นจะเดินไปข้างหน้าได้ไกลกว่าใครๆทั้งเดินไปได้เต็มแรงเต็มกำลังปณิธานไม่มีสิ่งใด..ทุกข์ใด..อุปสรรคใดมาทำให้หวั่นไหวเคลื่อนคล้อยจากโชคซ้อนทับอันถาโถมมาได้เลย

    ท่านเรียกผู้ที่ถือครองโคตรตะกรุดนั้นว่าผู้ได้โชค ด้วยว่าจะได้โชคเสมอ"ดุจมีราชรถมาเกย" ไม่ว่าจะโชค,ลาภ,ยศ,ตำแหน่งจะมาเกยมาถึงโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เรียกว่าเรื่องที่ไม่เคยคิดไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่าจะได้กับตัวเราโชคขนาดนี้จะมาตกลงที่เราก็จะได้กับเราแบบนี้คือได้โดยที่เราไม่รู้ตัว,ไม่ได้เตรียมตัวอยู่ดีๆก็ได้...วิชาอรุณาจรัสนั้นพ่ออาจารย์ท่านหวงแหนมากด้วยใช้เห็นผลคาตามาแล้ว คนที่ท่านเคยทำให้อยู่ดีๆก็ได้ขึ้นตำแหน่งอธิบดีแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเช่นราชรถมาเกย ใครเล่าจะคิดว่าอยู่ดีๆอธิบดีโรคจะกำเริบตายคนที่ควรได้ขึ้นแทนก็มาถูกดำเนินคดีพัวพันทุจริตเกี่ยวเนื่องเป็นลูกโซ่ต่อกันไปทีละคนๆ..จนมาถึงเจ้าตัวที่เดิมทีอยู่ไกลจากตำแหน่งมากกลับได้พิจารณาแต่งตั้งด้วยวิชาอรุณาจัลนี้จะเรียกว่ายกฐานะทันทีก็เคยเกิดมาแล้ว สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกตะกรุดนี้อีกนามหนึ่งเล่นๆว่าเจ้าราชรถมาเกย ท่านว่าเอาไปใช้เถอะยศศักดิ์อัครฐานใดๆจะมาเกยแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ดั่งท่านอุปมานิทานเอาไว้ว่าในสมัยโบราณเวลาที่พระมหากษัตริย์สิ้นพระชนม์โดยที่ยังไม่มีผู้สืบราชสมบัติไม่มีพระราชโอรสหรือรัชทายาท ขุนนางข้าบาททั้งหลายจะพร้อมใจกันเสี่ยงราชรถ คือจัดรถพระที่นั่งผูกม้าออกไปทำการเสี่ยงทายด้วยอำนาจของเทพยดาและพระเสื้อเมืองทรงเมือง..ถ้าม้านำรถไปหยุดที่ใครก็ถือว่าผู้นั้นมีบุญมากและได้รับการเลือกจากหลักเมืองเสื้อเมืองทรงเมืองแล้วให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาก็จะเชิญผู้นั้นผ่านพระราชสมบัติดั่งตำนานพระเจ้าสายน้ำผึ้งผู้สร้างวัดพนัญเชิงที่ได้ครองกรุงอยุธยาผ่านการเสี่ยงเรือพระที่นั่งเอกไชยหรือตำนานพระเจ้าแผ่นดินสมัยขอมโบราณที่ได้เสี่ยงราชรถนี้ก็เคยมีมาก่อน *** พ่ออาจารย์ท่านว่าการได้โชคจากวิชาอรุณาจรัสนี้ล้วนต้องเจอแปลกๆกันมากด้วยมักจะได้โชคใหญ่ๆแบบครั้งเดียวเปลี่ยนชีวิต ...เช่นนี้ท่านจึงเรียกว่าเจ้าราชรถมาเกยเพราะจะได้ไปประสบพบโชคแบบใหญ่ล้นพ้นตัว

    โคตรตะกรุดนั้นมีดีทุกด้านเพราะนำความปลอดโปร่งมาให้ชีวิตทั้งหมด จะเอาไปใช้ทางโชคลาภก็เป็นที่สุด.. ### ท่านว่าชีวิตคนถ้าดวงเปิดแล้วมันดีทุกอย่างนั่นแหละกลับกันถ้าดวงปิดพยายามจะเอาดีอย่างไรมันก็ไม่ได้ดี โคตรตะกรุดนี้ก็เช่นกันเอาไปใช้เถอะจะเข้าหาเจ้านาย,ทำมาหากิน,ทำมาค้าขาย,เจรจาธุรกิจ,ขอทางเมตตา,เสี่ยงโชค,สะกดคน...ท่านว่าใช้ออกได้ทุกทางไม่เลือกดีเลือกชั่วแต่ที่แน่ๆหลักๆเลยของวิชานี้คือใช้หากินคล่องตัวไม่ว่าจะอาชีพไหนโชคหล่นมาทางก็สะดวกไอ้ที่ฝืดเคืองอดอยากกังวลรับไม่พอจ่ายเป็นไม่มี โคตรตะกรุดนี้เด่นทางโชคลาภเงินทองจะทำอะไรการเงินก็ไม่ฝืดเคืองแม้คนเล่นพนันยังไม่อดอยากเอาว่าจะหากินทางไหนก็คล่อง..เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าทำได้ทั้งหมดแต่ถ้าจะเลือกไปทางชั่วก็คิดถึงนรกให้มากหน่อยแล้วไอ้ทางดีๆที่มีให้เดินก็เอาดีได้ไม่ยาก พกไปเถิดจะเกิดโชคอยู่เนืองๆทั้งเสริมดวงชะตาวาสนาบารมียังให้ตบะเดชะเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆทุกเมื่อเชื่อวัน จะได้คนคอยอุปถัมภ์ค้ำจุน ***ลองว่าวิชานี้แล้วคาดเอาไว้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันเปลี่ยนแปลงชะตากรรมจนได้เป็นเจ้าคนเป็นใหญ่เป็นโต...เลื่อนฐานะ...เลื่อนขั้น...เลื่อนตำแหน่ง แม้วางไว้ที่ใดหรือติดกายไปไหนดุจเราล้อมตนด้วยกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้นคอยคุ้มครอง ด้วยไปทางไหนก็จะมีแต่คนรักใคร่เป็นที่นิยมแก่ฝูงชน ### พ่ออาจารย์ท่านว่าถึงขั้นที่อยู่ทิศไหนทิศนั้นจะมีลาภผลและเกียรติยศปรากฏเกรียงไกรทั้งสิบทิศด้วยเทวดารักษาทิศทั้งแปดจะเข้ารักษาคอยค้ำชะตาให้เจริญรุ่งเรือง จะพ้นภัยอันตรายจากเทวดา..มนุษย์..นาค..ครุฑ..คนธธรรพ์..อสุรกายภูติผีเป็นมหากันอย่างถึงที่สุด หากมีศัตรูหมู่มารที่คิดร้ายอริทั้งหลายย่อมพินาศสาบสูญ

    ความพิเศษโคตรตะกรุดรวมพระเวทย์อรุณาจรัส
    นอกจากจะวาง
    มหาศาสตราเวทย์ปฐมกำเนิดกรรมเพื่อเร่งวาสนาคนด้วยมายาศาสตร์แล้วท่านยัผูกรูปแห่งจิตวิญญาณของมนุษย์เสริมลงไปด้วย พ่ออจารย์ท่านว่าต้องกำกับให้ครบนะเรื่องทางโลกทั้งหมดอะไรที่ขึ้นชื่อว่าทุกข์เข็ญต้องปิดประตูตายทั้งสิ้น..ทีนี้คนเราที่ดิ้นรนใช้ชีวิตกันอยู่ก็จะหมุนอยู่ในตัณหาสามคือ
    กามตัณหา...ความทะยานอยากในอารมณ์ที่ใคร่
    ภวตัณหา...ความทะยานอยากในความมีความเป็น
    วิภวตัณหา..ความทะยานอยากในความไม่อยากมี ไม่อยากเป็น

    เช่นนี้โคตรตะกรุดจึงอธิษฐานเรียกและขับได้สอดคล้องกับตัณหาในจิตใจทั้งสามของมนุษย์..### นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ และสิ่งที่เราไม่ต้องการ ชีวิตคนมีความทะยานอยากก็มีอยู่เท่านี้คือทำทุกอย่างสอดคล้องกับอารมณ์พึงใจสิ่งไหนไม่พึงใจสิ่งไหนโคตรตะกรุดต้องสอดรับกับอารมณ์เช่นนี้จึงจะเกิดผลได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานไปเถิดกิจใดที่เราปรารถนาแต่กายหยาบเราไม่มีปัญญาทำได้(ไม่อธิษฐานเขาก็รู้)กิจนั้นๆครูแต่โบราณที่รักษาวิชานี้ท่านจะเติมเต็มให้ ดั่งคติว่าถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลมนต์คาถา ความปรารถนาบรรดามี(ในสิ่งที่เป็นไปได้...ไม่ใช่บางคนมาถึงจะเป็นส.ส. ฝันว่าอยากเป็นรัฐมนตรีทั้งๆที่ชีวิตไม่มีพื้นฐานใดๆเลยต้องรอให้คนตายกันยกประเทศนั่นถึงจะได้เป็น ท่านว่าแบบนี้ก็ไม่ได้) ก็นั่นแหละความปรารถนาสารพัดโคตรตะกรุดคือสิ่งที่เป็นที่สุดจะทำให้สำเร็จได้ ด้วยเป็นวิชาพิศดารแตกต่างจากเครื่องมงคลทั้งปวงพ่ออาจารย์ท่านว่าฉันก็พูดมากไม่ได้ ได้แต่ให้เก็บไปคิดกันเองว่ามีอานุภาพเพียงใดเพราะฉันบอกไปในชื่อแล้วว่าเป็นโคตร..คือที่สุด ทั้งเป็นวิชาที่ลงและเสกทำได้ยากมากเหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือความแรงระดับตำนาน *** ท่านว่าถ้าใช้เป็นใช้ได้ทุกเรื่องเลยทางเสน่ห์นี่เป็นเรื่องขี้ผงมากเพราะตัณหาความต้องการไม่ต้องการของคนนี่มันครอบคลุมทั้งหมด

    ผงที่อุดตะกรุดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นก็ยิ่งดีเหนือดี เพราะใช้ดูดทรัพย์ได้...เรียกเทวดามาให้โชคก็ได้ รวมๆแล้วตะกรุดนี้พกไว้เงินไม่ขาดกระเป๋าเลยผงพวกนี้ฉันเพิ่มแร่ธาตุต่างๆไปมากทั้งแร่อกธรณี,เหล็กไหลดูดทรัพย์,เหล็กไหลวังบาดาล,เหล็กไหลแม่น้ำโขง,เหล็กไหลพญานาคสุทโธ...ท่านว่าแร่แต่ละตระกูลจะใช้เหล็กไหลสำคัญของวงศ์บาดาลมาบดเข้ากับผงทั้งหมดเพราะบาดาลนั้นเป็นแหล่งที่มาแห่งทรัพย์ของโลก จึงถือเคล็ดว่าใช้ดูดทรัพย์ในโลกได้ทั้งหมดท่านจะเน้นไปทางมหาดูดคือดูดทรัพย์ดูดได้ทุกสิ่งที่ปรารถนาจากคนไม่เคยมีจะได้มีทรัพย์ไหลมาเทมามีกินมีใช้ไม่ขาดไม่จน พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่บางอย่างก็มีราคาสูงมากแต่ออกชื่อไม่ได้เอาแค่ว่าหาให้ครบตามที่ครูในโลกทิพย์ท่านสั่งยังควักทุนไปมากด้วยท่านหวังเต็มร้อยให้คนใช้ไม่ขาดแคลนความสุขใดๆ *** ตะกรุดสำคัญนี้เพียงแค่ใช้ติดตัวและหมั่นทำบุญบ้าง สวดมนต์ภาวนาบ้าง ท่านว่าตายไปชาติหน้ายังมีกินเลยเธอเอ๋ย

    โคตรตะกรุดนี้มีพรรณคุณพิเศษอันประมาณไม่ได้ ## ต้องการเพียงนำไปใช้งานจริงเท่านั้นไม่ต้องว่าคาถาปลุกใดๆเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีเสื่อมมีแต่จะแรงขึ้นทวิทวีไปทั้งกัปทั้งกัลป์ เอาติดตัวไว้เถิดหนาจะพูดจาเอ่ยปากอะไรท่านว่าพูดถึงเงินก็ได้เงินพูดอะไรก็ได้แบบนั้น
    - หากปรารถนาทรัพย์สินเงินทองหรือสิ่งของใดก็ตามที่สูญเสียไปจะได้กลับมาเท่าทวีคูณ
    - หากปรารถนาจะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองไม่ตกต่ำให้อาราธนาติดตัวทุกเช้าค่ำ
    - หากติดตัวไว้จะเกิดแต่โชคลาภวาสนาที่ดี
    - หากติดตัวไว้ดวงชะตาที่กำลังเคราะห์ร้ายหรือตกปีชงหรือดวงไม่ค่อยดีก็จะกลับร้ายกลายเป็นดีขึ้นมาทันตาเห็น
    - หากอยากให้เกิดความรักใคร่ท่านว่าให้เขียนชื่อบุคคลนั้นแล้วห่อใส่ผูกไว้กับตะกรุดคนผู้นั้นจะไม่เบียดเบียนเราเลย
    - หากปรารถนาทางคู่ครองให้เขียนชื่อตนเองและบุคคลผู้นั้นใส่ไว้ในกระดาษแล้วห่อตะกรุดไว้ บุคคลที่หมายปองจะเกิดความคิดถึงคะนึงหาไม่รู้วายจนเก็บเอาไปฝัน
    - อาราธนาติดตัวไว้ศัตรูคู่อาฆาตที่คิดไม่ดีกับเราทั้งหลายจะพ่ายแพ้ภัยตัวเอง
    - จะเกิดมหามงคลที่ดีกับตนเองผู้ใหญ่เอ็นดูอุปถัมภ์ค้ำชูเราด้วยดี
    - ตะกรุดนี้พกพาติดตัวไว้ไม่มีใครกล้าเกลียด ความเกลียดชังอันใดจะไม่บังเกิดแก่เราเลย
    - อาราธนาติดตัวจะสะท้อนย้อนกลับคำด่าคำสาปแช่ง
    - หากปรารถนาความร่ำรวยให้อธิษฐานกับตะกรุดก่อนทำกิจใดๆจะสำเร็จลุล่วงโดยง่ายและได้กำไรมหาศาล
    - พกติดตัวเดินทางไปไหนมาไหนจะแคล้วคลาดปลอดภัยไม่มีอันตรายใดๆ
    - ใช้อธิษฐานป้องกันรักษาคุณไสยตลอดจนพระเวทย์คาถาการกระทำฝ่ายต่ำต่างๆ
    ........พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช้เถิด ใช้ได้ทุกด้านบอกความไม่หมด

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นเพื่อให้สมกับชื่อโคตรตะกรุดคือมีคุณใหญ่มาก...ท่านสร้างเพื่อเป็นของขวัญแก่ชีวิตด้วยเป็นวิชาที่ท่านเรียนได้ยากที่สุด ท่านปรารถนาจะเอาไว้ให้ใช้คู่กายจอมขมังเวทย์และผู้ปรารถนาจะรวมกำลังอักขระคาถาและอิทธิวัตถุใดๆในกายตนก็ดีเพื่อให้เกิดมงคล..ตัดอุปสรรคกั้น..หนุนชีวิต...กันอุบาทว์เข้าตัว...เพิ่มเงินเพิ่มทรัพย์...เพิ่มบารมี ท่านว่าตะกรุดนี้ดอกเดียวแขวนไว้คู่ชีวิตได้สบายเลยเธอเอ๋ย

    *** โคตรตะกรุดรวมพระเวทย์นี้เป็นของที่พ่ออาจารย์ท่านหวงไว้และกำชับไว้มั่นว่า ถ้าใครจะเอาไปใช้ทางเสื่อมทำให้จิตวิญญาณตนเองตกต่ำลงท่านว่าอย่านำไปเลย แต่ถ้าใครที่เพียรหาหนทางเจริญก้าวหน้าแก่ชีวิตก็ให้นำไปใช้เถิด รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ท่านว่าไม่ต้องแจ้งอะไรทั้งสิ้นเพราะเป็นของทิพย์ดั่งของเทวดามีจิตมีตัวรู้เอาไปใช้ได้เลย หากถึงมือเจ้าของแล้วมีแต่จะแรงขึ้นไม่มีเสื่อมถอยเลย รายได้ร่วมสมทบทุนถวายอาหารแห้งพระภิกษุในถิ่นทุรกันดารสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา โคตรตะกรุดรวมพระเวทย์อรุณาจรัส(ราชรถมาเกย) บูชา 4,000 บาท
    117929033-330351814677779-8681108487727400868-n.jpg 117775392-2392342084404116-8297510476544366813-n.jpg
    117831678-633532197286983-2143537493838577331-n.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    หลายคนได้รับนิมิตที่ครูท่านสื่อเเล้วข้อความมาเล่าให้ฟังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง...ครูตามในลักษณะต่างๆเมื่อพ่ออาจารย์ท่านเปิดจองโคตรตะกรุด ก็ถือเป็นเรื่องดีเพราะเครื่องมงคลนั้นเลือกเจ้าของบางคนแค่เห็นก็เกิดปิติหรือรู้สึกถูกโฉลกแล้ว
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,070
    ค่าพลัง:
    +16,507
    อวิชชา

    "อวิชชา" คืออะไร เเล้วทำไมถึงต้องรู้...?

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความไม่รู้อันใด เป็นความไม่รู้ในทุกข์ เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์  และเป็นความไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ นี้แหละเราเรียกว่า อวิชชา"

    "อวิชชา" กล่าวอย่างตรงตัวคือ "ไม่รู้ในอริยสัจ4" เรียก อวิชชา8 มีอยู่ว่า...
    1. ไม่รู้จักทุกข์
    2. ไม่รู้จักเหตุเเห่งทุกข์
    3. ไม่รู้ว่าทุกนั้นสามารถดับได้
    4. ไม่รู้หลักปฏิบัติในการดับทุกข์
    5. ไม่รู้อดีต คือ ไม่รู้จักภพภูมิ หรือการดับของขันธ์ทั้ง 5
    6. ไม่รู้อนาคต คือไม่รู้ว่ามีการเกิด การอุบัติขึ้น ของขันธ์ทั้ง 5
    7. ไม่รู้อดีตเเละอนาคต
    8. ไม่รู้ธรรมชาติของทุกข์ คือการเกิดขึ้นเเละดับไป (ปฏิจจสมุปบาท)

    เหตุเเห่งการเกิดทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้จึงเกิดจากความไม่รู้ของปุถุชน ต่างยึดถือราวกับเป็นสิ่งเที่ยงเเท้

    -ไม่รู้ว่าที่ถืออยู่คือไฟร้อน
    -ไม่รู้ว่าเหตุเเห่งความร้อนคือการถือไฟ
    -ไม่รู้ว่าวิถีหายร้อนนั้นมีอยู่
    -ไม่รู้ว่าจะว่าจะวางไฟร้อนนั้นอย่างไร

    34e2bfdbbcfd8b9281d8eae20d585203.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...