รวมรายชื่อหมอดูแม่นๆ ทีนี่ !!

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย รักไร้พ่าย, 30 เมษายน 2009.

  1. BIGGUNMAN

    BIGGUNMAN สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    โหรตาทิพย์ ดูทางในโดยใช้ญาณองค์เทพ
    ดูดวงโดยใช้จิตสัมผัสทางในโดยใช้ญ่ณเทพองค์พระจักรวาล ดูธุรกิจการงาน ดูจิตวิญญาณ ดูผี ดูเจ้าที่ ดูเทพเทวดา ดูพระพรหม ดูสิ่งศักดิ์สิทธ์ ดูเจ้ากรรมนายเวร ดูเรื่องเงินเรื่องทอง ดูเรื่องความรัก ดูเรื่องกรรม ดูเรื่องการถูกของถูกคุณไสย ดูเรื่องการถูกทำเสน่ห์ แก้อาถรรพ์ต่างๆ ดูเรื่องคู่ครอง ตัดวิบากกรรม เสริมบารมี ดูทุกเรื่องที่อยากรู้ ดูอดีต ดูปัจจุบัน ดูอนาคต ทุกคำถามมีคำตอบ ทุกปัญหามีทางแก้ไข
    ท่านที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องทำธุรกิจ ทำธุรกิจแล้วไม่เจริญรุ่งเรื่องไม่เป็นไปตามที่คาดคิด มีอุปสรรคทำให้ติดขัดตลอด หรือธุรกิจทำแล้วประสบกับการขาดทุนตลอดทั้งๆที่โอกาสน่าจะประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรือง ซึ่งเกิดจากพลังหรืออำนาจลึกลับทำให้ธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ เราสามรถช่วยแก้ไขให้ท่านได้ช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งหลายคนได้มาขอให้ ท่านอาจารย์ คำนวน เฉียบแหลม ทำพิธีตัดกรรม เสริมบารมี แก้ไขชะตาชีวิตให้ กลับพลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือประสบความในธุรกิจอย่างไม่น่าเชื่อ
    ท่านที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องคนรอบข้าง เพื่อน คนรัก หรือตัวท่านเอง ที่โดนคุณไสย ทำเสน่ห์ หรือโดนวิญญาณ เจ้าที่ ผี เทพ มาร ตามรังควาน หรือมาสิงสู่ ซึ่งท่านอาจารย์ คำนวน เฉียบแหลม ทำพิธีให้หลายๆคนที่โดนของเหล่านี้ หายอย่างไม่น่าเชื่อ หลายคนที่ทำพิธีกับท่านอาจารย์ คำนวน เฉียบแหลมประสบโชคดีมีโชคลาภหลายคน
    ส่วนในเรื่องความรักหลายคนที่อกหักผิดหวังในความรัก ได้มาให้ท่านอาจารย์คำนวน เฉียบแหลมทำพิธีเสริมเสน่ห์ให้ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ของท่านอาจารย์ คำนวน เฉียบแหลม สุดยอดมากๆ มีคนมาชอบมากมาย และสมหวังในรักไปหลายคน เป็นที่รักแก่ทุกคน ไม่ว่าเจ้านาย เพื่อร่วมงาน คนรัก ต่างรักมากขึ้นกว่าเดิม
    ส่วนท่านที่เป็นโรคเรื้อรังไปรักษาแพทย์แผนปัจจุบันไม่หาย ไปตรวจเอ็กซเรย์ไม่เจอสาเหตุของโรค แพทย์หาสาเหตุของโรคไม่เจอ แพทย์บอกว่าไม่รอดแน่ ไปรักษากับร่างทรง กับพระ กับแม่ชี แล้วยังไม่หาย มาให้ท่าน อาจารย์ คำนวน เฉียบแหลม ตรวจเช็คและทำพิธีรักษาให้ หลายคนต่างหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งท่านอาจารย์ คำนวน เฉียบแหลม จะทำพีธีตัดกรรมและเสริมบารมี ทุกคนที่เป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย ให้หายทุกราย
    อาจารย์พลังจิต ดูทางในโดยใช้ญาณเทพองค์ท่านพระจักรวาล รับดูทางโทรศัพท์ เบอร์โทรศัพท์ 0852976153 และเบอร์ 0831508205 และดูที่ตำนัก ค่าบูชาครูเพียงท่านละ 500 บาท
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  2. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ขออนุโมทนาบุญ
    คุณพี่ผู้หญิงธาตุไฟ(เตโชธาตุ)
    จากเมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย เวลา 11:30 น.15/11/2554
    ผมขอเน้นอีกอย่างหนึ่งนะครับ!
    คือเรื่องการชําระหนี้สงฆ์ อย่างต่อเนื่องอย่าได้ขาดนะครับ
    ส่วนอื่นๆก็ให้ทําเป็นปรกติ ตามแต่จะเห็นสมควรครับ
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  3. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ขออนุโมทนาบุญ
    คุณพี่ผู้ชายธาตุดิน(ปฐวีธาตุ)
    หมายเลขโทรศัพท์ +614342259-- จากกรุงซิดนีย์ เวลา19:35น 19/11/2554
    ประเทศออสเตรเลีย ที่กรุณาณาโทรมาปรึกษาเรื่องงานฯลฯ
    ผมขอเป็นกําลังใจและอวยพรให้คุณจงประสบแต่ความสุข ความสําเร็จในชีวิตคู่ ตลอดจนในหน้าที่การงานการเงินด้วย นะครับ
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  4. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ขออนุทนาบุญ
    และเป็นกําลังใจแด่
    คุณน้องผู้หญิง ธาตุลม(วาโยธาตุ)หมายเลขโทรศัพท์ +614321023--
    เวลา 07:27น 21/11/2554
    จากประเทศ ออสเตรเลีย
    ที่ได้กรุณาโทรมาปรึกษา เรื่องการเรียน
    กรุณาอย่าละเลยในสิ่งที่ควรกระทํานะครับ!
    ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมํ คลมุตฺตมํ
    (ปูชา จะ ปูชนียานัง เอตัมมัง คละมุตตะมัง)
    บูชาสิ่งที่ควรบูชา เป็นอุดมมงคลสูงสุด๑
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  5. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    "สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม"

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว พระองค์เป็นผู้ที่สามารถตอบปัญหา ไขปริศนา ทั้งสามโลกได้ แต่สําหรับปุถุชนนั้นเรื่องของกรรม-เวร เป็นเรื่องซับซ้อน เป็นสิ่งที่ลึกกว่าความนึกคิดคนธรรมดา หากไม่ศึกษาก็ยากแท้ที่จะหยั่งถึงได้ จึงเกิดคําถามชวนสงสัยอยู่เสมอ เป็นต้นว่าเพราะอะไรชีวิตจึงเป็นแบบนั้นแบบนี้ทํากรรมดี-กรรมชั่วแล้วจะได้รับผลเมื่อใดทํานองนี้เป็นต้น
    จะอย่างไรก็ตาม ในบรรดาความสงสัยอันมากมายก่ายกองเหล่านั้น ก็อย่าพึ่งคิด วกวนให้สับสนจนเกินไป ขอให้ตั้งเป็นพื้นฐานไว้ก่อนว่ากรรมนั้น มีจริงตามที่พระพุทธองค์ทรงพิสูจน์แล้ว จากนั้นค่อยๆ แกะรอยปัญหาด้วยปัญญา หากถามถึงความหมายนั้น แปลกันตรงๆ "กรรม"ก็คือผลของการกระทํานั่นเอง มีเหตุและผลอยู่ในตัวเองอย่างน่าพิจารณา
    "เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกฏแห่งกรรม ยังมีวิปัสสนากรรมฐาน"
    คำของหลวงพ่อชา สุภัทโธ กรรมนั้นเปรียบเสมือนกล้องที่จ้องมองเราอยู่ตลอดเวลา ในทุกขณะจิต ย้อนไปตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ถ้าเป็นภาพยนต์หรือละคร ก็มีภาคต่อ และต่อๆไป ไม่รู้จบสิ้น จนกว่าเราจะบรรลุสู่มรรคผลนิพพานได้ ซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายปลายทางของเราชาวพุทธ เป็นภาคจบสุดท้ายที่ประเสริฐสุดนั่นเอง แต่ระหว่างทางเดินอันยาวไกล ก่อนที่เราจะถึงดวงแก้วอันผ่องแผ้วนั้น ในลู่ทางเรายังมีสิทธิเลือกที่จะเดินไปดีๆ ระมัดระวังกาย ใจไม่ให้หลงผิดหรือใฝ่ต่ำได้ หมั่นสร้างสมแต่ความดี ขยันเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์แห่งกรรมดีไปตามทางตลอดอายุขัย ได้เหมือนการที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นภพภูมิที่เปิดกว้าง ให้เราสั่งสมบุญได้ดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าเราใช้ชีวิตในชาติหนึ่งผิดพลั้งไปกับการทำความชั่วก็ลังแต่จะสะสมกรรมชั่วให้เพิ่มพูน แล้วมันจะย้อนกลับมาทำร้ายเราเองได้อีก เป็นลักษณะของ
    "กงกรรม กงเกวียน เช่นนั้นเรื่อยไป"
    ขอเป็นกําลังใจและอนุโมทนาบุญกับ
    คุณพี่ผู้หญิง ธาตุไฟ(เตโชธาตุ)
    หมายเลขโทรศัพท์ +4709554-- เวลา16:05น 24/11/2554 จากประเทศนอร์เวย์
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  6. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    เพลงพระคุณที่สาม
    ครูบาอาจารย์ที่ท่านประทานความรู้มาให้
    อบรมจิตใจให้รู้ผิดชอบชั่วดี
    ก่อนจะนอนสวดมนต์อ้อนวอนทุกที
    ขอกุศลบุญบารมีส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น
    ครูมีบุญคุณจึงขอเทิดทูนเอาไว้เหนือเกล้า
    ท่านสั่งสอนเราอบรมให้เราไม่เว้น
    ท่านอุทิศไม่คิดถึงความยากเย็น
    สอนจนรู้จัดเจนเฝ้าเน้นเฝ้าแนะมิได้อำพราง
    พระคุณที่สามงดงามแจ่มใส
    แต่ว่าใครหนอใครเปรียบเปรยครูไว้ว่าเป็นเรือจ้าง
    พลาดจากความจริงยิ่งคิดยิ่งเห็นว่าผิดทาง
    มีใครไหนบ้างแนะนำแนวทางอย่างครู
    บุญเคยทำมาแต่ปางใดๆเรายกให้ท่าน
    ตั้งใจกราบกรานระลึกคุณท่านกตัญญู
    โรคและภัยอย่าได้แผ้วพานคุณครู
    ขอกุศลผลบุญค้ำชูให้ครูเป็นสุขชั่วนิรันดร ให้ครูเป็นสุขชั่วนิรันดร
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณน้องผู้หญิง หมายเลขโทรศัพท์ 083--- เวลา 20:09น 26/11/2254
    จากจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้กรุณาโทรมาปรึกษาเรื่องฯลฯ
    กรุณาท่องจํา ในสิ่งที่ผมย้ำเตือนสติน้องให้ขึ้นใจ
    และมีให้ค้นหาเพิ่มเติมในพระไตรปิฎก หรือ"บทสวดคําไหว้คุณหลวง"
    ภาษาและวรรณกรรมเมืองล้านนา โดยบุญคิด วัชรศาสตร์(ครูภูมิปํญญาไทย)
    คุณแม่๑๒ คุณพ่อ๒๑ คุณครูอาจารย์๑๐
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  7. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ขอขอบคุณทุกเสียงทุกสาย
    ที่ได้กรุณาโทรมาปรึกษา ปัญหา และทุกเรื่องราวฯลฯ
    ผม รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ทางใจของทุกท่าน
    ให้เบาบางลงไปได้ในระดับหนึ่ง
    แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ทั้งหมด ดังที่ท่านคาดหวังไว้ ผมเป็นเพียงผู้ให้สติเกิดแก่ท่าน และทําหน้าที่แกะรอยต้นตอของปัญหาเท่านั้น ส่วนที่เหลือท่าน!ควรใช้สติปัญญาที่มี ในการพิจารณาตามเหตุและปัจจัยต่างๆ
    แล้วท่านก็จะพบวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง โดยใช้หลักธรรมะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ได้อย่างถูกต้อง
    "ผมเป็นปุถุชนเช่นเดียวกับท่าน" และยังมีกรรมที่ต้องชดใช้ ปวดแสบเผ็ดร้อน ข้ามภพข้ามชาติ
    อย่างนี้เช่นกัน จนกว่าเราจะบรรลุสู่มรรคผลนิพพานได้ ซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายปลายทางของเราชาวพุทธ เป็นภาคจบสุดท้ายที่ประเสริฐสุดนั่นเอง ดั้งนั้นจึงเป็นแรงพลักดันให้กระผมต้องประพฤติประฎิบัติ
    ในการกระทําทั้งทาง กาย วาจา ใจ ด้วยความบริสุทธิดังนี้เป็นต้น
    บางท่านอาจจะยังสงสัยและไม่แน่ใจว่าผมมีเจตนาอื่นแอบแฝงด้วยรึเปล่า!
    ท่าน เท่านั้นที่จะเป็นผู้ตอบข้อสงสัยนี้ เพราะพระธรรมเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า
    พระพุทธเจ้าเป็นนาย มีอิสระเหนือเรา จึงมีคํากล่าวไว้ว่า สัตว์โลกยอมเป็นไปตามกรรม
    เราทํากรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม เรา ย่อมเป็นผู้ที่ต้องรับผลของกรรมนั้น
    โดย ไม่ต้องสงสัยครับ!
    และต้องขออภัยที่กระผมต้องของด ในส่วนที่เป็นการอนุโมทนาบุญ
    เพื่อความสบายใจแก่ผู้อ่าน และผู้พบเห็น มา ณ โอกาสนี้ด้วย สวัสดีครับ
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  8. miharu

    miharu สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอตอบบ้างนะคะหลังจากซุ่มอ่านในเว็บนี้อยู่นาน

    ปกติเลยหนูจะไปดูกับอาจารย์นิด(น้านิด) หมอดูพลังนิมิตรจิต ที่อยู่ตรงสนามบินน้ำอ่ะค่ะ
    จะใช้การดูไพ่ป๊อกบวกกับใช้จิตสัมผัส จะบอกยังไงดี..คือไปดูกี่ครั้งก็สบายใจด้วยความที่น้านิดเป็นคนที่พูดจานุ่มนวลน่าฟังและให้คำอธิบายที่ดี บอกตรงทุกเรื่องไม่ว่าจะดีไม่ดีไม่มีกั๊กเลยค่ะ ใครสนใจเชิญติดต่อได้นะคะ ท่านน่ารักมากจริงๆค่ะ ^^"
    ติดต่อ 0860547899

    และวันนี้มีโอกาสได้ไปดูกับอาจารย์เป็ด พยากรณ์ (แยกห้วยขวาง ศาลพระพิฆเนศ)
    ตามที่กระทู้นี้ได้แนะนำกันไป..
    ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ เป๊ะๆๆๆๆและเป๊ะ จนพูดไม่ออกเลย..ทั้งเรื่องดีไม่ดี ถูกต้องทุกอย่างแทบจะไม่ต้องเอ่ยปากถามเลยค่ะ เพราะมันเป็นพื้นฐานดวงของคนเราอยู่แล้วอาจารย์เห็นอะไรก็จะบอกตามนั้น..สุดยอดจริงๆค่ะ

    เท่าที่ไปดูหลายๆที่มา ก็เชื่อใน 2 ท่านนี้ค่ะ

    แล้วก็..อีกที่หนึ่งคือในเว็บ ดูดวง ดูดวงฟรี ดวง ดูดวงความรัก ดูดวงการเงิน ดูดวงการงาน ดูดวงสุขภาพ
    ที่นี่ก็แม่นแบบ...สุดๆ

    ส่วนใครที่ชอบดวงรายสัปดาห์และรายปักษ์ แนะนำ..คู่สร้างคู่สมและ Spicyค่ะ
    เป๊ะอีกเช่นกัน

    เท่าที่ผ่านมาและจากเป็นคนชอบดูดวงก็มีเท่านี้ล่ะค่ะ ^^
     
  9. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ฑีฆายุโก โหตุ มหาราชา

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
    "พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญ ของปวงชนชาวไทย" และนาๆอริยะประเทศ
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
    ข้าพระพุทธเจ้า นายสิริ ศรีสมบัติ
    พร้อมครอบครัว ปวงชนชาวไทยจังหวัดลําพูน
    2/12/2554
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2011
  10. mintmumu16

    mintmumu16 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +1
    เป็นคนที่ตรเวนดูดวงเยอะมากๆค่ะ ทั้งที่คุณรักแนะนำในญาณทิพย์และอื่นๆ เท่าที่ดูมา มิ้นท์ว่าพี่นัตตี้ แม่นค่ะ

    ที่วัดมหาบุศข้างในวัดอ่ะค่ะ แม่นจริง ผมสั้นๆอ้วนๆดำๆอยู่ด้านหลังของศาลย่านาค ดูไพ่ประกอบวันดือนปี แม่นแบบ รุว่ามิ้นทะเลาะกะแฟนเมื่อไร เลิกเมื่อไร คบกันเมื่อไร ทั้งๆที่ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ 0867875432 ค่าครู200 ดูในวัดอย่างเดียวค่ะ

    อ.นาคแก้วก็แม่นจิงค่ะ คุยด้วยแล้วสบายใจ เสียงอ.เหมือนมีมนทำให้รุสึกเย็นลง แต่ค่าครูแอบเพง 500

    อ.เล็ก ที่คุนรักแนะนำในเว็ปญาณทิพย์ก็แม่นพอสมควรค่ะ

    แต่ที่คิดว่าแม่นมากๆๆมากที่สุดที่เคยเจอมา คงเป็น ตำหนักเจ้าพ่อพระยาเมียงราย ใช้วันเดือนปี และญาน แบบว่า แค่โทไปถามคิว เค้าก็ทักว่า ทุกข์มากใช่ไหม กะความรัก เมื่อไรจะทุกเลิกคิด โหห เท่านั้นแหละค่ะ ตื่นเต้น อยากดูมาก พอดูก็ตรงมากค่ะ อ.ท่านพูดคำพูดที่แฟนหนูพูดแป๊ะ แล้วพูดในสิ่งที่หนูคิดแป๊ะ ว่าทำไมถึงไม่ตัดใจ เลิกกันเพราะอะไร และเรื่องที่ผ่านมาเป็นไง แฟนหนูหน้าตา ลักษนะเป็นไง แกพูดถูกหมดเลยค่ะ ตำหนักอยู่ที่ลำปางค่ะ ดูที่ตำหนัก 59มั้งค่ะ ถ้าทางมือถือ200 แต่ทำใจด้วยนะค่ะอ.แกพูดแบบไม่รักษาน้ำใจเท่าไร แบบพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม 0869186304
     
  11. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    +3xxxxxxxxxx (New York City - NYC)
    คุณอยู่ทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ
    น้าหญิงที่อยู่หน้าวัดร่ำ...เมืองไทย
    ท่านได้ดําเนินงานทําบุญ... 10/12/2554 ซึ่งเป็นวันพระ
    "ผมก็ทําไปพร้อมๆกันอีกทางหนึ่งหนึ่งครับ"
    ทั้งหมด 20 ยังเหลืออีก 19
    ตอนเย็นผมจะต้องไปร่วมทําบุญสวดอภิธรรม ศพภรรยา ผู้ใหญ่บ้านระแวกเดียวกัน
    เหลือ 18 และยังงานบูญทางวัดอีกมากมายฯลฯ
    ผมจะกระจาย..ให้ได้มากที่สุดครับ
    ส่วนคุณ...ของคุณ หากท่านรับรู้ล่วงหน้าแล้ว ท่านคงจะได้มาอนุโมทนาบุญกับครอบครัวของผม
    ตอน2ทุ่มกว่าๆ ในการตัดสินใจทํากุศลให้เกิดในครั้งนี้ น่าชื่นใจครับ ส่วนที่คุณถามผมค้างไว้มีให้ศึกษาตามข้างล่างนี้นะครับ
    มรณานุสสติ แปลว่า นึกถึงความตายเป็นอารมณ์ เรื่องของความตายเป็นของธรรมดา
    ของสัตว์และมนุษย์ที่เกิดมา เมื่อมีความเกิดมาได้แล้ว ก็ต้องตายในที่สุดเหมือนกันหมด ความ
    ตายนี้รู้สึกว่าเป็นปกติธรรมดาของคนและสัตว์ทั่วไป ท่านผู้อ่านจะสงสัยว่า เมื่อความตายเป็นของ
    ธรรมดาที่ใคร ๆ ก็ทราบว่าตัวจะต้องตาย แล้วพระพุทธเจ้ามาสอนให้นึกถึงความตายเพื่อประโยชน์
    อะไร ? ปัญหาข้อนี้ตอบไม่ยาก เพราะธรรมดาของคนที่มีกิเลสทั่วไป รู้ความตายว่าเป็นของธรรมดา
    จริง แต่ทว่า เห็นว่าเป็นธรรมดาสำหรับผู้อื่นตายเท่านั้น ถ้าความตายจะเข้ามาถึงตนเองหรือญาติ
    คนที่รักของตนเข้า ก็ดิ้นรนเอะอะโวยวายไม่ต้องการให้ความตายมาถึงตนหรือคนที่ตนรัก พยายาม
    ทุกทางที่จะไม่ยอมตายปกติของคนเป็นอย่างนี้ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า เกิดมาแล้วต้องตาย ไม่ว่าใคร
    จะหนีความตายไม่ได้ การดิ้นรน เอะอะโวยวายต้องการให้ความตายไปให้พ้นนี้เป็นการดิ้นรนเหนือ
    ธรรมดาไม่มีทางทำได้สำเร็จ จะทำอย่างไร ความตายก็ต้องจัดการกับชีวิตแน่นอน เมื่อกฎธรรมดา
    เป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าจึงทรงสอน คือย้ำตามความเป็นจริงว่า ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
    ความตายนั้นเป็นสิ่งปกติธรรมดาไม่มีใครจะหลีกหนีพ้น ความตายนี้แบ่งออกเป็นสาม
    อย่างด้วยกัน คือ
    ๑. สมุจเฉทมรณะ ความตายขาดตอน หมายถึงความตายของพระอรหันต์ท่านเสร็จ
    กิจแห่งพรหมจรรย์ คือสิ้นกิเลสแล้ว เหตุที่จะต้องทำให้เกิด คือกิเลสและตัณหาที่จะควบคุมบังคับ
    ท่านให้เกิดอีกไม่มี ท่านมรณะแล้วท่านไม่ต้องกลับมาเกิดอีก เรียกว่า สมุจเฉทมรณะ แปลว่า
    ตายขาดตอนไม่กลับมาเกิดอีก
    ๒. ขณิกมรณะ แปลว่า ตายเล็กๆ น้อย ๆ ท่านหมายเอาความตาย คือ ความดับ หรือการ
    เคลื่อนไปของชีวิต ที่มีการเคลื่อนไปวันหนึ่ง ๆ วันเวลาล่วงไป ชีวิตก็เคลื่อนไปใกล้จุดจบสุดยอดคือ
    ตายดับทุกขณะ การผ่านไปของชีวิตท่านถือเป็นความตาย คือ ตายทุกลมหายใจออกและเกิด
    ต่อทุกๆ ลมหายใจเข้า อาหารเก่าที่บริโภคเข้าไปเป็นการหล่อเลี้ยงชีวิตชั่วคราวเมื่อสิ้นอำนาจ
    ของอาหารเก่า ร่างกายต้องการอาหารใหม่เข้าไปหล่อเลี้ยงแทนแต่ถ้าไม่ได้อาหารใหม่เข้าไปทด
    แทนชีวิตก็จะต้องดับ ชีวิตที่ทรงอยู่ได้ก็เพราะอาหารใหม่เข้าไปหล่อเลี้ยงไว้ เมื่อสิ้นสภาพของอาหาร
    เก่า ท่านถือว่าร่างกายต้องตายแล้วไปยุคหนึ่ง พอได้อาหารใหม่มาทดแทน ชีวิตก็เกิดใหม่อีกวาระ
    หนึ่ง การเกิดการตายต่อเนื่องกันทุกวันเวลาอย่างนี้ ถ้าอาหารเก่าหมดสภาพไม่บริโภคใหม่ หรือลม
    หายใจออกแล้ว ไม่หายใจเข้า สภาพของร่างกายก็จะสิ้นลมปราณ คือตายทันที ที่ทรงอยู่ได้อย่างนี้ก็
    เพราะได้ปัจจัยบางอย่างค้ำจุนทดแทนกันเข้าไป ท่านสอนให้มองเห็นสภาพของสังขารร่างกายว่ามี
    ความตายเป็นปกติทุกวันเวลาอย่างนี้ท่านเรียกว่า ขณิกมรณะ แปลว่า ตายทีละเล็กละน้อย หรือ
    ตายเล็ก ๆ น้อย ๆ
    ๓. กาลมรณะ และ อกาลมรณะกาลมรณะ แปลว่า ตายตามกาลตามสมัยที่ชาวโลก
    นิยม เรียกว่า ถึงที่ตาย คือสิ้นอายุ อย่างชนิดที่ไม่มีการแก้ไขได้ อกาลมรณะ แปลว่า ตายใน
    โอกาสที่ยังไม่ถึงกาลควรตาย แต่ต้องตายเพราะกรรมบางอย่างที่เป็นอกุศลเข้ามาบีบคั้น
    ให้ตายการตายประเภทหลังนี้พอมีทางต่อให้อายุยืนยาวต่อไปได้ตามสมควรแก่กรรมใน
    อดีต จะต่อให้เลยพอดีนั้นไม่ได้ พวกตายตามแบบกาลมรณะตายไปแล้วเสวยผลกรรมทันที แต่
    พวกที่ตายตามแบบอกาลมรณะนี้ ตายแล้วยังไม่ไปเสวยผลกรรมทันที ต้องไปเป็นสัมภเวสี แสวงหา
    ที่เกิดก่อน คือรอกาลที่จะถึงกาลมรณะก่อน เมื่อถึงเวลาแล้วจึงจะได้รับผลกรรมดีและกรรมชั่วที่ทำ
    ไว้ขณะที่ยังไม่ได้รับผลกรรมที่ทำไว้นั้นต้องลำบากในเรื่องอาหารและที่อยู่ ท่องเที่ยวไปตามความ
    ต้องการ พวกตายแบบอกาลมรณะนี้ ที่ชาวโลกนิยมเรียกว่า ตายโหงนั่นเอง เช่น ถูกฆ่าตายคลอด
    ลูกตาย รถทับตาย ฟ้าผ่าตาย ฆ่าตัวตาย งูกัดตาย รวมความว่าตายแบบผิดปกติ ไม่ใช่ป่วยตายตาม
    ธรรมดาเรียกว่า อกาลมรณะ คือตายก่อนกำหนด ตายทั้งนั้น การตายแบบนี้ ถ้ามีท่านผู้รู้ช่วย
    เหลือสามารถช่วยให้พ้นตายได้ เช่น ที่นิยมเรียกกันว่า สะเดาะเคราะห์หรือต่ออายุ การสะเดาะ-
    เคราะห์หรือต่ออายุนั้น ต้องทำโดยธรรมจริง ๆ และรู้จริงจึงใช้ได้แต่ถ้าต่อแบบหมอต่อยัง
    มืดมนท์ด้วยกิเลสแล้วไม่มีทางสำเร็จผล ไม่ต่อดีกว่า ขืนต่อก็เท่ากับไปต่อชีวิตหมอให้มีความสุข
    ส่วนผู้ต่อกลายเป็น ผู้ต่อทุกข์ไป เรื่องต่ออายุนี้มีเรื่องมาในพระสูตรคือเรื่องของท่าน อายุ-
    วัฒนสามเณร

    เรื่องย่อดังนี้
    วันหนึ่ง บิดามารดาพาท่านเมื่อยังเกิดไม่กี่เดือนไปหาพระพุทธเจ้า (ขอเล่าลัด ๆ) เมื่อบิดา
    ลาพระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า "ทีฆายุโก โหตุ" แปลว่า ขอเธอจงมีอายุยืนนาน พอแม่เข้าลา
    ท่านก็ว่าอย่างนั้น ตอนท้าย สองผัวเมียให้ลูกชายกราบลาท่าน ท่านไม่พูด คือท่านเฉยเสีย สองผัว
    เมียแปลกใจ ถามว่า เมื่อเกล้ากระหม่อมฉันสองผัวเมียกราบลา พระองค์ให้พรว่าขอเธอจงมีอายุ
    ยืนนาน แต่พอเกล้ากระหม่อมฉันให้ลูกชายลา พระองค์ทรงนิ่ง เหตุอะไรจะมีแก่บุตรชายเกล้า
    กระหม่อมฉันทั้งสองหรือพระพุทธเจ้าข้า
    พระองค์ตรัสตอบว่า เพราะบุตรชายของเธอจะตายภายใน ๗ วันนี้ ตถาคตจึงไม่กล่าวอย่างนั้น
    สองผัวเมียฟังแล้วตกใจ ขอให้พระองค์ช่วยเหลือ พระองค์สั่งให้ไปปลูกโรงพิธีกลางลานบ้าน แล้ว
    ให้เอาพระไปนั่งล้อมเด็กสวดพระปริตครบ ๗ คืน ๗ วัน พอวันที่ ๗ เป็นวันตายของเด็ก เพราะยักษ์
    จะมาเอาชีวิตวันนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จเอง เมื่อพระองค์เสด็จ พรหมและเทวดาผู้ใหญ่มามาก ยักษ์
    เข้าไม่ถึง พอครบเวลาที่ยักษ์จะเอาชีวิต หมายความว่า ถ้าเลยเวลาเขาทำไม่ได้ เขาทำตามกฎของ
    กรรมว่าจะให้ตายเวลาเท่าใด เวลาเท่านั้นเขาจะต้องทำให้ได้ ถ้าเลยเวลาแล้วเขาก็ไม่ทำ พอเลย
    เวลาที่เด็กจะต้องตาย พระพุทธเจ้าท่านก็พาพระกลับ เลิกพิธี ก่อนกลับพระองค์ให้พรแก่เด็กว่า
    ทีฆายุโกโหตุต่อมาเด็กคนนั้นมาบวชเณรเมื่ออายุ ๗ ปี ได้สำเร็จพระอรหันต์ ท่านมีอายุครบ ๑๒๐
    ปี จึงนิพพาน
    พวกอกาลมรณะนี้ต่อได้อย่างนี้ แต่การต่อต้องเป็นผู้รู้จริง ทำถูกต้องจริง และการทำให้ต้อง
    ไม่ปรารภสินจ้างรางวัล ทำเพื่อการสงเคราะห์จริงๆ จึงเกิดผลว่า จะพูดเรื่องตายเป็นกรรมฐาน
    แอบมาเป็นหมอต่ออายุเสียแล้วขอวกกลับไปเรื่องมรณานุสสติใหม่

    นึกถึงความตายมีประโยชน์
    ประโยชน์ของการนึกถึงความตาย ทำให้เป็นคนไม่ประมาท เพราะรู้ตัวว่าจะตายจะได้
    แสวงหาความดีใส่ตัวโดยรู้ตัวว่า ชาตินี้จนเพราะชาติก่อนให้ทานไว้น้อย ถ้าชาติหน้าไม่ยากจนอีก ก็
    พยายามให้ทานเสมอ ๆ ตามกำลังทรัพย์ที่พอจะให้ได้ และอย่าให้จนหมดตัว จะเกินพอดี ต้องให้พอ
    เหมาะพอดี ไม่เดือดร้อนภายหลังนั่นแหละจึงจะควร
    รู้ตัวว่ามีโรคมาก ป่วยไข้ไม่สบายเสมอๆ ของหายบ่อย ๆ รูปร่างสวยน้อยไปคนในบังคับ
    บัญชาดื้อด้าน วาจาไม่ศักดิ์สิทธิ์ อารมณ์ความจำเสื่อม ถ้าต้องการให้สิ่งบกพร่องเหล่านี้สมบูรณ์ใน
    ชาติหน้าจะได้พยายามรักษาศีล ๕ให้บริสุทธิ์ครบถ้วนแล้ว ก็จะได้รับอานิสงส์ มีอายุยืน รูปสวย ไม่มี
    โรคภัยรบกวน ไม่มีภัยจากโจรรบกวนทรัพย์สมบัติ คนในบังคับบัญชาอยู่ในโอวาทเป็นอันดี ไม่มีใคร
    ดื้อด้าน มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ พูดอะไรเป็นนั่น มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ก็ตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์
    ถ้าเห็นว่า มีปัญญาน้อย ไม่ใคร่ทันเพื่อน ก็พยายามเจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน
    พอมีฌานมีญาณเล็กน้อย ในชาติต่อไปก็จะเป็นคนมีปัญญาเลิศ
    ถ้าเห็นว่าความเกิดเป็นโทษเป็นทุกข์ เพราะการเกิด ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร มีตระกูล
    สูงส่งประการใดก็ตาม ต้องประสบกับความทุกข์อย่างมหันต์ และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต้องการความ
    เกิดอีก ก็เร่งรัดเจริญสมถะให้ได้ฌานต้น แล้วเจริญวิปัสสนาญาณให้จบกิจพระศาสนา ซึ่งเป็นของ
    ไม่หนักเลยสำหรับท่านที่นึกถึงความตายเป็นปกติ หรือที่เรียกว่า เจริญมรณานุสสติกรรมฐาน
    เพราะกรรมฐานกองนี้ เป็นกรรมฐานหลักสำหรับเจริญวิปัสสนาญาณ ท่านจะได้ดี เป็นเทวดา เป็น
    พรหม เป็นพระอรหันต์ ก็ต้องอาศัยการปรารภความตายเป็นปกติ แม้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เอง พระองค์แม้แต่จะเป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ก็ไม่ทิ้งมรณานุสสติกรรมฐาน คือนึกถึงความตาย
    เป็นอารมณ์ วันหนึ่งพระองค์ตรัสถามพระอานนท์ว่า อานันทะ ดูก่อนอานนท์ เธอนึกถึงความตายวัน
    ละกี่ครั้ง พระอานนท์กราบทูลตอบว่า นึกถึงความตายวันละเจ็ดครั้งพระเจ้าข้า พระองค์ตรัสว่า ยัง
    ห่างมากอานนท์ ตถาคตนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก การนึกถึงความตายเป็นปกติเป็น
    ของดี แม้แต่พระพุทธเจ้ายังเฝ้าคิดถึงความตาย เพราะผู้ที่คิดถึงความตายรู้ตัวว่าจะตายแล้ว
    ย่อมไม่สั่งสมความชั่ว คอยปลีกตัวออกจากความชั่วและมีอารมณ์ไม่หวั่นไหวในเมื่อความตาย
    มาถึงแล้ว เพราะคิดอยู่รู้อยู่เสมอแล้วว่าเราต้องตายแน่ ความตายนี้หานิมิตเครื่องหมายไม่ได้
    กำหนดการเกิดหมอบอกได้แต่กำหนด เวลาตายไม่มีใครกำหนดได้แน่นอนสำหรับปุถุชน
    คนธรรมดา สำหรับพระอริยเจ้าหรือท่านที่ชำนาญในอานาปานุสสติกรรมฐานท่านสามารถบอก
    เวลาตายที่แน่นอนของท่านได้ พระอริยาเจ้าที่จะบอกเวลาตายได้ ก็ต้องเป็นท่านที่ได้ วิชชาสาม
    เป็นอย่างน้อย ถ้ามีความรู้พิเศษต่ำกว่านั้น ท่านก็กำหนดเวลาตายไม่ได้เหมือนกัน ท่านเปรียบชีวิต
    ไว้คล้ายกับขีดเส้นบนผิวน้ำ ขีดพอปรากฏว่ามีเส้นแล้วในทันทีเส้นที่ขีดนั้นก็พลันสูญไปชีวิตของ
    สัตว์ที่เกิดมาก็เช่นเดียวกันความตายรออยู่แค่ปลายจมูกถ้าสิ้นลมปราณเมื่อไร ก็สิ้นภาวะเมื่อนั้น
    เอาความยั่งยืนไม่ได้เลย
    ท่านเจริญมรณานุสสติกรรมฐาน เมื่อท่านคิดถึงความตายเป็นปกติ จนเห็นความตายเป็น
    ปกติธรรมดา เตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์คือ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาพอสมควรแก่ความ
    ต้องการแล้ว ถ้าคิดให้ไกลไปอีกสักนิดว่า ความตายเป็นของมีแน่ เราไม่หนักใจแล้ว ความเกิดต่อไป
    ก็มีแน่ จะเกิดเป็นอะไรก็ตามเต็มไปด้วยความทุกข์ หนีทุกข์ไม่พ้น เราไม่ต้องการความเกิดอันเป็น
    เหยื่อของวัฏฏะอีก แม้แต่ร่างกายอันเป็นที่หวงแหนยิ่ง จะต้องพังทลายเรายังไม่มีเยื่อใย ก็สมบัติอะไร
    ในโลกีย์ที่เราต้องการ เราไม่ต้องการอะไรอีก เทวโลก พรหมโลก เราไม่ต้องการ สิ่งที่พอใจที่สุดก็
    คือพระนิพพาน ทำใจให้ว่างจากความเกิด ความเกาะในชาติภพ ปรารภพระนิพพานเป็นปกติ อย่างนี้
    ท่านมีหวังสิ้นชาติสิ้นภพ ประสบผลอย่างยอด คือถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันแน่นอน
    ผมคัดลอกมาจากเว็ปไซต์อีกที
    หากจะตอบโดยใช้คําพูดคุณอาจจะลืมได้หวังว่าคงเข้าใจวัตถุประสงค์นะครับ
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  12. nonlawat

    nonlawat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +41
    สวัสดีค่ะดิฉั้นชื่อ ชนันลักษณ์ จังหวัดสงขลาค่ะ

    หนูคิดว่าเรื่องดวงก็ถือว่าสำคัญนะค่ะ เพราะสิ่งที่เกิดอยู่กับหนู ก็เกี่ยวเนื่องทั้งหมดค่ะ หนูเคยไปดูหมดดุมา หลายท่านนะค่ะ เป็นคนชอบลอง ท้าทายค่ะ แต่ไม่ลบหลู่ค่ะ เพราะสิ่งที่เรามองไม่เห็น น่ากล้ว และสำคัญมากคือ คนที่จะดูดวงไห้เราได้คนนั้น ก็ต้องมีเทพประจำตัว เทวดารักษา หรือมีพลังบางอย่างอยู่กับตัวเค้า หนูเลยไม่กล้าลบหลู่หรอกค่ะ หนู่ไม่โทษนะค่ะ บางครั้งหนูไปดูหมด แต่ไม่แม่นนะค่ะ อาจจะเป็นเพราะ เจ้ากรรมนายเวรไม่อยากไห้รู้มั้งค่ะ ก็เลยไม่แม่น ก็ถือว่าโทษ หมูดูไมได้ เพราะว่าเราอยากลองเอง แต่คนที่หนูจะพูดถึงนิ ที่แรกหนู่ก็คิดเหมือนเดิม ปกติ เหมือนทุกๆครั้งที่ไปดูมา ไมได้ คิดไรมาก อยากลอง หนูก็โทรไป หาอาจารย์ คุยได้สักพัก ก้เลยขอดูดวง แต่หนูยังไม่โอนเงินนนะ เพราะหนูอยากรู้ว่าจะดูไห้รึปล่าว ปรากฏว่าท่านดูไห้ ท่านก็ไห้ เรา ของอนุญาติเทพประจำตัว เจ้ากรรทนายเวร ท่านก็พาหนูพุด ไห้หนูพูดตามค่ะ สักพักท่านก็ทาย ออกมา สิ่งแรกที่ท่านทัก หนูถึงกับอืึ้ง เลย ค่ะ ท่านทักว่าหนูมีของดี มีองค์เทพคุ้มครอง อยู่กับหนู ทั้งๆๆที่หนูไม่เคยบอกเลยนะค่ะ คุยกันครั้งแรกค่ะ แล้วท่านก็บอกต่อว่า ถ้าไม่จริงไม่ต้องจ่ายค่าครู อาจารย์จะโอนไห้คุณกลับคืนถ้าไม่ตรง อาจารย์เลยบอกว่า คุณเคยฝันเห็นผู้หญิงผิวขาวชุดขาว ในฝันคุณ ได้คุยกับเค้าด้วย ผู้หญิงคนนี้สวย แล้วหน้าเหมือนคุณด้วย ไช่ใหม แคนั้นแหละหนูขนลุก แบบบอกไม่ถูกอ่ะค่ะ พูดแบบไม่รู้เรื่องเลยค่ะ และสิ่งที่ทักมา แบบว่า สุดๆๆ จนหนูไม่รู้จะพุดยังไง ถึงได้มาบอกคนที่เป็นเหมือนหนูนะค่ะ ที่แรกคิดว่าลองเล่นๆ ไปๆๆมาๆๆ ไม่เล่นเลย นี่ขนาดดูทางโทรศัพท์นะ ถ้าเจอตัวเป็นๆๆ คงร้องเลยอ่ะ ลองโทรไปปรึกษานะค่ะ เชื่อหนู เจอมาแล้ว ชื่ออาจารย์ กฤช
    0837663882 ค่าบูชาครู 159 บาท ต้องขอโทษอาจารย์ที่ไม่ได้บอก ว่าจะเอามาเขียนกระทู้ ต้องขอโทษอาจารย์นะค่ะ

    [FONT=&quot]<ins>โอนเข้าบัญชี ธนาคารกรุงเทพ</ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins> </ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins>
    </ins>
    [/FONT][FONT=&quot]<ins>ชื่อบัญชี</ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins> </ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins>นายนลวัชร์</ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins> </ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins>เลิศพิชญะวรกุล</ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins> </ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins>
    </ins>
    [/FONT][FONT=&quot]<ins>เลขที่บัญชี</ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins> 749-0-15635-8 </ins>[/FONT][FONT=&quot]<ins>ออมทรัพย์</ins>[/FONT]
     
  13. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    (ฝรั่งเศส: République Française)
    วันอาทิตย์ที่18 เเรม๘ค่ำเดือน๑ เป็นวันพระ
    อาทิตย์ร้อน(เตโชธาตุ)
    แรม๘ค่ำ(หมายถึงธูป8ดอกบูชาเทพ)
    เดือน๑(ภูเขาสูงใหญ่,อาตมัน)
    คือสัญญาที่ให้ไว้กับคุณ +339XXXXXXXX,+336XXXXXXXX
    นิพพาน คือ อาตมัน(อรหันต์)เข้าไปรวมกับปรมาตมัน


    ศาสนาพราหมณ์ หรือศาสนาฮินดู มีมาก่อนศาสนาพุทธ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็เป็นศิษย์คนหนึ่งในศาสนานี้ ตอนที่พระพุทธเจ้าออกผนวชมีนามว่า มุนีสมณะ

    ศาสนาพราหมณ์ ก็มีนิพพานเป็นโมกขธรรม หรือโมกษะเหมือนกับศาสนาพุทธ แต่ในยุคก่อนพระพุทธเจ้า ไม่มีนักบวชพราหมณ์คนใดเข้าถึงนิพพาน คนที่เข้าถึงนิพพานคนแรกในศาสนาพราหมณ์ คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ มุนีสมณะ หรือ ศากยะมุนี

    ความจริง ลัทธิต่างๆของพวกพราหมณ์สมัยนั้น พวกเขาเข้าใจถูกในหลักใหญ่สุดแล้วว่า

    “ จิตของเราแต่ละคนเป็นอาตมัน เป็นอย่างเดียวกับจิตของพรหมสูงสุดคือ ปรมาตมัน แต่คนเราทำกรรมต่างๆลงไป ดังนั้นจึงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกนี้ เมื่อใดกำจัดอวิชชา ความไม่รู้ไห้หมดไปแล้ว อาตมันจะเข้าร่วมกับปรมาตมัน คนที่สำเร็จจะกลายเป็นพรหม”

    พระพุทธองค์ไม่เคยปฏิเสทหลักใหญ่สุดของพราหมณ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว และไม่เคยปฏิเสทเรื่องพรหม และปรมาตมัน ว่าไม่มีจริง เพียงแต่ระบุว่า จิตของเราแต่ละคนที่เป็นอาตมัน(อัตตา) = จิตบริสุทธิ์ขั้นอรหันต์ ส่วนจิตที่ยังขจัดอวิชชาไม่หมด ไม่ใช่จิตที่เป็นเป็นอาตมัน(อัตตา) แต่เป็นจิตที่เป็นอนัตตา เป็นมายา เป็นภาพลวงตา ไม่ใช่ตัวตนแต่อย่างใด

    นอกจากนี้ พระพุทธองค์ยังระบุชัดอีกว่า พรหมสูงสุด หรือ ปรมาตมัน นั้นคือ พระธรรม และตัวของพระองค์ก็คือ อวตารปางหนึ่งของพระธรรมนั้น

    "ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ ก็ผู้ใดแล มีศรัทธาตั้งมั่น ในตถาคต เกิดขึ้นแล้ว แต่รากแก้ว คืออริยมรรค ประดิษฐานมั่นคง อันสมณพราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือผู้หนึ่งผู้ใดในโลก ไม่พรากไปได้ ควรเรียกผู้นั้นว่าเป็นบุตร เกิดแต่พระอุระเกิดจากพระโอษฐ์ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เกิดจากธรรม อันธรรมนิรมิตขึ้น (เป็นผู้ที่พระธรรมเนรมิตขึ้น)"

    ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ในอัคคัญญสูตร

    ในหลักโมกษะ หรือโมกขธรรม ผู้ที่แสวงหาโมกขธรรม คือ ผู้ที่แสวงหานิพพาน หรือความหลุดพ้นจากความทุกข์ นิพพาน หรือความหลุดพ้นจากความทุกข์ในหลักศาสนาพราหมณ์ = การเข้าไปรวมกับปรมาตมันหรือพรหมสูงสุดซึ่งสิ่งสูงสุดนี้ไม่มีการเกิด ไม่มีการแก่ ไม่มีการเจ็บ และไม่มีการตาย

    หลวงปู่ดุลย์กล่าวไว้อย่างชัดเจนมากว่า " โดยปราศจากรูปปรมาณู(หมายถึง ดับวิญญาณธาตุและดับนามรูปแล้ว) ความว่างนั้น จึงบริสุทธิ์และสว่าง รวมเข้ากับความว่าง บริสุทธิ์ สว่าง ของจักรวาลเดิม เข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า นิพพาน

    ความว่างนั้น จึงบริสุทธิ์และสว่าง รวมเข้ากับความว่าง บริสุทธิ์ สว่าง ของจักรวาลเดิม เข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า นิพพาน = นิพพานของจิตแต่ละดวง เป็นจิตว่าง บริสุทธิ์และสว่าง เมื่อรวมเข้ากับปรมาตมัน ซึ่งคือ ความว่าง บริสุทธิ์ สว่าง ของจักรวาลเดิม สิ่งนี้คือนิพพาน

    ด้วยเหตุนี้ อาตมัน(อรหันต์)เข้าไปรวมกับปรมาตมันหรือพรหมสูงสุด(พระธรรม) ที่เป็นหลักสูงสุดของศาสนาพราหมณ์ ก็เป็นหลักสูงสุดของศาสนาพุทธนั่นเอง เพียงแต่อวิชชาหรือมารมันลวงจิตเราไม่ให้เห็นความจริงข้อนี้ จนกว่าเราจะเข้าถึงกระแสพระนิพพาน จึงจะพ้นจากบ่วงมารหรืออวิชชาได้

    จริงๆแล้ว ศาสนาพุทธจัดได้ว่าเป็นวิวัฒนาการขั้นสูงสุดของศาสนาพราหมณ์ พระอาจารย์ของพระพุทธเจ้า ได่แก่ อุทุกดาบส และอาฬารดาบส เป็นผู้ที่เข้าถึงจุดสูงสุดของความรู้ของพราหมณ์สมัยนั้น คือ อรูปพรหม พวกท่านเลยเข้าใจผิดว่า อรูปพรหม เป็น นิพพาน เท่านั้นเอง
    พระพุทธองค์ทรงเปรียบเทียบดวงอาทิตย์มี๑๖เฉด แต่กระนั้นยังไม่เท่ากับเศษเสี้ยว เมตาเจโตวิมุตติ แม้แต่จันทร์ทราจะเจิดจ้าท่ามกลางราตรีสักปานใด
    ก็ยังต้องพ่ายแพ้เศษเสี้ยวของ เมตาเจโตวิมุตติ
    ดังนั้นกระผมเองจึงอยากให้คุณศึกษาให้ลึกเข้าไปอีกสักนิดโดยใช้คันฉ่อง
    (กระจกหกด้าน)ให้เห็นความไม่เที่ยงรอบๆตัวเรา 360 องศา แล้วค่อยปรารภ
    เพื่ออนาคตกาลข้างหน้าของคุณเองครับ
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  14. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่พุทธศักราช ๒๕๕๕

    แต่ละวันคล้อยเคลื่อน ผ่านเดือนปี

    ใช้ชีวีผ่านทุกข์สุข แต่ละหน

    แต่ละคราวๆวาดหวัง เพื่อตั้งตน

    ให้หลุดพ้นทุกข์ บ่วงกรรมด้วยทำดี

    วันอาทิตย์ ที่ ๑ มกราคม ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๒ ตรงกับวันพระ(เริ่มต้นวันใหม่)
    พุทโธ พุทธัง รักสา ธัมโม ธัมมัง รักสา สังโฆ สังฆัง รักสา
    พุทโธ พุทธัง อะระหัง ธัมโม ธัมมัง อะระหัง สังโฆ สังฆัง อะระหัง
    พุทโธ พุทธัง กัณหะ ธัมโม ธัมมัง กัณหะ สังโฆ สังฆัง กัณหะ
    อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  15. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    เรียนท่านผู้แสวงบุญ
    "ผู้แสวงหาสัจจะทุกท่าน"
    ผมอาจขาดหายไปจากการตอบกระทู้
    มาทางเว็ปบอร์ดอยู่บ้างต้องขออภัยครับ
    ช่วงนี้ เป็นช่วงเทศกาลงานบุญ ผมจึงต้องตระเวนไปร่วมงานบุญต่างๆ
    ซึ่งต้องอยู่ในงานพิธี ผมจึงปิดมือถือไปบ้างเพื่อความเคารพต่อสถานที่
    เลยต้องขออภัยทุกท่านที่ต้องการโทรปรึกษา เรื่องดูกรรม ฯลฯ
    อาจติดขัดในการโทรติดต่อในแต่ละครั้ง เช่นสายไม่ว่าง เพราะสนทนานาน
    ผมทราบดี แต่ไม่อาจปฎิเสทหรือจํากัดเวลาในสาย ขณะนั้นๆได้จริงๆ
    จึงเรียนมายังผู้ที่มีไมรตรีจิต ที่ต้องการโทรมาปรึกษา
    ผมจึงอยากให้ท่านได้กรุณากดโทรศัพท์กลับมาใหม่ในเวลาต่อไปด้วยครับ
    จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  16. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ยินดีต้อนรับผู้แสวงบุญทุกท่าน
    ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร สู่จังหวัดลําพูน
    จากสนามบินเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก
    30 นาที ผ่านทางอําเภอสารภี สุดเขตต้นยางใหญ่
    ตรงนั้นท่านจะพบกับศาลหลักเมืองฝั่งซ้ายมือ เชิญนมัสการ
    ทีนี้ท่านจะเห็นต้นขี้เหล็ก(มูลเหล็ก)เรียงรายสองข้างทาง
    ท่าน!ได้เข้าสู่เขตจังหวัดลําพูนโดยสมบูรณ์แล้ว
    สถานที่สี่แห่ง วัด โบราณสถานสําคัญๆ ฯลฯ ที่ท่านตั้งใจเพื่อมาขอพร
    กราบไหว้บูชา ผมขออนุโมทนาบุญให้ทุกๆท่านที่มา จงสําริดผลโดยทั่วกัน
    นะครับ ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพเช่นกัน
    จาก สิริ ศรีสมบัติ<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    Sweden! +4XXXXXXXXXX

    มีอีกอย่างที่ผมลืมบอกคุณไป
    ที่นี่เป็นบ้านแห่งที่สองของคุณนะครับ!
    มีความอบอุ่นเท่าๆกับบ้านหลังแรก
    ผมไม่อยากให้คุณต้องเลือกทั้งสองทาง
    จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง
    ทําปัจจุบันให้สมบูรณ์ และดีที่สุด
    "ผม เอาใจช่วยครับ
    น้อง สิริ ศรีสมบัติ
     
  18. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ผมต้องขออภัยเป็นอย่างมากที่สัญญานโทรศัพท์ขัดข้อง
    "อาจจะเป็นที่ของผมนะครับ" เพราะใช้งานหนักทั้งวัน
    ผมขอบคุณที่คุณให้กําลังใจจาก...รัฐวอชิงตัน (Washington)
    และเข้าใจในสิ่งที่ผมได้บอกไป พยายามต่อไปนะครับจาก
    สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได็เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  19. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ขอส่งกําลังใจ และฝากขอบคุณมายังกัลยาณมิตร กัลยาณธรรม
    (ชาวจังหวัดกาญจนบุรี)ทุกท่าน
    ที่กรุณาให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นต่อการปฎิบัติ ด้วยแนวทางแห่งธรรมะ
    ขอบุญกุศลที่ท่านทําไว้ดีแล้ว ทุกภพทุกชาติจงสําริดผลโดยเร็ววัน
    ทุกท่านทุกคน เทอญ .
    จาก สิริ ศรีสมบัติ
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูิหิ(เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013
  20. sirisrisombat

    sirisrisombat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +32
    ขอน้อมกราบนมัสการ และส่งเสด็จกลับ
    พระทันตธาตุภูฎาน สานสัมพันธ์สองแผ่นดิน
    พระบรมสารีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้ากัสสปะ
    ที่อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ พระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
    เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเชียงใหม่
    และจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนผู้แสวงบุญทุกท่าน
    บัดนี้ สําเร็จเสร็จสิ้นลงแล้ว ข้าพเจ้าในนามผู้แสวงบุญ
    สํานึกในพระบริสุทธิคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และเมตตาคุณ
    สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน ขอจงเป็นพลานิสงค์พละปัจจัย อุปนิสัย จงมีแก่ข้าพเจ้า และบุคคญทั่วไปเพื่อให้เกื้อหนุนค้ำจุนพระพุทธศาสนา
    ทุกภพทุกชาติ ไปจนกว่าจะเข้าสู่กระแสพระนิพพานด้วยเทอญ.
    ข้าพเจ้า นายสิริ ศรีสมบัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...