มีใครเป็นลูกหลานเสด็จปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราชบ้างครับ

หิวข้าวคับ..วันนี้แม่ครัวคนสวยของบ้านเรามีรัยให้ทานมั้งเอ้ย..!

pig_cryy2เอ้ว่าแต่วันนี้ม่ายเห้นบรรดาแม่ครัวนำเมนูอร่อยๆมานำเสนอเลยแฮ๊ะ.... ไม่ได้เข้ามาสองวันนึกว่าเข้าผิดกระทู้ซะอีก..55 *-*thx1​

 

วันนี้แม่ครัวถือศีลแปดงับ
จะเอาภาพอาหารมาลง ก็กลัวตัวเองจะตบะแตกเสียเอง 55555555

ทั้งๆที่ในใจนี่ ยิ่งไม่คิด ยิ่งอยากกิน อิอิ

 

โอ้ละหนอ...มิน่าถึงเงียบวันพระนี่เอง*-*คิคิ

rabbit_jumpโอ๊ะโอ..ลืมไปว่าวันนี้วันพระ..555 หิวละซี่!อิอิ *-* พี่poozaa คนสวย
อะนะ..ท่องไว่นะจ๊ะว่า.ส้มตำปูปลาร้า ไก่ย่างปีกไก่บนร้อนๆ ต้มแซ่บอร่อยๆ อ่า!!
อร่อยหวานน้ำต้มกระดูก 555(อะอะอะอะเช็ดน้ำหมากหน่อยจ๊ะหกเลอะหมดแย้ว*-*dencee​

 

น้องเบนซ์ ไอ้เรื่องรัตนมณีแก้ว นะไม่ต้องอยากมาก มันจะไม่ได้อธิฐานเอาไว้เดียวมาเอง

 

รัตนมณีแก้วไม่มีจ้า ข้าเจ้ามีแต่อันนี้จ๊ะ

ได้มาจากพระที่เคารพรูปหนึ่ง ท่านมอบให้พร้อมประคำ 1 เส้นจ้า

ข้าเจ้าเรียกลูกแ้ก้ว

 

แค่นี้ก็พอแล้วมั้งครับ

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สิงหนวัติ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2177426", true); </SCRIPT> ; อ่านเจอในหนังสือที่ SE-AD เขียนโดยโจ้ พันธกานต์ ที่เขาเขียนหลายๆๆเล่มอ่าคับ เรียกว่า ปฐวีธาตุ ไม่แน่ใจว่าใช่แบบเดียวกันหรือปล่าว
แบบนี้ผมก็เคยเห็นบ่อยๆที่ตลาดท่าเสด็จ จังหวัดหนองคายนะครับ ผมยังเคยซื้อเลยเมื่อ 5-6 ปีก่อน ลูกละ 10 บาท แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้ราคาเท่าไหร่ คนขายบอกว่า ไข่พญานาคอ่าคับ ผมเอามาแช่น้ำไว้ที่บ้าน สวยดีนะครับ<!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ด.ญ.ธิดารัตน์<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2081800", true); </SCRIPT> ;สถานที่: มุกดาหาร บนผืนแผ่นดินสยาม แผ่นดินที่ครั้งหนึ่งเคยสงบสุข

เท่าที่ทราบ ทางมุกดาหาร , หนองคาย ,สกลนคร ,อุบลฯ, จังหวัดที่ มีเส้นน้ำโขง มีปฐวีธาตุลุ่มน้ำโขง (นาคราช ) เยอะ มาก ผมเอง ใด้มาไม่กี่ชิ้น ลุงขจร จากวิหาร 300 ร้อย ประจวบ ฯท่านให้ ผม และ น้องชาย,น้องสาว และหลาน (ตามภาพ ที่แนบ ท้ายกระทู้ )
ส่วนภาพ ข้างบน ของ น้อง มนตรา_นาคี ลองดูตามภาพ ข้างล่างครับ (เพื่อน น้องชาย ใด้มาจากในถ้ำ แถบ อ.คุระบุรี พังงา อ.คนเมืองบัว พิจารณาแล้ว อัญมณี นั้น อายุ ประมาณ เป็นหมื่นปี ในถ้ำ มีลำธารไหลผ่าน แล้วแต่จะใช้วิจาณญาณ ครับ)
ส่วนอัญมณี ในพานทอง นั้น เป็นของเก่า ซึ่ง บังมุสลิม ท่านหนึ่งเก็บ ใด้จาก เกาะคอเขา ดินแดน เมือง ท่าเก่า ในอดีต ตามประวัติศาสตร์ อ.คุระบุรี พังงา ,อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ( อัญมณีนี้ มีบุคคล ในอดีต ใช้ ประดับตกแต่ง ที่..... อ.คนเมืองบัว พิจารณาแล้ว อายุประมาณ ...หมื่น กว่า ปี ...)

เมื่อ จับพลัง ครูผู้แนะนำกรรมฐาน บอกพลังแน่น ทางนาคราช

 

ขอบคุณพี่สิงหนวัติ และพี่นาคามากค่ะ ที่ให้ความรู้

เป็นของแม่ค่ะ วางอยู่ในพาน เลยเอามาให้พี่ ๆ ช่วยกันดูอ่ะค่ะ

 

อ้อ..มีคำถามค่ะ

คือ มีคนถามถึงเรื่องพญานาคมาถึงบารมีของแต่ละองค์ ดูได้จากอะไรค่ะ​

บางคนบอกว่าดูได้จากเศียรบนศีรษะ สงสัยเค้าดูจากรูปปั้น / หุ่น​

ถ้ามีเศียรเยอะและยังไม่มีร่างคนนั่งอยู่ แสดงว่าฤทธิ์น้อย​

ถ้ามีร่างคนนั่งอยู่ด้วย แสดงว่ามีฤทธิ์เยอะ ​

อันนี้หนูก็ไม่เข้าใจ วานพี่ ๆ ไขข้อข้องใจให้ทีค่ะ​

หนูตอบเค้าไม่ถูก เพราะหนูไม่เคยฝันเห็นพญานาค​

หนูเห็นแต่มาเป็นร่างมนุษย์ ปกติธรรมดา​

แต่ในความฝันถึงจะมาเป็นร่างมนุษย์ปกติ แต่ในความรู้สึก​

มันจะแยกแยะออกได้ว่าคนไหนมีอำนาจบารมี​

 

ปฐวีธาตุ

“ปฐวีธาตุ” หรือ “พระเพชร”แห่งลุ่มแม่นำโขง
หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม
ย้อนไปเมื่อสมัยท่านเจ้าคุณนรฯ ยังทรงสังขารอยู่ ท่านเคยปรารภว่า พระรูปเหมือนนั่งใบโพธิ์ของท่านประสบความสำเร็จ (คือมีคนนิยมมาก) ต่อไปจะมีผู้ร้างพระใบโพธิ์อีกมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จดังเช่นของท่าน หากจะมีพระทางภาคอีสานรูปหนึ่ง ประสบความสำเร็จในพระรูปเหมือนใบโพธิ์เช่นของท่าน แต่พระรูปนั้นจะต้องอธิษฐานจิตปฐวีธาตุได้ด้วย จึงได้เกิดการตามหาพระรูปนั้นหลังจากที่สิ้นท่านเจ้าคุณนรฯ ไปแล้ว
หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม คือพระรูปนั้น ท่านได้ทำปฐวีธาตุแจกศิษย์มาแต่ปี พ.ศ. 2495 ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ เสียอีก ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ท่านได้รับตำราการอธิษฐานจิต“ ปฐวีธาตุ” มาตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่มโดยได้มีชายผู้หนึ่งได้นำมาถวายให้ท่านตามคำสั่งเสียของบิดาก่อนตาย โดยบิดาของชายผู้นั้นได้สั่งกำชับบุตรชายไว้ว่า เมื่อพ่อตายแล้วจงเอาคัมภีร์เล่มนี้ไปมอบให้กับหลวงพ่อคำพันธ์แต่เพียงรูปเดียวเท่านั้น ซึ่งตำราเล่มนั้นเขียนด้วย “ตัวธัมใหญ่” ทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นอักขระที่มีความศักดิ์สิทธ์สูงสุด ใช้จารเฉพาะตำราชั้นสูงเท่านั้น เป็นตำราที่ว่าด้วยการ “อธิษฐานปฐวีธาต” สามารถทำธาตุธรรมชาติธรรมดาให้มีอานุภาพ มีพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจึงศึกษาวิธีการจนแตกฉาน จดจำได้ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาขอตำรานั้นไป ท่านก็กรุณามอบให้ ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใคร

หลวงปู่คำพันธ์ได้เมตตาอธิบายถึงคุณลักษณะของปฐวีธาตุที่ถูกต้องตามตำราทุกประการว่า ต้องเป็นกรวดที่แช่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น จะอยู่บนบกไม่ได้ ตัวกรวดเมื่อเก็บขึ้นมาต้องมีลักษณะเดิมตามธรรมชาติของเขา จะบิ่น จะแตกหักหรือร้าวไม่ได้เลย ที่สำคัญสุดยอด คือต้อง “โปร่งแสง” เท่านั้น และด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันเป็นของหายากที่สุด แม้ว่าทางวัดจะพำยายามแก้ไขด้วยการนำกรวดจากแม่น้ำโขงชนิดขุ่นมาถวายท่านอธิษฐานแทนก็ตาม แต่ก็หาถูกต้องตามตำราบังคับไม่ หากท่านก็อนุโลมให้เป็นปฐวีธาตุได้เช่นกัน ผิดกับครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆเช่น ท่านเจ้าคุณนรฯ “ปฐวีธาตุ” ของท่านจะต้องได้มาจากอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น จะใสหรือขุ่น ใหญ่หรือเล็กไม่สำคัญ นอกจากนี้ในตำรายังได้ระบุไว้ว่า ผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้นต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือ คาถาอาคมไม่ได้เลย

มูลเหตุของการอธิษฐานจิตปฐวีธาตุ
สืบเนื่องจากในช่วงก่อนปี 2500 บ้านเมืองยังเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้าย ทำให้เหล่าทหาร ตำรวจและข้าราชการต่างๆ มาขอของดีจากท่านเอาไว้คุ้มตัว ท่านจึงได้ให้เหล่าทหารและชาวบ้านไปเก็บหินในแม่น้ำโขงมาให้ท่านอธิษฐานจิต ท่านบอกว่า ท่านเสกด้วยพระคาถาชินบัญชรเช่นเดียวกับปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรฯ แล้วเสกหนุนธาตุต่างๆตั้งให้เป็นองค์พระและธาตุปฐวีคือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกปฐวีธาตุของท่านว่า “ พระเพชร “
ลป.คำพันธ์ ท่านเก่งในการคุมธาตุสี่ น้ำ ดิน ลม ไฟ จนเป็นที่ยอมรับโดยทั่ว ลป.โต๊ะฯ ก็อีกรูปหนึ่ง เมื่อท่านนำ”ปฐวีธาตุ”มาเสกก็จะเรียกธาตุ 4 ทีละธาตุแล้วรวมธาตุเป็นหนึ่ง เสกบรรจุลงในก้อนปฐวีธาตุนั้น เมื่อนำมาใช้ธาตุสี่ในตัวเราก็จะผสานกับปฐวีธาตุนั้น สรรพคุณสุดแท้จะอธิษฐานเอา ในเวลาอธิษฐานปฐวีธาตุหลวงปู่ท่านจะอธิษฐานว่า ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต ท่านเรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป” การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ ”
หลวงปู่คำพันธ์ท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของปฐวีธาตุของท่านว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุเย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชร สามารถป้องกันภัยอันเกิดจากรังสีความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้
การบูชาปฐวีธาตุ
หลวงปู่สั่งว่า เมื่อได้มาแล้วถ้าจะบูชาติดตัวก็พยายามเลี่ยมแบบเปิดหน้า เปิดหลังให้ปฐวีธาตุได้สัมผัสกับไอของร่างกาย ธาตุจะดึงดูดซึ่งกันและกันปรารถนาสิ่งใดก็ให้ตั้งจิตเอา ปฐวีธาตุช่วยได้ แต่ถ้าบูชาอยู่กับบ้าน ให้เอาปฐวีธาตุแช่น้ำสะอาดตั้งบูชาไว้บนที่สูง ใส่น้ำอบ น้ำหอมผสมลงในน้ำเป็นการบูชา ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมอื่นก็ได้ จุดธูปบูชา 7 ดอก สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วต่อด้วยพระคาถานี้
“ หิตะหิรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนตะเน ” ( 3จบ )
แล้วตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณมารดา บิดาคุณครูบาอาจารย์ พระคุณของหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ เหล่าพญานาคผู้รักษาองค์พระธาตุพนมและพระธาตุมหาชัย และทั้งที่สถิตอยู่ในลำน้ำโขงปรารถนาสิ่งใดก็อธิษฐานเอา หลวงปู่บอกว่า ปฐวีธาตุมีคุณวิเศษครอบจักรวาลมีทุกข์ร้อนสิ่งใดก็ให้บอกกล่าว สามารถช่วยเหลือได้จริง
การลอยดอกไม้ในน้ำให้ทำเฉพาะวันพระ เมื่อหมดวันพระแล้วให้ช้อนดอกไม้ออกอย่าให้เน่าเสียคาภาชนะเด็ดขาด น้ำหล่อปฐวีธาตุถ้าจะเปลี่ยนให้นำไปประพรมบ้านเรือนหรือสาดขึ้นหลังคาบ้านเป็นสิริมงคลนัก กันภัยนานาชนิด
หมายเหตุ การที่หลวงปู่ท่านให้แขวนแบบเปิด ไม่ได้หมายความว่ากลัวพุทธคุณจะออกมาไม่ได้ แต่เป็นวิธีการ "ใช้งาน" ในแบบเฉพาะของวัตถุมงคลประเภทนี้ ที่ทำแบบนั้นก็เพราะต้องการให้กระแสธาตุในร่างกายเราได้สัมผัสกระแสธาตุในองค์ปฐวีธาตุพลังงานในปฐวีธาตุน่ะออกมาหาเราได้ แต่พลังงานในกายเราเข้าไปหาเขาไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้อง "เลี่ยมเปิด" เพื่อสงเคราะห์ตัวเราเอง ไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือท่าน
ปฐวีธาตุต่างกับพระเครื่องอย่างไร
ปฐวีธาตุต่างจากพระเครื่องตรงที่กรวดจากแม่น้ำโขงซึ่งหลวงปู่นำมาอธิษฐานเหล่านั้น พวกนาคเขาถือว่าเป็นสมบัติอย่างหนึ่งของเขา กรวดเหล่านั้นจึงมีพลังงานของพวกเขาติดมาด้วย และเมื่อได้รับการอธิษฐานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนอย่างยากที่เราจะเข้าใจ ก็จะทำให้กรวดเหล่านั้นเกิดพลังงานมหาศาลชนิดที่เราก็ไม่เข้าใจอีกอยู่ดีว่าเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร
พลังงานมหาศาลที่ว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์รับรองว่า กันนิวเคลียร์ได้
เมื่อปฐวีธาตุซึ่งมีพลังงานแฝงอยู่แล้ว ได้รับการอธิษฐานจากจิตที่มีพลังงานมหาศาลเพราะได้รับการฝึกฝนมาดีเยี่ยม พุ่งกระแสลงไปสู่หินเป็นจุดเดียว กระแสจิตที่แรงกล้าเกิดกระทบกับพลังงานที่อยู่ในหินแล้วกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง เป็นคลื่นรังสีที่มีพลัง งานแรงสูง พอที่จะให้ความคุ้มครองผู้บูชาตามที่ผู้อธิษฐานได้ "ตั้งโปรแกรม” ไว้
นอกเหนือไปจากหมู่นาคทั้งหลายที่จะขึ้นมาพิทักษ์รักษาผู้ครอบครองปฐวีธาตุเมื่อยามเกิดภัยพิบัติตามคำทำนาย ชนิดปฐวีธาตุ 1 องค์ ต่อพญานาค 1 ตน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวไม่อาจมีในพระเครื่องที่ถูก "สร้าง" ขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ ผิดกับ "ปฐวีธาตุ" ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากผลงานของธรรมชาติ จึงเก็บประจุพลังงานจากธาตุทั้งสี่และรังสีจากจักรวาลมาเนิ่นนานนับได้เป็นล้าน ๆ ปี
ครูบาอาจารย์ผู้มีจิตอัศจรรย์เข้าถึงหลักธรรมชาติอย่างถ่องแท้จึงมักทำปฐวีธาตุให้ศิษย์ อาทิ ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมวาส
ซึ่งก็ตรงตามที่หลวงปู่คำพันเคยบอกว่า "ผู้ที่จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้น ต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้ที่มาทางสายวิชาอาคมไม่ได้เลย"
และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไม "ปฐวีธาตุ" จึงมีความแตกต่างจากพระเครื่องมากมายนัก


http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=9

ขอขอบคุณ และ โมทนาทุกท่าน ครับ ในวัยคล้ายวันเกิดครบรอบอีกครั้ง

นาคราช เท่าทราบ หรือเทพวดา ท่าน ดูที่แสงรัศมี รอบตัวองค์ท่านครับ ว่า...

 

ขอบคุณ และอนุโมทนาพี่พจน์นาคามากเลยครับ ได้รับความรู้เกี่ยวกับปฐวีธาตุขึ้นมากเลยทีเดียว

 

ใครจะไปว่าพี่สาวแสนสวยได้ลงหล่ะครับ เชิญเลยครับ เชิญกอดกระดูกเดินได้ฟรีๆๆ ถ้าไม่รังเกียจ กอดเทียนนี่ได้พิจารณาอสุภกรรมฐานด้วย สังขารนี่ไม่เที่ยงหนอ มีหนังหุ้มกระดูกหนอ เนื้อไม่ค่อยมีเลยหนอ ใต้ผิวหนังนี้มีแต่น้ำเลือดน้ำหนองล้วนของปฏิกูลหนอ 5555+++

 

อย่าลืมชวนนะครับวัดอินทรวิหารนี่ ผมก็ไปมาหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะตอนมีงานวัด แฮะๆ พอดีมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ

เรื่องมีอยู่ว่า ผมกับพี่สาวที่เป็นญาติกันพากันไปทำบุญที่วัดอินทรวิหาร+เที่ยวงานวัดอินทรฯด้วย ระหว่างการทำบุญ พี่สาวผมเล่าให้ฟัง(ภายหลังที่เกิดเรื่อง)ว่า เขาอธิษฐานว่าคิดสิ่งใดให้ได้สมปรารถนา (ฟังดูพื้นๆนะ เหมือนไม่มีอะไร) ต่อมาพี่สาวผมเห็นคนยืนกดมือถือเล่นอยู่ เลยคิดว่า อยากได้โทรศัพท์ใหม่จังเลย พอทำบุญเสร็จ ก็พากันไปนั่งสมาธิในวิหารสมเด็จ ที่มีอ่างน้ำมนต์ เวลาก็ผ่านไปๆๆ ลืมตาคลายสมาธิ เกิดเหตุมหัศจรรย์ อย่างไม่คาดคิด กระเป๋าสตางค์ที่เป็นกระเป๋าถือ พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือ และทรัพย์สินในกระเป๋าของพี่สาวได้อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย (ติดต่อทางวัดก็ไม่เปิดกล้องวงจรเปิดให้ เพราะไม่ใช่เหตุการณ์ร้ายแรง อันนี้ก็เข้าใจอยู่) เจ้าหน้าที่วัดก็ประสานงานช่วยติดตามดีมากๆๆ เลย ระหว่างนั้นก็โทรเข้าเบอร์พี่สาว ก็โทรได้อยู่สักพักใหญ่ เครื่องมือถือพี่สาวก็ได้ถูกปิดลง เป็นอันว่าหายแน่ๆ โจรแน่ๆ ผมก็เลยคุยกับพี่สาวว่า ไปพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า หรือคิดอะไรหรือเปล่า ได้อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่าเวลาทำบุญ เพราะระหว่างนั้นที่พี่ผมมาเที่ยว ไม่ได้ไปทำบาปกันซักนิด ไปวัดกันเกือบทุกวัน ทั้งทำบุญ ทำสมาธิ หล่อพระ มากมาย ก็เลยคิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พี่เลยเล่าเรื่อง "ขอให้สมปรารถนาให้ฟัง" ก็แปลกใจนิดๆนะตอนนั้น หากันซะนานก็ไม่เจอ แต่ความรู้สึกลึกๆคิดว่ามันไม่ได้หาย เลยให้พี่ไปอธิษฐานขอพรกับหลวงพ่อใหม่ เรื่องไปลงเอยที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งความไปเรียบร้อย เรื่องไม่น่าเชื่อคือ ในตอนเช้าวันถัดมา มีคนแถวศรีย่าน ใกล้ๆละแวกนั้น ใช้โทรศัพท์มือถือพี่สาวโทรมาว่าเจอกระเป๋าที่พงหญ้าหน้าวัดอินทรฯ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่างมาก ผมกับพี่สาวก็ไปเอา คิดว่าเงินคงไปหมดแล้วแหละ ปรากฏว่า ทั้งกระเป๋า ไม่มีอะไรหายไปเลยสักชิ้น อยู่ครบหมดทุกอย่าง แปลกดีไม๊หล่ะครับ
ด้วยความเคารพในบารมีแห่งองค์สมเด็จโตนะครับ ผมกับพี่สาวคิดว่า ท่านคงประสงค์ที่จะบ่งบอกอะไรผมกับพี่สาวซักอย่างในเรื่องการอธิษฐาน หรือเป็นการลองใจ แต่อย่างไรเสีย ผมและพี่สาวเชื่ออย่างที่สุดว่าเป็นเพราะบารมีหลวงพ่อโตทีเดียวที่ช่วยให้โจรไม่กล้าที่จะเอากระเป๋าและทรัพย์สินภายในไป เพราะโดยปกติวิสัยแล้ว เงินจำนวนมาก พร้อมกับโทรศัพท์และทรัพย์สินอื่น คงไม่รอดพ้นเงื่อมมือโจรไปได้ แบบนี้เค้าเรียกว่า โจรกลับใจ ผมกับพี่สาวก็ไม่ถือโทษโกรธเคืองอะไร ยังอนุโมทนาบุญกับเขาเสียอีกที่บังคับใจตัวเองไม่ขโมยไปเป็นของๆตน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล หรืออภินิหารใดๆก็แล้วแต่ ขอให้อภัย และอโหสิกรรมให้ทุกประการ

เอ! หรือว่า เขาคนนั้นจะเจออะไรเข้าหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้นะครับเป็นข้อสังเกต เพราะผมก็อธิษฐานให้เหล่าญาติเพื่อนพ้องน้องพี่วงศ์วานนาคร่วมด้วยช่วยกันตามหาของ และตักเตือนโจรด้วยอยู่เหมือนกัน

บางท่านอาจคิดว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการอธิษฐาน คิดสิ่งใดให้ได้สมปรารถนาใช่ไหมครับ ก็พอพี่ผมอธิษฐานเสร็จก็เห็นมือถือ(คนอื่นสวยดี) อยากได้ใหม่ (แต่พี่สาวผมไม่ซื้อแน่ๆครับ เพราะไม่ชอบเสียเงินไปกับของที่ไม่จำเป็น จะเรียกว่า ง๊ก ก็ได้นะ แฮ่ๆ) ลองคิดต่อดิ ถ้าไม่ซื้อ แต่อยากได้ใหม่ ทำไงจะได้ใหม่ มันก็ต้องหายซะก่อน แล้วมันจะจำเป็นทันที ก็ต้องซื้อใหม่ เห็นไม๊ ดูซับซ้อน แต่มันน่าคิดอยู่มากทีเดียว บทเรียนครั้งนี้ก็คือ จะอธิษฐานขอพรอะไรก็ว่าไปให้ชัดๆไปเลย อย่าคลุมเครือ ตัวอย่างเช่น คิดสิ่งใดให้สมปรารถนาเนี่ย ฟังดูโลภมากเลย แบบว่า ปรารถนาคนละพันอย่าง หมื่นอย่าง แสนอย่าง ปรารถนา=อยาก (อยากกันไปจนตายหน่ะแหละ) หรือบางท่านกลัวลืม ก็เขียนไว้และพกใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ เวลาอธิษฐานขอพรและอุทิศส่วนกุศลจะได้ไม่ตกหล่น ผมเองบางที อุทิศซะครอบจักรวาลเลย ว่าวกไปวนมาซะ2-3 รอบ ผมยังคิดเองเลยว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านคงจะแอบหัวเราะแน่เรย วกไปวนมาอยู่นั่นแหละ นี่มาเล่าสู่กันฟังนะครับ เผื่อมีคนพลาดท่าเหมือนผมกับพี่สาว 555+ อันนี้แถม เชื่อว่า เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ คงอยากรวยกันอยู่ เวลาไปขอพร ขอให้รวยนี่ผิดอย่างแรงเรยนะ ลองคิดดูสิ รวยนี่มันเท่าไหร่ เอาอะไรมาวัด รวยของคนรวย กับรวยของขอทานยังต่างกันเลย คิดดูให้ดี ขอเจริญในธรรมทุกท่าน วันนี้ร่ายซะยาวเลย ไม่ใช่อะไรหรอก อยู่คนเดียว นอนไม่หลับ เลยมาเป็นยามเฝ้าบอร์ดให้

อ่อยังมีอีก อันนี้ปู่ท่านสอนมานะ ตอนที่ผมไปวัดเจริญธรรมกับพี่วรุณบุตร มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ชื่อว่า หลวงพ่อดอกบัวขาว ท่านแม่ชี (หลวงแม่) บอกว่าให้อธิษฐานขอพรกัน หลวงพ่อท่านจะประทานพรให้สมเร็จตามมุ่งหวัง ได้ใจเลยครับทีนี้ ผมก็อธิษฐานยกใหญ่ ด้วยความเขลาเบาปัญญา ไปถึงสวรรค์นิพพานโน่น ให้ได้พบพระศรีอารย์อย่างนี้ ได้เป็นเอหิภิกขุอย่างนั้น (นี่อธิษฐานในใจนะ) พอตอนเย็น ปู่ศรีสุทโธก็สอนเลยครับว่า ขนาดคนนุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรมกันเขายังไม่อธิษฐานอะไรใหญ่โตเลย คนอยู่บ้านเฉยๆ จะไปพบพระศรีอารย์บ้าง เป็นอรหันต์บ้าง พูดอย่างกับตาเห็น(หูได้ยินสิ)ครับ ปู่ท่านเลยตรัสว่า ศาสนาพระศรีอารย์ต้องเกิดตายอีกเป็นพันๆชาติ ไม่ต้องรอพระศรีอารย์หรอก อธิษฐานให้บรรลุนิพพานในศาสนาพระพุทธโคดมนี่แหละเป็นเลิศแล้ว การไปวัดก็เช่นเดียวกัน ไม่ต้องถ่อไปวัดโน่นที ไปวัดนี้ที ไปทั่วทีบทั่วแดน เสียเวลาปฏิบัติ ปู่ท่านตรัสว่า ไปวัดเดียวพอ คือ วัดใจ ไปได้ทุกที่ทุกเวลา ปฏิบัติอยู่เป็นนิจ ศีลสมาธิปัญญาให้ถึงพร้อม และปู่ท่านก็ได้เมตตาสั่งสอนเรื่องการอธิษฐานไว้4ประการ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ใครยังไม่ทราบลองกับไปดูกระทู้เก่าดูนะครับ ขอเจริญในธรรม สาธุฯ (ปล. อันนี้จบจริงๆ ง่วงนอนแล้ว)

 

สวัสดีชาวเราทุกๆ คนนะจ๊ะ

พี่จอยงานเข้าแล้วจ้าน้องๆ บริษัทฯ ที่พี่ทำงานอยู่กำลังพิจารณาให้คนออกน่ะค่ะ
เผอิญพี่เองก็อยู่ในโพลนั้นด้วยสิ เง่อ.... ทั้งๆที่หัวหน้าของพี่ยืนยันว่าพี่ไม่โดน ๆ แน่นอน

สมดังคำอธิษฐานจิตเลยค่ะ ว่าวันเกิดนี้อยากมีปัจจัยไปทำบุญ (หลายอย่างซะด้วย)

แต่ว่าตะหงิดๆ ตั้งแต่ไปพบพระอาจารย์ที่เคารพท่านนึงเมื่อวันที่ 6 แล้วค่ะ

ท่านบอกว่า "ตกงานเมื่อไหร่ให้ไปบวชชีที่ แจนแลน สัก 3 เดือนนะ"

ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ .... แต่ทำใจมาสักพักแล้วค่ะ นึกรู้อยู่ในใจว่าเราคงต้องโดนออกแน่

แต่เราลูกนาค เจอปัญหาแค่นี้ จิ๊บๆ จ๊า

 

วันนี้นึกอยากขอพรพระแม่ลักษมีค่ะ

อธิษฐานให้เผ่าพงษ์วงศ์นาคาทั้งหลายมีความสุข
ขอท่านทั้งหลาย โปรดได้รับการอารตีจากข้าพเจ้าด้วย



​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=RnfxQSNTsno"]YouTube - Aarti - Mahalaxmi - Om Jai Laxmi Mata[/ame]

 

พี่กรรมเหนือกรรม สู้ๆนะคะ เราพี่น้องพญานาคเอาใจช่วยพี่เสมอจ้า

อะไรจะเกิดก็ช่าง หากใจเราไม่แพ้เสียอย่าง เราลุกยืนใหม่ได้เสมอ

อนุโมทนากับพี่ด้วยนะคะ หากไปบวชชี เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นค่ะ

ทุกวันนี้น้องก็ยังเรียนอยู่เลย เก็บประสบการณ์ไว้ทำงานต่อ อิ อิ

 

ขอบคุณค่ะน้องปู ตอนได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรก ปี่แทบแตกเหมือนกัน

แต่....ไม่ถึงนาทีก็ดึงจิตขึ้นมาได้ คงเป็นเพราะพระธรรมที่เราระลึกอยู่

ถ้าปกติสุขอยู่คงไม่รู้ว่าธรรมะจะช่วยอะไรเราได้บ้าง แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ถึงได้รู้ว่า "อ้อ ธรรมะีดีเช่นนี้เอง"

และอีกอย่าง พี่นึกถึงพี่น้องเราในบ้านนี้ก่อนอื่นเลยจ้า อยากมาเล่าสู่กันฟังน่ะ

แบบว่านึกถึงแล้วสบายใจแบบบอกไม่ถูกจริงๆ

 

น้องเทียน พี่โมทนาด้วยครับ ดีแล้ว ชอบแล้ว
คุณจอย เพื่อนๆ น้องๆ ในนี้ก็เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ ครับ

 

สู้ๆนะครับพี่ แม้ว่างานจะหาได้ไม่ง่ายนักในสมัยนี้ แต่ขอให้เชื่อว่า คงมีอะไรบางอย่างที่ทำให้พี่ต้องทำอะไรที่ดี และสำคัญกว่าอยู่แน่ๆ อย่างไรเสีย ก็ให้คิดเสียว่า เป็นการเปิดโอกาสและหนทางในการหางานใหม่ ซึ่งไม่แน่ว่าอาจเจริญก้าวหน้า และดีกว่าเดิมที่ทำอยู่ก็เป็นได้ เป็นกำลังใจให้ครับ

 

สุขสันต์วันเกิด...สมาชิกที่น่าร๊าก...

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

สุขสันต์วันเกิด..แด่สมาชิกทุกท่านนะคะ.... เลี้ยง ค่ะเลี้ยง...เต็มที่เลย บ่ ต้องเกรงใจ อิ อิ... แต่ถ้าอยากทานของจริง ให้เลื้อยไปทานที่โรงแรมแลนมาร์ค นะคะ...หรือไม่ก็ที่ภูเก็ต เจ้าภาพ ยู หม่องหนั่น..-cool day- ;aa13 อุ อุ...