หมดแล้ว มาแรง พระขุนแผนเพทยาธร ผงพรายมหาภูติ อ.กรกฏมูลนิธิสรรพราเชนทร์ (หน้า ๑๐)

หนุมานนั่งเมือง ครองเรือนตามคติความเชื่อ หนุมาน เป็นบุตรของพระพาย ผู้ใดฆ่าไม่ตายต้องลมพัดเมื่อใดก็กลับฟื้นขึ้นทุกครั้งมีความโดดเด่นทางด้าน มหาอำนาจ มหาเสน่ห์แคล้วคลาด คงกระพัน อาจารย์จึงได้จัดสร้างตามตำราวิธีการสร้างปลุกเสกตามโบราณครบสูตร ตั้งแต่ขออนุญาตจัดสร้าง เททองผสมเนื้อโลหะ ถือว่าหนุมานชุดนี้ จัดสร้างอย่างครบสูตร อย่างแท้จริงสวยงามทั้งศิลป์ ความคมชัด และประกอบด้วยพุทธคุณครบถ้วน ในการหล่อนั้นได้ผสมแผ่นพระยันต์ ที่จารอักขระโดยพระเถราจารย์ชื่อดังแห่งยุคจากทั่วประเทศจำนวนนับพัน พระยันต์ผู้พกพาอาราธนาหนุมานนั้นจะทำให้แคล้วคลาดบังเกิดเมตตามหาอำนาจวาสนาอย่างเอกอุเลยทีเดียว<O</O
ขนาดห้อยคอ ก้นอุดผงพรายมหาภูติ มหาเสน่ห์เทพรำลึกล้วนฝังตะกรุดเงิน นะอ่อนใจ และ อะมหาอุตม์ (จารมือทุกดอก)

จอง เนื้อนวโลหะ (ใกล้หมด) บูชาองค์ละ ๑๐๐บาท 1 องค์ครับ./<O</O

 

ขอบูชา
ขุนแผนหลัง พระเพทยาธรเนื้อผงพรายล้วนฝังตะกรุดเงินคู่ 1 องค์
หนุมานนั่งเมือง ครองเรือน เนื้อนวโลหะ 2 องค์ครับ

 

ขอจองขุนแผนฝังตะกรุดคู่ 1 องค์ครับ

 

วันนี้เวลา 17:59 น. ผมได้โอนเงินค่าบูชาหนุมานเนื้อนวะที่จองไว้ให้แล้วนะครับ จำนวน 151.00 บาท
ส่งมาตามที่อยู่...วานิช ศรีบุรินทร์
ที่ทำการปกครองจังหวัดเพชรบูรณ์
ศาลากลางจังหวัด อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ 67000

 

พิเศษครับ ผมจะมอบลูกอมมหากัณฑ์ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ๑ ในชุดเครื่องรางราชศาสตราย้อนยุค แก่ท่านที่บูชาวัตถุมงคลชุดนี้ ๕๐ ท่านแรกครับ มีจำนวนจำกัดจริงๆ ๑ท่านที่บูชาต่อ๑ลูกเท่านั้นครับ ราคาบูชาจากวัด ๒๐๐ บาทครับ(ผมจะนำรูปมาลงให้ชมโอกาสต่อไปครับ)<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ขอจองบูชา
ขุนแผนหลัง พระเพทยาธรเนื้อผงพรายล้วนฝังตะกรุดเงินคู่ 1 องค์
หนุมานนั่งเมือง ครองเรือน เนื้อนวโลหะ 1 องค์ครับ<!-- google_ad_section_end -->
ขอวิธีการโอนเงินร่วมทำบุญด้วยครับ

 

ศรัทธาอาจารย์ท่านมากค่ะ
ในช่วงเศรษฐกิจอย่างนี้ ประชาชนต้องการที่พึ่งทางใจเพื่อยึดเหนี่ยวอยู่มาก
วัตถุมงคลทางด้านเมตตา เป็นอีกด้านที่ประชาชนขวนขวายกันอย่างสูง
วัตถุมงคลที่ลงกันตามแหล่งโฆษณาต่างๆ ก็ราคาสูงจนถึงสูงเกินเอื้อม เพราะมีค่าโฆษณาที่ทางแหล่งเรียกเก็บจากทางวัด
ขอเรียนตามตรงวาคงหาวัตถุมงคลที่ราคาถูกแต่เข้มขลังอย่างของท่านอาจารย์ไม่ได้อีกแล้ว
อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ
ขอบคุณคุณแก้วนพรัตน์ที่มาบอกบุญครั้งนี้ค่ะ

วัตถุประสงค์ชัดเจน

พิธีเข้มขลัง

มวลสารเปี่ยมพุทธคุณ

 

ของผมโอนสินเดือนนะครับจองไว้ก่อน

 

ขอจองบูชา...
ขุนแผนหลัง พระเพทยาธรเนื้อผงพรายล้วนฝังตะกรุดเงินคู่ 1 องค์ และ หนุมานนั่งเมือง ครองเรือน เนื้อนวโลหะ 1 องค์ ครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

พระขุนแผน พระเพทยาธรเนื้อผงพรายล้วนสร้าง ๓๐๐ องค์บูชาองค์ละ ๑๐๐ บาท จอง 1 องค์ครับ

ผ้ายันต์พระเพทยาธรขนาดเท่า A 4จัดสร้างจำนวน ๓๐๐ ผืนเท่านั้นบูชาผืนละ ๑๐๐ บาท จอง 1 ผืน ครับ

หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดแก้วฟ้า สมุทรสงครามกราบหลวงพ่อครับขอให้หลวงพ่อมีสุขภาพแข็งแรงครับ..

โอนเงินแล้ว จะPMไปแจ้งพร้อมที่อยู่ครับ

 

ขอจองครับ
พระขุนแผน พระเพทยาธรเนื้อผงพรายล้วนบูชาองค์ละ 100 บาท 1 องค์
หนุมานนั่งเมือง ครองเรือนเนื้อนวโลหะ (ใกล้หมด) บูชาองค์ละ 100 บาท 1 องค์
ตะกรุดนะสุวรรณรังสี (ตะกรุดนะหน้าทอง)เนื้อตะกั่ว บูชาดอกละ 100 บาท<O</O<!-- google_ad_section_end --> 1 ดอก
ผ้ายันต์พระเพทยาธรแบบต้นตำรับบูชาผืนละ 100 บาท 1 ผืน
รวม 400 บาท + ค่าส่ง 50 เป็นเงิน 450 บาท
โอนแล้วจะแจ้งที่อยู่และรายละเอียดการโอนให้ทราบทาง pm นะครับ

 

พิเศษครับ ผมจะมอบลูกอมมหากัณฑ์ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ๑ ในชุดเครื่องรางราชศาสตราย้อนยุค แก่ท่านที่บูชาวัตถุมงคลชุดนี้ ๕๐ ท่านแรกครับ มีจำนวนจำกัดจริงๆ ๑ท่านที่บูชาต่อ๑ลูกเท่านั้นครับ ราคาบูชาจากวัด ๒๐๐ บาทครับ(ผมจะนำรูปมาลงให้ชมโอกาสต่อไปครับ)<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ใช่ครับผม ขอขอบพระคุณที่ยกย่องอาจารย์ผมนะครับ ทุกครั้งที่มีลูกศิษย์มาขอให้อาจารย์สร้างวัตถุมงคล หรือสร้างมาให้อาจารย์ช่วยเสกให้เพื่อหาทุนใช้ในกิจกรรมมูลนิธิฯ แต่ละคราวนั้น ท่านจะย้ำเสมอว่า อย่าขายวัตถุมงคลหรืออย่าขายพุทธคุณ หมายถึงอย่านำวัตถุมงคลของท่าน ไปขายในราคาที่สูงนัก ให้ถือว่าเป็นการมอบเป็นของที่ระลึกให้แก่ผู้ทำบุญเสียมากกว่า เพื่อเป็นการตอบแทนในน้ำใจที่เค้าร่วมบุญมา หรือเพื่อให้คนที่ไม่มีปัจจัยมาก ได้มีเก็บไว้บูชา ผมคิดว่าด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์นี้อาจทำให้วัตถุมงคลท่านยังคงความขลังอยู่มิใช่น้อยครับ คนที่ได้รับไปนั้นก็อาราธนาใช้สำฤทธิ์ผลสมปรารถนาเกือบทุกราย บางท่านอาจคิดว่า ของที่ดี ราคาถูกอาจจะไม่มีในโลก บางคนก็เข้าใจว่าวัตถุมงคลที่ขลังๆ ต้องมีราคาแพง ยิ่งแพงยิ่งขลัง อาจารย์ท่านบอกว่า "ทุกอย่างอยู่ที่ใจคนบูชาครับ ถ้าเราคิดว่าพระเครื่องคือดินธรรมดามันก็จะเป็นดินตามที่ใจเราคิด แต่ถ้าเราคิดว่าดินนี้มีความสำคัญเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นตัวแทนของพุทธคุณ วัตถุนั้นก็จะมีอานุภาพมหาศาลเลยทีเดียว " แต่บางครั้งก็ต้องเข้าใจอ่ะครับว่า หลายๆที่นั้น ที่สร้างวัตถุมงคลออกให้บูชาราคาสูงๆ ก็ด้วยวัตถุดิบ วิธีการผลิต ต้นทุนสูงแถมยังต้องติดต่อแหล่งโฆษณา ซึ่งต้องใช้ปัจจัย หลายเลยทีเดียว ก็ต้องเห็นใจอ่ะครับ เคยมีผู้อยากนำอาจารย์ไปลงโฆษณาหนังสือต่างๆ ท่านก็แย้งเสมอว่า "อยู่มันอย่างนี้นะดีแล้ว อย่าไปดังกะเค้าเลย เดี๊ยวจะทำให้ปวดหัวเปล่า พอหมดสตางค์ก็หมดความดัง เอาเงินไปทำกุศลอย่างอื่นดีกว่า พระเครื่องของเราจะได้ไม่แพง คนไม่มีตังค์จะได้มีไว้ใช้" คนที่มาทำบุญสร้างวิหารฯ เค้ามาทำบุญหมื่นนึง อาจารย์ก็หยิบ ขุนแผนรุ่นนี้อ่ะครับยื่นให้ คนทาทำบุญแสนนึง ท่านก็หยิบขุนแผนรุ่นนี้เหมือนกันยื่นให้ หมื่น หรือแสนก็ให้เหมือนกันหมด เหมือนจะทำให้คนทั้งหลายรู้ครับว่า วัตถุมงคลท่านเป็นของดีมีไว้ให้เป็นที่ระลึก มิใช่นำมาประเมินค่างวดใดๆ หรืออีกนัยหนึ่ง คงอาจจะทำให้คนรู้ว่า วัตถุมงคลท่านมีพุทธคุณ จึงประเมินราคามิได้ ทุกวันนี้ก็เห็นอาจารย์ไม่ค่อยว่างแล้วครับ เฉพาะกิจกรรมมูลนิธิฯก็เยอะอยู่ ปัจจุบันก็ไปเป็นเจ้าพิธี และที่ปรึกษา ของวัดบางกะพ้อมในโครงการสร้างหลวงพ่อคง องค์ใหญ่หน้าตัก ๑๑ เมตรครับ (ถ้าใครผ่านไปแถวตลาดน้ำอัมพวาก็เข้าไปร่วมบุญได้นะครับ ตอนนี้หล่อครั้งที่๓ ผ่านไปแล้ว หล่อทั้งหมด ๙ ครั้งครับ) เป็นเจ้าพิธี เป็นที่ปรึกษา จัดทำออกแบบวัตถุมงคลครับ ที่เด่นๆ ก็คราวปลุกเสกใหญ่ของวัดบางกะพ้อมครับ อาจารย์ท่านได้ทำ ตะกรุดมหาปราบ พร้อมทั้งลูกอม มหากัณฑ์ ถวายวัดไป พร้อมทั้งเป็นผู้ริเริ่มอาราธนาอัฐิ ของหลวงพ่อคงอุดใต้ฐานรูปหล่อ บูชา ๙ นิ้วของวัด จัดทำเสื้อยันต์วิรุฬจำบัง ย้อนยุคสมัยหลวงพ่อคง เพราะอาจารย์ท่านศึกษา มาทางสายหลวงพ่อคงครับ ปัจจุบันนี้มีผู้หาบูชากันมากครับ เพราะหมดจากวัดภายในเวลาไม่กี่วันครับ อาจารย์ก็เป็นเจ้าพิธีทุกครั้ง ฉะนั้นจึงถือได้ครับว่าวัตถุมงคลที่ท่านสร้างของมูลนิธิฯนั้น หรือของที่ไหนก็ตาม เข้มขลังด้วยขั้นตอน เจตนาอันบริสุทธิ์ มีอิทธิคุณแก่ผู้บูชาครับผม

 

ลุกอมมหากันฑ์ ตามสารบัญ หน้า๑ (ที่แจกสมนาคุณแก่ผู้ที่ร่วมสั่งจองวัตถุมงคล อ.กรกฏชุดนี้ ๕๐ ท่านแรก ท่านละ ๑ ลูกเท่านั้นครับ)
และประวัติสีผึ้งสุดยอดเมตตามหาเสน่ห์สูงสุด ที่เป็น๑ ในส่วนผสมของวัตถุมงคลชุดนี้ครับ อาจารย์ได้รับมาสมัยบวชเป็นสามเณร ได้เก็บรักษาไว้ครับ ซึ่งปกติมีผู้ที่รู้ข่าวมาขอแบ่ง อาจารย์ไม่เคยมอบให้ใครครับ ท่านบอกว่ากลัวคนที่ได้ไปจะใช้ในทางไม่ดี

ลูกอมมหากัน หลวงพ่อคง บางกะพ้อม นั้นว่ากันว่าท่านสำเร็จวิชานะปัดทะมัง(ปถมัง) ซึ่งในการสร้างลูกอมของ ท่าน ได้ใช้วิชานะปัดทะมัง ลบถมมาทำลูกอม พุทธคุณของลูกอมมหากันนั้นคลอบจักวาลชนิดที่เรียกได้ว่า สาระพัดกัน เช่น กันสะเนียดจัญไร กันผีพราย กันคุณไสย กันอาวุธและของมีคม ฯลฯ สุดยอดพระคณาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลองอีกท่านหนึ่งผู้สร้างตำนาน ตะกรุดมหาปราบ ตะกรุดมหาระงับ ลูกอมมหากัน เสื้อยันต์วิรุฬจำบัง อันลือลั่น "หลวงพ่อคง ธัมมโชโต" แห่งวัดบางกะพ้อม จ.สมุทรสงคราม เป็นพระเกจิอาคมขลังอีกรูปหนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำให้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนและคณะศิษยานุศิษย์อย่างยิ่งหลวงพ่อคง ท่านไปศึกษาวิชาการทำตะกรุดมหาปราบและเสื้อยันต์วิรุฬจำบัง(กำบังกาย) จากหลวงพ่อปาน วัดประดู่โรงธรรม (วัดประดู่ทรงธรรม) สำนักตักศิลาแห่งกรุงศรีอยุธยาและท่านยังสำเร็จวิชานะปัดทะมัง อีกด้วย หลวงพ่อคงท่านเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2408 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 5 ปีฉลู ณ บ้านสำโรง ปัจจุบัน คือ ต.โรงหีบ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม โยมบิดา-มารดา ชื่อนายเกตุ กับนางทองอยู่ จันทร์ประเสริฐ เมื่ออายุได้ 12 ปี โยมบิดาและโยมมารดาให้ท่านบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ระหว่างเป็นสามเณรสนใจในวิชาเมตตามหานิยม ต่อมา ได้ลาสิกขาบทจากสามเณรและได้ทดลองวิชาเมตตามหานิยมดูว่าจะขลังจริงหรือไม่ โดยเสกสีผึ้งละลายน้ำไปให้หญิงผู้หนึ่งซึ่งอยู่ทางใต้น้ำ ปรากฏว่า เย็นวันนั้นหญิงสาวหอบผ้าหอบผ่อนมาหาท่านถึงบ้านและร่ำร้องจะขออยู่ด้วยให้ได้ ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายต้องชี้แจงกันเป็นการใหญ่ กระทั่งอายุ 20 ปีบริบูรณ์ ได้ลาโยมบิดาและมารดา เพื่อเข้าอุปสมบท ณ วัดเหมืองใหม่ โดยมีพระอาจารย์ด้วง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการจุ้ย วัดบางเกาะเทพศักดิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการทิม วัดเหมืองใหม่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมโชโต อันแปลว่า เป็นผู้รุ่งเรืองโดยธรรม ภายหลังอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาที่วัดเหมืองใหม่ จนกระทั่งพรรษาที่ 21 ในปี 2448 ชาวบ้านใน ต.บางกะพ้อม ได้อาราธนาท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบางกะพ้อม ด้วยตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง หลวงพ่อคงได้ทำการฟื้นฟู บูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุภายในวัด ซึ่งชำรุดทรุดโทรม ด้วยท่านมีฝีมือในการพัฒนาเป็นทุนเดิม จึงทำให้การสร้างความเจริญให้แก่วัดสำเร็จลุล่วงในเวลาอันสั้น หลวงพ่อคงได้มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2486 สิริอายุ 78 ปี พรรษาที่ 58
มีคนเล่าลือว่าหลวงพ่อคงท่านหุงสีผึ้งด้วยเตโชธาตุ ไม่หุงด้วยไฟฟืนธรรมดา ตอนหลังท่านนำไปถ่วงน้ำหมด ก่อนมรณะภาพไม่นาน เพราะกลัวว่าคนจะนำไปใช้ในทางผิด ส่วนสีผึ้งที่อาจารย์ได้รับมอบมานั้น มีผู้เฒ่าผู้แก่ ที่เคยได้รับจากท่านนำมามอบให้อาจารย์หมด เพื่อให้ท่านเก็บรักษาไว้ครับ
ส่วนลูกอมมหากันฑ์นั้นก็เป็นส่วน๑ ในมวลสารที่นำผสมครั้งนี้ เพราะอาจารย์ท่านเล่าว่าท่านขอบูชามาจากคนพื้นที่ ๓ ลูก ในราคาลูกละ ๕,๐๐๐ บาท ท่านทุบดูข้างใน เพื่อยืนยันว่าใช่ของหลวงพ่อคงจริง เพราะว่าท่านได้เล่าเรียนมานั้น ในลูกอมมหากันฑ์ จะต้องมีไส้กระดาษสาซึ่งจารอักขระ อะมหาอุตม์ไว้ ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้นครับ









<!-- google_ad_section_end -->

 

ประวัติโดยอ.กรกฏโดยสังเขป ตามสารบัญ หน้า๑

ชาติภูมิ อาจารย์กรกฏ มีชาติภูมิ เกิดจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นหลานปู่ อาจารย์กิมเล้ง ซึ่งอาจารย์กิมเล้งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่แก้ว วัดพวงมาลัย และหลวงปู่บ่าย วัดช่องลม เป็นทั้งหมอยา และเป็นอาจารย์ผู้เริ่มต้นการสอนวิชาไสยศาสตร์ ภาษาขอมเรียนวิชาผูกสัตว์ให้เชื่อง และวิชา มหาอุตม์ แก่อาจารย์กรกฏ ตั้งแต่ครั้งเรียนชั้นประถม โดยศึกษาวิชาการทำตะกรุดใบลานบังปืน และหมอยา ครั้นเมื่ออายุ ๗ ขวบ ได้บวชเป็นสามเณร วัดบางประจันต์ สมุทรสงคราม คอยรับใช้ หลวงพ่อพระครูระเบียบโชติคุณ (ระเบียบ โชติโก) พระมหาเถระลือลั่นด้านวิชาทำปลัดขิก ด้วยหินอ่อน และผ้ายันต์ปลัดขิกวิ่ง (อาจารย์ผู้นี้เชี่ยวชาญมากมีข่าวลือว่าปลัดท่านทำด้วยหินอ่อน กลางดึกท่านนำไปปล่อยในน้ำ สามารถวิ่งทวนน้ำได้ ชาวบ้านขนานนามว่า หลวงพ่อเสกค... จนสร้างโบสถ์ได้ เพราะว่ามีคนมาบูชาปลัดท่านจนสร้างโสสถ์เป็นหลังๆ)อาจารย์ก็ได้ศึกษาวิชานี้โดยแตกฉาน ครั้นพออายุครบ ๑๓ ปี จบการศึกษา ชั้นประถม ได้บวชเรียนเป็นสามเณร ที่วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม คอยอุปฐาก พระครูสมุทรสารโสภณ (ไสว พุทธสโร) ศิษย์หลวงปู่คง ธัมมโชโต ได้เล่าเรียนศึกษาพระเวทวิทยาคม จากพระอาจารย์ และคนเก่าแก่ในพื้นที่ วัดบางกะพ้อม เช่น วิชาวิรุฬจำบัง วิชาทำลูกอมมหากัณ วิชาทำตะกรุดมหาปราบ วิชาจันทรุปราคา สุรยะปราคา
วิชาทำธงมหาระงับ วิชาทำธงมหาลาภ เป็นต้น และในขณะบรรพชาเป็นสามเณรนั้น ได้มีผู้เฒ่าท่านนึง มาอุปสมบท เป็นพระภิกษุ ท่านได้นำตำราของหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า โดยท่านได้รับมอบมาจากญาติท่านซึ่งอยู่แถว วัดธรรมมามูล จ.ชัยนาท เมื่อเห็นอ.กรกฏ ครั้งยังเป็นสามเณร มีความฝักไฝ่ในเรื่องพุทธาคม ท่านจึงมอบตำรานี้ และสอนแนวทางในการปฏิบัติ กรรมฐาน และพื้นฐาน การใช้แม่ธาตุ ต่างๆ ในการศึกษาพระเวทวิทยาคม ตามตำหรับหลวงปู่ศุข ผมเห็นอาจารย์ท่านเล่าว่า วันที่ได้วิชาต่างๆหลวงปู่ศุขนั้น ขนทั้งตัวท่าน พองสยองเกล้า ตั้งชัน เปรียบประดุจว่าถูกชะตากับท่าน หลังจากที่ท่านลาบรรพชาแล้ว ยังได้ไปศึกษาพระเวท ต่อจากอาจารย์ที่เป็นชาวเขมร อยู่อำเภอบ้านแพ้ว ในด้านวิชาต่างๆอีกหลายวิชา ท่านพร้อมด้วยคณะศิษย์ ได้ก่อตั้ง มูลนิธิสรรพราเชนทร์ ขึ้น ที่จ.สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๔๙ และยังรับอุปการะ หน่วยกู้ภัย จุฬามณี โดยให้ความช่วยเหลือสาธรณะชนทั่วไป และช่วยเหลือผู้ประสบเหตุต่างๆ และกิจกรรมมูลนิธิ ยังมีการอุปถัมภ์ นักเรียนที่เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และแจกทุนการศึกษาแก่นักเรียน เรียนดีในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมทั้งประกอบพิธีทิ้งกระจาด แจกทานข้าวสาร อาหารแห้ง เป็นประจำทุกปีเสมอ ส่วนตัวท่านอาจารย์นั้นก็ให้ความรู้คำแนะนำ และช่วยเหลือคณะศิษย์ตามวิชาความรู้ความสามารถ ที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนมา
ต่างๆอย่างแตกฉาน แต่ถึงกระนั้นท่านยังเคยปรารภกับผมว่า "วิชาที่เรียนมามีหลายแขนง จะให้คล่องแคล่วทุกวิชาคงเป็นไปด้วยยาก จะนำมาใช้เฉพาะที่ถนัดเท่านั้น" ๑ ในวิชานั้นที่ท่านศึกษามา จนลูกศิษย์ท่านทุกคนยอมรับ คือวิชา นะสุวรรณรังษี เนี่ยแหละคับ สร้างคนรวยมาหลายคน ช่วยคนอัปลักษ์ให้มีภรรยา และสามี มาเยอะแล้วคับ สิ่งต่างๆที่ผมสาธยายมานี้ สุดแต่ความเชื่อนะคับ เป็นการเล่าสู่กันฟัง ทุกอย่าง "ปัจจัตตัง" คับ รู้จำเพาะตน คับ <!-- google_ad_section_end -->

 

ผงอิทธิเจ (ตามสารบัญ) มวลสารอย่างหนึ่งที่ผสมลงวัตถุมงคลชุดนี้ครับ


อิธะเจ หรือ อิทธิเจของเทพย์ สาริกบุตร เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ว่าด้วยการทำผงตามคัมภีร์อิธะเจ ซึ่งเป็นหนึ่งในคัมภีร์หลักของระบบไสยศาสตร์ไทยโบราณ อันประกอบด้วยคัมภีร์ปถมัง อิธะเจ ตรีนิสิงเห และมหาราช นอกจากนั้นชื่อวิชาอิธะเจยังปรากฏอยู่ในเสภาขุนช้างขุนแผนตอนพลายงามเรียนวิชาด้วย เนื้อหาของวิชาอิธะเจคือการทำผงด้วยการตั้งตัวตามสูตรบาลีมูลกัจจายน์ ซึ่งเป็นระบบบาลีไวยากรณ์ใหญ่ที่ปัจจุบันได้ล้มเลิกไป อิธะเจมีหลายตำรับด้วยกัน แต่ที่เป็นหลักสำคัญจะตั้งตัวด้วย อิทะ อิติ อิติ อัสสา อุทัง อะหัง อัคคัง อะหัง อะหัง อิถัง อัมมะ อัสสา จากนั้นจึงกระทำตามสูตรสนธิโดยอ้างสูตรตามคัมภี์บาลีไวยากรณ์จนสำเร็จเป็น อิธเจตโสทฬฺหํคณฺหาหิถามสา เป็นอันขาดตัวในสูตรสนธิ ผงที่ได้จากการเขียนและลบอักขระตามคัมภีร์อิธะเจ เรียกว่าผงอิธะเจ เชื่อว่ามีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์โดยเฉพาะแก่สตรีเพศ
ผงอิธะเจ เป็นวิชาไสยศาสตร์ไทยโบราณอย่างหนึ่ง วิธีทำเริ่มต้นจากจัดเครื่องบูชาคำนับครูมีดอกไม้ธูปเทียนอย่างละ ๕ หัวหมู บายศรีปากชาม เครื่องกระยาบวช มีขนมต้มขาว ขนมต้มแดง มะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำไท เป็นต้น และเงินบูชาครู จากนั้นผู้กระทำกล่าวคำนมัสการตามตำรา เมื่อสักการบูชาครูเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มทำผง การทำผงอย่างโบราณคือใช้ดินสอพองปั้นเป็นแท่งขนาดพอจับได้ แล้วบริกรรมเขียนอักขระลงบนกระดานชนวน ขณะที่เขียนอักขระแต่ละตัวให้บังเกิดขึ้น ผู้ทำจะต้องบริกรรมคาถา (เรียกสูตร) ตามที่บังคับไว้ในตำราทุกครั้งไป สำหรับแท่งดินสอที่ใช้เขียนผงนี้บางสำนักอาจระบุส่วนผสมต่างกันไปก็ได้ เช่น อาจผสมไคลโบสถ์ ไคลเสมา ไคลพระศรีมหาโพธิ์ ดินเจ็ดโป่ง เจ็ดป่า ดอกรักซ้อน ยอดสวาด กาหลง หรือเครื่องหอมอื่น ๆ บางชนิดผสมลงไปในดินสอพองอีกด้วยก็ได้ การทำผงอิธะเจจะอ้างสูตรพระบาลีในคัมภีร์มูลกัจจายนะ ซึ่งเป็นสูตรตามคัมภีร์ไวยากรณ์ใหญ่ซึ่งปัจจุบันหลักสูตรปริยัติธรรมแผนกบาลีได้ยกเลิกไป สูตรมูลกัจจายนะนี้ทางไสยศาสตร์นับถือว่ามีอานุภาพศักดิสิทธิ์มาก ผงอิธะเจดำเนิดตามแนวสูตรดังกล่าว เมื่ออ้างสูตรเขียนและลบจนขาดตัวในสูตรสนธิ กล่าวคือเขียนและบริกรรมคาถาและเสกจนสำเร็จดีแล้ว จึงลบอักขระบนกระดานชนวนออกมา ผงดินสอพองที่ได้จากการเขียนและลบตามสูตรคาถาอาคมในคัมภีร์อิธะเจนี้ เรียกว่า ผงอิธะเจ มีอานุภาพทางเสน่ห์แก่สตรีเพศยิ่งนัก ตามตำรากล่าวว่าหากใส่ลงในอาหารให้หญิงกินย่อมรักชายผู้นั้นจนวันตาย ผงนี้เพียงทิ้งให้ถูกตัวผู้ใด ผู้นั้นก็เกิดงงงวยหลงตามเรามา เป็นที่สุดของวิชาเสน่ห์โบราณ คาถาอิธะเจ ๑๓ ตัวคือ อิธะเจตะโสทัฬหังคัณหาหิถามะสาฯ ผงอิธะเจนี้เมื่อทำสำเร็จแล้วจะต้องผสมเครื่องยาและปั้นเป็นแท่งเก็บไว้ โดยมากนิยมนำไปสร้างพระ ที่มีชื่อเสียงคือพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ก็ผสมผงอิธะเจนี้ด้วย อานุภาพของผงอิธะเจมีทั้งเสน่ห์ เมตตา และอิทธิฤทธิ์ทางแคล้วคลาดคงกระพัน แต่จะเน้นหนักไปในทางเสน่ห์แก่สตรีเพศมากที่สุด

 

ตำนานผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
เมื่อกลางปี 2515 คณะกรรมการวัดละหารไร่ มีนายสาย แก้วสว่าง ไวยาวัจกร ประชุมกันเรื่องการสร้างพระเครื่องวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสมนาคุณแด่ชาวบ้านและสาธุชนทั่วไป ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมทำบุญกับวัดละหารไร่ ต่อไปในวันข้างหน้าโดยเฉพาะงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถ วัดละหารไร่ ในการนี้หลวงปู่ทิมได้กล่าวว่า หากได้ผงพรายกุมารมหาภูติผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องที่สร้างขึ้นนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเพราะมีอานุภาพแห่งพรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร เมื่อหลวงปู่ทิมมีความต้องการจะทำผงพรายกุมารมหาภูติ เพื่อนำมาเป็นมวลสารที่สำคัญยิ่งในการสร้างปลุกเสกพระเครื่องครั้งนี้นั้น ในบรรดาลูกศิษย์ยุคแรกของหลวงปู่ทิมอิสริโกทั้งหมดไม่มีใครกล้าเสนอตัวอาสากระทำการ เพราะต่างคนต่างก็เกรงกลัวความอาถรรพ์ของผีตายทั้งกลม ซึ่งโบราณกล่าวไว้ว่ามีความดุร้ายและหวงลูกมาก ถึงขั้นตามเอาชีวิตกันเลยทีเดียว มีแต่เพียง “หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ “ ผู้เดียวที่มีวิชาคาถาอาคมและสมาธิกล้าแข็งเพียงพอ กล้าขอเสนอตัวรับอาสาสนองพระคุณหลวงปู่ทิม จะไปนำ ” กะโหลกพรายกุมาร “ วัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่ง จากหญิงตายทั้งกลม (หญิงชาวบ้านท้องแก่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสยดสยอง ทางญาติได้นำศพมาฝังไว้ที่ป่าช้าวัดละหารใหญ่ ปัจจุบันเป็นบริเวณที่ชาวบ้านทำไร่สับปะรด ) มาเพื่อให้ท่านสร้างปลุกเสกเป็น ”ผงพรายกุมารมหาภูติ “ ซึ่งหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ต้องพบกับอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์พรายนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร แต่ด้วยมูลเหตุแห่งวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างบุญกุศลในพระพุทธศาสนา บารมีของหลวงปู่ทิม และคาถาอาคมที่หลวงปู่ทิมได้ประสิทธิให้นั้น ทำให้นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร ได้ยินยอมและเต็มใจ เกิดความปิติในกุศลผลบุญที่ตนเองจะได้รับ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ จึงกระทำการครั้งนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยทุกประการ “ วิญญาณของาจารย์นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร มีอยู่จริงเห็นตัวตนเป็นเงาใสๆ ลางๆ เหมือนกับภาพที่สะท้อนบนพื้น ในปัจจุบันวิญญาณเหล่านี้ก็ยังอยู่คุ้มครองที่วัดละหารไร่ “ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวย้ำ การสร้างผงพรายกุมารมหาภูตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อได้กระโหลกพรายกุมารมาแล้ว หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า เป็นระยะเวลาประมาณสามถึงสี่เดือน จนกระโหลกพรายกุมารแห้งสนิทหมดกลิ่นดีแล้ว จึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาจนครบทั้งหมดผสมน้ำแช่เกสรบัวทั้งห้า ปั้นเป็นแท่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดไว้จนแห้งสนิท เมื่อได้ฤกษ์งาม ยามดีวันดี ตามที่หลวงปู่ทิมได้กำหนดไว้ จึงจะนำแท่งผงปั้นนี้มาเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ บนกระดานชนวน กระทำในพระอุโบสถหลังเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ ๙ รูป โดยหลวงปู่ทิมอิสริโก เป็นประธานสงฆ์ เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงก่อนเป็นปฐมฤกษ์ แล้วจึงมอบให้หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ เป็นผู้ลงอักขระพระยันต์และลบผงต่อไป การปลุกเสกผงพรายกุมารมหาภูตินี้ หลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกพรายกุมารทั้งหลายให้เป็นกึ่งเทพกึ่งภูติเป็นมหาภูติขวาและซ้าย(พระพรายคู่ เป็นรูปเทวดานั่งคู่กัน แทนรูปมหาภูติซ้าย-ขวา) วิญญาณพรายกุมารไม่ใช่มีอยู่ตนเดียว แต่มีมากมายประมาณมิได้ หลวงปู่ทิมได้อธิฐานให้วิญญาณพรายกุมารทุกตนที่ผ่านไปมาในบริเวณพิธี หากจะช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ก็ให้มาสถิตย์อยู่รวมกันในผงพรายกุมารมหาภูติที่ท่านปลุกเสกนี้ ให้มีอิทธิฤทธิ์คอยช่วยเหลือคุ้มครองอำนวยพรให้ผู้ศรัทธาบูชาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้วได้ผงพรายกุมารมหาภูติบริสุทธิ์สีขาวหม่นอมเทาประมาณ 1 ถาดใหญ่ เมื่อแบ่งผสมผงว่านมหามงคลจะได้ผงพรายกุมารมหาภูติเนื้อละเอียดสีน้ำตาลเข้มประมาณ 1 กะละมังใหญ่ แล้วเก็บรวบรวมไว้ในกุฎิหลวงปู่ทิม เมื่อจะทำพระเครื่องจึงจะขออนุญาตหลวงปู่ทิมไปตักแบ่งเอามาผสมผงที่จะกดพิมพ์พระอีกครั้งหนึ่ง.หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวยืนยันโดยเห็นกับตาตนเองว่า “ผงที่หลวงปู่ทิมอิสริโก เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ นั้น หลุดร่วงทะลุลอดกระดานชนวนลงมา และทะลุผ้าขาวที่ปูรองเอาไว้ถึงเจ็ดชั้นจนถึงพื้นพระอุโบสถวัดละหารไร่ “ที่กล่าวนี้ไม่ได้กล่าวเกินความจริงแต่อย่าง แต่กล่าวเปิดเผยเพื่อให้ท่านทั้งหลายที่ศรัทธาหลวงปู่ทิมอิสริโก จะได้เกิดความปิติ และซาบซึ้ง ในบุญญาบารมีของหลวงปู่ทิมอิสริโก หากผู้ใดได้ครอบครองบูชา พระผงขุนแผนพรายกุมาร นับว่าท่านมีของวิเศษขั้นสูงอยู่กับ จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นับว่าเป็นบุญกุศลของผู้นั้นที่เคยได้ร่วมสร้างกันมา หลวงปู่ท่านกล่าวว่าพระของท่านมีเจ้าของอยู่แล้ว ของของใครต้องมาอยู่กับผู้นั้น ผู้ใดมิใช่เจ้าของจักมีอันต้องเปลี่ยนมือไปไม่ช้าก็เร็ว

อาจารย์ท่านเก็บรวบรวมไว้นานแล้วครับสำหรับผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมนี้ โดยอาศัยการขอบูชามาจาก ผู้ที่ได้ครอบครองส่วนมากนั้นบูชามาเป็นประเภทลูกอมครับ ล่าสุดมีผู้ศรัทธาเมื่อรู้ว่าอาจารย์จะทำพระขุนแผน เลยนำมามอบให้หลายลูกอยู่ครับ
อันนี้เป็น๑ ในส่วนผสมมวลสารของพระขุนแผน และ หนุมานรุ่นนี้ครับ

 

ขอบูชาพระขุนแผน พระเพทยาธรเนื้อผงพรายล้วนฝังตะกรุดเงินคู่ (องค์ครู) 200 บาท
<O</O
หนุมานนั่งเมือง เนื้อนวโลหะ บูชาองค์ละ ๑๐๐บาท

จองอย่างละ 1 รายการครับโอนแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ<O</O

<O</O

 

โอนเงินแล้วครับ รายละเอียดใน PM ครับ

 

ขอจอง ขุนแผนหลัง พระเพทยาธรเนื้อผงพรายล้วนฝังตะกรุดเงินคู่ 1 องค์
หนุมานนั่งเมือง ครองเรือน เนื้อนวโลหะ 1 องค์

โอนแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ