เรื่องเด่น มหัศจรรย์ เรื่องจริงที่เหลือเชื่อ "ปรากฏการณ์เผชิญหน้าพญาครุฑในกรุงเทพ"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย piyaa, 15 กันยายน 2012.

  1. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    วารุณี สวัสดิภักดิ์
    ‎16/12/12
    ปราบผี นับถอยหลังไปประมาณ๔๘ปีตอนนั้นอาจารย์อายุประมาณ๑๑ขวบเป็นเด็กซุกซนแก่นมาก อาจารย์บอกว่าเป็นตัวแสบของหมู่บ้าน..นุ่งกางเกงขาสั้น(เป็นสาเหตุทำให้อาจารย์ไม่เคยนุ่งผ้าถุงเหมือนเด็กคนอื่นๆจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังนุ่งผ้าถุงไม่เป็นจึงไม่เคยมีผ้าถุงเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ) วันๆหนังสือไม่เคยเรียนพกแต่หนังสติ๊กหนีโ
    รงเรียนเข้าป่ายิงนกตกปลาทุกวัน...เป็นที่เอือมระอาคนแก่คนเฒ่าในหมู่บ้าน... บ้านอาจารย์มีสวนผลไม้กับป่ายางโดยเฉพาะสวนยางติดกัน...ขี้ยางถ้าไม่เก็บ…อาจารย์จะช่วยเก็บไปขายได้สตังค์ซื้อขนมกินหมดที่เหลือหยอดกระปุกเอาไว้ซื้อจักรยานเพราะฝันอยากได้เอาไว้ขี่ไปเที่ยวหมู่บ้านต่างตำบลที่อยู่ใกล้กัน..พ่ออาจารย์เป็นคนดุมากเป็นที่เกรงกลัวของลูกๆทุกคน..อาจารย์ก็กลัวพ่อมากกลัวคนเดียวไม่กลัวใครเลย..ชาวบ้านชอบมาฟ้องพ่อเรื่องต่างๆทุกครั้งบทลงโทษจะโหดมาก..คำสอนของพ่อ ที่ถูกปลูกฝังมาส่งผลและฝังอยู่ใต้จิตสำนึกเป็นผลดีในช่วงวัยที่โตขึ้น อาจารย์บอกว่าไม่เคยรู้เลยว่าได้ซึมซับคำสอนและเก็บบันทึกไว้อยู่ใต้จิตสำนึกโดยไม่รู้ตัว คำสอนคือ(เป็นคนต้องมีศักดิ์ศรี ของใครอย่าอยากได้ของเขา มีแค่ใหนก็ให้พอใจเท่าที่มี อย่าเป็นคนคตในข้องอในกระดูก ต้องเป็นคนแบ่งปันรักพี่รักน้องมีอะไรก็แบ่งปันกันอย่ามีหรือกินคนเดียวต้องรู้จักเพื่อแผ่ อย่าเป็นคนปากอย่างใจอย่าง ต้องเป็นคนมีสัมมาคารวะรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่อย่าชอบนินทาชาวบ้านจะนำพาเรื่องเดือดร้อนมาถึงตัว อย่านำไฟเข้าบ้าน(ข้อนี้สำคัญเน้นมากจำไว้ให้ดี ถ้าจำไม่ดีหลังขาด) อย่าเป็นคนชอบลักเล็กขโมยน้อย(อันนี้อาจารย์บอกตอนนั้นคำสอนนี้ช่วยไม่ได้(ชอบขโมยขี้ยางเค้าเป็นประจำ)เพราะอยากได้จักรยานเอาไว้ขี่ไปเที่ยวหมู่บ้านข้างเคียงเดินไปมันเมื่อยขา..อยากได้จักยานร้องจ้าหามันทุกวัน)ในกาลต่อมามีลูกก็สอนแบบนี้ซึ่งลูกๆก็น่ารักปฎิบัติตาม...วันหนึ่งลูกชายที่เป็นทนายองค์กรใหญ่สองคนอีกคนเป็นวิศวะ อีกคนด้านโฆษณาพากันเข้ามาหาแล้วถามว่า..สิ่งที่คุณแม่พร่ำสอนมาทั้งหมดใช้ไม่ได้เลยกับคนรุ่นใหม่ยุคนี้..คุณแม่สอนสอนผิดหรือเปล่าครับ..อาจารย์บอกเจอคำถามนี้..อึ้งไปเหมือนกัน พ่อของอาจารย์นอกจากจะเป็นคนดุแล้วยังเป็นคนมีวิชาอาคมแบบพวกจอมขมังเวทย์อันนี้ยิ่งทำให้ตอนเด็กยิ่งกลัวพ่อมาก..วันหนึ่งช่วงหน้าหน้าหนาว...บ้านนอกนิยมปลูกบ้านอยู่ใกล้กันเป็นกลุ่มในหมู่ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านใกล้เคียง...บ้านก็จะปลูกเป็นบ้านใต้ถุนสูงเวลาหน้าหนาวสมัยก่อนจะหนาวมาก..ชาวบ้านจะก่อไฟใต้ถุนแล้วนั่งล้อมวงผิงไฟ...วันหนึ่งอาจารย์นั่งผิงไฟใต้ถุนบ้านย่าเล็กซึ่งเป็นน้องสาวของย่าใหญ่เป็นแม่ของพ่อ..กำลังผิงไฟแล้วก็นอนอยู่ข้างกองไฟ... กำลังเคลิ้มๆจะหลับได้ยินเสียงเอะอะตะโกนบอกบ้านไกล้เคียง...เร็วๆๆ..ผี...เข้าตายิ้ง..เท่านั้น แหล่ะคนในระแวกใกล้เคียงวิ่งตรงมาที่บ้านลุงยิ้งที่ปลูกติดกับบ้านย่าเต็มไปหมด พอคนมาแล้วก็ถามว่าเป็นใครมาจากไหน..ผีก็กลายเป็นเจ้าพ่อทันที คนเลยพากันนั่งไหว้กันเป็นแถว...เจ้าพ่ออยากกินเหล้ากินไก่กับแกล้มอีกหลายอย่าง...อาจารย์นั่งฟังอยู่ใต้ถุนเกิดนึกพิเรนเลยหยิบกิ่งไม้ที่มีไฟแดงกิ่งเท่าปลายนิ้วก้อยแหย่ลอดรอยแยกกระดานตรงที่เจ้าพ่อนั่งทรงอยู่...ด้วยความคิดตอนนั้นว่าเจ้าพ่อคงไม่ร้อนที่ถูกไฟไหม้ก้นแน่เพราะเป็นถึงเจ้าพ่อ..พอไฟไหม้ผ้าที่ก้นที่เจ้าพ่อทะลุถึงเนื้อเท่านั้นเอง..เปิ้ล...หมดเวลาแล้ววันนี้พรุ่งนี้โพสต่อตอนจบ..จ้าาขอให้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยเรื่องวัยเด็กที่ตลกมากมายของอาจารย์...นะจ๊ะ
     
  2. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    แอบเก็บมาเล่าเรื่องขำขัน วันหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่ง ขับรถเข้ามาหาอาจารย์อายุเขามากแล้ว พอได้พบอาจารย์ เขากราบอาจารย์แล้วก็ถามว่าจำผมได้ไหมครับอาจารย์ท่านก็ งง บอกว่าจำไม่ได้เคยมาหรือ เขาก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อห้าหกปีก่อน เขาเข้ามาหาอาจารย์ ตอนนั้นเขาแข็งแรงดีเขามากับเพื่อนที่เป็นนายทหาร พอบอกซื่อเพื่อนท่านก็จำได้ แล้วก็จำเรื่องแสบที่เขาทำกันได้ แต่วันนี้เขาหมดสภาพ ตัวดำพูดไปก็หอบเหมือนคนวิ่งมาไกลๆ หน้าก็เหลื่องอมทุกข์หนัก เขาเล่าให้อาจารย์ฟังว่า ครั้งแรกที่เขามาพบอาจารย์ ท่านได้ทักเขาไปว่าเขามีบางอย่างซ่อนเล้นอยู่ในตัวเป็นจุดสีดำเท่าปลายนิ้วก้อย ให้ระวังโรคเกียวหัวใจ ตอนนั้นเขายังสบายดี แล้วคิดอยากลองดีอย่างเดียว เพราะเห็นว่าท่านเป็นผู้หญิง เขาเองก็มีดีมีวิชาอาคมท่านบอกเขาไม่เชื่อกลับไปยังนั่งนินทากันในวงเหล้าหัวเลาะกันสนุกสนาน แล้วยังเกล่าคำหยาบกับอาจารย์อีกต่างหาก ในวันนี้เขาป่วยหนักทุกข์ทรมานมาก เหนื่อยหอบหายใจไม่ออก หนี้ล้นพ้นตัวถูกเขาโกงบ้านก็ไม่มีต้องไปอาศัยเขาอยู่เขาก็บอกให้หาที่อยู่ใหม่ ในวันนี้เขาคิดจะไปฆ่าตัวตายที่ป่าลึกเมื่องกาณ์ เขาเข้าไปซื้อเชื่อกคิดว่าจะผูกคอตาย เขารู้สึกผิดว่าเคยนินทาอาจารย์ไว้มากอยากขอขมาก่อนตาย อาจาย์นั่งนิ่งฟังเขาเล่าจบก็สงสารแล้วเห็นว่าโรคที่เขาเป็นนั้นเป็นทั้งถูกของและโรคหัวใจ ก็บอกเขาว่าตายมันง่ายเกิดยาก พอดีวันนั้น ท่านอาจารย์สุรัตน์เจ้าอาวาสวัดนายโรงท่านอยู่ด้วย ท่าได้เอาเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอดแช่น้ำแล้วท่านกับอาจารย์ก็นั่งสมาธิขอบารมีหลวงปู่รอดให้ช่วยรักษา อัศจรรย์ในขันน้ำเกิดมีน้ำแบบน้ำเดือด จากนั้นก็ให้เขาดื่ม จากวันนั้นเขาก็เลิกคิดฆ่ตัวตายเข้านั่งสมาธิสวดมนต์ทุกวัน อาการเขาหายวันหายคืน เรื่องนี้ลืมไปแล้วนึกขึ้นได้เอามาเล่าให้ฟัง ก็เพราะเมื่อวานไปวัดนายโรงมาท่านอาจารย์สุรัตน์ท่านสร้างเบี้ยแก้แล้วเชิญอาจารย์ไปร่วมงานอาจารย์ไม่ชอบไปในที่คนเยอะจะไม่ไปท่านก็ไม่ยอม ท่านจึงเลือกไปเมื่อวานก่อนงานปลุกเลกจริงวันเสาร์ เรื่องนี้เป็นที่มาของลำพันผุดข้างบน
    จาก วารุณี สวัสดิภักดิ์ | Facebook
     
  3. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    Happy Okayได้โพสต์ไปยังวารุณี สวัสดิภักดิ์
    21 ธันวาคม บริเวณ Bangkok
    มีวันหนึ่งที่ผมกลับมาจากภวันตุเต เดินไปกินไอติมร้านปากซอย ไปเจอหญิงชราคนหนึ่งนั่งขายผักที่เก็บได้จากข้างถนน ดูจากผักแล้วเป็นพวกผักกระถิน ผักบุ้งยอดเล็กๆๆ คุณยายตัวผอมๆน่าสงสารมาก ผมนึกเห็นถึงสิ่งที่อาจารย์ทำให้เห็นเลยครับ คือทานปัจจัยช่วย ผมก็เลยหยิบเงินแล้วมอบให้คุณยาย คุณยายทำหน้าตาเศร้าและซึ้งใจมากเลย ผมก็บอกว่า ขอให้คุณยายมีความสุขมากๆนะครับ เพื่อนที่เดินไปด้วยก็อนุโมทนาสาธุ ด้วยกัน จากสิ่งที่อาจารย์ทำให้เห็นเลยทำให้ผมได้สังเกตุคนที่อยู่ข้างๆถนนมากขึ้น เพราะคิดว่าถ้าเจอใครที่น่าสงสารก็พอช่วยได้ ก็จะช่วยอะครับ เลยหยิบมาเล่าให้อาจารย์ และญาติธรรมทุกท่านได้ฟังครับ.
     
  4. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    แอบเก็บมมาเเล่าเรื่องขำขัน วันหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่ง ขับรถเข้ามาหาอาจารย์อายุเขามากแล้ว พอได้พบอาจารย์ เขากราบอาจารย์แล้วก็ถามว่าจำผมได้ไหมครับอาจารย์ท่านก็ งง บอกว่าจำไม่ได้เคยมาหรือ เขาก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อห้าหกปีก่อน เขาเข้ามาหาอาจารย์ ตอนนั้นเขาแข็งแรงดีเขามากับเพื่อนที่เป็นนายทหาร พอบอกซื่อเพื่อนท่านก็จำได้ แล้วก็จำเรื่องแสบที่เขาทำกันได้ แต่วันนี้เขาหมดสภาพ ตัวดำพูดไปก็หอบเหมือนคนวิ่งมาไกลๆ หน้าก็เหลื่องอมทุกข์หนัก เขาเล่าให้อาจารย์ฟังว่า ครั้งแรกที่เขามาพบอาจารย์ ท่านได้ทักเขาไปว่าเขามีบางอย่างซ่อนเล้นอยู่ในตัวเป็นจุดสีดำเท่าปลายนิ้วก้อย ให้ระวังโรคเกียวหัวใจ ตอนนั้นเขายังสบายดี แล้วคิดอยากลองดีอย่างเดียว เพราะเห็นว่าท่านเป็นผู้หญิง เขาเองก็มีดีมีวิชาอาคมท่านบอกเขาไม่เชื่อกลับไปยังนั่งนินทากันในวงเหล้าหัวเลาะกันสนุกสนาน แล้วยังเกล่าคำหยาบกับอาจารย์อีกต่างหาก ในวันนี้เขาป่วยหนักทุกข์ทรมานมาก เหนื่อยหอบหายใจไม่ออก หนี้ล้นพ้นตัวถูกเขาโกงบ้านก็ไม่มีต้องไปอาศัยเขาอยู่เขาก็บอกให้หาที่อยู่ใหม่ ในวันนี้เขาคิดจะไปฆ่าตัวตายที่ป่าลึกเมื่องกาณ์ เขาเข้าไปซื้อเชื่อกคิดว่าจะผูกคอตาย เขารู้สึกผิดว่าเคยนินทาอาจารย์ไว้มากอยากขอขมาก่อนตาย อาจาย์นั่งนิ่งฟังเขาเล่าจบก็สงสารแล้วเห็นว่าโรคที่เขาเป็นนั้นเป็นทั้งถูกของและโรคหัวใจ ก็บอกเขาว่าตายมันง่ายเกิดยาก พอดีวันนั้น ท่านอาจารย์สุรัตน์เจ้าอาวาสวัดนายโรงท่านอยู่ด้วย ท่าได้เอาเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอดแช่น้ำแล้วท่านกับอาจารย์ก็นั่งสมาธิขอบารมีหลวงปู่รอดให้ช่วยรักษา อัศจรรย์ในขันน้ำเกิดมีน้ำแบบน้ำเดือด จากนั้นก็ให้เขาดื่ม จากวันนั้นเขาก็เลิกคิดฆ่ตัวตายเข้านั่งสมาธิสวดมนต์ทุกวัน อาการเขาหายวันหายคืน เรื่องนี้ลืมไปแล้วนึกขึ้นได้เอามาเล่าให้ฟัง ก็เพราะเมื่อวานไปวัดนายโรงมาท่านอาจารย์สุรัตน์ท่านสร้างเบี้ยแก้แล้วเชิญอาจารย์ไปร่วมงานอาจารย์ไม่ชอบไปในที่คนเยอะจะไม่ไปท่านก็ไม่ยอม ท่านจึงเลือกไปเมื่อวานก่อนงานปลุกเลกจริงวันเสาร์ เรื่องนี้เป็นที่มาของลำพันผุดข้างบน

    เล่าโดย Ubonwattana Limlertpong
     
  5. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    เรื่อง ... เรื่องของพ่อ...
    ขณะที่อาจารย์ยายสอนธรรมะ สอนแง่คิดต่างๆในการปฏิบัติธรรม และการฝึกสมาธิในชีวิตประจำวันนั้น ในระหว่างที่นั่งฟังคำสอนจากอาจารย์ จิตของอาจารย์ยายก็รวมลงเป็นสมาธิ อาจารย์ยายเลยหลับตาลง ซักพักพออาจารย์ยายลืมตาขึ้น อาจารย์ยายได้บอกกับผมว่า หนู พ่อของหนู มีรูปร่าง ลักษณะ หน้าตา เป็นอย่าง....นี้หรือเปล่า ผมก็ตอบอาจารย์ยายไปว่า ใช่ครับ(เพราะลักษณะทุกอย่างที่อาจารย์ยายพูดมาตรงทั้งหมดเลยกับคุณพ่อของผม) อาจารย์ยายพูดต่อไปว่า แล้วที่บ้านหนูอยู่ริมแม่น้ำ หรือใกล้กับแม่น้ำหรือเปล่า อันนี้ผมก็ตอบว่า ใช่ครับ เพราะว่าผมอยู่จังหวัดนครพนม ติดแม่น้ำโขงอยู่แล้ว และหมู่บ้านผมก็มีแม่น้ำสายใหญ่ล้อมรอบหมู่บ้าน โดยหมู่บ้านผมมีลักษณะเป็นเหมือนเกาะ ที่มีแม่น้ำล้อมรอบด้วย อาจารย์ยายพูดต่อวไปว่า "หนู ลองถามพ่อของหนูดูนะว่า เคยมีนิมิต หรือฝันเห็นคนขึ้นมาจากน้ำมาหาหรือเปล่า" ผมก็งงในใจ เพราะตั้งแต่เล็กจนโต พ่อไม่เคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับเห็นคนขึ้นมาจากน้ำมาหาพ่อ ผมก็รับปากอาจารย์ว่า "ได้เลยครับ เดี๋ยวกลับบ้านผมจะลองถามพ่อดูว่า พ่อเคยเห็น คนขึ้นมาจากน้ำมาหาพ่อหรือเปล่า" พอผมกลับมาถึงห้อง ผมก็เลยโทรศัพท์หาพ่อ แล้วก็ถามพ่อว่า"พ่อคับ พ่อเคยมีนิมิต หรือความฝันที่เห็นเกี่ยวกับคนขึ้นจากน้ำมาหาพ่อหรือเปล่า" พ่อบอกว่า ตอนผมถามคำถามนี้ขึ้นมาแกก็อึ้งในใจเลยว่า ผมรู้ได้อย่างไร เพราะพ่อยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยแม้แต่คุณแม่ก็ยังไม่รู้ พ่อเล่าให้ฟังว่า " ตั้งแต่ตอนที่พ่อเป็นเด็กหนุ่ม อายุน่าจะประมาณซัก 14-15 ปี พ่อฝันว่ามีผู้หญิง แต่งตัวเป็นชุดไทยสีเขียวๆ เป็นประกาย สวยงามมาก สวยเหมอืนนางฟ้า ตั้งแต่ศรีษะจนถึงเท้า ซึ่งรองเท้าก็เป็นรองเท้าแบบเทพธิดาใส่ สวยงามมาก ผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาจากน้ำแล้วมาหาพ่อ แล้วบอกพ่อว่าจะพาพ่อลงไปในน้ำด้วย พ่อก็เดินไปด้วย แต่พอถึงริมน้ำแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า สงสารพ่อเห็นพ่อยังเด็กอยู่ เดี๋ยววันหลังจะมารับใหม่" พ่อฝันอย่างนี้อยู่สองสามครั้ง พ่อบอกกับผมว่าพ่อจำลัษณะหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นได้เป็นอย่างดี โดยทุกวันนี้พ่อก็ยังไม่เคยลืมเลือนจากความทรงจำ เพราะพ่อบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นสวยงามมาก พ่อไม่เคยเห็นใครสวยเท่านี้มาก่อน จากที่ผมได้ฟังคำตอบจากพ่อแล้ว ผมเลยนำเอาเรื่องที่พ่อเล่าให้ฟังนี้ มาเล่าให้อาจารย์ยายฟังว่า พ่อเคยมีความฝันเห็นคนขึ้นมาจากน้ำมาหาพ่อจริงๆ อาจารย์ยายเลยบอกว่า เหตุที่พ่อต้องมาอาศัยอยู่ติดกับน้ำโขงก็เพราะ...
    นี่เป้นเพียงแค่ครั้งที่4ที่มาสัมผัสกับอาจารย์ยายเมื่อก่อนอ่านหนังสือและอ่านในเฟสก็ยังแคลงในใจแต่วันนี้สิ่งที่เคยสงสัยได้ประสบกับตนเองแล้ว ดังเรื่องที่เล่ามาแต่ยังไม่มีข้อสรุปว่ายังมีเรื่องอะไรสืบต่อจากข้อมูลที่พ่อมาแล้ว เรื่องราวตอนต่อไปคำตอบอยู่ที่อาจารย์ยายว่าทำไมคนที่เข้ามาในความฝันของพ่อเขาต้องการอะไร ? เขาเป็นใคร?
    แล้วทำไมอาจารย์ยายจึงรู้เรื่องความฝันของพ่อที่ผู้หญิงขึ้นจากน้ำมาหา ทั้งที่เวลาผ่านไปยาวนานมาก ว่างจากงานเมื่อไรต้องไปนั่งจับมือ
    อาจารย์ยายถามหาความจริงเรื่องทั้งหมด ได้เรื่่องอย่างไรจะนำมาเล่าให้เพื่อนชาวเฟสอ่านกันต่อไป...^_____^

    จากเพจHappy Okayได้โพสต์ไปยังวารุณี สวัสดิภักดิ์
     
  6. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    ลักษมี จันทรตรา ...ขอถามคุณวารุนีหน่อยค่ะคนเราสามารถมีอะไรทางจิตได้หรือค่ะช่วยตอบหน่อยค่ะ
    คำตอบเหล่านี้อาจารย์ไม่ตอบคำถามทางเฟสแล้วแต่เปิ้ลเอาคำถามเหล่านี้ไปถามอาจารย์ท่านตอบมาเปิ้ลมา เลยจำมาเล่าให้ฟัง อาจจะไม่ละเอียดละออลึกซึ้งเท่าที่อาจารย์พูดก็ขออภัยด้วย
    ....เปิ้ลอ่านแล้วไปถามท่านว่าคนเราทำอะไรทางจิตได้หรือ
    ....ท่านตอบว่าแค่กสิณสิบก็แสดงฤทธิ์เช่นทำให้ไฟลุก ทั้งน้ำ ทั้งลม พระอริยะบางท่านเหาะเหินเดินอากาศยังทำได้ ด้วยอำนาจจิตดวงเดียว ในความเป็นจริง จิตของคนเรานั้นไม่มีรูปร่าง มีแต่สังขารที่เรียกว่ารูป สีสรรก็ไม่มี สิ่งที่ทำให้มีคืออุปทานปรุงแต่งให้มีให้เป็น จิตทำอะไรก็ได้ถ้าฝึกจิตได้ดีแล้ว สามารถทำสิ่งยิ่งใหญ่ที่สุด ในสามโลกได้คือ ตัดอาสวะตัดภพชาติเกิดได้จึงไปนิพพานได้ และนิพพานก็ไม่สามารถไปด้วยวิธีอื่นได้ จะไปได้ก็ที่จิตดวงเดียว ส่วนทางโลกบางเรื่องแค่คิดอะไรกิเลสก็ปรุงจิตแล้ว ไม่ว่าดีหรือชั่วถ้าเรามีสติ ทันเราก็หยุดมันทันก่อนคำพูดที่เกิดที่จิต จะหลุดออกจากปากก็จะจบแค่ที่จิตไม่ผ่านปากออกมา คำพูดก็ไม่มีขึ้นมา แต่ถ้าหยุดไม่ได้มันผ่านออกปากแล้วมันก็จะไปจนกว่าจะหมดเรื่อง หรือเหนื่อยมันจึงจะหยุดเอง ต่อจากนั้นก็จะส่งเรื่องต่อไปให้สังขาร สังขารจะลงมือทำต่อไป ดีหรือชั่ว ทุกอย่างก็เกิดจากจิตก่อนทั้งนั้น และทุกอย่างเริ่มจากกิเลสปรุงจิตที่วางเปล่า สัญญาอุปทานก่อตัวเรื่องราวจึงเกิดจากจิตดวงเดียวเช่นกัน แล้วคุณละว่าจิตสามารถทำและมีอะไรทางจิตได้ไหม แม้ในขณะหลับจิตที่ฝึกจนรู้ตื่นตลอดเวลา แม้ยามหลับ จิตก็ยังตื่นไม่ได้หลับไปตามสังขาร เมื่อจิตยังฝึกตื่นตลอดเวลาไม่ได้มันก็ไปด้วยกันกับความฝันแบบตามเรื่องตามราวที่เกิดกับจิตในขณะที่ฝันไป มีทั้งรัก ทั้งบู๊ ล้างผลาญครบทุกรส แต่ถ้าจิตฝึกตื่นแล้วจิตจะแยกออกจากสังขาร เวลามันจะฝันก็เป็นเรื่องของสังขาร เป็นไปแบบไม่มีสติตามเรื่องตามราวของมัน ส่วนสติที่ฝึกตื่นอยูตลอดก็จะเป็นเป็นฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ และเฝ้าดูความฝันของสังขารที่กำลังทำอะไรแบบโง่ๆและตลกๆ เมื่อใดที่ผู้ฝึกจิตจนตื่นอยู่ตลอดก็จะเข้าใจคำตอบได้ไม่ยาก แต่ผู้ที่ยังก็ยังมีคำถามว่า ทำไมๆๆ ไม่ใช่ๆๆ ไม่จริงๆๆ ผู้ตอบนิ่งเสียตำลึงทอง คำถามสองคำแต่ความหมายเชิงอธิบาย มันไม่ง่าย อาจารย์ทำให้ง่ายได้แค่นี้เข้าใจหรือเปล่าไม่รู้ แต่เชื่อเรื่องปัญญาของแต่ละคนไม่เท่ากันแล้วเชื่อว่ามีผู้ใฝ่ธรรมอีกมากที่เข้าใจคำตอบนี้ คำถามนี้เมื่อเปิ้ลนำมาถามเพราะเขาเองก็อยากรู้ ทั้งๆที่หยุดตอบทางเฟสแล้วก็ยังมีคำถามมา จะไม่ตอบก็เป็นเรื่องของธรรมด้วยจึงต้องตอบเปิ้ลกับเจ้าของคำถาม แล้วสั่งไว้ว่า อย่ารับคำถามผ่านเฟสมาถามอีกมันจบแล้ว เราพอแล้ว
    อธิบายสติฝึกแล้วตื่นตลอด สังขารที่ไม่มีสติเวลาหลับความฝันก็จะไปกับสังขารความฝัน ส่วนสติที่ถูกฝึกให้รู้ตื่นตลอดก็จะเฝ้าดูสังขารความฝัน แล้ววิพากษ์วิจารณ์ความฝันที่ไม่มีสติคือ สมมุติว่าสังขารในความฝันๆ ตัวเจ้าของความฝัน กำลังเดินไปที่ต้นไม้ ตัวสติที่รู้ตื่นก็มองเห็นสังขารเดินไปที่ต้นไม้ก็จะสงสัยว่าเดินไปทำไม พอเดินไปถึงต้นไม้ ตัวสังขารที่ไม่มีสติมันจึงคิดไม่เป็นมันก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ ตัวสติที่ตื่นก็สงสัยว่ามันปีนต้นไม้ทำไม พอปีนถึงกิ่งก็คลานไปหาปลายกิ่งแบบไม่ได้มีสติคิดว่าปลายยอดไม้กิ่งมันอ่อนแล้วจะหักทำให้ตกลงไปตายได้ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะสังขารที่ไม่มีสติระลึกรู้เหมือนปกติยามตื่น ส่วนสติที่ฝึกให้รู้ตื่นแม้ยามหลับ ก็จะนึกคิดพิจารณาเมื่อมองเห็นสังขารไม่มีสติยามฝันไปว่าขึ้นต้นไม้ว่า ปีนไปทำไมที่ปลายยอดเดี๋ยวตกลงมาตายหรอก นี่แหละที่เขาเรียกว่ากายหลับ แต่สติกับจิตไม่หลับที่เขาเรียกทางธรรมว่าสติตื่นจิตตื่น หรือหลับในตื่น เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เคยอ่านเจอ เรื่องหนึ่งมานานจนจำไม่ได้แล้วว่าใช่หลวงปูแหวนหรือเปล่า มีคนถามท่านว่า หลวงปู่ครับพระอรหันต์ยังฝันอยู่อีกไหมครับ หลวงปู่ตอบว่า สังขารมันก็ฝันไปตามเรื่องตามราวของมัน ก็สงสัยว่ามันเป็นยังไงนะ เมื่อฝึกสติรู้ตื่นตลอดเวลาได้จึงเข้าใจคำตอบของหลวงปู่ว่า อ๋อมันเป็นอย่างนี้นี้เอง...แล้วคุณละตื่นในขณะสังขารหลับกันบ้างแล้วหรือยัง.

    จากเพจ http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak
     
  7. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    แอบเก็บมาเล่า(ตอนต่างประเทศ)
    แปลกแต่จริง เมื่อก่อน อาจารย์จะบอกกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า ภวันตุเตในวันข้างหน้า จะมีแต่คนต่างชาติและคนที่แต่งงานกับคนต่างชาติจะเข้ามาสนทนาธรรม มากมาย เราก็ได้แต่สงสัยจริงหรือ ณ ตอนนี้มีคนที่อยู่ต่างประเทศ เริ่มทยอยเข้ามาเรื่อยๆ เมื่อมาแล้วก็เกิดความประทับใจ บอกกล่าวเพื่อนๆต่อๆกันไป ตอนนี้ก็มีมากมายหลายประเทศที่อยากเข้ามา ทางเราก็ยินดีต้อนรับอีกไม่กี่วันนี้ก็จะเข้ามาอีกกลุ่ม สงสัยเรื่องนี้คงจะเป็นอีกเรื่องที่คงจะเป็นความจริง แล้วจะมีผู้ที่จะนำเรื่องราวที่เข้ามาสัมผัสกับอาจารย์แล้วนำไปเขียนเรื่องราวต่างๆโดยได้ขออนุญาติอาจารย์แล้ว เรื่องที่เขาจะเขียน เขาตั้งชื่อว่า ความมหัศจรรย์ของจิต พวกเราจะได้อ่านกันหรือเปล่าต้องคอยดู เปิ้ลเก็บมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกัน
     
  8. ดวงเดือนโอ

    ดวงเดือนโอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +846
    เพิ่งจะได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ขอสนับสนุนข้อความที่คุณPiyaa ที่ได้กล่าวถึงพญาครุฑ เพราะน้องสาวเพิ่งจะได้เห็นพญาครุฑในบ้านด้วยตาเนื้อเมื่อเดือนก่อน ลักษณะของท่านมีจงอยปากสีแดง เปลือยอกด้านบน เป็นครึ่งคนครึ่งนก ช่วงบนกำยำแบบนักกล้ามมีปีก ครึ่งล่างเป็นนก ไม่มีเครื่องทรง ครุฑท่านอยู่ป่าหิมพาน ท่านเป็นทิพย์ปรากฏตัวที่ใดก็ได้ เช่นเดียวกับพญานาค มีคนที่รู้จักอีกหลายคนเคยเห็นครุฑและพญานาคเหมือนกันค่ะ ซึ่งดิฉันได้พบเห็นพญานาคสีเขียวขนาดรอบตัวสองคนโอบมาแล้วภายในบ้าน ซึ่งเห็นด้วยตาเนื้อในเวลาราว 21.00 น. ที่บ้านนับถือทั้งครุฑและบูชาพญานาคหลายองค์ค่ะ แต่เรื่องนี้ผู้ที่สัมผัสได้เท่านั้นที่จะรู้ว่าเป็นความจริง สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่นะคะ ในโลกนี้มีอีกหลายสิ่งที่ไม่สามารถจะอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ค่ะ
     
  9. naithammada

    naithammada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +283
    ตามเข้ามาอ่าน เรื่องน่าสนใจมากครับ
     
  10. Russel

    Russel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +372
    ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอตำนานรักข้ามภพได้ที่นี่ดีใจมากครับเป็นหนังสือที่ผมเคยอ่านมานานแล้วครับเรื่องราวสนุกและซึ้งมากครับแต่เสียดายที่หนังสือของผมถูกน้ำท่วมเสียหายไปยังคิดเลยว่าจะหาได้ที่ไหนอีกเพราะมันนานแล้วคงไม่มีในร้านหนังสืออีกแล้ว ดีใจจริงๆครับจะได้ซื้อเล่มใหม่
     
  11. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    ตำนานรักข้ามภพ ติดต่อสั่งจองได้ที่สำนักพิมพ์ช่อแก้ว ติดต่อ0863247404คุณเสาวนีย์ สวัสดิภักดิ์ ทราบว่าตอนนี้ยอดจองเข้ามามากครับ รายได้ทุกบาทเข้าเป็นค่าใช้จ่ายในสถานปฏิบัติธรรมภวันตุเตทั้งหมดครับ อนุโมทนาด้วยครับ
     
  12. ดวงเดือนโอ

    ดวงเดือนโอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +846
    ได้สั่งซื้อหนังสือมิติซ้อนมิติเล่ม1และ2 รวมถึงตำนานรักข้ามภพที่มีCD เพลงรักข้ามภพแนบมาด้วย หนังสือทั้งหมดอ่านแล้วเพลิดเพลินมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรักข้ามภพ และเพลงรักข้ามภพที่พญานาคเป็นผู้แต่งนั้นไพเราะมากจริงๆ อยากให้ทุกคนได้อ่านหนังสือทั้ง3เล่มนี้ค่ะ
     
  13. Russel

    Russel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +372
    ควรโทรไปช่วงไหนครับคุณPiyaaครับ
     
  14. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    เช้า6โมงถึงประมาณ2ทุ่มครับ
     
  15. Russel

    Russel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +372
    ขอบคุณมากครับ
     
  16. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    ชี้แจงบทประพันธ์ตำนานรักข้ามภพ
    เปิ้ลเห็นคนถามเรื่องเกี่ยวกับเรื่องบทประพันธ์รักข้ามภพเข้ามากันมาก อาจารย์ท่านบอกว่าปล่อยวาง เพราะว่าเจ้าของเค้าโครงเรื่องท่านได้สาปแช่งไว้ว่า ผู้ใดได้นำเอาเรื่องราวสื่อสารทางจิตไปดัดแปลง จะเกิดความวิบัติหายนะเพราะไม่ได้รับอนุญาติ จากผู้สื่อสารนวนิยายเรื่องนี้ ท่านจึงปล่อยวางไม่ติดยึด แต่ถ้าโจ่งแจ้งจะเป็นการละเมิดลิขสิทธื์ ก็เป็นเรื่องของกฎหมาย เรื่องนี้มีผู้สนใจโทรเข้ามาถามกันมาก จึงอยากฟังความเห็นของอาจารย์ ซึ่งท่านก็บอกแบบที่เล่าให้เพื่อนๆทางเฟสฟัง อาจารย์ท่านขอบคุณทุกท่านที่ปราถนาดีและเป็นห่วง ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง (เปิ้ลผู้แจ้งข่าว)

    จากเพจhttp://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak
     
  17. อสุนีบาต

    อสุนีบาต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +237
    ซับซ้อน
    แต่น่าสนใจดีค่ะ น้อยคนนักจะได้รู้ ได้เห็น ได้เข้าใจ
    คนร้อยคน เข้าใจไปร้อยอย่าง
    อยากอ่านมากเลยค่ะ
    แต่ไม่รู้ตอนนี้จะมีขายอยู่อีกไหม
    ผู้แต่ง ใช้นามปากกาว่าอะไรคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2013
  18. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    ตำนานรักข้ามภพ มิติซ้อนมิติ ที่งานกาชาด เจอกันได้ที่งานนะคราฟฟฟ ในครั้งนี้ ทุกๆท่านจะได้เจอลูกหลานภวันตุเต เรารอคุณอยู่ อย่าลืมแวะนะครับ โดยในครั้งนี้อาจารย์เสาวนีย์มาให้คำปรึกษาทางโลกให้ทุกๆท่านครับ(แฮปปี้) ถ้าหากหาไม่เจอหรือสอบถามรายละเอียดต่างๆ สอบถามพี่เปิ้ลได้ครับ เบอร์นี้เลย 089-6614774

    จากเพจ https://www.facebook.com/varunee.sa...=0&total_comments=15&notif_t=mentions_comment
     
  19. Twana

    Twana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +725
    satu satu satu
     
  20. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    ขอเชิญเพื่อนๆพี่น้องชาวเฟสมาร่วมแจกทานวันอาทิตย์ที่ 19พค56 ภวันตุเตยินดีต้อนรับค่ะ (เปิ้ล)
    จากเพจhttp://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak
     

แชร์หน้านี้

Loading...