เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ผมได้แต่นั่งหน้าคอมทำตาปริบๆ ครับ 555+ ทำได้แค่ให้กำลังใจทุกท่านครับ สู้ๆ ครับทุกท่าน

ประโยคยอดฮิตครับ อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ! อย่าทิ้งขยะ ตาวิเศษเห็นนะ​

 

<center>เรื่องบาตรปุ่มไม้จันทน์ </center> [๒๙] สมัยต่อมา ปุ่มไม้แก่นจันทน์มีราคามาก ได้บังเกิดแก่เศรษฐี ชาวเมืองราชคฤห์ จึงราชคหเศรษฐีได้คิดว่า ถ้ากระไรเราจะให้กลึงบาตรด้วยปุ่มไม้ แก่นจันทน์นี้ ส่วนที่กลึงเหลือเราจักเก็บไว้ใช้ และเราจักให้บาตรเป็นทาน หลัง จากนั้น ท่านราชคหเศรษฐีให้กลึงบาตรด้วยปุ่มไม้แก่นจันทน์นั้น แล้วใส่สาแหรก แขวนไว้ที่ปลายไม้ไผ่ผูกต่อๆ กันขึ้นไป แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า สมณะหรือพราหมณ์ ผู้ใด เป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ จงปลดบาตรที่เราให้แล้วไปเถิด ฯ [๓๐] ขณะนั้น ปูรณะกัสสปเข้าไปหาท่านราชคหเศรษฐีแล้ว กล่าวว่า ท่านคหบดี อาตมานี้แหละเป็นพระอรหันต์และมีฤทธิ์ ขอท่านจงให้บาตรแก่ อาตมาเถิด ท่านเศรษฐีตอบว่า ท่านเจ้าข้า ถ้าพระคุณเจ้าเป็นพระอรหันต์และ มีฤทธิ์ ก็จงปลดบาตรที่ข้าพเจ้าให้แล้วนั่นแลไปเถิด ต่อมา ท่านมักขลิโคสาล ท่านอชิตเกสกัมพล ท่านปกุธกัจจายนะ ท่านสัญชัยเวลัฏฐบุตร ท่านนิครนถ์นาฏบุตร ได้เข้าไปหาท่านราชคหเศรษฐี แล้วกล่าวว่า ท่านคหบดี อาตมานี้แหละเป็นพระอรหันต์ และมีฤทธิ์ ขอท่าน จงให้บาตรแก่อาตมาเถิด ท่านเศรษฐีตอบว่า ท่านเจ้าข้า ถ้าพระคุณเจ้าเป็นพระ อรหันต์และมีฤทธิ์ ก็จงปลดบาตรที่ข้าพเจ้าให้แล้วนั่นแลไปเถิด ฯ



โต๊ะ เก้าอี้จากปุ่มไม้มะค่า ชุดละหมื่น-ไม่แพง ถ้าเป็นแสนขอคิดก่อนจ้ะ

ตัวนี้ 39,900 ปุ่มสวยมาก

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>ขอบคุณเจ้าของข้อมูลครับ
</td> </tr> <tr> <td valign="top"><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="630"> <tbody><tr> <td width="14"></td> <td background="img/box/box_trip_04.jpg" width="594"></td> <td width="16"></td> </tr> <tr> <td background="img/box/box_trip_10.jpg"></td> <td valign="top"><table border="0" cellpadding="5" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="top"><table class="Font14Black" align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="98%"> <tbody><tr> <td width="640"> การเลือกใช้ไม้ชนิดต่างๆให้เหมาะกับประโยชน์การงาน 1 </td> </tr> <tr> <td class="RollOver">ชนิดของไม้</td> </tr> <tr> <td>

1. ไม้เนื้ออ่อน ได้แก่ ไม้ที่มีเนื้อค่อนข้างเหนียว ทำการเลื่อย ไสกบ ตกแต่งได้ง่าย ลักษณะเนื้อมีสีซีดจาง น้ำหนักเบา ขาดความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้ไม่ดี เช่น ไม้ฉำฉา ไม้กะบาก ไม้ยาง ฯลฯ
2. ไม้เนื้อแข็ง ได้แก่ ไม้ที่มีเนื้อแข็งปานกลาง ทำการเลื่อย ไสกบ ตกแต่งได้ยาก ลักษณะเนื้อไม้มีสีเข้มค่อน ไปทางสีแดง มีความแข็งแรงทนทาน เช่น ไม้ตะเคียน ไม้ชิงชัน ไม้เต็ง ไม้มะม่วง ฯลฯ
3. ไม้เนื้อแกร่ง ได้แก่ ไม้ที่มีเนื้อแกร่ง ทำการเลื่อย ไสกบ ตกแต่งได้ยากมาก ลักษณะเนื้อไม้เป็นมันในตัว แน่น ลายละเอียด น้ำหนักมาก มีสีเข้มจัดจนถึงสีดำ มีความแข็งแรงทนทานดีมาก เช่น ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เกลือ ฯลฯ

</td> </tr> <tr> <td>การเลือกไม้ที่จะนำมาใช้งานต้องพิจารณาใน 2 ประเด็นคือ </td> </tr> <tr> <td>

1. การเลือกมาใช้ในงานรับน้ำหนักโดยตรง ได้แก่ ไม้ที่ใช้ในการก่อสร้างที่ไม่ต้องการความประณีตมากนัก เช่น การก่อสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ไม จำพวกนี้ต้องทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับน้ำหนักและต้านทานแรงต่าง ๆ มากกว่าความสวยงาม ความแข็งแรง จึงเป็นข้อแรกที่จะต้องคัดเอาไม้ที่แข็งแรงเท่าที่จะสามารถทำได้ คือ ต้องเป็นไม้ที่เนื้อแน่น แข็งแกร่ง เหนี่ยว ไม่เปราะง่าย ควรเลือกไม้แก่นหรือไม้ที่มีอายุเหมาะแก่การตัด ไม่มีรอยชำรุดเสียหาย เช่น เป็นตา ผุ แตกร้าว ปิดงอ คด โค้ง และเป็นไม้ที่ผ่านการผึ่งมาได้ที่พอเหมาะแก่งานประเภทนี้
2. การเลือกไม้มาใช้ในงานประณีต ไม้ที่เลือกมาใช้งานประเภทนี้ เป็นไม้ที่ไม่ต้องรับน้ำหนักหรือต้านแรงมากเหมือนไม้ที่ใช้งานประเภทแรก แต่งานประเภทนี้จะนำไม้ไปประกอบเป็นรูปร่างต่างๆ เช่น บาน ประตู หน้าต่าง เครื่องเรือน ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ หรือครุภัณฑ์ต่างๆ ที่จะทำอย่างประณีตเรียบร้อยและต้องการความสวยงามมากกว่าความแข็งแรง เป็นงานที่ทำได้ยากและต้องใช้ฝีมือ

</td> </tr> <tr> <td class="RollOver">หลักการเลือกไม้มาใช้งานประเภทนี้</td> </tr> <tr> <td>

1. ไม้นั้นจะต้องได้ จากแก่นไม้ที่สมบูรณ์ คือ จากต้นไม้ที่เจริญเติบโตเติมที่เหมาะสมตามสภาพดินฟ้าอากาศของถิ่นนั้นๆเป็น ไม้ที่ตายยืนต้น (ตายเองโดยไม่ได้กานให้ตาย)
2. เป็นไม้ที่หดตัวแล้ว คือเป็นไม้ที่ผึ่งแห้งอยู่ตัวดีแล้ว เมื่อนำมาประกอบสำเร็จรูปจะไม่เกิดอ้าออกจากกันหรือบิดโค้งเสียความงาม
3. ไม้เนื้อละเอียดเหนียวแน่น มีแนวตรง ไสกบตกแต่งได้ง่ายเรียบร้อยขัดมันและชักเงาได้ดี
4. มีสีสม่ำเสมอกันทุกแผ่น และทุกๆแผ่นมีสีเหมือนกันด้วย
5. มีลายสวยงามคล้ายๆกัน เพื่อเพลาะไม้เป็นแผ่นเดียวกันได้
6. เป็นไม้ที่มีตาน้อย ตาไม้ไม่เสีย ไม่มีรอยแตกร้าว เป็นแผล เป็นรอยทะลุ
7. ไม้ที่เป็นรอยผุ ด่างหรือเน่าเปื่อย (ไม้ที่ยังไม่ได้ไสสังเกตยาก) ทดลองโดยใช้ค้อนเคาะไม้ดีจะมีเสียงแน่นแกร่ง ถ้าไม่ผุหรือเสีย เปราะ ไม่เหนียว มีเสียงดังผลุๆ เลื่อยไม่ติดคลองเลื่อย ไสกบขี้กบจะป่น
8. ราคาไม่แพงจนเกินไป

</td> </tr> <tr> <td>ไม้อัด
ไม้อัด ไม้ที่ผลิตขึ้นโดยกรรมวิธีทางอุตสาหกรรมด้วยการนำไม้ เช่น ไม้สัก ไม้ยางที่ไม่มีตำหนิมากนักไปต้มด้วยไอน้ำให้สารเคมีในเนื้อไม้ออกเสียก่อน และทำให้ไม้อ่อนตัวลงแล้วนำเข้าเครื่องปอก ปอกออกมาเป็นแผ่นบางๆและนำไปอัดด้วยกาวโดยวางเสี้ยนไม้ขวางสลับกันเป็นชั้นๆ อาจเป็น 3,5,7 ชั้นตามความหนาของไม้อัดโดยทั่วไปมีความหนาตั้งแต่ 4-20 มม. ขนาด 3 ฟุต ? 6 ฟุต และ 4 ฟุต ? 8 ฟุต



การเลือกไม้อัด
1. สีของไม้อัดต้องสม่ำเสมอตลอดแผ่น
2. เหมาะสมกับงานที่จะใช้
3. มีความเรียบแต่ไม่ลื่นทาสีได้ทุกชนิด
4. มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก
</td> </tr> <tr> <td>

ครั้งหน้าเราค่อยมาว่ากันต่อกับไม้อีก 2 ประเภทที่เหลือนะค่ะ​

</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> <td background="img/box/box_trip_12.jpg"></td> </tr> <tr> <td></td> <td background="img/box/box_trip_16.jpg"></td> <td></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top">
</td></tr></tbody></table>

 

ไม้ท่อนนี้ทางเชียงใหม่เขาเรียกว่าไม้เก็ด หรือชิงชัน ส่วนมากจะใช้ทำเขียงลาบมีเยอะมาก...ผมก็ได้มาจากแม่ค้าร้านขายเขียงลาบนะ แหละ ผมถามเขาว่าตัวนี้เป็นไม้พะยูงใช่ไหม แม่ค้าก็ตอบเลี่ยง ๆ ไม่ได้คลุกปูนมานะครับ แล้วคนขายเขาก็เอาผ้าชุบน้ำมันพืชเช็ด มันก็วับวาวนะครับ ได้มา 2 ท่อน ยังหาวิธีผ่าอยู่....แล้วจะรายงานให้ทราบ..ขอบคุณครับ.
ขอบคุณ คุณ วีเชนเจ้าของข้อมูล---
--มะขามอายุ 50 ปีขึ้นไป จะเกิดแก่นไม้ มีความแข็งมาก สีเข้มๆ ถือว่าเป็นวัตถุมงคล ให้คนเกิดเกรงขามครับ โทษครับ ในล้านต้น จะเกิดสักหนึ่งต้น ยิ่งโดนฟ้าผ่าตาย เรียกว่า"ตายพราย"ยิ่งขลังครับ กลายเป็นหินเรียกคดมะขาม ของดีสุดๆ
ไม้ตะพดไม้ไผ่จระเข้ขบฟัน
http://www.pantown.com/board.php?id=27546&area=4&name=board1&topic=999&action=view
ต้นมะขามที่กลวงข้างใน ไม้จะแข็ง เรียกว่า ไม้มะขามโปร่งฟ้า

 

คุณเจษครับ
ว่านขันหมากปลูกลงกระถางครับ แต่ไช้กระถางใหญ่ซักหน่อยเพราะขนาดค่อนข้างใหญ่และสูงต้นลักษณะอวบน้ำ ถ้าสูงมากต้องหาไม้พยุงลำต้นใว้ ว่านขันหมาก(เฉยๆ)จะสูงกว่าว่านขันหมากเศรษฐีครับ

 

จะว่าไปมันก็แปลกจริงๆแหละค่ะ..
คอร์สนี้เราไปเห็นเข้าโดยบังเอิญ เมื่อวันเสาร์และตัดสินใจสมัครเรียนโดยทันที
มันมีความรู้สึกลึกๆว่า "ใช่" ต้องอันนี้แหละ และที่ยิ่งแปลกไปกว่านั้นคือ
คอร์สที่ว่าเนี่ย มันเหมือนไปปฏิบัติธรรมซะมากกว่าไปเรียนด้วยซ้ำ!

อย่างแรกที่เรารู้สึกเลยคือเขาไม่ให้พกสัมภาระติดตัวไป มันเป็นภาระ
เหมือนการปฏิบัติธรรมเลย ถ้ายึดติดในทรัพย์หรือของใดๆที่ถือครองเอาได้
ก็จะมัวแต่ห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่เอาใจใส่กับ"ปัจจุบันขณะ"เท่าที่ควร

ในการเรียนการสอน ท่านวิทยากรแจ้งแต่แรกแล้วว่า ไม่มีถูกไม่มีผิด
มันมีแต่ "มุมมองที่ต่างกัน" "ความคาดหวังสูง" "จิตใจที่ตำหนิติเตียนผู้อื่น"
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่ามัน "จริง" หรือ "ไม่จริง" มันเป็นแค่สิ่งที่เราเชื่อเท่านั้น

ในระหว่างกิจกรรมต่างๆที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลย และด้วยความที่ไม่มีผิดรึถูก
ทุกคนก็จะพยายามช่วยๆกัน ให้เรียนไปพร้อมๆกันหมด ทุกๆคนต่างให้กำลังใจกัน
ให้เกียรติกัน เหมือนเป็นสังคมแห่งสันติสุข เหมือนเป็นช่วงเวลาที่ได้พักจากการ
แก่งแย่งกันในชีวิตประจำวันทั่วๆไปจริงๆ ได้เห็นจิตที่เต็มไปด้วยความสวยงาม
เห็นจิตที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ในตอนนั้นอายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ ทุกๆคน
เป็นเพื่อนมนุษย์เหมือนๆกันเท่าๆกันทั้งหมด เป็นความอิ่มใจที่เราได้รับมาในวันนี้
แม้ว่าพอกลับมาถึงบ้านแทบจะสลบก็ตาม เป็นความรู้สึกเต็มตื้นที่อยากมาแชร์ให้ฟังค่ะ ^^

 

และก็นี่!!แต่น!!แต้น!!แต๊น ภูมิใจนำเสนอ
"ว่านต้องห้าม"
ว่านดอกทอง
ไม่ขออธิบายนะครับ ชื่อก็บอก

 

รู้แล้วครับ เรื่องว่านดอกทอง--- ตอนออกดอก กลิ่นของมันทำให้เกิดกามราคะ กำหนัดกล้า จะเสื่อมเสียมากถ้าบ้านนั้นมีลูกผู้หญิง... เช่นไป..มีสัมพันธ์.กับชายไม่เลือกหน้า...เคยอ่านมานะ สำหรับหัวว่านน่าจะเป็นมหาสเน่ห์ของผู้ชายครับ
--พอดีคนรุ่นใหม่ก็เยอะ เชิญ อจ.จิตปีศาจอธิบายต่อครับ
--------------------------------------------
คุณอิสรีลเคยเข้าคอร์สคุณแม่สิริหรือยัง ที่เชิงสะพานใหม่ดอนเมืองมีซอยอยู่ เข้าไปกลางซอย จะเจอบ้านขวางอยู่ นั่นแหละที่วิปัสสนา เขาก็ให้ตัดภาระแบบนี้ เสื้อผ้ามีคนซักให้ เพราะคนซักเขาจะได้บุญด้วยครับ

 

เอ่อ...คุณจิตปีศาจ คะ ว่านเนี้ยมันชื่อนี้จริงๆเหรอ !!
มีสรรพคุณดีเด่นยังไงอ่ะ เค้าถึงเอามาปลูก แหะๆ อยากรู้อะค่า

อ่อ คูณ chandayot มาไขข้อข้องใจพอดี มันน่ากลัวไปมั้ยอ่า ><

 

ต้นลั่นทม (ลั่นโทม)หรือ ลีลาวดีจริงๆแล้วคนเข้าใจผิดนะครับ อาจจะเป็นเพราะว่าชื่อพ้องเสียง ลั่นทม คล้ายกับ ระทม คนก็เลยไม่กล้าปลูกกันเพราะกลัวระทม จริงแล้ว ลั่นทมชื่อจริงๆคือ ลั่นโทม
ลั่น = เคาะ,ตี,ทำไห้เกิดเสียง,ทำไห้ดัง
โทม = เครื่องดนตรี (น่าจะเป็นกลอง)
ลั่นโทมความหมายจริงๆคือ การป่าวร้องแสดงความยินดี หรือ มีชื่อเสียงระบือ อะไรประมาณนั้น
ที่บ้านผมก็มีปลูกต้นไม้ต้องห้ามอยู่หลายอย่าง โพธิ์ , ไทร ผมก็ปลูก ทำไม้แคระ
คุณเจษ ไผ่ยักษ์ ปลูกภาคกลางได้ใหม น่าสนใจครับ ตอนนี้ผมปลูกไผ่ตงลืมแล้งไว้ 100 กว่าต้น เห็นไผ่ยักษ์แล้ว อะโห!!!

 

โอ้..ยังเลยค่ะ ยังไม่เคยไปลองวิปัสนาแบบที่ต้องค้างนอกสถานที่เลย
ส่วนมากก็จะแบบเช้าไปเย็นกลับค่ะ เราไม่ชอบนอนผิดที่อะค่ะ
เจออะไรแปลกๆเรื่อยเลย ^^"

 

การสร้างกระบี่แสง

คริสตัลคือหัวใจของดาบ หัวใจของคริสตัลคือเจได เจไดคือคริสตัลของพลัง พลังคือดาบของหัวใจ ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกัน คริสตัล ดาบ เจได เจ้าคือหนึ่งเดียว

— ลูมินาร่า อันดูลิ
​

พิธีการสร้างกระบี่แสงของตนเองนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกเจไดและเกี่ยวข้องกับทักษะทางด้านเทคโนโลยีและการเข้าถึงพลัง ในสมัยสธารณรัฐเก่าถ้ำน้ำแข็งบนดาวอิลัมถูกใช้เป็นสถานที่ที่พาดาวันจะทำการสร้างกระบี่แสงเล่มแรกของตนขึ้นมา ทั้งที่นี่และที่ที่คล้ายกันเจไดจะเลือกคริสตัลที่ดีที่สุดด้วยการนั่งสมาธิและการมีส่วนร่วมของพลัง และจากนั้นก็เริ่มการประกอบกระบี่แสงของตน
ตามธรรมเนียมแล้วการสร้างกระบี่แสงจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน[1] สิ่งนี้ยังรวมทั้งการประกอบชิ้นส่วนด้วยมือและพลัง และการนั่งสมาธิเพื่อหาคริสตัล เจไดมักใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการรวมมันเข้าด้วยกัน ทำให้แน่ใจว่าทุกชิ้นส่วนทำงานได้สมบูรณ์ และยังรวมทั้งการเลือกความยาว สี ความถี่ของดาบ ถึงกระนั้นในช่วงที่สงครามโคลนดุเดือดมีการรายงานว่ามีคนที่สามารถสร้างกระบี่แสงได้ภายในสองวันเท่านั้น
ด้ามกระบี่แสงประกอบด้วยกระบอกอัลลอยที่โดยทั่วไปจะยาว 25-30 เซนติเมตร อย่างไรก็ดีการออกแบบและเส้นผ่าศูนย์กลางของด้ามดาบจะแตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ที่สร้างมันขึ้นมา ด้ามดาบจะบรรจุชิ้นส่วนที่ซับซ้อนซึ่งสร้างและทำให้เกิดใบมีดที่แตกต่างกันไป พลังงานระดับสูงจะถูกปล่อยออกมาผ่านทางขั้วบวกที่เป็นเลนส์เน้นแสงและตัวสร้างพลังงาน มันจะแสดงลำแสงพลังงานที่ขยายออกมาจากฐานไปตามความยาว จากนั้นจะเคลื่อนที่โค้งกลับไปที่ขั้วลบ ตัวนำไฟฟ้าจะทำให้ห่วงพลังสมบูรณ์ด้วยการป้อนพลังงานกลับไปที่เซลล์พลังงานภายใน ที่ที่ซึ่งห่วงพลังงานจะเริ่มก่อตัวให่อีกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นพาดาวันหรืออาจารย์เจได การสร้างกระบี่แสงนั้นเริ่มด้วยการหาชิ้นส่วนที่เหมาะสมเพื่อการสร้างอาวุธ กระบี่แสงทั้งหมดจะบรรจุชิ้นส่วนหลักๆ ดังนี้
ด้ามจับ
แผ่นกระตุ้น
เซฟสวิตช์
ตัวกำเนิด
เลนส์รวมแสง
เซลล์พลังงาน
ท่อพลัง
เบ้ารีชาร์จ
ที่ยึดกับเข็มขัด
คริสตัล 1-3 อัน

กระบี่แสงมากมายจะมีเซ็นเซอร์อยู่ที่ด้ามจับเพื่อที่ว่าเมื่อปล่อยมือเมื่อใดมันก็จะหยุดทำงานทันที กระบี่แสงอื่นนั้นอาจไม่มีเซ็นเซอร์หรือระบบกลไกใดๆ ก็ตามที่หยุดการทำงานของดาบเมื่อปล่อยมือหรือหลุดมือ
คริสตัลคือสิ่งสำคัญของอาวุธและมันให้ทั้งพลังและสี มันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดและต้องใช้การไตร่ตรองอย่างละเอียดในการเลือกใช้ทำกระบี่แสง
เมื่อมีทุกชิ้นส่วนครบแล้วเจไดจะเริ่มทำการประกอบ เนื่องจากว่าความสลับซับซ้อนของเทคโนโลยี พลังจึงถูกใช้เพื่อทำการประกอบชิ้นส่วนทั้งหลายในระดับโมเลกุล การปรับให้เหมาะสมในระดับไมโครนั้นอาจทำให้ดาบทำงานได้เกือบจะสมบูรณ์ที่สุด
เพราะว่าเจไดแต่ละคนนั้นย่อมไม่เหมือนกันพวกเขาหรือเธอจึงสร้างอาวุธที่ไม่เคยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นสองเล่มก็ตาม พาดาวันบางคนสร้างกระบี่แสงเพื่อแสดงถึงความเคารพต่ออาจารย์ของพวกเขา
ความรู้เกี่ยวกับการสร้างกระบี่แสงหายไปแทบจะสาบสูญหลังจากคำสั่งที่ 66 แต่ลุค สกายวอล์คเกอร์ได้พบบันทึกและวัตถุดิบที่เขาต้องการในการสร้างกระบี่แสงของเขาเองในกระท่อมของโอบีวัน เคโนบีบนทาทูอีน

คริสตัลแบบต่างๆ

สี ชนิด และจำนวนของคริสตัลมีมากมายในกระบี่แสง สีของคริสตัลใช้เป็นสีของใบมีด คริสตัลอดีแกนยังมีอีกชื่อหนึ่งว่าคริสตัลอิลัม มันเป็นคริสตัลอย่างหนึ่งที่นิยมกันมากในกระบี่แสง คริสตัลเหล่านี้สามารถดูดซับพลัง ช่วยให้เจไดกลายเป็นหนึ่งกับกระบี่แสง สัญญาณพลังอ่อนๆ จากคริสตัลชนิดนี้สามารถรับรู้ได้โดยเจไดแม้ว่ามันจะอยู่ห่างออกไป
หลังจากที่มีการค้นพบคริสตัลไคเบอร์บนดาวมิมแบน ลุค สกายวอล์คเกอร์ได้เพิ่มส่วนหนึ่งของมันเข้าไปในกระบี่แสงของเขา เศษของคริสตัลทำให้ใบมีดทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับของเลอา ออร์กานา โซโลและลูมิยา
คริสตัลอื่นๆ อย่างเน็กซ์เตอร์และดาไมนด์ส สามารถพบได้ทั่วกาแลคซี่ และสามารถใช้ในการออกแบบรูปของคมดาบได้อีกด้วย
ด้วยความมีคุณภาพที่ในการสร้างใบมีดที่ทรงพลังที่เพิ่มขึ้นได้อย่างง่ายดาย

คริสตัลสังเคราะห์คือคริสตัลที่สร้างขึ้นเลียนแบบคริสตัลตามธรรมชาติ มักมีสีแดง ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีสีอื่นได้ เนื่องมาจากสีแดงที่เป็นปกติพวกมันจึงมักมีชื่อเล่นว่า"ดาบสีเลือด" แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีข้อเสีย คริสตัลเหล่านี้ไม่สเถียร อายุใช้งานสั้น และยักย้ายได้น้อยกว่าคริสตัลตามธรรมชาติ คริสตัลสังเคราะห์มักใช้โดยผู้อยู่ด้านมืดซึ่งส่วนใหญ่ก็คือซิธ แม้ว่าจะน้อยมากที่คริสตัลสังเคราะห์จะทำให้ดาบแบบธรรมดาขาดได้ แต่ก็มีบ้างที่มันเกิดขึ้น

มุกหรือแท่งโลหะบางชนิดสามารถนำมาใช้แทนคริสตัลได้ แม้ว่ามันจะเป็นศาสตร์โบราณที่ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุทธการรูซาน ในช่วงที่เรแวนเดินทางบนทาริสเขาได้ค้นพบว่ามุกของมังกรไครท์ที่สามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของกระบี่แสงได้และเพิ่มพลังให้อย่างมาก

 

คุณอย่าเรียกผม อจ. นะครับเดี๋ยวขี้กลากขิ้นหัวผม ผมยังละอ่อน
อย่างทีคุณเจษอธิบายล่ะครับ คือ เมื่อออกดอก กลิ่น ของมันมีสารบางอย่างที่จะไปกระตุ้นความต้องการทางเพศสูง อาจจะคล้ายๆกับ ฟีโรโมน ในสัตว์อะไรประมาณนั้น
ว่ากันว่าแค่เด็ดใบใส่น้ำไห้คนกินก็ยังมีสรพคุณได้เหมือนกัน แต่ผมก็ยังไม่เคยทดลอง
นะครับ ในเครื่องรางของขลังที่ผสมว่าน๑o๘หรือทางด้านเมตุตาจะต้องมีว่านตัวนี้ปรุงอยู่ด้วย การจะปลูกว่านนี้โบราณว่าต้องมี พญาว่านปลูกอยู่ด้วย เผื่อเอาไว้แก้เวลาโดนพิษของว่าน แต่ผมว่าจริงๆแล้วข้อมูลทั้งหลายที่ได้ยินมาอาจจะเกินไปบ้างนะผมว่า
แล้วก็ไม่รู้เป็นไง ผมคงไม่มีบุญ ยังไม่เคยออกดอกเลยไห้เห็นเลย

 

พญาว่าน
อันนี้ทดลองใช้มาแล้ว น้าผมทำสวนแล้วไม่รู้ไปโดนพิษอะไรเข้า ไมรู้ว่าพืชหรือสัตว์คันและผื่นขึ้นทั้งตัวเลย ไปหาหมอที่คลีนิค ไห้ยามาทั้งกินทั้งทา ยังไม่หาย ผมเลยไปขุดเหง้าพญาว่านมา ไม่ได้ทำพลีว่านอะไรทั้งนั้นเพราะไม่รู้ทำไม่เป็นด้วย ก็เอาหัวมาทุบๆแล้วทาที่ขา ลองแค่ข้างเดียวก่อนนะเพราะกลัวจะหนักกว่าเก่า น้าบอกเย็นๆผลปรากฎว่าผื่นค่อยๆหายแล้วก็ไม่คันด้วย พญาว่านนี้แนะนำไห้ปลูกติดบ้านไว้ครับ ดอกก็สวย คล้ายดอกกระเจียว(อย่าเสียงสูงนะ ถ้าเสียงสูงนั่นแหละลักษณะของดอกว่านดอกทอง) ในเสภาขุนช้างขุนแผน โคลงที่กล่าวถึงนางพิม ยังเอ่ยถึงพญาว่านเลย ใช้เพื่อการประทินผิวทำไห้ผิวผุดผ่อง

 

ความสุขที่ถูกมองข้าม ( ดอกป๊อปปี้เชอรี่แดง)
ข้อคิดสะกิดใจ
ความสุขที่ถูกมองข้าม

คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่เชื่อ ว่า ยิ่งมีเงินทองมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น ความเชื่อดังกล่าวดูเผิน ๆ ก็น่าจะถูกต้องโดยไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ประเทศไทยน่าจะมีคนป่วยด้วยโรคจิตน้อยลง มิใช่เพิ่มมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่รายได้ของคนไทยสูงขึ้นทุกปี ในทำนองเดียวกันผู้จัดการก็น่าจะมีความสุขมากกว่าพนักงานระดับล่าง ๆ เนื่องจากมีเงินเดือนมากกว่า แต่ความจริงก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป

ไม่นานมานี้มหาเศรษฐีคนหนึ่งของไทยได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิต เขาพูดถึงตัวเองว่า “ชีวิต(ของผม)เริ่มหมดค่าทางธุรกิจ” ลึกลงไปกว่านั้นเขายังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความหมาย เขาเคยพูดว่า “ผมจะมีความหมายอะไร ก็เป็นแค่….มหาเศรษฐีหมื่นล้านคนหนึ่ง” เมื่อเงินหมื่นล้านไม่ทำให้มีความสุข เขาจึงอยู่เฉยไม่ได้ ในที่สุดวิ่งเต้นจนได้เป็นรัฐมนตรี ขณะที่เศรษฐีหมื่นล้านคนอื่น ๆ ยังคงมุ่งหน้าหาเงินต่อไป ด้วยความหวังว่าถ้าเป็นเศรษฐีแสนล้านจะมีความสุขมากกว่านี้ คำถามก็คือ เขาจะมีความสุขเพิ่มขึ้นจริงหรือ ?

คำถามข้างต้นคงมีประโยชน์ไม่มากนักสำหรับคน ทั่วไป เพราะชาตินี้คงไม่มีวาสนาแม้แต่จะเป็นเศรษฐีร้อยล้านด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยก็คงตอบคำถามที่อยู่ในใจของคนจำนวนไม่น้อยได้บ้างว่า ทำไมอัครมหาเศรษฐีทั้งหลาย รวมทั้งบิล เกตส์ จึงไม่หยุดหาเงินเสียที ทั้ง ๆ ที่มีสมบัติมหาศาล ขนาดนั่งกินนอนกินไป ๗ ชาติก็ยังไม่หมด

แต่ ถ้าเราอยากจะค้นพบคำตอบให้มากกว่านี้ ก็น่าจะย้อนถามตัวเองด้วยว่า ทำไมถึงไม่หยุดซื้อแผ่นซีดีเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้วนับหมื่นแผ่น ทำไมถึงไม่หยุดซื้อเสื้อผ้าเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้วเกือบพันตัว ทำไมถึงไม่หยุดซื้อรองเท้าเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู่แล้วนับร้อยคู่ แผ่นซีดีที่มีอยู่มากมายนั้น บางคนฟังทั้งชาติก็ยังไม่หมด ในทำนองเดียวกัน เสื้อผ้า หรือรองเท้า ที่มีอยู่มากมายนั้น บางคนก็เอามาใส่ไม่ครบทุกตัวหรือทุกคู่ด้วยซ้ำ มีหลายตัวหลายคู่ที่ซื้อมาโดยไม่ได้ใช้เลย แต่ทำไมเราถึงยังอยากจะได้อีกไม่หยุดหย่อน

ใช่หรือไม่ว่า สิ่งที่เรามีอยู่แล้วในมือนั้นไม่ทำให้เรามีความสุขได้มากกว่าสิ่งที่ได้มา ใหม่ มีเสื้อผ้าอยู่แล้วนับร้อยก็ไม่ทำให้จิตใจเบ่งบานได้เท่ากับเสื้อ ๑ ตัวที่ได้มาใหม่ มีซีดีอยู่แล้วนับพันก็ไม่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้เท่ากับซีดี ๑ แผ่นที่ได้มาใหม่ ในทำนองเดียวกันมีเงินนับร้อยล้านในธนาคารก็ไม่ทำให้รู้สึกปลาบ ปลื้มใจเท่ากับเมื่อได้มาใหม่อีก ๑ ล้าน

 

ไผ่ปล้องนี้ น่าจะเป็นตลับเก็บของมีค่าครับ
--คุณแลนเซอร์ขอบคุณเรื่องอัศวินและดาบแสงครับ พี่สาวมักนำคริสตัลมา มันมรพลังมากจริงๆครับ เกือบเหาะได้ครับ แรงเกิน(คริสตัลจากแอฟริกา-บราซิล)
--คุณ จิตปีศาจครับ ชักอยากจะสะสมว่านแล้วสิ มองต้นไม้แล้วงกไปหมด อยากปลูกหมดเลยครับ--อ๋อว่าน108 เป็นอย่างนี้เอง มีพญาคุม




พริกไทยสดพันธุ์ซีลอน

 

เป็นทั้งผลไม้และโทรศัพท์ แบล็คเบอรี่ครับ

ราสเบอรี่แดง
ทบทวนเศรษฐกิจพอเพียงกันอีกครั้ง


Submitted by sothorn on 16 January, 2011 - 23:25 Tags:

• เศรษฐกิจพอเพียง
• เศรษฐกิจพอเพียง

3
Login
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลายคนเข้าใจผิดว่าเศรษฐกิจพอเพียงแล้วต้องเอาไปใช้กับการเกษตร ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำไปใช้กับทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจ การทำเกษตร การใช้ชีวิตประจำวัน หรืออื่นๆ นักธุรกิจพอเห็นคำว่าพอเพียงอาจจะรีบปฏิเสธทันทีเพราะเป้าหมายของธุรกิจคือ แข่งขัน กำไร รวย แต่หากศึกษาอย่างถ้วนถี่เศรษฐกิจพอเพียงก็ทำให้ธุรกิจราบรื่น และรวยได้เช่นกัน
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีหลักอย่างที่เราได้ยินกันอยู่เป็นประจำคือ สามห่วง สองเงื่อนไข
ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่พอประมาณ
ความมีเหตุผล หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
การมีภูมิคุ้มกันที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ปัจจัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้นั้น จะต้องอาศัยความรู้ และคุณธรรม เป็นเงื่อนไขพื้นฐาน

เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและการประกอบการงาน

เงื่อนไขคุณธรรม คือ การยึดถือคุณธรรมต่างๆ อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน ความเพียร การมุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวมและการแบ่งปัน ฯลฯ ตลอดเวลาที่ประยุกต์ใช้ปรัชญา
เพราะฉะนั้นถ้าทำการใดก็ตาม ถ้าทำเกินตัว ไม่มีแผนรองรับความเสี่ยง ขาดความรู้ในการดำเนินการ เอาเปรียบ อย่างนี้ก็ไม่พอเพียง

------------------------------------------

คุณจิตปีศาจครับ ค้นคำว่า "ไผ่ช้างเมืองน่าน" ปลูกได้ถ้าดินดี น้ำดี น่าจะให้ผลที่ดีพอควรครับ แต่ของจริงอยู่บนเขา ชื้นเย็นตลอดปี ที่แดนกะเหรี่ยงเมืองกาญจน์ก็มีครับ ใหญ่มากเช่นกัน น่าจะอยู่ละติจูดเดียวกับอ่างทองนะครับผมว่า--ไผ่ปักกิ่งกิ่งละ 1000 บาท หาที่สัก250 คงพอได้ ชำขาย.กิ่ง..เดี๋ยวรวย (ไผ่ตงยักษ์ และโมโสะ ก็น่าสน แต่โมโสะมันจะคลานไปทั่ว อันตราย)....พืช ไม่เหมือนสินค้าอื่นเพราะแบ่งตัวได้ งอกได้

-คนภาคใต้ปลูกไผ่ 3เดือนขายหน่อได้ และเงินเข้ามาเดือนละเป็นหมื่น แค่8ไร่มั้ง เพราะตลาดไม่มี.... ไม่มีใครปลูกเอาหน่อขาย
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/vXKb7bfUTQMHhhFC" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/db4/900LwB.JPG" /></a>

 

เม็ดเดียวออกเป็นหมื่นลูก มะเขือเทศอิตาเลี่ยน(ไม้ยืนต้น)



Mesembryanthemum ดอกไม้พื้นเมืองของแอฟริกาใต้

 

ผลหม่อนหิมาลายัน ขนาด7-10ซม.


English Daisy

 

เดี๋ยวถ้าหมดฝนแล้วว่านจะเฉา ผมจะขุดหัวว่าน ว่านดอกทองทั้งสองชนิด (จริงแล้วมีอยู่๓ชนิด แต่ว่านตัวผู้ตายไปแล้ว) ว่านพุทธกวัก เสน่ห์จันทร์ขาว พญาว่าน กุมารทอง นางคุ้ม ส่งไปไห้ครับ ว่านอื่นไม่เท่าไหร่ ว่านดอกทองนี่ต้องผู้มีธรรมผมจึงไห้นะครับ กลัวบาปเหมือนกัน