เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    พูดเรื่องต้นไม้ก็เพลินดีครับ ตอนนี้ฟักทองก็เริ่มติดผล ดอกตัวผู้ก็เยอะครับ

    --ส่วนต้นหม่อนกินผล(พันธุ์จากเชียงใหม่--และมีที่ผสมใหม่จากบุรีรัมย) กำลังออกลูกแรกและตามๆกันมา ระยะเวลาที่แตกตาจนเห็นลูกเล็กๆ แค่3 วันเองครับ
    --ยิ่งฟักทอง เผลอไปห้าวัน มันเลื้อยเข้าหมู่บ้านจัดสรรไป เลยเอาขึ้นพาดต้นไม้ซะ ให้เป็นฟักทองสวรรค์ไป พื้นที่เล็กๆ 1 ศอกคูณห้าเมตรมีต้นพืชเพียบ ส่วนใหญ่เป็นตะไคร้ อาหารเสริมของสุนัขสองตัว พวกมันชอบกินมากๆ
    ---ปลูกพืชตรงนี้งามกว่าฝั่งตรงข้าม จริงๆเป็นชายป่า ---แต่แถวบ้านผมเขาจะเอาต้นไม้ไปปลูกและรดน้ำไว้ตรงนั้น แต่ของเรางามกว่าเห็นๆ เพราะว่าใช้เปลือกผลไม้ทุกชนิด โยนไว้ให้เป็นปุ๋ย มีเปลือกไข่ด้วย ตอนหลังผมสับๆ และขุดดินกลบ เป็นปุ๋ยพืชสด(น้ำหมักแบบนึง) เพราะเจ้ากระต่ายมันกินแอปเปิ้ล คะน้า และผักบุ้งจีน มีเหลือทุกวันครับ ต้นหม่อนตรงอื่นใบเหลือง ขาดไนโตรเจน แต่ตรงนี้เขียวป๋อเลย(จริงๆแล้วมีรูปนะครับ) มีแพชั่นฟรุต-กะทกรกฝรั่งด้วยนะ ตั้งใจโยนไว้ มันก็ยอมขึ้นให้ งามด้วย


    --มีแตงโม ติดไปที่พม่าสมัยอยุธยา เรียกว่าแตงโมโยเดีย ลูกใหญ่มาก ราคาขายที่โน่นลูกละประมาณ240 บาท และญาติผมก็บอกว่าอยากฟังดนตรีสมัยอยุธยา ต้องไปซื้อแผ่นเพลงบรรเลงของพม่า รับรองว่ามีเพลงไทยเดิมยุคนั้นอยู่ด้วยแน่นอน บางพวกเขาก็รู้ว่ามีเชื้อสายคนไทย แต่ไม่รู้จะตามญาติได้ยังไงถ้าไม่ตรวจดีเอ็นเอกัน

    ---ผมเคยเจอคนอยู่คนนึง เขาบอกว่า เป็นคนเชียงใหม่ แต่ไม่รู้จะตามญาติที่ไหน คือเขาหลงขึ้นรถไฟมาตั้งแต่ตอนเด็ก5 ชวบ มาลงรถไฟที่ นครศรีธรรมราช แล้วมีคนเก็บมาเลี้ยงครับ

    ---------------เที่ยวพม่า---สวนผักลอยน้ำ------------------------

    <!--MsgIDBody=25-->บริเวณรอบทะเลสาบใหญ่แห่งนี้ เป็นที่อยู่ของ ชาวอินทา (Intha) มีความหมายว่า Sons of the Lake มีเชื้อสายแตกต่างจากชาวเมืองอื่นๆ ของรัฐฉานที่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยใหญ่

    ชาวน้ำกลุ่มนี้อพยพหนีสงครามไทยพม่ามาจากเมืองทวาย-ตะนาวศรี ราวคริสตศตวรรษที่ ๑๘ ทำให้มีชีวิตเปลี่ยนจากชาวแผ่นดินมาเป็นชาวน้ำ

    มีหมู่บ้านทั้งหมด ๓๖ หมู่บ้าน ซึ่ง ๓๒ หมู่บ้านตั้งอยู่กลางทะเลสาบ ไม่ทราบว่าทุกหมู่บ้านรึเปล่าที่เป็นชาวอินทา

    ๑๑.๓๐ น. ดู สวนผักลอยน้ำ (Floating Garden) พม่าเรียกว่า Kyunpaws ซึ่งเป็นสวนอยู่กลางทะเลสาบ ปรากฏให้เห็นโดยตลอด ปลูกพวกพืชผักสวนครัวซึ่งเติบโตบนหญ้าที่ลอยด้านบนจากสาหร่ายที่ช่วยพยุงอยู่ด้านล่าง โดยที่ไม่มีดินอยู่บนพื้นด้านล่างเลย มีเพียงไม้ไผ่ลำยาวเสียบกอสวนผักไม่ให้ล่องลอยไปที่อื่น คงจะเป็นแห่งเดียวในโลกที่มีแบบนี้ ซึ่งเมื่อผ่านไปเรื่อยๆ ก็พอมองเห็นชาวบ้านช่วยกันตักสาหร่ายขนขึ้นเรือเป็นระยะๆ เพื่อไปทำเป็นสวนผักลอยน้ำ

    ....................

    สวนผักลอยน้ำ แห่งเดียวในโลก
    Floating garden (Kyunpaws), only one of the world <!--MsgFile=25-->





    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD bgColor=#000000 vAlign=top rowSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD bgColor=#000000 colSpan=2 align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>


    จากคุณ : <!--MsgFrom=25-->NickyNick [​IMG][​IMG] - [ <!--MsgTime=25-->9
    ก.ค. 49 15:15:11 <!--MsgIP=25-->] การดำเนินชีวิตของชาวบ้านที่นี่เรียกได้ว่าเป็นชาวน้ำอย่างแท้จริง บ้านบางแห่งปลูกอยู่กลางน้ำ บางแห่งปลูกบนผืนดินที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ และมีการขุดดินจากทะเลสาบไปแปะไว้รอบๆ แผ่นดินเพื่อเพิ่มผิวดินไปเรื่อยๆ

    ชาวบ้านมีการพายเรือในรูปแบบที่แปลกไม่เคยเห็นมาก่อนที่ไหนแม้แต่ส่วนอื่นๆ ของพม่า คือ ยืน แล้วใช้เท้าข้างหนึ่งพยุงใบพายเพื่อพายเรือ ส่วนมือข้างเดียวกับขาจับปลายพายไว้เพื่อไม่ให้โงนเงน เขาพายกันอย่างคล่องแคล่ว บางลำก็ใช้ ๒ คนพายหัวพายท้ายทำให้เร็วหน่อย

    ........................

    สาหร่าย เพื่อสร้างสวนผักลอยน้ำ
    (Weeds, for floating garden) <!--MsgFile=26-->




    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD bgColor=#000000 vAlign=top rowSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD bgColor=#000000 colSpan=2 align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    <!--pda content="end"-->

    <!--MsgIDBody=30-->แล้วเดินต่อมาที่ วัดพะดออู (Phaung Daw Oo Pagoda)

    วัดนี้เป็นศูนย์รวมชีวิตจิตใจของชาวอินทาแห่งทะเลสาบอินเล <!--MsgFile=30-->



    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>

    • <!--MsgIDBody=31-->นี่เป็นรูปมุมใกล้อีกมุมหนึ่งของวัดพะดออู <!--MsgFile=31-->


      <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD bgColor=#000000 vAlign=top rowSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD bgColor=#000000 colSpan=2 align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

      จากคุณ : <!--MsgFrom=31-->NickyNick [​IMG] [​IMG] - [ <!--MsgTime=31-->9 ก.ค. 49 15:51:13 <!--MsgIP=31-->] <!--pda content="end"-->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD bgColor=#000000 vAlign=top rowSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#403e68><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD bgColor=#000000 colSpan=2 align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#403e68><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!--pda tag="<hr align=center width=90%>"--><!--MsgIDBottom=31--><!--MsgIDTop=32--></CENTER><CENTER></CENTER>

    ๑๓.๔๕ น. นั่งเรือกลับกัน อีก ๑๕ นาทีต่อมา คนขับเรือชาวอินทาพาเรามาแวะที่วัดกลางทะเลสาบแห่งหนึ่ง อายุเก่าแก่ถึง ๑๓๑ ปี ชื่อ วัดงาเพจอง (Nga Phe Chaung Monastery)

    ที่นี่มีพระสงฆ์ ๕ รูป ให้การต้อนรับขับสู้อย่างดี มีน้ำชามาให้ดื่มแก้กระหาย มีแมวลอดบ่วงให้ชม ซึ่งแมวทุกตัวของที่นี่ลอดบ่วงได้ทั้งหมด พระพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก มีรูปหนึ่งเคยเดินทางมาประเทศไทยครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งท่านก็เอารูปมาให้พวกเราได้ชม

    ภายในวัดนี้ค่อนข้างสงบ น่าพักผ่อน บรรยากาศน่าสนทนากับพระ และเหมาะกับการปฏิบัติตนเช่นพระภิกษุผู้ไม่หลงใหลในกามฉันทะใดๆ อย่างแท้จริง เรานั่งกันอยู่ที่นี่เกือบชั่วโมง <!--MsgFile=34-->


    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER>
    ส่วนพวกแมวลอดห่วง ไม่ได้ถ่าย เพราะอยากเก็บไว้ในความทรงจำคนเดียว ใครอยากเห็นก็เชิญไปเที่ยวพม่าได้เลยครับ แทบทุกวัดจะมีแมวลอดห่วงให้ชมฟรีฟรี <!--MsgFile=35-->

    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!--MsgIDBody=35-->ความจริงมีรูปวัดงาเพจองอีกรูปหนึ่ง สวยคลาสสิคมากๆ เพื่อนมือบอนจิ๊กไป จับได้ ยอมรับ แต่ไม่ยอมคืน บอกว่าสวยถูกใจ เอากับเธอซี บอกว่าด้านได้อายอด ไอ้รูปนี้ดันมีอยู่รูปเดียวด้วย แล้วก็ไม่มีฟิล์มให้อัด เลยไม่ได้ก็อปมาอวด เสียดาย

    เลยเอารูปภายในวัดมาให้ชม แฟลชไฟจะหมด งก ไม่ยอมเปลี่ยนแบต เลยได้ภาพแค่ครึ่งเดียว

    ส่วนพวกแมวลอดห่วง ไม่ได้ถ่าย เพราะอยากเก็บไว้ในความทรงจำคนเดียว ใครอยากเห็นก็เชิญไปเที่ยวพม่าได้เลยครับ แทบทุกวัดจะมีแมวลอดห่วงให้ชมฟรีฟรี <!--MsgFile=35-->


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD bgColor=#000000 vAlign=top rowSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244><TBODY><TR><TD width=10>[SIZE=-3][/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD bgColor=#000000 colSpan=2 align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#222244><TBODY><TR><TD width=10>[SIZE=-3][/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    </CENTER>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2012
  2. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---สำหรับไผ่ตอนนี้ที่ดังๆมีสามสายพันธุ์นะครับ ไผ่กิมซุ่ง ไผ่บงหวานและไผ่เลี้ยง และบางคนก็สนใจไผ่ยักษ์ คือไผ่ช้างเมืองน่าน ต้นโตๆขนาดสักฟุต(เส้นผ่าศูนย์กลาง)ทำเป็นถังตักน้ำได้เลยครับ

    ---ฮิตตลอดกาล มะนาวครับ--ตอนนี้มีแบบดกพิเศษ แป้นพิจิตร และตาฮิติ(มะนาวควายหรือเลม่อน) มีวันหนึ่งแม่ค้าก๋วยเตี่ยวเอามะนาวมาให้ผมดู มันเกือบเท่าลูกมะพร้าวย่อมๆ เห็นแล้วอยากสลบ--ผมเคยปลูกถั่วชนิดหนึ่ง เม็ดเท่าไข่ไก่ ฝักก็ใหญ่ ใหญ่กว่าฝักหางนกยูงเยอะเลย เมล็ดกินได้ครับ ปลูกแล้วต้นใหญ่มากๆ

    --เปิดตัวร้อนแรง ก็คืออินทผาลัมไทย ของแท้ 20 ปีติดลูก ของไทยเพียงสี่ห้าปี แต่ต้องผสมเกสรเองนะครับ ตอนนี้ชาวมุสลิม รวมทั้งอาหรับก็ซื้อพันธุ์จากไทยไปปลูก ครั้งละเป็นหมื่นไร่ จากพี่คนที่อยู่ อ.ไชยปราการ เชียงใหม่ครับ

    --มีคนที่รักอินทผาลัม สั่งเมล็ดจากตะวันออกกลางมาปลูกครับ
    http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=45985.0
    --จากคนไม่รู้ ไม่เคยเพาะ นำเมล็ดมาปลูกเอง ก็จากที่ขายเพื่อกินกัน ก็ต้นกล้าราคาตั้ง 3500บาท แถมไม่รู้เพศ --ปลูกห่างจากบ้าน 200กม. 3ปีออกผลมาเฉยเลย ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ตั้งชื่อพันธุ์ไเองได้เลย เพราะ เพศผู้และเพศเมียที่มาผสมก็มาจากคนละประเทศ
    http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=20075.0

    ปลูกจากในน้ำจะดีมากครับ --เม็ดจะดูดน้ำเข้าไปแล้วพองตัว เชื้่อราก็ไม่มีครับ

    คุณมอมแมม ขายต้นละ 80บาท คัดมาจากสวนดังๆแถบอาหรับ เห็นรูปก็เมาอินทผลัมแล้ว สวยมากๆครับ เดิมทีไทยเราปลูกประดับสวน โดยไม่คิดว่ามันจะติดลูกได้ มีคนแถวอุดรกลับมาจากซาอุ โยนเม็ดไว้ข้างบ้าน ดันติดลูกให้กินเฉยเลย
    http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=52663.0
    http://www.personal.u-net.com/~treetops/dateseed.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2012
  3. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <TABLE class=bordercolor border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 1px; PADDING-RIGHT: 1px; PADDING-TOP: 1px"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD class=windowbg2><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom align=right>แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล [​IMG]บันทึกการเข้า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 1px; PADDING-RIGHT: 1px; PADDING-TOP: 1px"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD class=windowbg><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top rowSpan=2 width="16%">nittayaBEเกษตรกรมือใหม่
    [​IMG]
    [​IMG] ออฟไลน์

    กระทู้: 1303

    [​IMG]


    [​IMG]

    </TD><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle>[​IMG] [​IMG] [​IMG]</TD><TD vAlign=middle align=left>Re: ชมรมคนชอบไม้ต่างแดน
    « ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 10:07:44 PM »

    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right>[​IMG]อ้างถึง</TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">+1 LIKE
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">ปลูกหลายอย่างค่ะ ทดลองไปเรื่อย ตายบ้าง โตบ้าง ปลูกที่ภาคกลางนี่แหละค่ะ

    ชอบสุด ถือว่า ปลูกได้ผลก็นี่เลยค่ะ ไฮยาซินธ์

    [​IMG]

    ชอบมากเพราะว่า ดอกเค๊าหอมชื่นใจค่ะ กว่าจะบานเต็มช่อก็ สัปดาห์กว่าๆค่ะ

    ต่อมา ถือว่ายาก เอาการ โครคัส ( Crocus Pickwick)

    [​IMG]

    ส่วนสีเหลือง โครคัส เจล สวยสีสด แต่บานไม่ทน

    [​IMG]



    ส่วน ต้นนี้ ต้องพิสูจน์ กันยาวๆ ค่ะ ถ้าผ่านเดือนเมษายน นี้ไปได้ ถือว่าสอบผ่านค่ะ

    Dicentra Spectabilis ( Bleeding Heart)

    [​IMG]

    [​IMG]

    ยังมีอีกหลายต้น รอการพิสูจน์ค่ะ ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ค่ะ ไว้ออกดอกแล้วจะพามาแนะนำตัวกันอีกนะคะ


    -บลีดดิ้ง ฮาร์ท แปลว่าหัวใจมีเลือดไหล--ขอบคุณเจ้าของภาพครับคุณ นิตยาบีอี



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG]

    [​IMG]





    <TABLE class=bordercolor border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 1px; PADDING-RIGHT: 1px; PADDING-TOP: 1px"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD class=windowbg><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=left>Re: การปลูกอินทผลัม สไตล์"เอ๊าะเจ๊าะแอ๊ะแจ๊ะ"
    « ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2010, 12:19:07 AM »




    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right>[​IMG]อ้างถึง</TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">+1 LIKE




    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">[​IMG]
    เมื่อจั่นดอกต้นตัวเมียแตกออกให้นำเกสรตัวผู้ที่ตัดเก็บใว้มาทำการผสมกับช่อดอกตัวเมียแต่เช้าโดยการนำช่อดอกผู้เขย่าเบาๆใส่ช่อดอกเมีย เมื่อมีดอกผู้มากและเพียงพอต่อดอกเมียแล้วจึงเสียบช่อดอกใว้ด้วยกันปล่อยให้ผึ้งและแมลงต่างๆมาช่วยผสมซ้ำอีกครั้ง ผลอินทผลัมที่ได้จากวิธีนี้จะติดหนาแน่นและค่อนข้างดก แต่ขนาดของผลก็จะเล็กกว่าแบบที่ผลเบาบาง

    [​IMG]
    การเก็บเกี่ยวผลผลิต นับจากวันที่ผสมเกสรจนติดลูกแล้ว สำหรับพันธุ์ โกเมน2007 (Komain 07) ผลจะพัฒนาไปจนกระทั้งผลแก่จัดใช้เวลาประมาณ4เดือนครึ่ง จากผลสีเขียวจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม สังเกตุจะมีผลที่นิ่มสีแดงเข้มจนถึงมีสีน้ำตาลเนื้อออกใส อาจหลุดออกจากขั้วร่วงหล่นอยู่ในบริเวณนั้น จึงตัดแล้วนำไปตากแดดต่ออีกสี่ถึงห้าวัน หรือเก็บใว้ในห้องที่อากาศร้อนอบอ้าว หากมีเครื่องอบลมร้อนก็จะช่วยในเรื่องของระยะเวลาในการทำให้ผลแห้งได้ ผลที่แห้งแล้วจะมีสีน้ำตาลคล้ายสีของน้ำผึ้ง รสชาดหวาน ไม่ผิดเพี้ยนจากผลที่นำเข้ามาจำหน่ายจากต่างประเทศ เพียงแต่ขนาดของผลจะเล็กกว่า เข้าใจว่าคงจะเหมือนไม้ผลชนิดอื่นๆ ที่ต้นยังอายุน้อย เมื่อต้นมีอายุมากขึ้นผลก็น่าจะมีจำนวนและขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วยครับ


    Liked By: vs2501, แสนคำ, janpoo




    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_443462 class=smalltext vAlign=bottom></TD><TD class=smalltext vAlign=bottom align=right>แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล [​IMG]บันทึกการเข้า</TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">ขอพลัง ... จงอยู่ ... คู่คุณ ...




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-LEFT: 1px; PADDING-RIGHT: 1px; PADDING-TOP: 1px"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR><TD class=windowbg2><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top rowSpan=2 width="16%">Darth Palmเกษตรกรมือใหม่
    [​IMG]
    [​IMG] ออฟไลน์

    เพศ: [​IMG]
    กระทู้: 1493

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG][​IMG]




    </TD><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle>[​IMG] [​IMG] [​IMG]</TD><TD vAlign=middle align=left>Re: การปลูกอินทผลัม สไตล์"เอ๊าะเจ๊าะแอ๊ะแจ๊ะ"
    « ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2010, 12:31:15 AM »




    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right>[​IMG]อ้างถึง</TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">+1 LIKE
    <HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">[​IMG]
    บรรยากาศของต้นอินทผลัม แห่งสวนเอ๊าะเจ๊าะแอ๊ะแจ๊ะ

    [​IMG]
    บ้านแก่งหิน อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี

    เคยเห็นต้นค้อไหมครับ เป็นปาล์มชนิดหนึ่งครับ

    https://www.facebook.com/photo.php?...1974860148167.55177.1742991119&type=1&theater


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2012
  5. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    มีคนๆนึงไปเจอแผงผลไม้แถวเยาวราช มีผลไม้ที่ดูน่ากิน จึงถามคนขายว่า"เจ๊ๆนี่เขาเรีนยกลูกอะไร" เจ๊ตอบว่า "ลูกไหน" "ก็ลูกอันนี้แหละเจ๊" เจ๊ว่า"ฟังให้ดีๆนะ เขาเรียกกันว่า ลูกไหน" (ฟังให้ดีก่อนที่จะมีการฟาดปากกัน)

    -------------จากคุณโดนัท และ ลุงโส เวปเกษตรพอเพียง----------------------------------

    ---วันหนึ่งผมซื้อลูกไหนแดงมา 1 กก. กำลังกินเพลินเลย
    สหายเดินมาเจอ
    "กินอะไร"
    "ลูกไหน"
    "ลูกที่กินน่ะ เรียกว่าอะไร ไม่เคยเห็น คล้ายแอปเปิล"
    "ลูกไหน"
    "ก็ลูกที่แกกำลังกินอยู่น่ะ"
    "เออ รู้แล้ว ลูกไหน" ผมชักโมโห
    "จะลูกไหนเล่า ลูกนี้ ๆๆๆๆๆๆๆ" สหายพูดพร้อมกับชี้ ๆๆๆๆๆๆ มาที่ลูกไหนที่ผมกำลังกิน
    "ก็ลูกไหนอ่ะ"
    "อยากจะบ้า กรูมีเพื่อนบ้าหรือเปล่าเนี่ย ที่ถามก็คือลูกที่แกกินอยู่น่ะ ลูกอะไร"
    "ลูกไหน"
    "จะลูกไหน เนี่ย ลูกที่แกกัดกินอยู่เนี่ย ๆๆๆๆๆ"
    "เออ ลูกไหน ไอ้บร้า"
    "แกนั่นแหละ บร้าาาาาาาา ลูกนี้ ... เรียกว่าลูกอะไร"
    "ลูกไหน"
    "ลูกนี้"
    "ลูกไหน"
    "ลูกนี้"
    "ลูกไหน"
    "ลูกนี้ ... โว้ยยยยยยยยยย อยากจะบร้า"

    สรุปคงไม่ปรองดองกันแน่เลยพี่น้องเอ๋ย 555

    อย่าใจร้อนนะครับพี่น้อง รออีกสักหน่อย อาจโชคดี

    ไปละ อิอิอิ [​IMG]
    -----------------------------------
    เป็นเหมือนกันค่ะ นัทไม่รู้จัก เห็นผลไม้มาขาย

    ก็งงๆ คล้ายเชอรี่ จะสั่งเกรงว่าจะไม่ใช่ และในที่สุดเพื่อนก็สั่งมาทานค่ะ

    เลยเดินเข้าไปถามเพื่อน ว่า ลูกอะไรอ่ะ เพื่อบอกว่า กินดิ ลูกไหน

    ก็เลยหยิบมากิน อมเปรี้ยวๆ อร่อยดีค่ะ แต่ลิ้นนัทไม่ค่อยดี กินอะไรเปรี้ยวๆ จะแสบมาก ลิ้น และเพดานปาก

    กินได้ไม่กี่ลูกก็บอกว่า ลูกอะไรอ่ะ เพื่อนบอกลูกไหน ในใจก็คิดว่าลูกไหนๆๆๆๆ

    อ๋อ ท่าจะชื่อของลูกไหน เลยตอบไปว่า ลูกไหน??

    เพื่อนตอบ เออ ไอ้ลูกเนี้ยเค้าเรียกว่าลูกไหน ลูกไหน เข้าใจไหม (ขออภัยใช้คำไม่สุภาพ) เพื่อนคงเริ่มรำคาญ

    จึงเก็ทเลยค่ะ *0*

    ------------ต้นเทียนนกแก้ว----------------------------
    http://www.tourdoi.com/general/flower/page/015.htm

    พริก นูเม็กซ์ บิ๊ก จิ๋ม บันทึกไว้ว่า ใหญ่ที่สุดในโลก
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    จริงๆต้องเรียกว่า ลูกหม่อนแตงแมนดาริน--Mandarin Melonberry ไว้ให้ได้เม็ดมันมาก่อน จะปลูกแจกกันครับ
    <TABLE id=gsThumbMatrix><TBODY><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>[​IMG]
    Date: 02/09/2008Views: 736

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>[​IMG]
    Date: 02/09/2008Views: 758

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>[​IMG]
    Melonberry Size Reference
    Melonberry Size Reference
    Date: 02/09/2008Views: 790

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>[​IMG]
    Date: 11/05/2007Views: 1001

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>[​IMG]
    Date: 11/05/2007Views: 952

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>[​IMG]
    Date: 11/05/2007Views: 998

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>[​IMG]
    Date: 11/05/2007Views: 850

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>[​IMG]
    Date: 11/05/2007Views: 741

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="WIDTH: 100%" class=giItemCell>[​IMG]
    Chinese Mulberry/Mandarin Melonberry/Harvest:October-November

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    Chinese Mulberry/Mandarin Melonberry

    มาให้อยากแล้วจากไป 555 กิเลสของกินยากจะตัดไปจากใจ--อืม กิเลสทุกเรื่องอะนะ ตัดยาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  6. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    สตอร์เบอรี่ อัลไพน์

    [​IMG]

    [​IMG]

    ผลหม่อนจีน ไชนีส มัลเบอรี่ ไม่ประสบความสำเร็จทางการค้า แต่ดูน่ากินมาก
    [​IMG]
    ลูกหม่อนดำ
    [​IMG]

    มะเขือเทศยักษ์อิตาเลี่ยน(เป็นไม้ยืนต้น)--ทุกอย่างเมืองไทยมีพันธุ์ขาย

    [​IMG]

    พริกปีศาจ พริกสังหาร พริกพิโรธ--เผ็ดที่สุดในโลก-บัท โจโคเคีย

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ยิ่งลักษณ์"ชูชาวโลกใช้หลักธรรมสร้างสันติภาพ

    <!-- /.slide-container --><!-- /.slide-wrapper --><!-- /.more-img -->
    <!-- /.featured-img -->"ยิ่งลักษณ์"ชูชาวโลกใช้หลักธรรมพระพุทธองค์สร้างสันติภาพ ลดความรุนแรง ด้านประธานาธิบดีศรีลังกา วอนผู้นำทั่วโลกใช้หลักอหิงสาบริหารประเทศ เชื่อลดความขัดแย้งสร้างสงบสุขได้จริง
    <!-- /.content -->
    <!-- /.content -->ประชุมวิสาขบูชาโลกที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ กรุงเทพฯ
    <!-- /.content -->
    <!-- /#featured-caption -->เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ที่ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมนายมหินทรา ราชปักษา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ได้เดินทางมาร่วมการประชุมวิสาขบูชานานาชาติ ครั้งที่ 9 เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เรื่องพระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติ โดยก่อนการประชุมผู้นำประมุขสงฆ์ และชาวพุทธนานาชาติจาก 85 ประเทศทั่วโลก ร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งมีการอ่านสาส์นจากบุคคลสำคัญ อาทิ นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ นางอิรินา โบโควา เลขาธิการองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)

    จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมชาวพุทธนานาชาติ ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมการประชุมวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้จัดขึ้น ซึ่งครั้งนี้ครบวาระ 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับการฉลองพุทธชยันตี เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกเห็นว่า หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มีความสำคัญที่จะสามารถสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลกได้ รวมทั้งมีหลักคำสอนที่ไม่ให้ใช้ความรุนแรง และสอนให้มวลมนุษย์เคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งเรื่องของสันติภาพและการไม่ใช้ความรุนแรงนั้น เวลานี้เหมาะสมกับประเทศไทย ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประชาชนทั่วไปจะได้ความรู้ ความเข้าใจในสาระสำคัญในพุทธธรรม และก่อให้เกิดความสงบสุข ความสงบ แก่พุทธศาสนิกชนและมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง

    ด้าน นายมหินทรา กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติเช่นกันที่ได้มาร่วมงานวิสาขบูชาโลกที่ประเทศไทยแห่งนี้ ซึ่งตนได้น้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มาใช้ในการบริหารประเทศ โดยผู้นำของศรีลังกาได้ใช้หลักธรรมนี้บริหารประเทศมาหลายทศวรรษแล้ว โดยใช้หลักอหิงสา มีเมตตาธรรมกับผู้อื่น รู้จักการเสียสละให้อภัย ถึงแม้ว่าในศรีลังกาจะเคยผ่านเหตุการณ์ความรุนแรงแต่ก็ผ่านพ้นด้วยหลักธรรมของพระพุทธเจ้า ดังนั้น หากผู้นำทั่วโลก นำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มาใช้บริหารประเทศด้วยหลักอหิงสา คือ หลีกเลี่ยงความรุนแรง ไม่เบียดเบียนและเคารพในชีวิตของผู้อื่น เชื่อว่าทั่วโลกจะไม่เกิดความไม่ความขัดแย้งที่นำไปสู่ความรุนแรงจะทำให้โลกเกิดความสงบสุขและเกิดสันติภาพได้.

    <!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->


    <!-- /#facebook-comment-title .news-title --><fb:comments class=" fb_iframe_widget_loader fb_iframe_widget" numposts="10" width="380" href="http://www.dailynews.co.th/education/117671">
    </fb:comments>
     
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---เพิ่มรูปลูกหม่อนจีนแมนดาริน เพื่อยั่วกิเลสครับ อยู่คห.บนครับ --เพิ่มรูปไผ่ยักษ์ของไทย

    คุณทวด อายุ 126 ปียังแข็งแรง --แกดื้อจึงไม่ยอมตายครับ

    คุณทวดอายุยืน126ปีสุขภาพดีแข็งแรง | เดลินิวส์

    -----------------ไผ่ยักษ์ -โมโสะ --จากญี่ปุ่น

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]ไผ่ยักษ์ของไทย--- ไผ่ช้างเมืองน่าน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    รายละเอียด
    http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=49235.0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    "ชูวิทย์" แฉคลิป ส.ส.หญิงแย่งเก้าอี้ ระหว่างเกิดความวุ่นวายในการประชุมสภา
    <!-- /.content -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /#featured-caption -->วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ความวุ่นวายในการประชุมรัฐสภาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ผ่านเว็บไซต์ "เฟชบุ๊ก" ซึ่งมีจำนวน 3 คลิป ก่อนอัพโหลดขึ้นบนเว็บไซต์ "ยูทูป"
    โดยหนึ่งในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นภาพของ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ลากเก้าอี้ของประธานสภาลงจากบังลังก์ก่อนมี ส.ส.หญิงจากพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย และนางชมพู จันทาทอง ส.ส.หนองคาย เข้ายื้อแย่งชุลมุน.

    <FORM id=uqrtk4_2 class="composer clearfix mainCommentForm hidden_elem noTopBorder" method=post action=/ajax/connect/feedback.php rel="async"><INPUT name=lsd value=AVoCsY2O type=hidden autocomplete="off"><INPUT name=url value=http://www.dailynews.co.th/politics/117346 type=hidden autocomplete="off"><INPUT name=uniqid value=uqrtk4_1 type=hidden autocomplete="off"><INPUT name=target value=http://www.dailynews.co.th/politics/117346 type=hidden autocomplete="off"><INPUT name=colorscheme value=light type=hidden autocomplete="off"><INPUT name=controller_id value=feedback_1eJbgos3Crt5IqVoN type=hidden autocomplete="off"><INPUT name=command value=comment type=hidden autocomplete="off"><INPUT name=normalize_grammar value=1 type=hidden autocomplete="off"><INPUT name=iframe_referer value=http://www.dailynews.co.th/politics/117346 type=hidden autocomplete="off"><INPUT name=locale value=th_TH type=hidden autocomplete="off">[​IMG]
    <TEXTAREA class="DOMControl_placeholder uiTextareaNoResize uiTextareaAutogrow input" title=เพิ่มความคิดเห็น name=text placeholder="เพิ่มความคิดเห็น" required="1">เพิ่มความคิดเห็น</TEXTAREA>
    <LABEL class="fbCommentButton hidden_elem uiButton uiButtonConfirm" for=uqrtk4_3><INPUT id=uqrtk4_3 value=แสดงความคิดเห็น type=submit></LABEL><LABEL class="fbCommentAfterLoginButton uiButton uiButtonConfirm" for=uqrtk4_4><INPUT id=uqrtk4_4 value=แสดงความคิดเห็น type=submit></LABEL>

    <INPUT id=post_to_profile_4fcbf318a51759a73293208 class=postToProfileCheckbox name=post_to_profile type=checkbox><LABEL class=desc for=post_to_profile_4fcbf318a51759a73293208>โพสต์ไปยัง Facebook</LABEL>


    </FORM>
    • [​IMG]


      <FORM id=uqrtk4_93 class=closeButtonAfterLogin method=post action=#><INPUT name=lsd value=AVoCsY2O type=hidden autocomplete="off"><LABEL class=uiCloseButton for=uqrtk4_7><INPUT id=uqrtk4_7 title=รายงานผู้ดูแลระบบ value="Submit Query" type=submit></LABEL></FORM>กุ้งเต้น นฐ. · นักวิจารณ์เด่น · ผู้นำด้านจิตวิญญาณ ที่ วัดใหม่ชัยมงคล จังหวัดสุพรรณบุรีท่านเป็นถึง ส.ส. คือ ผู้แทนของประชาชน พฤติกรรมที่ท่านได้แสดงออกม<WBR>ันชี้ให้เห็นถึง คุณวุฒิ วัยวุฒิ แล้วต่อไปประชาชนจะพึ่งพาใค<WBR>รได้ แล้วเยาวชนไทย จะเอาแบบอย่างที่ดีมาจากไหน<WBR>กันเล่า ......สภา คือ สถานที่อันทรงเกียรติ แต่พวกท่านทำตัวไม่ให้เกียร<WBR>ติแก่สภา ท่านสมควรที่จะพิจารณาตัวเอ<WBR>งเถิดว่า เงินเดือนของท่านมาจากภาษีป<WBR>ระชาชน ท่านทั้งหลายน่าจะไปอยู่ที่<WBR>เวทีราชดำเนิน หรือไม่ก็ลานวัด ฟัดกันให้เต็มที่แล้วให้เด็<WBR>ก ๆ เอาน้ำสาด
      ตอบกลับ · 76 · ถูกใจ<FORM id=uqrtk4_94 class=fbUpDownVoteAfterLogin method=post action=#><INPUT name=lsd value=AVoCsY2O type=hidden autocomplete="off"><LABEL class="uiLinkButton fbUpDownVoteAfterLoginOption"><INPUT value=ถูกใจ type=submit></LABEL></FORM>· <A class=uiLinkSubtle href="http://www.dailynews.co.th/politics/117346?fb_comment_id=fbc_10150930324615138_22595644_10150930352195138" rel=nofollow target=_blank><ABBR title="30 พฤษภาคม 2012 เวลา 20:03 น." data-utime="1338433401">30 พฤษภาคม เวลา 20:03 น.</ABBR>


      • [​IMG]


        <FORM id=uqrtk4_95 class=closeButtonAfterLogin method=post action=#><INPUT name=lsd value=AVoCsY2O type=hidden autocomplete="off"><LABEL class=uiCloseButton for=uqrtk4_10><INPUT id=uqrtk4_10 title=รายงานผู้ดูแลระบบ value="Submit Query" type=submit></LABEL></FORM>PaTtama Samtia · วิทยาลัยพลศึกษาสุพรรณบุรี ปัญญาอ่อนสิ้นดี
        ตอบกลับ · 20 · ถูกใจ<FORM id=uqrtk4_96 class=fbUpDownVoteAfterLogin method=post action=#><LABEL class="uiLinkButton fbUpDownVoteAfterLoginOption"><INPUT value=ถูกใจ type=submit></LABEL><ABBR title="30 พฤษภาคม 2012 เวลา 20:16 น." data-utime="1338434194">.</ABBR></FORM>






      • [​IMG]


        E-new Rad · Phamarcyตัวอย่าง คนไม่มีจรรยาบรรณ
        ตอบกลับ · 11 · ถูกใจ<FORM id=uqrtk4_98 class=fbUpDownVoteAfterLogin method=post action=#><LABEL class="uiLinkButton fbUpDownVoteAfterLoginOption"><INPUT value=ถูกใจ type=submit></LABEL></FORM>· <ABBR title="30 พฤษภาคม 2012 เวลา 20:58 น." data-utime="1338436699">30 พฤษภาคม เวลา 20:58 น.
      • [​IMG]

      • เราหล่อ ก · ทำงานที่ ธุรกิจส่วนตั๊วส่วนตัวอืม ก็งี้แระพ่อแม่ตายหมดไม่มีค<WBR>นสั่งสอน เฮ้ย พ่อก็วรนุชแล้วลูกจะเป็นตัว<WBR>...ไรว้าา
        ตอบกลับ · 3 · ถูกใจ<FORM id=uqrtk4_100 class=fbUpDownVoteAfterLogin method=post action=#><LABEL class="uiLinkButton fbUpDownVoteAfterLoginOption"></LABEL> </FORM>· <ABBR title="31 พฤษภาคม 2012 เวลา 1:51 น." data-utime="1338454317">วัน วันพฤหัสบดี </ABBR>




      • </ABBR>





     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  10. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    การปลูกชมพู่ยักษ์ไต้หวันในประเทศไทย - เกษตรทั่วไทย

    วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555 เวลา 00:00 น.
    [​IMG]<!-- /.images-list-items -->[​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->
    <!-- /.images-list-container -->
    <!-- /.images-list-wrapper -->[​IMG][​IMG][​IMG]
    <!-- /.slide-container -->
    <!-- /.slide-wrapper -->
    <!-- /.more-img -->

    <!-- /.featured-img -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /#featured-caption -->เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2553 ผู้เขียนได้มีโอกาสไปดูงานการเกษตรที่ไต้หวันร่วมกับคณะ ธ.ก.ส. ในการดูงานในครั้งนั้นผู้เขียนได้มีโอกาสไปเที่ยวชมตลาดขายพันธุ์ไม้ผลที่มีชื่อเสียงของไต้หวันซึ่งมีไม้ผลหลากหลายชนิดผู้เขียนได้ซื้อชมพู่มาต้นหนึ่งราคาต้นละ 500 เหรียญไต้หวันซึ่งเมื่อคิดเป็นเงินไทยประมาณ 500 บาท (ราคาแลกเปลี่ยนเงินตราเงินไต้หวันกับเงินไทยใกล้เคียงกัน) รายละเอียดที่ติดมากับชมพู่ต้นนั้นเป็นภาษาจีนและเมื่อแปลเป็นภาษาไทยชื่อว่า “ชมพู่น้ำหอมที่ใหญ่เท่ากับฝ่ามือ” และได้นำกิ่งพันธุ์ชมพู่ไต้หวันมาเลี้ยงให้ต้นเจริญเติบโตและได้นำยอดมาเสียบบนต้นชมพูพันธุ์ทับทิมจันท์ที่แผนกฟาร์ม ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร จ.พิจิตร ได้ปลูกไว้เพื่อบริโภค 2 ต้น และมีอายุต้นประมาณ 5 ปี ได้เสียบยอดชมพู่ไต้หวันบนต้นชมพู่ทับทิมจันท์เพียงต้นเดียวเลี้ยงยอดชมพู่ไต้หวันที่แตกออกมาเป็นเวลาประมาณ 2 ปี และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้น เห็นว่าต้นชมพู่ไต้หวันแตกทรงพุ่มใหญ่เห็นว่าควรใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อบังคับให้ต้นชมพู่ออกดอกติดผลนอกฤดู ในการบังคับให้ต้นชมพู่ออกนอกฤดูนั้น ผลปรากฏว่าต้นชมพู่ได้ออกดอกมาเพียง 1-2 ช่อเท่านั้น ได้พยายามบำรุงรักษาเป็นอย่างดีเพื่อดูว่าผลชมพู่จะมีขนาดผลใหญ่จริงหรือไม่ ในขณะที่ต้นชมพู่เลี้ยงผลอยู่เพียง 1-2 ช่อนั้น พอเข้าเดือนมีนาคม 2555 ผลปรากฏว่าต้นชมพู่ไต้หวันที่เสียบไว้ทยอยออกดอกทั้งต้น ถึงทุกวันนี้เดือนพฤษภาคม 2555 ก็ยังมีดอกออกมา อาจจะเป็นเพราะว่าในช่วงที่ผ่านมาได้มีการฉีดพ่นปุ๋ยและฮอร์โมนสะสมมาโดยตลอด
    หลังจากที่ห่อผลชมพู่ไต้หวันไปได้ประมาณ 25-30 วัน (โดยเริ่มห่อในระยะที่ผลชมพู่ถอดหมวกหรือผลใหญ่ขนาดนิ้วโป้ง) พบว่าผลชมพู่ไต้หวันที่เก็บเกี่ยวมานั้นมีขนาดของผลใหญ่กว่าชมพู่สายพันธุ์อื่น ๆ ที่ผู้เขียนพบมาโดยมีคุณสมบัติของผลดังนี้ “ผลมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักผลประมาณ 200 กรัม หรือ 5 ผลต่อกิโลกรัม ผิวผลมีสีขาวอมชมพูหรือสีชมพูอมแดง ลักษณะของผลเป็นรูประฆังคว่ำใหญ่ มีความกว้างของผลเฉลี่ย 7 เซนติเมตรและความยาวของผลเฉลี่ย 9-10 เซนติเมตร เนื้อหนามากและเป็นชมพู่ไร้เมล็ด รสชาติหวานกรอบมีความหวานประมาณ 11-12 บริกซ์ ถ้าผลผลิตแก่และเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูแล้งจะมีความหวานสูงกว่านี้ จัดเป็นชมพู่สายพันธุ์หนึ่งที่ออกดอกและติดผลดกมาก” ทางชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรจึงได้ตั้งชื่อชมพู่ไต้หวันสายพันธุ์นี้ว่า “ชมพู่ยักษ์ไต้หวัน”
    การปลูกและการบำรุงรักษาชมพู่ยักษ์ไต้หวัน ก่อนอื่นมีคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับเกษตรกรที่จะปลูกชมพู่ยักษ์ไต้หวันในเชิงพาณิชย์ว่า ควรจะเริ่มต้นปลูกในพื้นที่เพียง 1-3 ไร่ก็พอแล้ว เนื่องจากชมพู่ยักษ์ไต้หวันมีการจัดการและบำรุงรักษาไม่แตกต่างจากชมพู่ทับทิมจันท์ การจัดการที่สำคัญคือการห่อผล ระยะปลูกที่แนะนำคือระยะระหว่างต้น 5 เมตรและระยะระหว่างแถว 6 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 50 ต้น เกษตรกรจะเลือกใช้กิ่งปักชำปลูกก็ได้ เนื่องจากต้นจะเจริญเติบโตเร็วและให้ผลผลิตเมื่ออายุต้นเพียงปีเศษเท่านั้น.
    ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เสียใจด้วยกับนายกหญิงครับ ดวงดันเหมือนพี่ชายมากเกินไป ซึ่งอีก2 เดือนจะโดนบีบ หรือถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่ง เหตุประท้วงบานปลายไปถึงปีหน้า และรุนแรงกว่าที่ผ่านมา นายกสมาคมโหรออกมาพูดเอง ดาวร้ายทั้งสามดวงยังเล็งดวงเมืองอยู่


    ย้อนดูดวงการเมือง (1) ระส่ำซ้ำรอย บางอย่าง? รอจะเกิด!

    วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2555 เวลา 00:00 น.
    [​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->
    <!-- /.images-list-container -->
    <!-- /.images-list-wrapper -->

    <!-- /.featured-img -->แม้ในทางโหราศาสตร์จะมีบางโหรวิเคราะห์แล้วเชื่อว่า ในช่วงนี้ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังมีตัวช่วยจากอิทธิพลของดาวศุกร์ จะยังไม่กระทบกระเทือนอะไรมากจาก ’สถานการณ์ทางการเมือง“ ขณะที่ในเรื่องของม็อบนั้น ในช่วงนี้จากอิทธิพลของดาวอาทิตย์และดาวจันทร์ที่ถูกคราส ก็ไม่น่าจะยืดเยื้อ ไม่น่าจะรุนแรง

    แต่ย้อนดูคำทำนายดวงเมืองโดยรวมแล้วก็น่าจับตา

    มีบางโหรชี้ประมาณว่า...ที่เห็น ๆ ช่วงนี้...แค่โหมโรง

    ทั้งนี้ เมื่อย้อนดูคำทำนายดวงเมือง “ดวงการเมือง” ปี 2555 โดยหลายโหรดัง โดยรวมแล้วก็ดูเหมือนจะเทไปในทางที่ว่า ’ความสงบยังยากที่จะเกิด!!“ ยกตัวอย่าง...โหร โสรัจจะ นวลอยู่ ทายทักปี 2555 นี้ไว้บางช่วงบางตอนว่า...“ที่หวังกันว่าจะเริ่มสันติสุขปรองดองกันเสียที ก็ดูจะเลวร้ายยิ่งไปกว่าเดิม” ดาวพฤหัสบดีอยู่ในมุมบังคับเป็นกากบาท ซึ่งอังคารทับเสาร์ “เป็นเรื่องที่มิอาจมีการรอมชอมกันได้ง่าย ๆ” และปี 2555 นี้ยังต้องระวัง...“การเจ็บไข้อย่างรุนแรงเกิดขึ้นแก่ผู้เป็นใหญ่ในประเทศ และเกิดการสูญเสีย”

    ขณะที่นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ภิญโญ พงศ์เจริญ ก็พยากรณ์ ดวงการเมืองปีนี้ไว้ โดยยึดโยงกับดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และยึดโยงถึงดวงอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อีกทอดหนึ่งด้วย ซึ่งท่ามกลางสถานการณ์การเมืองไทยที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ยังวนเวียนให้คนไทยได้ยินอยู่ตลอด ก็มีประเด็นน่าสนใจ

    บางช่วงบางตอนของคำพยากรณ์คือ...ห้วงเวลาที่ดาวเสาร์ผ่านเข้าราศีกันย์ ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. ถึง 7 ก.ย. 2555 ตรงนี้น่าคิดมาก โดยเฉพาะจะพาดผ่านดาวอังคาร โคจรทับดาวอังคาร ดาวเกตุ และเล็งดาวเสาร์ในดวงเดิม เล็งมฤตยูจร มองไปจะเห็นดาวบาปพระเคราะห์เข้ามารุม ทับกัน เร่งกัน เป็นห้วงเวลาที่นายกฯยิ่งลักษณ์ต้องระมัดระวังอุบัติเหตุ ความปลอดภัย ซึ่งเมื่อมองประกอบผ่านดวงอดีตนายกฯ ทักษิณที่มีดวงสัมพันธ์กันอย่างยิ่งกับดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็แปลกมากที่ดวงคล้ายกัน ดวงดาวอยู่ตรงกัน
    เหมือนกันมาก

    ’จะเกิดเหตุการณ์เดียวกัน คล้าย ๆ กัน อาจโดนปฏิวัติ หรือถูกกดดันให้ออกเช่นเดียวกัน เป็นดวงพินทุบาทว์ ขณะที่ดาวอังคารที่ทับมฤตยูด้วย เดินหน้าถอยหลัง จะเกิดเหตุการณ์ที่เกินคาด“

    “ห้วงเวลาตั้งแต่ 5 เม.ย. 2555 เป็นต้นไป เหตุการณ์แรงมากทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง และวิถีชีวิต ดาวบาปพระเคราะห์มาทับกันหลายองค์เหมือนถูกเหตุการณ์ร้าย ๆ ประดังเข้ามาพร้อม ๆ กันหลายด้าน นายกฯ ยิ่งลักษณ์จะเครียดมาก จะเจ็บป่วยด้วยความเครียด เจ็บในช่องท้อง เลือดออกมากในกระเพาะ ลำไส้ เกิดอุบัติ ถูกลอบทำร้าย ต้องรักษาพยาบาลหนักหรือต้องผ่าตัด”

    ’หากผ่านวิกฤติไปได้ จะประคับประคองตำแหน่งไว้ได้ถึง 7 ก.ย. 2555 หลังจากนั้นจะรักษาตำแหน่งไว้ยากมาก จากการยากที่จะแก้ไขสถานการณ์บางอย่าง“...ทาง อ.ภิญโญ พยากรณ์ไว้

    เป็นการพยากรณ์ดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์และพี่ชาย

    แต่ก็ไม่พ้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับดวงการเมืองไทย

    นอกจากนี้ ในความคล้ายกันมากของดวงในช่วงนี้ระหว่าง
    นายกฯ ยิ่งลักษณ์กับอดีตนายกฯ ทักษิณ ทางนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติยังชี้ไว้ถึงความหนักหนาสาหัสว่า...อดีตนายกฯ ทักษิณจะโดนหนักกว่า และเมื่อยึดโยงดวงกับดวงเมืองไทย ตั้งแต่ 5 เม.ย. 2555 ดาวเสาร์ถอยเข้ารอวันวินาศ เป็นปัญหาขัดแย้ง หากยื้อแย่งจะกลับประเทศ เมื่อกลับมาก็ยุ่งหนัก คนในบ้านเมืองแบ่งเป็น 2 ฝ่าย พสุธาแยกเป็น 2 ซีก และ ’จะค่อนข้างแรงกว่าที่ผ่าน ๆ มา“ เพราะราศีเมษทับดวงเมือง อังคารถอยหลังในราศีสิงห์ในดวงเมือง อีกทั้งปี 2555 นี้ยังต้องระวังศึกต่างเมือง ระวังความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศมหามิตรที่อยู่เบื้องหลัง

    ทั้งนี้ สำหรับดวงการเมืองในภาพรวม ปลายปี 2555 เป็นห้วงเวลาที่ราหูมาอีกองค์ มาทับดวงเมือง เล็งกับดาวเสาร์ และดาวมฤตยูมาทับซ้ำ ตั้งแต่ 10 ธ.ค. ย้ายมาราศีตุลย์เล็งลัคนาเมือง เรียกว่า ’เกิดพินทุบาทว์ในดวงเมือง“ ตามตำราโหรเรียกว่า ’ถึงขั้นดวงแตก“ ราหูมาอีกองค์ช่วงปลายปี การเมืองจะเริ่มมีอะไรเปลี่ยนแปลงแรงมากขึ้น จนดาวเสาร์กับราหูสวนกัน ตรงนั้นจะยิ่งแรงมาก ซึ่งเมื่อแรงในปี 2555 แล้ว ก็จะนำไปสู่ปี 2556 ด้วย และการเมืองปี 2555 ว่าแรงแล้ว ถึงปี 2556 จะแรงยิ่งกว่า จะมีเหตุนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหลายด้าน โดยเกี่ยวพันกับผู้บริหารประเทศ คณะรัฐมนตรี รัฐสภา ซึ่งความขัดแย้งจะเกิดต่อเนื่องถึงปี 2557

    ’มี 2 แรงกระตุ้นเหตุการณ์ทางการเมือง ต้นตอปัญหาคือ นักการเมือง 2 ด้าน ฝ่ายบริหาร กับฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นตัวถล่มเมืองทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิงแตกแยกขัดแย้งรุนแรง นำสู่การเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองที่ยิ่งใหญ่มากกว่าทุกครั้งในอดีตของประเทศไทย เกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดการกวาดล้าง“...อ.ภิญโญทายทักไว้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ เหตุระส่ำซ้ำระยะนี้ก็แค่หนังตัวอย่าง ก็จะเป็นอย่างที่โหรรายนี้ชี้ไว้ว่า...

    จุดเริ่มต้นการ ’แรงมาก“ อยู่ที่ ’ช่วงปลายปี 2555“

    ตอนนี้ก็แค่...’บางอย่าง??...กำลังรอเวลาเกิด!!“.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  12. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    --โทษทีครับ หลับเพลินไปหน่อย ดูหนังอยู่ชั้นล่าง พยายามจะนั่งสมาธิ ในที่สุดก็นั่งจนได้ตอนตีห้า พบความว่าง ความสงบที่ละเอียดมาก ยิ่งดิ่งไปก็ยิ่งละเอียดมากขึ้น แต่ก็ยังค้นหา ตัวผู้รู้ ผู้เห็น ผู้ไม่ตาย และแผ่เมตตาไปด้วย นั่งครั้งนี้ถวายพระพุทธองค์อย่างเดียวเลย เกือบชั่วโมงก็ลาสมาธิ และนอนกำหนดพิจารณาจิต
    ---การแผ่ส่วนกุศล ต้องแผ่ให้ครูบาอาจารย์ก่อน แล้วพ่อแม่ในอดีตชาติด้วยครับ

    --จริงแล้วชั้นล่างก็มีเน็ตและคอมพ์สำรองครับ ไม่ได้เสียตังมากเพราะทำขึ้นเองรวมทั้งประกอบคอมพ์ เมื่อคืนฝันว่า เข้าไปร้านเทป เจอแผ่นหนังชุดเลยจิ๊กมาหอบนึง เข้าใจว่าเป็นร้านที่ร้าง พอดีเจอเจ้าของร้านเป็นสาวสวยเดินมาพูดๆว่าทิ้งร้านไปแป๊บนึง เลยแอบวางไว้แล้วรีบเดินออกมา ปกติผมไม่ค่อยฝัน แต่ฝันทีนึงจะชัดเจน มีสีสัน บางทีก็มีกลิ่น เช่น ไปเบียดสาวๆ รู้สึกอุ่นๆและได้กลิ่้นน้ำหอมครับ ใครฝันเป็นแบบใดบ้างครับ อย่าบอกว่า ระบบไอแม็กซ์เสียงรอบทิศ ก็น่าอิจฉาครับ ตะกี้โหลดหนังเรื่องเครื่องบินรบ เป็นแบบนั้นครับ ไอแม๊กซ์เสียงรอบทิศ คือมันจะใหญ่กว่าจอ70มม.ครับ ภาพรายละเอียดสูง ไฮเด็ฟ ช่วงนี้มีทีวีดาวเทียม ไฉเด็ฟแล้วครับ คึกคักมากๆ มีเงินสัก1400 ได้ทั้งจาน เคื่องรับ แถมติดให้ด้วย การแข่งขันยิ่งคึกคัก ค่ายแกรมมี่ก็โดดมาแล้ว เครื่องมีขายตามเซเว่นทั่วประเทศ ประมาณ 1600 บาท

    --กำลังพยายามหาที่แปลไว้เดิม เอามาต่อๆกันครับ

    -------------มนุษย์ผู้เป็นอมตะ-----อ่านที่กระทู้คุณชยุตมา--จึงนึกขึ้นได้ว่าเราก็เคยเจอเรื่องแบบนี้--
    --คือคุยกับพี่สาวเรื่องหลวงปู่โลกอุดร พี่สาวก็บอกว่าา อจ.ราชภัฎถ่ายรูปมาได้ ผมถามว่า ท่านมายังไง---พี่สาวว่าท่านมางานฉลองบรูณะพระธาตุจอมกิตติ ท่านเป็นพระหนุ่งร่างสูงประมาณ2 เมตร เดินมานั่งเป็นพระหัวแถว โดยที่หลางปู่ต่างๆก้ไม่คัดค้าน(พระที่มีอาวุโสสูงสุด
    เท่านั้นที่จะได้นั่งเป็นพระหัวแถว) อจ.เค้าก็ถ่ายๆรูปเอาไว้โดยคิดว่าท่านเป็นคนธรรมดา ท่านนั่งรถเบ๊นซ์มาครับ คงจะเป็นท่านสื่อกระแสจิตให้มารับแถวชายป่าที่ไหนสักที่ ประเภทจะเหาะมาก็กลัวชาวบ้านแตกตื่น แย่งซีนของงานไปซะ--แบบนั้นแหละครับ
    (ท่านเคยพาศิษย์ฆราวาสเหาะไปแดนหิมพานต์ เป็นที่อบอุ่นกลางแดนหิมะ มีหญิงสาวห้อยลงมาจากต้นไม้ที่มีใบคล้ายมะม่วงแต่ยาวกว่า คือต้นนารีผลนะครับ--เมืองไทยมีแต่เรื่องแปลกๆ-- แต่ยังไม่พอ มีของจริงให้ดูด้วยครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  13. Andromeda Galaxy

    Andromeda Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +314
    ยังติดตามอ่านอยู่อย่างสม่ำเสมอ
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เล่าสู่กันฟังค่ะ
     
  14. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ยินดีครับ คุณอันโดรเมด้าและทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ
    --ผมกำลังพยายามหาหลายอย่างมาปลูกครับ อย่างหม่อนจีนหมดก่อนตลอด คงจะได้พริกพิโรธและอย่างอื่นเท่าที่พอจะมีเนื้อที่ปลูกครับ

    เห็นงานพุทธยันตีในทุกๆจังหวัดแล้วตื้นตันมากเลยครับ หวังว่าจิตอันเป็นกุศลธรรมของคนเป็นล้านๆ และบารมีพระพุทธองค์จะปัดเป่าภัยพิบัติธรรมชาติและจากน้ำมือของคนที่หลงผิด ให้บรรเทาเบาบางหรือสลายหายไปเลยนะครับ หวังใจจริงๆที่จะให้คนไทยกลับมารักสามัคคีกัน ไม่ใช่เดินไปซ้ำรอยเดิมกันอีก
    --------------
    --หูฟังแบบครอบหัวมันเสียนะครับ เลยแกะบัดกรีสายใหม่ สายมันเล็กมาก ต้องทำอีกสามครั้ง ถ้าสายดิน(กราวด์)ขาด ก็จะได้ฟังเสียงคล้ายคนร้องในโอ่งแบบนั้น
    --และยังเอาแอมป์ดิจิตอลมาใช้ครับ เสียงใสดีมาก ซื้อมา200บาทเอง ขนาดมันใหญ่กว่าบัตรเอทีเอ็มหน่อยนึง สองบวกสองวัตต์ จะซื้อใหม่ก็เสียดายตัวเดิม ตัวจ่ายไฟจะใช้ถ่านประมาณ2-3 ก้อน ตอนนี้ใช้ตัวชาร์จไฟของมือถือจ่ายให้มัน
    --โทรศัพท์มือถือก็ถ่านเสื่อมไปแล้วครับ ภรรยาว่าจะบริจาคให้ผม 1เครื่อง ญาติพี่น้อง ลูกหลานก็ได้มือถือจากภรรยาผมไปเป็นสิบๆคนแล้วมั้ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9988.jpg
      9988.jpg
      ขนาดไฟล์:
      217.8 KB
      เปิดดู:
      108
    • 88899.jpg
      88899.jpg
      ขนาดไฟล์:
      131.6 KB
      เปิดดู:
      121
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  15. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    10 อันดับอาหารจานด่วนไทย ต่างชาติหลงใหล...ได้ประโยชน์ครบหมู่

    วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2555 เวลา 00:00 น.

    ปัจจุบันอาหารจานด่วนหรือฟาสต์ฟู้ดมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนไทยมาก โดยเฉพาะคนเมืองที่มีชีวิตเร่งรีบ เมื่อมีความเร่งรีบอาหารจานเดียวจึงเป็นที่พึ่งที่สำคัญ โดยนอกจากคนไทยแล้วคนต่างชาติเองก็นิยมชมชอบอาหารจานด่วนของไทยมากด้วยเช่นกัน โดยถึงขั้นมี การจัดอันดับอาหารจานด่วนของไทยไว้ 10 ลำดับตามความชอบ แต่เวลารับประทานต้องระมัดระวังว่าอาหารจานเดียวที่เรารับประทานเข้าไปแล้วจะสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงมีภาวะโภชนาการดีหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นอาจขาดสารอาหารทำให้ร่างกายอ่อนแอ ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันต่ำเกิดความเจ็บป่วยขึ้นมาได้

    ทั้งนี้ อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัยและผู้จัดการแผนงานโภชนาการ สสส. ระบุว่า การที่อาหารจานเดียวของไทยเป็นอาหารที่คนต่างชาตินิยมกินกัน คงไม่ใช่แค่รสชาติที่อร่อย แต่เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการ ความสะอาด ปลอดภัย มีสุขาภิบาลอาหารที่ดี โดยเฉพาะการที่ทางเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นโก ได้สำรวจออกมาว่ามี 10 อาหารจานด่วนของไทยที่คนต่างชาตินิยมมากที่สุด ซึ่งทั้ง 10 จานนี้นักโภชนาการของไทยเองก็แนะนำให้รับประทานเช่นกัน เพราะเป็นอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ไม่ต้องอาศัยวัตถุดิบจากต่างประเทศเข้ามาและเป็นอาหารที่อยู่ในวิถีชีวิตผู้คนเหมาะสมกับคนไทยซึ่งเป็นเมืองร้อนไม่ต้องการแคลอรีสูงจนเกินไป

    อาหารจานด่วน 10 อันดับนี้มีอะไรบ้าง เริ่มจากอันดับแรก คือ ผัดซีอิ๊ว สาเหตุที่ต่างชาติชอบและโหวตให้เป็นอันดับ 1 เพราะผัดซีอิ๊วคล้ายกับมะกะโรนีและสปาเกตตีของต่างประเทศ แต่กลิ่นของเครื่องเทศและมีผักผสมอยู่ทำให้เกิดรสชาติที่ดี แต่ในมุมมองของนักโภชนาการผัดซีอิ๊วเป็นอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าของโภชนาการเกือบครบ 5 หมู่ โดยมี 4 หมู่ คือ 1. เส้นก๋วยเตี๋ยว มีคาร์โบไฮเดรต 2. มีโปรตีนจากเนื้อหมู ไก่ ปลา กุ้ง ที่ใส่ลงไปในผัดซีอิ๊ว 3. มีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ จากผักคะน้า 4. ไขมันจากเนื้อสัตว์และน้ำมันที่ใส่ลงไป ซึ่งการที่ผัดซีอิ๊วจะเป็นอาหารจานด่วนที่ดีต่อสุขภาพไม่ควรใช้น้ำมันเยอะจนเยิ้ม เพราะจะทำให้เกิดพลังงานเกิน ซึ่งปกติผัดซีอิ๊ว 1 จาน ถ้าผัดใส่น้ำมันเยอะ ๆ จะมีพลังงานประมาณ 650-700 กิโลแคลอรี ถือว่าสูงมาก ปกติอาหารมื้อหนึ่งควรจะรับประทานไม่เกิน 400-500 กิโลแคลอรี ยิ่งถ้าเรากินของหวานเพิ่มอีกก็กลายเป็นมื้อหนึ่ง เราได้พลังงาน 1,000 กิโลแคลอรี ถือว่าเกินมาก ๆ เนื่องจากร่างกายของคนเราวันหนึ่งโดยปกติแล้วผู้หญิงไม่ควรจะได้รับพลังงานเกิน 1,600 กิโลแคลอรีส่วนผู้ชายไม่ควรเกิน 2,000 กิโลแคลอรีโดยเฉลี่ย

    ตรงนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของอาหารจานเดียวที่เราจะกินโดยใช้ผัดซีอิ๊วเป็นกรณีตัวอย่าง ถ้ารับประทานไม่ถูกต้องจะได้รับพลังงานที่สูงมาก ดังนั้นจึงมีวิธีเลือกรับประทาน คือในผัดซีอิ๊วระหว่างเส้นหมี่กับเส้นใหญ่พลังงานแตกต่างกัน ถ้าเลือกรับประทานเส้นหมี่พลังงานจะอยู่ที่ 520 กิโลแคลอรี แต่ถ้าเป็นเส้นใหญ่มีพลังงานประมาณ 600-700 กิโลแคลอรี เพราะเส้นใหญ่มีแป้งค่อนข้างเยอะ และมีน้ำมันมาทาเส้นไม่ให้เหนียวติดกัน ฉะนั้นการกินผัดซีอิ๊วควรเลือกกินเส้นหมี่และเส้นเล็ก แต่หากอยากรับประทานเส้นใหญ่ก็สามารถรับประทานได้ แต่ควรรับประทานได้เป็นครั้งคราว และหลังรับประทานผัดซีอิ๊วแล้วควรกินผลไม้ตามอีก 1 อย่างจะได้คุณค่าอาหารครบ 5 หมู่ และข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่งคืออย่าให้ผัดซีอิ๊วมีรสเค็มจัด บางคนใส่ทั้งซอสและน้ำปลา จะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมสูงเกินอาจเกิดความดันโลหิตสูงได้

    อันดับต่อคือมาที่ซีเอ็นเอ็นโกสำรวจ ส้มตำ ในมุมมองของฝรั่งส้มตำ คือ สลัดผักดี ๆ ของพวกเขา เพราะปกติสลัดจะมีน้ำมาผสมเพิ่มรสชาติ ซึ่งในส้มตำน้ำสลัดก็คือเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่ฝรั่งติดใจในรสชาติที่กลม กล่อม มีทั้งรสเปรี้ยว เค็ม หวาน มัน แต่สลัดของฝรั่งจะมีรสใดรสหนึ่งเท่านั้นเอง ดังนั้นส้มตำจึงมีเสน่ห์สำหรับฝรั่ง ขณะเดียวกันในเชิงของนักโภชนาการก็คือว่า ส้มตำเป็นอาหารที่ครบ 5 หมู่ ได้แก่ ผลไม้ได้แน่นอนจากมะละกอและแครอท วิตามินซีจากมะนาว โปรตีนจากกุ้งแห้ง และได้แคลเซียมสูงมากจากปูดองและกุ้งแห้ง ซึ่งในส้มตำมีมะเขือเทศที่เป็นผักและผลไม้ สุดท้ายเมื่อเรากินส้มตำกับข้าวเหนียว จะได้คาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานด้วย นอกจากนี้หากเรารับประทานส้มตำกับไก่ย่างก็ได้โปรตีนจากเนื้อไก่ ฉะนั้นการกินข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง คือ การรับประทานอาหารหลัก 5 หมู่ที่สุดยอดมาก

    อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรระวังในการรับประทานส้มตำ คือความสะอาด มีคนที่ท้องเดินจากการกินส้มตำเยอะมากเนื่องจากปูดอง ภาชนะไม่สะอาด มือแม่ค้าสกปรก เพราะส้มตำเป็นของดิบไม่ผ่านความร้อน การกินจึงต้องดูเรื่องความสะอาดให้มาก เช่น กุ้งแห้งต้องล้างให้สะอาด ปูดองและปลาร้าต้องต้ม อย่ากินปลาร้าดิบ เพราะการกินส้มตำปลาร้าดิบมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งสูงมาก เพราะในปลาร้าดิบมีสารก่อมะเร็งผสมอยู่ ต่อมาเป็นหมูปิ้ง คล้ายสเต๊กของฝรั่ง แต่หมูปิ้งของเรามีกลิ่นกระเทียมหอมมากและหมักกับน้ำปลา เกลือ พริกไทย เสน่ห์ของหมูปิ้งจะอยู่ตรงนี้ ถามว่าเรากินหมูปิ้งกับข้าวเหนียวได้สารอาหารครบ 5 หมู่หรือไม่ ในมุมมองของนักโภชนาการยังไม่ครบ เพราะข้าวเหนียวหมูปิ้งกินแล้วได้ 3 หมู่ คือ คาร์โบไฮเดรตจากข้าวเหนียว โปรตีนจากเนื้อหมู และได้ไขมันจากหมู ไม่มีวิตามินและแร่ธาตุ ฉะนั้นในภาวะที่เร่งรีบแบบนี้การกินหมูปิ้งที่เป็นอาหารจานด่วนอยากจะให้กินแอปเปิ้ลตามอีก 1 ลูก หรือฝรั่งครึ่งลูก หรือส้มโอ 3 กลีบ หรือส้ม 2 ลูก หรือกล้วยน้ำว้า 1 ลูกหรือกล้วยหอม 1 ลูก สำหรับเด็กควรดื่มนมอีก 1 กล่องจะได้สารอาหารที่ครบ 5 หมู่ใน 1 มื้อ

    จานต่อมาเป็น ก๋วยเตี๋ยวเรือ ซึ่งเป็นอาหารจานเดียวที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ ถือเป็นอาหารจานด่วนที่ดีที่สุดและคนไทยชอบมากที่สุด คือเส้นก๋วยเตี๋ยวได้คาร์โบไฮเดรต ลูกชิ้นและหมูสับได้โปรตีน และผัก เช่น ถั่วงอก และผักบุ้งได้วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ แต่การรับประทานก๋วยเตี๋ยวมีข้อระวัง คือควรกินให้หลากหลาย หรือใครชอบรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ควรใส่ผักและเนื้อสัตว์ลงไปด้วย หรือการเลือกระหว่างก๋วยเตี๋ยวน้ำใสและน้ำข้นเราควรจะเลือกรับประทานแบบใด มีข้อแนะนำ คือ ถ้าหากใครกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักควรกินก๋วยเตี๋ยวน้ำใสมากกว่าก๋วยเตี๋ยวน้ำข้น

    สำหรับ ข้าวผัดปู ถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 5 ซึ่งเราจะรวมไปถึงพวก ข้าวผัดกะเพรา หรือผัดต่าง ๆ ที่นำมาราดข้าว ด้วย ถือเป็นอาหารจานด่วนที่ดีมีคุณค่าทางโภชนาการเช่นกัน แต่ขึ้นอยู่กับการสั่งของเราด้วย ข้าวผัดส่วนมากในมุมมองของนักโภชนาการมักจะขาดผัก เพราะบางจานใส่เฉพาะต้นหอมผักชีถือว่าน้อยไปไม่เพียงพอ ดังนั้นเวลาสั่งควรให้แม่ค้าเพิ่มผักไปด้วย เช่น ผัดกะเพรา มีแต่ใบกะเพราอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อร่างกาย จึงควรใส่แครอท ถั่วฝักยาวเพิ่มไปด้วย และระวังอย่าใส่น้ำมันเยอะเด็ดขาด จานต่อมาเป็น หมูแดดเดียว จานนี้เป็นการนำหมูไปหมักและตากแดด จากนั้นนำมาปิ้งหรือทอดและรับประทานกับข้าวเหนียวจะอร่อยมาก เพราะเครื่องเทศจะซึมเข้าไปในเนื้อหมูได้รสชาติหอมกลมกล่อม ส่วนข้อแนะนำเวลารับประทานจะคล้ายกับการกินข้าวเหนียวหมูปิ้งคือรับประทานผลไม้ตามไปด้วย

    ขนมจีนน้ำยา เป็นอาหารจานด่วนลำดับที่ 7 ที่เรียกว่าเป็นสปาเกตตีเมืองไทย ถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่เช่นกัน โดยเส้นขนมจีนได้คาร์โบไฮเดรต ส่วนน้ำยาปลา มีโปรตีน ส่วนกะทิให้ไขมันและมีสารพัดผัก เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วงอก จึงได้วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ครบถ้วน ถ้าเราจะให้ฝรั่งชื่นชอบขนมจีนน้ำยาต้องพยายามอย่าทำให้มีรสชาติเผ็ดมาก และสิ่งที่ควรระมัดระวังในการรับประทานขนมจีนน้ำยา คือเส้นขนมจีนบูดเสียง่าย ไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 4-5 ชม. ส่วนน้ำยากะทิก็เสียง่ายเช่นกัน หากอยากเก็บไว้รับประทานได้นาน ๆ ควรอุ่นไว้อยู่ตลอด และนอกจากนี้ควรระวังเชื้อโรคที่มาจากผักเราจึงควรล้างผักให้สะอาดก่อนรับประทานด้วย
    เครื่องดื่มของไทยที่ชาวต่างชาตินิยม คือ ชาเย็น เพราะความหวานมันกลมกล่อมที่ลงตัว ซึ่งชาเย็น
    เป็นเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน ถ้าดื่มวันละ 1 แก้วถือว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าดื่ม 2 แก้วขึ้นไปถือว่าอันตรายสุด ๆ เพราะในชาเย็นมีน้ำตาลสูง และยังมีครีมและเนย ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไปนำพาไปสู่โรคอ้วนได้ ส่วน ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นขนมไทยที่ถูกโหวตให้เป็นอาหารยอดนิยมอันดับ 9 ถือเป็นภูมิปัญญาของคนไทยที่นำมะม่วงสุกมารับประทานกับข้าวเหนียว และหยอดกะทินิดหนึ่ง จะได้รสชาติที่หอมอร่อย แต่ให้พลังงานสูงมาก โดยข้าวเหนียวมะม่วง 1 จาน คือข้าวเหนียวประมาณ 1 ทัพพี และมะม่วงสุก 1 ลูก ให้พลังงานประมาณ 500-700 กิโลแคลอรี ซึ่งพลังงานก็มาจากข้าวเหนียว มะม่วงสุก กะทิ และน้ำตาลที่มูนข้าวเหนียว ฉะนั้นการกินข้าวเหนียวมะม่วงโดยเฉพาะกินในหน้าร้อน เมื่อกินแล้วจะทำให้ร้อนระอุ ต้องกินน้ำตามไปมาก ๆ เพราะให้พลังงานสูง หากนาน ๆ รับประทานทีก็ได้ แต่ควรออกกำลังกายจะไม่ทำให้อ้วน ซึ่งการกินข้าวเหนียวมะม่วงไม่ให้อ้วน คือถ้ากินหลังจากการกินมื้อหลักในมื้อเย็น เราเคยกินข้าว 2 ทัพพี ให้ลดลงเหลือ 1 ทัพพี ไว้สำหรับการกินข้าวเหนียวมะม่วงจะได้ไม่อ้วน และลำดับสุดท้าย คือ ขนมครก เป็นของหวานชนิดหนึ่งอย่าลืมว่าเป็นแป้งและน้ำตาล ซึ่งแป้งให้เฉพาะพลังงานและมีกะทินิดหน่อย เราควรเลือกขนมครกที่ใส่ผัก เช่น ฟักทอง ข้าวโพด เผือก ต้นหอม อย่ารับประทานมากหรือหากไม่อยากอ้วนใช้วิธีลดปริมาณอาหารมื้อหลักลงเพื่อกินขนมครกได้อย่างเอร็ดอร่อย

    อาหารจานด่วนของไทยเป็นอาหารที่ดีมาก แม้กระทั่งฝรั่งยังร่วมกันโหวตให้เป็นอาหารจานด่วนที่ชื่นชอบ รู้อย่างนี้แล้วคนไทยจะละเลยไปกินอาหารฟาสต์ฟู้ดของต่างชาติกันทำไม แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถกินอาหารฟาสต์ฟู้ดของต่างชาติได้แต่เป็นครั้งคราว เพราะถ้าเรากินบ่อยแล้วจะเกิดผลเสียตามมาดังนี้ 1. ร่างกายเราจะได้พลังงานค่อนข้างสูง
    2. ราคาแพงมาก ทำให้เราจนลง 3. เราต้องสั่งวัตถุดิบที่มาทำอาหารจานด่วนจากต่างชาติ ทำให้เสียดุลการค้าไป และสุดท้าย 4.จะทำให้เราเสียความเป็นไทยไปซึ่งวัฒนธรรมการกินอาหารแบบไทย ๆ เป็นการกินที่งดงามอันหนึ่งที่บรรพบุรุษมอบให้กับเราและอยากให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจกินอาหารแบบไทย คงวัฒนธรรมทางอาหารของประเทศไทยไว้ให้อยู่คู่คนไทยไปตราบนานเท่านาน

    สุดท้ายอาหารไม่ว่าชาติไหนก็ล้วนมีเสน่ห์ หากเรารู้จักเลือกรับประทานให้ได้คุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสม ย่อมจะดีต่อภาวะโภชนาการและสุขภาพร่างกายของเราไปตราบนานเท่านาน.

    ทีมวาไรตี้

    ก่วยเตี๋ยวหลายเมนู
    ชวนชิมสารพัด “เมนูก๋วยเตี๋ยว” หอมอร่อยน้ำซุป รสชาติกลมกล่อม | เดลินิวส์
    คึกคักรับสีสันแห่งฤดูกาล เที่ยว 7 แหล่งมหัศจรรย์ภูมิภาคตะวันออก

    วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555 เวลา 00:00 น.
    คึกคักรับสีสันแห่งฤดูกาล เที่ยว 7 แหล่งมหัศจรรย์ภูมิภาคตะวันออก | เดลินิวส์

    10 อันดับอาหารจานเดียวยอดนิยมของคนไทย พร้อมภาพเด็ดยั่วน้ำลาย

    >>++10 อันดับอาหารจานเดียวยอดนิยมของคนไทย++<< - Dek-D.com > Board : ความรู้รอบตัว

    <!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  16. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    หลักธรรม วิสาขบูชา ปรับใช้ได้กับทุกวัย

    วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2555 เวลา 00:00 น.
    วิสาขบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่งที่มี 3 เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันเดียวกันนั่นคือ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน หากมองเพียงเผิน ๆ คงเป็นเพียงวันสำคัญทางศาสนาวันหนึ่ง แต่หากตีความตาม 3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนำหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามาปรับใช้กับปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นให้คนทุกวัยได้ยึดไปดำเนินตามคงเป็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อย
    พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ได้บรรยายธรรมผ่าน โครงการเรียนรู้วิถีธรรมตามรอยท่านพุทธทาส ซึ่งจัดขึ้นโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มีใจความสำคัญว่า วันวิสาขบูชา เรียกได้ว่าเป็นวันของพระพุทธเจ้า เนื่องจาก 3 เหตุ การณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมิเช่นนั้นพระธรรมคำสอนจะไม่มีวันส่องแสง และพระธรรมทูตก็ไม่มีหลักธรรมที่จะนำไปสอนประชาชน เมื่อเป็นเช่นนั้นพระพุทธศาสนาจะไม่บังเกิดในโลกนี้ โดยทั้ง 3 เหตุการณ์แม้จะเกิดมานาน แต่ถ้ามองในเชิงการตีความคนทุกวัยสามารถนำหลักธรรมจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน คือ
    1.วันประสูติ พระพุทธองค์เมื่อแรกเกิดเดินได้ 7 ก้าว และชี้พระหัตถ์ขึ้นฟ้า พร้อมเปล่งวาจาว่า ’เราเป็นเลิศที่สุดในโลก“ มองให้ดีเสมือนกับการตั้งเป้าหมายในชีวิตของคนหนึ่งคน ซึ่งคนทุกวัยย่อมมีเป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจไว้อยู่แล้ว จึงควรทำเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จ อย่างเช่น พระพุทธเจ้า และใช้ชีวิตในการเกิดมาครั้งนี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด
    2. ตรัสรู้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ฉันใด เราเองเป็นมนุษย์เช่นพระองค์ก็สามารถตรัสรู้ความจริงได้ฉันนั้น โดยเฉพาะความจริงที่เกี่ยวกับหลักธรรมที่พระพุทธองค์ได้สอนไว้ สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับความเป็นจริงในชีวิตประจำวันเพื่อจะได้เป็นอารยชน
    3. นิพพาน มนุษย์ถึงที่สุดแล้วต้องนิพพาน แม้พระพุทธองค์จะจากโลกนี้ไปนานแล้ว แต่คนในโลกยังไม่เคยลืม ทุกวันนี้ยังมีคนเอ่ยพระนามทั่วโลก เพราะพระ พุทธองค์เกิดมาแล้วไม่ได้เอาอะไรไปจากโลก แต่ท่านให้กับโลก อันเนื่องมาจากโลกไม่จดจำคนรวย แต่จะสรรเสริญคนดี หากใช้หลักเศรษฐศาสตร์มาวัดความเป็นมนุษย์ของพระพุทธเจ้าจะเป็นคนที่ขาดทุน ครั้นหากใช้หลักมานุษยวิทยามาวัด พระพุทธเจ้าจะเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่ามากที่สุดในโลก
    ดังนั้น เมื่อเราเกิดมาแล้วควรถามตัวเองว่าได้ให้อะไรแก่โลกนี้บ้าง อย่ามัวแต่คิดจะกอบโกยจากโลกใบนี้ ซึ่งทั้ง 3 เหตุการณ์สามารถนำมาปรับใช้ได้ เนื่อง จากพระพุทธเจ้าได้ให้แผนที่ธรรมแก่เราไว้แล้ว อยู่ที่เราจะนำมาปรับใช้กับชีวิตตัวเอง โดยคนแต่ละวัยสามารถตระหนักรู้ได้ด้วยตนเอง
    สำหรับปีนี้ครบรอบพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ การเฉลิมฉลองที่ดีที่สุดคือ การชนะใจตนเอง โดยความหมายของพุทธชยันตี อันแปลว่าชัยชนะของพระพุทธเจ้า พระองค์ได้ชนะและหลุดพ้นแล้ว ส่วนเรานี่ต้องมานั่งทบทวนว่าตนเองเอาชนะอะไรได้บ้าง จึงมีคำกล่าวว่า การชนะใจตนเองประเสริฐกว่าชนะใจคนทั้งโลก ซึ่งในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันนี้ควรจะเริ่มหันมาชนะใจตนเองเพื่อความสุข
    “แนวทางของการเอาชนะใจตนเอง อย่างของท่านมหาตมา คานธี ที่เขียนไว้บนหัวนอนและถือไว้เป็นแนวทางดำเนินชีวิตคือ จงเอาชนะความชั่ว ด้วยความดี จงเอาชนะความโกรธ โดยความไม่โกรธ จงเอาชนะความตระหนี่ ด้วยการให้ จงเอาชนะความเท็จ ด้วยความจริง นี่ถือเป็นศิลปะในการเอาชนะใจตนเองซึ่งคนทุกวัยสามารถนำไปเป็นแบบอย่างได้”
    ถ้าเราเอาชนะใจตนเองตามแนว ทางของพระพุทธเจ้าได้ การฉลองอื่น ๆ ก็ไม่จำเป็น เพราะการฉลองเหล่านั้นเป็นเหมือนอีเวนต์ ที่จัดแป๊บ ๆ เดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวก็ลืม แต่ การเอาชนะใจตนเองเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะเปลี่ยนคนให้เป็นอีกคนที่พระพุทธเจ้าให้การยกย่อง
    ความล้มเหลวหรือท้อแท้ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า การที่ฉันตรัสรู้ได้คือฉันไม่ทิ้งธรรม 2 ประการ คือ 1.ฉันไม่สันโดษในการทำความดี คือแม้จะล้มเหลวกี่ทีก็ไม่ยอมเลิก โดยพระพุทธเจ้าผิดหวังมากว่า 6 ปี แต่ไม่เคยล้มเลิก เพราะพระพุทธองค์ไม่เคยล้มเลิกจึงทำให้ค้นหาหลักธรรมได้ 2.พระองค์มีความเพียรไม่ย่อท้อ พระพุทธเจ้าถือเป็นมนุษย์ที่มีความเพียรมากที่สุดในโลก ซึ่งความเพียรพยายามเหล่านั้นก่อให้เกิดวันที่ได้รับชัยชนะวันเดียวคือ วันวิสาขบูชา
    จึงอยากบอกกับคนที่ท้ออยู่ว่า จงอย่าหนีจากความทุกข์ เพราะความทุกข์จะปลุกให้เราตื่น ขณะเดียวกันไม่มีตมก็ไม่มีบัว เพราะบัวเกิดจากตม ขอให้อดทนและรอคอยให้เป็น วันหนึ่งความทุกข์จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเราเอง

    หลักธรรม ในวันวิสาขบูชาถือเป็นอีกข้อคิดเตือนสติ วันสำคัญเช่นนี้ เราควรเริ่มหันมาน้อมนำหลักธรรมไปประพฤติปฏิบัติเพื่อการชนะใจตนเอง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีไม่น้อย.

    วิสาขบูชา วันสำคัญของโลก

    วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญที่สุดทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากล้วนมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดของพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันที่พระศาสดา คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับวันวิสาขบูชานี้ และในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2542 องค์การสหประชาชาติได้ยอมรับญัตติที่ประชุม กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก โดยเรียกว่า Vesak Day ตามคำเรียกของชาวศรีลังกา ผู้ที่ยื่นเรื่องให้สหประชาชาติพิจารณา และได้กำหนดวันวิสาขบูชานี้ถือเป็นวันหยุดวันหนึ่งของสหประชาชาติอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญเนื่องในวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระบรมศาสดา โดยการที่สหประชาชาติได้กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลกนั้น ได้ให้เหตุผลไว้ว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวลมนุษย์ เปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนา เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณ โดยไม่คิดค่าตอบแทน.

    ทีมวาไรตี้
    ขอบคุณทีมงานเดลินิวส์ครับ ตอนนี้เขามีทีวีดาวเทียมแล้ว ดูจากเน็ตก้ได้ครับ

    เล่าไปเรื่อยๆตอนประวัติสกุล บุนนาค มาจากแขกเปอร์เซียครับ
    http://www.dailynews.co.th/article/224/116810
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2012
  17. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ สืบสานประเพณี “กวนข้าวมธุปายาส”

    วันพุธที่ 30 พฤษภาคม 2555 เวลา 00:00 น.

    ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ สืบสานประเพณี “กวนข้าวมธุปายาส” | เดลินิวส์
    เล่าไปเรื่อย ๆ (3) สกุลต่างๆที่มีคำว่า ณ เดิมเป็นสามัญชน

    วันอังคารที่ 5 มิถุนายน 2555 เวลา 00:00 น.

    เล่าไปเรื่อย ๆ (3) | เดลินิวส์
     
  18. Nantnapas P

    Nantnapas P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +902
    อ่านเพลินเลย

    :cool:
     
  19. Nantnapas P

    Nantnapas P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +902
  20. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    นิบิรูมีสองกระแส มีกับไม่มีครับ แต่ที่เว็ปชาวซีต้าบอกว่ามี และ ที่เกิดวงกลมธัญญพืช เกือบทุกอันจะสื่อสารการมาของดาวนิบิรู
    --เชื่อหรือไม่ว่าบนดาวมีมนุษย์ยักษ์ ที่ชอบทอง เพราะว่าเคยนำไปแก้ปัญหาในชั้นบรรยากาศของเขาได้ผลมาแล้ว ดาวนี้มีบริวารเป็นดวงจันทร์สองสามดวง มันวิ่งตามก้นมาคล้ายๆดาวหางไปเลย
    --เมื่อหมื่นปีก่อน ดาวนี้เข้ามาชนโลกแบบไม่เต็มใบนัก แต่สะเกิดที่กระเด็นออกไปก็รวมตัวเป็นดวงจันทร์ครับ (ขาว่า เขาก็ชาวต่างดาวนะครับ)
    --มาเที่ยวนี้มาเฉียดราว 20 ล้านไมล์ แต่แรงดึงดูดก็จะทำให้ดาวโลก หกคะเมนตีลังกาได้
    (จริงๆก็พอรู้บ้าง แต่ไม่มาก ยังไม่ฟันธงเลยครับว่า มีหรือไม่ แต่ต่างชาติถ่ายรูปได้เยอะ บางคนถ่ายได้ บอกว่าได้ทุกรูป คุณคิดง่ายๆ ดาวนี้มันจะมาขวางระหว่างพุ่มไม้กับเราได้ไง หรือต่ำกว่าขอบฟ้ามันเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราถ่ายดวงอาทิตย์ก็จะมีจุดแสงที่เกิดจากแสงสะท้อนที่เลนส์นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...