เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    -----ลูกสาวคนโตของภรรยาบอกว่า มีนกพิราบ ตกลงมาจากหลังคาตึกที่ทำงาน เธอก็มาเลี้ยงไว้ที่แฟลตการเคหะนนทบุรี แต่มันกลับพาญาติมาเยี่ยมตัวนึง ทุกๆวันเจ้านกตัวนี้จะมาเยี่ยมเยียนดูอาการเพื่อนของมัน แต่เป็นนกเขาครับ มันคอยมาดู และมาทุกวัน แถมยังเดินอาดๆ ไม่กลัวคน มันคงจะบอกว่า "เพื่อนเอ๋ย เมื่อไหร่ลื้อจะหายสักที่ฟ่ะ"
    --และเธอบอกว่า การประสบมรสุมชีวิตครั้งนี้มันสอน
    อะไรหลายๆอย่าง มีเพื่อนคนนึงที่เธอคิดว่าดี เป็นคนพูดจาดี และสนิทกัน--แต่กลับเฉยเมยไม่แยแสสนใจอะไรเลย เหมือนคนที่ไม่ใช่เพื่อนกันมาก่อน

    --แต่มีอีกคนหนึ่งที่เธอไม่ถูกชะตา มักด่าว่ากล่าวเค้า โดยไร้สาเหตุอีกด้วย เธอชอบว่า "ทำไมชอบมาเสนอหน้า ต้องให้ด่าก่อนใช่ไหม ถึงจะกลับไปทำงาน" แต่ยายกบคนนี้ แม้จะมีลูกด้วย แต่คอยมานอนเฝ้า หาข้าวให้กิน ดูแลให้กำลังใจทุกอย่าง เป็นห่วงกลัวเธอจะฆ่าตัวตาย นี่แหละ ทุกอย่างที่เรามองเห็นมันไม่ใช่ความเป็นจริง ความจริงแท้ๆนั้น มันอาจจะกลับตาลปัตรไปเลยก็ได้
     
  2. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    -----ภรรยาผมนั้น เป็นผู้หญิงที่เป็นตัวอย่างของคนที่มีความมุ่งมั่นมานะพยายามอย่างอดทน เธอไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น เรื่องตีรันฟันแทง เธอกลับวิ่งเข้าสู้เหมือนคนบ้า ก็เกิดจากการที่ถูกพี่น้องด้วยกันข่มเหงตีเธออย่างทารุณ จนต้องลุกขึ้นสู้ จากที่เคยแหกปากร้องไห้ เอาน้ำตาเป็นเพิ่อน กลับขยายอิทธิพลมาเป็นนักเลงประจำซอย มีสมุนบริวารเพียบ
    --บ่อยครั้งที่พี่สมคิดอยากจะไล่เด็กวัยรุ่นที่มามั่วสุมในบ้านของเธอ แต่เธอไม่กล้า เธอจึงบอกว่า "นั่น อีพามันเดินลงมาแล้ว" พอขาดคำก็มีเสียงด่าลอบลงมาจากชั้นบน เท่านั้นหละครับวงแตกฮือ มอเตอร์ไซค์ยี่สิบกว่าคัน ถูกพวกวัยรุ่นบิดหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต เธอว่าพวกนี้มันกลัวเธอ--ก็แปลกดีเหมือนกัน -ทีพี่สมคิดเป็นเจ้าของบ้านแต่พวกมันไม่ยักกะกลัว

    --- เรื่องของเรื่องก็มีเทพที่เป็นกษัตริย์นักรบมาอยู่กับเธอ และกุมารหงษ์หยกลูกครุฑบ้าง เคยเห็นกุมารเขานั่งโม้ว่า เอาปีกปัดลูกปืน-ที่เด็กหนุ่มชื่อ"สยาม" โดนยิงโดยคู่อริ สอบถามก็เป็นเรื่องจริง และเด็กต้องไปหาเสื้อตัวละ400 ที่ห้างมากำนัลหงษ์หยกด้วย


    ---หลายครั้งที่เธอตีกับแม่ค้าคนข้างบ้านเพราะพูดจาแขวะกัน เธอบอกว่า ไม่รู้ตัว รู้สึกเหมือนหัวโตพองออกเท่ากระด้ง และหยิบอาวุธทุกชนิดอย่างชำนาญ จับคู่กรณีพุ่งหัวทะลุเข้าตู้กระจกไป แล้วเธอก้ไม่มีบาดแผลแม้เท่ารอยแมวข่วน
    --น้าเธอเคยโทรตาม ให้ไปช่วยนังหมวย ลูกพี่ลูกน้อง (ลูกของน้าแหล่ม) เรื่องของเรื่องคือเพื่อนลูกเขยเขาตั้งวงเหล้ากับเพื่อนอีกห้าคน แล้วโดนเมียด่าว่า เลยคิดจะตีเมียอวดเพื่อน ที่โทรตอนนั้นเค้าตีเมียไปแล้วด้วย
    --พอเธอไปถึง เธอก็ด่าพวกมันเป็นชุด "ไอ้หน้าตัวเมีย"อะไรแบบนั้น พวกนี้ก็ตีขวดเป็นปากฉลาม กะว่าจะแทงภรรยาผมให้ตาย ปรากฏว่า ห้าหกคนต้องหามเข้ารพ.หมด ถูกแฟนผมตี-แทงซะน่วม
    ส่วนแฟนผมก็เหมือนเดิม ไม่มีบาดแผลใดๆ พอแจ้งตำรวจ ตำรวจงงว่าใครตีใคร คนๆเดียวแถมเป็นผู้หญิงตีคนห้าหกคน ตำรวจบอกขืนลงบันทึกประจำวันแบบนี้ โดนเจ้านายด่าตายแน่ แถมผู้ต้องหาฟ้องกลับ จะเอาหน้าไปไว้ตรงไหน

    --มีครั้งนึง ตำรวจมาถึงบ้าน แล้วโดนเธอด่า ตำรวจก็โกรธมาก แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร พี่โต้งที่เป็นทนาย และพ่อขุนลือเค้าเลี้ยงดูส่งเรียนจนจบ ก็เข้ามาคุยไกล่เกลี่ยให้ ตำรวจโอดครวญว่า "ผมโดนมันด่า" พี่โต้งก็ว่า"พี่ครับ ผมก็โดนมันด่าว่า ไอ้ทนายหน้า ห. เหมือนกันครับ" สรุปแล้วเป็นการปรับทุกข์กันเสียมากกว่า--ไม่กล้าลงบันทึกประจำวัน เพราะคำด่านั้นไม่ผ่านเซ็นเซ่อร์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2012
  3. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---ยายจิ๋ม เป็นพี่สาวแท้ๆที่โตมาพร้อมกันกับเธอ เพราะว่าเตี่ยเเธอเอาฝากให้พวกเศรษฐี เจ้าของโรงหนังที่นครสวรรค์เขาเลี้ยงดู ส่งเสียให้เรียน แต่จิ๋มเป็นคนที่ขี้ขลาดขี้กลัว ไม่สู้ใคร

    --จิ๋มทำงานโรงครัวที่รพ.แห่งหนึ่งแถวถ.ติวานนท์นั้น หลังจากสามีคนแรกติดคุกไป เธอก็ได้คนที่ทำงานโรงครัวอีกคนมาเป็นสามี ไอ้ชัยเป็นนักเลง เมาแล้วชอบทำร้ายลูกเมีย วันนั้นไอ้ชัยถือมีดสองเล่มไล่แทงยายจิ๋มไปรอบโรงครัว เพื่อนยายจิ๋มก็โทรตามภรรยาผมให้มาโดยเร็ว
    --พอแฟนผมมาถึง บอกว่า"หยุดๆ มึงมาตรงนี้หน่อยซิไอ้ชัย เอามีดมาด้วย " ไอ้ชัยก็หยุดเลยครับ มันกลับเซื่องๆเป็นลูกหมาตกน้ำ เหมือนโดนมนต์สะกด เพราะเสียงเธอนั้นทรงพลังอำนาจ (มีองค์เทพแฝงอยู่) นัยน์ตาดุร้าย เหมือนโปนโตจ้องหน้าไอ้ชัยซึ่งคอยแต่หลบตา นั่งกระมิดกระเมี้ยนอยู่ " เฮ้ย ไอ้นักเลงหน้าตัวเมีย-ไอ้ลูกหมา--ได้ยินว่ามึงแน่นักเหรอ ได้ข่าวว่ามึงหนียวไปใช่เหรอ เอางี้ มึงฟันกูห้าที กูขอฟันมึงคืนทีเดียวเท่านั้น กูจะฟันให้หัวขาดกระเด็นบ่อเลย" เธอกัดกรามกรอดๆ พูดกับไอ้ชัยที่สักเต็มตัว แต่ตอนนี้สั่นเป็นลูกหมาตกน้ำ ด้วยความกลัวจริงๆ มันไม่เคยนึกเลยว่า จะเจอกับคนที่มีสีหน้าแววตาน่ากลัวเช่นนี้มาก่อน เกิดมาเป็นนักเลงตีรันฟันแทงคนมาก็มาก แต่ยังไม่เคยเจอคนที่มีตบะอำนาจมากขนาดนี้ ---ยิ่งสายตาที่มองนั้น ช่างน่ากลัว ราวจะขาดใจตายได้ถ้ามองนานๆ
    ---และมันเคยรู้มาก่อนว่า "คนที่มีลายมือขาด" (เส้นผ่าขวางกลางฝ่ามือ)นั้นสามารถ"คัดของ"(ทำลายวิชา)ได้ แม้จะมีรอยสัก หรือยันต์-ตะกรุดอะไรที่ว่าขลัง เหนียวนักหนา
    แต่ก็จะใช้มีดธรรมดาฟันแทงเข้าเนื่อได้ฉัวะๆ เหมือนฟันหยวกกล้วย ไอ้ชัยจึงได้แต่"ครับ"อย่างเดียว "กูขอนะ อย่าให้รู้ว่ามึงตีพี่กูอีก ไม่งั้นกูจะเอาเลือดหัวมึงออกมาล้างตีนกู""ครับๆผมกลัวแล้วครับ" พวกแม่ครัวนับร้อยที่มุงดูอยู่อยากจะกรี๊ดให้สะใจ ไม่มีใครสงสารไอ้ชัยเลยครับ เพราะพฤติกรรมที่มันมีมา ได้ขื่อว่า ถ่อย เถื่อน เลวทรามที่สุด แม่แต่นังฝน ลูกสาวยายจิ๋ม พูดผิดหุยังไม่ได้ มันเตะถีบลูกเลี้ยงเป็นว่าเล่น ยายจิ๋มก็ไม่กล้าหือ เพราะกลัวผัวเตะ

    --นี่หละครับ วีรกรรมของภรรยาผม ส่วนเทพท่านที่เคยเป็นกษัตริย์ ท่านชอบมีดดาบมากครับ สั่งให้ฝนไว้หลายครั้งจนคมกริบ แล้วท่านจับเหมือนไม้เท้า แต่จับที่ใบดาบแล้วกระแทกๆที่พื้น พอแบมือออกมาก็มีรอยแดงๆ แต่ไม่บาดมือท่าน ซึ่งถ้าเป็นคนธรรมดาจะต้องบาดลึกถึงกระดูกแน่นอน การใช้--การจับดาบ ท่านทำเหมือนมันไม่มีน้ำหนัก ดูเชี่ยวชาญงดงามเหมือนจิตรกรจับพู่กัน และแม่คุณภรรยาผม ก็ไม่ชอบเป็นร่างทรง จะหนีเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ท่านก็ลากเธอออกมา บังคับเข้าทรงจนได้ เพราะท่านมีธุระอยากจะคุยกับผมมาก ม่านว่า "ปิ๊กบ้านเฮาเต๊อะ แม่ก็มีบ้านเช่าตั้งหลายหลัง จะมากลำบากอยู่ที่นี่ทำไม" ผมก็แปลกใจว่าท่านรู้ได้ยังไง และท่านก็ไม่ค่อยพูดภาษาเหนือด้วย พูดภาคกลางตลอด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2012
  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD id=postmessage_745135 class=t_msgfont>-----------------------------------------------------------------
    ไปเจอหนังสือชื่อ สู่สุขาวดี-Strange dimension อะไรแบบนี้ ซื้อมาแล้วเสียดายตังครับ ทั้งเล่มสู้เนื่อหาจากเน็ต หรือของผมบันทัดเดียวยังไม่ได้ เพราะเนื้อหาโหรงเหรงครับ
    -พอจะจับใจความได้วา ม้ามีเขา หรือตัวยูนิคอร์นมีจริง พบแถวอาหรับ และในอเมริกาก็เยอะ คำรามเหมือนสิงโต มีแต่ตัวผู้ เพราะชาวต่างดาวนำมาเพาะเลี้ยงโดยการโคลนนิ่ง และพอเสร็จภารกิจก็เอากลับไปดาวของพวกเค้า
    -----------------------------------ต่อในเรื่องชาวต่างดาวจากหนังสือครับ--------
    --เทคโนโลยี่บางอย่างก็เหนือกว่าที่รัฐบาลสหรัฐจะเข้าใจได้ ยิ่งในฐานบางแห่งของเกรย์
    --บางส่วนในฐานใต้ดินจะมี7 ชั้น แต่ละชั้นมีลิฟท์ที่ไร้สาย เพราะใช้ระบบแม่เหล็ก ซึ่งแต่ละชั้นที่ว่า จะมีระบบควบคุมความลับที่ต่างกัน
    ---ชั้นที่ลึกที่สุด น่าจะลับมากๆ มีการทดลองที่เหมือนฝันร้ายแบบเดียวกับในหนังแฟรงเกนสไตน์ คือทำการทดลองผสมสารพันธุกรรมระหว่างคนกับสัตว์ หรือยีนส์ของชาวต่างดาว ชึ่งจุดนี้ก็เคยเป้นตัวจุดชนวนสงครามของมนุษย์กับชาวต่างดาวดังกล่าวมาแล้ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  5. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    -----มันส์มั้ยครับ วีรกรรมสู้เพื่อสิทธิสตรีของภรรยาผม เรื่องจริงครับไม่ได้ไส่ไข่และใส่ลูกเกค เพราะไม่ใช่ข้าวผัดอเมริกันนะครับ

    --หน่อไม้ไผ่ตง สดๆ หวานๆ นำมาต้มใส่กระดูกหมู ซดน้ำชื่นใจครับ แม้ตอนนี้มันจะแพงอยู่ที่ กก.ละ 50 บาท แม่ค้าบอกว่าเคยมีราคากก.ละ 150-180บาท แพงกว่าเนื้อหมูหลายเท่า เพราะถ้าแกะกาบออกมาแล้วเหลือครึ่งเดียวครับ

    --ผมลองซื้อใบย่านางมา 2กำ 10บาท คั้นน้ำได้สองชาม --โดยใส่ครกตำก่อน กินแล้วหลับไปทันที เพราะยาสมุนไพรจะไปปรับธาตุ ระบบต่างๆ ยิ่งตัวนี้ มีค่าพอๆกับสมุนไพร"งว่านฮ็อก" จากเวียดนามที่นับใบขายกัน--น้ำมะตูม กินแล้วก็เป็นแบบนี้เหมือนกันครับ เมืองไทย ต้นไม้ใบหญ้าริมทางยังเป็นยาดีๆ แบบยาเทวดาเลย

    --ก่อนเที่ยงคืนผมจะต้องนั่งสมาธินะครับ ไม่ค่อยได้มา มาทีก็จะหาเรื่องสนุกๆมาเล่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2012
  6. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=720 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2 height=41><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text-black-big3 style="PADDING-LEFT: 1em" width="65%">10 อันดับความผิดพลาดผู้นำมะกัน</TD><TD style="PADDING-LEFT: 1em" width="35%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=229 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detail-bar-bg-barnew.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=31><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=229 border=0><TBODY><TR><TD width=35> </TD><TD class=menu-topten align=middle width=97>ลำดับ 10-1</TD><TD class=menu-topten align=middle width=97>ลำดับ 1-10</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: 50% top; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detail-line-bar.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-x" align=left colSpan=2></TD></TR><TR><TD class=text-black style="PADDING-LEFT: 1em; BORDER-BOTTOM: #cccccc 1px dashed" align=left colSpan=2 height=32>สำนักข่าวเอพีรายงานว่าศูนย์แมคคอนแนลแห่งมหาวิทยาลัยหลุยส์วิลล์ในรัฐเคนทักกี ประเทศสหรัฐ ได้จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นนักวิชาการเรื่องความผิดพลาดร้ายแรงที่สุด 10 อันดับของประธานาธิบดีสหรัฐ ผลปรากฏว่าสิ่งที่นักวิชาการมองว่าร้ายแรงที่สุด</TD></TR><TR><TD style="PADDING-TOP: 1em" align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-01.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>10</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดี บิล คลินตัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดี บิล คลินตันมีสัมพันธ์สวาทกับ น.ส.โมนิกา ลูวินสกีนั้น นักวิชาการส่วนใหญ่ให้อยู่อันดับสุดท้ายเพราะมองว่ากระทบต่อตำแหน่ง ประธานาธิบดีของคลินตันมากกว่าจะมีผลกระทบต่อประวัติศาสตร์ และประชาชนชาวอเมริกัน </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-01.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>9</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนกับกรณีอิหร่านคอนทรา </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-01.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>8</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี ยอมให้กลุ่มเบย์ ออฟ พิกส์ อินเวชั่น โค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์คิวบาอันนำไปสู่วิกฤติขีปนาวุธคิวบา</TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-01.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>7</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดีโธมัส เจฟเฟอร์สัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดีโธมัส เจฟเฟอร์สัน ออกกฎหมายคว่ำบาตรทางการค้ากับยุโรปในปี 2350 ช่วงสงครามนโปเลียน</TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-01.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>6</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดีเจมส์ เมดิสัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดีเจมส์ เมดิสัน ที่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้สหรัฐทำสงครามกับอังกฤษในปี 2355 ได้ </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-01.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>5</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันเข้าไปพัวพันกับคดีวอเตอร์เกต</TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-01.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>4</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดีวูดโรว วิลสัน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดีวูดโรว วิลสัน ไม่ยอมลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายส์หลังสงครามโลกครั้งที่ 1</TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-03.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>3</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดีลินคอน จอห์นสัน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดีลินคอน จอห์นสัน คว้าอันดับ 3 ไปครองจากความผิดพลาดที่ปล่อยให้สงครามเวียดนามรุนแรง และยืดเยื้อ </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-02.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>2</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ตัดสินใจเข้าข้างคนขาวทางภาคใต้หลังสงครามกลางเมืองปะทุไม่นาน แล้วไม่ยอมให้ความเป็นธรรมแก่คนผิวดำทางใต้นอกเหนือไปจากการประกาศเลิกทาส</TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2> </TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-top-04.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" vAlign=top align=middle height=87><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=719 border=0><TBODY><TR><TD class=text-White-big style="PADDING-TOP: 0.1em" vAlign=center align=middle width=76 height=20>1</TD><TD class=text-red-big2 style="PADDING-LEFT: 1em" vAlign=bottom align=left width=643>ประธานาธิบดีเจมส์ บูคานัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; PADDING-LEFT: 2em; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-center.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=673 align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle width=165><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=128 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #cccccc 5px solid; BORDER-TOP: #cccccc 5px solid; BORDER-LEFT: #cccccc 5px solid; BORDER-BOTTOM: #cccccc 5px solid" align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=508><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=left border=0><TBODY><TR><TD class=text-black align=left>ประธานาธิบดีเจมส์ บูคานันประธานาธิบดีเจมส์ บูคานัน ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นได้ </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left> </TD></TR><TR><TD class=text-black align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-POSITION: center 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(images/topten_detai-bottom.gif); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" height=36> จาก ท็อปเท็นไทยแลนด์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=text-black vAlign=bottom align=middle colSpan=2 height=25></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2012
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ปัญหาตะวันออกกลาง

    ดินแดนตะวันออกกลาง ได้แก่แถบประเทศ อิรัก ตุรกี อิหร่าน คูเวต ซาอุดิอาระเบีย ซีเรีย ไซปรัส จอร์แดน เลบานอน อิสราเอล สาธารณรัฐอาหรับ อียิปส์ ซูดาน เยเมนเหนือ เยเมนใต้ โอมาน รัฐต่าง ๆ รอบอ่าวเปอร์เซีย (อาณาจักรออตโตมันเติร์ก) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันของโลก เป็นเส้นทางเดินเรือผ่านคลองสุเอซ และเป็นแหล่งกำเนิด 3 ศาสนาสำคัญ (ยิวหรือยูดาย คริสต์ และอิสลาม) ทำให้เชื่อว่า พระผู้เป็นเจ้าของยิว มอบดินแดนปาเลสไตน์ให้ชาวยิว เรียกว่า ดินแดนแห่งสัญญา (Palestine or The Land)
    ในคัมภีร์ไบเบิล อับราฮัม ได้พาชาวยิวอพยพไปอยู่อียิปต์ เนื่องจากความแห้งแล้ง จนกระทั่งถึงถึงปี 2000 ก่อนคริสตกาล ได้อพยพกลับมา และตั้งเป็นอาณาจักรเมื่อ 1025 ปี ก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โรมันผู้ครอบครองดินแดน กวาดต้อนชาวยิวไปเป็นทาส ทั่วยุโรป
    ตอนต้นของคริสศตวรรษที่ 7 เกิดศาสนาอิสลามขึ้นและแพร่กระจายทั่วคาบสมุทรอาหรับ มีการสร้างโบสถ์ Dome of the Roch ที่นครเยรูซาเลม พวกเติร์กเข้าครองดินแดนปาเลสไตน์และยอมรับศาสนาอิสลาม ปี ค.ศ. 1095-1291 เกิดสงครามครูเสด ระหว่างชาวคริสต์และมุสลิม เพื่อแย่งกรรมสิทธิ์ในนครเยรูซาเล็ม หลังจากนั้น ก็ถูกชาวตาด และมองโกล ยึดครอง ตามด้วยอียิปต์ เติร์ก และอังกฤษ
    ปลายคริสตวรรษที่ 19 ชาวยิวเริ่มอพยพเข้าสู่ดินแดนปาเลสไตน์เพิ่มขึ้น นายธีโอดอร์ เฮิร์ซส์ เศรษฐีชาวยิวออสเตรีย ได้ก่อตั้งองค์การไซออนนิสต์ (Zionism) จุดประสงค์เพื่อก่อตั้งประเทศยิว
    ช่วงสงครามโลกที่ 1 อังกฤษได้ขอร้องให้ยิวช่วยรบด้วย โดยแลกเปลี่ยนกับสิทธิการดูแลดินแดน ปาเลสไตน์ ทำให้ชาวยิวอพยพเข้าไปมากขึ้น จนเกิดข้อพิพาทบาดหมางกับชาวอาหรับ เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาได้ขอร้องอังกฤษให้ยิวมีประเทศของตน ส่งผลให้ฝ่ายอาหรับก่อตั้งองค์การสันนิบาต อาหรับขึ้นในปี ค.ศ. 1945 เพื่อต่อต้านยิว และปี ค.ศ. 1947 องค์การสหประชาชาติเสนอให้แบ่งดินแดนกัน ต่อมา นายเดวิด แบนกูเรียน ประกาศตั้งประเทศอิสราเอล กองทัพอาหรับจึงโจมตียิวทันที เกิดสงคราม 4 ครั้งดังนี้
    1.1 ค.ศ. 1948 สาเหตุเนื่องจากยิวได้ก่อตั้งประเทศขึ้น อาหรับบุกก่อนแต่พ่ายแพ้ ไป
    1.2 ค.ศ. 1956 สงครามวิกฤต์การณ์คลองสุเอซ ยิวเป็นฝ่ายโจมตีก่อน อังกฤษและฝรั่งเศสเข้าแทรกแซงเหตุการณ์นี้ก่อน แต่อเมริกาแสดงความไม่พอใจที่สองประเทศเข้าแทรกแซง ทำให้ทั้งสองต้องถอนตัวออกมา และทำให้ยิวยึดฉนวนกาซา และทะเลทรายไซนายได้ สงครามยุติลงเมื่อ สหประชาชาติเข้ารักษาความปลอดภัยในฉนวนกาซา และยิวได้ใช้สิทธิในอ่าวอกาบา
    1.3 ค.ศ. 1967 สงคราม 6 วัน อียิปต์ ปิดอ่าวอกาบา เพื่อไม่ให้ยิวใช้ และเรียกร้องให้ สหประชาชาติถอนกำลังออก แต่อิสราเอลก็เป็นฝ่ายชนะอีก
    1.4 ค.ศ. 1973 อาหรับโจมตีก่อน และอเมริกาได้เข้ามาช่วยอิสราเอลรบ ส่วนรัสเซียเข้าช่วยฝ่ายอาหรับ แต่มีการเจรจา "การเจรจาที่แคมป์เดวิด" เพื่อยุติสงคราม
    ปี 1964 มีการก่อตั้งองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์(พี แอล โอ) เพื่อต่อต้านยิว และจัดตั้งรัฐอิสระสำหรับชาวอาหรับ โดยนายยัสเซอร์ อาราฟัด ตอนแรกมีการใช้ความรุนแรง เช่น จี้เครื่องบิน ลักพาตัวนักการฑูต ต่อมา มีการแตกแยกเป็นกลุ่มย่อยมากมาย เช่นกลุ่มฟาตาร์ ที่มีการสังหารหมู่นักกีฬาโอลิมปิคชาวยิวที่ กรุงมิวนิค เยอรมัน ปัจจุบัน อิสราเอลและพี แอล โอได้เจรจายอมรับรัฐปาเลสไตน์อิสระของนาย อาราฟัด ในเขตยึดครองของอิสราเอล
    นอกจากนี้ ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ยังก่อให้เกิดวิกฤตการณ์หลายจุด เช่น สงครามเลบานอน เลบานอนเป็นรัฐที่อยู่ระหว่าง ซีเรียและอิสราเอล ซึ่งเป็นศัตรูกัน ทำให้ได้รับผลกระทบกัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านเชื้อชาติและศาสนา และการเข้าไปตั้งฐานปฏิบัติการขององค์การ พี แอล โอ และการแทรกแซงของต่างชาติ
    เลบานอนได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1943 มีประชากรประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งเป็น คริสต์ 40% และ มุสลิม 12 นิกาย 60% แต่ได้รับสิทธิทางการเมืองน้อยกว่าคริสต์ มีประธานาธิบดีเป็นคริสตื แต่นายกรัฐมนตรีเป็นมุสลิม จึงเกิดความขัดแย้งกัน ปีค.ศ. 1975 เกิดสงครามกลางเมือง องค์การ พี แอล โอ ได้เข้าแทรกแซงการเมืองของเลบานอน ส่วนซีเรียได้กลียดชังอิสราเอลที่ยึดที่ราบสูงโกลานไป จึงสนับสนุนให้ พี แอล โอ ต่อสู้กับยิว
    ในเลบานอน กลุ่มมุสลิมซีอะห์ (มีประมาณ 1 ล้านคน) รวมตัวกันเรียกว่า ซีอะห์อามาล มีนายเบรี รัฐมนตรีกระทวงยุติธรรม เป็นผู้นำ ขณะที่อิสราเอลบุกเลบานอน มุสลิมซีอะห์ได้ลักพาตัวชาวอเมริกาและยุโปร ระหว่างปี ค.ศ. 1982-1987 เมื่อพี แอล โอ ถูกขับออกไปแล้ว ชีอะห์ เข้าโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ ปี ค.ศ. 1987 และต่อสู้มุสลิมดรุซ ซึ่งมีนายวิลิด จุมบลัดเป็นผู้นำ ซีเรียเข้าปราบปรามตามคำขอของฝ่ายบริหารเลบานอนซี่งมีนายกรัฐมนตรีเปนมุสลิมซุนนี
    ยังมีมุสลิมฮิซบาลา (อิซบาเลาะห์ -- พวกของพระเจ้า) ทำการจับกุมอเมริกาชุดล่าสุด 4 นาย จุดประสงค์ของกลุ่มฮิซบาลาคือต้องการเปลี่ยนเลบานอนให้เป็นรัฐอิสลามเช่นเดียวกับอิหร่าน แต่กลุ่มอื่นไม่ต้องการ
    พี แอล โอ พยายามสนับสนุนให้กลุ่มมุสลิมดรุซ ให้ก่อตั้งรัฐอิสระบนที่ราบสูงโกลาน
    สงครามอิรัก-อิหร่าน ปีค.ศ. 1980 ชาวอิหร่านหรือ ชาห์ โดยผู้นำศาสนานิกายซีอะห์ อยาดุลเลาะห์ โคไมนีเป็นผู้นำ ส่งผลให้พระเจ้าชาห์และพระราชวงศ์ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ ชาวอิหร่าน 90% เป็นมุสลิมชีอะห์ ซึ่งนับถืออัลเลาะห์และอาลี (สาวกองค์ที่ 4 และบุตรเขยของท่านนบีมูฮัมหมัด)
    พระเจ้าชาห์ซึ่งลี้ภัยไปเม็กซิโก ได้เดินทางไปรักษาโรคมะเร็งที่สหรัฐอเมริกา ขณะนั้น โคไมนี่ด้กวาดล้าง ต่อต้านอเมริกาและรัสเซีย กลุ่มคอมมิวนิสต์ ตัดความสัมพันธ์กับอียิปต์และอิสราเอล สนับสนุนกองโจรปาเลสไตน์
    การลี้ภัยนี้ ทำให้อิหร่านโกรธมาก และจับเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาในกรุงเตหรานเป็นตัวประกันถึง 52 คน สหประชาชาติจึงลงโทษทางเศรษฐกิจ แต่ไร้ผล อเมริกาพยายามลดความตึงเครียดโดยส่งพระเจ้าชาห์ไปปานามา
    ขณะนั้นใกล้หมดวาระการเป็นประธานาธิบดีของนาย จิมมี่ คาร์เตอร์ เขาจึงต้องการเร่งรัดให้ปัญหาอิหร่านหมดไป เขาจึงตัดสินใจ อพยพชาวอเมริกันออกจากอิหร่าน ส่งกองทัพเข้าสู่อ่าวเปอร์เซีย รัสเซียจึงส่งกองทัพเข้าสู่อ่าวเช่นกัน
    อิหร่านเผชิญปัญหาภายในจน ประธานาธิบดีบานีซาดร์ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ ปี 1980 พระเจ้าชาห์สิ้นพระชนม์ อิหร่านจึงเปลี่ยนเงื่อนไขเป็น เงินสด และทองคำ 24 พันล้านดอลลาร์ และมีการต่อรองเหลือ 5.5 พันล้านดอลลาร์ และชะลอการส่งคืนตัวประกัน จนถึงการสาบานตนของนายเรแกนประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา โดยมีการส่งคืนเมื่อ 20 มกราคม 1980 ระหว่างนี้ อิรักได้บุกยึดร่องน้ำซัทเอล อาหรับและแคว้นคูเชสถานของอิหร่าน ทำให้เกิดสงครามอิรัก-อิหร่าน
    สงครามนี้ยุติลงในปี ค.ศ. 1988 และทำให้ราคาน้ำมันโลกลดลง เนื่องจากทั้งสองชาติต้องขายน้ำมันเพื่อนำเงินมาใช้ทำสงคราม
    ปัญหาสหรัฐอเมริกากับอิหร่านและกบฎคอนทรา มีข่าวลือว่า อเมริกาลักลอบขายอาวุธให้อิหร่าน เพื่อใช้ทำสงครามกับอิรัก และนำกำไรไปสู่กบฎคอนทรา ในประเทศนิการากัว จึงมีการสอบสวนขึ้น
    อเมริกากลาง พยายามต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ ปีค.ศ. 1959 นาย ฟีเดล คาสโตแห่งคิวบาโค่นล้มรัฐบาล และประกาศเป็นคอมมิวนิสต์ และรัสเซีย(ซึ่งเป็นคอมมิวนิสตื) ตั้งฐานทัพจรวดในคิวบา รัฐบาล (ฝ่ายขวา) แพ้ฝ่ายกบฎ จึงมีการจัดตั้งรัฐบาลแซนดินิสต้า จึงมีกลุ่มกบฎคอนทรา ซึ่งต่อต้านรัฐบาลคอมมิวนิสต์
    มีการส่งเงินช่วยกบฎคอนทราหลายครั้ง นาวาโทโอลิเวอร์ นอร์ธ เจ้าหน้าที่ C.I.A ได้ส่งเงินโอนเข้าบัญชีกบฎคอนทราอย่างลับ ๆ และพยายามกันประธานาธิบดีเรแกนออกจากความผิดนี้ ทำให้ชาวอเมริกาไม่คิดเอาผิดต่อ นายเรแกน
    สถานการณ์อ่าวเปอร์เซีย อ่าวเปอร์เซียเป็นที่ตั้งของประเทศอิรัก อิหร่าน คูเวต โอมาน บาร์เรน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สาธารณรัฐเอมิเรตส์ มีการส่งออกน้ำมันถึง 1 ใน 5 ของโลก เมื่อปี ค.ศ. 1980 เกิดสงครามอิรัก-อิหร่านขึ้น ทั้งอเมริกาและรัสเซียได้เข้าแทรกแซงสงครามนี้

    อ้างอิงจาก
    at Singhthong007.com
     
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---มีอยู่ครั้งนึง ที่เทพมาบอกว่าเทพหนุมาณองค์ใหญ่ จะมาคุยกับผม เพราะอดีตเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน เขามีชื่อว่า "หนุมาณแก่นเพชร" --แสดงว่าหนุมาณ ต้องมีหลายองค์มั้งครับ

    --และอีกพักหนึง เทพก็ถามผมขึ้นมาว่า"รู้สึกอะไรมั้ย ชื่นใจมากๆเลย" ผมก็รู้สึกก่อนท่านถามอีก เป็นความเย็นใจชนิดหนึ่ง สดชื่น มีความสุขมากเลยครับ
    ---ท่านบอกว่า "เค้าไม่มาแล้ว แต่ส่งจิตมาให้พร"


    ---เจ้าแม่องค์หนึ่ง ชอบเก็บเอาวิญญาณเด็กมาเลี้ยง
    และเป็นประเภทที่ ไม่มีใครเค้าเอาแล้ว เช่น ซนสุดขีด หรือดื้อรั้นเกเรไม่เอาถ่าน แสดงถึงว่าท่านมีมีเมตตาสูงต่อสรรพชีวิตครับ แม้แต่ปลาทองหรือกระต่ายที่บ้านแม่ผมมันตาย ท่านยัังนั่งร้องไห้เลยครับ
    ---ท่านบอกว่า มีไฟใหม้ที่ประเทศไต้หวัน และท่านก็เก็บเอาวิญญาณเด็กที่ตายมา แต่ว่า หากายทิพย์ส่วนที่เป็นสมองไม่เจอ ก็คือลูกสาวคนเล็ก ทีแรกจะฝากไว้ 8ปี แต่ภรรยาผมไม่ยอม จึงได้อยู่มาจนอายุ 21 แล้ว เป็นแบบไฮเปอร์ เรียนรู้ช้า แต่สิ่งที่ชอบจะจำได้แม่น เล่นอุปกรณ์ไฮเทค เกม โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์จะเก่ง แม้ว่าภาษาอังกฤษจะไม่เอาไหนก็ตาม

    --เทพองค์นี้คือเจ้าแม่กวนอิม เดิมทีผมอ่านเรื่องของท่าน ปาฏิหารย์อะไรต่างๆ รู้สึกหมั่นไส้ทำนองว่า เว่อร์ๆด้วยซ้ำ พอเจอองค์จริง--ผมต้องนั่งร้องไห้อยู่แทบเท้าท่าน เพราะท่านเป็นห่วงผมและเข้าใจส่วนลึกในใจผมจริงๆ และท่านบอกว่าผมเคยเป็นทหารองครักษ์ คอยต่อสู้กับพวกที่จะมาฆ่าท่าน ท่านจึงเป็นห่วงผมมาก

    ---พอได้พบปะพูดคุยกับท่าน จะมีความเยือกเย็นเข้าไปในจิตใจ สดชื่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ท่านที่รัก ความเย็นใจนี้ จะคงอยู่ได้ถึงสามวัน คล้ายกรณีของท่านไสบาบา ที่ท่านเคยมาแฝงภรรยา ทำให้ทั้งห้องเยือกเย็นด้วยพลังแห่งเมตตา ทางเทพบอกว่า ท่านเป็นระดับอาจารย์ของเทพ ตอนที่ท่านยังมีชีวิต เทพก็งงว่า เบื้องบนก็มีท่าน ทำไมโลกมนุษย์ก็มีท่านด้วย ที่แท้ท่านทำเหมือนแบ่งภาคอวตารมา ร่างท่านก็คล้ายกับร่างทรงของเทพ บางครั้งก็ให้ลูกศิษย์ทำหน้าที่แทน ท่านไสบาบาบอกว่า ในอดีตชาติ แม่ผมนะเป็นน้องสาวที่ท่านรักมาก และผมเป็นลูกชายของท่าน ผมยังเคยฝันเห็นท่าน เป็นชายร่างใหญ่คล้ายฝรั่ง(ร่างท่านใหญ่เท่าๆกับ สตีเว่น ซีกัล และท่านก็ชอบดูหนังของสตีเว่น) ผมยาวสลวยประบ่าเป็นม้วนๆ ผมนั้นเป็นสีทอง ผมและท่านก็ร้องเพลงสวดที่เรียกว่า "เพลงภชัน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    กลับมาใช้คอมพ์เครื่องเดิม มีรูปภาพสวยๆ จะได้ดูกันให้สบายตาครับ

    ---------------------
    โฉมหน้าที่แท้จริง! ฆาตกรโหด "แจ็ค เดอะ ริปเปอร์"

    [​IMG]ภาพ © มติชนออนไลน์
    ข้อมูลใหม่สุดสะพรึงเพิ่งประกาศให้โลกรู้ คดีฆ่าต่อเนื่องโสเภณี "แจ็ค เดอะ ริปเปอร์" แท้จริงเขาอาจไม่ใช่ผู้ชาย แต่เป็นผู้หญิงที่ก่อคดีจากแรงแค้น
    จากปลายปากกาของนักเขียนวัย 62 ปี นายจอห์น มอร์ริส ที่ป่าวประกาศว่าฆาตกรที่แท้จริงคดีโฉดคือผู้หญิงชื่อ "ลิซซี่ วิลเลี่ยม"ลงในเนื้อหาหนังสือเล่มใหม่ชื่อ "แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ในมือผู้หญิง" โดยเขากล่าวว่าผู้ร้ายในคดีนี้น่าจะเป็นภรรยาของ เซอร์จอห์น วิลเลี่ยม ที่ถูกนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าเขาคือฆาตกร สำหรับเหตุจูงใจในการลงมือนายจอร์นคาดอาจจะเกิดจากแรงแค้นของนางลิซซี่ที่ไม่สามารถมีลูกได้ เพราะศพของผู้ตายถึงสามรายถูกคนร้ายผ่ามดลูกทิ้ง และเหยื่อที่ถูกฆ่าไม่ถูกข่มขืนและทำร้ายทางเพศ
    แม้ว่าข้อมูลจะบ่งชี้ชัดว่า แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ เป็นผู้หญิง แต่นักประวัติศาสตร์ก็ไม่ลงความเห็นว่าเขาเป็นผู้หญิง เพราะมีความเชื่อฝังลึกว่า แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ เป็นผู้ชาย พร้อมกันนี้เขายังเขียนถึง ข้อกล่าวหาที่บอกว่า แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ฆ่าเหยื่อเพียงเพราะต้องการครอบครองอวัยวะที่หายไป นั้นดูจะเป็นเรื่องที่เกินจริงไปหน่อย
    ที่มา: มติชนออนไลน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  10. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ----ทำไมกระทู้นี้เงียบๆไปน่ะ จะพูดถึงเรื่องเซ็กส์แล้วนะ
    --ผมมานั่งนึกถึงชีวิตคนเรา เกิดมา เรียนหนังสือ หาคูครอง มีลูกกันแล้วก็แก่ แล้วก็ตาย แต่กระบวนการจับคู่ แต่งงานมีลูกเต้านี่เป้นของแปลก ( เนื้อคู่กันแล้วก้คงไม่แคล้วกันไปได้) มองเห็นผู้หญิงสวย ผู้ชายหล่อ ปิ๊งกัน มีความรัก แล้วก็มาแต่งงานกัน มันดูแปลกๆนะ คนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แล้วมาอยู่ด้วยกัน24 ชม.เป็นปีๆอะไรแบบนั้น

    --ในตำราเรื่องไสยศาสตร์ จะเป็นเกี่ยวกับนะเมตตา ทำสเน่ห์(ความรัก)ซะครึ่งเล่ม แสดงว่า การจับคู่ หรือ เหมตติ้ง เดทติ้งอะไรนี้มันก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับมนุษย์--ใครๆก็ต้องการให้มีคนมารักมาเอาใจใส่ (เทนเด้อร์เลิฟแอนด์แคร์--Tender Love and Care make the life worth living) ความรักที่อ่อนโยน ละมุนละไมการเอาใจใส่ดูแล ทำให้มันมีค่าที่จะมีชีวิตอยู่(เนื้อเพลงของเอลวิส)

    --กามเทพของฝรั่ง เรียกว่าคิวปิด เป็นเด็กเล็กๆน่ารัก ถือธนู
    --กามเทพของอินเดีย เป็นเด็กหนุ่มอายุราว18 ปีถือคันศรที่ทำด้วยต้นอ้อย แผลงศรทีไม่มีพลาด ระดับเทพ-- มหาเทพยังโดนเข้าไปเต็มๆ โดยไม่รู้ว่ายิงมาทางไหนเลยครับ จึงเรียกว่า "อนงค์"ก็ได้ เพราะท่านมองเห็นยาก เหมือนไม่มีตัวตน
    --กามเทพองค์ที่มาที่บ้านนี้ ท่านเป็นเด็กอายุสามขวบพูดจาไพเราะน่ารัก จะดลบันดาลให้มีเงินทองก็ได้
    ---ดังนั้นหนุ่มสาวใดที่กำลังไร้รัก ขาดความหวาน ก็สามารถบูชาท่านได้ครับ
    ---แต่เรื่องเงินกับความรักมันไม่ได้มาพร้อมกันนะครับ ได้อย่างเสียอย่างก็เลือกเอา--
    แล้วหนุ่มหล่อมาดแมนของคุณสาวๆล่ะ สามารถฝ่าฟันผ่านดงสาวๆมาได้อย่างไร ระวังเจอเก้งกวาง --พวกอุ๊ยตายว้ายกรี๊ด แอบจิต แอบแฝงมานะครับ แบบว่าหนุ่มเลือกสาวยังไม่น่าห่วงเท่านะครับ
    ----ความรัก หรือความใคร่ (เซ็กส์)ต่างก็มีพลังพอที่จะฆ่าชีวิตของท่านและคนรอบๆตัวท่านได้อย่างง่ายดาย อย่าไปประมาทกับมันนะครับ

    --ความรักไม่ได้ครอบงำคน คนต่างหากยอมถูกครอบงำเอง
    --ถามฟ้า ฟ้าไร้คำ หยดน้ำตาที่หลั่งไหลมาจากไหน
    --จะว่าไปนะ ความรัก--ความหลง เป็นอุปสรรคตัวร้ายของนักปฏิบัติ พระอาจารย์ฝั้นเดินสวนกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่กลับลืมหน้าผู้หญิงคนนั้นไม่ลง ท่านต้องนั่งสมาธิอย่างอุกฤษณ์ เป็นเวลา 7 วัน เพื่อตัดผู้หญิงคนนั้นออกไปจากใจ

    --หากท่านต้องการปฏิบัติทางศาสนาเพื่อการหลุดพ้น ก็อย่าให้เนื้อคู่ของท่านมาเกิดพร้อมกันล่ะ เดี๋ยวจะเป็นตัวถ่วงเสียปล่าวๆ อันว่าคู่กันแล้ว จะอยู่สุดหล้าฟ้าเขียวคนละซีกโลก ก้ต้องมาเจอกัน รักกันแบบว่า ตาต่อตาก็ปิ๊งๆ แค่มองหน้าสบสายตา ก็ตัวชาไปเลย --มันเป็นจริงนะ สำหรับบุพเพสันนิวาส(บุพเพแปลว่า เดิมที-ชาติก่อน สันนิวาส --เคยอยู่ร่วมกัน) จะคุยอะไรมันเข้ากันไปหมด คุยกันจนลืมวันและเวลา เหมือนที่ฝรั่งว่า ตกหลุมรัก --"ฟอลอินเลิฟ" ทางเหนือเรียกว่า "เมาสาว" คือมีอาการเหมือนคนเมาเหล้าหรือติดยา ไม่เห็นหน้าเห็นหลังคาบ้านก็ยังดี อะไรแบบนั้นเลยนา
    --ซึ่งปกติถ้าอ่านนิยายหรือดูละคร ผู้อ่านคงจะเกิดอาการขำมากๆ
    ว่า"เว่อร์" หรือ"คลื่นไส้-จะอ้วก" แต่ถ้าเจอกับตัวเอง มันเป็นเอามากๆ จะหัวเราะไม่ออก เกิดความซาบซึ้งว่า "อาการบ้ารักมันเป็นเช่นนี้หนอ"
    --ผู้อ่านจะคิดว่าผมไม่เคยเจอแล้วมานั่งโม้ โห..ผมมีเรื่องรักๆหลงๆมาก็เยอะครับ เยอะมาก คนเกิดวันจันทร์เจ้าชู้ครับ เป็นประเภทมากชู้หลายเมีย(ไม่ฟันธง) แต่ว่าเสริมให้เป็นผู้หญิงสวย --ผู้ชายหล่อ--ตาแวววาวใสเป็นประกาย--ถ้ามีราศีคือดวงชะตาร่วมด้วยนะครับ--บางคนเห็นลายมือผมบอกว่าเจ้าชู้ แต่บางเส้นก็ชี้ไปทางศาสนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---เรื่องของกาม ในทางศาสนาท่านเปรียบเอาไว้ว่า ชายคนหนึ่งหนีช้างป่าที่ดุร้าย ตกลงไปในบ่อลึกที่มีจระเข้ดุร้ายอยู่ พอดีมือไปจับเอารากไม้ไว้อย่างง่อนแง่นเต็มที และพอดีที่มีน้ำผึ้งหยดจากรวง ร่วงมาใส่ปาก สองสามหยด ช่วยประโลมใจ-กายให้สร่างทุกข์ไปได้บ้าง
    --น้ำผึ้งนั้นก็คือกามคุณ หรือความรู้สึกทางเพศนั่นเอง มันเป็นของมีน้อย มีจำกัด มีแค่ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต โดยเฉพาะชายไทย อายุ40 ขึ้นจะเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพ หรือกามตายด้านราวสามในสี่คน โรคใกล้ตัวเช่นเบาหวาน ก็มีส่วนมากๆนะครับ

    --คนจีน หรือชาติต่างๆ ต้องมียาปลุกหรือยาโป๊ว ซึ่งขายกันในราคาแพงๆ ยาไวอากร้าก็เม็ดละพันนะครับ

    --สุภาษิตจีนบอกว่า"ถ้าขาดลิ้นไว้รับรส กับขาดอวัยวะเพศอีกอย่าง จะมีชีวิตอยู่ หรือว่าตายไป ก็มีค่าเท่ากัน"
    --ธรรมเนียมจีน ถ้ากตัญญูต่อพ่อ ต้องหาเมียน้อยวัยเอ๊าะขบเผาะให้ท่าน จะได้แจ่มใส มีกำลังใจ มีอายุยืนนาน--และทั้งระดับกษัตริย์---ขุนนาง จนถึงคนธรรมดา ก้ฆ่ากันตายกันมากเพราะเรื่องมีหลายเมียนี่แหละ ลูกเมียน้อย ฆ่าลูกเมียหลวง---ยันชั้นหลาน เป็นความวุ่นวายที่ไม่คุ้มค่า แต่ละชีวิตเขาก็ต้องการจะอยู่แบบมีฐานะ มีการยอมรับในสังคม และมีความสุข อันนี้เราว่ากันไม่ได้ ถ้าเลือกเกิดได้ จะเกิดมาเป็นลูกเมียน้อยทำไม
    --ในยุคนี้แล้ว--คุณผู้ชายควรมองคุณผู้หญิงในฐานะเพื่อน เป้นผู้ที่อดทนอุ้มท้อง เลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ซักผ้า หุงหาอาหาร ไม่ได้เข้าร่วมสนุกสนานไปกับสังคม เพราะต้องทำหน้าที่ของแม่


    --ผู้หญิงก็สามรถปฎิบัติธรรมได้ และหลุดพ้นได้เช่นเดียวกันกับผู้ชาย อย่าหลง
    ตัวเองไปหน่อยเลยครับ บวชแล้วไม่ศึกษาปฏิบัติ จะได้บุญที่ตรงไหน


    --ผู้หญิงมีความอดทนมากกว่า ทนต่อชีวิตที่ซ้ำซากจำเจ และผู้หญิงมีญาณใน มีสัญชาติญาณที่ไวต่อสิ่งต่างๆ ซึ่งผมเองคิดว่าเป็นองค์ญาณแบบนึง และเค้ามีมาตั้งแต่เกิด ส่วนผู้ชายจะเชื่อมั่นในตัวเองมาก บางครั้งก็มากเกินไปครับ ทำให้ญษรแบบนี้มีในตัวน้อยมาก

    --และผุ้ชายทำงานต่างๆด้วยพลังบวกของความก้าวร้าว แต่ผุ้หญิงมีวิธีประณีประนอม มีวิธีการพูดจาที่นุ่มนวล และปลอบประโลมใจคนได้ ในขณะที่ผู้ชายมีเป็นศูนย์เลย พนักงานต้อนรับ ประชาสัมพันธ์ต่างๆจึงต้องใช้ผู้หญิงเป็นหลัก

    --เดิมทีงานโชว์รถ-ขายรถ ก้ไม่มีพรี้ตตี้ครับ แต่ทางญี่ปุ่นนิยมใช้ "แผนหญิงงาม" เลยกลายเป็นเทรดดิชั่น --ประเพณีที่ต้องมีไว้ครับ
    ---แม้กระทั่งค่ายรถยุโรปก็ต้องยอมรับครับ เช่นเดียวกับอาชีพโคโยตี้ กำเนิดก็มาจากหนังเรื่องหนึ่งแท้ๆ จะทำเป็นประวัติศาสตร์ กรณีศึกษา งานวิจัย หลักสูตรเพื่อสอนในมหาลัย พอดีว่าไม่มีผู้เชี่ยวชาญในด้าน นักร้องศาสตร์ เด็กดริ๊งศาสตร์ หลักสูตรการบริหารสถานบันเทิง พรี้ตตี้ศาสตร์ โคโยตี้ศาสตร์


    --- อ้าว จะไม่ให้มีก็ได้นะ ให้รัฐออกกฏหมายมาเลย ห้ามมีโคโยตี้และโทรศัพท์มือถือ-(ห้ามพูดคำว่า "คันหู" และดูมัน)-- แก้ปัญหาเด็กแว๊นก็ห้ามขายมอเตอร์ไซค์ ให้ใช้จักรยานซิ่งแทน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  12. veer

    veer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +356
    ติดตามอ่านอยู่นะครับ ได้ความรู้เยอะ หลากหลาย ขอขอบคุณครับ......
     
  13. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ----รัฐบาลที่ทำงานขัดกับกิเลสของคนหมู่มาก นั้นอยู่ไม่ได้หรอกครับ--- ห้ามเปิดสถานบันเทิง ห้ามขายเหล้า ห้ามคลิปอนาจาร ห้ามมีการร่วมเพศที่ไม่มีการแต่งงาน อะไรพวกนี้ รัฐบาลต้องลาโลกก่อนมันอย่างรวดเร็ว ทางที่ดีควรพบกันครึ่งทาง สู้กับยาเสพติดให้ชนะก่อนครัีบ อย่่างอื่นมันเรื่องเล็กๆ--ควรควบคุมกิเลสคนไว้ให้พอสมควร
    ---จะให้ประเทศปลอดสถานบันเทิง เป็นไปได้หรือ ในโลกนี้มีด้วยหรือ มีครับ--ผมขอภูมิใจนำเสนอประเทศศรีลังกาครับ งานรื่นเริงใหญ่โตก็คืนวันวิสาชบูชา มีการประดับไฟอย่างสวยงาม มีการประกวดร้องเพลงพื้นเมือง-สากล ที่เป็นไปในแนวพุทธศาสนา ทั้งประเทศมีสถานบันเทิงมั้ย--ไม่มีครับ
    --น่าปลื้มใจที่ทั้งประเทศเขาเดินตามรอยบาทพระพุทธองค์ครับ
    --หมอคนหนึ่งก้มหน้ายอมรับ และร้องไห้ไปกับญาติๆผู้ป่วย บอกว่าเขาพยายามช่วยผู้ป่วยเต็มที่แล้ว ด้วยความทุ่มเทอย่างเต็มที่ ขอโทษขอโพย และยอมรับว่ามีความผิดที่ทำให้ผู้ป่วยนั้นตาย
    --มีจริงหรือโรงพยาบาลแบบนี้ มีครับ มีที่ประเทศไต้หวันทั้งโรงพยาบาลดูสะอาดและเงียบสงบ แถมที่ล็อบบี้ยังมีคนมาบรรเลงเพลงเปียนโนเพราะๆให้ฟังอีกด้วย--เป็นโรงพยาบาลของมูลนิธิฉือจี้ ซึ่งก่อตั้งโดยแม่ชีรูปหนึ่ง โดยที่ท่านไปเยี่ยมคนป่วย ก็ไปเจอคนที่รู้จักกัน เขาก็บอกว่า "เห็นรอยเลือดนั่นไหม คนที่ท้องแก่มารอหมอ จนเธอนอนดิ้นตายตรงนั้น มีพวกพยาบาลนั่งมองอย่างเฉยเมย--ฉันอยากจะเห็นโรงพยาบาลในฝันเกิดขึ้นจังเลย"

    --ด้วยแรงบันดาลใจจากจุดนี้ ทำให้แม่ชีและเพื่อนๆ ได้มายืนเรี่ยไรในตลาดสด แต่ก็มีคนบริจาคให้เงินท่านน้อยมาก จนท่านเปลี่ยนวิธีการ ท่านได้ขอให้พระท่านทำกระบอกไม้ไผ่ที่หยอดเงินได้ นำมาแจกจ่ายให้กับคนทั่วไป ดังนั้นเงินจึงหลั่งไหลเข้าสู่มูลนิธิอย่างต่อเนื่อง
    --แรกเริ่มแม่ชีก็ไปขอนุญาตต่อพระอาจารย์ๆ ก็บอกว่า "นี่เป็นภาระอันหนักมาก งานสร้างโรงพยาบาล และงานมูลนิธิ ก็เป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ผูกพันยาวนาน แต่ก็ขอเอาใจช่วยให้แม่ชีได้มีโอกสแผ่เมตตาสู่สรรพสัตว์"
    --คิดว่าตอนนี้มี รพ.4 แห่งในไต้หวันครับ และมีนโยบาลใช้วัสดุรีไซเคิ่ล จอทีวีเก่าา นำมาหลอมทำลูกประคำแก้ว พระท่านรับจ๊อบ รับผลิตงานโลหะ กลึงโลหะ-ส่งให้บริษัทเอกชน พร้อมๆกับการศึกษาธรรมมะไปด้วย
     
  14. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    จิตอาสา พลังสร้างโลก บทเรียนรู้จากขบวนการพุทธฉือจี้ไต้หวัน ขบวนการที่เน้นหัวใจของความเป็นมนุษย์

    (2137 คำในบทความ)
    (3280 ครั้ง) [​IMG]




    <TABLE border=0 width=300><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffddff>ประติมากรรมหมู่ นำโดยท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน ที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ฉือจี้ ที่ฮั่วเหลียน </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เรื่องและภาพ : อำพล จินดาวัฒนะ


    <TABLE border=0 cellPadding=8 width="77%" bgColor=#eeeeee><TBODY><TR><TD>“วิธีปฏิบัติของชาวฉือจี้เป็นวิธีดึงเอาความดีงามของมนุษย์มาทำให้มนุษย์ได้มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขร่วมกัน ...ฉือจี้ทำงานมา ๔๐ ปี นอกจากช่วยเหลือสังคม ช่วยคนยากไร้แล้ว ผมคิดว่าฉือจี้ได้สร้างความรู้ เทคนิค หรือทักษะในการสร้างวาทกรรมที่หลากหลาย เพื่อนำมาใช้กระตุ้นพลังด้านดีที่แฝงอยู่ในตัวคน เรื่องนี้ยิ่งใหญ่มากในสายตาของผม และสังคมไทยควรเอาใจใส่”
    ศ. นพ. ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส

    “ถ้าไม่ทราบเรื่องราวของมูลนิธิพุทธฉือจี้อย่างชัดเจน ถ้าไม่ได้ไปดูไปรู้ไปเห็นมาด้วยตนเอง ก็คงไม่เชื่อว่ามีขบวนการทำความดีเพื่อเพื่อนมนุษย์อย่างเป็นรูปธรรมขนาดใหญ่เช่นนี้ อยู่บนโลกใบนี้”
    ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
    ประธานกรรมการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม

    “...เราเคยพบเห็นคนให้ทานหรือบริจาคข้าวของสงเคราะห์ผู้อื่นมาไม่น้อย แต่เราไม่ค่อยเคยเห็นผู้ให้เหล่านี้ น้อมตัวมอบสิ่งของให้แก่ผู้มาขอรับความช่วยเหลือด้วยความสุภาพถ่อมตน”
    ศ. นพ. วิรุฬห์ เหล่าภัทรเกษม
    คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>​

    สำหรับคนทั่วไป ชื่อนามของ “ฉือจี้” อาจไม่ค่อยคุ้นหูกันนัก ผมเองทราบเรื่องราวของฉือจี้ครั้งแรกก็เมื่อปลายปี ๒๕๔๘ จากนั้นได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานมา ๒ รอบ ได้รู้ได้เห็นเรื่องราวของคนดีๆ ที่มารวมตัวกันทำความดีอย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่องมาเกือบครึ่งศตวรรษ จึงอดไม่ได้ที่จะนำมาเล่าสู่เพื่อนคนไทยเพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน

    ไต้หวัน แผ่นดินแม่ของต้นไม้แห่งจิตวิญญาณ
    ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับฉือจี้ เราน่าจะได้ไปรู้จักกับไต้หวัน--ดินแดนที่ต้นไม้แห่งจิตวิญญาณต้นนี้ได้หยั่งรากเติบใหญ่มา

    ไต้หวันประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ ๗๘ เกาะ มีเกาะไต้หวันเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีเนื้อที่ ๓๕,๙๘๐ ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าประเทศไทยประมาณ ๑๔ เท่า แต่มีประชากรราว ๑ ใน ๓ ของไทย พิจารณาจากจำนวนประชากรที่มีอยู่ (รวมถึงลักษณะภูมิประเทศที่ร้อยละ ๗๕ เป็นเทือกเขา) ก็ถือได้ว่าไต้หวันเป็นประเทศที่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่น ทั้งยังมีปัญหาภัยธรรมชาติทั้งแผ่นดินไหวและไต้ฝุ่นที่รุนแรงเกิดขึ้นเสมอๆ

    จีนไต้หวันเพิ่งมีประวัติศาสตร์ชาติที่ชัดเจนเมื่อราว ๕๐ ปีเศษมานี้ หลังจากพรรคก๊กมินตั๋งแพ้ภัยคอมมิวนิสต์จีน และอพยพคนจีนราว ๒ ล้านคนข้ามมาสมทบอยู่กับคนท้องถิ่นเดิมที่นั่น แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงประเทศเล็กๆ มีประชากรหนาแน่น ประสบภัยธรรมชาติอยู่เนืองๆ ทั้งยังถูกคุกคามจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่จ้องจะรวมจีนไต้หวันเข้าเป็นจีนเดียว ไต้หวันกลับใช้เวลาเพียงครึ่งศตวรรษถีบตัวก้าวกระโดดจากประเทศที่เต็มไปด้วยคนยากคนจนมาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว กลายเป็นประเทศแถวหน้าในเอเชียถัดจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เชื่อกันว่าภาวะกดดันทั้งจากภัยธรรมชาติและการคุกคามจากจีนแผ่นดินใหญ่นั้นเองที่ทำให้ชาวจีนไต้หวันต้องเพิ่มความขมีขมันขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้ ถีบตัวสร้างชาติให้เจริญก้าวหน้าเพื่อเอาชนะภาวะคุกคามทั้งหลายอย่างไม่ย่อท้อ ส่งผลให้จีนไต้หวันพัฒนาประเทศได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลาอันสั้น

    นอกเหนือจากที่กล่าวมา ข้อได้เปรียบอีกประการหนึ่งของประเทศเล็กๆ นี้น่าจะอยู่ที่ต้นทุนทางวัฒนธรรม ไต้หวันนับเป็นประเทศหนึ่งที่มีทุนทางวัฒนธรรมสูงมาก สะสมมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่สมัยที่อพยพมาและยังคงรักษาไว้อย่างต่อเนื่อง ชาวไต้หวันยังมีความเชื่อถือในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังคงสืบทอดประเพณีและพิธีกรรมทางศาสนาตามแบบดั้งเดิมของชาวจีนตลอดมา มีการจุดธูปบูชาเซ่นสรวงเทพเจ้า ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตามธรรมเนียมจีนอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นภาพตรงข้ามกับความเจริญรุดหน้าของบ้านเมืองและความก้าวหน้าทางธุรกิจการค้าของไต้หวัน

    ที่น่าสนใจคือ รัฐธรรมนูญไต้หวันให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการเลือกนับถือศาสนา ลัทธิ หรือความเชื่อได้อย่างอิสรเสรี ทำให้เกิดการพัฒนาการขององค์กรและขบวนการทางศาสนาอย่างไม่ขาดสาย มีการวิจัยพบว่าปัจจุบันมีศาสนานิกายต่างๆ และความเชื่อต่างๆ ในไต้หวันกว่า ๒๐๐ ความเชื่อ โดยสังคมไต้หวันยินยอมให้ศาสนาและความเชื่อต่างๆ เกิดและเติบโตได้อย่างเสรี ไม่มีการใช้อำนาจรัฐเข้าไปแทรกแซงหรือจัดการ ปล่อยให้ธรรมะจัดสรรและจัดการในรูปของประชาธิปไตยเชิงศาสนา องค์กรศาสนาที่เติบโตในไต้หวันเป็นไปอย่างฉันมิตร แม้ไม่ขึ้นแก่กัน มีความแตกต่างกัน แต่ก็สามารถร่วมงานกันได้ ไม่ทะเลาะเบาะแว้งหรือแตกแยก ทำให้เกิดมูลนิธิ สมาคม นิติบุคคลเชิงศาสนาเป็นจำนวนมาก ทั้งวัดพุทธ สำนักขงจื๊อ วัดเต๋า โบสถ์คริสต์ มัสยิด ฯลฯ ไม่มีองค์กรปกครองสูงสุด ไม่มีองค์กรใดเติบโตจนเป็นเจ้าถิ่นผูกขาดครอบงำ

    ปัจจุบันชาวไต้หวัน ๙๓ % นับถือพุทธ (นิกายมหายาน) ขงจื๊อ และเต๋า ๔.๕ % นับถือคริสต์ ๒.๕ % นับถือศาสนาอื่น ดังนั้นศาสนาที่ยังคงเป็นหลักสำคัญก็คือ พุทธศาสนา มีองค์กรพุทธเป็นสิบแห่ง แต่ที่นับว่าเป็นสำนักใหญ่มีอยู่ ๔ สำนัก คือ ฉือจี้ ฝอกวงซาน ฝ่ากู่ซาน และจงไถซาน

    องค์กรพุทธในไต้หวันเป็นพุทธมหายานที่เน้นอุดมการณ์พรหมวิหาร ๔ แบบพระโพธิสัตว์ คือมุ่งช่วยเหลือสรรพสัตว์เป็นเป้าหมายหลักของชีวิต ทำให้มีความกระตือรือร้นที่จะช่วยกันคนละไม้ละมือ ไม่นิ่งดูดายหรือหาความสุขใส่ตนฝ่ายเดียว เอาใจใส่ดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อไม่ให้ธรรมชาติเสื่อมโทรมเร็วเกินไป นอกจากนี้ยังต่อต้านกระแสวัตถุนิยมในโลกยุคโลกาภิวัตน์ที่เน้นตัวใครตัวมันอันมีส่วนทำให้สังคมเสื่อมทราม

    ผู้นำองค์กรพุทธในไต้หวันส่วนใหญ่จึงโดดเด่นทั้งด้านการปฏิบัติตนและชักนำผู้คนประกอบกิจกรรมสาธารณประโยชน์ สร้างสรรค์สังคม ส่งเสริมจริยธรรม เช่น เรื่องความกตัญญูในครอบครัว เสริมสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่สังคม เช่น การเคารพต่อกฎหมายบ้านเมือง การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ที่สำคัญ ผู้นำองค์กรเหล่านี้ไม่ปฏิเสธความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตรงกันข้ามกลับพยายามนำช่องทางการสื่อสารสมัยใหม่และช่องทางการตลาดเชิงคุณธรรมในรูปแบบต่างๆ มาใช้ เพื่อเผยแพร่ธรรมะและแนวคิดให้แพร่ขยายออกไป ไม่ปล่อยตัวเองให้ติดอยู่ในโลกแห่งอดีตที่หลุดแยกออกจากโลกปัจจุบัน

    ต้นไม้แห่งคุณธรรมและจิตวิญญาณจึงเกิดและเติบโตมากมายในดินแดนไต้หวัน ซึ่งนับเป็นคุณแก่ชาวไต้หวัน สังคมไต้หวัน และสังคมโลกด้วย

    ซึ่งหนึ่งในต้นไม้แห่งคุณธรรมและจิตวิญญาณนั้นก็คือ ฉือจี้




    [​IMG] [​IMG]
    ต้องบอกกันก่อนว่า มูลนิธิมีกิจการด้านต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินงานมากมาย หนึ่งในนั้น คือ การรีไซเคิลขยะเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม การรีไซเคิลจะใช้แรงงานคนทั้งหมด เท่าที่เห็นแรงงานก็คือ อาสามสมัครของมูลนิธินั่นเอง ดังนั้นแรงงานเหล่านี้จึงไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด เป็นการทำด้วยจิตอาสาเพื่อมูลนิธิ และเพื่อท่านธรรมาจารย์
    การได้มาซึ่งขยะที่จะต้องรีไซเคิลนั้น รถของมูลนิธิ (ย้ำว่ารถของมูลนิธิ ไม่ใช่ของเทศบาล) จะตระเวนไปเก็บขยะทุกคืนวันพุธราว ๆ ตี2-3 ขยะที่ชาวบ้านมาทิ้งไว้หน้าบ้านหรือริมถนน และต้องการให้มูลนิธิมาเก็บไปจะต้องบรรจุในถุงที่ไม่ปะปนกับของเทศบาล และเทศบาลก็จะไม่มายุ่งกับถุงขยะมูลนิธิด้วย เพราะเทศบาลจะมาเก็บขยะเฉพาะขยะที่ใส่ในถุงที่รัฐบาลทำขายสำหรับบรรจุขยะเท่านั้น ราคาถุงละ 10+ บาท อาสาสมัครหญิง (ที่นี่เรียกว่า ซือเจะ) คนหนึ่งอายุมากแล้ว เป็นทั้งคนเก็บขยะตอนกลางคืน และมาคัดแยกขยะในเวลากลางวันด้วย (ขยันและอึดจริง ๆ) ในไทเปมีจุดรับขยะประมาณ 40+ จุด แต่ถ้าทั้งประเทศไต้หวันมีถึง 4,600 กว่าจุด ซึ่งต้องอาศัยอาสาสมัครถึง 66,000 คน มาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเก็บขยะเหล่านี้
    [​IMG] [​IMG]
    ขยะชนิดแรกที่เห็นกองพะเนินเทินทึกก็คือ กระดาษ กระดาษที่นี่จะใช้ทุกชนิดให้เป็นประโยชน์ในการรีไซเคิล ยกเว้นกระดาษทิชชู่ ทางมูลนิธิอ้างว่า กระดาษทิชชู่ย่อยสลายได้ง่ายจึงไม่จำเป็นต้องคัดแยก…โถ ๆ …จะย่อยยากย่อยง่าย กระดาษทิชชู่ก็ไม่น่าคัดแยกด้วยแรงงานคนอยู่แล้ว มันน่าจะผิดหลักสุขอนามัยนะ แถมเรื่องกลิ่นอีกต่างหาก
    ประเด็นคือ กระดาษที่นำมาคัดแยกมีราคาต่างกันเวลานำไปใช้ใหม่หรือนำไปรีไซเคิล กระดาษขาวจะราคาสูง กระดาษสีหรือกระดาษที่พิมพ์ด้วยหมึกแล้วจะราคาต่ำกว่า ดังนั้น หน้าที่ของอาสาสมัครคือคัดแยกและตัดแยกกระดาษ … ไม่ได้พิมพ์ผิด … ตัดแยกจริง ๆ อาสาสมัครจะมานั่งตัดกระดาษด้วยกรรไกรออกเป็นส่วน ๆ คือ ส่วนที่ขาวสะอาดก็ตัดแยกออกมา ส่วนที่เลอะหมึกหรือพิมพ์แล้วก็อีกกองนึง กระดาษสีอีกกองนึง กระดาษใช้หน้าเดียวก็จะเอามาใช้อีก กระดาษขาวล้วนบางแผ่นมีรอยทากาว อาสาสมัครก็จะตัดเฉพาะส่วนที่มีรอยกาวออกเท่านั้นจริง ๆ กระดาษกองต่าง ๆ ก็จะแยกนำไปขายหารายได้เข้ามูลนิธิ
    ปัจจุบันมีตัวเลขว่า ตลอดชีวิตคนเราใช้ต้นไม้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปคนละ 60 ต้น ทางมูลนิธิหวังว่าการรีไซเคิลกระดาษจะช่วยลดตัวเลขนี้ลง
    [​IMG] [​IMG]
    จากนั้นไปดูการแยกขยะอย่างอื่น เช่น ม้วนเทปคาสเซ็ต ม้วนเทปวิดีโอ ซึ่งแยกได้เป็นโลหะ (สกรูเล็ก ๆ ที่ยึดตัวกล่องเทป + ชิ้นทองแดงที่ใช้อ่านเทป) พลาสติก (ตัวกล่องเทป) พลาสติกแข็ง (เฟืองที่กรอเทปเป็นพลาสติกสีขาว ราคาสูงกว่า) ซึ่งอาสาสมัครคนที่ทำนี้คล่องมาก ใช้เวลาไม่ถึงนาทีต่อเทปแต่ละม้วน
    ขวดน้ำพลาสติกก็แยกฝาออกจากตัวขวด แยกวงพลาสติกตรงคอขวด ที่เหลือก็ส่งไปโรงงานหลอมใหม่ได้ แต่ต้องทุบให้ขวดแบนเพื่อประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ พวกเราได้รับเกียรติช่วยกันเหยียบขวดให้แบน (จริง ๆ กระทืบน่ะ) ฉลากที่ติดมากับขวดไม่ต้องเอาออกเพราะโรงงานหลอมจะจัดการเอง ขวดใสสามารถแยกใยแก้วมาทำผ้าห่มได้ 120 ขวดจะได้ผ้าห่ม 1 ผืน ขวดสีเอาไปทำสายยาง ซิป ผมตุ๊กตาบาร์บี้ เชือกฟาง
    เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถแยกได้เป็นหลายอย่าง โลหะ พลาสติด แผงวงจร IC ฯลฯ สามารถคัดแยกโลหะทองคำ ทองแดง เงินออกจากแผงวงจรได้ด้วยนะ แต่ต้องส่งโรงงานแยก ได้ไม่มากแต่ก็มีราคาดีทีเดียว

    [​IMG] [​IMG]
    สิ่งที่ได้จากสถานีนี้คือ พวกเราได้ความรู้เรื่องการแยกขยะ การใช้จิตอาสารับใช้มูลนิธิ อาสาสมัครได้ทำบุญ สะสมบุญ บางคนหายป่วยจากโรคด้วย มีซือเจะเล่าให้ฟังว่า เคยมีคนเป็น stroke มาทำงานแยกขยะ ทำไปทำมาก็หายจาก stroke กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ในทางการแพทย์ไม่รู้จะบอกว่ายังไง บางทีการนั่งคัดแยกขยะอาจเป็นการทำกายภาพบำบัดไปในตัวก็ได้ อาสาสมัครชาย (เรียกว่า ซือซรง) คนนึงเคยป่วยหนัก ขณะนอนรักษาในโรงพยาบาลฉือจี้ ก็อธิษฐานว่าถ้าหายจากโรคจะขอช่วยงานมูลนิธิไปตลอด ก็หายเป็นปกติดี ตอนนี้ก็มาช่วยคัดแยกขยะ รายได้ที่ได้จากการขายขยะ ไม่มากไม่มายหรอก แค่เอาไปสร้างสถานีโทรทัศน์ได้! 1 ใน 4 ของงบประมาณที่ใช้สร้างสถานีโทรทัศน์ต้าอ้ายมาจากการขายขยะรีไซเคิล
    มีโรงเรียนมาดูงานเรื่องรีไซเคิลขยะนี้เป็นจำนวนมาก ทางมูลนิธิได้ฝากให้ทุกโรงเรียนที่มาดูงานช่วยปลูกฝังจิตสำนึกนี้ให้เด็ก ๆ ไต้หวันด้วย รวมทั้งการแยกขยะเวลาทิ้งในถัง ของเรามีถังแยกไว้ให้ขยะเต็มช้าลงแค่นั้น พอถังนี้เต็มก็ทิ้งถังข้าง ๆ ต่อ …
    จากนั้นเดินทางไปสถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  15. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 width=300><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffddff>ภายในบริเวณโรงพยาบาลของฉือจี้ มีอาสาสมัครกำลังเล่นเปียโนให้คนไข้และญาติฟัง ส่วนที่กำลังเข็นรถผู้ป่วย เป็นอาสาสมัครที่มาช่วยทำงานบริการในโรงพยาบาล</TD></TR></TBODY></TABLE>

    โรงพยาบาลพระโพธิสัตว์
    ฉือจี้สร้างโรงพยาบาลแห่งแรกที่ฮั่วเหลียนเมื่อราว ๒๐ ปีก่อน ปัจจุบันมีโรงพยาบาลรวม ๕ แห่ง ทั้งที่อยู่ในต่างจังหวัดและชานเมืองไทเป เป็นโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นอย่างมั่นคงสวยงามและน่าจะใช้งานได้เป็นร้อยๆ ปี ทั้งยังป้องกันแผ่นดินไหวไว้พร้อมสรรพ ค่าก่อสร้างทั้งหมดมาจากเงินบริจาคของสมาชิกฉือจี้

    ในช่วงที่ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียนมีดำริจะสร้างโรงพยาบาลแห่งแรกนั้นยังไม่มีเงินเลย ทางการทราบเจตนารมณ์ก็ติงว่า เมื่อไม่มีเงินก็ควรคิดทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ใช้เงินน้อยกว่านี้ไม่ดีกว่าหรือ แต่ท่านธรรมาจารย์มั่นใจว่าจะทำได้ แม้ต้องใช้เงินหลายร้อยล้านเหรียญก็ตาม

    เมื่อเริ่มโครงการ มีนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่เคยอยู่ที่ไต้หวันมาก่อนแสดงความจำนงขอบริจาคเงินก้อนใหญ่ให้สร้างโรงพยาบาล ท่านธรรมาจารย์ไม่รับเพราะต้องการให้คนไต้หวันส่วนใหญ่ได้ร่วมกันเป็นเจ้าของโรงพยาบาลด้วยการร่วมบริจาคคนละเล็กคนละน้อยมากกว่า ในที่สุดโรงพยาบาลแห่งแรกก็ก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และถึงวันนี้ฉือจี้ก็เปิดโรงพยาบาลแห่งที่ ๕ แล้ว (ขนาดใหญ่กว่า ๑,๐๐๐ เตียง ๓ แห่ง ขนาดเล็ก ๒ แห่ง) เครื่องไม้เครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์ไม่ต้องพูดถึง ทุกแห่งมีพร้อมอยู่ในระดับแนวหน้าของไต้หวันและได้มาตรฐานสากล สามารถให้การรักษาและผ่าตัดโรคยากๆ ได้เป็นผลสำเร็จ แต่ที่เด่นมากคือ การจัดระบบที่ให้ความสำคัญกับมิติความเป็นมนุษย์และจิตวิญญาณอย่างสูง โรงพยาบาลของฉือจี้ใช้พรหมวิหาร ๔ เป็นคำขวัญกำหนดทิศทางการทำงานเช่นเดียวกับองค์กรอื่นๆ ของฉือจี้ จึงมุ่งบริหารจัดการให้โรงพยาบาลเป็นทั้งแหล่งรักษาคน รักษาใจ รักษาโรค รวมทั้งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปพร้อมๆ กัน

    บรรยากาศในโรงพยาบาลจัดได้ดีมาก สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ผู้คนที่ทำงานในโรงพยาบาลมีทั้งแพทย์ พยาบาล และบุคลากรวิชาชีพ ทำงานร่วมกับอาสาสมัครฉือจี้เป็นร้อยๆ คน (ซึ่งต้องแจ้งความจำนงเข้าคิวรอเป็นเดือนๆ กว่าจะได้มาทำงานอาสาสมัครในโรงพยาบาลครั้งละวันสองวัน) ทุกคนให้บริการแก่ผู้ป่วยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือ แนะนำ และให้บริการตามบทบาทหน้าที่ของตน

    โรงพยาบาลของฉือจี้มีการรณรงค์เพื่อสร้างจิตวิญญาณการแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ เรียกว่า “The mission to be a human doctor” เพื่อส่งเสริมการพัฒนาจิตใจของผู้ให้บริการทุกระดับให้ใส่ใจในคุณค่าศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ให้เกียรติและให้ความเคารพแก่คนทุกคนทุกระดับชั้น และให้ระลึกในพระคุณของผู้ป่วยและญาติที่มาใช้บริการ ดังที่แพทย์ฉือจี้ท่านหนึ่งกล่าวว่า “แพทย์พยาบาลและทีมงานมีหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ซึ่งเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ ทุกคนต้องลดตัวตนให้เล็กที่สุด จึงจะทำภารกิจที่สำคัญนั้นได้”

    เราจึงเห็นแพทย์ชาวฉือจี้ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ยกมือไหว้คนไข้และคนอื่นๆ ได้เสมอ นอบน้อมถ่อมตน ตั้งใจให้บริการอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เพราะเขาถือว่าการได้ทำงานช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากคือการทำหน้าที่พระโพธิสัตว์ เป็นการสะสมบุญกุศลให้สูงขึ้นเรื่อยไป (โฮะ ..เมืองไทยก็เมืองพุทธ แต่มีใครคิดแบบนี้บ้าง)
    -(การจัดสิ่งแวดล้อม การบริหารทุกอย่างอย่างให้ดีดี สามารถยังให้เกิดคุณธรรมในหมู่ประชาชนได้อย่างยั่งยืน-ผู้เขียน-จขกท.)

    ธนาคารไขกระดูกอันดับหนึ่งของเอเชีย
    ธนาคารไขกระดูกของมูลนิธิฉือจี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๗ ด้วยการเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาแสดงความจำนงบริจาคไขกระดูก (bone marrow registry) เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปรกติของเม็ดเลือด เช่น ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคโลหิตจางบางชนิด มะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิด โรคไขกระดูกฝ่อ เป็นต้น

    ไขกระดูกคือเซลล์ที่ผลิตเม็ดเลือดตามปรกติ ในกรณีเป็นโรคเลือดบางชนิดดังตัวอย่างข้างต้น จำเป็นต้องให้ยาทำลายไขกระดูกที่มีอยู่เดิม แล้วฉีดเซลล์ไขกระดูกของผู้บริจาคเข้าไปทางเส้นเลือดให้เข้าไปอยู่ในไขกระดูกเพื่อทำหน้าที่แทนไขกระดูกของผู้ป่วย เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ทำสำเร็จครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๑ จากนั้นก็มีพัฒนาการก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ

    โดยทั่วไปผู้ป่วยสามารถรับบริจาคไขกระดูกได้จากญาติพี่น้องร่วมสายเลือด เนื่องจากมีเนื้อเยื่อเข้ากันได้ ร่างกายผู้ป่วยจึงไม่ปฏิเสธไขกระดูกที่ฉีดเข้าไป แต่ในบางกรณี แม้เป็นญาติร่วมสายเลือดกัน แต่หากเนื้อเยื่อเข้ากันไม่ได้ ร่างกายก็จะปฏิเสธไขกระดูกที่ฉีดเข้าไปนั้น ดังนั้นในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับไขกระดูกจากญาติพี่น้องได้ ก็ต้องรอคอยรับบริจาคไขกระดูกจากผู้อื่นซึ่งมีโอกาสเข้ากันได้ประมาณ ๑ ใน ๕๐,๐๐๐ ดังนั้นหากมีการลงทะเบียนผู้บริจาคไขกระดูกไว้มากเท่าไร ก็มีโอกาสที่ผู้บริจาคจะมีเนื้อเยื่อเข้ากับผู้ป่วยได้มากเท่านั้น (ไม่ต้องบริจาคไขกระดูกไปเก็บไว้ในธนาคาร แต่เป็นการเจาะเลือดเก็บไว้ด้วยเทคนิคพิเศษ ต่อเมื่อตรวจพบว่าเนื้อเยื่อของเราเข้าได้กับผู้ป่วยพอดี จึงจะเข้าสู่กระบวนการเจาะไขกระดูกจากตัวเราไปให้ผู้ป่วย) ซึ่งก็มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่มีโอกาสบริจาคไขกระดูกให้แก่ผู้ป่วยจริงๆ ใครที่ลงทะเบียนบริจาคไว้แล้วได้บริจาคจริงก็ถือว่าได้โอกาสทำบุญทำกุศลอันยิ่งใหญ่

    ครั้งหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งลงทะเบียนบริจาคไขกระดูกไว้ ต่อมาเธอได้รับแจ้งว่าเนื้อเยื่อของเธอเข้ากันได้กับคนไข้รายหนึ่ง นั่นหมายความว่าเธอจะได้มีโอกาสทำกุศลครั้งใหญ่ด้วยการบริจาคไขกระดูกเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น บังเอิญเวลานั้นเธออยู่ระหว่างตั้งครรภ์ แพทย์แจ้งว่าถ้าบริจาคไขกระดูก ก็มีโอกาสที่เธอจะแท้งลูกได้ แต่เธอก็ตัดสินใจบริจาคไขกระดูกเพราะเห็นว่าจะได้มีโอกาสช่วยชีวิตคน หากเธอแท้งลูก เธอก็สามารถตั้งครรภ์ใหม่ได้ ในที่สุดเธอได้บริจาคไขกระดูกและลูกในครรภ์ของเธอก็ปรกติดี คลอดออกมาเป็นทารกที่สมบูรณ์

    ปัจจุบันธนาคารไขกระดูกของฉือจี้นับเป็นธนาคารไขกระดูกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีผู้แสดงความจำนงบริจาคไขกระดูกมากถึงเกือบ ๓ แสนคน มีการบริจาคไขกระดูกช่วยเหลือผู้ป่วยจริงๆ ทั้งในไต้หวันและประเทศอื่นๆ ไปแล้วกว่า ๘๐๐ รายใน ๒๐ ประเทศ ที่เขาทำได้ดังนี้ เพราะมีท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียนเป็นศูนย์รวมความศรัทธาและผู้คนมีความเชื่อมั่นต่อระบบการดำเนินงาน ประกอบกับมีการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาใช้ได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง

    <TABLE border=0 width=300><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffddff>ห้องเรียนชงชา ของนักเรียนอนุบาล</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    โรงเรียนสร้าง “คน” ให้เป็น “มนุษย์”
    หนึ่งในสี่ภารกิจสำคัญของมูลนิธิฉือจี้ ก็คือ การจัดการศึกษา โดยการศึกษาที่ว่านี้มีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การสร้าง “คน” ให้เป็น “มนุษย์” คือผู้มีจิตใจสูง ไม่ใช่มุ่งสอนคนให้มีแต่ความเก่งเพื่อไขว่คว้าหาโอกาสที่เหนือคนอื่นอย่างเอาเป็นเอาตาย

    ฉือจี้จัดการศึกษามาแล้วเป็นสิบปี มีตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย และต่อมามีการสร้างโรงเรียนในต่างประเทศด้วย ปัจจุบันมีโรงเรียนประถมศึกษานอกประเทศแห่งแรกที่อำเภอฝาง ประเทศไทยเรานี่เอง เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ โดยจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาทั่วไป แต่เน้นสอดแทรกการเรียนการสอนและการฝึกอบรมบ่มนิสัยด้านคุณธรรมจริยธรรมอย่างจริงจังควบคู่ไปด้วย

    เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ผมและคณะดูงานได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมกิจการโรงเรียนอนุบาลของฉือจี้ที่เมืองฮั่วเหลียน ซึ่งเปิดดำเนินงานมาได้ ๕ ปีแล้วภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยฉือจี้ โรงเรียนของเขามีเป้าหมาย ๔ ประการ คือ สร้างนักเรียนให้มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลถึงระดับสากล เป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นผู้มีวัฒนธรรมที่ดีงาม มีทักษะการทำงานและทักษะชีวิต

    เพื่อให้บรรลุเป้าหมายข้างต้น เขาจึงเน้นปลูกฝัง ๕ ด้าน คือ

    ๑. การดำเนินชีวิตประจำวันที่เรียบง่าย
    ๒. ฝึกให้เป็นผู้มีคุณธรรมในการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง มีความรักในผู้อื่นเหมือนเป็นญาติพี่น้องร่วมครอบครัวเดียวกัน
    ๓. ให้รู้จักบริการผู้อื่นอย่างนอบน้อมถ่อมตน ให้เกียรติผู้อื่น
    ๔. ให้รู้จักขอบคุณสิ่งที่เกิดขึ้นและทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิต รู้จักสำนึกในบุญคุณของคนอื่นและสรรพสิ่งรอบตัว
    ๕. ให้มีทักษะที่จำเป็นในการดำรงชีวิตและการทำงานในอนาคต

    บริเวณโรงเรียนอนุบาลที่เราไปดูงาน จัดสถานที่สวยงาม สะอาด เป็นระเบียบมาก ทุกตึกจะมีห้องอเนกประสงค์ให้นักเรียนได้ทำกิจกรรม มีห้องสมุด ห้องปฏิบัติธรรม ห้องเรียนจัดดอกไม้ ห้องเรียนการชงชา ฯลฯ ทั้งนี้เพราะนอกจากเนื้อหาวิชาการแล้ว เขายังเน้นให้เด็กเรียนรู้ในเรื่องอื่นๆ ที่จะช่วยพัฒนาด้านศิลปวัฒนธรรม คุณธรรม และจริยธรรมด้วย เช่น เรียนการจัดดอกไม้เพื่อฝึกให้เป็นคนมีศิลปะ จิตใจละเอียดอ่อน เข้าใจธรรมชาติ เรียนการชงชา ฝึกการล้างมือเพื่อล้างใจ ฝึกสมาธิ ฝึกการทำงานที่ละเอียดประณีตมีขั้นมีตอน ฝึกการบริการผู้อื่น ฝึกรอคอย ฝึกช่วยเหลือ ฝึกรับบริการจากผู้อื่นด้วยจิตใจที่ระลึกในพระคุณของผู้อื่น นักเรียนคนไหนเรียนดี นิสัยดี จะได้รับมอบหน้าที่ตักอาหารบริการครู นักเรียนที่ได้รับหน้าที่นี้จะดีใจมาก เวลานักเรียนนำอาหารไปบริการครู ครูจะยกมือไหว้ขอบคุณ นอกจากนี้เด็กยังได้มีโอกาสล้างส้วม ใครที่ได้รับหน้าที่ล้างส้วมจะดีใจมากเพราะถือว่าจะต้องทำดีมากๆ จึงจะได้รับมอบหน้าที่นี้ (ในเมืองไทยมันกลับกันนะ)การฝึกอบรมเช่นนี้มีผลทำให้เด็กนักเรียนไม่รังเกียจงานใช้แรงงาน ไม่รังเกียจงานสกปรก ไม่มองว่าเป็นงานต่ำต้อย ซึ่งตรงข้ามกับการสร้างทัศนคติในบ้านเมืองเรา

    สิ่งสำคัญมากอีกอย่างหนึ่งที่เด็กนักเรียนทุกคนจะได้ฝึกฝนควบคู่ไปกับการเรียนวิชาการตามหลักสูตรก็คือ การฝึกเป็นอาสาสมัครซึ่งมีสารพัดรูปแบบ เช่น ฝึกเป็นอาสาสมัครจิ๋วเก็บขยะ แยกขยะ ไปเยี่ยมผู้ยากไร้ ช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียน บริการซักผ้าให้เพื่อน ให้น้อง ให้ครู และในช่วงปิดเทอมเด็กนักเรียนจะได้มีโอกาสไปเข้าค่ายที่สมณารามเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรม ธรรมะ และได้ทำงานอาสาสมัครด้วย

    ตอนที่ผมและคณะเดินดูงานอยู่ในโรงเรียน สังเกตเห็นแผ่นโปสเตอร์มีรูปประกอบอย่างสวยงามพร้อมคำอธิบายสั้นๆ เป็นภาษาจีน ติดอยู่ตามทางเดินเป็นระยะๆ สอบถามครูได้ความว่า เป็นโศลกติดสอนเด็ก ทุกๆ ที่ที่มีโปสเตอร์ติดอยู่จะมีกระดาษวาดเขียนวางไว้ให้เด็กนักเรียนวาดรูปหรือเขียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระหลังจากที่ได้ดูภาพ ได้อ่านข้อความเหล่านั้น โดยโรงเรียนจะเปลี่ยนโศลกไปเรื่อยๆ โศลกที่ติดไว้ในช่วงนั้นประกอบด้วยคำ ๘ คำที่ล้วนเกี่ยวข้องกับคำว่า “ความเรียบง่าย” สรุปความได้ว่า “ความเรียบง่าย คือความงดงาม”

    ภาพวาดแต่ละภาพนั้นเป็นผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงซึ่งมีจิตอาสามาวาดให้ พร้อมเขียนคำอธิบายเพื่อให้เด็กได้อ่าน ได้ซึมซับคำสอนดีๆ จากภาพเหล่านั้น จะเห็นได้ว่าทางโรงเรียนไม่มีการบังคับสอนบังคับเรียนในเรื่องเหล่านี้โดยเอาคะแนนมาล่อ แต่เป็นการจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อการเรียนรู้และให้อิสระแก่นักเรียนในการเลือกเรียนตามใจชอบ

    สถานีโทรทัศน์สีขาว
    ในขณะที่บ้านเราประชาชนกำลังเรียกร้องอยากได้สถานีโทรทัศน์ที่ส่งสารดีๆ ให้ประชาชนเพื่อพัฒนาสติปัญญา คุณธรรม จริยธรรมในสังคม แทนที่จะปล่อยให้ระบบทุนและอำนาจยึดไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าและการเมืองมอมเมาประชาชนอย่างไม่ลืมหูลืมตา ที่ไต้หวันเขาไปไกลกว่าบ้านเรามาก คือมีสถานีโทรทัศน์เกือบ ๑๐๐ ช่อง มีรายการหลากหลายให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการรับสาร ไม่ใช่มัดมือชกแบบของเรา

    เฉพาะสถานีโทรทัศน์ที่เผยแพร่เรื่องเชิงศาสนาก็มีมากถึง ๖ ช่อง

    มูลนิธิฉือจี้ก็มีสถานีโทรทัศน์ของตนเอง ชื่อว่า สถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย (สถานีโทรทัศน์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่)

    ผมและคณะได้มีโอกาสไปชมสถานีโทรทัศน์ต้าอ้ายมาแล้ว อาคารสถานีก่อสร้างอย่างใหญ่โตสง่างามมาก ใช้งบประมาณก่อสร้างหลายร้อยล้านเหรียญซึ่งมาจากเงินบริจาคทั้งสิ้น ทำให้สถานีโทรทัศน์แห่งนี้เป็นของมหาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นบริษัทมหาชนแบบทุนนิยม

    การดำเนินงานสถานีโทรทัศน์ใช้มืออาชีพทำงานร่วมกับอาสาสมัครที่มีความรู้ความสามารถด้านนี้โดยตรง โดยมีเป้าหมายการพัฒนามาตรฐานการทำงานให้เทียบได้กับ CNN และ BBC ปัจจุบันแพร่ภาพวันละ ๖ ช่วงเวลาไปทั่วไต้หวันและส่งสัญญาณภาพไปยังประเทศต่างๆ เกือบจะทั่วโลกด้วย ค่าบริหารจัดการเดือนละหลายร้อยล้านเหรียญก็ได้มาจากเงินที่ผู้ชมและสมาชิกฉือจี้บริจาคให้ โดยหนึ่งในสี่ได้มาจากขยะรีไซเคิลที่อาสาสมัครฉือจี้ทั่วไต้หวันช่วยกันคัดแยกและนำไปขาย ไม่มีโฆษณาสินค้าใดๆ

    รายการที่ต้าอ้ายทำมุ่งเน้นเผยแพร่เรื่องราวทางบวก ไม่นำเสนอเรื่องความรุนแรง ไม่มีการมอมเมาด้วยวัตถุนิยม บริโภคนิยม แต่จะเผยแพร่เรื่องเชิงคุณธรรม เรื่องราวของชีวิตคนที่ทำดี ปฏิบัติดี ผ่านทางละคร ดนตรี นิทาน เพลง และรูปแบบอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้คนทำดีและสร้างความประทับใจในสิ่งดีงาม๒ เช่น รายการสารคดีตัวอย่าง ที่จะเลือกชีวิตอาสาสมัครชาวบ้านมาถ่ายทำเป็นสารคดีตอนสั้นๆ นำเสนอให้เห็นชีวิตโพธิสัตว์ชาวบ้าน ทำให้ผู้ชมที่เป็นประชาชนทั่วไปเกิดความประทับใจ ทั้งยังเป็นกำลังใจให้อาสาสมัครฉือจี้หลายแสนคนทั่วโลกได้เกิดความมุ่งมั่นที่จะออกไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้คนที่เดือดร้อน ล่าสุดปี ๒๕๔๘ นี้ สถานีโทรทัศน์ต้าอ้ายได้รับการโหวตจากคนไต้หวันให้เป็นสถานีโทรทัศน์ช่องที่มีอิทธิพลต่อชีวิตมากที่สุด
    ......................................................................





    จากที่ได้มีโอกาสไปดูงานของมูลนิธิฉือจี้ ได้เรียนรู้เรื่องราวของชาวฉือจี้เป็นระยะสั้นๆ ผมสรุปประเด็นจากการเรียนรู้ได้ ๖ ประการ ดังนี้

    ๑. บริบทของสังคมไต้หวันที่ต้องเผชิญภัยธรรมชาติและการคุกคามทางการเมืองมาโดยตลอด ได้หล่อหลอมให้คนไต้หวันมีความเข้มแข็ง ขยันขันแข็ง และเอาจริงเอาจัง ประกอบกับสายเลือดชาวจีนที่มีนิสัยขยัน หนักเอาเบาสู้ ใฝ่เรียนรู้ ชอบบริการ และนอบน้อมถ่อมตน ส่งผลให้คนไต้หวันส่วนใหญ่มีอุปนิสัยด้านที่เป็นบวกค่อนข้างสูง และเมื่อสังคมการเมืองไต้หวันเปิดโลกประชาธิปไตย ให้เสรีภาพแก่ประชาชน เปิดเสรีทางสื่อสารมวลชน เสรีทางศาสนา จึงมีผลทำให้พัฒนาการด้านจิตวิญญาณ คุณธรรม ความดีงาม อย่างขบวนการฉือจี้เติบโตได้อย่างมีพลัง จนกลายเป็นแกนหลักที่สำคัญในด้านคุณธรรมจริยธรรมของไต้หวันดังเช่นทุกวันนี้ ถ้าสังคมใดเป็นระบบปิด มีวัฒนธรรมอำนาจนิยมครอบงำ เสรีภาพด้านต่างๆ ของสังคมถูกกดทับ โอกาสที่จะเกิดสิ่งดีๆ อย่างขบวนการฉือจี้ก็คงเป็นไปได้ยากทีเดียว หรือหากเกิดขึ้นได้ด้วยศรัทธา ก็มักจะดำเนินการผิดทิศทาง คือกลายเป็นการสะสมรวบทุกอย่างไว้ที่ศูนย์กลางเสมอๆ

    ๒. ขบวนการฉือจี้เป็นการนำพุทธธรรมที่ใช้แนวความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา (แนวทางพระโพธิสัตว์) เป็นเข็มทิศนำทาง ทำให้ทุกคนสามารถใช้หลักศาสนามาปฏิบัติได้จริง และปฏิบัติได้อย่างง่ายๆ ในชีวิตนี้ คือ การทำงานช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าจะด้วยทรัพย์ ด้วยแรง ด้วยปัญญา ฯลฯ โดยถือว่าทั้งหมดนี้ก็คือการปฏิบัติธรรม เป็นการได้ฝึกเป็นพระโพธิสัตว์ในชาตินี้ และทำให้เรื่องพุทธศาสนาเป็นเรื่องเข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย ไม่แยกส่วนออกจากชีวิตจริง ทุกคนจึงสามารถทำได้อย่างทันทีและทันสมัยอยู่เสมอ

    ๓. การมีผู้นำทางจิตวิญญาณที่เป็นผู้ทรงธรรมะอันงดงาม มีวัตรปฏิบัติที่เป็นแบบอย่างที่ทุกคนเห็นได้สัมผัสได้ คือ ท่านอิ้นซุ่น (หลวงปู่ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเจิ้งเหยียน) และท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน จึงเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่นในการทำดี ทำให้เกิดภาวะผู้นำที่สมาชิกและอาสาสมัครฉือจี้จำนวนเป็นแสนเป็นล้านสามารถยึดถือเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นแบบอย่างให้เจริญรอยตามได้อย่างมั่นใจและอย่างเป็นรูปธรรม การที่ผู้นำทรงไว้ซึ่งความเมตตากรุณาอย่างสูง ดำเนินชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย กินน้อย อยู่น้อย ใช้น้อย ไม่สะสม เบียดเบียนผู้อื่นและสรรพสิ่งน้อย นอบน้อมถ่อมตน ลดตัวเองให้เล็กอยู่เสมอ มีแต่คิดจะทำเพื่อผู้อื่นอย่างสุดใจ จึงเป็นเสมือนต้นแบบนำทางให้แก่ศิษย์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเหนือกว่าคำสอนใดๆ
    (พระไทยเล่นหุ้นทีเป็นพันล้าน น่าชื่นใจมั้ยครับ เงินของวัดด้วย แถมยังไม่เคยมีโรงเรียน-โรงพยาบาล ที่เกิดขึ้นจากเงินตรงนี้แต่อย่างใดเลยครับ แหะๆ)
    ๔. แนวทางพุทธฉือจี้ที่เคารพยกย่องให้เกียรติแก่คนทุกคนอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่แบ่งแยก เคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของทุกคน ก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนทั้งหลายแบบแนวราบ ก่อให้เกิดความสร้างสรรค์ ความรัก ความผูกพัน ตรงข้ามกับความสัมพันธ์แนวดิ่งที่เกิดแรงกดทับและปฏิสัมพันธ์กันเชิงอำนาจ ทำให้ความรัก ความดี ความงาม เกิดขึ้นได้มากกว่า

    ๕. แนวทางพุทธฉือจี้มีลักษณะที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ “รวมเข้าเพื่อกระจายออก” คือเป็นการรวมคน รวมความรักความศรัทธา รวมทรัพยากร ปัญญา องค์ความรู้ การปฏิบัติต่างๆ เข้ามาสู่ศูนย์รวมแห่งศรัทธา คือผู้นำทางจิตวิญญาณ แต่การรวมทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้นมิใช่รวมเข้ามาเพื่อพอกพูนสะสมไว้ที่ศูนย์กลาง ตรงกันข้าม การรวมสรรพสิ่งเหล่านั้นเป็นไปเพื่อกระจายสู่มหาชนคนยากไร้ คนตกทุกข์ได้ยาก อย่างกว้างขวางไม่มีที่สิ้นสุด จุดนี้ถือเป็นความงดงามอย่างยิ่งของแนวพุทธฉือจี้

    มูลนิธิฉือจี้มีเงินบริจาคเข้ามาเป็นหมื่นล้านแสนล้านเหรียญ แต่เงินเหล่านั้นถูกนำไปใช้เพื่อการช่วยเหลือผู้คนเป็นแสนเป็นล้านคนทั้งในไต้หวันและทื่อื่นๆ ทั่วโลก มูลนิธิฉือจี้มีคนเก่ง มีความรู้ด้านต่างๆ มากมาย แต่บุคลากรเหล่านั้นก็ได้กระจายกันออกไปทำงานเพื่อเพื่อนมนุษย์ที่ต้องการความช่วยเหลือ ในขณะที่ท่านธรรมาจารย์ ภิกษุณี และอาสาสมัครที่สมณาราม ยังคงดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่ายบนหลักของการพึ่งตนเอง ไม่เบียดเบียนสรรพสิ่ง เหมือนเช่นที่เคยปฏิบัติกันมาตลอดเกือบครึ่งศตวรรษ อาสาสมัครฉือจี้ทุกคนก็ยังคงต้องทำงานหาเลี้ยงชีพโดยสุจริตเพื่อดูแลตนเอง และออกไปช่วยเหลือผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอด้วยการออกค่าใช้จ่ายส่วนตัวเองทั้งหมด พร้อมกับฝึกฝนให้เป็นคนที่กินน้อย ใช้น้อย อยู่น้อย ตลอดเวลาอีกด้วย

    ๖. การดำเนินงานของขบวนการฉือจี้ไม่ปฏิเสธความเป็นไปของสังคมและของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นพลวัตตลอดเวลา รู้จักนำจุดเด่นบางอย่างมาใช้อย่างชาญฉลาด เช่น นำเอาองค์ความรู้ด้านการจัดการ การตลาดเชิงสังคม เทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ฯลฯ มาใช้ในการดำเนินงานด้านศาสนาอย่างกลมกลืนและมีประสิทธิภาพ ตรงนี้ก็นับว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่ง

    โดยภาพรวมอาจสรุปได้ว่า การดำเนินงานของขบวนการพุทธฉือจี้ตลอด ๔๐ ปีมานี้มีหลักการสำคัญอยู่ที่การเน้นหัวใจของความเป็นมนุษย์ โดยมียุทธศาสตร์สำคัญ ๓ ประการ คือ

    ๑. ศรัทธา คือการสร้างศรัทธาในการทำความดีเพื่อผู้อื่น โดยมีท่านธรรมาจารย์เป็นผู้นำและมีคำสอนแนวพุทธโพธิสัตว์เป็นหลักยึด

    ๒. ปัญญา ฉือจี้รับเอาองค์ความรู้ เทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาปรับใช้เพื่อสานเจตนารมณ์ตลอดเวลา ไม่ได้ปล่อยให้เรื่องศาสนาเป็นเรื่องคร่ำครึ เป็นเรื่องอดีตที่แยกส่วนออกจากปัจจุบัน จึงเข้าถึงคนทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ได้ตลอดเวลา

    ๓. การจัดการ ในกระบวนการทำงานของฉือจี้ มีการจัดการอย่างเป็นระบบและเป็นมืออาชีพในทุกระดับ แม้แต่การทำงานของอาสาสมัครก็มีกระบวนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน มีระบบ มีระเบียบ ไม่ใช่แบบ “ช่วยๆ กันไป” การทำได้อย่างนี้คือการนำ “การจัดการ” มาใช้ในทุกเรื่องและทุกขั้นตอนนั่นเอง

    จะว่าไปแล้ว ในบ้านเมืองเราก็มีคนดี มีคนทำอะไรดีๆ อยู่มากมายเหมือนกัน เพียงแต่ว่าคนดีและความดีเหล่านั้นไม่ได้รับการเผยแพร่ให้ปรากฏออกมา และไม่ค่อยได้รับการหนุนเสริมให้มีคนดีและความดีเพิ่มพูนมากขึ้นเท่าที่ควร

    ผมจึงหวังว่าบทความนี้คงจะมีส่วนสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้แก่ผู้อ่าน และเป็นกำลังใจในการที่จะช่วยกันทำอะไรดีๆ เพื่อผู้อื่นได้มากยิ่งขึ้นต่อไป

    กั่นเอิน๓

    <TABLE border=0 width=300><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffddff>ที่ฉือจี้ มีประติมากรรมที่ให้ความหมายดีๆ เป็นสิบๆ ชิ้น (ภาพบน ) แสดงถึงการดูแลผู้ป่วยด้วยความเมตตากรุณา (ภาพกลาง) แสดงถึงความเมตตาและความอ่อนน้อมของแพทย์พยาบาลที่มีต่อผู้ป่วย (ภาพล่าง) แสดงถึงกิจกรรมบรรเทาสาธารณภัยนานาชาติของฉือจี้ </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    เอกสารอ้างอิง
    เดิมแท้ ชาวหินฟ้า. คุณลักษณะและกระบวนการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมของ
    ประเทศไต้หวัน. กรุงเทพฯ : ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม), ๒๕๔๘.
    มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย. แนะนำมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย โดยย่อ. ม.ป.ท., ม.ป.ป.
    โรงพยาบาลพุทธฉือจี้. ๒๐๐๕. BUDDHIST TZU CHI GENERAL HOSPITAL
    (online). http://www.tzuchi.com.tw/tzuchi/Default.ASPX.

    (เชิงอรรถ)
    ๑ จากการไปเยี่ยมศึกษาสำนักพุทธฉือจี้ไต้หวันรอบที่ ๒ ของผมเมื่อเดือนเมษายน ๒๕๔๙ ทำให้มีโอกาสพบกับคุณสตีเฟน หวัง ซีอีโอของมูลนิธิพุทธฉือจี้ จึงได้ทราบชัดเจนว่าสิ่งที่ผมประมวลไว้นั้นถูกต้องแล้ว มูลนิธิพุทธฉือจี้วางแผนงานและดำเนินงานโดยอาสาสมัครฉือจี้ที่เป็นมืออาชีพในงานหลายแขนง การทำงานทุกอย่างจึงเป็นระบบและมีผลงานที่ดี คุณสตีเฟน หวัง เป็นชาวไต้หวันไปโตที่อเมริกา ประสบความสำเร็จในธุรกิจมากมายขนาดมีธนาคารเป็นของตนเอง ต่อมาได้สละความสำเร็จเหล่านั้นมาเป็นอาสาสมัครฉือจี้ช่วยท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียนทำงานเต็มตัวตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา

    หลังจากกลับมาจากดูงานที่ไต้หวัน ผมได้มีโอกาสรู้จักกับคุณยงเกียรติ เกียรติเสริมสกุล นักธุรกิจไทยคนหนึ่ง คุณยงเกียรติเพิ่งร่วมกิจกรรมกับฉือจี้ที่เมืองไทยได้แค่ปีเศษ เขาเล่าให้ผมฟังว่า รู้จักฉือจี้โดยบังเอิญ เนื่องจากที่บ้านซื้อโทรทัศน์ใหม่แล้วติดจานดาวเทียมใหม่ วันหนึ่งเปิดไปเจอรายการของสถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย เนื่องจากฟังภาษาจีนออกก็เลยลองชมดู ดูๆ ไปก็นึกทึ่งว่ามีรายการโทรทัศน์ดีๆ อย่างนี้ด้วยหรือ มีคำสอนดีๆ ง่ายๆ ของท่านธรรมาจารย์ มีการนำเสนอเรื่องราวดีๆ การทำความดีของคนทุกระดับ จึงเกิดแรงบันดาลใจว่าจะต้องไปไต้หวันเพื่อเรียนรู้เรื่องนี้ ขณะนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในเมืองไทยก็มีสาขาของฉือจี้ (มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย ๓๒๒/๒๐๗ ซอยอยู่เจริญ ถนนรัชดาภิเษก ๓ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ๑๐๔๐๐, โทรศัพท์ ๐-๒๖๔๒-๑๘๘๘, ๐-๒๖๔๒-๐๔๗๗ / ๘๘ / ๙๙ โทรสาร ๐-๒๖๔๒-๑๘๙๐ e-mail : tzuchith@hotmail.com) จากวันนั้นจนถึงวันนี้ คุณยงเกียรติกลายเป็นอาสาสมัครคนหนึ่งของฉือจี้ไปแล้ว เขาเล่าว่าเดี๋ยวนี้เพื่อนฝูงทักว่าเปลี่ยนนิสัยไปเหมือนคนละคน ปล่อยวางธุรกิจให้ลูกๆ ทำ หันมาสนใจผู้อื่น ทำงานช่วยเหลือผู้คน เข้าใจคนอื่นมากขึ้น ที่เคยใจร้อนไม่ยอมใครเดี๋ยวนี้กลายเป็นน้ำเย็นไปเลย

    ๓ “กั่นเอิน” หรือ “สำนึกบุญคุณ” เป็นคำที่อาสาสมัครฉือจี้นิยมพูดกันติดปาก ไม่ว่าจะไปช่วยเหลือใคร บริการใคร ทำอะไรให้ใคร ก็มักจะพูดคำนี้ เพื่อฝึกความกตัญญู สำนึกในบุญคุณของทุกคนและทุกสรรพสิ่ง เป็นการฝึกเพื่อลดตัวตนให้เล็กลงอยู่เสมอ ผมจึงขอยืมมาใช้บ้าง
    ------------

    ทพ.กฤษดา เรืองอารีรัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สิ่งที่ สสส.ต้องการเรียนรู้จากมูลนิธิฉือจี้ไต้หวันคือการสร้างจิตอาสา เนื่องจากในประเทศไทยนั้นผู้คนส่วนใหญ่มีจิตอาสา เห็นได้จากเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งคนไทยจะออกมาช่วยเหลือกันอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มียังไม่มีการจัดการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง หากทางมูลนิธิฯ มาช่วยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าวก็จะทำให้กระบวนการจิตอาสาเติบโต นอกจากนี้อยากให้ประเทศไทยมีร้านอาหารมังสวิรัติขายอยู่ทั่วไป เพื่อให้หาซื้อได้ง่ายขึ้น


    นอกจากนี้ทางคณะของฉือจี้ได้สาธิตวิธีการชงชา โดยสื่อถึงความหมาย วิถีชา วิถีธรรม โดยนายสุชน แซ่เฮง กรรมการอาสาสมัครของมูลนิธิฉือจี้ฯ กล่าวว่า วิถีชาของฉือจี้เป็นการเรียนรู้ถึงการต้อนรับขับสู้ต่อผู้มาเยือน วิถีชาสอนให้เรารู้จักจัดการชีวิตให้ช้าลง มีจิตที่สงบ สิ่งที่ได้รับจากวิถีชาฉือจี้ คือ ความจริง ความดี และความงาม ในเรื่องของความจริง คือการเติมใบชา น้ำ เพื่อผสมเป็นน้ำชาพร้อมกับระยะเวลาที่เหมาะสม สอนให้เรารู้ว่าต้องพอเหมาะพอดีต่อกัน เพื่อให้น้ำชาออกมามีรสชาติที่กลมกล่อม ความดี คือความกตัญญู หมายความว่า ขณะที่เราได้รับถ้วยชาใบหนึ่งมา จะสอนให้เราคิดหวนไปว่าใบชามีที่มาจากไหน เส้นทางก่อนจะมาเป็นชาเป็นอย่างไร ทำให้เราสำนึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษซึ่งนั่นคือความกตัญญู และสุดท้ายคือความงาม ถ้วยชาที่ใส่น้ำชาเมื่ออยู่ตรงหน้า นั่นคือความงาม แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ทุกสิ่งมีคุณค่าเช่นกัน


    นอกจากนี้ทางคณะของมูลนิธิฉือจี้ยังได้นำมีการนำเสนอวีดิทัศน์ของมูลนิธิเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น ก่อนจะมีการปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้แทนจากมูลนิธิฉือจี้ไต้หวันกับ สสส.เกี่ยวกับการแนะนำสื่อฝึกทักษะชีวิต เพื่อป้องกันการเสพสารเสพติด แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ และแนวคิดการประยุกต์ใช้สื่อในประเทศไทยร่วมกับภาคีเครือข่ายของ สสส.




    </TD></TR><TR><TD align=center>




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  16. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ขอบคุณข้อมูลจากบล็อกโอเคเนชั่น และสำนักพิมพ์สารคดี
    --อ่านแล้วน้ำตาคลอเลยครับ พุทธศาสนาภาคปฎิบัตินั้นดีต่อโลกอย่างนี้นี่เอง พุทธศาสนาเป็นสมบัติอันมีค่าต่อโลก อย่างยากจะหาใดเปรียบได้ครับ ชาวพุทธไปประชุมใหญ่กันที่ไหน ก็จะกอดกันร้องไห้ เพราะจริงๆแล้ว ประเทศที่ไม่ได้มีพุทธศาสนาประจำชาติก็จะมีการกดดัน-กลั่นแกล้งด้วยวิธีการต่างๆ ชาวพุทธทั่วโลกจึงรักกันมากครับ

    Sarakadee สารคดี

    http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/news_thaihealth/24083

    การศึกษาดูงานมูลนิธิฉือจี้ (Tzu Chi Foundation) ประเทศไต้หวัน

    --สรุปง่ายๆ แบบเหมารวมว่า มูลนิธิฉือจี้คือโลกตัวอย่างใบใหม่ เป็นงานสร้างสรวงสวรรค์บนโลกมนุษย์ และ ฉือจี้ก็ได้ทำสำเร็จแล้วครับ

    --เริ่มต้นด้วยสองมือ และพลังใจของผู้หญิงคนหนึ่งครับ ผมขอคารวะ และยกย่องแม่ชีองค์นี้จากใจจริง ผมอยากให้มีสังคมใหญ่ๆ ที่คนเรามาสร้างสรรค์กันแบบนี้ในเมืองไทยครับ ตอนน้ำท่วมใหญ่ปีก่อน ประธานฉือจี้ก็บินมาจากอเมริกา ระดมคนจากไต้หวันมาช่วยเราครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  17. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ขอให้ท่านพักการอ่านสัก 10 นาทีนะครับ เพราะเรื่องของฉือจี้นั้นยิ่งใหญ่ ซึ่งจะทำให้บทความต่อๆมาจะอ่านดูแล้วจืดชืด ขอบคุณครับ
    --ท่านจะได้ทบทวนความคิด อาจจะเกิดโปรเจ็คดีๆขึ้นได้ครับ

    http://www.tzuchithailand.org/ เว็ปในประเทศไทย มีกิจกรรมดีๆตลอดครับ

    http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%89%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B9%89-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/141915075868611
    เฟซบุ๊คในไทย

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=1L3c0bP7h-M"]?????????????????? LifeExplorerTV???????????????? - YouTube[/ame] คลิปฉือจี้

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=uDV9ux5KUvo&feature=relmfu"]??????????????????????????????? - YouTube[/ame]
    ประถมฉือจี้ไต้หวัน

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Jm-XLabVTj4&feature=endscreen&NR=1"]?????????????????????????????????????????? - YouTube[/ame]
    เพลงไพเราะ--ภาพที่ซาบซึ้งใจ ท่านอาจารย์แม่ชีได้จัดการเรื่องน้ำดื่ม และเสื้อผ้าเพื่อทหารห้าหมื่นคนในช่วงน้ำท่วมในประเทศไทยด้วยความรีบด่วน(ส่งมาจากมาเลเซีย) แสดงถึงพลังเมตตา พลังบุญ (The Blessings)อันสูงส่งของท่านครับ ดูไปแล้วน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันครับ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=kbFFXMIXF24&NR=1"]???? ??? ??? ???? ???? - YouTube[/ame]

    คำสอนง่ายๆแต่ลึกซึ้งครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11111111.jpg
      11111111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.3 KB
      เปิดดู:
      96
    • 2222.jpg
      2222.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.6 KB
      เปิดดู:
      63
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  18. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---นักวิจัยไทยพบว่า เนื้อผลลิ้นจี่มีสารต้านอนุมูลอิสสระสองอย่าง และสารบำรุงร่างกายอีกสามอย่าง
    --ผักพลูคาว หรือผักคาวตอง เป็นสมุนไพรต้านความชรา และอายุวัฒนะครับ
    -----------------------------
    แนะ! กระเทียม ช่วยลดไขมันในหลอดเลือดได้<O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    การใช้สมุนไพรเป็นยาบำบัดโรคนั้นอาจใช้ ในรูปยาสมุนไพรเดี่ยวๆ หรือใช้ในรูปตำรับ ยาสมุนไพร ปัจจุบันตำรับยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณที่กระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ใช้รักษาโรคได้มีทั้งหมด 28 ขนาน เช่น<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยาจันทน์ลีลา ใช้แก้ไข้ แก้ตัวร้อน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยามหานิลแท่งทอง ใช้แก้ไข้ แก้หัด อีสุกอีใส<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยาหอมเทพพิจิตร แก้ลม บำรุงหัวใจ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยาเหลืองปิดสมุทร แก้ท้องเสีย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยาประสะมะแว้ง แก้ไอ ขับเสมหะ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยาตรีหอม แก้ท้องผูกในเด็ก ระบายพิษไข้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรที่นิยมใช้เดี่ยวๆ รักษาอาการของโรคที่พบบ่อยๆ ได้แก่<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรแก้ไข้ ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรแก้ท้องเสีย กล้วยน้ำว้า ทับทิม ฝรั่งดิบ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรแก้ไอ มะแว้ง ขิง มะนาว<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขมิ้นชัน แห้วหมู กระชาย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรช่วยให้นอนหลับ ขี้เหล็ก ดอกบัวหลวง หัวหอมใหญ่<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรแก้เชื้อรา กระเทียม ข่า ชุมเห็ดเทศ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรแก้เริม เสลดพังพอนตัวเมียและตัวผู้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สูตรสมุนไพรบำรุงผิวหน้า<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    1.ว่านหางจระเข้ : บำรุงผิว ป้องกันฝ้า ลบรอยจุด ด่างดำ รักษาสิว<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    2.แตงกวา : สมานผิว ลบรอยเหี่ยวย่น<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    3.มะเขือเทศ : สมานผิว ลดรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    4.ขมิ้นสด : บำรุงผิวหน้าผุดผ่องสดใสอ่อนวัย และช่วยให้สิวยุบเร็ว<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    5.กล้วยน้ำว้าสุก : บำรุงผิวนุ่มเนียนอ่อนวัย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    6.หัวไชเท้า : ช่วยลดรอยฝ้าและกระให้จางหาย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรที่มีสารต้านเซลล์มะเร็ง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    มะกรูด ผักแขยง ขึ้นฉ่าย บัวบก ผักชีฝรั่ง กระชาย ข่าใหญ่ มันเทศ ใบมะม่วง มะกอก เบญจมาศ แขนงกะหล่ำ แตงกวา พริกไทย ดีปลี โหระพา กะเพรา ใบตะไคร้ ถั่ว ผักแว่น ผักขวง เพกา ช้าพลู (ชะพลู) ลูกผักชี เร่ว เหงือกปลาหมอ ขมิ้นอ้อย หัวหอมแดง หอมหัวใหญ่ กระเทียม ฯลฯ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ (วิตามินเอ ซี อี)<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    วิตามินเอสูง ได้แก่ ใบยอ ใบย่านาง ตำลึง ผักกูด มะระ กระสัง ผักแพว ผักชีลาว ผักแว่น ผักบุ้ง เหลียงกระเจี๊ยบแดง แมงลัก ชะอม พริกชี้ฟ้าแดง แพงพวย ขี้เหล็ก ฯลฯ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    วิตามินซีสูง ได้แก่ มะขามป้อม ฝรั่ง มะปราง ขนุน ละมุด มะละกอ มะกอก ส้ม มะขาม ลูกหว้า พุทรา ฯลฯ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    วิตามินอีสูง ได้แก่ พวกธัญพืชต่างๆ เช่น งาดำ ข้าวซ้อมมือ จมูกข้าว ข้าวโพด ฯลฯ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เบตาแคโรทีนสูง ได้แก่ แคร์รอต ฟักทอง แค กะเพรา แพชั่นฟรุต ขี้เหล็ก ผักเชียงดา ยอดฟักข้าว ผักแซ่ว ฯลฯ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรไทยและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่แสดงฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    พืชสมุนไพร บวบขม จำปีป่า ปลาไหลเผือก ทองพันชั่ง เจตมูลเพลิงแดง ราชดัด ฝาง แสมสาร ติงตัง ขมิ้นต้น ฟ้าทะลายโจร กระเทียม ประยงค์ รงทอง ข่อย ขมิ้นชัน แกแล สมอไทย ขันทองพยาบาท<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เครือเถาวัลย์ ดองดึง โล่ติ้น เจตมูลเพลิงขาว มังคุด โทงเทง ทับทิม จำปา ไพล ปรู จำปีหลวง พลับพลึง สบู่ดำ แพงพวยฝรั่ง สีเสียด กะเม็ง สมอพิเภก<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรกับโรคความดันโลหิตสูง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงจะต้องได้รับการควบคุมดูแลจากแพทย์แผนปัจจุบัน และในการนำสมุนไพรมาใช้ใน ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจะต้องระมัดระวัง และจะต้องตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอจากแพทย์แผนปัจจุบัน สมุนไพรที่ใช้ขับปัสสาวะมีดังนี้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หญ้าหนวดแมว ในใบของหญ้าหนวดแมวจะมีเกลือโพแทสเซียมปริมาณ 0.7-0.8% ใช้ใบอ่อนเป็นยาขับปัสสาวะที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากเกลือโพแทสเซียมในใบอ่อนจะมีปริมาณสูง ตามตำรายาไทยใช้แก้โรคปวดตามสันหลังและเอว ใช้ขับนิ่วและลดความดันโลหิตสูง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ข้อควรระวัง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    1.เนื่องจากหญ้าหนวดแมวมีเกลือโพแทสเซียมสูงจึงไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    2.ควรใช้การชง ไม่ควรใช้การต้ม และควรใช้ใบอ่อน เพราะใบแก่จะมีเกลือโพแทสเซียมละลายออกมามาก มีฤทธิ์กดหัวใจ ทำให้หายใจผิดปกติได้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    3.ควรใช้ใบตากแห้ง ถ้าใช้ใบสดจะมีอาการคลื่นไส้และหัวใจสั่น<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    4.ไม่ควรใช้หญ้าหนวดแมวคู่กับยาแอสไพริน เพราะจะทำให้ยามีฤทธิ์ต่อหัวใจมากขึ้น<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    5.ก่อนการใช้ควรปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันและได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หญ้าคา ในรากหญ้าคามีสารอะรันโดอินและไซลินดริน ทั้งกรดอินทรีย์หลายชนิด ตามตำรับยาไทยใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา โดยต้นหญ้าคาสด 40-50 กรัม (น้ำหนักแห้ง 10-15 กรัม) หรือ 1 กำมือ ต้มดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ถ้วยชา (75 มิลลิลิตร)<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หมายเหตุ การใช้สมุนไพรขับปัสสาวะทุกชนิดต้องปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบัน เนื่องจากการใช้ยาขับปัสสาวะเกินขนาดอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สรรพคุณสมุนไพรที่ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    1.น้ำมันเมล็ดดอกคำฝอย จากการวิจัยในสัตว์ทดลองและในคนพบว่าน้ำมัน เมล็ดดอกคำฝอยช่วยทำให้ปริมาณคอเลส เตอรอลในเลือดลดลงและลดการอุดตัน ไขมันในหลอดเลือดได้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    2.กระเทียม มีสารอัลลิซินที่มีฤทธิ์ลด ไขมันในหลอดเลือดได้ ซึ่งจะใช้กระเทียม ประมาณ 5-7 กลีบ รับประทานหลังอาหารทุกมื้อ เป็นเวลา 1 เดือน ปริมาณคอเลส เตอรอลในเลือดจะลดลง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    3.ถั่วเหลือง ในถั่วเหลืองจะมีกรด อะมิโน เลซิติน และวิตามินอีสูง จะช่วยลดระดับไขมันในหลอดเลือด<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    การปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดโรคเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    1.การรับประทานอาหารที่มีไขมันน้อย เช่น ปลา ผัก ผลไม้ อาหาร สมุนไพร ไม่รับประทานอาหารรสเค็มจัด<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    2.การออกกำลังกายสม่ำเสมอ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    3.การพักผ่อนให้เพียงพอ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    4.ตรวจร่างกายประจำทุกปี<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สรุปรายชื่อสมุนไพรที่ควรใช้ในรูปอาหารกับโรคเบาหวาน ได้แก่<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    บอระเพ็ด มะระไทย ลูกใต้ใบ หญ้าใต้ใบ มะแว้ง เครือมะแว้ง ต้นตำลึง ฟ้าทะลายโจร สะตอ ว่านหางจระเข้ แมงลัก อินทนิลน้ำ หอมใหญ่ กระเทียม หญ้าหนวดแมว เตยหอม ฝรั่ง ช้าพลู ขี้เหล็ก สะเดา ผักบุ้ง สักกำแพงเจ็ดชั้น มวกแดง-ขาว ชะเอมไทย รากลำเจียก รากคนทา<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หมายเหตุ - การรักษาโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะการใช้ยาลดระดับน้ำตาลร่วมกับยาแผนปัจจุบันอาจจะทำให้น้ำตาลลดลงมากเกินไป เป็นอันตรายได้ จึงแนะนำให้ใช้สมุนไพรในรูปของการปรุงอาหารในชีวิตประจำวัน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    สมุนไพรกับโรคเอดส์<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    รายงานการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสมุนไพรรักษาโรคเอดส์มีการศึกษาเกี่ยวกับสมุนไพรหลายชนิด<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    โปรตีนจากระหุ่ง แม้ว่าจะมีพิษแต่ก็มีผู้พบว่าส่วนหนึ่งของโปรตีน Ricin ซึ่งเป็นพิษคือ dg A สามารถจับ antibody ของ HIV ซึ่งทำให้ไปยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส โดยมีผลต่อเซลล์ปกติเพียง 1/1,000 ของเซลล์ที่มีไวรัส<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    การค้นพบนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการพบยาที่ป้องกันหรือยืดเวลาในการเกิดโรคเอดส์<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    Hypericum spp.<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    พืชสกุลนี้บ้านเรามี บัวทอง (Hyperi cum garrettii Craib) มีผู้สกัดสาร Hypericin และ Pseudohypericin จากพืชนี้ พบว่ามีฤทธิ์ป้องกันการขยายตัวของไวรัสเอดส์<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    Castanospermun australe<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    Tyms และคณะได้พบว่าแอลคาลอยด์ 3 ชนิด มีผลยับยั้งเอนไซม์ที่ช่วยให้ไวรัสจับกับ T-cells ซึ่งสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และแอลคาลอยด์ที่ให้ผลดีที่สุดคือ Castanospermine จาก Castanospermum australe ไม้ยืนต้นของออสเตรเลีย และสารนี้มีพิษน้อย มีฤทธิ์ข้างเคียง เช่น น้ำหนักลด ท้องเสีย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ยังไม่มีสมุนไพรใดที่ใช้รักษาโรคเอดส์ได้จริงจัง ส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างการทดลอง ซึ่งบางอย่างก็ทดลองโดยไม่ถูกกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาสมุนไพร ก็เป็นแนวทางหนึ่งในการจะค้นพบยารักษาโรคนี้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  19. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ข่าวดี---น้ำมันดีเซลกำลังจะลงราคาต่ำกว่า30บาทต่อลิตร จึงขอให้รัฐกำกับราคาสินค้าต่างๆ ค่าขนส่ง ค่าโดยสาร ให้ลงตามด้วย เพราะปลายๆปี ทางตะวันตกต้องการใช้น้ำมันมากขึ้นเพื่อการทำความอบอุ่น น้ำมันจะแพงครับ
    ---ทำไมราคาสินค้ามันขึ้นแล้วไม่ยอมลงนะ แปลกดีครับ อะเมซซิ่งไทยแลนด์

    ซาอุฯระบุ โอเปคกำลังหาทางลดราคาน้ำมันลง
    14พค.2012

    นายอาลี อัล-นาอิมิอี รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบควรลดลง เนื่องจากอุปทานทั่วโลกกำลังจะมีมากกว่าอุปสงค์ จึงจำเป็นต้องลดลงราคาลงไปอยู่ที่ระดับราว 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันดิบเบรนท์ลอนดอน ด้าน นายอับดาลลา เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปค เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า โอเปคกำลังหาทางลดราคาน้ำมันลง โดยปัจจุบัน ประเทศสมาชิกโอเปค ซึ่งจะประชุมร่วมกันเดือนหน้า มีกำลังการผลิตเกินกว่าที่ทางกลุ่มพิจารณาว่าจำเป็นสำหรับไตรมาสนี้ อยู่ราว 8.3%
    ----------------------------------------------------------------------------------
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผู้ค้าส่งสัญญาณ ราคาน้ำมันในประเทศจ่อปรับลงอีก 40 สตางค์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>15 พฤษภาคม 2555 15:41 น.</TD><TD vAlign=middle align=left>

    <IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; MARGIN: 0px; BORDER-LEFT-STYLE: none; WIDTH: 90px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 20px; VISIBILITY: visible; BORDER-RIGHT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1337694232665 title=+1 tabIndex=0 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/_/+1/fastbutton?bsv=p&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FBusiness%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000059835&size=medium&count=true&hl=th&jsh=m%3B%2F_%2Fapps-static%2F_%2Fjs%2Fgapi%2F__features__%2Frt%3Dj%2Fver%3D3djdjZLIc1w.th.%2Fsv%3D1%2Fam%3D!tbK8W_8mwqaIodoNDQ%2Fd%3D1%2Frs%3DAItRSTPDXYL64VVqhiwI4BLmldTDgc_3Fw#id=I1_1337694232665&parent=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&rpctoken=493081503&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe%2C_renderstart" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1337694232665 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE>------------------------------------------------------------------------------------------------</TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=center><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=center>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=middle width=165 align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“บางจาก” ส่งสัญญาณราคาน้ำมันในประเทศจ่อปรับลงอีก 40 สตางค์ตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงต่อเนื่อง เพราะกังวลเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจจีนชะลอตัว และหนี้กรีซ

    นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศ โดยยอมรับว่าภายในอีก 1-2 วันนี้ราคาน้ำมันของไทยมีโอกาสที่จะปรับลดลงได้อีก 30-40 สตางค์ต่อลิตรตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงต่อเนื่อง เพราะตลาดกังวลปัญหาเศรษฐกิจยุโรป หนี้กรีซ รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง แต่ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวขึ้นในช่วงหน้าหนาวปลายปีนี้

    ดังนั้น บางจากคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบในครึ่งหลังของปีอยู่ที่ 105-110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากขณะนี้ราคาประมาณ 107 ดอลลาร์ และน้ำมันสหรัฐฯ อยู่ที่ 94.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  20. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ใครยังไม่เคยฟังเพลงของคิตาโร่บ้าง คงได้เคยฟังจากรายการทีวี เหี่ยวกับธรรมมะโดยไม่รู้ตัว เพลงบรรเลงที่สามรถเรียกน้ำตาจากผู้ฟังได้นะครับ เจ้าพ่อแห่งดนตรีนิวเอจ ชิลเอ๊าท์ สปา รีแลกซ์ ที่กล่าวมาเป็นสาขาใหม่ๆของดนตรีครับ แต่แน่ๆคือนิวเอจนะครับ
    http://www.4shared.com/mp3/3ZpxS1nz/Kitaro-Koi.htm

    ---เมื่อวานดูทีวี สถานีของรัฐ พบข่าวว่า ชาวบ้านตัดต้นยางพาราที่หมดอายุ ในพื้นที่ของตนเอง โดน จนท.ของรัฐฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เรื่องดินเสีย และทำให้โลกร้อน เป็นเงินรายละประมาณ 3 ล้านบาท น่างงนะครับ เพราะขนาดนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก ยังไม่รู้ว่าโลกร้อนด้วยสาเหตุอะไรเลย
    (นักวิชาการมาสำรวจดิน-ก็ไม่ได้เลวลง--ความร้อนในสวน-ไม่ได้ร้อนขึ้นจากเดิม)
    --แม้ว่าคณะรัฐมนตรีได้ให้โฉนดชุมชน และส่งหนังสือถึงอัยการให้ชะลอคดี
    --แต่กรมอุทยาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธ มาทำลายสะพาน --ตัดต้นไม้ในที่ของชาวบ้าน แม้จะเอาเอกสารให้ดูแล้ว-ก็ไม่สนใจ นับว่าราชการไทยล้าหลังมาก ก็ชาวบ้านเขาอยู่กันมาร้อยกว่าปีแล้ว และ ประกาศอุทยาน และกรมอุทยาน มีมากี่ปีเอง ถ้าเป็นที่อเมริกา ราชการจะโดนฟ้องค่าเสียหายรายละไม่ต่ำกว่า20ล้านบาท และส่วนมากจะชนะคดีด้วยนะครับ
    -เช่นเดียวกับชาวกะเหรี่ยงที่เพชรบุรี อยู่มาก่อนอุทยาน และทางการอนุญาติให้อยู่แล้ว แต่ก็โดนขับไล่ เผาบ้าน การสื่อสารระหว่างหน่วยราชการน่าจะมีปัญหาแน่ๆ หรือว่า รัฐสภานี่สั่งงานอะไรใครไม่ได้ ก็รีบไปเกิดใหม่กันเถอะไป๊
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...