พระเดชพระคุณ หลวงปู่ดี ธมฺมธีโร วัดส้มเกลี้ยง จ.จตาก(เสกเหรียญท้าวเวสสุวรรณ)

ถ้าเห็นเจดีห์องค์นี้ แสดงว่าท่านมาถูกทางแล้วครับ

 

หลวงปู่ดี เคยรับกิจนิมนต์ของผม ท่านมารถของพี่ธนากร ท่านนี้เป็นผู้มีจิตรเป็นกุศล
ผมเคยถามว่า เวลาหลวงปู่ดุ(เหนื่อยเเละจะหงุดหงิดบ้าง)เเล้วทำอย่างไร พี่เขาตอบว่า ก็ก้มลงกราบสิ ....

กราบนมัสการหลวงปู่ผู้เป็นครูนำทางจิตวิญญาน ที่ปลูกฝังในเรื่องคำสอนที่เป็นมหัศจรรย์มากกว่าการเชื่อทางอิทธิ์ฤทธิ์ปาฏิหาริย์

 

มีบ้างครับคนแก่ เหนื่อยก็อาจจะหงุดหงิดบ้างธรรมดา อย่าไปขัดใจท่านครับ

 

ถ้าผมไปวัดจากทางนนทบุรีมาจากเกษตรเลี้ยวซ้ายเข้าบางกรวยรึป่าวครับ แล้วมาแล้ววัดติดถนนใหญ่อะป่าว วัดอาทิตย์อยากเข้าไปกราบท่านครับ

ปล. ขอเบอร์ติดต่อใครก๋ได้ครับที่จะโทร. ถามทางได้ครับ ขอบคุณมากครับ

 

เบอร์นี้เลยครับ เป็นเบอร์พี่เด็กด่านฯครับ

 

ถ้ามาจากเกษตรตรงผ่านหน้าเดอะมอลงามฯวิ่งตรงมาเรื่อยๆตามถนนรัตนาธิเบศจนสุดทางจะเจอสะพานป้ายจะบอกตรงขึ้นสะพานไปบางใหญ่อย่าไปขึ้นให้เลี้ยวซ้ายมาไมไกลครับซอยวัดจะอยู่ซ้ายมือซุ้มแสตนเลสสังเกตง่ายครับ...ไม่รู้จะเข้าใจมั้ยนะครับ...

 

ถูกต้องแล้วครับ...

 

เรียนทุกท่านทราบครับว่าสามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 087-8991065
ยินดีรับใช้ครับผ๊ม

 

หลวงปู่ท่านเสกตะกรุดเงินขนาด๑นิ้ว เพื่อนำไปบรรจุด้านหลังล๊อกเก็ต เมื่อครั้งยังอยู่ที่วัดเทพากรครับ

 

วันที่๑๑ กรกฎาคม นี้หลวงปู่จะอายุครบ ๙๑ ปี ตามที่หลวงปู่ท่านบอก แต่ถ้านับจากประวัติทั่วไปพ.ศ.ที่ท่านเกิดนั้นจะยังไม่ถึง๙๑ครับ หลวงปู่ท่านจำของท่านมาได้แบบนี้ก็ยึดถือตามท่าน เพราะใครจะไปรู้ดีกว่าท่าน จริงใหมครับ? ซึ่งในสมัยเมื่อ๙๐ปีก่อนการคลาดเคลือนหรือการล่าช้าในการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเกิดขึ้นได้เสมอครับ

 

ตามประวัติที่มีอยู่ทั่วไป ทั้งในเวปบอร์ดและหนังสือหลายๆเล่ม ทั้งเล็กและใหญ่ ข้อมูลบางอย่างยังคลาดเคลือนอยู่พอสมควรครับ โดยเฉพาะเรื่องสายวิชาอาคมนั้นคลาดเคลือนไปเยอะ ผมเคยอ่านเจอหลายๆครั้ง อ่านและก็เข้าใจตามเค้าไป พอวันดีคืนดีก็ถามท่านบ้าง ท่านก็เล่าให้ฟัง อย่างเช่นหลวงปู่จันทร์ วัดนางหนูนี้ เป็นครูบาอาจารย์ของท่าน ที่ท่านพูดถึงบ่อยที่สุดครับ ผมเคยเรียนถามท่านว่าหลวงปู่ไปเรียนกับหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบด้วยหรือ เพราะเคยอ่านเจอว่าท่านก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่ออี๋ด้วย ท่านยิ้มแล้วก็เมตตาเล่าให้ฟังว่า ท่านไม่เคยไปเรียนกับหลวงพ่ออี๋เลยครับ อดเลย ว่าจะทำปลัดงาแกะมาให้ท่านเสกให้ซะหน่อย ฮ่าๆๆ แต่ที่แน่ๆ หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง เป็นหลวงลุงของท่านครับ แต่ยังไม่เคยซักไซ้เรื่องราวเท่าไรนัก วันหลังถ้าท่านเล่าให้ฟัง จะมาเล่าต่อครับ แหะๆๆ

 

สายหลวงพ่อ โปร่ง ก็มาจากสายหลวงพ่อ พัก (ภักตร์) แหละครับ สายนี้ เบี้ย ตะโพน ตะกรุด เด็ดขาดครับ

ลองกราบเรียนถามว่า ท่านชาตะปีอะไร ถ้ามะแม ก็ย่าง ๙๒

ถามท่านก็ได้ว่า แก่กว่า หรือ น้อยกว่า หลวงปู่เล็กวัดทำนบ ก็ได้ครับ เพราะหลวงปู่เล็ก ท่านปีมะแม

 

ขอบคุณพี่ปื้ด พี่เด็กด่าน พี่เด็กไทรน้อย ที่มาชี้แจงแถลงไขหวังว่าวันที่ 11 คงได้พบเจอกันครับ

 

อยากไปด้วย วันที่ 11 หนีเมียเที่ยววัดดีกว่า

 

ผมอยากร่วมทำบุญกับหลวงปู่อ่ะครับ ผมอยู่ไกลถืงลำปาง จะฝากเงินร่วมซื้อของถวายสังฆทาน หรือถวายเงินแก่ท่านเลย(แล้วแต่ทีมงานที่เกี่ยวข้อง) ไม่ทราบว่าผมจะโอนเงินเข้าบัญชีใครได้บ้างครับเพื่อเป็นธุระฝากในเรื่องนี้ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

เชิญเลยครับ เพื่อนๆเยอะแน่นอนครับ อัธยาศัยดีๆกันทุกคนครับ

ได้กราบหลวงปู่ ได้บุญ ได้เพื่อน แน่นอนครับ

 

อนุโมทนาครับ

โพสด้านบนมีเบอร์พี่เด็กด่านฯอยู่ครับ ลองๆฝากให้พี่เขาเป็นสะพานบุญก็น่าจะไม่มีปัญหาครับ

 

เบอร์นี้ครับ...

 

นอกจากเรื่องปีเกิดแล้วว่าจะลองๆถามหลวงปู่เรื่องตะโพนดูเหมือนกันครับ แหะๆๆ เผื่อหลวงปู่จะยอมเสกให้ครับ

 

หลวงปู่ดี ท่านเป็นชาวอ่างทองโดยกำเนิดครับ ท่านบรรพชาตั้งแต่เป็นเณร
และก็อุปสมบทเป็นพระตามลำดับ สมัยที่ท่านยังแข็งแรงท่านเดินทางไปทั่วครับ
ธุดงค์ไปถึงพม่าเลย ครูบาอาจารย์ของท่านจึงมีเยอะ ท่านเคยไปฝากตัวเป็นศิษย์
หลวงพ่อผิว วัดคลองสายบัว จ.ลพบุรี หลวงพ่อผิวท่านเป็นหลานหรือเป็นศิษย์
หลวงปู่จัน วัดนางหนูนี้แหละครับ ท่านก็สอนวิชาดูดวงให้ ท่านว่าหลวงพ่อผิว
นี้รูปร่างใหญ่ ดูหมอแม่น พวกผู้หญิงชอบมาดูหมอกับหลวงพ่อผิว ขึ้นมาบนกุฏิ
พร้อมกับข้าวกับปลาเตรียมถวายเพล หลวงปู่ดีท่านก็คิดในใจว่า !ได้กินของดีแล้ววันนี้
หลวงพ่อผิวท่านจะถามว่า"มาทำไม มีกิจอันใดเล่า" พวกผู้หญิงก็จะบอกว่า "มาดู
หมอเจ้าค่ะ" หลวงพ่อผิวท่านก็จะแหวกหน้าอกให้ดูแล้วว่า "นี้ไงเล่าหมอ ดูซะสิ"
หลวงปู่ดีท่านเล่าไปก็ขำไป เพลนั้นก็เลยอดกินของดีๆกัน คุณหญิงคุณนาย
ยกปิ่นโตเดินตึงๆกลับไปหมดเลย ฮ่าๆ และก็หลวงพ่อผิวนี้แหละครับที่สอนวิชาดูหมอ
ให้ท่าน แต่แปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือ หลวงพ่อผิวไม่สอนตามตำรา แต่จะให้ออกสนาม
กันเลย อย่างเช่นหลวงพ่อผิวกับหลวงปู่ดีเข้าไปในเมืองลพบุรี เดินๆไปหลวงพ่อผิว
จะถามว่า ตอนนี้ยามอะไร หลวงปู่ดีท่านก็จะจับยาม แล้วก็กราบเรียนหลวงพ่อผิว
ท่านก็จะถามต่อว่า ถ้ายามนี้ ต่อไปจะเจออะไร
เจอผู้หญิงครับ
ผู้หญิงรูปร่างเป็นอย่างไร
ท้วมๆขาวๆครับ
ตอบเสร็จก็จะออกเดินกันต่อไป และก็จะพิสูจน์ว่าเป็นไปตามที่ทำนายหรือไม่ นี้คือวิธี
การสอนของหลวงพ่อผิวครับ อีกอย่างที่หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังก็คือ หลวงพ่อผิวท่านนี้
ใครมากราบท่าน ท่านไม่ยอมขาดทุน ท่านจะถามว่ามีอะไรดี ถ้ามีคาถาอะไรท่านจะ
จดเอาไว้ แล้วเอามาทดลอง อย่างเช่นท่านได้คาถาเมตตามา ท่านก็จะบอกให้หลวงปู่ดี
ท่องไปเดินไปเรื่อยๆ ท่านกำชับว่าเดินให้ถึงบ้านหมี่ แต่ถ้าได้ผลก็กลับเลย หลวงปู่ดี
ท่านก็เดินไปเรื่อยๆ เดินไปท่องไปซักพักไม่ไกลเท่าไร ก็ไปนั้งพักที่โคนต้นไม้ ท่านก็
ท่องคาถาไปเรื่อยๆ ซักพักก็มีคนมาถวายบุหรี่ท่าน เอ่อได้ผล ท่านก็กลับวัด
ไปรายงานผลให้หลวงพ่อผิวฟัง และด้วยโชควาสนาของหลวงปู่ดี หลวงพ่อผิวก็ได้พา
หลวงปู่ไปฝากเรียนวิชากับ หลวงปู่จัน วัดนางหนู ด้วย ซึ่งหลวงปู่จะบอกเสมอว่า
ยันต์ที่ท่านลงให้นั้นเป็นตำรับของหลวงปู่จัน ยันต์นี้ก็พอแล้วสำหรับมนุษย์ คุ้มตัวได้
ส่วนใหญ่ท่านจะลงยันต์ตัวนนี้ในวัตถุมงคลของท่านเกือบทุกชนิด ยันต์นี้เรียกว่า
ยันต์"นะหน้าทอง" ครับ