"พระเจ้าจักรพรรดิราช"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 23 มกราคม 2011.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    แง่ม "ผมไม่ได้อยู่ลัทธิไหน" หากผมนับถือคงเป็น "ธรรม(ชาติ) และผู้พบและเผยแพร่มัน" นั่นแลครับ ส่วนคุณก็รีบๆออกจาก "ลัทธิคลั่งผีล้มเจ้าจนเสียสติด้วยครับ"
     
  2. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ย้อนตรงไหนครับ "มีคนบอกว่าออกจากลัทธิ...อะยัง?" ผมก็ตอบไปว่า "ไม่ได้อยู่ลัทธิไหนยกเว้นลัทธิธรรม"

    หามาทีครับ "ว่าย้อนแย้งตรงไหน" พลีสครับ รออยู่ๆ
     
  3. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    อะๆ "ไม่ย้อนแย้งสิครับ"
    ย้อนตรงไหนครับ "มีคนบอกว่าออกจากลัทธิ...อะยัง?" ผมก็ตอบไปว่า "ไม่ได้อยู่ลัทธิไหนยกเว้นลัทธิธรรม"

    หามาทีครับ "ว่าย้อนแย้งตรงไหน" พลีสครับ รออยู่ๆ

    เนี่ยครับข้อความเก่าๆ "กลับมาตอบก้อนนนรออยู่ฮับ"
     
  4. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    โอ้โห ตาที่สามเปิดแล้ว "เทนชินฮังมาเอง" และผมไม่ได้หา "คุณโพสท์เอง"
    อะไรอะตัว โพสท์เองมาตั้งกี่หน้า ลืมได้ไงอะ "นับถือๆ" แต่เรื่องนี้ช่างมันเหอะ

    จากเม้นท์เก่าๆ "ผมย้อนแย้งยังไง" ตอบทีฮ้าฟ รออยู่หึๆ
     
  5. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    อะๆ "คือผมไม่ได้อยากรู้ว่าจะยิงไม่ยิงใครยิงใครโดนยิง"

    ผมอยากรู้แค่"ผลตรวจเลือด"กับ "ย้อนแย้งยังไงที่ผมตอบ" และตอนนี้มีอีกคำถามคือ "คุณย้อนแย้งทำไม" กรุณาใส่คำตอบ "ลงในคอมเม้นท์ให้ถูกต้อง(ตามจริง)" นะครับ หึๆ
    Edit : แหนะมีลบเรื่องพี่ออกด้วยนะ หึๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2018
  6. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,490
    ค่าพลัง:
    +2,364
    "ผมยอมแล้วฮ้าฟฟ" ไม่พิสูจน์ก็ได้ฮับ ผมจรลีลี้ภัยดีกว่า "มาแหย่ตุ้ดเล่นๆ" ไปละฮ้าฟ ผมกลัวแล้ว หนีละ บ้ายบายฮับ
     
  7. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ห่วงภพภูมิของคนอื่นแทนดีกว่ามั้ย

    ถ้าจะเป็นคนนำเขา จะพาคนไปภพภูมิไหน

    จะนำเขาไปอบายภูมิโดยการทำให้เขามีโทสะเป็นปกติในจิตใจเหรอ
     
  8. อณูธาตุ

    อณูธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +195
    ความรู้จากบรมครู
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า พระบรมครู ทุกๆพระองค์

    พูดถึง ธรรมชาติที่ไม่มีกาลเวลา ธรรมชาติที่เหนือกาลเวลา ธรรมเหนือโลก หรือโลกุตรธรรม หรือ อกาลิโก
    ธรรมธาตุที่เป็นอสังขต เป็นอกาลิโก เป็นได้อย่างไร เมื่อการปรุงแต่งสิ้นแล้ว(สังขาร คือแรงกระเพื่อมไปใน ราคะ โทสะ โมหะ)วงรอบ ปฏิจจสมุปบาท ขาดแล้ว จิตละสังขาร(การปรุงแต่งวิญญาณขันธ์) คืนสู่ธาตุรู้(มโนธาตุ) ซึ่งเป็นของกลาง เป็นสนามแห่งธาตุรู้ โดยไม่มีประมาณ สิ่งรู้นี้เมื่ออยู่ในตัวของสัตตานัง ก็เห็นว่ารู้เป็นของเรา เรารู้ แต่เมื่อเห็นแจ้งธาตุรู้แล้ว สิ่งรู้ที่คิดว่าเรารู้นี่ เขามีอยู่ทั่วไปหมด เป็นสนามธาตุรู้ที่อนันต์ เมื่อเป็นสิ่งเดียวกับสิ่งนั้น การถึงพร้อมทุกสิ่งจึงมี การมาการไป จึงไม่มี เปรียบดั่งจุดต้นทาง จุดปลายทาง คือจุดเดียวกัน ปัจจัยทำให้เคลื่อนจึงไม่มี กาลเวลาจึงไม่ปรากฎ พระพุทธองค์จึง บัญญัติว่า อกาลิโก
    เมื่อพระพุทธองค์แจ้งสิ่งนี้แล้ว บัญญัติ ธรรมโปรดสัตว์โลก อริยสัตย์๔ประการ ปฏิจจสมุปบาท พระไตรลักษณะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    ความไม่รู้ จึงยึดถือ อนัตตาว่าเป็นอัตตา ราคะ โทสะ โมหะ จึงพอกพูน ตัวเรา ของเรา มีมานะ ถือตัวถือตน แบ่งชนชั้นวรรณะ อวดตัว อวดตน อยากยิ่งใหญ่ มีอำนาจเหนือคนทั้งปวง ความขัดแย้งก็เกิดขึ้น สงครามก็เกิดขึ้น
    ความหมายของ อนัตตา คือ ไม่ใช่อัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่อยู่ในอำนาจ เมื่อมีเหตุมีปัจจัย สิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงมี ธรรมทั้งปวงจึงไม่มีอัตตา มีแต่อนัตตา เราใช้อาตมัน หรืออาตมา ก็ในสมมติในโลกเท่านั้น ในโลกุตรแล้วไม่มี
    สังขารธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง อนิจจัง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เมื่อสิ่งใดไม่เที่ยง ตั้งอยู่ไม่ได้ สิ่งนั้นก็เป็น ทุกขัง
    วิสังขารธรรม เป็นธรรมเอก ไม่ประกอบด้วย ธรรมอื่น อยู่ได้ด้วยตัวเอง จึง เป็นนิจจัง เป็นอมตะ เป็นอยู่อย่างนั้น เหนือกาลเวลา
    ทั้งสังขารธรรมและวิสังขารธรรม ต่างก็เป็น ธรรมชาติ มีสภาวะ กับไร้สภาวะ มีมิติกาลเวลา กับไร้มิติกาลเวลา ไม่ใช่อัตตา ตัวตนของใคร บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่อยู่ในอำนาจ พระพุทธองค์จึงบัญญัติ ว่าธรรมทั้งปวงล้วนเป็นอนัตตา
    นี่เป็นสมมติอธิบายทางภาษา ให้เห็นแผนที่ ให้เข้าใจ ต่อเมื่อท่านถึงแล้ว ก็หมดสงสัยไม่มีภาษาใดๆอธิบายได้ลึกซึ้งเท่า ภาษาใจที่สัมผัสเอง

    สาธุท่านผู้เจริญผู้สนใจในธรรมทั้งหลาย
     
  9. อณูธาตุ

    อณูธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +195
    ยกพระสูตร ที่ควรรู้

    นรชนผู้ตกอยู่ในอำนาจของเวลา ตกอยู่ในอำนาจของภพน้อยภพใหญ่ ย่อมเข้าถึงความทุกข์และต้องเศร้าโศก คนพาลไม่ พิจารณาเห็นตามความเป็นจริง ย่อมเดือดร้อนด้วยเหตุ ๒ อย่าง คือ
    มีใจฟูขึ้นเพราะเหตุแห่งสุข ๑ มีใจฟุบลงเพราะเหตุแห่งทุกข์ ๑

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=26&A=7242&Z=7277&pagebreak=0
    ----------------
    กาลย่อมกินสัตว์ทั้งปวงกับทั้งตัวเองด้วย ก็ผู้ใดกินกาล ผู้นั้นเผา
    ตัณหาที่เผาสัตว์ได้แล้ว.
    http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=27&A=1920&Z=1926&pagebreak=0
    -----------------

    พุทธวจนะในเกวัฏฏสูตร ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค ได้กล่าวถึงนิพพานว่าเป็น "ธรรมชาติที่รู้แจ้ง ไม่มีใครชี้ได้ ไม่มีที่สุด แจ่มใสโดยประการทั้งปวง ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ และวาโยธาตุ ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในธรรมนี้ อุปาทยรูปที่ยาวและสั้น ละเอียดและหยาบ ที่งามและไม่งาม ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในธรรมนี้ นามและรูปย่อมดับไม่มีเหลือในธรรมชาตินี้ เพราะวิญญาณดับ นามและรูปย่อมดับ ไม่มีเหลือในธรรมชาติ ดังนี้ฯ" (ที.สี.14/350)
    -----------------------------------------------------
    อุปปาทสูตร
    [๕๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม
    ไม่อุบัติขึ้นก็ตาม ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา
    ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้นเอง
    ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง
    ครั้นแล้วจึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า
    สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติขึ้นก็ตาม
    ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา
    ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์
    ครั้นแล้วจึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า
    สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติขึ้นก็ตาม
    ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้นเอง
    ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
    ครั้นแล้วจึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า
    ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ฯ

    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ บรรทัดที่ ๗๕๒๐ - ๗๕๓๓. หน้าที่ ๓๒๒ - ๓๒๓.
    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=20&A=7520...

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
    อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
    -------------------------------------------------------------
     
  10. อณูธาตุ

    อณูธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +195
    ระดับของจิต แปรผันกับภพภูมิ(มายาแห่งมิติกาลเวลา) สัตว์จะมีสมองน้อยจะเข้ามิติจิตได้ละเอียดกว่าคนทั่วไป สัตว์จึงรับสัญชาตญาณ ลางสังหรณ์ได้ดี สัตว์จะใช้จิตสื่อถึงกันได้ จะเห็นว่าผู้ปฏิบัติสมาธิถึงขั้นทรงฌานก็สามารถสื่อจิตกับสัตว์ได้

    การหมุนวนก้นหอย เกลียวคลื่น จักระ สิ่งเหล่านี้ ล้วนพาพ้นอำนาจ ฉุดลั้งของกระแสเวลาได้ การลงไปในคลื่นความถี่แห่งย่านเวลา การยืดออกของเวลาพอจิตละเอียดขึ้นเรื่อยๆ เวลาจะช้าลงเรื่อยๆ เปรียบดั่งกระสุนปืนเคลื่อนไปอย่างช้าๆ ลำแสงพุ่งไปแบบหนืดๆ เมื่อจิตเป็นหนึ่งเดียวกับมโนธาตุ ถึงต้นกำเนิด ถึงที่สุดแล้ว กาลเวลาจะขาดหายไป ความอลังการเหนือคำบรรยายใดๆจักปรากฎแจ้ง รู้ถึงความมีอยู่ของธรรมชาติอันวิสุทธิ์ ที่หาไม่ได้ในธรรมชาติภายใต้กรงขังแห่งย่านกาลเวลา เมื่อถึงธาตุรู้ รู้ในธาตุรู้ คือนิพพาน ท่านที่บรรลุธรรมแบบสันตติขาดแบบชั่วฟ้าแลบ ไม่กระจ่างแจ้ง ไม่เห็นการยืดไปของมิติกาลเวลา คือไม่ชัดเจนใน อกาลิโก ที่แท้จริงเป็นอย่างไร

    เรื่องของเทพเจ้า พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ มีจริง ระบบจัดการ รื้อขนสัตว์มีอยู่ ท่านควบคุมระบบต้องรู้แจ้ง ในไตรภูมิ รู้แจ้งเขาพระสุเมร เป็นอย่างดี ผู้ไม่รู้จริงพึ่งระวังเรื่องการปรามาส ปัญญาจะมืดบอด พุทธศาสนาก็ถือกำเนิดจากพราหมณ์ พระนามของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ล้วนบ่งชี้ได้ดี คำว่าพุทธะ คือสมณะ ฤาษี นักพรต พราหมณ์ผู้บำเพ็ญ จนได้บรรลุโมกษะ

    พราหมณ์ในโลกกับเทพเจ้าโลกวิญญาณ ไม่ตรงกันน่ะ พราหมณ์ในโลกเขาล้มล้างพุทธ แต่เทพในโลกวิญญาณท่านสนับสนุนพุทธศาสนา สร้างโพธิสัตว์เพื่อรื้อขนสัตว์

    จริงๆก็ไม่อยากจะเขียนบทความนี้มากนัก เพราะไม่มีในตำรา คนไม่เชื่อจะลบหลู่เอา แต่ก็รอหาผู้รู้มาบอกยังไม่มี เอาเป็นว่าเชื่อหรือไม่เชื่อก็รู้ไว้ใช่ว่าแล้วกันน่ะ ไม่รู้จริง ก็แบ่งรับแบ่งสู้ อย่าทำตัวสุดโต่ง เกรียนๆ กากๆ กับเรื่องที่ไม่ควร วิบากกรรมจะแรง เห็นมาเยอะ การบรรลุธรรมได้ต้องเป็นคนอ่อนน้อม อ่อนโยน กระแสบวกเยอะๆ

    ครั้งหน้าจะพูดเรื่อง จักระ วิชาของพระศิวะ พอจะสู้จักรแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ์ได้หรือเปล่าหนอ
     
  11. มนุษย์835

    มนุษย์835 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +182
    เมื่อไม่มีกาลเวลา ก็พูดถึงการข้ามกาลเวลาหน่อยเป็นไงครับ อ่อ แนะนำว่าออกไปตั้งกระทู้ใหม่จะดีกว่าครับ น่าจะอ่านง่ายกว่า คนอ่านจะได้อ่านง่ายกว่านะ
     
  12. thaitoddler159

    thaitoddler159 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2019
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +13
    แก้ไข
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2019
  13. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    มีโลกใบใหญ่ใบนึง มีมด มีนก มีปลา

    ด้วยมดเดินอยู่บนดิน แหงนมองไปบนฟ้า เห็นว่านกนั้นบินอยู่สูงไกลลับตา ได้เฝ้าทอดถอนใจว่า เราผู้อยู่บนผืนดินไม่อาจโบยบินเช่นเขา

    ดั่งนั้น นกผู้บินอยู่กลางเวลา ถลาลมอยู่บนฟ้า เธอเหล่านั้นจะทราบหรือว่า นั่นคือฟ้า เพราะเป็นแต่เพียงอากาศ มองไม่เห็นฟ้าที่กล่าวถึงนั้นเลย เมื่อหลายทิวาราตรีพ้นไป ก็พบฝูงปลา ที่แหวกว่ายนั้น มีความรื่นเริงอยู่ในกระแสน้ำ ก็ยังมีคำถามภายในเกิดขึ้นว่า ใต้ผืนน้ำนี้ จะดีกว่าท้องฟ้าหรือไม่ อย่างไรกัน พวกเขาจึงเย็น และมีสุขเช่นนั้น

    กล่าวมาถึงตอนนี้ คล้ายปลา จะเป็นผู้น่ามีความสมบูรณ์ แต่ไม่เลย เพราะปลาหรือจะแยกจากน้ำไปเป็นอิสระจากกัน เพราะมีน้ำปลาจึงอยู่ด้วยประการทั้งปวง ความเป็นหนึ่งเดียวของ2 อย่าง จึงมีรูปแบบเป็นเช่นนั้น ขาดปลาน้ำก็ยังอยู่ เป็นปกติ

    ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ยกมาคร่าวๆ ให้พึงเข้าใจว่า ทุกอย่างที่ไม่ได้สัมผัส ไม่ได้เป็น ไม่ได้รู้อยู่กับสิ่งนั้น ไม่ใช่สิ่งนั้น แล้วอย่างนี้ จึงจะสรุปเหตุนั้น ผลนี้ เพราะเหตุนั้น ด้วยอย่างนี้ จึงจะเป็นแบบนี้ นั้นยังอาจคลาดเคลื่อนไปได้มากอยู่ อาจด้วยหลายๆ ปัจจัยประกอบ

    แต่ทั้งนี้ ยิ่งรู้ก็ยิ่งไกลออกไป ตรงกันข้ามไม่รู้กลับใกล้เข้ามามากกว่า เพราะทั้งหมดทั้งสิ้น เริ่มที่ตัว ก็จบที่ตัว เจตนากำหนดเหตุ แต่การกระทำกำหนดผล ดั่งนี้

    ขุดต้นก็ยาก ตัดปลายก็ไม่ง่าย ต้องตัดที่กลางต้นจึ่งจะเข้าใจ...

    ฝากเท่านี้ ไม่มีเจตนาหักหาญ หรือทำลายกำลังใจ เชื่อว่ามีความตั้งใจอันดี มีกุศลจิต

    ขอให้เจริญในธรรมต่อๆ ไปคับผม

    เอิ้กๆๆๆ

    (ปล. อย่าด่านะคับ เมาอากาศ :D)
     
  14. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    นักการเมืองเอาพระศรี ฯ มาหาเสียง

    มองในแง่ลบไว้ก่อน
    เหมือนที่ใครหลาย ๆ คนมองผมในแง่ลบไว้ก่อนก็ดีนะ เว้นแต่ครูบาอาจารย์ที่เชื่อถือได้มาคอนเฟิร์มว่า "คนนี้แหละ ของจริง" ค่อยไปเชื่อ
     
  15. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ผมเห็นด้วยว่าต้องมีการเปลี่ยนกฏหมาย
    จะไปเปลี่ยนกฏหมายในตอนนี้ ออกจะเร็วไปหน่อย
    แล้วอีกอย่าง มันยังไม่รุ้รายละเอียดเลย ว่ากฏหมายที่เขาจะเปลี่ยน มีอะไรบ้าง

    แต่ไปจี้ให้เขาบอกว่าจะเปลี่ยนยังไงมันก็ไม่ถูกอีกแหละ เพราะการเปลี่ยนกฏหมาย ต้องศึกษาให้ละเอียดหน่อย

    แต่อย่างไรก็ตาม
    เรื่องการเปลี่ยนกฏหมายนี่ ทำได้ยาก
    เพราะ รัฐบาล คสช วางรากฐานอะไรไว้ซับซ้อนไปหมด
    มีองค์กรปกป้องรัฐธรรมนูญนู่นนี่นั่น สารพัด

    ถ้าจะเปลี่ยนกฎหมาย
    ......


    เปลี่ยนใจคนที่อยู่ในองค์กรณ์พิทักษ์รัฐธรรมนูญทั้งหลายแหล่ให้ได้ซะก่อน
     
  16. Grace Mongkhonsin

    Grace Mongkhonsin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2019
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +22
    ถ้าคุนคือพระเจ้าจักรพรรดิจริง คุนมีญานหยั่งรุ้อดีต อนาคตมั้ย ใครในอดีตกลับชาติมาเกิดเป้นใครตอนนี้น่ะ คุนไม่มีญานหยั่งรุ้เลยสักนิด พระเจ้าจักรพรรดิท่านเป้นพระอินทร์ลงมาจุติ ร่วมกับพระศรีอารย์ในฐานะ พระยาธรรมมิกราช ชาตินี้เป้นชาติที่500ของเราที่เกิดเป็นผู้หญิง สวามีของเราในอดีตคือพระอินทร์ พระศิวะ พรหม อินทรนาคราช ในชาตินี้พระอินทร์กับเราต้องร่วมมือกันครั้งสุดท้าย ในการทำหน้าที่ มือปราบกลียุคแห่งสามโลก วาระสุดท้ายของการเป้นสามีภรรยากัน พระองค์ไม่ได้ขี้เหร่อย่างที่เขาว่ากัน พระพักตร์พระองค์งามราวกับเทพบุตรมาจุติในเมืองมนุษย์ ดวงพระเนตรดำคมกลิป คิ้วหนาทรงมังกรเฉียงขึ้น จมูกโด่งคมสัน เพราะมีเชื้อฝรั่งครึ่งนึง เวลายิ้มมีลักยิ้มทั้งสองข้างเล้กๆ...ใช่ ท่านคือสวามีของเราในอดีต เราคือ พระนางโสมาสิวิกานาคเทวี เจ้าแม่นาคี ที่พวกคุนชอบดุยังไงละ
     
  17. OAE-

    OAE- สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2019
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +10
    โม้เยอะครับ ทานวิต้าแล้วไปนอนน่าจะดีครับ

     
  18. เพลงพรายพิญ

    เพลงพรายพิญ The Myth 2077

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2018
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +1,996
    ดื่มวีต้าอย่างเดียวคงไม่พอนะ...

    ไปตรวจสุขภาพจิตด้วย...

    กลุ้ม ..!!!
     
  19. เพลงพรายพิญ

    เพลงพรายพิญ The Myth 2077

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2018
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +1,996

    สวัสดีค่ะ zallie
    คิดถึงจึงแวะมา สบายดีนะ
    บุญรักษาค่ะ
     
  20. TheKunKeng

    TheKunKeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +919

    โธ่!!...ไอ้เราก็อุส่าห์อ่านมาตั้งหลายบรรทัด นึกว่าจะมีอะไรดีๆที่เราไม่รู้ ที่ไหนได้ มาสะอึกตรง 2 บรรทัดสุดท้ายนี้เอง =..=
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...