พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

.

สาระวัฒนธรรม : 'สกุลช่างเมืองเพชร' สืบสานศิลปะโบราณ สืบตำนานช่างสิบหมู่ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="1" bgcolor="#CCCCCC"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="middle" align="left">โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</td> <td class="date" valign="middle" align="left">24 กุมภาพันธ์ 2555 12:47 น.</td></tr></tbody></table>

​

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center"></td> </tr> </tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center"></td> </tr> </tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center"></td> </tr> </tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center"></td> </tr> </tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center"></td> </tr> </tbody></table>




ศิลปะนั้นอยู่คู่ กับประเทศไทยมาช้านาน 'งานช่างสิบหมู่' เอง ก็ถือเป็นประณีตศิลป์ที่มีลักษณะวิจิตรงดงามทรงคุณค่า เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าภาคภูมิใจ ซึ่งในจังหวัดเพชรบุรีก็มีการสืบสานอัตลักษณ์ทางศิลปกรรมดังกล่าวจากรุ่นสืบ รุ่น ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของงานศิลปะโบราณที่สืบทอดกันมา ร่วมทั้งช่างฝีมือที่มีเป็นจำนวนมากในตัวเมืองจึงเกิดการขนานนามจำเพาะ 'สกุลช่างเมืองเพชร'

งานสกุลช่างเมืองเพชรนั้นก็แบ่งแยกออกเป็นหลายๆ แขนง ตามความถนันดของช่างฝีมือแต่ละคน ได้แก่ งานแทงหยวก, งานปูนปั้น, งานลงรักปิดทองประดับกระจก, งานลายรดน้ำ ฯลฯ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในงานช่างสิบหมู่ที่คุ้นหูกันดี

ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งยวดที่ศิลปะอันงดงามเหล่านี้ไม่ได้ ดับสูญไปตามกาลเวลา วิถีชีวิตของชาวเพชรบุรียังดำเนินไปโดยไม่ขาดศิลปะ หากพูดว่าศิลปะนั้นถือเป็นรากฐานสำคัญของชาวเมืองนี้ก็คงจะไม่ผิด

ซึ่งในปัจจุบันหลายๆ ภาคส่วน ก็เล็งเห็นความสำคัญของศิลปะโบราณเหล่านี้มากขึ้น มีทั้งการส่งเสริมด้านเผยแพร่ เรียนรู้ และอนุรักษ์

สะท้อนจาก 3 ครูช่างเมืองเพชร
กว่าจะมาเป็นครูช่างชั้นนำของเมืองเพชร ก็คงต้องสั่งสมประสบการณ์กันมาไม่ใช้น้อย ซึ่งศิลปะแต่ละแขนงนั้นก็ล้วนแต่มีความวิจิตรประณีต เป็นที่แน่นอนว่าช่างฝีมือแต่ละท่านคงต้องสร้างสรรค์ด้วยความรักและความอด กลั้นเพื่อให้ได้ชิ้นงานอันทรงคุณค่า

ครูช่างงานตอกกระดาษ พิทยา ศิลป์ศร เล่าว่า ตนได้รู้จักงานตอกกระดาษเมื่อครั้งบวชเรียน เพราะมีพระผู้ใหญ่ทำงานตอกกระดาษเพื่อประดับเมรุ ประดับโกศ ก็เข้าไปช่วยงาน และเกิดความสนใจจึงศึกษาปฏิบัติจนมีความชำนาญมาจนปัจจุบันนี้

“ความภาคภูมิใจ เราได้สืบทอดและได้อนุรักษ์งานชิ้นนี้ไม่ให้สูญหายจากสกุลช่างของเมืองเพชร ไป คนรุ่นใหม่ก็ควรจะศึกษางานศิลปะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานแกะสลักไม้ ปูนปั้น ตอกกระดาษ และอีกหลายอย่าง ถ้าเด็กรุ่นใหม่ไม่ศึกษาก็จะไม่รู้จักกันเลย”

งานตอกกระดาษนั้นถือเป็นศิลปะหนึ่งในช่างสิบหมู่ แม้จะดูๆ แล้วมีวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก แต่เมื่อทดลองทำจริงๆ ก็คงต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่กันเลย อุปกรณ์สำคัญนอกจาก กระดาษ ก็มี สิ่ว เครื่องมือที่นำมาตอกให้เป็นลวดลาย อย่างลายไทย, ลายนักษัตร ฯลฯ ซึ่งงานตอกกระดาษนั้นนิยมนำไปติดประดับลูกโกศขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังนำมาใช้ในงานบุญต่างๆ ทั้งงานบวชหรืองานแต่งงานด้วย โดยจะตอกกระดาษที่มีสีสันสดใสแล้วทำเป็นธงราว ประดับประดาเคียงคู่กับพวงมะโหตร งานหัตถกรรมพื้นบ้านที่นำกระดาษมาพับและตัดเป็นชั้นๆ เมื่อคลี่ออกมาก็จะจะมีลักษณะเป็นพวงระย้าดูสวยงาม

อ.พิทยา ยังเล่าต่อว่าปัจจุบันแม้งานตอกกระดาษจะไม่ถือว่าได้รับความนิยมแบบเมื่อ ก่อน แต่ทุกภาคส่วนก็ให้ความสนใจต่องานฝีมือประเทศนี้อยู่ไม่น้อย มีหน่วยงานราชการ และทั้งสื่อมวลชนเข้ามาส่งเสริมเผยแพร่ ซึ่งเขาก็มีการเปิดสอนงานตอกกระดาษโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย เพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นหลังหันมาใส่ใจและร่วมกันอนุรักษ์เอาไว้

“จะเป็นอาชีพมันก็ยาก ถือว่าเป็นงานเสริมจะดีกว่าครับ เป็นรายได้พิเศษเพราะมันยังไม่เป็นที่นิยมมากมาย เพราะตอนนี้เหมือนกับงานตอกกระดาษยังประคองๆ กันอยู่ ให้คนรู้จัก”

ด้าน ธานินทร์ ชื่นใจ ครูช่างลายรดน้ำ แห่งสกุลช่างเมืองเพชร ก็เล่าให้ฟังว่าชื่นชอบศิลปะลายรดน้ำมาตั้งแต่เด็กๆ จากนั้นก็เข้าศึกษาที่วิทยาลัยเพาะช่าง พอจบมาก็เข้ามาทำงานศิลปะลายรดน้ำอย่างจริงจัง ซึ่งงานฝีมือประเภทนี้มักพบเห็นตามบานประตูหน้าต่างวัดวาอาราม บานประตูตู้พระไตรปิฏก

ซึ่งกระบวนการผลิตชิ้นงานนั้นถึงแม้ว่าจะค่อนข้างซับซ้อน แต่ถ้าตั้งใจปฏิบัติกันจริงๆ ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถเลย เขาเล่าถึงขั้นตอนการทำคราวๆ โดยเริ่มตั้งแต่การทำน้ำยาหรดาลที่ใช้ในสร้างสันลวดลายบนชิ้นงานบริเวณ พื้นที่ซึ่งไม่ต้องการให้ทองติด จากนั้นค่อยๆ เช็ดด้วยยางรักเพื่อให้ทองติด และนำทองคำเปลวมาปิดให้ทั่ว สุดท้ายก็ใช้น้ำรดและถูอย่างเบามือเพื่อขจัดส่วนเกินให้หลุดลอกไป ซึ่งตรงนี้ก็เป็นที่มาของคำว่า ‘ลายรดน้ำ’ นั้นเอง

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันก็เริ่มมีคนนำเอาศิลปะลายรดน้ำเขาไปประดับในบ้านเรือนกันมากขึ้น แน่นอนว่าหากต้องการให้ศิลปะประเภทนี้ดำรงอยู่ ก็คงต้องมีการจัดให้เข้ากับยุคสมัย

“เพราะว่าเราอยากให้ลายรดน้ำอยู่คู่เมืองไทย ทุกวันนี้ยิ่งทองแพงศิลปะลายรดน้ำก็เริ่มถดถอยลงไป ตอน
นี้ก็เริ่มคิดค้นหาวิธีให้ลายรดน้ำมันอยู่ได้ อาจทำเป็นธุรกิจเชิงพาณิชย์ถึงจะอยู่ได้ต่อไป ไม่งั้นศิลปะตรงนี้มันก็จะหายไป

“ตอนนี้คิดว่ามันบูมขึ้นนะ เพราะว่าผมไม่ได้ทำงานพวกนี้ในวัดอย่างเดียว บ้านคนก็ทำ คนเขากล้าติดที่บ้านมากขึ้น กล้าที่จะเอาไปไว้ที่บ้านมากขึ้น เมื่อก่อนคนเขาจะคิดว่าภาพลายรดน้ำจะต้องอยู่ในวัดไม่ใช่อยู่กับบ้าน ผมก็เลยเริ่มทำเป็นเรื่องราวราวจากเขียนเทพ เขียนสวรรค์ ก็ไปเขียนเรื่องราวปีเกิดของเจ้าของบ้าน เพราะเป็นงานชิ้นเดียวในโลก เขาก็เลยอยากติดบ้านเข้ามาขึ้น”

จะว่าไปแล้ว ธานินทร์ก็ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับงานลายรดน้ำแก่ผู้สนใจด้วย เริ่มจากการทำงานชิ้นเล็กๆ เช่น บนหินทับกระดาษ หรือจาน ให้ผู้เรียน อย่างเด็กๆ หรือผู้สนใจ รู้สึกสนุกสนาน และเข้าใจว่างานประเภทนี้ยังสามารถนำมาขายเป็นของที่ระลึก และอาจต่อยอดกันได้ต่อไป เขากล่าวถึงความภาคภูมิใจกับการเป็นหนึ่งในสกุลช่างเมืองเพชร

“จริงๆ สกุลช่างเมืองเพชร มันมีมากกว่าช่างสิบหมู่ มันเป็นสิบสองหมู่ด้วยซ้ำ แต่เรามีความภูมิใจว่า เดี๋ยวนี้คนรู้จักเพชรบุรีมากขึ้น และสกุลช่างเมืองเพชรได้เป็นศิลปินแห่งชาติแล้วด้วย ทองร่วง เอมโอษฐ์ (ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2554 สาขาทัศนศิลป์) ก็ทำให้พวกเรามีความภูมิใจ การที่ศิลปะจะอยู่คู่กับเราต่อไปมันทำให้รู้สึกภูมิใจมากที่เกิดเป็นคนเมือง เพชร และจะถ่ายถอดศิลปะตรงนี้ให้อยู่ไปยาวนาน”

งานสกุลช่างเมืองเพชรที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ งานปูนปั้น เพราะศิลปกรรมแขนงนี้ได้สร้างชื่อเสียงแก่ชาวเมืองเพชรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฝีมือการบูรณะวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังเมื่อครั้งเก่าก่อน ครูช่างปูนปั้น ทองร่วง เอมโอษฐ์ ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2554 สาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ศิลปะปูนปั้น) เปิดเผยว่าสนใจในงานปูนปั้นเพราะเห็นจากครูบาอาจารย์เขาทำกัน ก็เลยเข้าไปขอเป็นลูกศิษย์

เขายังกล่าวถึงเอกลักษณ์ของงานปูนปั้นในแบบของเขาว่า มีความเฉพาะตัวทั้งการออกแบบลวดลาย วิธีการทำงาน รวมถึงวัสดุที่ยังคงยึดตามยุคโบราณ อาทิ กรรมวิธีการนำหินปูนมาเผาและหมัก ผสมน้ำตาล กาว กระดาษฟาง ฯลฯ ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้นอกจากจะมีคุณภาพสูงยังสามารถเก็บไว้ได้นาน ซึ่งลวดลายของงานปูนปั้นเมืองเพชรจะไม่นิยมทำให้ซ้ำกัน มีลวดลายที่แตกต่างและหลากหลาย

“ผมใส่ความคิดเห็นลงไปในงานปูนปั้น เช่น เคยปั้นรูป ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กำลังแบกฐานพระ แสดงถึงการแบกความดีที่ท่านได้ทำไว้กับแผ่นดิน เป็นต้น เมื่องานประเภทนี้ออกสู่สายตาประชาชน ทำให้คนในวงการอื่นๆ นอกจากวงการช่างและวงการสงฆ์ เช่น คนวงการสื่อ วงการศึกษา รู้จักงานปูนปั้นในฐานะที่รับใช้สังคม ในเรื่องของงานปูนปั้นล้อการเมือง งานปูนปั้นที่แฝงธรรมมะ งานปูนปั้นที่บันทึกประวัติศาสตร์ นี่คือเนื้อหาที่เราใส่เข้าไปในงานปูนปั้น”

ทองร่วงกล่าวว่า งานสกุลช่างเมืองเพชร จะมีการถ่ายถอดจากรุ่นสืบรุ่นเป็นธรรมดา หรือใครสนใจก็เข้ามาร่ำเรียนกันได้ไม่มีการหวงวิชา

“ก็มีถ่ายทอดกันตามธรรมดา ช่างปั้นก็จะสอนลูกสอนหลานกันไป มันเป็นอาชีพอย่างหนึ่งเหมือนช่างไม้ ช่างอ๊อกเหล็ก เพราะฉะนั้นมันก็มีอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เป็นสถาบันการศึกษา กลุ่มนอกก็มีบ้างแต่ไม่ได้มาเรียน แต่มาเป็นคนงานแล้วก็จะค่อยๆ ศึกษาไป ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะทำได้ อย่างน้อยๆ ถ้าจะทำงานปั้นได้ จะไปเป็นลูกน้องช่างคนนู้นคนนี้ได้ก็ 5 ปี แต่ถ้าอยากรับงานเองคิดเองเขียนแบบเองก็ต้อง 10 ปีขึ้นไป”

ศิลปะนั้นไม่ได้ถูกสร้างสันเพื่อให้ลิ้มรสความงดงามเพียงอย่างเดียว แต่ศิลปะยังมีเรื่องราวมีความหมายอันทรงคุณค่าที่หลบซ่อนอยู่ เพียงแต่ว่าพร้อมจะเปิดหัวใจศึกษาเนื้อแท้ของมันหรือเปล่า

หากชนรุ่นหลังรับความงามด้วยดวงตาแล้วละทิ้งไปง่ายๆ ศิลปะครั้งโบราณกาลก็คงค่อยเลือนหายไป...
>>>>>>>>>>
………
เรื่อง+ภาพ : ณ


-http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000025050-

.

 

ได้วัดขนาดของผอบโบราณเมื่อเช้าเอาไว้แล้วตามนี้ครับ ความจริงมี ๓ ภาพ แต่อีกภาพเป็นภาพความสูงรวมทั้งผอบ ซึ่งเกินจากจอภาพไป จึงไม่ post สนใจอยากเห็นส่ง email เข้ามาครับ จะส่งไปให้ชมครับ..

 

.

iPad 3 มาแล้ว !?! (Cyber Weekend) <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="1" bgcolor="#CCCCCC"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="middle" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="middle" align="left">25 กุมภาพันธ์ 2555 16:00 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" valign="baseline" align="left">ถึงแม้ว่าแอ ปเปิลจะไม่เคยปริปากพูดถึงแท็บเล็ตยอดนิยมอย่าง iPad รุ่นใหม่ว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อใด แต่บรรดาสื่อมวลชน และผู้สันทัดกรณีต่างมองตรงกันว่า iPad รุ่นถัดไป ที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะใช้ชื่อ iPad 3 หรือ iPad 2S จะเปิดตัวช่วงเดือนมีนาคมนี้ ค่อนข้างแน่

และถ้าหาก iPad รุ่นใหม่แกะกล่องเปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคมดังกล่าวจริง ยิ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกอย่างชัดเจนเลยว่า ตลาดสงครามแท็บเล็ตครั้งใหม่กำลังระอุขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าในตลาดแท็บเล็ตโลกขณะนี้ การแข่งขันยังไม่สูงปรี๊ดเหมือนตลาดสมาร์ทโฟนก็ตามที แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ถ้าหาก iPad รุ่นใหม่ออกมา คู่แข่งทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่างก็จะรีบจรลีเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ของตัวเองจ้าละหวั่นแน่นอน ไม่ปล่อยให้แอปเปิลและ iPad ได้หน้าครองตลาดแต่เพียงผู้เดียว

อย่างที่บอกข้างต้นว่าแม้แอปเปิลยังไม่พูดถึง iPad รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ แต่ถึงกระนั้นข่าวและข้อมูลที่ออกมาเกี่ยวกับ iPad นั้นมีทั้งข่าวที่เชื่อถือได้ และไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือ ลองมาดูกันดีกว่าจะมีอะไรใหม่ ๆเกิดขึ้นใน iPad รุ่นถัดไป

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Left"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="150"> <tbody><tr> <td valign="Top" align="center">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> <tr> <td valign="Top" width="150" align="center"> </td> </tr> </tbody></table> </td> <td width="5"></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ***สเปกและหน้าจอ

สำหรับหน้าจอประมวลผล บรรดาสื่อหลายสำนักเชื่อว่าแอปเปิลจะทำการล้างบางหน้าจอแสดงผลใหม่ โดยสิ่งที่แฟนๆ แอปเปิล และสาวกที่ใช้ iPad กำลังรออย่างใจจดใจจ่อ นั่นคือหน้าจอแสดงผลแบบ Retina Display ถ้าหากยังจำกันได้ก่อนที่ iPad 2 จะเปิดตัวก็มีการคาดการณ์กันว่าแอปเปิลน่าจะใช้ Retina Display ใน iPad 2 แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เป็นเช่นนั้น

สำนักข่าวหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Bloomberg หรือเว็บไซต์ดังอย่าง The Next Web ต่างก็ฟันธงว่า iPad รุ่นถัดไปใช้ Retina Display แน่ และความละเอียดแสดงผลจะอัปเกรดขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า จากเดิม 768 x 1024 มาเป็น 1536 x 2048 พิกเซล ด้วยหน้าจอแสดงผลละเอียดขนาดนี้ ทำให้การใช้งาน iPad ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ หรือการทำวิดีโอ คอลล์ ยิ่งทวีความน่าสนใจ และคุณภาพสูงขึ้น ด้านขนาดหน้าจอคาดว่าจะยังคงไว้ที่ขนาด 9.7 นิ้วเช่นเดิม

ในส่วนของสเปกและชิปประมวลผล ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เมื่อ Bloomberg ซึ่งเป็นสำนักข่าวแรกๆ ที่มีการตีข่าวว่า iPad 3 จะมีการใช้ชิปประมวลผล A6 ที่เป็นหน่วยประมวลผลแบบควอด-คอร์ ซึ่งเทรนด์ของเทคโนโลยีด้านแท็บเล็ตประจำปี 2012 จะเห็นได้ว่าหลายแบรนด์เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้หน่วยประมวลผลที่เป็น ควอด-คอร์มากขึ้น สำหรับเหตุผลที่สนับสนุนว่าแอปเปิลน่าจะมีการใช้ชิปประมวลผล A6 มาจากภาพสกรีนช็อตที่ได้มาจากโปรแกรม iBoot โดยในภาพดังกล่าวพบว่าในชิปประมวลผล A6 มีรหัส S5L8945X และถ้าหากเทียบรหัสรุ่นกับชิป A5 จะเห็นได้ว่ามีความสอดคล้องกันอย่างยิ่ง โดยชิป A5 มีรหัสรุ่นคือ S5L8940X ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า iPad รุ่นถัดไปจะต้องใช้ชิปประมวลผล A6 (แต่จากในข่าวล่าสุดที่มีภาพหลุดออกมา มีข่าวว่าชิปประมวลผลของ iPad รุ่นถัดไปอาจจะเป็นชิป A5X)

แต่ถ้าหากถามถึงความจำเป็นที่แอปเปิล จะต้องเปลี่ยนมาใช้หน่วยประมวลผลแบบ 4 แกนสมองหรือไม่ ถ้าวิเคราะห์ดูแล้วหน่วยประมวลผลดูอัล-คอร์ ก็ยังเป็นหน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพที่ดีพอ การใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ส่วนตัวมองว่าแค่ดูอัล-คอร์ การใช้งานก็พอถมถืดแล้ว อาจยังไม่ถึงขั้นต้องปฏิวัติมาเป็นควอด-คอร์ แต่อย่างใด

กล้องดิจิตอล เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้ iPad เติมเต็มและสมบูรณ์มากขึ้น ดังนั้นใน iPad ตัวถัดไป มีความเป็นไปได้ว่าแอปเปิลอาจจะมีการใช้กล้องที่เป็นกล้องความละเอียดเดียว กับ iPhone 4S ซึ่งถือว่าเป็นกล้องมือถือที่มีคุณภาพเยี่ยม และน่าจะทำให้แฟนคลับ และกลุ่มผู้ใช้งานแท็บเล็ตที่ใช้ iPad อยู่แล้ว หรือต้องการเปลี่ยนมาใช้ iPad ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์และความน่าใช้งานของ iPad รุ่นใหม่ และนี่จะเป็นการขยายฐานลูกค้าแบบเนียนๆ อีกด้วย

และหากลองสังเกตดูว่าโฆษณาของ iPhone 4S แต่ละตัวแทบจะไม่ได้พูดถึงฟีเจอร์อื่นนอกเหนือจากความสามารถของตัวกล้อง จะเห็นได้ว่าแอปเปิลเองค่อนข้างภูมิใจกับฟีเจอร์ในการถ่ายภาพของ iPhone ไม่น้อยเลยทีเดียว

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Right"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="150"> <tbody><tr> <td valign="Top" align="center">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> <tr> <td valign="Top" width="150" align="center"> </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ***ดีไซน์เหมือนเดิมแบบฉบับพิมพ์นิยม ?

ความน่าสนใจของ iPad รุ่นถัดไปอีกประการหนึ่งนั่นคือการออกแบบตัวเครื่อง ว่าจะออกมาเป็นเช่นไร แต่ถ้าหากย้อนดูผลงานเก่าๆ ของแอปเปิล เชื่อได้ว่า iPad รุ่นถัดไปคงไม่มีทางที่จะแตกต่างไปจาก iPad 2 หรือ iPad ตัวแรกสักเท่าไหร่ แต่ถึงกระนั้นเมื่อเป็นรุ่นใหม่ ก็ย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เพื่อไม่ให้ถูกนินทาลับหลังว่าแอปเปิลคิดแต่จะขายรูปลักษณ์เดิมๆ หรืออย่างไร

คาดว่าแอปเปิลอาจจะเพิ่มความหนาของตัวเครื่องอีกเล็กน้อย ซึ่งก็คงเป็นแค่หน่วยมิลลิเมตร ซึ่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เริ่มเอาความบางมาเป็นจุดขาย แต่ครั้งนี้แอปเปิลคงจะไม่เน้นที่ความบางสักเท่าไหร่ โดยส่วนที่เพิ่มความหนาขึ้นน่าจะเป็นการรองรับส่วนของกล้องที่จะมีการปรับ ปรุงความละเอียดยิ่งขึ้น ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมไปถึงการปรับปรุงในส่วนของแบตเตอรี่การใช้งาน ที่ดูแล้วไม่ว่าชิปประมวลผลของ iPad รุ่นใหม่จะเป็นดูอัล-คอร์ หรือควอด-คอร์ การเพิ่มการใช้งานให้ยาวนานนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก และถ้าดูจากภาพหลุดที่ทีมงาน RepairLabs ได้นำมาเปิดเผยนั้นจะพบว่าแอปเปิลได้จัดวางขยายพื้นที่ในส่วนของการวางแบตเต อรี จึงทำให้มีความเป็นไปได้ว่า iPad รุ่นถัดไปใช้งานได้ยาวนานยิ่งกว่าถ่านดูราเซลล์แน่นอน

คำถามในใจก็จะเกิดขึ้นถ้าหากแอปเปิล เพิ่มความจุของแบตเตอรีให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ทว่าจะส่งผลกระทบถึงน้ำหนักโดยรวมของ iPad หรือไม่ ? ซึ่งการใช้งาน iPad หากใช้ไประยะหนึ่งก็จะรู้สึกหนัก ยิ่งถ้าผู้ใช้งาน ใช้ในการอ่านหนังสือก็เตรียมรับกับความหนักในระยะยาวของ iPad ได้เลย อยู่ที่ว่าถ้าหากแอปเปิลเพิ่มแบตเตอรี แล้วการกระจายน้ำหนักทำได้ดี จะซื้อใจผู้บริโภคได้อีกโข

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Left"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="150"> <tbody><tr> <td valign="Top" align="center">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> <tr> <td valign="Top" width="150" align="center"> </td> </tr> </tbody></table> </td> <td width="5"></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ***iPad 3 กับคุณสิริ ?

มีข่าวลือมาว่าแอปเปิลมีแผนที่จะเปิดตัว iOS 5.1 ในเร็ววันนี้ ตามข่าวรายงานว่า iOS เวอร์ชันใหม่จะเริ่มปล่อยให้มีการอัปเกรดในวันที่ 9 มีนาคม ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสอดคล้องกับข่าวที่ว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPad ในวันที่ 7 มีนาคม ถ้าข่าวทั้ง 2 เป็นจริง แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งคือ iPad ตัวใหม่จะมาพร้อมกับ iOS 5.1 และคงจะมีฟีเจอร์เด่นๆ ของระบบปฏิบัติการ iOS 5.1 พร้อมกันไปเลยทีเดียวในงานเปิดตัว iPad

อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจคือปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Siri ที่เชื่อว่าคนที่ติดตามเทคโนโลยีมาโดยตลอดคงจะทราบว่าคุณสิริ (Siri) คืออะไร แล้วมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ iPad รุ่นใหม่จะมี Siri ถ้าวิเคราะห์ดูแล้ว มีทั้งความเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ ส่วนหนึ่งคือการใช้งาน Siri ผ่าน iPhone น่าจะเป็นเรื่องที่ดูง่าย และสะดวกกว่าการใช้งาน Siri ผ่าน iPad ซึ่งจุดนี้แอปเปิลอาจสงวนการใช้งานปัญญาประดิษฐ์นี้เฉพาะ iPhone เท่านั้น

แต่ถ้าหาก iPad มาพร้อมกับ Siri จริง เชื่อว่าน่าจะมาพร้อมกับความสามารถที่เก่งกาจขึ้น คือการรองรับภาษาต่างประเทศมากขึ้น จากเดิมรองรับ 3 ภาษานั่นคือภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี แต่ภาษาใหม่ที่จะมีการอัปเกรดนั้นจะรองรับทั้งภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน และภาษารัสเซีย ซึ่งจะทำให้ฟีเจอร์ Siri ฉลาดขึ้นกว่าเดิม และขยายการใช้งานไปยังต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ (รวมไปถึงฝรั่งเศส และเยอรมนี) เป็นหลักอีกด้วย

ส่วนเหตุผลการสนับสนุนว่า iPad จะมี Siri นั้น มาจากการรายงานของ 9toMac ซึ่งระบุว่า iOS 5.1 Beta สำหรับนักพัฒนา มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าแอปเปิลได้ใส่ฟีเจอร์ Siri เอาไว้ โดยภายในมีข้อมูลที่เรียกว่า Siri Dictation ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าที่ iPad รุ่นถัดไปจะมี Siri

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Right"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="150"> <tbody><tr> <td valign="Top" align="center">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> <tr> <td valign="Top" width="150" align="center"> </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ***4G LTE เทรนด์ประจำปี 2012 ?

ถ้าหากติดตามข่าวจากงาน CES 2012 จะเห็นได้ว่าทุกค่าย ทุกแบรนด์ต่างพากันดาหน้าส่งสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่น ที่พร้อมรองรับเทคโนโลยี 4G LTE แทบทั้งสิ้น อีกทั้งการทดสอบการใช้งาน 4G LTE ในสหรัฐอเมริกาเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าแอปเปิลเองก็คงพอที่จะเดาเทรนด์เทคโนโลยีออกว่าในปี 2012 การเชื่อมต่อแบบ 4G จะเริ่มขยายไปสู่วงกว้างขึ้น เพื่อไม่ให้สินค้าของตัวเองตกรถด่วนขบวนนี้ เชื่อว่ายังไงก็ตามโอกาสที่เราจะได้เห็น iPad รุ่นถัดไปรองรับเทคโนโลยี 4G LTE มีโอกาสเป็นไปได้

แต่ถึงกระนั้น ถ้าหากแอปเปิลเปิดตัว iPad ที่รองรับ 4G LTE จริง ประเทศไทยเราก็คงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการใช้งานเครือข่ายนี้ ในเมื่อทุกวันนี้เทคโนโลยี 3G ของประเทศไทย ยังเป็นแค่ 3G พันธุ์ทาง ที่การใช้งานยังไม่เสถียรและครอบคลุมอย่างที่โฆษณาไว้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเราคงถือสุภาษิตว่ามีดีกว่าไม่มี เผื่อว่าจะเอา iPad ที่มี 4G ไปทดลองใช้ในประเทศที่เขามีให้ใช้อย่างแพร่หลายละกัน

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Left"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="150"> <tbody><tr> <td valign="Top" align="center">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> <tr> <td valign="Top" width="150" align="center"> </td> </tr> </tbody></table> </td> <td width="5"></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ***iPad Mini มีจริงหรือหลอก ?

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือกระฉ่อนออกมาว่า แอปเปิลกำลังมีแผนการบางอย่างที่จะเปิดตัว iPad Mini เพื่อออกมาตีตลาดแท็บเล็ตขนาดพกพาสะดวกอย่าง 7 นิ้ว ที่ช่วงนั้นตลาดแท็บเล็ต 7 นิ้วราคาประหยัดอย่าง Kindle Fire ขายดีเทน้ำเทท่า จนกลายเป็นแท็บเล็ตที่ผู้ผลิตหลายค่ายต้องการโค่นล้ม และดูเหมือนว่าจะพยายามกินส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตได้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้แอปเปิลอดทนไม่ไหว อาจต้องมีไอแพดขนาดพกพาสะดวกมาตีตลาดบ้าง

และดูเหมือนข่าวดังกล่าวก็ลอยไปตามสายลม พร้อมกับคำพูดของสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ซีอีโอผู้ล่วงลับว่าแท็บเล็ต 7 นิ้วนั้นมีขนาดเล็กเกินไป

แต่ทว่าตอนนี้แอปเปิลได้มีการเปลี่ยน ถ่ายอำนาจมาเป็นทิม คุ๊ก (Tim Cook) เรื่องเซอร์ไพร์สอาจเกิดขึ้นก็ได้ ยิ่งมีข่าวว่าแอปเปิลเคยทดสอบแท็บเล็ตที่มีขนาด 8 นิ้วจริง โดยตัวเครื่องใช้ความละเอียดที่ 768 x 1024 เช่นเดียวกับ iPad 2 รายงานดังกล่าวเปิดเผยโดย WSJ (Wall Street Journal) และถ้าหากแอปเปิลเปิดตัวแท็บเล็ตขนาดเล็กจริง เท่ากับว่าเป็นการลั่นกลองรบส่งถึงคู่แข่งอย่างอเมซอนที่มี Kindle Fire รวมไปถึงซัมซุงที่มีแท็บเล็ตทุกไซส์ ทุกขนาด ทุกแบบ คงทำให้ตลาดแท็บเล็ตสนุกขึ้นอย่างแน่นอน!

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Right"> <tbody><tr> <td width="5"></td> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="150"> <tbody><tr> <td valign="Top" align="center">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> <tr> <td valign="Top" width="150" align="center"> </td> </tr> </tbody><caption align="bottom">ภาพแบบนี้เราจะได้เห็นอีกครั้ง เมื่อ iPad 3 พร้อมวางจำหน่าย</caption> </table> </td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ***เปิดตัวเมื่อไหร่ ?

สาวกสินค้าของแอปเปิลหลายคนคงจะทราบดี ถึงช่วงเวลาเปิดตัวอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆ ของแอปเปิล แน่นอนว่า iPad เองก็เป็นสินค้าที่มีการกำหนดปฎิทินการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เกือบจะตายตัว ถ้าดูจาก iPad และ iPad 2 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ ไทม์ไลน์ในการเปิดตัวสินค้านั้น อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นคือเดือนมีนาคม สำหรับ iPad 2 (iPad 2 เปิดตัวครั้งแรก 11 มีนาคม 2011 ส่วน iPad ตัวแรก 3 เมษายน 2010)

สำหรับ iPad รุ่นถัดไปแม้ว่ายังไม่มีการยืนยันจากแอปเปิล (สิ่งที่เกี่ยวกับ iPad 3 แอปเปิลยังไม่เคยออกมายืนยัน) โดยเว็บไซต์ AllThingsD พยาการณ์ล่วงหน้าว่า iPad 3 จะเปิดตัวในสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ส่วนเว็บไซต์อื่นๆ ก็นำผลมาขยายต่อ โดยคาดการณ์ว่าวันที่ 7 มีนาคม 2012 จะเป็นวันที่ iPad 3 จะออกมาสวัสดีทักทายสาวกแอปเปิลที่กำลังใจจดใจจ่อรอเป็นเจ้าของสินค้าใหม่ เครื่องนี้

ทั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่วันที่เท่านั้น แม้แต่สถานที่ก็ยังมีการคาดเดากันว่าสถานที่เปิดตัวคงไม่ใช่ที่อื่น นอกเหนือไปจากซาน ฟรานซิสโก คาดการณ์ว่าจะเป็นที่ Yerba Buena Center for the Arts

ทั้งหมดนี้คือเบาะแสเกี่ยวกับ iPad ใหม่ที่เรารวบรวมมา โปรดวางใจอีกไม่นานปริศนาทุกอย่างจะคลี่คลายอย่างแน่นอน</td></tr></tbody></table>

-http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000025582-

.

 

.


กูเกิลขานรับ เพิ่มปุ่ม "ห้ามติดตาม" ใน Chrome <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="1" bgcolor="#CCCCCC"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="middle" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="middle" align="left">24 กุมภาพันธ์ 2555 13:30 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="586"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="586" align="center"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ท่ามกลางกระแสความเป็นห่วงเรื่องการรักษาสิทธิส่วนบุคคลของ บริษัทไอทีทั่วโลก กูเกิล (Google) กลายเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตรายล่าสุดที่ประกาศพร้อมสนับสนุนมาตรการรักษา ความเป็นส่วนตัวของชาวออนไลน์ด้วยการติดตั้งปุ่ม "do-not-track" หรือห้ามติดตามในโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ของกูเกิลอย่าง Chrome

ซูซาน วอซซิซกิ (Susan Wojcicki) รองประธานอาวุโสฝ่ายโฆษณา เป็นผู้ออกแถลงการณ์ความยินดีในการร่วมสนับสนุนมาตรการ Do Not Track ของกูเกิล โดยเชื่อว่า Do Not Track จะทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกและมีความเข้าใจในการควบคุมการทำงานของเว็บเบราว์ เซอร์ที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลกรอบเวลาว่าเบราว์เซอร์ Chrome จะมีคุณสมบัติ do-not-track หรือห้ามติดตามเมื่อใด โดยการตอบรับของกูเกิลนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่มอซิลลา (Mozilla) ได้เพิ่มปุ่ม do-not-track ไว้ในโปรแกรมไฟร์ฟ็อกซ์ (Firefox) ตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ลงมือปรับปรุงโปรแกรมไออี (Internet Explorer) ไปเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับแอปเปิล (Apple) ที่เพิ่มคุณสมบัติห้ามติดตามในเบราว์เซอร์ซาฟารี (Safari) และส่งให้นักพัฒนาทั่วโลกทดสอบตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะวางจำหน่ายจริงฤดูร้อนนี้

ความเคลื่อนไหวของกูเกิลครั้งนี้เกิด ขึ้นเวลาไล่เลี่ยกับการเสนอร่างกฎหมายรักษาความเป็นส่วนตัวหรือ "privacy bill of rights" ที่รัฐบาลสหรัฐฯต้องการให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมการถูกเก็บ รวบรวม และแชร์ข้อมูลส่วนตัวของบริษัทไอทีได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการอภิปรายถึงมาตรการที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูง สุดต่อทุกฝ่าย

คุณสมบัติห้ามติดตามหรือ Do Not Track ในโปรแกรมเบราว์เซอร์นั้นเป็นผลจากการเติบโตของธุรกิจโฆษณาออนไลน์ อุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับความสำเร็จงดงามเพราะบริษัทอินเทอร์เน็ตสามารถ เลือกส่งโฆษณาตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้อย่างแม่นยำ จุดนี้ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเบื้องหลังที่ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถ เลือกโฆษณาได้ตรงตามความต้องการนั้นเป็นเพราะการติดตามประวัติการใช้งานของ ผู้ใช้แต่ละคน เมื่อบริษัทรวบรวมข้อมูลได้ว่าผู้ใช้แต่ละรายมีความสนใจต่อสิ่งใด ก็จะเลือกโฆษณาที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง

จุดนี้ทำให้นักปกป้องสิทธิมนุษย์ชนเป็นห่วงว่าความเป็นส่วนตัวของชาว ออนไลน์ทั่วโลกกำลังถูกละเมิด ทำให้ค่ายโปรแกรมเบราว์เซอร์ขานรับร่วมติดตั้งคุณสมบัติ Do Not Track เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางป้องกันตัวเอง ซึ่งกูเกิลคือรายล่าสุดที่รับลูกสนับสนุนมาตรการดังกล่าว

Company Relate Link :
Google

-http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000025137-

.

 

ผมเองก็เข้าใจสิ่งที่พี่เพชรแจ้งแล้วครับ คิดไม่ถึง
(ไม่ทันคิด)จริงๆครับ...

 

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
.

เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า

ตอน พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า

จะได้เริ่มฉลาดขึ้น ไม่โง่กัน

เมื่อวานนี้ ผมคุยโทรศัพท์ มีเสียงมาว่า กลัวว่า จะโง่กันทั้งประเทศ ที่ดูพระวังหน้ากันไม่เป็น ผมนำมาลงเป็นตัวอย่างครับ







-http://palungjit.org/threads/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้.22445/page-2493-




เรื่องของการดูเรื่องของนาม (พลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิต)

ผมเคยอธิบายไว้ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้หลายครั้งแล้ว

อยากรู้ ต้องการศึกษา หัดเข้าไปอ่านในกระทู้พระวังหน้าฯบ้าง

อย่ามัวแต่รอเคี้ยวแล้วป้อนให้ทานเลย

คณะผม กว่าจะเรียนรู้ หนักหนาสาหัสกว่านี้มากมาย

แต่ถ้าคิดว่า ขี้เกียจอ่าน ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้

และคิดว่า จะไปหาความรู้จากที่อื่นได้ ก็ไม่เป็นไร

อยากรู้ ต้องเริ่มที่ตัวเอง ต้องหัดมีความพยายาม เริ่มที่ใจอยากเรียนรู้และศึกษา มีความพยายามหมั่นหาความรู้จากผู้ที่รู้จริงๆ

ของจริงต้องพิสูจน์ได้

รู้จริง ต้องรู้ทั้งรูปและนาม

รู้ทั้งรูปและนามเป็นอย่างไร ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ได้บอกมาหลายครั้งมากแล้วเช่นกัน

มีอีกมากแห่ง นำความรู้ในหลายๆแห่ง นำมาผสมปนเปกัน มั่วไปหมด เละมาก มีแม้กระทั่งออกหนังสือ ทั้งๆที่รูปพระในหนังสือ นำพระเก๊ไปลง ผู้อ่านก็เข้าใจว่า พระในหนังสือนั่นแท้ ไปจดจำพระเก๊ ที่ได้รับการโปรโมทว่าเป็นพระแท้

ระมัดระวังกันไว้บ้าง

ผมเองก็พูดอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะว่า จะโดนข้อหาว่า "พระมึ..แท้คนเดียวหรือไง พระคนอื่นเก๊หมดหรือ"

อย่างที่เคยบอกไว้ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ว่า พระวังหน้า ขึ้นอยู่กับ "วาสนาและบารมีของแต่ละท่าน" เป็นอย่างไร ไปอ่านได้ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้เช่นกัน

ในกระทู้พระวังหน้าฯ สิ่งไหนที่ดี ที่เป็นประโยชน์ในทางที่ดีกับตนเอง สามารถที่จะนำไปใช้ได้ แต่หากสิ่งไหนที่ไม่ดี ไม่เป็นประโยชน์ในทางที่ดี ก็ไม่ต้องนำไปใช้ หัดใช้ "สมอง , สติ และ ปัญญา"ในการพิจารณาเรื่องต่างๆบ้าง

ด้วยความเป็นห่วง
sithiphong
21/2/2555

-http://palungjit.org/threads/พระวังหน้า-ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก-ถ้าต้องการที่จะได้.22445/page-2493-

.

 

ขอภาพของจริง บ้างครับ...จะได้รู้เพิ่มว่าของแท้(ตกไม่แตก)เป็นอย่างไร
ขอบคุณครับ

 

ขอชมภาพด้วยครับ
trainsss@hotmail.com

 

ลุงหนุ่มไปถอย Cannon 600 D 18 ล้านพิกเซลมา วันนี้ผมเลยไปถอย Oly. 800 14 ล้านพิกเซล มาบ้าง เท่านี้ก็พอแล้วครับ พรุ่งนี้ทดสอบประเดิมด้วยภาพพระบรมสารีริกธาตุ+ผอบโบราณอีกครั้งครับ..

 

คุณ sittiporn.s ครับ ผมขอร่วมสมทบทุนสร้างคันธกุฎีของพระพุทธเจ้าด้วยคนครับ หากต้องการทุนเพิ่มขอแจ้งให้ทราบด้วยครับ

 

กล้องดิจิตอล Olympus SP 800 UZ เป็นกล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดถึง 14.7 ล้านพิกเซลตัวนี้หรือครับ อ.เพชร คราสสิคมากครับ

 

เมื่อสัก 4 - 5 ปีที่ผ่านมา เคยคิดจะนำรูปของแท้มาลง

แต่ถ้าปัจจุบันนำมาลงเยอะๆ มากๆ

โดนครับ

โดนนำไปทำปลอมแน่นอน ก็เลยไม่นำมาลงครับ

ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่า จะทำอย่างไรดีกับเรื่องเผยแพร่เรื่องพระวังหน้า

ที่แน่ๆ ผมจะทำให้กับสมาชิกชมรมพระวังหน้าก่อนครับ

.

 

.

เริ่มแล้ว งานศิลปาชีพประทีปไทยฯ 21-27 ก.พ. อิมแพ็ค เมืองทองธานี <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="1" bgcolor="#CCCCCC"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="middle" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="middle" align="left">20 กุมภาพันธ์ 2555 22:19 น</td></tr></tbody></table>

สำนักนายกรัฐมนตรี จัดงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ในวันที่ 21-27 ก.พ. 55 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยงานแสดงสินค้าภูมิปัญญาชุมชน เลือกซื้อสินค้าโอทอปของแต่ละภูมิภาคในราคาพิเศษ แบ่งออกเป็น
- นิทรรศการเทิดไท้องค์มหาราชินี
- โซนอลังการงานศิลปาชีพ
- โอทอปผลิตภัณฑ์ชุมชนคน 4 ภาค
- จำหน่ายและสาธิตผลิตภัณฑ์โอทอปที่ผ่านการคัดสรรจากทุกภูมิภาค
- โอทอปคัดสรรเพื่อการเจรจาธุรกิจเฉพาะ
- โอทอปชวนชิม
- โอทอปรักษ์สุขภาพ
- การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและร่วมสมัย


-http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000023339-

.

 

.


นายกฯ เปิดงานโอทอปที่เมืองทองธานี



วันอังคาร ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

<ins style="display:inline-table;border:none;height:240px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:120px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:240px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:120px"></ins></ins>

นายก รัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน"ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วยพระบารมี" เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตั้งเป้ายอดจำหน่ายกว่า 600 ล้านบาท
นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วยพระบารมี" ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยความทุกข์ร้อนของพสกนิกร และทรงริเริ่มให้มีการฟื้นฟู พัฒนางานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ จนกระทั่งก่อตั้งเป็นมูลนิธิศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ชึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ ของแต่ละภูมิภาค และรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมสานต่อโครงการพระราชดำริ โครงการศิลปาชีพ และมีนโยบายสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์อย่าง ต่อเนื่อง ทั้งนี้ตั้งเป้าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 9 แสนคน ยอดจำหน่ายกว่า 600 ล้านบาท
สำหรับ การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อีกทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนและชุมชน

โดยปีนี้งานจะจัดขึ้นระหว่างวัน ที่ 21 - 27 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 10.00- 21.00 น. ที่ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี




-http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/52354/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AF-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5.html-


.

 

.

เฟอร์นิเจอร์ โชว์
3-11 มี.ค. 55 อาคาร 5-8

งานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย
Greatest Furniture and Decorative items Fair of Thailand
งาน แสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่รวบรวมผู้ผลิต และผู้จำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ มากที่สุดของเมืองไทย หลากหลายดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ จากผู้แสดงสินค้ากว่า 1,200 บูธ
ประเภทสินค้าภายในงาน
เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่งบ้าน หลากหลายสไตล์ จากกลุ่มผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำทั่วประเทศเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ทั้งโทรทัศน์ เครื่องเสียง โฮมเธียรเตอร์ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านเวลา : 11.00-21.00 น.


-http://www.thaipr.net/exhibition/390085-


-

.

 

รับทราบครับ.....สวัสดีวันอาทิตย์ครับ

 

.

ประกาศ! รพ.รามาฯ ไม่รับบริจาคเครื่องสำอางแต่งหน้าศพ

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ vinv

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายคนคงเคยเห็น หรือได้รับฟอร์เวิร์ดเมลที่ว่า "โรง พยาบาลรามาธิบดี ขอเชิญชวนผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคเครื่องสำอางเก่า เครื่องสำอางหมดอายุ หรือเครื่องสำอางที่ใช้ไม่หมด เพื่อแต่งหน้าศพที่ยากไร้" โดยให้ผู้ประสงค์จะบริจาคส่งเครื่องสำอาง ไปที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งหลังจากเมลดังกล่าวถูกส่งต่อกัน ก็ปรากฏว่า มีผู้ใจบุญร่วมกันส่งเครื่องสำอางเก่าไปที่โรงพยาบาลจำนวนมาก

แต่อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้เคยออกมาชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า ทางโรงพยาบาลไม่เคยรับบริจาคเครื่องสำอางดังที่ฟอร์เวิร์ดเมลระบุ แต่จนถึงขณะนี้ ฟอร์เวิร์ดเมลดังกล่าวก็ยังถูกส่งต่อกันเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ที่ได้รับข่าวสารเข้าใจผิด และยังคงส่งเครื่องสำอางมายังแผนกนิติเวชของโรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด คุณ vinv แห่งเว็บไซต์พันทิป ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยนิติเวช ภาควิชาพยาธิวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงขอประกาศดัง ๆ ในกระทู้ "บริจาคเครื่องสำอางแต่งหน้าศพ.....ขอจบทุกเรื่องด้วยรูปนี้ค่ะ" เพื่อยืนยันอีกครั้งว่า ทางโรงพยาบาลรามาธิบดี ไม่เคยมีนโยบายขอรับบริจาคเครื่องสำอางแต่งหน้าศพเลย ดังนี้

"เอาอีกรอบแล้วค่ะ FW เมลที่ใครก็ไม่รู้มั่วขึ้นมา หลังจากชี้แจงไปแต่ละครั้งก็จะซา ๆ ไปยังมีหลงมาบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ในช่วง 2-3 วันมานี้มันก็เอาอีกแล้วค่ะ เล่นเอาไม่เป็นอันทำงานกันเลย สอบถามได้ความมาว่าคราวนี้ระบาดมาทาง facebook"

"สถานการณ์ ตอนนี้คือรับโทรศัพท์กันจนมึน หลายคนพอถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธว่าไม่เคยรับก็ยังไม่เชื่ออีกก็มี หลายคนคะยั้นคะยอให้เจ้าหน้าที่รับบอกว่าเดี๋ยวเสียความตั้งใจ ไปรษณีย์ก็โทรตามเป็นช่วง ๆ ให้มาแบกกล่องพัสดุออกไปสักทีเพราะมันเยอะจนเขาไม่มีที่วาง ฯลฯ"

"ทั้งหมดนี้คือผลที่ได้จากการทำบุญ "บริจาคเครื่องสำอางแต่งหน้าศพ" ค่ะ ขอบ คุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่มีน้ำใจทำบุญ แต่ว่าคุณโดนหลอกให้ทำบาปแล้วล่ะค่ะ นอกจากนี้เครื่องสำอางทั้งหมดจะถูกทิ้งและไม่มีการนำไปใช้ตามความตั้งใจของ ผู้บริจาคแต่อย่างใด"

"สาเหตุคือเจ้าหน้าที่ของเรามีเซ็ตแต่งหน้าที่เขาถนัด+เหมาะมืออยู่แล้ว ทางเราไม่เคยมีความต้องการเครื่องสำอางเลยแม้แต่ครั้งเดียว และสุดท้ายคือเราไม่มีที่เก็บค่ะ ดังนั้นเราจึงรับมาแล้วก็ทิ้งกันแบบวันต่อวันเลยล่ะค่ะ......ดังนั้นถือว่าขอร้องก็ได้ อย่าส่งอะไรมาอีกเลยนะคะ"

​

นอกจากนั้น คุณ vinv ยังได้โพสต์ภาพถ่ายหน้าห้องทำงานของแผนกนิติเวช ซึ่งมีป้ายเขียนว่า "งดรับเครื่องสำอางทุกชนิด" ติดไว้หน้าห้องทำงาน ซึ่ง คุณ vinv ระบุว่า ติดป้ายนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีคนเข้าใจผิดส่งเครื่องสำอางมาให้เรื่อย ๆ จึงได้ขอร้องให้คนที่อยากทำบุญจริง ๆ ขอแรงนำกระทู้นี้ไปแชร์บอกต่อเพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊ก หรือตามที่ต่าง ๆ ให้ด้วย ว่า ทางโรงพยาบาลไม่มีนโยบายรับบริจาคเครื่องสำอางจริง ๆ

ใคร ที่อ่านเรื่องราวนี้แล้ว อย่าลืมส่งต่อกันด้วยนะคะ เพื่อที่ความตั้งใจจะทำบุญจะได้ไม่กลายเป็นบาปโดยไม่รู้ตัว เพราะความเข้าใจผิด ตามที่มีผู้แอบอ้างเขียนฟอร์เวิร์ดเมลค่ะ


-http://hilight.kapook.com/view/68026-

.

 

วันนี้ดูเงียบๆนะครับ...ไม่รู้จะถึงกับโหวงๆอีกหรือเปล่าครับ พี่ๆและลุงๆ(อิ อิ)

 

โหวงอีก ล่ะน้อง ของตาลุงข้างบ้านก็ต้องมีหมดสต๊อกบ้างนาคร๊าบ หุ หุ

 

ไว้ทยอยลงให้ชม เป็นตอนๆไป

เก๊สนิทศิษย์ส่ายหน้า

.