พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    แจ้งข่าวเพิ่มเติม

    พี่แอ๊ว ได้กรุณาช่วยผมในการอัญเชิญ พระบูชา "พระอุปคุตเถระเจ้า" หน้าตัก 9" ไปถวายที่วัดห้วยมงคล

    รายละเอียดการถวาย เมื่อถวายแล้วจะนำมาแจ้งให้ท่านที่ได้ร่วมทำบุญในกองทุนหาพระถวายวัด , สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , คณะพระวังหน้า และท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ร่วมกันโมทนาบุญนี้ครับ

    โมทนาสาธุครับ


    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ธปท.แจงผลกระทบเฟดขึ้น ดบ.มาตรฐาน เอกชนจับตาค่าเงินบาท
    Business - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 กุมภาพันธ์ 2553 14:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ธปท.ประเมิน "เฟด" ขึ้นดอกเบี้ยมาตรฐาน 0.25% ไม่มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยของไทย และค่าเงินในภูมิภาค พร้อมมั่นใจไม่กระทบเงินทุนไหลเข้าออก ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ห่วงเงินบาทอาจเผชิญแรงเทขายเป็นระยะๆ รวมถึงสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง

    นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ให้กู้ยืมกับธนาคารพาณิชย์ (discount rate) 0.25% อยู่ที่ระดับ 0.75% โดยมองว่าไม่มีผลกระทบต่อค่าเงินในภูมิภาค และไม่กระทบเงินทุนไหลเข้าออกด้วย

    สำหรับการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย จะพิจารณาตามพื้นฐานเศรษฐกิจไทยเป็นหลัก โดยการปรับขึ้น-ลงจะดูแลตามความเหมาะสม

    อนึ่ง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานนั้น เฟดระบุว่าการดำเนินการครั้งนี้เป็นระบวนการหนึ่งในการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น (Further Normalization) ไม่ใช่เป็นการส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน ขณะที่ อัตราดอกเบี้นนโยบาย (Fed Funds Rate) ยังคงไว้ที่กรอบ 0.00-0.25% ตามเดิม

    ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549 สู่ระดับ 0.75% จากระดับ 0.50% โดยให้เริ่มมีผลในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 นั้น เป็นการเพิ่มช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย Discount Rate กับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0.50-0.75% สะท้อนการปรับสมดุลเชิงนโยบายให้เป็นปกติมากขึ้น

    ขณะที่บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองต่างมุมว่า น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน เพราะอาจกดดันให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และสกุลเงินในภูมิภาค รวมถึงเงินบาท ต้องเผชิญกับแรงเทขายเป็นระยะๆ โดยแนวรับระยะสั้นของเงินบาทนั้น อยู่ที่ระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

    นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตุว่า เฟดได้เคยปรับลดอัตราดอกเบี้ย Discount Rate ในการประชุมแบบฉุกเฉินเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2550 และวันที่ 16 มีนาคม 2551 เพื่อใช้ในการรับมือกับวิกฤตซับไพร์มที่เริ่มปะทุขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2550 ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย Discount Rate กับอัตราดอกเบี้ยนโยบาหดแคบลงเหลือ 0.25-0.50% เทียบกับในช่วงเวลาปกติที่ 1.00%

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังประเมินว่า แม้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Discount Rate ของเฟดครั้งนี้จะทำให้ช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย Discount Rate กับอัตราดอกเบี้ยนโยบายกว้างขึ้น แต่คาดว่าผลกระทบต่อสภาพคล่องในระบบและต่อตลาดการเงินโดยรวมน่าที่จะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากความต้องการกู้เงินฉุกเฉินของสถาบันรับฝากเงินผ่านช่องทางดังกล่าวปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องราว 87% จากระดับสูงสุดช่วงต้นปี 2552 สู่ระดับต่ำกว่า 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะนี้

    นอกจากนี้ สถาบันรับฝากเงินในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีสภาพคล่องส่วนเกินในระดับที่ค่อนข้างสูง และบางส่วนก็ได้ฝากไว้กับเฟด ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของเงินฝากของสถาบันการเงินในส่วนนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

    ขณะเดียวกัน ก็มองว่า ในระยะถัดไป เฟดจะทยอยปรับสมดุลนโยบายการเงินจากจุดยืนเชิงนโยบายการเงินที่มีความผ่อนคลายอย่างมากให้เข้าสู่ภาวะปกติอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Discount Rate เพื่อให้ช่องว่างเหนืออัตราดอกเบี้ยนโยบายกลับเป็น 100 bps. ตามเดิม

    การยกเลิกโครงการรับซื้อสินทรัพย์ทางการเงินตามกำหนดเวลาในช่วงสิ้นไตรมาส 1 ปี 2553 และอาจทยอยขายสินทรัพย์ดังกล่าวออกมาในช่วงหลังจากนั้น เพื่อปรับลดขนาดงบดุลของเฟด และดึงสถาพคล่องส่วนเกินออกจากระบบ และการเตรียมเครื่องมืออื่นๆ ในการส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน และ/หรือ ดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ อาทิ การทำ Reverse Repurchase Agreements (Reverse Repo) การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินสำรองส่วนเกินของสถาบันการเงิน (Interest on Excess Reserves) และการเสนอวงเงินฝากประจำสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่ฝากไว้กับเฟด

    ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นขั้นตอนท้ายๆ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินที่ชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่เส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความมั่นคงมากกว่านี้ เนื่องจากในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน การใช้จ่ายภาคเอกชน (ทั้งภาคการบริโภค และภาคธุรกิจ) สหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในระยะแรกเริ่ม ขณะที่สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เช่น สินเชื่อที่ปล่อยเพื่อโครงการศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน ยังมีความเปราะบางสูง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อัตราส่วนทางการเงิน (2) ความสัมพันธ์ระหว่าง P/E P/BV และ ROE

    <!-- content -->สวัสดีครับ หลังจากคราวที่แล้วที่กล่าวถึงอัตราส่วนทางการเงินไปคือ P/E ROA ROE และ P/BV ตามที่หนังสือ ทั่วๆไปให้ความหมายไว้ ในวันนี้เราลองมาลงรายละเอียดของ P/E P/BV และ ROE กันอีกสักนิดนะครับ คิดว่าจะทำให้เห็นภาพมากขึ้น
    สูตรการคำนวณของอัตราส่วนทางการเงินที่กล่าวถึงคือ
    P/E = Price/EPS = Price/(Net Profit/Number of Share)
    P/BV = P/BV = Price/(Equity/Number of Share)
    ROE = Return/Equity = (Net Profit/Equity)
    จากสูตรด้านบน เมื่อมาดูความสัมพันธ์ของสูตรแต่ละตัวจะได้ว่า
    P/BV = P/E x ROE


    อัตราส่วนทางการเงิน P/E ROA ROE และ P/BV

    <!-- content -->สวัสดีครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาอัพเดต blog เท่าไหร่ เหตุผลหนึ่งเนื่องจากภาระหน้าที่การงาน ส่วนอีกเหตุผลก็คือไม่รู้จะมาเขียนอะไรดี เพราะพองานเยอะก็ไม่ค่อยได้มีเวลาศึกษาเพิ่มเติม เพราะอย่างที่เคยบอกไว้แต่แรกว่าผมก็ไม่ใช่เซียนหุ้นมาจากไหน แต่มีความสนใจในการเก็งกำไรและการลงทุน blog นี้ก็เหมือนสมุดโน้ตที่ผมใช้จดในสิ่งที่ได้อ่านหรือศึกษามา ถ้าผู้อ่านท่านใดอยากจะแชร์ความรู้หรือเขียนอะไรลงใน blog ผมก็ติดต่อเข้ามาได้นะครับ ถือว่าเป็นวิทยาทานแก่ผู้อ่านท่านอื่นๆด้วย
    วันนี้ก็จะขอยกเรื่องอัตราส่วนทางการเงินขึ้นมาทบทวนอีกสักครั้ง หลังจากได้เคยนำบทความเรื่อง การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน (Ratio Analysis) มาลงไว้ เพราะตัวผมเองก็ยังสับสนกับอัตราส่วนพวกนี้อยู่บ่อยๆ ถ้าผมเขียนหรือเข้าใจอะไรผิดไปก็รบกวนช่วยแนะนำโดยการคอมเม็นต์ไว้ก็ได้ครับ
    หลังจากคราวที่แล้วได้แนะนำหนังสือ คัมภีร์สุดยอดนักลงทุน (THE LITTLE BOOK that BEATS the MARKET) ที่นำเสนอสูตรสำเร็จการลงทุนซึ่งใช้อัตราส่วนทางการเงิน 2 ตัวคือ P/E และ ROA ในที่นี้จะขอทบทวนอีกครั้งว่าอัตราส่วนทั้ง 2 ตัวนี้มีความหมายอย่างไร
    <!-- Post Details -->Written on February 23, 2009 | Posted in Fundamental Analysis, Value Investment
    <!-- End of Loop fore single post --><!-- title of the post -->มารู้จักค่าเบต้าของหุ้นกันดีกว่า

    <!-- content -->ค่าเบต้า คือ ค่าสัมประสิทธ์ตัวเปรียบเทียบระหว่างหุ้นตัวใดตัวหนึ่งกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ว่ามีแนวโน้มอย่างไร ซึ่งมีที่มาจากสมการเส้นตรง
    y = a + bx


    เมื่อ
    • y คือ ราคาหุ้น
    • x คือ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
    • a คือ ค่าอัลฟ่า (alpha)
    • b คือ ค่าเบต้า (beta)
    ซึ่งจากสมการจะได้ว่า
    • ถ้าค่าเบต้าของหุ้นตัวนั้น = 1 หุ้นตัวนั้นจะขึ้น/ลงเป็นปฏิภาคโดยตรงกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์
    • ถ้าค่าเบต้าของหุ้นตัวนั้น > 1 หุ้นตัวนั้นจะขึ้น/ลงเร็วกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์
    • ถ้าค่าเบต้าของหุ้นตัวนั้น < 1 หุ้นตัวนั้นจะขึ้น/ลงช้ากว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์
    • ถ้าค่าเบต้าของหุ้นตัวนั้น < 0 หุ้นตัวนั้นจะขึ้น/ลงเป็นปฏิภาคผกผันกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์
    <!-- Post Details -->Written on January 19, 2009 | Posted in Fundamental Analysis, Technical Analysis, Value Investment


    <!-- End of Loop fore single post --><!-- title of the post -->การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน (Ratio Analysis)

    <!-- content -->การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน (Ratio Analysis)
    เป็นการนำรายการต่างๆ ในงบการเงินมาเทียบอัตราส่วนเพื่อหาความสัมพันธ์ว่า มีความเหมาะสมเพียงใด การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินแบ่งตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน 4 ประการ
    1. การวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน (Liquidity Ratio)
    2. การวิเคราะห์ความสามารถในการหากำไร (Profitability Ratio)
    3. การวิเคราะห์ความสามารถ (ประสิทธิภาพ) ในการดำเนินงาน (Efficiency Ratio)
    4. การวิเคราะห์โครงสร้างของเงินทุนหรือภาระหนี้สิน (Leverage Ratio or Financial Policy Ratio)
    1.การวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน (Liquidity Ratio)
    1.1 อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนหรืออัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio)
    อัตราส่วนทุนหมุนเวียน (Current Ratio) = สินทรัพย์หมุนเวียน (CA) /หนี้สินหมุนเวียน (CL)
    วัดความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น ถ้าค่าที่คำนวณได้สูงเท่าใด แสดงว่า บริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนที่ประกอบไปด้วย เงินสด ลูกหนี้ และสินค้าคงเหลือมากกว่าหนี้ระยะสั้น ทำให้คล่องตัวในการชำระหนี้ระยะสั้นมีค่อนข้างมาก โดยปกติ อัตราส่วน 2 : 1 ถือว่าเหมาะสมแล้ว
    <!-- Post Details -->Written on August 16, 2008 | Posted in Fundamental Analy


    http://www.thaispeculator.com/fundamental-analysis/pe-pbv-roe-equations.html


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2010
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    English-Thai: NECTEC's Lexitron Dictionary
    technical <!-- [ADJ] -->adj. เกี่ยวกับวิชาช่าง Syn. technological,industrial Related. เกี่ยวกับวิชาเทคนิค ,ทางเทคนิค Ant. nontechnical technical <!-- [ADJ] -->adj. เกี่ยวกับวิชาการเฉพาะเรื่อง Syn. specialized ,professional,scholarly Related. เฉพาะวิชา ,เฉพาะเรื่อง Ant. artistic,nontechnical technical <!-- [ADJ] -->adj. ที่เชี่ยวชาญเฉพาะอย่าง Related. ที่เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง technical <!-- [ADJ] -->adj. ทางทฤษฎี

    <!-- End --><!-- Start -->Thai-English: NECTEC's Lexitron Dictionary
    ทางเทคนิค <!-- [ADJ] -->adj. technical Sample: ภาพหน้าจอแต่ละภาพ เต็มไปด้วยศัพท์ทางเทคนิค

    <!-- End --><!-- Start -->คำศัพท์ พร้อมความหมาย และตัวอย่างประโยค จาก Voice of America
    technical <!---->"involving machines ,processes and materials in industry ,transportation and communications" Sample: He has made many technical improvements in our factory. technical <!---->of or about a very special kind of subject or thing Sample: You need technical knowledge to understand how this system works.

    <!-- End -->คำศัพท์ พื้นฐาน ภาษาอังกฤษ ที่ควรเรียนรู้ ถ้าจำได้และใช้เป็นรับรองว่าสื่อสาร ภาษาอังกฤษ ได้แน่นอนค่ะ
    <TABLE style="MARGIN-TOP: 10px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="5%">[​IMG]</TD><TD width="95%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=29>[​IMG]</TD><TD style="FONT-SIZE: 1px; BACKGROUND: url(images/word1500_02.jpg) repeat-x left top"> </TD><TD width=13>[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND: url(images/word1500_04.jpg) repeat-y left bottom" vAlign=top width=29>[​IMG]</TD><TD class="voa_word voainpage" style="BACKGROUND: url(images/word1500_05.jpg) #ffffff repeat-x left bottom">take take steps talk tall tank target taste tax tea teach team tear tears technical technology telephone telescope television tell temperature temporary tense term terrible territory terror terrorist test tetanus than thank that the theater them then theory there these they thick thin thing think third this threaten through throw thumb tie time tin tired tissue titanium to today toes together tomorrow tonight too tool top torture total touch toward town trade tradition traffic tragic train transport transportation trap travel treason treasure treat treatment treaty tree trial tribe trick trip troops trouble truce truck TRUE trust try tube tuberculosis turn typhoid fever

    </TD><TD style="BACKGROUND: url(images/word1500_06.jpg) repeat-y left bottom" width=13></TD></TR><TR><TD width=29>[​IMG]</TD><TD style="FONT-SIZE: 1px; BACKGROUND: url(images/word1500_08.jpg) repeat-x left top"> </TD><TD width=13>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <CENTER>This word list and the definitions are courtesy of the Voice of America.</CENTER>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3><TBODY><TR><TD vAlign=top>ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) คืออะไร เกิดจากอะไร วัดอย่างไร และถ้าสูงขึ้นมาก ๆ จะเกิดอะไรขึ้น


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3><TBODY><TR><TD vAlign=top>ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) คืออะไร เกิดจากอะไร วัดอย่างไร และถ้าสูงขึ้นมาก ๆ จะเกิดอะไรขึ้น
    Espresso (86,071 views) first post: Sun 27 January 2008 last update: Mon 11 February 2008
    หลายคนเมื่อได้ยินคำว่าเงินเฟ้อ อาจจะสงสัยว่าเงินเฟ้อคืออะไร แล้วเมื่อไรถึงจะเรียกว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อ คำว่าภาวะเงินเฟ้อ หมายถึง ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็จะมีผลทำให้ค่าของเงินที่เราถืออยู่ลดลง
    <!-- อยู่ในส่วน: สายศิลป์, เศรษฐศาสตร์
    --><!--

    -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>

    หน้าที่ 1 - เกิดจากอะไร วัดอย่างไร

    ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) คืออะไร เกิดจากอะไร วัดอย่างไร และถ้าสูงขึ้นมาก ๆ จะเกิดอะไรขึ้น
    Espresso



    [​IMG]



    ภาวะเงินเฟ้อคืออะไร?
    หลายคนเมื่อได้ยินคำว่าเงินเฟ้อ อาจจะสงสัยว่าเงินเฟ้อคืออะไร แล้วเมื่อไรถึงจะเรียกว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อ คำว่าภาวะเงินเฟ้อ หมายถึง ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็จะมีผลทำให้ค่าของเงินที่เราถืออยู่ลดลง ตัวอย่างของค่าของเงินที่ลดลงเช่น ราคาน้ำมันเคยอยู่ที่ 14 บาทต่อลิตร สมมติเราเคยเติมน้ำมัน 10 ลิตร ก็จะใช้เงิน 140 บาท แต่ปัจจุบัน ราคาน้ำมันได้กลายเป็น 28 บาทต่อลิตร หากเราใช้เงินเท่าเดิมคือ 140 บาท เราจะเติมน้ำมันได้เพียง 5 ลิตร ไม่ใช่ 10 ลิตรแบบที่เคยเติมได้ ซึ่งหากต้องการที่จะเติมน้ำมัน 10 ลิตร เท่าเดิม แปลว่าเราต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นเป็น 280 บาท หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การเกิดภาวะเงินเฟ้อ จะทำให้เงินจำนวนเท่าเดิมที่เราถืออยู่มีค่าลดลง ทำให้ซื้อของได้น้อยลง

    [​IMG]


    ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อราคาน้ำมันแพงขึ้นแบบนี้ ต้นทุนในการขนส่งสินค้าจากแหล่งผลิตที่จะส่งไปขายยังที่ต่าง ๆ ก็ย่อมต้องสูงขึ้น และทำให้ราคาสินค้าชนิดอื่นๆ ต้องขึ้นราคาตามไปด้วย แต่การที่มีสินค้าแค่ชนิดใดชนิดหนึ่งแพงขึ้น จะยังไม่เรียกว่าเงินเฟ้อ เพราะภาวะเงินเฟ้อหมายถึง ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วๆ ไปแพงขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจจะมีราคาสินค้าบางอย่างถูกลงด้วยในเวลาเดียวกัน แต่โดยรวม ๆ แล้ว หากราคาสินค้าและบริการโดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น และเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปสักพักหนึ่ง ถึงจะเรียกได้ว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อ โดยที่เราจำเป็นต้องรู้เรื่องเงินเฟ้อ ก็เพื่อที่จะใช้สำหรับวัดค่าครองชีพหรือมาตรฐานการครองชีพของเรา (ประชาชน) ว่าดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร








    เงินเฟ้อเกิดจากอะไร?
    ภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นได้จากหลายๆ สาเหตุ แต่ส่วนใหญ่ในทางวิชาการมักจะแบ่งสาเหตุการเกิดเงินเฟ้อได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆ ได้แก่ Cost-push inflation และ Demand-pull inflation
    (1) เกิดจากต้นทุนในการผลิตสินค้าสูงขึ้น หรือที่เรียกว่า Cost-push inflation ซึ่งต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้าอาจจะสูงขึ้นได้จากทั้งส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ค่าจ้างแรงงาน รวมทั้งค่าขนส่งสินค้า มีราคาแพงขึ้น
    [​IMG]

    เช่น กรณีของราคาน้ำมันที่แพงขึ้นก็เป็นตัวอย่างได้ หรือการที่มีการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน หรือเกิดน้ำท่วม ภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตเกษตรเสียหาย ราคาสินค้าเกษตรก็แพงขึ้น เป็นต้น หรือแม้แต่ในกรณีที่ค่าเงินบาทอ่อนลง จาก 35 บาท เป็น 40 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ ซึ่งหมายถึงว่าเราต้องใช้เงินบาทจำนวนที่มากขึ้นเพื่อไปซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศมาผลิต) หรือแม้แต่การที่รัฐบาลเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เช่น การเก็บภาษีบุหรี่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หรืออาจเกิดจากผู้ผลิตต้องการกำไรที่สูงขึ้นจึงขึ้นราคาสินค้า ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ก็จะมีส่วนทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นได้
    ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ อาจจะเกิดขึ้นเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ หรืออาจเกิดขึ้นพร้อมๆ กันก็ได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน และทำให้ราคาสินค้าและบริการหลายๆ ชนิดแพงขึ้นพร้อมๆ กัน ความรุนแรงของเงินเฟ้อก็จะมากขึ้นด้วย




    (2) เกิดจากความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น หรือที่เรียกว่า Demand-pull inflation ส่วนใหญ่ในช่วงที่ปกติ ผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่ก็ย่อมจะวางแผนการผลิตสินค้าโดยดูว่ามีคนต้องการซื้อสินค้าของเราเท่าไรในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้น ปริมาณสินค้าที่มีในตลาดก็น่าจะอยู่ใกล้เคียงกับความต้องการซื้อสินค้า แต่หากความต้องการสินค้าและบริการสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่สินค้าและบริการที่เป็นที่ต้องการมีอยู่ในตลาดมีไม่พอ ก็ย่อมทำให้ราคาสินค้าและบริการแพงขึ้นได้ ซึ่งเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้น คนจะยิ่งรีบใช้เงินซื้อสินค้าและบริการมาตุนไว้ ก่อนที่ค่าเงินที่มีอยู่จะลดลง เพราะซื้อสินค้าได้น้อยลง ราคาสินค้าและบริการจะยิ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นไปกว่าเดิม เพราะคนจะยิ่งรีบใช้เงินที่มีอยู่
    อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว หน่วยงานของทางการก็มักจะไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง โดยทางการอาจจะเข้ามากำกับดูแลการปรับขึ้นราคาสินค้า ตัวอย่างเช่น การขอความร่วมมือให้ ขสมก. เลื่อนการขึ้นค่ารถเมล์ไปก่อน หรืออนุญาตให้ค่ารถเมล์ปรับขึ้นราคาได้บ้างนิดหน่อย เป็นต้น หรือในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย อาจใช้นโยบายการเงินเพื่อดูแลปัญหาเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนน้อยที่สุด


    เงินเฟ้อวัดอย่างไร?
    [​IMG]

    อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยวัดโดยสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้ประกาศอัตราเงินเฟ้อเป็นประจำทุกเดือน โดยวิธีวัดอัตราเงินเฟ้อทำได้โดยการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาของสินค้าและบริการกลุ่มหนึ่ง ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ซึ่งระดับราคาของสินค้าและบริการ ใช้ชื่อว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index-CPI) ตัวอย่างการคำนวณอัตราเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ 2550 โดยเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน ซึ่งคือเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เพื่อที่จะบอกว่าราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปแพงขึ้นหรือถูกลงเมื่อเปรียบเทียบกัน โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ที่ประกาศโดยสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า อยู่ที่ 114.5 ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ปี 2549 อยู่ที่ 111.9



    ดังนั้น
    อัตราเงินเฟ้อของเดือนกุมภาพันธ์ 2550 [​IMG]
    ซึ่งอันนี้จะมีความหมายว่า ระดับราคาสินค้าและบริการโดยรวมมีราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน 2.3% หรือหากเรามีเงินจำนวนเท่าเดิมกับปีที่แล้ว ค่าของเงินที่เราถืออยู่จะด้อยค่าไป 2.3% ซึ่งทำให้ซื้อของได้น้อยลง



    [​IMG]
    ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์


    ถ้าเงินเฟ้อสูงขึ้นมาก ๆ จะเกิดอะไรขึ้น?
    โดยปกติแล้ว หากเงินเฟ้อสูงขึ้นนิด ๆ หน่อย ๆ (ปกติตามหลักวิชาการคือเงินเฟ้อที่สูงไม่เกิน 5% จะเรียกเงินเฟ้ออย่างอ่อน (Mild inflation)) จะเป็นสิ่งที่ดีที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้ผลิตมีการลงทุนขยายการผลิต และมีการจ้างงาน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจประเทศขยายตัวได้ดี ไม่มีผลเสียต่อเศรษฐกิจ แต่หากเงินเฟ้อสูงขึ้นมาก ๆ และสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนยากที่จะคาดเดาได้ว่าเงินเฟ้อจะเป็นเท่าไร (Hyper inflation) จะมีผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะจะทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถวางแผนการผลิตและลงทุนได้ เพราะไม่รู้ว่าวัตถุดิบที่จะซื้อเข้ามาราคาจะเป็นเท่าไร จะตั้งราคาสินค้าเท่าไร เพื่อให้ยังมีกำไร ขณะที่ประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคเองก็ไม่แน่ใจว่าราคาสินค้าจะแพงขึ้นอีกหรือไม่ เงินจำนวนเท่าเดิมที่มีอยู่ในกระเป๋าก็ด้อยค่าลงไป เพราะข้าวของแพงขึ้น ทำให้ซื้อของได้น้อยลง ธุรกิจก็ขายของได้น้อยลง ซึ่งที่สุดแล้วจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศแย่ลงได้

    [​IMG]

    โดยสรุปคือ ภาวะเงินเฟ้อใช้เพื่อวัดค่าครองชีพของประชาชน ภาวะเงินเฟ้อจะเกิดขึ้นต่อเมื่อราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปสูงขึ้นต่อเนื่อง หากสูงขึ้นแล้วปรับลดลง จะไม่นับว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเงินเฟ้อในระดับอ่อนๆ จะไม่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ แต่หากเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงๆ จะทำให้ค่าของเงินที่เรามีอยู่ด้อยค่าลงไป ทำให้ซื้อของได้น้อยลง ธุรกิจไม่สามารถผลิตหรือลงทุนได้เพราะมีความไม่แน่นอนเรื่องราคาอยู่สูง ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบต่อระบบเศรษฐกิจในที่สุด

    Related link:
    www.price.moc.go.th ,
    www.bot.or.th


    </TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]</B>
    <SUP>*</SUP>หมายเหตุ งานเขียนชิ้นนี้ ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิทางปัญญา โดยลิขสิทธิเป็นของผู้เขียน ที่ให้เกียรตินำเผยแพร่ผ่าน วิชาการ.คอม เรามีความยินดีและอนุญาตให้ทำซ้ำหรือเผยแพร่ต่อเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาเท่านั้น กรุณาให้เกียรติผู้เขียน โดยอ้างชื่อผู้เขียนและ วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com) ทุกครั้งที่ทำการเผยแพร่ต่อ ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อในสื่อที่เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจก่อนได้รับอนุญาต ขอขอบคุณที่ร่วมกันช่วยสร้างให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งปัญญา
    <TABLE style="PADDING-RIGHT: 4px; PADDING-LEFT: 4px; FONT-SIZE: 12px; PADDING-BOTTOM: 4px; PADDING-TOP: 4px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#e4fdfd><TD width=90 height=45>[​IMG]

    </TD><TD class=style10 height=50>สงวนสิทธิ์ภายใต้สัญญาอนุญาต ครีเอทีฟคอมมอนส์ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย.
    ท่านสามารถนำเนื้อหาในส่วนบทความไปใช้ แสดง เผยแพร่ โดยต้องอ้างอิงที่มา ห้ามใช้เพื่อการค้าและห้ามดัดแปลง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2010
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    prime interest rate

    pronunciation
    <OBJECT id=audioplayer_0 style="VISIBILITY: visible; outline: none" height=24 width=80 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000 name=audioplayer_0>
























    </OBJECT><SCRIPT type=text/javascript> AudioPlayer.embed("audioplayer_0", {soundFile: "http://www.etdict.com/audio/p/prime%20interest%20rate.mp3"}); </SCRIPT>
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-4838023412036248";/* etdict-mid-box-234x60, created 12/4/09 */google_ad_slot = "8444524169";google_ad_width = 234;google_ad_height = 60;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT>
    ดิกชันนารี อังกฤษเป็นอังกฤษ
    What does prime interest rate mean?
    The meaning of prime interest rate .
    1. prime interest rate [noun]
    Definition : the interest rate on short-term loans that banks charge their commercial customers with high credit ratings

    <!--</blockquote>-->
    คำแปล prime interest rate แปลว่า | ความหมาย หมายความว่า

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เอ้ ก็ยังงงงงงงงง

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 34 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 33 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>



    ชื่อกระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้..... (34 คน กำลังดูอยู่) เรื่องพระแท้ๆ ไหงมีเรื่องอื่นมาปนเยอะ

    จะบอกว่า นอกเหนือจากเรื่องพระวังหน้า ที่ต้องมีลงแล้ว เรื่องอื่นๆที่ใกล้ตัว ก็จำเป็นต้องลงให้อ่านกัน เพื่อเป็นความรู้ในการดำรงชีวิต ในความไม่ประมาทในการดำรงชีวิต และรู้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมบนโลกอันสับสนวุ่นวานในปัจจุบันนี้ครับ


    ผม , ชาวชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า จึงมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ ก็เลยนำบทความต่างๆ นำมาลงให้ได้อ่านกัน

    โมทนาสาธุครับ
    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  14. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 align=center border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD class=text3 align=right width=319> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=text5 width=626 bgColor=#414141 height=97> ปิดฉากหุ้นเจเอแอล เหลือแค่ 1 เยน <SCRIPT type=text/javascript> tweetcount_url = 'http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=433338'; tweetcount_title = 'ปิดฉากหุ้นเจเอแอล เหลือแค่ 1 เยน'; //tweetcount_short_url = 'TinyURL.com'; tweetcount_via = false; tweetcount_links = true; tweetcount_size = 'small'; tweetcount_background = '95CD3C'; tweetcount_border = '80B62A'; tweetcount_text ="FFFFFF"; </SCRIPT><SCRIPT src="http://widgets.backtype.com/tweetcount.js" type=text/javascript></SCRIPT><IFRAME src="http://widgets.backtype.com/tweetcount?url=http%3A//breakingnews.nationchannel.com/read.php%3Fnewsid%3D433338&cnt=false&via=false&links=true&title=%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5%20%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%201%20%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%99&size=small&background=95CD3C&border=80B62A&text=FFFFFF" frameBorder=0 width=120 scrolling=no height=18 allowTransparency></IFRAME>
    <SCRIPT type=text/javascript> var fbShare = { url: 'http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=433338', title:'ปิดฉากหุ้นเจเอแอล เหลือแค่ 1 เยน', size: 'small', google_analytics: 'true' } </SCRIPT><SCRIPT src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.js"></SCRIPT><IFRAME src="http://widgets.fbshare.me/files/fbshare.php?size=small&url=http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=433338&title=ปิดฉากหุ้นเจเอแอล เหลือแค่ 1 เยน&google_analytics=true" frameBorder=0 width=80 scrolling=no height=18 allowTransparency></IFRAME>

    </TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 border=0><TBODY><TR><TD width=14 bgColor=#414141>[​IMG]</TD><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=599 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=599><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=599 border=0><TBODY><TR><TD class=text4>19 กพ. 2553 20:06 น.

    <DD>ในการซื้อขายวันสุดท้ายสำหรับหุ้นของสายการบิน เจแปนแอร์ไลน์ หรือเจเอแอล ในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ปรากฏว่าราคาหุ้น 27 ล้าน 6 แสนหุ้นของสายการบินตกลงมาเหลือแค่ 1 เยนเท่านั้น โดยภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการที่รัฐบาลให้การสนับสนุน หุ้นของสายการบินใหญ่ที่สุดของเอเชียที่ล้มละลายไปเมื่อ 1 เดือนก่อนจากปัญหาหนี้สินมากมายถึง 6 พันล้านดอลล่าร์ จะถูกถอนออกจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หลังปิดการซื้อขายในวันนี้ ทำให้ผู้ลงทุนต้องสูญเงินลงทุน แต่สายการบินมีเป้าหมายจะให้การบริการต่อไป หลังได้รับเงินสนับสนุนจากทางการ 1 หมื่นล้านดอลล่าร์
    <DD>สำหรับราคาของหุ้นในวันสุดท้ายของการซื้อขายนั้น ปรากฏว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากการซื้อขายวันก่อนหน้านั้น
    <DD>

    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ่านำมาจากเนชั่นออนไลน์ครับ เพื่อฝากท่านเพชรและทุกท่านครับ หุ หุ
     
  15. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,438
    วันนี้ตอนเย็นที่ผ่านมา ผมได้ไปสักการะพระบรมสารีริธาตุ กับพระอรหันต์ธาตุหลายๆพระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากหลายๆแห่งทั่วโลกมาประดิษฐานอย่างถาวร ณ สนส.บ้านถ้ำเสือ แม่สอด (สายหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่)

    ขณะนี้กำลังดำเนินการสร้าง "ศูนย์ปฎิบัติธรรมถ้ำเสือ" ขนาด 20x30 เมตร รองรับผู้ปฏิบัติธรรมได้ 250 คน ,อาคารที่พำนักผู้ปฏิบัติธรรม และลานเอนกประสงค์ (เริ่มสร้าง มี.ค. 2553)

    สามารถโอนเงินร่วมทำบุญได้ที่ ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว 2 , ชื่อบัญชี พระกมล กมโล และนายวิวรรธน์ และนายวีรวิชร์ และนายพลนันท์, เลขที่ 7862044783

    ติดต่อคุณวิวรรธน์ โทร. 081-6154542,คุณจันทวีสุข,คุณรติรส โทร. 081-35820445

    พรุ่งนี้จะไปนมัสการหลวงพ่อจำเนียร ด้วยครับ แล้วจะมารายงานต่อนะครับ :)
     
  16. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    [FONT=Tahoma,]ล็อกเกตรุ่นแรก สมเด็จพระมหาวีรวงศ์

    คอลัมน์ หลังเลนส์ส่องพระ

    เอกอุ



    <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ บรรดาศิษย์และคณะศรัทธานิยมเรียกท่านว่า "หลวงปู่สมเด็จ" ท่านเจริญอายุครบ 92 ปี 72 พรรษา สมบูรณ์พร้อมศีลาจารวัตร งดงามด้วยการครองตน เปี่ยมไปด้วยเมตตา เป็นที่ยอมรับและเลื่อมใสศรัทธา หนึ่งในพระกรรมฐานเอกอุ ญัตติสามเณรธรรมยุตกับ "พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม"

    ออกเดินธุดงค์ติดตามพระธุดงค์กัมมัฏฐานสายพระอาจารย์เสาร์ พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์สิงห์ ไปทั่วจังหวัดภาคอีสาน ได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม จนได้ถึงเปรียญธรรมเอกอุ 9 ประโยค ความเป็นคันธุระและวิปัสสนาธุระ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ สามารถผสมผสานและปฏิบัติได้อย่างลงตัวเหมาะสม จนมีคำเรียกขานในศรัทธาชนว่าท่านเป็น "สมเด็จกัมอโรคศาลฐานกลางกรุง"

    ปฏิปทาจริยาวัตรของ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ งดงามและมากด้วยเมตตาธรรมอันเลิศล้ำ มีวัตรปฏิบัติอยู่ในศีลที่สมบูรณ์ ดำเนินสายกลางพอเหมาะพองาม ไม่ชอบระคนด้วยกลุ่มชนมาก ชอบหลีกเร้นอยู่ในที่สงบ ชอบชีวิตป่าเขาลำเนาไพร นั่งกรรมฐานมาตลอดชีวิต ตั้งแต่ 3 ทุ่ม "ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ" จะสวดมนต์และเจริญกัมมัฏฐาน ตั้งแต่สามเณรจนปัจจุบัน เช้าตื่นตี 4 กวาดวัดไม่ได้ขาด แม้ดำรงสมณศักดิ์สมเด็จแล้วท่านก็ทำอยู่ จนหมอขอบิณฑบาตท่านจึงงด <table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    ในวาระสิริอายุครบ 92 ปี คณะศิษย์นำโดย "พระราชสารเมธี" ได้จัดสร้าง "ล็อกเกตรุ่นแรก" เพื่อสมทบทุนสร้างหอไตร เป็นอนุสรณ์มงคลมายุดังกล่าว ล็อกเกตนี้ได้นำผงเก่าโสรฬมหาพรหมที่ "แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม" ผ่านพิธีปลุกเสกใหญ่ เมื่อปีพ.ศ.2494 ได้รับการพุทธาภิเษกซ้ำอีกครั้งในคราวสมโภชพระประธานที่วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยอง เมื่อวันที่ 5-30 มีนาคม 2499 รวม 18 วัน 18 คืน มีเครื่องพิธียิ่งใหญ่เรียกว่า "พิธีโสรฬมหาพรหม" ประกอบพิธีบรรจุพุทธมนต์เป็นพิเศษที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งยังไม่เคยเห็นทำที่ไหน คือจัดที่บูชาพร้อมเครื่องสังเวยต่างๆ มีเทียนธูป ข้าวตอก ดอกไม้ 7 สี และอาหารผลไม้ถึงอย่างละ 375 ที่มีเบญจา มีเศวตฉัตร 9 ชั้น สูง 6 ศอก 8 ต้น บายศรีเงิน บายศรีทอง 9 ชั้น สูง 6 ศอก อย่างละ 8 ต้น บรรจุพระพุทธมนต์ มีพระเถราจารย์มากมายเข้าร่วมพิธีนี้ เช่น พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, พระอาจารย์วัน อุตตโม, หลวงพ่อลี วัดอโศการาม, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงตามหาบัว หลวงปู่สิม หลวงปู่กงมา เป็นต้น

    โดยนิมนต์พระเถระในท้องถิ่นอย่าง หลวงปู่ทิม วัดไร่วารี, หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง, หลวงพ่อเฮี้ยงวัดป่า จ.ชลบุรี ทำพิธีประจุคุณพระคุณพรหม และเทพมนต์ โดยเชิญเทพแลพรหมผู้มีชื่อเสียงเก่าๆ มาเข้าทรงประกอบพิธีอธิษฐานบันจุมนต์ลงด้วย อาทิ โยคีโดยโยคีฮาเร็บ (อาจารย์ชื่น จันทรเพ็ชร) ผู้มีชื่อเสียง และ พ.ต.อ.ชะลอ อุทกภาชน์ เป็นต้น

    ด้านหลังล็อกเกตบรรจุมวลสารพิเศษผงและของศักดิ์สิทธิ์เก็บรักษาไว้ที่วัด สัมพันธวงศ์สืบมา ในอดีต อาจารย์ปถม อาจสาคร ได้เคยนำผงนี้ไปสร้างพระ "พระปิดตาโสรฬมหาพรหม" ให้หลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ เมื่อปี 2505 จนโด่งดัง ผงนี้ หลวงพ่อลี วัดอโศการาม จับผงถึงกับออกปากว่า "เฮ็ดหยังแรงจังซี่" จัดสร้างพร้อมพระชัยวัฒน์พุทโธคลังกะไหล่ทอง

    ล็อกเกตใหญ่จัมโบ้ ฉากทองแท้ (กรรมการ) สร้างจำนวน 227 องค์ ไม่ออกให้บูชา มอบให้ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ร้านทองเยาวราช และท่านผู้มีอุปการคุณต่อวัด (เรียกว่า "เจ้าสัวใหญ่"), ล็อกเกตใหญ่จัมโบ้ (ฉากสีเขียว เหนียวนำทรัพย์) สร้างจำนวน 227 องค์ ให้บูชาองค์ละ 1,192 บาท ล็อกเกต "เจ้าสัวเล็ก") สร้างจำนวน 227 องค์ ให้บูชาองค์ละ 992 บาท ล็อกเกตเหนี่ยวนำทรัพย์เล็ก สร้างจำนวน 2,227 องค์ ให้บูชาองค์ละ 492 บาท

    สนใจร่วมบุญบูชาได้ที่สำนักงานกลาง วัดสัมพันธวงศาราม แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 และศูนย์พระเครื่องชั้นนำทั่วไป


    ที่มาข่าวสด
    [/FONT]
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อ่า เมื่อวานนี้ ผมคุยกับ เพื่อนรัก เรื่องของน้องรัก

    สำหรับเพื่อนรัก ผมท่านนี้ มีน้องรัก

    ส่วน เพื่อนรัก ผมอีกท่านก็มี <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->น้องรัก แต่<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->น้องรัก ท่านนี้ เป็นน้องรักของอีกหลายๆท่านเช่นกัน



    ใครเป็นใคร ลองจิ้มดูเองครับ หุหุหุ



    .
     
  18. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เรื่องทะเลาะชวนหัว “ในสุสานโจโฉ”
    China - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย สุรัตน์ ปรีชาธรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 กุมภาพันธ์ 2553 10:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>“เฮ้ย! ไม่ต้องเถียงกันแล้วพวกผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย มาถามข้านี่” วิญญาณแม่ทัพโจโฉ กล่าวกับผู้เชี่ยวชาญ ...ข้อความในภาพล้อการถกเถียงของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ที่กำลังโต้แย้งกันทั่วประเทศจีนว่าสุสานที่อันหยาง เป็นสุสานของโจโฉแน่หรือไม่ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพเหมือน แม่ทัพโจโฉ แห่งยุคสามก๊ก </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สภาพในสุสานหลวง ที่หมู่บ้านซีกาวเสียว์ ตำบลอันเฟิง อำเภออันหยาง มณฑลเหอหนัน ที่ถูกระบุว่าอาจเป็นสุสานโจโฉ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ป้ายหินสลักตัวอักษร ที่มีชื่อ “วุ่ยอู่หวัง” หรือโจโฉ รวมอยู่ด้วย </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>หมอนหิน สลักตัวอักษร ที่มีชื่อ “วุ่ยอู่หวัง” หรือโจโฉ รวมอยู่ด้วย </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>คงจำกันได้ ในปลายปีสื่อจีนได้ออกข่าวใหญ่เกี่ยวกับการค้นพบสุสานของเฉาเชา หรือโจโฉ ที่หมู่บ้านซีกาวเสียว์ ตำบลอันเฟิง อำเภออันหยาง มณฑลเหอหนัน ในตอนนั้นสื่อจีนได้ประโคมใหญ่โตว่าการค้นพบฯนี้จะยุติข้อสงสัยนับพันปี เกี่ยวกับที่ตั้งหลุมฝังศพแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่โจโฉ แห่งยุคสามก๊ก (ค.ศ.208-280)

    กลุ่มนักโบราณคดีได้ดำเนินการขุดค้นสุสานหลวงยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก(ค.ศ.25-220)และได้พบสมบัติโบราณคดีมากมาย กว่า 250 ชิ้น โดยมีแผ่นป้ายหินสลักตัวอักษร ร่วม 60 ชิ้น และในจำนวนนี้ มีป้ายหิน 4 ชิ้น ที่สลักตัวอักษร “วุ่ยอู่หวัง” ซึ่งเป็นชื่อของโจโฉ ได้แก่ป้ายจารึกเกี่ยวกับอาวุธที่วุ่ยอู่หวังใช้ศึกสงคราม และหมอนหิน นักโบราณคดีจีนได้ชี้ว่าป้ายหินที่มีชื่อวุ่ยอู่หวังเหล่านี้ เป็นหลักฐานโดยตรงที่ระบุว่าสุสานหลวงแห่งยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออกแห่งนี้ เป็นที่ฝังร่างของแม่ทัพโจโฉ

    นอกจากนี้ ในสุสานยังมีโครงกระดูกคนสามคน โดยเป็นโครงกระดูกผู้ชาย อายุประมาณ 60 ปี หนึ่งคน ส่วนอีกสองนั้น เป็นโครงกระดูกของผู้หญิง ซึ่งแน่นอน ก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่า โครงกระดูกเหล่านี้ เป็นใคร

    หลังจากที่กลุ่มสื่อจีนเผยแพร่ข่าวนี้เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา อย่างดูราวจะฟันธงว่าสุสานหลวงฯแห่งนี้ คือ สุสานของโจโฉ พลันก็เกิดสงครามน้ำลายทั่วประเทศจีน โดยกลุ่มนักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ และประชาชนทั่วประเทศ ได้ถกเถียงกันตลอดเดือนสองเดือนมานี้ โต้แย้งการระบุที่ตั้งสุสานโจโฉอย่างง่ายๆเช่นนี้ บางกลุ่มก็โจมตีรัฐบาลท้องถิ่นเหอหนันตีข่าวออกมาเช่นนี้ เพราะหวังผลประโยชน์ ทำเงินจากการท่องเที่ยวนั่นเอง

    หยวน จี้สี่ ผู้เชี่ยวชาญและรองผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาฯของมหาวิทยาลัยประชาชนจีน โต้แย้งว่าสุสานหลวงฯนี้ถูกปล้นหลายครั้ง หลักฐานที่อาจระบุตัวตนเจ้าของสุสานโดยตรงที่เหลืออยู่ก็มีน้อยมาก สำหรับหลักฐานโดยตรงที่นักโบราณคดีได้ใช้ระบุตัวเจ้าของสุสานว่าอาจเป็นโจโฉ ตามข่าวนั้น คือ ป้ายหินแกะสลักจารึกเกี่ยวกับอาวุธของวุ่ยอู่หวัง และหมอนหิน แต่หยวนแย้งว่า “มันไม่ใช่หลักฐานที่น่าเชื่อถือ” เนื่องจากป้ายหินฯเหล่านี้ ถูกค้นพบโดยพวกขโมยที่ปล้นเอาไป ไม่ใช่หลักฐานที่นักโบราณคดีค้นพบด้วยตัวเองในสุสาน “การประกาศสุสานโจโฉ เป็นเรื่องเร็วเกินไป เป็นเรื่องน่าสงสัยมาก”

    แต่ซั่ง จินซัน หนึ่งในทีมนักโบราณคดีที่ขุดค้นสุสานฯ โต้ข้อสงสัยดังกล่าวว่า เขาเป็นผู้ค้นพบป้ายหินกว่า 50 ชิ้นกับมือตัวเอง ซึ่งในจำนวนนี้ มีป้ายหินสี่ชิ้น ที่มีอักษรแกะสลักชื่อ “วุ่ยอู่หวัง” มีเพียงหลักฐานชิ้นสำคัญ คือ หมอนหินที่สลักชื่อวุ่ยอู่หวัง ที่ยึดมาจากหัวขโมย แต่เขาก็ได้ยินมากับหูตัวเองจากปากหัวขโมยว่า หมอนหินสลักชื่อวุ่ยอู่หวังนี้ มาจากสุสานหลวงที่อันหยาง

    นักเขียนประวัติศาสตร์ที่ติดตามการปล้นสุสานที่มีชื่อท่านหนึ่ง คือ หนี ฟางลิ่ว โต้แย้งว่า สุสานหลวงของบุคคลระดับผู้ปกครองดินแดนโดยทั่วไป จะต้องมีจารึกแสดงความอาลัย และป้ายชื่อเจ้าของสุสาน ซึ่งสองสิ่งนี้เป็นหลักฐานยืนยันตัวบุคคล และเป็นหลักฐานโดยตรงที่พิสูจน์ตัวตนของผู้เสียชีวิต แต่นักโบราณคดีก็ไม่ได้พบหลักฐานสองอย่างนี้ในสุสานหลวงฯที่อันหยาง นอกจากนี้ ก็ยังไม่มีการพิสูจน์ยีนส์จากหัวกะโหลกที่พบในสุสานฯ ดังนั้น จึงเป็นการเร็วเกินไปที่จะระบุสุสานของโจโฉในตอนนี้

    อย่างไรก็ตาม หนี ฟางลิ่วก็ชี้ว่าแม้ยังไม่สามารถระบุว่าสุสานของโจโฉเป็นสุสานหลังไหนมีที่ตั้งอยู่ตรงไหนกันแน่ แต่หลักฐานที่ขุดพบในครั้งนี้ ก็ทำให้ระบุได้ว่า สุสานหลวงของโจโฉอยู่ในบริเวณตำบลอันเฟิง อำเภออันหยาง มณฑลเหอหนัน หรือในบริเวณใกล้เคียง

    นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่ม ก็ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับชื่อ “วุ่ยอู่หวัง”โดยชี้ว่าฮั่นเสี้ยนตี้ ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ประทานนามโจโฉ ว่า “วุ่ยกง” และ “วุ่ยหวัง” (วุ่ยอ๋อง) ไม่ได้เรียก วุ่ยอู่กง หรือ วุ่ยอู่หวัง แม้โจโฉสิ้นชีวิตไปแล้ว ก็มิได้เปลี่ยนชื่อเรียกนี้ ดังนั้น สิ่งของต่างๆที่ถูกฝังพร้อมศพของโจโฉในสุสาน ก็ไม่น่าสลักชื่อ “วุ่ยอู่หวัง”

    ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการระบุที่ตั้งสุสานโจโฉอีกหลายข้อ แต่ผู้เขียนก็ขอหยิกยกสองสามข้อสำคัญเพียงเท่านี้

    สำหรับการพิสูจน์หาตัวเจ้าของสุสาน หลายกลุ่มก็ได้ชี้ถึงวิธีการพิสูจน์ DNA ของซากหัวกะโหลกที่พบในสุสานฯ

    ล่าสุด ทีมวิจัยทางวิทยาศาสตร์ นำโดยอาจารย์ หลี่ ฮุย แห่งวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยฟู่ตั้นในนครเซี่ยงไฮ้ เสนอให้ทดสอบดีเอ็นเอของลูกหลานโจโฉ ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน โดยให้กลุ่มคนแซ่ เฉา หรือ แซ่เซี่ยโหว ที่เชื่อว่าเป็นลูกหลานสืบสายเลือดจากแม่ทัพโจโฉ มอบตัวอย่างดีเอ็นเอมาทดสอบเพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าของสุสานที่ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์นี้ คือ โจโฉ หรือไม่ โดยเขาได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ขอตัวอย่างชิ้นส่วนกระดูกผู้ชาย และผู้หญิงที่พบในสุสาน มาทำการทดสอบดีเอ็นเอ

    แต่สื่อจีนก็แย้งอีกว่า การทดสอบดีเอ็นเอนี้ สามารถทดสอบเพียงว่า เลือดของเจ้าของสุสานเป็นสายเลือดของสกุลเฉา เท่านั้น นอกจากนี้ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆ ก็ตั้งข้อสงสัยอีกว่า ตัวอย่างจากกระดูกในสุสานที่มีอายุเก่าแก่ ถึง 1,800 ปี นี้ จะใช้ได้หรือ เนื่องจากมีซากกระดูกเหลืออยู่น้อยมาก อีกทั้งมีการปล้นสุสานฯมานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้อย่างมากทีเดียวว่า ซากกระดูกนั้นอาจมีดีเอ็นเอของหัวขโมยปนเปื้อนอีกด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR vAlign=baseline><TD class=hit align=left height=19>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>จีนฟันธงแล้ว “ที่ตั้งสุสานโจโฉ” ยุติปริศนาร่วมสองพันปี </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จีนฟันธงแล้ว “ที่ตั้งสุสานโจโฉ” ยุติปริศนาร่วมสองพันปี
    China - Manager Online
    </TD><TD vAlign=baseline align=right width=85>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 ธันวาคม 2552 13:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ภาพถ่าย/กราฟิกแสดงสุสาน ภาพวาดของ วุ่ยอู่หวัง หรือ โจโฉ (เฉาเชา) และหลักฐานชิ้นฟันธงระบุตัวเจ้าของสุสาน คือ ป้ายหินแกะสลักชื่อ วุ่ยอู่หวัง (ภาพล่างมุมขวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ป้ายหินแกะสลักที่มีค่าที่สุด ในสุสานโจโฉ จารึกอักษรเหล่านี้ เป็นข้อมูลสำคัญในการระบุตัวเจ้าของสุสาน และเป็นหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์โดยตรงที่สุด</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ป้ายหินแกะสลักอักษร “อาวุธที่ วุ่ยหวัง (โจโฉ) ใช้ประจำ” ( 魏武王常所用格虎大戟)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>หมอนหินที่วุ่ยอ๋อง (โจโฉ)ใช้เป็นประจำ จารึกอักษร “魏武王常所用慰项石”</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>โบราณวัตถุที่พบในสุสานโจโฉ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สภาพภายในสุสานโจโฉ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สภาพด้านนอกสุสานโจโฉ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>กราฟฟิกแสดงประวัติชีวิต เฉาเชา (โจโฉ) และที่ตั้งของสุสานในอันหยาง (Anyang) มณฑลเหอหนัน </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์--กลุ่มนักโบราณคดีจีน พบสุสานของโจโฉ แม่ทัพใหญ่ผู้ฉลาดปราดเปรื่องแห่งยุคสามก๊กระหว่างการขุดค้นทางโบราณดคีในมณฑลเหอหนัน โดยป้ายหินแกะสลักตัวอักษร และหมอนหินที่ขุดค้นพบภายในสุสาน จารึกชื่อ “วุ่ยอู่หวัง” ( คือ โจโฉ) นักโบราณคดีจึงปักธงได้ว่าเจ้าของสุสานคือ โจโฉ

    สืบเนื่องจากการขุดค้นสุสานยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก(ค.ศ.25-220)ที่หมู่บ้านซีกาวเสียว์ ตำบลอันเฟิง อำเภออันหยาง มณฑลเหอหนัน นักโบราณคดีจีนก็ได้ค้นพบทางโบราณคดีครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง ที่ยุติการถกเถียงและข้อสงสัยนับพันปี เกี่ยวกับที่ตั้งหลุมฝังศพแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่โจโฉ แห่งยุคสามก๊ก จากป้ายแกะสลักชื่อ วุ่ยอู่หวัง หรือวุ่ยอู่อ๋อง (魏武王) ซึ่งก็คือ พระนามของพระเจ้าโจโฉ นักโบราณคดีจีนจึงสามารถระบุชัดเจนแล้วว่า หลุมฝังศพของแม่ทัพโจโฉอยู่ ณ หมู่บ้านซีกาวเสียว์ แห่งนี้

    โจโฉ หรือ ในภาษาจีนกลางเรียก เฉาเชา(曹操) (ค.ศ.155-220) เป็นขุนศึก และผู้สำเร็จราชการแผ่นดินคนสุดท้ายของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ต่อมา โจโฉได้สร้างนครรัฐที่รุ่งเรืองและแข็งแกร่งที่สุดในยุคสมัยสามก๊ก (ค.ศ.208-280) คือ แคว้นวุ่ย หรือวุ่ยก๊ก ตำนานชีวิตโจโฉเป็นที่เลื่องลือและติดตรึงใจผู้คนทั่วโลกมาถึงปัจจุบันจากวรรณกรรมคลาสิก “สามก๊ก” ในความเป็นผู้ปกครองที่โด่ดเด่นด้านความสามารถ และนักการทหารที่ทรงสติปัญญาเฉลียวฉลาด

    นอกจากนี้ โจโฉยังได้รับการยกย่องเป็นกวี อันสะท้อนถึงบุคคลิกพิเศษและแข็งแกร่งของแม่ทัพโจโฉ กระทรวงศึกษาจีนยังได้บรรจุบทกวีของโจโฉไว้ในตำราเรียนระดับชั้นมัธยม

    นักโบราณคดีเผยรายละเอียดการขุดค้นครั้งนี้ ว่าเป็นสุสานขนาดใหญ่ มีโครงสร้างซับซ้อนมาก ประกอบด้วยห้องด้านหน้าและด้านหลัง และห้องอีกสี่ห้องอยู่ในภายใน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ ราว 740 ตารางเมตร อันเป็นขนาดและโครงสร้างตามประเพณีจีนโบราณในการฝังศพกษัตริย์ หรือเจ้าครองนครรัฐ จากการเปิดเผยของ นายหลิว ชิงจู ผู้อำนวยคณะกรรมการสถาบันบัณฑิตสถานด้านสังคมศาสตร์ เผยแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์(27 ธ.ค.)

    นักโบราณคดียังพบโบราณวัตถุมากกว่า 250 ชิ้น ที่ทำจากทองคำ เงิน ทองสำริด หยก หิน ดินเผา ฯลฯ อีกทั้งหินแกะสลักชื่อ 59 ชิ้น และจารึกหลายชิ้นภายในหลุมฝังศพ โดยมีหินแกะสลักแปดชิ้นที่มีค่ามากที่สุด ซึ่งจารึกเกี่ยวกับอาวุธต่างๆที่วุ่ยอ๋อง หรือโจโฉ ใช้ ตัวอักษรที่จารึกบนหินเหล่านี้ ได้แก่魏武王常所用格虎大戟,“魏武王常所用格虎大刀”เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีหมอนหินที่วุ่ยอ๋องใช้เป็นประจำ จารึก “魏武王常所用慰项石”จารึกอักษรเหล่านี้ เป็นข้อมูลสำคัญในการระบุตัวเจ้าของสุสาน และเป็นหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์โดยตรงที่สุด

    ภายในสุสานยังมีภาพเขียนบนหินจำนวนมาก ที่ละเอียดประณีต

    ในการขุดค้นสุสานฯ นักโบราณคดียังได้พบซากกระดูกส่วนศีรษะ และแขนขาของมนุษย์ในห้องฝังศพสองห้อง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้ระบุในเบื้องต้นว่าเป็น ซากกระดูกของผู้ชายหนึ่งคน และผู้หญิงอีกสองคน โดยผู้ชายเป็นเจ้าของหลุมฝังศพ อายุราว 60 ปี

    ห่าว เปิ่นซิง หัวหน้าสถาบันโบราณคดีแห่งมณฑลเหอหนัน เผยว่า โจโฉได้จารึกเจตจำนงของเขาว่า ให้สร้างสถานที่ฝังศพของเขาอย่างเรียบง่าย ซึ่งก็สอดคล้องกับสุสานที่นักโบราณขุดค้นคือ กำแพงสุสานไม่มีภาพเขียน และมีสมบัติไม่กี่ชิ้น ตำแหน่งของสุสาน สอดคล้องกับบันทึกประวัติศาสตร์ และบันทึกโบราณในยุคของโจโฉ รัฐบาลมณฑลเหอหนัน และอันหยาง มีแผนที่จะเปิดสุสานให้สาธารชนเข้าชม

    เจ้าหน้าที่เผยว่า ก่อนหน้ามีการปล้นขโมยโบราณวัตถุในสุสานโจโฉหลายครั้ง จนนักโบราณคดีได้รายงานสำนักงานโบราณคดีแห่งชาติเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2551 หน่วยวิจัยโบราณคดีจึงได้เข้าทำการขุดค้นเพื่อการคุ้มครองสมบัติโบราณคดีของชาติ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ติดตามโบราณวัตถุหลายชิ้นที่ถูกขโมยไป.

    ถกบุคลิกโจโฉ
    พระเจ้าโจโฉ (จีนตัวเต็ม: 曹操; จีนตัวย่อ: 曹操; พินอิน: Cáo Cāo; เวด-ไจลส์: Ts'ao² Ts'ao¹) หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิวุ่ยอู่หวัง (魏武王) มีชีวิตอยู่ระหว่าง ค.ศ. 155 - ค.ศ. 220 เป็นขุนศึกและผู้สำเร็จราชการแผ่นดินคนสุดท้าย ในราชวงศ์ฮั่นตะวันออกของประเทศจีน ในภายหลังโจโฉได้ก่อตั้งวุยก๊ก ซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาณาจักรของยุคสามก๊ก

    ในวรรณคดีเรื่องสามก๊กบางสำนวน โจโฉได้รับการบรรยายให้เป็นจักรพรรดิที่โหดเหี้ยมและทะเยอทยาน แต่ตามประวัติศาสตร์แล้ว โจโฉเป็นผู้ปกครองที่สามารถ นักการทหารที่ชาญฉลาด และยังเป็นกวีอีกด้วย ในสามก๊ก โจโฉแม้จะเป็นคนโหดเหี้ยม เจ้าเล่ห์ แต่ก็หาใช่ว่าเป็นคนไร้เหตุผล ตรงกันข้ามยังเป็นคนผูกใจคนเก่ง ชอบใช้คนมีความสามารถ รู้จักใช้คน บริหารจัดการเก่ง มีความเป็นผู้นำสูง และออกอุบายวางแผนได้ด้วยตนเอง ซึ่งหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้กล่าวว่า "ยิ่งอ่าน ยิ่งรักน้ำใจโจโฉ" และเป็นที่ของหนังสือที่ชื่อ โจโฉ นายกฯตลอดกาล ที่ว่าด้วยการมองโจโฉในอีกแง่ และให้ฝ่ายจ๊กก๊ก ของเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย เป็นตัวร้ายแทน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...